แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-13 04:07
บทที่ 8
หลังจากแสงสีทองจางหายไป เสียงดีดนิ้วก็ดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนที่หมอกควันที่ปกคลุมไปทั่วร้านจะพลันหายไปในพริบตา ร่างกายของคูเปอร์และคาเลบเริ่มขยายกลับคืนสู่รูปร่างเดิม ความรู้สึกเหมือนแรงโน้มถ่วงที่กดทับอยู่นานค่อยๆ ถูกปลดปล่อยออกไป ส่วนเมเรซที่ใช้พลังแปลงร่างก็ค่อยๆ คลายคืนร่างเดิมของตนเอง แม้จะไม่ได้เด็กลงเหมือนพวกเขา แต่การรักษารูปลักษณ์เดิมไว้นานๆ ดูเหมือนจะทำให้ร่างกายของเขาแบกรับภาระอยู่ไม่น้อย
คูเปอร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาขยับแขนและขาเพื่อเช็กสภาพร่างกาย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมทีม เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอะไรมากกว่าความเหนื่อยล้า เขาก็เดินไปเปิดประตูของห้องที่พวกเขาพบเทพีฮีบี้เป็นครั้งแรก
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาชะงัก
ตรงกลางห้อง หญิงสาวรูปร่างเล็ก ผมทรงรังผึ้งสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าของนางดูอ่อนวัยราวกับเด็กสาวอายุสิบหกปี เธอมีออร่าแห่งความเยาว์วัยเปล่งประกายรอบตัว ผ้าคลุมไหล่บางเบาสีชมพูพาสเทลพาดทับชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีขาวนวล นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอจับจ้องมาที่พวกเขาพร้อมรอยยิ้มจางๆ
คูเปอร์ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่คือใคร
“เทพีฮีบี้”
เธอขยับริมฝีปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง “ใช่จ้ะ นั่นฉันเอง”
คูเปอร์เดินเข้าไปหาเทพี ก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุภาพ “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรับใช้ท่าน”
ฮีบี้หัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นหรอก คูเปอร์” เธอหันไปมองเมเรซและคาเลบ “ขอบคุณพวกเธอทุกคนที่ช่วยฉันไว้ และก็ช่วยเบาแรงไปได้เยอะเลยนะ อย่างการปิดรอยรั่วที่ท่อระบายอากาศข้างล่าง”
คูเปอร์ขมวดคิ้ว “แสดงว่าหมอกที่ยังปกคลุมอยู่ข้างนอก...”
“อีกไม่นานก็จะค่อยๆ จางหายไปเอง” ฮีบี้ตอบ “แต่ตอนนี้ คุณสมบัติในการย้อนวัยถูกทำให้หายไปแล้วด้วยพลังของฉัน”
คาเลบพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะถามต่อ “แล้วทำไมท่านถึงไม่บอกพวกเราตั้งแต่แรกว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคืออะไร?”
เทพีสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ “บางเรื่องพวกเธอก็ต้องหาเองสิ อีกอย่างนะ ในตอนนั้นฉันมีพลังไม่มากพอ ขยับตัวได้แค่นิดหน่อยอย่างที่พวกเธอเห็น แค่ส่งข้อความเข้าหัวกับเคลื่อนย้ายตัวเองกลับมาที่นี่ก็หมดแรงแล้วล่ะ”
เมเรซยักไหล่ “ก็จริง พวกเราคงโทษท่านไม่ได้”
คาเลบเสริมขึ้นมา “แต่พูดถึงเรื่องท่อนะครับ... ทางที่ดีก็ควรซ่อมให้จริงจังมากกว่านี้นะ เพราะที่ฉันทำไปก็แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยังไม่รู้เลยว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดอีก มันจะเกิดปัญหาใหม่หรือเปล่า”
เมเรซพยักหน้า “จริง ทางที่ดีควรหาที่วางท่อใหม่ไปเลยดีกว่าไหม? ตอนนี้พวกก็อบลินรู้แล้วว่าท่ออยู่ตรงไหน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก... คราวหน้า ผมไม่มานะ”
หญิงสาวหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ฉันจะย้ายท่อไปที่อื่น และจะปิดตายฝาทางเข้า ไม่ให้มีการเปิดออกมาได้อีกต่อไป”
คูเปอร์พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะถามขึ้น “ว่าแต่... ทำไมถึงมีฝาทางเข้าท่ออยู่ในร้านฮีบี้จีบี้ส์ตั้งแต่แรกกันล่ะครับ?”
เทพีสาวกระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะยักไหล่ “เอาจริงๆ ฉันเองก็ไม่ได้เป็นคนตั้งมันไว้หรอกนะ คงเป็นพวกเทพฝ่ายก่อสร้างบนโอลิมปัสนั่นแหละ เวลาพวกเขาออกแบบอะไรบางทีก็ใส่ฟีเจอร์ที่ไม่ได้จำเป็นเข้ามาด้วย อาจจะคิดว่าเผื่อไว้ใช้ตอนจำเป็นล่ะมั้ง”
เมเรซกลอกตา “สุดยอดการออกแบบจริงๆ”
คูเปอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดต่ออย่างสุภาพ “พวกเราอยากจะถามอะไรเพิ่มเติมได้ไหมครับ? ถ้ามันไม่เป็นการเสียมารยาทหรือทำให้ท่านรำคาญ”
ฮีบี้ยิ้มหวาน “ถามมาเถอะ ถ้าฉันตอบได้ ฉันก็จะตอบ”
พวกเขาผลัดกันซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร้าน ระบบของพลังที่เกี่ยวข้องกับเทพีฮีบี้ และปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เทพีตอบคำถามทั้งหมดด้วยท่าทางสบายๆ บางคำถามเธอก็ให้คำตอบที่ตรงไปตรงมา บางคำถามเธอก็เพียงยิ้มและบอกให้พวกเขาไปหาคำตอบด้วยตัวเอง
จนกระทั่งเธอเริ่มยิ้มแล้วพูดขึ้นมา “ในเมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และพวกเธอก็ช่วยฉันไว้ ฉันก็จะประทานของรางวัลให้”
พวกเขาทั้งสามคนหันมามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คูเปอร์จะเป็นคนเอ่ยปาก “ของรางวัล?”
เทพีฮีบี้เผยยิ้มบาง ดวงตาสีน้ำตาลของเธอทอประกายสดใส ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมา และเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวสะบัดเบาๆ วงแหวนสีทองก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเธอ ท่ามกลางแสงเรืองรองบางเบานั้น ไข่ฟองหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา
มันเป็นไข่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ เปลือกไข่เป็นสีขาวนวลแต่แฝงด้วยแสงสีรุ้งบางๆ ลวดลายเกล็ดหิมะปรากฏชัดราวกับถูกแกะสลักไว้
"ขอมอบสิ่งนี้ให้เป็นรางวัล" ฮีบี้กล่าว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความขี้เล่นและลึกลับในเวลาเดียวกัน "ถือเป็นของขวัญสำหรับพวกเธอทั้งสามคน"
คูเปอร์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเหลือบตามองเพื่อนอีกสองคนที่ดูจะมีสีหน้าไม่ไว้ใจนัก โดยเฉพาะเมเรซที่เริ่มขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว
"คือว่า..." คาเลบเป็นคนถามก่อน "ไข่นี่คือ..."
"แจ็คคาโลป" ฮีบี้เอ่ยขึ้นพลางหมุนไข่ในมือให้พวกเขาดูรอบๆ "มันคือสัตว์ในตำนานที่ผสมระหว่างกระต่ายกับกวาง สง่างาม น่ารัก และหายากยิ่ง"
"น่ารัก?" เมเรซเลิกคิ้วข้างหนึ่ง "ขอถามก่อนว่ามัน ‘น่ารัก’ ในแง่ไหน?"
ฮีบี้หันหน้าไปยังเมเรซด้วยรอยยิ้มใส "แล้วแต่จะตีความนะ"
"แล้ว...ทำไมต้องเป็นไข่?" คูเปอร์อดถามไม่ได้ "ตอนแรกพวกเราคิดว่าไข่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เทพีย้อนวัย แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่สินะ?"
เทพีหัวเราะเบาๆ "ก็ใช่น่ะสิ" เธอกล่าวพลางโยนไข่ขึ้นกลางอากาศแล้วรับกลับมาเล่นราวกับเป็นของเล่น "ไข่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นมันไม่มี ‘อายุ’ อย่างแท้จริง พวกเธอเลยเดาผิดไงล่ะ"
คูเปอร์พยักหน้าช้าๆ อย่างเข้าใจ มันฟังดูมีเหตุผลอยู่บ้าง เทพีฮีบี้ไม่ได้ย้อนวัยเพราะไข่ เพราะไข่นั้นยังไม่ได้ ‘เกิด’ อย่างแท้จริง มันยังไม่มีวัยให้ย้อนกลับไปนั่นเอง
"แล้วทำไมก็อบลินถึงกระจายไข่ไก่ไปทั่วร้าน?" คาเลบถามต่อ
"ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้พวกเธอสับสน" ฮีบี้เอ่ย "พวกมันอยากให้พวกเธอคิดว่าไข่เป็นสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงการย้อนวัยกลายเป็นเด็กแรกเกิดของฉัน แต่ความจริงแล้วพวกมันแค่ต้องการสถานที่อบอุ่นพอให้ไข่ฟักเป็นตัว"
"แปลว่าถ้าพวกเรามัวแต่สนใจไข่โดยไม่หาตัวอ่อนที่ฟักไปแล้ว เราก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาที่ย้อนวัยได้สินะ?" คูเปอร์ถาม
"ถูกต้อง" เทพีฮีบี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "นี่เป็นบทเรียนที่ดีนะ อย่ามองอะไรแต่เพียงผิวเผิน อย่าตัดสินอะไรจากแค่ที่เห็น พวกเธอต้องเรียนรู้และมองให้ลึกกว่านั้น"
คูเปอร์หัวเราะแห้งๆ รู้สึกอายนิดๆ ในฐานะบุตรแห่งอะธีน่าที่ดันพลาดท่าให้กับกลลวงง่ายๆ แบบนี้ ก็แน่ล่ะ... นี่เป็นภารกิจแรกของเขา ยังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้
"แต่ว่า..." เมเรซมองไข่ในมือของฮีบี้ด้วยสายตาหรี่ลง "ขอถามให้แน่ใจอีกที... เจ้าไข่นี่ มันไม่ใช่ไข่ไก่จริง ๆ ใช่ไหม?"
ฮีบี้กลั้วหัวเราะ "ลองฟักดูสิ แล้วจะรู้เอง"
สามหนุ่มสบตากัน ก่อนที่คาเลบจะกระแอมเบาๆ "เก็บไว้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ดูมีค่าล่ะนะ"
ฮีบี้มีเอ่ย "ถือว่าเป็นของที่ระลึกจากฉัน และเป็นเครื่องเตือนใจ"
บทสนทนาดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาพูดคุยกับเทพีอย่างเป็นกันเองมากขึ้น ตอนนี้บรรยากาศในร้านกลับมาเงียบสงบเหมือนปกติ แม้ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ยังหลงเหลืออยู่ แต่ความรู้สึกเครียดกดดันก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดแล้ว
จนกระทั่งฮีบี้ยิ้มกว้างขึ้น และเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง
"จริงสิ ไหนๆ ก็ช่วยฉันไว้แล้ว สนใจเล่นในร้านฉันหน่อยไหม? ฉันจะช่วยย้อนพวกเธอเป็นเด็กอีกครั้ง ให้ได้เล่นสนุกกันเต็มที่เลย!"
"ไม่!"
ทั้งสามคนตอบกลับแทบจะพร้อมกันโดยไม่ต้องคิด ฮีบี้หัวเราะชอบใจ "แหมๆ ทำหน้าแบบนั้นกันทำไมล่ะ"
"ขอเถอะครับ" คูเปอร์ยกมือขึ้น "พวกเราพึ่งกลับมาเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน ขออยู่แบบนี้ต่ออีกสักพักเถอะ"
"เข้าใจแล้วๆ" เทพีสาวยิ้ม ก่อนจะปรบมือเบาๆ "ถ้างั้นไม่เป็นไร แต่ก่อนจะรีบกลับไปไหน รอทานพิซซ่าก่อนสิ"
คำว่า ‘พิซซ่า’ ทำให้ทั้งสามคนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คาเลบจะเอียงคอเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด
"...พิซซ่าฟรี?"
ฮีบี้ยิ้มหวาน "แน่นอน ฟรีตลอดวันนี้สำหรับแขกคนพิเศษของฉัน"
เมเรซพยักหน้าทันที "โอเค ผมอยู่ต่อ"
คูเปอร์หัวเราะพลางส่ายหน้า "อันที่จริง เขาก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน"
ฮีบี้แสดงท่าทีอย่างสดใสและกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น พวกเธอสนใจพิซซ่าสักชิ้นไหม? ฉันจะไปอบเสร็จใหม่ ๆ ให้เลย"
คาเลบและเมเรซมองหน้ากัน ก่อนที่คาเลบจะตอบว่า "ฟังดูดีนะครับ พวกเราก็หิวพอดี"
ฮีบี้นำทางพวกเขาไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้กับเครื่องเล่นเกมต่าง ๆ ภายในร้าน เธอวางพิซซ่าถาดใหญ่ลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมของชีสและซอสทำให้ท้องของพวกเขาร้องด้วยความหิว
คูเปอร์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำอัดลมขึ้นมาดื่ม เขาเหลือบตามองฮีบี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ตอนนี้ตั้งอยู่ในโซนอาหารของร้าน ซึ่งประดับประดาด้วยไฟนีออนสีสันสดใส ดูราวกับฉากหนึ่งจากภาพยนตร์ยุค 80
"ว่าแต่..." คาเลบเป็นฝ่ายเปิดประเด็น "ร้านนี้เริ่มต้นมายังไงกันแน่ครับ? มันไม่ได้ดูเหมือนแค่ร้านเล่นเกมทั่วไป"
ฮีบี้ยิ้ม ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ "ก็นะ ฉันคิดว่าชาวมนุษย์มักมีเรื่องให้เครียดกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะวัยไหนก็ตาม ฉันเลยอยากสร้างสถานที่ที่ให้พวกเขาได้ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ไร้กังวลอีกครั้ง"
"นั่นเป็นเหตุผลที่คุณใช้พลังย้อนวัยของตัวเองกับลูกค้าเหรอ?" เมเรซถาม พลางใช้ส้อมจิ้มพิซซ่าเข้าปาก
"ก็ไม่เชิง" ฮีบี้ส่งเสียงเริงร่าเบา ๆ "ฉันไม่ได้ใช้พลังกับทุกคนหรอกนะ บางคนก็แค่มาเล่นเกมและสนุกไปกับบรรยากาศเฉย ๆ แต่สำหรับคนที่อยากได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบ พวกเขาสามารถเข้าร่วม ‘โหมดพิเศษ’ ได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขากลับไปเป็นเด็กในช่วงเวลาหนึ่ง"
คูเปอร์เลิกคิ้ว "แปลว่าคุณทำให้คนทั้งร้านย้อนวัยได้... แล้วคุณไม่เคยคิดบ้างเหรอว่ามันอาจจะเกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น เด็กที่ย้อนกลับไปแล้วดันไม่อยากกลับมาเป็นผู้ใหญ่?"
ฮีบี้มียิ้มขำ "เคยสิ! จริง ๆ แล้ว มันเคยเกิดขึ้นอยู่ครั้งหนึ่ง มีชายวัย 50 คนหนึ่งที่เลือกย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอายุ 10 ขวบ และเขาสนุกซะจนไม่ยอมออกจากร้าน"
"แล้วคุณทำยังไง?" คาเลบถามอย่างสนใจ
"ฉันก็คุยกับเขาดี ๆ น่ะสิ" นางยักไหล่ "บอกเขาว่าแม้วัยเด็กจะวิเศษแค่ไหน แต่ช่วงเวลาอื่น ๆ ของชีวิตก็มีค่าด้วยเหมือนกัน และสุดท้ายเขาก็ยอมกลับไปเป็นผู้ใหญ่ตามเดิม"
"ฟังดูเป็นประสบการณ์ที่แปลกดีแฮะ" คูเปอร์พึมพำ
"แล้วพวกเธอล่ะ?" ฮีบี้เอนตัวมาข้างหน้า "ไม่มีใครอยากลองย้อนวัยอีกหน่อยเหรอ? ฉันให้พวกเธอลองเล่นเครื่องเล่นของร้านแบบเด็ก ๆ ก็ได้นะ รับรองว่าสนุกแน่!"
"ขอผ่านครับ" คูเปอร์ตอบแทบจะทันที
"ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน" คาเลบเสริม
"ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉันเลย" เมเรซยกมือขึ้น "ฉันชอบความเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองมากกว่าการต้องกลับไปเป็นเด็กเตาะแตะอีกครั้ง"
ฮีบี้หัวเราะ "โอเค ๆ ไม่บังคับก็ได้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าล่ะ?"
"ก็ไม่" ทั้งสามตอบพร้อมกัน
ฮีบี้ยิ้มกว้าง "เข้าใจแล้ว ๆ แต่ก่อนที่พวกเธอจะไปไหนไกล รอก่อนนะ" เธอยกมือขึ้น และในพริบตา ถาดพิซซ่าถาดใหม่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า "อย่างน้อยพวกเธอก็ต้องเติมพลังให้เต็มที่ก่อนออกเดินทางสิ"
เทพีสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอเป็นประกายอย่างขี้เล่น "พูดถึงเรื่องย้อนวัยแล้ว พวกเธอรู้ไหมว่าที่นี่มีอะไรพิเศษอีก?"
คูเปอร์ คาเลบ และเมเรซมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่คูเปอร์จะเป็นฝ่ายถาม "มีอะไรอีกเหรอครับ?"
เทพีแสดงใบหน้ายิ้มแย้ม เธอเคาะนิ้วบนโต๊ะสองสามครั้ง ราวกับกำลังเว้นจังหวะให้พวกเขาตั้งใจฟัง "ที่นี่น่ะ นอกจากจะมีเครื่องเล่นสนุก ๆ แล้ว ยังมีของรางวัลสุดพิเศษให้แลกด้วยนะ ถ้าเธอสะสมตั๋วได้มากพอ"
"ของรางวัล?" คาเลบเลิกคิ้ว
"ใช่!" ฮีบี้พยักหน้าตอบรับ "หนึ่งในของรางวัลยอดนิยมของที่นี่ก็คือ ‘ยาอายุวัฒนะ’"
เมเรซพ่นลมหายใจ "ขอเดา... มันคงไม่ใช่ยาอายุวัฒนะแบบที่มนุษย์เข้าใจกันใช่ไหม?"
"ถูกต้องจ้ะ!" ฮีบี้เน้นเสียง "มันก็เหมือนกับน้ำพุแห่งความเยาว์วัยที่มนุษย์บางกลุ่มพยายามตามหานั่นแหละ แต่แทนที่จะทำให้เธอย้อนกลับไปเป็นหนุ่มสาวแข็งแรงเต็มที่ มันจะทำให้เธออายุย้อนกลับไปเป็นเด็ก 8 ขวบต่างหาก!"
คูเปอร์ชะงัก "เดี๋ยวนะ… ทำไมต้อง 8 ขวบ?"
"นั่นสิ" คาเลบเสริม "ทำไมไม่ย้อนกลับไปตอนอายุ 18 หรือ 21?"
ฮีบี้เปิดปากยิ้มกว้างขึ้น เธอเอนตัวมาข้างหน้า ราวกับกำลังจะเฉลยปริศนาอันยิ่งใหญ่ของโลก "เพราะความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของวัยเด็กเริ่มต้นตอนอายุประมาณ 8 ขวบยังไงล่ะ"
คูเปอร์ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเข้าใจ "หมายความว่ายังไง?"
"ก็คิดดูสิ" นางกวาดตามองพวกเขาทั้งสามก่อนจะอธิบาย "ตอนเธออายุ 8 ขวบน่ะ เธอมีอิสระมากพอที่จะเล่นวิดีโอเกมได้นานเท่าที่ต้องการ สามารถกินพิซซ่าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่ และยังสามารถตื่นเต้นกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการดูอิกัวนาหุ่นยนต์เล่นแบนโจได้ตลอดทั้งวัน!"
"อิกัวนาหุ่นยนต์เล่นแบนโจ?" เมเรซกระพริบตาปริบ ๆ "ฟังดูเหมือนคาเฟ่ธีมหุ่นยนต์ในหนังสยองขวัญเลยนะ"
"เธอหมายถึงร้านแนว Five Nights at Freddy’s หรือเปล่า?" คาเลบเสริม
"เฮ้ ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย!" ฮีบี้หัวเราะลั่น "มันเป็นแค่ตัวอย่างน่ารัก ๆ ว่าวัยเด็กนั้นมีความสุขยังไงต่างหากล่ะ!"
คูเปอร์เริ่มหัวเราะ "ถ้าพูดแบบนี้ก็เข้าใจแล้วล่ะ ผมก็จำได้ว่าอายุประมาณ 8 ขวบเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยพลัง ไม่ต้องห่วงเรื่องเรียนมากนัก มีเวลาวิ่งเล่นทั้งวัน… จริง ๆ ก็คงเป็นช่วงเวลาที่วิเศษจริง ๆ นั่นแหละ"
คาเลบพยักหน้า "ก็จริงนะ ตอนอายุ 8 ขวบ ฉันยังใช้เวลาทั้งวันฝึกเล่นกีตาร์กับแม่เลย ตอนนั้นฉันยังเล่นแย่มาก แต่เธอก็อดทนสอนฉันอยู่ดี"
เมเรซยิ้มมุมปาก "ฉันจำได้ว่าเป็นช่วงที่เริ่มรู้จักแฟชั่นครั้งแรกล่ะมั้ง"
"เพราะงั้น ถ้าพวกเธออยากย้อนกลับไปช่วงเวลานั้นอีกครั้ง…" ฮีบี้เว้นจังหวะ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ "ก็แค่สะสมตั๋วให้มากพอ แล้วมาแลกยาอายุวัฒนะกับฉันได้นะ!"
"ขอผ่านดีกว่าครับ" ทั้งสามตอบแทบจะพร้อมกัน
ฮีบี้หัวเราะเสียงใส "เธอแน่ใจนะ? มันอาจจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมก็ได้!"
คูเปอร์ส่ายหน้า "พวกเราเพิ่งผ่านประสบการณ์ย้อนวัยมาไม่นานมานี้เองครับ ผมว่าขอเป็นผู้ใหญ่ต่อไปแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว"
"นั่นสิ" คาเลบเสริม "แค่ร่างเด็ก 4-5 ขวบฉันก็ลำบากพอแล้ว ฉันไม่อยากกลับไปอยู่ในร่างที่เตี้ยขนาดนั้นอีกแน่"
"และฉันก็ไม่ต้องการให้สภาพตัวเองดู ‘น่ารัก’ อีกครั้ง ขอบคุณ" เมเรซกล่าวเรียบ ๆ
ฮีบี้ยักไหล่ "โอเค ๆ ไม่เป็นไร! แต่ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ บอกฉันได้เสมอนะ!"
ทั้งสามหัวเราะเบา ๆ ขณะที่พิซซ่าถาดใหม่ถูกวางลงตรงหน้า คูเปอร์เอนตัวพิงเก้าอี้ พลางหยิบพิซซ่าขึ้นมาอีกชิ้น
"ว่าแต่..." คาเลบพูดขึ้นพลางจ้องไข่แจ็คคาโลปที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ "คุณแน่ใจนะว่าไอ้ไข่นี่มันไม่ใช่อะไรแปลก ๆ ?"
ฮีบี้ขยิบตาทีนึง "ถ้าอยากรู้… ก็ลองฟักดูสิจ๊ะ"
คำตอบของเธอทำให้พวกเขาทั้งสามมองหน้ากัน ก่อนที่คูเปอร์จะถอนหายใจ "ผมไม่แน่ใจว่าอยากรู้คำตอบของเรื่องนี้แล้วแฮะ…”
เมื่อเมเรซได้ยินเรื่องของไข่ เขาก็อดถามต่อไม่ได้ "พอพูดถึงไข่… แล้วทำไมในร้านของท่านถึงมีเล้าไก่ล่ะ?"
เทพีแห่งความเยาว์วัยยิ้มอย่างอารมณ์ดี "อ๋อ นั่นเป็นเพราะไก่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของฉันยังไงล่ะ"
"ไก่?" คาเลบเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ "ไม่ใช่นกยูงหรือเหรอ?"
"นกยูงเป็นของแม่ฉัน เฮร่าน่ะ" ฮีบี้แก้ให้
"ส่วนไก่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของฉันเอง มันมีความเชื่อเกี่ยวกับไก่ในศาสนาของกรีกในสมัยโบราณนะ นักบวชหญิงจะเลี้ยงไก่เสมอ ลูกไก่จะถูกเลี้ยงไว้ในวิหารของฉัน ส่วนไก่ตัวผู้จะถูกเลี้ยงไว้ในวิหารของเฮอร์คิวลีส และในวันศักดิ์สิทธิ์ของฉัน พวกมันจะถูกนำมารวมกันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเยาว์วัย"
เมเรซพยักหน้าช้า ๆ "ฟังดูมีความเป็นมาที่ยาวนานดีแฮะ"
คาเลบยังคงจ้องไปที่เล้าไก่ เขาหรี่ตาลงขณะพินิจพิเคราะห์ไก่พวกนั้น "แล้วพวกมันแตกต่างจากไก่ทั่วไปยังไงเหรอ?"
นางยิ้มกว้างขึ้นอีก "อยากรู้ไหม? ถ้าอยากรู้ฉันจะพาไปเล่นในเล้าไก่เอง"
"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ!" คาเลบรีบปฏิเสธทันที คูเปอร์กับเมเรซหัวเราะเบา ๆ
"ฉันแค่ล้อเล่น" ฮีบี้หัวเราะขำ "แต่ถ้าเธอถามว่าพวกมันแตกต่างจากไก่ทั่วไปยังไง…" นางเว้นจังหวะแล้วมองไปยังฝูงไก่ที่อยู่ในเล้า ก่อนจะยิ้มบาง ๆ "พวกมันไม่เหมือนไก่ปกติหรอกนะ"
คูเปอร์ขมวดคิ้วมองตามสายตาของเธอ ไก่พวกนั้นดูปกติ… หรืออาจจะไม่ปกติก็ได้ บางอย่างในแววตาของพวกมันทำให้เขารู้สึกไม่ไว้ใจนัก
"พวกมันเกือบจะเหมือนกับรู้โดยสัญชาตญาณว่าพวกมันวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์" ฮีบี้เอ่ยเสียงนุ่ม "ราวกับว่าถ้ามีโอกาส พวกมันจะฉีกเราออกเป็นชิ้น ๆ เหมือนกับบรรพบุรุษในยุคจูราสสิกของพวกมัน"
คูเปอร์ คาเลบ และเมเรซมองไก่พวกนั้นอีกครั้ง คราวนี้พวกเขามั่นใจเลยว่าไก่พวกนี้ดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม พวกมันยืนนิ่งจ้องมาทางพวกเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์ ราวกับกำลังประเมินเหยื่อ
"กะ… กลับไปกินพิซซ่าต่อดีไหม?" คาเลบกลืนน้ำลาย
"สนับสนุนเต็มที่" คูเปอร์รีบหันหลังกลับ ส่วนเมเรซก็เดินนำไปก่อนอย่างไม่ลังเล
เมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะ ทั้งสามก็พยายามลืมภาพของไก่พวกนั้นแล้วกลับไปสนุกกับพิซซ่าต่อ พวกเขาสนทนากับฮีบี้เรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับร้านของเธอ ความเป็นมาของเธอ และเรื่องราวอื่น ๆ อีกเล็กน้อย จนกระทั่งท้องอิ่มและรู้สึกว่าถึงเวลาต้องกลับค่ายเสียที
"พวกเราอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ" คูเปอร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
"ไม่เป็นไร" ฮีบี้ยิ้มตอบ "ถือเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับความพยายามของพวกเธอ"
คาเลบลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจ "คงถึงเวลาต้องกลับค่ายแล้วสินะ"
เมเรซพยักหน้า "อืม ได้เวลากลับไปพักผ่อนซะที"
คูเปอร์หันไปมองฮีบี้อีกครั้งก่อนจะกล่าวลาพร้อมรอยยิ้ม "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับ เทพีฮีบี้"
เทพีเอ่ยอำลา "ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ แล้วก็… ถ้าเปลี่ยนใจอยากมาเล่นเป็นเด็กอีกเมื่อไหร่ล่ะก็ แวะมาได้เสมอ!"
ทั้งสามรีบโบกมือปฏิเสธทันที ก่อนจะออกจากร้านอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาออกมายืนอยู่ด้านนอกของ Habe Jaebies คูเปอร์สูดลมหายใจลึก "เฮ้อ… ในที่สุดก็เสร็จภารกิจ"
"เป็นหนึ่งวันที่สุด ๆ ไปเลย" คาเลบเอ่ยพลางหมุนคอไล่ความเมื่อยล้า
"สุด ๆ ในหลายความหมาย" เมเรซเสริม "ฉันหมายถึง… ไม่นึกเลยว่าภารกิจแรกของคูเปอร์จะวุ่นวายขนาดนี้"
คูเปอร์หัวเราะเบา ๆ "นั่นสิ ไม่คิดเลยว่ามันจะยุ่งขนาดนี้… แถมฉันยังต้องกลายเป็นเด็กด้วย"
คาเลบเหลือบมองไข่แจ็คคาโลปที่คูเปอร์ถืออยู่ "แล้วเรื่องเจ้านี่ล่ะ นายคิดจะทำอะไรกับมัน?"
คูเปอร์มองไข่ในมือ มันเปล่งประกายสีรุ้งจาง ๆ ดูเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมีชีวิตเต้นอยู่ภายใน "ยังไม่รู้เลย… คงต้องกลับไปที่ค่ายแล้วค่อยคิดอีกที"
"ก็หวังว่ามันจะไม่ใช่อะไรที่อันตรายละกัน" เมเรซพูดพลางยักไหล่
"ถ้ามันอันตรายเราก็จัดการมันก่อนที่มันจะโตได้น่ะสิ" คาเลบกล่าวติดตลก
คูเปอร์ไหล่สั่น "หวังว่าคงไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก"
ทั้งสามหัวเราะเบา ๆ ขณะเดินไปตามเส้นทางกลับค่าย หลังจากการผจญภัยสั้น ๆ ที่วุ่นวายเช่นนี้ สิ่งที่คูเปอร์ต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือ… การได้นอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มเสียที
จบบันทึกการเดินทาง
—--------
—--------
BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15
ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15
เป้าหมาย เทพีฮีบี้
[รางวัลภารกิจเดินทาง Easy]
ผู้ร่วมภารกิจทุกคน: +50 EXP , +40 ดรักม่า
+100 ความกล้าหาญ และ ความศรัทธา
+200 เกียรติยศกลับมาอย่างภาคภูมิ
(เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจะปรากฎในท้ายภารกิจ)
ไข่แจ็คคาโลป
(ประทานจากเทพีฮีบี้))
ไข่ลึกลับเปล่งประกายสีรุ้ง มีลวดลายคล้ายเกล็ดหิมะ สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่เต้นอยู่ภายใน เชื่อกันว่าเป็นไข่ของแจ็คคาโลป สัตว์ในตำนานที่ผสมผสานความน่ารักของกระต่ายกับความสง่างามของกวาง ไข่ใบนี้หายากยิ่ง มีเพียงไม่กี่คนที่เคยพบเห็น
|