12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: Cooper

[บันทึกการเดินทาง] ปริศนาม่านหมอกแห่งไทม์สแควร์

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-2-12 14:02:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-12 15:44



บทที่ 7


เมื่อเท้าของพวกเขาก้าวพ้นขอบอุโมงค์กลับขึ้นมายังห้องเก็บของของร้านฮีบี้ คูเปอร์ก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด อากาศที่นี่อับชื้นและเต็มไปด้วยกลิ่นไม้เก่าผสมฝุ่น ไม่ได้สดชื่นนัก แต่ก็ยังดีกว่าท่อระบายน้ำที่พวกเขาเพิ่งผ่านพ้นมา  


เขาหันไปตรวจสอบเพื่อนร่วมทีม คาเลบยืนพิงกำแพงพร้อมหอบหายใจ ส่วนเมเรซกำลังปัดฝุ่นออกจากแขนเสื้อของตัวเอง พวกเขาทั้งหมดอิดโรยจากการต่อสู้ที่ผ่านมา แต่ยังคงยืนหยัดได้ดี  


"ทุกคนยังอยู่ดีนะ?" คูเปอร์ถาม  


"ถ้าไม่นับว่าเหนื่อยจนแทบขยับตัวไม่ไหว ก็ยังดีอยู่" คาเลบตอบก่อนจะถอนหายใจยาว  


เมเรซเหลือบมองสภาพของตัวเองแล้วเบ้ปาก "ฉันว่าฉันจะต้องเผื่อเสื้อสำรองเพิ่มเวลามาทำภารกิจแล้วล่ะ"  


คูเปอร์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะกลับเข้าสู่ประเด็นหลัก “ปัญหาหมอกรั่วไหล เราสามารถแก้ได้ส่วนหนึ่ง อย่างน้อยตอนนี้มันก็น่าจะน้อยลง... แต่ปริมาณหมอกที่อยู่ข้างนอกคงไม่สลายไปได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันมีพลังของเทพีฮีบี้แฝงอยู่”  


เมเรซและคาเลบพยักหน้าเข้าใจ  


“แล้วเอาไงต่อ?” เมเรซถาม “เราปิดรูที่หมอกไหลออกมาแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะจบไม่ใช่หรือไง?”  


คูเปอร์หันไปมองประตูที่นำไปยังพื้นที่ด้านในของร้าน "ใช่ ปัญหายังไม่หมด" เขาตอบเสียงเรียบ "พวกนายจำได้ใช่ไหมว่าตอนแรกที่เราเจอเทพีฮีบี้ เธอกลายเป็นทารกแรกเกิด ทั้งที่จากข้อมูลที่เคยมีมา เธอไม่ควรย้อนวัยไปมากขนาดนั้น"  


"หมายความว่า...?" คาเลบเลิกคิ้ว  


"นั่นหมายความว่า มีบางอย่างในรัศมีของเธอที่ทำให้เธออ่อนวัยลงเกินกว่าปกติ" คูเปอร์อธิบาย "เงื่อนไขของพลังฮีบี้ไม่จำกัดแค่มนุษย์ มันยังรวมถึงสัตว์ด้วย"  


"เหมือนกรณีของลูกไก่?" เมเรซนึกออกทันที "แต่ว่า... ถึงจะเป็นลูกไก่ มันก็ไม่น่าทำให้เทพีย้อนวัยไปถึงขนาดนั้นได้นี่?"  


คูเปอร์พยักหน้า “ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น”  


เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ "ดังนั้นสิ่งที่ทำให้ฮีบี้ย้อนวัยได้ขนาดนี้ต้องเป็นสิ่งที่อายุน้อยกว่าลูกไก่ และที่สำคัญมันอาจจะกระจายอยู่ทั่วร้าน..."  


คาเลบขมวดคิ้ว "เด็กทารกในไทม์สแควร์ นับว่าเข้าเงื่อนไขไหม?"  


คูเปอร์ส่ายหน้า "ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้น แต่พอพิจารณาดูแล้ว มันไม่น่าจะใช่ ถ้าขอบเขตพลังของฮีบี้กว้างขนาดนั้นจริงๆ เราคงเห็นผลกระทบที่รุนแรงกว่านี้ อีกอย่าง ฮีบี้สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ ถ้าออกจากระยะได้แล้วแก้ปัญหาได้ เธอคงทำไปแล้ว"  


เมเรซพยักหน้า "ฟังดูมีเหตุผล แล้วตกลงว่าอะไรล่ะที่ทำให้เธอกลายเป็นทารก?"  


คูเปอร์เม้มปากคิด ก่อนจะพูดออกมาอย่างช้าๆ "เราต้องมองหาสิ่งที่ 'อายุน้อย' กว่าลูกไก่..."  


เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบิกตาขึ้นอย่างฉับพลัน  


"ไข่"  


คาเลบกับเมเรซนิ่งไป ก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะเบิกกว้างขึ้น  


"เวรเอ๊ย..." เมเรซพึมพำ "มันเป็นไปได้จริงๆ นั่นแหละ"  


"ไข่มีชีวิต" คาเลบเสริม "และถ้ามันอยู่ในรัศมีของเทพีฮีบี้ มันก็มีผลต่อพลังของเธอ"  


คูเปอร์พยักหน้า “ใช่ และปัญหาคือ พวกมันอาจจะกระจายอยู่ทั่วร้าน”  


เมเรซถอนหายใจเฮือกใหญ่ "แล้วจะให้เราไล่หาไข่ทุกฟองในร้านเลยรึไง?"  


"ไม่จำเป็นต้องไล่หาทุกฟอง" คูเปอร์ตอบ "เราต้องคิดว่า ถ้าเป็นพวกก็อบลิน พวกมันจะซ่อนไข่พวกนั้นไว้ตรงไหนบ้าง?"  


คาเลบเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเสนอ "งั้นเราควรเริ่มจากห้องแรกที่เราพบเทพีฮีบี้"  


พวกเขาทั้งสามมุ่งหน้าไปยังห้องที่เคยเจอเทพีเป็นครั้งแรก เมื่อเปิดเข้าไป สิ่งที่พวกเขาพบก็คือตระกร้าสีทองที่ภายในบรรจุเทพีเอาไว้  


เทพีนอนพริ้มตาอยู่ในตระกร้า ดูสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คูเปอร์รู้ว่าเธอคงพาตัวเองกลับมาที่นี่ตอนที่พวกเขาต่อสู้อยู่ด้านล่าง  


เขาเดินเข้าไปใกล้ตระกร้า ก้มลงมองเทพีตัวน้อย ก่อนจะพูดเสียงเบา "เราจะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติได้เร็วๆ นี้"  


เทพีไม่ได้ตอบสนองอะไร อาจเป็นเพราะกำลังหลับอยู่จริงๆ หรือไม่ก็ไม่อยากพูดก็เป็นได้  


"โอเค แยกย้ายกันค้นหา" คูเปอร์หันกลับไปบอกเพื่อนร่วมทีม  


พวกเขาเริ่มตรวจสอบทุกซอกทุกมุมภายในห้อง คูเปอร์มุ่งไปที่มุมหนึ่งของห้องที่มีลังไม้เก็บสินค้า เมเรซกวาดตามองไปยังตู้เก็บของและชั้นวาง ส่วนคาเลบเดินไปสำรวจด้านในสุดที่มีตู้แช่  


เวลาผ่านไปหลายนาทีโดยไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงของการขยับสิ่งของและเสียงฝีเท้าเบาๆ  


จนกระทั่ง...  


เฮ้” คาเลบเรียก “ฉันว่าฉันเจออะไรบางอย่างแล้ว”  


คูเปอร์กับเมเรซหันไปมอง คาเลบกำลังยืนอยู่ข้างตู้แช่ มือของเขาถือไข่ฟองหนึ่งไว้ มันดูเหมือนกับไข่ไก่ธรรมดา แต่กลับมีออร่าสีทองจางๆ เปล่งออกมาจางๆ  


"โอ้ว..." เมเรซพึมพำ "ถ้านายจะบอกว่านี่คือไข่ที่มีพลังของเทพีฮีบี้ ฉันคงเชื่อแล้วล่ะ"  


คูเปอร์เดินเข้าไปดูใกล้ๆ "แล้วมีแค่ฟองเดียวรึเปล่า?"  


คาเลบเปิดตู้เย็นออกกว้างขึ้น เผยให้เห็นว่า...  


มีไข่แบบเดียวกันนี้เรียงอยู่เป็นสิบๆ ฟอง  


ทั้งสามคนสบตากัน ก่อนที่คูเปอร์จะถอนหายใจ "ก็อบลินพวกนั้น... มันไม่ได้แค่ปล่อยหมอกออกมา แต่มันยังใช้สิ่งนี้เป็นตัวเร่งพลังของหมอกสินะ"  


"และตอนนี้เรารู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ" คาเลบกล่าว  


คูเปอร์พยักหน้า "ถึงเวลาจัดการปัญหาที่แท้จริงซะที"  


คูเปอร์จ้องไข่สีทองอร่ามในมือตัวเอง พลิกดูมันไปมาอย่างครุ่นคิด ขณะที่เมเรซและคาเลบกวาดตามองไข่ที่เรียงรายอยู่ในตู้แช่  


พวกนายคิดเหมือนฉันไหม?” คาเลบถามขึ้น "ทำลายไข่พวกนี้อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก”  


นั่นสินะ” เมเรซพยักหน้า “ไข่พวกนี้มีพลังของเทพีฮีบี้แฝงอยู่ ถึงมันจะเป็นต้นตอของปัญหา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไร้ค่า”  


คูเปอร์ใช้ปลายนิ้วเคาะเปลือกไข่เบาๆ ก่อนจะหันไปพูดกับทั้งสองคน “เราต้องหาวิธีเก็บรักษาไข่พวกนี้ โดยไม่ให้มันส่งผลกระทบต่อพลังของเทพีอีก”  


แล้วเราจะทำยังไงดี?” คาเลบเอ่ยถาม “จะเก็บมันไว้ที่นี่ก็ไม่ได้ จะเอาไปให้คนอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน”  


คูเปอร์ครุ่นคิด “ก่อนอื่น เราต้องหาไข่ทั้งหมดที่กระจายอยู่ในร้านให้ครบก่อน จากนั้นค่อยคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง”  


เมเรซถอนหายใจ “ฟังดูเป็นงานที่ต้องใช้แรงเยอะพอสมควรเลยแฮะ”  


คูเปอร์ยักไหล่ “ก็เหมือนทุกงานที่ผ่านมาแหละ เอาล่ะ แยกย้ายกันค้นหาทั่วร้าน ใครเจอไข่ให้เอามารวมกันที่ห้องนี้”  


ทั้งสามคนพยักหน้าและแยกย้ายกันออกไปสำรวจร้านฮีบี้จีบี้ส์อย่างละเอียด  




คูเปอร์เดินไปที่โซนเล้าไก่ในร้าน เขากวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้รังฟางที่วางอยู่ตามมุมต่างๆ ข้างในเต็มไปด้วยไข่ขนาดเล็กที่เปล่งแสงจางๆ เช่นเดียวกับฟองแรกที่คาเลบเจอ  


เจออีกแล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง พลางหยิบไข่ขึ้นมาใส่ในถุงผ้าที่เขาเตรียมมา  


ขณะที่กำลังรวบรวมไข่อยู่ เขาได้ยินเสียงของเมเรซดังมาจากอีกฝั่งของร้าน “ฉันเจอที่แผนกของเล่นเด็ก!”  


คูเปอร์เงยหน้าขึ้นมอง เมเรซกำลังยืนอยู่ตรงโซนของเล่นที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่นนุ่มนิ่ม มือของเขาถือไข่สีทองฟองหนึ่งขึ้นมา  


ทำไมมันถึงอยู่ในโซนของเล่นล่ะ?” คาเลบที่กำลังเดินกลับมาจากการสำรวจอีกด้านของร้านถาม  


เดาว่าก็อบลินคงไม่ได้ใส่ใจจะเก็บมันไว้ที่เดียวน่ะสิ” คูเปอร์ตอบ  


เมเรซพยักหน้า “อาจเป็นไปได้ว่าพวกมันแค่ซ่อนไว้ในที่ที่เด็กๆ เข้าถึงง่าย เพื่อให้ไข่ได้รับพลังของเทพีต่อไป”  


“งั้นก็แสดงว่ามันอาจจะกระจายอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงด้วย” คาเลบสรุป  


หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็แยกย้ายกันค้นหาไข่ในจุดอื่นต่อไป  


คาเลบไปสำรวจโซนเครื่องเล่นอาเขต เขาเปิดฝาตู้เกมหลายตู้แล้วพบว่าภายในมีไข่ซ่อนอยู่ ขณะที่คูเปอร์ไปตรวจสอบในโซนโต๊ะพินบอล และเจอไข่วางซุกอยู่ตามมุมโต๊ะ เมเรซเดินเข้าไปสำรวจโซนร้านอาหารภายในร้าน และพบไข่ซ่อนอยู่ตามกล่องเก็บวัตถุดิบในครัว  


พวกเขาใช้เวลาหลายนาทีไล่เก็บไข่จากทั่วทุกมุมของร้าน เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้พลาดจุดไหนแล้ว ทั้งสามคนก็นำไข่ทั้งหมดกลับมารวมกันที่ห้องเดิม  


ไข่สีทองหลายสิบฟองกองอยู่บนผ้านุ่มๆ ที่พวกเขาปูรองไว้ ทั้งสามคนนั่งล้อมรอบมัน พลางใช้ความคิด  


ทีนี้ก็ถึงปัญหาหลัก” คูเปอร์พูดขึ้น “เราจะจัดการกับไข่พวกนี้ยังไง?”  


คูเปอร์จ้องไข่สีทองที่กองอยู่ตรงหน้าพวกเขา เขายกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด  


พวกนายคิดเหมือนฉันไหม?” เขาพูดขึ้น “ไข่พวกนี้ดูแล้วก็น่าจะมาจากเล้าไก่ของร้าน เพราะงั้น… เอากลับไปไว้ที่เดิมก่อนดีไหม?”  


คาเลบเลิกคิ้ว “หมายความว่าไง?”  


ฉันหมายถึง ที่มันส่งผลกระทบกับพลังของเทพีฮีบี้อาจเป็นเพราะมันถูกย้ายออกมาจากจุดเดิม ทำให้รัศมีพลังแผ่ขยายผิดปกติ” คูเปอร์อธิบาย “ถ้าเรานำมันกลับไปที่เล้าไก่ตามเดิม พลังของเทพีก็น่าจะกลับมาเป็นปกติ”  


เมเรซพยักหน้า “ฟังดูสมเหตุสมผลอยู่ ถ้ามันถูกจัดวางอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม มันอาจจะไม่ได้กระจายพลังผิดปกติอีก”  


คาเลบกอดอก “แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ? ถ้ามันเป็นอะไรมากกว่านั้น?”  


คูเปอร์ยักไหล่ “ก็ถือว่าเราลองวิธีที่ปลอดภัยที่สุดก่อน ถ้ามันไม่ได้ผล อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเราต้องหาวิธีอื่น”  


ทั้งสามคนพยักหน้าเห็นด้วย และเริ่มช่วยกันเก็บไข่ทั้งหมดใส่ในตะกร้าผ้าที่หาได้ ก่อนจะเดินตรงไปยังเล้าไก่ของร้าน  


เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในโซนเล้าไก่ เสียงลูกเจี๊ยบดังแว่วไปทั่วบริเวณ พวกมันยังคงวิ่งเล่นกันไปมาโดยไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  


คูเปอร์เดินเข้าไปใกล้รังฟางที่ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ และค่อยๆ วางไข่ลงทีละฟอง  


เมเรซกับคาเลบช่วยกันวางไข่ที่เหลือจนกระทั่งทุกฟองกลับไปอยู่ในจุดเดิม  


เมื่อวางไข่ฟองสุดท้ายลง คูเปอร์ก็เงยหน้ามองไปรอบๆ เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลง  


ทุกอย่างยังคงเงียบสงบ  


โอเค...” คาเลบพูดขึ้น “ตอนนี้เราลองทำตามแผนแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่ดูผลลัพธ์”  


คูเปอร์พยักหน้า “ใช่ และฉันคิดว่าถ้าแผนนี้ได้ผล คนที่ควรจะมีปฏิกิริยาก่อนใครก็คือเทพีฮีบี้”  


เมเรซยกมือขึ้นเสยผม “งั้นก็ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปหาเธอแล้วสินะ”  


พวกเขาทั้งสามหันหลังกลับ และเดินออกจากเล้าไก่เพื่อกลับไปยังห้องที่เทพีฮีบี้อยู่  


  


เมื่อพวกเขาเปิดประตูห้องเก็บของเข้าไป สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือ ตะกร้าทองใบเดิมที่วางอยู่กลางห้อง  


คูเปอร์เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะคุกเข่าลงข้างตะกร้า  


เทพีฮีบี้ยังคงอยู่ในร่างทารก ดวงตาของนางปิดสนิทราวกับกำลังหลับสนิท  


คูเปอร์มองเธออย่างพิจารณา เขาไม่แน่ใจนักว่าเธอเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่ก็หวังว่าการที่พวกเขานำไข่กลับไปคืนที่เดิมจะช่วยให้นางกลับมาเป็นปกติได้  


ลองปลุกเธอดูไหม?” คาเลบเสนอ  


คูเปอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะแขนเล็กๆ ของเทพีตัวน้อย  


เทพีฮีบี้?” เขาเรียกเบาๆ  


ไม่มีการตอบสนอง  


เขาลองเรียกอีกครั้ง “ฮีบี้ ได้ยินฉันไหม?”  


ผ่านไปไม่กี่วินาที… เปลือกตาของเทพีค่อยๆ ขยับ  


คูเปอร์เบิกตากว้าง “ดูเหมือนเธอจะเริ่มขยับแล้ว”  


เมเรซเดินเข้ามาใกล้ “งั้นแสดงว่าแผนเรามีผลสินะ?”  


คาเลบกอดอกและพยักหน้า “หรืออย่างน้อยมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”  


คูเปอร์มองเทพีฮีบี้ที่กำลังขยับตัวอยู่ในตะกร้า และอดคิดไม่ได้ว่า นี่อาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขาใกล้จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว  


แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกัน… ว่ามีอะไรที่เขามองข้ามไปหรือเปล่า  



คูเปอร์จ้องมองเทพีฮีบี้ที่ยังคงอยู่ในร่างทารก ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ทุกอย่างที่พวกเขาทำมาจนถึงตอนนี้ ควรจะได้ผลแล้วไม่ใช่หรือไง? พวกเขาปิดกั้นหมอก ค้นหาและคืนไข่กลับไปที่เดิม แล้วทำไมเทพียังไม่กลับสู่ร่างเดิมอีก?  


เขาเริ่มไล่เรียงความคิด ทุกเบาะแส ทุกสิ่งที่พวกเขาพบระหว่างทาง และแล้ว… ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว  


หรือว่า…” คูเปอร์พึมพำออกมา  


คาเลบและเมเรซหันมามองเขาทันที “มีอะไรหรือเปล่า?”  


คูเปอร์ขมวดคิ้ว “ในบรรดาไข่ทั้งหมดที่เราพบในร้าน... พวกนายสังเกตเห็นบ้างไหมว่ามีเปลือกไข่แตกอยู่แถวนี้?”  


เมเรซกับคาเลบเงียบไปครู่หนึ่ง พวกเขามองหน้ากันก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาหาคูเปอร์  


นายกำลังจะบอกว่า…” คาเลบพูดขึ้นช้าๆ  


บางทีปัญหาอาจจะไม่ใช่แค่ไข่ แต่มันคือสิ่งที่'พึ่ง'ฟักออกมาจากไข่ต่างหาก” คูเปอร์สรุปเสียงหนักแน่น  


เมเรซเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย "เดี๋ยวนะ... หมายความว่าเจ้าพวกก็อบลินอาจจะไม่ได้แค่ซ่อนไข่พวกนี้ไว้ แต่พวกมันอาจวางแผนให้ไข่ฟักออกมา? แล้วใช้ประโยชน์จากอายุไขของไก่ที่พึ่งฟักออกมาแทน?"  


"เป็นไปได้" คูเปอร์ตอบ "ถ้าเราสังเกตให้ดี ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เราเจอแต่ไข่ที่ยังไม่ฟัก แต่ไม่มีใครคิดจะมองหาสิ่งที่อาจจะออกมาจากไข่พวกนั้นเลย"  


คาเลบกอดอกพลางพ่นลมหายใจ "ก็ไม่แปลกหรอก เราก็มัวแต่คิดว่าไข่นั่นเป็นตัวปัญหา เลยลืมนึกไปว่าสิ่งที่ออกมาจากไข่ก็อาจเป็นปัญหาด้วย"  


"แล้วทีนี้จะทำยังไง?" เมเรซถาม "ถ้ามีตัวที่ฟักออกมาแล้วจริงๆ พวกมันน่าจะยังอยู่ในร้านนี้"  


คูเปอร์กวาดตามองไปรอบๆ “เราต้องหาให้เจอว่าสัตว์พวกนั้นอยู่ที่ไหน เริ่มจากตามหาซากเปลือกไข่ก่อน จะได้รู้ว่ามันฟักไปแล้วกี่ตัว”  


เข้าใจแล้ว” คาเลบพยักหน้า “แยกย้ายกันหาเปลือกไข่ ถ้าเจออะไรแปลกๆ ก็ตะโกนบอกกันด้วย”  


ทั้งสามคนเริ่มกระจายตัวออกไปทั่วห้อง คูเปอร์เดินไปตามมุมห้อง ก้มลงมองพื้นและไล่ตรวจสอบตามซอกต่างๆ  


เมเรซยกกล่องไม้ขึ้นเปิดดูภายใน ขณะที่คาเลบเดินไปเช็กตามขอบกำแพงและใต้โต๊ะ  


เวลาผ่านไปไม่นาน เสียงของเมเรซก็ดังขึ้น  


"เจอแล้ว!"  


คูเปอร์กับคาเลบรีบวิ่งไปทางที่เมเรซยืนอยู่  


เขาชี้ไปที่มุมห้อง ตรงนั้นมีเปลือกไข่สีทองแตกกระจายอยู่บนพื้น มันไม่ได้มีเพียงฟองเดียว แต่มีหลายฟองซ้อนทับกันอยู่  


คาเลบก้มลงแตะเปลือกไข่เบาๆ “นี่มัน... มากกว่าที่ฉันคิดไว้อีก”  


"อย่างน้อยก็สามหรือสี่ฟอง" คูเปอร์พึมพำ "และนั่นหมายความว่ามีอะไรบางอย่างที่ฟักออกมาแล้วเดินไปทั่วร้านนี้"  


เมเรซถอนหายใจเฮือก "อย่าบอกนะว่าเราต้องไล่จับลูกไก่พวกนี้ทีละตัวน่ะ?"  


คูเปอร์ยิ้มแห้ง "ถ้ามันเป็นแค่ลูกไก่ธรรมดาก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่พิจารณาจากพลังของฮีบี้ที่ส่งผลกับมันแล้ว ฉันว่าน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นแน่"  


คาเลบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตาสีฟ้าของเขาฉายแววครุ่นคิด "แปลว่าเราต้องค้นหาร้านนี้อีกรอบ และคราวนี้ เราต้องหาเจ้าพวกที่ฟักออกมาแล้ว"  


"ใช่" คูเปอร์พยักหน้า "เราต้องรีบหาพวกมันก่อนที่อะไรจะผิดปกติไปมากกว่านี้"  


พวกเขาสามคนสบตากัน รู้ดีว่านี่อาจเป็นด่านสุดท้ายของภารกิจที่พวกเขาต้องเผชิญ ก่อนที่จะสามารถทำให้เทพีฮีบี้กลับคืนสู่ร่างเดิมได้  



คูเปอร์ เมเรซ และคาเลบเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มภารกิจที่อาจเรียกได้ว่าน่าหนักใจที่สุดรองจากการต่อสู้ในวันนี้ การจับพวกลูกไก่ตัวจิ๋วที่ฟักออกมาจากไข่สีทอง  


"โอเค... แผนของเราคือ?" คาเลบถามขึ้น พลางหมุนคันธนูในมือไปมา  


"จับให้ได้หมด" คูเปอร์ตอบเรียบๆ  


"ว้าว แผนละเอียดมาก" เมเรซประชด "ฉันว่าเราควรกำหนดวิธีจับมันแบบจริงจังหน่อยไหม? เจ้าพวกนี้ตัวเล็ก เร็ว และ—"  


"อื๊บ!" คาเลบเบิกตากว้างทันที เมื่อมีเงาวูบไหวพุ่งผ่านปลายเท้าของเขาไปอย่างรวดเร็ว  


นั่นไง! พวกมันเริ่มเคลื่อนที่แล้ว!” คูเปอร์ร้องขึ้น  


ก่อนที่พวกเขาจะได้วางแผนให้เป็นรูปเป็นร่าง พวกเขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่เสียก่อนเจ้าลูกไก่ตัวจิ๋วพวกนี้ไวเหมือนสายฟ้า และพวกมันไม่ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองตัว แต่มากกว่านั้นมาก!  


พวกมันเคลื่อนที่ไปทั่วร้านฮีบี้จีบี้ส์ ด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ร่างเล็กๆ สีทองวาววับวิ่งพรวดไปตามมุมต่างๆ ของห้อง ข้ามโต๊ะ เก้าอี้ พุ่งผ่านขาของพวกเขาราวกับนักกีฬาวิ่งแข่ง  


บ้าเอ๊ย นี่มันไก่หรือเสือชีตาห์กันแน่!?” เมเรซตะโกน พลางพยายามคว้าตัวหนึ่งที่วิ่งผ่านหน้าเขาไป  


โบราณวัตถุยังจับง่ายกว่านี้อีก!” คาเลบเสริม ก่อนจะพยายามกระโจนไปคว้าตัวหนึ่ง แต่พลาดเป้าอย่างจัง  


คูเปอร์หอบเบาๆ ขณะจ้องพวกมันที่กำลังวิ่งกันวุ่นไปทั่ว “ฟังนะ! พวกมันแค่ลูกไก่ ถึงจะเร็วก็ต้องมีขีดจำกัด พวกเราแค่ต้อง… ดักพวกมันให้ได้!”  


"โอเค ถ้างั้นต้องใช้แผนล้อมจับ" คาเลบเสนอ "เราต้องต้อนมันไปในทิศทางเดียวกัน"  


"เห็นด้วย" คูเปอร์พยักหน้า "เมเรซ นายไปทางซ้าย คาเลบไปทางขวา ฉันจะอยู่ตรงกลาง ค่อยๆ ไล่ต้อนพวกมันไปทางมุมห้อง ห้ามให้มันแยกออกไป!"  


ทั้งสามคนเริ่มเคลื่อนที่ทันที พวกเขาค่อยๆ ขยับเข้าหาเจ้าตัวเล็กพวกนี้ พร้อมกับพยายามปิดกั้นทางหนี  


พวกไก่ทองคำพยายามจะเลี้ยวหลบไปมา แต่เมเรซและคาเลบใช้ความว่องไวของตัวเองปิดเส้นทางไว้ได้ตลอด คูเปอร์เองก็คอยเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง รอจังหวะเหมาะๆ เพื่อปิดทางหนี  


สุดท้าย พวกมันก็มุมจนจนมุมที่มุมห้อง  


"ได้เวลาแล้ว!" คาเลบประกาศก่อนจะกระโจนเข้าไปจับหนึ่งตัวที่พยายามวิ่งสวนออกมา  


คูเปอร์พุ่งเข้าหาตัวที่สอง ขณะที่เมเรซใช้แขนโอบรวบตัวที่เหลือที่กำลังกระพือปีกเล็กๆ ของมันสุดชีวิต  


หลังจากไล่จับกันอยู่นานกว่าสิบนาที ในที่สุด… พวกเขาก็สามารถจับเจ้าพวกลูกไก่ตัวจิ๋วทั้งหมดได้  


เมเรซหอบเบาๆ ขณะจ้องไก่ในอ้อมแขน "ฉันจะไม่กินไก่ไปอีกสักพักเลย..."  


"ตอนนี้เอาพวกมันกลับไปที่เล้าไก่เถอะ" คูเปอร์พูด ก่อนจะหอบไก่ทั้งหมดเดินไปที่โซนเล้าไก่  


พวกเขาค่อยๆ ปล่อยลูกไก่ลงในรังของมัน ลูกไก่ที่เคยดูกระวนกระวายเหมือนจะสงบลงเมื่อได้กลับสู่ที่อยู่เดิม  


ทันทีที่ตัวสุดท้ายถูกวางลง…  


ฟึ่บ!


แสงสีทองเจิดจ้าสาดประกายไปทั่วทั้งห้อง!  


คูเปอร์หันขวับไปมอง ตาเบิกกว้างเมื่อเห็นรัศมีทองคำแผ่ซ่านออกมาจากห้องที่พวกเขาเพิ่งออกมา  


คาเลบยกมือขึ้นบังตา “อะไรน่ะ—?”  


เมเรซมองไปรอบๆ ดวงตาสองสีของเขาหรี่ลง "ดูเหมือนว่าเราจะเจอคำตอบที่ถูกต้องแล้ว..."  


คูเปอร์ก้าวถอยหลัง สูดลมหายใจลึก เขารู้สึกได้เลยว่าบางอย่างเปลี่ยนไป  


เทพีฮีบี้...  


—--------


—--------




BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15




ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15




เป้าหมาย เทพีฮีบี้



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-19-1] ฮีบี้ เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-2-13 09:20
โพสต์ 125890 ไบต์และได้รับ 80 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-12 14:02
โพสต์ 125,890 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-12 14:02
โพสต์ 125,890 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-12 14:02
โพสต์ 125,890 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-2-12 14:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-13 00:49:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-13 04:07




บทที่ 8

หลังจากแสงสีทองจางหายไป เสียงดีดนิ้วก็ดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนที่หมอกควันที่ปกคลุมไปทั่วร้านจะพลันหายไปในพริบตา ร่างกายของคูเปอร์และคาเลบเริ่มขยายกลับคืนสู่รูปร่างเดิม ความรู้สึกเหมือนแรงโน้มถ่วงที่กดทับอยู่นานค่อยๆ ถูกปลดปล่อยออกไป ส่วนเมเรซที่ใช้พลังแปลงร่างก็ค่อยๆ คลายคืนร่างเดิมของตนเอง แม้จะไม่ได้เด็กลงเหมือนพวกเขา แต่การรักษารูปลักษณ์เดิมไว้นานๆ ดูเหมือนจะทำให้ร่างกายของเขาแบกรับภาระอยู่ไม่น้อย  


คูเปอร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาขยับแขนและขาเพื่อเช็กสภาพร่างกาย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมทีม เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรมากกว่าความเหนื่อยล้า เขาก็เดินไปเปิดประตูของห้องที่พวกเขาพบเทพีฮีบี้เป็นครั้งแรก  


สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาชะงัก  


ตรงกลางห้อง หญิงสาวรูปร่างเล็ก ผมทรงรังผึ้งสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าของนางดูอ่อนวัยราวกับเด็กสาวอายุสิบหกปี เธอมีออร่าแห่งความเยาว์วัยเปล่งประกายรอบตัว ผ้าคลุมไหล่บางเบาสีชมพูพาสเทลพาดทับชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีขาวนวล นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอจับจ้องมาที่พวกเขาพร้อมรอยยิ้มจางๆ  


คูเปอร์ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่คือใคร  


“เทพีฮีบี้”  


เธอขยับริมฝีปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง “ใช่จ้ะ นั่นฉันเอง”  


คูเปอร์เดินเข้าไปหาเทพี ก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุภาพ “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรับใช้ท่าน”  


ฮีบี้หัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นหรอก คูเปอร์” เธอหันไปมองเมเรซและคาเลบ “ขอบคุณพวกเธอทุกคนที่ช่วยฉันไว้ และก็ช่วยเบาแรงไปได้เยอะเลยนะ อย่างการปิดรอยรั่วที่ท่อระบายอากาศข้างล่าง”  


คูเปอร์ขมวดคิ้ว “แสดงว่าหมอกที่ยังปกคลุมอยู่ข้างนอก...”  


“อีกไม่นานก็จะค่อยๆ จางหายไปเอง” ฮีบี้ตอบ “แต่ตอนนี้ คุณสมบัติในการย้อนวัยถูกทำให้หายไปแล้วด้วยพลังของฉัน”  


คาเลบพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะถามต่อ “แล้วทำไมท่านถึงไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรกว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคืออะไร?”  


เทพีสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ “บางเรื่องพวกเธอก็ต้องหาเองสิ อีกอย่างนะ ในตอนนั้นฉันมีพลังไม่มากพอ ขยับตัวได้แค่นิดหน่อยอย่างที่พวกเธอเห็น แค่ส่งข้อความเข้าหัวกับเคลื่อนย้ายตัวเองกลับมาที่นี่ก็หมดแรงแล้วล่ะ”  


เมเรซยักไหล่ “ก็จริง พวกเราคงโทษท่านไม่ได้”  


คาเลบเสริมขึ้นมา “แต่พูดถึงเรื่องท่อนะครับ... ทางที่ดีก็ควรซ่อมให้จริงจังมากกว่านี้นะ เพราะที่ฉันทำไปก็แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยังไม่รู้เลยว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดอีก มันจะเกิดปัญหาใหม่หรือเปล่า”  


เมเรซพยักหน้า “จริง ทางที่ดีควรหาที่วางท่อใหม่ไปเลยดีกว่าไหม? ตอนนี้พวกก็อบลินรู้แล้วว่าท่ออยู่ตรงไหน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก... คราวหน้า ผมไม่มานะ”  


หญิงสาวหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ฉันจะย้ายท่อไปที่อื่น และจะปิดตายฝาทางเข้า ไม่ให้มีการเปิดออกมาได้อีกต่อไป”  


คูเปอร์พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะถามขึ้น “ว่าแต่... ทำไมถึงมีฝาทางเข้าท่ออยู่ในร้านฮีบี้จีบี้ส์ตั้งแต่แรกกันล่ะครับ?”  


เทพีสาวกระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะยักไหล่ “เอาจริงๆ ฉันเองก็ไม่ได้เป็นคนตั้งมันไว้หรอกนะ คงเป็นพวกเทพฝ่ายก่อสร้างบนโอลิมปัสนั่นแหละ เวลาพวกเขาออกแบบอะไรบางทีก็ใส่ฟีเจอร์ที่ไม่ได้จำเป็นเข้ามาด้วย อาจจะคิดว่าเผื่อไว้ใช้ตอนจำเป็นล่ะมั้ง”  


เมเรซกลอกตา “สุดยอดการออกแบบจริงๆ”  


คูเปอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดต่ออย่างสุภาพ “พวกเราอยากจะถามอะไรเพิ่มเติมได้ไหมครับ? ถ้ามันไม่เป็นการเสียมารยาทหรือทำให้ท่านรำคาญ”  


ฮีบี้ยิ้มหวาน “ถามมาเถอะ ถ้าฉันตอบได้ ฉันก็จะตอบ”  


พวกเขาผลัดกันซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร้าน ระบบของพลังที่เกี่ยวข้องกับเทพีฮีบี้ และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เทพีตอบคำถามทั้งหมดด้วยท่าทางสบายๆ บางคำถามเธอก็ให้คำตอบที่ตรงไปตรงมา บางคำถามเธอก็เพียงยิ้มและบอกให้พวกเขาไปหาคำตอบด้วยตัวเอง  


จนกระทั่งเธอเริ่มยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “ในเมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และพวกเธอก็ช่วยฉันไว้ ฉันก็จะประทานของรางวัลให้”  


พวกเขาทั้งสามคนหันมามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คูเปอร์จะเป็นคนเอ่ยปาก “ของรางวัล?”  


เทพีฮีบี้เผยยิ้มบาง ดวงตาสีน้ำตาลของเธอทอประกายสดใส ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมา และเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวสะบัดเบาๆ วงแหวนสีทองก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเธอ ท่ามกลางแสงเรืองรองบางเบานั้น ไข่ฟองหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา  


มันเป็นไข่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ เปลือกไข่เป็นสีขาวนวลแต่แฝงด้วยแสงสีรุ้งบางๆ ลวดลายเกล็ดหิมะปรากฏชัดราวกับถูกแกะสลักไว้  


"ขอมอบสิ่งนี้ให้เป็นรางวัล" ฮีบี้กล่าว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความขี้เล่นและลึกลับในเวลาเดียวกัน "ถือเป็นของขวัญสำหรับพวกเธอทั้งสามคน"  


คูเปอร์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเหลือบตามองเพื่อนอีกสองคนที่ดูจะมีสีหน้าไม่ไว้ใจนัก โดยเฉพาะเมเรซที่เริ่มขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว  


"คือว่า..." คาเลบเป็นคนถามก่อน "ไข่นี่คือ..."  


"แจ็คคาโลป" ฮีบี้เอ่ยขึ้นพลางหมุนไข่ในมือให้พวกเขาดูรอบๆ "มันคือสัตว์ในตำนานที่ผสมระหว่างกระต่ายกับกวาง สง่างาม น่ารัก และหายากยิ่ง"  


"น่ารัก?" เมเรซเลิกคิ้วข้างหนึ่ง "ขอถามก่อนว่ามัน ‘น่ารัก’ ในแง่ไหน?"  


ฮีบี้หันหน้าไปยังเมเรซด้วยรอยยิ้มใส "แล้วแต่จะตีความนะ"  


"แล้ว...ทำไมต้องเป็นไข่?" คูเปอร์อดถามไม่ได้ "ตอนแรกพวกเราคิดว่าไข่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เทพีย้อนวัย แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่สินะ?"  


เทพีหัวเราะเบาๆ "ก็ใช่น่ะสิ" เธอกล่าวพลางโยนไข่ขึ้นกลางอากาศแล้วรับกลับมาเล่นราวกับเป็นของเล่น "ไข่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นมันไม่มี ‘อายุ’ อย่างแท้จริง พวกเธอเลยเดาผิดไงล่ะ"  


คูเปอร์พยักหน้าช้าๆ อย่างเข้าใจ มันฟังดูมีเหตุผลอยู่บ้าง เทพีฮีบี้ไม่ได้ย้อนวัยเพราะไข่ เพราะไข่นั้นยังไม่ได้ ‘เกิด’ อย่างแท้จริง มันยังไม่มีวัยให้ย้อนกลับไปนั่นเอง  


"แล้วทำไมก็อบลินถึงกระจายไข่ไก่ไปทั่วร้าน?" คาเลบถามต่อ  


"ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้พวกเธอสับสน" ฮีบี้เอ่ย "พวกมันอยากให้พวกเธอคิดว่าไข่เป็นสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงการย้อนวัยกลายเป็นเด็กแรกเกิดของฉัน แต่ความจริงแล้วพวกมันแค่ต้องการสถานที่อบอุ่นพอให้ไข่ฟักเป็นตัว"  


"แปลว่าถ้าพวกเรามัวแต่สนใจไข่โดยไม่หาตัวอ่อนที่ฟักไปแล้ว เราก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาที่ย้อนวัยได้สินะ?" คูเปอร์ถาม  


"ถูกต้อง" เทพีฮีบี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "นี่เป็นบทเรียนที่ดีนะ อย่ามองอะไรแต่เพียงผิวเผิน อย่าตัดสินอะไรจากแค่ที่เห็น พวกเธอต้องเรียนรู้และมองให้ลึกกว่านั้น"  


คูเปอร์หัวเราะแห้งๆ รู้สึกอายนิดๆ ในฐานะบุตรแห่งอะธีน่าที่ดันพลาดท่าให้กับกลลวงง่ายๆ แบบนี้ ก็แน่ล่ะ... นี่เป็นภารกิจแรกของเขา ยังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้  


"แต่ว่า..." เมเรซมองไข่ในมือของฮีบี้ด้วยสายตาหรี่ลง "ขอถามให้แน่ใจอีกที... เจ้าไข่นี่ มันไม่ใช่ไข่ไก่จริง ๆ ใช่ไหม?"  


ฮีบี้กลั้วหัวเราะ "ลองฟักดูสิ แล้วจะรู้เอง"  


สามหนุ่มสบตากัน ก่อนที่คาเลบจะกระแอมเบาๆ "เก็บไว้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ดูมีค่าล่ะนะ"  


ฮีบี้มีเอ่ย "ถือว่าเป็นของที่ระลึกจากฉัน และเป็นเครื่องเตือนใจ"  


บทสนทนาดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาพูดคุยกับเทพีอย่างเป็นกันเองมากขึ้น ตอนนี้บรรยากาศในร้านกลับมาเงียบสงบเหมือนปกติ แม้ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ยังหลงเหลืออยู่ แต่ความรู้สึกเครียดกดดันก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดแล้ว  


จนกระทั่งฮีบี้ยิ้มกว้างขึ้น และเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง  


"จริงสิ ไหนๆ ก็ช่วยฉันไว้แล้ว สนใจเล่นในร้านฉันหน่อยไหม? ฉันจะช่วยย้อนพวกเธอเป็นเด็กอีกครั้ง ให้ได้เล่นสนุกกันเต็มที่เลย!"  


"ไม่!"  


ทั้งสามคนตอบกลับแทบจะพร้อมกันโดยไม่ต้องคิด ฮีบี้หัวเราะชอบใจ "แหมๆ ทำหน้าแบบนั้นกันทำไมล่ะ"  


"ขอเถอะครับ" คูเปอร์ยกมือขึ้น "พวกเราพึ่งกลับมาเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน ขออยู่แบบนี้ต่ออีกสักพักเถอะ"  


"เข้าใจแล้วๆ" เทพีสาวยิ้ม ก่อนจะปรบมือเบาๆ "ถ้างั้นไม่เป็นไร แต่ก่อนจะรีบกลับไปไหน รอทานพิซซ่าก่อนสิ"  


คำว่า ‘พิซซ่า’ ทำให้ทั้งสามคนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คาเลบจะเอียงคอเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด  


"...พิซซ่าฟรี?"  


ฮีบี้ยิ้มหวาน "แน่นอน ฟรีตลอดวันนี้สำหรับแขกคนพิเศษของฉัน"  


เมเรซพยักหน้าทันที "โอเค ผมอยู่ต่อ"  


คูเปอร์หัวเราะพลางส่ายหน้า "อันที่จริง เขาก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน"


ฮีบี้แสดงท่าทีอย่างสดใสและกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น พวกเธอสนใจพิซซ่าสักชิ้นไหม? ฉันจะไปอบเสร็จใหม่ ๆ ให้เลย"


คาเลบและเมเรซมองหน้ากัน ก่อนที่คาเลบจะตอบว่า "ฟังดูดีนะครับ พวกเราก็หิวพอดี"


ฮีบี้นำทางพวกเขาไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้กับเครื่องเล่นเกมต่าง ๆ ภายในร้าน เธอวางพิซซ่าถาดใหญ่ลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมของชีสและซอสทำให้ท้องของพวกเขาร้องด้วยความหิว




คูเปอร์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำอัดลมขึ้นมาดื่ม เขาเหลือบตามองฮีบี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ตอนนี้ตั้งอยู่ในโซนอาหารของร้าน ซึ่งประดับประดาด้วยไฟนีออนสีสันสดใส ดูราวกับฉากหนึ่งจากภาพยนตร์ยุค 80  


"ว่าแต่..." คาเลบเป็นฝ่ายเปิดประเด็น "ร้านนี้เริ่มต้นมายังไงกันแน่ครับ? มันไม่ได้ดูเหมือนแค่ร้านเล่นเกมทั่วไป"  


ฮีบี้ยิ้ม ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ "ก็นะ ฉันคิดว่าชาวมนุษย์มักมีเรื่องให้เครียดกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม ฉันเลยอยากสร้างสถานที่ที่ให้พวกเขาได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ไร้กังวลอีกครั้ง"  


"นั่นเป็นเหตุผลที่คุณใช้พลังย้อนวัยของตัวเองกับลูกค้าเหรอ?" เมเรซถาม พลางใช้ส้อมจิ้มพิซซ่าเข้าปาก  


"ก็ไม่เชิง" ฮีบี้ส่งเสียงเริงร่าเบา ๆ "ฉันไม่ได้ใช้พลังกับทุกคนหรอกนะ บางคนก็แค่มาเล่นเกมและสนุกไปกับบรรยากาศเฉย ๆ แต่สำหรับคนที่อยากได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบ พวกเขาสามารถเข้าร่วม ‘โหมดพิเศษ’ ได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขากลับไปเป็นเด็กในช่วงเวลาหนึ่ง"  


คูเปอร์เลิกคิ้ว "แปลว่าคุณทำให้คนทั้งร้านย้อนวัยได้... แล้วคุณไม่เคยคิดบ้างเหรอว่ามันอาจจะเกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น เด็กที่ย้อนกลับไปแล้วดันไม่อยากกลับมาเป็นผู้ใหญ่?"  


ฮีบี้มียิ้มขำ "เคยสิ! จริง ๆ แล้ว มันเคยเกิดขึ้นอยู่ครั้งหนึ่ง มีชายวัย 50 คนหนึ่งที่เลือกย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอายุ 10 ขวบ และเขาสนุกซะจนไม่ยอมออกจากร้าน"  


"แล้วคุณทำยังไง?" คาเลบถามอย่างสนใจ  


"ฉันก็คุยกับเขาดี ๆ น่ะสิ" นางยักไหล่ "บอกเขาว่าแม้วัยเด็กจะวิเศษแค่ไหน แต่ช่วงเวลาอื่น ๆ ของชีวิตก็มีค่าด้วยเหมือนกัน และสุดท้ายเขาก็ยอมกลับไปเป็นผู้ใหญ่ตามเดิม"  


"ฟังดูเป็นประสบการณ์ที่แปลกดีแฮะ" คูเปอร์พึมพำ  


"แล้วพวกเธอล่ะ?" ฮีบี้เอนตัวมาข้างหน้า "ไม่มีใครอยากลองย้อนวัยอีกหน่อยเหรอ? ฉันให้พวกเธอลองเล่นเครื่องเล่นของร้านแบบเด็ก ๆ ก็ได้นะ รับรองว่าสนุกแน่!"  


"ขอผ่านครับ" คูเปอร์ตอบแทบจะทันที  


"ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน" คาเลบเสริม  


"ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉันเลย" เมเรซยกมือขึ้น "ฉันชอบความเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองมากกว่าการต้องกลับไปเป็นเด็กเตาะแตะอีกครั้ง"  


ฮีบี้หัวเราะ "โอเค ๆ ไม่บังคับก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าล่ะ?"  


"ก็ไม่" ทั้งสามตอบพร้อมกัน  


ฮีบี้ยิ้มกว้าง "เข้าใจแล้ว ๆ แต่ก่อนที่พวกเธอจะไปไหนไกล รอก่อนนะ" เธอยกมือขึ้น และในพริบตา ถาดพิซซ่าถาดใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า "อย่างน้อยพวกเธอก็ต้องเติมพลังให้เต็มที่ก่อนออกเดินทางสิ"  



เทพีสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอเป็นประกายอย่างขี้เล่น "พูดถึงเรื่องย้อนวัยแล้ว พวกเธอรู้ไหมว่าที่นี่มีอะไรพิเศษอีก?"  


คูเปอร์ คาเลบ และเมเรซมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คูเปอร์จะเป็นฝ่ายถาม "มีอะไรอีกเหรอครับ?"  


เทพีแสดงใบหน้ายิ้มแย้ม เธอเคาะนิ้วบนโต๊ะสองสามครั้ง ราวกับกำลังเว้นจังหวะให้พวกเขาตั้งใจฟัง "ที่นี่น่ะ นอกจากจะมีเครื่องเล่นสนุก ๆ แล้ว ยังมีของรางวัลสุดพิเศษให้แลกด้วยนะ ถ้าเธอสะสมตั๋วได้มากพอ"  


"ของรางวัล?" คาเลบเลิกคิ้ว  


"ใช่!" ฮีบี้พยักหน้าตอบรับ "หนึ่งในของรางวัลยอดนิยมของที่นี่ก็คือ ‘ยาอายุวัฒนะ’"  


เมเรซพ่นลมหายใจ "ขอเดา... มันคงไม่ใช่ยาอายุวัฒนะแบบที่มนุษย์เข้าใจกันใช่ไหม?"  


"ถูกต้องจ้ะ!" ฮีบี้เน้นเสียง "มันก็เหมือนกับน้ำพุแห่งความเยาว์วัยที่มนุษย์บางกลุ่มพยายามตามหานั่นแหละ แต่แทนที่จะทำให้เธอย้อนกลับไปเป็นหนุ่มสาวแข็งแรงเต็มที่ มันจะทำให้เธออายุย้อนกลับไปเป็นเด็ก 8 ขวบต่างหาก!"  


คูเปอร์ชะงัก "เดี๋ยวนะ… ทำไมต้อง 8 ขวบ?"  


"นั่นสิ" คาเลบเสริม "ทำไมไม่ย้อนกลับไปตอนอายุ 18 หรือ 21?"  


ฮีบี้เปิดปากยิ้มกว้างขึ้น เธอเอนตัวมาข้างหน้า ราวกับกำลังจะเฉลยปริศนาอันยิ่งใหญ่ของโลก "เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของวัยเด็กเริ่มต้นตอนอายุประมาณ 8 ขวบยังไงล่ะ"  


คูเปอร์ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ "หมายความว่ายังไง?"  


"ก็คิดดูสิ" นางกวาดตามองพวกเขาทั้งสามก่อนจะอธิบาย "ตอนเธออายุ 8 ขวบน่ะ เธอมีอิสระมากพอที่จะเล่นวิดีโอเกมได้นานเท่าที่ต้องการ สามารถกินพิซซ่าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่ และยังสามารถตื่นเต้นกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการดูอิกัวนาหุ่นยนต์เล่นแบนโจได้ตลอดทั้งวัน!"  


"อิกัวนาหุ่นยนต์เล่นแบนโจ?" เมเรซกระพริบตาปริบ ๆ "ฟังดูเหมือนคาเฟ่ธีมหุ่นยนต์ในหนังสยองขวัญเลยนะ"  


"เธอหมายถึงร้านแนว Five Nights at Freddy’s หรือเปล่า?" คาเลบเสริม  


"เฮ้ ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!" ฮีบี้หัวเราะลั่น "มันเป็นแค่ตัวอย่างน่ารัก ๆ ว่าวัยเด็กนั้นมีความสุขยังไงต่างหากล่ะ!"  


คูเปอร์เริ่มหัวเราะ "ถ้าพูดแบบนี้ก็เข้าใจแล้วล่ะ ผมก็จำได้ว่าอายุประมาณ 8 ขวบเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยพลัง ไม่ต้องห่วงเรื่องเรียนมากนัก มีเวลาวิ่งเล่นทั้งวัน… จริง ๆ ก็คงเป็นช่วงเวลาที่วิเศษจริง ๆ นั่นแหละ"  


คาเลบพยักหน้า "ก็จริงนะ ตอนอายุ 8 ขวบ ฉันยังใช้เวลาทั้งวันฝึกเล่นกีตาร์กับแม่เลย ตอนนั้นฉันยังเล่นแย่มาก แต่เธอก็อดทนสอนฉันอยู่ดี"  


เมเรซยิ้มมุมปาก "ฉันจำได้ว่าเป็นช่วงที่เริ่มรู้จักแฟชั่นครั้งแรกล่ะมั้ง"  


"เพราะงั้น ถ้าพวกเธออยากย้อนกลับไปช่วงเวลานั้นอีกครั้ง…" ฮีบี้เว้นจังหวะ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ "ก็แค่สะสมตั๋วให้มากพอ แล้วมาแลกยาอายุวัฒนะกับฉันได้นะ!"  


"ขอผ่านดีกว่าครับ" ทั้งสามตอบแทบจะพร้อมกัน  


ฮีบี้หัวเราะเสียงใส "เธอแน่ใจนะ? มันอาจจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมก็ได้!"  


คูเปอร์ส่ายหน้า "พวกเราเพิ่งผ่านประสบการณ์ย้อนวัยมาไม่นานมานี้เองครับ ผมว่าขอเป็นผู้ใหญ่ต่อไปแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว"  


"นั่นสิ" คาเลบเสริม "แค่ร่างเด็ก 4-5 ขวบฉันก็ลำบากพอแล้ว ฉันไม่อยากกลับไปอยู่ในร่างที่เตี้ยขนาดนั้นอีกแน่"  


"และฉันก็ไม่ต้องการให้สภาพตัวเองดู ‘น่ารัก’ อีกครั้ง ขอบคุณ" เมเรซกล่าวเรียบ ๆ  


ฮีบี้ยักไหล่ "โอเค ๆ ไม่เป็นไร! แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ บอกฉันได้เสมอนะ!"  


ทั้งสามหัวเราะเบา ๆ ขณะที่พิซซ่าถาดใหม่ถูกวางลงตรงหน้า คูเปอร์เอนตัวพิงเก้าอี้ พลางหยิบพิซซ่าขึ้นมาอีกชิ้น  


"ว่าแต่..." คาเลบพูดขึ้นพลางจ้องไข่แจ็คคาโลปที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ "คุณแน่ใจนะว่าไอ้ไข่นี่มันไม่ใช่อะไรแปลก ๆ ?"  


ฮีบี้ขยิบตาทีนึง "ถ้าอยากรู้… ก็ลองฟักดูสิจ๊ะ"  


คำตอบของเธอทำให้พวกเขาทั้งสามมองหน้ากัน ก่อนที่คูเปอร์จะถอนหายใจ "ผมไม่แน่ใจว่าอยากรู้คำตอบของเรื่องนี้แล้วแฮะ…”



เมื่อเมเรซได้ยินเรื่องของไข่ เขาก็อดถามต่อไม่ได้ "พอพูดถึงไข่… แล้วทำไมในร้านของท่านถึงมีเล้าไก่ล่ะ?"  


เทพีแห่งความเยาว์วัยยิ้มอย่างอารมณ์ดี "อ๋อ นั่นเป็นเพราะไก่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของฉันยังไงล่ะ"  


"ไก่?" คาเลบเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ "ไม่ใช่นกยูงหรือเหรอ?"  


"นกยูงเป็นของแม่ฉัน เฮร่าน่ะ" ฮีบี้แก้ให้ 


"ส่วนไก่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของฉันเอง มันมีความเชื่อเกี่ยวกับไก่ในศาสนาของกรีกในสมัยโบราณนะ นักบวชหญิงจะเลี้ยงไก่เสมอ ลูกไก่จะถูกเลี้ยงไว้ในวิหารของฉัน ส่วนไก่ตัวผู้จะถูกเลี้ยงไว้ในวิหารของเฮอร์คิวลีส และในวันศักดิ์สิทธิ์ของฉัน พวกมันจะถูกนำมารวมกันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเยาว์วัย"  


เมเรซพยักหน้าช้า ๆ "ฟังดูมีความเป็นมาที่ยาวนานดีแฮะ"  


คาเลบยังคงจ้องไปที่เล้าไก่ เขาหรี่ตาลงขณะพินิจพิเคราะห์ไก่พวกนั้น "แล้วพวกมันแตกต่างจากไก่ทั่วไปยังไงเหรอ?"  


นางยิ้มกว้างขึ้นอีก "อยากรู้ไหม? ถ้าอยากรู้ฉันจะพาไปเล่นในเล้าไก่เอง"  


"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ!" คาเลบรีบปฏิเสธทันที คูเปอร์กับเมเรซหัวเราะเบา ๆ  


"ฉันแค่ล้อเล่น" ฮีบี้หัวเราะขำ "แต่ถ้าเธอถามว่าพวกมันแตกต่างจากไก่ทั่วไปยังไง…" นางเว้นจังหวะแล้วมองไปยังฝูงไก่ที่อยู่ในเล้า ก่อนจะยิ้มบาง ๆ "พวกมันไม่เหมือนไก่ปกติหรอกนะ"  


คูเปอร์ขมวดคิ้วมองตามสายตาของเธอ ไก่พวกนั้นดูปกติ… หรืออาจจะไม่ปกติก็ได้ บางอย่างในแววตาของพวกมันทำให้เขารู้สึกไม่ไว้ใจนัก  


"พวกมันเกือบจะเหมือนกับรู้โดยสัญชาตญาณว่าพวกมันวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์" ฮีบี้เอ่ยเสียงนุ่ม "ราวกับว่าถ้ามีโอกาส พวกมันจะฉีกเราออกเป็นชิ้น ๆ เหมือนกับบรรพบุรุษในยุคจูราสสิกของพวกมัน"  


คูเปอร์ คาเลบ และเมเรซมองไก่พวกนั้นอีกครั้ง คราวนี้พวกเขามั่นใจเลยว่าไก่พวกนี้ดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม พวกมันยืนนิ่งจ้องมาทางพวกเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์ ราวกับกำลังประเมินเหยื่อ  


"กะ… กลับไปกินพิซซ่าต่อดีไหม?" คาเลบกลืนน้ำลาย  


"สนับสนุนเต็มที่" คูเปอร์รีบหันหลังกลับ ส่วนเมเรซก็เดินนำไปก่อนอย่างไม่ลังเล  


เมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะ ทั้งสามก็พยายามลืมภาพของไก่พวกนั้นแล้วกลับไปสนุกกับพิซซ่าต่อ พวกเขาสนทนากับฮีบี้เรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับร้านของเธอ ความเป็นมาของเธอ และเรื่องราวอื่น ๆ อีกเล็กน้อย จนกระทั่งท้องอิ่มและรู้สึกว่าถึงเวลาต้องกลับค่ายเสียที  


"พวกเราอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ" คูเปอร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม  


"ไม่เป็นไร" ฮีบี้ยิ้มตอบ "ถือเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับความพยายามของพวกเธอ"  


คาเลบลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจ "คงถึงเวลาต้องกลับค่ายแล้วสินะ"  


เมเรซพยักหน้า "อืม ได้เวลากลับไปพักผ่อนซะที"  


คูเปอร์หันไปมองฮีบี้อีกครั้งก่อนจะกล่าวลาพร้อมรอยยิ้ม "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ เทพีฮีบี้"  


เทพีเอ่ยอำลา "ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ แล้วก็… ถ้าเปลี่ยนใจอยากมาเล่นเป็นเด็กอีกเมื่อไหร่ล่ะก็ แวะมาได้เสมอ!"  


ทั้งสามรีบโบกมือปฏิเสธทันที ก่อนจะออกจากร้านอย่างรวดเร็ว  


เมื่อพวกเขาออกมายืนอยู่ด้านนอกของ Habe Jaebies คูเปอร์สูดลมหายใจลึก "เฮ้อ… ในที่สุดก็เสร็จภารกิจ"  


"เป็นหนึ่งวันที่สุด ๆ ไปเลย" คาเลบเอ่ยพลางหมุนคอไล่ความเมื่อยล้า  


"สุด ๆ ในหลายความหมาย" เมเรซเสริม "ฉันหมายถึง… ไม่นึกเลยว่าภารกิจแรกของคูเปอร์จะวุ่นวายขนาดนี้"  


คูเปอร์หัวเราะเบา ๆ "นั่นสิ ไม่คิดเลยว่ามันจะยุ่งขนาดนี้… แถมฉันยังต้องกลายเป็นเด็กด้วย"  


คาเลบเหลือบมองไข่แจ็คคาโลปที่คูเปอร์ถืออยู่ "แล้วเรื่องเจ้านี่ล่ะ นายคิดจะทำอะไรกับมัน?"  


คูเปอร์มองไข่ในมือ มันเปล่งประกายสีรุ้งจาง ๆ ดูเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมีชีวิตเต้นอยู่ภายใน "ยังไม่รู้เลย… คงต้องกลับไปที่ค่ายแล้วค่อยคิดอีกที"  


"ก็หวังว่ามันจะไม่ใช่อะไรที่อันตรายละกัน" เมเรซพูดพลางยักไหล่  


"ถ้ามันอันตรายเราก็จัดการมันก่อนที่มันจะโตได้น่ะสิ" คาเลบกล่าวติดตลก  


คูเปอร์ไหล่สั่น "หวังว่าคงไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก"  


ทั้งสามหัวเราะเบา ๆ ขณะเดินไปตามเส้นทางกลับค่าย หลังจากการผจญภัยสั้น ๆ ที่วุ่นวายเช่นนี้ สิ่งที่คูเปอร์ต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือ… การได้นอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มเสียที



จบบันทึกการเดินทาง 



—--------


—--------




BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15




ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15




เป้าหมาย เทพีฮีบี้








[รางวัลภารกิจเดินทาง Easy]


ผู้ร่วมภารกิจทุกคน: +50 EXP , +40 ดรักม่า 


+100 ความกล้าหาญ และ ความศรัทธา


+200 เกียรติยศกลับมาอย่างภาคภูมิ




(เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจะปรากฎในท้ายภารกิจ)


ไข่แจ็คคาโลป


(ประทานจากเทพีฮีบี้))


ไข่ลึกลับเปล่งประกายสีรุ้ง มีลวดลายคล้ายเกล็ดหิมะ สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่เต้นอยู่ภายใน เชื่อกันว่าเป็นไข่ของแจ็คคาโลป สัตว์ในตำนานที่ผสมผสานความน่ารักของกระต่ายกับความสง่างามของกวาง ไข่ใบนี้หายากยิ่ง  มีเพียงไม่กี่คนที่เคยพบเห็น



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 50 EXP โพสต์ 2025-2-13 09:24
God
คุณได้รับ +200 เกียรติยศ +100 ความกล้า +100 ความศรัทธา โพสต์ 2025-2-13 09:24
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-19-1] ฮีบี้ เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-2-13 09:24
โพสต์ 127021 ไบต์และได้รับ 80 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-13 00:49
โพสต์ 127,021 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-13 00:49

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญดรักม่า +40 ย่อ เหตุผล
God + 40

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้