ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.
เหตุการณ์ในร้านสะดวกซื้อคล้ายทำธิดาไอริสต้องมานั่งทบทวนความทรงจำเงียบ ๆ คนเดียวยังอัฒจันทร์ของค่ายเพื่อรอเข้าคลาสเรียนการต่อสู้และป้องกันตัวจากอสุรกายในอีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ สมุดโน้ตบนตักถูกนำมาวาดรูปบางอย่างลงไปราวกับบันทึกไดอารี่ความทรงจำ เรียวคิ้วยังขมวดมุ่นสลับคลายอยู่แบบนั้นกระทั่งเสียงปลายดินสอหยุดลง รู้ตัวอีกทีก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มคลาสแล้ว หญิงสาวท่าทางทะมัดทะแมงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาในบริเวณ แววตาสีอ่อนของเธอกวาดจดจ้องยังเด็ก ๆ ภายในชั้นเรียนที่ดูจะมีคนใหม่เข้ามาอย่างดาริน่า มือยกเสยเรือนผมสีบลอนด์ตัดสั้นของเธอเบา ๆ จนเผยให้เห็นร่องรอยคิ้วขมวดแน่น
“
ชื่ออะไร ”
เสียงทุ้มหวานนั้นเอ่ยทักเจาะจงมายังร่างเล็กที่กำลังเก็บสมุดเข้ากระเป๋า ดวงตากลมผินมาหาอย่างเหรอหราก่อนจะจับกระเป๋ามากอดเอาไว้ นับหนึ่งสองในใจก่อนค้อมศีรษะทักทายดูสุภาพ
“
ดาริน่า อิวานอฟ– ”
“
ทั้งตัวไม่มีกล้ามเนื้อจากออกกำลังกายแบบนี้เรียนไม่ไหวหรอก ไปฝึกร่างกายมาก่อนไปคุณอิวานอฟ ”
ยังไม่ทันพูดว่ายินดีที่ได้รู้จัก แล้วคุณชื่ออะไร ดาริน่าก็โดนตรงดิ่งมาจับข้อมือให้ผุดลุก ตามต้นแขนถูกบีบจนจั๊กจี้ให้เผลอหลุดรอยยิ้มหัวเราะขำ แต่แล้วก็ต้องเม้มริมฝีปากหลุบตาเอามือประสานเพราะครูฝึกไม่ขำด้วย ซ้ำยังหรี่ตามองเธออย่างกดดันอีกต่างหาก
“
เข้า.. เข้าใจแล้วค่ะ ”
น้ำเสียงหวานเอ่ยเบาดูติดหงอยอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเธอก็คิดว่าตัวเองคงจะยังไม่พร้อมจริง ๆ ผินสายตามองยังดาบฝึกกับพวกโล่ที่ดูหนักและอันตรายก็รู้สึกว่าคงไม่ไหวเลยกอดกระเป๋าวิ่งฉิวออกจากเขตอัฒจันทร์
.
.
ใช้เวลาไม่นานนักก็มายืนหอบมองมือเล็กที่กำแบด้วยแรงน้อย ๆ แถวสนามฝึกซ้อมด้วยท่าทางคอตกแล้ว รู้สึกได้ถึงพลังงานอันน้อยนิดของตัวเองจนต้องผินมองยังที่วางอุปกรณ์ต่อสู้ต่าง ๆ ที่วางเรียงยังชั้นวาง แววตาสีฮาเซลฉายความลังเลก่อนสักพักจะถูกเปลือกตาหลับปี๋ลงจนแพขนตาหนาบดบัง ยามเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็เหมือนมีกองไฟเล็ก ๆ ลุกโชนขึ้นมาแล้ว
ต้องทำได้สิ! ดาริน่า!
ฮึดฮัดกับตัวเองในใจ ถอดกระเป๋าก่อนจะถกแขนเสื้อตุ๊กตาตัวเองวาดหวังให้ดูทะมัดทะแมงแม้ชุดเอี๊ยมสีน้ำตาลจะทำให้ดูแข็งแรงไม่พอ แต่บรรยากาศรอบตัวก็บอกได้เลยว่าไฟสู้นั้นกำลังโชติช่วง
“
เฮ้เธอ! จะซ้อมดาบใช่ไหม? มาเป็นคู่ซ้อมให้กันหน่อยสิ เอ้า! รับ ”
ทว่าโชติช่วงจริงไม่จริงไม่รู้ แต่พอดาริน่าหยิบดาบไม้ขึ้นมาเสียงเด็กหนุ่มเลือดร้อนคนหนึ่งก็โพล่งขึ้นอย่างดีใจ ราวกับเจอเป้าหมายของคู่ฝึกซ้อมให้ดาริน่าที่กำลังฮึดเมื่อครู่เผลอใจเสาะขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าถ้ามีคนทักแบบนี้ แสดงว่าท่าทางเธอที่กำลังอยากซ้อมก็ดูไม่ได้ด้อยง่อยมากเสียเท่าไหร่ ดาริน่าพลันหันตามเสียงเรียกตั้งแต่ก่อนหน้า ยังไม่ทันสำรวจว่าใครกันที่ทักทาย โล่ไม้ขนาดพอดีก็ลอยหวือมาให้เธอจับเสียแล้ว
“
อ่ะ– ”
หลุดอุทานแผ่วเบาเพราะเกือบจะรับโล่ไม้นั้นไม่ทัน แต่เพราะมันเบามากเลยทำให้เธอไม่ทำมันหล่น แววตาดูประกายเล็กน้อยยามยกขึ้นลงให้ถนัดยังมือซ้ายของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเพราะไม่เคยตั้งท่าต่อสู้เสียทีเลยได้แต่ยืนโง่ถือทั้งโล่ทั้งดาบไม้ตั้งฉากขนาบตัวให้ชายเรือนผมสีแดงเพลิงแสบสันต์ที่เตรียมตั้งท่าตั้งแต่ก่อนหน้านี้โพล่งโวยขึ้นเสียงใส่
“
เฮ้!– ตั้งท่าสิ ฉันจะเริ่มแล้วนะ สาม สอง– หนึ่ง! ”
“
ตั้งท่า? ..หวะ–- ”
เลขที่นับยังไม่จบดีดาริน่าก็ยังตั้งท่าผิด ๆ ถูก ๆ ชายแปลกหน้าที่นึกว่าหญิงสาวลองเชิงก็เคลื่อนไหวตัวตรงหา อาศัยช่องว่างที่เห็นมากมายจากเธอสอดดันช่วงดาบไม้กระแทกปัดทางดาบหญิงสาวให้ออกไปด้านข้าง ก่อนพุ่งประชิดส่งช่วงต้นแขนกระแทกเข้าตัวโล่ที่ดาริน่ายกกั้นเอาไว้ และแน่นอนว่าแรงของชายร่างสูงใหญ่แบบนั้น รวมถึงเป็นถึงบุตรแห่งแอรีส
ตัวดาริน่าเลยปลิวหงายลงพื้นหญ้าไปเกือบสองเมตรได้ นิ่งค้างมองฟ้าตาโตด้วยความตกใจ
“
เฮ้ย! ”
และแน่นอนว่าคนทำก็ตกใจไม่ต่างกัน ร่างสูฃพ่งฉิวมายอบกายนั้งยองข้างร่างเล็ก จับประคองร่างดาริน่าลุกนั่งอย่างเบามือพร้อมสีหน้าตกใจอย่างหนีกอย่างไม่คิดปิด แววตาสีมรกตคู่คมฉายความรู้สึกผิดระคนในนั้น
“
ขอโทษ ฉันไม่คิดว่าเธอ… ก็เห็นออกมาจากคลาสคุณเอมิเลีย นึกว่าเธอ– ”
อ้ำอึ้งพูดทำตัวไม่ถูก ดาริน่าก็เอาแต่เบิกตากลม ๆ สีฮาเซลมองชายเรือนผมแดงอยู่แบบนั้น ไม่รู้คิดอะไรจนคนโดนจ้องรู้สึกประหม่าขึ้นมา ยิ่งเครื่องหน้าอย่างคนฝั่งรัสเซียของธิดาไอริสก็คล้ายยิ่งทำคนโดนมองทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ ความรู้สึกเหมือนแมวตัวเล็กจ้องยิ่งทำให้รํสึกคันมือยิบ ๆ จนยกเตรียมจะปิดตาของดาริน่าเอาไว้
“
ก็.. ก็ขอโทษแล้วไง เลิกจ้องฉันได้แล้– ”
“
สอนได้ไหมคะ? ท่าเมื่อครู่น่ะค่ะ ”
เป็นครั้งแรกที่ดาริน่าได้เอ่ยแทรกใครส้กคน มือเล็กคว้าจับเอาฝ่ามือใหญ่ของชายเรือนผมแดงตรงหน้าเอาไว้เพื่อให้ลดมือลงจนดวงตาสองคู่เฝ้าสบกันได้ ท่าทางมุ่งมั่นตั้งใจของเธอนั้นกระทบความรู้สึกของคนฟังได้อย่างจัง เฟลิทซ์ที่ชอบในการต่อสู้และฝึกฝนอยู่แล้วมีท่าทีลังเลเล็กน้อยจากความอ่อนแอของหญิงสาว แต่เพราะแววตาของเธอทำให้เจ้าตัวคล้ายขมวดคิ้วมุ่นมองใส่ด้วยท่าทางกึ่งดุกึ่งตื่นเต้นไม่ต่างกันที่จะได้ลองสอนวิชาให้ใครสักคน
“
อย่า– โกรธฉันแล้วกันนะถ้าเจ็บตัว ”
ดาริน่าพยักหน้าอย่างแข็งขัน ก่อนจะพาร่างของตัวเองลึกขึ้นมาเหมือนไม่เจ็บปวดมากนัก แม้จะรู้สึกชาไปทั่วหลังกับแขนข้างที่ถือโล่ไม้ก็ตาม ชายเรือนผมแดงที่เห็นท่าทางมีสปิริต้หบ่านั้นก็พลอยฮึกเหิม เริ่มเอ่ยเสียงฟังชัด ทำท่าทางราวกับรุ่นพี่แทบจะช่วยจับมือสอนให้ดาริน่าจับอาวุธให้อย่างมั่นคง และตั้งท่าตั้งรับได้ถูกต้องมากขึ้น กระทั่งใช้เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทั้งสองพลันประจันหน้ากันอีกครั้งก่อนที่ธิดาแห่งไอริสจะเริ่มเป็นฝ่ายรุกหา กระทบดาบไม้เข้าโรมรัน แต่ก็ยังมีแรงไม่มากพอที่จะปัดดาบหรือป้องกันได้เสียด้วยซ้ำ จนสุดท้ายก็เพลี้ยงพล้ำล้มหมอบให้ครูจำเป็นตนนั้นรู้สึกผิดขึ้นมา
เฟลิทซ์ยกมือเกาศีรษะตัวเองน้อย ๆ ชายเลือดร้อนที่ต้องมาออมแรงสู้กับคนตัวเล็กแบบนี้เริ่มรู้สีกหมดสนุกไปทุกช่วงขณะ ถ้าไม่เพราะตากลมแป๋วเหมือนแมวของดาริน่าที่ชอบเงยมาจดจ้องตนแบบนั้น บุตรแห่งแอรีสก็คิดว่าตนอาจจะเดินหนีไปแล้ว
“
พอดีกว่ามั้ง เหมือนเธอจะไม่ไหวนะ ”
“
เรา.. ไหวค่– ”
โครก..~
ร่างเล็กที่นอนหงายเจ็บตัวบนพื้นหญ้าเหมือนตอนครั้งแรกที่ปะทะกับร่างของชายต่างบ้าน ต่างก็ที่มีเสียงท้องร้องของเธอเคล้าคลอแทรกประโยคเท่านั้น ทั้งสองสบมองจ้อง เนินแก้มของธิดาไอริสเริ่มแต่งแต้มสี เสียงหัวเราะดังไม่เกรงใจของชายไม่รู้ชื่อดังแทรกเป็นพื้นหลังให้เธอยิ่งยกสองมือมาปิดหน้า
“
ไปหาอะไรกินก่อนไป ฉันจะแยกไปซ้อมของฉันแล้ว ”
และแล้วคลาสเรียนเฉพาะกิจเมื่อครู่ก็จบลงด้วยประการนี้แล
♡ ฝึกฝนประจำวัน : +15 EXP , +5 พลังใจ