[Olympus] Hall of Dionysus
ย้อนเวลา 21/12/2567 เวลา 12.30 น.
เมื่อทุกอย่างจบลงเด็กสาวเดินออกจากห้อง
ก่อนจะเดินแวะไปที่ห้องของผู้เป็นพ่อที่อยู่ด้านข้าง
“ หนูมาแล้ว ”
เสียงของเด็กน้อยที่มาถึงก็เปิดประตูเข้าไปหาผู้เป็นพ่อ
พร้อมกับข้าวของที่ขนมาด้วยเรียกว่าหอบหิ้วกันมาครึ่งวันแล้วด้วย
“ มาได้แล้วหรอ ” เสียงของอีกฝ่าย
ตอนนี้ทั้งห้องดูเหมือนมีงานรื่นเริง
ท่าทางของผู้เป็นพ่อในตอนนี้ผิดกับตอนที่ตอนที่เค้าอยู่ด้านล่างเลย
ทั้งรูปล่างหน้าตาเหมือนคนละคน
ถ้าบอกว่าแม่ตกหลุมรักพ่อในร่างนี้ก็อาจจะไม่แปลกเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกตกหลุมรักในร่างมนุษย์ก็แอบจะบอกว่าแปลก
“ ทำเป็นตกใจอะไร ” เหมือนจะโดนอ่านความคิด
เด็กสาวโบกมือไปมาเป็นการปฏิเสธว่าไม่ได้อะไรทั้งนั้นทั้งที่จริงก็แอบคิดอยู่นั่นแหละ
เธอหยิบไวน์ ที่เตรียมมายกให้พ่อทั้งหมดสี่ขวด “ อันนี้หนูให้สี่ขวด ”
เธอบอกก่อนที่จะวางสี่ขวดนั้นลงที่โต๊ะ
เสียงเพลงบรรเลงดังขึ้น “ ทำดีมาก เห็นหมดทุกอย่างแล้วที่ลานต่อสู้น่ะ ”
เค้านั่งลงพร้อมกับดีดฝาขวดไวน์ออก จากนั้นรินใส่แก้วบทเพลงบรรเลงต่อ
ทุกอย่างในห้องนี้ดูเป็นความคลาสสิก แถมยังดูหรูหรา จัดทุกอย่างอย่างเป็นระเบียบ
จะมองไปมุมมุมไหนก็รู้สึกว่าสวยดูดีไปหมด แต่จะว่าไปทำไมที่ค่ายถึงไม่เป็นแบบนี้บ้างนะ
แต่จะพูดก็พูดเถอะแม้ว่าหน้าตากับที่พักจะเปลี่ยนไปแต่เรื่องของนิสัยท่าทางจะยังเหมือนเดิม
“ ขวดนี้ อร่อยเลย ” อีกฝ่ายการชมแต่เธอก็ไม่แน่ใจว่า ขวดนี้เธอทำตอนไหนอาจจะเป็นเช้าก็ได้
“ แล้วทำไมให้แค่สี่ขวด ” อีกฝ่ายถามเป็นเหมือนกันประท้วงว่าเธอเตรียมมาตั้งเยอะแต่ให้เค้าแค่ไม่ถึงครึ่ง
“ แบ่งไว้ให้คนอื่นบ้างสิ ” เอาเข้าจิงก็คืองก
“ หึ!! ” อีกฝ่ายถึงกับหัวเราะหัวเราะในลำคอมือยกแก้วไวน์ขึ้นจิบตามปกติ
“ แล้วนี่จะกลับไปที่ค่ายอีกไหม ”
เธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะไม้ข้างข้างผู้เป็นพ่อแล้วก็เริ่มสนทนากัน
เสียงเพลงในห้องเบาลง แต่ก็จะมีบางจังหวะที่เล่นดังขึ้นหรือมีจังหวะที่ค่อนข้างเร็ว
ทำเอาเด็กสาวแอบรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ ไม่ต้องแปลกใจหรอก เครื่องดนตรีในห้องนี้เล่นตามจังหวะการคุยกัน ยิ่งเราคุยกันสนุกมันก็จะสนุกไปกับเรา ”
เหมือนกว่าจะรู้ใจอธิบายเรื่องของเพลงที่อยู่ในห้องหลังจากเห็นว่าเด็กสาวที่มีท่าทีจะเข้าไปสนใจมันอย่างมาก
ร่างเล็กเองก็พยักหน้าหลังจากที่ได้รู้มันดูเป็นความมหัศจรรย์มากเลย
“ อีกสักพักคงกลับ ” ผู้เป็นพ่อตอบอย่างใจเย็น
เพียงไม่นานมึงก็หยิบขวดไวน์ขวดเดิมมาลินใส่แก้ว
อีกฝ่ายกินเร็วเสียเหลือเกิน
“ พ่อเบาหน่อยเดี๋ยวก็เมา ”
เธอพยายามปรามผู้เป็นบิดาแต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผลอะไรเลย
“ มากินด้วยสิ ” ในไหนก็ไหนไหนแล้วไวน์เธอก็เตรียมมา คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าเธอจะจิบไวน์อันนี้กินกับพ่อของเธอด้วย
“ เอาสิ ” นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้จิบไวน์ร่วมกับพ่อของเธอ เพราะปกติเค้าดูจะหวงแหนมันเป็นอย่างมาก
“ ตกใจหรือเปล่า ที่รู้ว่าคนแบบเราเป็นพ่อ ”
อยู่อยู่อีกฝ่ายก็ถามเธอขึ้นในขณะที่ไวน์เริ่มจิบเข้าปาก
เด็กสาวอมมันไว้สักพักเพื่อเปิดต่อมประสาทรับรส แล้วก็ต้องหันไปทำหน้าประหลาดใจเมื่อเจอคำถามนั้น
“ ก็นิดหน่อย ตอนแรกก็น้อยใจอยู่ ”
เธอระบายความในใจให้กับผู้เป็นพ่อฟัง ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกเสียใจเสียใจที่พ่อทิ้งเธอไป ทิ้งให้เธออยู่กับแม่แล้วแม่ก็ไปแต่งงานใหม่
“ แล้วตอนนี้ล่ะ ”
ถ้าถามถึงตอนนี้ก็คงตอบได้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจแล้ว มันเป็นแค่ความรู้สึกในอดีตเพราะตอนนี้เธอก็มีครบทั้งพ่อทั้งแม่ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคน อย่างที่ตั้งใจไว้
“ ก็ไม่ได้น้อยใจ ตอนนี้ก็โอเคแล้ว เพราะก็อยู่ตรงนี้แล้วไง ”
เด็กสาวทำน่าสงสัยวันนี้เค้าเป็นอะไรกันแน่ เพราะปกติเรื่องราวพวกนี้แทบไม่หลุดออกจากปากเค้าเลยทำไมอยู่ๆ เค้าถึงดูเป็นคนขี้น้อยใจขึ้นมาได้
“ ว่าแต่เราจะมีโอกาสได้เจอกันพ่อแม่ลูกหรือเปล่า ”
คำถามนี้ดูจะเป็นคำถามที่ตอบยากมากสำหรับผู้โดนถาม
“ เค้าอยากมาเจอพ่อหรือเปล่า ” ท่าทีของอีกฝ่ายดูเปลี่ยนไปเขานั้นนั่งพิงกับพนักพิง แต่สีหน้าดูจะเคร่งเครียด
“ หนูก็ไม่รู้ หนูรู้แต่แม่ไม่เคยพูดถึงพ่อเลย ”
เท่าที่เธอจำความได้ผู้เป็นแม่ของเธอแทบไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้ฟังเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเธอแต่งงานใหม่แล้วก็ต้องทำทุกอย่างให้เธอยอมรับพ่อเลี้ยง
“ ก็หวังว่าสักวันนึง ”
อีกฝ่ายตอบกลับกลับมาเหมือนเป็นประโยคที่ บอกเป็นนัยว่ามันต้องมีสักวันที่เธอจะได้เจอหน้าพ่อแม่ลูกสามคน
แต่ถามว่าวันไหนก็ไม่มีคนตอบได้หรอกนะ
วันนี้ดูเป็นการจิบไวน์ที่มีบทสนทนาค่อนข้างจะตึงเครียด
ไว้ในแก้วของทั้งเธอแล้วก็ทั้งผู้เป็นพ่อเธอค่อยค่อยหมดลงไปช้าๆ โดยสถานการณ์ต่างๆเสียงเพลงในตอนนี้ก็เลยดูเครียดไปด้วยเลย
“ เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า ” ดูเหมือนว่าจะต้องเปลี่ยนบรรยากาศแล้วเนื่องจากวันนี้เป็นวันดีจะมาทำแบบนี้ไม่ได้
การสนทนาทั้งหมดถูกปรับเปลี่ยนออกไป
ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเรื่องของ การเรียนเธอแทน
ทุกอย่างดูตื่นเต้นเร้าใจขึ้นถ้าไม่ติดว่าเธอนั้นดูเครียดไปเลย
เพราะเรื่องเรียนน่ะหรอเด็กสาวแทบไม่ได้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ
ถามว่าเข้าเรียนวิชาไหนบ้างตอนนี้ก็เอาได้ว่ารับวิชาได้เลยว่าเด็กสาวเรียนอะไรไปบ้าง แต่อย่าถามว่าเข้าหัวบ้างไหมคำตอบก็คงตอบแปลว่าไม่
ร่างเล็กได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะเธอไม่กล้าตอบอะไรก็พูดเป็นพ่อเลยกลัวเค้าจะดุเอา
“ นี่คิดว่าอยู่หรือเปล่าเรื่องเรียน ไม่เป็นไรหรอกเรื่องนั้นน่ะ ”
เขาพูดออกมาจากปากของตนเองเรื่องเรียนไม่เป็นไรเพราะเขาดูไม่จริงจังกับเรื่องนี้เท่าไหร่
“ แต่เรื่องเอาไวน์มาให้พ่อนี้ควรจะทำทุกวันนะ ” นอกเสียจากการเรียนที่เขาดูจะไม่สนใจ แต่สิ่งหนึ่ง ที่ดูจะสนใจเอาอย่างมาก มันน่าจะเป็นเรื่องของไวน์ที่จะต้องเอาไปให้ทุกวัน
“ ก็ได้จะพยายามนะ ” เธอตอบกลับ แล้วเธอก็วนกลับมาเรื่องการเรียน
“ พ่อหนูอยากถาม เราจะจับเพกาซัสได้ที่ไหน ”
คำถามที่ทำเอาร่างสูงคู่สนทนาของเธอถึงกับไปไม่เป็น
“ อืมมมมม ตอบยากจัง เอาเป็นว่าถึงเวลาลูกจะเจอมัน ”
คำตอบที่เปิดกว้างแบบสุดๆ เมื่อเราถามว่าเจอได้ที่ไหน แต่อีกฝ่ายนั้นตอบว่าเมื่อถึงเวลาถึงจะเจอได้
แล้วไม่ทันไรเค้าก็เร่งเปลี่ยนเรื่องไปซะอย่างนั้น “ แล้วนี่ไปเอาชุดมาจากไหน ”
ผู้ที่เปลี่ยนเรื่องเก่งคงหนีไม่พ้นผู้เป็นพ่อเธอนี่แหละไปเรื่องอื่นแล้วคำถามที่ถามไปนั้นไม่ตอบแล้วด้วย
“ อ่อ มีคนแต่งตัวให้หนูสวยไหม ” เธอถามพร้อมกับลุกขึ้น และหมุนตัวให้อีกฝ่ายดู
“ ก็สวยดี แต่งแบบนี้ที่ค่ายบ่อยบ่อยนะ ”
คำชมของอีกฝ่ายตอนนี้ทำให้เด็กสาวขาติดพื้นตัวลอยหมดแล้ว
เธอได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กระโดดโลดเต้นวนไปวนมารอบห้องเลย
“ กลับมานั่งได้แล้ว อย่าวิ่งเยอะ ” เค้าหัวเราะ
ก่อนที่เด็กสาวจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ไปอีกหลายห้องเลย “ พ่อหนูยังไม่ได้ไปเยี่ยมอีกหลายห้องเลย ” เธอกล่าว
อีกฝ่ายก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพียงแต่โบกมือเล็กน้อย
“ งั้นก็ไปเที่ยวให้สนุก ของพวกนี้ ฝากเอาไว้ก่อน ”
ใช่สิคำพูดของอีกฝ่ายทำให้รู้ได้ชัดเจนเลยว่าให้ฝากไวน์ไว้กับเขาก่อนยังไงล่ะ
หวังว่ากลับมาอีกฝ่ายจะไม่ได้เอาไปกินหมดแล้วนะ
“ ได้แต่หนูให้ป๊าแค่สี่ ” เธอหันไปย้ำ
พร้อมกับเดินออกไปจากห้อง ไปกระโดดโลดเต้นต่อที่ห้องอื่นก็แล้วกัน เมื่อเสร็จทุกอย่างค่อยกลับไป
ให้ไวน์ไดโอนิซุส 4 ขวด (20*4 = 80)
เพิ่มเติม BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15