บ้านอะธีน่า
ลอร์ร่าเดินออกจากห้องพ่อในสภาพอารมณ์ที่ยังค้างอยู่ อกเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผสมความหงุดหงิด งอแง นอยนิดๆ ที่พ่อไล่ให้มาซ่อมบ้านหลังอื่นแทนการนั่งดื่มไวน์ด้วยกัน แต่ก็เอาเถอะ… อย่างน้อยเธอก็ได้บ่นจนหนำใจแล้ว
เด็กสาวเดินผ่านแนวบ้านต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ พลางมองซ้ายมองขวา
แต่พอเธอเดินมาหยุดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ก็ต้องขมวดคิ้วแน่น
" เดี๋ยวนะ… บ้านนี้… มันไม่เป็นอะไรเลย!? "
บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของไอ้ตัวต้นเหตุ เฟลิทซ์ บุตรของแอรีส แต่สภาพมันกลับดูดีไร้ร่องรอยไหม้แม้แต่นิดเดียว ต่างจากฝั่งบ้านของเธอที่เละเทะไปหมด!
ลอร์ร่าหันกลับไปมองฝั่งของตัวเอง ตั้งแต่บ้านของดีมีเทอร์ อะโฟรไดท์ อะธีน่า แล้วก็มาถึงบ้านเธอ หมายเลข 12
บ้านของไดโอนีซุส ตามด้วยบ้านไนกี้ และฮีบี้… ทุกหลังโดนไปถ้วนหน้า! เถ้าถ่านดำๆ กระจายไปทั่ว ผนังมีรอยไหม้ หน้าต่างบางบ้านหายไปเลยก็มี
เธอเท้าเอว ถอนหายใจยาว
" โอ๊ย! ทำไมต้องเป็นฝั่งบ้านฉันด้วยวะเนี่ย!? "
เธอบ่นพึมพำก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ … บ้านไหนที่เธอจะเริ่มซ่อมก่อนดี?
สุดท้ายสายตาของเธอก็มาหยุดที่บ้านของอะธีน่า เทพีแห่งปัญญา
บ้านหลังนี้ได้รับความเสียหายหนัก หน้าบ้านเกือบพังไปครึ่งหนึ่ง กำแพงรั้วเดิมซึ่งเคยเป็นสีชมพูอ่อน บัดนี้กลายเป็นสีดำเพราะคราบควันไฟ
ลอร์ร่ากอดอก ครุ่นคิด " เริ่มจากบ้านนี้ก่อนแล้วกัน… "
ช่วงเย็นนี้ เธอตัดสินใจมาทำงานคนเดียว แม้จะมีคนในค่ายคอยช่วยซ่อมแซมกันอยู่ แต่เธออยากลงมือเอง อย่างน้อยก็ในส่วนที่เธอพอจะทำไหว
เธอเริ่มจากการจัดการรั้วบ้านก่อน สีชมพูเดิมของรั้วเลือนลางไปหมดแล้ว ไหนๆ ก็ต้องทาสีใหม่ งั้นเธอจะเปลี่ยนเป็นสีขาวแทน!
" เอาล่ะ! เรามาเปลี่ยนลุคบ้านอะธีน่ากันหน่อย! "
ลอร์ร่าหยิบถังสีขาวมาวางไว้หน้าบ้าน ก่อนจะเริ่มลงมือทาสีใหม่ให้รั้ว แต่แน่นอนว่าเธอไม่ใช่จิตรกรมืออาชีพ ทาไปทามาก็มีสีเลอะเทอะเต็มตัว
" โอย… นี่ฉันทาสีหรือเอาตัวไปคลุกสีเนี่ย!? "
เธอหัวเราะกับตัวเองขณะเช็ดสีออกจากแขน แต่ก็ยังคงมุ่งมั่นทาต่อไป สักพักหนึ่งรั้วบ้านอะธีน่าก็ดูดีขึ้นมาแล้ว สีขาวสะอาดทำให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น
พอเสร็จจากรั้ว ก็มาถึงหน้าบ้าน…
พื้นดินตรงหน้าบ้านเสียหายไปมาก มีแต่เศษซากเถ้าถ่านกระจัดกระจายเต็มไปหมด พวกต้นไม้และดอกไม้ที่เคยอยู่หน้าบ้านก็หายไปเกือบหมด
ลอร์ร่ากอดอกพิจารณาสักพัก ก่อนจะพยักหน้ากับตัวเอง " ต้องปลูกใหม่ให้หมด! สภาพเถอะ" เธอแบบมองหาตัวเจ้าปัญหาหายไปไหนกัน
เธอลงมือเก็บกวาดเศษเถ้าถ่านออกไป จากนั้นก็เริ่มขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้และดอกไม้ใหม่
เธอเลือกปลูกดอกลาเวนเดอร์สลับกับดอกคาร์เนชั่นให้เข้ากับบรรยากาศของบ้าน ดอกไม้เหล่านี้จะช่วยให้หน้าบ้านดูสดใสขึ้น แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้รู้สึกสงบด้วย
หลังจากใช้เวลาพักใหญ่ในช่วงเย็น ลอร์ร่าก็ปาดเหงื่อ ยืนเท้าเอวมองผลงานตัวเอง
" อืมมม… ดูดีขึ้นเยอะเลยแฮะ! "
เธอเหลือบมองไปที่ตัวบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าได้รับความเสียหายหนัก… ผนังบ้านมีรอยไหม้บางส่วน กระจกบางบานแตกไปหมด
ลอร์ร่าย่นคิ้ว " โอ๊ย… อันนี้เกินมือฉันไปหน่อยละ "
เธออาจจะพอช่วยทาสีใหม่ได้บ้าง แต่ถ้าต้องเปลี่ยนกระจกหรือลงโครงสร้างใหม่ อันนั้นต้องปล่อยให้พวกช่างของค่ายจัดการแล้ว
สุดท้าย เธอก็เลือกทาสีซ่อมในบางจุดที่พอจะทำได้ ปกติบ้านอะธีน่ามักจะมีสีโทนขาวครีมอยู่แล้ว เธอจึงใช้สีเดิมทาทับรอยไหม้ ทำให้บ้านดูสะอาดขึ้นกว่าเดิม
พอทำไปได้สักพัก ฟ้าก็เริ่มมืดลง… แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะไม่ว่าจะดึกขนาดไหน ตอนนี้ค่ายก็ยังสว่างอยู่เสมอ
ลอร์ร่ามองรอบๆ ค่าย พลางถอนหายใจ " เห้อ… นี่ฉันกำลังจะกลายเป็นช่างประจำค่ายแล้วใช่มั้ยเนี่ย? "
เธอเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก ก่อนจะเดินออกมายืนมองผลงานของตัวเอง
บ้านอะธีน่าตอนนี้ดูเป็นระเบียบขึ้นมาก รั้วสีขาวสะอาดตา ต้นไม้และดอกไม้ที่ปลูกใหม่ให้ความรู้สึกสดชื่น ถึงแม้ว่าตัวบ้านจะยังต้องซ่อมแซมอีกมาก
แต่แค่เปลี่ยนหน้าบ้านให้ดูดีขึ้น ก็ช่วยให้มันดูไม่รกร้างเหมือนตอนแรกแล้ว
ลอร์ร่านั่งลงบนขั้นบันไดหน้าบ้าน พลางหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะเหลือบไปมองหมอนข้างที่เธอพกมาด้วย แต่ให้น้องนั่งดูนะ
แต่ใดๆ เสียงผู้เป็นพ่อบอกให้ซัก จะซักได้ยังไง กลิ่นหอมก็หมดกันสิ ไนหน้องนิ่มขนาดนี้ ยุ้ยไปกับน้ำหมดเลยนะพ่อนะ แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรเพราะนอยผู้เป็นพ่ออยู่นิดหน่อย เลยได้เเต่คุยกับหมอนข้างไปพรางๆ เท่านั้น
" เจ้าตัวเล็ก… วันนี้เราทำงานหนักไปเลยนะ "
เด็กสาวเดินไปล้างมือให้สะอาดเสียก่อน แล้วเธอค่อยๆ ลูบมันเบาๆ ก่อนจะหัวเราะให้กับตัวเอง
" โอ๊ย… หมดแรงสุดๆ! "
แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เธอก็ยังรู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่ทำลงไป อย่างน้อยค่ายก็เริ่มกลับมาดูดีขึ้นทีละนิด และเธอเองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการซ่อมแซมนี้
คืนนี้… เธอคงจะหลับสนิทแน่นอน!
ทำการซ่อมแซมบ้าน 02