1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[บ้านใหญ่] สถานพยาบาลประจำค่าย

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-1-18 00:11:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
76. teammates

-08.01.25  /  03:02PM.-


หลังจากค้นหาปลายทางที่ต้องไปและวิธีเดินทางแบบคร่าว ๆ แล้ว แมคเคนซีก็ออกจากบ้านเฮอร์มีสมาที่สถานพยาบาลของค่ายต่อ เขาควรเริ่มจัดกระเป๋าเสียที จะได้ไม่ต้องรีบร้อนเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง


“อ้าว แมคเคนซี สวัสดีจ้ะ ไม่พบกันซะนานเลย”


เสียงใส ๆ ของคิม มินอา หัวหน้าสถานพยาบาลดังขึ้นเมื่อเห็นแมคเคนซีเดินเข้าประตูมา


“สวัสดีครับคุณคิม ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง งานยุ่งไหม”


เดมิก็อดหนุ่มทักทายธิดาแห่งอพอลโล เกือบจะพูดว่า  “วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ” ไปแล้วเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสดั่งดวงอาทิตย์ของเธอ แต่ก็ถูกใบหน้าหล่อคมเข้มของหนุ่มละตินบ้านโพไซดอนผู้เป็นคนรักลอยเข้าหัวมาดึงสติเอาไว้ก่อน


“ถ้าเทียบกับช่วงสิ้นปีแล้ว ตอนนี้ถือว่าไม่ยุ่งเลยจ้ะ…”


เธอพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ซึ่งแมคเคนซีก็รู้ดีว่าเพราะอะไร ทั้งคู่จึงได้เพียงแต่ส่งยิ้มให้กันบาง ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ เมื่อสงครามวันเหมายัน ในขณะที่เขาและเดมิก็อดคนอื่น ๆ ออกไปสู้รบกับฝูงมอนสเตอร์ที่มาบุกค่าย อีกกลุ่มที่ยุ่งไม่แพ้กันก็คือฝ่ายแพทย์และพยาบาลที่ต้องคอยวิ่งวุ่นปฐมพยาบาลและรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่หลังสงครามสิ้นสุดลง เขาก็ยังเห็นหญิงสาวและหน่วยแพทย์พยาบาลคนอื่น ๆ คอยทำหน้าที่แข็งขันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งแมคเคนซีนึกขอบคุณคนกลุ่มนี้อยู่ในใจที่มีส่วนเป็นกำลังสำคัญช่วยไม่ให้ค่ายฮาล์ฟบลัดต้องเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้


“พอเข้าปีใหม่มหาวิทยาลัยที่นิวโรมก็เปิดภาคเรียนแล้ว หลายคนต้องไปอยู่หอจนกว่าจะปิดเทอมช่วงเดือนพฤษภาเลย…ว่าแต่วันนี้เธอมาที่นี่ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะ”


คำว่ามหาวิทยาลัยเรียกความสนใจจากแมคเคนซีได้นิดหน่อย แต่ก็จำเป็นต้องตอบคำถามหญิงสาวก่อน


“เปล่าครับ ผมแค่จะมารับอาหารเทพสำหรับไปทำภารกิจเท่านั้นเอง”


“เอ๊ะ ไปทำภารกิจ เธอไปรับคำพยากรณ์จากคุณเรเชลมาเหรอ ลำบากแย่เลย ถ้าอย่างนั้นต้องเตรียมตัวดี ๆ นะ มาทางนี้สิ ฉันจะไปเอาอาหารเทพให้”


คิม มินอามีสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าแมคเคนซีจะไปทำภารกิจเดินทาง จากนั้นเธอก็นำเขาไปยังห้องหัตถการที่ถูกแบ่งส่วนออกมาจากห้องพยาบาลรวมขนาดใหญ่


“ที่นี่แหละจ้ะ รอแป๊บนึงนะ อ้าว หมอคีธ อยู่นี่เอง มีคนไข้เหรอ ขอเข้าไปเอาอาหารเทพหน่อยนะจ๊ะ”


หัวหน้าหน่วยพยาบาลหันมาบอกบุตรแห่งเฮคาทีก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในห้อง


“อืมฮึ ตามสบายคุณคิม ฉันแค่ทำแผลให้คุณซูนิดหน่อย เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”


เสียงนุ่มนวลฟังรื่นหูของคนในห้องทำเอาแมคเคนซีถึงกับต้องแอบชะโงกหน้าเข้าไปดูเล็กน้อย ภายในห้องหัตถการนอกจากคุณคิมที่เพิ่งเข้าไปแล้วก็ยังมีผู้หญิงอยู่อีกสองคน คนนึงเป็นหญิงสาวผมประบ่ากำลังพันแผลตรงช่วงต้นแขนให้กับหญิงสาวร่างเล็กกว่าที่มีผมยาวสลวยถึงกลางหลัง


"ได้แผลมาอีกแล้วเหรอ คราวนี้ไปโดนอะไรมาจ๊ะรูบี้"


คิม มินอาถามพลางเดินมาดูแผลของรูบี้ที่ถูกพันไว้เรียบร้อย


“แค่พลาดพลั้งตอนฝึกวิทยายุทธนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไปทำภารกิจอีกแล้วเหรอ ช่วงนี้มีคนออกนอกค่ายเยอะจัง”


เสียงของผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนป่วยดังเจื้อยแจ้ว แผ่นหลังบอบบางเหยียดตรงดูสง่า เหมือนเธอจะไม่ได้สนใจบาดแผลตรงต้นแขนสักเท่าไหร่


“นั่นเหรอ คนที่จะไปทำภารกิจ…”


หางตาของผู้เป็นแพทย์ปรายมองมาทางนี้พอดีราวกับรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเขามานาน หากทำเป็นเมินเฉยก็ดูจะเสียมารยาท แมคเคนซีจึงก้าวเข้ามาพ้นบานประตูเพียงเล็กน้อย


“ครับ ผมเอง แมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น อยู่บ้านหลังที่ยี่สิบ ยินดีที่ได้รู้จัก”


หลังจากแนะนำตัวแล้วก็ยิ้มบางให้สองสาวงามและอีกหนึ่งสาวเท่ที่หันมามองเขาเป็นตาเดียว ให้ตายสิ ถึงเขาจะเคยทำงานในสถานที่อโคจร ได้ชื่อว่าเป็น ‘บาร์เทนเดอร์ใหม่สุดหล่อ’ ที่แต่ละคืนต้องพบเจอลูกค้าเทสดีมีฐานะมากหน้าหลายตาก็ตาม แต่นั่นก็ผ่านมาได้เกือบปีแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ตอนนี้เขาเริ่มไม่ชินเอาเสียเลยเมื่อตกเป็นเป้าสายตาเช่นนี้


“แนะนำตัวซะเต็มยศ ยินดีที่ได้รู้จักคุณลินคอล์น เฟลิจิตัส คีธ อยู่บ้านฮีบี้ แต่อยู่สถานพยาบาลบ่อยกว่า”


คุณหมอจากบ้านฮีบี้ยกมือป้องปากหลุดขำออกมาเบา ๆ ดวงตาสีเข้มเจือแววเอ็นดูปนขบขัน เหมือนเธอจะดูออกว่าชายหนุ่มคนเดียวในที่นี้กำลังเกร็งอยู่


“ฉันรูบี้ ซู ลูกสาวท่านพ่อแอรีส ยินดีที่ได้รู้จัก”


หญิงสาวร่างเล็กธิดาเทพแห่งสงครามผงกศีรษะให้เพียงเล็กน้อย แม้ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มประดับอยู่เหมือนคนอื่นแต่ก็งดงามในแบบฉบับของตนเอง


“บ้านหมายเลขยี่สิบ…เทพีเฮคาทีใช่ไหม จูลี่น้อยอาการเป็นยังไงบ้าง เมื่อตอนเกิดสงครามที่คุณควินท์พามาส่ง อาการหอบของเขาไม่ค่อยดีเลย ตอนนี้ทำอะไรที่หนัก ๆ หรือเปล่า”


เหมือนว่าคีธจะนึกถึงน้องชายคนเล็กของบ้านแมคเคนซีขึ้นมาได้จึงรัวคำถามใส่ด้วยความห่วงใย


“สุขภาพดีขึ้นมากแล้วครับ ตอนนี้ก็สนุกกับการฝึกปรุงยาอยู่ ขอบคุณคุณเฟลิจิตัสที่ช่วยดูแลจูลี่ให้นะครับ”


เหมือนจะจำได้ว่าตอนที่ทำความสะอาดบ้านด้วยกัน จูลี่เคยเล่าให้เขากับซิลเวอร์ฟังว่าตอนอยู่สถานพยาบาลมีคุณหมอใจดีคนหนึ่งคอยดูแลอยู่…หรือว่าจะเป็นคุณหมอคนนี้กันนะ


“แข็งแรงขึ้นก็ดีแล้ว ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย เรียกแค่หมอคีธก็พอ แล้วก็ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก คนกันเองทั้งนั้น”


คีธโบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจด้วยท่าทางสบาย ๆ


“แต่คุณยังเรียกผมว่าคุณลินคอล์นเลย“


”อ้อ…ฉันเรียกนามสกุลคนไข้จนติดปากแล้ว ให้เรียกชื่อมันเลยไม่ชิน อย่าเพิ่งขยับเยอะสิคุณซู ฉันเพิ่งทำแผลให้เองนะ”


พูดจบคุณหมอก็ส่งยิ้มให้อีกครั้ง แล้วหันไปดูความเรียบร้อยของผ้าพันแผลให้รูบี้ที่กำลังลองขยับยกแขนขึ้นลงต่อ


“นี่จ้ะแมคเคนซี ว่าแต่เธอจะไปทำภารกิจที่ไหนเหรอ”


คิม มินอานำอาหารเทพที่หยิบออกมาจากตู้เก็บของส่งให้แมคเคนซีก่อนจะถามขึ้นด้วยความสงสัย


“ขอบคุณครับ เมืองเยลโลวไนฟ์ที่แคนาดาครับ ถ้าผมตีความคำพยากรณ์ไม่ผิดนะ”


บอกพลางรับอาหารเทพจากหัวหน้าสถานพยาบาลมาถือไว้ อย่างนึงมีหน้าตาคล้ายช็อกโกแลตบาร์ ส่วนอีกอัน…คลับคล้ายคลับคลาว่าดีนจะเคยใช้มันรักษาเขาที่บาดเจ็บสาหัสตอนไปทำภารกิจที่ปารีสด้วยกัน


“เชื่อในสัญชาติญาณของตนเองเถอะ นอกจากน้องชายโง่ของฉันก็ไม่มีใครโง่ไปกว่านี้แล้ว”


รูบี้กอดอกพูด ดูท่าคงจะนึกถึงน้องชายโง่ที่ว่าขึ้นมา เธอจึงอมยิ้มน้อย ๆ


“ถ้าไม่ผิดพลาดก็คงดี ดูเหมือนว่าผมต้องแข่งกับเวลา น้องของผมถูกองค์กรลับจับตัวไป เขาจะถูกกลายพันธุ์ให้เป็นลาเมียในคืนเดือนมืดก่อนฤดูใบไม้ผลิ…ผมต้องรีบหาเพื่อนร่วมทีมแล้วไปช่วยเขา”


หลังจากพูดเนื้อหาของภารกิจแบบคร่าว ๆ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ


“พวกคนชั่วช้าสมควรตาย ฉันขอร่วมเดินทางไปด้วยได้หรือไม่”


รูบี้ผลุนผลันลุกพรวดขึ้นทันที ดวงตาเรียวรีทรงอัลมอนด์มองแมคเคนซีด้วยสีหน้าจริงจังจนยากจะปฏิเสธ


“ก็..ก็ได้อยู่หรอก แต่แผลที่แขน—-”


“บาดแผลแค่นี้ยังห่างไกลหัวใจนัก ชีวิตคนสำคัญยิ่งกว่า ฉันผ่านการเดินทางมาแล้วมากมาย รับรองว่าเด็กคนนั้นจะปลอดภัย”


“ให้รูบี้ไปช่วยเถอะจ้ะ เห็นแบบนี้แต่เก่งมากนะ ไปทำภารกิจสำเร็จมาหลายที่แล้ว ต้องช่วยเธอได้มากแน่ ๆ”


คิม มินอาช่วยพูดเสริมให้อีกคน เมื่อมองมาที่รูบี้แล้วจนถึงตอนนี้เธอก็ยังจ้องเขาตาไม่กระพริบ ในเมื่อมีคนฝีมือดีเต็มใจจะช่วยแล้ว หากไม่ยอมรับน้ำใจก็ดูจะเสียมารยาทเกินไป


“ตกลง ถ้างั้นก็ขาดอีกแค่คนเดียวแล้ว”


เหมือนความหวังเริ่มถูกเติมเต็ม ตอนนี้ทีมทำภารกิจของแมคเคนซีเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา


“ช่วงนี้เด็ก ๆ ไปเรียนกันหมด คงไม่ค่อยมีใครอยู่ค่าย หมอคีธก็ว่างน่ะสิ สนใจไปทำภารกิจหน่อยไหมจ๊ะ”


หัวหน้าหน่วยพยาบาลหันมาชวนคีธที่กำลังใส่หูฟังแล้วหยิบมือถือมาเปิดพอดแคส เมื่อถูกทักเธอจึงโคลงศีรษะเล็กน้อย


“อืม…คนที่ถูกจับไปเป็นเด็กด้วย ฉันคงอยู่เฉยไม่ได้ ดูท่าคงถึงเวลาเอาเสื้อดาวน์มาปัดฝุ่นแล้วสิ”


“งั้นก็แปลว่าทีมผมครบคนแล้วงั้นเหรอ”


เหมือนจะยังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ คล้ายยังไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้เขารวบรวมสมาชิกไปทำภารกิจครบแล้ว


“ใช่จ้ะ”


“ใช่”


“อืมมมมฮึ~”


เสียงของทั้งสามสาวดังขึ้นพร้อมกันเป็นการยืนยันในสิ่งที่แมคเคนซีสงสัย


“อ..เอ่อ ขอบคุณทุกคนมากครับ เดี๋ยวผมจะไปลงชื่อให้ แล้วเรามานัดคุยรายละเอียดการเดินทางกันอีกที”


พอบอกแบบนั้น เพื่อนร่วมทีมทั้งสองที่เพิ่งรู้จักกันเป็นวันแรกก็พยักหน้ารับ


“อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ ไปนะจ๊ะ ตรงนั้นเข้าเขตขั้วโลกเหนือแล้ว อากาศคงหนาวมากเลยล่ะ”


คิม มินอาเตือนพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนัดแนะวันคุยรายละเอียดเรื่องการเดินทางและการทำภารกิจกับรูบี้และคีธแล้ว หัวหน้าหน่วยพยาบาลสาวก็เดินมาส่งแมคเคนซีที่หน้าประตูสถานพยาบาล


"ขอบคุณคุณคิมมากนะครับที่ช่วยหาสมาชิกให้ ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่ที่ค่ายเลย ดีนเองก็ติดภารกิจด้วย ซิลเวอร์ก็ไปทำธุระของทางบ้าน ผมเลยยังคิดไม่ตกว่าจะชวนใครดี"


เดมิก็อดกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ด้วยความที่เป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ท แม้จะมาอยู่ค่ายได้เกือบปีแต่เขาก็ยังไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก เมื่อถึงช่วงเวลาแบบนี้จึงค่อนข้างลำบากไม่น้อย


"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ทุกคนที่นี่เต็มใจช่วยเหลือกันทั้งนั้นแหละ ขอให้ทำภารกิจสำเร็จและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยนะ"


ธิดาแห่งอพอลโลกล่าวอวยพรพร้อมรอยยิ้ม ทั้งสองคนสนทนากันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน




สรุปสถานการณ์

-รูบี้ ซู และ เฟลิจิตัส คีธ ตอบรับเข้าร่วมภารกิจ

-รับอาหารเทพ

แสดงความคิดเห็น

God
อาหารเทพส่งให้ตอนเจอคุณไครอนแล้ว ถือว่าส่งทีทนี่ล่ะกัน  โพสต์ 2025-1-18 11:11
โพสต์ 95272 ไบต์และได้รับ 54 EXP!  โพสต์ 2025-1-18 00:11
โพสต์ 95,272 ไบต์และได้รับ +20 EXP +35 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก เวทมนต์ [II]  โพสต์ 2025-1-18 00:11
โพสต์ 95,272 ไบต์และได้รับ +15 EXP +25 เกียรติยศ +25 ความศรัทธา จาก คบเพลิงเวท  โพสต์ 2025-1-18 00:11
โพสต์ 95,272 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2025-1-18 00:11
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เขตแดนเฮคาที
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
Hydro X
เวทมนต์ [II]
คบเพลิงเวท
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x3
x6
x3
x3
x3
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x2
x2
โพสต์ 2025-5-15 07:25:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
328
รับยาวิเศษ

               (TUE) 13/05/2025 เวลา 16.00 น.

               หลังจากรับคำปรึกษาและกรอกแบบฟอร์มสำหรับภารกิจเดินทางแล้ว ดีนรู้ได้ทันทีว่าสิ่งต่อไปที่เขาจะต้องทำคืออะไร.. นั่นก็คือการมารับเสบียงอาหารเทพหรือน้ำทิพย์จากศูนย์พยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด

               “สวัสดี ผมมาขอรับยาวิเศษสำหรับการไปทำภารกิจเดินทางครับ”

               “เชิญกรอกแบบฟอร์มการเบิกจ่ายทางนี้ค่ะ”

               นางพยาบาลคนสวยยื่นแบบฟอร์มให้ดีนกรอก นี่จึงเป็นอีกครั้งของวันที่ชายหนุ่มต้องกรอกชื่ออันยาวเหยียดจนเมื่อยมือของตัวเองลงไป จากนั้นก็ไปนั่งรอให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พยาบาลจัดการเตรียมยาให้

               บรรยากาศของห้องพยาบาลยังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างมีสีขาวสะอาดตา ครั้งล่าสุดที่ดีนมาคือตัดแว่นสายตาซึ่งตอนนี้เขาก็ได้รับมันมาเรียบร้อยแล้วและสวมใส่อยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลา

               “สวัสดีคุณนีล มาที่ห้องพยาบาลหวังว่าจะไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนนะ หรือว่าแว่นที่ตัดไปมีปัญหาหรือเปล่า?”

               เสียงทักของหญิงสาวโทนเสียงเท่ดังมาจากอีกด้าน เธอคือ ‘เฟลิจิตัส คีธ’ ธิดาแห่งฮีบี้ หนึ่งในแพทย์หญิงของศูนย์พยาบาลค่ายฮาล์ฟบลัดที่ดูแลโรคเกี่ยวกับเด็ก เธอคือเพื่อนร่วมภารกิจของแมคเคนซีเมื่อหลายเดือนก่อน

               ดีนโบกมือพร้อมกับส่งเสียงทัก แอบรู้สึกผิดเป็นบ้าเลยที่เคยหึงแมคเคนซีจากเธอและรูบี้เพราะไปทำภารกิจกับแฟนหนุ่มของเขา

               “ฮาย คุณหมอ เปล่าหรอกผมสบายกายดีแต่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไร พอดีว่าจู่ ๆ ภารกิจเดินทางก็เด้งใส่หน้าน่ะครับ” บุตรแห่งโพไซดอนยิ้มแหยตอบ

               “โอ้…” หมอคีธอุทานเพียงสั้น ๆ จากนั้นจึงเดินลิ่วมาหาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ยาวข้าง ๆ ต่อมาบทสนทนาจากความห่วงใยและอยากใส่ใจจึงเกิดขึ้น “ภารกิจเดินทางเหรอคะ คราวนี้คุณต้องเดินทางไปไหน?”

               “ต้องไปที่นิวเจอร์ซีย์ก่อนน่ะครับ จากนั้นก็ไปนู่นเลย.. เอกวาดอร์”

               “โอ้โห ไกลนะนั่น แถมยังเดินทางลำบากอีกต่างหาก” เฟลิจิตัสกุมคางพลางนึกเส้นทางว่าเอกวาดอร์อยู่ส่วนไหนของอเมริกาใต้

               “พอตัวเลยล่ะ”

               “แล้วมีเพื่อนร่วมภารกิจหรือยังคะ?” คุณหมอถาม แต่จากท่าทางของดีนแล้วเธออ่านออกได้ไม่ยากเลยว่าชวนใครไป

               “ยังไม่ได้ชวนครับ แต่มัดมือชกไปแล้ว ลงชื่อไปแล้วด้วยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ผมหมายถึงแมคซี่น่ะ งวดนี้จะไม่ยอมคลาดจากเขาอีกเด็ดขาด”

               “ว่าแล้วเชียว” หญิงสาวหัวเราะน้อย ๆ “แล้วอีกคนล่ะ… พอจะเล่าเกี่ยวกับคำทำนายได้ไหมคะ?”

               “ได้สิ ไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว อีกไม่เกินห้านาทีผมว่าเดี๋ยวคงมีข่าวลือเรื่องคำทำนายว่อนไปทั่วค่าย” บุตรแห่งโพไซดอนยักไหล่ จากนั้นเริ่มเล่า “ต้องไปช่วยชาร์ล็อตน้องสาวของแมคซี่ที่นิวเจอร์ซีย์น่ะครับ ตอนออกจากค่ายก็เลยต้องไปกันแค่สองคน ภารกิจนี้เกี่ยวกับเจ้าตัวร้ายที่ชื่อว่า ‘อะพอลลีออน’ จะถูกเหล่าสาวกไซคลอปส์ปลุกพลังขึ้นมาทำลายล้างโลกตามวิวรณ์… น่ากลัวเป็นบ้าเลยใช่ไหมล่ะครับ”

               “คุณชาร์ล็อต…” หมอคนสวยทำหน้านึกอยู่เล็กน้อยก่อนจะนึกออก “อ้อ หมายถึงคุณลิเลี่ยน ฉันจำเธอได้แล้ว เห็นว่าเมื่อปีที่แล้วเธอออกไปทำภารกิจมานี่คะแต่ไม่ได้ข่าวการกลับมาของกลุ่มนั้นเลย หรือว่า… อย่าบอกนะว่านี่คือภารกิจช่วยเหลือน่ะ”

               “คุณเดาได้ถูกเผง!” ดีนดีดนิ้ว ทว่าหลังจากนั้นสีหน้าและน้ำเสียงของเขาก็เจื่อนลง “จากคำทำนายบอกว่าคนหนึ่งตาย อีกคนจมลงสู่บ่อให้การลืมเลือนอะไรสักอย่าง มีแต่คนเดียวที่รอดและรอวันตายคือชาร์ล็อต ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจริง ๆ”

               “....” คีธนิ่งเงียบไปนิดนึงก่อนจะวางมือลบบนบ่าหนาแล้วบีบเบา ๆ “คุณนีล คุณลินคอล์น แล้วก็คุณลิเลี่ยนต้องปลอดภัยค่ะ ฉันเชื่ออย่างนั้น พวกคุณถือเป็นกลุ่มคนมีฝีมือที่หาตัวจับยากนะ”

               “โธ่ ฝีมือดีหาตัวจับยากอะไรกันครับ ผมน่ะสุดจะกาก รอดมาได้เพราะดวงดีล้วน ๆ”

               ดีนไม่ได้ถ่อมตน เขาไม่เคยถ่อมตัว แต่กับเรื่องการต่อสู้น่ะ ใช้ดวงไปแล้วมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นคือเรื่องจริง

               “แต่ว่าคุณโค่นคราเคนได้ไม่ใช่เหรอคะ? มีเดมิก็อดไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นได้หรอกนะ”

               “อะไรนะ!?” ดีนหลุดโวยออกมาทันทีเมื่อรู้ว่ามีคนนอกกลุ่มโพไซดอนรู้เรื่องนี้ด้วย เขาเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำเสียงดังเกินไปจึงลดน้ำเสียงลงมาเป็นแทบกระซิบ “คุณหมอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนน่ะ อย่าบอกนะว่าแมคซี่ก็รู้เรื่องนี้ด้วยแล้ว… ตายล่ะ!”

               “หืมมมม?” เฟลิจิตัสเลิกคิ้วสูง แรกเริ่มไม่เข้าใจ แต่ด้วยความฉลาดเฉลียวก็พอจะจับต้นชนปลายได้จากอาการล่กเหมือนทำความลับแตกของคนตรงหน้า “ฉันได้ยินลูกก๊อบลินของน้องชายที่บ้านเล่าให้เขาฟังน่ะค่ะ เห็นว่าได้เพื่อนใหม่ชื่อวูล์ฟเฟียหรืออะไรนี่แหล่ะ เด็กพวกนั้นชอบไปเล่นกันแถวคอกม้ากันบ่อย ๆ แต่เหมือนลูกก๊อบลินตัวนั้นถูกเลี้ยงโดยเพกาซัสก็เลยพูดภาษาคนไม่ได้… พูดได้แต่ภาษาก๊อบลินกับร้องฮรี้ ๆ”

               “โธ่เอ๊ย เจ้าไข่ผำเองสินะ”

               ถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เขาขอให้พี่น้องปิดเรื่องถูกคราเคนชนเรือจนต้องนอนโรงพยาบาลแอตแลนติสแรมเดือน แต่กลับลืมบอกสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ว่าห้ามให้สัตว์เลี้ยงของเธอเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้สัตว์เลี้ยงของใครฟัง
               
               ก็หวังว่าคนเก็บตัวอย่างแมคเคนซีจะไม่ไปได้ยินข่าวลือเรื่องนี้จากที่ไหนเข้า

               “อย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณลินคอล์นน่ะ?”

               “ก็… ไม่ได้บอก ใครจะกล้าบอกล่ะครับว่าถึงชนะแต่ก็ถูกคราเคนรัดจนเกือบตาย”

               “หืมมมม?” เฟลิจิตัสขึ้นเสียงสูงอีกครั้ง เพราะความจริงจากปากเจ้าตัวไม่เหมือนสารที่เธอได้รับฟังมา คุณหมอสาวจึงหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนว่าความลับเรื่องเฉียดตายของคุณจะยังไม่ถูกเปิดเผยนะคะ เพราะที่ฉันฟังมาคะน้าไม่ได้พูดแบบนั้น วูล์ฟเฟียน่าจะเล่าวีรกรรมยกยอความกล้าหาญของคุณมากกว่าน่ะค่ะ”

               “อ๊ะ.. งั้นเหรอ งี้เป็นผมเองสิที่หลุดปากออกมาเอง” บุตรแห่งโพไซดอนเปลี่ยนจากกุมหัวมาเป็นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ

               “ถ้าคุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ฉันจะเก็บเป็นความลับให้ก็ได้ค่ะ” ธิดาฮีบี้ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปาก “แต่การเป็นคนรักที่ดีต่อกันควรจะไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของตัวเองไม่ว่าทุกข์หรือสุขในทุกช่วงเวลาให้กันฟังนะคะ แน่นอนว่าคนรักอาจจะเป็นห่วงหรือไม่สบายใจ แต่ฉันคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะได้รู้เรื่องราวของคุณด้วยค่ะ อีกอย่างคุณนีลคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมคะ หากว่าคุณลินคอล์นเต็มไปด้วยความลับที่ปิดบังเอาไว้น่ะ”

               “อุก.. เถียงไม่ออกเลยแฮะ” ดวงตาสีเปลือกไม้เสมองไปทางอื่น ก็เรื่องที่ปิดบังแฟนหนุ่มน่ะมีแค่เรื่องเฉียดตายจากคราเคนเสียที่ไหน แล้วเมื่อลองคิดตามก็คงไม่โอเคจริง ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าหากแมคเคนซีมีเรื่องปิดบังเขาไว้... “เอาไว้.. ถ้าผมมีความมกล้ามากพอจะเล่าทุกอย่างให้เขาฟังแล้วกัน”

               “นั่นก็แล้วแต่คุณนา~” หมอคีธหรี่ตาลงพร้อมกับยิ้มออกมา

               “คุณหมอคีธคะ ผลเลือดของคนไข้ออกมาแล้วค่ะ” เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พยาบาลผู้ช่วยเรียกตัวหมอสาวพอดี ช่วงเวลาแห่งการเม้ามอยจึงน่าจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้

               “หมดเวลาอู้งานของฉันแล้วสิ เดี๋ยวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ส่วนเรื่องภารกิจก็ขอให้โชคดีมีชัยกันทุกคนนะ”
               
               เฟลิจิตัสค้อมศีรษะให้ก่อนจะเดินเข้าห้องตรวจไป ส่วนดีนก็ได้แต่โบกมือลาพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ ส่งเธอ แต่เพียงไม่นานทางห้องยาก็ประกาศเรียกชื่อ

               “คุณดีนคะ ยาที่ขอไว้ได้แล้วค่ะ”

               “ครับ ขอบคุณมากนะ”

               ร่างสูงลุกขึ้นไปรับยารักษาแผลระดับเทพ  ไม่รู้ว่าพยาบาลจัดตัวไหนให้มาแต่แน่นอนว่าเป็นของดีร้อยเปอร์เซ็น ด้วยการตอบแทนชายหนุ่มจึงบริจาคดรักม่าเป็นค่าบำรุงรักษาจำนวนหนึ่ง


ขอรับน้ำทิพย์หรืออาหารเทพ (รับแทนสมาชิกคนอื่น)
บริจาคเงินค่าบำรุงรักษาศูนย์พยาบาล 20 ดรักม่า


แสดงความคิดเห็น

God
x2 ส่งแล้ว 4 ก้อน   โพสต์ 2025-5-16 00:08
God
คุณคิมขอโทษคุณดูเหมือนช่วงนี้เนคทาร์กับอาหารเทพจะขาดแคลน หลังสงครามครั้งล่าสุดที่ค่ายเราใช้ของพวกนี้ไปกันหนักเลย นี่มีเหลือ....  โพสต์ 2025-5-15 12:18
โพสต์ 25414 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-5-15 07:25
โพสต์ 25,414 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดโพไซดอน  โพสต์ 2025-5-15 07:25
โพสต์ 25,414 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-5-15 07:25
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x50
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x5
x4
โพสต์ 2025-6-1 09:50:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รักษาตัวและยืนยันสถานะ

        ลูคัสไม่เคยไปค่ายที่ไหนไกลกว่าสกอตแลนด์ กลาสโกลว์ เมืองที่มีมนต์เสน่ห์สำหรับเขามาก เขาหลงไหลเมืองนี้ไม่ต่างจากสนทนากับผู้หญิงที่เขานัดทานข้าวเย็นเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ละครั้งมีความหมายสำหรับเขามาก นี่เป็นครั้งแรกและตลอดชีวิตที่ต้องพำนักสถานที่ที่แม่ให้มาอยู่เพื่อความปลอดภัย โชคดีที่เหลือล็อคเก็ตไม่หายไปกับสายน้ำ

        โทมัสไม่ชอบไม่ชอบใจกับประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ เช่นเดียวกับลูคัสที่กำลังหงุดหงิดกับเสื้อผ้าเปียกชื้นของตัวเอง เข้าไม่ชอบใจความไม่สบายตัวของตัวเอง อากาศร้อน ลมไม่ค่อยพัดผ่านมา ยิ่งทำให้หงุดหงิดง่าย ไม่รู้ว่าชะตากรรมของพวกลูกเรือสินค้าเป็นอย่างไร

        แซเทอร์หนุ่มหันมามองพวกเขาเป็นระยะตลอดเส้นทางที่ไปค่ายพยาบาล แทบไม่พูดอะไรออกมาเลย เขาคิดว่าแซเทอร์หนุ่มกลัวอาการไม่สบอารมณ์ของโทมัสที่พร้อมระเบิดใส่ใครก็ตามที่เข้ามาหา ค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นป่า เนินเขา และชายหาด มันเหมือนค่ายพักร้อนทั่วไป แต่ที่เขาสังเกตเห็นได้ชัดคือไม่ว่าจะเป็นแซเทอร์หรือคนที่ผ่านมา พวกเขามักหลีกเลี่ยงไม่ยอมคุย พยายามเดินให้ห่างจากตัวเขามากที่สุด

      "ไม่ต้องแปลกใจหรอก ลุค บุตรหรือธิดาของพ่อเธอไม่เป็นที่ต้อนรับของลูกๆคณะเทพโอลิมปัส" โทมัสหันมาตอบพลางยิ้มให้กับเขา อย่างน้อยก็ในความคิดของเขา "พวกเธอมักโดดเดี่ยวเสมอ ทำใจไว้บ้างเถอะ" โทมัสตบไหล่เป็นการให้กำลังใจ

      "อย่าบอกนะว่านายเป็นลูกฮาเดสอีกคน" แซเทอร์หนุ่มหันมาพูดด้วยความประหลาด "ไม่ใช่หรอกใช่ไหม?" เขายังถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

      "เขาจะเป็นลูกฮาเดสหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระของแก เจ้าแซเทอร์จอมสงสัย"

      โทมัสแยกเขี้ยวใส่พลางลูบหนวดเคราเปียกชื้นของตัวเองด้วยความหงุดหงิดปนรำคาญ

      "ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่สงสัยแล้วก็ได้" แซเทอร์หนุ่มทำท่ายกมือสองข้างยอมแพ้

        เมื่อการต่อปากต่อคำจบลง พวกเขาทั้งสามคนเดินมาถึงค่ายพยาบาลของค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ ลูคัสเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นสวมชุดคล้ายบุรุษพยาบาลกำลังเดินเข้า-ออกสถานพยาบาล บางคนในที่นี้อายุอ่อนกว่าลุคหลายปี แซเทอร์หนุ่มพาพวกเขามายังเตียงว่างสองเตียงใกล้กัน

     "พวกนายพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อนให้คุณสาวแสนสวยตรวจพวกนายอย่างละเอียด ส่วนฉันจะไปตามไครอนให้มาหาพวกนาย"แซเทอร์หนุ่มพูดจบ ไม่รอช้าเดินไปสนทนากับพยาบาลแล้วก็รีบเดินออกจากสถานพยาบาล

      พวกเขานอนลงบนเตียงพักผ่อนหลังจากพบเจอเหตุการ์หนักหนาสาหัส ลุคหันไปเห็นว่าโทมัสนอนหลับทันทีที่หัวถึงหมอน แต่เขามองบนเพดานมีความรู้สึกข่มตานอนหลับไม่หลับ มันอาจจะเพราะสถานที่ไม่คุ้นเคยและเพิ่งมาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยสำหรับตัวเขาเอง

     "มีมนุษย์ครึ่งเทพป่วยอีกแล้วเหรอ" เสียงของสดใสของพยาบาลดังขึ้น "แต่เจคแจ้งว่าเป็นสมาชิกใหม่เพิ่งมาถึงค่าย" เธอเดินมาตรงเตียงของลุคกับโทมัส และมีคนติดตามมาด้วยสองคน

     "สวัสดีมนุษย์ครึ่งเทพหน้าใหม่ ฉันคิม อามิน บุตรีของเทพอะพอลโล ฉันเป็นหมอประจำค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้" คุณหมอมีหน้ายิ้มแย้มและชี้ให้พยาบาลคนหนึ่งไปที่เตียงของโทมัสที่อยู่ถัดไป "โทมัสไปรับเธอมาเหรอเนี่ย แล้วพวกเธอบาดเจ็บจากการเดินทางตรงไหนบ้างไหม?หรือมีอาการข้างเคียงบ้างไหม?" เธอสวมเริ่มใช้สายตาประเมินอาการเบื้องต้นของลุค

     "ผมลูคัส แฮร์ริสัน "ลุคทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง "พวกเราเพิ่งเดินมาจากอังกฤษ มีอาการขวัญผวาจากการเดินทางนิดหน่อยครับ"

     "แน่นอนว่าฉันต้องรู้จักแซเทอร์มาดเซอร์คนนั้น เขาชอบไปรับตัวมนุษย์ครึ่งเทพของสามมหาเทพเสมอ" หมอคิมใช้ไฟฉายขนาดเล็กพกพาตรวจดูตาทั้งสองข้าง วัดชีพจรตรงข้อมือขวา "ไม่มีส่วนไหนบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบอะไร ส่วนอาการขวัญผวาอาจต้องใช้เวลา กว่าจะฟื้นตัว คิดไว่าไม่นานคงกลับมาเป็นปรกติ" หมอคิมประเมินอาการป่วยเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเดินไปตรวจโทมัสแบบเดียวกับที่ตรวจกับลุค

        ไม่นานแซเทอร์ที่ชื่อว่าเจคเดินเคียงข้างมากับคนครึ่งมาคนหนึ่งอายุน่าจะมากกว่าโทมัส เขาดูเป็นคนนิ่ง สุขุม ใจเย็น จากสายตาการประเมินของลูคัส เขาทักทายหมอผู้หญิงเสร็จ ค่อยเดินมาหาลูคัสกับโทมัส

     "การเดินทางเป็นยังไงบ้าง โทมัส ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม"

     คนครึ่งม้าถามโทมัสที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ พลางกันมาทางลูคัส

     "ถ้าไม่นับการเจอคลื่นสูง 30 เมตรในมหาสมุทร พายุเฮอร์เคน และปลาโครงกระดูกที่มาพาค่าย ที่เหลือก็ไม่มีปัญหาอะไร"

     โทมัสรายงานการเดินทางด้วยท่าทางกวนประสาท มันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากลับมาเป็นปรกติแล้ว

     "สวัสดี หนุ่มน้อย ฉันชื่อไครอน เป็นผู้อำนวยการค่ายแห่งนี้ และเป็นเซนทอร์ เผื่อเธอจะไม่รู้จัก"

     ไครอนยิ้มกว้างยื่นมือมาจับมือลูคัส เขย่ามือสามครั้ง ค่อยดึงกลับไป

     " ผมลูคัส แฮร์ริสันครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณไครอน"

     ลุคแสดงความเป็นมิตรและมารยาทด้วยการยิ้ม เพราะไม่ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันที่ได้มาเห็นอะไรที่คนภายนอกเรียกว่าตำนานที่ไม่มีอยู่จริง มีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้น

     "ฉันขอแสดงความดีใจและต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ ปลาโครงกระดูกที่โทมัสเล่ามา นั่นคงเป็นพ่อของเธอส่งมาช่วยเหลือและพามาที่ค่ายเลยสินะ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเหล่าเทพโอลิมปัสช่วยเหลือมนุษย์ครึ่งเทพ" ไครอนพูดด้วยความแปลกใจนิดหน่อย คาดไม่ถึงว่าการมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัดจะมีเทพช่วยเหลือลูกๆของพวกเขาด้วย "เพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงค่ายของเธอ ฉันมีเสื้อชาวค่ายฮาล์ฟบลัดให้กับเธอ ถือเป็นการมาถึงค่ายและเป็นชาวค่ายแล้ว" ไครอนยื่นเสื้อชาวค่ายฮาล์ฟบลัดมาให้ลูคัส มันเป็นเสื้อแบบเดียวกันกับที่ลูคัสเห็นระหว่างทางมาสถานพยาบาล

        ระหว่างการสนทนากันในสถานพยาบาลและกล่าวการต้อนรับสมาชิกใหม่ของค่ายฮาล์ฟบลัด พลัดมีแสงเรืองรองปรากฎเหนือศีรษะของลูคัส มันเป็นหมวกใบหนึ่งมีกลิ่นอายความมืด เย็นยะเยือก แผ่ออกมา เรืองรองกว่าแสงไฟในสถานพยาบาล จนพยาบาลและหมอคิมต่างต้องเดินมาดู โดยรักษาระยะห่างพอสมควร

     "คิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ทันทีที่โทมัสพูดถึงปลาโครงกระดูก เธอเป็นบุตรของฮาเดส นับว่าหายากทีเดียว" ไครอนสบตากับโทมัส และหันมาดูสัญลักษณ์เหนือศีรษะของลุค "สัญลักษณ์หมวกล่องหนของฮาเดส ลุค พ่อของเธอได้รับรองเธอเป็นบุตรของเขาแล้ว ลุค บุตรแห่งฮาเดส มันเป็นการยืนโดยสมบูรณ์แล้ว"

        ไม่นานแสงสว่างเรืองรอง เจิดจ้า ของหมวกล่องหนเหนือศีรษะของลูคัสได้หายไป ทันทีที่ไครอนได้กล่าวการรับรองบุตรของฮาเดสเสร็จสิ้น ทำให้เขาอดนึกถึงคำพูดของโทมัสไม่ได้ว่า คนในค่ายฮาล์ฟบลัดไม่ค่อยต้อนรันหรืออยากเข้าใกล้ลูกๆของฮาเดส แต่ความคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียวมานาน จึงไม่ค่อยแปลกใจกับเรื่องพวกนี้

     "เมื่อกี้คุณไครอน คุณพูดถึงหมวกล่องหนของฮาเดส หมวกล่องหนคืออะไรครับ"

     ลูคัสสงสัยเกี่ยวกับหมวกล่องหนมาก ไม่เคยได้ยินหรืออ่านผ่านมาก่อน มันอาจจะเพราะเขาไม่ได้สนใจมันด้วยเหรือเปล่า

     "สัญลักษณ์หมวกล่องหนของฮาเดสที่ปรากฎเหนือศีรษะของเธอเมื่อซักครู่นี้ มันคือสมบัติหรือาวุธประจำกายของฮาเดส บางครั้งเรียกมันว่า หมวกแห่งความมืด มันสามารถทำให้ผู้สวมใส่หมวกใบนี้ล่องหน หายตัวได้ในความมืด และมันยังสามารถควบคุมความืดได้ ตามประวัติหมวกใบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไซคลอปป์ มันมอบให้กับฮาเดสในการต่อสู้ในสงคามไททัน" ไครอนอธิบายและขยายความของสัญลักษณ์หมวกล่องหนให้ลูคัสและทุกคนได้รับทราบโดยย่อ  "เอาล่ะ ฉันจะพาเธอไปบ้านพักของพ่อเธอ โทมัสไปด้วยกันสิ "

        ไครอนโบกมือให้ทั้งคู่ลุกขึ้นจากเตียงคนไข้ ทุกคนในค่ายรู้แล้วว่าสมาชิกใหม่ของค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นบุตรของฮาเดส เพิ่งได้รับการรับรอง ไครอนเดินนำพวกเขาสองคนออกจากสถานพยาบาลมุ่งหน้าสู่บ้านพักของฮาเดสที่ได้จัดสร้างไว้บุตรหรือธิดาได้พำนักอาศัยที่ค่ายฮาล์ฟบลัด ค่ายฤดูร้อนแห่งนี้

      



แสดงความคิดเห็น

God
ได้รับการรับรอง---  โพสต์ 2025-6-1 11:15
โพสต์ 20375 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-1 09:50
โพสต์ 20,375 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก เสื้อกันหนาวมีฮู้ด  โพสต์ 2025-6-1 09:50
โพสต์ 20,375 ไบต์และได้รับ +3 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +6 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2025-6-1 09:50
โพสต์ 20,375 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-6-1 09:50

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +1 ย่อ เหตุผล
God + 1

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้