123
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[บ้านหมาป่า] ห้องสมุด

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-8-27 00:24:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Jung Soyeon
26 สิงหาคม 2025 | ห้องสมุด
Jung Soyeon
📝 เนื้อหาหลัก

หัวข้อ: The Latin Test

     แสงยามบ่ายส่องต้องพื้นหญ้าที่เปียกชื้นเล็กน้อยจากการฝึกระเบียบวินัยอันหนักหน่วงของกองทหารโรมัน แต่สำหรับ จอง โซยอน วัย 12 ปี มันคือความคุ้นเคยที่หล่อหลอมร่างกายและจิตใจของเธอให้แข็งแกร่ง เธอค่อย ๆ ก้าวออกจากลานฝึก เดินมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดประจำค่ายหลวงอย่างสงบเสงี่ยม

  ​บรรยากาศภายในห้องสมุดแตกต่างจากลานฝึกอย่างสิ้นเชิง ความเงียบสงบโอบล้อมรอบตัวหนังสือโบราณที่เรียงรายอยู่บนชั้น ความรู้สึกอบอุ่นจากเตาผิงที่คุคุกรุ่นทำให้กลิ่นหอมของสมุนไพรและหนังสือเก่าคละคลุ้งไปทั่วห้อง วันนี้ไม่ใช่การฝึกภาษาทั่วไปอย่างที่เคย แต่เป็นการทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาละตินที่เธอเตรียมพร้อมมาอย่างดี

 ​คุณลูปา หมาป่าสีขาวตัวใหญ่เดินเข้ามาหาเธออย่างเงียบงัน ดวงตาสีทองของมันทอประกายฉลาดเฉลียว โซยอนประสานมือพร้อมกล่าวคำปฏิญาณอย่างมั่นคง
​“In nomine Apollinis et Veneris, ego, Jong Soyeon, parata sum ad examen Latinum.”
(ในนามของบุตรีแห่งเทพอพอลโล่และลูกหลานบรรพบุรุษโรมวีนัส ข้าจองโซยอนพร้อมแล้วสำหรับเข้ารับการทดสอบภาษาละติน)

   ​คุณลูปาพยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงรับทราบ ก่อนจะยื่นกระดาษคำถามชุดหนึ่งให้แก่เธอ การทดสอบเริ่มต้นขึ้นแล้ว

​การทดสอบบทเรียนตำนานแห่งกรุงโรม

  ​โซยอนอ่านคำถามและเลือกคำตอบอย่างแม่นยำ ทุกตัวอักษรที่เธอเขียนลงไปสะท้อนถึงความเข้าใจอันลึกซึ้งในตำนาน โรมูลัสและเรมัส ที่เธอศึกษามา

  ​โรมูลัสและเรมัสถูกพบและเลี้ยงดูโดยใคร? เธอเลือก 'ก. หมาป่า' โดยไม่ลังเล

   ​เหตุผลหลักที่ทำให้โรมูลัสและเรมัสถูกทิ้งคืออะไร? เธอเลือก 'ค. เนื่องจากความขัดแย้งในราชวงศ์'

   ​โรมูลัสและเรมัสตัดสินใจสร้างเมืองบนเนินเขาใด? คำตอบคือ 'ก. พาลาติน'

   ​เหตุการณ์ใดที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเรมัส? เธอตอบ 'ค. การทะเลาะวิวาทกับโรมูลัส'

   ​โรมูลัสได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอะไร? เธอลงปากกาอย่างมั่นใจในตัวเลือก 'ข. กรุงโรม'

  ​เมื่อมาถึงส่วนอัตนัย เธอแสดงทัศนคติที่เติบโตเกินวัยได้อย่างน่าประทับใจ

   ​ในการอธิบายความสำคัญของตำนาน เธอมองว่าตำนานนี้คือ รากฐานความยิ่งใหญ่ ที่สร้างความภาคภูมิใจและเน้นย้ำถึงคุณค่าอย่าง ความกล้าหาญ การเสียสละ และ ความเป็นผู้นำ

   ​เมื่อให้เปรียบเทียบบุคลิกของสองพี่น้อง เธอวิเคราะห์ว่า โรมูลัสมีวิสัยทัศน์ และความทะเยอทะยานที่นำไปสู่การสร้างอาณาจักร ขณะที่ เรมัสมีความเป็นอิสระ และเย่อหยิ่ง ซึ่งความขัดแย้งนี้สะท้อนความตึงเครียดระหว่างการมองการณ์ไกลกับการกระทำที่ขาดสติ

   ​ในคำถามที่ต้องแสดงความคิดเห็นส่วนตัว หากเธอเป็นโรมูลัส เธอจะเลือก เจรจา หรือแม้แต่ ให้เรมัสมีบทบาทสำคัญในเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรม และในคำถามสุดท้ายที่ถามถึงสิ่งที่ตำนานสอน เธอสรุปได้อย่างเฉียบคมว่า การสร้างเมืองและชาติ ต้องอาศัยทั้งความกล้าหาญ การเสียสละ และสติปัญญา เพราะความขัดแย้งภายในอาจทำลายทุกสิ่งได้

​เรื่องราวบทสรุปของการเรียนรู้

   ​การทดสอบยังไม่จบเพียงเท่านี้ คุณลูปาเลื่อนกระดาษแผ่นใหม่มาตรงหน้าเธอ มันคือบทกวีภาษาละตินที่เธอต้องแปลและทำความเข้าใจ

   ​โซยอนค่อย ๆ อ่าน Fabula Fratrum (เรื่องราวของสองพี่น้อง) และแปลความหมายออกมาอย่างลึกซึ้ง เธอเข้าใจความยิ่งใหญ่ของโรมูลัส แต่ก็รับรู้ถึงความโศกเศร้าในประโยคสุดท้ายที่ว่า "Mūrus non est fortis sine fratre" (กำแพงไม่อาจแข็งแกร่งได้หากปราศจากพี่น้อง) มันเป็นประโยคที่สะท้อนถึงความโดดเดี่ยวของผู้นำที่ต้องสูญเสียคนที่รักที่สุดไปในเส้นทางแห่งอำนาจ
​หลังจากสอบเสร็จสิ้น คุณลูปาพยักหน้าให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะให้การบ้านเพิ่มเติมเป็นการแนะนำตัวเป็นภาษาละตินสำหรับชีวิตใหม่ในค่ายทหาร เธอเขียนประโยคที่ผสมผสานความเชื่อและความเป็นตัวตนของเธอได้อย่างลงตัว

   ​“Ego sum Jong Soyeon, filia Apollinis, et stirps Veneris Romanae.”

(ข้าคือจอง โซยอน บุตรีของเทพอพอลโล่ และผู้สืบเชื้อสายลูกหลานบรรพบุรุษโรมจากเทพีวีนัส)

   ​“Cupio ut me sicut sororem cognoscātis, quae musicam et artem amat.”

(ข้าอยากให้พวกท่านรู้จักข้าในฐานะน้องสาวคนหนึ่งที่รักในเสียงดนตรีและศิลปะ)

   ​“In domo, amīca fidelis et consiliatrix bona vobīs ero.”

   (ในบ้านนี้ ข้าจะเป็นเพื่อนซื่อสัตย์และที่ปรึกษาที่ดีสำหรับพวกท่าน)

    ​โซยอนเก็บกระดาษคำถามและบทกวีใส่กระเป๋า เธอเดินออกจากห้องสมุดอย่างช้า ๆ ในใจไม่ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในคะแนนสอบ แต่เป็นความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในปรัชญาของชาวโรมัน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของอำนาจและการรบพุ่ง แต่ยังรวมถึงความสัมพันธ์ ความรัก และการเสียสละอีกด้วย
    

รางวัลทดสอบสำเร็จภาษาละติน: +1 Level up / +5 Point และ +15 INT / +10 คะแนน





🔮 คำคมโซยอน
"ข้าคือโซยอน บุตรแห่งแสงทองของอพอลโล่
และเลือดแห่งวีนัสไหลเวียนในใจ ข้าจะเปล่งประกาย
เหนือกาลเวลาและความมืดมิด
ให้ความงามและพลังแห่งดวงดาวคุ้มครองทุกย่างก้าวของข้า"
🌹 ❦ 🌹 ❦ 🌹
✨ เวทมนตร์แห่งแสง
🔥 พลังแห่งอพอลโล่
💖 เสน่ห์แห่งวีนัส

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 100 EXP โพสต์ 2025-8-27 00:32
โพสต์ 23485 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-8-27 00:24
โพสต์ 23,485 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก มีดสั้นพูจิโอ  โพสต์ 2025-8-27 00:24
โพสต์ 23,485 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2025-8-27 00:24
โพสต์ 23,485 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก ชุดภารโรง  โพสต์ 2025-8-27 00:24

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +10 ย่อ เหตุผล
God + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นพูจิโอ
ปากกาหมึกซึม
จิ๊กซอว์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
ต่างหูเงิน
ชุดภารโรง
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอมสตรี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x11
x4
โพสต์ 2025-8-27 12:39:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 27 เดือนสิงหาคม ปี 2558

ช่วงบ่าย เวลา 13.00 - 15.00 น. ณ ห้องสมุด บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ฝึกภาษาละติน)


ห้องสมุดของบ้านหมาป่าดูราวกับเป็นโลกอีกใบ ผนังสูงโปร่งที่ถูกประดับด้วยภาพวาดเล่าเรื่องราวเทพเจ้ากับวีรบุรุษในอดีต ชั้นหนังสือไม้เข้มเรียงรายสูงจรดเพดานเต็มไปด้วยตำราหายากทั้งวรรณกรรม ตำราสงคราม และบันทึกเก่าแก่ กลิ่นกระดาษโบราณผสมกับกลิ่นไม้โอ๊คเก่า ละมุนชวนให้เหมือนกำลังหลุดไปอยู่ในห้วงเวลาอื่น แสงแดดอุ่นลอดผ่านกระจกสีประดับลวดลายโรมันแตกกระจายเป็นประกายรุ้งบนโต๊ะไม้โอ๊คใหญ่ตรงกลางห้อง โมนีก้าก้าวเข้ามา ดวงตาสีเงินกวาดมองรอบห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ “โห…สวยจังเลยนะคะเนี้ย…” เธอเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมา แม้ยังรู้สึกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนฝัน แต่ความเงียบสงบของที่นี่ทำให้หัวใจเธอคลายความตึงเครียดลงนิดหน่อย


ลูปาในร่างหญิงสาวสูงสง่าพาเธอไปนั่งที่โต๊ะกลางห้อง ก่อนนั่งลงฝั่งตรงข้าม เส้นผมทองยาวสะท้อนแสงกระจกสีราวกับเรืองแสงเอง นางวางมือบนตำราเล่มหนาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบแต่ชัดเจน “เจ้าจะเรียนที่นี่กับข้าทุกครั้งนะ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องเข้าใจบางสิ่งให้ดีเสียก่อน โมนีก้า…เจ้าจะไม่ได้ฝึกภาษาละตินรวดเร็วเหมือนคนอื่น”


“หา? ทำไมล่ะคะ? หนูทำอะไรผิดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแล้วหรือไงเนี่ย?” โมนีก้าหันขวับกลับมามองอีกคนตาโตจากการเอาแต่มองรอบห้อง 


ลูปาแค่มองเธอแล้วส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่ใช่เช่นนั้น…แต่เดมิก็อดส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมความแตกต่าง สมองของพวกเขามีสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าดิสเล็กเซีย เป็นปัญหาในการใช้ภาษา คำจะสั่นไหว หลุดลอย หรือผสานกันบนหน้า ทำให้การอ่านภาษาอย่างอังกฤษยากลำบาก แต่ความจริงแล้ว…นั่นไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่เป็นการตั้งค่าโดยกำเนิดของสายเลือดกึ่งเทพ” นางใช้ปลายนิ้วเคาะเบา ๆ บนตำราละตินเพื่ออธิบายต่อ “เพราะสมองของพวกเขาถูกสร้างมาเพื่อภาษาละติน ภาษาโรมันโบราณที่เทพเจ้ากำหนดไว้ให้เป็นรากฐานแห่งอำนาจและวัฒนธรรม มันจึงเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาจะเรียนรู้ได้เร็วและเข้าใจได้ลึกซึ้ง”


โมนีก้านิ่งฟังไปเรื่อย ๆ ก่อนจะชี้ตัวเองด้วยหน้าตาเหวอ ๆ “แต่…เอ่อ…งั้นก็หมายความว่าไงคะ? หนูไม่ได้ดิสเล็กเซียสักหน่อย ภาษาอังกฤษหนูยังอ่านได้อยู่นะคะ!”


ลูปาพยักหน้าช้า ๆ “นั่นแหละคือเหตุผล…เจ้าต่างออกไปจากพวกเขา เจ้าไม่มีโรคดิสเล็กเซียภาษาอังกฤษไม่ใช่กำแพงของเจ้า แต่เพราะแบบนั้นเจ้าจะไม่สามารถเชื่อมสมองเข้ากับละตินได้เร็วเหมือนคนอื่น” หญิงสาวผมทองพูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นคงต่อไปไม่ลดละ “ถ้าคนอื่นอาจใช้เวลาเพียงสองครั้งก็เข้าใจ…เจ้าอาจต้องใช้สี่หรือห้าครั้งบางทีมากกว่านั้น เพื่อที่จะเข้าถึงภาษานี้อย่างแท้จริง”


โมนีก้าอ้าปากค้าง กอดกระเป๋าของตัวเองแน่น “โอ๊ย…นี่มันโคตรไม่แฟร์เลยค่ะ! พวกเขาได้โบนัสสมองสำหรับภาษาละตินฟรี ๆ แต่หนูนี่ต้องเรียนหนักสองเท่าเนี่ยนะ!?”


ลูปาเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ในดวงตาสีทองกลับแฝงประกายขันบาง ๆ “ข้าไม่เคยบอกว่าหนทางนี้จะง่าย…แต่เจ้าคือคนที่อาจจะต้องพยายามกว่าคนอื่นสักหน่อย เจ้าต้องก้าวผ่านทุกกำแพงที่ขวางเจ้าให้ได้”


โมนีก้าเงียบไป หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง เธอกัดริมฝีปากนิด ๆ ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “โอเคค่ะ…ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูเลย หนูจะไม่ยอมแพ้แค่เพราะภาษาแน่นอน” แววตาของลูปาฉายความพึงพอใจชัดเจนหลังจากโมนีก้าพูด ก่อนที่นางจะเปิดตำราละตินออก แสงจากกระจกสีตกกระทบหน้ากระดาษเก่าเหมือนส่องสว่างเส้นทางใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นของโมนีก้า


เสียงหนังสือเก่าถูกเปิดดัง ฟลึบ แสงแดดลอดผ่านกระจกสีสาดลงบนโต๊ะไม้โอ๊คตรงหน้า ลูปานั่งสง่า มือเรียวยกตำราขึ้นชี้บรรทัดแรก “Salve … แปลว่า สวัสดี” โมนีก้าจ้องคำตัวเล็ก ๆ นั้นด้วยตาเบิกกว้างเหมือนมันเป็นปริศนาแห่งจักรวาล “ซัล…วี่…ซาล…เว่? อะไรเนี่ย… หนูพูดเหมือนเรียกชื่อเครื่องสำอางเลยง่ะ” เธอทำหน้าเอ๋อเต็มขั้นจนลูปาเผลอหลุดหัวเราะเบา ๆ แต่ยังคงบุคลิกขรึม


“ลองใหม่สิ” เสียงของลูปานิ่งเรียบแต่หนักแน่น โมนีก้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วออกเสียงใหม่ “ซัลเว” คราวนี้แม้จะยังไม่เป๊ะแต่ก็พอใช้ได้ ลูปาพยักหน้า “ดีขึ้นแล้ว…ถัดไป Vale แปลว่า ลาก่อน”


โมนีก้าขมวดคิ้ว “วาเล่…? นี่มันชื่อแบรนด์น้ำดื่มหรือเปล่าคะเนี้ย…” แล้วก็หัวเราะแห้ง ๆ กับตัวเอง แต่เมื่อได้ยินเสียงจังหวะสอนของลูปาซ้ำ ๆ เธอเริ่มตั้งใจมากขึ้น พออ่านไปสองสามครั้ง เสียงที่ออกมาก็เริ่มกลมกลืนใกล้เคียงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกเธอนั่งเอ๋อตาลอยเหมือนสมองตีกันไม่เข้าใจเลย แต่พอจับจังหวะได้ สมองของเธอเริ่มคลายล็อกอย่างประหลาด คำศัพท์ที่เมื่อครู่ยังเหมือนตัวประหลาดค่อย ๆ เรียงเป็นความหมายและเมื่อหัวข้อกลายเป็นเรื่องที่เธอสนใจจริง ๆ เช่น Dea Ceres (เทพีเซเรส) โมนีก้าก็ตั้งตัวตรงทันที


“อันนี้…แม่หนูใช่ไหมคะ?” ดวงตาสีเงินของเธอเปล่งประกาย ลูปาพยักหน้าช้า ๆ “ใช่แล้ว…เจ้ามีสายเลือดแห่งเธออยู่ในกาย” เท่านั้นแหละ โมนีก้าก็โน้มตัวมาข้างหน้า ใบหน้าจริงจังผิดจากเมื่อครู่ที่นั่งบ่นเป็นเด็ก ๆ มือรีบจด จำ และพยายามออกเสียงซ้ำไม่หยุด หัวสมองที่ตอนแรกเอ๋อเหมือนติดสนิม กลับไหลลื่นเหมือนเปิดประตูใหม่ออกสู่โลกอีกใบ ลูปามองภาพนั้นแล้วแววตานางอ่อนลงเล็กน้อย พลางเอ่ยเบา ๆ “ดีมาก…นี่แหละคือสิ่งที่ข้าต้องการเห็นจากเจ้า ความตั้งใจจะพุ่งไปยังสิ่งที่รักและเชื่อมโยง” โมนีก้ายกหน้าขึ้นยิ้มตอบภายในใจรู้ตัวเองแล้วว่าเธออาจไม่ได้เข้าใจทุกคำ แต่ความอยากเรียนรู้เพื่อเข้าถึงความจริงของตัวเองกำลังผลักเธอให้ไปข้างหน้า


สองชั่วโมงเต็มผ่านไปในห้องสมุด แสงสีจากกระจกโรมันค่อย ๆ เคลื่อนตามตะวัน เปลี่ยนจากประกายทองส้มเป็นโทนอบอุ่นอ่อน ๆ ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องแต่ก็ยังไม่วานที่จะไม่มีแสงอย่างน้อยมันก็เกิดจากการที่ดวงอาทิตย์ยังคงขยับอยู่แม้โลกจะมีแต่ช่วงกลางวันก็ตาม โมนีก้าก้มหน้าก้มตาทั้งอ่านทั้งจด ทั้งออกเสียงตามที่ลูปาคอยแก้ไข เธอไม่ได้หลับเลยสักนิดกลับรู้สึกเพลินกับความแปลกใหม่ของภาษาที่โบราณแต่มีจังหวะฟังแล้วไพเราะ บางครั้งโมนีก้าจะหยุดชะงักไปกะทันหัน เพราะได้ยินคำที่คุ้นหู…มันคือคำที่แม่ของเธอเคยหลุดพูดออกมาในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ในร่างมนุษย์ คำที่เธอไม่เคยเข้าใจ ตอนนี้กลับมีความหมายชัดเจนในใจ Cibus est vita อาหารคือชีวิต…หรือ Semper parataจงพร้อมอยู่เสมอ ความทรงจำวูบแล่นทำให้หัวใจเธอบีบรัด แต่ก็เพิ่มแรงผลักดันให้อยากเรียนรู้ต่อ


จนกระทั่งลูปาปิดตำราลงอย่างช้า ๆ เสียงดัง ปึบ ที่ทำให้โมนีก้าเงยหน้าขึ้นทันที “พอแล้วสำหรับวันนี้ เจ้าทำได้ดีกว่าที่ข้าคิดไว้มาก” โมนีก้ายืดแขนบิดขี้เกียจจนกระดูกลั่น กร๊อบ เมื่อจบคาบเรียนเรียบร้อย “โห…เล่นเอาเมื่อยเลยค่ะ แต่สนุกนะ สำเนียงมันตลกดี” เธอหัวเราะเบา ๆ


ลูปามองเธอด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แฝงความภูมิใจ ก่อนจะกล่าวต่อ “จากนี้เจ้าสามารถพักผ่อนตามใจชอบ บ้านหลังนี้จะเป็นที่อยู่ของเจ้าจนกว่าเจ้าจะพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งต่อไป”


ครั้งต่อไป?...อ้อ โมนีก้าชะงักดวงตาสีเงินจ้องตรงไปที่ลูปา “แล้ว…ตกลงค่ายจูนิเปอร์คือยังไงนะคะ? มันคือค่ายอะไรหรอคะ?” โมนีก้าถามขึ้นมาด้วยความสงสัยใคร่รู้ของเธอ


หญิงสาวผมทองหัวเราะเบา ๆ ส่ายหน้า “ค่ายจูปิเตอร์…ไม่ใช่จูนิเปอร์” น้ำเสียงเคร่งขรึมผสานกับอารมณ์ขันน้อย ๆ ก่อนนางจะอธิบายต่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ “ค่ายจูปิเตอร์คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าลูกครึ่งเทพโรมัน ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองและฝึกฝนบุตรหลานแห่งเหล่าเทพรวมถึงผู้สืบเชื้อสายของพวกเขา สถานที่นั้นอยู่ใกล้เมืองซานฟรานซิสโก ซ่อนตัวในอุโมงค์บริการข้างอุโมงค์คัลลีคอตต์บนเนินโอ๊คแลนด์”


โมนีก้าพยักหน้าเบา ๆ พึมพำกับตัวเอง “แอบเนียนมาก…คงไม่มีใครรู้เลยว่ามีค่ายเทพอยู่ข้าง ๆ ถนนเลยเราะ หมอกบังตา? หรือแดนลับแลวะเนี้ย”


ทว่าลูปาก็พูดต่อน้ำเสียงมั่นคงจริงจังขึ้น “ผู้บัญชาการสูงสุดของค่ายหรือที่เราเรียกว่าพรีเตอร์ตอนนี้คือ ยาสมิน อาเดน และ ควินตัส แอนเดอร์สัน ทั้งสองคือผู้นำที่เด็ดเดี่ยว และค่ายแห่งนั้น…คือคู่ขนานของค่ายฮาล์ฟบลัดในตำนานกรีก”


โมนีก้าเบิกตากว้าง ปากอ้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะร้องออกมา “เดี๋ยวๆๆๆ คือ…นอกจากฝึกเป็นทหารแล้ว หนูยังต้องไปอยู่ในค่ายที่เต็มไปด้วยครึ่งเทพโรมันด้วยเหรอ!? พระเจ้า…นี่มันไม่ใช่ชีวิตแม่บ้านที่หนูใฝ่ฝันไว้เลยนะคะ!!” ลูปาหัวเราะน้อย ๆ แววตาคมมองเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังเห็นเด็กเอาแต่ใจ “เจ้าจะได้สิ่งที่มากกว่านั้นสิทธิ์ในการเลือกชะตาชีวิตของตัวเอง ใครจะรู้เหล่าบุตรครึ่งเทพหลายคนมีอะไรบางอย่างน่าสนใจนัก” โมนีก้าเม้มปากแน่นเมื่อได้รับรู้ทุกอย่างตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรง…ทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น ทั้งไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะต้องก้าวเข้าสู่โลกแบบนั้นจริง ๆ ก่อนที่เธอจะก้มหัวลาอีกฝ่าย เพื่อที่จะออกไปจากห้องสมุดแห่งนี้ต่อไป เอาล่ะ ยังเหลือเวลาหน่อย เธออาจจะไปฝึกอย่างอื่นได้ก็ได้นะ อาจจะมึน ๆ ไปหน่อย แต่ก็อาจจะดีก็ได้ สำหรับคนที่ต้องฝึกอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำว่า บินให้สูงจนเอื้อมไม่ถึง ชีวิตเธอถึงจะสงบสุข



อื่น ๆ: มาเรียนจ้าาา มาเรียนแล้ววว

รางวัล: +15 EXP, +2 คะแนนบัดดี้

ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15 [God-29] ลูปา

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15 


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-8-27 13:08
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-8-27 13:08
โพสต์ 40112 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-27 12:39
โพสต์ 40,112 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ +6 ความศรัทธา จาก น้ำยาย้อมผม  โพสต์ 2025-8-27 12:39

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-8-30 21:01:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันที่ 30 เดือนสิงหาคม ปี 2558
ช่วงสาย เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ห้องสมุด บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ฝึกภาษาละติน)

           ห้องสมุดอันเงียบสงัดของบ้านหมาป่าอบอวลด้วยกลิ่นหมึกและกระดาษเก่า ผสานกับแสงแดดที่ลอดผ่านกระจกสีสะท้อนลงมาบนโต๊ะไม้โอ๊คกลางห้อง เสียงก้าวเท้าเบา ๆ ของโมนีก้าดังก้องไปตามพื้นไม้ เธอถือหนังสือเรียนภาษาละตินไว้ในมือก่อนจะยกสายตาขึ้นเห็นลูปาในร่างมนุษย์นั่งรออยู่ที่ฝั่งตรงข้าม เขายกคิ้วขึ้นน้อย ๆ พลางวางมือบนตำราเล่มหนาที่เปิดค้างเอาไว้

           “Salve, Moneka.” เสียงกังวานเรียบเอ่ยเป็นภาษาละตินอย่างชัดเจน

           โมนีก้ายักคิ้วแล้วตอบกลับด้วยสำเนียงที่ยังติดขัดนิด ๆ “Salve… ลูปา” เสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดจากปากเธอ เธอยกมือเกาหัวพลางพึมพำ “โอ้ย ฟังเหมือนโรแมนติกจังเลยนะ ภาษาโรมันเนี่ย” ดวงตาสีอำพันของลูปาหยีลงเล็กน้อยคล้ายยิ้ม เธอเอื้อมมือพลิกหน้ากระดาษแล้วเคาะเบา ๆ ที่บรรทัดถัดไป “Hodie discimus verba cotidiana วันนี้เราจะเรียนคำทักทายและประโยคใช้ในชีวิตประจำวัน”

           โมนีก้าหัวฟูเล็กน้อยจากการรีบวิ่งมาห้องสมุด เธอก้มมองตัวอักษรละตินยาวเหยียดแล้วทำหน้ามึนไปแวบหนึ่ง แต่เมื่อฟังลูปาอธิบายทีละประโยค ความเข้าใจค่อย ๆ ซึมซับเข้ามาเหมือนสายลม เธอพยายามออกเสียงตาม “Quid agis?” แล้วหัวเราะคิกเมื่อสำเนียงของตัวเองฟังคล้ายจะกลายเป็นภาษาเอเลี่ยน “ไม่เลวนี่” ลูปาเอ่ยเสียงเรียบแต่แววตายังอบอุ่น โมนีก้าแอบเชิดคางอย่างภูมิใจ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาหนังสือแล้วลองต่อบทสนทนาง่าย ๆ “Quid agis? … Bene, gratias.”

           เธอเอ่ยพร้อมระบายยิ้มหวาน ลูปาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่าทำได้ดี “ดีมาก ลูกข้า” เธอเผลอหลุดคำเรียกอ่อนโยนออกมาโดยไม่รู้ตัว โมนีก้าเบิกตากว้างหัวใจเต้นวูบหนึ่ง แต่เธอรีบก้มหน้ากับหนังสือกลบเกลื่อนแล้วเอ่ยงึมงำ “ภาษานี้…โรแมนติกเกินไปแล้วจริง ๆ ด้วย” เธอพูดไปพลางยิ้มกว้าง รู้สึกว่าการเรียนภาษาละตินไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เธอเฝ้ารอเสียแล้วละมั้ง

           เมื่อบทเรียนภาษาละตินจบลงโมนีก้าก็ยังนั่งควงปากกาดินสอเล่นไปมา เธอลอบเหลือบสายตาขึ้นสบกับลูปาในร่างมนุษย์ที่กำลังจัดเรียงตำราบนโต๊ะไม้ข้าง ๆ ความอยากรู้อยากเห็นพุ่งพล่านจนทนไม่ไหว เธอเลยถามออกไปเสียงแผ่ว “คุณลูปา… หนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่นี่มันคืออะไรกันแน่หรอคะ?”

           สตรีงามหยุดมือชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เสียงนั้นงามแต่แฝงความอบอุ่น “สนุกหรือเปล่าล่ะ เวลาอ่าน?” เธอไม่ได้ตอบตรง ๆ แต่หันมาช้อนตามองเธอราวกับกำลังล้อเลียน

           โมนีก้าหน้าแดงนิด ๆ ก้มลงกอดหนังสือไว้แน่นแล้วพึมพำ “ก็…สนุกดีนะคะ แต่มันทำให้เขินแปลก ๆ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนแอบสอดรู้เรื่องคนอื่นยังไงไม่รู้” ลูปายกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะเข้ามาใกล้ เอื้อมมือแตะเบา ๆ บนหน้าหนังสือเรียนละตินที่เปิดค้างอยู่แล้วเอ่ยช้า ๆ “งั้นก็ศึกษาไว้เถอะ มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตชาวเดมิก็อด ต่อให้เจ้ามาจากโลกมนุษย์ แต่ที่นี่…ทุกคนก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มีสิทธิ์หัวเราะ มีสิทธิ์รัก มีสิทธิ์เผลอโง่ในเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ สนุกกับช่วงวัยให้เต็มที่ อย่ารีบโตเกินไป แต่ก็ต้องเข้มแข็งพอที่จะดูแลตนเองได้” คำพูดนั้นทิ้งค้างไว้ราวกับบรรยากาศในห้องหยุดนิ่ง โมนีก้านั่งอึนไปหลายอึดใจ ดวงตากลมโตจ้องแผ่นหลังของลูปาที่กำลังเดินออกจากห้องสมุดไปอย่างสง่างาม ประตูไม้ปิดลงเงียบงันทิ้งเธอให้นั่งฟุบกับตำราภาษาละตินที่ยังเปิดอยู่ตรงหน้า

           “ให้เต็มที่…เหรอ” เธอพึมพำออกมาเบา ๆ แล้วหัวเราะแห้ง ๆ คนเดียว พลางใช้นิ้วเคาะเบา ๆ บนหน้ากระดาษราวกับอยากสลักคำทิ้งท้ายของลูปาเก็บไว้ในหัวใจ


อื่น ๆ: เขิน มาเขินนน เห่ออ สาวสวย
รางวัล: +15 EXP, +2 คะแนนบัดดี้
ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15 [God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปรานของเทพ +25



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-8-30 21:32
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-8-30 21:32
โพสต์ 21286 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-30 21:01
โพสต์ 21,286 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-8-30 21:01
โพสต์ 21,286 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2025-8-30 21:01

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +4 ย่อ เหตุผล
God + 4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-9-2 17:33:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 02 เดือนกันยายน ปี 2558

ช่วงสาย เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ ห้องสมุด บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ฝึกภาษาละติน)


ภายในห้องสมุดเงียบสงบจนได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของโมนีก้าที่ก้าวเข้าไปที่ห้องสมุด เธอเงยหน้ามองรอบห้องด้วยความตื่นตาเหมือนเคยเพราะที่นี่ความโอ่อ่าและศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่นี้ทำให้เธอเหมือนถูกพาออกจากโลกภายนอกทันที ชั้นหนังสือสูงเสียดเพดานเรียงรายไปด้วยตำราโบราณ กลิ่นไม้เก่าผสมกับกลิ่นหมึกจาง ๆ คล้ายจะสะกดให้เธอจมลึกสู่โลกแห่งความรู้โดยไม่รู้ตัว สายตาของโมนีก้าหยุดลงเมื่อเห็นร่างของสตรีผู้เลอโฉมยืนอยู่ข้างโต๊ะไม้โอ๊คกลางห้อง หญิงสาวเรือนผมสีทองยาวดุจแพรไหม สวมชุดสีขาวประดับลวดลายเงินระยับ ดวงตาสีอำพันสงบเย็นแฝงประกายลึกล้ำ และใบหูเรียวยาวที่ยืนยันชัดเจนว่านางไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาหากแต่คือเทพีลูปาแม่หมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ในร่างมนุษย์


โมนีก้ายกยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายสดใส “วันนี้มาเรียนแล้วค่ะ คุณลูปา!” เสียงใสของเธอสะท้อนก้องไปทั่วห้องสมุด ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินไปทิ้งตัวลงนั่งตรงเก้าอี้หนังนุ่มข้างโต๊ะอย่างกระตือรือร้น 


ลูปายกยิ้มบาง ๆ ตอบรับ น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความหนักแน่น “ดีมาก โมนีก้า… ความพยายามของเจ้าจะเป็นประตูที่เปิดไปสู่สิ่งยิ่งใหญ่ จำไว้นะ ภาษาโรมันมิใช่แค่ถ้อยคำ หากคือกุญแจไขเรื่องราวของสายเลือดรอบกายเจ้า”


โมนีก้าหัวเราะคิกเล็กน้อยพลางหยิบสมุดบันทึกและปากกามาเตรียมตัว “ค่ะ! ถึงหนูจะไม่ฉลาดมากแต่จะพยายามเต็มที่เลยนะคะ”


บทเรียนเริ่มต้นขึ้น แสงแดดอ่อนที่ส่องผ่านกระจกสีหลากเฉดกระทบหน้ากระดาษตรงหน้าของโมนีก้าเธอเอียงคอจดอักษรละตินทีละตัว เสียงของลูปาที่เอื้อนเอ่ยคำโบราณดังก้องชัดเจนในหัวใจ สร้างทั้งความท้าทายและความตื่นเต้น แม้จะสะกดผิดบ้าง เสียงอ่านยังติด ๆ ขัด ๆ แต่ดวงตากลมโตของโมนีก้าก็เปล่งประกายด้วยความตั้งใจ ลูปายกสายตาขึ้นจากหนังสือ มองเด็กสาวด้วยความชื่นชมในความพยายาม ทั้งที่เธอไม่จำเป็นต้องทำก็ได้แต่เลือกจะเรียนรู้ด้วยหัวใจของตัวเอง


บรรยากาศห้องสมุดอบอวลด้วยพลังบางอย่าง พลังที่ทำให้ทุกตัวอักษรที่ถูกจดลงไปในสมุดของโมนีก้าเหมือนมีชีวิต และทุกคำสอนจากลูปาก็กลายเป็นเส้นทางที่ค่อย ๆ หล่อหลอมจิตวิญญาณนักรบในตัวเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


โมนีก้าวางปากกาลงกับโต๊ะไม้โอ๊คแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้เมื่อใกล้เรียนคาบนี้เสร็จแล้ว เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตากลมโตมองตัวอักษรละตินที่เขียนจนเต็มหน้าสมุด ก่อนที่ริมฝีปากแดงอิ่มจะเบะน้อย ๆ พร้อมเสียงบ่น “ทำไมหนูไม่เกิดมาเป็นโรค...ดิสเล็กเซียอะไรนั่นบ้างนะคะ จะได้อ่านภาษาโรมันออกเหมือนพวกครึ่งเทพคนอื่นสิ คนอื่นเขาเรียนกันสองครั้งก็อ่านได้แล้ว... แต่ดูหนูสิ เรียนมา 3 ครั้งแล้ว ยังพอพูดได้บ้างอ่านได้บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ เอง” น้ำเสียงเต็มไปด้วยทั้งความน้อยใจและขี้เล่นในแบบของเธอ


ลูปายกสายตาจากหนังสือเล่มหนาที่กำลังเปิดอยู่ หญิงสาวผู้เปี่ยมอำนาจในร่างมนุษย์หมาป่าขาวหัวเราะเบา ๆ แววตาเป็นประกายอ่อนโยน “ถ้าเจ้าจะบ่น... ก็ลองบ่นเป็นภาษาละตินสิ”


โมนีก้าชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะแกะริมฝีปากบ่นต่อทันที คราวนี้ใช้ภาษาละตินที่เพิ่งเรียนมา เสียงของเธอคล่องและชัดเจนกว่าที่คิด ราวกับกำลังพรั่งพรูออกมาจากหัวใจโดยไม่ทันรู้ตัว เมื่อเธอหยุดพูดบรรยากาศในห้องก็เงียบกริบ แล้วเสียงหัวเราะใสของลูปาก็ดังขึ้น “ชัดเจนยิ่งกว่าที่เจ้าคิดเสียอีก” นางวางมือลงบนโต๊ะ ก้มศีรษะเล็กน้อยมองเด็กสาวด้วยแววตาที่ทั้งเอ็นดูและชื่นชม 


“ครั้งหน้า... จะเป็นครั้งสุดท้ายของการฝึกแล้ว จากที่ข้าดูมาเจ้าพร้อมแล้วโมนีก้า สิ่งที่เจ้าขาดไม่ใช่ความสามารถแต่คือความเชื่อมั่นในตนเอง”


โมนีก้าเบิกตากว้าง แก้มแดงระเรื่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ “จริงหรอคะ?! ครั้งหน้ารอบสุดท้ายแล้วนี้หนู...พูดได้จริง ๆ หรอคะเมื่อกี้?...นึกว่าพูดมั่ว ๆ เสียอีก”


“ไม่ใช่แค่พูดได้แต่เจ้าพูดได้อย่างไพเราะทีเดียว” ลูปายิ้มบาง น้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน “เจ้าต้องมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้นเชื่อในหัวใจของเจ้า เพราะนั่นคือสิ่งที่จะนำพาเจ้าไปสู่ค่ายจูปิเตอร์ได้” โมนีก้าเม้มปากหัวใจเต้นแรง เธอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบา ๆ พยักหน้ารับอย่างจริงจัง แต่สายตาก็ยังเป็นประกายสดใสเหมือนเด็กที่พึ่งถูกชมครั้งใหญ่ บรรยากาศระหว่างทั้งสองอบอุ่นจนกระทั่งแสงแดดอ่อนส่องลอดหน้าต่างกระจกสีเข้ามาเปลี่ยนช่วงเวลาเรียนที่แสนหนักใจให้กลายเป็นช่วงเวลาที่โมนีก้าจะไม่มีวันลืม


อื่น ๆ: อีกรอบก็ครบแล้วโว้ยยยยย
รางวัล: +15 EXP, +2 คะแนนบัดดี้
ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15 [God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปรานของเทพ +25

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-9-2 17:43
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-9-2 17:43
โพสต์ 20156 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-2 17:33
โพสต์ 20,156 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-2 17:33
โพสต์ 20,156 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2025-9-2 17:33

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-9-5 00:06:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-9-5 00:31

วันที่ 05 เดือนกันยายน ปี 2558

ช่วงเปลี่ยนวันใหม่ 00.00 - 02.00 น.  ณ ห้องสมุด บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (เรียนละติน - ทดสอบภาษาละติน) 


โถงห้องสมุดที่เงียบสงัดในยามค่ำคืนที่เป็นช่วงกลางวันอันยาวนานยิ่งกว่าเดิม โมนีก้าในชุดนอนกระโปรงผ้าโปร่งสีม่วงครามยังไม่ทันเปลี่ยนชุดด้วยซ้ำ เธอวิ่งเท้าเบามาถึงหน้าประตูห้องสมุดแล้วผลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยสดใสเจือรอยตื่นเต้นจนหายง่วงไปหมด “คุณลูปา หนูพร้อมแล้วค่ะ!” เสียงใสของเธอดังก้องไปทั่วห้อง ร่างหญิงสาวผมขาวยาวสลวยที่ยืนอยู่กลางแสงไฟ ลูปาในร่างสตรีงามหันมามองพร้อมรอยยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความสงบและความเมตตา


“ใจร้อนเหลือเกิน เด็กน้อย ก่อนจะทดสอบ เจ้าควรทบทวนอีกครั้ง” เสียงทุ้มนุ่มแฝงอำนาจดังขึ้น นางกวักมือเรียกให้โมนีก้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า โมนีก้าวิ่งมานั่งลง แก้มแดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้น ดวงตาสีเงินเทาเป็นประกายวาว เธอพยักหน้าหงึก ๆ “ได้เลยค่ะ หนูจะตั้งใจสุด ๆ เลย”


บนโต๊ะมีตำราละตินโรมันวางอยู่หลายเล่ม เปิดหน้าที่เต็มไปด้วยตัวอักษรโบราณ ลูปาใช้ปลายนิ้วเรียวยกบรรทัดขึ้นมา ชี้ให้โมนีก้าอ่านออกเสียงทีละคำ เสียงของเธอสั่นน้อย ๆ ตอนแรก แต่เพราะความตื่นเต้นมากกว่าความกลัว ยิ่งอ่านยิ่งไหลลื่นขึ้นเรื่อย ๆ “Vita est iter…” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้บางคำจะติดขัด แต่ก็ไม่ถอย ดวงตาเป็นประกายเหมือนเด็กกำลังเล่นเกมที่ชอบที่สุด ลูปาหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางที่ทุ่มเทเกินคาด “ดีมากโมนีก้า ดวงตาของเจ้าบอกข้าว่าเจ้าเข้าใจแล้ว แม้ยังไม่สมบูรณ์ แต่หัวใจเจ้ามีไฟ…นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”


โมนีก้ายิ้มกว้าง หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก เธอพลิกหน้าหนังสือไปอ่านต่อเองโดยไม่ต้องให้บอก “หนูทำได้แน่ค่ะ หนูอยากไปค่ายจูปิเตอร์แล้วจริง ๆ เลย!” ในบรรยากาศเงียบสงัดของห้องสมุด เสียงใสของเด็กสาวผู้เปี่ยมด้วยความหวังยังคงก้องกังวาน แม่หมาป่าลูปายืนมองอย่างอ่อนโยนราวกับมารดาที่เฝ้าดูการเติบโตของลูก ความอบอุ่นและแรงศรัทธาจากผู้เป็นครูและศิษย์ส่องประกายจนทำให้ค่ำคืนนั้นต่างจากทุกคืนที่ผ่านมา


เมื่อจบการทบทวนลูปายกมือขึ้น พลิกฝ่ามือเบา ๆ ข้อสอบที่เหมือนม้วนพาไพรัสถูกเสกขึ้นกลางอากาศก่อนจะวางลงตรงหน้าโมนีก้าอย่างสง่างาม กลิ่นหมึกเก่าโชยออกมาแผ่ว ๆ ราวกับบททดสอบนี้ผ่านการใช้มานับพันปี (ทั้งที่พึ่งคิด) “นี่คือบททดสอบสุดท้ายของเจ้า เขียนตามความเข้าใจของเจ้าให้ครบ อย่าเพียงลอกคำ แต่จงใส่หัวใจของเจ้าไปด้วย” น้ำเสียงของลูปาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและเมตตา


โมนีก้าพยักหน้าหงึก ๆ ตาเป็นประกาย มือรีบคว้าปากกาหมึกซึมขึ้นมาอย่างกับกำลังแข่งวิ่งร้อยเมตร เสียงปากกาครูดไปบนแผ่นกระดาษดังกรีดกรายรวดเร็วอย่างกับมือเธอถูกไฟเร่งเร้า ทุกประโยคที่เขียนเต็มไปด้วยความพยายามและความมั่นใจ แต่ลายมือ…โอ้โห อย่างกับไก่กระโดดเล่นหมึกสาด ตัวหนังสือละตินที่เขียนลงไปบิดเบี้ยวไปหมด บางคำเหมือนเขียนด้วยเท้าด้วยซ้ำ


บททดสอบภาษาละติน

1) โรมูลัสและเรมัสถูกพบและเลี้ยงดูโดยใคร?

ก. หมาป่า

2) เหตุผลหลักที่ทำให้โรมูลัสและเรมัสถูกทิ้งคืออะไร?
ค. เนื่องจากความขัดแย้งในราชวงศ์

3) โรมูลัสและเรมัสตัดสินใจสร้างเมืองบนเนินเขาใด?
ก. พาลาติน

4) เหตุการณ์ใดที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเรมัส?
ค. การทะเลาะวิวาทกับโรมูลัส

5) โรมูลัสได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอะไร?
ข. กรุงโรม

6) อธิบายความสำคัญของตำนานโรมูลัสและเรมัสต่อชาวโรมันโบราณ

ตำนานโรมูลัสและเรมัสมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวโรมันโบราณเพราะทำหน้าที่เป็น Foundation Myth แปลไทยคือ ตำนานกำเนิด ที่ให้ความคำอธิบายในการก่อตั้งกรุงโรม อธิบายจุดเริ่มต้นของแง่มุมทางธรรมชาติ เหนือธรรมชาติหรือทางสังคม เป็นเรื่องราวที่สองพี่น้องเป็นลูกหลานของเทพมาร์สและถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่า ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเหนือธรรมชาติแต่ยังเชื่อมโยงโรมเข้ากับคุณลักษณะของความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และโชคชะตาที่ถูกลิขิตแล้วว่าจะยิ่งใหญ่ ตำนานนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเล่า แต่เป็นเครื่องมือทางการเมืองและอัตลักษณ์ที่ช่วยชาวโรมันนิยามตนเองในฐานะผู้สืบสายเลือดกึ่งเทพเพื่อหาความชอบธรรมในการปกครองชนชั้นแรงงานและผู้ถูกกำหนดให้เป็นผู้นำในอนาคต


7) เปรียบเทียบและวิเคราะห์บุคลิกของโรมูลัสและเรมัส

โรมูลัส มักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความทะเยอทะยาน อำนาจและการตัดสินใจเด็ดขาด การที่เขาฆ่าเรมัสเพื่อยืนยันสิทธิในการก่อตั้งเมืองแสดงลักษณะบุคลิกที่มีความเป็นผู้นำแบบบังคับบัญชาหรือ authoritarian leadership ที่พร้อมยอมเสียสละสายสัมพันธ์ใกล้ชิดเพื่อความอยู่รอดของรัฐ ซึ่งในเชิงจิตวิทยาสะท้อนการให้อัตลักษณ์ส่วนรวมเหนือกว่าสายสัมพันธ์ส่วนบุคคล


เรมัสเป็นในทางตรงข้ามบุคลิกของเขามักถูกมองว่าเป็นตัวแทนของการท้าทาย หัวขบถและความเป็นพี่น้อง เขาไม่ยอมรับอำนาจของโรมูลัสและแสดงออกผ่านการล้อเลียน บุคลิกนี้สะท้อนแนวโน้มของผู้ที่ยึดถือความสัมพันธ์และการท้าทายอำนาจที่ไม่เป็นธรรมมากกว่าความทะเยอทะยานทางการเมือง


ตำนานนี้ชี้ให้เห็นว่าโรมันเลือกยืนข้างโรมูลัสคือการเลือกความเป็นรัฐ ที่เหนือกว่าความสัมพันธ์ด้านเครือญาติ และในเชิงจิตวิทยาสะท้อนถึงความขัดแย้งดั้งเดิมของมนุษย์ระหว่างความผูกพันส่วนตัวกับการยอมสละเพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า


8) หากคุณเป็นโรมูลัส คุณจะแก้ปัญหาความขัดแย้งกับเรมัสอย่างไร?

หากโมนีก้าต้องอยู่ในบทบาทโรมูลัส ฉันคงไม่เลือกฆ่าเรมัสตรง ๆ แบบในตำนาน แต่จะใช้วิธี เจรจาและสร้างพื้นที่ร่วมเพื่อประนีประนอม ฉันมองว่าความขัดแย้งระหว่างพี่น้องเกิดจากการแย่งชิงอัตลักษณ์และพื้นที่ยืน ถ้าสามารถยอมรับความแตกต่างและสร้างระบบที่ให้ทั้งสองคนรู้สึกมีคุณค่าได้ ก็อาจเปลี่ยนโศกนาฏกรรมให้เป็นพันธมิตรของสองเสาหลักที่ก่อร่างเมืองให้แข็งแรงกว่าการก่อตั้งด้วยเลือดเพียงฝ่ายเดียว


9) คุณคิดว่าตำนานนี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับการก่อตั้งเมืองและการสร้างชาติ?

ในมุมของฉันเรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การสร้างชุมชนหรือรัฐใหม่มักต้องเผชิญกับความขัดแย้งพื้นฐานระหว่าง สายสัมพันธ์ส่วนตัว (เช่น พี่น้อง ครอบครัว) กับ อุดมการณ์ส่วนรวม (การอยู่รอดและความเป็นปึกแผ่นของเมือง) การที่โรมูลัสเลือกเมืองเหนือสายเลือด บ่งบอกถึงกลไกทางจิตที่ยอมสละความผูกพันเพื่ออุดมการณ์ที่ใหญ่กว่าแม้จะเจ็บปวดก็ตาม

แต่ในอีกด้านตำนานนี้สอนว่า การก่อตั้งรัฐย่อมต้องอาศัยการตัดสินใจเด็ดขาดและการนิยามอัตลักษณ์ร่วมของผู้คน แม้ต้องแลกด้วยความรุนแรงหรือการสูญเสีย ตำนานการฆ่าพี่น้องจึงเป็นรหัสวัฒนธรรม ที่ชาวโรมันใช้ย้ำว่าเมืองของพวกเขาถูกสร้างขึ้นจากการเลือกเมืองเหนือสิ่งอื่นใด และนั่นคือพื้นฐานที่ทำให้โรมมีความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณและพร้อมจะเป็นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่


10) จงเขียนเรื่องราวสั้นๆ (แฟนฟิคสมมติ) โดยมีโรมูลัสและเรมัสเป็นตัวละครหลัก
Sub sole occidente, gemini filii lupa nutriti super colles steterunt. Ventus leniter per herbas flaventes cucurrit, quasi dii ipsos spectarent.

ณ ยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า สองพี่น้องผู้ถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่ายืนอยู่บนเนินเขา ลมพัดอ่อนโยนผ่านทุ่งหญ้าสีทองราวกับเหล่าเทพเจ้ากำลังทอดมองลงมา


Romulus oculos in Palatinum fixit et dixit: "Hic, Remi, futura Roma orietur."

โรมูลัสจ้องมองไปยังเนินพาลาทีนแล้วกล่าวว่า “ที่นี่แหละเรมัส ที่ซึ่งโรมในอนาคตจะถือกำเนิดขึ้น”


Remus autem super Aventinum ascendit et risit: "At hic collis altior est, frater. Urbs mea plus caeli tanget."

แต่เรมัสกลับก้าวขึ้นสู่เนินอาเวนไทน์แล้วหัวเราะ “แต่ว่าเนินนี้สูงกว่าพี่ชาย เมืองของข้าจะสัมผัสท้องฟ้าได้มากกว่า”


Silentium breve inter eos cecidit. In vultibus eorum non solum certamen, sed etiam amor fraternus ardebat.

ความเงียบโรยตัวลงระหว่างพวกเขา บนใบหน้านั้นมิใช่เพียงการแก่งแย่ง หากยังมีความรักแบบพี่น้องลุกโชนอยู่ด้วย


Romulus murmuravit: "Non contra te pugno, sed pro urbe quae aeternitatem merebitur."

โรมูลัสเอ่ยเบา ๆ “ข้ามิได้ต่อสู้เพื่อต่อต้านเจ้า แต่เพื่อเมืองที่จะคู่ควรแก่ความเป็นนิรันดร์”


Remus respondit: "Si ita est, frater, tunc in memoria populi nostri ambo stabimus: tu conditor, ego umbra quae admonet."

เรมัสตอบกลับ “ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่ชาย ในความทรงจำของผู้คน เราจะยืนอยู่ด้วยกัน เจ้าคือผู้ก่อตั้ง ส่วนข้าคือเงาที่คอยเตือนใจชาวประชา”


11) แนะนำตัวเอง สายเลือด และสิ่งที่อยากให้เพื่อนในบ้านรู้จัก (เป็นภาษาละตินพร้อมคำแปล)


Nomen mihi est Moneka M. Blossom, sive Moneka Marantear Blossom. Nomen “Mone” ex voce “Anemone” ortum est, quod significat “filia venti” vel “flos venti.” Hoc nomen symbolizat fragilitatem vitae, incertitudinem, spem, tutelam, atque amorem et desiderium.

ฉันชื่อ Moneka M. Blossom หรือ Moneka Marantear Blossom ซึ่ง Mone มาจากคำว่า Anemone คือดอกไม้ที่แปลว่า "บุตรสาวแห่งสายลม" หรือ "ดอกไม้แห่งสายลม" สื่อถึงความเปราะบาง ความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต ความคาดหวัง การปกป้อง รวมถึงความรักและความอาลัย 


Ego sum filia Cereris, nepotesque Iani dei. Quod volo ut amici mei in domo sciant est hoc: sum natura laeta et amo amplexus calidos. Cupio amorem et intellectum a me ad omnes dare atque ab omnibus accipere.

ฉันเป็นธิดาแห่งเซเรส ลูกหลานของเทพเจนัส สิ่งที่อยากให้เพื่อนๆ รู้จักคือ ฉันเป็นคนร่าเริงที่ชอบอ้อมกอดอันอบอุ่นและการได้รับและส่งมอบความรักและความเข้าใจให้ทุกคนนะ



แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกระดาษก็เต็มพรืด โมนีก้าเงยหน้าขึ้นมา หอบนิด ๆ เหมือนเพิ่งวิ่งเสร็จ แล้วชูข้อสอบยื่นให้ด้วยรอยยิ้มสดใส “เสร็จแล้วค่าาา~”


ลูปารับกระดาษมา ดวงตาคมกริบกวาดมองลายมือที่เหมือนร่องรอยการต่อสู้กับไก่ทั้งเล้า นางกลั้นหัวเราะไว้ พลางพยักหน้าช้า ๆ “เจ้าทำได้เร็วกว่าที่คิด ข้าจะตรวจให้เอง…”


โมนีก้าถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ก่อนยิ้มตาหยีแล้วโบกมือ “งั้นหนูไปพักก่อนนะคะ บายยยย~” ไม่รอให้ลูปาพูดอะไรต่อ เธอวิ่งตัวปลิวออกจากห้องสมุด ผมยาวสีม่วงครามปลิวสะบัดเหมือนธงแห่งชัยชนะ กลายเป็นภาพของเด็กสาวผู้เปี่ยมพลังและความสดใสที่ทั้งน่าขำและน่ารักไปพร้อมกัน ทิ้งให้แม่หมาป่าลูปาส่ายหน้ายิ้มบาง ๆ อย่างเอ็นดูในความรีบเร่งไร้แบบแผนของศิษย์คนนี้



อื่น ๆ: กร๊ีดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รางวัล: +1 Level up / +5 Point และ +15 INT  / +10 คะแนน
+15 EXP, +2 คะแนนบัดดี้
ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15 [God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปรานของเทพ +25

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-9-5 13:19
God
คุณได้รับ 100 EXP โพสต์ 2025-9-5 13:19
God
รางวัล: +15 EXP / +2 คะแนน รางวัลนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการทดสอบ เป็นรางวัลเฉพาะเข้าคลาสเรียนรู้ภาษาละติน  โพสต์ 2025-9-5 13:18
โพสต์ 54764 ไบต์และได้รับ 40 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-5 00:06
โพสต์ 54,764 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-9-5 00:06

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +10 ย่อ เหตุผล
God + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-9-9 22:09:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
08 · กันยายน · 2025 · 19.00 น.

แสงสุดท้ายของวันคล้อยต่ำลงหลังแนวป่า หุบเขาโซโนมาโอบล้อมด้วยหมอกบางที่ลอยเอื่อยราวกับม่านแห่งความลับ ค่ำคืนนี้ความเงียบสงบปกคลุมทั่วบริเวณบ้านไม้เก่าแก่ที่ฝังตัวอยู่ท่ามกลางหมู่ต้นสนสูงใหญ่ แสงตะวันอัสดงแต้มสีทองอมส้มบนฟ้า ก่อนจะค่อย ๆ ถูกกลืนด้วยม่วงครามแห่งรัตติกาล

เอสเปอร์นั่งอยู่ในห้องสมุดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหมาป่า ห้องขนาดใหญ่ที่ผนังไม้โอ๊คเก่าแก่ถูกสลักลวดลายวิจิตรจนเผยให้เห็นร่องรอยของกาลเวลา แถวตู้หนังสือสูงตระหง่านทอดยาวไปจนสุดสายตา เต็มไปด้วยตำราโบราณที่ภาษาส่วนใหญ่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ หากแต่เป็นอักษรละติน กรีกโบราณ และสัญลักษณ์ลึกลับที่เด็กหนุ่มไม่เคยพบเห็น

เขานั่งเกร็งอยู่บนเก้าอี้หนังสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลทอดมองไปรอบห้อง ร่างกายยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวสะอาด กางเกงสแล็กเข้ารูป และโค้ทสีเทาที่พ่อเลือกมาให้ ท่าทางของเขาดูสง่างามแม้จะนั่งเฉย ๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไม่สบายใจ มือข้างหนึ่งกำลังบีบเข้าหากันแน่นอยู่บนตัก เขายังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากมุมห้อง ก่อนที่ร่างสีขาวที่เขาเคยวิ่งตามมาทั้งวันจะเปลี่ยนรูปร่างต่อหน้าต่อตา เส้นขนสีหิมะหดหาย กลายเป็นเส้นผมยาวตรงสลวยสีเงินขาวที่ส่องประกายภายใต้แสงโคมไฟ ดวงตาสีเหลืองอำพันยังคงเดิม ดวงตาที่ทั้งสง่า ดุดัน และแฝงปัญญาล้ำลึก

หญิงสาวในร่างมนุษย์ก้าวออกมาด้วยความมั่นใจ ผิวขาวเนียนราวกับงาช้าง โครงหน้าได้รูปที่งดงามเกินกว่าจะเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา เธอสวมชุดคลุมยาวสีน้ำตาลเข้มที่ถักทอจากขนสัตว์ บนคอมีจี้เงินรูปหมาป่าแขวนอยู่ แสงไฟสะท้อนประกายออกมาราวกับมีชีวิต

เอสเปอร์กลั้นหายใจชั่วขณะ ดวงตาเบิกเล็กน้อย แต่ยังพยายามเก็บท่าทีให้สงบที่สุดตามนิสัยที่ถูกฝึกมา “คุณ เป็นใครกันแน่”

หญิงสาวยกยิ้มเล็กน้อย ริมฝีปากบางขยับอย่างเชื่องช้า “ข้า… คือ ลูปา ผู้ที่เจ้าควรเรียกว่านำทาง มิใช่เพียงหมาป่าที่เจ้าตามมา มารดาแห่งลูกหลานโรม”

เอสเปอร์ชะงักไป หัวใจเต้นรัว เสียงพ่อในความทรงจำพลันดังขึ้นอีกครั้ง “คุณ!! พูดจริงเหรอครับ!!”

เขากำหมัดแน่น พยายามหาคำพูดแต่หญิงสาวกลับเอ่ยขึ้นต่อเสียก่อน “เจ้าจำเป็นต้องเรียนรู้ ไม่ใช่เพียงความจริง แต่ยังรวมถึงภาษาที่สายเลือดของเจ้าใช้สื่อสารกับทวยเทพและสัญลักษณ์แห่งพลัง”

เธอเดินไปหยุดตรงโต๊ะไม้โอ๊คใหญ่ ตำราหนังสือปกหนาสีดำถูกวางลงตรงหน้า เสียงกระดาษเก่าที่กรอบแกรบเหมือนกระซิบจากกาลเวลา “ละติน คือรากเหง้าของภาษามากมาย คือภาษาที่สายเลือดโรมของเจ้าจะเข้าใจได้ด้วยสัญชาตญาณ”

เอสเปอร์มองหน้าหนังสือ ริมฝีปากขบแน่นความกดดันในใจถาโถม เขาไม่อยากยอมรับว่าตนถูกผลักเข้าสู่โลกที่ไม่เข้าใจ แต่ดวงตาสีเหลืองอำพันของลูปากลับดึงดูดเขาไว้

เธอเขียนอักษรละตินโบราณลงบนแผ่นกระดาษด้วยปากกาขนนก

“Lupus.”

“หมาป่า” เธอเอ่ยแปลเสียงนุ่มลึก ดวงตาคมจับจ้องเอสเปอร์ราวกับกำลังทดสอบ

เอสเปอร์เลิกคิ้ว หายใจช้า ๆ แล้วลองออกเสียง “ลู-ปุส…”

หญิงสาวพยักหน้า ดวงตาอำพันเป็นประกายวาววับ เธอเขียนคำต่อไป

“Sanguis.”

“เลือด”

เอสเปอร์ขมวดคิ้ว มองตัวอักษรที่ไม่คุ้นตา เขาเอื้อมมือออกไปสัมผัสลายเส้น ก่อนจะลองออกเสียงด้วยเสียงที่ยังไม่มั่นใจ “ซาน-กวิส”

“ดีมาก” ลูปากล่าวช้า ๆ ราวกับครูผู้สอนที่เข้มงวดแต่เปี่ยมด้วยความหวัง

การสอนดำเนินต่อไป เธอเขียนคำทีละคำ—Luna (ดวงจันทร์), Ignis (ไฟ), Terra (แผ่นดิน) แต่ละคำที่เอสเปอร์เปล่งออกมาทำให้หัวใจเขาเต้นแรง ความรู้สึกแปลกประหลาดไหลวนอยู่ในกาย เหมือนคำเหล่านั้นปลุกบางสิ่งในเลือดเนื้อที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อน

ทุกครั้งที่เอ่ย เขาสัมผัสได้ถึงภาพแวบในหัว ดวงจันทร์ส่องแสงบนยอดเขา, เปลวไฟลุกโชน, เลือดแดงสดหยดลงบนหินสีเทา ความรู้สึกนั้นทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหล

ลูปาเอ่ยน้ำเสียงทั้งอบอุ่นและกดดันในคราเดียวกัน “จำไว้นะ เอสเปอร์ ภาษาคือสายใยที่เชื่อมเจ้ากับสายเลือดอีกครึ่งหนึ่งของเจ้า ยิ่งเจ้ารู้จักมัน เจ้าจะยิ่งควบคุมพลังในกายได้”

เอสเปอร์นั่งนิ่งหายใจแรงเล็กน้อย ใบหน้าซีดขาวสะท้อนแสงโคมไฟจนดูเปราะบาง แต่ในดวงตาสีฟ้ากลับมีแสงริบหรี่แห่งความมุ่งมั่นปรากฏขึ้น เขาไม่ได้ยอมรับอย่างเต็มใจนัก

เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “แล้วคุณจะให้ผมเรียนรู้อะไรต่อจากนี้”

หญิงสาวยกยิ้มบาง แต่แฝงความลึกลับ “สิ่งที่เจ้าจะได้เรียนต่อไป… มิใช่เพียงภาษา หากแต่เป็นหนทางที่เลือดในกายเจ้ากำหนดไว้ให้”

ในความเงียบสงัดของห้องสมุด เสียงนาฬิกาโบราณดังก้อง ติ๊ก ต็อก… ติ๊ก ต็อก เป็นจังหวะที่สอดประสานกับการเต้นของหัวใจเอสเปอร์ เส้นทางที่เขาถูกบังคับให้ก้าวสู่เริ่มเด่นชัดขึ้นทุกขณะ และเด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีก็รู้ดีว่า นี่คือก้าวแรกที่ไม่อาจหวนกลับได้อีกต่อไป…


[God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15
BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ)
- โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15
ฝึกภาษาละติน
รางวัล: +15 EXP  / +2 คะแนน

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-9-9 22:25
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-9-9 22:25
โพสต์ 30074 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-9 22:09
โพสต์ 30,074 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 ความกล้า จาก แว่นตา  โพสต์ 2025-9-9 22:09
โพสต์ 30,074 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-9-9 22:09

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
ไรเฟิลจู่โจมเทมเพสทัส
แมกกาซีนเทมเพสทัส
เข็มทิศ
หมวกกันน็อต
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เกราะทหารโรมัน
สัมภาระจำลอง
แจ็คเก็ต YANKEES
นาฬิกาสปอร์ต
กล่องดนตรี
แว่นตา
เกมคอนโซลพกพา
หนังสือนิยาย
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
x1
x15
โพสต์ 2025-9-11 01:01:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
11 · กันยายน · 2025 · 06.00 น.

รุ่งเช้าวันใหม่ที่หุบเขาโซโนมา แสงแดดอ่อนแรกเริ่มเล็ดลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ของห้องสมุดไม้เก่าแก่ กลิ่นหอมอุ่นของกระดาษหนังสือโบราณลอยคลุ้งปะปนกับไอหมอกที่ยังหลงเหลือจากยามรุ่งสาง เงียบสงบจนได้ยินเพียงเสียงพลิกหน้ากระดาษและเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของผู้ที่เข้ามา

ลูปาในร่างมนุษย์นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้ยาวกลางห้อง ดวงตาสีเหลืองอำพัน ของเธอเปล่งประกายสุกใส ทั้งอบอุ่นและเฉียบแหลมในคราวเดียวกัน ราวกับสามารถมองทะลุความคิดลึกที่สุดของใครต่อใครได้ เธอเอียงคอเล็กน้อย มือเรียวพลิกหนังสือปกหนาสีน้ำตาลเข้มที่เต็มไปด้วยตัวอักษรโบราณ ก่อนจะเลื่อนสายตามองสองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม

เอสเปอร์นั่งหลังตรงเหมือนคุณชายผู้ถือเกียรติ เขาพยายามวางท่าทีสง่างาม ถึงแม้ในดวงตาจะยังมีร่องรอยความง่วงงุนจากการฝึกหนักเมื่อวันก่อนก็ตาม ส่วนไกด์นั่งนิ่งเงียบข้าง ๆ ภายนอกดูเย็นชา สุขุมเกินวัย แต่แววตาที่ซ่อนอยู่กลับเต็มไปด้วยความสนใจ เขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ แต่เมื่อหนังสือถูกเปิดตรงหน้า สายตาก็จดจ่อราวกับถูกดึงดูด

ลูปาวางมือบนหน้ากระดาษ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ เน้นทุกพยางค์ให้สองเด็กหนุ่มรับฟัง

“Lingua Latina … ภาษาละติน” เธอออกเสียงช้า ๆ ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องตรงมาที่เอสเปอร์และไกด์ “วันนี้ ข้าจะสอนพวกเจ้าให้รู้จัก คำราก ของมัน เพื่อให้พวกเจ้าสามารถเข้าใจโลกเก่าแก่และพลังที่ถูกสืบทอด”

เอสเปอร์ยกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจะข่มความเบื่อ แต่เมื่อเธอเอ่ยประโยคต่อมา ความสนใจก็พลันถูกกระตุ้น

“Virtus … หมายถึง คุณธรรม ความกล้าหาญ ของนักรบ”

ลูปาเอื้อมมือไปหยิบแท่งชอล์ก เขียนคำนี้บนกระดานไม้ดำที่ตั้งพิงผนัง ทุกเส้นตัวอักษรคมชัด ราวกับเธอต้องการให้คำนี้ฝังแน่นในความทรงจำ

เอสเปอร์พึมพำออกมา “Virtus” เสียงของเขาลากยาวเล็กน้อย เหมือนอยากลองลิ้มรสถ้อยคำที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะยกคางสูงขึ้น “ดูเข้มแข็งดี… ไม่เลวเลย”

ไกด์เงยหน้าขึ้นช้า ๆ เอ่ยเสียงทุ้มเรียบ “ความกล้าหาญ… ไม่ใช่เพียงต่อสู้กับศัตรู แต่ยังรวมถึงการต่อสู้กับความอ่อนแอของตนเอง”

เอสเปอร์เหลือบตาไปทางไกด์ ริมฝีปากโค้งเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “พูดซะเหมือนนักปราชญ์”

ไกด์ไม่ตอบแต่สายตาคมยังคงมุ่งตรงไปที่กระดาน แววตาเต็มไปด้วยสมาธิจนไม่สนใจคำหยอกของเอสเปอร์

ลูปาพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนเขียนคำต่อไป

“Disciplina … หมายถึง ระเบียบวินัย”

เสียงเธอก้องในห้องสมุดเงียบสงบ

เอสเปอร์ถอนหายใจเบา ๆ “คำนี้ คงจะเป็นของโปรดของพวกหมาป่าแน่ๆ คำว่าระเบียบวินัยเนี่ย”

ลูปาหัวเราะเบา ๆ แววตาของเธอส่องประกายคม “ใช่แล้ว เอสเปอร์ ถ้าเจ้าขาด Disciplina เจ้าจะไม่มีทางควบคุมพลังที่กำลังเติบโตในตัวเจ้าได้”

คำพูดนั้นทำให้เอสเปอร์ชะงักเล็กน้อย เขาก้มมองแขนขวาของตน ที่ใต้ผ้าคลุมยังมีร่องรอยจาง ๆ จากเปลวไฟที่ปรากฏเมื่อคืน ดวงตาของเขาไหววูบ แต่ก็รีบเชิดหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้แสดงความอ่อนแอออกมา

ลูปายิ้มบาง ๆ แล้วเขียนคำสุดท้ายบนกระดาน

“Fides … ความศรัทธา ความไว้วางใจ”

เธอหันกลับมา ดวงตาสีเหลืองอำพันจับจ้องเด็กทั้งสอง “หากพวกเจ้าจะก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่าจะในฐานะนักรบหรือในฐานะมนุษย์ เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะมี Fides ต่อสหายของเจ้า”

เอสเปอร์หัวเราะเบา ๆ ยกไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ แต่สายตาแวบหนึ่งก็เหลือบมองไปทางไกด์ที่ยังนั่งนิ่ง “ความไว้วางใจงั้นหรือ… ผมไม่คิดว่าจะง่ายนักหรอก”


[God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15

รางวัล: +15 EXP  / +2 คะแนน
(โรคดิสเล็กเซียแค่ 2 ครั้งก็เข้าใจภาษาละติน)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-9-11 01:09
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-9-11 01:09
โพสต์ 20681 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-11 01:01
โพสต์ 20,681 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +3 ความกล้า จาก แจ็คเก็ต YANKEES  โพสต์ 2025-9-11 01:01
โพสต์ 20,681 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +6 ความกล้า จาก คาลิมบา  โพสต์ 2025-9-11 01:01

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
ไรเฟิลจู่โจมเทมเพสทัส
แมกกาซีนเทมเพสทัส
เข็มทิศ
หมวกกันน็อต
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เกราะทหารโรมัน
สัมภาระจำลอง
แจ็คเก็ต YANKEES
นาฬิกาสปอร์ต
กล่องดนตรี
แว่นตา
เกมคอนโซลพกพา
หนังสือนิยาย
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
x1
x15
โพสต์ 2025-9-11 04:00:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Esper เมื่อ 2025-9-11 04:08

11 · กันยายน · 2025 · 07.00 น.

แสงแดดยามสายลอดผ่านบานหน้าต่างไม้ของห้องสมุด กระทบกับฝุ่นละอองที่ลอยในอากาศราวกับประกายเล็ก ๆ ส่องสะท้อน เอสเปอร์นั่งอยู่ที่โต๊ะกลางห้อง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจแบบคุณชายผู้ไม่เคยคิดว่าตนจะแพ้สิ่งใด เขายกคางขึ้นเล็กน้อยก่อนเอ่ยกับลูปาซึ่งกำลังจัดเรียงหนังสือโบราณลงบนชั้น

“ผมอยากได้…บททดสอบ” เสียงของเอสเปอร์แฝงความหยิ่งทะนง แต่ยังมีประกายท้าทายอยู่ในที “คุณสอนคำเหล่านั้นให้ผมแล้ว ผมต้องการพิสูจน์ว่าตนเข้าใจจริง ไม่ใช่เพียงฟังผ่านหู”

ลูปาหันมามอง ดวงตาสีเหลืองอำพันส่องประกายคม เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงกระดาษแผ่นขาวสะอาดและปากกาขนนกออกมาวางบนโต๊ะไม้เก่า “หากเจ้าเรียกร้องเช่นนั้น ข้าก็จะให้”

เธอเขียนด้วยลายมือเรียบคม ตัวอักษรละตินเรียงกันอย่างงดงาม เส้นหมึกเข้มเป็นระเบียบไม่ต่างจากรอยเท้าของนักรบในสนาม “จงแปล จงอธิบาย และจงเขียนประโยคของเจ้าเอง” เธอกล่าวเสียงนิ่ง แล้วเลื่อนกระดาษให้เอสเปอร์

เด็กหนุ่มเอื้อมมือรับด้วยท่าทีมั่นใจ ราวกับไม่มีสิ่งใดทำให้เขาหวั่น เขาก้มหน้าลง ดวงตาสีเงินเข้มกวาดอ่านตัวอักษรทีละบรรทัด ก่อนจะเริ่มเขียนตอบอย่างไม่รีรอ เสียงปลายปากกาขนนกเสียดสีกับกระดาษดังเบา ๆ ในห้องเงียบงัน

เวลาผ่านไปทีละน้อย เอสเปอร์ยังคงนั่งหลังตรง เขียนไปด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เหมือนต้องการให้ทุกถ้อยคำแสดงถึงศักดิ์ศรีของเขาเอง แม้บางครั้งจะชะงักเมื่อเจอคำที่ไม่คุ้น แต่ก็เพียงกัดฟัน กดปลายปากกาแรงขึ้นเล็กน้อยแล้วเขียนต่อไป ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้


ส่วนที่ 1: ไวยากรณ์และการผันคำ (Grammar & Conjugation)
1).คำกริยา "amāre" (รัก) ในรูปปัจจุบันกาล (present tense) สำหรับสรรพนาม "Ego" (ฉัน) คือข้อใด?
a. Amo

2).“Lupus” (หมาป่า) และ “dea” (เทพี) เป็นคำนามที่มีเพศ (gender) ตรงกับข้อใด?
a. เพศชาย (masculine) และ เพศหญิง (feminine)

3).ในประโยคที่ Jason Grace อาจใช้: "Miles gladium tenet." (ทหารถือดาบ) คำใดทำหน้าที่เป็นกรรมตรง (direct object)?
b. Gladium

4).คำว่า "Et tu, Brute?" ที่จูเลียส ซีซาร์กล่าว หมายความว่า "แม้แต่เจ้าก็ด้วยหรือ บรูตุส?" คําว่า "tu" คือสรรพนามบุรุษที่เท่าไหร่?
b. บุรุษที่ 2 (คุณ, พวกคุณ)


ส่วนที่ 2: คำศัพท์ (Vocabulary)
1)."SPQR" ที่เป็นตราสัญลักษณ์ของโรมและปรากฏบนธงของค่ายจูปิเตอร์ ย่อมาจาก "Senātus Populusque Rōmānus" แปลว่าอะไร?
a. สภาและประชาชนแห่งโรม

2)."Praetor" (ไพร์เตอร์) คือตำแหน่งผู้นำแห่งกองพันโรมัน คำนี้มาจากคำกริยา "praeire" ซึ่งหมายถึง...
b. การเดินนำ

3).ชาวโรมันเรียกเทพเจ้าแห่งสายฟ้าว่า "Iuppiter" เทียบเท่ากับเทพเจ้าใดในภาษากรีก?
c. Zeus

4).คำว่า "bellum" ที่แปลว่า "สงคราม" สอดคล้องกับค่ายแห่งไหนมากที่สุด?
a. Camp Jupiter

ส่วนที่ 3: การแปลประโยค (Sentence Translation)
1).จงแปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาไทย: "Iūnō Iovem amat." (Iūnō คือเทพีจูโน่, Iovem คือเทพเจ้าจูปิเตอร์)
a. จูโน่รักจูปิเตอร์

2).จงแปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาละติน: "ฉันคือฮีโร่" (ใช้คำว่า "ego" สำหรับ "ฉัน", "sum" สำหรับ "คือ" และ "heros" สำหรับ "ฮีโร่")
a. Ego sum heros.

ส่วนที่ 4: การอธิบายความรู้ภาษาละตินจากความเข้าใจของตัวเอง
1).อธิบายความสำคัญของตำนานโรมูลัสและเรมัสต่อชาวโรมันโบราณ
ตำนานนี้เล่าเรื่องการกำเนิด กรุงโรม ซึ่งเป็นศูนย์กลางอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึง “ความเป็นลูกของเทพ” (ลูกของเทพมาร์ส) ทำให้ชาวโรมันเชื่อว่าตัวเองมีสายเลือดพิเศษ เป็นเรื่องที่ให้ความภาคภูมิใจและเป็นเอกลักษณ์ของชาวโรมัน ว่าเมืองของตนมีที่มาไม่ธรรมดา

2).เปรียบเทียบและวิเคราะห์บุคลิกของโรมูลัสและเรมัส
โรมูลัส: มุ่งมั่น เด็ดขาด จริงจังกับการสร้างเมือง แม้ต้องใช้ความรุนแรงก็ยอมเพื่อบรรลุเป้าหมาย
เรมัส: ใจกว้างกว่า ชอบล้อเลียน ไม่ค่อยจริงจังเท่าพี่ชาย (เช่น ล้อว่าโรมูลัสสร้างกำแพงไม่แข็งแรง)
👉 สรุป: โรมูลัสคือผู้นำที่แข็งกร้าว ส่วนเรมัสมีนิสัยเบาสบาย แต่ขาดความจริงจัง

3).หากคุณเป็นโรมูลัส คุณจะแก้ปัญหาความขัดแย้งกับเรมัสอย่างไร?
ไม่ใช้อารมณ์ แต่หันมาคุยตรง ๆ กับเรมัสว่าเราทั้งคู่ต้องการสิ่งเดียวกัน คือสร้างเมือง เสนอให้แบ่งบทบาทกัน เช่น โรมูลัสดูแลด้านทหารป้องกันเมือง ส่วนเรมัสดูแลด้านประชาชนและความเป็นอยู่ การประนีประนอมจะทำให้ไม่ต้องจบลงด้วยการฆ่ากันเอง และยังได้กำลังใจจากพี่น้องร่วมมือ

4).คุณคิดว่าตำนานนี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับการก่อตั้งเมืองและการสร้างชาติ?
การสร้างเมืองหรือชาติไม่ง่าย ต้องมีความเสียสละและความมุ่งมั่น ความขัดแย้งภายในอาจทำลายทุกอย่างได้ ถ้าไม่รู้จักหาทางออก ผู้นำต้องเด็ดขาด แต่ก็ต้องหาวิธีรวมผู้คนให้สามัคคีกัน

5).จงเขียนเรื่องราวสั้นๆ (แฟนฟิคสมมติ) โดยมีโรมูลัสและเรมัสเป็นตัวละครหลัก
(ใช้ภาษาละติน และ คำแปลภาษาไทย)
เรื่องสั้นแฟนฟิค: Umbra Fraternitatis (เงาแห่งสายสัมพันธ์พี่น้อง)

Romulus: "Hic locus erit regni mei fundamentum. Sub hoc caelo urbs magna nascetur."
โรมูลัส: “ที่แห่งนี้จะเป็นรากฐานของอาณาจักร ข้างใต้ท้องฟ้านี้ เมืองอันยิ่งใหญ่จะถือกำเนิด”

Remus: "Romule, murus tuus altus esse potest, sed sine fratre, vacuus erit."
เรมัส: “โรมูลัส กำแพงเจ้าจะสูงแค่ไหนก็ได้ แต่หากไร้พี่น้อง เมืองนั้นก็จะว่างเปล่า”
Romulus: "Non est tempus ludendi, Remi. Populus quaerit ducem unum, non geminos discordes."
โรมูลัส: “นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น เรมัส ประชาชนต้องการผู้นำเพียงหนึ่ง มิใช่ฝาแฝดที่แตกแยก”

6). แนะนำตัวเอง สายเลือด และสิ่งที่อยากให้เพื่อนในบ้านรู้จัก (เป็นภาษาละตินพร้อมคำแปล)
"Ego sum Esper Spencer, ex sanguine Triviae. Superbus videor, ita est… sed non est superbia, sed electio: loquor non cum omnibus, sed tantum cum iis quos dignos arbitror.”
“ฉันคือเอสเปอร์ สเปนเซอร์ สายเลือดแห่งไทรเวีย ฉันอาจดูหยิ่ง ใช่ มันก็จริง… แต่ไม่ใช่ความหยิ่งหรอก หากเป็นการเลือกต่างหาก ฉันไม่คุยกับทุกคน แต่ฉันเลือกคุยเฉพาะคนที่ฉันเห็นว่าสมควร”


ในที่สุด เขาก็วางปากกาลงอย่างมั่นคง กระดาษเต็มไปด้วยลายมือชัดเจน เขาเงยหน้าขึ้น ยื่นกระดาษกลับให้ลูปาด้วยท่าทางผู้ชนะ “นี่คือคำตอบของผม”

ลูปารับกระดาษมา ดวงตาสีเหลืองอำพันกวาดมองเนื้อหาในนั้นอย่างเงียบงัน ริมฝีปากของเธอโค้งขึ้นน้อย ๆ แต่ไม่เอ่ยคำชม เธอเพียงพับกระดาษเก็บอย่างระมัดระวัง ก่อนหันกลับมาจ้องเอสเปอร์ตรง ๆ


[God-29] ลูปา
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน +15
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา - ความโปรดปราน + 15
รางวัลทดสอบสำเร็จภาษาละติน: +1 Level up / +5 Point และ +15 INT  / +10 คะแนน

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 100 EXP โพสต์ 2025-9-11 11:10
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-9-11 11:10
โพสต์ 36460 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-11 04:00
โพสต์ 36,460 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +3 ความกล้า จาก แจ็คเก็ต YANKEES  โพสต์ 2025-9-11 04:00
โพสต์ 36,460 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +6 ความกล้า จาก คาลิมบา  โพสต์ 2025-9-11 04:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +10 ย่อ เหตุผล
God + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
ไรเฟิลจู่โจมเทมเพสทัส
แมกกาซีนเทมเพสทัส
เข็มทิศ
หมวกกันน็อต
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เกราะทหารโรมัน
สัมภาระจำลอง
แจ็คเก็ต YANKEES
นาฬิกาสปอร์ต
กล่องดนตรี
แว่นตา
เกมคอนโซลพกพา
หนังสือนิยาย
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
x1
x15
โพสต์ 2025-9-19 15:24:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
born with no shacklesCARLOTTA
ความมุมานะของฉันมีให้ทุกอย่างยกเว้นการเรียน


คนเราจะรู้ตัวตอนไหนว่าแท้จริงในใจกำลังแสวงหาสิ่งใด หรือมีความปรารถนาปรากฏขึ้น แล้วอะไรกันล่ะที่จุดประกายความโดดเด่นขึ้นมา สิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์จะถูกค้นพบได้อย่างไรและตั้งแต่เมื่อไหร่ล้วนขึ้นอยู่กับการตระหนักรู้ในคุณค่าของตัวเอง...เหมือนกับคาร์ล็อตต้าที่รู้ตัวดีว่าตัวเธอมีความพยายามเป็นเลิศ ทั้งมุ่งมั่นและบากบั่นหมั่นเพียรอย่างดื้อรั้น ทุกชิ้นส่วนที่ประกอบกันกลายมาเป็นหญิงสาวในปัจจุบันมีสารตั้งต้นที่เรียกว่า 'ความไม่ย่อท้อ' ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้และดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ ถูกแล้ว แนวคิดที่ยึดมั่นมาแต่เด็กนี้ใช้ได้กับทุกอย่าง

...ยกเว้นการเรียน

เธอไม่ปฏิเสธว่าตนเองรักการเรียนรู้ การได้ศึกษาสิ่งที่ไม่เคยพบพาน รู้จักและทำความเข้าใจมันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ ซึ่งมันสามารถใช้ได้กับแทบทุกอย่างในชีวิตจริง ๆ หากไม่ใช่การเรียนประเภทที่ต้องมานั่งจับเจ่ากับหนังสือ การเรียนรู้ด้วยการอ่านเขียนเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุดสำหรับเธอ ซึ่งคาร์ล็อตต้าสามารถใช้นิยาม 'การศึกษาทำร้ายฉัน' ได้อย่างน่าไม่อายแม้ว่ามันจะผิดบริบทไปบ้าง แต่ว่ากันตามตรง ต่อให้วิชากำลังภายในโบราณที่ว่าหายสาบสูญไปนานแล้ว เจ้าหล่อนก็ยังคิดว่ามันง่ายต่อการศึกษายิ่งกว่าตัวอักษรเจ้าปัญหาที่ชอบวิ่งพล่านไปทั่วในแต่ละหน้ากระดาษทุกครั้งที่เธอเปิดมัน

ด้วยเหตุนี้ ผลการเรียนตั้งแต่เล็กจนโตของเธอจึงต่ำเตี้ยเรี่ยดินตรงข้ามกับวิชาที่ใช้กำลังกาย รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ มากมายอันโดดเด่นเกินหน้าเกินตา

เธอถูกเรียกว่าเจ้าแม่แห่งลานกิจกรรม ในขณะเดียวกันก็เป็นยัยบื้อหลังห้องที่ไม่รู้หนังสือ แต่ก็ยังอุตส่าห์ผ่านชั้นเรียนมาได้ด้วยบารมีครอบครัว— เป็นเรื่องน่าบัดซบที่ไม่อยากยอมรับนัก อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ส่งผลให้ประทับความอคติลงเต็มหน้าหนังสือ และปิดใจในเรื่องเรียนไปโดยปริยาย

จนกระทั่งตอนนี้ เมื่อนึกย้อนไปกลับรู้สึกตะหงิดใจ

'ตอนนั้นฉันทำคะแนนสูงขนาดนั้นได้ยังไงกันนะ' ตามธรรมชาติแล้วภาษาที่ได้ยินผ่านหูบ่อยมาตั้งแต่แบเบาะจะถูกนับเป็นภาษาแม่ ที่ต่อให้เขียนไม่เป็นอ่านไม่ออกก็ยังพูดได้ เหมือนภาษาจีนที่เธอใช้สื่อสารกับมารดาและอาจารย์ อย่างไรก็ตาม ตระกูลหลินย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่อิตาลี ความรู้ด้านภาษาจีนของคาร์ล็อตต้าจึงมีน้อยนิดเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษและอิตาเลียนที่ซึมซับมาหลายปี

ปัญหาของเธอไม่ได้อยู่ที่การพูด แต่เป็นการเขียนและอ่าน

แม้ในโรงเรียนจะใช้การสื่อสารด้วยภาษาอิตาเลียนบ้าง แต่โดยส่วนมากเนื้อหาการเรียนมักใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเนื่องจากเป็นโรงเรียนนานาชาติ และคาร์ล็อตต้าก็ต้องเจอปัญหาจากโรคดิสเล็กเซียเป็นประจำ กระนั้นแล้วมันเกิดได้น้อยเมื่อมีวิชาจำพวกภาษาโรแมนซ์ เธอจำได้ว่าเมื่อตอนยังเด็ก มีครั้งหนึ่งที่ลงเรียนวิชาภาษาอิตาเลียนและสเปนแล้วสอบได้คะแนนสูง (อันที่จริงคือผ่านเกณฑ์มานิดหน่อย แต่คาร์ล็อตต้ามองว่ามันเป็นคะแนนที่สูงมากแล้ว) สาเหตุมาจากหัวเธอไม่ได้ลอยเคว้งหรือถูกเขย่าไปมาตามตัวอักษรเหมือนวิชาอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษล้วน แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ง่าย

อ้อ

"เพราะภาษาพวกนั้นมีรากศัพท์มาจากละตินนี่เอง"

"คิดสิ่งใดอยู่รึ?"

แน่นอนว่าลูปาได้ยินสิ่งที่เธอโพล่งออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย อันที่จริงคาร์ล็อตต้าเพียงคิดเรื่องอื่นไปพลาง ๆ จนเผลอหลุดปากออกมาเท่านั้น แต่ในห้องสมุดนี้มีแค่ครึ่งเทพหนึ่งตนและหมาป่า(ในร่างมนุษย์)อีกหนึ่ง ต่อให้เป็นเพียงเสียงงึมงัมก็ยังถูกนับว่าดังมากอยู่ดี คนถูกยิงคำถามใส่ราวกับเพิ่งฟื้นคืนจากภวังค์ หล่อนโคลงหัวขึ้นจากฝ่ามือก่อนจะสั่นหน้าไปมา กองหนังสือยังคงวางเรียงรายบนโต๊ะ การเรียนในตอนนี้ยังไม่จบลง

"เปล่าค่ะ ฉันแค่คิดไปถึงอดีตที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่สมัยเรียน แล้วก็นึกขึ้นได้จากการเรียนคาบที่แล้วว่าภาษาละตินคือรากศัพท์ของกลุ่มภาษาโรแมนซ์ ก็เลยประติดประต่อบางอย่างขึ้นมาน่ะ"

ดวงตาหลุบลงบนตัวอักษรหลากหลาย ทั้งหมดล้วนเป็นภาษาละติน "ที่ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าเรียนภาษาอิตาเลียนกับสเปน กระทั่งโปรตุกีสง่ายเมื่อเทียบกับวิชาอื่น คงเป็นเพราะเรื่องนี้ก็ได้"

น่าอายที่ต้องพูดแบบนี้ ในวัยเยาว์เธอเคยหลงระเริงคิดว่าอาการอ่านเขียนไม่ออกบ้าบอนี่หายดีแล้วหลังผลสอบภาษาโดดเด่นกว่าวิชาอื่น จึงวิ่งแจ้นไปรายงานทุกคนในบ้าน แต่สุดท้ายก็โดนความจริงตีแสกหน้าว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน พวกเขาคิดว่าเด็กอย่างเธอกำลังหัดปั้นน้ำเป็นตัว สัญญาณแห่งความดื้อรั้นกำลังปรากฏ สุดท้ายจึงถูกลงโทษหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ

นัยนาเกือบมีคลื่นอารมณ์อ่อนไหวพาดผ่าน แต่มันจางหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อย้อนคิดไปคาร์ล็อตต้าก็ไม่ได้สัมผัสถึงความเศร้าใด ๆ อีก ที่จะเหลือคงมีร่องรอยความขุ่นเคืองเท่านั้น เธอเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มแกน ๆ ให้ลูปา

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณให้ฉันมาเรียนเจ้าพวกนี้ใหม่ตั้งแต่ท่องอาบีซีไปจนถึงเซตานี่ก็...เกินไปหน่อยหรือเปล่าคะ"

"รู้ตัวหรือไม่ คาร์ล็อตต้า สีหน้าของเจ้ากำลังบอกข้าว่า 'ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเด็กหรืออย่างไรถึงได้เริ่มสอนจากเรื่องพวกนี้' อยู่นะ" คาร์ล็อตต้าไม่ได้สะดุ้งแต่อย่างไร กระนั้นกลับรู้สึกได้ว่ามีความร้อนไหลผ่านหลังจากล่างขึ้นบนให้ร้อนรนเล่นนิด ๆ

"ฉันไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ แต่ก็ไม่อยากแคลงใจในการตัดสินใจของคุณเหมือนกัน"

อย่างไรหล่อนก็เป็นถึงผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ดังนั้นความสงสัยในการกระทำใด ๆ ว่ามีนัยยะแอบแฝงหรือไม่จึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่คาร์ล็อตต้าอยากจะนึกถึง

หลังได้รับทราบเหตุผล ลูปาเพียงทอดมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ต่อมาจึงอธิบายอย่างใจเย็นว่าเพราะการที่เธอปิดกั้นความคิดที่อยากเรียนรู้ และพึ่งพาอาศัยเพียงภาษาพูดจนถึงปัจจุบันมันทำให้ตนเองขาดความรู้พื้นฐานไป ดังนั้นจึงต้องเริ่มสอนไปตั้งแต่สิ่งแรกเริ่มอย่างการจดจำพยัญชนะไปจนถึงการออกเสียงอักษรให้ถูก...อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าแปลกที่ตัวเธอสามารถทำความเข้าใจมันได้ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก จนไม่นานการเรียนการสอนก็มาถึงบทการผันกริยาตามประธาน กาล มาลา และลงลึกกับคำศัพท์มากขึ้น

"Casi diretti จึงมี—" เหมือนท่องให้เธอตอบอย่างไรอย่างนั้น แน่นอนว่าเป็นจริง และคาร์ล็อตต้าที่กำลังซึมซับเนื้อหาจึงกล่่าวต่ออย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง

"Nom, Acc, Voc ที่เป็นกริยาตรง และของ Casi indiretti มี Gen, Dat, Abl เป็นการอ้อม ที่ต้องใช้คำบุพบทมาคั่น"

การเรียนการสอนยังคงดำเนินต่อไป คาร์ล็อตต้าลืมเรื่อง 'การศึกษาทำร้ายฉัน' ที่เคยพูดไว้จนหมดสิ้น บัดนี้เบื้องหน้าลูปาเหลือเพียงอิสตรีใฝ่รู้ที่กำลังพยายามเค้นสมองอ่านขั้นตอนในภาษาที่ไม่เคยเปิดใจเรียนรู้มันเลยแม้จะทำได้ดี หากคาร์ล็อตต้ามองขึ้นไป บางทีเธออาจได้รับบรรยากาศที่คล้ายกับมารดาที่จากไปของตนเองผ่านนัยน์ตาหมาป่าตนนี้ก็ได้

เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง ทั้งผู้เรียนและผู้สอนก็ต่างลืมสายธารเวลาที่หมุนผ่านไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งคาร์ล็อตต้าผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการยืดตัวบิดคร้านไปมา ศิษย์-อาจารย์จึงนึกขึ้นได้ว่านี่คงเลยคาบเรียนอื่น ๆ ไปไกลโข

"การเรียนครั้งนี้คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ก่อน"

"บอกตามครั้งว่าฉันเองก็ลืมเวลาไปเสียสนิทเลยค่ะ" เอ่ยกลั้วหัวเราะไม่พอ รอยยิ้มที่ยากจะหาได้ก็ประทับขึ้นดวงหน้าด้วย "นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันคิดว่าการเรียนหนังสือสนุกขนาดนี้"

"แต่พอคิดถึงตัวหนังสือมากมายก็รู้สึกหดหู่อยู่ดี" เธอพรูลมหายใจเฮือก อย่างไรก็ดี มันคงไม่สร้างความรู้สึกลบ ๆ ให้เธอเหมือนกับที่ผ่านมาอีกแล้ว ต่อให้จะไม่ได้มีความสุขทุกครั้งที่เห็นหนังสือก็เถอะ เห็นได้ชัดว่าอคติของเจ้าหล่อนกำลังคลายตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

"นั่นก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเจ้าแล้วล่ะ" ลูปาเปรยขึ้น
"ในอนาคตต้องมีวันที่เจ้าสามารถพากเพียรกับมันได้เหมือนการฝึกฝนทางร่างกายอื่น ๆ อย่างแน่นอน"

โฉมฉายไหวไหล่ โยนให้ตัวเองในอนาคตเป็นคนรอรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้แทน หลังจากนั้นข้าวของที่กองรวมบนโต๊ะจึงถูกโยกย้ายเข้าชั้นหนังสือและชั้นวางเดิมของมัน กระทั่งปัดถูเสร็จแล้วลูปาจึงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

"นี่อาจไม่นับเป็นการบ้าน— แต่เป็นความต้องการส่วนตัวของข้า"
"คาบเรียนครั้งถัดไป ก่อนบททดสอบภาษาละตินจะเริ่มขึ้น ข้าอยากให้เจ้ายกตัวอย่างวลีละตินที่ชื่นชอบมันมาสักประโยคหนึ่งพร้อมกับบอกเหตุผลด้วย"

แน่นอนว่าหลังฟังคำขอที่ว่านี้ คาร์ล็อตต้าก็ไม่ลังเลที่จะปัดมันไปอยู่ในหมวดหมู่การบ้านทันที กระนั้นระหว่างเก็บเก้าอี้ตัวสุดท้าย แว่วเสียงก็ดังมาจากนักเรียนคนเดียวในห้องสมุด

"—นี่ก็ไม่ใช่การตอบการบ้านล่วงหน้าหรอกนะคะ แต่เป็นสิ่งที่ฉันนึกถึงพอดีน่ะ"


"Veni, Vidi, Vici" ( ข้ามา ข้าเห็น ข้าพิชิต )
"เป็นวลีแรกที่ผุดขึ้นในหัวฉันทันทีที่คุณตั้งแบบฝึกหัดให้เลย"

คาร์ล็อตต้านึกไม่ออกแล้วว่าเธอเคยเห็นมันมาจากที่ไหน หรือได้ยินจากใครกันแน่ แต่หลังได้เริ่มเรียนรู้ภาษาละตินอย่างจริงจังกับลูปา ประโยคนี้ก็มักผุดขึ้นมาในหัวเป็นระยะเสมอ มันมาพร้อมกับความไม่แน่ใจและลังเลในบางอย่างในคราวแรกเริ่ม หลังจากนั้นราวกับความรู้สึกถูกขัดเกลาให้ชัดเจนทีละระดับ จนถึงตอนนี้ที่อิสตรีกึ่งเทพกล้ากล่าวมันออกมา

อะไรบางอย่างที่กดทับใจเธออยู่ก็เบาบางลงไปด้วย

"ส่วนเหตุผล... อันที่จริงจะบอกว่าชื่นชอบก็แปลก ๆ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ดูยึดติดกับประโยคนี้นัก แต่พอมาตอนนี้แล้ว—" หล่อนเว้นช่วงไป

เสียงสูดหายใจดังขึ้นตัดตอน เพิ่มความมั่นคงในอารมณ์อย่างยิ่งยวด

"ฉันคิดว่า ที่ฉันชอบวลี 'ข้ามา ข้าเห็น ข้าพิชิต' คงเพราะฉันเป็นธิดาของเบลโลน่า เทพีแห่งสงครามก็ได้ หรือไม่ก็มีความเลือดนักสู้ในตัวสูง? ....อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ" คาร์ล็อตต้าปิดเปลือกตาลง นึกขบขันตนเองในใจที่พูดได้อย่างไม่อายฟ้าดินเป็นครั้งแรก ดีว่าตบมุกปิดท้ายกลบเกลื่อนไปด้วยจึงไม่ได้กระดากปากมากนัก แม้ไม่เคยเห็นหน้าบุพการีอีกคน แต่ดูเหมือนจะเริ่มเปิดใจยอมรับได้มากขึ้นเสียแล้ว

"คำที่องอาจ แสดงถึงพลังอำนาจ ความเด็ดเดี่ยวและความแข็งแกร่งแบบนั้น คงทำให้ฉันนึกถึงคนคนหนึ่งที่คุณพูดถึงและฉันเองก็เพิ่งได้รู้จักไม่นานได้อย่างไร้ข้อกังขาเลยค่ะ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าเทพีองค์หนึ่งสินะ"

อย่างที่กล่าวไป วลีนี้เมื่อพูดออกไปย่อมจินตนาการถึงอื่นใดไม่ได้นอกจากเทพีเบลโลน่า ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นเรื่องราวที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนและไม่ยอมรับในทีแรก กระทั่งรู้จักได้ไม่นาน แต่กลับรู้สึกผูกพันอย่างน่าประหลาดเทียบเท่าความรักที่มีต่อแม่ที่เสียไป ลึกซึ้งยิ่งกว่าอาจารย์ที่เฝ้าสั่งสอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสายสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงใจมารคนนั้นเลย

แม้จะยังมีความขุ่นข้องใจกับเทพีองค์นี้เป็นการส่วนตัวด้วยเรื่องในอดีตที่ไม่เคยพบหน้าคนรักของตนจนกระทั่งแม่ของเธอสิ้นใจ และมีเพียงตัวตนที่เขียนเอาไว้ในไดอารี่ถึงสตรีรักแรกปริศนาของมารดาก็ตาม พอคิดดูแล้ว คำกล่าวที่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำนี่น่าจะพอให้เชื่อถือได้อยู่กระมัง

มีปริศนาที่ยังยากจะทำความเข้าใจได้ในคราวเดียวเยอะจริง ๆ

ลูปาเงียบไปอักโขหลังได้ยินคำนั้น สัมผัสได้ถึงความแน่วแน่ในใจหญิงสาวผู้นี้ ครั้งแรกที่มาถึงบ้านหมาป่าและรับรู้เรื่องสายเลือดของตนเอง หล่อนยังคล้ายว่าจะไม่ยอมรับชะตากรรมของเดมิก็อตอยู่เลยแท้ ๆ —ยามนี้จึงกดรอยยิ้มซึมลึก ส่งมอบความละมุนละไมแก่คาร์ล็อตต้า แลผลิแย้มหนึ่งในปริศนาที่เธอสงสัยออกมาแถลงไขให้กระจ่าง

"คาร์ล็อตต้า ทายาทแห่งเบลโลน่าเอ๋ย"
"ตามข้ามาสักประเดี๋ยว มีเรื่องหนึ่งที่เจ้าสมควรได้รับรู้แล้ว"



หมายเหตุรางวัล : เรียนภาษาละติน ครั้งที่ 2/2
+15 EXP / +2 คะแนน
+15 ความโปรดปรานลูปา (ตั้งใจเรียนภาษาละตินกับลูปา)
[ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ] ได้รับโบนัสความโปรดปราน +15

หมายเหตุ (ooc) : *ตัดฉากฉับ ๆ ตัดยับ ๆ นอนอืด เขียนไปแค่นี้แต่เหนื่อยมา—*



• CARLOTTA •
• HAMAL •
• YUECHAN •

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-9-19 15:33
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-9-19 15:33
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-14] เอสเตลล์ สตอร์มบอร์น เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 2025-9-19 15:33
โพสต์ 32438 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-19 15:24
โพสต์ 32,438 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2025-9-19 15:24

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1คะแนนบัดดี้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
123
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้