Infirmary ⋘ สถานพยาบาล ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





Infirmary


⋘ สถานพยาบาล ⋙




สถานพยาบาลของค่ายจูปิเตอร์ ไม่ได้เป็นเพียงอาคารอิฐปูนธรรมดาแต่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความสง่างามของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัยสำหรับการรักษาพยาบาล ภายนอกอาคารสะท้อนกลิ่นอายของโรมโบราณได้อย่างชัดเจน ด้วยกำแพงหินที่แข็งแกร่งและหลังคากระเบื้องสีส้มแดงที่วางเรียงกันเป็นชั้น ๆ ราวกับตึกรามบ้านช่องในยุคจักรวรรดิ เสาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านรับน้ำหนักหลังคา สร้างความรู้สึกโอ่อ่าและมั่นคงให้กับผู้มาเยือน

หน้าต่างไม้บานเล็ก ๆ ที่ปิดสนิทช่วยให้บรรยากาศภายในดูสงบและเป็นส่วนตัว ธงที่มีสัญลักษณ์แอสคูลาปิอุสบนพื้นขาวโบกสะบัดอยู่เหนืออาคาร เป็นเครื่องยืนยันถึงจุดประสงค์ของการเป็นสถานที่แห่งการเยียวยา ทว่าเมื่อก้าวเข้ามาภายใน คุณจะสัมผัสได้ถึงความทันสมัยที่ถูกซ่อนเร้นไว้ภายใต้เปลือกนอกแบบโรมันโบราณ

แสงสว่างจากหน้าต่างบานใหญ่และโคมไฟที่ให้แสงนุ่มนวลช่วยขับเน้นบรรยากาศที่สะอาดและปลอดโปร่ง แม้จะไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคเหมือนโรงพยาบาลในนิวโรม แต่การจัดวางเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดยาเนคทาร์ แอมโบรเซีย ยาหอมจากยูนิคอร์นหรือเครื่องเทศเลมูเรียน ล้วนถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและเข้าถึงง่าย บ่งบอกถึงระบบการจัดการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เตียงพยาบาลที่เรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน ตลอดจนเครื่องมือแพทย์พื้นฐานที่จำเป็น ล้วนถูกคัดสรรมาเพื่อรองรับการรักษาอาการบาดเจ็บของเหล่านักรบกึ่งเทพ

สถานพยาบาลแห่งนี้จึงเป็นมากกว่าแค่ "สถานที่รักษา" แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและจุดพักพิงที่ผสมผสานอดีตและปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ที่ซึ่งเวทมนตร์โบราณแห่งการรักษาของปราณจัล บุตรแห่งแอสคูลาปิอุส ผสานกับการดูแลเอาใจใส่ที่ทันสมัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของเหล่ากึ่งเทพแห่งค่ายจูปิเตอร์ให้พร้อมกลับไปเผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง






Healer name list


⋘ บุคลากรภายในสถานพยาบาลค่ายจูปิเตอร์ ⋙


Sample

ปราณจัล
วันเกิด 24 กันยายน ค.ศ.1997


ปรานจัลเป็นกึ่งเทพโรมันเชื้อสายอินเดีย บุตรของเทพแอสคูลาปิอุส ซึ่งเป็นเทพแห่งการรักษา ด้วยสายเลือดนี้ เขาจึงมีความสามารถพิเศษในการใช้เวทมนตร์การรักษา และเขาก็ยังเป็นหัวหน้าผู้รักษาเพียงคนเดียวที่มีชื่ออยู่ในค่ายจูปิเตอร์ นอกเหนือจากความสามารถแล้ว ปรานจัลยังเป็นคนที่มีบุคลิกที่อ่อนโยน ใจดี และซื่อสัตย์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นที่พึ่งพิงของเหล่าผู้บาดเจ็บในยามสงครามและการต่อสู้ การปรากฏตัวของเขาในหนังสือ The Tyrant's Tomb แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการดูแลอพอลโล และการทำหน้าที่ดูแลผู้บาดเจ็บหลังจากสิ้นสุดการต่อสู้ แม้ว่าเขาจะเป็นชาวโรมัน แต่เขากลับเรียกชื่อบิดาในแบบกรีกว่า "แอสคลีเพียส" ซึ่งเป็นรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวละครของเขา

Sample

ลูปิน เวสท์
วันเกิด 30 ตุลาคม ค.ศ. 2000


ด้วยวัย 15 ปี ลูปิน เวสท์ บุตรชายแห่งจูเวนตัสเดินทางออกจากบ้านหมาป่าด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า ทว่าเขากับพลาดท่าถูกอสุรกายแย่งชิงจดหมายยืนยันตนเข้ากองร้อยไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ไม่สามารถบรรจุเข้ากองร้อยได้อย่างที่ใจต้องการและแม้ว่าหนทางข้างหน้าจะดำมืด แต่ด้วยความช่วยเหลือจากแม่ทัพของค่ายในขณะนั้นก็ทำให้เขาได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยภายในสถานพยาบาลประจำค่ายแทนการเป็นสมาชิกกองร้อยตามทั่วไป - ลูปินเป็นคนใจดี เขาสุภาพ มารยาท ช่างเกรงอกเกรงใจ แต่กลับมีด้านที่เจ้ากี้เจ้าการเมื่อพูดถึงการรักษาคนไข้

Sample

เนฟร่า โจนส์
วันเกิด 2 มีนาคม ค.ศ. 1999


ไม่มีใครรู้ว่าใครคือเจ้าของสายเลือดต้นแบบที่ไม่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างของค่ายจูปิเตอร์คงไม่พ้นเนฟร่า จากสาวบ้านรวยตกลงมาสู่เส้นทางแสนลำบากของการเป็นครึ่งเทพ เดิมทีเธอเคยเชื่อว่าการเป็นคนพิเศษจะนำมาซึ่งความสะดวกสบาย แต่เมื่อความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เธอก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกจารึกไว้ในข้อห้ามของค่ายอย่างการกินจดหมายรับรองโดยหวังว่าจะได้ถูกดีดออกจากเมือง แต่ผลลัพธ์ดูจะไม่เป็นไปตามที่หวัง เธอถูกเขี่ยให้มาเป็นพยาบาลจำเป็นภายในสถานพยาบาลโดยไร้ทางต่อต้าน - เนฟร่าเป็นสีสันเพียงหนึ่งเดียวของสถานพยาบาลท่ามกลางคนเงียบขรึมทั้งสองคน เธอมักจะทำเสียงดัง หลายครั้งก็ซุ่มซ่าม แต่ก็มีด้านที่ชอบปกป้องและทำความเข้าใจคนรอบข้างจนถูกเรียกว่าเป็นผู้รักษาจิตใจมากกว่ากายภาพ



( อาจพบเห็นบุตรหรือธิดาอะพอลโล่เวียนมารักษาในบางโอกาส)




แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 18766 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-8 10:37
โพสต์ 2025-9-9 15:33:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 08 เดือน กันยายน ปี 2025

ช่วงเช้ามืด เวลา 04.00 - 05.00 น. ณ สถานพยาบาล เขตหลักกองพันที่สิบสอง ค่ายจูปิเตอร์ (พบ ซูกิ)


ประตูไม้สีอ่อนถูกผลักเปิดอย่างช้า ๆ กลิ่นสะอาดของน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับกลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ ลอยอบอวลในห้องพักผู้ป่วย ข้างในเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ให้ลมพัดเข้ามา ผ้าม่านสีขาวพลิ้วเบาไปตามแรงลม แสงแดดยามบ่ายลอดเข้ามาแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ซูกินั่งเอนอยู่บนเตียงไม้สไตล์โรมัน ข้างเตียงมีขวดน้ำวางไว้ เธอกำลังหยิบขึ้นมาจิบเล็กน้อยเมื่อเสียงประตูดังขึ้นพอดี ดวงตาคมเข้มตวัดมองไปทางนั้นก่อนจะแนบสายตาอ่อนลงเมื่อเห็นโมนีก้าเดินเข้ามา


โมนีก้าในชุดกระโปรงเหมือนเดิมก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้มสดใส มือยังคงจับประตูไว้ครู่หนึ่งก่อนปล่อยช้า ๆ เธอยกมือปัดเส้นผมที่หล่นลงมาบังแก้มเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปใกล้ เต็มไปด้วยความคิดถึงและความห่วงใย


“เป็นยังไงบ้างอ่ะซูกิ” โมนีก้าเอ่ยเสียงหวานอย่างพยายามทำให้บรรยากาศสดใสขึ้น “สามวันแล้วนะ อาการดีขึ้นยัง?” ซูกิหัวเราะเบา ๆ แม้สีหน้าจะยังซีดอยู่บ้างแต่แววตากลับสดใส “ดีขึ้นแล้วล่ะ อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกเหมือนกระดูกจะหักทุกครั้งที่ขยับเหมือนวันแรก” เธอวางแก้วน้ำลง พลางใช้แขนที่ไม่บาดเจ็บยันตัวลุกขึ้นนั่งตรงขึ้นเล็กน้อย


โมนีก้าเลยเดินเข้ามาข้างเตียง นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ใกล้ ๆ แล้วยกมือแตะหลังมือเพื่อนสาวเบา ๆ แววตาเป็นประกายอย่างโล่งใจ “ก็ดีแล้วสิ… ฉันนึกว่าจะต้องลากเธอออกไปเที่ยวไม่ได้อีกซะแล้ว”


ซูกิส่ายหัวนิด ๆ “ยังไงก็ยังไม่หายดีหรอก แต่เห็นหน้าเธอทำให้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” โมนีก้ายิ้มกว้างขึ้นจนดวงตาสีเทาเงินสะท้อนแสงแดดเป็นประกายอบอุ่น ราวกับแค่การมาเยี่ยมครั้งนี้ก็พอจะทำให้ทั้งสองลืมความหนักหน่วงของศึกที่เพิ่งผ่านไป หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจยาวเหมือนปลดความกดดันในใจออกมากับลมอุ่น ๆ ที่เล็ดลอดเข้ามาจากหน้าต่าง เธอหันไปสบตาซูกิ ดวงตาสีเทาเงินสว่างวาบขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนกำลังซ่อนบางอย่างในใจ ก่อนเอ่ยถามเสียงเบาแต่ชัดเจน


“ซูกิ… รู้หรือยังว่าเธอได้อยู่กองร้อยไหน?”


ซูกิที่ยังมีผ้าพันแผลพาดตรงไหล่ขยับตัวเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้มแม้สีหน้าจะยังไม่เต็มร้อย “รู้แล้วสิ… ฉันได้อยู่กองร้อยที่หนึ่ง” น้ำเสียงเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ กองร้อยที่หนึ่งคือสุดยอดของค่าย ใคร ๆ ก็รู้ว่าที่นั่นคือที่รวมคนเก่งที่สุด โมนีก้าเงยหน้าขึ้นหัวเราะเบา ๆ สั่นศีรษะน้อย ๆ ก่อนจะตอบกลับ “งั้นฉันต่างออกไปหน่อยนะ… ฉันได้อยู่กองร้อยที่สอง ไม่ได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ ด้วย” เธอพูดพลางยักไหล่เหมือนไม่คิดมาก แต่ในแววตากลับฉายความรู้สึกที่ลึกกว่านั้น ทั้งความโล่งใจและความดื้อรั้นผสมกัน


ซูกิเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ มองโมนีก้าแล้วพ่นลมหายใจออกมา “ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยก็ติดกัน… กองร้อยหนึ่งกับกองร้อยสองอยู่ใกล้กันมาก เวลาอยากเจอกันก็ไม่ยาก” เธอหยุดไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม “แต่แปลกนะ ฉันนึกว่าเธอจะได้กองร้อยหนึ่งด้วยซ้ำดูจากสิ่งที่เธอทำระหว่างทาง ฉันไม่เห็นใครฆ่าก๊อบลินสามสิบกว่าตัวได้ชิล ๆ แบบเด็ดผักเหมือนเธอ”


โมนีก้าได้ยินแบบนั้นกลับส่ายหัวทันที หน้าสวย ๆ ทำเป็นบึนิด ๆ แล้วหันหน้าหนีเหมือนเด็กดื้อ “ไม่หรอก ฉันไม่อยากอยู่หรอกกองร้อยที่หนึ่งน่ะ… เก่งก็จริงแต่ก็เข้มงวดเกินไป ไม่เหมาะกับฉันหรอก ฉันแค่… อยากอยู่ที่ที่ฉันหายใจได้ไม่ต้องแข่งขันทุกลมหายใจ แต่เหมือนจะคิดผิดนิดหน่อยกองร้อยที่สองดูกระหายชัยชนะแปลก ๆ จนฉันเหนื่อยใจ”


คำพูดนั้นออกมาพร้อมรอยยิ้มเอ๋อ ๆ ประจำตัว แต่ในน้ำเสียงกลับมีบางสิ่งที่หนักแน่นกว่าที่ซูกิเคยได้ยินมาก่อน จนซูกิเพียงแต่จ้องเธอนิ่ง ๆ แล้วตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ก็แล้วแต่เธอสิ… แต่อย่าลืมว่ากองร้อยไหนก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าตัวเธอเองนะโมนีก้า” โมนีก้าเบิกตาโตนิด ๆ ก่อนจะยิ้มหวานให้ซูกิในที่สุด ราวกับคำพูดนั้นช่วยยืนยันความคิดของเธอว่าการเลือกเส้นทางที่เหมาะกับหัวใจตัวเอง… คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว


หลังจากคุยกันเสร็จโมนีก้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ เสียงขาเก้าอี้เสียดสีกับพื้นหินขัดในห้องเงียบ ๆ ของสถานพยาบาลดังขึ้นเบา ๆ เธอยกมือจัดชายเสื้อให้เข้าที่แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย เอ่ยกับซูกิด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนโยนและขี้เล่น “เธอพักผ่อนเถอะน่า… ฉันไม่กวนแล้ว เดี๋ยวฉันไปทำภารกิจประจำวันต่อก่อน ไม่งั้นจะโดนมองแรงด้วยมั้งเป็นเด็กใหม่ด้วย” เธอพูดพลางทำหน้าล้อเลียนแบบเด็ก ๆ พร้อมแลบลิ้นเล็กน้อยให้เพื่อนสาวทอมบอยที่ยังนั่งพิงหมอนอยู่บนเตียง 


ซูกิเลิกคิ้ว มองเธอเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็เลือกถอนหายใจแทน ริมฝีปากโค้งขึ้นเล็กน้อย “ไปเถอะ… แต่กลับมาเล่าให้ฟังด้วยว่าทำอะไรบ้าง อย่าหาเรื่องใส่ตัวเองอีกล่ะ”


โมนีก้าแกล้งยกมือขึ้นทำท่าเซอร์วิสเหมือนทหาร “รับทราบค่ะคุณผู้ป่วย!” แล้วหัวเราะคิก ก่อนจะเดินไปที่ประตู เธอหยุดเล็กน้อยเหลือบตามองซูกิอีกครั้ง แววตาสีเทาเงินฉายแสงอบอุ่นจาง ๆ คล้ายจะบอกเป็นนัยว่า ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เปิดประตูออกไป ทิ้งไว้เพียงเสียงฝีเท้าเบา ๆ ที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ขณะที่ซูกิเอนตัวลงกับหมอนอีกครั้งอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ติดอยู่ เหมือนพอใจที่เห็นเพื่อนยังมีแรงและร่าเริงพอจะเดินหน้าต่อไป


รางวัล: พูดคุยกับ TGC ความสนิทสนม +7 [TGC-10] อัสทริก เดวอน ซูกิ

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ TGC +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอมสตรี - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +2

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-10] อัสทริก เดวอน ซูกิ เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-9-9 15:50
โพสต์ 28816 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-9-9 15:33
โพสต์ 28,816 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-9-9 15:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-3 21:34:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
สถานพยาบาล
Date and Time
วันที่ 2 ธันวาคม 2025 • 15.33 น.
Purpose
ภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
NPC
วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต
กว่ามื้อกลางวันที่มาถึงช้ากว่าปกติจะจบลงก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง คลีเมนทิสเป็นฝ่ายที่ทานเสร็จก่อนตามประสาพวกที่ไม่ได้ขยันกินแถมยังไม่ชอบความรู้สึกแน่นท้องสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าหากร่างกายไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ต้องทานอะไรสักอย่างเข้าไปในแต่ละวันเพื่อประทังชีวิต เธอต้องลืมการมีอยู่ของอาหารเหล่านี้ไปเลยอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ไม่ได้เร่งรุดรุ่นพี่แต่อย่างไร เธอเข้าใจดีว่าแต่ละคนใช้เวลาไปกับมื้ออาหารมากน้อยไม่เท่ากัน และสำหรับชาวอิตาเลียนอย่างวินเซนโซ คาดเดาได้ว่าในวัฒนธรรมของเขามันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว
ครู่เดียวหลังจากกลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งสมาชิกกองร้อยที่สองและอีกหนึ่งสมาชิกกองร้อยที่สี่ก็ออกเดินอีกครา เส้นทางไปสู่สถานที่ถัดไปทำหน้าที่เป็นวิธีการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี มาถึงจุดหมายถึงได้ทราบว่าปลายทางคืออะไร
“ที่นี่คือสถานพยาบาลของค่ายจูปิเตอร์ ไม่ได้แช่งนะแต่รู้ไว้ก็น่าจะเป็นการดีกว่า”
บุตรีแห่งจัสติเทียไม่ได้ถือสา เพราะแม้แต่เธอเองก็ยังมีลางสังหรณ์ว่าคงจะต้องแวะมาขอความช่วยเหลือจากเหล่าพยาบาลและผู้บำบัดจากที่นี่บ่อย ๆ แน่ บางทีอาจจะบ่อยพอ ๆ กับการใช้บริการโรงฝึกเลยด้วยซ้ำ
“บุคลากรของที่นี่มีสามคน — ปราณจัล เวสท์ กับโจนส์ — ถ้าอยากจำหน้าก็ลองดูภาพที่แปะอยู่ตรงผนังเอา”
จากตอนแรกที่กำลังจะบอกว่าไม่เป็นไร คิดอีกทีมองไว้บ้างว่าใครจะเป็นคนช่วยชีวิตเธอในอนาคตก็น่าจะดีกว่า
“งั้นขอเวลาสักครู่นะคะ”

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-3 21:49
โพสต์ 5076 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-3 21:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-7 01:44:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eloise เมื่อ 2025-12-7 10:32





วันที่ 5 ธันวาคม 2025
เวลา 19.00 น.



รถพยาบาลฉุกเฉินแล่นเข้าสู่เขตค่ายจูปิเตอร์ ก่อนจะหยุดลงอย่างนุ่มนวลหน้าสถานพยาบาลซึ่งเป็นอาคารที่ผสมผสานความสง่างามของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณเข้ากับความทันสมัยของการรักษาพยาบาล กำแพงหินที่แข็งแกร่งและหลังคากระเบื้องสีส้มแดงที่วางเรียงกันเป็นชั้น ๆ ดูโอ่อ่าและมั่นคง ทว่าธงที่มีสัญลักษณ์แอสคูลาปิอุสบนพื้นขาวที่โบกสะบัดอยู่ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าที่นี่คือสถานที่แห่งการเยียวยา

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ร่างของโมนีก้าก็ถูกนำลงจากรถอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าสู่ภายใน คนที่เดินมารับเคสด้วยท่าทีสงบแต่เร่งรีบคือชายหนุ่มชาวโรมันเชื้อสายอินเดียผู้มีบุคลิกอ่อนโยน ‘ปราณจัล’ หัวหน้าผู้รักษาของค่ายจูปิเตอร์และบุตรแห่งเทพแอสคูลาปิอุส

“รีบพาคนไข้ไปที่เตียงกู้ชีพด่วนที่สุด!” ปราณจัลออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่างของโมนีก้าจะถูกนำเข้าไปยังส่วนลึกของสถานพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ปราณจัลเริ่มดำเนินการกู้ชีพอย่างเข้มข้นนั้นเอง หญิงสาวอีกคนก็เดินเข้ามาในบริเวณโถงต้อนรับ เธอมีท่าทางที่กระฉับกระเฉง แต่ก็แฝงความซุ่มซ่ามเล็กน้อย เธอสวมชุดพยาบาลจำเป็นและดูเหมือนต้องการซักประวัติอย่างเร่งด่วน เธอแนะนำตัวว่าชื่อ เนฟร่า โจนส์ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเอโลอิสและนักศึกษาชายอย่างรวดเร็ว

“เอาล่ะค่ะ! ฉันเนฟร่า โจนส์นะคะ เป็นผู้ช่วยพยาบาลที่นี่” เนฟร่ากล่าวเสียงดังฟังชัด “ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องรบกวน แต่ฉันต้องเก็บข้อมูลเพื่อนำไปให้คุณหมอวินิจฉัย ช่วยเล่าอาการตอนที่คุณเจอนิดนึงค่ะ”

เอโลอิสที่ยังคงยืนตัวสั่นจากเหตุการณ์ก่อนหน้าพยายามรวบรวมสติ แล้วเริ่มเล่ารายละเอียดอย่างช้า ๆ

“คือ...เรากำลังคุยกันอยู่ค่ะ จู่ ๆ คุณโมนีก้าก็หน้าซีดมาก หายใจติดขัด แล้วก็ทรุดลงไปเลยค่ะ หัวใจเต้นแรงมากตอนแรก แต่จากนั้นก็อ่อนแรงลงไปเลย...ฉันเลยเริ่ม CPR ค่ะ”

เนฟร่าจดข้อมูลลงในกระดาษอย่างรวดเร็ว แต่ก็แอบทำเสียง 'แง่ว' เบา ๆ เมื่อปากกาในมือเกือบจะหลุดมือ 

“อืม...เข้าใจแล้วค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้น “แล้วขอเบอร์ติดต่อญาติหน่อยได้ไหมคะ?”

เอโลอิสชี้ไปยังเสื้อยืดสีส้มสดใสของค่ายฮาล์ฟบลัดที่เธอสวมอยู่ พร้อมกับส่ายหน้า

“ฉันไม่ใช่ญาติของเธอค่ะ แล้วก็ไม่มีสมาร์ทโฟน” เอโลอิสกล่าว

เนฟร่ามองชุดสีส้มอย่างพิจารณา ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจในทันทีว่าเด็กสาวตรงหน้าเป็นพวกกรีกไม่ใช่โรมัน เธอจึงหันไปหาฝ่ายชายแทน

“แล้วคุณล่ะคะ?”

ฝ่ายชายยื่นกระดาษที่มีตัวเลขเขียนไว้ให้ 

“ผมมาเวอริค วอห์น ครับ นี่เบอร์ 9876234 ครับ แต่ผมก็ไม่ใช่ญาติของเธอเช่นกันครับ ผมแค่พลเมืองดีที่โทรแจ้งรถพยาบาลเฉย ๆ”

เนฟร่าก้มลงมองข้อมูลในกระดาษ ก่อนจะยักไหล่

“อืม...ได้ค่ะ งั้นก็กรอกไว้เผื่อฉุกเฉินเฉย ๆ” เธอพูดก่อนจะพยักหน้าให้ทั้งสองคน “เรียบร้อยค่ะ ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ฉันจะนำข้อมูลนี้เข้าไปข้างในให้คุณหมอปราณจัลวินิจฉัยต่อนะคะ รบกวนทั้งสองท่านรออยู่ตรงที่นั่งด้านนอกก่อนนะคะ”

เนฟร่าเดินวุ่นวายถือเอกสารเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เอโลอิสและมาเวอริคนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบในบริเวณโถงต้อนรับ

เอโลอิสถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเล็กน้อยที่การซักประวัติจบลง เธอหันไปหาชายหนุ่มผู้มีน้ำใจคนนั้น

“ขอบคุณมากนะคะพี่” เอโลอิสกล่าวด้วยความรู้สึกผิด “เดือดร้อนพี่เลยจริง ๆ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวแท้ ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” มาเวอริคตอบ  “ต่อให้คุณไม่เรียก ถ้าผมมาเห็นผมก็ช่วยอยู่ดี”

เอโลอิสยิ้มรับด้วยความซาบซึ้งใจ

“จริงสิ!” เอโลอิสกล่าวพร้อมกับยื่นมือออกไปอย่างเป็นมิตร “ฉันเอโลอิส เพจค่ะ ธิดาแห่งเฮเฟตัส พอดีมาร่วมเทศกาลกับมาสอบ DSTOMP น่ะค่ะ”

มาเวอริคยื่นมือมาจับตอบอย่างสุภาพ

“มาเวอริค วอห์น บุตรแห่งมาร์ส ยินดีที่ได้รู้จักครับ” 

ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกันเพื่อฆ่าเวลาและความตึงเครียดเรื่องการสอบและชีวิตในค่าย จู่ ๆ ในความเงียบสงบของสถานพยาบาลที่ได้ยินแต่เสียงเดินแผ่วเบาของเจ้าหน้าที่ เสียงท้องร้องดังสนั่นขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจใคร

โครกกกก…ครากกกก…

ใบหน้าของเอโลอิสเห่อร้อนทันที เธอหัวเราะแห้ง ๆ ด้วยความอาย

“แหะ ๆ ขอโทษด้วยค่ะ” เธอรีบกล่าว “ฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยค่ะ ตั้งแต่สอบเสร็จก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย”

“ไม่เป็นไรครับ ผมก็เริ่มหิวเหมือนกัน” มาเวอริคหัวเราะเบา ๆ อย่างเป็นมิตร

เอโลอิสทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าคาดเอว เธอดึงเอาถุงกระดาษสีน้ำตาลออกมาอย่างระมัดระวัง ภายในคือไก่ทอดเกาหลีที่เธอตั้งใจจะกินเป็นอาหารเย็น

“พอดีฉันมีนี่ค่ะ” เอโลอิสกล่าว “ไก่ทอดค่ะ...กะจะกินตอนดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่ก็อย่างที่เห็นน่ะค่ะ”

เธอคลี่ถุงออก กลิ่นไก่ทอดหอมกรุ่นที่เคลือบซอสรสชาติจัดจ้านหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณโถงต้อนรับ เอโลอิสยื่นไก่ทอดชิ้นหนึ่งให้มาเวอริค

“พี่ทานด้วยกันไหมคะ? รอแบบนี้คงหิวแย่เลย”

มาเวอริคลังเลเล็กน้อย แต่ก็รับไก่ทอดชิ้นนั้นมาด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมากครับ”

ทั้งคู่เริ่มแทะไก่ทอดกันอย่างเงียบ ๆ คุยกันต่อเรื่องการเรียน

“จะเข้า ม.นิวโรมเหรอ?”

“ยังไม่แน่ใจแต่มาสอบเผื่อไว้น่ะค่ะ” เอโลอิสตอบ

“แล้วสอบผ่านไหม?” มาเวอริคถามด้วยความสนใจ

“ผ่านแล้วค่ะ! ได้ 92 คะแนนเลย” เอโลอิสยิ้มอย่างภาคภูมิใจ 

ดวงตาของมาเวอริคเป็นประกายด้วยความยินดี

“โอ้! ยอดเยี่ยมมากครับ! ยินดีด้วยจริง ๆ ผมจะรอต้อนรับรุ่นน้องอย่างคุณนะ”

ทั้งคู่คุยกันฆ่าเวลาเพื่อลดความตึงเครียด คลอไปกับเสียงกระดูกไก่ที่กระทบกันเบา ๆ จนในที่สุด...

เสียงประตูเปิดออกและ ปราณจัล หัวหน้าผู้รักษาก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินในที่สุด ทั้งเอโลอิสและมาเวอริครีบลุกขึ้นยืนพร้อมกัน โดยที่เอโลอิสยังคงถือซากไก่ทอดชิ้นสุดท้ายไว้ในมือ ปราณจัลเดินมาหยุดตรงหน้าทั้งสองคน ใบหน้าของเขาแม้จะดูเหนื่อยล้าแต่ก็ฉายแววโล่งอก

“คนไข้...พ้นขีดอันตรายแล้วครับ” ปราณจัลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบและอ่อนโยน

เอโลอิสและมาเวอริคต่างถอนหายใจออกมาอย่างแรงพร้อมกันด้วยความโล่งอก

“เธอมีอาการหัวใจวายเฉียบพลันครับ” ปราณจัลอธิบายต่อ “แต่โชคดีมากที่พวกคุณ CPR ได้ทันท่วงที ไม่อย่างนั้นคงไม่รอด แต่ตอนนี้กู้ชีพได้แล้วครับ ต้องรอดูอาการอีกหน่อยนะครับ”

เอโลอิสเอนตัวพิงกำแพงด้วยความรู้สึกโล่งอกจนแทบจะอ่อนแรงไปทั้งตัว 

“พ้นขีดอันตรายแล้ว…ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตั้งแต่มานิวโรม ฉันจะเจอเรื่องมากมายขนาดนี้” เอโลอิสพึมพำกับมาเวอริคด้วยความเหนื่อยล้า 

เธอรู้ดีว่าค่ำคืนนี้คงเป็นคืนที่ยาวนาน แต่สิ่งที่เธอต้องทำก่อนนอนแน่ ๆ คือการภาวนาให้คุณโมนีก้าหายเร็ว ๆ พร้อมกับนั่งเขียนแบบพิมพ์เขียวสำหรับอุปกรณ์ป้องกันที่ซับซ้อนที่สุดในชีวิตเธออย่างตั้งใจที่สุดเพื่อเป็นของขวัญหลังจากคุณโมนีก้าหายดี




[NPC-38] มาเวอริค วอห์น
มอบของชอบ NPC 
ไก่ทอดเกาหลี  +20 แต้มมิตรภาพ

[NPC-80] ปราณจัล
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

พาโมนีก้ามารักษาพยาบาล

@God 




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-80] ปราณจัล เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-12-7 12:04
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-38] มาเวอริค วอห์น เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-12-7 12:04
โพสต์ 24668 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-7 01:44
โพสต์ 24,668 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-12-7 01:44
โพสต์ 24,668 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก เรือมินิบานาน่า  โพสต์ 2025-12-7 01:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-7 15:05:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 05 เดือน ธันวาคม ปี 2025

ช่วงค่ำ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ณ สถานพยาบาลค่ายจูปิเตอร์


โถงทางเดินของโรงพยาบาลค่ายจูปิเตอร์ยังคงเงียบงัน มีเพียงเสียงเครื่องวัดชีพจรดังแผ่วจากห้องฉุกเฉินผสมกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ลอยอวลทั่วอากาศ แสงไฟนีออนสีขาวซีดสะท้อนบนผนังหินอ่อนเย็นเฉียบ ตราสัญลักษณ์นกอินทรีโรมันเหนือประตูห้องฉุกเฉินจับแสงเหมือนทองคำเก่า เวลาผ่านไปราวชั่วโมง แต่ในความเงียบนั้นทุกนาทีกลับยาวนานจนเหมือนชั่วนิรันดร์


เมื่อประตูเปิดออก เสียงล้อเตียงเข็นดัง “แกร็ก” ก้องไปทั่วโถงกว้าง ร่างของหญิงสาวบนเตียงถูกเข็นออกมาอย่างช้า ๆ เธอนอนนิ่งภายใต้ผ้าห่มสีขาวที่คลุมถึงอก ผมสีน้ำตาลเข้มแซมไฮไลต์ฟ้าแผ่กระจายอยู่บนหมอนอย่างยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดจัดแต่ยังคงมีลมหายใจบางเบาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ นั่นคือสัญญาณเล็ก ๆ ที่บอกให้เอโลอีสรู้ว่าโมนีก้ายังมีชีวิตอยู่


#เอโลอีส @Eloise 


พยาบาลสาวคนหนึ่งที่เข็นเตียงอยู่หันมายิ้มอ่อน ๆ “คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้หัวใจกลับมาเต้นตามจังหวะปกติแล้วค่ะจากที่คุณหมอได้บอกก่อนหน้านี้ แต่ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงแต่เปี่ยมความเห็นใจ “ตอนนี้ให้ทางคนไข้พักผ่อนก่อนนะคะ พวกคุณสามารถกลับได้เลย ทางเราจะดูแลรักษาต่อให้เอง ขอบคุณทั้งสองท่านมากที่พาเธอมาทันเวลา ไม่งั้น... คงไม่ทันแน่ค่ะ” 


#เอโลอีส @Eloise 


คำพูดของพยาบาลนั้นค่อย ๆ จางไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ห่างออกเรื่อย ๆ เหลือเพียงกลุ่มพยาบาลที่จัดการสายระโยงระยางรอบเตียง และเสียงเครื่องช่วยหายใจที่ดังต่อเนื่องเป็นจังหวะเดียวกับแสงไฟกระพริบบนเครื่องวัดชีพจร


ภายในห้องพักฟื้น แสงสีขาวอ่อนลอดผ่านผ้าม่านลงมาบนปลายเท้า แสงนั้นแตะขอบเตียงแล้วไหลเลยไปกระทบแจกันเล็กข้างหัวเตียง ดอกไลแลคสีม่วงครามเพียงดอกเดียวตั้งอยู่ตรงนั้น กลีบของมันเคยเฉาเพราะขาดน้ำ แต่บัดนี้กลับชูช่อขึ้นเล็กน้อย ราวกับตอบรับแรงกระเพื่อมบางอย่างที่มองไม่เห็น


จังหวะเครื่องวัดชีพจร “ติ๊ก…ติ๊ก…” ดังก้องในความเงียบ ก่อนจะเร็วขึ้นเพียงเสี้ยววินาที เหมือนหัวใจของหญิงสาวเริ่มตอบสนองต่อบางสิ่งที่เรียกอยู่จากที่ไกลแสนไกล อากาศในห้องเย็นลงอย่างแปลกประหลาด ความสว่างซีดของไฟนีออนพลันกลายเป็นแสงอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย อุ่นพอจะทำให้ปลายนิ้วของหญิงสาวที่นอนนิ่งกระตุกเบา ๆ ข้างนอกหน้าต่าง ฟ้าสีเทาอมทองของโลกที่ไร้ราตรีค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเฉดอ่อนลงราวกับมีใครกำลังแต่งท้องฟ้าใหม่ เงาใบไม้เคลื่อนไหวโดยไร้ลม ดอกไลแลคสั่นระริกอีกครั้ง

โมนีก้าพักฟื้น


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 13549 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-7 15:05
โพสต์ 13,549 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ดาบสุริยคติ  โพสต์ 2025-12-7 15:05
โพสต์ 13,549 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ จาก Icarus Mirror  โพสต์ 2025-12-7 15:05
โพสต์ 13,549 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความศรัทธา จาก จำแลงร่าง  โพสต์ 2025-12-7 15:05
โพสต์ 13,549 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-12-7 15:05
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-9 00:17:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 06 เดือน ธันวาคม ปี 2025

ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ สถานพยาบาล ค่ายจูปิเตอร์


เช้าวันถัดมา หลังจากที่โมนีก้านอนนิ่งไปหนึ่งวันเต็ม เสียงนาฬิกาและเครื่องช่วยหายใจดังเป็นจังหวะอ่อน ๆ ในห้องพักฟื้น แสงยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านบางทำให้ห้องพักฟื้นส่วนตัวทั้งห้องอาบด้วยสีทองอ่อนเหมือนผืนข้าวสุก โมนีก้าขยับนิ้วมือเล็กน้อยในขณะนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ก่อนที่เปลือกตาจะค่อย ๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า ภาพแรกที่เธอเห็นคือชายคนหนึ่งนั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียง ศีรษะของเลสเตอร์พิงขอบเตียง มือข้างหนึ่งของเขากุมมือเธอไว้แน่น รอยเส้นเลือดบนหลังมือของเขาแสดงถึงการอดนอน ดวงหน้าเปื้อนเงาอ่อน ๆ ของความเหนื่อย เขาดูเหมือนผ่านการเฝ้าทั้งคืนโดยไม่ขยับไปไหนเลย ความรู้สึกอุ่นชื้นจากมือของเขาไหลผ่านเข้าสู่ปลายนิ้วของเธออย่างอ่อนโยน


“เลสเตอร์…” เสียงของโมนีก้านั้นเอ่ยอย่างแหบพร่ามัวเมื่อเรียกชื่อของแฟนของตนเอง


ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ดวงตาสีฟ้าสดนั้นวูบสว่างราวกับแสงพระอาทิตย์ส่องทะลุหมอกยามหนาวเหน็บเขามองเธออย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะรีบโน้มตัวเข้ามาหา “โมนี่! คุณตื่นแล้ว! เดี๋ยว อย่าเพิ่งพูด” เขาหยิบแก้วน้ำจากโต๊ะหัวเตียงอย่างลนลาน แล้วค่อย ๆ ประคองให้โมนีก้าดื่มด้วยมือของตนเองที่สั่นเล็กน้อย “ดื่มก่อนนะ ค่อย ๆ เดี๋ยวจะสำลัก”


เมื่อโดนป้อนน้ำโมนีก้าก็ดื่มมันช้า ๆ ความเย็นสดชื่นนั้นทำให้ลำคอที่แห้งผากรู้สึกดีขึ้น และตอนที่ดื่มเสร็จเธอก็พยายามพูด แต่เสียงของโมนีก้าก็ยังแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน “ขอโทษนะ... ฉันทำให้คุณต้อง...”


“อย่า—อย่าเพิ่งพูดอะไรแบบนั้นนะ” เสียงของเลสเตอร์เข้มขึ้นตัดคำของโมนีก้าทันทีจนเธอต้องเงียบไป เลสเตอร์สบตาเธอตรง ๆ ดวงตาเขาเต็มไปด้วยแววตำหนิแต่แฝงความห่วงใยอย่างปวดร้าว “ผมเป็นห่วงแทบคลั่งเลยรู้ไหม คุณหัวใจหยุดเต้นไปจริง ๆ หมอพูดแบบนั้นต่อหน้าผมเลยตอนผมมาอ่ะ ผมคิดว่าคุณจะ...” เขาหยุดพูดแค่ตรงนั้น ราวกับไม่อยากเอ่ยคำที่กลัวที่สุดออกมา เขาสูดหายใจแรง ขยับมือจับมือเธอแน่นขึ้น “โมนีก้า... คุณคิดว่าตัวเองเป็นเครื่องจักรทำงานหรือไง? ทำงานจนล้มขนาดนี้ ผมโมโหมาก ๆ สติแทบแตกตอนรู้เรื่อง คุณรู้ไหมว่าทำให้ผ—” เขาหยุดอีกครั้ง เสียงสั่นอย่างหงุดหงิดในความเป็นห่วง “เซเรสมาหาคุณไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะกฎของเหล่าเทพเรื่อง... แต่ผมมาหาได้ เพราะผมเป็นแฟนคุณ เข้าใจไหม?”


โมนีก้าหลุบตามองเลสเตอร์ ดวงตาสีเงินบริสุทธิ์วาวสะท้อนแสงจากเครื่องมอนิเตอร์ภายในห้องพักฟื้นคนไข้ เธอขยับยิ้มบางส่งให้เลสเตอร์กับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อครู่ “คุณพูดเหมือนกำลังบ่นเลยนะ...”


“เพราะผมกำลังบ่นอยู่จริง ๆ ไง!” เขาโพล่งทันที สีหน้าของเลสเตอร์เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดแบบตลกร้าย “โมนีก้าคุณกำลังแบกโลกของมนุษย์ที่ไร้สติไว้บนบ่าหรือยังไงฮะ ทำไมไม่คิดถึงตัวเองบ้าง!”


“คุณก็ยังหลงตัวเองเหมือนเดิมด้วย...” โมนีก้าเบือนหน้าหนีเล็กน้อย เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดออกมาท่ามกลางความแห้งในลำคอ


พอเห็นและได้ยินเสียงหัวเราะนั้นเลสเตอร์ก็ยักคิ้วพลางยิ้มจาง ๆ ให้กับโมนีก้า “ผมไม่ได้หลงตัวเอง ผมแค่รู้ว่าผมเจ๋งพอจะมาดูแลแฟนตัวเองนะครับ” เขายื่นมือขึ้นแตะผมของโมนีก้าอย่างระมัดระวัง “แต่คราวหน้า ถ้าคุณคิดจะสลบอีก บอกผมก่อนนะ ผมจะเตรียมใจไว้ก่อน จะได้ไม่ตื่นกลางดึกแล้วคิดว่าผมเสียคุณไปแล้วอีก” สัมผัสจากมือของเลสเตอร์นั้นอบอุ่นจนโมนีก้าอดรู้สึกดีไม่ได้ “ฉัน...ไม่ได้อยากให้คุณเป็นห่วงขนาดนั้นนะ”


“ผมจะไม่ให้เป็นห่วงแฟนแล้วจะให้เป็นห่วงใครล่ะครับ?” เลสเตอร์พูดพลางแค่นเสียงหัวเราะในลำคอ “ผมมีลูกกับเพื่อนให้ห่วงเยอะแยะ แต่แฟนผมมีคนเดียวเท่านั้นนะ” น้ำเสียงเขาออกจะภาคภูมิใจเสียจนคนฟังหน้าแดงไปทั้งซีก โมนีก้าพยายามกลั้นยิ้มแต่ไม่สำเร็จ ใบหน้าซีด ๆ ของเธอเริ่มขึ้นสีระเรื่อ เลยแก้เขินด้วยการยื่นมือไปดึงแก้มเขาเบา ๆ ทั้งที่แรงยังไม่กลับมาเต็มที่ “คุณนี่มัน... พ่อหนุ่มพระอาทิตย์จอมเจ้าชู้จริง ๆ หยอดเก่งตลอดเลยนะ”


เลสเตอร์ยกคิ้วสูงอย่างท้าทายเพราะโมนีก้าทำแบบนั้น “เจ้าชู้เหรอ? ผมเรียกว่ามีพรสวรรค์ในการทำให้คนหลงเสน่ห์ต่างหากครับ”

“สมัยก่อนคุณก็เจ้าชู้จริง ๆ นั่นแหละ” โมนีก้าพูดแซวต่อ เสียงของเธอก็ยังคงแหบแห้งแต่ก็ยังแฝงความอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด “แค่ตอนนี้ดีขึ้นหน่อย เพราะฉันไม่ให้มีโอกาสได้ทำ”
เลสเตอร์เลยยกมืออีกข้างขึ้นยอมจำนน “ครับ ๆ แม่สาวไลแลคของผมพูดอะไรก็ถูกหมด” จากนั้นจึงลดน้ำเสียงลงนุ่มกว่าเดิม “เหนื่อยมากใช่ไหม?”
“เหนื่อยสิ..” เธอตอบพลางหลับตาแผ่ว “แม่มาไม่ได้ใช่ไหมคะ...” 

เลสเตอร์จึงให้คำตอบด้วยการส่ายศีรษะช้า ๆ “ใช่ แม่ของเธอเทพีเซเรสมาไม่ได้ตามกฎห้ามเจอลูกนั้นแหละ ฝากความคิดถึงกับความเป็นห่วงที่มีโคตรมากมาเท่านั้น เธอบอกว่าอยากให้คุณพักยาว ๆ อย่าเพิ่งห่วงโลกทั้งใบอีกสักพัก” เขาวางมือไว้ข้างหมอนก่อนจะหยิบสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม แหวนโลหะสีเงินเข้มที่ประดับอัญมณีสองสีตรงกลางสีน้ำเงินและสีทอง เหมือนพลังของฟ้าผ่ากับดวงอาทิตย์สลับหมุนวนในนั้น “ผมเกือบลืมเลย นี่เป็นของรางวัลที่คุณต้องได้จากกิจกรรม ลูดี โรมานี ที่ผ่านมา แหวนเคลื่อนย้ายจากเทพีเฮร่า ผมได้มาสักพักแล้ว แต่...ลืมเอามาให้” แสงของแหวนวสงนั้นสะท้อนกับแสงไฟห้องพยาบาลจนเกิดเงาสีฟ้าทองส่องผ่านใบหน้าของโมนีก้า เธอเอื้อมมือรับมันไว้ช้า ๆ น้ำหนักของแหวนดูเบา แต่กลับรู้สึกได้ถึงพลังแฝงอยู่ภายใน


“สวยมากเลย...” เธอกระซิบเบา “ไว้ฉันมีโอกาสจะส่งของไปถวายพระนาง ฝากขอบคุณด้วยนะ”

คำตอบนั้นทำให้เลสเตอร์ยิ้มเอ็นดู “ฝากขอบคุณแทนเธอได้ก็เท่านั้นแหละ แต่พระนางคงจะจำเธอได้แน่ ดูสิ เทพีเฮร่าคงหัวเราะทั้งวันแน่”

“คุณนี่นะ...” โมนีก้าอดหัวเราะไม่ได้ เสียงหัวเราะของเธออ่อนแรงแต่สดใสพอจะทำให้บรรยากาศทั้งห้องสว่างขึ้นอย่างประหลาด กลิ่นไลแลคและเบอร์รี่หวานจากผิวของเธอลอยอบอวลรวมกับกลิ่นยาในอากาศจนกลายเป็นกลิ่นอุ่น ๆ ของชีวิตที่กลับมาอีกครั้ง


ช่วงเวลานั้นแสงจากหน้าต่างบานสูงเริ่มอาบเข้ามาในห้องพักฟื้นจนส่องถึงปลายเตียง เงาสีทองอุ่นสะท้อนบนผิวแก้วน้ำและขอบแหวนที่วางอยู่ข้างหมอน เสียงเครื่องมอนิเตอร์เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ สอดรับกับเสียงหายใจของหญิงสาวที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ เลสเตอร์ยังคงนั่งพิงเก้าอี้ไม้ตัวเดิม มือของเขายังวางอยู่ใกล้มือของโมนีก้าไม่ยอมขยับไปไหน “คุณจะอยู่อีกนานไหม?” เสียงของโมนีก้าเอ่ยถามแบบแผ่วแต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเช่นเคย ดวงตาสีเทาเงินสะท้อนเงาของชายหนุ่มที่เธอมองอยู่


เลสเตอร์หันมามอง พลางยักไหล่เบา ๆ “ความจริงก็อยากอยู่จนกว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ”


“ไม่จำเป็นหรอก คุณเฝ้ามาทั้งคืนแล้ว ฉันจะใช้พลังอีกหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เป็นลูกเซเรสนะ ฟื้นตัวเร็วอยู่แล้ว” โมนีก้าเอ่ยยิ้ม ๆ มองเลสเตอร์ เขาเลยก้มลงมองเธออย่างดื้อรั้น “ก็ได้...งั้นผมขออยู่เฝ้าอีกแป๊บหนึ่งแล้วกัน ถ้าหลับก็หลับตรงนี้แหละ” น้ำเสียงนั้นดูจะยอมแต่สายตาไม่ยอมสักนิด


โมนีก้าหัวเราะเบา ๆ กับปฎิกิริยานั้นแล้วเอื้อมมือไปหยิบแท็บเล็ตดีไซน์โลหะสีเงินขึ้นมาจากโต๊ะหัวเตียงท็บเล็ตเดดาลัสของเธอนั้นเองเป็นเครื่องมือสื่อสารอัจฉริยะของพวกเดมิก็อด เธอจิ้มหน้าจออย่างคล่องแคล่ว แม้ปลายนิ้วยังมีสายแปะวัดชีพจรติดอยู่ก็ตาม เสียงติ๊ดเบา ๆ ดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนข้อความบนจอสว่างขึ้น “งึม ๆ … พอดีฉันจะแจ้งคนอื่นหน่อยว่าฉันปลอดภัยดีน่ะ...” เธอพึมพำเบา ๆ ขณะพิมพ์ “แล้วก็...ขอให้ใครสักคนรับงานฉันไปทำแทนที ฉันยังไม่ได้ส่งของเลย” ในขณะที่เลสเตอร์ก็ชะโงกหน้ามาดูจนแทบจะชนกันอยู่แล้ว “ของอะไรอีกล่ะ?”


“สั่งทำของน่ะ แต่ตอนนี้ไปไม่ได้แล้ว เดี๋ยวโอนกรรมสิทธิ์ให้คนอื่นทำแทนละกัน” เธอตอบเสียงเรียบพลางลากนิ้วส่งคำสั่งอัตโนมัติในหน้าระบบ จนเลสเตอร์มองจอนั้นอย่างเอ็นดู พร้อมกับยิ้มขำในท่าทีมุ่งมั่นของเธอ “ดีมากเลย โมนี่ ผมดีใจที่อย่างน้อยคุณก็เลือกจะพักบ้าง ไม่งั้นคงต้องอัญเชิญเทพีเซเรสมาลากตัวคุณไปพักเองแน่ ๆ”


“พักเพราะไม่ไหวต่างหาก...” โมนีก้าเอ่ยแล้วถอนหายใจ “ไม่งั้นคนแถวนี้คงร้องไห้”


เลสเตอร์เชิดหน้าเล็กน้อยทันทีเหมือนคนถูกยกยอ “ผมก็คิดอยู่แล้วว่าถ้าคุณไม่ฟื้น ผมคงกลายเป็นคนที่ทำได้แต่บทกวีโศกศัลย์ไฮกุสัลลาปังคพิสัยไปทั้งชีวิตแน่ ใครบ้างจะไม่ร้องไห้ถ้าคนรักของเทพพระอาทิตย์ต้องล้มลง” 


“ดูพูดเขา…” โมนีก้ากลอกตาแล้วหัวเราะพลางส่ายหัวไปมาแบบไม่เชื่อหรอก

“ก็ผมพูดความจริงน่ะสิ คุณมิวส์ของผม” เขายกคิ้วอย่างภูมิใจบนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่เห็นหรือว่าแสงอาทิตย์วันนี้สดใสขึ้นเพราะใครน่ะครับคนแถวนี้”

“เพราะคุณหลงตัวเองไม่เลิกนั่นแหละไม่ใช่เพราะฉัน” เธอสวนกลับในทันทีแต่เสียงยังขบขับและแววตาแอบหัวเราะ เขาเลยเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วยิ้มกว้างขึ้น “อ้อ ถ้าคุณพูดแบบนี้อีกนิด ผมอาจจะคิดว่าตัวเองหายเหนื่อยจากการเฝ้าทั้งคืนแล้วก็ได้นะ”


โมนีก้าเบือนหน้าหนีเพื่อกลั้นยิ้มกับคำนั้น แต่สุดท้ายก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้ เสียงหัวเราะของเธอคล้ายระฆังเงินที่ดังสะท้อนเบา ๆ ไปทั่วห้องพักฟื้น แสงช่วงเวลากลางวันสีทองที่ลอดผ่านม่านบางทาบลงบนผมของทั้งคู่ จนกลายเป็นภาพอบอุ่นที่ทั้งโรงพยาบาลคงไม่อาจเก็บไว้ในความทรงจำได้ครบถ้วน สงของชีวิตที่ค่อย ๆ กลับคืนมาอีกครั้ง ทั้งในตัวโมนีก้า และในดวงตาของเลสเตอร์ที่มองเธอด้วยรอยยิ้มเงียบ ๆ



[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-12-9 00:33
โพสต์ 47988 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-9 00:17
โพสต์ 47,988 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ดาบสุริยคติ  โพสต์ 2025-12-9 00:17
โพสต์ 47,988 ไบต์และได้รับ +18 EXP +20 เกียรติยศ จาก Icarus Mirror  โพสต์ 2025-12-9 00:17
โพสต์ 47,988 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-12-9 00:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-10 22:14:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 10 เดือน ธันวาคม ปี 2025

ช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ สถานพยาบาล


บ่ายวันที่ 10 ธันวาคม แสงแดดเหนือค่ายจูปิเตอร์อ่อนนุ่มจนแทบคล้ายฤดูใบไม้ผลิแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม แสงสีทองลอดผ่านบานหน้าต่างของโรงพยาบาลหลวง กระทบพื้นหินอ่อนสีอ่อนจนส่องประกายอบอุ่น บรรยากาศของวันนั้นสดใสพอ ๆ กับอารมณ์ของหญิงสาวที่กำลังเก็บข้าวของอยู่บนเตียงคนไข้ โมนีก้าในเสื้อโค้ทผ้าสีครีมอ่อนกับกางเกงยีนส์เข้ารูป กำลังจัดกระเป๋าสะพายใบเล็กอย่างใจเย็น เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่มีไฮไลต์สีฟ้าอิเล็กทริกสะท้อนแสงอาทิตย์จนดูเหมือนล้อมด้วยประกายฝุ่นเงิน ทุกการเคลื่อนไหวของเธอดูเบากว่าครั้งก่อนมาก ร่างกายเริ่มฟื้นเต็มที่แต่อารมณ์กลับซับซ้อนกว่าที่คิดในช่วงนี้


“บางที...” เธอพึมพำเบา ๆ ขณะรูดซิปกระเป๋า “อาจจะชวนเลสเตอร์ไปกินข้าวด้วยกันก็ดี... หรือไม่ก็ไปไหว้เทพจูปิเตอร์สักหน่อย” โมนีก้าพึมพำแบบนั้นเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเลสเตอร์อยู่เป็นเพื่อนเธอในทุกบ่ายของวัน เขามาบ่นเรื่องร้อยแปดพันเก้า ซึ่งมันก็น่ารำคาญแต่ก็น่าเอ็นดูไปด้วย


ยังไม่ทันจะคิดจบ เสียงประตูเลื่อนเบา ๆ ก็ดังขึ้น เลสเตอร์เดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายราวกับท้องฟ้าเพิ่งเปิดหลังฝน “อ้า…ในที่สุดก็ไม่ต้องเห็นคุณในชุดคนป่วยสักที” เขาเอ่ยอย่างโล่งอก “พระอาทิตย์ในใจผมเหมือนได้ขึ้นท้องฟ้าอีกครั้งเลยนะ”


โมนีก้าหัวเราะเบา ๆ พลางสะบัดหัวน้อย ๆ กับคำพูดนั้น “พูดเวอร์ไปเถอะคุณน่ะ”

“เวอร์อะไรกันครับ นี่คือคำพูดแห่งความจริงทั้งนั้น” เลสเตอร์เอ่ยแล้วยักคิ้วอย่างภาคภูมิ “หรือจะให้ผมแต่งเพิ่มอีกสักบทดี”

“ไม่ต้องเลยค่ะเลสเตอร์” โมนีก้ารีบสวนเสียงเรียบแต่แฝงรอยยิ้ม ก่อนจะถามต่ออย่างช้า ๆ “ว่าแต่ วันนี้คุณว่างไหม?”

เลสเตอร์เลิกคิ้วทันที “ว่างแน่นอน ถ้ามีคุณ โลกทั้งใบผมก็ต้องว่างให้อยู่แล้วไหมครับ”

โมนีก้ากลั้นหัวเราะก่อนพูดต่อ “ฉันอยากไปสั่งของที่ร้านค้าสักหน่อย แล้วก็อยากไปไหว้เทพจูปิเตอร์ด้วย” คำตอบนั้นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัยกับการที่แฟนสาวของตนเองจะไปไหว้เทพจูปิเตอร์  “หืม ไปไหว้เทพจูปิเตอร์เหรอ? มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?”


คำถามนั้นทำให้โมนีก้าส่ายหัวช้า ๆ จนเส้นผมพลิ้วตามแรงลมอ่อนจากหน้าต่าง “ไม่แน่ใจค่ะ แค่รู้สึกว่า...ควรไป มันจะดีขึ้นน่ะ” เลสเตอร์นิ่งไปครู่หนึ่งกับปฎิกิริยาการตอบกลับนั้นแม้ว่าจะเป็นห่วงแต่เหมือนจะมีอะไรบางอย่างละมั้ง แต่โมนีก้าก็ไม่ได้กังวนจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเสียหน่อย ก่อนเขาจะพยักหน้า “ก็ได้ ถ้าคุณอยากไป ผมจะไปด้วย” เขากล่าวเรียบง่าย แต่แฝงรอยยิ้มอบอุ่นในน้ำเสียง ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินทางออกจากห้องพักฟื้นแล้วเดินออกจากสถานพยาบาลของค่ายจูปิเตอร์ไปด้วยกัน


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-12-10 22:27
โพสต์ 17929 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-10 22:14
โพสต์ 17,929 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ดาบสุริยคติ  โพสต์ 2025-12-10 22:14
โพสต์ 17,929 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ จาก Icarus Mirror  โพสต์ 2025-12-10 22:14
โพสต์ 17,929 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-12-10 22:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-12 23:34:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
15:45 น. สถานพยาบาล (12/12/2025)
ธงขาวประทับตราคทาที่มีงูพันเกลียวหรือสัญลักษณ์แห่ง ‘แอสคูลาปิอุส’ โบกสะบัดอยู่เหนืออาคารทรงโรมันหลังคากระเบื้องสีแดงอิฐ บ่งบอกสถานะของสถานที่แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน ไคก้าวตามหลังโนอาห์เข้าไปด้านใน สัมผัสแรกที่ได้รับไม่ใช่กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกเหมือนโรงพยาบาลทั่วไป แต่เป็นกลิ่นหอมเย็นสดชื่นของสมุนไพรและเครื่องเทศเลมูเรียนที่ช่วยให้จิตใจสงบลง
ภายในห้องโถงสีขาวสะอาดตา แสงแดดอุ่น ๆ ลอดผ่านหน้าต่างบานไม้เข้ามาตกกระทบกับชั้นวางขวดยาที่จัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบระดับมิลลิเมตร ไคกวาดตามองป้ายชื่อยา—เนคทาร์, แอมโบรเซีย, ยาหอมจากยูนิคอร์น—ทุกอย่างถูกแยกหมวดหมู่ไว้อย่างดีเยี่ยมจนน่าประทับใจ สำหรับคนเจ้าระเบียบอย่างเขา ที่นี่ดูน่ารื่นรมย์กว่าลานฝึกฝุ่นตลบเมื่อครู่เป็นไหน ๆ
“เงียบสงบดีนะครับ” ไคเปรยขึ้นพลางมองเตียงพยาบาลที่ปูผ้าตึงเปรี๊ยะไม่มีรอยยับ “สะอาดสะอ้าน สมกับที่เป็นสถานที่รักษาชีวิต”
“ตอนนี้มันเงียบเพราะยังไม่มีคนเจ็บหนัก” โนอาห์ตอบเสียงเรียบ พิงไหล่กับกรอบประตูพลางกอดอกมองรุ่นน้อง “แต่หลังจากจำลองซ้อมรบ หรือกลับจากภารกิจเสี่ยงตาย ที่นี่จะวุ่นวายจนนายจินตนาการไม่ออกเลยล่ะ หัวหน้าแพทย์อย่างคุณปราณจัล หรือคุณลูปิน แทบจะไม่ได้พัก”
“ผมหวังว่าตัวเองคงไม่ต้องมารบกวนเวลาพักผ่อนของพวกเขานะครับ” ไคพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความถือดีไว้ลึก ๆ “การบาดเจ็บคือผลลัพธ์ของความผิดพลาดในการคำนวณ หรือไม่ก็ความอ่อนแอ... ซึ่งผมพยายามหลีกเลี่ยงทั้งสองอย่าง”
โนอาห์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง มุมปากยกยิ้มคล้ายจะเอ็นดูในความมั่นใจนั้น “พูดได้ดี แต่จำไว้นะไค แม้แต่นักรบที่เก่งที่สุดในกองร้อยที่หนึ่งก็ยังมีแผลเป็น... บางครั้งแผลเป็นก็ไม่ใช่เครื่องหมายของความผิดพลาด แต่เป็นหลักฐานว่านายรอดชีวิตมาได้เพื่อสู้ต่อ”
ไคชะงักไปเล็กน้อยกับคำสอนที่คาดไม่ถึง เขามองสบตากับรุ่นพี่ตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้ารับช้า ๆ อย่างให้เกียรติ “ผมจะจำไว้ครับ พี่โนอาห์”
“ดี” โนอาห์ผละออกจากกรอบประตู “ไปกันต่อเถอะ ก่อนที่นายจะเริ่มวิจารณ์การจัดวางขวดยาบนชั้นนั้นว่าสีไม่ไล่โทนกัน”
“ผมเพิ่งจะคิดเรื่องนั้นพอดีเลย” ไคหลุดยิ้มออกมาบาง ๆ ยอมรับความจริงข้อนั้นแต่โดยดี ก่อนจะเดินตามคนนำทางออกไปสู่จุดหมายถัดไป
รับภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
  • ทัวร์สถานพยาบาล EXP +15

ปฏิสัมพันธ์กับ NPC
  • ได้รับค่าความสนิทสนมกับ โนอาห์ คลาร์ก +5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-12 23:59
Kai
โพสต์ 8387 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-12 23:34
Kai
โพสต์ 8,387 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-12-12 23:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้