แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-5-3 06:57
320 DAY 1: วาสนา โชคชะตา พรหมลิขิต!
(THU) 03/04/2025 เวลา 10.30 น.
รีบไปที่กระท่อมหมายเลขสิบตามนัดหมาย ปกติชายหนุ่มเดินตัดผ่านกองไฟเฮสเทียจากกระท่อมโพไซดอนไปกระท่อมเฮคาทีเป็นแนวทะแยงมุมกันพอดีเป๊ะเลยไม่เคยเฉียดผ่านไปที่กระท่อมอะโฟร์ไดท์
ความรื่นรมย์และสุนทรียภาพทางความงาม การจัดสวนและตำแหน่งของส่วนเสริมของกระท่อมหมายเลขสิบถูกตกแต่งได้อย่างไร้ที่ติสมกับเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านแห่งความรักและความงามจริง ๆ
‘ที่ปรึกษาบ้านนี้น่าจะเจ้าระเบียบน่าดู’
พอมาคิดเทียบกับกระท่อมโพไซดอนที่เขาเป็นที่ปรึกษาแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ขนาดว่ากระท่อมทั้งหลังถูกเสกสรรค์โดยมหาเทพเจ้าสมุทรแล้วยังดูไม่ครบสรรพเท่า มีที่โม้ได้มากกว่าหน่อยก็คือ ‘บ้านพี่มีสระว่ายน้ำนะน้อง’ เห็นทีว่าเขาต้องดูงานจะกระท่อมหลังงานนี้ไปจัดระเบียบที่บ้านพักของตัวเอง
‘ว่าแต่ที่ปรึกษาบ้านอะโฟร์ไดท์นี่คือใครกันนะ?’
ดีนเคยได้ยินมาว่าที่ปรึกษาของเหล่าสายเลือดแห่งความงามเป็นสาวสวยที่ออกเดินทางไปทำภารกิจรอบโลกในสถานที่ที่ติดต่อได้ยาก บ้างก็บอกว่าหายสาปสูญเพราะไม่มีใครได้เจอเธอมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่เขาก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครเป็นคนบอกเรื่องนี้มา ช่างมันเถอะ... คนเราถึงจะขี้เผือกแค่ไหนแต่ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมดทุกเรื่องหรอก
“ดีน ทางนี้~~~”
เสียงเจื้อยแจ้วเรียกทักชายหนุ่มมาทางกระโจมต้องประสงค์ พี่สาวสายเลือดเทพแห่งดวงอาทิตย์โบกมือหวอย ๆ เรียกทักเขามาจากทางนั้น สาวบ้านพระอาทิตย์แย้มยิ้มสดใสเหมือนกับเด็ก ช่างเป็นคนที่ใช้ความว่าน่ารักได้อย่างสิ้นเปลือง หากไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าสาวตรงหน้าเป็นรุ่นพี่อายุเฉียดสามสิบ
ไม่รู้ว่าตอนที่ส่งข้อความไป ‘เคธี่ เฟย์’ หรือที่เรียกกันว่า ‘แคท’ อยู่ที่ส่วนไหนของค่าย แต่เธอมาถึงเร็วราวกับเทพอะพอลโล่ลากราชรถติดเจ็ทมาถึงก่อนโดยไม่ทำให้เพื่อนต้องรอ
“ไฮฮาย คุณแคท”
ดีนยิ้มแป้นโบกมือกลับ จากนั้นก็เดินไปทางกระโจมสีขาวที่ตั้งอยู่กลางสวนแมกไม้สีชมพูและม่วง แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านกลีบดอกไม้สะท้อนลงบนผืนผ้าบางเบา จนสีขาวบริสุทธิ์ของกระโจมแปรเปลี่ยนเป็นสีละมุนของดอกไม้เหล่านั้น
ราวกับอยู่ในความฝัน…
“มารอนานแล้วหรือยังครับ?” ดีนถาม
“ไม่นาน แต่โร้ดรันเนอร์ยังวิ่งมาเร็วไม่พอนะ”
‘คุณมาเร็วไปต่างหาก’
อยากตอบกลับไปแบบนั้นทว่าชายหนุ่มเพียงแค่อมยิ้มเบา ๆ แล้วเล่นมุกกลับ
“เอาน่า ผมวิ่งไม่เร็วเพราะมัวแต่วิ่งชนบิลบอร์ด”
“ไม่ใช่โร้ดรันเนอร์แล้ว นั่นมัน ไวลด์ อี. โคโยตี้แล้ว!” เคธี่หัวเราะได้ใจ
“อ้าวเหรอ ผมจำผิดสิเนี่ย” ดีนแสร้งทำเป็นไม่รู้ จะจำผิดได้ยังไง ก็เขาน่ะนอกจากเป็นแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์แล้วยังเป็นแฟนของลูนีย์ตูนส์ตัวยง แต่ก็ทำเป็นไม่รู้แล้วเปลี่ยนเรื่อง “จากภารกิจที่ไปมา ผมซื้อของฝากมาให้ด้วย ไซส์นี้รุ่นพี่น่าจะใส่ได้นะครับ”
บุตรแห่งโพไซดอนนำของฝากออกมาจากกระเป๋า คือ เสื้อฮาวายของผู้หญิง ที่มีสีสันและลวดลายสดใสเป็นภาพของทะเลและพระอาทิตย์อัสดง จากฝีมือการเพ้นท์ของช่างท้องถิ่นไล่เฉดสีที่สวยทีเดียว
“โอ๊ะ ใส่ได้ ๆ” เคธี่รับเสื้อฮาวายมาแล้วทาบกับตัวเอง ซึ่งเธอน่าจะใส่ได้แบบพอดีเป๊ะ “ขอบคุณนะดีน ไม่คิดว่าจะมีของฝากมาให้ด้วย” เธอยิ้มหวานขอบคุณ
“ผมซื้อของฝากชาวค่ายเป็นเรื่องปกติครับ ไม่รู้เป็นอะไร ถ้าไปที่ไกล ๆ แล้วไม่ได้ช็อปปิ้งของมาเป็นโหลแล้วมันนอนไม่หลับ” ดีนหัวเราะ “แต่เรื่องภารกิจค่อยเล่า มาพูดถึงธุระของเราตอนนี้กันดีกว่า”
“ได้เลย” เคธี่พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนหันไปกวักมือเรียกใครบางคน “น้องวิโอล่า พวกเรามากันพร้อมแล้วล่ะ เธออธิบายกติกาได้เลย”
‘วิโอล่า เลโนเวนเซีย’ น้องสาวคนสวยจากบ้านอะโฟร์ไดท์ที่ยืนหลบมุมอยู่จนลืมสังเกตเห็น แต่พอเธอเดินเข้าฉาก ออร่าแบบเจ้าหญิงน้อยก็เปล่งประกายออกมาจนต้องตะโกนว่า ‘ราชนิกุล!’ ในใจ
“คะ..ค่ะ พี่แคท พี่ดีน” วิโอล่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงประหม่า เธอสูดหายใจแรงเรียกความมั่นใจให้ตัวเองจนได้ยินเสียชัด ทำเอาคนรอฟังกติกาถึงกับคอยลุ้นให้กำลังใจไปด้วย “วิโอล่า เลโนเวนเซียค่ะ ขอนำเสนอวิธีการเล่นเลยนะคะ เอ่อ.. คือ.. อ่า…”
“ใจเย็น ๆ วิโอล่า ฮึบ!” เคธี่กำหมัดให้กำลังใจสาวน้อย
“ทำแบบนี้เดี๋ยวเธอก็ยิ่งเขินใหญ่หรอกคุณแคท” ดีนเท้าคางแซว
“อ๊ะ จริงเหรอ? งั้น.. ฉันจะให้กำลังใจเงียบ ๆ” พูดจบรุ่นพี่สาวบ้านอะพอลโล่ก็เม้มปากก่อนจะนั่งตัวตรงแหน่ว
“คิก.. ขอบคุณนะคะ” วิโอล่าหัวเราะเบา ๆ ดูเหมือนว่ากำลังใจจากรุ่นพี่ที่แสนดีจะทำให้เธอมีพลังขึ้นมาบ้างแล้ว “ที่กระโจมต้องประสงค์แห่งนี้มีพลังที่จะเนรมิตห้องภายในบ้านพักให้เป็นจริงได้ค่ะ ขอแค่เจ้าของห้องแสดงความปรารถนาที่จะให้เกิดขึ้นจริง ๆ…”
“เห กระท่อมอะโฟร์ไดท์มีพลังแบบนั้นด้วยเหรอ สะดวกดีจังเลย” เคธี่ทำตาโต “ที่กระท่อมพี่นะต้องเผาศรัทธาเรียกท่านพ่อมาเสกห้องให้ล่ะ จะเปลี่ยนนั่นนี่บ่อย ๆ ก็เลยเกรงใจ”
“นั่นสิ ผมก็เลยสร้างห้องเองซะเลยสะดวกกว่าเรียกพ่อมาเสกให้อีก” ดีนเองก็ให้ความเห็น
“บ้านที่มีแต่หนุ่ม ๆ วัยฉกรรจ์นี่ดีจังเลยนา ไม่ขาดแคลนแรงงานเลยสิ”
“จะว่างั้นก็ใช่ แต่ตอนนี้ตี้แตกอยู่ครับ ไปอยู่นิวโรมกันหมด” ชายหนุ่มหัวเราะ “แล้วรุ่นพี่อยากได้ห้องแบบไหนล่ะครับ? เขาว่าเสกได้ทุกอย่างเลยนี่ ทำห้องหรูหราหมาเห่าแบบเพนเฮาส์หรูน่าจะได้”
“หูย.. ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก” เคธี่รับยกมือขึ้นมาโบกปัดก่อนที่จะเปลี่ยนโหมดไปนึกคิด “อืม… จริงอยู่ที่พ่อเราเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ แต่ตอนนี้แสงสว่างกำลังทำร้ายฉัน ฉันนอนไม่ได้เลยในห้องก็ร้อนไปหมด บางทีการเอาหน้าต่างออกอาจจะช่วยได้ แต่ฉันว่าฉันต้องการผู้ช่วยสักคน สงสัยต้องให้นายช่วยออกแบบแล้วล่ะ”
“เดี๋ยวนะ เอาหน้าต่างออกไปเลยก็ไม่มีช่องรับแสงสิครับ อย่างน้อยควรจะมีแสงสว่างในห้องสักสิบเปอร์เซ็น อย่างน้อยก็ตามหลักกฎหมายการออกแบบอาคาร”
“เป็นการเป็นงานชะมัด นายเรียนจบสถาปัตย์ฯ มาเหรอ?” เคธี่ทำหน้าทึ่ง
“เปล่าหรอกครับ ผมจบเทคโนโลยีชีวภาพมาน่ะ ส่วนเรื่องออกแบบห้องนายช่างใหญ่ไทสันบอกมาตอนที่ผมสร้างห้องสัตว์เลี้ยง” ดีนตอบ
“พี่ไทสันน่ะเหรอ สุดยอดไปเลย! ฉันนึกว่าเขาเก่งแค่งานคราฟอาวุธเสียอีก คิดไม่ถึงว่าสร้างบ้านได้ด้วย” คำตอบของดีนทำเอาเธอตกใจยิ่งกว่าเดิม “คงหลีกเลี่ยงหน้าต่างไม่ได้สินะ ถ้างั้นควรทำยังไงดี…”
วิโอล่าสลับมองทั้งสองคุยกันจึงได้แต่อมยิ้ม
‘ทั้งคู่สนิทกันดีจัง ดีจังเลยนา…’
บางทีเธอก็อยากสนิทกับคนอื่นง่าย ๆ แบบนี้บ้าง ติดแค่ขี้อายเกินไปจึงได้แต่มุดหน้าหนี
“พวกพี่ ๆ ใช้ดินสอ สี แล้วก็กระดาษบนโต๊ะในการออกแบบงานได้นะคะ ถะ…ถ้า ได้แบบที่เป็นรูปธรรม.. กระโจมก็จะรังสรรค์ห้องให้ตรงแบบได้มากกว่า..”
“ขอบคุณนะวิโอล่า แต่ถ้าบอกว่าห้องจะออกมาเหมือนแบบที่วาด รุ่นพี่แคทก็ซวยแล้วเพราะฝีมือการวาดภาพของฉันเท่ากับเด็กเกรดสาม” แซวตัวเองก็หัวเราะ
“มะ.. ไม่หรอกค่ะ ถึงจะวาดรูปไม่เก่งก็ไม่เป็นไร…” วิโอล่ากล่าวเสียงแผ่ว แต่ที่เธอบอกน่ะเป็นเรื่องจริงนะ!
“ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าจะได้ห้องเบี้ยว ๆ มาแล้ว” เคธี่หัวเราะขำ แต่เธอว่ามันก็น่าสนใจดีนะถ้าได้ห้องเบี้ยว ๆ ใช้หลับนอน คงเป็นอะไรที่ไม่น่าเบื่อ ขอแค่ไม่มีอะไรล้มทับก็พอ “เอ.. ว่าแต่… วันนี้วันพฤหัส น้องวิโอล่าโดดเรียนเหรอจ๊ะ?”
“อ๊ะ! ปะ..เปล่านะคะ” ถูกทักแบบนี้สาวอะโฟร์ไดท์ยิ่งเลิ่กลั่กเข้าไปใหญ่ เธอแก้ตัวจนลิ้นแทบจะพันกัน “วะ.. วันนี้มีหยุดอ่านหนังสือสอบน่ะค่ะ”
“อ้าว วันนี้หยุดอ่านหนังสือเหรอ รบกวนเธอหรือเปล่า ต้องรีบไปอ่านหนังสือแล้วสิเนี่ย จะว่าไปก็น่าคิดแฮะ… ใช้กระโจมต้องประสงค์เสกคำตอบถูกทุกข้อให้ข้อสอบได้หรือเปล่าหว่า?” ด้วยนิสัยนักวิทยาศาสตร์ของดีนทำให้เขาเริ่มตั้งสมมติฐานไปเรื่อย
“โธ่ พี่คะ.. กระโจมต้องประสงค์ใช้ทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ”
“ว้า น่าเสียดาย นี่ถ้าเสกได้มากกว่าห้องนะแหล่มเลย” ดีนพูดแล้วก็ยกนิ้วโป้งประกอบ
“ก็พูดไป~~ ถ้าไม่ได้จากความสามารถตัวเองก็วัดผลไม่ได้น่ะสิ” เคธี่หัวเราะ “น้องวิโอล่าไปอ่านหนังสือก่อนก็ได้นะ ตรงนี้น่าจะคุยกันยาว”
“ค่ะ ถ้างั้นหนูขอตัวนะคะ ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะคะ” วิโอล่าตอบ
“ไว้ถ้าพวกเราออกแบบห้องเสร็จแล้วจะเรียกอีกทีนะ”
สาวเจ้าบ้านค้อมศีรษะให้รุ่นพี่ทั้งสองก่อนจะไปนั่งอ่านหนังสือติวสอบที่อีกมุมหนึ่งของสวนดอกไม้
“เอาล่ะ มาเริ่มลงมือกันเลยดีกว่า.. รุ่นพี่บอกว่าไม่อยากได้หน้าต่างสินะ แต่ก็จำเป็นต้องมีช่องรับแสงไม่งั้นอยู่แล้วจะอึดอัดเกินไป.. ถ้างั้นเอางี้ไหมครับ เปลี่ยนสเตนกลาสที่เคยติดกันคราวก่อนเป็นตู้ปลา ถ้าได้นอนห้องใต้ทะเลน่าจะน่าสนใจ”
ดีนเริ่มร่างภาพห้องของเคธี่ลงกระดาษคร่าว ๆ โดยวางตำแหน่งของตู้ปลาที่จะเอามาแทนที่กระจกเท่าที่จำความได้
“ออกแบบได้สมกับเป็นบุตรแห่งโพไซดอนดีแฮะ” เคธี่ท้าวคางมองรูปร่างในกระดาษ
“จะว่างั้นก็ได้ ผมได้แรงบันดาลใจบางส่วนมาจากแอตแลนติส เอาจริงแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยชินกับปลาที่ว่ายไปมาเท่าไร แต่อยู่ไปอยู่มาก็จะชินไปเองครับ”
“เงาปลาว่ายไปมาอาจจะดีกว่าแสงแดดก็ได้ พูดตามตรงนะ ขนาดว่าตอนนี้ติดหน้าต่างเป็นเสตนกลาสยังเอาไม่อยู่เลย แสงสีมากไปจนตาลายเลย”
“อ่า.. กระจกสีอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับห้องนอนเท่าไรสินะ…”
ตอนติดตั้งก็สวยดี แต่ใช้งานจริงกลับไม่โอเคก็ไม่ได้สินะ...
“ต่อไปเตียง.. รุ่นพี่อยากได้เตียงไข่มุกของเงือกน้อยไหมครับ?” ดีนถาม
“อูย เตียงเงือกน้อยเลยเหรอ มันจะไม่หวานแหว๋วไปหน่อยเหรอดีน มันน่ารักไปไม่เหมาะกับฉันซะล่ะมั้ง” เคธี่หัวเราะ ทำเอาคนที่กำลังวาดรูปอยู่ต้องเงยหน้ามอง
‘อย่างคุณเนี่ยนะไม่น่ารัก?’
แต่เอาเถอะ แม้ว่าหญิงสาวจะร่าเริงและน่ารักเหมือนเด็ก แต่ไลฟ์สไตล์ของเคธี่ไม่ใช่คนนุ่มนิ่ม ออกจะเป็นสาวโฉบเฉี่ยวทะมัดทะแมงแล้วก็รักการผจญภัยเสียด้วยซ้ำ
“ถ้างั้น.. เป็นเตียงไม้ไผ่สานที่มีเถาวัลย์ห้อยลงมาเหมือนกำลังผจญภัยในป่าใหญ่…”
อืม.. โคตรไม่เข้า
“ไม่ได้เข้ากันเล้ย~~” เคธี่หัวเราะตอกย้ำความคิดในหัวดีนพอดีเป๊ะ “แต่เอาสิ ฉันชอบ มีทั้งทะเลและป่าในห้อง มันต้องยอดเยี่ยมแน่ ๆ”
“เอาจริง?” ดีนเลิกคิ้วถาม
“เอาจริงสิ วาดมาเลย” หญิงสาวจิ้มนิ้วจึก ๆ ลงในกระดาษ ดีนถึงได้วาดเตียงเถาไม้บูด ๆ เบี้ยว ๆ ลงไป
“ถ้างั้นผมเพิ่มโต๊ะดอกทานตะวันให้ด้วยเลย เข้ากับคุณสุด ๆ” ถือวิสาสะวาดโต๊ะดอกทานตะวันลงไปด้วยเลย ซึ่งเจ้าของห้องก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ห้องดูโล่ง ๆ นะ เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ลงไปอีกสักอย่างสองอย่างดีไหม?” เคธี่เสนอเพิ่ม
“ถ้างั้น.. ต่อไปก็ตู้หนังสือ เอาสีแดงไปเลย ตัดกับสีห้องดี”
“ให้ตายสิ!” ธิดาอะพอลโล่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ กับการแกล้ง กระนั้นเธอก็ไม่ได้ท้วง ออกจะดูสนุกสนานที่ได้ลุ้นว่าห้องจะออกมาเป็นอย่างไร
“แล้วก็.. ผมเพิ่มให้อีกอย่าง ของหวานอันใหญ่เบิ้ม!”
ไม่รู้ทำไมดีนถึงวาดออกมาเป็นขนมของญี่ปุ่นแทนที่จะเป็นเค้ก สงสัยว่าเทพอะพอลโล่จะดลใจ จากนั้นเขาก็สาดสีสันลงไปจนภาพห้องของ เคธี่ เฟย์ เสร็จสมบูรณ์ “เรียบร้อย!”
“ว้าว ถึงไม่เข้ากันแต่ก็น่ารักชะมัด! ฉันชอบนะ ต่อไปต้องทำยังไงนะ? ตั้งจิตอธิษฐานให้ห้องออกมาเหมือนรูปนี้เหรอ?”
“เอ่อ.. ผมก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่ถ้าฟังจากที่วิโอล่าอธิบายก็คง—...”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดีนก็เห็นรุ่นพี่สาวประสานมือกลางอกหลับตาพริ้มตั้งจิตให้เนรมิตห้องตัวเองไปแล้ว
เอาล่ะ.. เดี๋ยวก็คงรู้กัน
. . .
ดีนละเคธี่ใช้เวลาอยู่ที่กระโจมต้องประสงค์ในการเม้ามอยภารกิจอยู่ครู่ใหญ่ (แน่นอนว่าเขาเล่าไม่หมด) จนถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย แจ้งสาวน้อยวิโอล่า บอกลากันแล้วนัดเจอกันใหม่วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่เคธี่ว่างไม่มีการสอน
ร่วมกิจกรรม: วาสนา โชคชะตา พรหมลิขิต!
ขั้นที่ 1: 5 ดรักม่า และ +20 EXP

มอบ [เสื้อฮาวาย] ให้ [เคธี่ เฟย์ (แคท)]
+10 โบนัสความสนิท จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ
+5 โบนัสความสนิท จาก ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง
+5 โบนัสความสนิท จาก น้ำหอม Unisex
|