เจ้าของ: God

[หน้าโรงอาหาร] เตาไฟบูชาเทพ

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-2-14 14:22:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Paige เมื่อ 2025-2-14 14:55


Paige Yoo


Feb, 14 2025 | 07.30 am

หลังจากเตรียมตัวออกมาจากห้องพัก สองเท้าก็เดินไปยังเตาไฟบูชาเทพ เพราะ
ตั้งใจไว้ว่าจะมาถวายของให้กับมารดา เพจมายืนอยู่หน้าเตาไฟ เปลวไฟลุกโน
ด้วยสีท่องอ่อน ไหวระริกตามสายลม เมื่อวานมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะเล่า
ให้กับใครสักคนฟัง

หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งพร้อมกับนึกย้อนหลังไปยังเมื่อวาน พลางคิดว่าจะเล่า
อะไรให้แม่ของตนได้ฟังบ้าง

“เมื่อวานหนูไม่ได้แวะมา ขอโทษแม่ด้วยนะคะ” เริ่มด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดพลาง
หลุบตามองบนพื้น

“แล้วเมื่อวานหนูไปเรียนวิชาดาบและโล่มาด้วยล่ะคะ ปวดแขนมาก ๆ เลย แต่ก็
เป็นประสบการณ์ที่ท้ายหนูมาก ๆ เลยล่ะคะ แล้วหนูเริ่มเรียนวิชาภาษากรีกแล้ว
ด้วยนะคะ”


นัยน์ตาสีน้ำตาลช็อคโกแลตค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปตามบทสนทนาและเริ่มเป็น
ประกายมากขึ้น ยามที่ได้เล่าเรื่องราวที่พบเจอมา หากได้เล่าให้พ่อฟังด้วยก็
คงจะดีไม่น้อยเลย

“เคยเห็นแต่ในหนังสือ พอหนูได้มาเห็นจริงแล้ว ไม่ง่ายเหมือนกันนะคะ บางตัวมี
เส้นโค้งแปลก ๆ ด้วย หนูก็เลยต้องจำเยอะเลยล่ะคะ แล้วก็เริ่มฝึกเขียนแล้วด้วย
นะคะ ต่อไปหนูมาพูดกับแม่เยอะ ๆ เลย”


รอยยิ้มคลี่กว้างออกยามที่นึกภาพตอนตัวเองพูดภาษากรีกโบราณได้อย่าง
คล่องแคล่ว ยิ่งทำให้เพจอยากจะเรียนรู้มากขึ้นอีก หากพ่อได้รู้ก็คงถูมิใจในตัว
ของเธอเช่นกัน อีกทั้งยังมีกำลังใจที่ดีจากโนว่าอีกด้วย

ป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้างนะ

“วันนี้หนูเอาเค้กสตรอว์เบอร์รี่มาถวายแม่ด้วยนะคะ เพราะวันนี้เป็นวันสาเลน
ไทน์ล่ะคะ - จริงสิ หนูไปลงกิจกรรมเดทไว้ด้วย ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ตื่นเต้นจัง”


มือเล็กหยิบเค้กที่ซื้อมาแล้วใส่ลงไปในเตาไฟ ปล่อยให้เปลวเพลิงเผาขนมหวาน
ตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหลับตานึกถึงมารดาของตน

“แม่อวยพรหนูด้วยนะคะ ให้หนูราบรื่นกับทุกสิ่งที่กำลังจะลงมือทำ คอยมองหนูดู
ข้างบนนะคะ หนูจะทำอะไรดีที่สุดค่ะ ไว้หนูจะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ไว้เจอกันค่ะ
แม่”



-----------------------------------------------------------------------------

[แบบฟอร์มถวายของ] 

ชื่อของคุณ: เพจ ยู
ของที่ถวาย: เค้กสตรอว์เบอร์รี่
เทพที่ถวายของ: เฮคาที
คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: ประโยคสุดท้าย
(resoure)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-21-1] เฮคาที เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2025-2-14 14:37
โพสต์ 7544 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-2-14 14:22
โพสต์ 7,544 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-2-14 14:22
โพสต์ 7,544 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ดรีมแคชเชอร์  โพสต์ 2025-2-14 14:22
โพสต์ 7,544 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2025-2-14 14:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
รองเท้าเซฟตี้
ดรีมแคชเชอร์
น้ำหอมสตรี
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x3
x5
x2
x4
x1
x1
x2
x3
x3
x4
x3
โพสต์ 2025-2-15 01:29:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ERTAH BROWN
เตาไฟบูชาเทพ

Feb, 14, 2025 | 6.00AM


          เพราะว่าวันนี้เนวันที่สำคัญของเธอในหลาย ๆ อย่างเลย นั่นเลยทำให้เออต้ารีบตื่นขึ้นมาแต่เช้า และเป็นเวลาที่เช้ากว่าทุกวันด้วย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อาจจะเป็นความตื่นเต้นก็ได้ วันนี้เธอจะต้องไปเรียน ไปตามหาเทพ แล้วก็... ต้องไปเดท!

          ก็วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์นี่นา แล้วที่นี่เองก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย ไม่แปลกเลยที่เออต้าจะเข้าร่วมด้วย เธออยากรู้จักกันคนอื่น ๆ ดูบ้าง และเมื่อจะได้ไปเดทในวันนี้ ความตื่นเต้นที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็เกิดขึ้นมา จนทำให้เธอมาดีดดิ้นอยู่แบบนี้

          “ รีบไปจัดการเรื่องต่าง ๆ ก่อนดีกว่า ”

          ไม่ได้มีแค่เรื่องเดียวที่เธอจะต้องจัดการเสียหน่อย เออต้าพูดเรียกสติของตัวเองก่อนที่จะรีบไปจัดการร่างกายให้พร้อมแล้วใส่เสื้อคลุมตัวหนาเดินออกจากบ้านหมายเลขเจ็ดไปอีกครั้ง คราวนี้เธอรีบเดินตรงไปที่เตาไฟบูชาเทพเป็นสถานที่แรกเลย มีของที่เตรียมเอาไว้สักการะคุณพ่อแล้ว แล้วก็มีเรื่องที่อยากจะบอกอยู่เต็มไปหมดเลยด้วย

 

          ใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินมาถึงที่หน้าโรงอาหาร เธอเลือกที่จะไปที่เตาไฟบูชาเทพทันที โดยไม่ได้หันไปมองที่โรงอาหารเลย ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะต้องไปที่นั่นก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นตารางที่วางเอาไว้ก็อาจจะไม่ทันการณ์ก็ได้ เธอคิดแบบนั้น

          “ วันนี้ก็มาแต่เช้าอีกแล้วค่ะ สวัสดีนะคะคุณพ่อ ”

          คำเอ่ยทักทายไปถึงเทพอะพอลโลนั้นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ มันก็เป็นคำทักทายที่ลูกสาวคนหนึ่งอยากทักทายพ่อของตัวเองก็เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้เหมือนคนอื่น ๆ เท่าไหร่ และเธอก็คงไม่คิดที่จะเปลี่ยนด้วย

          “ เรื่องจะเล่าให้ฟังเยอะเลยล่ะค่ะ ”

          เป็นการเกริ่นที่ดูไม่มีที่ไปที่มามาก ๆ แต่คิดว่าเออต้าก็แค่เพียงเอ่ยไปราวกับระบายความรู้สึกเท่านั้น คงจะไม่ได้ต้องการให้มันส่งไปถึงผู้เป็นพ่อหรอก แต่ว่าถ้าได้ยิน ก็คงจะดีไม่น้อยเลย ถึงมันจะไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่ก็ตามที

          “ ช่วงนี้มีอะไรที่จะต้องทำเยอะมาก ๆ มีเรียนต้องสองคาบ แล้วก็... วันนี้ฉันจะได้ไปเที่ยวที่นิวยอร์คด้วยนะคะ จะเรียกว่าเที่ยวก็ไม่ถูกเท่าไหร่ แต่ช่างมันเถอะ ”

          การบอกกล่าวถึงตารางที่จะเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้เป็นสิ่งที่เธอมักจะทำอยู่แล้ว แต่ว่าคราวนี้ดูจะต่างไปหน่อยเพราะว่าเธอนั้นบอกเรื่องที่จะไปเดทด้วย ถึงจะไม่ได้พูดไปตามตรงก็ตาม เพราะไม่รู้ว่าคนเป็นพ่ออย่างเทพอะพอลโลจะเหมือนพ่อคนอื่น ๆ ที่เธอเคยได้ยินมาจากเพื่อน ๆ ที่เคยรู้จักกันบ้างมั้ยที่มักจะหวงลูกสาวอะไรแบบนั้น ฉะนั้น ไม่พูดไปก็คงจะดีกว่ามาก หรือไม่ก็ไม่รู้เรื่องเองไปเลยก็ดีเหมือนกัน

          “ อ่า ใช่ วันนี้วันวาเลนไทน์ค่ะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ด้วยนะคะคุณพ่อ อย่าลืมบอกรักคุณแม่ด้วยล่ะ ”

          นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เธอเอ่ย ก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมาสักการะเทพเจ้าอะพอลโลด้วยใจจริงอย่างที่ทำเป็นประจำ ก่อนที่อูคูเลเล่ที่เธอเตรียมมานั้นจะถูกโยนลงกองไฟไป คราวนี้เธอบูชาคุณพ่อที่ชอบดนตรีด้วยเครื่องดนตรีไปเลย ไม่รู้ว่าจะชอบหรือเปล่า แต่ก็น่าจะให้ท่านได้แก้เบื่อได้บ้างล่ะมั้ง

 

          “ ฉันต้องไปแล้วค่ะ เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะคุณพ่อ ”

 
Ps. บูชาเทพอะพอลโล
[แบบฟอร์มถวายของ]

ชื่อของคุณ: Ertah Brown

ของที่ถวาย: อูคูเลเล่

เทพที่ถวายของ: เทพอะพอลโล

คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: ช่วงนี้มีอะไรที่จะต้องทำเยอะมาก ๆ มีเรียนต้องสองคาบ แล้วก็... วันนี้ฉันจะได้ไปเที่ยวที่นิวยอร์คด้วยนะคะ จะเรียกว่าเที่ยวก็ไม่ถูกเท่าไหร่ แต่ช่างมันเถอะ -- วันนี้วันวาเลนไทน์ค่ะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ด้วยนะคะคุณพ่อ อย่าลืมบอกรักคุณแม่ด้วยล่ะ

[ BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15 ]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-09] อะพอลโล เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-2-15 11:00
โพสต์ 12937 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-2-15 01:29
โพสต์ 12,937 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก กระบอกลูกธนู  โพสต์ 2025-2-15 01:29
โพสต์ 12,937 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก ธนู  โพสต์ 2025-2-15 01:29
โพสต์ 12,937 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2025-2-15 01:29
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบอกลูกธนู
ธนู
น้ำหอมสตรี
หูฟังบลูทูธ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x8
x8
x16
x1
x4
x1
x2
x2
x2
x4
โพสต์ 2025-2-16 12:50:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-16 13:18

15/02/25 18.10 - 18.30 น.



บทที่ 36


คูเปอร์เงยหน้ามองท้องฟ้า แสงอาทิตย์ยังคงส่องจ้าแม้ว่าจะใกล้ย่างเข้าสู่ยามค่ำแล้วก็ตาม ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าครามตัดกับกลุ่มเมฆสีทองแดงที่ระเรื่อเหมือนใครเอาพู่กันไปแต้มเล่น น่าเสียดายที่เขาไม่มีเวลามานั่งชมวิว เพราะตอนนี้มือของเขากำลังง่วนอยู่กับการงัดเอาไส้กรอกย่างออกจากห่อฟอยล์ด้วยท่าทางเคร่งขรึมราวกับมันเป็นอาวุธวิเศษของวีรบุรุษกรีกโบราณ  


จะว่าไปแล้วนี่มันผ่านมากี่เดือนแล้วกันนะที่โลกหมุนเปลี่ยนจนกลายเป็นแบบนี้ คูเปอร์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหยิบกุหลาบสีทองออกจากกระเป๋าเสื้อ ความเงางามของมันสะท้อนแสงแดดเป็นประกายราวกับเป็นของล้ำค่าหายาก จริง ๆ แล้วกุหลาบนี่อาจจะล้ำค่าจริง ๆ ก็ได้ เพราะมันเป็นของขวัญที่ได้รับมาเมื่อวาน  



คูเปอร์มองไส้กรอกในมือก่อนจะถอนหายใจ เอาน่า อย่างน้อยมันก็เป็นไส้กรอกที่ดี มีเครื่องเทศโรยอย่างปราณีต แถมกลิ่นหอมฉุยจนเขาเกือบจะกินมันเองไปแล้ว แต่ไม่สิ ของถวายแม่ต้องมาก่อน  



ชายหนุ่มยกไส้กรอกขึ้นเล็กน้อย พึมพำกับตัวเองเหมือนเป็นพิธีกรรม "แม่ครับ วันนี้ผมนำของมาถวาย" แล้วควักสิ่งที่สองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กุหลาบสีทอง ดอกไม้ที่เขาได้มาจากวันวาเลนไทน์เมื่อวาน  


"แม่อาจจะไม่สนใจดอกไม้อะไรแบบนี้หรอก แต่ผมก็คิดว่ามันสวยดี" เขาหมุนดอกกุหลาบไปมา มองมันสะท้อนแสงไฟ


  


คูเปอร์วางไส้กรอกกับกุหลาบลงในเตาไฟ ไฟลุกพรึ่บขึ้นมาทันที กลิ่นไส้กรอกย่างหอมฉุยขึ้นไปในอากาศ และเขาหวังว่าแม่จะรับมันไปจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเผาเปล่า ๆ แบบเสียของ  

  




"คุณแม่ครับ" คูเปอร์เอ่ยขณะก้มลงมองไส้กรอกลงในเตาไฟ ศีรษะของเขายังคงก้มต่ำในท่วงท่าเคารพ แม้ว่ารูปแบบของพิธีจะดูเป็นกันเองเสียมากกว่า "วันนี้ผมเอาของมาฝากนะครับ เป็นไส้กรอกย่างร้อน ๆ กับ... อะแฮ่ม กุหลาบทอง ไม่แน่ใจว่าคุณแม่ชอบดอกไม้ไหม แต่ผมได้มันมาหลายดอกเลยจากวาเลนไทน์เมื่อวาน"  


ชายหนุ่มเงียบไปชั่วขณะ นัยน์ตาของเขาจับจ้องเปลวเพลิงที่เต้นระริกอยู่ในเตาไฟ ไส้กรอกเริ่มส่งกลิ่นหอมยั่วยวนจนเขาต้องกลืนน้ำลาย รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ต้องปล่อยให้ของดีแบบนี้กลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ก็เอาเถอะ เพื่อแม่ เขายอมได้  


"คุณแม่สบายดีไหมครับ สุขภาพดีไหม" คูเปอร์เอ่ยถามออกไป แม้ว่าจะไม่ได้คาดหวังคำตอบกลับมาอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ถือว่าเป็นมารยาทของลูกที่ดี "ผมเองก็ยังอยู่ดีครับ ไม่ได้ขาดแขนขาไปไหน แค่... เอ่อ ช่วงนี้ยุ่ง ๆ หน่อย ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่ามันมีเรื่องให้จัดการเยอะ"  


เปลวไฟลุกฮือขึ้นเล็กน้อย ราวกับเป็นสัญญาณตอบรับ ทำให้มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มขึ้น เขานั่งลงบนท่อนไม้ใกล้ ๆ ใช้ศอกเท้าบนเข่าพลางขยี้ท้ายทอยตัวเองอย่างครุ่นคิด  




ชายหนุ่มกระแอมเบา ๆ ก่อนจะเริ่มต้นบทสนทนาตามแบบฉบับของเขาเอง "แม่ครับ ช่วงนี้เป็นไงบ้าง สุขภาพดีไหม? มีใครสร้างวิหารใหม่ให้หรือยัง?" เขาเอียงคอเล็กน้อย สีหน้าดูครุ่นคิด "ถ้ายังไม่มี ผมจะบอกให้เด็ก ๆ ที่ค่ายช่วยกันตั้งโครงการระดมทุนให้ดีไหมครับ? รับรองว่าหลังวิหารใหม่ของแม่จะมีห้องสมุดทันสมัย พร้อมคาเฟ่บริการฟรี แต่ก็นะเรื่องแบบนั้นน่าจะได้แค่คิด”



"พูดถึงเรื่องเมื่อวาน..." เขาเปรยขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย นัยน์ตาสีอ่อนเหลือบขึ้นไปมองฟ้าโดยไม่รู้ตัว "ผมไปเข้าร่วมกิจกรรม Blind Date มาครับ กิจกรรมออกเดตแบบสุ่มน่ะ เป็นอะไรที่... ก็สนุกดี"  


เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วเสมองไปทางอื่น ราวกับว่าตัวเองไม่ได้กำลังจะเล่าเรื่องต่อ แต่สุดท้ายเขาก็พูดต่ออยู่ดี  


"ผมเจอคน ๆ หนึ่งครับ ดูเป็นคนดีนะ อย่างน้อยก็ต่อหน้าผม" คูเปอร์หัวเราะเบา ๆ พลางยักไหล่ "ก็ไม่รู้สิ บางทีอาจจะเป็นเพราะแค่วันเดียวเลยทำให้มันดูพิเศษขึ้นมา"  


เขาหยิบกุหลาบสีทองอีกดอกขึ้นมา หมุนมันไปมาในมือราวกับมันเป็นกุญแจไขความคิดของตัวเอง ดอกกุหลาบที่เขานำขึ้นมาป็นของขวัญจากใครบางคน


"จริงสิ เมื่อวานผมเจอเทพีอะโฟร์ไดท์ด้วยครับ" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ขันปนระอาเล็กน้อย "ถึงแม้ว่าเธอจะมาปรากฏกายตอนที่ผมอยู่กับ... เอ่อ คน ๆ นั้นก็เถอะ"  


เขาเลือกที่จะไม่เอ่ยชื่อ และข้ามไปพูดเรื่องอื่นแทน  


"ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง แต่ก็นะ เทพีแห่งความรักก็เป็นแบบนี้แหละ อย่างน้อยเธอก็ให้ดอกกุหลาบทองที่ผมพึ่งเผาไปให้ท่าน ยังมีอีกหลายดอกเดี๋ยวผมจะทยอยนำมาถวายนะครับ " คูเปอร์พูดพลางยกดอกไม้ในมือขึ้นชูขึ้นกับแสงอาทิตย์ มันยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเวลาจะผ่านมาทั้งวันแล้ว  


เขาหย่อนตัวลงนั่งอย่างสบาย ๆ พูดคุยกับเปลวเพลิงตรงหน้าไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรนัก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เรื่องอาหารในค่ายที่มีแต่ของเดิม ๆ เรื่องที่เขาเจอสฟิงซ์ในเขาวงกตเมื่อวาน หรือเรื่องชีวิตคนในบ้านอะธีน่าว่าช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้าง


แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมา  


"ว่าแต่นะคุณแม่ ผมได้ยินมาว่าเราสามารถถวาย... เอ่อ ของที่เป็นนามธรรมให้ทวยเทพได้ด้วย?" คูเปอร์เอียงคอ นัยน์ตาของเขาฉายแววอยากรู้อยากเห็น "พวกเกียรติยศ ศรัทธา หรืออะไรแบบนั้นน่ะ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมมีพอจะถวายหรือเปล่า แต่ไหน ๆ แล้วก็ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหาย"  


เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตั้งสมาธิ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด แล้วเอื้อนเอ่ยบทกลอนที่เขาเตรียมมา  


{โอ้อะธีน่าผู้กล้าแกร่งเกริกไกร  

ทรงอำไพเดชาธิปัตย์ศรี  

เปี่ยมปัญญากล้าหาญปานฤทธี  

เป็นศักดิ์ศรีแห่งนครนิรันดร  


เกราะเรืองรองส่องพรายประกายพรึก  

หอกระพึกฤทธาล้ำเกินสังหรณ์  

ดังเพลิงทองส่องฟ้าสุธากร  

เผด็จรอนพาลภัยให้มลาย  


พระเนตรคมกลมกลืนดังผืนฟ้า  

ส่องนำพาผองชนพ้นละหาย  

เมตตาทรงปกเกศประเทศพราย  

สรรพ์เวไนยสุขสันต์นิรันดร  


ขอข้าน้อมชีวาบูชิต  

ด้วยดวงจิตจงรักสมัครสมร  

ถวายน้อมศรัทธาบริสุทธิ์จร  

ตราบแสงสูรย์เรืองรางมิหวนคืน}  


‘ขอเกียรติยศแลศรัทธาแด่เทพีอะธีน่า’  


เขาลืมตาขึ้นเมื่อจบบท เปลวไฟยังคงเต้นระยิบระยับเช่นเดิม ไม่มีสัญญาณบอกใบ้อะไรเป็นพิเศษ คูเปอร์กระพริบตา สูดหายใจลึกแล้วพยักหน้ากับตัวเอง  


"ก็ไม่รู้ว่าทำถูกไหมนะ แต่ก็ลองทำไปแล้ว"  


เขายืดตัวขึ้นก่อนจะโค้งคำนับให้เตาไฟ ร่ำลาอย่างเงียบ ๆ แล้วหมุนตัวเดินจากมา มือยังคงกำดอกกุหลาบสีทองไว้หลวม ๆ ขณะก้าวออกจากบริเวณนั้น มุ่งหน้าไปยังจุดหมายถัดไป




[แบบฟอร์มถวายของ]




ชื่อของคุณ: Cooper Jones 




ของที่ถวาย: ไส้กรอกย่าง, กุหลาบสีทอง 




เทพที่ถวายของ: อะธีน่า




คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (ในโรลเพลย์)



  




ข้า คูเปอร์ โจนส์ ขอมอบศรัทธาต่อเหล่าเทพ แก่ เทพี อะธีน่า เทพีแห่งปัญญาและสงคราม



จำนวนศรัทธาที่มอบให้: 1000



ข้า คูเปอร์ โจนส์ ขอถวายเกียรติยศแก่เหล่าเทพ แก่เทพี อะธีน่า เทพีแห่งปัญญาและสงคราม


จำนวนเกียรติยศที่มอบให้: 2000


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15


BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15


 เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน+50



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 60 EXP โพสต์ 2025-2-16 14:24
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-2-16 14:24
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 135 โพสต์ 2025-2-16 14:24
God
คุณได้รับ --2000 เกียรติยศ --1000 ความศรัทธา โพสต์ 2025-2-16 14:22
โพสต์ 45818 ไบต์และได้รับ 32 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-16 12:50
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-17 02:02:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Robin เมื่อ 2025-2-17 11:06


XII
Date : 05 Jan 2025 02.45 AM

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ทุกอย่างยังคงไร้สีสันราวกับถูกมองผ่านกล้องอินฟราเรด แต่คราวนี้มุมมองของโรบินกว้างขึ้น โทรศัพท์เครื่องนั้นยังอยู่ แต่ไม่ได้ถูกทิ้งให้สั่นอย่างโดดเดี่ยวในความมืดอีกต่อไป มันอยู่ในมือของใครบางคน

ไม่สิ… หลายคน

และเธอก็ดูออกได้ทันทีว่าเป็นแก๊งนักเลงข้างถนน บางคนสวมเสื้อแจ็กเก็ตเก่ากับรองเท้าผ้าใบขาดๆ ในขณะที่อีกสองสามคนสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์แบบไม่ได้ตั้งใจเท่ ที่บริสเบนเราเรียกพวกเขาว่าไบกี้ แต่มองยังไงก็ไม่เห็นมอเตอร์ไซค์จอดอยู่แถวนี้สักคัน เพราะฉะนั้นเธอจึงสรุปเอาเองว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นพวกนักเลงแถวชิคาโก้หรือไม่ก็แอลเอที่พยายามจะเลียนแบบไอดอลของตัวเองจากหนังดังยุคแปดศูนย์เสียมากกว่า

พวกนักเลงกำลังยืนมุงรอบโทรศัพท์ที่มีเสาอากาศยืดยาว เสียงกุกกักดังขึ้นเป็นระยะขณะที่พวกเขาส่งโทรศัพท์เวียนกันเป็นทอดๆ เหมือนกำลังเล่นเกมผลัดไม้ ตากลมปูดโปนราวสิบคู่จ้องหน้าจอราวกับไม่เคยจับสมาร์ทโฟนมาก่อนในชีวิต พลางกดปุ่มต่างๆ แบบมั่วซั่วเหมือนเด็กข้างถนนที่เจอเครื่องเกมเก่าๆ แล้วพยายามเล่น

“ทำไมมันสั่นอยู่อย่างงี้วะ!?” นักเลงคนหนึ่งเขย่าตัวเครื่องแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด

“เอามานี่!” อีกคนคว้ามันมาถือ “ข้าลองกดไอ้นี่แล้ว! เอ๊ะ—ไม่ใช่ปุ่มนี้เหรอ!?” เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเมื่อเจ้าตัวที่ทำอวดดีกดพลาด

“บ้าชิบ! ใครมันส่งอะไรมาตลอดเวลาเนี่ย!”

เสียงแหลมเล็กขัดกันไปมา ในทุกจังหวะที่ใครคนหนึ่งกดจอแล้วโทรศัพท์ส่งเสียงแจ้งเตือน พวกเขาจะสบถหรือขู่ฟ่อกันเอง จนกระทั่ง…

“อ๊าาา ข้ากดได้แล้ว!”

“พี่ใหญ่ บอกพี่ใหญ่”

เสียงเฮลั่นดังขึ้นจนผนังห้องสั่นสะเทือน รอยยิ้มเต็มไปด้วยเขี้ยวของผู้กดได้ยืดกว้างจนดูผิดธรรมชาติ แขนขาเก้งก้างของพวกเขากระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ

โรบินร้องเยสไปกับพวกเขา แต่ก่อนที่เธอจะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นต่อภาพก็ตัดมาอีกห้อง ซึ่งภายในไม่มีอะไรเลยนอกจากทีวีเก่ามากตัวหนึ่ง ขอบจอทำจากกรอบไม้หนาและตัวเครื่องใช้ปุ่มหมุนแบบโบราณ มันถูกเปิดทิ้งไว้พร้อมกำลังแสดงภาพข่าวจากรายการซีเอนเอนซึ่งดูไม่เข้ากันเลย

‘...สถานการณ์โรคระบาดกำลังทวีความรุนแรงขึ้น มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน–’

ภาพบนหน้าจอกระพริบวูบวาบจนฟังไม่ได้ศัพท์ ในทีแรกเธอเข้าใจว่าตัวเองตัวเล็กลง แต่เปล่าเลย ร่างของเธอค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าจนคล้ายจะถูกดูดเข้าไปในจอ ผู้ประกาศข่าวพูดประโยคสุดท้ายก่อนที่เธอจะโดนกลืนเข้าไปทั้งร่าง

‘...ทางการเตือนให้ประชาชนระวังตัวและงดเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น…’

 แล้วโรบินก็ตื่น แน่นอนว่าเธอตกเตียง

เธอครางออกมาอย่างมึนงงด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา 

เวลายังไม่ตีสามดีเลยด้วยซ้ำ…


โรบินกลับมานอนอยู่ในบ้านหมายเลขสิบเอ็ดตั้งแต่เมื่อไหร่ได้ยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นทิปตาหรือสไคลล่าที่พาเธอมาส่ง ไว้เดี๋ยวเช้ากว่านี้ก่อนถึงค่อยไปขอบคุณทั้งคู่เสียหน่อย

แต่ตอนนี้คือเธอไม่ชอบใจเลยที่ไอ้อาการบ้าๆ นี่มันกลับมาอีกครั้ง หลังจากหายไปนานเกือบปี แถมคราวนี้กินเวลาไปหลายชั่วโมงเสียด้วย

โรบินคว้าโทรศัพท์มากดหาข้อมูลอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับการฝันซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ ผลลัพธ์ที่ได้ล้วนบอกไปในแนวเดียวกัน…ความเครียด ผลข้างเคียงของยา หรือแม้แต่ความทรงจำที่ฝังใจ

แต่ทุกข้อนั้นไม่น่าใช่เธอเลยสักนิด

เธอไม่เคยข้องเกี่ยวกับพวกนักเลง แล้วก็ไม่เคยเห็นโทรศัพท์เครื่องนั้นที่โผล่มาในความฝันถึงสองครั้งสองครา แต่โอเค อาจจะมีบ้างที่เธอเครียด แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเครียดใหญ่โตเท่ามนุษย์กึ่งเทพคนอื่นที่ต้องรับมือกับเรื่องยุ่งยากทุกวันอีกเหมือนกัน

คิดมากไปก็ทำเอาตื่นเต็มตาเข้าจนได้ โรบินรู้ตัวดีว่าคงหลับไม่ลงอีกแล้ว เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปหยิบแจ็กเก็ตที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เห็นว่ามียาเม็ดเล็กๆ กับขวดน้ำวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กเขียนด้วยลายมือหวัดๆ

เธอมองมันครู่หนึ่ง ก่อนมุมปากจะยกขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนคนที่บ้านพักจะเข้าใจว่าเธอเป็นลมเพราะอากาศร้อน 

ดีเหมือนกัน… อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยตอบคำถามให้วุ่นวาย



แม้ท้องฟ้าจะสว่างจ้าเหมือนยามบ่าย แต่ที่หน้าเตาไฟขนาดใหญ่พอๆ กับรถบ้านสักคันตรงกลางลานในเวลานี้กลับไร้ซึ่งผู้คน

โรบินหยิบฟืนแท่งหนึ่งโยนเข้ากองไฟแล้วทรุดตัวนั่งลงบนฐานหินเย็นเฉียบ เปลวไฟในเตาโหมกระพืออย่างเกียจคร้าน ขับไล่ความหนาวออกไปเพียงเล็กน้อย

“หนูเคยคิดว่าถ้าเริ่มเชื่อในเทพเจ้าแล้วอะไรๆ จะง่ายขึ้นเสียอีก” เธอพึมพัม ก่อนจะส่งเฟรนช์ฟรายชิ้นหนึ่งเข้ากองเพลิง ทันทีที่แตะลงบนถ่านร้อน กลิ่นหอมอ่อนๆ… เหมือนกลิ่นเครื่องหนังผสมกับความสดชื่นจากไม้สนและน้ำมันโรสแมรี่ก็ลอยเข้าจมูก ตามมาด้วยควันบางเบาที่พริ้วขึ้นสู่ฟากฟ้า

“คือมันก็เริ่มง่ายขึ้นแหละ หนูหมายถึงตอนนี้หนูรู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร” เธอเริ่มพูดคนเดียวอีกครั้งราวกับคนบ้า ก่อนจะส่งมันฝรั่งทอดอีกชิ้นเข้ากองไฟ คราวนี้เป็นกลิ่นช็อกโกแลตร้อน ทั้งที่มันควรเป็นกลิ่นน้ำมันทอดซะมากกว่า

เธอเลิกตั้งคำถามไปนานแล้วว่าอาหารพวกนี้ส่งกลิ่นที่หลากหลายแต่เข้ากันได้ดีออกมาได้ยังไง มีคนเคยบอกว่าเทพเจ้าดำรงอยู่ได้ด้วยกลิ่นอาหารไหม้ ตอนนั้นเธอคิดว่าไร้สาระสิ้นดี แต่ตอนนี้… ก็คิดว่าเริ่มเข้าใจขึ้นมานิดหน่อย ความหอมหวานกับพลังที่แท้จริงของมันอาจไม่ได้มาจากตัวอาหาร แต่เป็นความอบอุ่นลึกซึ้งจากการถูกเคารพบูชา และเมื่อได้สัมผัสถึงสิ่งนั้นมันก็ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งขึ้นมาได้จริงๆ

“ประหลาดใจล่ะสิที่วันนี้หนูตั้งใจจะมาคุยกับคุณ” เสียงไฟแตกเปรี๊ยะดังเป็นระยะขณะที่เปลวเพลิงไล้เลียผิวไม้ ราวกับกำลังพึมพัมตอบรับถ้อยคำของเธอ “คือมันก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่จริงๆ แหละ แต่เอาเถอะ…หนูรู้ว่าเทพเจ้าน่าจะชอบเห็นมนุษย์แสดงออกเหมือนอยู่ในรายการเรียลลิตี้หน่อยๆ ถูกมะ?”

เธอหยิบมันฝรั่งทอดโยนเข้าไปอีกชิ้น

“แล้วต้องรออะไรอีกไหมนะ? อ้อ! ภารกิจพิเศษใช่ไหม? หนูต้องปีนเขา ล่าปีศาจ หรือทำอะไรที่ดูเป็นวีรกรรมหน่อยใช่ไหม? หรือบางที…แค่ทำให้เฟรนช์ฟรายไหม้จนได้กลิ่นที่คุณพอใจก็น่าจะพอแล้ว?”

โรบินถอนหายใจ ยกมือขึ้นเสยผมพลางจ้องมองมองเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ตรงหน้า

“แต่แค่นี้ยังไม่มากพออีกหรอคะ หนูกลับมาทำไมกัน…กลับมาได้ยังไง หนูควรตายไปเมื่อร้อยปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ไม่มีคำตอบ ความเงียบสงัดยังคงดำเนินต่อไป

“อาจจะยากเกินไป งั้นเปลี่ยนเรื่องก็ได้…” มันฝรั่งทอดอีกชิ้นถูกโยนเข้าปากแทนที่จะกลายเป็นกองฟืน “หนูทำงานให้คุณดี. อยู่นะ เดดาลัสก็ด้วย ไม่มีคำชมอะไรเลยเหรอคะ? ไม่ต้องรางวัลหรอก เอาแค่ ‘เก่งมาก’ หรือ ‘ดีมาก’ ก็น่าจะพอถูไถอยู่ ถ้าแม่ยังอยู่หนูว่าเธอน่าจะพูดอะไรแบบนี้แน่ๆ ว่าแต่…คุณเคยเจอเธอบ้างรึเปล่า เธอเป็นยังไงบ้างคะ?”

โรบินหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง เขาจะจำคนที่ตายไปนานแล้วได้ยังไงล่ะ ขนาดเธอเองเมื่อตื่นจากฝัน ก็แทบจะจำเสียงอ่อนโยนนั้นไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

“อ้อ เฮคาที…” โรบินเปรยขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่แว้บเข้ามาในหัว ลมหายใจกลายเป็นไอขาวจางๆ “ไม่นานมานี้หนูเจอเทพีน่าขนลุกคนนั้น เธอบอกหนูเรื่องพลังของตัวเอง นั่นเป็นครั้งแรกเลยนะที่หนูรู้ว่าคุณก็เฝ้ามองอยู่เหมือนกัน ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่…เอ่อ…ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณช่วยหรือทำให้เรื่องวุ่นวายขึ้นกว่าเดิมกันแน่”

เธอเหยียดขาออกไปข้างหน้าแล้วโยนมันฝรั่งทอดอีกชิ้นเข้ากองไฟ “แต่เจ๋งดีนะคะ อย่างน้อยถ้าเจออสุรกายหนูคงวิ่งเร็วขึ้น แต่คุณมีอะไรเจ๋งๆ กว่านี้ไหมคะ?” โรบินเลิกคิ้วขึ้น ตั้งคำถามกับกองไฟแม้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวันตอบ “แบบ…ฟ้าผ่าใส่ศัตรูเปรี้ยงเดียวเหมือนเด็กบ้านหมายเลขหนึ่ง หรือคาถาเวทมนตร์เท่ๆ อะไรทำนองนั้น หนูจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติแบบไม่ต้องกลัวสักที”

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาสะท้อนเปลวไฟไหวระริก

“ตอนนี้หนูนอนไม่หลับแหละ…” เธอพึมพัมเสียงเบา ไม่ชอบเลยที่สุดท้ายต้องพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจริงๆ “แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงนึกถึงคุณขึ้นมา ทั้งๆ ที่ในฝันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราสองคนด้วยซ้ำ” เธอหยิบก้อนหินเล็กๆ ขึ้นมากลิ้งเล่นบนฝ่ามือ “อาจจะเป็นเพราะอ่านบันทึกอสุรกายมากไป จนเอาไปเก็บมาคิดเป็นตุเป็นตะ”

เธอเอนหลังพิงกับหินเย็นๆ พลางเงยหน้ามองท้องฟ้า “เฮอร์มีส… พี่คาสึฮะเคยบอกหนูว่าเวลามีเรื่องไม่สบายใจ พี่เขาก็ทำแบบนี้เหมือนกัน คือหนูก็สงสัยนะ ทั้งที่คุณไม่ตอบด้วยซ้ำ แบบนี้มันจะช่วยให้สบายใจขึ้นได้ยังไง”

“เอาเถอะ บ่นไป คุณก็คงไม่มาหรอก คุณคงมีอะไรแบบ ‘เรื่องยุ่งๆ ของเทพเจ้า’ ให้จัดการอีกเยอะ” เธอโยนหินในมือออกไป มันกระทบพื้นดังแกร๊ก

“เธอควรจะไปปรึกษาผู้หยั่งรู้นะ” เสียงปริศนาดังขึ้นจากทางด้านหลัง

โรบินสะดุ้งเฮือก มือเอื้อมคว้าดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า เธอรีบออกมาจนไม่ได้หยิบอาวุธติดมาสักชิ้นนอกจากจานใส่เฟรนช์ฟราย…บ้าที่สุด

เสียงกีบเท้าเขี่ยหินที่เพิ่งถูกโยนทิ้งไปดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่เงาร่างนั้นจะเดินออกมาจากหลังเตาไฟ เบย์ สโตนบรูค ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล เขาสวมเพียงกางเกงยีนส์ตัวเก่า เผยให้เห็นร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้าม ทั้งที่อากาศหนาวจับจิตแต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกท้านคิดหยิบเสื้อขึ้นมาสวมแม้แต่นิด

“เบย์?” เธอขมวดคิ้ว “โค้ชไม่นอนเหรอคะ?”

“เธอก็เหมือนกัน” เบย์ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เธอ ใบหูแพะกระตุกเล็กน้อยเมื่อสายลมเย็นพัดผ่าน

“แล้วได้ยินไปถึงไหนกัน?”

เบย์ยักไหล่ “แค่ตอนที่เธอพูดถึงคำว่าฝัน”

โรบินเบ้ปาก พลันไหล่สองข้างก็ห่อลงเล็กน้อย “มันก็แค่ฝัน หนูก็ฝันบ่อย มันไร้สาระค่ะถ้าจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่”

เซเทอร์กร้านโลกถอนหายใจ เขาหยิบเฟรนช์ฟรายเข้าปากอย่างวิสาสะ สายตาจับจ้องเธอราวกับพยายามมองทะลุความคิดเข้ามาจนเธอต้องหลบสายตา

“ฝันของเด็กอย่างพวกเธอไม่เคยเป็นเรื่องเล็กหรอก สาวน้อย” เสียงของเขาเข้มขึ้น “เธอคิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงเหรอ?”

โรบินไม่ตอบ เธอเม้มริมฝีปากแน่นพลางยกเข่าขึ้นมากอดตัวเอง ความเย็นที่เคยพัดผ่านเมื่อครู่ดูเหมือนจะเย็นขึ้นกว่าเดิมจากแรงกดดันในน้ำเสียงของเบย์ที่มากกว่าปกติ

เซเทอร์ย่อตัวลงจนใบหน้าของเขาอยู่ระดับเดียวกับเธอ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นมองตรงมา “เธอเคยไปหาผู้หยั่งรู้หรือยัง?”

“ไม่เคย…ค่ะ”

เบย์พยักหน้าเหมือนกับว่าเขาคาดไว้อยู่แล้ว “งั้นก็ถึงเวลาแล้วล่ะ”

“ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยคะ?” โรบินโพล่งขึ้น “อาทิตย์หน้าหนูก็จะเปิดเทอมแล้ว หนูยังไม่อยากทำตัวเด่นขาดเรียนตั้งแต่เทอมแรกของโรงเรียนใหม่นะคะ แล้วอีกอย่าง หนูใช้ชีวิตมาตั้งนานโดยไม่ต้องไปหาผู้หยั่งรู้ แล้วทำไม—”

“เพราะเธอเริ่มถามคำถามที่ไม่มีใครตอบได้” เบย์ขัดเสียงเข้ม “และในโลกของพวกเรา ถ้าเธอไม่รีบหาคำตอบเอง คำตอบมันจะหาตัวเธอแทน”

โรบินกลืนน้ำลาย ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเบย์ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ 

เซเทอร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะยื่นมือมาทางเธอ “ลุกขึ้น โรบิน”

เธอมองมือของเขา ก่อนจะเงยหน้ามองใบหน้าดุดันที่เธอคุ้นเคย 

โรบินไม่เคยเห็นโค้ชในมุมนี้ เพราะเขามักจะเฮฮาตลอดตอนที่เจอกันในสนามวอลเล่ย์บอลชายหาด อ้อ…อาจจะยกเว้นพวกนักเรียนในวิชาหอกมีด ถ้าข่าวลือที่ได้ยินมาไม่ผิด ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นสีหน้าปกติหากมีใครทำพลาดระหว่างฝึกก็ได้ เขาดูพร้อมจะตะโกนหรือสั่งให้นักเรียนวิ่งรอบสนามจนขาแทบหลุด แต่สิ่งหนึ่งที่เธอแน่ใจคือโค้ชจอมโหดคนนี้ไม่เคยโกหก

โรบินยื่นมือไปจับมือข้างนั้นที่ยื่นมา และเบย์ก็ดึงเธอขึ้นยืน

“โอเค…” เธอเทเฟรนช์ฟรายที่เหลืออยู่ทั้งหมดเข้ากองไฟ “แต่ถ้าผู้หยั่งรู้พูดอะไรเพี้ยนๆ หนูจะโทษคุณ”

เบย์หัวเราะหึๆ ก่อนจะเดินนำไป “ฉันรอฟังอยู่”



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Summary


1. มอบเฟรนช์ฟรายให้เฮอร์มีส 


2. HEROES : โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-13-1] เฮอร์มีส เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-2-17 10:33
โพสต์ 60373 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2025-2-17 02:02
โพสต์ 60,373 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก วิ่งเร็ว  โพสต์ 2025-2-17 02:02
โพสต์ 60,373 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-2-17 02:02
โพสต์ 60,373 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2025-2-17 02:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
วิ่งเร็ว
รองเท้าเซฟตี้
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
ดาบสัมฤทธิ์
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
มือเบา
กำไลหินนำโชค
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x1
x4
x14
x4
x24
โพสต์ 2025-2-17 15:11:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ถวายของแด่ท่านพ่อ วาเลนไทน์ อีดิทชั่น
ย้อนเวลา 14 กุมภา 68 21:00 น.

หลังจากแยกทางกับพี่รีเบคก้าคู่ไบลน์เดตของเธอที่พึ่งไปเที่ยวด้วยกันนะจนหน่ำใจทั้งวันที่กองไฟเฮสเทียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เฟเรียก็ได้มุ่งหน้ามายังเตาไฟบูชาเทพเพื่อมอบของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กับคนคนหนึ่งที่เธอไม่มีวันลืมที่จะให้เป็นอันขาด นั่นก็คือท่านพ่อฮิปนอสของเธอนั่นเอง เธอพึ่งได้รับดอกกุหลาบสีทองมาด้วยนี่นา ถวายให้พ่อไปดีกว่า ว่าแล้วเธอก็เอาดอกกุหลาบสีทองที่อยู่ในกระเป๋าออกมาวางไว้หน้าเตาผิงก่อนที่จะระลึกถึงเทพฮิปนอส เทพแห่งการนิทราผู้ซึ่งเป็นบิดาของตน เอาไว้ในใจ ก่อนจะโยนกุหลาบสีทองใส่เตาผิงไฟลงไปราวกับเป็นเรื่องปกติที่ทำเป็นประจำอยู่แล้ว

“ท่านพ่อคะ เฟเรียเองค่ะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะท่านพ่อ วันนี้หนูได้ไปร่วมกิจกรรมไบลน์เดตมาด้วยนะคะ คู่ของหนูเป็นพี่รีเบคก้า จากบ้านไทคีด้วยล่ะ ถึงพวกเราจะเป็นคู่เดตเพศเดียวกัน แต่การได้ไปเที่ยวที่อควาเรียมด้วยกันมันก็สนุกมาก ๆ เลยค่ะ ท่านพ่อรู้ไหมคะ พี่เขาสอนวิชาภาษากรีกในค่ายแถมเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนที่หนูเรียนอยู่ด้วยล่ะนะคะ บังเอิญจริง ๆ แล้วดันเป็นคลาสที่หนูไม่เคยเข้าเรียนเลยสักครั้งเลยนี่สิมันก็แปลก ๆ นิด ๆ ล่ะนะคะ ก็ช่วงหลังหนูพึ่งว่างนี่นา แถมภาษากรีกดันมีคลาสแต่วันธรรมดาด้วยจะให้ไปเรียนบ่อย ๆ ก็ไม่ได้ด้วย จะว่าไปหนูก็อยากฟังเรื่องราวความรักของท่านพ่อเหมือนกันนะคะนี่ กับแม่ของพวกท่านพี่มอร์เฟียร์ก็ได้ค่ะ”

เธอเอ่ยกับเตาผิงไฟราวกับพูดกับพ่อตัวเองตรง ๆ อย่างออกรสออกชาติพลางนึกถึงว่าความรักของท่านพ่อจะเป็นแบบไหนกันนะ แม่ของพวกท่านพี่จะเป็นคนแบบไหนกันนะ แล้วพบรักกันได้ไงนะ ถึงเธอจะรู้ว่าอย่าหวังความปกติในความรักของเหล่าเทพอยู่แล้วก็เถอะนะ เธอคิดอยู่ในใจก่อนที่จะลุกขึ้นจากหน้าเตาผิงไฟ แล้วเดินทางกลับบ้านหมายเลข 15 บ้านฮิปนอสของเธอทันที เพื่อที่จะไปอาบน้ำแต่งตัวเข้านอนพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าจากการไปเดตมาทั้งวันนี้ ไม่ต้องแปลกใจเลยนะนี่ว่ากลับไปหัวถึงหมอนคงจะหลับเป็นตายแน่นอนเลย

แบบฟอร์มถวายของ]
ชื่อของคุณ: เฟเรีย เฮย์ส
ของที่ถวาย: กุหลาบสีทอง
เทพที่ถวายของ: ฮิปนอส
คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: ประโยคสีส้มทั้งหมด
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-16-1] ฮิปนอส เพิ่มขึ้น 75 โพสต์ 2025-2-17 15:50
โพสต์ 6092 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-2-17 15:11
โพสต์ 6,092 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เดรสเจ้าหญิง  โพสต์ 2025-2-17 15:11
โพสต์ 6,092 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-2-17 15:11
โพสต์ 6,092 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ควบคุมดอกป๊อปปี้  โพสต์ 2025-2-17 15:11
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือแคนูไม้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมดอกป๊อปปี้
ฝันร้าย
มีดสั้นสัมฤทธิ์
Daedalus's Legacy
จิตวิญญาณนักรบแห่งโอกู
เกราะสายรุ้ง
สะกดจิต
น้ำหอม Unisex
ทักษะหอก
กำไลหินนำโชค
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
หลับใหล
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x4
x7
x11
x24
x6
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x6
x18
โพสต์ 2025-2-17 22:26:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-17 22:42

Activity Form

16/02/25 6.30 - 7.00 น.


บทที่ 37



ในช่วงเช้าของวันหนึ่งที่ไร้ซึ่งกิจกรรมใดๆ เป็นพิเศษ ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆ แสงแดดอาบไล้ทั่วค่ายฮาล์ฟบลัด ส่งกลิ่นอายของวันธรรมดาที่ไม่มีปีศาจบุก ไม่มีการฝึกหนักๆ และไม่มีวีรกรรมบ้าระห่ำอะไรให้ทำ แน่นอนว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่เด็กค่ายควรจะดีใจ แต่คูเปอร์กลับถอนหายใจ 


เขาเดินทอดน่องมาตามทางเดินที่ทอดยาวผ่านสนามฝึก ก่อนจะวกเข้าสู่เขตโรงอาหารที่ยังคงมีผู้คนบางตา นักรบครึ่งเทพหลายคนคงออกไปทำภารกิจ บางคนก็หลบไปพักผ่อน ส่วนคนที่เหลือ…ก็คงมีชีวิตที่เต็มไปด้วย ‘คอนเทนต์’ มากกว่าเขาในตอนนี้ 


“เฮ้อ…” คูเปอร์พึมพำ เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเบื่อหรือว่าคิดมากเกินไปกันแน่  


มือข้างหนึ่งถือกล่องเค้กสตรอว์เบอร์รี่ ขณะที่อีกข้างล้วงอยู่ในกระเป๋าแจ็กเก็ตตัวเก่ง เส้นผมสีเข้มของเขาปลิวไหวไปตามสายลม ขณะที่รองเท้าผ้าใบคู่ใจพาเขาเดินไปยังจุดหมาย เตาไฟบูชาเทพ  


บริเวณนี้ค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงของกิ่งไม้ที่ไหวกระทบกันเบาๆ และเสียงเปลวเพลิงที่แตกเปรี๊ยะเป็นจังหวะเมื่อมันเผาไหม้ฟืนกองใหญ่ คูเปอร์มองไฟที่ลุกโชนนั้นนิ่งๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้  


“เอาล่ะ…” เขาเปิดฝากล่องเค้ก กลิ่นหอมหวานของเนื้อเค้กและครีมสดลอยขึ้นมาแตะจมูก ทำเอาเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย  


"สวัสดีครับแม่" เขาเอ่ยขึ้นมาในที่สุด "ไม่รู้แม่จะฟังอยู่รึเปล่า แต่ก็หวังว่าเค้กจะถูกใจนะ ผมเลือกอันที่ดูดีที่สุดในร้านเลย"




“แม่รู้ใช่ไหมครับว่ามันน่ากินขนาดไหน” เขาพูดขึ้นพลางใช้ส้อมในกล่องจิ้มเนื้อเค้กขึ้นมาดู “ไม่รู้ว่าบนโอลิมปัสมีเค้กแบบนี้ไหม แต่คิดว่าแม่คงไม่ได้ลงมากินเองบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ”  


เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ ไม่มีอะไรยืนยันว่าเขาถูกฟังอยู่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหม่ เทพเจ้ามักมีวิธีการสื่อสารในแบบของตัวเอง บางครั้งพวกท่านก็ส่งสัญญาณ บางครั้งก็ปล่อยให้เดาไปเองนั่นคือสิ่งที่เขารู้ คูเปอร์ไม่เคยรู้ว่ามันเป็นบททดสอบหรือแค่ความขี้เล่นของเหล่าเทพ แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ได้คุย 


เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหย่อนเค้กลงไปในเตาเปลวเพลิงกลืนกินมันอย่างรวดเร็ว ครีมละลายไปกับความร้อน เนื้อเค้กที่ฟูและนุ่มกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา คูเปอร์มองภาพนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะหยิบกุหลาบสีทองขึ้นมา  


เขาพลิกดอกกุหลาบในมือเบาๆ ก่อนจะยิ้มกับตัวเองอย่างเจ้าเล่ห์ “นี่ก็เพื่อความหรูหรานะครับแม่ จะถวายของทั้งทีก็ต้องมีดอกไม้ให้เข้ากับบรรยากาศใช่ไหมล่ะ”  


มือของเขาปล่อยดอกกุหลาบลงไป มันตกลงสู่เปลวไฟอย่างนุ่มนวล กลีบดอกไม้สีทองระยิบระยับไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มมอดไหม้ช้าๆ  


“เอาล่ะ ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรจะพูดอยู่แล้ว” เขาพูดขึ้น พลางพิงแขนกับแท่นหินข้างเตาไฟ “ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง”  


เขาหยิบหินก้อนเล็กๆ ขึ้นมาโยนเล่นในมือ “แม่เคยได้ยินเรื่องเมืองนีออมไหมครับ”  


แน่นอนว่าไม่มีเสียงตอบรับ คูเปอร์จึงพูดต่อเอง “เมืองใหม่ในซาอุดีอาระเบีย เป็นโปรเจกต์สุดล้ำที่กำลังจะเกิดขึ้น มีพลังงานสะอาดล้วนๆ มีแต่เทคโนโลยีขั้นเทพ เป็นเมืองแห่งอนาคตเลยล่ะครับ”  


เขาหยุดไปครู่หนึ่ง พลางเผยยิ้ม ก่อนจะเอียงศีรษะ “ฟังดูคุ้นๆ ไหมครับแม่ เหมือนเอเธนส์ตอนที่ก่อตั้งใหม่ๆ เลยใช่ไหม”  


สายลมพัดเอื่อย เปลวไฟกระพริบไหว แต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากสวรรค์ คูเปอร์เริ่มเอ่ยต่อ


“ผมเองก็แอบคิดว่าแม่คงอยากจะลงไปแจมการแข่งขันนี้นะ” เขาพูด “แต่ดูเหมือนว่างานนี้จะเป็นของสามเทพ เฮเฟสตัส แอรีส แล้วก็โพไซดอน”  


เขาเหยียดแขนขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่องการแข่งขัน  


เฮเฟสตัส เทพแห่งการประดิษฐ์และโลหะ เสนอให้เมืองกลายเป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม แอรีส เทพแห่งสงคราม เสนอให้เมืองนี้กลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค และโพไซดอน เทพแห่งท้องสมุทร เสนอให้ฟื้นคืนทะเลที่เคยหายไป เปลี่ยนนีออมให้กลายเป็นเมืองแห่งวารี 




"พอได้ยินเรื่องเมืองนีออมขึ้นมา ผมก็อดคิดถึงเอเธนส์ไม่ได้..." เขาเงยหน้ามองเปลวไฟ "แม่คงจำได้ใช่ไหมครับ เมืองของแม่เองก็เคยต้องเลือกระหว่างเทพสององค์ ซึ่งตอนนั้นแม่ก็จัดเต็มไปเลย ผมยังคิดว่าในครั้งนี้แม่อาจลงสนามด้วยซ้ำ"


เขาหยุดไปครู่หนึ่ง คล้ายจะรอให้เปลวไฟกระพริบเป็นสัญญาณตอบรับ แต่ก็อย่างที่คาด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 


"แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้มีสามตัวเลือกแทน เฮเฟสตัส แอรีส แล้วก็โพไซดอน" คูเปอร์กล่าวต่อ "แต่ละคนก็มีแนวคิดที่แตกต่างกันสุดขั้ว เฮเฟสตัสอยากให้เมืองล้ำยุคไปเลย เต็มไปด้วยเทคโนโลยี หุ่นยนต์ รถยนต์ไร้คนขับ จะสร้างเมืองให้เป็นศูนย์กลางแห่งอนาคต ฟังดูไม่เลวเลยใช่ไหมครับ"


เขาหยุดไปแค่ครู่เดียวก่อนจะเปลี่ยนไปเล่าอีกทาง "ส่วนแอรีส... เอาจริงๆ ผมไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเสนอให้เปลี่ยนนีออมเป็นรัฐทหาร ถ้ามีสงครามรอบด้าน ก็สมเหตุสมผลที่อยากให้เมืองป้องกันตัวเองได้ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเมืองจะกลายเป็นสนามรบเต็มขั้นไปเลยหรือเปล่า"  


คูเปอร์ถอนหายใจ


"สุดท้ายก็โพไซดอน เขาเสนอให้คืนชีวิตให้ทะเล นำความชุ่มชื้นกลับมา ทำให้นีออมเป็นเมืองแห่งวารี ฟังดูน่าทึ่งนะครับ แม่ว่ามั้ย" คูเปอร์ยิ้มเล็กน้อย "เมืองกลางทะเลทรายที่เต็มไปด้วยน้ำ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าถ้าเป็นจริงได้ก็คงจะเปลี่ยนโลกไปเลย"



มันเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจใช่ไหมครับแม่” เขายิ้ม “อ่ะ! เดี๋ยวผมจะแต่งบทกวีสดเกี่ยวกับเรื่องนี้แม่ฟัง แต่อย่าถือสาเลยนะครับถ้าจะรู้สึกฟังแล้วแปร่งๆ”  


คูเปอร์เคลียร์ลำคอ ก่อนจะยืนตัวตรง ยกมือขึ้นในท่าทางของนักกวี  


  


"ณ ผืนทรายทองแห่งฟ้าเวิ้งว้าง  

แสงสุริย์ส่องสว่างกลางเวหน  

นครใหม่ก่อร่างกลางสายลม  

แต่เทพใดจักครองศรัทธาชน?  


เฮเฟสตัส เทพแห่งเพลิงและศิลป์  

โลหะรินล้นแสงระยับตา  

“หากเลือกข้า เมืองนี้จะก้าวไกลเกินกว่า  

ด้วยจักรกล ปัญญา และวิทยาการ”  


“หุ่นยนต์จะรับใช้ รถไร้คนขับจะนำทาง  

ปัญญาประดิษฐ์จักขับขานทุกก้าวย่าง  

นีออมจะกลายเป็นเมืองแห่งแสงสว่าง  

นครแห่งอนาคต ล้ำกาลเวลา”  


แอรีส เทพสงครามผู้กร้าวแกร่ง  

มองรอบแคว้นดั่งอัคคีไร้ปรานี  

"เจ้าจะเอาเทคโนโลยีไปทำไมในแดนนี้?  

รอบข้างล้วนเปี่ยมด้วยศัตรูและเพลิงไฟ"  


“ข้าให้เมืองนี้เป็นรัฐทหารอันแข็งแกร่ง  

สั่งพลแกร่งปกป้องเหนือใคร  

หากศรัทธาเรา จะไร้ภัย  

นีออมจักยืนหยัดกลางพายุร้าย”  


โพไซดอน เทพสมุทรผู้ปกครองคลื่น  

สายลมพลิ้วปลุกฝุ่นทรายที่แห้งผา  

"เจ้าไม่อยากได้ทะเลคืนกลับมา?  

ดินแดนแห่งนี้ เคยงามนักในวันวาน"  


"ข้าจะชุบชีวิตแดนกันดารให้เขียวชอุ่ม  

ผืนน้ำจะหลั่งท่วมทั่วอาณา  

เปลี่ยนทะเลทรายให้ฟื้นคืนพสุธา  

นีออมจะเป็นนครแห่งวารีนิรันดร์"  


สายลมพัดพลิ้ว เสียงเงียบงัน  

ผู้คนมองสบตากลางห้วงคิด  

เทพองค์ใดเล่าจะควรค่าผู้ศรัทธาตรึงจิต  

เพียงกาลเวลาจะเฉลย… ใครคือผู้คู่ควร"  


เมื่อสิ้นเสียงของเขา คูเปอร์ยิ้มบางๆ “แล้วแม่คิดว่าใครจะได้ไปครองล่ะครับ”  


เตาไฟเผาไหม้ทุกสิ่งจนหมด ไม่มีคำตอบ มีเพียงความเงียบที่โอบล้อม  


“เข้าใจแล้วครับ…” เขาพยักหน้า “แม่ให้คิดเองสินะ”  


เขาทำความเคารพต่อเตาไฟ ก่อนจะเดินจากไป โดยทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่านของเค้กและกุหลาบที่ถูกเผาจนกลายเป็นธุลี




[แบบฟอร์มถวายของ]



ชื่อของคุณ: Cooper Jones


ของที่ถวาย: เค้กสตรอว์เบอร์รี่ , กุหลาบสีทอง


เทพที่ถวายของ: อะธีน่า


คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (ในโรลเพลย์)


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15


Heroes โบนัสความโปรดปราน +25


เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน+50

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2025-2-17 23:45
โพสต์ 64550 ไบต์และได้รับ 48 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-17 22:26
โพสต์ 64,550 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-17 22:26
โพสต์ 64,550 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-17 22:26
โพสต์ 64,550 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-2-17 22:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-20 14:00:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-20 14:02

Activity Form

18/02/25 10.40น. -  11.00 น.


บทที่ 47



คูเปอร์ยืนอยู่หน้าเตาไฟบูชาเทพ ฝ่ามือพลิกเล่นกุหลาบสีทองที่เขาถืออยู่ ดอกไม้ในมือเขาเปล่งประกายแสงอ่อน ๆ ยามต้องแดด ดูมีเสน่ห์และแปลกตากว่ากุหลาบทั่วไป  


"เฮ้อ..." เขาถอนหายใจเบา ๆ มองดอกไม้ในมือแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า นี่เราจะถวายดอกไม้อีกแล้วเหรอ?


ถ้าหากเทพีอะธีน่ามีเวลาว่างมานั่งดูของที่เขาถวายให้ทุกครั้ง นางคงต้องคิดแล้วแน่ว่าเขาไม่มีไอเดียอะไรใหม่  แล้วจริงๆ เสื้อผ้าก็เคยถวายไปแล้ว อาหารก็ถวายแทบทุกครั้ง ส่วนดอกไม้... ช่วงนี้ก็บ่อย  


แต่ช่างมันเถอะ


แม่คงไม่ใส่ใจอะไรพวกนี้หรอก... มั้ง 


ชายหนุ่มหมุนดอกกุหลาบสีทองเล่นอยู่ในมือสักพัก ก่อนจะยกมันขึ้นพิจารณาครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจโยนมันลงไปในเตาไฟ เปลวเพลิงลุกวูบขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกลืนดอกไม้เข้าไป ไฟเปลี่ยนเป็นสีทองสว่างไสวชั่วขณะหนึ่งก่อนจะกลับคืนสู่สภาพปกติ  


"หวังว่าแม่จะชอบนะครับ" คูเปอร์พูดขึ้น ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะยืนมองเปลวไฟที่ยังคงเต้นระริกอยู่  


"เอาจริง ๆ ผมก็เริ่มคิดไม่ออกแล้วล่ะว่าจะเอาอะไรมาให้แม่ดี" เขาพูดพลางไหวไหล่ "แต่แม่ก็คงไม่ใช่คนที่จู้จี้เรื่องของถวายอะไรแบบนั้นหรอก ใช่ไหมครับ?"  


เงียบ ไม่มีเสียงตอบกลับ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว  


คูเปอร์ยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะพูดต่อ "ผมมาที่นี่บ่อยจนชักเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสมาชิกเฮสเทียคลับไปแล้ว คิดดูสิ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ผมยังมีชีวิตเหมือนคนปกติ ชีวิตผมคงไม่มีวันมาเดินวนอยู่แถวเตาไฟแบบนี้แน่"  


เขาเว้นช่วง หรี่ตามองเปลวไฟตรงหน้าอย่างครุ่นคิด  


"ว่าแต่แม่เถอะครับ" คูเปอร์เอนตัวพิงกับเสาหินข้างๆ อย่างเกียจคร้าน "ช่วงนี้โอลิมปัสเป็นไงบ้าง? มีข่าวอะไรสนุกๆ ไหม? หรือยังคงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเทพเจ้าที่ยุ่งจนไม่มีเวลาโผล่มาดูพวกเราเลย?"  


เขาหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะเท้าคางลงกับแขนที่กอดอกอยู่ "ผมไม่รู้นะว่าแม่มองเรื่องนี้ยังไง แต่ผมว่าเทพหลายองค์นี่แปลกดีนะครับ มีพลังอำนาจล้นฟ้า ควบคุมทั้งมหาสมุทร ท้องฟ้า ใต้พิภพ แต่พอเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นทำไมไฟฟ้าในค่ายกระตุกบ่อย หรือใครกันแน่ที่เป็นคนเอานมช็อกโกแลตกล่องสุดท้ายไปจากโรงอาหาร ไม่มีใครสนใจตอบเลยสักคน"  


เขาส่ายหัว "แล้วรู้ไหมครับว่าเมื่อวานผมเพิ่งไปไชน่าทาวน์มา แล้วดันเจอวัวโคลคีสจอดเนียน ๆ อยู่ข้างรถซะอย่างนั้น ตอนแรกผมก็คิดว่ามันคงหลุดมาเอง แต่พอคิดไปคิดมา... มันเป็นไปได้ไหมว่าเทพเฮเฟตัสจะลืมปิดโรงงาน แล้วพวกมันก็เดินหลงออกมาท่ามกลางเมืองเฉยเลย?"  


เขาถอนหายใจ "อืมมม ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอก"  


เปลวไฟในเตาไหววูบไปเล็กน้อย คูเปอร์มองมันอย่างไม่แน่ใจ "แม่ไม่ได้โกรธใช่ไหมครับ? เอาจริง ๆ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะบ่นหรอก... หรืออาจจะตั้งใจก็ไม่รู้เหมือนกัน"  


เขายิ้มเจื่อน ก่อนจะเหยียดแขนบิดขี้เกียจ "แต่เอาเถอะ พูดไปแม่ก็คงไม่มาตอบอยู่ดี ว่าแต่... แม่ช่วยตอบอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ? แบบส่งสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ ให้รู้ว่าแม่ฟังอยู่จริง"  


เงียบ มีเพียงเสียงแตกเปรี๊ยะของไม้ที่ถูกเผาในเตาไฟ  


"ก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะ" เขาหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง 


คูเปอร์นั่งนิ่งจ้องมองไฟยังไฟในเตาผิงพลางพยามคิดหาเรื่องชวนคุยกับเทพมารดาต่อ


"แม่รู้ไหม บางครั้งเวลาผมต่อสู้กับอสูรกาย ผมก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเล่นหนังแอ็กชันอยู่" เขาพูดติดตลก "แค่ไม่มีสแตนด์อิน ไม่มีสเปเชียลเอฟเฟกต์ แล้วก็ไม่มีผู้กำกับคอยสั่งคัต ถ้าพลาดก็คือตายจริงๆ"


เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา "แม่คิดว่าถ้าผมเล่นบทนักรบในหนังฮอลลีวูด มันจะเวิร์คไหมครับ? แบบว่าผมมีประสบการณ์จริงเลยนะ”


เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากใครทั้งนั้น


"เอาเถอะ ไม่ว่าแม่จะคิดยังไง ผมก็จะต้องออกจากค่ายใปสักวันนึง"


เขายืดตัวเต็มความสูง ถอนหายใจออกมา"แต่ตอนนี้ผมก็ยังติดอยู่ที่นี่ และก็คงต้องรับมือกับอสูรกายไปก่อน"


เขาหยิบหินก้อนเล็ก ๆ จากพื้นขึ้นมา ก่อนจะโยนมันขึ้นลงในมือเล่น


"แม่ช่วยอวยพรให้ผมไม่ต้องไปเจออะไรที่น่ารำคาญ อีกสักพักได้ไหมครับ?”


เขายิ้มมุมปาก "หรือถ้าจะให้ดี ช่วยอวยพรให้ผมใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นกว่านี้ด้วยก็ดี..."


เปลวไฟในเตาไหววูบไปเล็กน้อย


คูเปอร์จ้องมองมันนิ่ง  ก่อนจะหัวเราะออกมา"ผมขอถือว่านั่นเป็นคำตอบตกลงแล้วกันนะ


พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินออกจากเตาไฟ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยเขาก็ได้ระบายอะไรบางอย่างออกไป และถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะไม่ตอบอะไรกลับมาเลย... แต่ก็เถอะนะ


บางที แม่อาจจะฟังอยู่จริง ๆ ก็ได้


คูเปอร์ยืนขึ้น ปัดฝุ่นออกจากกางเกงก่อนจะหันหลังเดินออกไป ทิ้งให้เปลวไฟในเตาไหวไหวอยู่ตามลำพัง ขณะที่ในหัวก็เริ่มคิดว่า... 

ต่อไปควรเอาอะไรมาไหว้แม่ดีนะ?



[แบบฟอร์มถวายของ]



ชื่อของคุณ: Cooper Jones 


ของที่ถวาย: กุหลาบสีทอง 


เทพที่ถวายของ: อะธีน่า


คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (ในโรลเพลย์)


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15


Heroes โบนัสความโปรดปราน +25


 เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน +50

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2025-2-20 14:10
โพสต์ 39538 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-20 14:00
โพสต์ 39,538 ไบต์และได้รับ +15 EXP +10 เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-2-20 14:00
โพสต์ 39,538 ไบต์และได้รับ +10 EXP +30 ความกล้า +20 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-2-20 14:00
โพสต์ 39,538 ไบต์และได้รับ +15 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-20 14:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-21 12:55:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

20/02/25 6.10 น. -  6.30 น.


บทที่ 49


แสงแดดยามเช้าทอประกายอ่อน เหนือค่ายฮาล์ฟบลัด อากาศสดชื่นกว่าปกติด้วยสายลมบางเบาที่พัดพากลิ่นไอของท้องทะเลเข้ามา คูเปอร์เดินทอดไปตามทางเดินที่โรยด้วยหินกรวด เสียงฝีเท้าของเขาและลิเลียน่าดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอขณะพวกเขามุ่งหน้าไปยังเตาไฟบูชาเทพ  


วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เขามาที่นี่... แต่แตกต่างจากทุกครั้งตรงที่มีน้องสาวร่วมบ้านเดินเคียงข้างมาด้วย  


“ปกติพี่มาที่นี่ทุกวันเลยเหรอคะ?” ลิเลียน่าถามพลางแกว่งถ้วยโยเกิร์ตในมือ  


“ก็เกือบทุกวันแหละ” คูเปอร์ตอบพลางเหลือบตามองเธอ “บางวันก็มานั่งเล่นเฉยๆ”  


“พี่นี่เหมือนคนแก่เลยค่ะ” เธอหัวเราะคิก “ตื่นเช้า มานั่งหน้าเตาไฟ แล้วก็พูดคุยกับตัวเอง”  


โอ้ ขอบคุณนะที่เปรียบฉันเป็นคุณตา” คูเปอร์แสร้งทำเสียงขุ่นก่อนจะหัวเราะตามเธอ “แล้วปกติเธอไม่เคยมาที่นี่เหรอ?”  


ก็ไม่เชิงค่ะ” ลิเลียน่าตอบพลางไหวไหล่ “ส่วนใหญ่หนูจะยุ่งกับการเรียนที่โรงเรียนมากกว่า ถ้ามีเวลาว่างก็มักจะเอาไปฝึกซ้อมเสียเยอะ”  


“อืม จริงสิ เธอเองก็ยังต้องไปโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่น”  


ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้า “อีกไม่นานก็ต้องไปแล้ว แต่ไหนๆ วันนี้พี่ตื่นเช้าพอจะเดินเล่นกับหนูก่อน หนูก็เลยอยากใช้เวลานี้ถวายของให้แม่ไปด้วย”  


คูเปอร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ก็ดีเหมือนกัน”  


พวกเขามาถึงบริเวณเตาไฟบูชาเทพ เปลวไฟลุกโชนอยู่ตรงกลาง ลิเลียน่ากวาดตามองรอบ ๆ ก่อนจะหันไปมองพี่ชายที่ล้วงหยิบกุหลาบสีทองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กลีบดอกไม้สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ส่วนลิเลียน่ามองถ้วยโยเกิร์ตในมือของตัวเองพลางยิ้มน้อย 


“พี่รู้ไหมคะ ว่าหนูเลือกโยเกิร์ตมาให้แม่เพราะอะไร”  


คูเปอร์เลิกคิ้ว “เพราะมันอร่อย?”  


ก็ใช่ค่ะ” ลิเลียน่าหัวเราะ “แต่จริงๆ แล้ว หนูเคยอ่านเจอว่าชาวกรีกโบราณชอบกินโยเกิร์ตกันมาก พวกเขาเชื่อว่ามันช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แถมยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี”  


“โอ้โห เธอนี่รอบรู้ไปหมดเลยนะ”  


แน่นอนค่ะ ลูกของแม่อะธีน่าต้องหาข้อมูลมาก่อนตัดสินใจอยู่แล้ว”  


คูเปอร์หัวเราะ “โอเค งั้นมาถวายของกันเถอะ”  


พวกเขาค่อย วางของลงในเตาไฟ กุหลาบสีทองถูกเปลวเพลิงกลืนกินอย่างช้าๆ ขณะที่โยเกิร์ตก็ถูกความร้อนเผาจนละลายเป็นควันลอยขึ้นไปในอากาศ  


คูเปอร์และลิเลียน่ายืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้พูดอะไรไปชั่วขณะ ต่างคนต่างมองเปลวเพลิงที่โหมไหว ราวกับกำลังเฝ้าดูว่าแม่ของพวกเขาจะรับของถวายนี้หรือไม่ พวกเขาไม่ได้ร้องขอพรใด ไม่ได้เรียกร้องสิ่งตอบแทน แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ให้เวลาตัวเองได้พูดคุยกับแม่ในแบบของตัวเอง แม้จะไม่มีคำพูดออกจากปาก แต่ในใจกลับมีคำพูดมากมายที่อยากจะส่งไปถึง  



"พี่คูเปอร์" เธอพูดเสียงแผ่วเบา ไม่อยากทำลายความสงบของช่วงเวลานี้ "บางทีแม่อาจจะฟังอยู่จริงๆ ก็ได้นะคะ"  


คูเปอร์เหลือบมองน้องสาว ก่อนจะเอ่ยว่า "ก็อาจจะ..."  


"ถึงหนูจะไม่เห็นแม่ที่นี่" ลิเลียน่าพูดพลางเท้าคางลงบนฝ่ามือ มองเปลวไฟที่ลุกไหว "แต่ก็รู้สึกว่าท่านอยู่ใกล้ๆ เสมอ"  


"นั่นเป็นเรื่องดีนะ"  


"แล้วพี่ล่ะคะ?"  


คูเปอร์เงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบ "พี่เองก็ไม่เคยเห็นแม่ตัวเป็นๆ เหมือนกัน"  


"แล้วพี่คิดว่าแม่เป็นคนยังไง?"  


เขาหัวเราะเมื่อจินตนาการภาพถึง "คงเป็นคนที่ฉลาดมาก แล้วก็คงดุสุดๆ ด้วยมั้ง"  


"แต่แม่ก็ต้องเป็นคนใจดีแน่ๆ เหมือนกันใช่ไหมคะ?"  


"ก็คงงั้น..." คูเปอร์พึมพำ "อย่างน้อยแม่ก็ใจดีพอจะให้พรฉัน... แม้ว่าจะเป็นพรที่ใช้ยากไปหน่อยก็เถอะ"  


ลิเลียน่าหัวเราะคิก "ถ้าพี่อยากได้พรที่ใช้งานง่ายกว่านี้ ทำไมไม่ลองขออีกทีล่ะคะ?"  


"ขอไปแล้ว"  


"อ้าว แล้วแม่ว่าไงคะ?"  


"แม่เงียบสนิทเลย"  


ลิเลียน่าหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะมองเปลวไฟอีกครั้ง  


"พี่คิดว่าทำไมแม่ถึงเลือกให้พี่เป็นแบบนี้คะ?"  


คูเปอร์ไม่ได้ตอบในทันที แต่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่ "ไม่รู้เหมือนกัน... อาจจะคิดว่าฉันต้องการมัน หรือไม่ก็คิดว่าฉันเหมาะกับมัน"  


"หนูว่าพี่ก็เหมาะกับมันนะคะ"  


"อ้าว น้องก็เข้าข้างแม่อีกคนเหรอ?"  


"แน่นอนค่ะ!"  


คูเปอร์หัวเราะพลางส่ายหน้า ลิเลียน่ายิ้มกว้าง ก่อนที่เธอจะกลับไปมองเปลวไฟต่อ พวกเขายืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ อีกครู่หนึ่ง ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า


ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องเร่งรัด แค่ยืนอยู่ตรงนั้น  


เฝ้ามองเปลวไฟที่ลุกไหว ราวกับเฝ้ามองแม่ของพวกเขาผ่านสายลมที่พัดผ่าน  

  


คูเปอร์ยืนมองเปลวไฟอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยืดแขนขึ้นเหนือหัว บิดขี้เกียจ “โอเค เสร็จแล้ว งั้นไปส่งเธอที่โรงเรียนกันเถอะ”  


ค่ะพี่” เธอรับคำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเคียงข้างเขาออกไปจากบริเวณเตาไฟ  


คูเปอร์เหลือบมองเธอพลางเอ่ยถาม “ว่าแต่... โรงเรียนของเธอเป็นยังไงบ้าง?”  


ลิเลียน่าหันมามองเขาก่อนจะยิ้มบาง ๆ “ก็โอเคค่ะ สังคมดี เพื่อนก็ดี แถมการเรียนก็ไม่ยากด้วย”  


“ดีแล้วล่ะ”  


แล้วพี่ไม่สนใจมาเรียนด้วยกันหรอคะ”  


คูเปอร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “เอ่อ... ลิเลียน่า พี่คิดว่าเธออาจจะเข้าใจอะไรผิดนะ”  


“หืม? เข้าใจผิดอะไรเหรอคะ”  


“ถึงพี่จะดูหน้าเด็ก(?)” เขาเอามือลูบหน้าตัวเองเบา ๆ “แต่พี่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วนะ”  


ลิเลียน่ากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่เสียงหัวเราะของเธอจะดังลั่น  


“จริงเหรอคะ!?”  


“จริงสิ”  


โอ้โห! พี่ไม่ได้ดูหน้าเด็กอย่างเดียวแล้วค่ะ แต่ดูเหมือนเด็กมาก!”  


คูเปอร์แสร้งทำหน้าเซ็ง “ขอบคุณสำหรับคำชมนะ”  


ลิเลียน่ายังคงหัวเราะอยู่ขณะเขย่งปลายเท้าใช้มือจับแก้มพี่ชาย “พี่แน่ใจนะคะว่าไม่ได้อายุสิบเจ็ด?”  


แน่ใจสิ!”  


งั้น... หนูขอโทษค่ะ” เธอยิ้มตาหยี ก่อนจะก้มหน้าลงหัวเราะกับตัวเอง  


คูเปอร์ส่ายหน้า “งั้นเร่งฝีเท้าหน่อยไหม เดี๋ยวไปส่งเธอไม่ทัน”  


“โอเคค่ะพี่”  


พวกเขาเดินเคียงข้างกันไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังขอบเขตของค่าย ลิเลียน่าก้าวเท้าอย่างร่าเริง ส่วนคูเปอร์ก็เดินไปพลางคิดอะไรไปพลาง  


ถึงแม้ชีวิตของเขาในตอนนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ และอสูรกายที่โผล่มาให้ต่อสู้ไม่หยุดหย่อน แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ เวลาที่เขาได้พูดคุยกับน้องสาว ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสงบสุข มันก็ทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างยังคงมีมุมที่ดีอยู่บ้าง




[แบบฟอร์มถวายของ]




ชื่อของคุณ: Cooper Jones 



ของที่ถวาย: กุหลาบสีทอง 



เทพที่ถวายของ: อะธีน่า



คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: ขอให้เป็นอีกวันที่ดีของแม่นะครับ



ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15



Heroes โบนัสความโปรดปราน +25



 เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน +50

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2025-2-21 13:47
โพสต์ 61779 ไบต์และได้รับ 48 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-21 12:55
โพสต์ 61,779 ไบต์และได้รับ +15 EXP +40 ความกล้า +30 ความศรัทธา จาก พริบตาแห่งวีรชน  โพสต์ 2025-2-21 12:55
โพสต์ 61,779 ไบต์และได้รับ +20 EXP +25 เกียรติยศ +40 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-2-21 12:55
โพสต์ 61,779 ไบต์และได้รับ +10 EXP +30 ความกล้า +20 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-2-21 12:55
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-22 09:54:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

21/02/25  7.10 น. -  7.30 น.


บทที่ 51



คูเปอร์ยืนอยู่หน้าเตาไฟบูชาเทพที่โรงอาหารของค่าย เป็นอีกครั้งที่เขามาทำพิธีกรรมเช้านี้ แม้จะรู้สึกว่าหมดเรื่องจะคุยกับแม่แล้ว แต่การยืนเฉย ๆ ก็ดูไม่เหมาะสม 


ในบ้านหมายเลขหก คูเปอร์ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ควรแบ่งปันกับแม่ บางทีเรื่องธรรมดาอย่างเพลงโปรด หนังสือที่ชอบ หรือสถานที่ที่เคยไป อาจจะเป็นหัวข้อที่ดี แม้ว่าแม่ของเขาจะเป็นเทพีอะธีน่า แต่การสื่อสารเรื่องเหล่านี้อาจทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นมาบ้างก็ได้ (อย่างน้อยเขาก็คิดแบบนั้น)


วันนี้ นอกจากดอกไม้สีทองที่เขานำมาถวายเป็นประจำ คูเปอร์ยังนำแผ่นเสียงที่บรรจุเพลงโปรดของเขามาด้วย หลังจากพยายามหลายชั่วโมง เขาก็สามารถบันทึกเพลงลงแผ่นได้สำเร็จ

คูเปอร์ยืนมองเปลวไฟที่เต้นระยิบระยับ กลิ่นควันหอมอ่อน  ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า เขาผ่อนลมหายใจออกอย่างช้า ๆ 


"แม่ครับ" เขาเอ่ยเสียงแผ่ว พร้อมกับโยนแผ่นซีดีและดอกไม้เข้าไปในกองไฟ เปลวเพลิงเปลี่ยนเป็นสีทองวูบหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นสีปกติ "วันนี้ผมเอาเพลงมาให้แม่ฟัง"


เขาอมยิ้มกับตัวเอง เขาไม่รู้หรอกว่าว่าเทพีอะธีน่ามีเครื่องเล่นแผ่นเสียงอยู่บนโอลิมปัสไหม หรือถ้ามีก็คงจะเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบมาให้ดูมีระดับที่สุดในจักรวาล "ผมรู้ว่าแม่คงไม่ใช่แฟนเพลงแนวนี้ แต่แม่ลองฟังดูนะ เพลงนี้ชื่อ 'Here Comes the Sun' ของ The Beatles ฟังแล้วมันทำให้ผมรู้สึกเหมือน…ทุกอย่างจะโอเค ต่อให้ผ่านเรื่องแย่ ๆ มาก็ตาม"


เปลวไฟแตกตัวเป็นประกายเล็ก ๆ คูเปอร์มองมันอย่างครุ่นคิด 


"แม่เคยรู้สึกบ้างไหมครับ เวลาที่เจออะไรยาก ๆ แล้วไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้ยังไง?" เขาถาม แม้จะรู้ดีว่าแม่ของเขาเป็นเทพีแห่งปัญญาและคงไม่เคยติดอยู่กับปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ 


"แน่ล่ะ แม่ก็คือแม่ แม่ฉลาดที่สุด แต่บางทีผมก็อยากรู้ว่าแม่เคยรู้สึกแบบนี้บ้างไหม"


ชายหนุ่มขยับมือไปรอบ เปลวไฟ รู้สึกถึงไออุ่นที่ลูบไล้ปลายนิ้ว


"ช่วงนี้ผมคิดอะไรหลายอย่าง ผมพยายามทำให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน ผมพยายามเป็นคนที่แม่ภูมิใจ" น้ำเสียงของเขาเบาลง "แต่บางทีผมก็สงสัย ว่ามันพอหรือยัง? ผมกำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องไหม? หรือผมแค่หลงทางอยู่ แล้วแม่มองลงมาแล้วคิดว่า 'เด็กคนนี้ทำอะไรของเขา' อยู่หรือเปล่า"


คูเปอร์หัวเราะกับตัวเอง แต่มันเป็นเสียงหัวเราะที่มีร่องรอยของความกังวลเจืออยู่ "แม่ ถ้าแม่มีเวลาว่างนะ ซึ่งผมรู้ว่าแม่ยุ่งสุด ๆ แต่ถ้ามี ผมอยากให้แม่ส่งสัญญาณอะไรสักอย่างมาให้ผมรู้ว่าแม่ยังอยู่ข้าง ๆ ผม" 


เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า แม้จะรู้ว่าไม่มีคำตอบใดจะส่งกลับมา 


"บางทีอาจจะเป็นนกฮูกสักตัวที่บินผ่านไปแบบบังเอิญ ๆ หรือสายลมที่พัดมาแรงกว่าปกติ หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สายฟ้าฟาดลงตรงหน้าผมนะ ผมไม่ต้องการบทเรียนแบบนั้น" เขาเสริมติดตลก


เปลวไฟในเตาสั่นไหวเบา ๆ เหมือนมีบางอย่างขยับตัวอยู่ในนั้น คูเปอร์จ้องมันเขม็ง 


"...หรือแม่กำลังพยายามจะบอกอะไรผมอยู่แล้วผมอ่านสัญญาณไม่ออก?"


เขาผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ 


คูเปอร์ลูบต้นคอตัวเองพลางถอนหายใจ ก่อนจะที่คิดอะไรออก "แม่รู้ไหมครับ ผมเพิ่งค้นพบว่าผมชอบกลิ่นกระดาษเก่า ๆ ของหนังสือมากขนาดไหน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ "มันเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งผมนั่งอยู่ในห้องสมุด แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่า กลิ่นของกระดาษที่ผ่านเวลามานานมันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น แปลกดีนะครับ"


เขายกมือขึ้นเสยผม ดวงตาจ้องมองเปลวไฟที่ไหวระริก "บางทีอาจเป็นเพราะมันทำให้ผมนึกถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผม เวลาที่ได้นั่งเงียบ ๆ อ่านหนังสือโดยไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน แค่ปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในตัวหนังสือเหมือนกำลังล่องลอยอยู่กลางทะเล


คูเปอร์ยกยิ้มขึ้น "ผมรู้ว่าแม่ต้องเข้าใจความรู้สึกนี้แน่ พราะแม่ก็รักหนังสือเหมือนกันใช่ไหมครับ?" เขาหัวเราะกับตัวเอง "ถึงแม่จะไม่ใช่คนที่ต้องมานั่งดมกลิ่นกระดาษเหมือนผมก็เถอะ"


เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ให้นานที่สุด "แม่ครับ ผมคิดว่าช่วงเวลาเล็ก ๆ แบบนี้แหละ ที่ทำให้ชีวิตพิเศษขึ้นมาได้ ต่อให้มันเป็นแค่เรื่องธรรมดาอย่างการนั่งอ่านหนังสือ แต่พอได้สังเกตมันจริง ๆ ผมกลับรู้สึกว่ามันมีความหมายมากกว่าที่เคยคิดไว้


เจ้าของนัยน์ตาสีเทาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้ม "และบางทีแม่ก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกันกับช่วงเวลาของแม่ก็ได้



"แต่เอาจริง ๆ นะครับ แม่ ผมรักแม่นะ" คูเปอร์พูดเสียงเบา "ขอบคุณที่ฟังผม ถึงแม่จะตอบกลับมาไม่ได้ก็เถอะ"


เปลวไฟไหววูบหนึ่งเหมือนจะตอบรับ 


คูเปอร์เงยหน้ามองท้องฟ้า เผยยิ้มบาง


"ผมจะพยายามต่อไปนะครับ แม่”



[แบบฟอร์มถวายของ]



ชื่อของคุณ: Cooper Jones 



ของที่ถวาย: แผ่นเสียง, กุหลาบสีทอง 



เทพที่ถวายของ: อะธีน่า



คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (อยู่ในโรลเพลย์)



ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15



Heroes โบนัสความโปรดปราน +25



 เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน +50

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2025-2-22 10:18
โพสต์ 36936 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-22 09:54
โพสต์ 36,936 ไบต์และได้รับ +10 EXP +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก พริบตาแห่งวีรชน  โพสต์ 2025-2-22 09:54
โพสต์ 36,936 ไบต์และได้รับ +15 EXP +10 เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-2-22 09:54
โพสต์ 36,936 ไบต์และได้รับ +10 EXP +30 ความกล้า +20 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-2-22 09:54
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-22 13:39:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

21/02/25  17.30 น. -  17.45 น.


บทที่ 53


กลิ่นควันไฟจากเตาบูชาลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ ท้องฟ้ายังคงส่องสว่าง  แม้ว่านาฬิกาบอกเวลาจะบอกว่าตอนนี้ย่างเข้าสู่ช่วงเย็นของวัน อากาศเย็นลงเล็กน้อย แต่ไอร้อนจากเปลวไฟยังคงทำให้บรรยากาศรอบตัวอบอ้าว คูเปอร์ก้าวมาหยุดตรงหน้าเตาไฟเป็นครั้งที่สองของวัน เขาถือดอกกุหลาบสีทองไว้ในมือ หมุนก้านดอกไม้ไปมาโดยไม่เร่งรีบก่อนจะทอดสายตามองเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่เบื้องหน้า  


"ดูเหมือนว่าผมจะกลายเป็นลูกชายที่ขยันถวายของบูชาจนผิดปกติแล้วนะครับแม่" น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายปนขบขัน "เมื่อเช้าก็ทีนึงแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจจะมาซ้ำหรอก แค่เดินผ่านแถวนี้พอดี แล้วก็บังเอิญเหลือดอกไม้อีกดอก..."  


ชายหนุ่มหยิบพุดดิ้งขึ้นมาดู ใช้นิ้วแตะที่ผิวหน้าของมันเบา ๆ ก่อนจะยกขึ้นมาพิจารณา "แล้วก็... ผมมีของหวานมาฝากด้วย ไม่แน่ใจว่าแม่จะชอบไหม แต่พุดดิ้งนี่มันก็นุ่มดี หอม หวาน ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ ถ้าแม่ยังไม่เคยลองก็น่าจะลองดู"  


เขาก้าวเข้าไปใกล้เตาไฟ วางของทั้งสองลงบนเปลวเพลิง กลุ่มควันสีทองค่อย ๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาสีเทาไล่มองตามไปจนมันจางหายไปจากสายตา  


"พูดก็พูดเถอะ แม่ไม่เคยให้ฟีดแบ็กผมเลยนะ" คูเปอร์กอดอก มองเปลวไฟที่ยังลุกโชติช่วง "ผมไม่รู้เลยว่าของที่ผมถวายแต่ละครั้งมันถูกใจแค่ไหน หรือแม่แค่รับไว้เพราะมารยาทกันแน่"  


เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะกระแอม "คือถ้าแม่จะส่งสัญญาณอะไรให้ผมรู้บ้างก็ดีนะ แบบให้เปลวไฟลุกสูงขึ้นถ้าชอบ หรือดับพรึ่บไปเลยถ้าไม่ถูกใจ"  


เปลวไฟไหวเล็กน้อยตามแรงลม ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมา  


"โอเค ถือว่าผมยังไม่ได้โดนปฏิเสธ" เขายกมือแตะปลายคาง สีหน้าครุ่นคิด "บางทีถ้าแม่มีระบบรีวิวแบบในแอปพลิเคชันก็คงดี ผมจะได้รู้ว่าต้องปรับปรุงตรงไหน เอาเป็นว่า ถ้าแม่ให้ห้าดาว เดี๋ยวผมเอาของพรีเมียมมาถวายรอบหน้าเลย"  


สายลมพัดมาปะทะเส้นผมของชายหนุ่มที่ปล่อยยุ่ง ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ เขาถอนหายใจ ขณะทอดสายตามองเตาไฟ  


"แต่เอาจริงนะ ผมมาที่นี่บ่อยกว่าคนอื่นซะอีก" เขาพึมพำ "ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม... อาจจะเป็นเพราะที่นี่สงบ หรืออาจจะเป็นเพราะเวลาผมพูดที่นี่มันให้ความรู้สึกเหมือนมีคนฟังอยู่จริง ๆ"  


ชายหนุ่มไถเท้าไปมากับพื้น ก่อนจะหัวเราะกับตัวเอง "แม้ว่าจะไม่มีเสียงตอบกลับมาก็ตาม"  


เขาหยุดพูดไปชั่วครู่ก่อนจะทอดสายตามองเปลวไฟตรงหน้าอีกครั้ง สีหน้าดูเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง "แม่รู้ไหม เวลาผมคิดอะไรไม่ออก ผมก็เดินมาที่นี่ แล้วก็พูดอะไรไปเรื่อย"  


คูเปอร์กอดอก ถอนหายใจยาว "จริง ๆ แล้วแม่ฟังผมอยู่หรือเปล่านะ?"  


ไม่มีคำตอบ มีเพียงเสียงไม้แห้งแตกจากกองไฟ  


"ผมอยากเชื่อนะว่าแม่ฟังอยู่ ผมอยากจะคิดแบบนั้น" เขาพูดเสียงแผ่วลงเล็กน้อย "เพราะงั้น ถ้าแม่กำลังฟังผมอยู่จริง ๆ ก็ช่วยส่งสัญญาณอะไรมาสักหน่อยเถอะ อย่างน้อยก็ให้ผมรู้ว่าทุกครั้งที่มายืนพูดที่นี่ มันไม่ได้เป็นแค่การพูดคนเดียว..."  


ชายหนุ่มจ้องเปลวไฟนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากการเผาไหม้ของถวายของเขาต่อไป  


"...แต่ถ้าแม่ไม่ตอบอะไร ก็เอาเป็นว่าผมจะมาพูดแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าแม่จะเบื่อแล้วกัน"  


เขายกมือเสยผมเล็กน้อย สายตายังคงจับจ้องเปลวไฟ "ล้อเล่นน่ะครับ วันนี้ไม่มีเรื่องดราม่าอะไรให้แม่ฟังหรอก ผมแค่ผ่านมาทางนี้แล้วมีของดอกไม้เลยเอามาถวายเฉยๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น"


คูเปอร์ยืนอยู่ตรงนั้นอีกครู่หนึ่ง มองเปลวไฟที่ยังคงเผาไหม้ของถวายของเขาจนไม่เหลือร่องรอย


เอาเป็นว่าไว้เจอกันใหม่รอบหน้านะครับ แม่ หวังว่าครั้งหน้าผมจะมีอะไรน่าสนใจมาคุยด้วย”


คูเปอร์หัวเราะเสียงเบา ก่อนจะยกมือขึ้นตบฐานเตาไฟ ราวกับเป็นการบอกลา "เอาล่ะ ไว้รอบหน้าผมจะหาอะไรที่แม่อาจจะชอบกว่านี้มาถวายนะ ถึงตอนนั้นแม่ก็ช่วยให้คะแนนด้วยล่ะ"  


เขาหมุนตัวเดินออกจากเตาไฟ ทิ้งให้เปลวเพลิงยังคงเผาไหม้อยู่ที่เดิม บางทีวันนี้เขาอาจจะควรกลับบ้านพักหมายเลขหกแล้วก็ได้



[แบบฟอร์มถวายของ]


ชื่อของคุณ: Cooper Jones 


ของที่ถวาย: พุดดิ้ง, กุหลาบสีทอง 


เทพที่ถวายของ: อะธีน่า


คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (อยู่ในโรลเพลย์)


ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15


Heroes โบนัสความโปรดปราน +25


 เมื่อนำกุหลาบทองไปบูชาเหล่าเทพ จะได้ความโปรดปราน +50

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-08-1] อะธีน่า เพิ่มขึ้น 90 โพสต์ 2025-2-22 15:53
โพสต์ 30821 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-22 13:39
โพสต์ 30,821 ไบต์และได้รับ +10 EXP +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก พริบตาแห่งวีรชน  โพสต์ 2025-2-22 13:39
โพสต์ 30,821 ไบต์และได้รับ +15 EXP +10 เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ปัญญาแห่งการรบ  โพสต์ 2025-2-22 13:39
โพสต์ 30,821 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ร่างจำแลง  โพสต์ 2025-2-22 13:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้