[บันทึกการเดินทาง] The Nymph's Whisper: Hidden Hope in Atlanta

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-14 16:33



The Ocean swan Journey


[การเดินทางกู้ชีพ “พวกเธอสามคน” ฉบับลูกเทพ]

ริปลีย์ : บอกทีว่านี่น่ะไม่ได้ทำให้ฉันต้องกลายเป็นเพื่อนจอร์จลอยไปมาหรอกใช่ไหม ?



ผู้บันทึก



ชื่อสกุล — ริปลีย์ สวอนสัน | Ripley Swanson
ธิดาแห่งโพไซดอน


ผู้ร่วมเดินทาง



ชื่อสกุล — เบย์ สโตนบรูค
ครูฝึกและผู้อารักแห่งค่ายฮาล์ฟบลัด


ชื่อสกุล — ลิเลียน่า ไทเลอร์
ธิดาแห่งอะธีน่า






ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 4041 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-14 01:04
โพสต์ 2025-7-15 01:22:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-18 14:10




White Swan in The Ocean

Follow The Nymph's Whisper

13th July 2025


   ต้องยอมรับเลยว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นบ่อเกิดทำให้เธอนอนไม่หลับน่ะ—

   ลมทะเลหอบกลิ่นเกลืออ่อน ๆ มาตามทางเดินกรวด ริปลีย์ สวอนสัน ธิดาแห่งโพไซดอนผู้ตื่นสายเป็นปกติกำลังยืนหาวอยู่แถว ๆ ประตูค่ายในตอนแปดโมงสี่สิบห้า เธอมาเช้ากว่าที่คิดไว้พอควรเชียว แต่เธอที่คิดว่าตัวเองมาเช้าแล้วดูเหมือนว่าจะมีคนมาเช้ากว่าอย่าง—โค้ชเบย และ ลิเลียน่า

   Holy Sh*t…

   ทันทีที่เธอเห็นว่าข้างกายโค้ชเบย์เป็นใครริปลีย์ก็เบิกตาด้วยความประหลาดใจ สองเท้ารีบก้าวเดินจ้ำอ้าวตรงไปหาพวกเขาด้วยสภาพที่ตื่นเต็มตาอย่างแท้จริงเสียที หงส์ขาวแห่งกระท่อมทะเลเดินมามองสำรวจว่าลิเลียน่ามีสัมภาระมาด้วยไหม ถ้าตัวเปล่าก็อาจจะดับฝันอย่างการ “แค่เดินมาส่งน่ะ” ก็เป็นได้

   “เธอ—จะไปด้วยใช่ไหม?”

   “แน่นอนสิ ใครที่เป็นคนนัดฉันล่ะ”

   “I love You ma bestie”

   ร่างเล็กของธิดาแห่งโพไซดอนกอดไปรวบกอดลิเลียน่าด้วยความดีใจ หากซูมเข้ามาในดวงใจของเธอตอนนี้ก็จะเห็นริปลีย์หลายร่างต่างแสดงอาการมากมายภายในจิตใจ บ้างก็นั่งร้องไห้ดีใจ บ้างก็เด้งสะโพกโยกย้ายอย่างบ้าคลั่ง บ้างก็ยืนยิ้มเป็นบ้า และดูเหมือนว่ามีร่างของริปลีย์ที่กรีดร้องพร้อมออกลวดลายแดนซ์รั่ว ๆ ให่สุดเหวี่ยง ซึ่งทั้งหมดคือร่างในจิตสำนึกของริปลีย์ที่ดิ้นไปมาด้วยความปิติยิ่งเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ต้องไปเสี่ยงตายคนเดียว แถมคนที่มากับเธอก็ระดับหัวกระทิ

   อย่างกับแฮร์รี่ที่เห็นเฮอร์ไมโอนี่มาช่วยตอนโค้งสุดท้ายของสงคราม,

   หรืออย่างเด็กประถมที่เพิ่งรู้ว่าแม่เอา Happy Meal มาส่งกลางวันแทนอาหารโรงเรียนแฉะๆ นั่น,

   อ้อ หรืออีกอันก็เหมือนเห็นวู้ดดี้วิ่งฝ่าควันไฟมาหาแบซใน Toy Story 3 — อารมณ์นั้นเลย


   “จบละครน้ำเน่าได้แล้ว พวกแกมีเวลาอีกสามสิบวินาทีก่อนขึ้นรถ!”

   เสียงคำรามของ เบย์ สโตนบรูค ดังขึ้น เขายืนอยู่หน้าประตูรถบัส ดวงตาขึงและมือเท้าเอวเหมือนพร้อมจะจับทุกคนไปวิดพื้น 200 ครั้งถ้าชักช้าอีกนิด เรียกสายตาให้เด็กทั้งสองไปจับจ้องเขาและรถบัสเวทมนตร์ของค่ายที่จอดรออยู่แล้ว ตัวรถดูเก่าและมีสนิมตรงขอบหน้าต่างเล็กน้อย แต่ตราสัญลักษณ์ของค่ายสลักไว้ที่ประตูยังเปล่งแสงอ่อน ๆ อยู่ ราวกับมันมีชีวิต

   “ค่า !” เป็นเสียงของลิเลียน่าที่เอ่ยออกมาอย่างสดใสก่อนจะกอดคอริปลีย์เพื่อลากเพื่อนเดินขึ้นรถได้แล้ว แน่นอนว่าในระหว่างที่เดินไปนั้นมีเสียงแว่วกระซิบรู้กันสองคน

   “รีบขึ้นรถเหอะ ก่อนที่จะได้ฤกษ์ปราบมิโนทอร์มันตอนนี้เลย”

   บัดนั้นเองก็ได้เริ่มฉากการเดินทางครั้งแรกของริปลีย์ สวอนสัน

   อือ ได้เวลาลุ้นอย่างแท้จริงแล้วว่าจะได้ฤกษ์เป็นเพื่อนจอร์จมันวันไหนดี—



   เมื่อการเดินทางเริ่มต้นขึ้น — รถบัสขับด้วยความเร็วที่เร็วสุดยอดจนรู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นเพื่อนจอร์จเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่า (แน่นอนว่ามันมีเวทพรางสายตา) ล้อมเคลื่อนตัววิ่งผ่านเขตชานเมืองอย่างรวดเร็ว ถนนไฮเวย์กลายเป็นริ้วสีเทาใต้ล้อพาหนะ จากค่ายเข้า Capital Beltway แม้ว่าความตั้งใจแรกของริปลีย์ที่ไม่เคยขึ้นรถบัสของค่ายเลยจะตั้งหน้าตั้งตานั่งรถชมวิวสวย ๆ แต่พอได้ลิ้มลองรสชาติรถบัสค่ายฮาล์ฟบลัดที่เบย์ สโตนบรูคอยู่หลังพวงมาลัยเข้าไปก็คิดว่าการนอนโง่ ๆ น่าจะดีกว่าเป็นไหน ๆ

   อย่าพยายามเลย—

   ลิเลียน่าเปิดสมุดบันทึกแผนที่ขึ้นมา วาดเส้นทางข้ามรัฐลงไปทีละบรรทัด ขณะที่ริปลีย์นั่งมองวิวป่าเขาที่ทอดยาว…ที่เป็นเส้นสปีดอย่างกับในอนิเมชั่นแฟนตาซีวัยเด็กอย่างนั้นแหนะ ดวงตากลอกมองคนข้าง ๆ บ้าง และแอบจดบันทึกบางสิ่งลงในสมุดเล่มเล็ก — อาจเป็นแผนกลยุทธ์ หรืออาจจะเป็นแค่… การล้อเล่นถึง “เด็กสามคนกับมิโนทอร์” ว่าเหมือนแก๊งแฮร์รี่ พอตเตอร์เวอร์ชันซอมบี้…

   อันที่จริง จะให้เปรียบก็เหมือนกับแก๊งแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่โผล่มาเจอโทรลล์กลางเมืองแทนที่จะเจอแฮกริด

   —อืม บางทีแฮกริดสุดโหดกำลังไปช่วยน่ะนะ อดทนไว้น่ะเจ้า ‘พวกเธอสามคน’

   การเดินทางระดับ(ครึ่ง)เทพนั้นดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและรวดเร็ว ดูเวลาในนาฬิกาแล้วนั้นดูเหมือนว่าจะใช้เวลาจากค่ายที่ลองไอแลนด์ราว ๆ เกือบห้าชั่วโมงได้ เธอวิ่งขึ้นรถตอนแปดนาฬิกาสี่สินห้านาที และตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงครึ่งแล้ว

   รถบัสค่ายได้ฤกษ์จอดนิ่งสักที แล่นชะลอลงริมถนนเลียบทางหลวงสายเก่า ตรงทางโค้งเล็ก ๆ ที่ไม่มีป้ายบอก ไม่มีใครสังเกตเห็น ภาพที่มองผ่านกระจกรถบัสเป็นภาพพื้นที่ลับตาผู้คน เป็นร้านโดนัทเก่า ๆ ที่รู้สึกได้ว่ามีพลังพรางตาเช่นเดียวกับรถบัสของค่าย ด้านหน้าดูเหมือน ร้านโดนัทเก่า ๆ ร้าง ๆ สีชมพูจาง ป้ายไฟเขียนว่า

   “Peachy’s Donut & Diner — Always Hot, Always Peachy!”

   แต่ไฟกระพริบขาด ๆ ตัว “Y” ห้อยลงมาจนกลายเป็น “Peach Donut & Dine”

   “ถ้าเกิดว่าตัว n ตกไปเพิ่มกลายเป็น Peach Donut & Die คงขำน่าดู—”

   “ขำแบบใดก่อนริปลีย์ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันขอไม่ลงเด็ดขาด”

   บทสนทนาของริปลีย์และลิเลียน่าเกิดขึ้นในระหว่างที่เกาะขอบหน้าต่างรถบัสมองเบย์ สโตนบรูค ผู้เป็นคนแรกที่ก้าวลงจากรถและกวักมือให้พวกเธอเดินตามลงไปได้แล้ว เขายืนเท้าเอวตรงประตูร้าน กวาดตามองซ้ายขวา — ก่อนจะสะบัดนิ้วเบา ๆ เสียง แกร๊ก! ดังเบา ๆ ราวกับล็อกประตูมิติถูกคลาย พื้นร้านที่เคยเหมือนถูกทิ้งร้างพลันแปรเปลี่ยน กลิ่นโดนัทหอมอบอวลลอยออกมาแทบจะทันที พร้อมเสียงน้ำมันทอดเบา ๆ และเสียงจานช้อนกระทบกัน

   ข้างในเป็นร้านขนาดกลางแบบ Diner โบราณ ผนังลายหมากรุก ขอบขาว-แดง โต๊ะกลมเบาะหนัง และ แสงสีทองอบอุ่นจากโคมไฟน้ำผึ้ง แขวนจากเพดาน มี นิมฟ์ผิวสีลูกพีช คนหนึ่งสวมผ้ากันเปื้อนยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ พร้อมเสิร์ฟของว่างและอาหารเวทมนตร์เฉพาะชาวครึ่งเทพ

   “ลูกพีชอบน้ำผึ้งมั้ยจ๊ะ?” เธอยิ้มให้ริปลีย์ขณะยื่นจานโดนัทไส้พีชร้อน ๆ มาให้

   คณะเดินทางทั้งสามเดินไปนั่งโต๊ะหนึ่งร่วมกัน เพราะว่าไม่รู้ว่าจะกินอะไรเลยได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่อย่างการลองเชื่อรสนิยมของโค้ชเบย์และให้เขาช่วยสั่งอาหารมาทานร่วมกัน ใช้เวลาผ่านไปไม่นานนักอาหารก็มาวางตรงหน้าพร้อมกับใบหน้าของสาวน้อยทั้งสองที่ดู—สิ้นหวังสุด ๆ

   “นี่ไม่ใช่ซีซาร์สลัดนะ นี่มันแค่ผักกาดราดครีมอะไรสักอย่าง…”

   “แต่มันยังดีกว่าโดนัทแช่แข็งในรถบัสนั่นละน่า แถมมีนิมฟ์ทำให้ด้วย”

   “กินให้หมด ภายในสิบห้านาที รถจะออก ถ้าช้า—ฉันจะให้ล้างเบาะรถทั้งคันด้วยมือเปล่า”

   นี่มันค่ายหรือยังไง !?!

   ไม่รู้แล้วว่าจะเศร้าใจกับอาหารหรือร้องไห้กับเวลาในการกินอาหารที่เขาให้พวกเธอดี ริปลีย์ทำได้แค่เคี้ยวโดนัทที่ทอดใหม่ ถึงมันไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นมื้ออาหารที่ดีได้ แต่ก็ดีกว่าต้องไปนั่งเคี้ยวโดนัทแช่แข็งในรถที่ไม่มีอะไรเอาไว้อุ่นอาหารเลย

   ทันใดนั้นเมื่อนึกได้ว่ามื้ออาหารคงตกที่โค้ชเบย์เลี้ยงเธอก็ออกอุบายที่ว่าให้พวกเราได้กินเนื้อเพื่อเพิ่มพลังงานตามหลักการของการฝึกร่างกาย หากต้องสร้างกล้ามเนื้อโปรตีนมันต้องถึง ไม่งั้นคงจะไม่มีแรงได้แต่แกว่งแขนเหี่ยว ๆ ไปมาแน่

   "เราสั่งเนื้อมากินดีกว่าไหมคะ ?"

   สุดท้ายแล้วริบลีย์ก็เลือกถามนิมฟ์ว่ามีอาหารพวกเนื้อขายไหมจึงจบที่สั่งสเต็กเนื้อมาให้ทุกคนและยกแอปเปิ้ลให้ลิเลียน่าเป็นการปลอบใจจากซีซาร์สลัดน่าเศร้าของเธอ การทานอาหารดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ถึงเบย์ สโตนบรูคจะบอกว่าสิบหน้านาทีก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหยิบนาฬิกาขึ้นมาทำท่าจับเวลาก็ตอนที่เขากินอิ่มและเดินไปยืนหน้าประตูร้าน ซึ่งเขาที่กินอิ่มไปยืนตรงนั้นเป็นช่วงเวลาที่จับสังเกตพวกเธออย่างดีว่าพวกสาวน้อยทั้งสองจะกินอาหารใกล้จะหมดแล้ว การเดินทางต่อจากนั้นเลยโชคดีไม่มีใครอ้วกเป็นโดนัทระหว่างทางเพราะรีบกินมากเกินไป

   จากร้านโดนัทเฉพาะครึ่งเทพเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้วหากไม่เงยหน้ามองนาฬิกาดิจิตอลพิเศษของรถบัสที่ผ่านช่วงบ่ายมาจนถึงสิบหกนาฬิกายี่สิบนาทีที่แสงจ้าซะเหลือเกิน

   รถบัสเวทมนตร์แล่นมาจอดที่ ปั๊มน้ำมันร้างครึ่งใช้งานครึ่งร้าง ซึ่งอยู่ระหว่างถนนสองเลน ฝั่งหนึ่งเป็นป่า อีกฝั่งเป็นลานกรวดที่มีซากรถพัง เบย์ หยุดรถแบบเบรกกะทันหันจนล้อส่งเสียงเอี๊ยด ริปลีย์เกือบหัวโขกเบาะหน้า

   Oh sh*t เขาจะเบรกอะไรหัวทิ่มปานนั้น

   "พัก 15 นาที — ใครหิวก็เร็วเข้า... แต่ระวัง อย่าเดินไปฝั่งป่า"

   ริปลีย์และลิเลียน่าไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปเด็ดขาด ทั้งครู่เดินเดินตรงไปที่ตู้ขายของอัตโนมัติซึ่งยังดูใช้การได้อยู่…แม้ว่าสภาพตะไคร้น้ำเกาะข้างตู้จะดูเหมือนเมืองที่ล่มสลายตามหนังโลกอนาคตที่ล่มสลายก็เถอะ การที่มันส่องแสงและดูมีสัญญาณของไฟฟ้าให้มันทำงานต่อไปก็ถือว่าเป็นโชคดีของพวกเธอแล้ว เมื่อพักเบรกชั่วครู่เสร็จก็เดินทางต่อจนเวลาสอลทุ่มแบบแสงจ้า—

   รถบัสเวทมนตร์ชะลอลงตามทางดินลูกรัง ลัดเลาะขึ้นเนินเขาสูงชัน จนกระทั่งมาถึงขอบผาหินธรรมชาติที่มองลงไปเห็นแนวป่าทึบทอดยาวด้านล่าง — เป็นป่าในเงาเทือกเขาแอพพาเลเชียนที่เคยมีข่าวเล่าว่า

   เสียงที่เรียกชื่อคุณจากป่าลึก มักไม่ใช่เสียงของคน

   เบย์ลงจากรถก่อนใครตามระเบียบ ขาทั้งสองข้างของเขาเปลือยเปล่าในยีนส์ที่ขาดตรงข้อเท้า แต่กีบแพะเหยียบดินอย่างมั่นคง เขาเดินวนรอบพื้นที่เร็ว ๆ สำรวจอย่างระมัดระวัง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขากวาดไปตามแนวต้นไม้

   “จุดนี้ใช้ได้ ไม่มีรอยพลังของเครส…แต่มันเงียบเกินไปสำหรับป่าที่เคยมีนกนับร้อยตัวร้องตลอดวัน”

   แต่ถึงเขาจะบอกแบบนั้นไปแต่เรื่องการยึดตรงนี้เป็นที่ตั้งในการตั้งแคมป์เพื่อพักผ่อนในวันนี้ ลานที่พวกเธอเลือกเป็นลานหินตามธรรมชาติที่มีตอไม้ใหญ่ ๆ สองสามต้น ริปลีย์เดินมองรอบบริเวณก่อนจะวางเป้ไว้ตรงแผ่นหินแบน ข้าง ๆ มีซากกองไฟเก่า และรอยสลักอักษรรูนคล้ายของนักล่าอาร์ทิมิสที่มาใช้สถานที่นี้ก่อนหน้า

   ลิเลียน่านั่งยอง ๆ อยู่ตรงตอไม้ ขณะกางสมุดออกมา วาดวงกลมแสดงรัศมีปลอดภัยรอบจุดพัก เสียงปากกาเมจิกสีฟ้าอ่อนเขียน “ระวังทางใต้” ไว้อย่างรวดเร็ว

   “ที่นี่น่าจะเคยเป็นจุดพักของพวกฮันเตอร์...รอยพวกนี้เป็นอักษรรูนป้องกันหมาป่า”

   “ก็หวังว่าใช้ได้กับมิโนทอร์ด้วย” — ริปลีย์พูดกลั้วเสียงหัวเราะบางเบา

   ในเวลากลางคืนไม่มีอยู่จริง ท้องฟ้ายังเป็นสีครามจาง ๆ เหมือนย่ำเย็นที่ไม่สิ้นสุด แต่ร่างกายของพวกเขารู้ดีว่าเหนื่อยแล้ว เบย์แบ่งเวรยาม ริปลีย์รับเวรที่สองกับเขา ส่วนลิเลียน่าผล็อยหลับบนเป้ในท่านั่งหลับพิงต้นไม้ หอกเพเลียนอยู่ในมือตลอดเวลา




เปิดใช้งานเอฟเฟค

ปฏิสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
ให้ สเต็ก แก่ไพเพอร์ ห้สิ่งที่ชอบที่สุด กับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

ให้ แอปเปิ้ลเขียว [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์
ให้สิ่งที่ชอบที่สุด กับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ เพิ่มขึ้น 22 โพสต์ 2025-7-15 01:27
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-7-15 01:26
โพสต์ 30,094 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-15 01:22
โพสต์ 30,094 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2025-7-15 01:22
โพสต์ 30,094 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2025-7-15 01:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-15 22:45:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-15 22:48




White Swan in The Ocean

Follow The Goddess's Whisper

Dreaming in the bus


   ในช่วงเวลาที่ร่างกายมันล้าจนไม่อาจลืมตาตื่นได้ เบย์ สโตนบรูคที่อาสาจะเฝ้ากะแรกจากช่วงสองทุ่มจนถึงช่วงตีสามของวันถัดไปด้วยคติที่ว่าเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาต้องได้รับการนอนหลับอย่างน้อยหกถึงแปดชั่วโมงทำให้ริปลีย์ที่ควรจะลืมตาตื่นมาเฝ้ายามคู่กับลิเลียน่าต้องไปเข้านอนเพราะลิเลียน่าดันเข้าสู่ห้วงนิทราไปหาฮิปนอสก่อนหน้าการแบ่งเวรเฝ้ายามเสียแล้ว

   ริปลียเอนกายนั่งกับเบาะบนรถบัสที่เปิดหน้าต่างระบายอากาศไว้ หัวหนุนกระเป่าเป้ใบใหม่จากเซเว่นอีเลเว่นที่บรรจุสัมภาระมากมายของเธอ ความวุ่นวายในวันนี้แม้ไม่ได้เดินเท้าอะไรนัก แต่ว่าการเดินทางทำให้ร่ายกายรู้สึกล้าอย่างน่าประหลาด ทั้งการนั่งบนรถจนเมื่อยตัว ทั้งความรู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้เบา ๆ จากการที่หูกับดวงตาทำงานไม่สัมพันธ์กันจนทำให้เธอคาดหวังว่าขอให้การหลับพักในคืนนี้คืนความสงบและความสดชื่นให้แก่ร่างกายของเธอสักหน่อย แม้ว่าจะต้องตื่นเช้ากว่าปกติมากแค่ไหน หรือว่าจะต้องหลับในท้องฟ้าไร้ราตรีก็ตาม

   เอาน่า อย่างน้อยเธอก็ยังมีนวัตกรรมของม่านกันแสงแดดอยู่

   ในช่วงเวลาที่เธอกำลังทักทายฮิปนอส แม้ลมหายใจจะสม่ำเสมอบนรถบัสที่จอดในลานพักค่ายริมผา แต่ภายในจิตใจของริปลีย์ม่านแห่งความฝันได้เปิดออกโดยไม่รู้ตัวด้วยการบงการของใครสักคน…หรือเทพสักองค์—

   ความมืดที่ปกคลุมกายพลันสว่างขึ้น รอบกายที่ควรจะเป็นรถบัสกลับเป็นทุ่งดอกกุหลาบงามกว้างไกลสุดเกินเหนือจินตนาการ ตัวของเธอในที่แห่งนั้นค่อย ๆ ยื่นมือออกมารับกลีบกุหลาบสีน้ำเงินโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า อย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุราวกับเมฆฝนตกเป็นกลีบบุปผาซะอย่างนั้น ดอกไม้พริ้วไหวราวกับโลกทั้งใบกำลังหายใจ

   เบื้องหน้า เธอมองเห็น สะพานโค้งแบบจีนโบราณ ทอดผ่านทะเลหมอกขาวบาง ลักษณะเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ประวัติศาสตร์หรือห้วงฝันยุคบูเช็กเทียน ทำเอาเธอนึกย้อนไปถึงความฝันอันยุ่งเหยิงก่อนจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งช่วงเดือนที่แล้ว พร้อมปรากฎภาพของชายคนหนึ่งในชุดตะวันออกโบราณอันโด่งดังอย่างชุดจีนโบราณสีแดงเพลิงมาหลอกใช้งานในป่าต้องห้ามช่วงสิ้นปี

   ณ ปลายสะพานเมื่อมองจากยอดสูงของความโค้งงามที่เธอยืนอยู่ มีชายหนุ่มคนหนึ่งในเสื้อสูทสีดำเรียบคงไว้ซึ่งมาดของสุภาพบุรุษ เรือนผมดำขลับเสยขึ้นลวก ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับดูดีอย่างน่าอัศจรรย์ เขายืน ณ สุดปลายทางเดินของสะพานตรงหน้า ไหล่ตั้งตรง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง

   เท้าเล็ก ๆ ขยับก้าวเข้าไปใกล้อีกนิดเสียงฝีเท้าเบากว่าหัวใจเธอที่เต้นอยู่ในอก แล้วในที่สุด—เขาก็หันมาอย่างช้า ๆ



   ใบหน้าของเขาคมชัดราวกับเป็นภาพยนตร์ 4K ดวงตาเรียวยาวคมกริบ แต่มองมาอย่างไร้ความตึงเครียด เสี้ยวรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปาก เขาเอียงหน้าลงเล็กน้อย เลิกคิ้วข้างหนึ่งเหมือนจะถามว่า “เธอเป็นใคร ?” หรือไม่ก็ “มาทำไม ?” อะไรทำนองนั้น

   ริปลีย์ที่อยากเอ่ยถามว่าเขาเองนั่นแหละคือใครกัน วินาทีที่เธอเผยอริมฝีปากเล็ก ๆ บัดนั้นราวกับตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ดวงตาคมเลื่อนไปมองทางอื่นที่ไม่อาจทราบได้ว่าเขากำลังมองที่ใดกัน นิ้วชี้เรียวยาวยกขึ้นแตะเบา ๆ ที่ริมฝีปากของตัวเขาเองพร้อม ๆ กับเลื่อนสายตากลับมาสบกับดวงตาอัลมอนด์กลมของหงส์ขาวตัวน้อยราวกับต้องการสื่อสารถึงเธอ

   “Shh–”

   เสียงทุ้มที่หลุดลอยออกมาถึงเธอแผ่วเบา ในขณะเดียวกันก็ได้ยินโทนเสียงทุ้มน่าฟังที่ชวนให้รู้สึกว่าชายตรงนั้นชวนให้ดวงใจน้อย ๆ หวั่นไหวไม่น้อย ในช่วงเวลาที่ริปลีย์เหมือนถูกต้องมนต์ที่เขาร่ายไว้ให้เงียบลง สุดปลายสายตาที่เขามองเมื่อครู่ปรากฎหญิงสาวปริศนา ผิวขาวเนียนดุจหยาดน้ำค้าง ดวงตากลมโตไร้เดียงสา ริมฝีปากแดงนุ่มละมุน เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนคลาย ๆ สะท้อนแสงอ่อนโยน ชุดลูกไม้สีขาวแบบวิกตอเรียน แขนพองเล็กน้อยดูโรแมนติก เปิดไหล่เล็กน้อยเผยผิวบอบบาง เธอเหมือนเทพีแห่งรุ่งอรุณ ความงามบริสุทธิ์ที่ไม่มีพิษภัย เย้ายวนใจโดยไม่ต้องตั้งใจเป็นความงามแบบ “บริสุทธิ์” ที่ใครเห็นก็อยากปกป้อง เธอคือความงามที่น่าหลงใหลแต่แตะต้องไม่ได้ เดินออกมาจากหมู่ดอกไม้—งามเกินบรรยาย ราวกับทุกความงามในโลกถูกรวมไว้ในเรือนร่างเดียว

   ภาพชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแข็งทื่อไปราวกับวิดีโอที่ถูกหยุดนิ่งไว้ มีเพียงรอบกายที่หมุนเวียนและโอบล้อมด้วยกลีบกุหลาบราวกับว่าตอนนี้มีเพียงเธอเละเทพีผู้งดงาม

   “งดงามใช่หรือไม่…ตรงหน้าเจ้าน่ะ”

   น้ำเสียงหวานอ่อนโยนเอ่ยออกมากับริปลีย์ราวกับน้ำเสียงกระซิบตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าหญิงผู้นั้นเป็นใคร แต่ใบหน้า...รูปร่าง...แววตา... ทุกอย่างคือ “ความงามในอุดมคติของเธอ”

   ไม่นานเมื่อมวลกลีบกุหลายพัดโอบร่างสตรีงามหายไปก็ได้ยินเสียงจากอีกทางไม่ไกลจากที่เดิม ทว่าระยะทางกลับใกล้เข้ามาราวกับค่อย ๆ ก้าวมาหาเธอที่อยู่บนสะพานโค้งงามวิจิตร

   “ใบหน้าของบุรุษที่ไม่เคยแลเห็นที่ไหนมาก่อน—ที่เป็นของจริงใช่กลลวง”

   ดวงตาสีน้ำตาลอมเทาครามน้ำทะเลเห็นเทพีผู้นั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวในชุดคอร์เซ็ตสีดำสนิท ผ้าลูกไม้และพัดทองสไตล์โกธิก กระโปรงสุ่มคลาสสิคทูทูพร้อมประดับขนนกสีดำ ริมฝีปากสีไวน์แดง คิ้วคม ดวงตาคมดั่งจะกรีดใจ รอยยิ้มทรงพลังและเจ้าเล่ห์…ราวกับโอดีล—แบล็คสวอนผู้งดงาม

   “จดจำไว้แม้สายลมไร้เสียง…แต่ก็เปลี่ยนทิศทางของพายุได้เสมอ”

   ครานี้เสียงที่ดังขึ้นแว่วมาจากข้างหลัง ณ ปลายสะพานที่เธอเดินผ่านมาเมื่อครู่นี้ปรากฎหญิงสาวหน้าสวยแบบสงบ ริมฝีปากสีชมพูอ่อน ผิวเนียน ผมยาวสีดำขลับปล่อยตรง ตกแต่งด้วยปิ่นหยก เสื้อคลุมสีขาวโปร่งบางปลิวไสว ถือดาบไว้ด้านหลัง เสริมความสง่างามอย่างมีอำนาจราวกับเซียนหญิงผู้พิทักษ์หัวใจ — ผสานระหว่างความงามและอุดมคติของ “เกียรติและศักดิ์ศรี”

   ณ วินาทีที่เธอหันไปสบเข้ากับดวงตางามที่เหมือนดึงดูดเธอเข้าไป ร่างงามตรงหน้าก็ค่อย ๆ เดินขึ้นสะพานอย่างสง่างาม มวลกลีบกุหลาบโอบกลายราวกับปลดเปลิิ่งความงามรูปแบบใหม่ไร้ขีดจำกัด กลายเป็นร่างเพรียวงามของเทพีเอนกายเท้ากับขอบสะพาน ภาพตรงหน้าของริปรีย์คือหญิงสาวในชุดผ้าไหมสีม่วงเงินแบบเทพีกรีก โอบสัดส่วนงามอย่างลงตัว ตั้งท่าพิงเสาไอโอนิกในแบบกรีกคลาสสิก ผิวสีงาช้าง ดวงตาลึกลับ คิ้วเรียว ริมฝีปากทรงหยดน้ำกำลังแย้มยิ้มอย่างพอใจในภาพปฏิกิริยาแสนน่าเอ็นดูของธิดาแห่งโพไซดอน

   “ฮุฮุ–...”

   เสียงขบขันล่องลอยออกมาตามสายลมที่โอบกลีบกุหลาบสีน้ำเงินกำมะหยี่ไปทิศทางข้างหลังของริปลีย์ เมื่อนั้นความรู้สึกของใครสักคนที่ใกล้ชิดอยู่ข้างหลังก็เอื้อมนิ้วเรียวงามมาเชยคางมนให้หันไปสบดวงตาของผู้ทรงอำนาจในดินแดนนี้ ภาพตรงหน้าผู้เป็นเหมือนร่างความงดงามยิ่งกว่าใครในสามโลกได้แสดงตนแล้ว เป็นความงามของเทพีที่งดงามเท่าที่สมองน้อย ๆ ของสาวน้อยช่างฝันจะบังอาจจินตนาการ อาภรณ์งามเดิมเปล่งออร่าสีทอง เบื้องหลังปรากฎเป็นปีกทองและวงแสงอาทิตย์ — สื่อถึงพลังจากสรวงสวรรค์ ความงามแบบ “เหนือความเข้าใจ” — ไม่ต้องพิสูจน์ใด ๆ เพราะสรรพสิ่งยอมศิโรราบ



   “ไขว่คว้าเขาคนนั้นมาให้ได้นะ…สาวน้อย”

   คล้ายถูกดึงออกจากห้วงฝันมาเจอความเป็นจริง ริปลีย์สะดุ้งเบา ๆ บนผ้าห่ม ดวงตาค่อย ๆ ลืมขึ้น ภายใต้แสงที่ไม่เคยมืด เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่กลิ่นดอกกุหลาบยังค้างอยู่ที่ปลายจมูก

   และเสียงคำว่า “shh”... ยังคงวนเวียนในหัวไม่หาย




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12-1] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-7-15 22:53
โพสต์ 21146 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-15 22:45
โพสต์ 21,146 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-15 22:45
โพสต์ 21,146 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2025-7-15 22:45
โพสต์ 21,146 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2025-7-15 22:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-16 01:40:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-16 01:44




White Swan in The Ocean

Follow The Nymph's Whisper

14th July 2025


   เสียงลมเย็นพัดผ่านต้นสนในยามรุ่งสางก่อนแสง ริปลีย์กับลิเลียน่าลืมตาตื่นตามที่นัดหมาย พวกเธอเดินเบา ๆ เข้ามาแทนที่โค้ชเบย์ซึ่งเฝ้ายามคนเดียวมาทั้งคืน

   ลิเลียน่า หยิบหอกเพเลียนของเธอขึ้นมาก่อนจะนั่งที่ขอนไม้ยาวใกล้ๆ กองไฟ(ที่จุดเอาฟีลมาตั้งแคมป์สุด ๆ) “พักเถอะค่ะโค้ช หนูสองคนจัดการเอง”

   เบย์ สโตนบรูคพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้าแต่เชื่อใจ “ดูแลกันดี ๆ ล่ะ ฉันขอไปซุกถุงนอนซักสามชั่วโมง... ถ้ามีอะไร แค่ตะโกนคำว่า ‘ชีสเบอร์เกอร์’ ฉันตื่นแน่”

   ลิเลียน่าขำออกเบา ๆ ส่วนริปลีย์หยิบกระเป๋ามาเปิดหาสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าพอจะมีอะไรทำฆ่าเวลาได้บ้าง ในโลกของเด็กวัยรุ่นที่ไร้มือถือเพราะมันจะล่อปีศาจนั้นทำให้มือถือของเธออยู่ในก้นบึ้งของการปิดผนึกที่ค่ายดังนั้นแล้วชีวิตเด็กวัยอย่างเธอไม่อยากจะนั่งเหม่อน้ำลายย้อยตั้งแต่หัววันเท่าไหร่นัก

   “เดี๋ยวก่อน—ฉันจะเอามาทำไมเนี่ย”

   ริปลีย์หยิบหนังสือติดมือมาสองเล่ม หนึ่งเป็นหนังสือวิชาการชวนปวดหัวเลยยื่นมันให้ลิเลียน่าอ่านเรียบร้อย อีกหนึ่งเป็นนิตยสารเฮอร์มีสที่เพิ่งซื้อฉบับล่าสุดก่อนออกมาจากค่าย

   “เอาไปอ่านไหม ฉันจะอ่านอันนี้น่ะ” เธอเอ่ยพลางยกปกให้ลิเลียน่าดู

   “มีข่าวอัพเดตแล้วหรอ”

   “มีแล้วน่ะสิเลยซื้อก่อนออกมาน่ะ” เธอเอ่ย “อ่านด้วยกันไหม ?”

   ด้วยเหตุนี้เองลิเลียน่าจึงเลือกที่จะเก็บหนังสือวิชาการเข้ากระเป๋าไปแล้วขยับมานั่งข้าง ๆ ริปลีย์เพื่อนั่งอ่านนิตยสารด้วยกัน เมื่อมือเล็กเริ่มเปิดออกก็รู้สึกได้ว่าตัวอักษรพวกนี้ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ โรคบ้า ๆ ทำให้เธอใช้ชีวิตยากเป็นไหน ๆ จึงหันไปหาลิเลียน่าแทน

   “อ่านให้ฟังได้ไหมอ่ะลิเลียน่า ตัวอักษรอังกฤษพวกนี้มันกำลังทำให้ฉันอ้วก—”

   “ก็ได้อยู่หรอก แต่ว่าอ่านทั้งหมดคงคอแห้งพอดี”

   “งั้นก็คนละข่าว โอเคไหม ?”

   “ดีล!”

   การเจรจาสำเร็จผล ริปลีย์ยื่นให้ลิเลียน่า ไทเลอร์อ่านข่าวใหม่อันแรกให้ฟังก่อน การเล่านี้ไม่ได้เสียงดังอะไรมาก ในป่าเงียบ ๆ ที่เหมือนมีกันสองคนทำให้การออกเสียงเพียงนิดก็ได้ยินชัดแจ้งแล้ว

   “ด่วนที่สุด! ข่าวคืบหน้า "คณะเดินทางนรกของโจนาทาน" โผล่แล้ว! ลูซิเฟอร์เตรียมตัว!”

   “กรี๊ด! บรรณาธิการเฮอร์มีสรายงานด่วนจี๋! ชาวค่ายฮาล์ฟบลัดเตรียมหูผึ่ง ตาโตได้เลย เพราะข่าวคราวที่เงียบหายไปนานเป็นปีของ "คณะเดินทางจากภารกิจนรกของโจนาทาน" ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวแล้วจ้า!

   ด่วนที่สุด! ข่าวลับจากขุมนรก? "โจนาทาน-ทีฟา-เซซิล" เผชิญหน้า "ลูซิเฟอร์" หรือยังไง?!

   ชาวโอลิมปัสและเหล่าเดมิก็อดน้อยเอ๋ย จงเงี่ยหูฟัง! หลังจากที่โทรไปไม่รับสาย ไลน์ไม่ตอบ ส่งนกพิราบสื่อสารไปก็หายสาบสูญไปพร้อมเผือกและลูกกวาด ข่าวลับจากแหล่งข่าว (ที่ไม่ขอเอ่ยนาม...เพราะขี้กลัวเหมือนกัน) ได้ยืนยันแล้วว่า คณะเดินทางจากภารกิจลับสุดยอด ที่ประกอบด้วย โจนาทาน วินเซนโซ บุตรแห่งไนกี้, ทีฟา ธิดาแห่งไนกี้ (คู่หูดูโอ้สายสปอร์ต!), และ เซซิล มาร์โควิทซ์ บุตรแห่งเฮอร์มีส (ลูกชายสุดหล่อของผมนี่เอง!) ยังมีลมหายใจอยู่ (มั้งนะ...?)

   "คณะเดินทาง" vs "เทวทูต" สงครามเปิดฉาก?! คำถามที่ค้างคาใจมานานนับปีคือ พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไรกันแน่? และทำไมถึงได้หายเงียบไปขนาดนี้! แหล่งข่าวระบุเพียงว่า การหายตัวไปครั้งนี้เกี่ยวข้องกับ "ลูซิเฟอร์"! ใช่แล้วค่ะคุณผู้อ่าน! ท่านเทวทูตองค์นั้นแหละค่ะ! งานนี้ไม่รู้ว่าเป็นการพบปะเจรจา หรือเปิดศึกสงครามเดมิก็อดปะทะเทวทูตกันแน่!

   บรรณาธิการเฮอร์มีสคนนี้ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมอวยพรให้ทีมของโจนาทาน ทีฟา และเซซิล รอดพ้นจากเงื้อมมือมารของลูซิเฟอร์ และกลับมาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดได้อย่างปลอดภัยไร้ริ้วรอย!

   เหล่าชาวค่ายและเทพทุกพระองค์โปรดร่วมใจกันติดแฮชแท็ก: #โจนาทานสู้ๆ #ทีฟาสู้ๆ #เซซิลสู้ๆ

   เพื่อส่งพลังใจไปให้ลูกๆ ของเรากลับมาอย่างสมศักดิ์ศรี! เฮอร์มีสผู้นี้จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว ถ้ามีข่าวใหม่มาอีกเมื่อไหร่ จะรีบเอามาเม้าท์ให้ฟังเป็นคนแรกแน่นอน!

   (ตอนนี้ขอไปเช็คพิกัด GPS ของเซซิลอีกรอบก่อนนะ...เผื่อลูกโดนจับไปแปลงร่างเป็นหมาสามหัว!)”


   “นั่นเป็นการเดินทางของรุ่นพี่โจนาทานใช่ไหม น่าตื่นเต้นชะมัด”

   “เราเองก็น่าจะมีการผจญภัยแบบนั้นได้ในสักวันนึงแหละ เชื่อสิ” ลิเลียน่าเอ่ยพร้อมกับยื่นให้ริปลีย์อ่านข่าวต่อไป

   “ข่าวใหญ่! คูเปอร์ โจนส์ และ ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์: สถานะ "กุ๊กกิ๊กกุ๊กหม่ำ" ไม่มีผิดเพี้ยน!”

   “สวัสดีชาวโอลิมปัสและผู้เฝ้าสังเกตการณ์ทุกท่าน! เฮอร์มีสขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า จากการเกาะติดสถานการณ์และรวบรวมพยานหลักฐานอันแน่นหนาที่สุดเท่าที่เคยมีมา ข้าพเจ้าขอฟันธงลงไปเลยว่า คูเปอร์ โจนส์ (เด็กเคบินที่ 6) และ ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์ (เด็กเคบินที่ 23) กำลังอยู่ในสถานะ "กุ๊กกิ๊กกุ๊กหม่ำ" อย่างแน่นอน!

   เพราะอะไรถึงคิดเช่นนั้นน่ะหรือ?

   เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างกับฉากในบทละครรักสุดโรแมนติก! ณ ริมทะเลสาบในยามบ่ายที่ปราศจากผู้คน เสียงกีตาร์นุ่มนวลคลอเคล้ากับแสงไฟอ่อนๆ ช่างสร้างบรรยากาศราวกับเทพคิวปิดลงมาโปรยปรายมนต์แห่งความรักด้วยตัวเอง! แค่เปิดฉากมาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความรักอบอวล!

   จากการสืบเสาะของเฮอร์มีสและเหล่าสปายผู้จงรักภักดี (ที่ยอมปีนต้นไม้เกาะขอบฟ้ามองจากที่ไกลๆ) ได้รายงานตรงกันว่า นี่คือเรื่องราวที่สานต่อมาจากกิจกรรมที่ดูเหมือนจะเป็น "นัดบอด" ธรรมดาๆ จนกระทั่งความในใจถูกเปิดเผยออกมาเป็น "เดต" ที่เอ่ยปากขอกันเอง! ช่างเป็นความกล้าหาญที่น่ายกย่องจริงๆ!

   พยานหลักฐานเด็ด! คำพูดชวนเขินที่หลุดออกมาจากวงสนทนา!

   อย่าให้ได้เมาท์มากไปกว่านี้เลยนะจ๊ะ แต่ขอบอกเลยว่ามี "วลีเด็ดดวง" ที่หลุดออกมาจากปากของทั้งสองเป้าหมาย ซึ่งยืนยันความกุ๊กกิ๊กได้เป็นอย่างดี!

   "จับแบบนี้": โอ้โห! แค่ได้ยินก็แทบจะม้วนตัวลงไปใต้ดินแล้ว! นี่มันหมายถึงอะไรกันนะ? การสอนจับกีตาร์? การกุมมือ? หรือการจับหัวใจ? เฮอร์มีสขออนุญาตเดาว่าเป็นอย่างหลังสุดนะจ๊ะ!
   "เงียบก่อน— ตั้งใจฟัง": หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้ชิดจริงๆ ใครจะกล้าพูดแบบนี้ได้เล่า! การที่ให้ "เงียบ" และ "ตั้งใจฟัง" นั้น อาจจะไม่ได้หมายถึงแค่เสียงดนตรี แต่เป็น "เสียงหัวใจ" ที่เต้นรัวของทั้งคู่ต่างหาก! โอ๊ย... นี่มันยิ่งกว่านิยายรัก!

   และที่ทำให้เฮอร์มีสต้องกรีดร้องในใจดังๆ คือคำบรรยายถึงความใกล้ชิดที่ว่า "ตามองตา ลมหายใจรดเบา ความใกล้ชิดแต่คืบ เสียงกระซิบข้างใบหู"! นี่มันระดับชิดติดขอบขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่า "กุ๊กกิ๊ก" กันอย่างจริงจัง แล้วจะให้เรียกว่าอะไรกันล่ะ!? โมเมนต์นี้ช่างชวนม้วนตัวหนีความเขินอายไปให้พ้นๆ จริงๆ!

   และที่ตอกย้ำความสัมพันธ์อันลึกซึ้งนี้คือคำพูดจากปากของมิสเตอร์ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์ ที่ว่า: "แต่ผมก็ต้องขอบคุณพวกเธอนะ" "เพราะพวกเธอทำให้ผมได้เห็นคุณในแบบที่… น่ารักกว่าปกติ"

   โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย! มิสเตอร์ไลแซนเดอร์นี่ช่างร้ายกาจจริงๆ! นี่มันคำพูดระดับทำลายล้างหัวใจชัดๆ! ให้ไปเลยสิบเต็มสิบ คะแนนพิเศษสำหรับเคบินที่ 23! คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเห็นคูเปอร์ในมุมที่พิเศษ และความสัมพันธ์นี้กำลังงอกงามอย่างแท้จริง!

   แม้ว่าหลังจากนี้ การตามติดความสัมพันธ์ของคูเปอร์และไลแซนเดอร์อาจจะยากเย็นขึ้นหน่อย เพราะดูท่าว่าทั้งคู่คงจะเก็บความหวานไว้เป็นส่วนตัว แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจเถอะว่า "เรือที่พายแล้วน่ะ ไม่มีวันจมหรอกนะคะ!" มันอาจจะแค่ "ดำน้ำ" ไปก่อน เพื่อไปโผล่ที่ไหนสักแห่งที่โรแมนติกกว่าเดิม!

   เฮอร์มีสผู้นี้ขอประกาศปิดข่าวฉบับพิเศษนี้ ด้วยหัวใจที่พองโตยิ่งกว่าเดิม แล้วพบกันใหม่กับข่าวซุบซิบที่ร้อนแรงกว่าเดิม! บ๊ายบาย!”


   “แค่ก ๆ—”

   “นี่น้ำ” ลิเลียน่ายื่นขวดน้ำให้ริปลีย์ไปดื่มแก้คอแห้ง ไม่รู้ว่าเพราะข่าวยาวหรือว่าใส่อารมณ์มากเกินไปกันแน่เสียงวี๊ดข่าวเลยทำให้แสบคอขนาดนี้ “ตอนนี้เราอยู่ในป่า อาจจะต้องกรี๊ดกันเบา ๆ ลงหน่อย”

   “ก็ว่างั้นแหละ” ริปลีย์เอ่ยพร้อมกับยื่นให้ลิเลียน่าอ่านต่อเพื่อพักสายตา

   ฮือฮา! วงในค่ายฮาล์ฟบลัดตาแตก! "ลอร์ร่า" กับ "เจโรม" สอนว่ายน้ำประสา(ว่าที่)แฟน!? — คู่พี่ชายเธอนี่?”

   “ใช่น่ะสิ อ่านเร็วเข้า ๆๆ”

   “ได้ๆ— แหล่งข่าวรายงานด่วน! คู่จิ้น เอ๊ย! คู่เพื่อนร่วมค่ายสุดฮอต ลอร์ร่า แทนเนอร์ และ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน ทำเอาเหล่าเดมิก็อดหัวใจว้าวุ่นกันอีกแล้วค่ะ! คราวนี้ไม่ได้แค่เดินควงคู่ หรือซ้อมดาบด้วยกัน แต่เป็นการ "สอนว่ายน้ำ" ที่ทำเอาต่อมเผือกทำงานหนักมาก!

   โอบเอวใต้น้ำ จูบกลางสระ!? เรื่องมันมีอยู่ว่า เจโรมอาสารับบทครูสอนว่ายน้ำจำเป็นให้กับลอร์ร่าค่ะคุณผู้ชม! บรรยากาศก็เริ่มจากอบอุ่นๆ มีการ โอบเอวโอบไหล่ ตามประสาคนสอนคนเรียน... แต่! ไฮไลท์มันอยู่ที่ตอนดำน้ำนี่แหละค่ะ!

   มีคนเห็น (ด้วยตาเนื้อ หรือตาในอันบริสุทธิ์ก็มิอาจทราบได้) ว่าขณะที่ลอร์ร่าท่าทางจะหมดลมหายใจใต้น้ำ เจโรมสุดหล่อของเราก็ไม่รอช้าค่ะ! เข้าไป "เติมลม เติมอากาศ" ให้น้องด้วยวิธี ปากประกบปากแบบเนียนๆ!!! โอ๊ยยยยยยย! นี่มันฉากในละครรักวัยรุ่นชัดๆ! แบ่งอากาศ หรือแบ่งใจคะคุณพี่!?

   จับเสื้อแน่น... สัญญาณอะไรเอ่ย?

   ทางฝั่งลอร์ร่าก็ดูเหมือนจะตกใจกับเหตุการณ์ "ช่วยชีวิต" ใต้น้ำครั้งนี้อยู่ไม่น้อยนะคะ แต่ที่น่าสนใจคือ มือค่ะมือ! ถึงจะดูเหมือนตกใจประหนึ่งว่าถูกฉวยโอกาส (หรือเปล่า?) แต่มือน้อยๆ ของเธอกลับ กำชายเสื้อเจโรมแน่น ไม่ปล่อยเลยค่ะคุณ! นี่มันสัญญาณอะไรกันคะเนี่ย!? กลัวจมน้ำ หรือกลัวเสียคนข้างกายกันคะสาว!?

   งานนี้ทำเอาชาวค่ายต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า การสอนว่ายน้ำครั้งนี้มันช่าง "ไม่ธรรมดา" เสียแล้ว! จากเพื่อนร่วมค่าย จะเลื่อนขั้นเป็นแฟนเมื่อไหร่ ก็คงต้องตามลุ้นตามเชียร์กันต่อไปนะคะ! แต่ที่แน่ๆ บรรณาธิการขอฟันธงตรงนี้เลยว่า... เคมีคู่นี้มันแรงจนฉุดไม่อยู่แล้วค่าาาา! #ลอร์ร่าเจโรม #คู่จิ้นเรือหลวง #สอนว่ายน้ำหรือสอนใจ”


   “กรี๊ดดดดด— อัดอั้นอ่ะ ฉันอยากเอาไปเล่าให้พ่อฟัง พี่ชายฉันมันร้ายกาจ !”

   “เบาหน่อยริปลีย์” ลิเลียน่ารีบเอานิตยสารยัดมือริปลีย์ “ข่าวต่อไปก็ข่าวพี่ชายเธอนะ อ่านเร็ว”

   “ได้!!! — วงในสะเทือนแคมป์! “คู่ขวัญน้ำ-องุ่น” เจโรม ปาร์ค ซึงยอน และ ลอร์ร่า แทนเนอร์ แอบเดตฟาสต์ฟู้ด! น้ำองุ่น ชื่อคู่จิ้นน่ารักชะมัด”

   “โอลิมปัสแทบแตกเมื่อวานนี้! แหล่งข่าววงในจากค่ายลูกครึ่งเทพ ชื่อย่อแม่มด N. กระซิบมาว่า มีการพบเห็นคู่ที่คาดไม่ถึง นั่นคือ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน บุตรแห่งโพไซดอน (รุ่นพี่หนุ่มหล่อสุดคูลที่ไม่เคยมีข่าวสวีทกับใครจริงจัง) และ ลอร์ร่า แทนเนอร์ ธิดาแห่งไดโอนีซุส (สาวน้อยสดใสเจ้าของเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์) กำลังนั่งกินเบอร์เกอร์คู่กันอย่างสบายอารมณ์ที่ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง "ฟาสต์ใจ"!

   เดตลับ(?) หรือไม่ลับ?: พยานเผยรายละเอียดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ!

   พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทั้งคู่มาถึงร้านพร้อมกัน ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร แต่ก็ไม่ได้ออกตัวแรงจนเป็นที่โจ่งแจ้ง พี่เจโรมยังคงมาในมาดหน้านิ่งๆ สายคูลตามสไตล์บุตรแห่งโพไซดอน ส่วนสาวลอร์ร่าก็ดูสดใส ร่าเริง และหัวเราะเก่งจนบรรยากาศรอบๆ ร้านกลายเป็นฉากในละครโรแมนติกเบาๆ ไปโดยปริยาย!

   แต่ที่ทำให้เหล่าขาเผือกต้องตาลุกวาวยิ่งกว่าเทพเฮเฟตัสเห็นเหล็กหลอมแดง ก็คือโมเมนต์สุดคิวท์ตอนที่ทั้งสองผลัดกันจิ้มซอสเฟรนช์ฟรายส์ให้กัน! โอ๊ยยยยยย นี่มันอะไรกันคะพี่! พ่อหนุ่มคลื่นยังใจดีแอบเอาทิชชู่ซับมุมปากให้สาวน้อยองุ่นอีกด้วย! ใครไหวไปก่อนเลยค่ะ! เฮอร์มีสไม่ไหวจะยืนแล้ว!

   สถานะความสัมพันธ์: แฟนคลับฟันธง "คบหาดูใจ" แน่ๆ!

   แม้ว่าทั้งเจโรมและลอร์ร่าจะยังไม่มีการออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่เหล่าแฟนคลับนักสืบและขาเผือกทั้งหลายต่างเทใจไปทาง "คบหาดูใจ" กันถ้วนหน้า! เพราะเคมีที่แผ่ออกมาระหว่างทั้งคู่นั้นมันเกินต้านทานจริงๆ! สายตาที่มองกันและรอยยิ้มที่มอบให้กันนั้นมันฟ้องว่านี่ไม่ใช่แค่ "สหาย" ในค่ายอย่างแน่นอน! บางคนก็ลือกันว่านี่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกว่านั้น เช่น "พี่น้องค่ายที่เริ่มรู้สึกพิเศษต่อกัน" ก็เป็นได้! แต่ไม่ว่าจะแบบไหน ความหวานก็พุ่งปรี๊ดดด!

   ทำไมถึงคิดว่าเกินเพื่อน? หลักฐานมัดแน่น!

   - สถานที่เกิดเหตุ: ร้าน "ฟาสต์ใจ" ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมตัวของเด็กค่ายลูกครึ่งเทพที่ต้องการความรวดเร็วและไม่ต้องการความยุ่งยาก ไม่ใช่สถานที่สำหรับการคุยงานหรือพบปะแบบเป็นทางการเลยแม้แต่น้อย! มันคือที่สำหรับเดตง่ายๆ สบายๆ ชัดๆ!
   - การดูแลที่เหนือความคาดหมาย: พี่เจโรม ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคูลและไม่เคยดูแลใครออกนอกหน้า กลับแสดงความใส่ใจถึงขั้นซับปากให้ลอร์ร่า และยังนั่งรอสาวเจ้ากินขนมจนอิ่มถึงค่อยลุกเดินไปพร้อมกันอีก! นี่มันไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมค่ายแล้วแม่!
   - อาการออกนอกหน้า: ลอร์ร่าดูเขินอายอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยิ้มไม่หยุดตลอดเวลา! อาการแบบนี้มีเพียงคนที่มีความสุขมากๆ และกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรักเท่านั้นที่จะแสดงออกมาได้!

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   แม้จะต้องรอลุ้นแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากปากของบุตรแห่งโพไซดอนและธิดาแห่งไดโอนีซุส แต่ตอนนี้ทีมข่าวโซเชียลของเฮอร์มีสขอให้คะแนนความหวานของคู่นี้ไปที่ 8.5/10 แล้วจ้า!

   #ทีมเจโรมลอร์ร่า #ฟาสต์ใจหวานกว่าโค้ก รับรองว่าคู่ขวัญน้ำกับองุ่นคู่นี้จะกลายเป็นทอล์คออฟเดอะแคมป์ไปอีกนาน! เฮอร์มีสขอตัวไปสืบข่าวต่อ แล้วจะนำความคืบหน้ามาบอกทุกคนอย่างรวดเร็วแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “เธอว่าเขาคบกันยังอ่ะ” ลิเลียน่าที่นั่งเท้าคางฟังรู้สึกสงสัยขึ้นมา

   “ความจริงอ่ะ ไม่รู้ แต่ที่ใจอยากเชื่อคือเขาคบกันเว่ย” ริปลีย์ยื่นไปให้ลิเลียน่าอ่านต่อ

   “ด่วน! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ บุตรแห่งแอรีส กับ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที: สนามฝึกกลายเป็นเวทีรัก!?”

   “Shottomattegudasai— ใครนะคะ ไนมีเรีย ??” ริปลีย์ถึงกับถลึงตา “ไหนอ่านต่อเร็ว”

   “เมื่อวานนี้ มีรายงานตรงมาจากทีมเผือกประจำโอลิมปัสว่า สนามฝึกของเราได้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น! เมื่อพบภาพสุดช็อกที่ทำให้ทั้งแคมป์ต้องตกตะลึงอ้าปากค้าง! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ บุตรแห่งแอรีส รุ่นพี่ขาโหด ผู้ขึ้นชื่อเรื่องหน้าดุ คิ้วขมวด และไม่มีใครกล้าหือ... ดั๊น! ยอมให้ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที แม่มดสาวผู้ลึกลับแห่งค่าย กับจังหวะ "ฝึกลมหายใจแนบเนื้อ" ที่ชวนให้ใจระทึก!

   พยานวงในเผย: โมเมนต์สุดแปลกตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!

   พยานในเหตุการณ์เล่าว่า สองคนนี้ไม่ได้แค่เดินผ่านสนามไปเฉยๆ นะจ๊ะ แต่ยังหยุดคุยกันนานมากจนผิดสังเกต! ที่สำคัญคือ ไนมีเรียยังแอบยื่นอะไรบางอย่างให้พี่เลเวอเรทท์แบบลับๆ ราวกับร่ายเวทมนตร์ใส่! และที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือ พี่เลเวอเรทท์กลับยืนฟังอย่างตั้งใจ! ไม่ใช่สไตล์ของเขาเลยนะพูดตรงๆ! ปกติแล้วพี่แกไม่เคยยอมยืนฟังใครนานขนาดนี้!

   และไฮไลท์ของงานที่ทำให้ทีมข่าวกรี๊ดสลบก็คือ... หลังจากคุยกันเสร็จ พี่เลเวอเรทท์ยังสวม "หมวกกันน็อกลายเดียวกับแจ็กเก็ต" ที่เพิ่งได้ไปใส่อวดโฉมให้คนริษยาเล่นอีกด้วย! อู้ววววว นี่มันชัดเจนยิ่งกว่าน้ำทะเล!

   ทีมข่าวโซเชียลของเฮอร์มีสขอให้คะแนนความหวานแบบไม่แสดงออกของคู่นี้อยู่ที่ 7/10 เลยทีเดียว! 💥 เพราะหลายคนกระซิบกันให้แซ่ดว่า ทั้งคู่น่าจะกำลัง "กุ๊กกิ๊กแบบไม่ประกาศออกสื่อ" อย่างแน่นอน! ด้วยบุคลิกของพี่เลเวอเรทท์ที่ดูจริงจังไม่เล่นๆ และไนมีเรียที่ดูมีความลับเยอะ แต่สายตาที่ทั้งคู่มองกันนั้นมันฟ้อง! มันมี "ซัมติง" ชัดเจน!

   อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกระแสที่แย้งว่า นี่อาจเป็นเพียง "ความสัมพันธ์ซับซ้อนสายเวท-สายบู๊" ที่ทั้งคู่ช่วยกันซ้อมหรือปรึกษากันเรื่องเวทมนตร์และยุทธวิธีเท่านั้น... แต่เฮอร์มีสขอบอกเลยว่า "เคมีมันก็ฟ้องแรงอยู่เด้อ!"

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   งานนี้ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะเป็น "คู่ปรับ" หรือ "คู่รัก" แห่งสนามฝึก! ⚔️🔮 แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ #ทีมเผือกเชียร์เลเวอมีเรีย เต็มสนามแล้วจ้าาา! #สนามฝึกก็เป็นสีชมพูได้ #ลูบหัวแล้วต้องรับผิดชอบนะพี่

   เฮอร์มีสขอตัวไปสืบข่าวรักๆ ใคร่ๆ ของเหล่าลูกครึ่งเทพต่อ แล้วจะรีบนำข่าวมาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “OH MY GOD– พี่สาวคนสวยของฉันมีข่าวหรอเนี่ย”

   “หลายข่าวด้วยนะประเด็น อ่านเร็ว” ลิเลียน่ายื่นให้ริปลีย์อ่าน

   “Breaking News! เลเวอเรทท์ บุตรแห่งแอรีส และ ไนมีเรีย ธิดาแห่งเฮคาที: สถานะ "กำลังดูใจ / จีบแบบแอบชอบแต่ทำทรง" ชัดเจนยิ่งกว่าสายฟ้าของซุส!

   เฮอร์มีสขอประกาศอย่างเป็นทางการ! จากการสอดส่องและรวบรวมพยานหลักฐานจากทั่วทุกมุมของค่าย (และเชื่อถือได้ยิ่งกว่าคำทำนายของออราเคิลเสียอีก!) ข้าพเจ้าขอฟันธงว่า เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ บุตรแห่งแอรีส และ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที กำลังอยู่ในสถานะ "กำลังดูใจ หรือจีบกันแบบแอบชอบแต่ทำทรง" อย่างแน่นอน!

   เพราะอะไรถึงกล้าฟันธงขนาดนี้? มาดูหลักฐานที่เฮอร์มีสได้รับมา!

   เรื่องราวสุดเขินอายนี้เกิดขึ้นในคาบเรียนแห่งหนึ่ง และมันทำให้เฮอร์มีสถึงกับต้องเอามือทาบอก!
   - บุตรแห่งแอรีสผู้แข็งแกร่งยอมอ่อนข้อ: ใครๆ ก็รู้ว่า เลเวอเรทท์ บุตรแห่งแอรีสของเรานั้น แข็งแกร่งยิ่งกว่าก้อนหิน! ปกติเขาไม่เคยยอมใคร และยิ่งเรื่องจีบสาวนี่ไม่ต้องพูดถึง! แต่แล้ววันนี้ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! มีการ "ส่งขนมให้กัน" ในคาบเรียน! โอ้โห! นี่มันไม่ใช่แค่การแบ่งปันธรรมดานะจ๊ะ! การที่ระดับพี่เลเวอเรทท์จะ "ให้ของ" กับใครได้ง่ายๆ แบบนี้ ไม่เคยมีมาก่อน! นี่มันสัญญาณของใจที่เริ่มอ่อนยวบลงแล้ว!
   - คำพูดสวนทางกับการกระทำที่ทำเอาโลกสะเทือน: และสิ่งที่ทำให้เฮอร์มีสถึงกับต้องหลุดขำ (แต่ต้องรีบหุบปากเพราะกลัวโดนลูกหลง) ก็คือ การตะโกนปิดท้ายว่า "ใครบอกว่าไม่ชอบขี้หน้า!" ณ สนามฝึก! ลองคิดดูสิ! มีหรือที่ระดับพี่เลเวอเรทท์จะ "เสียอาการ" ขนาดกำหมัดด้วยความเจ็บปวด (หรือความเขินอาย?) แล้วตะโกนเสียลั่นสนามฝึกขนาดนั้น! เฮอร์มีสผู้นี้ได้ยินมาเต็มสองหู เห็นมาเต็มสองตา! จังหวะที่เอาขนมมาให้น่ะชัดเจนมาก! การปฏิเสธแบบนี้แหละคือการยอมรับที่แท้จริง!
   - ดอกไม้แห่งหัวใจหินผาที่ถูกทำลาย! แถมยังมีข่าวแว่วมาอีกว่า สาวเจ้าได้ "ให้ดอกไม้" กันด้วยนะ! ดอกไม้ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่ "เยอะแยะ" เลยทีเดียว! โอ๊ย! นี่มันเกินเพื่อนแล้วจ้ะแม่จ๋า! ใครจะคิดว่าหัวใจหินผาของบุตรแห่งแอรีสจะถูกทำลายลงได้ง่ายๆ ด้วยดอกไม้และความน่ารักของธิดาแห่งเฮคาที! เฮอร์มีสคนนี้แทบจะตายอยู่แล้วที่ยังไม่มีใครให้ดอกไม้เลย! นี่แสดงว่าไนมีเรียได้ "คว้าหัวใจ" ของเลเวอเรทท์ไปครอบครองเรียบร้อยแล้วคร่าาาา! มีคนทำลายหัวใจหินผาได้แล้ว!

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   แม้ว่าทั้งคู่จะยังคง "ทำทรง" ไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่หลักฐานทั้งหมดนี้มันชัดเจนยิ่งกว่าดวงอาทิตย์! เลเวอเรทท์ ที่ไม่เคยมีข่าวเรื่องความรักเลย กำลังแสดงอาการที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออยู่กับ ไนมีเรีย! และปฏิกิริยาของเขาในวันนี้คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด!

   งานนี้เฮอร์มีสขอปรบมือให้ ไนมีเรีย ที่สามารถทำให้บุตรแห่งแอรีสผู้แข็งกระด้างต้องเสียอาการได้ขนาดนี้! ขอให้ทีมเผือกทุกคนเฝ้ารอข่าวดีอย่างเป็นทางการจากคู่นี้ได้เลย! #ทีมเลเวอไนมีเรีย #หัวใจหินผาละลายแล้ว #จีบแบบปากแข็ง

   เฮอร์มีสขอตัวไปสืบเรื่องราวความรักของเหล่าลูกครึ่งเทพต่อ แล้วจะนำข่าวที่แซ่บกว่านี้มาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!”

   “เฮอร์มีสรายงาน: "ไฮด์" เพื่อนซี้ (ที่ทำตัวแปลกไปแล้ว) กำลังมี "ซัมติง" กับ "ไนมีเรีย" ธิดาแห่งเฮคาที!

   เมื่อคืนนี้ บอกตรงๆ ว่าพวกเราเพื่อนๆ ของไอ้ไฮด์ถึงกับต้องขยี้ตาแล้วถามตัวเองว่า "นี่มันลมหนาวจากขั้วโลก หรือพลังน้ำแข็งจากเพื่อนเรากันแน่วะเนี่ย!" เพราะจู่ๆ ไฮด์ ฟีโอดอร์ โวลเทียเคอร์ซาคอฟ (ไอ้หนุ่ม 36 บุตรแห่งคิโอเน่ ที่ปกติโคตรเย็นชาและไม่เคยชายตาแลใคร) ดันไปโผล่อยู่กลางสนามซ้อม ในจังหวะเดียวกับที่ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที (แม่มดสาวเจ้าเสน่ห์ที่แค่ยิ้มทีก็เหมือนโดนสะกดจิตแล้ว) เดินมา!

   จากที่พวกเราแอบสอดแนมมาได้ (ในฐานะเพื่อนที่หวังดีและอยากรู้!) พยานหลายคนเล่าตรงกันว่าไอ้ไฮด์น่ะมันเงียบกริบตามสไตล์คนเย็นชาของมันแหละ แต่ที่แปลกคือ! พอไนมีเรียเดินมาใกล้ๆ มันกลับยอมเอ่ยปากพูดก่อน! (เฮ้ย! นี่มันผิดปกติมากๆ นะเว้ย!) แถมยังยืนคุยกันยาวนานแบบไม่แคร์สายตาใครเลยอะ! จนเพื่อนข้างๆ อย่างพวกเราต้องแอบชะโงกดูแล้วสงสัยว่า "นี่มันคุยอะไรกันวะ?"

   ช็อตเด็ดบาดใจ! ที่ทำให้พวกเราแทบหงายหลัง!

   และไฮไลท์ที่ทำให้พวกเราแทบอยากจะวิ่งไปเขย่าตัวไอ้ไฮด์แล้วถามว่า "มึงเป็นอะไรไป๊!" ก็คือตอนที่ ไนมีเรียเอามือแตะที่แขนของไฮด์เบาๆ แล้วเหมือนจะส่งยันต์หรือกระดาษเวทอะไรสักอย่างให้! ไอ้ไฮด์มันดัน "ก้มลงมองด้วยสายตาที่เหมือน... เขิน!?" โอ้โห! นี่มันคืออาการของไอ้ไฮด์ที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต! พวกเรานี่แทบหงายหลังกันเลยทีเดียว!

   สถานะความสัมพันธ์ที่เพื่อนๆ อย่างเราต้องตีความเอง!

   ถ้าให้พวกเราเพื่อนๆ ของไอ้ไฮด์ตัดสินสถานะของคู่นี้ตอนนี้ พวกเราขอเรียกว่า "ความสัมพันธ์ซับซ้อนที่มีประกายไฟลับๆ อยู่ใต้หิมะ!" เพราะไอ้ไฮด์มันดูโคตรเย็นชา แต่ดันไม่ปฏิเสธที่จะอยู่ใกล้ๆ กับไนมีเรีย! แถมแม่มดน้อยไนมีเรียก็เล่นมองมันด้วยสายตาหวานเชื่อมตลอดเวลา! นี่มันไม่ใช่เพื่อนร่วมค่ายธรรมดาๆ แล้วนะเว้ย!

   ทำไมพวกเราถึงคิดว่ามันเกินเพื่อน!?
   - เปลี่ยนไปเพราะเธอ: ปกติไอ้ไฮด์มันเป็นคนเงียบๆ เย็นชา แล้วก็ชอบถอยห่างจากทุกคน แต่กับไนมีเรีย... มันยอมพูด! นี่มันไม่ใช่ไอ้ไฮด์คนเดิมแล้ว!
   - ยอมให้แตะตัว: ไนมีเรียหยิบยันต์ให้มัน พร้อมกับแตะตัวมัน! ไอ้ไฮด์มันก็ไม่ได้ปัดออก! แถมยังมองเธอนานเกินปกติอีก! นี่มันอาการตกหลุมรักชัดๆ!
   - คุยนานเกินเบอร์: พวกมันคุยกันนานมาก! จนพวกเราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านี่พวกมันซ้อมเวทมนตร์กันจริงๆ หรือกำลังจีบกันอยู่กันแน่!

   สรุปจากพวกเราชาวแก๊งค์เพื่อนของไฮด์:
   บอกเลยว่าค่ายนี้ตอนนี้มันร้อนๆ หนาวๆ สลับกันไปเพราะคู่นี้แหละค่ะ/ครับ! หนาวจากพลังของไอ้ไฮด์ แต่ร้อนฉ่าจากเคมีของไนมีเรีย! พวกเราเพื่อนๆ ขอ #ทีมเผือกเอาใจช่วย ไอ้ไฮด์ให้มันจีบสาวสำเร็จนะ! แล้วก็อยากรู้จริงๆ ว่าต้องเก่งแค่ไหนถึงจะ #สะกดใจพี่น้ำแข็งได้!

   เฮอร์มีสในฐานะเพื่อนขอจบข่าวเพียงเท่านี้ แล้วจะไปสอดแนมความสัมพันธ์ของคู่นี้มาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “เอาล่ะ ข้ามข่าวอื่นไปอ่านข่าวของพี่สาวบ้านเฮคาทีก่อน เธอมีอัพเดตล่าสุดไหมลิเลียน่า”

   “มีสิ ๆ” ลิเลียน่าเอ่ยพร้อมกับไถโทรศัพท์สุดพิเศษของเธอ “นี่ ๆ ฉบับล่าสุดอัพเดตแล้วเดี๋ยวฉันอ่านให้ฟังนะ”

   เฮอร์มีสรายงานพิเศษ! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ บุตรแห่งแอรีส: หนุ่มฮอตตัวจริง หรือมี "นักข่าวปริศนา" แอบชอบอยู่เบื้องหลังข่าว!?

   เรียกได้ว่านาทีนี้ไม่มีใครฮอตเกินกว่า เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ บุตรแห่งแอรีส ผู้รับหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนในค่ายฮาล์ฟบลัดอีกแล้ว! นับตั้งแต่ที่เขากลับมา เขาก็กลายเป็นขวัญใจของสาวๆ ไปแล้วนับไม่ถ้วน! แต่คำถามที่เฮอร์มีสผู้นี้ (และสำนักข่าวเฮอร์มีสของเรา) สงสัยเหลือเกินก็คือ... มี "นักข่าวปริศนา" คนไหนกันแน่ที่ "แอบชอบ" หนุ่มคนนี้อยู่ ถึงขั้นสรรสร้างข่าวลือออกมาไม่เว้นแต่ละวัน!?

   ทำไมถึงคิดว่ามีคนแอบชอบ? มาดูหลักฐานกัน!
   - ข่าวลือสนั่นวงการเดท: เริ่มต้นจากข่าวลือในแวดวงแอปเดท LoveFind ที่ระบุว่า เลเวอเรทท์ได้ "แมทช์" กับสาวสวยต่างค่ายอย่าง เดนิสต้า นอร์ทาร่า ดาวรุ่งของกองร้อยที่หนึ่งประจำค่ายจูปิเตอร์! โอ้โห! นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะ!
   - กุ๊กกิ๊กกับขวัญใจหนุ่มๆ: ตามมาติดๆ กับข่าวกุ๊กกิ๊กสุดร้อนแรงกับ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที ขวัญใจหนุ่มๆ ภายในค่ายฮาล์ฟบลัด! แถมยังมีโมเมนต์สบตาจิกกัดประหนึ่งว่าเป็นคู่รักที่หลุดออกมาจากนิยายแนว Dark Romance! นี่มันยิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก!
   - อ่อนโยนใส่ใจธิดาไดโอนีซุสเป็นพิเศษ: และล่าสุด! ยังไม่พอ! มีข่าวแอบกระซิบมาว่า ถึงแม้ดวงตาจะคมเข้ม แต่เลเวอเรทท์กลับแสดงความอ่อนโยนและใส่ใจเป็นพิเศษกับ ลอร์ร่า แทนเนอร์ ธิดาแห่งไดโอนีซุส! เอ๊ะๆ หรือว่าเรื่องนี้จะมีซัมติงใต้น้ำ? แล้วแบบนี้จะมีฉากปะทะของบุตรแห่งโพไซดอน (ที่เพิ่งมีข่าวกับลอร์ร่าไปไม่นาน) กับบุตรแห่งแอรีสหรือไม่? งานนี้เฮอร์มีสต้องรอติดตามชมอย่างใกล้ชิด!

   เจ้าตัวออกมาปรี๊ด! แต่สำนักข่าวเฮอร์มีสไม่ยอมหยุด!

   แต่ถึงแม้เจ้าตัวอย่าง เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ จะออกมา "ปรี๊ดวีนแตก" ว่าทั้งหมดเป็นเพียงการ "เต้าข่าว" เท่านั้น! ทางสำนักข่าวเฮอร์มีสก็ขอระบุว่า "จริงเท็จยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งตัดสิน!"

   เพราะจนถึงตอนนี้ เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ ก็ยังคงเป็นที่จับตามองอยู่เรื่อยๆ จากผู้เสนอข่าวหลายท่าน... หรือว่า! ที่จริงแล้ว จะมี "สาวน้อยฝันหวาน" คนไหนกันแน่ที่แอบชอบเขาอยู่ แล้วใช้วิธีแสดงออกผ่านการปล่อยข่าวเหล่านี้!?

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   ไม่ว่าข่าวลือเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ หรือใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวกันแน่! สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ ได้กลายเป็นหนุ่มฮอตที่สุดในค่ายไปแล้วเรียบร้อย! ส่วนนักข่าวปริศนาที่กำลังปั่นข่าวนี้อยู่นั้น เฮอร์มีสขอปรบมือให้ในความพยายาม!

   จะเป็นอย่างไรต่อไป? ต้องติดตามชม! #เลเวอเรทท์หนุ่มฮอต #ใครคือเจ้าของข่าวลือ #นักข่าวปริศนาแอบชอบ

   เฮอร์มีสขอตัวไปสืบสาวราวเรื่องต่อ แล้วจะนำความคืบหน้ามาบอกทุกคนอย่างรวดเร็วแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “พี่สาวฉันฮอตสุด ๆ —”

   “เท่าที่เห็นตอนนี้น่าจะครบของข่างคุณไนมีเรียแล้วน่ะนะ”

   “งั้นลองดูข่าวอื่นที่เรายังไม่อ่านกัน” ริปลียเปิดนิตยสารมาอ่านบ้าง

   “ด่วน! แอนนาเบ็ธ เชส โพสต์ถึงเพอร์ซีย์ แจ็กสัน! เผยสถานะ "สมองสาหร่าย" กำลังติดภารกิจใต้น้ำ!

   สวัสดีเหล่าลูกครึ่งเทพและแฟนคลับทุกท่าน! เฮอร์มีสผู้นี้แอบสอดส่องโซเชียลเนคทาร์ (โซเชียลมีเดียของทวยเทพและลูกครึ่งเทพนั่นแหละจ้ะ) แล้วก็ไปเจอโพสต์เด็ดจาก แอนนาเบ็ธ เชส ธิดาแห่งอะธีน่า ที่ทำเอาหลายคนต้องอมยิ้มและสงสัยถึงสถานะของคู่ขวัญแห่งค่าย!

   เมื่อวานนี้ (10 กรกฎาคม 2025 เวลา 21:23 น.) แอนนาเบ็ธได้โพสต์ภาพตัวเองกำลังลอยตัวอย่างสบายอารมณ์อยู่ในน้ำ พร้อมข้อความชวนคิดถึงว่า: "ลอยตัวอยู่ในน้ำแบบนี้แล้วคิดถึงนายจัง @เพอร์ซีย์ แจ็กสัน ถึงจะชอบน้ำทะเลของนายมากกว่าที่เกาะ 😌 หวังว่างานจะไปได้สวยนะ!"

   แค่นี้ก็กรี๊ดแล้วใช่ไหมล่ะ!? แต่เฮอร์มีสก็ไม่พลาดที่จะเจาะลึกเข้าไปในวงในและได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจมากๆ! มีคนถามถึงอาการของเพอร์ซีย์ว่าเมื่อไหร่จะมาพักผ่อนบ้าง? และแอนนาเบ็ธก็ตอบกลับมาว่า:

   "นั่นสิ ฉันก็อยากให้นายสมองสาหร่ายมาพักบ้างเหมือนกันนะ! แต่ตานั่นเขากำลังสนุกกับการสำรวจซากโบราณใต้ทะเลที่เพิ่งค้นพบน่ะสิ ตอนนี้ยังนำทีมขุดค้นอยู่เลย สงสัยคงยังกลับมาค่ายไม่ได้ง่ายๆ หรอก 😅"

   สรุป: แม้ว่าเพอร์ซีย์จะยังคงติดงานใต้ท้องทะเลลึก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแอนนาเบ็ธยังคงแข็งแกร่งและอบอุ่นอยู่เสมอ! เหล่าลูกครึ่งเทพและแฟนคลับคงต้องอดใจรอกันอีกหน่อยกว่าจะได้เห็นทั้งคู่กลับมาอยู่ด้วยกันที่ค่าย!

   #พักผ่อนคลายๆ #คิดถึงคนไกล #ธิดาแห่งอะธีน่ามีมุมนี้

   เฮอร์มีสขอตัวไปสอดแนมข่าวสารบนโซเชียลเน็คทาร์ต่อ แล้วจะนำข่าวดีๆ มาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “ฮือฮา! ทีม "พลังเหมันต์อ่อนแรง" นำโดย เอโลอิส เพจ, คาเรน ริทซ์ และ แจสเปอร์ ซู สถานะยืนยัน: "กลุ่มเพื่อนรักซี้ย่ำปึ้ก" ที่แท้ทรู!

   ข้า เฮอร์มีส ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ทีมภารกิจคำทำนาย "พลังเหมันต์อ่อนแรง" ที่ประกอบไปด้วย เอโลอิส เพจ (หัวหน้าทีมสายเลือดเทพเฮเฟตัส), คาเรน ริทซ์ (ธิดาแห่งเทพีไทคี), และ แจสเปอร์ ซู (บุตรแห่งแอรีส) นั้น แม้จะดูเหมือนเริ่มต้นอย่างกระท่อนกระแท่น แต่ ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าขอฟันธงว่าพวกเขาได้พัฒนาไปสู่สถานะ "กลุ่มเพื่อนรักซี้ย่ำปึ้ก" อย่างไม่มีข้อกังขา!

   เพราะอะไรถึงคิดเช่นนั้น? มาดูเหตุผลที่เฮอร์มีสสืบมาได้!

   ภารกิจ "พลังเหมันต์อ่อนแรง" ที่เริ่มต้นด้วยความทุลักทุเล (และดูท่าว่าจะทุลักทุเลไปเรื่อยๆ) กลับกลายเป็นบทพิสูจน์มิตรภาพและทีมเวิร์คได้อย่างน่าประหลาดใจ!
   - คาเรน ริทซ์: ป้าบ่นสายซัพพอร์ตสุดป่วน! แม้ว่าคาเรน ริทซ์ จะเป็นมนุษย์ป้าขี้โวยวาย ขี้บ่น ขี้วีน ตามประสา แต่ใครจะรู้ว่า "กระเป๋าวิเศษสีรุ้งสารพัดนึก (แต่ใส่ของได้ไม่จำกัดเชียวนะ)" ของเธอนั้นคือขุมทรัพย์ของทีม! มันจุของได้มหาศาล (อาจจะมากกว่าร้านสะดวกซื้อของค่ายฮาล์ฟบลัดเสียอีก!) และเต็มไปด้วยของอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อทีม (หรือเปล่า?) มากมาย! และด้วยสายเลือดของเทพีไทคี (เทพีแห่งโชคชะตา) หรือไม่ก็ไม่ทราบได้ เธอกลับนำพาทีมให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอุปสรรคต่างๆ อย่างปาฏิหาริย์! นี่แหละคือป้าบ่นที่มีประโยชน์!
   - แจสเปอร์ ซู: หนุ่มบู๊ใสซื่อหัวใจทึบ! แจสเปอร์ ซู ชายหนุ่มคนเดียวของทีม แม้จะดูใสซื่อและหัวทึบไปบ้าง แต่ทักษะการต่อสู้ของเขานั้นไม่เป็นสองรองใคร! สมศักดิ์ศรีบุตรแห่งแอรีสโดยแท้! เขาเป็นกำลังสำคัญให้แก่ทีมได้เป็นอย่างดี ป้องกันภัยให้เพื่อนๆ ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง!
   เอโลอิส เพจ: มันสมองผู้เป็นศูนย์กลาง! และสุดท้ายคือ เอโลอิส เพจ หัวหน้าทีมผู้มีสายเลือดแห่งเทพเฮเฟตัส ผู้ดูเหมือนจะเป็นคนปกติที่สุดในกลุ่ม เธอคือมันสมองที่แท้จริงของทีม ที่คอยวางแผนและนำพาทีมให้เดินทางได้อย่างเป็นรูปเป็นร่าง ไม่หลงทางไปในความป่วนของเพื่อนร่วมทีม!

   หลักฐานล่าสุด: "ยำยำช้างน้อยกรุบกรอบร่วมสาบาน" กลางแปซิฟิก!

   หลักฐานชิ้นล่าสุดที่เฮอร์มีสได้รับมาคือ ตอนนี้ทั้งสามกำลังเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย "เรือมินิบานาน่าสุดไฮเทค" และที่สำคัญคือ พวกเขากำลังกิน "ยำยำช้างน้อยกรุบกรอบร่วมสาบาน" ซึ่งเป็นอาหารฉุกเฉินประจำชาติบ้านเกิดของป้าคาเรนร่วมกัน!

   การที่พวกเขาแบ่งปันอาหารฉุกเฉินชนิดนี้ ซึ่งปกติเป็นเสบียงส่วนตัวที่หวงแหนกันยิ่งกว่าสมบัติล้ำค่าบนโอลิมปัส แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้ก้าวข้ามสถานะเพื่อนร่วมภารกิจธรรมดาๆ ไปแล้ว! จากนี้ไป ทั้งสามคนได้ชื่อว่า "ลงเรือลำเดียวกัน พร้อมร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันแล้วนะ!" นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่แข็งแกร่ง!

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   การเดินทางครั้งนี้ยังอีกยาวไกลนัก แต่เฮอร์มีสและชาวโอลิมปัสทุกคนขอร่วมส่งกำลังใจให้ทีม "พลังเหมันต์อ่อนแรง" นี้ ให้ทำภารกิจสำเร็จและกลับมาอย่างปลอดภัย! มาร่วมเอาใจช่วย #ทีมเพื่อนรักป่วนภารกิจ ไปด้วยกันนะจ๊ะ!

   ขอให้ทวยเทพอวยพร! เฮอร์มีสขอตัวไปส่งข่าวสารอื่นๆ ต่อ แล้วจะกลับมาพร้อมอัปเดตใหม่ๆ อย่างแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “เท่าที่เห็นก็มีเท่านี้แล้ว ลิเลียน่า ในโทรศัพท์เธอมีอีกไหม”

   “มีสิ ข่าวสุดท้ายแล้ว”

   “วิกฤตถังแตกในค่ายฮาล์ฟบลัด! เดดาลัส เจ้าของร้านอุปกรณ์ไฮเทค เผยกลยุทธ์ "คืนกำไร" ท่ามกลางเสียงโอดครวญของเหล่าเดมิก็อด!

   คนจนมีสิทธิ์ไหมครับ~ คนจนมีเสียงไหมครับ~ มีอะไรให้ทำไหมครับ~ มีงานให้ทำไหมครับ~

   เฮอร์มีสผู้นี้ขอฟันธงว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เดดาลัส เจ้าของร้านอุปกรณ์ล้ำยุคชื่อดัง และ เหล่าเดมิก็อดถังแตกทั้งหลาย นั้น ยังคงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งในฐานะ "พ่อค้า-ลูกค้า"! แม้ว่าสถานการณ์การเงินของลูกค้าส่วนใหญ่จะย่ำแย่ถึงขั้นวิกฤต!

   เพราะอะไรถึงคิดเช่นนั้น? มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น!

   จากกิจกรรมใหม่ล่าสุดที่ดูเหมือนจะมาเพื่อเยาะเย้ยเหล่าเดมิก็อดผู้ขาดแคลนดรักม่า นั่นคือกิจกรรม "แต่งโปรไฟล์ Social Nectar" ใครแต่งสวยที่สุดรับไปเลย 100 ดรักม่า (รางวัลปลอบใจ 40 ดรักม่า)! โดยมีกำหนดประกาศผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2025

   เหล่าเดมิก็อดต่างพากันโอดครวญเสียงลั่นค่ายว่า "นี่มันกิจกรรมของคนรวยชัดๆ!" ไม่ก็ "โทรศัพท์เดดาลัสแพงเกินไป!!" เสียงสะท้อนความยากลำบากดังระงมไปทั่ว จนบางคนถึงกับต้องร้องหางานพิเศษทำเพื่อประทังชีพ!

   แต่ทางด้านเจ้าของธุรกิจอัจฉริยะ นายเดดาลัส (ไม่ทราบนามสกุล) ได้ออกมาเปิดเผยอย่างหน้าตาเฉยว่า "นี่คือกิจกรรมคืนกำไรให้ลูกค้า" พร้อมประกาศเพิ่มโปรโมชั่นเด็ดว่า "ยืมสมาร์ทโฟนเพื่อนร่วมบ้านแต่งโปรไฟล์เพื่อรับรางวัลได้!" โอ้โห! นี่มันคือกลยุทธ์ที่ฉลาดล้ำเลิศจริงๆ!

   พยานลับแจ้งมาว่า เดมิก็อดหนุ่มนามสมมุติ "C." ถึงกับวิ่งโร่แลกเงินกันชุลมุน รีดเอาดรักม่าทุกเหรียญออกมาจากกระเป๋ากางเกงและซอกตู้จนไม่เหลือแม้แต่ดรักม่าเดียว! แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้!

   ในทางกลับกัน ผู้ใช้งานจริงต่างยกนิ้ว (โป้ง) ให้กับผลิตภัณฑ์ของเดดาลัสว่า "โทรศัพท์เดดาลัสนี่แหละของดี!!!" นี่เป็นการยืนยันคุณภาพของสินค้า แม้ว่าราคาจะทำให้กระเป๋าฉีกก็ตาม!

   ข่าวใหญ่! การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และการลดแลกแจกแถมที่ยังคงทำร้ายใจเดมิก็อดถังแตก!

   และเตรียมตัวให้พร้อม! ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2025 จะมีการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด "อิคารัส มิเรอร์" ในราคา 1,200 ดรักม่า ในงาน Mobile Expo 2025 ที่ ค่ายฮาล์ฟบลัด โดยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นเก่า "Daedalus's Legacy" สามารถนำเครื่องเก่ามาเทิร์นเป็น "อิคารัส มิเรอร์" ได้ในราคา 50% โอ้วววว นี่มันโปรโมชั่นที่ใครได้ยินก็ต้องตาลุกวาว!

   แต่ด้านเหล่าเดมิก็อดผู้ขาดแคลนดรักม่าก็ยังคงครวญเสียงหลงว่า "ลดราคาก็ดีแต่จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ..." นี่มันช่างเป็นวงจรที่น่าเศร้าจริงๆ!

   วิกฤตเศรษฐกิจและคำทำนายที่หายไป!

   สถานการณ์นี้เป็นผลพวงมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจของค่ายฮาล์ฟบลัดโดยตรง! ยอดขายสตรอว์เบอร์รี่ในไตรมาสแรกต่ำกว่าเป้าหมาย มิหนำซ้ำค่ายยังหมดเงินจากการพาเด็กๆ ไปทัศนศึกษาที่นิวโรมอีกหลายแสนดรักม่า! หนึ่งในทีมงานเผยว่า "ไครอนถึงกับต้องขายของเก่าแลกเงิน!" นี่เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนและปรากฏการณ์ Eternal Sunshine ที่ทำให้เทพเจ้าโอลิมปัสหลายองค์ร้อนใจว่า "ไฉนคำทำนายของเดลฟีถึงไม่ออกมาเสียที หรือนี่คืออวสานของโลกอย่างแท้จริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจนไร้คำทำนาย!?"

   แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม การแก้ปัญหาปากท้องของเหล่าเดมิก็อดไส้แห้งที่ขาดแคลนดรักม่ายังคงต้องดำเนินต่อไป! และความสัมพันธ์แบบ "พ่อค้า-ลูกค้า" ระหว่างเดดาลัสกับพวกเขา ก็ยังคงแนบแน่น ไม่มีทางตัดขาดได้!

   #เดมิก็อดถังแตก #เดดาลัสผู้เป็นที่พึ่ง #วิกฤตเศรษฐกิจของค่าย #ขอคำทำนายด่วน

   เฮอร์มีสขอตัวไปสำรวจตลาดค้าขายในค่ายเพิ่มเติม แล้วจะนำข่าวเศรษฐกิจมาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!”


   “จบแล้ว—”

   แล้วทั้งสองก็ได้อ่านอัพเดตข่าวสานจนจบ ก่อนจะใช้เวลาไปกับการเฝ้าระวังต่อไปจนถึงช่วงเวลาแปดโมงเช้าที่ล้อรถบัสเคลื่อจากจุดตั้งแคมป์ หลังอาหารเช้าและเก็บเต็นท์ พวกเขาออกเดินทางอีกครั้งผ่านเส้นทางภูเขาอย่างระวัง สองข้างทางเริ่มมีป้ายบอกระยะทางใกล้แอตแลนต้า พอถึงช่วงสาย โค้ชเบย์บอกให้หยุดพักที่ “ปั๊มน้ำมันร้างบนไหล่เขา” เพื่อเติมน้ำ เสบียง และจัดระเบียบสัมภาระในรถบัสเวทมนตร์

   บริเวณปั๊มเงียบสงัด พื้นดินแตกระแหง มีกระป๋องน้ำมันเก่าและรถบัสพัง ๆ จอดอยู่ แต่ที่น่าผิดปกติคือ…

   ริปลีย์ลงจากรถแล้วก็หยุดชะงักกึก “...ฉันได้กลิ่นไหม้”

   ลิเลียน่าขยับเข้าใกล้แล้วคิ้วขมวด “ไม่ใช่ควัน... มันเหมือน... เหล็กร้อน?”

   เบย์ถอนหายใจ “นั่นไม่ใช่กลิ่นดีแน่ เตรียมตัว!”

   ทันใดนั้นวัวโลหะเพลิงขนาดใหญ่ พุ่งทะลุกำแพงปั๊ม! หัวของมันมีเขาเหล็กที่เปล่งแสงส้มแดงด้วยพลังไฟ แรงกระแทกทำให้รถบัสเอียงกระเท่เร่เกือบจะพลิกไปข้างหนึ่งหากว่าเบย์ไม่รีบยันเอาไว้

   แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นลิเลียน่าเข้าประจัญหน้า ใช้หอกเพเลียนแทงเบี่ยงจากด้านข้าง เขาของวัวเฉี่ยวแค่ปลายผม แต่เธออาศัยความเร็วและกลยุทธ์ อาศัยจังหวะสลับเข้าแทงจุดบอด ส่วนของริปลีย์พยายามใช้พลังเซนเซอร์น้ำหาแหล่งน้ำในถังปั๊ม แล้วระเบิดฝาถังเพื่อให้น้ำไหลพุ่งออก ชะลอความร้อนของตัววัวก่อนจะเธออาศัยหอกสองมือฟาดเข้าที่จุดข้อต่อสะโพกที่ไม่ได้เสริมเกราะ เบย์ใช้ดาบสองมือฟาดเข้าที่หน้าอกด้วยท่าขวาง เขายังพุ่งชนหนึ่งในวัวให้กระเด็นไปติดถังน้ำมัน

   สุดท้ายลิเลียน่ากับเบย์จัดการตวัดอาวุธพร้อมกันขณะริปลีย์เปิดท่อส่งน้ำเข้าเป้า — ระเบิดเสียงดัง ตูมมมม! เสียงแผดร้องของโลหะทำลายเงียบงันรอบ ๆ

   ลิเลียน่าหอบหายใจพอควร “พวกมันอึดกว่าที่คิดอีก…”

   “นั่นน่ะสิ” ริปลีย์ที่เอ่ยตอบสภาพยิ่งกว่าอีก

   “เร็วเด็ก ๆ รีบขึ้นรถ”

   เบย์ สโตนบรูคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนที่จะรีบเดินไปเติมน้ำมันก่อนที่จะออกเดินทางต่อให้ไวที่สุด

   ขบวนออกเดินทางอีกครั้ง เส้นทางคดเคี้ยวแคบลงเป็นทางป่า เบย์ตัดสินใจให้เดินเท้าแทนรถบัส เพราะมีหินถล่มในบางจุด ระหว่างพักเที่ยง พวกเขาเริ่มพูดคุยถึงปริศนาเสียงฝีเท้าที่ตามมาจากเทือกเขา... แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งน่ากลัวที่สุดของวัน

   แสงอาทิตย์ใกล้ตกดิน พวกเขาเจอ “เสียงขวานฟันต้นไม้” และ “เสียงฮัมเพลงโทนต่ำ”

   สิ่งนั้นคือ ไซคลอปส์ตัวหนึ่งสูงราว 12 ฟุต กล้ามเนื้อหนา ตาเดียวดวงโตสีเหลือง จับขวานหินขนาดยักษ์ไว้ในมือ มันตวาดใส่พวกเขาทันทีที่เห็นหอกของลิเลียน่า พร้อมพุ่งเข้าพร้อมขวานฟาดลง

   “นี่ซ้อมเจอโทรลล์ในห้องน้ำป้ะ ?”

   ริปลีย์เอ่ยก่อนที่จะกระชับหอกในมือให้มั่นและช่วยทุกคนโจมตีเท่าที่ทำได้ ลิเลียน่าและเบย์ช่วยกันเป็นทัพหน้าของการต่อสู้ ส่วนริปลีย์ใช้พลังของตนเองหาแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดและวิ่งไปแตะมันเพื่อหยิบยืมพลังงานของสายน้ำ เธอรวบรวมพลังน้ำเป็นคลื่นคมปลายหากก่อนจะปามันใส่ไซคลอปส์ยักษ์ตัวนั้น

   “ระวังหัว !”

   แล้วหอกก็แทงเข้าในโพรงจมูกของไซคลอปส์เข้าจัง ๆ ความแรงที่สายน้ำมอบพลังให้เธอนั้นทำให้หอกมันทะลุเข้าไปผ่านเยื่อบุโพรงจมูกทะลุสมองจนมันสิ้่นชีพไป

   “eww— นี่มันฉากวิงการ์เดียมเลวิโอซาในห้องน้ำป้ะ แค่เปลี่ยนเป็นทิ่มหอกแทนไม้กายสิทธิ์”

   เมื่อการต่อสู้จบลงทั้งสามก็ตัดสินใจเดินต่อสักพักไปตามลำน้ำ ทุกคนเหนื่อยอ่อนจากการต่อสู้ แต่ปลอดภัยดี พวกเขาก่อกองไฟใกล้ธารน้ำเล็ก ๆ เพื่อพักเท้ากันในวันนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาทุ่มหนึ่ง

   เงียบสงบมาเยือนอีกครั้ง ขณะที่ท้องฟ้าไม่เคยมืดลง — และทั้งสามหลับไปพร้อมความกังวลลึก ๆ ว่าจะมีอะไรรออยู่ในวันถัดไป








เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย

ผู้ฟังข่าวซุบซิบ ได้รับ +15 EXP * 11 ข่าว = 165 EXP

การปฏิสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์
การพูดคุย +7 ความสนิทสนม
ให้ หนังสือวิชาการ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์
ให้สิ่งที่ชอบที่สุด(ใช่ไหมนะ ?)กับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

การพิชิตอสุรกายประเภทนั้น ๆ เป็นครั้งแรก” จะได้ตื่นรู้ +2

สินสงครามวัวโคลคีส:
ฟันเฟือง 2 หน่วย (เลขไบต์คู่)
แปลนเฮเฟตัส (เลขไบต์ 1)
ลมหายใจเพลิง (เลขไบต์คี่ยกเว้น 1)
(หากไม่มีพลังทนทานไฟจะต้องใช้ขวดน้ำราดขวดแก้วให้เย็นลงก่อนจึงจะเก็บได้ ส่งไอเท็มขวดน้ำมาไอดี God เพื่อยืนยันในการเก็บ ยกเว้นพวกมีพลังควบคุมน้ำในพื้นที่แถวนั้น ถ้ามีน้ำ)
หากมีค่า LUK 30 หน่วย 1) เลขไบต์สุดท้ายได้ (0,1) ได้รับแปลนเฮเฟตัส 2) เลขรองสุดท้ายไบต์ นอกเหนือจากด้านบน คือจำนวนฟันเฟืองที่ได้

สินสงครามไซคลอปส์:
ตาไซคลอปส์

@God

แสดงความคิดเห็น

God
((++ลิเลียน่าปวดหัวหลังจัดการอสุรกาย ปวดอยู่ราว 4 ชม.++))  โพสต์ 2025-7-16 02:24
God
ลิเลียน่าแบ่งฟันเฟืองให้คุณ  โพสต์ 2025-7-16 02:22
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ เพิ่มขึ้น 29 โพสต์ 2025-7-16 02:21
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-7-16 02:20
God
คุณได้รับ 165 EXP โพสต์ 2025-7-16 02:19

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-16 23:30:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-17 00:02




White Swan in The Ocean

Follow The Nymph's Whisper

15th July 2025


   การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นในเวลาแปดนาฬิกาจากจุดที่เดินเท้าไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่แล้วก็ถึงแถบรถประจำทางให้พวกเธอทั้งสามได้พักเท้า ในระหว่างที่ต้องเดินทางไปเรื่อย ๆ เบย์ สโตนบรูคก็ทำท่าเหมือนกำลังตั้งใจจับกลิ่นอะไรสักอย่าง

   “ให้จุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่ศูนย์กลางของเมืองก็แล้วกัน”

   เขาเอ่ยกับเด็ก ๆ ที่มากับเขาทั้งสองคน คณะเดินทางได้เดินทางจากฉานเมืองมาจนถึงใจกลางเมืองของแอตแลนต้าเริ่มจากการเดินเท้าสำรวจใจกลางเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน ก่อนจะเริ่มไปลองแวะตามพวกเซ็นทรัลปาร์คที่น่าจะมีเหล่าคนไร้บ้านนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ เด็ก ๆ เหล่านั้นอาจจะหลบภัยอยู่ตามสวนเปิดกลางเมืองก็เป็นได้ ทั้งสามคนเดินทางมาจนถึง Centennial Olympic Park ทั้งสามคนเริ่มช่วยกันเดินทางตามหาทั่วทั้งสวน

   “เด็กสามคนที่เกาะกลุ่มกันน่ะหรอ อยู่แถว ๆ โซนน้ำพุไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่ เดินไปทางเหนืออีกสักสอบนาทีน่าจะเจอ”

   ทันทีที่ได้เบาะแส ทั้งสามก็เร่งเดินไปตามคำบอกใบ้โดยไม่ลืมแบ่งขนมปังให้กับคนไร้บ้านที่ตอบด้วยความสมัครใจ เดินไปทางเหนือราวสิบนาทีตามที่หนุ่มไร้บ้านบอก พบขนมกล่องตกอยู่ข้างม้านั่งกับผ้าห่มเก่า — น่าจะใช้หลบหนีมาสัก 2-3 วัน

   “มีร่องรอยของกลิ่นมิโนทอร์จาง ๆ ปะปนอยู่กับกลิ่นมนุษย์อายุน้อย คงไม่กลับมาที่นี่แล้ว ไปหาที่อื่นต่อกันเถอะ” เบย์กล่าว

   เบย์ สโตนบรูคนำทางเด็ก ๆ ที่ไม่เคยเดินทางไกล—อย่างน้อยก็ริปลีย์คนนึงที่ไม่เคยมาแอตแลต้าเลยสักครั้งเดินเท้ามาจนเห็นป้ายสถานีรถไฟใต้ดิน MARTA

   “นี่น่ะ ไม่ใช่จุดที่เหมาะสำหรับเด็กที่ต้องหนีหรือหลบภัยอะไรทำนองนั้นหรอกหรอ ?”

   ลิเลียน่าที่รู้สึกสะกิดใจก็เอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะร่วมใจเดินทางลงไปข้างล่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อตามหาเด็กทั้งสาม และตามที่พอจะคาดเดากันได้ ในสถานที่ที่ผู้คนไมไ่ด้ใช้งานกันขนาดนั้น ร่องรอยของการขีดเขียน ความรู้สึกอับชื้นและร่างของคนจรจัดจับจองพื้นที่ประปรายเป็นหลักฐานถึงความหวังว่าอาจเจอที่แห่งนี้

   ริปลีย์เดินไปสุ่มถามกับผู้คนมากมายก่อนจะ”พบผู้หญิงจรจัดคนหนึ่งพูดว่า "เด็กสามคนมาขอหลบฝนใต้ดินเมื่อวันก่อน ดูเหมือนไม่ใช่เด็กบ้าน ๆ ทั่วไป มีคนหนึ่งพูดกับปลา"

   ประโยคที่หญิงจรจัดคนนั้นเอ่ยออกมาเป็นเบาะแสสำคัญว่าเด็กอย่างน้อยหนึ่งในสาม “น่าจะมีสายเลือดทะเล” หรือพลังใกล้เคียงกับโพไซดอน การที่มีเลือดของหนึ่งในสามมหาเทพโผล่มาทำให้พวกเธอเข้าใจแล้วว่าทำไมมิโนทอร์ถึงเข้ามาถึงในเมืองจนทำเอาผู้คนร้างตาไปบ้างจางลงจนเห็นได้ชัดเจน การตามหาเด็ก ๆ ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะรอช้าไม่ได้อีกแล้ว เมื่อสายเลือดที่ถือว่าอาจเป็นการช่วยเหลือเด็กที่เป็น น้อง กลาย ๆ ของริปลีย์ทำให้ต้องแข่งกับเวลาและความอันตรายของอสูรกายต่อสายเลือดแห่งมหาเทพ

   เมื่อการเดินทางตามหาเด็ก ๆ กินเวลาไปเรื่อย ๆ จนเกิดอาการเมื่อยล้ากันหมดแล้ว ดวงตากลมของริปลีย์ก็เห็นรูปปั้นคุ้นเคยไม่ไกลและได้พบว่าตอนนี้พวกเธออยู่แถว ๆ อควาเรียมชื่อดังของแอตแลต้าเรียบร้อย Georgia Aquarium มีรูปปั้นเทพโพไซดอนประดิษฐานอยู่หน้าทางเข้าทำให้ริปลีย์เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา

   “พวกเขาบอกว่าเด็กพวกนั้นมีคนนึงที่คุยกับปลาใช่ไหม ?” ริปลีย์หันไปคุยกับทั้งสองคน “ทำไมเราไม่ลองหาในที่ที่เด็กคนนั้นน่าจะมาคุยกับสหายใต้น้ำดูล่ะ”

   “เอาสิ ในนั้นมีกลิ่นเด็กสามคนจาง ๆ กลิ่นเดียวกับที่สวนแล้วก็สถานีใต้ดิน”

   ได้การอนุญาตกลาย ๆ จากเซเทอร์ผู้เป็นหัวหน้าทีมกู้ชีพเด็กน้อยริปลีย์ก็เดินนำไปยังหน้าอควาเรียม ลิเลียน่าบอกว่าจะไปจัดการเรื่องตั๋วให้เธอกับเบย์ สโตนบรูคจึงได้ยืนรอบริเวณรูปปั้นของโพไซดอน

   ดวงตาของธิดาแห่งเทพมหาสมุทรเงยใบหน้าขึ้นสบกับใบหน้าหินอ่อนของผู้เป็นบิดา ในใจนึกเพียงว่ารูปปั้นเหล่านี้นั้นเป็นรูปลักษณ์ของเขาจริง ๆ หรือไม่ หรือเพียงภาพที่ปั้นแต่ง มือเล็กเอื้อมไปแตะรูปปั้นหมายว่าหากก่อเกิดปาฎิหารย์ใดคงจะดีไม่ใช่น้อย ทว่าสิ่งที่เธอได้นั้นมีเพียงความว่างเปล่า ไร้เสียงใด ไร้นิมิตใด มีเพียงความรู้สึกสายลมที่โอบคล้ายเกลียวคลื่นเช่นยามที่ได้รับบางสิ่งมาโดยไม่รู้เนื้อตัวเท่านั้น

   “ดูเหมือนว่าอย่างน้อยก็ได้อะไรมาอยู่แหะ” ริปลีย์พึมพำออกมาเบา ๆ

   ตัดภาพไปทางลิเลียน่าที่กำลังต่อแถวเพื่อซื้อบัตรเข้าอควาเรียม เมื่อถึงคิวของเธอแล้วก็เอ่ยตอบคำถามเพื่อซื้อบัตรเข้า

   “กี่ท่านคะ ?”

   “สามค่ะ อ้อ ผู้ใหญ่ทั้งหมด ซื้อให้เพื่อนกับคุณลุงตรงหน้ารูปปั้นน่ะค่ะ”

   “เพื่อนเธอเองสินะตรงรูปปั้น” พนักงานขายตั๋วเอ่ยขึ้นหลังจากชะโงกหน้าดูไปพบเข้ากับริบลีย์ที่กำลังแตะรูปปั้นโพไซดอนงดงาม "เคยมีเด็กแปลกหน้ามาดูปลาแล้วหายไป ไม่ซื้อตั๋ว แต่มีเด็กคนหนึ่งยืนพูดกับตู้ปลา ท่าทางดูเหมือนเพื่อนเธอที่กำลังจำคุยกับรูปปั้นเลย"

   คำว่าไม่ซื้อตั๋วและการอธิบายเกี่ยวกับเด็กเข้าเค้ากับสิ่งที่พวกเธอตามหาทำให้ลิเลียน่าตัดสินใจสอบถามเพิ่มเติมแล้วเดินออกมาโดยไม่ได้ซื้อตั๋วสักใบ

   “เขาบอกว่าเคยมีเด็กสามคนมาที่นี่ พวกเขาไม่ซื้อตั๋วเข้าไป เอาแต่มองตู้ปลาที่โชว์ข้างนอกแล้วก็มีเด็กคนนึงที่ทำท่าเหมือนริปลีย์ตอนนี้ แต่ว่าทำกับตู้ปลา”

   “ทำอะไรนะ ?”

   “ทำท่าเหมือนกำลังคุยกับมัน รู้ไหมว่าเขาแซวเธอด้วยว่าคุยกับรูปปั้นน่ะ”

   “ …ก็คุยจริง ๆ ล่ะนะ—”

   ท่าทางของพวกเธอแม้ว่าจะเคยชินกันแล้วกับการคุยกับพ่อแม่ที่ไร้ตัวตนต่อหน้า จึงเหมือนคุยกับกองไฟคนเดียว คุยกับรูปปั้นในบ้านคนเดียวบ้าง แต่ว่ากับคนภายนอกคงจะมองเชิงขบขันเอาว่าคนพวกนี้ทำอะไรกัน

   “แบบนี้ก็หมายถึงเจ้าเด็กพวกนั้นอยู่แค่ในโซนหน้าทางเข้า แต่ไม่ได้เข้าไปหลบภัยในนั้นสินะ”

   เบย์ สโตนบรูคผู้ยืนฟังข้อมูลจากลิเลียน่าก็เริ่มดมกลิ่นอีกครั้งเพื่อยืนยันทิศทางของเด็ก—และมิโนทอร์

   “ดูเหมือนว่าเราจะต้องเดินทางต่อแล้ว ทางตะวันออกไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ กลิ่นมันเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”

   ในย่านอุตสาหกรรมร้าง ทางตอนเหนือของแอตแลนต้า ตึกคอนกรีตเก่า ถังเหล็กสนิมขึ้นเป็นแนว และโกดังแตกพังจนหญ้าแห้งเริ่มโผล่พ้นพื้นปูนแตกร้าว พื้นที่นี้เคยมีชีวิต…แต่ตอนนี้เงียบเหมือนหลุมศพ

   เบย์ก้าวนำไปช้า ๆ ปลายรองเท้าเตะเศษกระป๋องเปล่าเสียงแหลม "กลิ่นมิโนทอร์…" เขาว่าเสียงทุ้มพร่า "...แล้วก็กลิ่นเหงื่อมนุษย์ติดมากับฝุ่นโลหะ—พวกเด็ก ๆ อาจจะซ่อนตัวอยู่แถวนี้จริง ๆ"

   ริปลีย์เดินตามหลัง หอบหายใจแผ่ว ผมสีน้ำตาลทองแซมละอองฝุ่นสีเงิน เสียงรองเท้าบนพื้นซีเมนต์แห้งดังเบา ๆ ลิเลียน่าหยุดยืนหน้าประตูเหล็กโกดังหลังหนึ่ง โน้มตัวมองรอยพังของประตูเหล็กโกดัง มันไร้ความเป็นธรรมชาติอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าเป็นร่องรอยของบางสิ่งที่พวกเธอตามหา

   ทั้งหวังให้เจอมันก่อนมันเจอเด็กพวกนั้น แต่ก็ขอให้เจอเด็กพวกนั้นก่อนมันจะเป็นการดีที่สุด

   "อะไรบางอย่าง…งัดประตูนี้เข้าไป"

   “นี่ไม่เรียกงัดแล้วลิเลียน่า เขาเรียกว่าทะลุไปเลยอย่างหาก…”

   "เราจะไม่สุ่มเสี่ยงคืนนี้" เบย์กล่าว "เด็กน่าจะอยู่ไม่ไกล—แต่ถ้าร่างกายไม่พร้อมไปก็ตายเปล่า"

   โค้ชเบย์พาพวกเธอเดินลึกออกมาจากเขตโรงงาน ผ่านแนวป่าบางเบาใต้สะพานร้าง ที่ดินแห้งแต่ราบเรียบพอจะตั้งเต็นท์เวทมนตร์ขนาดพอเหมาะได้ ในโลกนี้ไม่มี “กลางคืน” มานานหลายเดือนแล้ว—แต่ร่างกายของมนุษย์ยังคงเหนื่อยล้าตามการใช้ชีวิตโดยเฉพาะการออกแรงเดินไปมาทั้งวัน

   เบย์นั่งใต้ต้นโอ๊กรากโผล่ นำมีดสั้นออกมาลับกับหิน ก้านคิ้วขมวดเล็กน้อยราวกำลังคาดการณ์ความเสี่ยงสำหรับพรุ่งนี้

   ส่วนลิเลียน่านั่งพิงเสาหลักเต็นท์ เปิดสมุดพกขนาดเล็ก ใช้ดินสอกดวาดแผนที่โดยอิงจากความจำ เธอเติมรายละเอียดโกดังและแนวท่อน้ำที่อาจใช้ซ่อนตัว ริปลีย์นั่งอยู่คนเดียวบนก้อนหินริมลำธารเล็ก เสียงน้ำไหลกระทบเศษหินดังเบา เธอจุ่มปลายนิ้วลงไปก่อนจะพบว่ารอยแผลถลอกจากการต่อสู้กับไซคลอปส์เมื่อวานนี้ค่อย ๆ หายไปทันทีที่คลื่นกระแสพลังไหลบ่าเข้ามา

   “ดูเหมือนว่าที่ไปหาพ่อวันนี้มาจะได้ของขวัญกลับมาแฮะ”

   “อะไรหรอริปลีย์”

   ลิเลียน่าเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียของริปลีย์เอ่ยพร้อมกับเดินมานั่งข้าง ๆ ธิดาแห่งอะธีน่า มือเล็กของธิดาโพไซดอนยกขึ้นมากดวงตากลมอีกฝ่ายได้ดูแขนที่เรียบสนิทแล้ว

   “ก่อนหน้านี้มันเป็นแผลถลอกอยู่เลย แต่น้ำไปเมื่อกี้นี้ก็หายแล้ว”

   “พลังน้ำเยียวยาของเหล่าบุตรธิดาแห่งโพไซดอนสินะ” ลิเลียน่าเอ่ยพร้อมกับพยักหน้าเบา ๆ “แบบนี้ก็ดีเลยสิ ขอแค่มีน้ำก็มั่นใจแล้วว่าเธอจะได้เปรียบ อย่างน้อยก็หมายถึงว่าเธอได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีแน่ ๆ จนหมดห่วงตอนต่อสู้ล่ะนะ”

   ในตอนนั้นที่ทั้งสามพักเอาแรง ริปลีย์คุ้ยกระเป่าก่อนจะยื่นแอปเปิ้ลเขียวให้ลิเลียน่าราวกับเคยชินในการให้ของเพื่อนคนนี้ไปแล้ว แต่ว่าสิ่งที่ทำเอาสีหน้าของสาวน้อยทั้งสองหลุดขำออกมาก็คงจะเป็นการที่อยู่ ๆ ริปลีย์ก็ดึงดัมเบลออกจากกระเป๋าก่อนที่จะกระซิบกระซาบกัน

   “เธอเอามาจากบ้านด้วยหรอ ?”

   “ไม่ใช่หรอก ตอนที่เดินในเมืองเห็นอันนี้แล้วนึกถึงโค้ชเบย์เลยเผลอซื้อมาน่ะสิ”

   ริปลีย์เอ่ยกระซิบกระซาบกลับแล้วลุกขึ้นเดินไปทางโค้ชที่กำลังนั่งเตรียมตัวในส่วนของตนเองให้พร้อม

    เสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินตรงเข้าหาชายผู้มีขนหยาบที่ขาและกล้ามแขนแน่นราวกับแกะสลักจากหิน เบย์นั่งอยู่ริมลำธาร สายตาจ้องมีดพกในมืออย่างจดจ่อ แต่หางแพะของเขาขยับน้อย ๆ ราวกับรู้ตัวว่ามีใครบางคนกำลังเข้าใกล้

   “โค้ชเบย์คะ…”

   ริปลีย์ยื่นมือออกมา พร้อมกับ ดัมเบลเหล็กขนาดเล็ก ที่ดูไม่สมควรจะมาปรากฏในกระเป๋าเป้แคมป์ปิ้งได้เลยสักนิด

   เบย์เลิกคิ้วก่อนจะเหลือบมองเธอแล้วมองของในมือ “...นั่นอะไร”

   “Just... a small present, really.” เสียงเธอเบาจนแทบเป็นกระซิบ “หนูเห็นมันวางขายตอนเดินผ่านร้านในเมือง แล้วอยู่ดี ๆ ก็นึกถึงคุณขึ้นมาน่ะค่ะ ก็เลยซื้อมาเฉยเลย”

   เบย์รับดัมเบลไว้ในมือข้างหนึ่ง พลิกมันดูอย่างไม่แน่ใจ แล้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ — เสียงหัวเราะที่นาน ๆ ครั้งจะได้ยิน

   “มันจะหนักแค่ไหนกันเชียว” เขาพึมพำ แล้วยกขึ้นสองสามทีเป็นเชิงลอง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “อืม…ใช้ได้”

   ริปลีย์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ก็อ่อนโยนอย่างไม่ค่อยได้แสดงออกนัก

   “I mean… I never really thought I’d get to talk to you for real, you know? Like, more than just the usual ‘yes, coach’ stuff.”

   “But now, it feels like I’ve gotten to know you way more than I ever did back at camp…ถึงว่านี่จะดูลางไม่ดีแปลก ๆ ที่มาพูดอะไรแบบนี้ก็เถอะค่ะ แต่ว่า…ให้สิ่งนี้ถือเป็นของฝากจากหนู ที่ได้มาแอตแลนต้ากับคุณก็แล้วกันนะคะ”

   โค้ชเบย์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาไม่ยิ้ม แต่ไม่ได้เย็นชา เขาวางดัมเบลลงข้างตัวแล้วพูดด้วยเสียงต่ำแต่หนักแน่น

   “เธอเป็นเด็กที่กล้ากว่าที่คิดนะ…ริปลีย์”

   “ของขวัญนี่ ฉันจะเก็บไว้ — ไว้ใช้ตอนกลับไปซ่อมค่าย…ขอบใจมาก”

   คำพูดไม่หวือหวา แต่มันมากพอจะทำให้หัวใจของเด็กสาวเต้นแรงขึ้นนิดหนึ่งด้วยความดีใจที่มิตรภาพระหว่างเด็กสาวกับโค้ชในค่ายดูจะสนิทขึ้นมาสักหน่อยนึงแล้ว เธอพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอยกลับไปยังลิเลียน่าที่นั่งแอบฟังอยู่ไม่ไกล พร้อมรอยยิ้มที่เบากว่าลมเย็นยามค่ำ

   ให้ช่วงเวลานี้ได้สร้างเกราะจิตใจก่อนต้องเผชิญกับความโหดร้ายของโลกใบนี้




เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปลดล็อกพลัง น้ำเยียวยา ใช้ตื่นรู้ 3

ปฏิสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
ให้ ดัมเบล แก่เบย์ สโตนบรูค ให้สิ่งที่ชอบที่สุดกับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

การปฏิสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ การพูดคุย +7 ความสนิทสนม ให้ แอปเปิ้ลเขียว [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์
ให้สิ่งที่ชอบที่สุดกับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ เพิ่มขึ้น 27 โพสต์ 2025-7-16 23:44
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-7-16 23:43
โพสต์ 32497 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-16 23:30
โพสต์ 32,497 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-16 23:30
โพสต์ 32,497 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2025-7-16 23:30

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -3 ย่อ เหตุผล
God -3

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-17 23:51:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-18 00:12




White Swan in The Ocean

Follow The Nymph's Whisper

16th July 2025


   GRUUAAAAAAHHHHHHHHHH!!

   เสียงคำรามลั่นทั่วผืนดินจนสั่นสะเทือนปานตั้งนาฬิกาปลุกธรรมชาติ ในตอนตีสามที่แสงอาทิตย์ส่องนี้ชาวค่ายทั้งสามที่ได้นอนราว ๆ เกือบ 7 ชั่วโมงต่างเร่งดีดตัวขึ้นอย่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงคำรามต่ำลึกสะท้อนผ่านแมกไม้จากย่านอุตสาหกรรมด้านหลัง พื้นดินสั่นไหวเล็กน้อย พลังงานของมิโนทอร์แผ่ซ่านจนแม้แต่ผู้ไร้สัมผัสเวทยังรู้สึกได้

   ลิเลียน่าเปิดตาโดยไม่ต้องปลุก เธอคว้าหอกเพเลียนไว้แน่น ขณะที่ริปลีย์สะดุ้งตื่นพร้อมเสียงลมหายใจหนัก รีบสวมรองเท้าและคว้าหอกยาวประจำตัว

   โค้ชเบย์วิ่งมาจากทิศตรงข้าม คำรามกลับเบา ๆ "มันอยู่ไม่ไกล! กลิ่นเด็กชัดมาก—เร็ว!"

   ทั้งสามมุ่งหน้าไปยังโกดังร้างด้านตะวันออกของย่านอุตสาหกรรม ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทางด่วน ในขณะที่เสียงคำรามของมิโนทอร์ดังก้อง เสียงกรีดร้องของเด็กคนหนึ่งทำให้พวกเขาเร่งฝีเท้า เมื่อไปถึง พวกเขาพบ เด็กกึ่งเทพสามคน — เด็กหญิงผมหยิก, เด็กชายตัวเล็กสองคนที่มุดอยู่ในซอกที่มิโนทอร์เข้าไม่ถึง แม้ว่าจะดูปลอดภัยแต่ความจริงที่ว่าไอตัวประหลาดนี่มันแรงเอยะแค่ไหนคงจบที่ชนพังเละแบบไม่ต้องสืบต้นตอ

   มิโนทอร์สูงกว่า 8 ฟุต เขาสีดำขลับ หายใจพ่นไอร้อน แววตาแดงก่ำ พุ่งเข้าหาเด็กก่อนที่พวกเขาจะเข้าถึง ลิเลียน่าเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไป ใช้หอกเพเลียนสกัดเส้นทาง โค้ชเบย์สั่งให้ริปลีย์ป้องกันด้านหลังไม่ให้เด็กถูกจับ และตัวเขาเองพุ่งออกไปใช้แรงชนจากเขาสัตว์แพะเข้าสกัดมิโนทอร์

   ริปลีย์ปักหอกลงพื้น ตั้งท่าป้องกันพร้อมน้ำเสียงเรียกเด็ก "อยู่ข้างหลังฉันนะ!"

   มิโนทอร์หวดลิเลียน่ากระเด็นไปกระแทกถังน้ำมันเก่า แต่เธอลุกขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ พลางสวนหอกแทงเข้าเอว

   ริปลีย์ที่อยู่กับเด็ก ๆ เริ่มมองหาสถานที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุดในการหลบซ่อนนอกจากช่องแคบระหว่างตึก เธอเอ่ยบอกเด็กน้อยทั้งสามที่กำลังตื่นตระหนกให้เชื่อใจแล้วตามเธอมาก่อน

   “ฉันกับเพื่อน ๆ มาช่วยพวกเธอแล้ว ไม่ต้องกลัว ตรงนี้ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ รีบตามมาเร็ว”

   หงส์ขาวแห่งบ้านมหาสมุทรเร่งพาเด็ก ๆ ไปที่หลบภัยใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ถูกใครพบเจอและจะไม่ถูกสิ่งเหนือความคาดหมายมากล้ำกลาย ใต้โต๊ะเหล็กที่ดูแข็งแรง เธอลากกล่องไม้ใาปิดบังทัศนวิศัยจากภายนอกเพื่อบังเด็ก ๆ ทั้งสามก่อนจะให้สัญญาถึงสิ่งที่เป็นความหวังของเด็ก ๆ

   “หลบอยู่ในนี้นะ ถ้าจบเรื่องนี้ได้ เราไปหาอะไรอร่อยกินกัน โอเค ?”

   หลังจากนั้นเธอก็วิ่งออกไปสมทบกับลิเลียน่าและโค้ชเบย์ที่กำลังรับมือกับมิโนทอร์ ด้วยพลังการค้นหาสายน้ำทำให้เธอพอจับสัมผัสแห่งน้ำธรรมชาติอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ธิดาแห่งโพไซดอนวิ่งตรงไปยังบึงน้ำไม่ไกลจากตรงนั้นและแตะลงบนผิวน้ำเพื่อเริ่มทำให้สายน้ำแห่งนี้เป็นพลังของเธอ

   วารีเย็นก่อเกิดรูปร่าง มวลน้ำประกอบลักษณ์เป็นคันธนู สายน้ำโอบล้อมกลายเป็นหอกให้คมแหลมเฉียบบางขึ้นและยึดตรงเช่นยกพาดศร ดวงตากลมโตหรี่ลงหนึ่งข้าง ณ สายตาที่เลยประสานการทำงานเหลือเพียงหนึ่งเพื่อตั้งสติและความแม่นยำ

   สายใจเข้าลึก ๆ และหยุดเพื่อปิดตั้งเสียงและความวุ่นวาย

   ครั้นเมื่อสิ้นเสียงไร้สิ่งใดให้สดับ คันศรจากสายน้ำถูกยิงตรงไปถึงอสูรกาย

   ปึ่ก!!

   ศรวารีเสียบเข้ากลางบ่าซ้ายของมิโนทอร์ มันเซถลาเล็กน้อยก่อนจะคำรามอย่างกราดเกรี้ยว เลือดสีดำทะมึนทะลักออกจากบาดแผลราวกับหมึกเข้ม มันเบือนสายตามาทางริปลีย์ทันที

   “ริปลีย์! ถ่วงเวลาไว้— ฉันจะลอบเข้าด้านหลัง!” ลิเลียน่าตะโกนขณะวิ่งอ้อม พร้อมกระชับหอกเพเลียนในมือ

   มิโนทอร์พุ่งเข้าหาริปลีย์ด้วยพละกำลังเต็มแรง ฝีเท้าของมันหนักหน่วง พื้นโกดังสะเทือน แต่วินาทีนั้น ริปลีย์เบี่ยงตัวหลบอย่างพลิ้วไหว วารีในมือของเธอกลายรูปร่างเป็นโล่น้ำ ชั่วพริบตา

   โครม!!

   กรงเล็บกระแทกกับโล่ — น้ำกระจายแตกซ่าน แต่โล่ดูดซับแรงไว้ได้บางส่วน ก่อนจะสลายเป็นละอองพร้อมกับร่างของริปลีย์ที่ถูกแรงกระแทกบางส่วนที่ไม่อาจดูดซับได้กระเด็นตกลงในน้ำ นึกโชคดีที่ว่าเธอเป็นธิดาโพไซดอน การที่ร่างเล็กตกลงในบึงน้ำนี้ทำให้เธอเหมือนได้ถูกปกป้องด้วยสายน้ำก็ว่าได้

   เงาใหญ่กระโดดลงมาจากท่อระบายน้ำด้านบน โค้ชเบย์ พุ่งเข้าโจมตีจากมุมอับ สองมือคว้า มีดพร้าสองเล่ม สลักตราฮีฟีสตัสไว้ เขาปักมันเข้าด้านหลังมิโนทอร์เต็มแรง

   “รู้ไหมว่าฉันเกลียดเสียงลมหายใจนายแค่ไหน— อสูรกาย” โค้ชเบย์กัดฟันคำราม

   มิโนทอร์คำรามอีกครั้ง ฟาดหลังใส่โค้ชเบย์อย่างรุนแรง ร่างของเซเทอร์กลิ้งกระแทกเสาปูน แต่เขายังลุกขึ้นมาได้ ในจังหวะที่มิโนทอร์หันหลังกลับมาอีกครั้ง...

   เพล้ง!

   เสียงเท้าเบา ๆ และว่องไวแทรกมาแทน — ลิเลียน่า ใช้หอกเพเลียนฟาดก้านขามิโนทอร์ ก่อนแทงเข้าซอกซี่โครงอย่างแม่นยำ เสียงหอกแทงทะลุกระดูกอ่อนดัง กึก ก่อนดึงออกมาอย่างมั่นคง

   มิโนทอร์ทรุดลงไปหนึ่งเข่า

   ริปลีย์ไม่ลังเล — วารีโอบล้อมหอกสัมฤทธิ์ให้เสริมคมกล้ายิ่งกว่าครั้งไหน ควบคุมมวลน้ำดันกายของเธอขึ้นสูงราวยืนเหนือคลื่นสมุทร

   "ขอโทษนะ...แต่พ่อคงไม่ปล่อยให้ฉันล้มเหลวหรอก"

   เมื่อน้ำเสียงหวานที่ดุดันอย่างไม่เคยเอ่ยได้เอ่ยจบ หอกวารีถูกเหวี่ยงพุ่งเข้ากลางหน้าผากของมันปักทะลุเข้าไปอย่างแม่นยำ มิโนทอร์คำรามเฮือกสุดท้าย ร่างของมันเริ่มแตกเป็นเถ้าดำก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงในสายลมไร้ราตรี

   ความเงียบเข้าปกคลุม เสียงหอบหายใจของทั้งสามคนดังชัดเจน ริปลีย์ปล่อยอาวุธน้ำสลายตัวกลับเป็นละอองเหลือเพียงหอกโง่ ๆ ธรรมดา ๆ ของเธอ —ก่อนจะทรุดนั่งลงกับพื้นทันทีที่ให้สายน้ำเคลื่นมาส่ง ณ ริมบึง มือสั่นน้อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดกลัวในความตายเพียงคืบเดียวตรงหน้า

   “เกือบจะกลายเป็นเพื่อนจอร์จแล้ว”

   “เราทำได้แล้ว…” ลิเลียน่ากลั้นหอบ เดินเข้ามาประคองเธอไว้

   “เด็ก ๆ ล่ะ?” โค้ชเบย์ถามขึ้นทันที

   “ปลอดภัยดี…พวกเขาหลบอยู่โกดังตรงโน้น” ริปลีย์เอ่ยบอกสถานที่ที่เธอพาทั้งสามไปหลบภัย

   สามฮาล์ฟบลัดพยักหน้าให้กัน ก่อนจะรีบตรงไปหาสามชีวิตน้อย ๆ ที่หลบในโกดังสภาพแข็งแรงที่ริปลีย์นำทางไป

   “ปลอดภัยแล้วล่ะ”

   เมื่อทั้งสามชาวค่ายฮาล์ฟบลัดเดินมาถึง พวกเธอเลื่อนกล่องไม้ออกก่อนจะนั่งยอง ๆ เพื่อเอ่ยสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างชีวิตพวกเขาไม่ต้องดับดิ้นสิ้นอนาคตก่อนวัยอันควรเรียบร้อย เด็ก ๆ ทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะร้องไห้ออกมาโฮใหญ่จนพี่ ๆ ทั้งสามต่างทำนห้าทำตาเลิ่กลั่กไม่ไหวแล้ว

   "พวกเขาตามล่าเรามาหลายวัน...เราไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว"

   "ปลอดภัยแล้ว เราจะพากลับค่าย ที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเธอนะ"

   ลิเลียน่าเอ่ยพร้อมโอบกอดเด็กหญิงตัวน้อยผู้เป็นคนเอ่ยบอกความในใจออกมา ริปลีย์แบ่งน้ำให้ดื่มและตรวจดูบาดแผลของทุกคน ขณะที่โค้ชเบย์ดูเบาะแสลาดเลาว่ามีตัวอื่นหรือไม่อยู่

   “ก่อนอื่น เพื่อให้ง่ายต่อการพูดคุยกัน มาแบอกชื่อกันดีกว่า ทางนี้ลิเลียน่า ไทเลอร์ พี่สาวผมยาาวสวยคนนั้น ริปลีย์ สวอนสัน ส่วนครึ่งแพะตรงโน้น— ชื่อ เบย์ สโตนบรูคน่ะ” ลิลียน่าเอ่ยกับเด็ก ๆ เมื่อพวกเขาเริ่มสงบดีแล้ว “พวกเธอล่ะ ชื่ออะไรกันบ้าง”

   “หนูชื่อ คาเซีย เทรเวอร์” เด็กหญิงผมหยักศกผิวเข้มเอ่ย

   “ผมชื่อ เอียน มาร์โลว์” เด็กชายผมยุ่ง ๆ สีน้ำตาลเข้มเอ่ยโดยดวงตาสีฟ้าใสสดใสขึ้นมาหน่อย

   “ไคล์ เบรนแนน” เด็กชายผมสีจินเจอร์สว่างเอ่ย

   เมื่อริปลีย์ไล่มองดี ๆ แล้วก็เหมือนมีภาพจำในวัยเด็กทับซ้อนอย่างน่าประหลาด คุ้น ๆ อย่างกับว่าสิ่งที่พูดเล่นมาตลอดทางอยู่ตรงหน้านั้นแหละ ลักษณะพวกเขาทั้งชายสองหญิงหนึ่ง เด็กผมแดงเด่นมาแต่ไกล นี่มันแก๊งพ่อมดตัวน้อยไม่ใช่หรือไง

   โอ้ นี่มันเฮอร์ไมโอวนี่ย์ แฮร์รี่ว์ รอว์น ชัด ๆ —

   “นี่ฉันมาช่วยแก๊งพวกเธอสามคนที่มีปัญหาจริง ๆ สินะ”

   “อย่ามาเล่นมุขที่เด็กยังไม่เข้าใจสิ เดี๋ยวก็เป็นแผลใจหรอก”

   ริปลีย์ที่หันไปกระซิบกับลิเลียน่าก็โดนเอ็ดคืนเพราะว่าเธอลืมไปว่าการเอ่ยแบบนี้ไม่ต่างจากการที่เธอบอกว่าเด็กพวกนี้เป็นตัวปัญหาเท่าไหร่เลย

   “ถึงจะอยากให้พักก็เถอะ แต่ว่าการอยู่ที่ที่มิโนทอร์เพิ่งจะตายไปแบบนี้มันเสี่ยงมาก เราต้องเดินกลับแล้ว”

   โค้ชเบย์เอ่ยขึ้นมาตามความเป็นจริงที่ควรทำ ริปลีย์และลิเลียน่าเลยพากันจูงเด็ก ๆ เดินตามออกไปเพื่อเดินเท้าออกจากเขตป่าและโกดังร้าง

   ใช้เวลาราว ๆ สามชั่วโมงได้ที่ลิเลียน่าดูในโทรศัพท์ของเธอเอง ตอนนี้เดิน ๆ พัก ๆ บ้างเป็นครั้งคราวเพราะเดินทางมากับเด็ก พวกเธอพากันเดินเท้าออกจาก ชายป่าด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแอตแลนต้าผ่านแนวโกดังร้างและลานคอนกรีตแตกหัก เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนที่พอมีรถสาธารณะผ่านได้ ทั้งกลุ่มขึ้นรถประจำทางท้องถิ่นในเขตชานเมืองแอตแลนต้า ที่พอใช้ “เงินดอลลาร์” ได้ โค้ชเบย์เป็นผู้จัดการค่าโดยสาร — พวกเขานั่งต่อรถไปยังเขต Fulton County Outer Forest Border ซึ่งอยู่ห่างจากป่าที่มีดินถล่ม

   หลังลงจากรถสาธารณะ พวกเขาเดินป่าระยะสั้นอีกประมาณ 40 นาทีเพื่อไปยังจุดที่จอดรถบัสเวทมนตร์ของค่ายทิ้งไว้ก่อนหน้านี้

   โค้ชเบย์เช็กสภาพรถอย่างรวดเร็ว ก่อนพาทุกคนขึ้นรถและเริ่มออกเดินทางกลับค่าย

   รถบัสออกจากจุดจอดในรัฐจอร์เจีย มุ่งหน้าผ่านทางหลวง I-85 North → I-95 North ผ่านเซาท์แคโรไลนา → นอร์ทแคโรไลนา → เวอร์จิเนีย ตลอดเส้นทางนั้นช่วงแรก ๆ ก็ใช้ไปกับการอธิบายสถานการณ์ที่จำเป็นต้องรู้อย่างสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ เดมิก็อด

   ในช่วงบ่ายที่เสียงล้อรถบดถนนดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ข้างนอกรถคือแนวต้นไม้และทางหลวงไกลสุดลูกหูลูกตา เด็กทั้งสามนั่งรวมกันบนเบาะยาวด้านหลัง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนแต่สีหน้าดูผ่อนคลายกว่าเมื่อเช้า

   ริปลีย์นั่งอยู่ใกล้ ๆ โดยมีลิเลียน่ากำลังเขียนโน้ตบนแผ่นกระดาษ ส่วนโค้ชเบย์ขับรถแต่หูยังฟังตลอดเวลา

   “ที่พวกเราต่อสู้กับเจ้าสิ่งนั้น…คือเพราะเราไม่ใช่ ‘คนธรรมดา’ ใช่ไหม?”

   เด็กสาวผมหยักศกเจ้าของฉายา เฮอร์ไมโอว์นี่ย์ ที่ริปลีย์แอบตั้งขึ้นในใจเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบในรถบัสคันนี้ ริปลีย์ที่นั่งข้างหน้าก็ขยับหันไปมองเด็ก ๆ ก่อนจะเริ่มตอบคำถามเจ้าตัวเล็กในรถ

   “ใช่…พวกเธอทั้งสามคนเป็น เดมิก็อด — ลูกครึ่งเทพเจ้า”

   “เทพเจ้า? แบบในตำนานกรีก? แบบซุส ปล่อยสายฟ้าใส่คน?”

   คราวนี้เป็นไคล์ เด็กผมสีแดงจินเจอร์เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจระคนตื่นเต้นที่ตนเป็นถึงสายเลือดของตำนานปกรณัทปรัมปรา ทำเอาริปลีย์กับลิเลีย่าที่มองหน้ากันหลุดหัวเราะออกมาเชียว

   “แบบนั้นแหละ เทพโอลิมปัสมีจริง และพ่อหรือแม่ของพวกเธอคนใดคนหนึ่ง…ก็คือหนึ่งในพวกเขา” เป็นลิเลียน่าที่ตอบเด็ก ๆ

   เอียนที่นั่งฟังมาตลาดเอียงคอถามอย่างสงสัย “แล้ว…ถ้าเราไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อหรือแม่ฝ่ายเทพล่ะ?”

   “นั่นเป็นเรื่องปกติ เด็กที่เพิ่งถูกเรียกมาค่ายส่วนใหญ่มักยังไม่ได้รับการ ‘รับรองสายเลือด’ จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม” โค้ชเบย์ที่เป็นคนขับรถจำเป็นส่งเสียงตอบคำถามนี้

   “พวกเธออาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีฝันแปลก ๆ หรือรู้สึกพิเศษกว่าเด็กทั่วไป…จริง ๆ แล้วนั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อไปถึงค่ายฮาล์ฟบลัด เธอจะได้เรียนรู้ว่าแต่ละเทพมีลูกลักษณะแบบไหน มีพลังอะไรบ้าง แล้วเรา— อันที่จริงพวกรุ่นพี่ในค่ายจะช่วยสอนพวกเธอให้ควบคุมมัน”

   “…พลังเหรอ?” คาเซีย เทรเวอร์รู้สึกสงสัยว่าพลังที่ว่าเป็นแบบไหนถึงเอ่ยถาม

   “เด็กของอะธีน่าจะมีไหวพริบและกลยุทธ์ เด็กของแอรีสจะมีพละกำลังมหาศาล เด็กของโพไซดอน…สามารถควบคุมน้ำได้” ลิเลียน่าเอ่ยตอบพร้อมกับพยักเพยิดหน้ามาทางหงส์ขาวตัวน้อยแห่งเคบินที่สามอย่างริปลีย์

   “งั้นหมายความว่า เธอใช้หอกน้ำยิงใส่มิโนทอร์จริง ๆ เหรอ?!”

   “อืม…ไม่ใช่ทุกวันหรอกที่คนอย่างฉันจะได้โชว์พลังให้ใครดูนะ” เธอเอ่ยก่อนจะสะดุดกึก “นี่ อย่าบอกนะว่าแอบออกมาจากที่ซ่อนแล้วมาดูพวกฉันสู้น่ะ”

   ไคล์ที่รู้ว่าตัวเองโป๊ะแตกแล้วก็รีบหันหน้าหนี ส่วนเอียนก็เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง “…แล้วพวกเราจะปลอดภัยไหม?”

   “ถ้าอยู่ในค่าย พวกเธอจะได้รับการฝึก ได้อาวุธ ได้เพื่อน และได้คำตอบ…ว่าเธอคือใคร” ลิเลียน่ากล่าว

   “แต่ก่อนอื่น…เธอต้องยอมรับให้ได้ก่อน ว่าจากนี้ไป โลกของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาลนะ” ริปลีย์เอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปลูบหัวของเอียนตัวน้อย

   ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกระแอมไอจากที่นั่งคนขับพร้อมน้ำเสียงขึงขังเอ่ยตามมา “สามอย่างที่เดมิก็อดทุกคนต้องรู้ — หนึ่ง: เจ้าสัตว์ประหลาดพวกนั้นจะตามกลิ่นพวกเธอเสมอ สอง: สายเลือดเทพเจ้าจะทำให้พวกเธอมีพลังบางอย่าง…แต่ก็เปราะบางในแบบมนุษย์ และสาม: ค่ายฮาล์ฟบลัดคือบ้านของพวกเธอ จากนี้ไป”

   เด็กทั้งสามคนเงียบลงไปชั่วครู่ ก่อนที่ไคล์จะถามอย่างกล้าหาญว่า “ถ้างั้น…เราจะได้สู้กับสัตว์ประหลาดอีกไหม?”

   “ไม่—”

   “ไม่ได้สู้หรอ ?”

   “ไม่เหลือ เตรียมขาไว้โกยสุดฝีเท้าได้เลย”

   ซึ่งทำให้ทุกคนหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน—

   ในช่วงเวลาสองทุ่มที่หากในกาลเวลาปกติก็คงจะมืดมิดแล้ว แต่ว่าในช่วงเวลาที่ไร้ราตรีนี้มันยังคงสว่างจนไม่อยากจะยอมรับว่าคิดถึงดวงจันทร์มากแค่ไหน โค้ชเบย์พารถจอดพักที่ลานโล่งนอกเมืองใกล้ Meriden, Connecticut

   มีลำธารเล็กไหลผ่าน — ปลอดภัย และมีพลังธรรมชาติพอให้พวกลูกครึ่งเทพรู้สึกสงบ

   ริปลีย์ใช้น้ำในลำธารช่วยประคองอาการเหนื่อยล้า

   ลิเลียน่าช่วยจัดที่นอนให้เด็ก ๆ

   โค้ชเบย์ออกสำรวจรอบแคมป์ และทำอาหารง่าย ๆ

   ก่อนจะจบวันนี้ด้วยการพักผ่อนของเด็ก ๆ และมีรุ่นพี่คอยผลัดเวรเฝ้ายามตลอดทั้งคืน






เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย


การปฏิสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ การพูดคุย +7 ความสนิทสนม

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

การพิชิตอสุรกายประเภทนั้น ๆ เป็นครั้งแรก” จะได้ตื่นรู้ +2 และหาได้อีก +1 จากการสร้าง (สร้างของฮาร์ปี้ ไซคลอปส์และมิโนทอร์แล้ว)

สินสงครามมิโนทอร์:
เขามิโนทอร์ (เลขไบต์ 0/1/6/9)
หนังมิโนทอร์ (เลขไบต์คู่ ยกเว้นเลขข้างบน)
เนื้อมิโนทอร์ (เลขไบต์คี่ ยกเว้นเลขข้างบน)
(LUK 100+ จะมีโอกาสดรอปมากกว่า 1 ชิ้น โดยอิงจำนวนจากเลขไบต์รองท้าย)

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ เพิ่มขึ้น 7 โพสต์ 2025-7-18 19:04
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-7-18 19:04
โพสต์ 38585 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-17 23:51
โพสต์ 38,585 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-17 23:51
โพสต์ 38,585 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2025-7-17 23:51

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-18 01:35:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-18 01:44




White Swan in The Ocean

Follow The Nymph's Whisper

17th July 2025


   ในช่วงเวลาเจ็ดโมงแสงแดดยามเช้าตกกระทบผิวรถบัสเวทมนตร์ที่พร้อมเดินทางต่อ เด็ก ๆ ทั้งสามคน (คาเซีย, เอียน, ไคล์) พอได้นอนพักเต็มที่ก็มีสีหน้าดีขึ้น ริปลีย์กับลิเลียน่าก็ยังผลัดกันดูแลตลอดเส้นทาง ส่วนโค้ชเบย์นั่งหน้ารถคอยขับรถ คณะเดินทางเริ่มเดินทางต่ออย่าไม่หยุดพักเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน

   เพื่อให้เด็ก ๆ ได้แวะห้องน้ำและซื้อขนมบ้าง พวกเขาจอดที่บริเวณลานจอดข้างศูนย์การค้าร้างชื่อ “Golden Town Mall” ซึ่งถูกปิดทิ้งไว้หลายปีแล้ว

   GRRRHHHHHHHHHRRRAAAAHHHH!!

   เสียงคำรามเหมือนหลอดลมตันของสัตว์ประหลาดดังลั่น ร่างสูงกว่า 3 เมตรของ โทรลล์อุตสาหกรรม พุ่งออกมาจากซากอาคารเก่า พร้อมคว้าท่อนเหล็กขึ้นมาฟาดใส่รถกระบะร้างข้างถนนที่ระเบิดเสียง “ปุ๊ง!” เหมือนของเล่นเด็ก

   “ริปลีย์...นั่นมันโทรลล์จริง ๆ ใช่มั้ย?” ลิเลียน่ากระซิบกับริปลีย์

   ก่อนจะตอบมีเสียงกลั้นขำสุดฤทธิ์เป็นเสียงประกอบ “ถ้าไม่ใช่โทรลล์ ฉันจะไปเตะพื้นเรียกสไลม์มาสู้แทนแล้วนะ”

   ในขณะที่คาเซีย เอียนและไคล์หน้าซีดเหมือนแป้งเด็กแคร์ พวกเขาต่างพากันหมอบหลบหลังตู้ขายของข้างทาง

   “พวกเธอซ่อนตรงนั้นไว้นะ! เดี๋ยวพวกพี่จัดการเอง!” – ลิเลียน่าตะโกนสั่งด้วยน้ำเสียงรุ่นพี่ที่จริงจัง

   โทรลล์พุ่งเข้าใส่ ร่างโย่งๆ ที่มีหน้าตาคล้ายลูกผสมระหว่าง “ก็อตซิลล่าติดหวัด” กับ “คนงานยักษ์ที่ลืมอาบน้ำมา 3 ปี” วิ่งอย่างโคลงเคลงมาพร้อมเสียงน้ำมูกฟึดฟัด

   โค้ชเบย์พึมพำ “โอเค... แบบนี้ไม่เจอในคู่มือ”

   ด้วยความเร็วเซเทอร์เต็มพิกัด เขาใช้มีดพกเล่มใหญ่เบี่ยงท่อนเหล็กในมือโทรลล์ออกก่อนกระโดดตีลังกาหนีสไตล์หนังแอคชั่น ลิเลียน่าวนไปรอบ ๆ ใช้มีดสั้นกรีดขาโทรลล์เพื่อให้มันเสียหลัก แล้วตะโกนให้เบย์เบี่ยงซ้าย

   ริปลีย์ ผู้ประจำการหลังตู้ขายของป้องกันเด็ก ๆ ก็เร่ิมขยับตัว เธอหยิบขวดน้ำดื่มจากเป้ พึมพำเรียกสายน้ำออกมา และเริ่มรวบรวมมวลวารีให้กลายเป็นหอกแหลม เธอหรี่ตาลงข้างหนึ่ง เล็งเป้าไปยัง...

   ...จมูกบานโล่งของโทรลล์ ที่อ้ากว้างราวกับขอให้มีอะไรยัดลงไป

   ในหัวน้อย ๆ ของริปลีย์ที่กลายเป็นรุ่นพี่ในค่ายสำหรับเด็ก ๆ พวกนี้แล้วนั้นก็นึกอยากเล่นอะไรแผลง ๆ ให้เด็ก ๆ ดู โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่เธอได้ตั้งฉายา [พวกเธอสามคนที่เป็นตัวปัญหาตลอดหกปี — น้ำเสียงศาสตราจารย์มักกอนนากัล] ริปลีย์หันมามองเด็ก ๆ ก่อนจะส่งเสียงให้พวกเขาดูฉากต่อจากนี้

   "จำไว้เด็ก ๆ — นี่น่ะคือการใช้ วิงการ์เดียม เลวิโอซา ของจริง!"

   เธอฟาดหอกพลังน้ำพุ่งทะลุอากาศตรงเข้า...ยัดเข้าไปในรูจมูกโทรลล์เป๊ะ ๆ!

   “GRRRGHHH--แอ่ก!?” – โทรลล์เสียงเปลี่ยนเหมือนโดนบีบฮีเลียม

   มันชะงักกึก ยืนขาตึง น้ำหูน้ำตาไหลพราก ก่อนทรุดตัวลงทั้งอย่างนั้น พร้อมหอกน้ำคาอยู่ตรงจมูก… ราวกับโดน exorcism ด้วยวิชาแปลกประหลาดจากฮอกวอตส์สายทะเล

   ในชั่วขณะที่ทุกคนเงียบกริบ 2 วิ…ได้มีเสียงของเด็ก ๆ ดังขึ้นมาทำลายความเงียบ

   “อะไรเนี่ย...” – ไคล์กระซิบ

   “มัน... จบแบบนี้เลยหรอ?” – เอียนขำก๊าก

   “ถ้าพ่อฉันรู้ว่าฉันรอดตายเพราะหอกน้ำยัดจมูก... จะภูมิใจมั้ยนะ...” – คาเซียกุมขมับ

   โค้ชเบย์ถอนหายใจแรงแบบ “นี่ชีวิตฉันจริงๆ ใช่มั้ย” แล้วหันไปบอก “เก็บของ ขึ้นรถ ใครเล่าที่ค่าย ฉันจะปฏิเสธหมดว่าฉันไม่ได้อยู่ตรงนี้”

   หลังวิ่งเส้น I-95 ขึ้นมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเขาเข้าสู่เส้นทางใกล้ชายฝั่งและขับมาจนถึงทางเข้าแถบป่าใกล้ เขตชายแดนค่ายฮาล์ฟบลัด ในช่วงเวลาราว ๆ 5PM เป็นการเดินทางที่ยิงยาวจากการที่หยุดพัก—แล้วดันเจอโทรลล์ ทำให้ใช้เวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อมา ในเวลา 6PM

   แสงแดดอ่อน ๆ ตกกระทบบนซุ้มประตูไม้ที่จารึกคำว่า “CAMP HALF-BLOOD” อย่างสง่างาม ต้นสนธาเลียพริ้วไหวเหนือเขตแดนค่าย เปลวแสงจางๆ จากพลังเวทมนตร์ยังคงลอยอยู่รอบขอบเขต—เสมือนม่านคุ้มภัยของเหล่าลูกครึ่งเทพ

   ริปลีย์หยุดยืนตรงหน้าทางเข้า หันไปมองเด็กทั้งสามที่ยังดูงุนงง สะพายเป้ยับเยินจากการเดินป่า และมีรอยเปื้อนเล็ก ๆ จากการต่อสู้กับโทรลล์

   “ถึงแล้วล่ะ—ที่ที่ฉันไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริงจนกระทั่งต้องมาอยู่ที่นี่จริง ๆ” ริปลีย์เอ่ย

   “ที่นี่จะเป็น ‘บ้าน’ สำหรับพวกเธอ จากนี้ไป...เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้วนะ” ลิเลียน่ากล่าว

   เมื่อทั้งหกคนเดินข้ามผ่านเส้นพรมแดนเข้าสู่ค่าย กลิ่นหอมของไอดิน สนามหญ้า และเสียงฝึกซ้อมจากสนามยุทธก็ลอยมาแตะจมูก เด็กทั้งสามเบิกตากว้างเมื่อเห็น “คนครึ่งม้า” เดินออกมาจาก “บ้านใหญ่”

   ไครอน – ในรูปลักษณ์เซนทอร์ ผมสีดอกเลา สวมเสื้อสูทผูกหูกระต่ายทับร่างครึ่งล่างของม้าสีน้ำตาลแก่ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยเมตตา แต่แฝงด้วยสายตาเฉียบคมของผู้คร่ำหวอดในสนามรบเก่า

   “ดูเหมือนพวกเราจะมีแขกใหม่ถึงสามคนเลยนะ”

   เด็กทั้งสามมองกันไปมา เอียนกระซิบเบา ๆ “นั่นมัน... เซนทอร์จริง ๆ หรอ?”

   ไคล์ขยับหลังเหมือนกำลังหาทางหนี

   คาเซียยังจ้องตาไม่กระพริบ คล้ายพยายามวิเคราะห์สถานการณ์

   “ผมพากลับมาตามสัญญาครับ ไครอน — เด็ก ๆ กลุ่มใหม่ของค่ายเรา… ผ่านภารกิจทดลองมาเรียบร้อยเลยด้วย”

   การที่โค้ชเบย์ผู้ดูขึงขังตลอดเวลาเอ่ยน้ำเสียงดูเคารพกับเซนทอร์ตรงหน้าทำให้เด็ก ๆ เข้าใจแล้วว่าเซนทอร์ตนนี้ไม่ใช่พวกไม่ดีที่ทำร้ายพวกเธอตลอดการเดินทางที่ผ่านมา

   ไครอนเห็นท่าทีที่ดูลดการระแวดระวังของเด็ก ๆ แล้วก็ยิ้มต้อนรับ

   “ยินดีต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัด...ที่นี่คือสถานที่สำหรับผู้ที่มีสายเลือดเทพเจ้าในตัว — ไม่ว่าพวกเธอจะพร้อมรับรู้มันหรือยัง” เขาก้าวเข้ามาใกล้ มองเด็กแต่ละคนอย่างใจเย็น “ข้าชื่อไครอน เป็นผู้ดูแลที่นี่... และใช่ ข้าเป็นเซนทอร์จริง ๆ ไม่ใช่คอสเพลย์”

   “และใช่ — ที่นี่ก็ไม่ใช่ซัมเมอร์แคมป์ธรรมดาแน่นอน”

   “พวกเขาน่าจะมีคำถามล้านข้อเชียวค่ะ แต่ตอนนี้ขอแค่ได้ของอร่อย ๆ กินอิ่มกับเตียงนุ่ม ๆ นอนอุ่นก่อน” ริปลีย์เอ่ยเสมอแนะกับไครอน

   นั่นคือข้อเท็จจริงที่ควรคำนึงจากภาพร่างกายผอมกะหร่องของเด็ก ๆ และเสื้อผ้าเก่า ๆ จนขาดรุ่ยเป็นจ้ำ ๆ ไครอนได้แต่ยิ้มออกมาที่เด็กพวกนี้ในที่สุดก็ได้เจอบ้านของพวกเขาเสียที

   “งั้นก็ขอให้พวกเจ้าทั้งสามพักผ่อนให้สบายก่อนเถิด… เดี๋ยวเรื่องการรับรองสายเลือด, การฝึก, และบ้านพัก จะตามมาในอีกไม่กี่วัน”

   ทั้งสามคนเดินตามไครอนไปทางบ้านใหญ่ท่ามกลางเสียงเด็กฝึกขว้างหอก เสียงระฆังจากโรงอาหาร และกลิ่นเนยถั่วผสมควันไฟจากเตาบูชา เป็นการเริ่มต้นของชีวิตเดมี่ก็อด...ที่ไม่ธรรมดา

   และสำหรับ ริปลีย์ แล้ว นี่คืออีกหนึ่งภารกิจสำเร็จ — และอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้เธอเข้าใจว่า

   การเป็นลูกครึ่งเทพ ไม่ใช่เรื่องของโชค…แต่คือการกล้าที่จะหอกจัดจมูกและชดใช้กรรมด้วยการขัดมันซะตลอดสองสามชั่วโมง

   “ไปหาอะไรทานกันดีไหมคะ ?”

   ริปลีย์เอ่ยถามก่อนจะมีรอยยิ้มเป็นการตอบรับของทั้งสองคน เธอเลือกที่จะให้แอปเปิ้ลเขียวกับสเต็กแก่ทั้งสองคนอันเป็นคำขอบคุณที่คอยเซฟชีวิตไม่ให้ธิดาแห่งโพไซดอนคนนี้กลายเป็นผู้ติดตามคนต่อไปของสาวบ้านฮาเดสคนนึง

   สิ่งที่ได้มากกว่าสิ่งอื่นใดก็มิตรภาพของพวกเธอนี่แหละ ลิเลียน่านะ ชอบแอปเปิ้ลเขียวล่ะ

จบบริบูรณ์ (?)

รางวัลได้ทั้ง 3 คน

+100 พลังใจ , +40 ดรักม่า , +1 Level up

+30 ป้ายเกียรติยศ(HB)
+200 เกียรติยศ
+300 ความกล้าหาญ
+200 ศรัทธา


+2 หัวใจ กับโค้ชเบย์

เลือกรับ +มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ (คุณภาพม่วง)+







เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
ให้ สเต็ก แก่[Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค ให้สิ่งที่ชอบที่สุดกับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ
การทำภารกิจร่วมกัน: มีภารกิจเฉพาะที่สามารถทำร่วมกับ NPC บางตัวได้ การทำภารกิจสำเร็จร่วมกันจะเพิ่มค่าความสัมพันธ์อย่างมาก ภารกิจอาจเกี่ยวข้องกับการฝึกฝน การแข่งขันระหว่างบ้าน หรือการช่วยเหลือ NPC + ความสนิทสนมเพิ่มเติมไหมนะ ?

การปฏิสัมพันธ์กับ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์ การพูดคุย +7 ความสนิทสนม ให้ หนังสือวิชาการ [TGC-02] ลิเลียน่า ไทเลอร์
ให้สิ่งที่ชอบที่สุดกับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ

+25 ความสนิทสนมทุกหน้าบันทึก * 7 = 175 ความสนิทสนม การชวน TGC ออกทำภารกิจเดินทางด้วยกันจะย่อมส่งผลดีต่อมิตรภาพที่แน่นเฟ้นขึ้น

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

การพิชิตอสุรกายประเภทนั้น ๆ เป็นครั้งแรก” จะได้ตื่นรู้ +2 และหาได้อีก +1 จากการสร้างบันทึก

สินสงคราม โทรลล์ :
กระบองโทรลล์
(LUK 70+ และเลขไบต์ 2/5/9 จะมีโอกาสดรอป ไข่โทรลส์ แทน)

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-06] ไคล์ เบรนแนน เพิ่มขึ้น 350 โพสต์ 2025-7-19 18:30
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-05] เอียน มาร์โลว์ เพิ่มขึ้น 350 โพสต์ 2025-7-19 18:30
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-04] คาเซีย เทรเวอร์ เพิ่มขึ้น 350 โพสต์ 2025-7-19 18:30
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Satyr-01] เบย์ สโตนบรูค เพิ่มขึ้น 200 โพสต์ 2025-7-18 19:35
God
คุณได้รับ +200 เกียรติยศ +300 ความกล้า +200 ความศรัทธา โพสต์ 2025-7-18 19:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 เหรียญดรักม่า +40 ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 100 + 40 + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้