แสงสีทองเรื่อเรืองของอรุณรุ่งสาดผ่านหน้าต่างกระจกโรงอาหารประจำค่ายฮาล์ฟบลัด กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ เสียงลมยามเช้ากระทบยอดไม้ไหวเบา ๆ เพิ่มความสงบให้บรรยากาศที่ยังไม่มีผู้คนคับคั่ง
ไนมีเรียเดินเข้ามาในโรงอาหารด้วยก้าวที่เบาและมั่นคง วันนี้เธอมาถึงเร็วกว่าปกติ แม้จะไม่มีใครสั่ง แต่เธอก็มักเริ่มต้นวันด้วยการช่วยแม่ครัวฮาร์ปี้ทำความสะอาด โต๊ะไม้ยาวเรียงรายสะท้อนแสงแดดอ่อน เธอถือผ้าเช็ดโต๊ะในมือพลางฮัมเพลงเบา ๆ ระหว่างเช็ดคราบเศษอาหารที่เหลือจากคืนก่อน
"เธอขยันเสมอจริง ๆ" คลาริสซ่ากล่าวขึ้น เสียงของเธอดังมาจากสร้อยคออัญมณีสีน้ำเงินที่ไนมีเรียสวมไว้
"การได้เช็ดโต๊ะนี่ก็เหมือนการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยผืนผ้าเปล่า ๆ" ไนมีเรียตอบยิ้ม ๆ "แล้วเธอล่ะ สนุกกับการดูฉันทำงานไหม?"
"สนุกตรงไหน? ฉันยอมฟังบทสวดขับไล่วิญญษณยังตื่นเต้นกว่า" คลาริสซ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความเหน็บแนม "แต่ฉันคงต้องชื่นชมความอดทนของเธอที่ยอมทำงานนี้ทุกวัน"
คนยิ้มสวยหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเช็ดโต๊ะตัวสุดท้ายเสร็จและเดินไปล้างมือ เมื่อเธอกลับมานั่งที่โต๊ะใกล้หน้าต่าง เธอก็สังเกตเห็นร่างของชายคนหนึ่งที่คุ้นตานั่งอยู่คนเดียว คุณ D หรือไดโอนีซัส เทพแห่งความสนุกสนานในคราบมนุษย์ประจำค่าย
เขานั่งหลังโค้งเล็กน้อย มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์องุ่นเล็ก ๆ แม้จะเป็นเช้า แต่บรรยากาศรอบตัวเขาดูหม่นหมองผิดปกติ ใบหน้าที่มักประดับด้วยรอยยิ้มกลับเต็มไปด้วยร่องรอยความกังวล
ไนมีเรียลุกขึ้นเดินเข้าไปหา เธอวางมือลงเบา ๆ บนโต๊ะตรงข้ามกับเขา "คุณ D คุณดูไม่เป็นตัวเองเลยเช้าวันนี้ มีอะไรหรือเปล่า?"
คุณ D เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววเศร้าหมองและเหม่อลอยไปพร้อมกัน "อ้อ ไนมีเรีย... ฉันแค่...นึกถึงเรื่องบางอย่าง"
"เรื่องอะไรกันถึงทำคุณนั่งหมอง?" ไนมีเรียถาม น้ำเสียงนุ่มนวลผิดปกติ "ปกติคุณเป็นคนที่มักจะมีเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้ฟังเสมอ แต่วันนี้คุณดูเหมือนกำลังแบกภูเขาไว้บนหลัง"
คุณ D หัวเราะแผ่ว ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว "เธอรู้จักคิมเบอร์ลี่ย์ไหม?"
ไนมีเรียเลิกคิ้ว "คิมเบอร์ลี่ย์...ฉันไม่คิดว่าฉันรู้จักเธอ"
"เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่ง...มหัศจรรย์มาก" คุณ D พูดเสียงแผ่ว "ครั้งหนึ่งฉันเคยอยู่กับเธอในร่างมนุษย์ เรามีลูกสาวด้วยกัน ลูกครึ่งเทพ...เธอชื่อคาโรไลน์"
ไนมีเรียนิ่งฟังอย่างตั้งใจ แม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่ได้ยินเรื่องส่วนตัวของเทพผู้มักจะรักษาระยะห่างระหว่างเขากับคนในค่าย "คาโรไลน์อายุแค่สิบสองปี..." เสียงของเขาเริ่มสั่น "เธอควรจะมีชีวิตที่สดใส แต่เธอเสียไปแล้ว...เพราะอุบัติเหตุ...หรือที่มนุษย์คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ"
"คุณหมายถึง..." ไนมีเรียถาม น้ำเสียงอ่อนลง เรื่องราวนี้ดูเซนซิทีฟกว่าที่คนนอกอย่างเธอจะออกความเห็น
"มิโนทอร์" คุณ D พูดเบา ๆ แต่หนักแน่น "มันได้ตัวเธอ ตอนที่เธอกำลังจะมาที่นี่ ฉัน...ฉันไม่สามารถช่วยเธอได้"
ธิดาแห่งเฮคาทีอาจไม่สามารถอ่านใจแต่ก็เห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเขา ความรู้สึกผิดที่หนักอึ้งเกินกว่าจะระบายออกมาเป็นคำพูด
"แล้วคิมเบอร์ลี่ย์ล่ะ?" เด็กวัย 12 กำลังเติบโตอย่างสดใสนับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าทีเดียวเมื่อรับรุ้ข่าวคนที่เกือบมาเป็นพี่น้องในค่ายต้องมาจากไป หรืออย่างน้อยเธอก็บอกให้ตัวเองคิดแบบนั้น "เธอรู้เรื่องนี้ไหม?"
คุณ D ส่ายหน้า "เธอคิดว่าคาโรไลน์เสียเพราะอุบัติเหตุ เธอกำลังเศร้ามาก และฉัน...ฉันทำอะไรไม่ได้เลย เพราะฉันต้องจัดฉากว่าฉันตายไปแล้ว เพื่อปกป้องเธอจากชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอันตราย อสุรกาย และเทพเจ้า"
'แล้วคุณจะไปยุ่งกับมนุษย์ทำไมตั้งแต่ทีแรกคะ? ช่างเถอะ.. พูดไปก็เข้าพ่อแม่บังเกิดเกล้าตัวเองเปล่าๆ'
ไนมีเรียเงียบไปครู่หนึ่งเปิดมาแบบนี้ภารกิจเทพเจ้าต้องการตัวแน่นอน ก่อนจะเอ่ยขึ้น "อยากให้ฉันช่วยทำอะไรรึเปล่า?"
คุณ D เงยหน้ามองเธอ น้ำเสียงของเขาอ่อนลง "ฉันอยากให้เธอไปอยู่กับคิมเบอร์ลี่ย์สักพัก เธอต้องการใครสักคนที่จะช่วยดึงเธอออกมาจากความเศร้า ถ้าเธอไปหาเธอในฐานะญาติของ 'มาร์ค' ชื่อที่ฉันใช้ตอนเป็นมนุษย์...เธออาจจะเปิดใจ"
ธิดาเฮคาทีครุ่นคิด เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายดายเลยสำหรับคนที่แต่ไหนแต่ไรมาก็เอาตนเองเป็นที่ตั้งอย่างเธอ แต่ยอมรับว่าลึกๆ คราวนี้ก็เห็นถึงความจริงใจในคำขอของเขา จะมีเทพหรือเทพีสักกี่องค์ที่คอยเศร้าโศกและห่วงใยคนที่พวกเขาทอดทิ้งไปแล้วครั้งหนึ่ง
หรือเธออาจคิดว่าเปลี่ยนจากคิมเบอร์ลี่ย์เป็นเอเดรียนพ่อของเธอต้องสูญเสียลูกสาว - คุณแม่ที่รักจะเสียน้ำตาให้กันสักหยด หรือมานั่งตามหาคนปลอบใจคนรักเก่าแบบนี้ไหม ?
"ได้สิ เรื่องแค่นี้เองคิดว่าไปเที่ยวรอบโลกเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อยก็ไม่เลว" เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ "แต่ไม่รับปากนะว่าเธอจะแฮปปี้ ฉันอาจพาคิมเบอรืลี่ย์ชอปปิ้งจนหมดบัญชีเอาง่ายๆ"
คุณ D ถอนหายใจด้วยความโล่งอก "ขอบคุณมาก ไนมีเรีย ฉันรู้ว่าเธอมีหัวใจที่ทุ่มเทไม่กลัวความลำบาก.. แค่ไปอยู่เป็นเพื่อน ทำในสิ่งที่ฉันทำให้เธอคนนั้นไม่ได้ก็ดีมากแล้ว"
“โอเคๆ รับปากแล้วฉันเป็นคนรักษาคำพูด อย่าเศร้าไปเลย คุณเป็นเทพแห่งงานรื่นเริงนี่? เวลาแบบนี้ลองกินชอกโกแลตดู ของหวานช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นนะ” เธอยื่นก่อช็อกโกแลตที่แอบซุกไว้เติมพลังงานให้เทพแห่งไวน์
หลังตอบรับภารกิจเทพเจ้าเศร้าระทม (?) ไนมีเรียกลับไปนั่งที่โต๊ะเพื่อปิดจ๊อบขนมปังเบเกิ้ลของเธอต่อ กลิ่นเนยที่สดใหม่ไม่ได่ช่วยดึงจิตของเจ้าหล่อนที่ล่องลอยไปกลับมาได้ดีเท่าไร จ้องมองแสงแดดที่สาดลงมายังลานกว้างในค่าย
"เธอใจอ่อนเกินไป" คลาริสซ่ากล่าวขึ้น เสียงของเธอฟังดูเย็นชาเล็กน้อย
"บางครั้งคนเราก็ต้องใจอ่อนบ้าง เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง" เสียงหัวเราะในลำคอบ่งบอกเพียงความมืดมิด “หรือเพื่อหว่านเมล็ดไว้รอวันเก็บเกี่ยว”
"คิดแล้วไม่ผิด.. หวังว่าการตัดสนใจครั้งนี้ของเธอจะคุ้มค่านะสาวน้อย"
สาวผมบลอนด์ยักไหล่ "อย่างน้อยมีเทพติดหนี้น้ำใจก็ยังดีกว่าเราไปผูกแค้นกับพวกนั้นนี่ ?"
ทำภารกิจเวรทำความสะอาดโรงอาหาร
เลือกรับ ของรางวัลจากการทำภารกิจเป็น + 25 พลังใจ 50 ดอลลาร์ และ + 15 EXP
ทานอาหารประจำวัน +30 พลังงาน
รับทราบภารกิจเที่ยวรอบโลกจากคุณ D
BELIEVER [ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ] โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15
ให้ช็อกโกแลตคุณ D กินของหวานช่วยให้หายเศร้า
@God