เจ้าของ: God

[โรงอาหารหลัก] โถงอาหารประจำค่าย

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-10-29 21:22:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด

DARYNA
Please contact your mother 1/2
ย้อนเวลาช่วง 16.00 น.

หลังจากที่ดาริน่าฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างผิด ๆ ถูก ๆ หญิงสาวก็ได้ความว่า เธอไม่มีพรสวรรค์เรื่องกำลังกายเลยแม้แต่น้อย ดูท่าเรื่องที่เธอเก่งศิลปะและหมกแต่ในบ้านเพื่อทำการละเลงความสร้างสรรค์ลงผืนกระะดาษจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับเธอแล้ว

ไม่ใช่สิดาริน่า!

เธอเอ่ยฮึดฮัดกับตัวเองภายในใจ ดวงหน้าม่อยลงไปถนัดตายามที่หญิงสาวบ้านไอริสพาตัวเองในสภาพชุดกระโปรงเปรอะดินประปรายเข้ามายังเขตโรงอาหาร ดูเหมือนชุดกระโปรงตัวเก่งของเธอก็คงต้องใส่เป็นอย่างอื่นเสียแล้วหากคิดจะฝึกฝนให้ตัวเองเก่งมากพอจะออกไปข้างนอกเพื่อพานพบหน้ากับวลาด เสียงลมหายใจผ่อนผ่านเพื่อคุมลมหายใจของเธอที่ยังไม่เข้าที่นัก หลังพาตัวเองวิ่งรอบสนามฝึกเพื่อคูลดาวน์ดาริน่าก็ตรงมาทานอาหารต่อ พวงแก้มยังฝาดระเรื่อจากความร้อนอยู่เลย

แต่แล้วก็มีเรื่องให้ลอบสะดุ้งและเกือบจะหน้าแดงกว่าเดิมเพราะใจที่เต้นสูบฉีดจากความตระหนกที่จู่ ๆ ก็มีร่างของหญิงสาวท่าทางปราดเปรียวคนหนึ่งมานั่งตรงข้ามโต๊ะตัวยาวที่ดาริน่านั่งอยู่ ทว่าหลังเห็นว่าเป็นใคร รอยยิ้มเซื่อง ๆ จากอิวานอฟสาวก็เผยส่งไปให้

ยิ้มแต้หน้าซื่ออะไรของเธอยัยหนู ยอมออกจากบ้านพักแล้วหรอ จิ๊ ๆ.. ประหลาดใจจริง

ทีน่า แซนโดวาล รุ่นพี่ธิดาไอริสเฉกเช่นเดียวกับดาริน่าเอ่ยทักขึ้นด้วยประโยคติดเย้าหยอก ก่อนจะเท้าคางมองยังอิวานอฟสาวที่ยังยิ้มค้างถือส้อมตักอาหารอยู่ เธอเคยเจอหน้าอีกฝ่ายบ้างยามพี่สาวตนนี้กลับมาพักผ่อน ส่วนเวลาอื่นเนื่องจากเธอไม่ค่อยอยากเสียเวลาวาดรูปจึงมักซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปกินที่บ้านพัก น้อยครั้งจะมานั่งทานอาหารของฮาร์ปี้ใจดีที่ปรุงรสอาหารได้อร่อยจนน่าตกใจนี้ และเหมือนครั้งนี้จะแจ็กพอตเจอเข้ากับรุ่นพี่พอดี

อ่า.. เซอร์ไพรส์ค่ะ ” ดาริน่าเอ่ยเสียงเบา พยายามตลกกลบเกลื่อนเพราะปฏิสัมพันธ์ไม่เก่งนักเลยไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์การพูดของพี่สาวตรงหน้าหมายถึงอะไร

แต่แค่นั้นก็คล้ายทำทีน่าขำพรืดก่อนจะเอ่ยกลั้วหัวเรากลับไป

พรืด- เซอร์ไพรส์อะไรของเธอเนี่ย แล้วนี่กินเสร็จจะเอาของไปให้ท่านไอริสด้วยหรือเปล่า

อิวานอฟสาวคล้ายชะงักมือถือส้อมที่เกือบจะจิ้มเห็ดในซุปขึ้นทานอีกครั้ง สีหน้าเธอดูลุกรนอย่างเห็นได้ชัดเหมือนไม่กล้าตอบเรื่องนี้เสียเท่าไหร่จนเผลอเม้มริมฝีปากอย่างติดประหม่า ดวงตาสีฮาเซลคล้ายหลบเลี่ยงไม่กล้าสบตาพี่สาวในบ้าน

คือว่า… พอดีเราไม่ค่อยชอบเผาของน่ะค่ะ มัน..โลกร้อน ก็เลย-

ยิ่งพุดก็ดูคล้ายจะทำให้ทีน่าที่นั่งเท้าคางมองเธอด้วยสีหน้าผ่อนคลายเริ่มจะนิ่วคิ้วหนัก ยามที่ยังไม่ทันเอ่ยประโยคหลังจบดีเสียด้วยซ้ำเสียงตบโต๊ะก็ดังขึ้นไม่แรงนัก แต่ก็มากพอให้ร่างเล้กเผลอลอบสะดุ้งขึ้นมา ดาริน่ากลืนน้ำลายจนสองข้างหูแว่วได้ยินเสียงอึก เธอพยายามคลี่รอยยิ้มซื่อ ๆ ไปให้ราวกับเสี่ยงดูว่าจะช่วยคลายท่าทางคล้ายติดฉิวของพี่สาวร่วมบ้านได้ไหม

แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลแฮะ

เธอจะบอกว่าไม่เคยติดต่อแม่เธอเลยงั้นหรอ?! เธอบ้าไปแล้วรึไงยัยหนู!

เสียงหวานเจือทุ้มของทีน่าเอ่ยขึ้นเสียงเล็กน้อย ดวงตาเบิกเขม็งมองรุ่นน้องสาวราวกับอยากดุและลงมือลงโทษอะไรสักอย่างมากกว่านี้ ติดที่ว่าน้องสาวของเธอชอบมาทำหน้าซื่อให้ทำได้แค่ถลึงตา

คือว่า.. มัน

เลิกโลกร้อน! เธอต้องสนิทกับแม่บ้างก่อนที่ท่านจะลืมว่ามีลูกชื่อดาริน่า!! เธอยังอยากรอดที่โลกมนุษย์ไหมเนี่ย หืม!? อีกอย่างของที่เอาไปให้ผ่านการเผามันก็ส่งตรงถึงท่านไอริสด้วย ควันพวกนั้นไม่ได้มีส่วนทำให้โลกร้อนนะ! ”

สุดท้ายดาริน่าก็คล้ายโดนบ่นจนหูเกือบชา เธอพยายามจะแทรกหลายรอบแล้วแต่ดูคล้ายว่าทีน่าจะเอาแต่อบรมเธอจนแทบพูดแย้งอะไรไม่ออก ซุปเห็ดตรงหน้าเลยค่อย ๆ ถูกดาริน่ากินเชื่องช้าสลับพยักหน้าทั้งสีหน้าหงอย ๆ ไปแบบนั้น
กินอาหารฟรี [ พลังงาน +30 ]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10354 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-10-29 21:22
โพสต์ 10,354 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก หูตาฉับไว  โพสต์ 2024-10-29 21:22
โพสต์ 10,354 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย  โพสต์ 2024-10-29 21:22
โพสต์ 10,354 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-10-29 21:22

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำไลหินนำโชค
ดาบสัมฤทธิ์
โล่อัสพิส
เสื้อฮาวาย
ร่ม
หูตาฉับไว
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x3
โพสต์ 2024-10-31 11:46:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

บทที่ 10


โถงอาหารสุขสันต์



หลังมาถึงค่ายได้ราวหลายวัน คูเปอร์ก็ตัดสินใจไปโรงอาหาร เพราะช่วงที่ผ่านมาชายหนุ่มอยู่ในช่วงปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ จึงคลุกตัวอยู่แต่ในบ้านและไปหาอะไรกินที่มินิมาร์ท เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ ไม่เชิงว่าเขาไม่อยากยุ่งกับใคร แค่รู้สึกพอมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนต่างวัยอยู่เยอะโดยเฉพาะคนที่อายุน้อยกว่า มันทำให้เขาวางตัวไม่ค่อยถูก แต่พอถึงจุดหนึ่ง ความเบื่อหน่ายและความอยากลองสิ่งใหม่ ก็เริ่มครอบงำ  


เมื่ออะไรหลายอย่างเริ่มลงตัวขึ้นเล็กน้อย คูเปอร์ตัดสินใจเดินตรงไปที่โถงอาหารของค่าย หวังจะหากินสักมื้อแทนของสำเร็จรูปในห่อพลาสติก


ทันทีที่ก้าวเข้ามา กลิ่นอาหารหลากหลายตีเข้าจมูก เสียงพูดคุยก้องสะท้อนทั่วโถง โต๊ะไม้ยาวเรียงเป็นแถวตามบ้าน บนโต๊ะมีถาดอาหารวางเต็มไปหมด เด็กค่ายนั่งกันเป็นกลุ่มตามบ้านของตัวเอง เสียงหัวเราะและบทสนทนาคละคลุ้งไปกับเสียงช้อนส้อมกระทบจาน ชายหนุ่มยืนนิ่งชั่วครู่ ปล่อยให้บรรยากาศโถงอาหารซึมซับเข้ามาในความรู้สึก  


ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า ฮาร์ปี้แม่ครัวประจำค่ายกำลังเสิร์ฟอาหารให้เด็ก ด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ดูคล่องแคล่วอย่างมืออาชีพ ถึงปากจะร้ายแต่ไม่มีใครในโถงนี้ดูจะถือสา พวกเขาพูดคุยหยอกล้อกับเธออย่างเป็นกันเอง เห็นแบบนั้น คูเปอร์ก็พอจะคลายความกังวลไปได้บ้าง  


"เอ้า! จะกินอะไรก็รีบสั่ง ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งให้เธอเลือกนาน ๆ หรอกนะ!" ฮาร์ปี้ตะโกนมาแบบไม่อ้อมค้อม พลางยื่นถาดข้าวหน้ากุ้งเทมปุระใส่มือเขาอย่างไม่รอคำตอบ  





คูเปอร์ชะงักไปเล็กน้อย แต่เห็นกุ้งเทมปุระพูน ๆ บนข้าวขาวร้อน ๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมในใจ ชายหนุ่มรับถาดมาอย่างว่าง่าย แล้วเดินหาที่นั่ง 




คูเปอร์เดินถือถาดอาหารไปวางตรงโต๊ะหมายเลข 6 โต๊ะประจำของบ้านอะธีน่า ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วคือ ‘เอเตียน โลรองต์’ เด็กหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่งที่แทบจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหุ่นปั้นได้ไม่ยาก อีกฝ่ายกำลังนั่งกินข้าวอย่างสงบเหมือนโลกภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย  


“ที่นี่ว่างไหม?” คูเปอร์ถาม พลางวางถาดลงโดยไม่รอให้ได้คำตอบเต็มปากเต็มคำ  


เอเตียนเงยหน้าขึ้นมองเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างขอไปที คูเปอร์จึงทิ้งตัวลงนั่งอย่างสบายใจ คีบกุ้งเทมปุระขึ้นมากัดด้วยความเอร็ดอร่อย  


“นี่เขาเรียกว่าข้าวของค่ายจริงเหรอ?” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง กวาดตามองรอบถาดที่เต็มไปด้วยอาหารแสนประณีต “ข้าวนุ่ม ซอสกลมกล่อม กุ้งตัวใหญ่... ฉันต้องจ่ายเพิ่มไหมเนี่ย?”


เอเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่มองคูเปอร์ด้วยสายตาราบเรียบ เหมือนจะบอกว่า ‘นี่แค่เรื่องปกติเอง นายทำเหมือนเพิ่งรู้จักอาหารเป็นครั้งแรกไปได้’


“นายกินกุ้งเทมปุระแบบนี้ทุกวันหรือเปล่า?” คูเปอร์ถาม พยายามเปิดบทสนทนากับน้องร่วมบ้านที่นิ่งสนิทกว่าคนตาย  


เอเตียนหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปมิโสะเข้าปาก ก่อนจะตอบห้วน ๆ “ก็แล้วแต่วัน”


“อืม… ตอบได้ละเอียดลึกซึ้งจริง ๆ” คูเปอร์พึมพำกับตัวเองแบบติดตลก แต่ดูเหมือนเอเตียนจะไม่ได้ใส่ใจจะรับมุก ชายหนุ่มเลยเปลี่ยนไปกัดกุ้งอีกคำใหญ่แทน  


คูเปอร์ยกชิ้นกุ้งเทมปุระขึ้น พินิจพิจารณามันราวกับกำลังวิเคราะห์งานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ “ให้ตายเถอะ นี่มันอาหารของค่ายหรือร้านหรูในย่านกินซ่า?” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง พร้อมเคี้ยวกร้วมอย่างเอร็ดอร่อย ความกรอบของแป้งเข้ากับความหวานของเนื้อกุ้งพอดิบพอดี ราวกับเทพีแห่งการปรุงอาหารเองลงมาควบคุมกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ  


ชายหนุ่มตักข้าวเข้าปากพลางคิดในใจ ‘ฮาร์ปี้ นี่...ทำกับข้าวเก่งขนาดนี้ พอจะไปเปิดร้านอาหารได้เลยนะเนี่ย ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าโอกาสโดนลูกค้าด่ากลับคงสูงมาก’ เขานึกขำเมื่อนึกภาพฮาร์ปี้ถือกระทะขนาดใหญ่ ไล่ตะเพิดลูกค้าปากมากออกจากร้านพร้อมด่าแหลกเป็นชุด  


หลังจากใช้ชีวิตกินอาหารสำเร็จรูปมาหลายวัน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายต้องการอาหารจริงจังขนาดไหน ข้าวในชามถูกโกยเข้าปากอย่างรวดเร็ว จนเหมือนกับกลัวว่ากุ้งเทมปุระจะหนีไปไหน “ดีจริง ๆ แหะ นี่ถ้าฉันกินครบสามมื้อนี่ อาจจะกลายเป็นคนใหม่ที่มีพลังล้นเหลือก็ได้” เขาหัวเราะเบา ๆ พลางคิดว่าถ้าอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ น้ำหนักตัวคงเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน


ระหว่างที่เขามองกุ้งตัวสุดท้ายบนชามตาปริบ ๆ เสียงเรียบเย็น ก็ดังขึ้นจากฝั่งตรงข้ามโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย “นึกว่าคงอยู่แต่ในห้องอีกนานกว่าจะออกมา”  


“เออ ฉันเองก็นึกว่าจะไม่ได้เห็นแสงแดดอีกเหมือนกัน” คูเปอร์ตอบอย่างติดตลก ก่อนจะเหลือบมองอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งทานข้าวต่อไปเงียบ ๆ ราวกับไม่สนใจว่าใครจะหัวเราะหรือไม่ เอเตียนเป็นแบบนี้เสมอ พูดเหมือนเป็นหุ่นยนต์ติดโปรแกรมสำเร็จรูป แต่ก็แฝงความน่าขันในแบบของตัวเอง



พวกเขานั่งเงียบกันไปครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงเคี้ยวอาหารและเสียงช้อนกระทบถ้วยเท่านั้นที่ดังเป็นระยะ คูเปอร์ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า การนั่งเงียบ ๆ กับเอเตียนนี่เหมือนนั่งคุยกับรูปปั้นหินเก่า ๆ ในพิพิธภัณฑ์  


หลังจากเคี้ยวข้าวจนหมด คูเปอร์ตัดสินใจจะลองอีกครั้ง “แล้วนายมาอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?”  


“หลายปี” เอเตียนตอบห้วน ๆ เหมือนเคย  


“โอเค… สั้นกระชับดีจริง ๆ” คูเปอร์พึมพำเบา ๆ ยกถ้วยซุปมิโสะขึ้นจิบ น้ำซุปร้อน ๆ ไหลลงคอให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จนทำให้เขานึกสงสัย ‘หมอนี่เป็นลูกบ้านเดียวกับฉันแน่เหรอ? ทำไมไม่ค่อยพูดเลยนะ?’


“โอเค…” คูเปอร์ลากเสียงยาว ราวกับกำลังพยายามรวบรวมความกล้าในการชวนคุยต่อ "เอ้อ แล้วนายชอบอยู่ที่นี่ไหม?"


เอเตียนหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็ไม่มีอะไรให้เกลียด”


คูเปอร์อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ว้าว นายเนี่ยมันสายกลางของแท้เลยนะ”




เมื่อทานเสร็จ เอเตียนเก็บถาดของตัวเองและลุกขึ้นอย่างเรียบร้อย ก่อนจะหันมาทางคูเปอร์ พลางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแบบเดิม “นายควรไปที่เตาไฟบูชานะ จะได้เชื่อมสัมพันธ์กับเธอ”  



คูเปอร์เงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างงง ๆ ชั่วครู่ ก่อนจะเข้าใจว่าหมายถึงใคร แม่ของพวกเขาทั้งสอง  


“บูชาเธอเหรอ?” คูเปอร์ทวนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

  

"ใช่ ถวายอาหารสักหน่อย จะได้โชคดี" เอเตียนพูดพลางลุกขึ้นเก็บถาดของตัวเอง ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้ายแบบสั้น ๆ


คูเปอร์เกาหัวเบา ๆ “อืม... ฉันไม่ค่อยถนัดเรื่องบูชาสักเท่าไหร่ นายแนะนำหน่อยได้ไหม ต้องทำยังไง?”




เอเตียนจ้องมองเขานิ่ง ๆ อีกครั้ง ก่อนจะตอบแบบสั้นกระชับตามสไตล์เดิม “ก็แค่คิดถึงเธอ”


คูเปอร์ยิ้มเจื่อน “แค่นั้นเอง?”


“แค่นั้น” เอเตียนพยักหน้าเบา ๆ ราวกับจะบอกว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ทำได้  


“ถ้างั้นฉันจะลองดู” คูเปอร์พูด พร้อมหยิบกุ้งเทมปุระตัวสุดท้ายขึ้นมากัดคำใหญ่ราวกับเติมพลังให้ตัวเองก่อนภารกิจบูชาเทพเจ้า  


เอเตียนมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้คูเปอร์นั่งครุ่นคิดอยู่สักพัก ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในคำแนะนำของเอเตียน แต่มันเป็นอะไรที่เขายังไม่อาจเข้าใจได้ในตอนนี้  


“โอเค งั้นเริ่มจากไปถวายอาหารนี่แหละ” คูเปอร์บ่นกับตัวเอง ก่อนจะไปหยิบอาหารถาดใหม่ เดินไปยังเตาไฟบูชาอย่างมุ่งมั่น  


ระหว่างเดิน เขายังอดนึกขำในใจไม่ได้ ‘ก็นะ ถ้าการสร้างสัมพันธ์กับเทพเจ้ามันง่ายขนาดนี้ ฉันคงไม่ต้องปวดหัวกับชีวิตมากขนาดนี้หรอก’  


แต่ลึก ๆ แล้ว เขารู้สึกว่ามันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด  บางทีการบูชานี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องของพิธีกรรมธรรมดา แต่มันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น  และคูเปอร์ก็พร้อมจะค้นหามัน แม้ว่าจะต้องทำไปพร้อมกับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับเพื่อนร่วมบ้านผู้พูดน้อยอย่างเอเตียนก็ตาม  


"ขอแค่ไม่เงียบจนเป็นใบ้ไปเลยก็พอ" คูเปอร์บ่นเบา ๆ กับตัวเอง แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย  


วันนี้เป็นเพียงก้าวแรก แต่เขารู้สึกว่ามันจะเป็นก้าวที่สำคัญอย่างไม่คาดคิด



กินอาหารฟรี [ พลังงาน +30 ]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 40363 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-10-31 11:46
โพสต์ 40,363 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก หอกกรีก  โพสต์ 2024-10-31 11:46
โพสต์ 40,363 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +6 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2024-10-31 11:46
โพสต์ 40,363 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-10-31 11:46
โพสต์ 40,363 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2024-10-31 11:46

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2024-10-31 21:34:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
226
เติมพลังก่อนจัดปาร์ตี้

               30/10/2024 — 18.00 น.

               ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเตรียมการสำหรับการเฉลิมฉลองเล็ก ๆ รับวันฮาโลวีนเสร็จสิ้น ดีนไม่อยากแค่แจกขนมเฉย ๆ แต่ทำให้ตื่นเต้นด้วยการทำถุงสุ่ม ที่เสียเวลานั้นไม่ใช่อะไรเลย แต่คือการนำสารพัดขนมที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อค่อย ๆ ห่อให้สวยงามด้วยกระดาษห่อของขวัญสีส้มและดำโดยมีลูกมือเป็น เด็กหญิงรีชา แคมพ์เบลล์ สิ่งที่อยากที่สุดเห็นจะเป็นการห่อเค้กไม่ให้หน้าเละ ใช้เวลาอยู่นานทีเดียวถึงจะออกแบบแพ็คเกจเสร็จสิ้น เท่านั้นไม่พอคอสตูมก็เป็นสิ่งสำคัญ…

               ตะกร้าใส่ดอกไม้ถูกแปลงเป็นตะกร้าขนมสุ่ม ก่อนจะไปแจกขนมให้ใครได้คนแจกต้องทำให้ท้องอิ่มเสียก่อน สองพี่น้องบ้านโพไซดอนจึงพากันไปที่โรงอาหารเพื่อรับประทานมื้อค่ำแสนอร่อย แต่ก่อนจะเซอร์ไพรซ์ชาวบ้านดูเหมือนว่าเด็ก ๆ จะถูกเจ๊ฮาร์ปี้เซอร์ไพรซ์ก่อนแฮะ


               อาหารเย็นวันนี้มีให้เลือกมากมายหลายอย่างราวกับอาหารในงานปาร์ตี้ แถมทุกชิ้นยังตกแต่งเข้าธีมวันฮาโลวีนอีกต่างหาก ดีนเห็นไอมิ หญิงสาวสายเลือดแอมฟริไทด์ช่วยเจ๊ฮาร์ปี้นำอาหารออกมา ก็ว่า.. งานหนักแบบนี้ทำคนเดียวไม่ไหวหรอก

               ไหน ๆ แล้ว เอาของขวัญให้สองคนนี้ดีกว่า

               “สุขสันต์วันฮาโลวีนครับ ทั้งสองตั้งใจทริกเต็มที่เลยสินะ เห็นทีต้องให้ขนมแล้ว”

               จากนั้นก็ยื่นห่อขนมสีส้มดำให้ไอมิและเจ๊ฮาร์ปี้ ใครได้อะไรก็ไม่รู้ให้พวกนางไปลุ้นกันเอาเอง ส่วนดีนหยิบเอาแฮมเบอร์เกอร์ชาโคลหน้าปีศาจมาแล้วเดินไปที่โต๊ะ ระหว่างทางเจอกับเอมีเลียพอดีดีนจึงชวนเธอนั่งร่วมโต๊ะที่บ้านฮาร์โมนี่

               “เธอนี่เลือกโต๊ะได้ไม่ซ้ำยกเว้นโต๊ะโพไซดอนเลยนะ” เอมีเลีย แอร์ฮาร์ตเอ่ยแซว ก่อนจะม้วนเส้นสปาเก็ตตี้สยองขวัญเข้าปาก

               “ผมเป็นคนทุกทีต้องไปได้ทุกที่แหล่ะ” ดีนอมยิ้มยักใหญ่ ก่อนจะอ้าปากกัดแฮมเบอร์เกอร์คำโตจนซอสติดปลายจมูก

               “หนูก็เหมือนกันค่ะ!”

               รีชาเข้าข้างจนผู้ใหญ่อย่างเอมีเลียได้แต่ส่ายหน้าน้อย ๆ หากไปค่ายทหารในยุคสมัยที่เธอจากมานะมีหวังสองคนนี้โดนซ่อมหนักแน่ ๆ แต่เอมีเลียรู้ว่าค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นสถานที่ที่ดีกว่านั้นเยอะ

               “แล้วนี่หอบขนมกันมาจะแจกวันฮาโลวีนเหรอ?” หญิงสาวถาม

               “ใช่ครับ คุณดีเครียดจัดเรื่องกลางคืนหาย ผมคิดว่าเราควรสร้างบรรยากาศความสนุกสักหน่อยก็เลยแอบรับหน้าที่มาแทน ว่าแต่คุณเอลี่ไม่ทริกออทรีตกับพวกเราหน่อยเหรอ?”

               “โอ้… ไม่ล่ะ ฉันน่ะอายุปูนนี้แล้วให้เล่นเป็นเด็กขอขนมน่ะมัน...” เอมีเลียทำท่าปฏิเสธแต่ถูกสายตาเว้าวอนเป็นประกายจากรีชาคาดหวัง ปากพึมพำ ‘ไม่จ้ะ’ ไร้เสียง แต่ดูเหมือนจะต้านทานลูกอ้อนของธิดาโพไซดอนก็ได้ “โธ่ เอางั้นก็ได้ ทริกออทรีต”

               “ถ้าผมบอกว่าทริกคุณเอลี่จะโชว์อะไรนะ” ชายหนุ่มหัวเราะ

               “ดีน! ไม่นะ ไม่ทริก! พูดว่าทรีตเลย” เอมีเลียโวยวายเล็ก ๆ ที่หามุมนี้ของเธอไม่ได้ง่าย ๆ เท่าไร

               “ทรีตก็ได้ครับ” ดีนยิ่งขำหนักกับท่าทีนั้นของหญิงสาวรุ่นแม่ ไม่แกล้งเธอก็ได้เกรงใจผู้อาวุโส “คุณเอลี่หยิบถุงสุ่มไปสักอันสิครับ อยากรู้จังว่าจะได้อะไร”

               “หยิบเหรอ ไอเดียเธอนี่มันล้ำจริง ๆ” คราวนี้เป็นเอมีเลียที่หัวเราะ เธอหยิบถุงที่อยู่บนสุดของตะกร้า “หรือว่านี่เป็นวิธีการของคนศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด?”

               “ไม่ใช่แน่นอน ถ้าอยากรู้ก็แกะออกมาได้เลยนะครับ ผมก็อยากรู้”

               “โอเค งั้นฉันขอดูหน่อย”

               เอมีเลียวางส้อมลงก่อนจะบรรจงแกะห่อกระดาษราวกับไม่อยากไม่มันบุบสลาย ทั้งที่จริงแล้วไม่ต้องเลยแท้ แล้วสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือเค้กสตรอว์เบอร์รี่สีชมพูหวานแหววหลุดธีมวันฮาโลวีนไปไกล

               “โอ้โห เธอห่อเค้กไม้ให้เละได้ไงเนี่ย!” ดวงตาของหญิงสาวเบิกโตด้วยความเซอร์ไพรซ์

               “ผมกับรีชหาวิธีห่อนานมากครับ บอกเลย” สิ้นคำน้องสาวตัวเล็กก็พยักหน้าหงึกหงักสมทบตาม

               “เก่งมากทั้งสองคน แบบนี้ฉันได้ของหวานล้างปากแล้วล่ะ”

               บนโต๊ะอาหารบุตรแห่งสามมหาเทพคุยกันอย่างสนิทสนมในเรื่องราวต่าง ๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดีนบอกเอมีเลียว่าเขาอาจจะกลับบ้านที่ซานอันโตนิโอสักเดือนนึงหรือมากกว่านั้น แล้วยังเล่าเรื่องข้อสันนิษฐานบางอย่างเกี่ยวกับวิกฤตการณ์กลางคืนที่หายไปตามที่ได้ยินมาแก่หญิงสาว หวังให้เธอไปช่วยบูชาเพิ่มพลังให้เทพีคิโอเน่เพิ่มอีกคน

               เมื่ออาหารหมดและสิ้นสุดบทสนทนาก็ถึงเวลาแยกทาง ดีนและรีชาก็เตรียมการสำหรับฮาโลวีนต่อไป

รับประทานอาหารประจำวัน
มอบ [เค้กสตรอว์เบอร์รี่] แก่ [เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต]
โบนัสความสนิทจากน้ำหอม +5


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-11-1 09:41
โพสต์ 15648 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-10-31 21:34
โพสต์ 15,648 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-10-31 21:34
โพสต์ 15,648 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-10-31 21:34
โพสต์ 15,648 ไบต์และได้รับ +3 EXP +4 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-10-31 21:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-11-2 00:32:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-11-2 00:34

228
เดี๋ยวจะไม่ได้กินอาหารค่ายอีกนานเลย

               1/11/2024 — 7.00 น.

               กำหนดการของวันนี้คือออกจาค่ายฮาล์ฟบลัดแปดโมงเช้า ขึ้นรถไฟแอลไออาร์อาร์เข้าเมืองนิวยอร์กไปต่อสถานีรถไฟเพนซิลเวเนียเพื่อโดยสารรถไฟแอมแทรกเส้นทางเลคชอร์ลิมิเตดที่จะออกจากชานชาลาในเวลาสิบนาฬิกาห้าสิบนาที จะไปหาอาหารเช้าแถวนิวยอร์กรับประทานก็ได้แหล่ะ แต่จะเสียเงินไปทำไมถ้าได้รับประทานอาหารปรุงสุกแสนอร่อยโดยไม่ต้องจ่ายเงิน

               ก่อนออกเดินทางดีนจึงมารับประทานอาหารเช้าที่โถงอาหารเพียงลำพัง ส่วนคนที่จะติดตามไปด้วยยังเตรียมตัวอยู่ที่บ้านพักอยู่เลย แต่ก็ไม่เป็นไรเอาไว้เดี๋ยวค่อยขอห่อไปให้แมคเคนซีกินระหว่างทาง

               “นี่อะไรครับเจ๊ เบเกิลแซนวิชแบบใหม่เหรอ?”

               โคลงศีรษะมองแซนวิชสลัดกรีกที่ขนมปังทรงกลมมีรูตรงกลางคล้ายโดนัท แต่ดูแค่ภายนอกเหมือนแข็งเหมือนกับขนมปังฝรั่งเศสที่โรยด้วยงาจนทั่ว อาจเป็นขนมปังที่เหลือจากมื้อฮาโลวีนเมื่อคืนก็ได้มั้งถึงได้ดูแปลก ๆ


               “ผิดแล้ว นี่คือซินิตต่างหาก อาหารกรีกที่เจ๊ไม่ได้ทำมานาน กินคู่กับแยมส้มหรือบลูเบอร์รี่แล้วแต่ชอบ แล้วเราน่ะชอบหวาน ๆ ใช่ไหม อย่าลืมราดน้ำผึ้งด้วย” แม่ครัวฮาร์ปี้ตั้งใจอธิบายโดยไม่วีนเหวี่ยง ถ้าเป็นเรื่องแนะนำอาหารแล้วล่ะก็เชฟใหญ่อย่างเธอยินดีเสมอ

               “โอ้ ขอบคุณครับเจ๊ ถ้ายังไงเดี๋ยวช่วยห่อให้อีกอันได้ไหมครับ พอดีว่าวันนี้ผมต้องออกเดินทาง”

               “ได้สิ เอาไว้ค่อยมารับหลังกินเสร็จละกัน”

               พอได้ยินเจ๊ฮาร์ปี้รับปากดีนก็คีบซินิตใส่ถาด ตักแยมและน้ำผึ้งอย่างละนิดละหน่อยวางแนมไว้ข้าง ๆ จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะ ว่าแต่วันนี้จะเดินไปโต๊ะไหนไม่ให้ซ้ำดีนะ… ดวงตาสีเปลือกไม้คมเข้มตามเชื้อสายละตินที่มีในตัวกวาดสายตามองโถงอาหารจนทั่ว ก่อนที่สายตานั้นจะหยุดอยู่ที่แผ่นหลังหนึ่งที่กำลังนั่งกินอาหารเช้าเพียงลำพัง ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะพาร่างตัวเองไปนั่งลงที่โต๊ะเฮเฟตัส

               “สวัสดีครับรุ่นพี่คริสโตเฟอร์” ดีนวาดรอยยิ้มทักทายรุ่นพี่ต่างบ้านอย่างแจ่มใส เขาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะฝั่งตรงกันข้ามกับเป้าหมาย ก่อนจะหย่อนก้นนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ไม้ “ขอนั่งด้วยนะครับ”

               คำขออนุญาตมาทีหลังการกระทำเสียอีก แม้ว่าคริสโตเฟอร์ บราวน์ รุ่นพี่จากบ้านเฮเฟตัสจะไม่นิยมสุงสิงแต่คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะดูเหมือนชายตรงหน้าจะเป็นประเภทหน้าด้านหน้าทนไล่ไม่ไป

               “เชิญ”

               หนุ่มผิวดำเอ่ยตอบก่อนจะรับประทานอาหารต่อโดยทำทีไม่สนใจ ถึงจะไม่ใช่คนใจร้ายแต่เขาชวนคุยไม่เก่งการแสดงออกจึงออกมาอีหรอบนี้ จากครั้งแรกที่ได้พบกันหน้าประตูค่ายดีนก็รู้ทันทีว่ารุ่นพี่มีบุคลิกภาพแบบอินโทรเวิร์ต การริเริ่มบทสนทนาอาจเป็นเรื่องยากเกินไปและเสียพลังงาน ดังนั้นคนเอ็กซ์โทรเวิร์ตอย่างเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มสนทนาแทน

               “ขอบคุณรุ่นพี่ ช่วงนี้นอนหลับสบายดีไหม?” ถามจบก็หยิบซินิตขึ้นมาทาแยมแล้วเอาเข้าปากกัดเคี้ยวตุ้ย ๆ

               คริสโตเฟอร์เลิกคิ้วขึ้น ไม่บ่อยนักจะมีคนถามแบบนี้ เรียกว่าไม่มีเลยจะดีกว่า

               “ก็.. สบายดี”

               “ดีแล้วครับ ช่วงนี้การนอนปกติอาจมีปัญหา ได้นอนหลับอย่างน้อยฮอร์โมนก็ยังทำงานโอเคอยู่ คงไม่เป็นโรคเครียด”

               ฟังเช่นนี้รุ่นพี่คงเข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องที่ดีนต้องการสื่อคือความวิบัติของโลก ณ ขณะนี้

               “แต่ถ้ารุ่นพี่มาจากยุโรปเหนือก็น่าจะชินหรือเปล่านะ ที่นั่นคงมีพระอาทิตย์กลางคืนทุกปี”

               “ทำไมถึงคิดว่าผมมาจากยุโรปเหนือล่ะ?” คริสโตเฟอร์ขำหึในลำคอกับความช่างคิดเองเออเองของคนตรงหน้า

               “ก็ไม่หรอก ผมก็พูดไปเรื่อยล่ะครับ ความจริงจะเป็นคนจากที่ไหนก็ไม่เห็นจะสำคัญเลย” คราวนี้เป็นดีนที่หัวเราะปร๋อแทน แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะกินมื้อเช้า

               “เป็นคนจากที่ไหนก็ไม่สำคัญงั้นเหรอ…”

               คริสโตเฟอร์พึมพำเสียงเบา สำหรับเขาก็ไม่เชิงว่าไม่สำคัญทีเดียว ก่อนหน้านี้รวมถึงเดี๋ยวนี้เป็นบางครั้งบางคราวที่ถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามจากคนผิวขาว ร้ายที่สุดคือถูกบูลลี่ทางร่างกายจนเลือดตกยางออก มีเพียงแค่ความสามารถเฉพาะตัวเข้าขั้นอัจฉริยะเท่านั้นที่ไม่ว่าใครรู้ก็ไม่สามารถดูแคลนได้อีก

               แต่เมื่อพินิจมองรุ่นน้องตรงหน้าที่ไม่ใช่คนขาว เพราะงั้นดีนจึงอาจจะพอเข้าใจหัวจิตหัวใจของคนที่มีความแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในสังคมก็ได้ ความจริงก็คงเป็นเช่นนั้น แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจและไม่ทำตัวเป็นเหยื่อ

               “อยากถามพอดี ปกติแล้วรุ่นพี่ที่ออกจากค่ายไปใช้ชีวิตส่วนตัวน่ะ เป็นยังไงบ้างเหรอครับ?”

               จากคำถามทำให้คริสโตเฟอร์ชะงักไปเล็กน้อย จะว่าด้วยนิสัยของนักสืบก็ได้.. เขากำลังวิเคราะห์ว่าหนุ่มโพไซดอนคนนี้แค่ถามเฉย ๆ หรือมีแผนจะออกจากค่ายกันแน่ รุ่นพี่เงียบไปนานจนดีนเงยหน้าขึ้นมาโคลงศีรษะด้วยอาการสงสัย อ้อ.. คงอยากรู้สาเหตุ

               “ผมอายุยี่สิบสามแล้ว คิดว่าควรต้องออกไปทำงานทำการที่โลกข้างนอกน่ะครับ จะอยู่ค่ายไปตลอดชีวิตคงไม่ได้ ไม่มีเงินเก็บขึ้นมาตอนแก่จะลำบากเอา”

               จากประโยคหลังของคำตอบทำเอาคริสโตเฟอร์หัวเราะออกมานิดหน่อย

               “ก็เหมือนมนุษย์ทั่วไป พยายามตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ ทำคะแนนเอสเอทีให้ดี ผ่านดีสตอมป์ เข้ามหาวิทยาลัยนิวโรมให้ได้ จบออกมาก็ไปใช้ชีวิต แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน หนทางของวีรบุรุษผู้กำราบอสุรกาย หรือทำงานเบื้องหลังควบคู่ไปกับสายงานของมนุษย์” คริสโตเฟอร์ตอบ

               “มหาวิทยาลัยนิวโรม.. ที่อิตาลีเหรอครับ?” ดีนถามหน้าซื้อ เขาไม่เคยได้ยินชื่อของมหาวิทยาลัยนี้มาก่อนซึ่งมันก็ไม่แปลก คำตอบนั้นทำเอาคริสโตเฟอร์แทบจะพ่นก้อนขำออกมา

               “ไม่ใช่ นิวโรมอยู่ในเขตการดูแลของค่ายจูปิเตอร์ พูดให้ถูกก็คืออยู่ที่ซานฟรานซิสโก ว่าแต่นายไม่รู้เนี่ยนะ บุตรแห่งโพไซดอนเข้าเรียนที่นั่นได้หลายปีแล้วหลังจากที่สามมหาเทพลงนามในสนธิสัญญา”

               อะไรนะ? ค่ายจูปิเตอร์? สนธิสัญญา? แล้วทำไมบุตรแห่งโพไซดอนเข้าเรียนไม่ได้? ความงงแปะอยู่เต็มหน้าของรุ่นน้องจึงเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ที่ต้องอธิบาย

               “นิวโรมคืออาณาเขตที่ทวยเทพโรมันสร้างขึ้นเพื่อให้เหล่าเดมิก็อดใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ที่นั่นมีมหาวิทยาลัยที่ชื่อนิวโรม ให้การศึกษาศาสตร์เกี่ยวกับองค์ความรู้ทางด้านโรมันแขนงต่าง ๆ”

               “อ้อ เทพโรมัน ผมพอจะได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจเทพกรีกและโรมันคือเทพองค์เดียวกัน แต่ความจริงในโลกแห่งเทพคือคนละองค์กันใช่ไหมครับ?”

               “จะว่าอย่างนั้นก็.. บิดามารดาของพวกเราท่านมีสองภาค กรีก และโรมัน รูปกายภายนอกใช้ร่วมกันแต่จิตใจคนละอย่าง เป็นเสมือนหน้าตรงกันข้ามของเหรียญ”

               “คุณอธิบายเข้าใจง่ายดีแฮะ แต่ทำไมเทพถึงต้องมีสองด้านด้วยล่ะ เป็นดีไอดี (โรคหลายอัตลักษณ์) กันหมดเลยงั้นเรอะ? เออ ก็น่าอยู่ล่ะ ครอบครัวเทพมีแต่เรื่องประสาทแดก” คริสโตเฟอร์ถลึงตามองอย่างตกใจคลายจะถาม ‘เมื่อกี้ว่าไงนะ!?’ แต่ดีนถามแทรกขึ้นมาก่อน “งั้นยกตัวอย่างได้ไหมครับต่างที่ว่าน่ะ..”

               “งั้นขอยกตัวอย่างสามมหาเทพแล้วกัน” คนอธิบายขอเลี่ยงบิดาผู้ให้กำเนิด แล้วเปลี่ยนไปเผาเทพองค์อื่นแทน “เทพซุสมีชื่อเสียด้านความเจ้าชู้ แต่จูปิเตอร์จริงจังกว่าและไม่เจ้าชู้ขนาดนั้น..” ถึงจะบอกว่าไม่เจ้าชู้ก็เถอะ แต่ก็ยังมีเดมิก็อดสายเลือดจูปิเตอร์กำเนิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าอยู่ในระดับปกติของเทพที่จะมีบุตรสิบปีหนึ่งคนอะไรทำนองนี้ก็แล้วกัน “โพไซดอนมีเมตตายามอารมณ์ดี แต่มักมอบภัยพิบัติแก่มวลมนุษย์เมื่ออารมณ์ร้อน”

               “อ่า.. พอจะรู้แฮะ เรียกว่าพ่อเป็นเทพผีเข้าผีออกก็ได้ครับ”

               คริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นลูบหน้า ตนเองพยายามเลี่ยงการเผาพ่อแทบตายแต่คนตรงหน้ากลับพูดออกมาหน้าตาเฉยว่า ‘พ่อของเขาเป็นเทพผีเข้าผีออก’ ให้ตายเถอะเทพเฮเฟตัส!

               “ก็.. ประมาณนั้น แต่เทพเนปจูนจะมีแต่ด้านที่เกรี้ยวกราดเพียงอย่างเดียว”

               “....” คนที่เคยงอนพ่อจนตัดพ้อไปว่า ‘เกิดเป็นลูกเทพเนปจูนดีกว่ามีพ่อเจ้าชู้งี่เง่า!’ หลังรู้ว่าโพไซดอนเคยส่งคลื่นยักษ์ถล่มเกาะญี่ปุ่นเพราะทะเลาะกับเทพท้องถิ่นเรื่องผู้หญิงถึงกับเม้มปากเงียบกริบ ไม่แน่ว่าคนที่ส่งคลื่นยักษ์ไปอาจเป็นภาคเนปจูนไม่ใช่ภาคโพไซดอนก็เป็นได้

               “สุดท้ายคือเทพฮาเดส จะมีการแสดงออกทางอารมณ์มากกว่าเทพพูลโตที่เย็นชา.. แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่เด็กค่ายจูปิเตอร์คุยกัน ผมไม่เคยพบเทพเหล่านั้นตัวจริงหรอก”

               “ฟังแล้วสงสารเด็กค่ายจูปิเตอร์ยังไงก็ไม่รู้สิ มีพ่อแม่ตึงแบบนี้ชีวิตต้องหดหู่แน่ ๆ”

               “หึ.. มันก็แล้วแต่คนจะคิด เด็กที่โชคดีที่สุดคงเป็นบุตรแห่งมาร์ส”

               “หา!? มาร์สเนี่ยนะ? คุณหมายถึงแอรีสน่ะเหรอ” ดีนตกใจจนลืมกิน ไม่แน่ใจว่าเมื่อกี้ฟังผิดไป ตนไม่ใช่คนที่มากความรู้เรื่องปกรนัมกรีก-โรมัน แต่พอจะรู้อยู่ว่ามาร์สคือเทพแห่งสงคราม

               “ใช่ มาร์สหรือแอรีสนี่แหล่ะ นายคงรู้ว่าแอรีสนิสัยเป็นยังไง” คริสโตเฟอร์หัวเราะหึในลำคอแสดงถึงความไม่พอใจบางอย่าง “มาร์สเป็นเทพสงครามที่เอาจริงเอาจัง สุขุม รอบครอบ ไม่ใช่ก่อสงครามตามอำเภอใจมีนิสัยเป็นนักเลงข้างถนน”

               “โอ้โห คุณก็แอบปากร้ายเหมือนกันนะเนี่ย…” ดีนพึมพำ “คุยกับรุ่นพี่แล้วได้ความรู้เยอะแยะเลยแฮะ เอ่อ… บอกหรือยังนะว่าผมจบมาจากมหาวิทยาลัย xxx นิวยอร์ก เพราะงั้นคงไม่ไปเรียนที่นิวโรมหรอกครับ”

               “ผมสงสัยมาพักนึงแล้ว คุณเหมือนคนที่เพิ่งมาใหม่ แต่บุตรแห่งโพไซดอนไม่น่าจะ…” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างเคลือบแคลงใจ

               “ไม่น่าจะรอดมาจนอายุปูนนี้สินะครับ ผมเพิ่งมาค่ายฮาล์ฟบลัดเมื่อต้นปีนี้เอง ส่วนสภาพตั้งแต่อายุสิบสองจนมาถึงยี่สิบสามก็เกือบจะตุยเย่มารูเก้มารูโกะอยู่หลายครั้ง แต่ดีที่พ่อคอยส่งพลังมาช่วยอยู่ห่าง ๆ ผมถึงได้ยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงเข้าค่ายได้”

               “ไม่มีแซเทอร์ไปรับคุณมาเหรอ?” คริสโตเฟอร์ถาม

               “อันที่จริงก็มี” ดีนยิ้มแหยที่มุมปาก เขานึกไปถึงบ๊อบบี้ เพื่อนแซเทอร์ตัวน้อยที่รูปกายภายนอกไม่โตขึ้นเสียทีแม้จะผ่านมาสิบปีแล้ว “คืองี้ครับ แซเทอร์ที่มารับผมน่ะ ผมดันไป… ซุบซิบ… ซุบซิบ… ซุบซิบ…” ดีนยืดตัวขึ้นค้อมโต๊ะ กระซิบกระซาบสารภาพบาปให้รุ่นพี่บ้านเฮเฟตัสได้ฟัง

               “โอ้.. นั่นมันแย่มาก เป็นปมในใจได้เลยนะนั่น…” แม้แต่คนฉลาดอย่างคริสโตเฟอร์ยังพูดไม่ออก คงนึกสงสารแซเทอร์ตนนั้นจับจิตจับใจ

               “เรื่องมันก็แบบนี้แหล่ะครับ เขาเลยทิ้งงาน”

               ได้แต่ยิ้มแห้ง ดีนไม่โทษว่าเป็นความผิดของบ๊อบที่ทิ้งงานไปทำให้เขาต้องเสี่ยงตายอยู่ในโลกภายนอกเป็นสิบปี ถ้าเกิดเขาได้เข้าค่ายตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้วตนเองอาจไม่ใช่ดีนที่ร่าเริงอย่างเช่นทุกวันนี้

               ทั้งสองคุยเรื่องค่ายจูปิเตอร์และเส้นทางในอนาคตกันต่อจนรับประทานอาหารกันเสร็จสรรพ ก่อนแยกทางดีนได้มอบห่อขนมที่เหลือมาจากเมื่อคืนให้แก่คริสโตเฟอร์

               “เมื่อคืนผมแจกขนมฮาโลวีนครับ อันนี้เหลือ ให้รุ่นพี่แล้วกัน มั่นใจว่าน่าจะกินได้อยู่”

               “ขอบใจ” รุ่นพี่หนุ่มผิวเข้มรับห่อกระดาษมาก่อนจะเปิดออก เป็นไดฟุกุไส้สตรอว์เบอร์รี่ที่ระบุวันหมดอายุข้างซอง “หมดอายุพรุ่งนี้ ต้องรีบกินแล้วสิ”

               “ถ้างั้นก็กินให้อร่อย ผมขอตัวก่อนนะครับ”

               ดีนโบกมือลารุ่นพี่คริสโตเฟอร์ ขอบคุณที่ยอมสนทนาและมอบความรู้เรื่องโลกฝั่งเทพเจ้าให้ เขาเอาจานไปเก็บก่อนจะเดินไปรับห่อซินิตอีกชิ้นที่ฝากให้เจ๊ฮาร์ปี้ห่อให้สำหรับการเดินทาง


รับประทานอาหารประจำวัน
มอบ [ไดฟุกุ] แก่ [คริสโตเฟอร์ บราวน์]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-05] คริสโตเฟอร์ บราวน์ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-11-2 07:46
โพสต์ 34835 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-11-2 00:32
โพสต์ 34,835 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-11-2 00:32
โพสต์ 34,835 ไบต์และได้รับ +5 EXP +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-11-2 00:32
โพสต์ 34,835 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-11-2 00:32

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-11-3 11:44:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2024-11-3 11:56

3/11/2024 6.00 - 6.50 น.

บทที่14

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แต่ถ้ามากเกินไประวังสิฮากแตกกลางสนามรบ


คูเปอร์มายังโถงอาหารเพื่อกินข้าวอาหาร ความหิวเรียกร้องเขาจนทนไม่ไหว ตั้งแต่เท้าก้าวเข้าโถงกลิ่นอาหารหอม ๆ ก็ปะทะหน้าให้เขาสะท้านใจ ไม่รู้ว่าวันนี้ฮาร์ปี้ผู้จัดการเรื่องอาหารคิดเมนูอะไรมาให้กันบ้าง แต่ชายหนุ่มรับประกันกับตัวเองแล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ขอแค่มีให้ท้องอิ่ม เขายินดีรับประทานทุกอย่าง

คูเปอร์ยิ้มให้กับเสียงเจื้อยแจ้วของเหล่าลูกค่ายที่นั่งกันเป็นกลุ่มตามโต๊ะบ้านของตน ริมฝีปากเขาเหยียดออกไปหน่อย ๆ เมื่อสังเกตเห็นโต๊ะของบ้านอื่นกำลังส่งเสียงหัวเราะลั่น ยิ่งใกล้โต๊ะอาหารของบ้านตัวเองก็ยิ่งเห็นโต๊ะอาหารที่แยกเป็นส่วน ๆ อย่างชัดเจน อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์จึงเห็นภาพที่มีการสับเปลี่ยนโต๊ะนั่งของคนจากบ้านอื่น จานอาหารร้อน ๆ ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันตรงหน้า ไม่เหมือนอาหารโรงเรียนที่เขาเคยกินในวัยเด็กแม้แต่น้อย

เมื่อชายหนุ่มเดินไปถึงเคาน์เตอร์ฮาร์ปี้ผู้หนึ่งที่อยู่หลังเคาน์เตอร์สะดุดตา เพราะเธอส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาตั้งแต่คูเปอร์ยังไม่ทันเอ่ยคำใด เขาคิดว่าบางทีเธอคงจะแอบปลื้มเขาอยู่หน่อย ๆ แต่ชายหนุ่มพอรู้ดีว่าเธออาจจะเพียงอยากแกล้งเขามากกว่า

"วันนี้มีอะไรให้ทานบ้างครับคุณฮาร์ปี้?" คูเปอร์ยิ้มพร้อมกับเลิกคิ้วเบา ๆ เป็นการถามอย่างสุภาพ แต่แฝงความนัยว่าหากวันนี้เธอจัดอาหารแปลก ๆ มาให้ เขาก็จะจำไว้แน่ ๆ

ฮาร์ปี้สาวมองเขาด้วยสายตาขบขันก่อนจะยิ้มหวานพลางยื่นถาดอาหารที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวตั้งใจคัดสรรมาให้เฉพาะเขา "วันนี้เป็นไส้กรอกย่างสไตล์กรีก เสิร์ฟพร้อมขนมปังโฮลวีตผสมธัญพืช และมันฝรั่งบดเนยน้ำตาลคาราเมล ตบท้ายด้วยซุปเลนทิลคลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศสูตรลับของฉันเอง รสชาติน่าจะพอไหวอยู่นะจ้ะ"

คูเปอร์ฟังแล้วยิ้มกริ่ม "เครื่องเทศสูตรลับเหรอครับ? แล้วผมจะต้องเตรียมยาแก้ท้องเสียไว้ด้วยไหม"

ฮาร์ปี้แค่นหัวเราะนิด ๆ ตาเป็นประกาย "โอ้! เชื่อเถอะจ้ะ ฉันไม่เคยทำให้ใครต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะอาหารของฉันเลยสักครั้ง"

ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ "ฟังดูน่าไว้ใจนะ" เขาหยิบถาดอาหารออกมาด้วยท่าทางระมัดระวังเล็กน้อย แต่จากประสบการณ์อาหารที่คุณแม่ครัวทำคงไม่มีอะไรแปลก ๆ ในนั้น



เมื่อมาถึงโต๊ะ คูเปอร์วางถาดลงก่อนจะค่อย ๆ นั่งลง หยิบช้อนซ่อมขึ้นมาชิมรสชาติของไส้กรอกย่างเป็นคำแรก ทันทีที่สัมผัสลิ้นรสชาติของเนื้อหมูบดเครื่องเทศก็ลอยผ่านไปปะทะกับกระพุ้งแก้ม กลิ่นหอมเครื่องเทศที่ละเอียดอ่อนราวกับจะระเบิดออกมาทุกครั้งที่เคี้ยวเพิ่มความหอมหวนของอาหารที่หายากในโลกภายนอกนี้

"ไม่เลวแฮะ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองอย่างเพลิดเพลิน มันฝรั่งบดเนยที่คลุกเคล้ากับน้ำตาลคาราเมลก็สร้างสัมผัสนุ่มละมุนไปอีกแบบ หน้าผากเขาพาดกับมือขณะที่กินต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ลิ้มรสขนมปังโฮลวีตที่ย่างกำลังดีจนเปลือกกรอบละเอียดกลืนไปพร้อมกับเนื้อไส้กรอกได้อย่างลงตัว

สักพักเขาหันมาที่ถ้วยซุป กลิ่นหอมชัดเจนจนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังทานอาหารในโอกาสพิเศษ คูเปอร์จิบซุปคำแรกแล้วพบว่ามันเข้มข้นและอบอุ่นเหมือนอ้อมกอดในวันที่เหน็บหนาว

อาหารมื้อนี้ยังอร่อยเหมือนเดิม เป็นการเริ่มวันที่สวย!” เขายิ้มกับตัวเอง พูดจบก็รู้สึกได้ว่าท้องเริ่มอิ่มอุ่นขึ้นมาอย่างสุขสม

เขามองไปทางเคาน์เตอร์ ฮาร์ปี้ที่ส่งยิ้มให้เมื่อครู่ยังคงมองมาที่เขาด้วยสายตาพึงพอใจ คูเปอร์ยกถ้วยซุปขึ้นเชิงทักทายก่อนจะยกมันดื่มจนหมดราวกับจะขอบคุณ

วันนี้ยังมีภารกิจอีกมากมากที่เขาตั้งไปทำ หลังกินข้าวเสร็จก็นำถาดอาหารไปคืนยังจุด และเดินออกไปจากโถงอย่างช้า ๆ


กินอาหารฟรี [ พลังงาน +30 ]


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10563 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-11-3 11:44
โพสต์ 10,563 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-11-3 11:44
โพสต์ 10,563 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก หอกกรีก  โพสต์ 2024-11-3 11:44
โพสต์ 10,563 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 เกียรติยศ +3 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก อัจฉริยะ  โพสต์ 2024-11-3 11:44
โพสต์ 10,563 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-11-3 11:44

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2024-11-6 19:05:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

◇◆ ◇◆

          ฝันที่แสนยาวนานนั้นได้จบลงมาริน่าลืมตาตื่นอีกครั้งพร้อมกับเสียงร้องครวญครางของท้องเธอ

"โครกกกคราก"

สีหน้าของเธอนั้นได้เปลี่ยนสีทันที เมื่อเธอนั้นมีอาการมือ และเท้าสั่นไม่หยุดเนื่องจากอาการหิว 

มาริน่าวิ่งตรงไปยังโรงอาหารก่อนจะเริ่มเลือกอาหารที่จัดเตรียมอยู่ภายด้านใน ทันใดกลิ่นหอมได้โชยมา

"นั้นมันคือ มันฝรั่งทอดนิ"

มาริน่าคิด เป็นพืชดีเหมือนกันจะได้นำหนักตัวไม่เพิ่ม สุขภาพสุดๆ 

"คุณฮาร์ปี้ หนูขอมันฝรั่งทอด 3 ถาด"

ฮาร์ปี้ได้ทำการจัดแจงใส่ภาชนะให้กับมาริน่า ก่อนตัวเธอนั้นจะไปนั่งกินอาหาร

         

ทานอาหารประจำวัน








แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 5276 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-11-6 19:05

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
สร้อยข้อมือถัก
น้ำหอมสตรี
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
หลับใหล
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
หอกกรีก
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x3
โพสต์ 2024-11-11 17:05:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sebastian เมื่อ 2024-11-11 17:36

Sebastian "Seb" Langford

หลังจากที่พักผ่อนจนร่างกายได้คลายความเหนื่อยล้าแล้ว เซบาสเตียนก็เริ่มได้ยินเสียงท้องร้องจากความหิวโหยที่สะสมมาทั้งวัน เขานั่งลงมองแผนที่ค่ายในมืออีกครั้ง จำได้ว่าไครอนได้บอกถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงโรงอาหารหลักของค่ายด้วย เขาจึงลุกขึ้นหยิบแผนที่และเดินออกจากบ้านพักไปด้วยความรู้สึกหิวและอยากรู้จักสถานที่ใหม่นี้มากขึ้น

เส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารค่ายฮาล์ฟบลัดค่อนข้างแปลกตาสำหรับเซบาสเตียน รอบ ๆ ค่ายนั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม ล้อมรอบด้วยป่าและต้นไม้ใหญ่ที่ทำให้เขารู้สึกสงบและปลอดภัย ระหว่างทางเขาก็ได้เห็นผู้คนมากมาย ทั้งเด็กและวัยรุ่นที่ดูไม่ต่างจากเขา พวกเขาหลายคนใส่เสื้อยืดสีส้มสดใสของค่าย บางคนเดินเป็นกลุ่ม คุยกันหัวเราะเฮฮา บางคนถืออาวุธอยู่ในมือเหมือนเพิ่งผ่านการฝึกฝนมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและรอยยิ้ม

เซบาสเตียนเดินไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็มีเพื่อนร่วมค่ายหลายคนที่ทักทายเขา เขาพยายามยิ้มตอบและโค้งศีรษะเล็กน้อยให้กับทุกคนด้วยท่าทางสุภาพ แต่ในใจยังคงตื่นเต้นกับบรรยากาศที่ดูแตกต่างจากชีวิตเดิมในลอนดอน จนในที่สุดเขาก็เดินมาถึงอาคารหลังใหญ่ที่ถูกใช้เป็นโรงอาหารหลักของค่าย มันเป็นอาคารทรงโบราณที่ทำจากหินอ่อนสีขาวสะอาด ผนังภายในประดับด้วยภาพวาดของเหล่าเทพและวีรบุรุษกรีก บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของเหล่าผู้คนและเสียงจานชามกระทบกันเบา ๆ

เซบาสเตียนเดินเข้าไปสำรวจจุดบริการอาหารซึ่งมีตัวเลือกมากมายจนแทบเลือกไม่ถูก อาหารทุกจานที่วางเรียงรายอยู่ดูน่าทานและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เขาตัดสินใจเลือกเมนูที่ดูง่ายและครบห้าหมู่ มีข้าว อกไก่ย่าง ผักสด ผลไม้ และน้ำผลไม้สดเพื่อความสดชื่น ทันทีที่จัดถาดอาหารเสร็จเรียบร้อย เขาก็เริ่มมองหาที่นั่งเพื่อจะได้นั่งทานเงียบ ๆ และพักผ่อน

เซบาสเตียนสังเกตเห็นโต๊ะมุมหนึ่งที่ยังไม่มีคนนั่ง จึงเดินตรงไปวางถาดอาหารลงและนั่งลงอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมค่ายรอบข้างยังคงพูดคุยและหัวเราะกันอย่างเป็นกันเอง เขากวาดตามองผู้คนรอบข้างด้วยความสนใจและรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด แม้จะไม่รู้จักใครเลย แต่บรรยากาศในค่ายกลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เขาเฝ้ามองกลุ่มเด็กคนอื่น ๆ ที่นั่งทานอาหารอยู่ใกล้ ๆ โต๊ะของเขา บางคนกำลังเล่าเรื่องการผจญภัยของตัวเอง บางคนพูดถึงเทพเจ้าที่พวกเขาสงสัยว่าอาจเป็นพ่อหรือแม่ของตน เสียงหัวเราะและการพูดคุยเหล่านั้นสร้างบรรยากาศที่คึกคักและเป็นกันเอง

เซบาสเตียนตักอาหารคำแรกเข้าปาก เขารู้สึกว่ามันอร่อยและให้ความรู้สึกสดชื่นผิดจากมื้ออาหารที่คุ้นเคยในอังกฤษ อาหารที่นี่เหมือนกับจะมีพลังงานบางอย่างแฝงอยู่ ทุกคำที่เขากินเหมือนกับทำให้เขารู้สึกแข็งแรงขึ้น ความเหนื่อยล้าที่เหลือก็เริ่มจางหายไป เขาค่อย ๆ เพลิดเพลินกับอาหารบนถาดของตนและเงี่ยหูฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมค่ายรอบตัว รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น

ระหว่างที่เซบาสเตียนทานอาหารและคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เขามาถึงที่นี่ เขาได้ยินเสียงตะโกนแซวกันและหัวเราะจากโต๊ะใกล้ ๆ กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งส่งเสียงดังร่าเริง พวกเขาดูมีความสุขและสนุกสนานกับการใช้ชีวิตในค่ายอย่างเต็มที่ ภาพเหล่านั้นทำให้เซบาสเตียนรู้สึกอบอุ่นใจ เขาอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มและเริ่มคิดว่าชีวิตที่ค่ายฮาล์ฟบลัดอาจไม่ได้น่ากลัวหรือวุ่นวายอย่างที่เขาเคยกังวล

เมื่อทานอาหารเสร็จ เซบาสเตียนยังนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อดื่มน้ำผลไม้และมองไปรอบ ๆ โรงอาหาร ความคิดเขาค่อย ๆ ล่องลอยไปถึงสิ่งที่ไครอนได้บอกก่อนหน้านี้ ว่าเขาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง ได้ฝึกฝนเพื่อที่จะปกป้องตัวเอง และได้ค้นหาว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใคร ลูกของเทพองค์ไหน เซบาสเตียนรู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าสู่การผจญภัยที่ไม่เคยคิดมาก่อน


#98fb98 - เซบาสเตียน เซบ แลงฟอร์ด
#... - ...

หมายเหตุ : กินอาหารฟรี [ พลังงาน +30 ]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11027 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-11-11 17:05
โพสต์ 11,027 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-11-11 17:05

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
มือเบา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
ต่างหูเงิน
หูฟังบลูทูธ
สร้อยคอดีไซน์เท่
น้ำหอมบุรุษ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
โพสต์ 2024-11-11 18:15:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Example Box with Image and Text

  ห้องอาหาร (ฟรี)



ลอร์ร่าเดินเข้ามาในห้องอาหารที่มีโต๊ะเรียงรายอยู่มากมาย ภายในห้องกว้างขวางและโปร่งสบาย แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้ ทำให้ห้องดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เธอเหลือบมองไปที่โต๊ะอาหารต่างๆ ที่มีอาหารหลากหลายวางอยู่บนโต๊ะในลักษณะที่จัดเรียงอย่างดี น่าดึงดูดและพร้อมให้เลือก

เธอเดินไปตามแนวโต๊ะอาหารจนกระทั่งหยุดที่จานของสปาเก็ตตี้คาโบนารา เส้นสปาเก็ตตี้ที่เรียงตัวอย่างสวยงาม เคลือบด้วยซอสครีมสีขาวขุ่นที่มีเนื้อสัมผัสหนืดและครีมมี่ บางส่วนของซอสยังคงมีความเงาวาวจากการผสมผสานของชีสและไข่ที่ละลายเข้ากันอย่างลงตัว เมื่อเธอตักสปาเก็ตตี้ขึ้นมา เส้นมันดูลื่นไหลและเหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เหนียวเกินไปและไม่เละ ดูน่าสนใจมากทีเดียว เส้นสปาเก็ตตี้ถูกคลุกเคล้าไปกับซอสครีมจนทั่วทุกเส้น บนหน้าของมันมีไข่แดงสดวางอยู่ตรงกลาง ซึ่งยังคงมีความนุ่มและดูเหมือนจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ และในที่สุดก็ถูกโรยด้วยพริกไทยดำที่ทำให้รสชาติดูมีมิติขึ้น เธอจึงใช้ช้อนตักสปาเก็ตตี้ใส่จานของตัวเองอย่างดี

หลังจากตักสปาเก็ตตี้คาโบนาราเสร็จ ลอร์ร่าก็เดินไปยังมุมของบ้านพักตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนที่เงียบสงบของห้องอาหาร บ้านพักที่เธอเลือกในวันนี้คือบ้านพักของไดโอนีซุส บ้านที่อยู่ในมุมที่ค่อนข้างเงียบ ไม่มีเสียงจอแจหรือความพลุกพล่านจากผู้คน เท่าที่เห็นตอนนี้ก็ไม่มีใครนั่งอยู่ที่โต๊ะของบ้านพักนั้นเลย เหมาะสมกับบรรยากาศที่ต้องการความสงบและความเป็นส่วนตัว ลอร์ร่าเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับหน้าต่างบานใหญ่ ที่สามารถมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้อย่างชัดเจน

เมื่อได้นั่งลงและเริ่มทานอาหาร ลอร์ร่ารู้สึกถึงความอร่อยที่ค่อยๆ ซึมซับเข้าไปในร่างกาย เส้นสปาเก็ตตี้คาโบนารามีความหนึบหนับกำลังดีเมื่อสัมผัสกับลิ้น ซอสครีมมี่ที่เคลือบอยู่บนเส้นทำให้รู้สึกนุ่มละมุนและครีมมี่ แทบจะละลายไปในปาก รสชาติของไข่แดงและชีสผสมผสานกันอย่างลงตัว ความมันของชีสที่ไม่ได้เข้มข้นจนเกินไปกลับทำให้ซอสมีความนุ่มหนึบ ส่วนไข่แดงทำให้รสชาติของซอสมีความอ่อนหวานเบาๆ และเข้มข้นขึ้น นอกจากนี้พริกไทยที่โรยเพิ่มยังช่วยทำให้รสชาติมีความเผ็ดร้อนพอดี ปรับสมดุลให้ไม่เลี่ยนเกินไป เส้นสปาเก็ตตี้ที่ตักขึ้นมามีความกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคำที่ทานเข้าไปทำให้รู้สึกถึงความอร่อยที่เรียบง่าย แต่ทำให้รู้สึกพึงพอใจในทุกคำที่เคี้ยว

บรรยากาศรอบๆ ก็ยิ่งช่วยเติมเต็มการทานอาหารในครั้งนี้ ความเงียบสงบของที่พักดูเหมือนจะทำให้เธอสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่มีเสียงรบกวนจากที่ไหน ความสงบทำให้เธอสามารถยืดหยุ่นเวลาทานอาหารได้ตามต้องการ คำแรกๆ ที่ทานเข้าไปทำให้ลอร์ร่ารู้สึกว่าอาหารจานนี้เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบสำหรับมื้อกลางเย็น หรือจริงๆก็ทั้งวันก็ได้ของเธอ

หลังจากที่ทานสปาเก็ตตี้คาโบนาราเสร็จแล้ว เธอก็ยกจานขึ้นไปวางที่วางจานที่ตั้งอยู่ในมุมห้อง เธอเดินจากไปอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน รู้สึกถึงความสุขจากการได้รับมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบในวันที่เงียบสงบและผ่อนคลาย

เด็กสาวว่าจะเริ่มเดิมสำรวรอบๆ เล่นสักหน่อยด้วย ก่อนจะกลับเข้าห้องพักตัวเองหนะ

รูปสปาเก๊ตตี้



หมายเหตุ กินอาหารฟรี [ พลังงาน +30 ]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 10654 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-11-11 18:15
โพสต์ 10,654 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-11-11 18:15
โพสต์ 10,654 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-11-11 18:15
โพสต์ 10,654 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2024-11-11 18:15

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
สื่อสารกับสัตว์
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x3
x3
x5
x1
x1
x7
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x4
x4
x15
โพสต์ 2024-11-11 20:06:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Sebastian "Seb" Langford

เซบาสเตียนเดินเข้ามาในโรงอาหารที่ตอนนี้บรรยากาศอบอุ่นไปด้วยแสงสว่างจากกองไฟตรงกลางซึ่งลุกโชน กระจายความอบอุ่นไปทั่วบริเวณ เขาหาที่นั่งห่างจากกองไฟไม่มากนัก เลือกที่นั่งซึ่งสามารถมองเห็นภาพรวมของโรงอาหารและลานกว้างได้อย่างชัดเจน ที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากโรงอาหารทั่วไป เต็มไปด้วยที่นั่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งโต๊ะไม้ยาว โต๊ะหินกลม และบางมุมก็มีเสื่อวางไว้สำหรับนั่งกับพื้น ชาวค่ายหลายคนรวมกลุ่มกันคุยกันสนุกสนาน บ้างหัวเราะ บ้างนั่งเล่นเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์และอูคูเลเล่ บรรเลงเพลงเบา ๆ ให้ฟังเป็นทำนองที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการฝึกในแต่ละวัน

เซบาสเตียนนั่งลงที่มุมสงบ มองดูกลุ่มชาวค่ายซึ่งแต่ละคนดูมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไป บางคนมีรูปร่างแข็งแรงดูเหมือนนักรบ ขณะที่บางคนดูสงบนิ่งและมีประกายความรู้ในดวงตา เขาเห็นชาวค่ายคนหนึ่งกำลังเล่าเรื่องราวสนุกสนานให้กลุ่มเพื่อนฟัง เพื่อน ๆ ของเขาหัวเราะกันอย่างสดใส เสียงหัวเราะดังแทรกบรรยากาศยามค่ำคืน เพิ่มชีวิตชีวาให้กับสถานที่แห่งนี้

สายตาของเขากวาดมองไปยังมุมหนึ่งซึ่งมีเด็กสาวสองคนกำลังทำขนมบางอย่างอยู่บนแผ่นกระทะ พวกเธอใช้ไม้พายเล็ก ๆ จับแป้งลงทอดอย่างคล่องแคล่ว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของขนมที่เริ่มสุกลอยมาแตะจมูกของเซบาสเตียน ทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นและความเป็นมิตรของสถานที่นี้

เซบาสเตียนปล่อยให้บรรยากาศสบาย ๆ นี้ซึมซาบเข้ามาในใจ เขาสังเกตเห็นว่าโรงอาหารที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ที่สำหรับกินอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ให้ชาวค่ายมารวมตัว พูดคุย สร้างมิตรภาพใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เขามองกองไฟที่ลุกโชติช่วง ควันสีขาวบาง ๆ ลอยขึ้นสูงสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหมือนการส่งสัญญาณบางอย่างถึงเหล่าเทพเจ้า

ความรู้สึกสบายใจเริ่มเข้ามาแทนที่ความประหม่าในตอนแรก เซบาสเตียนยิ้มบาง ๆ ออกมา มองดูชาวค่ายทุกคนที่มีชีวิตชีวาอยู่รอบตัวเขา เขารู้สึกได้ว่าที่นี่อาจจะเป็นบ้านใหม่ที่เขาสามารถไว้วางใจได้ ความอุ่นใจจากเสียงหัวเราะของเพื่อนใหม่ ความสดใสจากท่วงทำนองดนตรี และแสงสว่างจากกองไฟ ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้รับการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวใหม่อย่างอบอุ่น


#98fb98 - เซบาสเตียน เซบ แลงฟอร์ด
#... - ...

หมายเหตุ : -

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6931 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-11-11 20:06
โพสต์ 6,931 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-11-11 20:06
โพสต์ 6,931 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก หูฟังบลูทูธ  โพสต์ 2024-11-11 20:06
โพสต์ 6,931 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก สร้อยคอดีไซน์เท่  โพสต์ 2024-11-11 20:06
โพสต์ 6,931 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2024-11-11 20:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
มือเบา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
ต่างหูเงิน
หูฟังบลูทูธ
สร้อยคอดีไซน์เท่
น้ำหอมบุรุษ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
โพสต์ 2024-11-11 20:27:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 9 พฤศจิกายน 2024
เวลา 10.30 น.


“คุณเอโลอิสมาด้อม ๆ มอง ๆ อะไรอยู่แถวนี้ขอรับ” 

หลังจากที่เผาของไปให้เทพเฮเฟตัสเสร็จเอโลอิสก็เดินมาแถวโรงอาหารถือถาดอาหารแอบอยู่หลังเสาแล้วสอดส่องส่ายตามองมาอะไรบางอย่างจนเคอร์ติสเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสาวน้อยผู้นี้ทำบ้าอะไรอยู่กันแน่

“หาเหยื่อ” เธอตอบไปแบบไม่ใส่ใจนัก

“หาเหยื่อ!?!…หมายความว่ายังไงขอรับ!” เคอร์ติสมีท่าทีตกใจเมื่อได้ยินธิดาแห่งเฮเฟตัสพูดจาอะไรที่ฟังดูน่ากลัวพิกลออกมา

“หมายถึงเพื่อนร่วมภารกิจน่ะ” เธอขยายความให้เคอร์ติสเข้าใจง่ายขึ้น

“อ๋อ ที่จะไปบอสตันใช่ไหมขอรับ” เคอร์ติสพยักหน้า “แล้วคุณเอโลอิสอยากได้คนร่วมภารกิจแบบไหนล่ะขอรับ”

“ก็…ไม่ต้องมีคุณธรรมมากนัก สามารถทำเรื่องผิดโดยไม่ได้รู้สึกกระดากอายอะไรทำนองนั้นล่ะมั้ง…”

“เรื่องผิดที่ว่าคืออะไรเหรอขอรับ” เคอร์ติสยังคงไม่เข้าใจ”

“ก็แบบ…งัดบ้านคน…ทำนองนั้น” 

“งัดบ้านคน! คุณเอโลอิสจะไปเป็นขโมยหรือขอรับ!!!” เคอร์ติสตกใจอีกรอบความคิดของสาวน้อยผู้นี้ช่างมีแต่เรื่องพิเรนทร์จนยากจะเชื่อว่าเป็นลูกของเทพเฮเฟตัสที่ดูอินโทรเวิร์ดผู้นั้น

“ขโมยเหรอ…ใช่! ขโมย…นึกออกแล้ว ถ้าเป็นขโมยก็ต้องบ้านเฮอร์มีสไง! ขอบคุณมากเลยเคอร์ติสถ้าไม่มีนายฉันไม่มีทางนึกออก”

เคอร์ติสหมดคำจะพูดไม่นึกเลยว่าคำพูดเพียงเล็กน้อยของมันจะทำให้เอโลอิสคิดไปได้ไกลเลยเถิดขนาดนั้น แต่จะห้ามก็คงไม่ทันแล้วสาวเจ้าเล่นเดินตรงไปยังโต๊ะของบ้านเฮอร์มิสและวันนี้ก็ไม่ใช่วันอาทิตย์เสียด้วยไม่สามารถที่จะนั่งร่วมโต๊ะกันได้ สาวน้อยผมสีเพลิงเลือกยืนอยู่ข้างหลังชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวเงียบ ๆ จริง ๆ แล้วเอโลอิสก็ไม่ใช่พวกชอบผูกสัมพันธ์กับใครนักหรอกแต่ตอนนี้มันจำเป็นต้องทำแล้วล่ะ

“นี่ ๆ นายน่ะ บุตรแห่งเฮอร์มีสใช่มั้ย?”

เอโลอิสแรนดอมทักเด็กบ้านเฮอร์มีสที่ตอนนี้ก็มีอยู่แค่คนเดียวที่นั่งอยู่เขาจึงเป็นผู้ถูกเลือกของเธอ ระหว่างรอคำตอบเธอก็หยิบขนมปังในถาดยืนกินรอไปด้วยเพราะกฎคือห้ามนั่งโต๊ะบ้านอื่นถ้าไม่ใช่วันอาทิตย์ ไม่ให้นั่งยืนก็ได้!

“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า?”

“ฉันมีสิ่งดี ๆ มานำเสนอ…จริงสิ! ฉันชื่อเอโลอิส เพจ ธิดาแห่งเฮเฟตัส ส่วนนี่เคอร์ติส” เอโลอิสกล่าวพร้อมยื่นมือไปขอเช็คแฮนด์

“อีธาน ซาง…แต่ถ้าจะมาขายตรงขอผ่านนะ” เขาพูดแบบตัดเยื่อใย

“เดี๋ยวววววว ไม่ได้จะมาขายตรงสักหน่อย ฉันมาคุยเรื่องภารกิจต่างหากล่ะ ภารกิจเทพีอะโฟร์ไดท์น่ะ ตอนนี้มีคู่รักกำลังต้องการความช่วยเหลือฉันทำภารกิจนี้คนเดียวไม่ได้ก็เลยมาชวนนายไปด้วยไง แบบว่าอยากได้ตีนแมวเข้าทีมน่ะ” เธอพูดตรงแบบไม่อ้อมค้อมสไตล์เด็กบ้านเฮเฟตัส

อีธานเหมือนหยุดคิดเล็กน้อยเขาเองก็ไม่ค่อยได้ออกไปที่ไหนหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง แต่ถ้าต้องออกไปทำภารกิจกับคนแปลกหน้ามันก็ดูน่าอึดอัดแปลก ๆ แม้เขาจะไม่ใช่พวกเข้าสังคมไม่เก่งหรืออะไรทำนองนั้นก็ตาม

“ถ้านายไม่ช่วยฉัน ฉันต้องแย่แน่ ถือว่าช่วยคนที่กำลังลำบาก ช่วยให้คนได้รักกันได้บุญนะนายไม่รู้เหรอ”

เอโลอิสทำสายตาวิงวอนทั้งที่ขนมปังยังคาอยู่ในปาก บางทีก็รู้สึกเบื่อที่ต้องมาอ้อนคนทุกครั้งที่มีภารกิจภาพเก่าสมัยอ้อนวอนรอฟีอัสกับพี่ฟีโอดอร์ยังคงติดตาอยู่ในหัวอยู่เลย คราวนี้กลับต้องหาลูกทีมให้ครบสองคนอีกรอบ จะไปขอร้องให้เจ้ารอฟีอัสมาช่วยอีกหนหมอนั่นก็คงรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็วแน่ ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าว่าเจ้านั่นเหมาะสมกับงานนี้ไหม ดูก็รู้ว่าไม่เหมาะ

“เฮ้อ…” เขาถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่อาจตัดใจปฏิเสธคนที่กำลังเดือดร้อนได้ “ก็ได้ แค่ครั้งเดียวนะ”

“แน่นอน!!! ขอบคุณมากเลยรอฉันไปหาลูกทีมได้อีกคนจะแจ้งวันเดินทางอีกที นายพอจะมีไอเดียไหมว่าฉันควรพาไปใครไปอีก?” เธอถามความเห็นอีกฝ่าย

“ลูกเทพีอะโฟร์ไดท์ไง งานแม่เขาไม่ใช่เหรอ”

“นั่นมันน่าเบื่อเกินไป ไม่อย่างนั้นเทพีก็ใช้ลูกตัวเองไปแล้วสิ จะมาใช้ฉันทำไม ขอแบบแปลกใหม่หน่อย แบบว่า…แบบใหม่แบบสับน่ะ!”

“ก็จริง…แบบใหม่แบบสับงั้นเหรอ?...งั้นเอาเป็นลูกเทพเฮอร์มาโฟร์ไดตัสเป็นไง?” เขาเสนอขึ้น

“ไอเดียดี! งั้นเอาตามนั้น ถ้าฉันหาคนบ้านนั้นได้เมื่อไหร่เราค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ฉันกินข้าวอิ่มแล้วไว้เจอกันใหม่นะ”

เมื่อได้ผู้ร่วมอุดมการณ์เรียบร้อยแล้วเอโลอิสก็หน้าบานเป็นกระด้ง เธอรีบเอาถาดอาหารไปเก็บแล้วเดินออกจากโรงอาหารไป เหยื่อรายต่อไปเธอต้องหาได้ในเร็ววันนี้แน่นอน…




อีธาน ซาง ตอบรับภารกิจ


ทานอาหารประจำวัน +30 พลังงาน







แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16115 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-11-11 20:27
โพสต์ 16,115 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก ยอดนักสร้าง  โพสต์ 2024-11-11 20:27
โพสต์ 16,115 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +6 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก หมวกนีเมียน  โพสต์ 2024-11-11 20:27
โพสต์ 16,115 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก ทักษะยิงธนู  โพสต์ 2024-11-11 20:27
โพสต์ 16,115 ไบต์และได้รับ +2 EXP +7 ความกล้า จาก สัมผัสกับดัก  โพสต์ 2024-11-11 20:27

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x3
x1
x1
x3
x3
x9
x3
x1
x10
x10
x1
x2
x25
x2
x1
x20
x2
x4
x4
x3
x1
x1
x3
x4
x4
x2
x1
x1
x2
x45
x1
x58
x1
x1
x4
x1
x11
x1
x1
x1
x344
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x28
x2
x16
x2
x5
x28
x10
x28
x67
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้