12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[บ้านพักหมายเลข 6] โถงแห่งปัญญา

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-1-8 20:40:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-1-8 20:51

8/01/2025 19.30 - 19.43

บทที่ 23

วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วรู้ตัวอีกทีวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยก็ล่วงจนถึงหัวค่ำตามเวลานาฬิกา คูเปอร์รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิกาทรายที่ทุกเม็ดทรายไหลผ่านมือไปโดยที่เขาไม่สามารถหยุดมันได้  

เขาเดินเข้าไปในบ้านหมายเลข 6 ความเงียบสงบที่รายล้อมอยู่ในโถงนั้นทำให้หัวใจของเขารู้สึกเหมือนได้กลับมาสู่ที่ที่ตัวเองควรอยู่จริงๆ  

“แม่ครับ” คูเปอร์กระซิบเบาๆ มือของเขาลูบไล้ไปบนเทวรูปของเทพีซึ่งประดับอยู่กลางโถงใหญ่ รูปสลักงดงามจนดูเหมือนมีชีวิต แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างจับเงาบนใบหน้านั้นทำให้มันดูเหมือนกำลังมองตอบเขาอย่างเข้าใจ  

เขาหลับตา ถอนหายใจลึก และเอ่ยคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเหนื่อยล้าแต่มั่นคง  

“วันนี้ผมสู้คนเดียวจนชนะ ไม่ใช่เพราะแข็งแกร่งกว่าศัตรูนะครับ ตรงกันข้ามเลย เจ้าฮาร์ปี้ตัวนั้นทั้งเร็ว ทั้งดุ และดูเหมือนมันอยากจะฉีกผมเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่แรกเห็น”

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แต่เสียงนั้นกลับฟังเหมือนเสียงของคนที่กำลังทบทวนสิ่งที่เกือบจะพรากชีวิตเขาไป

“ตอนที่มันพุ่งเข้ามา ลูกแทบจะโยนหอกทิ้งแล้ววิ่งหนี แต่ในหัวของลูกกลับมีเสียงหนึ่งบอกให้ลูกยืนหยัด เสียงนั้นบอกว่า ถ้าวิ่งตอนนี้ก็จะต้องวิ่งไปตลอดชีวิต”  

คูเปอร์หยุดพูดครู่หนึ่ง เหมือนจะให้เวลาความเงียบช่วยปลอบโยนหัวใจ ก่อนจะพูดต่อ  

“ดังนั้นผมก็เลยยืนอยู่ตรงนั้น สู้มันด้วยอาวุธที่มี ถึงสุดท้ายจะล้มไปกับพื้น ผมก็นึกว่าจะตายแล้วเหมือนกัน ฮะ ๆ … ”


“แต่ถึงอย่างนั้น ลูกก็ยังไม่อยากยอมแพ้ ลูกเลยมาหาแม่ เพื่อขอพร... ไม่สิ ไม่ใช่แค่พรหรอกครับ ผมแค่อยากได้อะไรสักอย่างที่ทำให้รู้ว่ากำลังเดินถูกทาง แค่นั้นเอง”


เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเทวรูป ดวงตาสีเทาของเขาสะท้อนแสงจันทร์ที่ส่องลงมาเหมือนประกายดวงดาว

“แม่รู้ไหมครับ ตอนที่มันล้มลง ผมไม่ได้รู้สึกดีใจเลย กลับรู้สึก...ว่างเปล่า ลูกไม่ได้สู้เพราะอยากพิสูจน์ว่าตัวเองเก่ง แต่ผมแค่ไม่อยากถูกกลืนกิน และมันก็ทำให้ผมสงสัย...ถ้าต้องอยู่ในโลกแบบนี้ไปตลอด ผมจะต้องต่อสู้อีกกี่ครั้งกัน”

ชายหนุ่มนั่งลงบนฐานรูปปั้น ร่างสูงเอนหลังพิงกับหินอ่อนเย็นเฉียบ สายตามองออกไปยังหน้าต่าง

“แม่ครับ ลูกไม่รู้ว่าพระองค์ฟังอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าแม่กำลังฟังอยู่ ผมแค่อยากรู้ว่า ผมทำถูกแล้วใช่ไหมที่เลือกสู้ในวันนี้ ลูกควรจะเปลี่ยนไปเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่านี้ หรือควรจะหาทางอื่นที่ไม่ต้องใช้ศาสตราวุธ”  

ร่างสูงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“ผมคงบ่นมากไปหน่อย แม่คงเบื่อแล้วแน่ๆ” เขาลุกขึ้นยืน หันไปลูบเทวรูปอีกครั้ง

“ถ้าแม่กำลังฟังอยู่ ผมแค่หวังว่าแม่จะช่วยชี้แนะให้ลูกกลายเป็นคนที่ไม่ต้องยืมพลังจากใคร และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้”  

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่าง เสียงนั้นเบาแต่กลับคล้ายกับกระซิบตอบสนองคำขอของเขา  

คูเปอร์ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นสักพัก ก่อนจะปล่อยมือออกจากเทวรูปแล้วหันหลังกลับ เขามองรอบๆ ห้องโถงอีกครั้ง ความเงียบนี้อาจจะเป็นคำตอบแล้วก็ได้


ชื่อ : Cooper Jones

ปลดล็อกสกิล : สายตาแห่งนกฮูก

ใช้แต้มตื่นรู้ : 2 แต้ม

BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15

ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-1-8 20:51
โพสต์ 10138 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-1-8 20:40
โพสต์ 10,138 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-1-8 20:40
โพสต์ 10,138 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-1-8 20:40
โพสต์ 10,138 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2025-1-8 20:40

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -2 ย่อ เหตุผล
God -2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-1-9 15:58:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-1-9 16:01

9/01/2025 11.32 น. - 11.55 น. 


บทที่ 25




‘สร้างความอับอายให้เอโลอิส เพจ’  


เสียงนี้ไม่ได้ดังมาจากข้างนอก มันดังก้องอยู่ในหัวของคูเปอร์เอง น้ำเสียงนุ่มลึกและชัดเจนราวกับจะยืนยันว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่ยังคงยืนอยู่กลางโถงแห่งปัญญาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาสีเทาจับจ้องไปยังเทวรูปของเทพีอะธีน่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า  


โถงนี้เป็นดั่งหัวใจของบ้านหมายเลข 6 กว้างขวางและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สงบลุ่มลึก ทุกอย่างในที่แห่งนี้บ่งบอกถึงความฉลาดปราดเปรื่องของผู้ที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นตำราเรียงรายบนชั้นหนังสือสูงเสียดเพดาน โต๊ะไม้เตี้ยที่ประดับด้วยปริศนาสารพัดแบบ หรือแม้กระทั่งภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเทพีแห่งปัญญาและชัยชนะ  


“นี่แม่ส่งเสียงมาบอกให้ผมทำเรื่องแบบนี้จริงๆ เหรอ” คูเปอร์พึมพำกับตัวเอง สายตายังคงจับจ้องที่รูปปั้น  


เทวรูปอะธีน่าดูสุขุมและเปี่ยมบารมีเหมือนที่ควรจะเป็น นัยน์ตาหินอ่อนมองตรงไปข้างหน้าในลักษณะที่ทำให้ผู้เฝ้ามองรู้สึกเหมือนถูกสำรวจความลับในใจ แม้จะไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่ความเงียบสงบนี้กลับทำให้คูเปอร์รู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้น  


เขาถอนหายใจยาวแล้วเริ่มทบทวนสิ่งที่ได้ยินในหัวเมื่อเช้า


“สร้างความอับอายให้เอโลอิส เพจ”  


มันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมเสียงนั้นถึงต้องการให้เขาทำอะไรแบบนี้ และที่สำคัญ มันมีบางอย่างในน้ำเสียงที่ติดค้างอยู่ในใจ น้ำเสียงนั้นฟังดูฉลาดลึกซึ้งก็จริง แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่างที่เขาไม่สามารถมองข้ามได้  


“หรือฉันอาจจะหลอนเพราะกาแฟเมื่อเช้า” คูเปอร์พึมพำกับตัวเองอีกครั้ง คราวนี้เขาพยายามหาข้ออ้างที่ฟังดูมีเหตุผล  


ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้ตกลงปลงใจอะไร เสียงสดใสที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง  


“พี่คะ คิดอะไรอยู่ หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว หรือว่าเมื่อเช้าไปทำอะไรน่าอายอีกแล้ว”  


เสียงนั้นเป็นของลิเลียน่า ไทเลอร์ เด็กสาวผมบลอนด์ผู้มีรอยยิ้มสดใสประจำบ้านหมายเลข 6 เธอก้าวเข้ามาในโถงด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง นัยน์ตาสีฟ้าของเธอเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น  


“พี่ไม่ได้เผลอทำอะไรน่าอายเลยนะ” คูเปอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกึ่งกลั้วหัวเราะ  


ลิเลียน่าย่นจมูก “จริงเหรอคะ หน้าพี่มันฟ้องอยู่ชัดๆ”  


ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้แก้ตัวอะไรเพิ่มเติม เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของคลาร่า ชูลซ์ เด็กสาวอีกคนหนึ่งของบ้านหมายเลข 6  


“นั่นสิ ท้องผูกเหรอคะ” คลาร่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดตลก ท่าทางของเธอสุขุมกว่า แต่นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นแฝงความเฉียบแหลมไว้ทุกครั้งที่สบตา  


คูเปอร์ถอนหายใจหนักหน่วง เขากุมขมับด้วยท่าทางเหนื่อยใจ “ก็แค่พยายามใช้สมองคิดเรื่องสำคัญ อย่าโยงไปเรื่องสุขภาพลำไส้ของพี่สิ”  


สองสาวหัวเราะพร้อมกัน ลิเลียน่าเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิมเล็กน้อย “แล้วเรื่องสำคัญที่ว่าคืออะไรคะ”  


ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมเล่าเรื่องเสียงปริศนาที่เขาได้ยินออกมาโดยไม่ปิดบังอะไร  


-ย้อนความ-


เมื่อเขาวางผลไม้ลงในเตาไฟ เปลวไฟก็ลุกวาบเป็นสีทองเจิดจ้า กลิ่นหอมหวานของผลไม้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืน เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของเขา มันไม่เหมือนเสียงธรรมดาที่เคยได้ยิน เป็นเสียงผู้หญิงที่สุขุม ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ


“ลูกรักของแม่ ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าจะทำให้แม่ภูมิใจได้เท่ากับใช้มันสมองของเจ้า”


คูเปอร์ขมวดคิ้ว มองไปรอบๆ แต่ไม่มีใครอยู่ใกล้ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความกดดันมากกว่าเดิม


“ไปสร้างความอับอายให้เอโลอิส เพจ”


คำพูดนั้นย้ำชัดเจนจนเขาอดไม่ได้ที่จะหยุดยืนนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนที่เสียงจะเงียบหายไปพร้อมกับเปลวไฟที่ค่อยๆ ดับลง ทิ้งเขาไว้กับความสงสัยและคำถามที่เริ่มปะติดปะต่อไม่ติด


—----


“เสียงแบบไหนกันคะ” ลิเลียน่าถามพร้อมจ้องมองพี่ชายด้วยดวงตาเป็นประกายสนใจ “พูดให้ชัดๆ หน่อยสิ”  


คูเปอร์ยกมือขยี้ผมตัวเองเล็กน้อย ขณะที่พยายามเรียบเรียงคำพูดเพื่ออธิบายความรู้สึกในตอนนั้น ถึงเขาจะไม่เคยได้เสียงของอะธีน่ามาก่อนก็เถอะแต่ก็รู้สึกแปลกๆกับเสียงนั้น “มันฟังดู…น่าจะเหมือนแม่ แต่ก็รู้สึกว่าน่าจะไม่เหมือนซะทีเดียว”  


“ยังไงเหรอคะ” เด็กสาวถามต่อด้วยความอยากรู้  


ชายหนุ่มหลุบตาลงขณะที่พยายามทบทวนความรู้สึกอีกครั้ง “มันดูสุขุมและฉลาด อย่างที่แม่ควรจะเป็น แต่ไม่รู้ทำไม พี่ถึงรู้สึกเหมือนมันมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่”  


“แฝงอะไร” ลิเลียน่าขยับตัวเข้ามาใกล้  


“เจ้าเล่ห์” คูเปอร์ตอบพร้อมถอนหายใจ “เหมือนเสียงนั้นรู้บางอย่างที่พี่ไม่รู้ เหมือนมันกำลังวางหมากอะไรบางอย่าง แต่พี่ไม่สามารถมองออกว่าอะไร”  


ลิเลียน่ามองเขานิ่งก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “แปลกจริงๆ”  


คลาร่าที่เงียบฟังมาสักพักยกมือขึ้นแตะคางตัวเอง น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเธอเริ่มพูด “ถ้ามันฟังดูเหมือนแม่ แต่มันเจ้าเล่ห์แบบที่พี่พูด อาจจะมีสองกรณี”  


คูเปอร์และลิเลียน่าหันมามองเธอพร้อมกัน  


“กรณีแรก มันเป็นบททดสอบ” คลาร่าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แม่ของเราขึ้นชื่อเรื่องการวางแผนและการทดสอบอยู่แล้ว การที่เสียงนั้นสั่งให้พี่ไปทำอะไรบางอย่างอาจจะเป็นแค่การดูว่าพี่จะตอบสนองยังไง”  


“แล้วอีกกรณีล่ะ” ลิเลียน่าถามพลางขมวดคิ้ว  


คลาร่าถอนหายใจ “อีกกรณีคือมันอาจไม่ใช่แม่จริงๆ บางทีอาจจะเป็นอย่างอื่น พลังอะไรบางอย่างที่พยายามหลอกล่อเราเพื่อเป้าหมายบางอย่าง”  


คูเปอร์พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “แต่ถ้ามันไม่ใช่แม่จริงๆ ทำไมเสียงนั้นถึงดูเหมือนจะรู้จักแม่ดีขนาดนั้น”  


“ไม่ว่าจะกรณีไหน” คลาร่ากล่าวต่อ “เราก็ต้องหาคำตอบให้ได้ และการเริ่มจากคนรอบตัวของ เอโลอิส เพจก็น่าจะเป็นทางเดียวที่เรามีในตอนนี้”  




เมื่อคลาร่าพูดจบ ลิเลียน่าก็ย่นคิ้วอีกครั้ง “สร้างความอับอายให้เอโลอิส เพจ” เธอทวนคำช้าๆ ก่อนจะพึมพำเบาๆ “ชื่อคุ้นๆ…”  


“บุตรีแห่งเฮเฟสตัส” คลาร่าตอบทันที น้ำเสียงมั่นใจ “เธออยู่บ้านหมายเลข 9”  


คูเปอร์เลิกคิ้ว “ทำไมเสียงนั้นถึงต้องการให้พี่ทำลายชื่อเสียงเธอล่ะ”  


ลิเลียน่ามองคลาร่าอย่างรอคำตอบ แต่เด็กสาวผมบลอนด์คนนั้นเพียงแค่ส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่รู้ แต่ถ้าเสียงนั้นไม่ใช่แม่ของเรา…”  


เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังมากขึ้น  


“หรือเป็นไปได้ว่า…” คูเปอร์เอ่ยถาม พลางสบตาคลาร่าอย่างสงสัย  


คลาร่าไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนตอบ “อาจจะเป็นกลลวงจากใครบางคน หรือ…” เธอเว้นจังหวะ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ภารกิจจากทวยเทพ”  


“ถ้านี่เป็น Reality Show ฉันขอบอกเลยว่าพวกเราคงไม่ผ่านรอบออดิชั่น” คูเปอร์พูดประชด  


ลิเลียน่าหัวเราะคิกคัก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพิสูจน์ความจริงกันค่ะ ไปถามพวกเฮเฟสตัสเลย”  


“ไปถามตรงๆ แบบนั้นเหรอ” คูเปอร์ถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ  



“ใช่ค่ะ” ลิเลียน่าพูดอย่างมั่นใจ “ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย นั่นสิคะถึงจะดูแปลก และอีกอย่างถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ไม่มีอะไรต้องกลัวนี่นา”  


คลาร่าเสริม “และถ้าเราทำถูกต้องและซื่อสัตย์ เทพีอะธีน่าก็คงจะภูมิใจในตัวเรา แล้วถ้าเราไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง มันก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย”  


ชายหนุ่มถอนหายใจยาว แต่สุดท้ายก็ยอมรับแผนการของน้องสาวทั้งสองคน “โอเค งั้นไปกัน”  



และด้วยเหตุนี้ การเดินทางไปยังบ้านหมายเลข 9 เพื่อไขปริศนาของเสียงลึกลับจึงได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมความตื่นเต้นและคำถามมากมายที่ยังรอคอยคำตอบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 47719 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-1-9 15:58
โพสต์ 47,719 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-1-9 15:58
โพสต์ 47,719 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-1-9 15:58
โพสต์ 47,719 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-1-9 15:58
โพสต์ 47,719 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-1-9 15:58
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-1-10 22:19:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-1-10 22:25

10/01/2025 20.00 น. - 20.14


บทที่ 28


“เฮ้อถึงแล้ว..”  


เสียงถอนหายใจของคูเปอร์ดังก้องในความเงียบของบ้านหมายเลข 6 หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดในป่า เขาเดินโซเซเข้ามาในบ้านอย่างเหนื่อยล้า ร่างกายอ่อนเปลี้ยจนอยากจะล้มตัวลงนอนทันที แต่หัวใจกลับพาเขามายังปลายทางของโถงแห่งปัญญา  


โถงนี้กว้างขวาง พื้นหินอ่อนเย็นเยียบสะท้อนแสงไฟจากโคมที่ห้อยอยู่บนเพดาน ตรงกลางเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพีอะธีน่าที่ดูสง่างามจนชวนให้ศิโรราบ แสงจากตะเกียงข้างทางทอดเงาทาบลงบนผิวหินอ่อนของรูปปั้น ทำให้เทพีดูทรงพลังราวกับมีชีวิต  


คูเปอร์หยุดยืนตรงหน้ารูปปั้น เท้าเปลือยเปล่าเหยียบพื้นเย็นๆ อย่างไม่รู้ตัว เขาแหงนมองใบหน้าของเทพีอะธีน่าที่มองลงมาด้วยสายตาเคร่งขรึม เส้นผมที่ถักเรียบร้อยใต้หมวกนักรบ ท่าทางของแม่เทพผู้มุ่งมั่นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่พันปี  


ชายหนุ่มยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจือความเหนื่อยล้า “สวัสดีครับแม่... วันนี้ผมเหนื่อยที่สุดตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วครับ”  


ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงความเงียบงัน แต่คูเปอร์ก็ไม่ได้คาดหวังคำพูดอะไรจากรูปปั้น เขาหัวเราะเบาๆ กับตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน 


“ผมรู้ว่าแม่อาจจะไม่ได้ยิน แต่ไม่พูดอะไรเลยมันก็ดูเหงาไปหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มเริ่มพูดพลางเดินวนรอบรูปปั้น สายตามองสำรวจรายละเอียดของเทพีในทุกมุมมอง “วันนี้ผมไปป่าต้องห้ามมาอีกแล้ว ที่นั่นยังคงน่ากลัวเหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนครั้งก่อน...”  


เขาหยุดเดิน มองตรงไปที่ดวงตาหินของรูปปั้นราวกับกำลังเล่าให้ฟังจริงๆ “ไซคลอปส์ตัวนั้น ใหญ่โตจนผมยังสงสัยว่ามันหลุดมาจากที่ไหน ความเร็วของมันไม่สมกับขนาดตัวเลยครับ แม่รู้ไหม ตอนที่มันกระโดดกระแทกพื้นจนผมปลิวไปชนต้นไม้ ผมคิดว่าอาจจะจบชีวิตไว้ตรงนั้นแล้วด้วยซ้ำ”  


คูเปอร์หัวเราะเบาๆ กับตัวเอง น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นผ่อนคลายและเจือความขี้เล่น “แต่ก็นะ โชคดีที่ผมยังไหว แม่จะภูมิใจในตัวผมไหมครับที่ผมจัดการมันได้ในที่สุด ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นจะจุกจนพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่ก็ตาม”  


เขายืนมองรูปปั้นอยู่อย่างนั้นราวกับรอคำตอบ แต่ความเงียบที่รายล้อมก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหยุดพูด “เอาจริงๆ ตอนนั้นผมก็แค่ทำไปตามสัญชาตญาณน่ะครับ หอกในมือเหมือนจะพาไปเอง ความคิดอะไรก็ไม่ได้มากมายนัก แต่สุดท้ายมันก็ได้ผล ผมชนะ... ถึงจะต้องแลกมาด้วยความเจ็บไปทั้งตัวก็ตาม”  


คูเปอร์ถอนหายใจอีกครั้ง เขายิ้มบางๆ ให้กับรูปปั้น “แต่แม่ครับ ผมว่าผมต้องปรับตัวใหม่แล้ว ศัตรูที่ฆ่าได้ง่ายมันทำให้ผมย่ามใจเกินไป ถ้าคราวหน้ามีอะไรที่ยากกว่านี้ ผมอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งนี้”  


เขาก้มศีรษะเล็กน้อยราวกับกำลังไหว้ขอพร “ช่วยประทานสติปัญญาให้ผมด้วยนะครับแม่ ให้ผมคิดอะไรเฉียบแหลมกว่านี้สักหน่อย ผมอาจจะต้องการมันมากกว่ากำลังเสียอีก”  


คูเปอร์เงยหน้าขึ้นมามองรูปปั้นอีกครั้ง ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ว่าแต่ แม่สบายดีไหมครับ... ในโอลิมปัสน่ะ ช่วงนี้มีเรื่องปวดหัวอะไรหรือเปล่า ผมได้ยินว่าพวกเทพเองก็ไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อนเหมือนกัน”  


เขาเดินวนไปรอบรูปปั้นช้าๆ พลางเอามือข้างหนึ่งสัมผัสกับรูปปั้น “เอาจริงๆ ผมก็สงสัยนะครับ ชีวิตของเทพเป็นยังไงบ้าง แม่มีเวลานั่งอ่านหนังสือบ้างไหม หรือว่าเอาแต่ต้องไปจัดการปัญหาของโลกมนุษย์ทั้งวัน” เขาหยุดแล้วเหลือบมองรูปปั้นด้วยรอยยิ้มขี้เล่น “หรือบางที แม่อาจจะชอบแก้ปัญหามากกว่าพักผ่อนก็ได้ แบบนี้จะเรียกว่างานอดิเรกได้ไหมครับ”  


เสียงหัวเราะเบาๆ หลุดออกมา แม้จะไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังพูดต่อไปเรื่อยๆ “แม่รู้ไหมครับ เวลาผมคิดถึงแม่ ผมมักจะนึกภาพแม่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางกองหนังสือใหญ่ๆ พร้อมกับแผนที่หรือไม่ก็แบบแปลนเมืองโบราณ มันใช่ไหมครับ ผมเดาว่าใช่แน่ๆ”  


เขาเงียบไปชั่วขณะเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความจริงจัง “แม่... ผมอยากรู้นะครับ ว่าแม่เคยรู้สึกเหนื่อยบ้างไหม กับการที่ต้องเป็นคนที่ทุกคนคาดหวังว่าจะมีคำตอบให้เสมอ ผมเองก็พยายามทำตัวให้ฉลาดเหมือนแม่ แต่บางครั้งมันก็เหนื่อยเหมือนกัน...”  


เขากัดริมฝีปากเล็กน้อย “วันนี้ตอนที่สู้กับไซคลอปส์ ผมเผลอคิดไปว่าน่าจะมีใครสักคนบอกผมได้ว่าต้องทำยังไงต่อ เพราะในตอนนั้นหัวของผมแทบว่างเปล่า มันน่ากลัวนะครับ แม่รู้ไหม”  


ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงให้สดใสขึ้น “แต่ก็นั่นแหละ ผมรอดมาได้แล้วก็มาเล่าให้แม่ฟังอยู่ตรงนี้ ถ้าผมไม่บ่นบ้าง แม่อาจจะเบื่อที่ต้องฟังเรื่องดีๆ ตลอดก็ได้ จริงไหมครับ”  


เขาหัวเราะเบาๆ แล้วเดินกลับมาหยุดยืนตรงหน้ารูปปั้นอีกครั้ง “เอาเป็นว่าผมจะพยายามให้มากขึ้นนะครับแม่ ถ้าผมฉลาดขึ้นอีกนิด วันหนึ่งผมอาจจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ได้บ้างก็ได้ ใครจะไปรู้”  


คูเปอร์แหงนหน้ามองเทพีอะธีน่าที่ตั้งตระหง่านเหนือเขา ดวงตาของรูปปั้นเหมือนมองผ่านเขาไปยังจุดที่ไกลกว่า แม้จะเงียบงันแต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด  


“ขอบคุณนะครับ... ที่อย่างน้อยก็ฟังผมบ่นอยู่เสมอ” เขาพูดพลางยิ้มบางๆ ก่อนจะถอยหลังออกมาอย่างช้าๆ เตรียมเดินกลับขึ้นไปยังห้องของตัวเอง


ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่อีกชั่วครู่ก่อนจะถอยหลังออกมาอย่างช้าๆ สายตายังคงจับจ้องที่รูปปั้นนั้นเหมือนรออะไรบางอย่างที่ไม่มีวันมาถึง  


เขาหันหลังเดินออกจากโถงแห่งปัญญาไปอย่างเงียบๆ เสียงฝีเท้าดังสะท้อนในความว่างเปล่า และค่อยๆ เลือนหายไปในระยะไกล


ชื่อ : Cooper Jones


ปลดล็อกสกิล : กลยุทธ์การรบ


ใช้แต้มตื่นรู้ : 4 แต้ม


BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-1-10 22:29
โพสต์ 28507 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-1-10 22:19
โพสต์ 28,507 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-1-10 22:19
โพสต์ 28,507 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-1-10 22:19
โพสต์ 28,507 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-1-10 22:19

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -4 ย่อ เหตุผล
God -4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-8 08:51:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Leoric เมื่อ 2025-2-8 08:53

Leoric
Hwang
RESPECT ALL, FEAR NONE
จนแล้วจนรอดลีโอริคก็ยังทำตัวโอ้เอ้เสียเวลาไม่ยอมไปสักการะมารดาของตนเสียที แต่อย่างไรทั้งชีวิตก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงได้พ้น อีกทั้งยังรับรู้มาจากรุ่นพี่อีกด้วยว่า หากตนไปสักการะและยอมรับพลังจากมารดา การตื่นรู้ก็จะเกิดขึ้น

เขาพรูลมหายใจออกช้า ๆ เป็นครั้งสุดท้ายหลังจากที่ตัดสินใจได้ ช่วงเวลานี้ยังค่อนข้างเช้าอยู่ดังนั้นทั้งบริเวณห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งโถงทางเดิน ก็มีผู้คนอยู่กันอย่างบางตา อย่าว่าแต่สายเลือดของอาธีน่านั้นมีน้อยกว่าพวกซูส หรือว่า โพไซดอนเลย

หากเดินจากทางเข้าบ้านต้องไปทางขวามือ การเดินจากตัวบ้านออกไปย่อมต้องสลับทิศกัน เรียวขาทั้งคู่ออกเดินอย่างไม่รีบร้อนนักตรงไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน หรือว่าซื้อเวลากันแน่

ช่วยไม่ได้ที่ความจริงข้อนี้เป็นเรื่องเหนือทั้งความคิดและธรรมชาติความเป็นจริงที่พึงมีไปค่อนข้างมาก อย่างน้อยก็ในห้วงความคิดของลีโอริค เขาเป็นพวกตรรกะฝั่งขวาแบบสุด ๆ ไม่เชื่อแม้กระทั่งเรื่องผี หรือโลกหลังความตายเสียด้วยซ้ำ แต่ที่เห็นอ่านหนังสืออยู่บ้างนั้นเป็นเพราะความสนุกส่วนตัวล้วน ๆ ก็อารมณ์เหมือนอ่านนิยายแต่ง อะไรทำนองนั้น

เขาปล่อยให้ความคิดไหลผ่านหัวสมองจนเพลิน เดินมาถึงด้านหน้าของรูปปั้นขนาดใหญ่โดยไม่รู้ตัว แล้วก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ยามเมื่อจับจ้องไปยังดวงเนตรสีขาวไร้แววของรูปปั้นนั้น แต่ทว่าชั่วพริบตาหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนจะเห็นแววสุกสกาวแว้บขึ้นมาจากดวงเนตรคู่นั้น คำทักทายจากมารดาอย่างนั้นหรือ ก็ไม่อาจรู้ได้แน่ชัดหรอก

ลีโอริคหรุบดวงตาลงชั่วครู่ก่อนที่จะปิดเปลือกตาลง เมื่อทั้ง 2 ข้างประสานกันอยู่ที่บริเวณอกแล้วภาวนาด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก

"ตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ ลูกไม่เคยพบหน้าแม่มาก่อน ขอโทษที่มาเอาเสียช้าป่านนี้ ถึงแม้จะดูขัดเขินไปบ้าง แต่ความยินดีภายในใจนั้นย่อมมีมากกว่า ลูกหวังว่าท่านจะคอยมองพวกเรา สมาชิกทุกคนภายในบ้านหลังนี้ด้วยความรักและเป็นห่วงอยู่เสมอ ได้โปรดมอบเศษเสี้ยวพลังแห่งปัญญาให้แก่ลูก เพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นต่อได้ด้วยเถิด"

กล่าวจบจึงค่อยลดมือลง และลืมตาขึ้นมองสบไปยังรูปปั้นตรงหน้าอีกครั้ง
หมายเหตุ
ปลดล็อกสกิล : อัจฉริยะ 𓆩†𓆪 ใช้แต้มตื่นรู้ : 1 แต้ม
โถงแห่งปัญญา

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7644 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-2-8 08:51
โพสต์ 7,644 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ดรีมแคชเชอร์  โพสต์ 2025-2-8 08:51
โพสต์ 7,644 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-2-8 08:51
โพสต์ 7,644 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-2-8 08:51

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -1 ย่อ เหตุผล
God -1

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ยาดม
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
น้ำหอมบุรุษ
ต่างหูเงิน
อัจฉริยะ
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x4
x5
x4
x1
x1
x1
x2
x4
x2
x22
x4
โพสต์ 2025-2-20 10:39:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

18/02/25 9.10 น. -  9.20 น.


บทที่ 46


แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดผ่านกระจกเข้ามาในห้องของบ้านหมายเลขหก ไล่ไต่ไปตามขอบหน้าต่าง ก่อนจะตกกระทบลงบนเตียงของชายหนุ่มที่นอนคว่ำอยู่ใต้กองผ้าห่ม คูเปอร์ขยับตัวเล็กน้อยพลางครางอือในลำคอ มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากใต้ผ้าห่มปัดป่ายไปมาอย่างขี้เกียจราวกับพยายามจะไล่แสงแดดออกไป  


"อือ..."  


เขาค่อยๆ เปิดตาขึ้นมาครึ่งหนึ่ง รู้สึกถึงความหนักอึ้งทั่วทั้งร่างกาย แน่นอนว่ามันเป็นผลจากความโกลาหลของเมื่อวาน ตั้งแต่เดินเล่นในไชน่าทาวน์ สู้กับวัวโคลคีสในตรอก ต่อด้วยการสำรวจอุโมงค์ร้างที่จบลงด้วยการปะทะกับมิโนทอร์และโทรลล์ พอคิดว่าจะได้พักผ่อนในเซ็นทรัลพาร์ค ก็โดนไล่กวดโดยราชสีห์นีเมียนที่มีพัควัดจิเป็นคนขับ และท้ายที่สุดก็จบวันด้วยการต่อสู้กับเอ็มพูซาในห้องน้ำของผับ  


เขาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย จ้องเพดานพลางคิดว่า นี่มันชีวิตบ้าอะไรกันวะ?


เขามาถึงค่ายเมื่อคืนนี้ด้วยสภาพเหมือนซากศพ เดินโซเซไปยังเตียงของตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนโดยไม่สนใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า และหลังจากนั้น... ก็ตัดขาดจากโลกไปจนกระทั่งแสงแดดยามเช้าปลุกขึ้นมาอีกครั้ง  


คูเปอร์ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ค่อย ๆ ยกมือขึ้นขยี้หน้าเบาๆ ไล่ความง่วง พอได้สติขึ้นมาหน่อยก็คว้าเสื้อคลุมมาสวม เดินโซเซออกจากห้อง  


ปลายทางของเขาคือ โถงแห่งปัญญา


เมื่อก้าวเข้ามาในโถง คูเปอร์ก็ถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ เหมาะแก่การรวบรวมความคิด และแน่นอนว่ามันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการ...  


"บ่น"  


เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนพื้นเบื้องหน้ารูปปั้นของเทพีอะธีน่า ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของโถงอย่างสง่างาม  


"แม่ครับ ผมรู้ว่าปกติแม่คงยุ่งอยู่กับงานสำคัญที่โอลิมปัส" คูเปอร์เริ่มพลางพิงตัวกับแท่นฐานของรูปปั้น "แต่ถ้ามีเวลาฟังลูกชายคนนี้บ่นสักหน่อยก็คงจะดี"  


เขาหัวเราะกับตัวเอง ก่อนจะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานออกมาเป็นชุดๆ ตั้งแต่เดินเล่น สู้กับอสูรกาย ไล่ไปจนถึงการพบกับเลวีน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับ  


"สรุปก็คือ ผมไปแค่เที่ยวชิลๆ แต่กลับต้องเจอเรื่องบ้าๆ ถึงห้าครั้งในวันเดียว" เขาหัวเราะแห้ง "นี่มันใช่ชีวิตปกติของเดมิก็อดเหรอครับ? หรือผมแค่โชคร้ายเป็นพิเศษกันแน่"  


เงียบ ไม่มีคำตอบจากรูปปั้น แน่นอนว่ามันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่คูเปอร์ยังคงพูดต่อไป  


"แม่รู้ใช่ไหม ผมไม่เคยตั้งใจจะใช้ชีวิตแบบนักรบ" เขาพึมพำเสียงเบา "ผมอยากเป็นนักแสดง ผมยังอยากไปแอลเอ ผมยังมีความฝันของตัวเองอยู่"  


เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นแตะเทวรูปของเทพีอะธีน่า  


"ขอแม่ช่วยอวยพรให้ผมใช้ชีวิตทั่วไปได้ง่ายขึ้นกว่านี้ด้วยเถอะครับ"  


คูเปอร์พึมพำเสียงเบา มือของเขายังคงแตะอยู่บนเทวรูปเย็นเฉียบของเทพีอะธีน่า เขาไม่ได้หวังให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทันที แค่ขอให้ชีวิตมันราบรื่นขึ้นอีกสักนิด ขอให้เขาสามารถใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการได้บ้าง... ขอให้วันหนึ่งเขาจะกลับไปแอลเอได้โดยไม่ต้องมาพะวงว่าจะมีอสูรกายโผล่มากลางกองถ่าย  


เขาถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยมือออกจากเทวรูป นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้นอีกสักพัก โถงแห่งปัญญายังคงเงียบสงบ มีเพียงแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา เขามองไปยังชั้นหนังสือที่ตั้งเรียงรายอยู่รอบโถง มีหนังสือมากมายเกี่ยวกับกลยุทธ์ การวางแผน ประวัติศาสตร์ และศาสตร์แขนงต่างๆ ของโลกมนุษย์  


เขาเคยใช้เวลาหลายชั่วโมงนั่งอ่านหนังสือที่นี่ ตอนแรกมันก็เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าเดมิก็อดใช้ชีวิตกันยังไง พวกเขาเรียนรู้การต่อสู้อย่างไร แต่ไม่นานเขาก็เริ่มพบว่า... การอ่านพวกนี้มันช่วยให้เขาคิดอะไรเป็นระบบขึ้น แถมยังทำให้เขาสนุกไปกับการวางแผนมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว  


ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักรบโดยกำเนิด แต่การวางแผนแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าในชีวิตของเดมิก็อดก็ไม่ต่างจากการเตรียมตัวเล่นบทบาทในฉากสำคัญสักเท่าไหร่  


เขาค่อย ลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวเต็มความสูง พลางคิดว่า หรือบางทีการเป็นเดมิก็อดมันก็คือการเล่นบทบาทหนึ่งในชีวิตของฉันอยู่แล้วก็ได้


ความคิดนั้นทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ก่อนจะแตะบนแท่นฐานของเทวรูปเทพีอะธีน่าเป็นเชิงขอบคุณ  


"เอาล่ะ ผมไปหาอะไรกินก่อนนะครับแม่"  


พูดจบเขาก็เดินออกจากโถง ทิ้งให้สถานที่แห่งนี้กลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง




ชื่อ : Cooper Jones


ปลดล็อกสกิล : ร่างจำแลง , ปัญญาแห่งการรบ


ใช้แต้มตื่นรู้ : 14 แต้ม


ข้า คูเปอร์ โจนส์ ขอถวายเกียรติยศแก่เหล่าเทพ แก่เทพี อะธีน่า เทพีแห่งปัญญาและสงคราม



จำนวนเกียรติยศที่มอบให้: 1000



ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15



BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-2-20 12:28
God
คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2025-2-20 12:27
God
คุณได้รับ --1000 เกียรติยศ โพสต์ 2025-2-20 12:19
โพสต์ 36298 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-20 10:39
โพสต์ 36,298 ไบต์และได้รับ +15 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-20 10:39

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -14 ย่อ เหตุผล
God -14

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-21 11:42:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

18/02/25 23.00 น. -  24.00 น.


บทที่ 48


ภายในโถงแห่งปัญญา แสงแดดยามเที่ยงคืน(?) ทอดผ่านหน้าต่างกระจกลงมากระทบกับพื้นหินอ่อนเป็นลวดลายแปลกตา คูเปอร์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพิงชั้นหนังสือ ปล่อยให้ร่างกายได้พักจากการฝึกที่หนักหนาสาหัสที่สุดตั้งแต่เขาเข้าค่ายมา ลิเลียน่านั่งขัดสมาธิอยู่ไม่ไกลนัก ส่วนคลาร่านั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งใกล้ๆ โต๊ะไม้ พร้อมกับแก้วน้ำเย็นที่มีหยดไอน้ำเกาะอยู่รอบๆ  


"พี่คูเปอร์" ลิเลียน่าเอ่ยเสียงลากยาว "พี่รู้ตัวไหมว่าวันนี้พี่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตั้งเยอะเลยนะ!"  


"รู้สิ" เขาตอบเสียงแห้งพลางหลับตา "ฉันรู้ว่าตัวเองสามารถเป็นเหยี่ยวได้ รู้ว่าฉันสามารถเป็นหมาป่าได้ และรู้ว่ากูลมีกลิ่นแย่กว่าที่คิด..."  


คลาร่ายกยิ้มเล็กน้อย "และรู้ด้วยว่าการฝึกที่แท้จริงของบ้านหมายเลขหกไม่เคยปรานีใคร"


"ใช่... ไม่เคยเลย..." คูเปอร์ถอนหายใจยาว "นี่ฉันควรจะดีใจไหมที่มีน้องสาวสองคนที่กระตือรือร้นกับการสอนฉันสุดๆ?"  


"แน่นอน!" ลิเลียน่าหัวเราะ "ก็พี่เป็นสมาชิกของบ้านนี้นี่นา พวกเราต้องช่วยกันฝึกพี่ให้กลายเป็นสุดยอดนักรบแห่งค่ายฮาล์ฟบลัดสิ!"  


"ฉันไม่อยากเป็นสุดยอดนักรบ..." เขาพึมพำ  


"แต่อย่างน้อยนายก็ควรฝึกฝนให้ดี" คลาร่ากล่าวพลางกอดอก "พลังที่แม่มอบให้นายมีประโยชน์มาก และถ้านายใช้มันได้อย่างถูกต้อง นายอาจจะเป็นหนึ่งในเดมิก็อดที่เก่งที่สุดในค่าย"


คูเปอร์ขมวดคิ้ว "ถ้าฉันต้องเลือกระหว่างเป็นเดมิก็อดที่เก่งที่สุด กับเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จที่สุด ฉันขอเลือกอย่างหลังดีกว่า"  


"งั้นก็ใช้พลังนี้ให้เป็นประโยชน์สิ!" ลิเลียน่ายิ้มกว้าง "พี่คิดดูนะ ถ้าพี่แปลงร่างเป็นหมาป่าบนเวทีละครบรอดเวย์ มันต้องเจ๋งมากแน่ๆ!"  


คูเปอร์กลอกตา "ใช่สิ แล้วฉันก็จะโดนพวกฮันเตอร์ของเทพอาร์เทมิสตามล่า เพราะพวกเขาคิดว่าฉันเป็นอสุรกายที่แฝงตัวมาอยู่ในวงการบันเทิงไงล่ะ"  


คลาร่าส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "ว่าแต่... ลิเลียน่า เธอกำลังหาของอะไรอยู่เหรอ?"  


"อืม... ฉันจำได้ว่าฉันเคยเห็นอะไรบางอย่างอยู่แถวนี้น่ะ" ลิเลียน่าก้มหน้าก้มตาค้นกองหนังสือที่ซ้อนกันอยู่ข้างชั้นหนังสือ "มันต้องอยู่แถวนี้แน่ๆ..."  


คูเปอร์มองเธอพลางเลิกคิ้ว "อะไรล่ะ? ตำรายุทธศาสตร์ลับของแม่เหรอ?"  


"ไม่ใช่!" เธอตอบพลางหัวเราะ "อ๊ะ! เจอแล้ว!"  


เธอดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากกอง มันเป็นหนังสือปกแข็งหนาเตอะที่มีตัวอักษรสีทองสลักอยู่บนหน้าปก  


'สารานุกรมสัตว์ป่าแห่งอเมริกาเหนือ'


คูเปอร์กระพริบตาปริบ ก่อนจะมองลิเลียน่าที่กำลังยิ้มแฉ่ง  


"และนี่!" เธอล้วงเข้าไปในกล่องไม้ข้างๆ ก่อนจะหยิบแผ่นซีดีออกมา "เป็นซีดีรวมสารคดีสัตว์โลก!"  


คูเปอร์รับทั้งสองสิ่งมาถือไว้ในมือก่อนจะเงยหน้ามองน้องสาวอย่างงุนงง "ฉันควรดีใจไหมที่ได้รับสิ่งนี้?"  


"แน่นอนสิพี่!" ลิเลียน่าเคาะหนังสือ "พี่ต้องศึกษาสัตว์ให้เยอะๆ จะได้จำแลงกายได้ดีขึ้นไง!"  


"ฉันว่าถ้าคูเปอร์ศึกษาเยอะกว่านี้ เขาคงแปลงร่างเป็นไดโนเสาร์ได้แน่ๆ" คลาร่ากล่าวติดตลก  


"โอ้โห! ถ้าพี่ทำได้จริงๆ มันต้องเจ๋งมากแน่!" ลิเลียน่าหัวเราะ  


"ฉันไม่คิดว่าฉันอยากลองหรอกนะ" คูเปอร์ถอนหายใจ "แต่เอาเถอะ ขอบคุณมากสำหรับของขวัญ"  


เขามองหนังสือกับซีดีในมือก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "ฉันจะลองศึกษาดูก็แล้วกัน..."  


"ดีมาก!" ลิเลียน่ายิ้มกว้าง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอย่างผ่อนคลาย  


คูเปอร์นั่งอยู่ตรงนั้นกับพวกเธออีกสักพักก่อนจะลุกขึ้นยืน หนังสือยังคงอยู่ในมือข้างหนึ่ง แต่สายตาของเขาหันไปมองยังรูปปั้นของเทพีอะธีน่าที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางโถง  


"พี่จะไปไหนเหรอ?" ลิเลียน่าถาม  


"ไปขอพรแม่" คูเปอร์ตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่รูปปั้น  


เขาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นของแม่ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางมือเบาๆ ลงบนแท่นฐานของรูปปั้น  


"แม่ครับ" เขาเอ่ยเสียงค่อย "ผมรู้ว่าผมเพิ่งขอพรแม่ไปเมื่อเช้านี้... และแม่ก็ส่งพลังใหม่มาให้จริงๆ"  


เขาหลับตาลงชั่วขณะ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มจาง


"แต่ว่า..."  


เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย กระซิบเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน  


"คราวหน้าช่วยส่งพลังที่ใช้งานง่ายกว่านี้หน่อยนะครับ"  


เปลวไฟจากโคมไฟรอบๆ โถงไหววูบไปเล็กน้อย คล้ายกับมีเสียงหัวเราะแผ่วเบาดังอยู่ในสายลม  


คูเปอร์ถอนหายใจ ยิ้มเจื่อน ก่อนจะลูบฐานรูปปั้นอย่างถนุถนอม "ก็หวังว่าแม่จะได้ยินนะครับ"  


เขาถอยหลังออกมา กอดหนังสือในมือแน่น ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปหาน้องสาวทั้งสองที่ยังคงนั่งรออยู่  


ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง... อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็มีเวลาพักหายใจสักหน่อยแล้วล่ะ



ชื่อ : Cooper Jones


ปลดล็อกสกิล : พริบตาแห่งวีรชน


ใช้แต้มตื่นรู้ : 7 แต้ม


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15


HEROES โบนัสความโปรดปราน +25

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 37930 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-21 11:42
โพสต์ 37,930 ไบต์และได้รับ +15 EXP +10 เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-2-21 11:42
โพสต์ 37,930 ไบต์และได้รับ +10 EXP +30 ความกล้า +20 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-2-21 11:42
โพสต์ 37,930 ไบต์และได้รับ +15 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-21 11:42
โพสต์ 37,930 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-21 11:42

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -7 ย่อ เหตุผล
God -7

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-3-5 02:06:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-3-5 02:46

Activity Form

4/03/25  7.30 น. -  8.00 น.


บทที่ 57


คูเปอร์ก้าวเท้าออกจากห้องนอนรวมของเหล่าสายเลือดอะธีน่า ขยับไหล่สองข้างอย่างเกียจคร้านระหว่างที่เดินผ่านทางเดินอันคุ้นเคยไปยังโถงแห่งปัญญา วันนี้ไม่มีตารางฝึก ไม่มีภารกิจ ไม่มีอะไรทั้งนั้น แปลว่าวันนี้เป็นอีกวันแห่งการพักผ่อน ซึ่งสำหรับลูกบ้านอะธีน่า แล้ว การอยู่เฉย ๆ เป็นแนวคิดที่ฟังดูไม่น่าอภิรมย์นัก  


สายตาของชายหนุ่มทอดมองรูปปั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางโถง ร่างสูงก้าวเข้าไปใกล้ สัมผัสมือกับฐานของเทวรูปก่อนจะหลับตาลง สูดหายใจเข้าลึก คล้ายกับต้องการเก็บความสงบของสถานที่นี้เข้าไปในปอด  



เงาของชั้นหนังสือทอดยาวบนพื้นเย็นเฉียบ คูเปอร์ยืนอยู่หน้ารูปปั้นของเทพมารดา ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ลงบนฐานของเทวรูปเบา ๆ ราวกับทักทาย


อรุณสวัสดิ์ครับ แม่” คูเปอร์เอ่ยเสียงเรียบ ไม่เร่งรีบ ไม่เกร็งเครียด เป็นน้ำเสียงของลูกชายที่พูดคุยกับมารดาผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเขาอย่างมหาศาล แต่ถึงอย่างนั้น การสนทนากับเธอก็ไม่ได้ต่างจากการคุยกับใครสักคนที่เขารู้จักดี  


วันนี้ผมไม่มีอะไรทำเลย” เขาพูดต่อ พลางกระดิกนิ้วไปมาไล้ไปตามพื้นผิวหินอ่อนของฐานรูปปั้น “ไม่มีภารกิจ ไม่มีการฝึก ไม่มีอะไรที่ต้องใช้สมองมากเป็นพิเศษ ก็ถือว่าดีไปอีกแบบ แต่แม่ก็น่าจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนอยู่เฉย ๆ ได้ดีนัก”  


ไม่มีเสียงตอบกลับจากรูปปั้น แน่นอนล่ะ ก็ไม่ใช่ว่าอะธีน่าจะปรากฏกายออกมาทันทีเพราะลูกชายของเธอบ่นว่าเบื่อหรอก แต่ชายหนุ่มก็ยังคงพูดต่อไป  


ผมเลยมาขอพรหน่อย” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นติดจะอ้อนเล็ก ๆ “ขอให้ช่วงนี้มีอะไรที่มีสีสันเข้ามาในชีวิตบ้าง ไม่ต้องมาก แค่พอให้ตื่นเต้นนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอ”  


คูเปอร์หยุดเว้นวรรค ก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วเสริมเสียงเบา  


แต่ไม่ต้องถึงขั้นเลือดตกยางออกนะครับ”  


เขาถอยหลังออกมาเล็กน้อย มองรูปปั้นของเทพีผู้เป็นมารดาอย่างพินิจพิเคราะห์ คิ้วเข้มเลิกขึ้นคล้ายรอคอยปฏิกิริยาตอบกลับ แม้ในใจจะรู้ดีว่าแม่คงไม่โผล่มาตอบรับคำขอของเขาอย่างโจ่งแจ้ง  


เงียบ— มีเพียงแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างกระทบลงบนรูปปั้น ทำให้เกิดเงาตกกระทบเป็นลวดลายซับซ้อนบนพื้นหินอ่อน คูเปอร์ถอนหายใจยาว เหยียดแขนขึ้นเหนือศีรษะบิดขี้เกียจ  


“ก็คงต้องรอดูกันไปล่ะนะ”  



เขาผละออกมา ยืดเส้นยืดสาย แล้วเดินออกจากโถงแห่งปัญญาโดยไม่ได้คิดจริงจังกับคำขอของตัวเองเลยสักนิด อย่างมากก็คงมีนกพิราบบินมาทำระเบิดใส่หัว หรือไม่ก็มีคนเอาคำถามเชาว์ปัญญาพิลึกๆ มาให้เขาตอบ แต่ไม่เป็นไร เขาพร้อมรับมือทุกอย่าง ตราบใดที่ไม่ใช่มอนสเตอร์ถือกระบองแวะมาเคาะประตูบ้านตั้งแต่เช้า คูเปอร์ปล่อยให้เสียงฝีเท้าของตนเองก้องกังวานไปตามทางเดินเงียบสงบของบ้านหมายเลข 6



ชื่อ : Cooper Jones


ปลดล็อกสกิล : ร้องเรียกนกฮูก


ใช้แต้มตื่นรู้ : 4 แต้ม

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 18857 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-3-5 02:06
โพสต์ 18,857 ไบต์และได้รับ +5 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก บทเพลง   โพสต์ 2025-3-5 02:06
โพสต์ 18,857 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก พริบตาแห่งวีรชน  โพสต์ 2025-3-5 02:06
โพสต์ 18,857 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-3-5 02:06
โพสต์ 18,857 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-3-5 02:06

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -4 ย่อ เหตุผล
God -4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้