เจ้าของ: God

[ทิศตะวันออกของเขตบ้านพัก] สนามฝึกซ้อม

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-7-11 01:53:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-11 01:58




White Swan in The Ocean

I’m gonna be a STAR

10th July 2025 3 PM


   ตอนแรกเธอจะมาหารุ่นพี่ไพเพอร์เอาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทว่าวันนั้นที่คงต้องรั้งรอจนถึงเกือบห้าโมงเย็นดูจะเย็นเกินไปในความรู้สึกของวัยรุ่นที่ยังคุ้นชินกับคำว่าเช้ากลางวันเย็นและมืดค่ำ นั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจเก็บมาคุยกับรุ่นพี่วันนี้แทน…ที่เธอคนนี้จะเลิกคลาสช่วงบ่ายสามโมงเย็น

   ริปลีย์ที่ตั้งใจว่าจะโฟกัสไปกับการเรียนวิชาทวนกับธนูจึงไม่ได้ลงเรียนมีดสั้นนั้นจึงทำให้เธอเลือกจะมาตอนหลังเลิกเรียนแทนการเข้าร่วมคลาสที่จริง ๆ …จะเข้าก็ไม่แย่ แต่ก็นั่นแหละ ปล่อยให้ตัวขี้เกียจอย่างเธอได้มีเวลาพักผ่อนเสียบ้าง

   “วันนี้เท่านี้ก่อน ไว้เจอกันคลาสหน้า”

   เสียงที่บ่งบอกว่าคลาสเรียนมีดสั้นพื้นฐานในวันนี้จบลงแล้วก็ส่งผลให้ร่างเล็กของบัลเลรีน่าสาวได้ตบเท้าเข้าไปหารุ่นพี่แห่งบ้านอะโฟรไดท์

   “สวัสดีค่ะรุ่นพี่ไพเพอร์ ฉัน—เอ่อ ริปลีย์ค่ะ ริปลีย์ สวอนสัน ธิดาแห่งโพไซดอน”

   “สวัสดีจ้ะ คลาสเพิ่งเลิกเมื่อครู่นี้เองคุณสวอนสัน มีอะไรสงสัยหรือเปล่า ?”

   “พอดีว่าฉันสนใจนี่น่ะค่ะ” มือเล็กยกกระดาษงานปั้นดาวที่ไพเพอร์เป็นคนแปะป้ายประกาศไว้ “ก็เลยมาหารุ่นพี่ในวันนี้”

   “โอ้พระเจ้า ในที่สุดสินะ” ไพเพอร์ตาโตขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “นี่น่ะฉันแปะไว้เผื่อว่าจะมีคนสนใจ เธอก็รู้จักพ่อของฉันใช่ไหม ทริสตัน แม็กลีน”

   “รู้จักสิคะ ใครจะไม่รู้”

   “นั่นแหละ ๆ เยี่ยมเลยงี้ก็คุยกันง่ายหน่อย พอดีว่าฉันทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับพ่อด้วย อารมณ์ธุรกิจครอบครัว อาฮะ ใช่ ๆ ธุรกิจครอบครัว ทีนี้ดูเหมือนว่าค่ายที่คุณพ่อสังกัดเขาจะเปิดรับนักแสดงเพิ่มเลยมาแปะไว้น่ะ ถ้าเธอสนใจฉันจะช่วยสอนเทคนิคการแคสต์งานมากมายจากประสบการณ์ที่เคยตามคุณพ่อไปทำงานอย่างดีเลย”

   ไพเพอร์เอ่ยอย่างฉะฉานตามที่เธอเป็น และเป็นคุณสมบัติที่ดีของการเป็นผู้ฝึกสอนเด็กใหม่อย่างดีเชียว ร่างของหญิงสาวบ้านอะโฟรไดท์เดินไปที่กระเป๋าของเธอก่อนจะยื่นกระดาษมาให้สองใบ หนึ่งคือเอกสารกรอกสำหรับการเข้าเป็นนักแสดงในสังกัดที่ไพเพอร์จะดูแล และอีกหนึ่งคือสำหรับยื่น Star Again Entertainment ที่กำลังเปิดแคสต์นักแสดงอยู่

   “กรอกให้เรียบร้อยแล้วเอาให้ฉันเก็บไว้ได้เลยนะสวอนสัน พรุ่งนี้เราจะไปนิวยอร์กกัน”

   “พรุ่งนี้เลยหรอคะ ?”

   “พรุ่งนี้เลย เอ้า นี่ปากกา สงสัยตรงไหนก็ถามได้”

ใบสมัครนักแสดง


ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)
ชื่อ-นามสกุล (Name) : ริปลีย์ สวอนสัน
ชื่อเล่น (Nickname) : ริปลีย์
อายุ (Age) : 18 ปี
วันเดือนปีเกิด(Date of Birth) : 17th June 2007
เพศ (Gender) : หญิง

สัญชาติ (Nationality) : อังกฤษ (British)
ที่อยู่ปัจจุบัน (Current Address) : Swanson House 238 East Fifty-2nd Street New York, NY 10022 USA
เบอร์โทรศัพท์ (Phone Number) : -
อีเมล (Email) : -


ข้อมูลด้านรูปร่าง (Physical Details)
ส่วนสูง (Height) : 5 ฟุต 5 นิ้ว (165 ซม.)
น้ำหนัก (Weight) : 99 ปอนด์ (45 กก.)
ขนาดรองเท้า (Shoe Size) : U.S. Women's Size 6.5
ขนาดเสื้อผ้า (Clothing Size - S / M / L หรือวัดเป็นนิ้วก็ได้) : XS–S (Bust 30" / Waist 23" / Hips 32")

รูปถ่ายประกอบ (Photos)
รูปหน้าตรง (Headshot)
รูปเต็มตัว (Full Body)
อื่น ๆ (ถ้ามี เช่น รูปในชุดคาแร็กเตอร์, รูปแฟชั่น)


ความสามารถพิเศษ (Special Skills)
บัลเลต์มืออาชีพในสังกัดคณะบัลเลต์คาลอส
ศิลปะการต่อสู้ด้วยกระบี่กระบองขั้นพื้นฐาน
พูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก ภาษากรีกและภาษาญี่ปุ่นได้เล็กน้อย
สำเนียงอังกฤษได้ทั้งบริทิชและอเมริกา


ประสบการณ์การแสดง (Acting Experience)
ผลงานที่ผ่านมา (เช่น ละครเวที, ซีรีส์, หนังสั้น, โฆษณา ฯลฯ) : Swan lake บนเวทีคณะบัลเลต์คาลอส (World tour)


ความสนใจและแรงบันดาลใจ (Optional)
เหตุผลที่สมัคร / ความฝันในการแสดง : เนื่องจากการได้ขึ้นเวทีแสดงบัลเลต์ต้องพักลงก่อน ทำให้อยากหาเส้นทางใหม่ ๆ ในการทำการแสดงที่แปลกใหม่และท้าทายมากขึ้น
คาแร็กเตอร์ที่อยากลองเล่น : ตัวละครสาวที่เป็นใบ้ เน้นใช้ท่าทางและแววตาในการสื่อความรู้สึกออกไป
จุดแข็งของตัวเองในการแสดง : การเข้าถึงบทบาทได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเข้าถึงความรู้สึกผ่านเสียงเพลง และมีความคล่องตัวมาก เล่นฉากบู๊ได้

ผู้ปกครอง (ถ้าอายุต่ำกว่า 18 ปี)
ชื่อผู้ปกครอง : แคทเธอรีน สวอนสัน
เบอร์โทรผู้ปกครอง : (917) 555-3382
ชื่อผู้ปกครอง : ไพเพอร์ แม็กลีน
เบอร์โทรผู้ปกครอง : 586-8542

ลายเซ็นผู้สมัคร

วันที่กรอกแบบฟอร์ม
10th July 2025




   ริปลีย์พยายามอย่างยิ่งในการเพ่งสมาธิเขียนลงไปให้เป็นภาษาอังกฤษที่สวยงาม เพราะว่าโรคที่ทำให้ทางอ่านภาษาอื่นของเธอนั้นลำบากมากขึ้นไปทำให้เธอปวดหัวเวลาอ่านหนังสืออยู่บ่อยครั้งเชียว เธอไล่เติมเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดที่ยังไงก็ไม่น่าจะเติมได้แล้วก็เริ่มเอ่ยถามคำถาม

   “เอ่อ…รุ่นพี่คะ ตัวรูปถ่ายนี่เรา—”

   “อ้อ ใช่ เดี๋ยวถ่ายเดี๋ยวนี้เลย แล้วเดี๋ยวฉันจะเอาไปปริ้นแนบให้”

   ไพเพอร์เอ่ยก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปริปลีย์ตามที่แบบฟอร์มต้องการ ใช้เวลาบรีฟกันอยู่นานสองนานเชียวก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อน

   “จริงสิคะรุ่นพี่ อันนี้ถือว่าของขวัญที่จะได้ร่วมงานกันค่ะ”

   ริปลีย์เอ่ยพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ที่เธอยังไม่ได้ยื่นให้รุ่นพี่คนงามของเธอสักที นี่ถือว่าเป็นการยืนยันรับการเป็นเด็กในสังกัดแล้วใช่ไหมนะ ?




เปิดใช้เอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ NPC ไพเพอร์ แม็กลีน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
ให้ ช่อดอกไม้ แก่ไพเพอร์ มอบให้รุ่นพี่หรือเพื่อนที่เป็นเพศหญิง เป็นของขวัญวันสำคัญต่าง ๆ อาทิ วันวาเลนไทน์ วันคริสมาส วันเฉลิมฉลองอะไรสักอย่าง หรือวันเกิด จะได้รับความสัมพันธ์+25 (ได้ไหมอ่ะ ก็โอกาสที่ได้ร่วมงานกันครั้งแรก ทำแต้มความประทับใจ ฮื่อออ)

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

@God
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-12 08:18:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Axel เมื่อ 2025-7-12 08:23

Class: Short Knife IThe blade is a mirror... Mind and weapon 
11-07-2025 | 12:55 PM | ระหว่างทางกลับเคบิน11
สำหรับชายที่คุ้นชินกับสภาพอากาศหนาวเย็นแล้วนั้น ดวงอาทิตย์ยามเที่ยงตรงศีรษะคือศัตรูตัวฉกาจที่เขาไม่เคยเจรจาด้วยได้ แดดตอนกลางวันสาดลงมาอย่างไม่ปรานีจนเขาต้องหยีตาแม้จะอยู่ใต้ร่มเงาของแว่นกันแดดราคาแพง แอ็กเซล มิคาอิลอฟเดินหอบของที่พึ่งซื้อมาจากร้านค้าของค่าย มุ่งหน้ากลับไปโซนที่พัก

ทว่าเสียงเซ็งแซ่ดังมาจากทางขวามือดึงความสนใจของเขาไป สนามฝึกกลางแจ้งเต็มไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นในเสื้อยืดสีส้ม พวกเขายืนล้อมหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นครูฝึก ร่างหยุดเดิน ความอยากรู้อยากเห็นซึ่งเป็นญาติสนิทของความรอบคอบกระซิบให้เขาแวะดูสักหน่อย ยังไงซะ การผจญกับความวุ่นวายในสลัมเฮอร์มีสก็รอได้เสมอ...  เขาพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง วางถุงของลงข้างตัว แล้วกอดอกมองจากระยะไกล 

หญิงสาวผู้สอนมีดวงตาที่เปลี่ยนสีได้กับเส้นผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตที่ถักเปียอย่างลวกๆ เธอดูไม่เหมือนนักรบ แต่แววตาของเธอนั้นคมกริบ ทันใดนั้นเอง ดวงตาคู่นั้นก็เหลือบมาสบกับเขา เด็กหนุ่มผมทองที่ดูแปลกแยกจากฝูงชนอย่างสิ้นเชิง 

"เฮ้! เธอน่ะ ผมทองๆใต้ต้นไม้!" เธอร้องทัก น้ำเสียงใสกังวานแต่แฝงไปด้วยอำนาจบางอย่างที่ทำให้คนต้องหยุดฟัง เธอกวักมือเรียกเขา "อย่ามัวแอบอยู่ตรงนั้นสิ มานี่เลย!" ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แผนที่จะสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ พังไม่เป็นท่า เขาหยิบข้าวของแล้วเดินเข้าไปในลานฝึกอย่างเสียไม่ได้ รอยยิ้มสุภาพถูกฉายขึ้นบนใบหน้า "ผมแค่เดินผ่านน่ะครับ"

"ฉันชื่อไพเพอร์" เธอแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตรเกินจริง "เธอดูไม่คุ้นหน้าเลย เพิ่งมาถึงเหรอ?" 

"วันนี้วันแรก" เขาตอบสั้นๆ "แอ็กเซล มิคาอิลอฟ" 

"งั้นก็มาได้ถูกจังหวะเลยแอ็กเซล! คลาสฝึกมีดสั้นกำลังจะเริ่มพอดี มาเรียนด้วยกันสิ" ไพเพอร์พูดพลางดึงแขนเขาเบาๆ เพื่อชวนให้เข้าร่วมกลุ่ม 

ความคิดแรกของเขาคือปฏิเสธอย่างสุภาพ เขาอยากจะไปจัดการข้าวของ สร้างอาณาเขตส่วนตัวเล็กๆ ในความโกลาหลนั้นให้ได้ก่อน แต่แล้วความคิดที่สองก็แทรกเข้ามา… นี่คือโอกาส นี่คือการสำรวจสนาม คือการเก็บข้อมูลว่าคนพวกนี้ต่อสู้กันอย่างไร พวกเขามีปรัชญาแบบไหน การปฏิเสธคือการทิ้งโอกาสดีๆ ไปเปล่าๆ  "ก็ดีเหมือนกันครับ" เขาตอบ รับคำท้าทายที่มองไม่เห็นนั้น "อยากจะรู้พอดีว่าที่นี่ฝึกกันยังไง" 

ไพเพอร์ยิ้มกว้างขึ้น "เยี่ยมเลย! ไปหาที่เหมาะๆ ยืนสิ" แอ็กเซลหาที่ว่างแถวหลังสุด วางสัมถาระอีกครั้งแล้วถอดแว่นกันแดดเก็บก่อนยืนกอดอกฟัง 

ไพเพอร์เดินกลับไปกลางวง ชูมีดสั้นเล่มหนึ่งขึ้น มันมีใบมีดทองสัมฤทธิ์ที่ส่องประกายวับวาวจับแสงอาทิตย์ "เอาล่ะทุกคน!" เธอกล่าว "สำหรับคนใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมกับเรา… ฉันขอเริ่มด้วยปรัชญาพื้นฐานที่สุด" สายตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในกลุ่มนักเรียน "มีดทุกเล่มคือกระจกเงา มันสะท้อนความตั้งใจ, ความกลัว, และความมั่นใจของเธอ" มีเสียงพึมพำเบาๆ จากในกลุ่ม แต่แอ็กเซลยังคงนิ่งเงียบ วิเคราะห์ทุกคำพูด "ใช่ ฉันคือธิดาของอะโฟรไดท์ และฉันจะสอนพวกเธอสู้" เธอยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่ทั้งงดงามและอันตราย "เพราะการต่อสู้ไม่ใช่แค่เรื่องของพละกำลัง มันคือเรื่องของความงาม… ความสมดุล… การควบคุม…" เธอหยุดเว้นจังหวะ "และการทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่เราต้องการ" 

คำพูดสุดท้ายนั่นเองที่กระทบใจเขาเข้าอย่างจัง สิ่งที่เธอพูดถึงมันคือภาษาของเขา มันคือเกมที่เขาเล่นมาทั้งชีวิต บางที… คลาสนี้อาจจะไม่เสียเวลาอย่างที่คิด "ก่อนอื่น ไปเลือกมีดฝึกซ้อมกันก่อน เลือกเล่มที่รู้สึกว่ามัน ‘ใช่’สำหรับเธอ เล่มที่รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแขน" ไพเพอร์ชี้ไปที่ชั้นวางอาวุธ แอ็กเซลมองคนอื่นๆ ที่กรูเข้าไปเลือกมีด เขารอจนคนซาลง แล้วจึงเดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน เขาไม่สนใจมีดที่สลักลวดลายสวยงามหรือดูโดดเด่น เขาหยิบมีดฝึกซ้อมธรรมดาๆ ขึ้นมาสองสามเล่ม ชั่งน้ำหนักในมือ สัมผัสความสมดุลของมัน ก่อนจะเลือกเล่มที่เรียบๆ แต่ให้ความรู้สึกมั่นคง "โอเค! เมื่อได้อาวุธคู่ใจแล้ว... ก็วางลงก่อน" ไพเพอร์พูดทำลายความคาดหวังของทุกคน 

"บทเรียนแรกของเราไม่มีอาวุธ" เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ "เราจะเริ่มด้วยการ ‘ฝึกเงาสะท้อน’ จับคู่กัน คนหนึ่งจะเป็นผู้นำ เคลื่อนไหวช้าๆ อีกคนจะเป็นกระจกเงา ต้องเคลื่อนไหวตามให้เหมือนที่สุดทุกกระเบียดนิ้ว นี่คือบทเรียนของการสังเกตการณ์ การอ่านคู่ต่อสู้ ก่อนที่จะมีการปะทะกันจริงๆ… เอาล่ะ เริ่มจับคู่ได้!”

ในจังหวะที่ชายค่ายคนอื่นๆเริ่มเดินหาคู่ เขาปักหลักอยู่กับที่จนกระทั่งเด็กหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่ง—น่าจะบุตรแห่งแอรีส ดูจากสายตาเอาเรื่อง—เดินเข้ามาหาเขาเป็นคนแรก แอ็กเซลแค่พยักหน้ารับอย่างสุภาพ เมื่อการฝึกเริ่มขึ้น คู่ของเขาเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ยกแขน กางนิ้ว ย่อตัว… แอ็กเซลไม่ได้แค่เลียนแบบ เขากลายเป็นเงาสะท้อนที่สมบูรณ์แบบอย่างน่าขนลุก 

เขาสะท้อนไม่ใช่แค่ท่าทาง แต่เป็นจังหวะการหายใจที่กระตุกเล็กน้อยของอีกฝ่าย ความไม่มั่นคงที่หัวเข่าขวา และแววตาที่วอกแวกไปชั่วขณะ ในหัวของบุรุษชาวรัสเซียน เขาไม่ได้คิดว่านี่คือการฝึก มันคือการวิเคราะห์ข้อมูล เขาอ่านคู่ต่อสู้เหมือนอ่านกระดานหมากรุก ทุกการเคลื่อนไหวคือการค้นหาจุดอ่อน ไพเพอร์มองมาที่เขาด้วยแววตาประทับใจระคนประหลาดใจ แต่แอ็กเซลไม่สนใจ เขากำลังจมดิ่งลงไปในเกม… เกมแห่งการควบคุมที่เขาถนัดที่สุดในสนามเด็กเล่นแห่งใหม่นี้ 

การฝึกดำเนินไปอยู่พักใหญ่ เด็กหนุ่มบุตรแอรีสก็เริ่มอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อเริ่มซึมตามขมับ ไม่ใช่จากความเหนื่อยล้า แต่จากความรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้าทางจิตวิญญาณ แอ็กเซลไม่ได้แค่ลอกเลียน เขาเป็นกระจกเงาที่สะท้อนทุกความไม่สมบูรณ์แบบ ทุกความลังเล ทุกความหงุดหงิดที่ซ่อนไว้หลังแววตาดุดัน

“โอเค! ทีนี้ลองสลับกัน สลับคู่ สลับตำแหน่ง เราจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆให้ทุกคนได้ฝึกหลายๆแบบ” 
ไพเพอร์ปรบมือเรียกสติทุกคนกลับมา เสียงปรบมือของเธอดังกว่าที่ควรจะเป็น ราวกับมีมนต์สะกดให้ทุกคนหยุดนิ่ง เด็กหนุ่มร่างกำยำถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบผละออกจากแอ็กเซลเหมือนหนีจากเงาของตัวเองหลังจากทำให้คนเสียขวัญไปหนึ่งรายเขาก็สับเปลี่ยนคู่แล้วผลัดกันกับคู่ใหม่ของตนไปเรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยไปจนจบคาบเรียน 


“การสังเกตคือพื้นฐาน” ไพเพอร์กล่าวพลางเดินวนรอบวง “แต่การสังเกตที่ไร้ซึ่งการตอบสนองก็ไม่ต่างอะไรกับการดูภาพวาด ในคาบเรียนถัดไปเราจะทำให้ภาพวาดเคลื่อนไหว วันนี้ เลิกคลาสได้”

------------------------------------------------------------

วิชามีดสั้น I (1/4)

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-12 19:11:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ImHarin เมื่อ 2025-7-12 19:14

Header Image

“ศักยภาพในเงาสะท้อน – บทฝึกแรกของเป็ดน้อยบนเส้นทางฮีโร่


      วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม | สนามฝึกหมายเลข 2, เวลา 13:14 น.


      แสงแดดอ่อนจางพาดผ่านใบไม้สีเขียวเข้มที่ไหวไกวตามแรงลมเอื่อย ดอกหญ้าตรงขอบสนามสั่นระริก บางดอกแหงนหน้ารับแสงราวกำลังเอ่ยคำทักทายต่อวันใหม่ของใครสักคน …


     เสียงฝีเท้าของเด็กหญิงผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาอย่างมั่นคง แม้รองเท้าผ้าใบของเธอจะมีคราบฝุ่นเล็กน้อยจากการเดินทางที่ยาวนาน แต่จิตใจกลับสะอาดราวผ้าขาวที่ยังไม่ถูกแต้มด้วยสีใดอย่างแท้จริง


     สาวน้อยนามว่า อิม ฮาริน ยืนสงบนิ่งอยู่ที่ตรงบริเวณปลายสนาม สายลมยามบ่ายพัดชายเสื้อของเธอปลิวเบา ๆ ดวงตาของเธอจ้องไปยังชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่กลางสนาม ฝ่ามือไขว้หลัง อาภรณ์เรียบง่ายสะท้อนถึงวินัยและสติ





      เขาคือ เชอร์แมน หยาง บุตรแห่งเทพแฮรีส ผู้เป็นดั่งภูผาแห่งความคิด และเจ้าของชั้นเรียน “การพัฒนาตนเอง” ที่ทุกคนต่างเล่าขาลและล่ำลือกันถึงในเรื่องความเข้มงวด … และแววตาที่อ่านทะลุถึงจิตใจคน เมื่อเธอเข้าไปถึง เขาก็หันใบหน้ามาช้า ๆ

เสียงทุ้มนิ่งของเขาเอ่ยขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องตะโกน

     

  “เธอคืออิม ฮาริน สินะ”  หลังจากนั้นสาวน้อยอิม ฮาริน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ยคำพูดขึ้นมาในทันทีว่า


"ค่ะ" น้ำเสียงของเธอไม่สั่น ไม่ลังเล แต่กลับฟังดูนิ่งลึกเกินกว่าวัย เสมือนคนที่เคยผ่านอะไรมาเกินกว่าที่ใครในวัยเดียวกันจะจินตนาการถึง


      “จิตใจของคนเราเหมือนผิวน้ำ ถ้าใจยังสั่นไหว เงาในน้ำจะพร่า… เธอจะมองไม่เห็นศักยภาพตัวเองเลย” หลังจากที่เสียงของรุ่นพี่เชอร์แมนดั่งเสียงของลมเบา ๆ พัดกระซิบผ่านยอดสน สาวน้อยอิม ฮารินก็กำลังนั่งฟังอยู่อย่างเงียบ ๆ และหลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ หลับตา นึกภาพเป็ดสีทองในดินแดนกว้างใหญ่ที่เธอมักจะชอบจินตนาการ พร้อม กับ ภาพที่เธอวาดไว้เสมอยามเธอรู้สึกโดดเดี่ยว … หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหายใจเข้า... ลึกๆ และก็เริ่มค่อยๆ ทำการหายใจออก ... อย่างช้าๆ ก่อนที่เสียงรอบข้างจะค่อย ๆ เลือนหาย เหลือก็เพียงแค่เสียงหัวใจของตนเองที่เต้น... แน่นอน… มั่นคง… ดุจจังหวะก้าวของความยุติธรรม






      เมื่อเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเต็ม เขาจึงลืมตาขึ้นและเอ่ยกับเธอ “ตอนนี้… ยืนขึ้น หลับตาอีกครั้ง และคิดถึงสิ่งเดียวที่เธออยากปลดล็อกออกมามากที่สุด น้ำเสียงของเธอไม่สั่น ไม่ลังเล แต่กลับฟังดูนิ่งลึกเกินกว่าวัย เสมือนคนที่เคยผ่านอะไรมาเกินกว่าที่ใครในวัยเดียวกันจะทำการจินตนาการถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง” 


     หลังจากนั้นสาวน้อย อิม ฮารินก็ค่อย ๆ เริ่มทำการลุกขึ้นยืน ดวงตา ของ เธอในตอนนี้ยังคงทำการปิดสนิทอยู่ หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการสูดลมหายใจเข้าไปอีกครั้ง ในขณะที่จิตใจแนบแน่นกับบางสิ่งในใจลึกสุด … บางสิ่งที่ได้ถูกฝังแน่นไว้ตั้งแต่ตอนที่ตัว ของ เธอยังเป็นเด็ก ก็คือ


      "ความกล้า... ที่จะยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง แม้จะตัวเล็กเท่าลูกเป็ดก็ตาม " แล้วจู่ ๆ … เธอก็เริ่มรู้สึกเหมือนว่ามีแรงอุ่นวาบวิ่งผ่านปลายนิ้ว เหมือนกล้ามเนื้อที่เธอไม่เคยได้ใช้งานเริ่มมีปฎิกิริยาตอบสนองและเหมือนในตอนนี้สาวน้อยจะเริ่มมีสมาธิและเริ่มมีศูนย์รวมอยู่ที่ตรงบริเวณ กลางหน้าอก ... และแผ่ไปรอบกายหลังจากนั้น เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ช้า ๆ …ดวงตาเธอสว่างขึ้นกว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย พร้อมกับมีคำพูด ของ รุ่นพี่เซอร์แมน เอ่ยขึ้นมาในทันทีว่า


     “รู้สึกมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างยัง?” เสียงของเชอร์แมนเอ่ยถามขณะจ้องเธอนิ่ง สาวน้อยอิม ฮารินนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเอ่ยคำพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า


     “ค่ะ … มันเหมือนว่ามีบางอย่างในตัวที่หลับใหลมานาน … ตอนนี้มันเริ่มขยับแล้ว ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ชัด ... แต่มันไม่ใช่พลังที่มีไว้สำหรับการต่อสู้ ... แต่มันเหมือนความกล้าที่เงียบมาก ๆ แต่มั่นคง และ ... ไม่ยอมให้ความอยุติธรรมรอดไปได้อีกต่อไปค่ะ ” หลังจากที่คำพูด ของ สาวน้อยอิม ฮารินได้ทำการพูดจบลงรุ่นพี่ เชอร์แมน ค่อยๆ เริ่มทำการยิ้มนิดหนึ่ง นี่ไม่ใช่แค่เพียงรอยยิ้มแห่งความ ภูมิใจแต่เป็นยิ้มของคนที่ “มองเห็นแล้วว่าเมล็ดพันธุ์บางอย่าง เริ่มงอกงามในใจของเธอ” หลังจากนั้นรุ่นพี่เซอร์แมน ก็ค่อยๆ เริ่มพูด กับ สาวน้อยอิม ฮารินอีกครั้งหนึ่งว่า


     “ดีมาก ... อิม ฮาริน จงจำไว้ เปลวเพลิงที่แท้จริง ไม่ได้ลุกโชนจากไฟ… แต่มันเติบโตจากความกล้าที่ยอมเผาตัวเอง เพื่อแสงที่ควรค่าแก่คนอื่น”


     เธอไม่พูดอะไรตอบกลับ ทำแค่เพียงพยักหน้าเบา ๆ และยกมือลูบเข็มกลัดเป็ดบนอกเสื้อ ใบหน้าที่เงียบขรึมของเธอยังไม่แสดงอารมณ์ … แต่ถ้าหากมีใครอยู่ใกล้พอ จะเห็นมุมปากเล็ก ๆ กำลังถูกยกขึ้น

เหมือนยิ้มของเป็ดตัวน้อยที่รู้ว่า ข้างหน้าแม้ยังมืดมน แต่เธอไม่ได้กลัวอีกต่อไป




เครดิตที่ได้รับ: +15 พลังน้ำใจ , +10 EXP,  +3 point







คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +15 ย่อ เหตุผล
God + 15

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โพสต์ 2025-7-13 17:15:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Self development questand the weird son of Ares............................................
12.07.2025 | 6:10 AM 

สนามฝึกยามเช้ามีกลิ่นของดินชื้นหยาดน้ำค้างและเหล็กเจืออยู่ในอากาศ แอ็กเซลเดินเข้ามาในลานประลองที่กว้างขวาง สายตากวาดมองหุ่นฟางที่ถูกฟันถูกแทงจนพรุนและชั้นวางอาวุธที่ยังคงเงียบสงัด มันคือภาพที่เขาคาดหวังไว้จากการฝึกของบุตรแห่งเทพสงคราม และเขาก็ได้พบกับเป้าหมาย 

บุรุษร่างกำยำยืนอยู่กลางลานประลอง แผ่นหลังของเขากว้างดั่งกำแพง กล้ามเนื้อทุกมัดบนร่างกายดูราวกับถูกสลักขึ้นมาจากหินแกรนิต เมื่อเขาหันกลับมา แสงอาทิตย์ยามเช้าก็สาดส่องลงบนใบหน้า เผยให้เห็นรอยแผลเป็นรูปซิกแซกสีแดงน่าเกลียดที่พาดผ่านตั้งแต่หน้าผากลงมายังแก้ม มันคือเครื่องหมายการค้าของนักรบผู้ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน 

นั่นคือ เซอร์แมน หยาง อย่างไม่ต้องสงสัย 

เมื่อแอ็กเซลเดินเข้าไปใกล้ เซอร์แมนก็หันกลับมาดวงตาของเขาคมกริบและประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว "มาหาเรื่องแต่เช้า หรือมีธุระ?" น้ำเสียงห้วนและตรงไปตรงมาสมกับเป็นลูกเทพสงคราม 

"ผมมาตามประกาศ" แอ็กเซลตอบอย่างสุภาพพลางชูกระดาษแผ่นเล็กในมือขึ้น "ภารกิจพัฒนาตนเอง" 

เซอร์แมนปรายตามองกระดาษแวบหนึ่งก่อนจะแค่นเสียงในลำคอ "เซอร์แมน หยาง" เขาแนะนำตัวสั้นๆ "นายคงเด็กใหม่สินะหน้าไม่คุ้น" 

 "ใช่แล้วครับ...แอ็กเซล มิคาอิลอฟ จากเคบินไทคี" บุตรแห่งไทคีตอบรับคำอย่างใจเย็น รอคอยคำสั่งต่อไป เขาคาดหวังว่าจะถูกสั่งให้วิ่งรอบสนาม หรืออาจจะได้ออกแรงหนักๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับผิดจากที่คาดไว้โดยสิ้นเชิง "ดี" เซอร์แมนกอดอก จ้องเขม็งมาที่เขา "ก่อนจะไปจับดาบหรือหอก อย่างแรกที่ต้องคุมให้ได้คือไอ้ก้อนเนื้อในอกกับในกระโหลกของนายนี่" เขาใช้นิ้วชี้เคาะที่กและขมับตัวเอง "สงครามส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดสินกันที่สนามรบ มันตัดสินกันที่นี่ก่อนแล้ว" 

แอ็กเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้ยด้วยความประหลาดใจ—ลูกแห่งแอรีสสอนเรื่องการฝึกจิต? เกมกระดานนี้ซับซ้อนกว่าที่คิดไว้ "คนส่วนใหญ่มันใช้ชีวิตไปกับเสียงรบกวนในหัว คิดฟุ้งซ่านไปร้อยแปดพันอย่างจนไม่มีสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า" เซอร์แมนพูดต่อ "พวกมันเลยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มสู้" เขาไม่รอให้แอ็กเซลตอบรับ แต่สั่งการต่อทันที 

"หาที่เหมาะๆ ยืนนิ่งๆ แล้วหลับตา" 

บุรุษชาวรัสเซียทำตามโดยไม่อิดออด เขาเลือกจุดที่ห่างออกมาเล็กน้อย ยืนตรงอย่างมั่นคง แล้วปล่อยให้เปลือกตาปิดลง ความมืดและความเงียบเข้ามาแทนที่ภาพของสนามฝึก "ร่างกายนายทำได้สารพัด ขอแค่นายรู้วิธีดึงมันออกมา!" เสียงของเซอร์แมนดังขึ้นอีกครั้ง "ตอนนี้...เลิกคิดเรื่องอื่นทั้งหมด หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ ฟังแค่เสียงลมหายใจของตัวเอง แล้วนึกถึงสิ่งที่นายอยากดึงออกมา พลังที่ซ่อนอยู่ในตัวนาย... ไม่ต้องไปหามัน แค่รู้สึก" 

ในตอนแรก มันคือความเงียบที่น่าอึดอัด เสียงความคิดฟุ้งซ่านที่มักจะวิ่งวนอยู่ในหัวของบุตรแห่งไทคีจากอาการสมาธิสั้นยังคงดังอยู่ แต่เขาก็บังคับตัวเองให้จดจ่ออยู่กับลมหายใจตามที่ถูกสั่ง แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เสียงรบกวนในหัวที่เคยเหมือนวิทยุที่จูนคลื่นไม่ติดค่อยๆ เบาลง...และเบาลง...จนในที่สุดก็เงียบสนิท เหลือเพียงความสงบนิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความ 'ชัดเจน' ราวกับน้ำที่เคยขุ่นมัวได้ตกตะกอนจนใสสะอาด และในความใสนั้นเอง...เขาก็รู้สึกถึงมัน มันไม่ใช่พลังที่ร้อนแรงหรือเสียงกัมปนาท แต่เป็นเหมือนกระแสไฟฟ้าสถิตเบาๆ ที่วิ่งอยู่ใต้ผิวหนัง เป็นความรู้สึกถึง 'ความเป็นไปได้' ที่จับต้องได้รอบตัวเขาราวกับเส้นใยที่มองไม่เห็น เขาสามารถ 'รู้สึก' ถึงโอกาสที่พลิกผัน ความน่าจะเป็นที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกวินาที มันคือแก่นแท้ของโชคชะตา พลังของไทคีที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเขาเสมอมา แต่บัดนี้เขาสัมผัสมันได้โดยตรงเป็นครั้งแรก 

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่แน่ชัด แต่ความเงียบถูกทำลายลงด้วยเสียงของเซอร์แมนที่ดังขึ้นข้างๆหู "รู้สึกมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างยัง?" น้ำเสียงนั้นเจือความสงสัยเล็กน้อย ราวกับกลัวว่าเขาอาจจะยืนหลับไปแล้ว แอ็กเซลลืมตาขึ้นช้าๆ โลกที่เขามองเห็นยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ 'มุมมอง' ของเขาเปลี่ยนไป ดวงตาสีเทาของเขาตอนนี้กระจ่างใสและคมปลาบยิ่งกว่าเดิม "เสียงรบกวนมันหายไปแล้ว" เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งกว่าครั้งไหนๆ "ทุกอย่าง...เข้าที่เข้าทางมากขึ้น”
------------------------------------------------------------------------------

Quest:
+15 พลังน้ำใจ +10 EXP +3 Point 
+15 ความสนิทสนมกับเซอร์แมน หยาง
ฝึกฝนประจำวัน +15 EXP 
@God 


คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +15 ย่อ เหตุผล
God + 15

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-14 18:35:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
14/07/2025 9.00 น. - 11.00 น.

บทที่ 68

เสียงรองเท้าผ้าใบเหยียบลงบนพื้นดินแข็งของลานฝึกดังแผ่วเหมือนจังหวะกลองเริ่มต้นในงานคอนเสิร์ตที่ไม่มีคนดู แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะคนที่ก้าวเข้ามาในลานตอนนี้ไม่ใช่นักร้อง แต่เป็นชายผู้มาพร้อมหอกกรีกยาวพอจะใช้เป็นเสาแขวนผ้าขนหนูได้ในกรณีฉุกเฉิน

คูเปอร์ถือหอกของตัวเองแนบลำตัวในท่าทางที่ดูจะไม่รีบร้อนอะไรเป็นพิเศษ ใบหน้ารับแสงแดดยามสายอย่างไม่รู้สึกเดือดร้อน ท่ามกลางเสียงเหล็กกระทบกันของเหล่าเดมี่ก็อตที่กำลังฝึกดาบอยู่ฝั่งโน้น เขาเลือกเดินตรงมาที่โซนฝึกหอกอย่างแน่วแน่ แบบเดียวกับเวลาที่เลือกขนมในตู้แล้วไม่เปลี่ยนใจแม้จะเจอกล่องใหม่ราคาถูกกว่า

ไม่มีเสียงทักทาย ไม่มีคำว่าเฮ้ ไม่มีมือโบกให้เหมือนฮีโร่กลับจากสงคราม... ซึ่งดีแล้ว เพราะถ้ามีคงจะรู้สึกเขินนิด ๆ

เขาหยุดยืนกลางสนาม ปลายหอกจรดพื้น หายใจเข้าอย่างสม่ำเสมอเหมือนนักเป่าแซ็กโซโฟนที่กำลังเตรียมเล่นโซโล่ แล้วในที่สุด… ก็เริ่มขยับ

ร่างสูงเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ มือข้างหนึ่งพลิกหอกอย่างคุ้นชินอีกข้างหนึ่งควบคุมสมดุล ร่างกายเอนเล็กน้อย อย่างแม่นยำในจังหวะหลบที่ดูเหมือนซ้อมเต้นมากกว่าจะเป็นการหลบการโจมตีจริงจังแต่ถ้าถามว่ามันมีประโยชน์มั้ย ก็ใช่แน่นอน เพราะหากจะเอาชีวิตรอดจากอสูรกายให้ได้ ต้องทั้งไว แข็งแกร่ง และควรดูดีในเวลาเดียวกัน

คูเปอร์เหวี่ยงหอกไปข้างหน้า ขยับปลายอย่างมั่นคง เสียงปลายหอกฟาดกับอากาศดังวืดแบบที่ทำให้ยุงแถวนั้นหายใจติดขัดได้

เขาหลบไปทางซ้าย ก้าวถอยหลัง เปลี่ยนมุมหมุนตัวแล้วแทงออกไปตรงๆ คล้ายว่ามีศัตรูอยู่ข้างหน้า แม้ในความเป็นจริงจะมีแค่ต้นไม้ไหวเบาๆ กับใบไม้ปลิวลงมาใกล้เท้าพอดี

"ถ้าแกเป็นอสูรกาย... ฉันคงเสร็จไปตั้งแต่ยังไม่หยิบหอก" เจ้าตัวพูดกับใบไม้ที่หล่นลงพื้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเกินเหตุ ก่อนจะยิ้มมุมปากให้ตัวเองราวกับพูดมุกตลกได้สำเร็จไปอีกหนึ่งดอก

เขาหยุดพักครู่หนึ่ง ปลายหอกจรดพื้นอีกครั้ง พลางมองไปรอบ ๆ อย่างเช็คตำแหน่งแดด เงา และอะไรก็ตามที่อาจเป็นจุดได้เปรียบในสนามแบบนี้ คนอื่นอาจคิดว่าเขากำลังพัก แต่จริงๆ แล้วสมองของบุตรแห่งปัญญาคนนี้ไม่เคยหยุดหมุน

คิดถึงพิกัดในแนวป่าตะวันออกที่ต้องไป สำรวจว่าควรพกอะไรเพิ่มอีกดี หรือว่าหอกนี้ควรเอาไปฝนให้คมขึ้นก่อน คิดเผื่อสถานการณ์ที่อาจจะต้องเจอกับบางสิ่งที่มีกรงเล็บ ฟันแหลม หรือกลิ่นตัวที่แรงพอจะทำให้หมาป่ากลับใจ

การฝึกซ้อมของเขาไม่ได้หวือหวา ไม่ได้โดดเด่นเหมือนวีรบุรุษจากตำนาน แต่มีอะไรบางอย่างที่เป็นระเบียบ มีแบบแผน มีจังหวะที่ลงตัว เหมือนเครื่องจักรกลที่ถูกปรับแต่งมาจากโรงงานผลิตสมองชั้นดี

"คงดีถ้ามีไครอนมายืนดูแล้วพูดว่า 'ยอดเยี่ยมมากคูเปอร์ เจ้าเก่งพอจะล้มเซอร์เบอรัสด้วยปลายนิ้วแล้ว' แต่เอาเข้าจริง... แค่ให้ดรักม่าสักสิบเหรียญเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินก็พอ" พูดจบก็สะบัดหอกอีกรอบในท่าแทงข้างตัว แบบที่ดูเหมือนจะพยายามฆ่าความจนไปพร้อม ๆ กับอสูรกาย

เขาฝึกต่ออีกพักหนึ่ง พอให้เหงื่อเริ่มชุ่มหลัง เสื้อยืดที่สวมอยู่ดูดซับเหงื่อเหมือนจะเข้าใจภารกิจมากกว่าหลายคนที่เขาเคยร่วมเดินทางด้วยเสียอีก

ก่อนจะเดินออกจากลานฝึก เจ้าของร่างสูงหยุดยืน สูดลมหายใจเข้าลึก เหลือบมองหอกในมือตัวเองอีกครั้ง ราวกับถามมันว่า พร้อมมั้ยสำหรับความวายป่วงรอบใหม่ที่กำลังจะเริ่มในไม่ช้า

"ขอแค่เจอศัตรูที่ไม่ใช่พวกมีหัวเป็นแมงมุมแล้วกันนะ" เขาพึมพำกับอาวุธคู่ใจเบาๆ พร้อมกับก้าวเดินออกจากสนามไปอย่างสงบเย็นแบบคนที่เตรียมพร้อมแล้ว… หรืออย่างน้อยก็ทำให้ตัวเองเชื่อว่าพร้อมแล้ว


ภารกิจ - ภารกิจสำรวจพื้นที่อันตรายใกล้ค่าย

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
แหวนดาราจรัส(D)
ชุดบำรุงอาวุธ
เรือมินิบานาน่า
Daedalus's Legacy
มีดสั้นสัมฤทธิ์
บทเพลง
การควบคุมอาวุธ (จำกัด)
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
การสื่อสารและควบคุมนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x2
x10
x2
x1
x1
x1
x2
x5
x26
x5
x5
x5
x5
x5
x6
x34
x2
x2
x20
x2
x3
x1
x1
x20
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x11
x1
x10
x20
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x1
x5
x5
x31
โพสต์ 2025-7-14 20:06:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

14.07.2025 | 09:00 AM


แสงอาทิตย์ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยสาดส่องลงมาอีกวันหนึ่ง ราวกับเป็นนาฬิกาปลุกเรือนใหญ่ของโลกที่ไม่มีปุ่มปิด หลังมื้อเช้าที่เรียบง่าย, แอ็กเซลไม่ได้กลับไปยังเคบินที่เงียบเชียบ แต่เลือกที่จะเดินมุ่งหน้าไปยังลานฝึกซ้อมหลัก ที่ซึ่งอากาศเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง, เสียงเหล็กกระทบกัน, และกลิ่นเหงื่อที่ปะปนกับกลิ่นดิน


เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อฝึกดาบหรือขว้างหอก บุตรแห่งไทคีเดินผ่านเดมิก็อดที่กำลังฝึกซ้อมกันอย่างขะมักเขม้นไปอย่างไม่ใส่ใจ, ตรงไปยังมุมหนึ่งของลานฝึกที่ค่อนข้างสงบใต้ร่มเงาของต้นโอ๊กใหญ่ เขานั่งขัดสมาธิลงบนพื้นหญ้า, วางมือบนเข่า, และหลับตาลง


สำหรับคนอื่น, มันอาจดูเหมือนการพักผ่อน แต่สำหรับเขา, นี่คือการฝึกฝนที่สำคัญที่สุด—การทำสมาธิ มันไม่ใช่การแสวงหาความสงบภายในที่ลึกซึ้ง แต่เป็นการจัดระเบียบความคิดที่กระจัดกระจายจากภาวะสมาธิสั้นของเขาให้เข้าที่เข้าทาง มันคือการรีเซ็ตระบบ, การลบไฟล์ขยะ, และการลับคมสัญชาตญาณให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เสียงดาบที่ดังอยู่ไกลๆ กลายเป็นเพียงฉากหลัง, สมาธิทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับการควบคุมลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ


เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง, ความวุ่นวายในหัวของเขาก็สงบลง เหลือเพียงความเยือกเย็นที่คุ้นเคย


จากนั้น, ร่างสูงก็ลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากกางเกงแล้วเดินไปยังกระดานไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมลานฝึก, บนนั้นเต็มไปด้วยตารางการฝึกสอนประจำวันที่เขียนด้วยลายมือหลากหลายรูปแบบ สายตาของเขากวาดผ่านรายชื่อคลาสต่างๆ อย่างรวดเร็ว—"ยิงปืนขั้นสูง," "ท่วงทำนองอคิลลีส," "จิตวิญญาณเพอร์ซีอุส"—คลาสส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาสำหรับชาวค่ายที่มีประสบการณ์มากอยู่แล้ว 


แม้ว่าเขาคิดว่าตนสามารถลงคลาสยิงปืนขั้นสูงได้ แต่ดูท่าจะต้องผ่านการทดสอบจากขั้นพื้นฐานของที่นี่เสียก่อน นอกจากนี้ยังไม่มีคลาสลับสมองให้เขาลงได้อีกด้วย ความผิดหวังแล่นผ่านเข้ามาในความคิดเพียงชั่วครู่ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเข้าใจ


การไม่มีตารางสอนที่เหมาะสมสำหรับเขาไม่ได้หมายความว่าวันนี้จะสูญเปล่า ตรงกันข้าม, มันหมายความว่าเขามีเวลาอิสระทั้งวัน—เป็นทรัพยากรที่มีค่า ที่เขาสามารถวางแผนจัดสรรค์ได้ตามใจ


ในหัวของเขาเริ่มคำนวณความเป็นไปได้ใหม่ๆ ทันที วันนี้ค่ายเป็นสนามเด็กเล่นของเขา และเขาก็มีเกมใหม่ๆ ที่อยากจะลองเล่นอยู่พอดี





ฝึกฝนประจำวัน +15 EXP
Power Money Game Music
CABIN19
@Hye Ri
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-15 19:55:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Axel เมื่อ 2025-7-15 20:01

A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

15.07.2025 | 03:00 PM


แสงแดดยามบ่ายที่ร้อนระอุอาบไล้ลานฝึกจนฝุ่นดินสีแดงคลุ้งตลบทุกครั้งที่มีคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสียงหอบหายใจและเสียงรองเท้าที่เสียดสีกับพื้นดินดังปะปนกันไปทั่ว แต่แอ็กเซลกลับยืนนิ่งสงบอยู่กลางความวุ่นวายนั้นราวกับเป็นจุดศูนย์กลางของพายุ


ไพเพอร์ แม็คลีน, บุตรีแห่งแอโฟรไดท์ผู้สอนคลาสนี้, ยืนอยู่หน้ากลุ่มเดมิก็อดด้วยท่าทางสบายๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจที่ทำให้ทุกคนต้องตั้งใจฟัง "คาบที่แล้ว เราเรียนรู้ว่ามีดคือกระจกเงา" เธอกล่าวทบทวน, ดวงตาหลากสีของเธอกวาดมองไปทั่ว "วันนี้ เราจะมาเรียนรู้ว่าการต่อสู้คือระบำ"


เธอสาธิตด้วยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและงดงาม, ก้าวเท้าไปด้านข้างอย่างนุ่มนวลขณะที่บุตรแห่งแอรีสคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่เธอเป็นเส้นตรง "หัวใจของการต่อสู้ด้วยมีดไม่ใช่การยืนแลกกันโต้งๆ มันคือการเต้นรำ และคนที่คุมจังหวะได้คือผู้ชนะ" เธอกล่าวขณะที่แรงพุ่งของเด็กหนุ่มคนนั้นทำให้เขาถลาไปข้างหน้าอย่างเสียหลัก
"ใช้แรงของศัตรูให้เป็นประโยชน์ ทำให้มันกลายเป็นจุดอ่อนของพวกเขาเอง จำไว้...ถึงเธอจะมีมีดที่คมที่สุดในโลก แต่มันก็ไร้ค่าถ้าเธอล้ม"


แอ็กเซลรับฟังอย่างตั้งใจ, ประมวลผลทุกคำพูดของเธอเข้ากับข้อมูลที่เขามีอยู่แล้ว มันคือปรัชญาเดียวกับที่เขาใช้เอาชนะหมาป่าแห่งสงคราม—ใช้แรงของศัตรูให้เป็นประโยชน์, ทำให้ความเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายกลายเป็นจุดอ่อนของตัวเอง


"กิจกรรมของวันนี้เรียกว่า 'ระบำหลบกระทิง'" ไพเพอร์กล่าวต่อพร้อมกับสาธิตให้ดูอย่างช้าๆ "คนหนึ่งจะเป็น 'กระทิง' มีหน้าที่แค่พุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง อีกคนจะเป็น 'มาทาดอร์' หน้าที่ของพวกเธอคือใช้เพียงการก้าวเท้าและการเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อหลบหลีก โดยไม่ให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวได้"


โชคชะตาคงชอบเล่นตลก เพราะคู่ของแอ็กเซลในวันนี้คือบุตรแห่งแอรีสคนเดิมกับที่เขาเคยเป็น "กระจกเงา" ให้เมื่อคาบที่แล้ว เด็กหนุ่มร่างกำยำที่มีพละกำลังมากกว่าไหวพริบ—กระทิงที่สมบูรณ์แบบสำหรับบททดสอบนี้


"แกเป็นมาทาดอร์" เขาพูด, ในน้ำเสียงแฝงความหงุดหงิดจากความพ่ายแพ้ทางจิตวิทยาในครั้งก่อน "ฉันจะเป็นกระทิงเอง"


มันเป็นการจับคู่ที่บังเอิญเกินไปจนน่าขัน พละกำลังป่าเถื่อนปะทะกับการควบคุมที่เยือกเย็น


"เริ่มได้!"


บุตรแห่งแอรีสไม่ลังเล เขาสูดหายใจลึกแล้วพุ่งเข้าใส่เป็นเส้นตรงเหมือนเครื่องจักร มันคือการโจมตีที่เปี่ยมด้วยพลังดิบ, มุ่งหวังที่จะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า


มาทาดอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม, ท่วงท่าสงบนิ่ง, ราวกับเป็นเพียงผู้ชมไม่ใช่ผู้เข้าร่วม


บุตรแห่งไทคีไม่ได้กระโดดหลบอย่างตื่นตระหนก เขาแค่หมุนตัวบนส้นเท้าขวาอย่างนุ่มนวล, ก้าวเฉียงออกไปด้านข้างเพียงก้าวเดียว, ปล่อยให้ร่างของกระทิงผ่านเฉียดลำตัวของเขาไปอย่างพอดิบพอดี มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ประหยัดพลังงาน, สง่างาม, และเยือกเย็นจนน่าโมโห


"อีกครั้ง!" กระทิงหันกลับมา, ดวงตาฉายแววกรุ่นโกรธมากขึ้น เขาคำรามในลำคอแล้วพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง, เร็วกว่าเดิม, รุนแรงกว่าเดิม


เคลื่อนไหว คราวนี้เขาไม่ได้ก้าวไปด้านข้าง แต่กลับหมุนตัวบนส้นเท้าเป็นวงแคบๆ, ปล่อยให้แรงพุ่งของอีกฝ่ายเหวี่ยงตัวเองผ่านไปอย่างว่างเปล่า มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและต่อเนื่องจนดูเหมือนเป็นการเต้นรำมากกว่าการหลบหลีก


สำหรับบุตรแห่งไทคี, นี่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ มันคือการแก้สมการของการเคลื่อนที่และแรงเฉื่อย เขามองเห็นวิถีการโจมตีที่ซ้ำซาก, การถ่ายน้ำหนักที่ไม่สมดุล, และความโกรธที่บดบังการตัดสินใจของอีกฝ่าย


ครั้งที่สาม...ครั้งที่สี่...ทุกการพุ่งเข้าใส่จบลงด้วยความว่างเปล่า ความหงุดหงิดของบุตรแห่งแอรีสแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราดที่ไร้การควบคุม


ในการโจมตีครั้งสุดท้าย, เขาคำรามลั่นแล้วทุ่มสุดตัว, ไม่สนใจสิ่งใดอีกนอกจากเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้า


ครั้งนี้, แอ็กเซลไม่ได้เพียงแค่หลบ เขาทำในสิ่งที่เหนือกว่านั้น ในจังหวะที่ร่างของกระทิงหนุ่มพุ่งเข้ามาใกล้ที่สุด, เขาไม่ได้ก้าวถอยหลังหรือไปด้านข้าง แต่กลับก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว, เข้าไปใน 'จุดบอด' ของการโจมตี, พร้อมกับใช้ปลายเท้าสะกิดเข้าที่ข้อเท้าของอีกฝ่ายเบาๆ


มันเป็นการกระทำที่แทบจะมองไม่เห็น,เป็นการสัมผัสที่แผ่วเบา...แต่เมื่อรวมกับแรงพุ่งมหาศาลของบุตรแห่งแอรีสเอง มันก็เพียงพอที่จะทำลายสมดุลทั้งหมด


ร่างกำยำถลาไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่ได้, สะดุดขาของตัวเอง, แล้วล้มลงไปกองกับพื้นฝุ่นอย่างแรง


ความเงียบเข้าปกคลุมลานฝึกชั่วขณะ


แอ็กเซลยืนนิ่ง, มองร่างที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เสื้อผ้าของเขายังคงสะอาดสะอ้าน, ไม่แม้แต่จะหอบหายใจ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย, เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยที่ดังพอให้ได้ยินกันแค่สองคน


"ระวังหน่อยสิครับ..."


ไม่มีใครหัวเราะ มีเพียงสายตาของไพเพอร์ที่จับจ้องมาที่เขา, ในแววตาของหล่อนฉายแววของความประทับใจ หล่อนเข้าใจดีกว่าใคร...ว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ใช่โชค, แต่คือการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ


และในใจของแอ็กเซล, เสียงกระซิบของมารดาก็ดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง


'...จงมุ่งฝึกฝน...'


ดูเหมือนว่า, เขากำลังทำเช่นนั้นอยู่จริงๆ





เข้าคลาส +10 EXP
+5 ความกล้า
                        วิชามีดสั้น I (2/4) 
Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-16 00:38:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด

เสียงแห่งพลังที่ซ่อนตัวอยู่ 





         ท้องฟ้า ในช่วงเวลา ของ ยามสาย ของ ค่ายฮาล์ฟบลัด ยังคงสดใส เหมือนเช่นในทุก ๆ วันที่เคยเป็นมา ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะเริ่มมีลมพัดแผ่วเบา และมีแสงแดดอบอุ่น เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส แต่บางสิ่งบางอย่างที่ล่องลอยมา กับ อากาศ กลับบ่งบอกให้เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างภริดา อารยภักดีเทวราช ทราบว่า วันนี้ สำหรับตัว ของ เธอ จะไม่ใช่เพียงแค่วันธรรมดาๆ พอเด็กหญิงผู้เงียบสงบอย่างเธอ ได้ทำการเดินก้าวเรียวขาบาง อย่างมั่นคง และ ไร้เสียงเดินทาตามทางเดิน ของ ค่ายฮาล์ฟบลัด อยู่เป็นระยะเวลาสักพักหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ หยุดทำการก้าวเดินเพราะว่าในตอนนี้ เธอได้เดินทางมาถึงยังตรงบริเวณสนามฝึกซ้อม ที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่ออบอวลอยู่ภายในอากาศ และ ยังตามมาด้วยเสียงฝีเท้า ของ เหล่าผู้กล้ามากมาย เด็กหญิงตัวน้อยริดาค่อยๆ เริ่มทำการเงยใบหน้าขึ้นไปมองสำรวจรอบๆ บริเวณอย่างช้าๆ สนามฝึกซ้อมแห่งนี้ค่อนข้างมีพื้นที่กว้างขวาง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอาวุธซุ้มเป้าซ้อม และพื้นที่ให้สามารถใช้สอยในการฝึกฝนได้ในหลากหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่กำลังดึงดูดสายตา ของ เด็กหญิง อย่างริดามากที่สุด ในเวลานี้ก็คงจะเป็น เรือนร่างที่สูงใหญ่ ของ ชายหนุ่มผู้มีท่วงท่าที่สง่างาม และ มั่นคง เขากำลังสวมใส่ชุดของ ค่ายฮาล์ฟบลัด และเธอแอบสังเกตดูจากชุดที่เขากำลังทำการสวมใส่อยู่ ก็บ่งบอกได้เลยในทันทีว่า รุ่นพี่ เซอร์แมน หยาง ลูกชาย ของ ท่านเทพแอรีส คนนี้ นอกจากเขาจะเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านร่างกาย และ จิตใจ แล้ว ยังผ่านศึกรบต่างๆ มาอย่างนับครั้งไม่ถ้วนอีกด้วย







     เมื่อสายตา ของ ทั้งสองคนสบกันเพียงชั่วครู่ รุ่นพี่เซอร์แมน ทำแค่เพียงพยักหน้าเบาๆ เหมือนเขานั้นสามารถรับรู้ได้ ถึง ความตั้งใจ ของ เด็กหญิงอย่างริดา ส่วนตัวเธอเอง ก็ค่อยๆ เริ่มทำการโค้งศีรษะน้อยๆ เป็นการตอบกลับรุ่นพี่หนุ่มอย่างสุภาพ และ เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความเคารพ ก่อนที่รุ่นพี่เซอร์แมน จะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูด ขึ้นมาในทันทีว่า "เราจะเริ่มต้น ทำการฝึกฝน จากขั้นตอนพื้นฐานก่อน" น้ำเสียง ของ ชายหนุ่มรุ่นพี่ถึงจะเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูเรียบๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความหนักแน่น ก่อนที่เขาจะเริ่มสอนต่อด้วยคำพูดที่ว่า "การฝึกควบคุมสมาธิ จงเงียบ และนิ่งสนิทให้เหมือน กับ น้ำที่ถูกรินอยู่ภายในถ้วย และไม่ว่าจะเจอ กับ ลมพายุ หรือ อะไรก็ตาม จะไม่มีทางไหวติง" คำสั่งสอนนี้ ของ รุ่นพี่ สำหรับเด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่าง ภริดา อารยภักดีเทวราช หรือ ว่า ริดา ดูจะไม่ใช่เรื่องราว หรือ คำพูดใหม่ๆ เพราะแม้แต่ในโลก ของ ความเงียบ เธอก็ยังคงมีความคุ้นเคย กับ การฟังเสียง ของ ตนเองมากกว่า เด็กหญิงจึงเลือกที่จะหลับตา และค่อยๆ เริ่มที่จะกำหนดลมหายใจ ของ ตัวเธอเอง ให้สม่ำเสมอ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มต้นที่จะทำการจินตนาการถึงแม่น้ำแห่งความคืด ที่กำลังไหลอยู่ภายในจิตใจ ของ ตัวเธอเอง ก่อนที่แม่น้ำสายนั้นจะค่อยๆ เริ่มสงบราบเรียบ จนสะท้อนความเป็นตัวตน ทั้งหมด ของ เธอออกมา ได้เหมือน กับ กระจก ในตอนนี้รุ่นพี่เซอร์แมนกำลังเดินวนอยู่ที่รอบๆ ตัว ของเธออย่างช้าๆ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ หยุดเดิน พร้อม กับ ทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดว่า "ร่างกาย ของ เธอทำได้สารพัด ... ขอแค่ให้เธอรู้ และดึงศักยภาพนั้นออกมาได้" 






    หลังจากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดา ก็ค่อยๆ เริ่มทำการลืมตาขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ใครต่อใครคิดว่าดูเงียบๆ แต่ลึกๆ ไปแล้วเธอก็เป็นคนหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ รุ่นพี่เซอร์แมนค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูด ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งว่า "ตอนนี้ ... ริดาฉันอยากให้เธอลองหลับตาลงอีกสักครั้ง แล้วลองดึงพลังในตัว ของ เธอออกมา จำไว้เลือกมันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เลือกมันด้วยความรู้สึกที่หวาดกลัว" หลังจากที่คำพูด ของ รุ่นพี่เซอร์แมน ได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก เด็กหญิงตัวน้อยอย่างริดา ก็ค่อยๆ เริ่มทำการพยักหน้าตอบกลับเบาๆ และเริ่มค่อยๆ ทำการหลับตาลงอย่างช้าๆ อีกครั้ง พร้อม กับค่อยๆ เริ่มปล่อยฝ่ามือทั้งสองลงไปทำการแนบอยู่ที่ตรงบริเวณข้างๆ ลำตัว ทว่าภายในจิตใจ ของ เธอ ในตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบสนิทแต่ก็มีบางสิ่งบางอย่าง ที่กำลังเริ่มทำการเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้เงามืด หลังจากนั้นความรู้สึกบางอย่างอย่างก็ค่อยๆ เริ่มที่จะแผ่วเบาลง ราวกับแสงเทียนในห้วง ของ พายุ ... พร้อม กับ คำพูด ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เอ่ยขึ้นมาว่า "ฉันอยากที่จะเรียนรู้และเข้าใจ ... ในเรื่องราวและสิ่งต่างๆ และฉันก็อยากที่จะมองเห็นในสิ่งที่มองคนอื่น กำลังมองไม่เห็น" หลังจากที่คำพูด ของ เด็กหญิงตัวน้อย อย่าง ริดา ได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากที่เธอได้ทำการลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าภายนอกในตอนนี้ และ เวลานี้  จะไม่ปรากฏพลังใดๆ ขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ทว่าดวงตา  ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดา ในตอนนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความเปล่งประกาย และ ความตั้งใจที่นิ่งลึก ก่อนที่รุ่นพี่เซอร์แมนจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดว่า


     "ริดา เธอรู้สึกว่า มีอะไรที่ดูเปลี่ยนแผลงไปบ้าง หรือเปล่า" หลังจากที่คำพูด ของ รุ่นพี่เซอร์แมน ได้ทำการเอ่ยจบลงไป ได้แค่เพียงไม่นานนัก เด็กหญิงอย่างริดา มีอาการนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูด ตอบกลับรุ่นพี่หนุ่มออกมาว่า "หนูรู้สึกเหมือน ... ได้แตะต้อง และ สัมผัสเรียนรู้ถึง พลังอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างในจิตใจ ของ หนูแต่หนูเองก็ยังไม่อาจทราบได้ชัดเจน ว่าพลังที่กำลังซ่อนอยู่ภายในจิตใจ ของ หนู แท้ที่จริงแล้วเป็นพลังแบบไหนกันแน่ แต่จากที่ทำการเรียนและฝึกฝน กับ รุ่นพี่เซอร์แมน ก็ ... ทำให้หนูรู้สึกได้ว่า พลังนี้มีอยู่จริงๆ ค่ะ" หลังจากที่รุ่นพี่เซอร์แมนได้รับฟัง คำพูด ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดาจบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก เขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการยิ้มออกมาตรงบริเวณมุมปาก แม้ว่ารอยยิ้มนี้ ของ รุ่นพี่จะเกิดขึ้นมาไม่ค่อยบ่อยมากเท่าไหร่นัก แต่ทว่ารอยยิ้มนี้มันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอก ให้เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดารับรู้ได้ว่า นี่ คือ จุดเริ่มต้น ของ เรื่องราวที่มีคุณค่า หลังจากนั้นรุ่นพี่เซอร์แมน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า "ดีแล้วหล่ะนะ ริดา ที่เธอเลือกที่จะเก็บและจำความรู้สึกนั้นเอาไว้ และ ก็จงอย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นจางหายไป เธอต้องมั่นเรียนรู้ และ ก็ตั้งอกตั้งใจที่จะฝึกฝนมันทุกวัน ... ไม่ใช่แค่ทางด้านร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการฝึกฝนทางด้าน ของ จิตใจด้วย"







          และหลังจากที่การเรียนในวันนี้จบลง เด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างริดา ค่อยๆ เริ่มทำการโค้งศีรษะ ให้ กับ รุ่นพี่หนุ่มเซอร์แมน อีกครั้งเพื่อเป็นการกล่าวขอบพระคุณ และถึงแม้ว่าตัว ของ เด็กหญิงจะไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกไปมากมาย แต่ทว่าตัว ของ เด็กหญิงก็ยังคงเลือกที่จะใช้สายตาแห่งความเข้าใจ และ การเคารพรุ่นพี่เซอร์แมนในฐานะ ของครูผู้สอน และ ให้ความรู้เธอได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างริดา ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเดินก้าวเรียวขาบางเดินทางออกไปจากตรงบริเวณสนามฝึกซ้อมอย่างเงียบงัน เสียงฝีเท้าของเธอยังคงเบาบางราว กับ เงา และกลมกลืนไป กับ เสียงของลมพัดต้องปลายกิ่งไม้ ก็ไม่ปาน หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดา เธอก็ได้ทำการเดินทางก้าวเรียวขาบาง กลับไปถึงยังตรงบริเวณ กระท่อมหมายเลขที่ 20 เฮคาที อย่างปลอดภัย



เครดิต และ รางวัล ที่ริดาจะได้รับ: มีดังต่อไปนี้ 


1.  +15 พลังน้ำใจ


2. + 10 EXP


3. + 3 Point


4. +15 ความสนิทสนม กับ รุ่นพี่เซอร์แมน หยาง 


ทำการฝึกฝนเสร็จตอนเวลา : 00. 37 นาฬิกา


      หล

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-7-16 10:30
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-63] เซอร์แมน หยาง เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-7-16 10:29
โพสต์ 24551 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-16 00:38
โพสต์ 24,551 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-7-16 00:38
โพสต์ 24,551 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-16 00:38

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +15 ย่อ เหตุผล
God + 15

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โพสต์ 2025-7-16 09:44:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

16.07.2025 | 06:30 AM


ลานฝึกในยามเช้าตรู่คือสถานที่ที่แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง มันคือผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า รอคอยให้สีสันแห่งความรุนแรงและหยาดเหงื่อเข้ามาแต่งแต้มในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่ในตอนนี้, มีเพียงความเงียบและอากาศเย็นชื้นที่ลอยอวลอยู่ภายใต้แสงสีทองที่ไม่ยอมหลับใหลของรุ่งอรุณอันเป็นนิรันดร์


แอ็กเซลเลือกมุมที่สงบที่สุด ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่คุ้นเคย เขาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิบนผืนหญ้าที่ยังคงชื้นด้วยน้ำค้าง, ปล่อยให้ความเย็นซึมซาบผ่านเนื้อผ้า เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเป็นจริงที่จับต้องได้


เขาวางมือลงบนเข่าและหลับตาลง


ความคิดจากเมื่อวานยังคงเป็นพายุหมุนที่วุ่นวายอยู่ในหัว—ข้อสันนิษฐานเรื่องไนมีเรีย, ความรับผิดชอบใหม่ในฐานะหัวหน้าบ้าน—ข้อมูลมากมายที่ยังไม่ถูกจัดระเบียบให้เข้าที่ เขาไม่ได้พยายามจะปัดเป่ามันทิ้งไป แต่กลับเผชิญหน้ากับมัน, รับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน, แล้วค่อยๆ ปล่อยให้มันตกตะกอนลงอย่างช้าๆ เหมือนฝุ่นในน้ำนิ่ง


ลมหายใจของเขากลายเป็นจุดยึดเหนี่ยว—เข้า...ออก...ช้าๆ, สม่ำเสมอ มันคือการปรับเทียบเครื่องจักรที่ซับซ้อนที่สุด, การจูนเครื่องดนตรีให้พร้อมจะบรรเลงเพลงของวันใหม่


เมื่อความโกลาหลภายในเริ่มสงบลง แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งที่ถูกควบคุม เขาก็เริ่มขั้นตอนต่อไป


เขาไม่ได้พยายามจะล้างสมองให้ว่างเปล่า แต่กลับค่อยๆ เปิดประสาทสัมผัสทีละส่วน, เริ่มต้นจากการฟัง มันไม่ใช่การฟังแบบปกติ แต่คือการกรองเสียงรอบตัวอย่างมีสติ


เสียงแรกที่เขาได้ยินคือเสียงที่ใกล้ที่สุด—เสียงลมหายใจของตัวเองที่แผ่วเบาและสม่ำเสมอ, เสียงเสียดสีของเนื้อผ้าเมื่ออกของเขากระเพื่อมขึ้นลง


จากนั้น, เขาก็ค่อยๆ ขยายขอบเขตของสมาธิออกไป...


เขารับรู้ถึงเสียงกระซิบของสายลมที่พัดผ่านใบไม้เหนือศีรษะ, เสียงของนกที่ออกจากรังมาหากิน, เสียงของผู้คนที่เริ่มทยอยตื่นนอน



เขาไม่ได้พยายามได้ยินไปไกลกว่าที่ประสาทสัมผัสของมนุษย์จะเอื้ออำนวย เขากำลังสร้างแผนที่เสียงของสภาพแวดล้อมในรัศมีที่ใกล้ที่สุด, รับรู้ถึงจังหวะชีวิตที่กำลังเริ่มต้นขึ้นรอบตัวเขา มันคือการฝึกฝนให้สมองแยกแยะระหว่างเสียงรบกวนกับข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์—เสียงฝีเท้าที่ผิดปกติ, กิ่งไม้ที่หักอย่างไม่เป็นธรรมชาติ, หรือความเงียบที่มาผิดที่ผิดเวลา


เวลาผ่านไปหลายนาทีในความนิ่งสงบนั้น


เมื่อบุตรแห่งโชคชะตาลืมตาขึ้นอีกครั้ง, โลกก็กลับมาชัดเจนและคมกริบกว่าเดิม ความวุ่นวายในหัวของเขาถูกจัดเก็บเข้าแฟ้มอย่างเป็นระเบียบ, พร้อมสำหรับการใช้งาน


จิตใจของเขาในตอนนี้...คือเครื่องมือที่เพิ่งผ่านการลับคมมาอย่างดี, พร้อมแล้วสำหรับเกมในวันนี้





ฝึกฝนประจำวัน +15 EXP / +5 พลังใจ

Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-7-16 10:12
โพสต์ 12,237 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2025-7-16 09:44
โพสต์ 12,237 ไบต์และได้รับ +3 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +1 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2025-7-16 09:44
โพสต์ 12,237 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ชุดเครื่องเพชร  โพสต์ 2025-7-16 09:44
โพสต์ 12,237 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก เซียนเกม  โพสต์ 2025-7-16 09:44

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-18 19:39:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel


18.07.2025 | 08:00 AM


ลานฝึกยามเช้าอบอวลไปด้วยกลิ่นดินที่เริ่มร้อนระอุและเสียงหอบหายใจของเหล่าเดมิก็อด แต่ในหัวของแอ็กเซลกลับยังคงมีแต่เสียงกระซิบที่แทรกเข้ามาในเสียงเปรี๊ยะของเปลวไฟอย่างไม่คาดฝัน—เสียงบุรุษที่ฟังดูทั้งเก่าแก่และทันสมัยในเวลาเดียวกัน


'มาเจอข้าที่ The Olympus Service Store ในเฮลคิทเช่น'


เฮอร์มีสตอบรับแล้ว...เร็วกว่าที่เขาคาดไว้มาก มันคือการยืนยันสมมติฐาน และเป็นการเปิดตาเดินครั้งใหม่ที่อันตรายและน่าตื่นเต้น


"วันนี้, เราจะเปลี่ยนจากระบำมาเป็นบทสนทนา" เสียงของไพเพอร์ แม็คลีน ดึงสมาธิของเขากลับมาสู่ปัจจุบัน เธอยืนอยู่หน้ากลุ่มด้วยท่าทางสบายๆ เช่นเคย, แต่ในมือของเธอและนักเรียนทุกคนคือมีดฝึกหัดที่ทำจากไม้ "นี่คือ 'บทสนทนาแห่งคมดาบ'—การรุกและรับ"


"เป้าหมายของเราไม่ใช่การทำลายคู่ต่อสู้" เธอกล่าวเน้น, กวาดสายตามองทุกคน "เราแค่ต้องการจบการต่อสู้" เธอสาธิตการฟันไปที่ข้อมือของอาสาสมัครอย่างรวดเร็วและแม่นยำ "การโจมตีต้องมีเป้าหมาย...เพื่อปลดอาวุธ, หรือหยุดการเคลื่อนไหว"


จากนั้นเธอก็เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายตั้งรับ "และการปัดป้อง...คือการเชื้อเชิญ" เธอเบี่ยงคมดาบไม้ของอาสาสมัครคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย, สร้างช่องว่างขนาดใหญ่ที่เปิดโล่งสำหรับการสวนกลับ "ทุกครั้งที่เขาโจมตีมา, เขาได้มอบของขวัญให้เรา...นั่นคือช่องว่าง"


สำหรับกิจกรรมภาคปฏิบัติในวันนี้—การฝึกซ้อมท่ารำที่ถูกกำหนดไว้เพื่อสร้างความจำของกล้ามเนื้อ—โชคชะตาได้ส่งคู่ต่อสู้คนเดิมกลับมาให้เขาอีกครั้ง


บุตรแห่งแอรีสคนนั้นไม่ได้เดินเข้ามาอย่างบุ่มบ่ามเหมือนสองครั้งก่อน ความอับอายได้หล่อหลอมความดิบเถื่อนของเขาให้กลายเป็นวินัยที่เยือกเย็นขึ้น ท่าทางการยืนของเขาดูมั่นคง, สายตาที่เคยลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยวบัดนี้กลับจดจ่อและคมกริบ, แต่ภายใต้ความสงบนั้น...บุตรแห่งโชคชะตายังคงสัมผัสได้ถึงไฟแห่งสงครามที่พร้อมจะปะทุออกมาทุกเมื่อ


พวกเขาเริ่มต้นด้วยการรำตามท่าที่ไพเพอร์กำหนด—การโจมตีและการป้องกันที่เป็นลำดับขั้นตอน


บุตรแห่งแอรีสเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เขาฟันดาบไม้ออกมาเป็นแนวเฉียง, เป็นการโจมตีที่รวดเร็วและควบคุมได้ดีกว่าครั้งก่อนๆ มาก แอ็กเซลไม่ได้ใช้แรงปะทะ, แต่ใช้หลักการที่เพิ่งเรียนมา—เขาเบี่ยงคมมีดของอีกฝ่ายออกไปด้านข้างด้วยการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลและประหยัดแรง, ข้อมือของเขาบิดเพียงเล็กน้อย, สร้างช่องว่างสำหรับการสวนกลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ


เมื่อถึงตาของเขา, ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดก็โจมตีกลับไปตามท่าที่กำหนด เขาฟันไปที่แขนของอีกฝ่าย—เป็นการโจมตีที่ถูกควบคุมไว้, เป็นคำถามที่ส่งผ่านคมมีดไม้ บุตรแห่งแอรีสปัดป้องได้ทันท่วงที, แม้จะยังดูแข็งทื่อและใช้แรงมากเกินความจำเป็น, แต่มันก็ได้ผล


พวกเขาทำซ้ำอีกสองสามครั้ง, "บทสนทนา" ของพวกเขาราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ, เป็นการแลกเปลี่ยนการโจมตีและป้องกันที่แม่นยำและไร้ซึ่งอารมณ์


จนกระทั่งครั้งสุดท้าย...


เมื่อบุตรแห่งแอรีสโจมตีเข้ามาอีกครั้ง, แอ็กเซลสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในนั้น—ความหนักหน่วงที่เพิ่มขึ้น, ความตั้งใจที่จะ 'เอาชนะ' ที่รั่วไหลออกมาจากวินัยที่เขาพยายามควบคุมไว้


มันเป็นของขวัญ...


บุรุษเจ้าของเส้นผมสีทองคำเบี่ยงคมมีดของอีกฝ่ายเช่นเคย, แต่คราวนี้เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาใช้แรงพุ่งของคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์, หมุนตัวตามแรงนั้น, และในเสี้ยววินาทีที่ช่องว่างเปิดออก, เขาก็เปลี่ยนจากการป้องกันเป็นการสวนกลับอย่างลื่นไหล


มีดไม้ในมือของเขาสะบัดกลับไป, ปลายมีดแตะลงบนข้อมือของบุตรแห่งแอรีสอย่างแผ่วเบาและแม่นยำ—เป็นการกระทำที่ไม่ได้รุนแรง, แต่เด็ดขาดและหนักแน่นราวกับคำพิพากษา


มีดไม้ของอีกฝ่ายร่วงหล่นลงกระทบพื้นดิน


บุตรแห่งแอรีสยืนนิ่ง, หายใจหอบหนัก, ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงระคนกับความขุ่นเคือง เขาไม่ได้ล้มลง, ไม่ได้กรีดร้อง, แต่ความพ่ายแพ้ครั้งที่สามนี้ดูจะเจ็บปวดยิ่งกว่าสองครั้งแรกรวมกันเสียอีก—เขาพ่ายแพ้ให้กับตรรกะ, ให้กับกลยุทธ์, ไม่ใช่พละกำลัง


แอ็กเซลลดมีดของเขาลง, พยักหน้าให้อีกฝ่ายเล็กน้อย—เป็นการยอมรับในความพยายาม ร่างสูง ก้มลงเก็บมีดไม้ขึ้นมา แล้วยื่นมันคืนให้อีกฝ่ายอย่างสุภาพ เป็นการปิดฉาก  'บทสนทนา' ในวันนี้อย่างสมบูรณ์




เข้าชั้นเรียน: +10 EXP และ +5 ความกล้า
 วิชามีดสั้น I (3/4)
Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2025-7-18 19:46
God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-7-18 19:46
โพสต์ 16313 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-7-18 19:39
โพสต์ 16,313 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ  โพสต์ 2025-7-18 19:39
โพสต์ 16,313 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2025-7-18 19:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้