Infirmary ⋘ สถานพยาบาล ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





Infirmary


⋘ สถานพยาบาล ⋙




สถานพยาบาลของค่ายจูปิเตอร์ ไม่ได้เป็นเพียงอาคารอิฐปูนธรรมดาแต่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความสง่างามของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัยสำหรับการรักษาพยาบาล ภายนอกอาคารสะท้อนกลิ่นอายของโรมโบราณได้อย่างชัดเจน ด้วยกำแพงหินที่แข็งแกร่งและหลังคากระเบื้องสีส้มแดงที่วางเรียงกันเป็นชั้น ๆ ราวกับตึกรามบ้านช่องในยุคจักรวรรดิ เสาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านรับน้ำหนักหลังคา สร้างความรู้สึกโอ่อ่าและมั่นคงให้กับผู้มาเยือน

หน้าต่างไม้บานเล็ก ๆ ที่ปิดสนิทช่วยให้บรรยากาศภายในดูสงบและเป็นส่วนตัว ธงที่มีสัญลักษณ์แอสคูลาปิอุสบนพื้นขาวโบกสะบัดอยู่เหนืออาคาร เป็นเครื่องยืนยันถึงจุดประสงค์ของการเป็นสถานที่แห่งการเยียวยา ทว่าเมื่อก้าวเข้ามาภายใน คุณจะสัมผัสได้ถึงความทันสมัยที่ถูกซ่อนเร้นไว้ภายใต้เปลือกนอกแบบโรมันโบราณ

แสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่และโคมไฟที่ให้แสงนุ่มนวลช่วยขับเน้นบรรยากาศที่สะอาดและปลอดโปร่ง แม้จะไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคเหมือนโรงพยาบาลในนิวโรม แต่การจัดวางเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดยาเนคทาร์ แอมโบรเซีย ยาหอมจากยูนิคอร์นหรือเครื่องเทศเลมูเรียน ล้วนถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและเข้าถึงง่าย บ่งบอกถึงระบบการจัดการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เตียงพยาบาลที่เรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน ตลอดจนเครื่องมือแพทย์พื้นฐานที่จำเป็น ล้วนถูกคัดสรรมาเพื่อรองรับการรักษาอาการบาดเจ็บของเหล่านักรบกึ่งเทพ

สถานพยาบาลแห่งนี้จึงเป็นมากกว่าแค่ "สถานที่รักษา" แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและจุดพักพิงที่ผสมผสานอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ที่ซึ่งเวทมนตร์โบราณแห่งการรักษาของปราณจัล บุตรแห่งแอสคูลาปิอุส ผสานกับการดูแลเอาใจใส่ที่ทันสมัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของเหล่ากึ่งเทพแห่งค่ายจูปิเตอร์ให้พร้อมกลับไปเผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง






Healer name list


⋘ บุคลากรภายในสถานพยาบาลค่ายจูปิเตอร์ ⋙


Sample

ปราณจัล
วันเกิด 24 กันยายน ค.ศ.1997


ปรานจัลเป็นกึ่งเทพโรมันเชื้อสายอินเดีย บุตรของเทพแอสคูลาปิอุส ซึ่งเป็นเทพแห่งการรักษา ด้วยสายเลือดนี้ เขาจึงมีความสามารถพิเศษในการใช้เวทมนตร์การรักษา และเขาก็ยังเป็นหัวหน้าผู้รักษาเพียงคนเดียวที่มีชื่ออยู่ในค่ายจูปิเตอร์ นอกเหนือจากความสามารถแล้ว ปรานจัลยังเป็นคนที่มีบุคลิกที่อ่อนโยน ใจดี และซื่อสัตย์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นที่พึ่งพิงของเหล่าผู้บาดเจ็บในยามสงครามและการต่อสู้ การปรากฏตัวของเขาในหนังสือ The Tyrant's Tomb แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการดูแลอพอลโล และการทำหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บหลังจากสิ้นสุดการต่อสู้ แม้ว่าเขาจะเป็นชาวโรมัน แต่เขากลับเรียกชื่อบิดาในแบบกรีกว่า "แอสคลีเพียส" ซึ่งเป็นรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวละครของเขา

Sample

ลูปิน เวสท์
วันเกิด 30 ตุลาคม ค.ศ. 2000


ด้วยวัย 15 ปี ลูปิน เวสท์ บุตรชายแห่งจูเวนตัสเดินทางออกจากบ้านหมาป่าด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า ทว่าเขากับพลาดท่าถูกอสุรกายแย่งชิงจดหมายยืนยันตนเข้ากองร้อยไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ไม่สามารถบรรจุเข้ากองร้อยได้อย่างที่ใจต้องการและแม้ว่าหนทางข้างหน้าจะดำมืด แต่ด้วยความช่วยเหลือจากแม่ทัพของค่ายในขณะนั้นก็ทำให้เขาได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยภายในสถานพยาบาลประจำค่ายแทนการเป็นสมาชิกกองร้อยตามทั่วไป - ลูปินเป็นคนใจดี เขาสุภาพ มารยาท ช่างเกรงอกเกรงใจ แต่กลับมีด้านที่เจ้ากี้เจ้าการเมื่อพูดถึงการรักษาคนไข้

Sample

เนฟร่า โจนส์
วันเกิด 2 มีนาคม ค.ศ. 1999


ไม่มีใครรู้ว่าใครคือเจ้าของสายเลือดต้นแบบที่ไม่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างของค่ายจูปิเตอร์คงไม่พ้นเนฟร่า จากสาวบ้านรวยตกลงมาสู่เส้นทางแสนลำบากของการเป็นครึ่งเทพ เดิมทีเธอเคยเชื่อว่าการเป็นคนพิเศษจะนำมาซึ่งความสะดวกสบาย แต่เมื่อความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เธอก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกจารึกไว้ในข้อห้ามของค่ายอย่างการกินจดหมายรับรองโดยหวังว่าจะได้ถูกดีดออกจากเมือง แต่ผลลัพธ์ดูจะไม่เป็นไปตามที่หวัง เธอถูกเขี่ยให้มาเป็นพยาบาลจำเป็นภายในสถานพยาบาลโดยไร้ทางต่อต้าน - เนฟร่าเป็นสีสันเพียงหนึ่งเดียวของสถานพยาบาลท่ามกลางคนเงียบขรึมทั้งสองคน เธอมักจะทำเสียงดัง หลายครั้งก็ซุ่มซ่าม แต่ก็มีด้านที่ชอบปกป้องและทำความเข้าใจคนรอบข้างจนถูกเรียกว่าเป็นผู้รักษาจิตใจมากกว่ากายภาพ



( อาจพบเห็นบุตรหรือธิดาอะพอลโล่เวียนมารักษาในบางโอกาส)




แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 18766 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-8 10:37
โพสต์ 2025-9-9 15:33:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 08 เดือน กันยายน ปี 2025

ช่วงเช้ามืด เวลา 04.00 - 05.00 น. ณ สถานพยาบาล เขตหลักกองพันที่สิบสอง ค่ายจูปิเตอร์ (พบ ซูกิ)


ประตูไม้สีอ่อนถูกผลักเปิดอย่างช้า ๆ กลิ่นสะอาดของน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับกลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ ลอยอบอวลในห้องพักผู้ป่วย ข้างในเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ให้ลมพัดเข้ามา ผ้าม่านสีขาวพลิ้วเบาไปตามแรงลม แสงแดดยามบ่ายลอดเข้ามาแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ซูกินั่งเอนอยู่บนเตียงไม้สไตล์โรมัน ข้างเตียงมีขวดน้ำวางไว้ เธอกำลังหยิบขึ้นมาจิบเล็กน้อยเมื่อเสียงประตูดังขึ้นพอดี ดวงตาคมเข้มตวัดมองไปทางนั้นก่อนจะแนบสายตาอ่อนลงเมื่อเห็นโมนีก้าเดินเข้ามา


โมนีก้าในชุดกระโปรงเหมือนเดิมก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสดใส มือยังคงจับประตูไว้ครู่หนึ่งก่อนปล่อยช้า ๆ เธอยกมือปัดเส้นผมที่หล่นลงมาบังแก้มเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปใกล้ เต็มไปด้วยความคิดถึงและความห่วงใย


“เป็นยังไงบ้างอ่ะซูกิ” โมนีก้าเอ่ยเสียงหวานอย่างพยายามทำให้บรรยากาศสดใสขึ้น “สามวันแล้วนะ อาการดีขึ้นยัง?” ซูกิหัวเราะเบา ๆ แม้สีหน้าจะยังซีดอยู่บ้างแต่แววตากลับสดใส “ดีขึ้นแล้วล่ะ อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกเหมือนกระดูกจะหักทุกครั้งที่ขยับเหมือนวันแรก” เธอวางแก้วน้ำลง พลางใช้แขนที่ไม่บาดเจ็บยันตัวลุกขึ้นนั่งตรงขึ้นเล็กน้อย


โมนีก้าเลยเดินเข้ามาข้างเตียง นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ใกล้ ๆ แล้วยกมือแตะหลังมือเพื่อนสาวเบา ๆ แววตาเป็นประกายอย่างโล่งใจ “ก็ดีแล้วสิ… ฉันนึกว่าจะต้องลากเธอออกไปเที่ยวไม่ได้อีกซะแล้ว”


ซูกิส่ายหัวนิด ๆ “ยังไงก็ยังไม่หายดีหรอก แต่เห็นหน้าเธอทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” โมนีก้ายิ้มกว้างขึ้นจนดวงตาสีเทาเงินสะท้อนแสงแดดเป็นประกายอบอุ่น ราวกับแค่การมาเยี่ยมครั้งนี้ก็พอจะทำให้ทั้งสองลืมความหนักหน่วงของศึกที่เพิ่งผ่านไป หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจยาวเหมือนปลดความกดดันในใจออกมากับลมอุ่น ๆ ที่เล็ดลอดเข้ามาจากหน้าต่าง เธอหันไปสบตาซูกิ ดวงตาสีเทาเงินสว่างวาบขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนกำลังซ่อนบางอย่างในใจ ก่อนเอ่ยถามเสียงเบาแต่ชัดเจน


“ซูกิ… รู้หรือยังว่าเธอได้อยู่กองร้อยไหน?”


ซูกิที่ยังมีผ้าพันแผลพาดตรงไหล่ขยับตัวเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้มแม้สีหน้าจะยังไม่เต็มร้อย “รู้แล้วสิ… ฉันได้อยู่กองร้อยที่หนึ่ง” น้ำเสียงเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ กองร้อยที่หนึ่งคือสุดยอดของค่าย ใคร ๆ ก็รู้ว่าที่นั่นคือที่รวมคนเก่งที่สุด โมนีก้าเงยหน้าขึ้นหัวเราะเบา ๆ สั่นศีรษะน้อย ๆ ก่อนจะตอบกลับ “งั้นฉันต่างออกไปหน่อยนะ… ฉันได้อยู่กองร้อยที่สอง ไม่ได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ ด้วย” เธอพูดพลางยักไหล่เหมือนไม่คิดมาก แต่ในแววตากลับฉายความรู้สึกที่ลึกกว่านั้น ทั้งความโล่งใจและความดื้อรั้นผสมกัน


ซูกิเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ มองโมนีก้าแล้วพ่นลมหายใจออกมา “ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยก็ติดกัน… กองร้อยหนึ่งกับกองร้อยสองอยู่ใกล้กันมาก เวลาอยากเจอกันก็ไม่ยาก” เธอหยุดไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม “แต่แปลกนะ ฉันนึกว่าเธอจะได้กองร้อยหนึ่งด้วยซ้ำดูจากสิ่งที่เธอทำระหว่างทาง ฉันไม่เห็นใครฆ่าก๊อบลินสามสิบกว่าตัวได้ชิล ๆ แบบเด็ดผักเหมือนเธอ”


โมนีก้าได้ยินแบบนั้นกลับส่ายหัวทันที หน้าสวย ๆ ทำเป็นบึนิด ๆ แล้วหันหน้าหนีเหมือนเด็กดื้อ “ไม่หรอก ฉันไม่อยากอยู่หรอกกองร้อยที่หนึ่งน่ะ… เก่งก็จริงแต่ก็เข้มงวดเกินไป ไม่เหมาะกับฉันหรอก ฉันแค่… อยากอยู่ที่ที่ฉันหายใจได้ไม่ต้องแข่งขันทุกลมหายใจ แต่เหมือนจะคิดผิดนิดหน่อยกองร้อยที่สองดูกระหายชัยชนะแปลก ๆ จนฉันเหนื่อยใจ”


คำพูดนั้นออกมาพร้อมรอยยิ้มเอ๋อ ๆ ประจำตัว แต่ในน้ำเสียงกลับมีบางสิ่งที่หนักแน่นกว่าที่ซูกิเคยได้ยินมาก่อน จนซูกิเพียงแต่จ้องเธอนิ่ง ๆ แล้วตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ก็แล้วแต่เธอสิ… แต่อย่าลืมว่ากองร้อยไหนก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าตัวเธอเองนะโมนีก้า” โมนีก้าเบิกตาโตนิด ๆ ก่อนจะยิ้มหวานให้ซูกิในที่สุด ราวกับคำพูดนั้นช่วยยืนยันความคิดของเธอว่าการเลือกเส้นทางที่เหมาะกับหัวใจตัวเอง… คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว


หลังจากคุยกันเสร็จโมนีก้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ เสียงขาเก้าอี้เสียดสีกับพื้นหินขัดในห้องเงียบ ๆ ของสถานพยาบาลดังขึ้นเบา ๆ เธอยกมือจัดชายเสื้อให้เข้าที่แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย เอ่ยกับซูกิด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนโยนและขี้เล่น “เธอพักผ่อนเถอะน่า… ฉันไม่กวนแล้ว เดี๋ยวฉันไปทำภารกิจประจำวันต่อก่อน ไม่งั้นจะโดนมองแรงด้วยมั้งเป็นเด็กใหม่ด้วย” เธอพูดพลางทำหน้าล้อเลียนแบบเด็ก ๆ พร้อมแลบลิ้นเล็กน้อยให้เพื่อนสาวทอมบอยที่ยังนั่งพิงหมอนอยู่บนเตียง 


ซูกิเลิกคิ้ว มองเธอเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็เลือกถอนหายใจแทน ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “ไปเถอะ… แต่กลับมาเล่าให้ฟังด้วยว่าทำอะไรบ้าง อย่าหาเรื่องใส่ตัวเองอีกล่ะ”


โมนีก้าแกล้งยกมือขึ้นทำท่าเซอร์วิสเหมือนทหาร “รับทราบค่ะคุณผู้ป่วย!” แล้วหัวเราะคิก ก่อนจะเดินไปที่ประตู เธอหยุดเล็กน้อยเหลือบตามองซูกิอีกครั้ง แววตาสีเทาเงินฉายแสงอบอุ่นจาง ๆ คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เปิดประตูออกไป ทิ้งไว้เพียงเสียงฝีเท้าเบา ๆ ที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ขณะที่ซูกิเอนตัวลงกับหมอนอีกครั้งอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ติดอยู่ เหมือนพอใจที่เห็นเพื่อนยังมีแรงและร่าเริงพอจะเดินหน้าต่อไป


รางวัล: พูดคุยกับ TGC ความสนิทสนม +7 [TGC-10] อัสทริก เดวอน ซูกิ

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ TGC +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอมสตรี - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +2

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-10] อัสทริก เดวอน ซูกิ เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-9-9 15:50
โพสต์ 28816 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-9-9 15:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x2
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x13
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้