The Annoying Monster's Diary

The Annoying Monster's Diary

{ By The Beautiful ???? }

บันทึกอสูรกายแสนน่ารำคาญ
『 ตบ ๆ ตี ๆ แล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง - ?????. 』

หน้าแรกของบันทึก ถึง ^&%&
ฉันไม่เคยชอบใช้กำลัง ความรุนแรง หรือการต่อสู้ มันเหนื่อย ลำบาก เสียเวลาและไม่ตรงต่อรสนิยมของฉัน แต่บ้าเอ้ย ไอพวกนี้ไม่มีทางดีขึ้นจริง ๆ ถ้าเราไม่ตบมันสักครั้ง ดังนั้นจำเอาไว้นะที่รัก ในฐานะผู้หญิงสวยรวยและเก่งมาก ช่างหัวแ*งให้หมดแล้วตี ๆ ไปเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเองนั่นแหละ

HARPIE

{ No. 01 }

ข้อมูลเพิ่มเติม
『 รายละเอียดฉบับจริงจัง (ผสมไม่จริงจัง) 』

ชื่ออสูรกาย : ฮาร์ปี้ — HARPIE or HARPY
รูปลักษณ์ : หากอ้างอิงจากหลายเอกสาร รูปลักษณ์ของฮาร์ปี้มีมากมายนับไม่ถ้วน ทว่าจุดกำหนดที่ตรงกันคือ เป็นอสูรกายเพศหญิง ลำตัวและใบหน้าเป็นมนุษย์ ทว่าแขนและขากลับเป็นนก ตัวที่ดิฉันพบก็เช่นกัน ราวกับว่ามันเป็นส่วนผสมของสองสายพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบ แขนกลายเป็นปีกที่แหลมคม มันยังดูเป็นขนนก แต่แ*งโคตรคมเลย (T*T) ส่วนที่เป็นขาก็อันตรายไม่แพ้กัน เพราะอุ้งเท้าคนถูกแทนที่ด้วยกรงเล็บคม ๆ ของนก บางทีอาจเป็นกรงเล็บเหยี่ยว หรือไม่ก็นกสายพันธุ์ที่ชื่อตรงตัวว่าฮาร์ปี้



การพิชิตครั้งแรก : ณ ป่าต้องห้าม



ชีวประวัติ :
ถึงจะมีหลากหลายตำนาน แต่ฉบับที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นฉบับที่กล่าวว่าเดิมทีฮาร์ปี้มีแค่สองตัว ประกอบไปด้วย เอลโล และโอไซพีเทส ทั้งสองเป็นธิดาของเธามาสและโอเชียนิดนามอิเล็กตร้า (โอเชียนิดคือนิมฟ์แห่งทะเล) เธามาสที่เป็นพ่อ คือลูกพอนทัสและไกอาที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าโบราณตามตำนานกรีก ฉะนั้นแล้วถ้านับตามลำดับญาติ ฮาร์ปี้ทั้งสองตัวนี้ถือเป็นพี่น้องกับเทพีไอริส

เรื่องที่เป็นที่รู้จักเกี่ยวกับฮาร์ปี้คือเรื่องที่เกี่ยวกับเรืออาร์โก ในตอนนั้นเรืออาร์โกมาเทียบท่าที่ฝั่งเธรส ภายในเรือมีนักพยากรณ์ตาบอดคนหนึ่งนามว่าฟีนูสที่ล่วงรู้ความลับของสวรรค์ แทนที่จะอยู่เงียบ ๆ เขากลับนำความลับนั้นมาป่าวประกาศ ทำให้ราชันเทพ ซุส ได้ออกคำสั่งให้สองพี่น้องฮาร์ปี้มาขโมยอาหารของฟีนูสเป็นการทรมาณ

บางทีซุสคงไม่ได้ตกลงกับลูกหลานให้ดี ดังนั้นสุดท้ายแล้วเซเทสและคาลาอีส บุตรของเทพเจ้าแห่งสายลมเหนือ (โบรีอัส) จึงได้หาหนทาง และรับหน้าที่เป็นผู้ขับไล่เหล่าฮาร์ปี้ บางทีบอกว่าเซเทสและคาลาอีสเป็นคนฆ่าฮาร์ปี้ทั้งสอง หรือไม่ก็เกือบฆ่าแล้วแต่เทพีไอริสได้ลงมาห้าม แต่สุดท้ายในหลาย ๆ ตำนาน ก็มักเขียนบทสรุปของฮาร์ปี้ให้จบลงที่การตายอยู่ดี และในภายหลัง ตำนานเกี่ยวกับฮาร์ปี้ตัวอื่น ๆ ก็เริ่มมีเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนติดท็อปอันดับอสูรกายสนามอารมณ์ที่ถูกหยิบไปใช้งานในเรื่องเล่าหลาย ๆ เรื่อง



ประสบการณ์ของคุณ :
ครั้งแรกที่เจอฮาร์ปี้ สำหรับฉัน จริง ๆ แล้วมันคือตอนก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในค่ายฮาร์ฟบลัดซะอีก แต่จะไม่ขอพูดถึง เพราะฉันไม่ใช่คนจัดการมันด้วยตัวเอง สำหรับครั้งที่สอง (ยืนยันว่าฉันจัดการด้วยตัวเอง) ฉันเจอมันที่ป่าต้องห้ามตามคำแนะนำภารกิจของไครอน ฮาร์ปี้เป็นอสูรกายที่นิสัยเหมือนสาว ๆ ในช่วงวันนั้นของเดือน อารมณ์ร้อนง่าย บางครั้งทำอะไรไม่ค่อยคิดและค่อนข้างเจ้าคิดเจ้าแค้น

พวกหล่อนได้เปรียบจากการที่มีปีกและบินได้ คงต้องเรียกว่ามีอิสระในการเคลื่อนไหวมากกว่ามนุษย์โดยทั่วไปทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ที่จะรับมือ ช่วงตัวของพวกหล่อนค่อนข้างยาว ดังนั้นในความคิดฉัน การใช้หอกเป็นตัวเลือกที่ดีหากต้องการรักษาระยะแต่ก็ยังโจมตีได้ในบางครั้ง

อันที่จริงฉันเกือบจะยันไว้ไม่ไหวด้วยซ้ำ ยัยพวกนี้แรงเยอะเหมือนม้า แต่ก็ยังมีช่วงที่ประมาท หรือไม่ก็อาจจะเป็นข้อด้อยในเรื่องสรีระทางร่างกาย ขอแค่โจมตีที่ปีกได้ก็แทบจะยืนยันผลชนะไปเกือบครึ่ง

สำหรับครั้งนี้ฉันใช้หอกแทงที่ปีกของพวกหล่อน แล้วก็กดตรึงพวกมันไว้กับพื้น เพียงพอที่จะให้ใช้อาวุธอีกชนิดในการสังหาร ... แต่พูดตามตรงนะ ถ้ามาพร้อมกันหลายตัว ฉันว่าฉันตายแหง ๆ



ลงชื่อผู้บันทึก :

GOBLIN

{ No. 02 }

ข้อมูลเพิ่มเติม
『 รายละเอียดฉบับจริงจัง (ผสมไม่จริงจัง) 』

ชื่ออสูรกาย : ก็อบลิน — GOBLIN
รูปลักษณ์ : สิ่งมีชีวิตที่ถูกออกแบบให้คล้ายมนุษย์แต่อัปลักษณ์กว่า ตัวเขียว เตี้ย หูแหลม ฟันคม เหมือนมีดมีชีวิตขนาดพกพาได้



การพิชิตครั้งแรก : ณ กรุงโตเกียว



ชีวประวัติ :
พวกมันมักปรากฏในนิทานพื้นบ้านของชาวยุโรป แต่ก็มีตัวตนจริง บันทึกมักกล่าวว่าพวกมันปรากฏตัวครั้งแรกในยุคกลาง ได้รับการกล่าวขานถึงความสามารถ อารมณ์ และรูปลักษณ์ที่ขัดแย้งกันไปขึ้นอยู่กับเรื่องเล่าและจุดประสงค์ พวกมันเป็นได้ตั้งแต่ ภูต ผีบ้านผีเรือน ไปจนถึงโจรที่ชั่วร้าย หลายที่ชอบบอกว่าพวกมันมักมีความสามารถเหนือธรรมชาติคล้ายกับ นางฟ้า หรือ ปีศาจ เช่น ความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่าง อย่างไรก็ตามกิตติศัพท์



ประสบการณ์ของคุณ :
ก็อบลินเป็นศัตรูตามธรรมชาติที่น่ารำคาญเหมือนที่ฉันเขียนไว้ในการบ้านจริง ๆ พวกมันไว ตัวเล็ก คล่องตัวมากเมื่อเทียบกับมนุษย์แต่มีจุดด้อยที่อารมณ์ร้อน เย่อหยิ่งและค่อนข้างหลงตัวเอง ดังนั้นการยั่วยุให้พวกมันอารมณ์เสียจนขาดสติแล้วสวนทีเดียวให้จบถือเป็นวิธีที่ง่ายในการรับมือที่สุด



ลงชื่อผู้บันทึก :

Bake-danuki

{ No. 03 }

ข้อมูลเพิ่มเติม
『 รายละเอียดฉบับจริงจัง (ผสมไม่จริงจัง) 』

ชื่ออสูรกาย : บาเกะดานูกิ — Bake-danuki
รูปลักษณ์ : ทานูกิที่อ้วนกว่าปกติ.. และยืนสองขา ดูมีภาพลักษณ์ของตัวปัญหาที่มากกว่าแถมยังติดเหล้าในแบบที่ทานูกิโดยทั่วไปไม่ค่อยเป็น

การพิชิตครั้งแรก : ณ โอซาก้า



ชีวประวัติ :
บาเกะดานูกิเป็นตำนานพื้นบ้านญี่ปุ่นที่เล่าถึงทานูกิประเภทหนึ่ง.. ฉันไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วทั้งสองถือเป็นญาติหรือไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้คนเชื่อว่ามันมีพลังวิเศษในการแปลงร่างและสร้างภาพลวงตา ในทุกเรื่องเล่ามักบอกว่าพวกมันมีนิสัยขี้เล่น ซุกซน รวมไปถึงเจ้าเล่ห์ ดูเอาจากนิสัยที่ชอบปลอมตัวและหลอกลวงคน ทานูกิหลายตัวมีตำนานเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้อื่นเช่น "โชบุนทานูกิ" ที่เป็นเรื่องของทานูกิปลอมตัวมาเล่นดนตรีสร้างความสนุกสนาน หรือ "โยกะอิ-ดานูกิ" ที่กลายเป็นปีศาจแก้แค้นมนุษย์ แต่สำหรับเจ้าบาเกะดานูกิ.. ไอหนุ่มสายพันธุ์นี้เป็นพวกวนอยู่กับใต้สะดือของแท้เลย



ประสบการณ์ของคุณ :
.. ขอโทษทีฉัน จำไม่ได้ สินสงครามของมันอยู่ในกระเป๋าฉันไปแล้วน่ะ



ลงชื่อผู้บันทึก :

Cyclops

{ No. 04 }

ข้อมูลเพิ่มเติม
『 รายละเอียดฉบับจริงจัง (ผสมไม่จริงจัง) 』

ชื่ออสูรกาย : ไซคลอปส์ — Cyclops
รูปลักษณ์ : พวกมันมีรูปร่างใหญ่กำยำเข้าขั้นของคำว่ายักษ์ทำให้มีพละกำลังมหาศาล จุดเด่นที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นคือดวงตาข้างเดียวที่โดดเดี่ยวอยู่กลางหน้าผาก ใบหน้าของพวกมันมองจากที่ไกล ๆ ยังรู้ว่าหยาบกร้านและดุดัน ดูไม่ค่อยเหมือนสัตว์สังคมทำให้น่ากลัวเกินไปในหลายครั้ง หรือไม่ก็ดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสติปัญญา อย่างไรก็ตาม บางครั้งพวกเขาถูกเชื่อว่าเป็นช่างฝีมือยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการตีเหล็กทำให้ภาพลักษณ์ของพวกมันเป็นทั้งผู้ทำลายและผู้สร้างในเวลาเดียวกัน (แต่ฉันก็ยังไม่เคยเจอไซคลอปส์ที่นิสัยดีนะ??)

การพิชิตครั้งแรก (เนเรซ่า) : ณ ตลาดนัดลองไอร์แลน
การพิชิตครั้งแรก (เดนิสต้า) : ณ บันทึกการเดินทางหน้าที่ 6



ชีวประวัติ :
ไซคลอปส์ถูกบันทึกไว้ในปกรณัมกรีกมานับแต่โบราณ หากอ้างอินจากในตำนานแบ่งไซคลอปส์ออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มแรกคือไซคลอปส์ดั้งเดิมที่สร้างโดยเทพีไกอาและยูเรนัสที่มีส่วนช่วยในการสร้างอาวุธสายฟ้าให้กับเทพซุสในการต่อสู้กับไททัน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือลูกหลานของเทพโพไซดอน เช่น โพลีฟีมุส จากมหากาพย์โอดิสซี ของโฮเมอร์ ที่มีบทบาทสำคัญในการจับโอดิสซีอุสและลูกเรือ ก่อนจะถูกโอดิสซีอุสหลอกให้เมาและแทงตาจนบอด (มีตาเดียวอยู่แล้วยังต้องมาตาบอดอีก น่าสงสารจริง ๆ)



ประสบการณ์ของคุณ :
ที่อู่ซ่อมรถบ้า ๆ นั่น อเล็กซานเดอร์กับฉันเผอิญต้องกลายมาเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมเนื่องจากเจ้าของอู่ตัวจริงดันหายไปและมีชายแปลกหน้าชื่อจอร์ชที่อ้างตัวว่าเป็นญาติปรากฏตัวแทน แต่สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างยิ่งประหลาดคือจอร์ชมีดวงตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก—เขาเป็นไซคลอปส์..(กรอกตา) ฉันสู้กับหมอนั่นในห้องทำงานแคบ ๆ ของอู่ซ่อมรถ ฉันรู้ว่าการสู้ระยะประชิดกับสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่าฉันสองเท่าเป็นเรื่องที่โง่(มาก) ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจใช้ไหวพริบและความเร็วของตัวเองให้เป็นประโยชน์ด้วยการโยนทุกสิ่งที่ขวางหน้าใส่ไซคลอปส์ ทั้งกล่องเครื่องมือ โต๊ะไม้และแม้แต่โซ่เหล็กเก่า ๆ ที่ห้อยอยู่ข้างกำแพง มันไม่มีอะไรที่ดูเหมือนการต่อสู้เลย เหมือนฉากตลกจากหนังคอเมดี้ด้วยซ้ำ— แต่เพื่อจะจัดการเขา ฉันก็ยังจำเป็นต้องยกอาวุธมาซัดอยู่ดี ดังนั้นในช่วงจังหวะที่ฉันหาพลิกสถานการณ์ได้ ฉันก็ได้ใช้มีดสั้นสัมฤทธิ์จัดการเจ้านั่นจนคว่ำก่อนที่ตำรวจจะมาถึงแม้ว่าฉันจะสะบักสะบอมไปหน่อยก็เถอะ



ลงชื่อผู้บันทึก :