ดู: 112|ตอบกลับ: 8

Phatranit Phiphatkiat | ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ

 ปิด [คัดลอกลิงก์]
Phatranit Phiphatkiat
Profile
เกี่ยวกับฉัน
ชื่อ: ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ (Phatranit Phiphatkiat)
ชื่อเล่น: พัด (phat)
ฐานะ: เป็นทั้งสองอย่าง ทั้งในสถานะของ เดมี่ก็อต (บุตรีท่านเทพพลูโต) และในสถานะลูกหลานโรม (บรรพบุรุษเลตัส)
วันเกิด: 3 กุมภาพันธ์ 2011
โรงพยาบาล/สถานที่เกิด: Ospedale Pediatrico Bambino Gesù 
เมือง: กรุงโรม
ประเทศ: ประเทศอิตาลี
เชื้อชาติ: ไทย
ลักษณะทางกายภาพ:
เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้ารูปทรงเรียวไข่ และโครงหน้าที่สวยสง่างาม ราวกับเทพธิดา ผิวขาวนวล รูปร่างเพรียวบางอรชร สมส่วน สีผมเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่อารมณ์และความรู้สึก สีดวงตา: น้ำตาลเข้ม
ครอบครัว:
ต้นตระกูลชื่อ: อัคนี พิพัฒน์เกียรติ
แม่ชื่อ: นภัสสร พิพัฒน์เกียรติ
สิ่งที่ชอบ:
1. ธรรมชาติและสัตว์
2. เวทมนตร์และไสยศาสตร์
3. การอ่านและเขียน
4. ความตาย
5. เรื่องลึกลับ และสยดสยอง
สิ่งที่ไม่ชอบ:
1. ความวุ่นวายหรือความไม่เป็นระเบียบ
2. การถูกบังคับหรือจำกัดความคิดเห็น
3. พวกคนสดใสตลอดเวลา เพราะชีวิตฉันติดดาร์ก เข้าใจนะ
4. ความล้มเหลวโดยไม่พยายาม
5. สิ่งสกปรกหรือความไม่สะอาด
สิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข:
ส่งพวกผู้คนไปทัวร์ท่องแดนนรกให้หมด นั่นแหละความสุขของฉัน ยิ้ม
ความกลัว:
เสียงหัวเราะ
จุดแข็ง:
เป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นแข็งแกร่ง ไม่กลัวความตาย หรือความสยดสยองใดๆ โหด เหี้ยม อำมหิตนิดๆ
จุดอ่อน:
เป็นคนติ๊งต็องหน่อยๆ ในบางเวลา ไม่ชอบเสียงหัวเราะที่มากเกินไป
รูปรอยสัก:
Tattoo
ข้อบกพร่องร้ายแรง:
ตรวจกับคุณหมอแล้วผลออกมาว่าไม่เป็นโรคในข้อบกพร่องร้ายแรงแม้แต่สักโรคเดียวค่ะ
โรคประจำตัวเดมี่ก็อต:
ตรวจกับคุณหมอแล้วผลออกมาว่าเป็นทั้งสองโรค ได้แก่โรคประจำตัวเดมี่ก็อตดังต่อไปนี้
1. โรคดิสเล็กเซีย (ละติน)
(เป็นโรคการเรียนรู้โดยใช้ภาษา ทำให้เจ้าตัวมีปัญหาในการถอดรหัสคำและนำเสียงของคำมารวมกันเพื่อให้เข้าใจ แม้ว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ตาม ทำให้การอ่านคล่อง การสะกดคำ และความเข้าใจในการอ่านเป็นเรื่องยาก อาจดูเหมือนเป็นเพียงความยากลำบาก บางกรณีคำศัพท์สั่นไหว บรรทัดของคำผสานกันหรือแยกออกจากกัน หรือคำลอยหรือหลุดออกจากหน้า เพราะสมองของมนุษย์กึ่งเทพ "ถูกกำหนดมาแต่เกิด" ในการตีความและเรียนรู้ภาษาละตินเท่านั้น ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ดังนั้นหากเป็นภาษาอังกฤษจะมีความลำบากสูง แต่ถ้าเป็นภาษาละตินจะเข้าถึงได้ง่ายและเรียนรู้ไว)

2. โรคสมาธิสั้น
(มีลักษณะของการไม่ตั้งใจในระดับสูง มักวอกแวก หุนหันพลันแล่น และกระสับกระส่าย กระทำมากกว่าปกติ หรือไวเกินไป มนุษย์กึ่งเทพส่วนใหญ่จะเป็นโรคนี้กัน จริงๆ แล้วมันเป็นสัญญาณของประสาทสัมผัสที่เพิ่มขึ้นและความถนัดตามธรรมชาติในการต่อสู้ โรคสมาธิสั้นยังช่วยให้ครึ่งเทพมีการตอบสนองในสนามรบได้ดี และสามารถดูได้ว่าคู่ต่อสู้จะโจมตีจุดใดเนื่องจากการเกร็งของกล้ามเนื้อ มักเกิดขึ้นควบคู่กับดิสเล็กเซียในมนุษย์กึ่งเทพ)
แรงจูงใจ:
สำหรับตัวของฉันเอง มีแค่สองขา สองมือ ต่อให้ต้องฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่ง และเก่งกาจ หรือเจอกับระเบียบวินัยมากแค่ไหนฉันก็พร้อมทำ แต่พวกที่อ่อนแอไม่คิดจะขวนขวายหรือทำอะไรเลย ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนแห่งขุมนรกและความตาย หึหึ!!
บุคลิกภาพ:
เธอเป็นคนที่ถ้าผู้ภายนอกเห็นจะดูเป็นเด็กผู้หญิงที่นิ่ง เงียบ ขรึม และไม่ค่อยชวนดึงดูดใจ หรือเป็นมิตรมากนัก แต่ถ้าผู้ในครอบครัว เช่น คุณแม่ จะทราบและรู้จักนิสัยของเธอ เธอถึงจะดูนิ่ง ขรึม แต่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ดุดัน โหดเหี้ยม อำมหิต และไม่เกรงกลัวต่อความตายใดๆ ทั้งสิ้น แค่ไม่ทำให้เธอโกรธจนต้องพูดว่า “เจ้าจงไปสู่ปรโลกแห่งขุมนรกเถิด” ก็พอ
โปรไฟล์จัดวางแบบกลางทั้งหมด — ปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามต้องการ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16305 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-8-17 15:25

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 เงินดอลลาร์ +50 เหรียญดีนาเรียส +10 ตื่นรู้ +1 ย่อ เหตุผล
God + 50 + 50 + 10 + 1

ดูบันทึกคะแนน

โพสต์ 2025-8-17 23:08:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lia เมื่อ 2025-8-18 16:31

อัคนี พิพัฒน์เกียรติ

Profile Akane


      ชีวประวัติฉบับสมบูรณ์: อัคนี พิพัฒน์เกียรติ และสายเลือดแห่งมัจจุราช


       ​เรื่องราวของอัคนี พิพัฒน์เกียรติ เริ่มต้นจากความผูกพันอันแปลกประหลาดระหว่างเทพเจ้าผู้ไม่แยแสความรู้สึกและหญิงสาวชาวมนุษย์ผู้มองเห็นแก่นแท้ที่ซ่อนอยู่ภายใน


​สายใยจากแดนไกล: บุษราคัม พิพัฒน์เกียรติ และท่านเทพธานาทอส


       ​ในอดีตกาลอันไกลโพ้น ท่านเทพธานาทอส เทพแห่งความตายอันสงบและไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่เคยแยแสต่อความทุกข์ของมนุษย์ หน้าที่ของเขาคือการนำพาเหล่าวิญญาณจากโลกนี้ไปสู่ยมโลกโดยปราศจากอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ แต่ถึงแม้จะถูกมองว่าเป็นเทพที่ไร้ความเมตตาและไม่เลือกปฏิบัติ เขาอาจจะเกลียดงานของตนเอง เพราะมันคือหน้าที่ที่ต้องดำเนินไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด และความเกลียดชังจากทั้งเหล่าเทพและมนุษย์ก็ทำให้เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว


      ​ด้วยความปรารถนาที่จะเข้าใจว่าเหตุใดมนุษย์จึงเกลียดชังเขามากมายนัก ท่านเทพธานาทอส จึงตัดสินใจลงมาใช้ชีวิตปะปนกับผู้คน เขาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบสงบ จนกระทั่งในยุคสมัยใหม่ หญิงสาวชาวไทยนามว่า คุณบุษราคัม (แม่บัว) พิพัฒน์เกียรติ บุตรีของ พระยาพิทักษ์พิพัฒน์และคุณหญิงละออ พิพัฒน์เกียรติ ผู้สืบทอดนามสกุลอันทรงเกียรติซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เพื่อเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติแด่บรรพบุรุษผู้มีความรู้ความสามารถและสร้างคุณูปการแก่ประเทศชาติ ได้เดินทางมายังอิตาลีใน ค.ศ. 1926 เพื่อศึกษาด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยการเดินทางอันยาวนานด้วย เรือโดยสารข้ามทวีป เธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้มองเขาด้วยความกลัว แต่กลับมองด้วยความเข้าใจในความโดดเดี่ยวของเขา


      ​ใน ค.ศ. 1927 ท่านเทพธานาทอสในร่างมนุษย์ได้พบกับเธอในยามสนธยา ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโรม ขณะที่ผู้คนต่างรีบเร่งกลับบ้านเพราะความมืดที่คืบคลานเข้ามา มีเพียงคุณบุษราคัมที่กำลังร่างภาพวิวทิวทัศน์ที่กำลังถูกปกคลุมด้วยเงามืดอย่างไม่สะทกสะท้าน สายตาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของเธอทำให้ท่านเทพธานาทอสในร่างมนุษย์ผู้มีสายตาเศร้าสร้อยและอ่อนโยนต้องหยุดนิ่ง ด้วยความที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเกลียดชังเขาเพราะหน้าที่ที่เขาต้องทำ แต่เธอกลับมองเห็นเพียงความเศร้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความโดดเดี่ยวของเขา ความรักของทั้งสองงอกงามขึ้นจากความเข้าใจที่ไม่มีใครอื่นสามารถหยั่งถึงได้



      ​คุณบุษราคัมได้ให้กำเนิดบุตรชายในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1929 เขาถูกตั้งชื่อว่า อัคนี ผู้ซึ่งเป็น ทายาทเพียงคนเดียวแห่งเทพเจ้าธานาทอส


       ​อัคนีเติบโตขึ้นในอิตาลีภายใต้อ้อมกอดของมารดา ผู้ซึ่งปลูกฝังความแข็งแกร่งและจิตใจที่อ่อนโยนให้แก่เขา แม้คุณบุษราคัมจะเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่คำสอนของเธอมีความลึกซึ้งไม่แพ้คำสอนของเทพ เธอมักจะย้ำเตือนอัคนีเสมอว่า "ความเมตตาคือเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด จงอย่าปล่อยให้ไฟแห่งความเกลียดชังเข้าครอบงำหัวใจ" คำสอนนี้ขัดแย้งกับตัวตนที่แท้จริงของบิดาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้อัคนีเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์

​เมื่ออัคนีเข้าสู่วัย 14 ปี (ค.ศ. 1943) เขาเริ่มรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัว พลังที่เรียกหาให้เขาออกเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มารดาของเขาได้มอบสร้อยคอจี้รูปสัญลักษณ์แห่งความเมตตาและกล่าวคำมั่นสุดท้ายว่า "ไม่ว่าลูกจะเดินทางไปที่ใด เลือดของธานาทอสและจิตใจของแม่จะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ"


        ​การเดินทางจากอิตาลีสู่หุบเขาโซโนมาแคลิฟอร์เนีย


     ​การเดินทางของอัคนีเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1943 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่สองและมหาสมุทรแอตแลนติกเต็มไปด้วยอันตราย การเดินทางนี้ไม่ใช่เรื่องของการเดินทางแบบทั่วไป แต่เป็นการทดสอบครั้งสำคัญของลูกครึ่งเทพ เขาจึงเลือกที่จะเดินทางด้วยการลักลอบผ่านเส้นทางอันตรายไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง

​ส่วนที่ 1: การเดินทางจากทัสคานีสู่อเมริกา


     ​อัคนีออกเดินทางจากบ้านไร่ในแคว้นทัสคานีอย่างลับๆ หลีกเลี่ยงเงาของทหารที่ลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลาเพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเรือ ด้วยสัญชาตญาณจากสายเลือดของบิดา เขาไม่ได้โดยสารเรือธรรมดา แต่ล่องผ่านเส้นทางที่ถูกซ่อนเร้นในอาณาจักรแห่งความตายเพื่อข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ท่ามกลางเสียงคำรามของระเบิดและเงาของเรือดำน้ำที่ผ่านไป การเดินทางข้ามทวีปอันแสนยาวนานนี้เป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาอย่างแท้จริง


​ส่วนที่ 2: การเดินทางข้ามทวีปอเมริกา


     ​เมื่อมาถึงชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ เขาก้าวเข้าสู่ความสับสนอลหม่านของเมืองในยามสงครามที่เต็มไปด้วยเสียงไซเรนและผู้คนที่รีบเร่ง ก่อนจะออกเดินทางด้วยเท้าและอาศัยรถไฟสินค้าเพื่อข้ามทวีปไปยังหุบเขาโซโนมาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งของประเทศ เส้นทางของเขาแบ่งออกเป็นช่วงๆ ดังนี้

​เขตอุตสาหกรรมในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ: อัคนีเดินทางผ่านรัฐอย่างนิวยอร์กและเพนซิลเวเนีย ซึ่งเต็มไปด้วยควันจากโรงงานและเสียงคำรามของเครื่องจักร เขาต้องซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยและอาศัยความมืดในการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนและเจ้าหน้าที่


     ​เขตมิดเวสต์และที่ราบกว้างใหญ่ (Great Plains): เมื่อเดินทางเข้าสู่รัฐอย่างโอไฮโอและเนแบรสกา ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเป็นทุ่งหญ้าสีทองอันไร้จุดสิ้นสุด เขาต้องเผชิญกับความเวิ้งว้างและความเงียบงันที่กดดันหัวใจและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


     ​เทือกเขาร็อกกี้ (Rocky Mountains): การเดินทางสู่รัฐโคโลราโดและยูทาห์เป็นบททดสอบที่โหดร้ายที่สุด อัคนีต้องเผชิญกับความหนาวเย็นจัด อากาศที่บางเบา และความเหนื่อยล้าจากการปีนป่ายบนเส้นทางที่สูงชัน

​รัฐแคลิฟอร์เนียและหุบเขาโซโนมา: เมื่อเดินทางข้ามภูเขามาได้สำเร็จ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอเค็มของมหาสมุทรแปซิฟิกที่อบอวลในอากาศ เสียงของท้องทะเลเป็นเหมือนเข็มทิศสุดท้ายที่นำทางเขาไปยังจุดหมายปลายทางที่แท้จริง


     ​ตลอดการเดินทางที่ยาวนานกว่าหนึ่งปี เขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากธรรมชาติและสัตว์ร้ายที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน แต่ในทุกย่างก้าว เขารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกนำทางโดยพลังลึกลับบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ บางครั้งเขาพบรอยเท้าหมาป่าขนาดใหญ่ที่เหมือนจะนำทางเขาไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง และทุกครั้งที่เขาเผชิญหน้ากับความกลัว คำสอนของแม่และจิตวิญญาณของบิดาผู้เป็นเทพแห่งความตายก็ช่วยนำทางให้เขาใช้สติและไหวพริบในการเอาตัวรอด ในที่สุด เขาก็เดินทางมาถึง ป่าหมาป่า (Wolf Woods) ที่ที่เขาได้พบกับหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่นามว่า ลูปา (Lupa) ผู้ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนเหล่าลูกหลานโรมันให้เป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง


​เส้นทางนักรบ: สิบปีในค่ายจูปิเตอร์และนิวโรม


     ​หลังจากการฝึกฝนอันเข้มงวดกับลูปา ในปี ค.ศ. 1944 อัคนีได้ก้าวเข้าสู่ ค่ายจูปิเตอร์ (Camp Jupiter) และได้รับเลือกให้ประจำ กองร้อยที่ 1 ซึ่งเป็นหน่วยที่รวบรวมทหารฝีมือดีที่สุด เขาใช้เวลาตลอดสิบปีเพื่อพิสูจน์ตัวเองในฐานะทหารที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญและสติปัญญา จนได้รับการเลื่อนยศเป็น ร้อยโท (Centurion) ในปี ค.ศ. 1949 จากความสำเร็จในการนำทัพอย่างชาญฉลาด

​ความเมตตาที่สืบทอดมาจากมารดาเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนเขา อัคนีมีส่วนร่วมในปฏิบัติการลับในปี ค.ศ. 1952 ที่ช่วยเหลือทาสที่ถูกกักขังได้อย่างปลอดภัยโดยไม่นองเลือด และช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1953 ซึ่งเป็นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องพลเมืองของนิวโรม จนได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษ

​ในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1953 ซึ่งเป็นวันเกิดอายุครบ 24 ปี และเป็นวันครบรอบ 10 ปีที่รับใช้ กองพันที่สิบสองแห่งโรม อัคนีตัดสินใจวางดาบลงอย่างเด็ดขาด



​เส้นทางใหม่: ครอบครัวและชีวิตในนิวโรม


    ​หลังจากออกจากกองทัพ อัคนีเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ภายใน นิวโรม เขาได้พบรักกับสาวชาวนิวโรมผู้มีจิตใจงดงามนามว่า ลิเวีย ทั้งสองแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จนให้กำเนิดบุตรชายในสายเลือดเพียงคนเดียวชื่อว่า อธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของเทพเจ้าและมนุษย์


     ​ในเวลาต่อมา อัคนีได้ผันตัวมาเป็น สัปเหร่อ หรือผู้ดูแลความตายประจำเมือง เขาเชื่อว่าการทำหน้าที่นี้ไม่ใช่การพรากชีวิต แต่เป็นการดูแลและส่งวิญญาณของผู้จากไปอย่างสงบและสมเกียรติ ซึ่งเป็นหน้าที่อัน


      ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากบิดาผู้เป็นเทพแห่งความตาย ​อัคนี พิพัฒน์เกียรติ เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชราในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1999 สิริรวมอายุ 70 ปี แต่ตำนานของเขาในฐานะ ผู้สืบทอดสายเลือดเพียงคนเดียวจากเทพเจ้าธานาทอสที่เปลี่ยนจากนักรบมาเป็นผู้ดูแลความตาย ยังคงเป็นหัวใจของตระกูลพิพัฒน์เกียรติสืบไป

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
ผ่าน  โพสต์ 2025-8-18 02:12
God
[disableleft] แจ้งเพิ่มเติมจุดแปลก ๆ เหมือนจะขัดแย้งกันเอง จุดที่ 1 จากจุดที่ 1 สรุป บรรพบุรุษคือคนไทย หรือคนอ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2025-8-17 23:53
โพสต์ 14500 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-8-17 23:08
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสความมั่งคั่ง
หอกฮาลต้า
นาฬิกาสปอร์ต
ไฟแช็ค
ชุดภารโรง
กำไลหินนำโชค
Anker PowerCore
น้ำหอมสตรี
ต่างหูเงิน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x1
โพสต์ 2025-8-17 23:53:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โพสต์นี้มีการป้องกันรหัสผ่านไว้ กรุณากรอกรหัสผ่าน 
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x9
x10
x1
x1
x2
x3
x1
x60
x2
x2
x48
x3
x30
x78
x4696
โพสต์ 2025-8-18 23:25:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ประวัติตัวละคร ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ

โปรไฟล์ ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ


ชีวประวัติ ของ ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ

ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ: ทายาทผู้เปี่ยมด้วยหัวใจไทย


    ​ณ กรุงโรม เมืองหลวงแห่งตำนานและประวัติศาสตร์ เรื่องราวของ ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ ได้ถูกถักทอขึ้นจากสายเลือดอันเก่าแก่ของตระกูลพิพัฒน์เกียรติ ซึ่งเป็นสายสกุลที่สืบเชื้อสายมาจากนักรบโรมันผู้ยิ่งใหญ่



 บรรพบุรุษรุ่นแรก อัคนี พิพัฒน์เกียรติ คือนักรบแห่งค่ายจูปีเตอร์ผู้มีสายเลือดเทพไหลเวียนในกาย เขายืนหยัดเพื่อเกียรติศักดิ์ของโรม และได้ส่งต่อจิตวิญญาณนักรบนั้นมาสู่ทายาทรุ่นต่อมา



     ​กาลเวลาผ่านไป อธิปัตย์ พิพัฒน์เกียรติ บุตรชายของอัคนี ได้เดินทางไปสร้างฐานะและธุรกิจค้าส่งไวน์และหัตถกรรมในอิตาลี ที่นั่นเขาได้พบรักกับ ลลิตา หญิงสาวชาวไทยผู้มีความสามารถในการทำธุรกิจเช่นกัน ด้วยความขยันขันแข็งและมีหัวการค้าที่ยอดเยี่ยม ทั้งสองร่วมกันสร้างฐานะจนร่ำรวยเป็นอย่างมาก และได้นำเงินเก็บส่วนหนึ่งไปซื้อ คฤหาสน์พิพัฒน์เกียรติ ที่สุดแสนหรูหราไว้เป็นสมบัติของตระกูล


    ​ทั้งสองมีบุตรชายคือ ธนาธิป พิพัฒน์เกียรติ ซึ่งต่อมาได้พบรักกับ มณฑิรา นักเขียนสาวผู้เปี่ยมเสน่ห์ และให้กำเนิด นภัสสร พิพัฒน์เกียรติ ทายาทรุ่นที่ 5


    ​เส้นทางแห่งโชคชะตาเริ่มต้นขึ้นในวันหนึ่ง ณ บันไดสเปน (Spanish Steps) กลางกรุงโรม นภัสสรกำลังนั่งวาดภาพและเหม่อมองผู้คนที่ผ่านไปมาอย่างเงียบงัน


 ทันใดนั้นชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่งก็เข้ามาทักทาย สายตาของเขาดูลึกล้ำและเปี่ยมด้วยมนตร์สะกด ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างถูกคอและรู้สึกราวกับว่าเคยรู้จักกันมานานแสนนาน ชายผู้นั้นเล่าเรื่องราวในอดีตของโรมได้อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับได้เห็นมาด้วยตาตนเอง นภัสสรหลงใหลในความลึกลับและเสน่ห์ของเขาอย่างหมดใจ โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วเขาคือ เทพพลูโต ที่ปลอมกายมาเป็นมนุษย์


    ​ความผูกพันที่ไม่อาจพรากได้ก่อกำเนิดชีวิตใหม่ ณ โรงพยาบาลเด็กอันเก่าแก่ในกรุงโรม เด็กหญิงคนนั้นคือ ภัทรานิษฐ์ พิพัฒน์เกียรติ ทายาทรุ่นที่ 6 ผู้ถือกำเนิดจากสายเลือดเดมิก็อดแห่งเทพพลูโตและเชื้อสายนักรบโรมันจากอัคนี


เส้นทางการศึกษา


   ​แม้จะเกิดและเติบโตในอิตาลี แต่ภัทรานิษฐ์ก็ไม่เคยลืมเลือนความเป็นไทย เธอเริ่มต้นการศึกษาที่ โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ในประเทศไทย ก่อนจะย้ายไปเรียนต่อที่ St. Stephen's School ในกรุงโรม ที่นี่เธอได้เรียนรู้ทั้งหลักสูตรแบบสากลและภาษาละตินโบราณซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยปลุกพลังลี้ลับในตัวเธอ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เธอได้ฝึกฝนภาษาไทยอย่างต่อเนื่อง และหมั่นเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกรำไทย ทำอาหาร และขนมไทยด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เธอยิ่งซึมซับความเป็นไทยได้อย่างลึกซึ้ง


ความสามารถและพรสวรรค์


 ​เมื่ออายุได้ 14 ปี พรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ได้เผยออกมาอย่างน่าทึ่ง ภัทรานิษฐ์เชี่ยวชาญการใช้หอกอันเป็นเครื่องยืนยันถึงสายเลือดนักรบ เธอคว้าสายดำคาราเต้ได้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ และฝึกฝนไอคิโดจนชำนาญ ขณะเดียวกันเธอก็มีความอ่อนช้อยงดงามจากการฝึกบัลเล่ต์และการว่ายน้ำแบบระบำใต้น้ำ นอกจากนี้ เธอยังถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการร้องเพลงและเต้นโคฟเวอร์ได้อย่างน่าประทับใจ แต่ไม่ว่าความสามารถจะโดดเด่นเพียงใด อาหารโปรดของเธอก็ยังคงเป็นเมนูง่ายๆ อย่างราเม็งที่กินได้ไม่มีเบื่อ


เส้นทางแห่งโชคชะตา


​เส้นทางชีวิตของเธอได้ถูกตอกย้ำด้วยเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่ง ขณะหลบหนีเอาชีวิตรอด ภัทรานิษฐ์ได้พบกับ เทพีลูปา หมาป่าขาวในตำนานแห่งโรม ดวงตาอันคมกริบของลูปาจ้องมองเธอราวกับจะตั้งคำถามว่า “เจ้าจะเลือกเส้นทางใด” ก่อนจะวิ่งหายไปในความมืด การพบเจอในครั้งนั้นทำให้ภัทรานิษฐ์ตระหนักได้ว่า เธอไม่ใช่เพียงบุตรีของมนุษย์และเทพ แต่เป็นผู้ถูกเลือกให้เดินบนเส้นทางแห่งโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่กำลังรอให้เธอค้นพบ



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16493 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-8-18 23:25
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสความมั่งคั่ง
หอกฮาลต้า
นาฬิกาสปอร์ต
ไฟแช็ค
ชุดภารโรง
กำไลหินนำโชค
Anker PowerCore
น้ำหอมสตรี
ต่างหูเงิน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้