297 แวะเที่ยวถ้ำของพ่อตาโมเสส
02/02/2025 เวลา 08.00 น. เอาล่ะได้เวลากลับค่าย!
หากไม่มีสุ้มเสียงของบิดาเทพโพไซดอนมาชี้แนะหนทาง ดีนคงจะบอกให้ควีนเพกาซัสคู่ใจ (ก็น่าจะคู่ใจแล้วแหล่ะ) พาเขาบินลัดฟ้ากลับไปยังริยาร์ดแล้วนั่งรถไฟเฮเฟตัสกลับนิวยอร์ก โดยระหว่างทางต้องนอนกลางดินกินกลางทรายอีกประมาณสี่ถึงห้าวัน
แม้สารจากโพไซดอนจะไม่ได้ชัดเจนแจ่มแจ๋วแต่ก็พอตีความได้ว่าให้ไปที่ชายหาดเมืองอคาบาเพื่อไปขึ้นฮิปโปแคมปัสแล้วกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดแบบฟรี ๆ ไม่เสียดรักม่า ฉะนั้นสิ่งแรกที่ชายหนุ่มต้องหาข้อมูลก็คือ… ‘โบราณสถานใกล้ฉัน’
“ฮรี้!” oO(อย่าบอกนะว่าเจ้าจะแวะเที่ยวอีกแล้วน่ะ!) เพกาซัสสีทมิฬแหว๋วใส่ทันทีเมื่อเขาบอกแผนการให้เธอรู้
“เอาน่า ยังไงก็เป็นทางผ่านไปอคาบาอยู่ดี เธอไม่อยากเที่ยวสถานที่ในประวัติศาสตร์เหรอ เขาว่ากันว่าโมเสสเคยมาอาศัยอยู่ตรงนี้ตั้งพักใหญ่เลยเชียวนะ”
“ฮรี้!” oO(ไม่สนใจย่ะ! แล้วข้าก็ไม่รู้จักโมเสสโมซาร์ทอะไรนั่นด้วย)
“ว้าว เธอไม่รู้จักโมเสสแต่พูดชื่อของโมซาร์ทออกมาเฉยเลยแฮะ” ดีนหัวเราะ “แต่ยังไงมันก็เป็นที่ผ่านทางพอดีหรือว่าเธอจะไม่พักกันล่ะ เอางี้ไหม เปิดโหวต ระหว่างบินตรงไปอคาบากับแวะพักที่โบราณสถาน ใครโหวตแวะเที่ยวยกมือขึ้น!”
พูดจบชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นทันที ส่วนก๊อบลินน้อยวูล์ฟเฟียมองดีนสลับกับควีนก่อนจะค่อย ๆ ยกมือน้อย ๆ ขึ้นตาม แค่สองเสียงก็ชนะ ชายหนุ่มจึงยิ้มมุมปาก แต่เพื่อความแฟร์แก่ควีนเขาจึงขานอีกข้อนึงด้วย
“งั้น… ถ้าบินตรงรวดเดียว ใครเห็นด้วยบ้าง?”
เงียบกริบ คณะเดินทางทั้งสาม ดีน ควีน และวูล์ฟเฟีย ไม่มีใครเลยที่ยกมือ
“อ้าวควีน เถียงกันมาตั้งนาน แต่สุดท้ายเธอก็ยังเห็นด้วยกับฉันเลย ผลเป็นเอกฉันท์ตกลงว่าแวะเที่ยวกันก่อน”
“ฮรี้!” oO(เดี๋ยวก่อน! ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล ข้าจะยกมือยังไง) ควีนเถียง มันไม่ทันจะได้ยกแม้แต่ขาหน้าหรือว่าปีก เพราะสมองม้าบินกำลังประมวลผลว่าจะยกมือขึ้นยังไง และระหว่างปีกกับขาหน้า อย่างไหนใกล้เคียงกับมือมากกว่ากัน
“ไม่รู้ล่ะ ถึงยังไงเสียงข้างฉันก็มากกว่าอยู่ดี เพราะงั้น… ลุยเลย! มุ่งสู่ทิศเหนือ!!”
ผู้ชนะชูกำปั้นขึ้นฟ้า ส่วนผู้แพ้ก็ได้แต่จำยอมตามหลักประชาธิปไตย…
. . . เวลา 10.50 น.
เพกาซัสดำร่อนลงเหนือภูเขาชุอัยบ์ ที่ภูเขาเบื้องล่างถูกเจาะทลวงกลายเป็นถ้ำ หินผาที่ถูกสลักเสลาเป็นลวดลายโดยชาวนาบาเทียนผู้รุ่งเรืองเหนือแดนทะเลทรายเมื่อสี่ร้อยปีก่อนคริสตกาลได้ผุกร่อนไปตามกาลเวลา คุณค่าจากประวัติศาสตร์ส่งทอดผ่านเรื่องราวและตำนานที่คาดว่ามีอยู่จริงจากหลักฐานทางโบราณคดี
ดีนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เขาเพิ่งทราบความสำคัญของโบราณสถานแห่งนี้จากข้อมูลที่เพิ่งเสิร์จหาเมื่อคืน สำหรับผู้ที่ไม่ได้ศรัทธาในศาสนาดีนไม่ได้สนใจเรื่องราวของโมเสสว่าก่อวีรกรรมใดมาบ้างโลกจึงจดจำ เขารู้เพียงแค่อัตชีวประวัติชายคนนี้เคยถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนเรื่อง ‘ปริ๊นส์ ออฟ อียิปต์’ กับปาฏิหาริย์การแยกแม่น้ำแดง หากเป็นเมื่อก่อนสมัยยังศึกษาวิทยาศาสตร์เขาคงมองว่าเป็นเพียงตำนานที่ถูกแต่งให้เข้มขลังเพื่อดึงดูดแรงศรัทธา แต่หลังจากที่เชารู้ว่าตนเองเป็นเดมิก็อดสายเลือดเจ้าสมุทร ก็อดคิดไม่ได้ว่าหรือโมเสสจะมีสายเลือดเดียวกันกับตนเอง
ทว่าไม่น่าใช่.. หากว่าโมเสสเป็นบุตรแห่งโพไซดอนจริงไฉนเลยถึงได้ไปศรัทธาพระเจ้าของทางฮีบรูจนถูกยกย่องว่าเป็นศาสดาในชั่วขณะหนึ่ง บางทีพระเจ้าอาจมอบพลังให้แก่โมเสสเป็นการชั่วคร่าวก็ได้ ที่เขาเชื่ออย่างนั้นเพราะว่าเคยได้พบกับลูซิเฟอร์ตัวเป็น ๆ มาก่อนนี่แหล่ะ
สำหรับใครหลาย ๆ คนตำนานดังกล่าวอาจหอมหวานเย้ายวนใจให้มาตามรอยยังโบราณสถานแห่งนี้ ทว่าสิ่งที่ดึงดูดในเดมิก็อดหนุ่มยิ่งกว่าคือสมบัติที่อยู่ภายในโบราณสถาน ‘ชิ้นส่วนทองคำ’ จากหุ่นยนต์ทองคำของเฮเฟตัสที่ไม่รู้ว่าส่งมาพิทักษ์อะไรในนี้ ตอนนี้ก็หวังว่าข้อสันนิษฐานของเขาจะถูกต้องว่าหุ่นทองคำเหล่านั้นหลับใหลอยู่ในโบราณสถานทั่วโลกรอวันถูกปลุกโดยนักล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า
“ฮรี้” oO(ข้ารอตรงนี้ ส่วนเจ้าวูล์ฟเฟีย จงอยู่กับข้า เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน)
“กี้?”
ก๊อบลินน้อยโคลงหัวสงสัย แต่มันก็ยอมอยู่กับแม่เพกาซัสแต่โดยดี
“งั้นรอกันอยู่ตรงนี้ดี ๆ ล่ะ แล้วก็เฝ้าของให้ด้วยนะ”
ดีนทิ้งเต็นท์พับในกระเป๋าไว้กับอสุรกายทั้งสองก่อนจะเข้าไปในโบราณสถานริมหน้าผาเพียงลำพัง บางทีชายหนุ่มก็รู้สึกประหลาดใจ สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกแต่ไหงไม่มีผู้มาเยือน อาจบอกว่าดีก็ได้มั้ง เวลาถ่ายรูปจะได้ไม่มีลุงที่ไหนทะเล่อทะล่าหลุดเข้ามาในเฟรม และไม่มีใครมารบกวนการฟาร์มแร่ของเขา
แม้จะวันจะฉายแสงต่อเนื่องอย่างไม่มีหยุดพักมาหลายเดือน ทว่าภายในถ้ำชุอัยบ์กลับทั้งมืดและอับราวกับแสงสว่างทั้งมวลของโลกส่องสว่างเข้ามาไม่ถึง จนต้องใช้แสงสว่างจากโทรศัพท์มือถือส่องนำทาง เสียงชัตเตอร์กดถ่ายสิ่งที่น่าสนใจภายในถ้ำโบราณเป็นที่ระลึก ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างจากโบราณสถานที่ผ่านทางมาเสียเท่าไร ตอนโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดียต้องสับสนว่าที่ไหนคือที่ไหนกันแน่ แต่รูปภาพและความทรงจำคือผลพลอยได้จากการมาเยือนครั้งนี้ต่างหาก
กึก ปี๊บ วื้ด ๆ
เสียงจักรกลทำงานอย่างผิดปกติสร้างรอยยิ้มแก่ชายหนุ่มกึ่งเทพ ภายในนี้คงไม่มีใครอุตริบังคับโดนบังคับวิทยุเล่น ไม่ผิดจากที่คิดไว้ ร่างสูงใหญ่ในความมืดเริ่มเคลื่อนไหว ข้อต่อเสื่อม ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเสียดหู ดีนเพ่งจิตไปที่อาวุธประจำตัวก่อนจะแปรสภาพกำไลที่สวมใส่อยู่บนข้อมือขวาเป็นสามงามสัมฤทธิ์วิเศษ
⌈ἄνθρωπος κινδύνος, προσέχετε: Δῖν Ἐλβίν Ἀλβάρεθ Νεῖλ, Υἱὸς Ποσειδώνος.⌋ (ตรวจพบบุคคลอันตราย: ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล บุตรแห่งโพไซดอน, ดำเนินการกำจัด)
แสงสีแดงส่องมาจากช่องดวงตาอันวาวโรจน์ หุ่นทองคำเตรียมพร้อมสังหารตัวอันตรายที่บุกรุกเข้ามาหา จากเครือข่ายหุ่นทองคำรับข้อมูลมาว่า ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีหุ่นทองถูกกำจัดไปแล้วสี่ตนด้วยกัน ซึ่งเป็นสถิติที่มากผิดปกติในรอบสิบปีที่ผ่านมา มิหนำซ้ำยังขึ้นชื่อผู้ทำลายล้างว่าคือ ‘ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล’ เป็นคนเดียวกัน
ระบบอินฟาเรดของหุ่นยนต์ทำงาน มันสแกนหาผู้บุกรุกได้อย่างแจ่มชัดตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายที่แทบมองอะไรในความมืดไม่เห็นเว้นแต่แสดงสีแดงที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า หุ่นทองคำเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ในชั่วพริบตาเดียวที่แสงสว่างตรงหน้าลับตา
“มันไปไหนแล้ว?”
เสียงลมพัดผ่านหลังหู เพียงแค่เขาหันไปมองไม่ถึงสามวินาทีแรงปะทะอันมหาศาลก็เข้าถึงตัวส่งให้ชายหนุ่มผู้มาเยือนลอยกระแทกติดกำแพง
โครม!!
จากตรีศูลถูกเปลี่ยนเป็นโล่โลหะแกร่งในชั่วพริบตาที่ดีนเห็นแสงสว่างจากปลายอาวุธ ดีที่ประสาทสัมผัสของเขายังคงเฉียบคม มิฉะนั้นจากแผลฟกช้ำคงได้เปลี่ยนเป็นตัวขนาดสองท่อน
“อูย.. ทำไมรุนแรงกับนักท่องเที่ยวจังล่ะครับคุณรปภ.”
บุตรแห่งโพไซดอนหยัดกายขึ้นมาจากเศษหินที่ร่วงกราวลงมาทับถม ปากยังดีได้อยู่ถือว่าไม่เป็นอะไรมาก สงสัยว่าเขาจะประมาทมากไปหน่อยจึงต้องจริงจังมากกว่านี้ จากการสู้รบกับหุ่นทองคำที่ผ่านมาสามสี่ตัวบางตัวก็ง่อยกระรอก บางตัวก็โปรแกรมติดบัคทำให้เขาจัดการมันลงได้อย่างง่ายดาย แต่ดูแล้วน่าจะไม่ใช่กับหุ่นยนต์ตัวนี้กอปรกับสถานที่ที่เสียเปรียบ เมื่อหุ่นทองคำใช้ความรวดเร็วหลบหายเข้าไปในมุมมืดอีกครั้ง
“ให้ตายสิน่า.. สงสัยต้องใช้อาวุธลับซะแล้ว”
ดีนหยิบขวดน้ำที่เหน็บข้างกระเป๋าเป้เดินทางมาเปิดออก หยาดน้ำในขวดลอยขึ้นวนล้อมรอบตัวเขา เร็วขึ้น ๆ จนมีแรงเทียบเท่ากับลูกตะกั่ว คอยพุ่งยิงใส่โลหะสีทองที่พุ่งตรงเข้าหาจากรอบทิศทาง
. . . เวลา 12.00 น.
เสียงโครมครามดังขึ้นในโบราณสถานอยู่พักใหญ่ ก๊อบลินตัวน้อยชะเง้อคอมองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ขณะที่มือถือกล้วยปอกเปลือกรับประทานเป็นอาหารกลางวัน ควีนกับวูล์ฟเฟียเคลียร์กันเสร็จเรียบร้อย แต่คนข้างในยังไม่ออกมา
ลูกก๊อบลินกัดปากตัวเองแทนที่จะเป็นกล้วย ด้วยความเป็นห่วง ‘มุห์ซิน’ (ผู้มีพระคุณ) ของมัน แต่เจ้าเขียวเล็กหวาดกลัวโบราณสถานเกินกว่าจะเข้าไปด้านใน มันสูญเสียทั้งพ่อและแม่ในสถานที่แบบนี้ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะทำใจได้ทั้งหมด
เสียงโครมครามดังต่อเนื่องเกินสิบนาทีก่อนที่จะยุติลง จากนั้นไม่นาน ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล ก็ปรากฏกายออกมานอกถ้ำด้วยสภาพเกือบสะบักสบอมแต่ยังชูสองนิ้วไหว เนื้อตัวมีบาดแผลฟกช้ำนิดหน่อยแต่เสื้อผ้าปกคลุมไปด้วยฝุ่นของดินแดง เมื่อเห็นว่าผู้มีพระคุณของวูล์ฟเฟียปลอดภัยดีแถมออกมาพร้อมกับผลประกอบการจำนวนหนึ่งก๊อบลินน้อยก็เบาใจ
“กี้” ไข่ผำเอ่ยเสียงเล็ก ๆ ออกมาคล้ายกับถามว่า ‘เป็นไงบ้าง’ ล่ะมั้ง.. ทว่าดีนเห็นกล้วยในมือมันก็ใช้มือหยาบ ๆ ยีหัวน้อย ๆ ไร้เส้นผมไปทีนึง
“ขี้โกงนี่นากินมื้อเที่ยงก่อนฉันได้ไง” ดีนกล่าวขำ ๆ อย่างไม่คิดอะไรมาก เขาเก็บสินสงครามที่ได้มาลงในกระเป๋าใบเดียวกันกับที่บรรจุเต็นท์เอาไว้ จากนั้นหยิบกล้วยมารับประทานบ้างลูกนึง “แล้วเธอล่ะกินอะไรหรือยัง?” เขาถามเพกาซัสสาว
“ฮรี้” oO(ฮึ! ไม่ต้องสนใจข้า เพกาซัสอย่างข้ากินง่ายอยู่ง่ายอยู่แล้ว)
“โอ้ จริงด้วยแฮะ” ดวงตาสีเปลือกไม้หลุบมองหญ้าบนพื้นที่หายไปหย่อมหนึ่งพลางอมยิ้ม แม้อาจจะแห้งกร้านไปบ้างคงพอประทังท้องเพกาซัสสาวไปได้จนกว่าจะถึงอคาบา
“ฮรี้” oO(เจ้าวูล์ฟเฟียมันเอาแต่ชะเง้อคอมองเจ้าที่หายไปนานสองนาน) เพกาซัสพูดต่อ
“เหรอ แกเป็นห่วงฉันเหรอวูล์ฟเฟีย เป็นเด็กดีจริง ๆ”
“กี้” ไข่ผำน้อยขานรับ มันแยกเขี้ยวกว้างราวกับยิ้มให้ด้วยความดีใจที่ถูกชม
“แล้วเธอล่ะเป็นห่วงฉันบ้างไหมควีน?” ดีนแสร้งถาม
“ฮรี้!” oO(ฮึ! ข้าห่วงก็แค่ต้องไปลากศพเจ้าออกมากรณีที่เจ้าตาย)
“แหม ปากคอเราะร้ายซะจริง แต่ฉันรู้ว่าเธอก็เป็นห่วงฉันหรอกน่า” ใบหน้าละตินของชายหนุ่มที่ไม่ได้โกนหนวดมาเกือบเดินขยิบตาให้ จนเพกาซัสสาวหนึ่งเดียวในปาร์ตี้เบ้หน้าหลบแทบไม่ทัน เรียกเสียงหัวเราะมาจากชายผู้โปรยเสน่ห์ใส่ม้าได้ไม่น้อย “เอาล่ะ ๆ ฉันว่าเราควรเดินทางกันต่อได้แล้ว ตอนนี้เที่ยงพอดีสินะ ถึงว่าทำไมหิวจัง” พูดไปปากก็กัดกล้วยหอมจากอาหรับ
ร่างสูงกระโดดขึ้นหลังม้าตามด้วยก๊อบลินจิ๋วตามซ้อนท้าย อันที่จริงกินมื้อกลางวันบนหลังเพกาซัสพลางชมวิวทะเลทรายตัดกับทะเลแดงก็ไม่เลว…
สินสงคราม: ฟันเฟือง จำนวน 10 หน่วย และ น้ำมันหล่อลื่น 1 หน่วย
วันที่พิชิต: 21/02/2025
|