ทั้งสามคนตกลงกันว่าจะไปยังพระราชวังแวร์ซายล์เพื่อสืบหาร่องรอยของต้นตอแห่งความวุ่นวายนี้ ทว่ายังไม่ทันที่นาแนตต์จะลากแขนเพื่อนทั้งสองคนให้ไปด้วยกัน ความรู้สึกบางอย่างก็ทำให้เธอจ้องไปยังร้านกาแฟหัวมุมถนนฝั่งตรงข้าม พลันหญิงสาวผมบลอนด์ ผิวขาว ดวงตากลมโตที่ฉายแววหม่นแสงอยู่น้อย ๆ ก็เรียกความสนใจของเธอไป เพราะหญิงสาวผู้นั่งติดกับกระจกร้านอยู่นั้น มีใบหน้าละม้ายคล้ายนาแนตต์ไม่มีผิด
“เป็นอะไร” เอเตียนถามขึ้นเมื่อเห็นยัยคุณหนูที่ปกติมักจะเจื้อยแจ้วยืนนิ่งค้างราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน พอหันไปตามสายตาของนาแนตต์เขาก็ได้เข้าใจ “เทพีอะโฟร์ไดต์”
“ไหนนะ” เจโนวีฟถามขึ้นเสียงดังพลางหันจนคอแทบเคล็ด แล้วหญิงสาวผู้ปรากฏโฉมเป็นความงามในอุดมคติของเธอก็อยู่ในครรลองสายตา
“ม…แม่เหรอ ไม่คิดว่าจะได้เจอมาก่อนเลย” นาแนตต์พึมพำ เด็กสาวปั้นหน้าไม่ถูก ความรู้สึกทั้งหลายประดังประเดเข้ามาจนก้าวขาไม่ออก
“รออะไรอยู่ล่ะ เข้าไปหาเถอะ”
เอเตียนออกแรงดันแผ่นหลังเล็กเบา ๆ ก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันข้ามถนนมา เสียงกริ่งเหนือประตูร้านกาแฟดังขึ้นบ่งบอกถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ เจโนวีฟส่งยิ้มเบา ๆ ให้พนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์พลางดึงแขนนาแนตต์ที่ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกเดินไปหาเทพีมารดา
“…”
หญิงสาวละสายตาจากแก้วกาแฟตรงหน้าพลางเงยขึ้นมามองเด็กทั้งสามที่ยืนล้อมเธอไว้ ลักยิ้มข้างแก้มเผยขึ้นเมื่อเธอระบายยิ้มบาง ก่อนที่มือเรียวจะผายออก
“นั่งสิ เดี๋ยวฉันเลี้ยงกาแฟ”
เจโนวีฟยิ้มกว้าง กดไหล่เพื่อนตัวเล็กอย่างนาแนตต์ให้นั่งลงตรงข้ามเทพีมารดา ด้วยความที่เธออยู่ค่ายมานานกว่ายัยคุณหนูจากบลัวส์ที่เพิ่งเข้าค่ายมาไม่ทันไร เธอจึงเข้าใจดีว่านาแนตต์ยังไม่มีภูมิคุ้มกันในการเจอหน้าเทพ โดยเฉพาะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่มากนัก
นาแนตต์จ้องไปที่ใบหน้าของคนตรงข้ามอย่างไม่ปิดบัง เธอไม่ได้สนใจว่าใครจะสั่งเมนูอะไร เพราะความคิดในหัวตอนนี้กำลังตีกัน รวมถึงความรู้สึกในอกด้วย ทั้งตื่นเต้น ดีใจ หรือแม้แต่เศร้าใจ สุดท้ายก็เป็นความเข้าใจว่าทำไมพ่อของเธอถึงได้ตกหลุมรักแม่
“เธอ นาแนตต์สินะ” นาแนตต์สะดุ้งน้อย ๆ เมื่อถูกเรียกชื่อ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วหลบสายตา “ได้ยินเสียงเธอมาตั้งนาน วันนี้ได้เจอเสียที หน้าตาน่ารักดีนี่นา”
เอเตียนขนลุกซู่ การที่เทพีแห่งความงามเอ่ยชมใคร เท่าที่เคยได้ยินมาก็จบไม่สวยซักราย แต่คุณหนูนี่เป็นลูกสาวของเธอนี่นะ คงจะไม่เป็นอะไร
“เอ่อ ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ” เอเตียนถามขึ้น มันไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสที่จะเจอเทพกันได้ง่าย ๆ หากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย ก็คงจะเป็นเรื่อง... อะไรก็คิดไม่ออกแล้ว
“ฉันแค่ต้องการมาคิดอะไรเงียบ ๆ หน่อยน่ะ เรื่องเฮเฟตัส” เทพีเว้นวรรคไปเล็กน้อย “ฉันรู้สึกว่าฉันควรจะทำอะไรบ้างให้เฮเฟตัส”
นาแนตต์ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเธอไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรดี เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทางที่ฟังนิ่ง ๆ
“พวกเธอมีความคิดอะไรดี ๆ บ้างไหม”
ทั้งโต๊ะเงียบกริบ ก่อนที่นาแนตต์จะพูดขึ้น “ลองมอบของขวัญให้ดูไหมคะ เป็นของที่เขาชอบ น่าจะดีใจได้บ้าง”
เธอไม่รู้หรอกว่าเหล่าเทพจะมีความรู้สึกอะไรแบบนี้เหมือนมนุษย์ไหม แต่ดูจากการที่ลงมามีความสัมพันธ์กับมนุษย์โลกแสดงว่าพวกเขาก็มีความรัก โลภ โกรธ และหลงเหมือนกัน ดังนั้นอะไรที่ใช้ได้กับพวกเรา ก็ต้องใช้ได้กับพวกเขาเช่นเดียวกัน
“งั้นเป็นอะไรดีล่ะ”
“อืม.. ถ้าเป็นของที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับล่ะคะ น่าจะมีคุณค่ามาก อย่างเครื่องประดับที่แม่ทำเอง” หลุดเรียกหญิงสาวว่าแม่ออกมาไม่รู้ตัว อะโฟร์ไดต์นิ่งคิดไปนิดก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“ไว้จะลองไปคิดดู ว่าแต่พวกเธอทำตามคำพยากรณ์ไปถึงไหนแล้วล่ะ” จะสงสัยว่าเทพีอะโฟร์ไดต์รู้ได้อย่างไรว่าพวกเรากำลังมาทำภารกิจ แต่นาแนตต์ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอเล่าให้ฟังก่อนออกจากค่ายมาเองนี่นา
“ยังไม่คืบหน้าเลยค่ะ แต่คิดว่าจะไปที่พระราชวังแวร์ซายล์ดู” เจโนวีฟออก
“ก็อบลิน”
“คะ?”
“ก็พวกก็อบลินน่าเกลียดนั่นแหละที่ก่อเรื่องพวกนี้ขึ้น”
ราวกับจิกซอว์ถูกประกอบกันเป็นภาพรวม ทุกอย่างสามารถประติดประต่อเป็นเรื่องราว
“อย่างนี้นี่เอง! งั้นพวกมันก็อยากจะทำลายเมืองนี้สินะคะ” นาแนตต์เบ้ปาก พวกตัวเหม็นนี่มันนิสัยไม่ดีจริง ๆ “งั้นเราต้องรีบไปหยุดพวกมัน”
“ขอบคุณครับเทพี” เอเตียนค้อมศีรษะให้หญิงสาวเล็กน้อย ก่อนที่จะขอตัวแล้วพาเพื่อนทั้งสองออกมา
“ขอบคุณค่ะแม่! ไว้เจอกันนะคะ!”
.
.
.
“ไหนล่ะพวกก็อบลิน”
เด็กสาวตระกูลบลังก์ยืนเท้าเอวเงยหน้ามองพระราชวังแวร์ซายส์อันโอ่อ่า ด้วยความช่วยเหลือจากเทพีมารดา ตอนนี้พวกเราทั้งสามคนมายืนอยู่หน้าพระราชวังแล้วเรียบร้อย ถึงแม้เทพีอะโฟรไดต์จะบอกใบ้ แต่ก็ไม่สามารถระบุเป้าหมายหรือสถานที่อยู่ของก็อบลินได้แน่ชัด สาเหตุหลักคือเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับคำทำนาย สุดท้ายก็ต้องทำตามแผนเดิมอยู่ดี
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“เดี๋ยว ๆ ฉันต้องจ่ายค่าเข้าให้พวกเธออีกใช่ไหม” นาแนตต์ยกมือห้าม ส่วนมืออีกข้างก็กำกระเป๋าสะพายของตัวเองไว้แน่น
“ก็ต้องเป็นอย่างนั้น”
“เอาเถอะหน่า ท่องเอาไว้ว่าเพื่อภารกิจ”
เจโนวีฟดันหลังเพื่อนหน้ายู่ให้เดินเข้าไปด้านใน หวังว่านาแนตต์จะยังไม่รู้ตัวเร็ว ๆ นี้ว่าเธอจะต้องเสียเงินไปกับอะไรอีกเยอะมาก
+50 พลังงาน จากการดื่มกาแฟ
+20 ความโปรดปรานจากอะโฟร์ไดต์ (ช่วยแม่คิดของขวัญที่จะให้เฮเฟตัส)