Legend of Romulus and Remus

เมื่อพูดถึงโรมูลัส หลายคนคงรู้จักในฐานะกษัตริย์โรมันคนแรกผู้ก่อตั้งกรุงโรม แต่ในที่นี้เราจะมาเจาะลึกถึงประวัติของโรมูลัสและรีมัส ผู้เป็นน้องชายฝาแฝด ซึ่งทั้งสองนับเป็นมนุษย์กึ่งเทพโรมันคู่แรกที่ถือกำเนิดโดยเทพมาร์ส จอมนักรบแห่งโรมัน

ก่อนหน้าการกำเนิดของทั้งสอง เราจะย้อนกลับไปยังสงครามอมตะอันเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์: **สงครามทรอย** อีเนียส ผู้เป็นบุตรแห่งเทพีอะโฟรไดต์กับแอนไคซีส และเป็นต้นตระกูลของโรมูลัสและรีมัส คือตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ เขาเป็นญาติผู้น้องของท้าวเพรียม เจ้าเมืองทรอย และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าชายปารีสและเฮกเตอร์อีกด้วย

สาเหตุของการล่มสลายของกรุงทรอยเริ่มต้นที่เจ้าเมืองสปาร์ตา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของชาวกรีกในสมัยนั้น เจ้าเมืองเมเนลีอัสมีภรรยาที่งดงามยิ่งกว่าหญิงใดในโลกนามว่า **เฮเลน** เธอเป็นธิดาของเทพจูปิเตอร์และได้รับพรให้มีความงามอันเป็นที่ต้องตาต้องใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เฮเลนไม่ได้ยินยอมที่จะแต่งงานกับเมเนลีอัส แต่ถูกบังคับข่มเหงจนต้องยอมจำนน เทพจูปิเตอร์จึงส่งเจ้าชายปารีสแห่งทรอยมาช่วยพาตัวเธอไปหาพระองค์ที่เขาโอลิมปัส แต่กลับกลายเป็นว่าเฮเลนและปารีสตกหลุมรักกัน ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายตามมา หากปารีสแข็งใจพาเฮเลนไปส่งให้เทพจูปิเตอร์ตามที่ได้รับคำสั่ง สงครามอันเลวร้ายนี้คงไม่เกิดขึ้น

สงครามระหว่างสปาร์ตา (ชาวกรีก) และทรอยทำให้เกิดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่าง **อคิลลิส** **เฮกเตอร์** และ **ปารีส** ซึ่งเป็นที่จดจำมาจนถึงปัจจุบัน เดิมทีชาวกรีกไม่สามารถเอาชนะชาวทรอยได้ แต่ด้วยเล่ห์กลอุบายที่เรารู้จักกันในนาม **ม้าโทรจัน** ซึ่งเป็นแผนการของเทพีอะธีน่า ชาวทรอยหลงเชื่อว่าม้าไม้ตัวนี้เป็นของขวัญแห่งชัยชนะจึงนำเข้ามาในเมือง แต่เมื่อถึงยามค่ำคืน ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ภายในก็ออกมาทำลายกรุงทรอยจนพินาศ เมื่อทรอยล่มสลาย เทพีอะโฟรไดต์จึงลอบพาลูกชายของเธอ อีเนียส หนีออกมาได้สำเร็จ นับแต่นั้นเป็นต้นมา เหล่าเทพเจ้ากรีกก็พากันรังเกียจเทพีอะธีน่าที่วางแผนสกปรกและชาวกรีกที่ใช้แผนการอันต่ำช้า และหันไปช่วยเหลือชาวทรอยที่รอดชีวิตไปได้ เทพีอะธีน่าจึงต้องอยู่บนเขาโอลิมปัสอย่างโดดเดี่ยว

หลังจากหนีออกมาจากกรุงทรอย เทพีอะโฟรไดต์ได้พาอีเนียสไปตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มแม่น้ำไทเบอร์และอาศัยอยู่กับชนเผ่าละติน ไม่นานนักอีเนียสก็มีบุตรกับหญิงสาวชาวละตินชื่อ **อัสกานิอุส (Ascanius)** เมื่ออัสกานิอุสเติบโตขึ้น เขาได้แยกตัวออกมาจากเผ่าละตินและสร้างเมืองที่มีชื่อว่า **อัลบาลองกา (Albalonga)** ซึ่งหมายถึง "เมืองยาวสีขาว"

ต่อมาในสมัยที่กษัตริย์นูมิเตอร์ (Numitor) ปกครองเมือง เขาถูก **อะมูลิอุส (Amulius)** ผู้เป็นพระอนุชากักตัวไว้และปลงพระชนม์พระโอรส เหลือไว้เพียงพระธิดาชื่อ **ซิลเวีย (Sylvia)** ซึ่งต่อมาชาวโรมันตั้งชื่อว่า **เรอา** เธอถูกบังคับให้ไปเป็นนักบวชรับใช้เทพีเวสตา เพราะนักบวชที่รับใช้เทพีเวสตาจะต้องถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิต อะมูลิอุสหวังจะกำจัดโอกาสที่เรอาจะมีบุตรสืบสกุลเพื่อมาชิงบัลลังก์คืนไป

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่อะมูลิอุสคาดหวัง เพราะหลังจากที่เรอาเป็นนักบวช เทพมาร์ส เทพแห่งสงครามได้ลงมาสมสู่กับเธอจนตั้งครรภ์และให้กำเนิดทายาทฝาแฝดสองคน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีคำพยากรณ์เกิดขึ้นว่า "ทายาทฝาแฝด ผู้ถือกำเนิดจากครรภ์ซิลเวีย จักเป็นผู้สังหารอะมูลิอุส" เมื่ออะมูลิอุสทราบเรื่องก็โกรธมากจึงสั่งฝังเรอาทั้งเป็น และนำเด็กทั้งสองใส่ตะกร้าไปลอยแม่น้ำไทเบอร์

แต่เด็กทั้งสองเป็นบุตรแห่งเทพมาร์ส ดังนั้นเทพมาร์สจึงขอให้เทพเนปจูนช่วยให้กระแสน้ำพาทั้งสองไปจนถึงหน้าถ้ำหมาป่า และที่นั่นเองที่พวกเขาได้พบกับนางหมาป่าผู้เป็นราชินีนามว่า **ลูปา** ลูปาเป็นที่ไว้วางใจของเหล่าเทพเจ้าอย่างมาก และคอยทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตรของเทพเจ้าที่ญาติฝ่ายมนุษย์ไม่ต้องการเลี้ยง

นางหมาป่าลูปาเลี้ยงดูเด็กน้อยทั้งสองจนกระทั่งพวกเขาอายุ 10 ขวบ เธอได้สอนการต่อสู้และความอดทนให้พวกเขา ซึ่งเด็กทั้งสองก็แสดงแววที่ดีมาก แต่ลูปาก็ต้องจำใจปล่อยเด็กทั้งสองไว้ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งตามคำขอของเทพมาร์ส ชาวนาเจ้าของฟาร์มพบเด็กๆ และนำมาเลี้ยงดูที่บ้าน เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นก็ตั้งชื่อให้ว่า **โรมูลัส** และ **รีมัส (Romulus and Remus)**

เมื่อทั้งสองเติบใหญ่ เทพมาร์สผู้เป็นพ่อมาเข้าฝันและบอกให้พวกเขากลับไปชิงเมืองคืน ทั้งคู่จึงรวบรวมพรรคพวกไปตีเมืองอัลบาลองกาและสังหารอะมูลิอุส แต่ด้วยสภาพเมืองที่ทรุดโทรมจนดูไม่ได้ ทั้งสองจึงนำพรรคพวกเดินทางไปเรื่อยๆ จนพบกับบริเวณที่เหมาะสมแห่งหนึ่งซึ่งมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ แต่บริเวณนั้นมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ก่อนแล้ว จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น ฝ่ายของโรมูลัสแม้จะมีกำลังน้อยกว่าแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากเทพทำให้ได้รับชัยชนะ หลังจากสร้างเมืองเสร็จและได้ประชาชนจากนครนั้นเข้ามาอาศัย โรมูลัสได้ลอบสังหารรีมัสและตั้งชื่อเมืองใหม่นี้ว่า **โรม** ตามชื่อของตนเอง