ภายในบริเวณห้องนอนรวม ภายในกระท่อมหมายเลขที่ 11 ของ ท่านเทพเฮอร์มีสเป็นสถานที่ซึ่งเปล่งแสงอบอุ่นจากโคมน้ำมันดวงเล็กที่แขวนเรียงรายอยู่ตรงเหนือบริเวณศีรษะของเธอ อากาศในช่วงตอนเวลา ของ ยามค่ำคืนยังคงเต็มไปด้วยความเย็นสบายและเต็มไปด้วยเสียงกระซิบจากเพื่อนร่วมกระท่อมที่กำลังทยอยพากันขึ้นมานอน หรือ มานั่งกันอยู่บนเตียงนอนอันแสนกว้างและใหญ่มากๆ แต่ทว่าในมุมมุมหนึ่งของห้องนอนรวมแห่งนี้ กลับยังคงมีแสงไฟสลัวของตะเกียงตั้งโต๊ะเล็ก ๆ ที่กำลังส่องลงบนพื้นผ้าห่มลายท้องฟ้ายามราตรีอยู่
หญิงสาวนามว่า ฮิเมนา เฟร์นันเดช กำทำการคุกเข่าลงตรงบริเวณเบื้องหน้าของเธอมีกระเป๋าผ้าสีเทาใบเก่า และตรงบริเวณด้านข้างของกระเป๋าใบนั้น ก็มีกระเป๋าเป้ใบเล็กอีกใบกำลังพิงอยู่ตรงบริเวณบนขาเตียงนอน ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ หรือที่เธอเคยรู้จักในฐานะ "ชีวิต" ที่ทำการถูกบรรจุอยู่ภายในนั้น เสมือนความทรงจำที่ถูกพับเก็บไว้อย่างเงียบงันในรอยพับของผ้าที่งดงาม และประณีตบรรจงที่สุด ในชีวิต ของเธอเลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นเธอก็เริ่มค่อย ๆ เอื้อมมือไปทำการเปิดกระเป๋าออกกว้าง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ทำการเอื้อมมือข้างหนึ่งไปทำการดึงผ้าพันคอไหมพรมสีขาวหม่นที่พ่อถักให้เมื่อตอนฤดูหนาวปีแรกในมอสโกออกมา กลิ่นหอมของสบู่เก่า ๆ ยังคงติดอยู่บนเส้นด้ายอย่างจาง ๆ เธอยิ้มบาง ก่อนจะค่อยๆ นำมันไปวางลงที่ตรงบริเวณบนปลายเตียงด้วยความระมัดระวังราวกับกำลังวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยกล่องไม้ขนาดเล็กที่ภายในบริเวณด้านใน ของ กล่องไม้กล่องนี้ได้ทำการบรรจุหมากรุกแกะสลักคู่ใจซึ่งเป็นตัว 'ม้า' ที่เธอโปรดปรานและก็ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เธอค่อยๆ นำมันมาวางไว้ในตรงบริเวณมือขข้างขวา หลังจากนั้นสาวน้อยจีน่าก็ค่อยๆ เริ่มเอานิ้วโป้งลูบเบา ๆ บนสันตัวหมากราวกับจะปลุกเรื่องราวและความทรงจำในช่วงตอนวัยสามขวบให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
และที่อยู่ตรงข้าง ๆ บริเวณกล่องไม้ นั่นก็คือสมุดบันทึกที่มีรอยขีดเขียน ของ ดินสออยู่จาง ๆ ร่องรอยนั้นติดอยู่ที่ตรงบนขอบกระดาษทุกแผ่น หัวมุมหน้าปกถูกพับบ้าง ถูกฉีกขาดออกบ้าง แต่ทว่าเนื้อด้านในของทุกข้อความในนั้นเต็มไปด้วยคำถามจากหัวใจดวงเล็ก ๆ ที่เติบโตมาในโลกที่ไม่เคยชัดเจนเลยเสียทีเดียว หลังจากนั้นก็มีเสียง ของ คุณเลย์ลาได้ทำการเอ่ยคำพูดขึ้นมา เป็นประโยคบทหนึ่งว่า
“ว้าว...นี่เธอทำการพกหมากรุกมาด้วยเหรอ?” เสียงของคุณเลย์ลาแว่วมาจากอีกฝั่งและด้านหนึ่งของบริเวณเตียงนอนที่อยู่ข้าง ๆ กันกับเตียงนอน ของเธอ ในขณะที่เธอกำลังพับผ้าห่มของตัวเองอยู่ หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียงและเอ่ยคำพูด ออกมาจากริมฝีปากบาง เป็นประโยคที่ว่า
“อื้ม…หนูเล่นกับพ่อบ่อย ๆ เวลาว่างค่ะ” จิน่าตอบด้วยรอยยิ้มบาง “เขาสอนว่า...ทุกตัวหมากคือเรื่องราว ม้าอาจไม่เดินตรงเหมือนเบี้ยหรือเรือ แต่เขาไปไกลได้ในแบบที่คนอื่นไม่มีวันที้จะเข้าใจในตัวเขาได้หรอกนะคะ คุณเลย์ลา”
หลังจากที่จบคำพูด ของ สาวน้อยจีน่าลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้นคุณเลย์ลาก็ค่อยๆ เริ่มทำการส่งรอยยิ้มอย่างบางเบามาให้กับจีน่าได้เห็นเช่นกันก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูดออกมาอีกประโยคหนึ่งว่า “ชอบประโยคนั้นของเธอจังเลย... แต่ทว่าหมากรุกม้านี่ก็ดูมีความคล้ายคลึงและก็มีนิสัย เหมือนเธอเลยล่ะจีน่า ดูเหมือนไม่ตรง แต่มีทางของตัวเองอยู่อย่างเสมอ”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูด ของ คุณเลย์ลา จบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้นสาวน้อยจีน่า ก็ค่อยๆ เริ่มทำการปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่เธอจะเริ่มทำการจัดวาง และ นำสมุดบันทึกเอาไปวางไว้ที่ตรงบริเวณใต้หมอน และค่อยๆ เอื้อมมือเรียวบางข้างหนึ่ง ของ ตัวเธอเองขึ้นไปทำการหยิบภาพถ่ายครอบครัวที่เก็บไว้อย่างดีในซองกันชื้นและนำออกมา ภาพนั้นคือนิโคไล เฟร์นันเดซในชุดเสื้อไหมพรมขาด ๆ ขณะที่เธอในวัยเจ็ดขวบกำลังกอดเขาแน่นอยู่ใต้ต้นสนหลังบ้านในช่วงของฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน
เธอใช้เวลาจ้องมองภาพนั้นอยู่เป็นระยะเวลาค่อนข้างเนิ่นนานพอสมควร ก่อนที่ในเวลาต่อมาเธอจะค่อยๆ เริ่มทำการพับมันเก็บไว้ในสมุดบันทึกอีกหนึ่งเล่มอย่างทะนุถนอม หลังจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เริ่มทำการ ปิดกระเป๋าสัมภาระให้เรียบร้อย และค่อยๆ วางมันลงไว้ที่ตรงบริเวณข้างเตียง
คุณวิคตอเรียที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงข้าง ๆ เห็นท่าทางนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น พลางยื่นหมอนพิเศษให้ กับ เธอ แล้วทำการเอ่ยคำพูด ออกมาประโยคหนึ่งว่า
“ถ้าเธอฝันว่ากำลังหนีจากยักษ์เก้าหัว หมอนนี่จะช่วยให้เธอวิ่งเร็วขึ้นเป็นอย่างมากเลยนะในความฝันนะ เชื่อฉันสิ! นี่นะเป็นหมอนที่นำโชคดีของพี่เลยนะ!” หลังจากที่คำพูด ของ รุ่นพี่วิกตอเรีย ได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา สาวน้อยจีน่า จะเริ่มค่อยๆ ทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดเป็นประโยคหนึ่ง ออกมาจากริมฝีปากบาง ของ เธอว่า
“จริงเหรอคะ คุณวิกตอเรีย?” หลังจากที่จบคำพูด ของ ตัวเธอเองลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นสาวน้อยจีน่า ก็ค่อยๆ เริ่มทำการส่งเสียงหัวเราะ ออกมา แต่ทว่าเสียงหัวเราะ ของเธอในตอนนี้ และ เวลานี้ กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวของความสงสัย และความประหลาดใจปะปนกันอยู่ ก่อนที่คุณวิกตอเรียจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาหนึ่งประโยคว่า
“จริงจริ๊งนะ! พี่ใช้มันหนีอสุรกายมาแล้วสามรอบ และก็รอดตายจากพวกอสุรกายเหล่านั้นกลับมาได้แทบทุกครั้งเลย!” วิคตอเรียค่อยๆ เริ่มทำกาคยักคิ้วพร้อม กับ ส่งเสียงหัวเราะห้าว ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ ของเธอ ออกมาอย่างเต็มที่ ก่อนที่ในเวลาต่อมา คุณเลย์ลินน์ จะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมา หนึ่งประโยคว่า
“อย่าไปเชื่อถือวิคตอเรียมากนะ” สาวน้อยเลย์ลินน์ที่กำลังทำการก้าวเรียวขาบาง เดินกลับมาจากห้องน้ำ รีบเดินมาทำการกระซิบลงตรงบริเวณข้างหูของสาวน้อยจีน่าทันที ก่อนจะยังคงพูดต่ออีกหนึ่งประโยคว่า “ครั้งก่อนพี่เธอใช้หมอนฟาดอสุรกาย แล้วก็วิ่งหนีไปไหนไม่รอด เลยต้องไปทำการแอบซ่อนตัวอยู่ใต้บริเวณรถเกวียนกันเลยหล่ะนะ...”
หลังจากที่คำพูด ของ คุณเลย์ลินน์ได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นเสียงหัวเราะกราด กราดๆ ก็เริ่มดังขึ้นมาจากตรงบริเวณรอบ ๆ เตียง ทั้งจากคุณคาสึฮะที่กำลังทำการนั่งอ่านสมุดบัญชีเล่มโต อยู่ในตรงบริเวณมุมห้องก็ยังเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มอ่อน ๆ มาให้ กับ เธอ แล้วค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูดออกมา เป็นประโยคหนึ่งว่า
“อย่าลืมล็อกกระเป๋านะจีน่า” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดูมั่นคงแบบพี่ใหญ่ ที่สุด ของ น้องๆ ภายในกระท่อมหมายเลขที่ 11 ของท่านเทพเฮอร์มีสเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มค่อยๆ ทำการเอ่ยคำพูดต่ออีกหนึ่งประโยคว่า “บางทีพวกเจ้าฝาแฝดอาจจะมาแอบวาดหนวดลงไปบนตุ๊กตาของเธอตอนกลางคืนก็ได้” หลังจากที่จบคำพูด ของ รุ่นพี่คาสึฮะลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก สองสาวพี่น้องฝาแฝดก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับเอ่ยคำพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า
“รุ่นพี่คาสึฮะ! พวกหนูไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อยหนึ่งนะ!” น้ำเสียง ของ สองสาวฝาแฝดพี่น้องพูดประสานเสียงขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ในตอนนี้เลย์ลาดูจะมีท่าทีเขินอาย ส่วนเลย์ลินน์ก็ค่อยๆ เริ่มทำการยักไหล่ขึ้นอย่างไม่ยี่หระอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อนที่ทั้งสองสาวฝาแฝด จะค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูดออกมาหนึ่งประโยค ว่า
“บางทีก็แค่วาดไปแค่ครึ่งหนวด...เองหล่ะนะ” เธอกระซิบ ข้างใบหู ของ จีน่าอย่างเจ้าเล่ห์
ในที่สุด หลังจากที่สาวน้อยจีน่าได้ทำการจัดของทุกชิ้นให้วางเข้าที่เข้าทางและเป็นระเบียบเรียบร้อยดีแล้วนั้น ในตอนนี้เสียง ของ การพูดคุยสนทนาก็เริ่มที่จะเบาบางลงไป เหล่าเด็ก ๆ ตัวเล็กตัวน้อย ค่อยๆ เริ่มทำการซุกตัวลงไปอยู่ภายใต้บริเวณผ้าห่มของตนเอง ก่อนที่แสงจากโคมไฟดวงสุดท้ายจะทำการถูกสาวน้อยนามว่า เลย์ลาดับลงไป ในเวลานี้เงาสลัวเข้าครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณห้องนอนรวม หมายเลขที่ 11 ของท่านเทพเฮอร์มีส ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนสาวน้อยตัวเล็กๆ อย่าง ฮิเมนาก็กำลังเอนตัวลงนอนบนหมอนใหม่ ที่แม้จะยังไม่คุ้นเคยนัก…แต่กลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ก่อนที่ดวงตา ของ เธอจะเริ่มค่อย ๆ ทำการหลับสนิทลง แต่ทว่าภายในจิตใจของเธอก็ยังคงรู้สึกตื่นเต็มที่อยู่นั่นเอง
นี่ถือเป็นค่ำคืน ของ วันแรกของเธอในกระท่อมหมายเลข 11 แห่งเฮอร์มีส บ้านของเด็กน้อยที่รอการรับรองบุตร และก็ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ มิตรภาพ และความทรงจำที่กำลังจะถูกเขียนขึ้นเป็นตำนานที่สวยและงดงามอีกหนึ่งบทเลยก็ว่าได้