-05:13PM.-
ทั้งที่ตั้งใจแค่จะมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับไครอนเรื่องจูลี่ น้องชายที่หายตัวไปพร้อมเจ้าเด็กอีธานคนของบ้านเฮอร์มีสแท้ ๆ แต่ดูท่าทวยเทพคงไม่ต้องการให้ซิลเวอร์มีช่วงเวลาสงบสุขยาวนานนักถึงได้ส่งเทพไดโอนีซุสหรือที่เขาเรียกจนติดปากว่า ‘เทพขี้เมา’ ให้มาเจอตอนออกจากห้องไครอนพอดิบพอดี
“เอ้า ซินเซีย ! ไม่เจอหน้าเจ้าซะนาน ลูกสาวข้าเพิ่งให้ไวน์มาตั้งสองขวดแน่ะ มาดื่มด้วยกันเร็ว เจ้าผลัดข้ามาหลายรอบแล้วนะ”
‘แหงสิ…ที่ไม่ค่อยโผล่หัวมาบ้านใหญ่ก็เพราะแบบนี้’
สุดท้ายก็ต้องไปนั่งก๊งกับเทพขี้เมาแบบขัดไม่ได้ แต่ก็ยอมรับเลยว่าลูกบ้านนี้เทสดีจริง ๆ ไวน์แต่ละขวดที่เทพไดโอนีซุสเอามาให้ดื่มรสชาติแจ่ม ๆ ทั้งนั้น ของวันนี้เองก็เช่นกัน แต่ถึงจะคอแข็งแค่ไหน จะให้เขาดื่มเครื่องดื่มมึนเมาในสถานที่ที่มีเยาวชนอยู่กันเยอะแยะก็ดูเป็นเรื่องไม่สมควร เลยเอาแค่พอกรึ่ม ๆ พอแล้วกัน
.
.
“คราวหน้ามาอีกล่ะซินเซีย !”
“โอเค้ ไว้ผมว่างจะแวะมา คุณเองก็ดื่มให้น้อยลงหน่อยน่า หัดดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ซะบ้าง”
ร่างสูงเกือบเท่ากรอบประตูชูสองนิ้วเท่าระดับคิ้วแล้วสะบัดข้อมือเล็กน้อยเป็นเชิงบอกลาเทพแห่งไวน์ก่อนจะหมุนตัวเดินออกมาจากห้องที่ปรึกษาค่าย โดยมีเสียงหัวเราะไล่หลังตามมาแทนคำตอบ
“ฟู่ววว ให้ตาย เทพขี้เมารั้งฉันถึงเย็นจนได้สิน่า ไงเจ้าเด็ก เฝ้าเจ้าของห้องขี้เมาจนง่วงเลยสิ โอ้ว ! เบาหน่อย เบาหน่อยเด็กดี ”
หลังปิดประตูห้องก็ทักทายรูปปั้นหัวเสือดาวหน้าห้องสักหน่อย ฝ่ามือใหญ่ขยี้หัวสัตว์ร้ายที่ติดอยู่ตรงผนังอย่างเอ็นดูไม่ต่างจากตอนเล่นกับพวกหมาแมว ก่อนจะหลุดหัวเราะอารมณ์ดีเมื่อมันไถหัวกับมือเขาแล้วงับหยอกเบา ๆ
สำหรับซิลเวอร์แล้ว เสือก็ไม่ต่างจากลูกแมว
นาฬิกาข้อมือเรือนเรียบหรูบอกเวลาเย็นย่ำ หลังจากเล่นกับรูปปั้นเสือดาวหน้าห้องเทพไดโอนีซุสพอหอมปากหอมคอก็ได้เวลากลับบ้านสักที เรียวขายาวก้าวเดินไปตามทางเดินเงียบงัดของบ้านใหญ่ ก่อนที่ดวงตาสีอ่อนจะไปสะดุดกับตัวหนังสือสีทองเรืองรองบนกระดานประกาศงานจากเหล่าเทพเข้า
“หื้ม ดูหน่อยซิ มีภาระอะไรมาให้พวกเดมิก็อดทำบ้าง”
บ่นพึมพำตามนิสัยคนปากเสียไปเรื่อยพลางกอดอกไล่อ่านข้อความบนกระดานไปด้วย
“เชื้อไวรัสถูกขโมยงั้นเรอะ…อ่า มีพวกทางการมาเอี่ยวด้วยนี่ ขอบาย”
เรียวคิ้วขมวดเมื่ออ่านเนื้อหาข่าวที่ว่า พอจบแล้วไหล่กว้างก็ยกขึ้นเล็กน้อยแล้วไปอ่านหัวข้อต่อไป
“แล้วนี่อะไร…งานเฉลิมฉลองของเจ้าเทพขี้เมา ? ช่วยเด็กที่เฮติ….แล้วก็…..”
ดวงตาสีอ่อนไล่อ่านมาจนถึงหัวข้อสุดท้าย
“ชิบเป๋ง ขยันพังเหลือเกินนะม่านเนี่ย เดมิก็อดสาขาไทยไม่มีรึไง ถึงต้องลงประกาศถึงนี่”
บ่นอีกยกตามประสาวัยรุ่นตอนปลาย แล้วอ่านเนื้อหาต่อจนจบ
“แค่คนจะตีกันก็ลำบากจะแย่ ถ้ามีพวกเวรนั่นทะลุมนต์บังตามาคงได้ชิxหาxกันหมด กะอีแค่ซ่อมม่าน ไปสักหน่อยก็ได้ฟะ”

สรุป
รับงาน สนามบินสุวรรณภูมิในไทยแลนด์โดนปิด
*หินตีบวกตามจำนวนไบต์*