009  ถึงพ่อ
ดีนมาที่เตาไฟบูชาเทพพร้อมกับถุงมันฝรั่งทอดกรอบในช่วงเวลาปลอดผู้คน ตอนนี้เด็ก ๆ คงกำลังไปฝึกฝนการต่อสู้ที่ลานฝึกกันอยู่ ซึ่งสำหรับเขาที่แขนเดี้ยงคงยังออกแรงหนักมากไม่ได้ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากจะฝึกฝนการต่อสู้อยู่แล้วจึงถือว่ายืดเวลาอู้ออกไปได้อีกสักสองอาทิตย์
“ต้องทำยังไงนะ.. เผาของสักการะแล้วนึกถึงเทพ อะไรแบบนี้ใช่ไหม?”
ริมฝีปากทวนคำพูดที่ฟังมาจากไครอน จากนั้นเขาก็จุดไฟในเตาแล้วนั่งลงด้านหน้า จิตอธิษฐานของดีนไม่ได้นึกถึงเทพองค์อื่นแม้แต่น้อยน่าจะมีเพียงแค่มหาเทพแห่งท้องทะเลที่รู้สึกได้ถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้า ห่อมันฝรั่งทอดถูกเปิดออก มือหนาล้วงลงไปในถุงแล้วหยิบชิปส์โยนลงไปในกองไฟชิ้นนึง เขาไม่รู้ว่าทำถูกหรือเปล่า แต่เผาไปก่อนหนึ่งชิ้นเผื่อกลิ่นหอม ๆ ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกลิ่นไหม้จะลอยไปถึงแดนบาดาล
“สวัสดีพ่อ เรียกแบบนี้คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม? คือไงดี.. ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันว่าเราเป็นพ่อลูกกัน มาถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย เทพเนี่ยนะมีจริงเหรอ? แล้วคนธรรมดาที่ฮ็อตนิดหน่อยอย่างผมก็ดันมาเป็นลูกเทพซะอีก ก่อนหน้านี้รู้จักพ่อแค่จากการ์ตูนดิสนีย์กับเกมอีกสองสามเกมเอง แต่ช่างเถอะ”
มือล้วงถุงแล้วโยนแผ่นมันฝรั่งอีกชิ้นโยนเข้ากองไฟ
“คุณไครอนบอกว่าต้องมีของสักการะเผาเพื่อบูชาให้เทพ แต่อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะล่ะที่ของถวายของผมมันกระจอก แต่ว่าอร่อยนะ”
ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะ จากนั้นก็หยิบมันฝรั่งชิ้นนึงใส่เข้าปากเคี้ยวกร้วม ๆ
“ผมไม่รู้ว่าพ่อชอบอะไรก็เลยเอาของที่ตัวเองชอบมาให้ ตอนแรกหาไก่ทอดหรือเฟรนฟรายอยู่นะแต่ว่ามันไม่มีขายอ่ะ ยังไงพ่อก็เป็นถึงมหาเทพท็อปสาม ช่วยไปบอกร้านค้าหน่อยได้ไหมว่าให้เพิ่มเมนูเยอะ ๆ หน่อย ไก่ทอดงี้ ฟิชแอนด์ชิปส์งี้ โดนัทงี้ ชูโรสงี้ แล้วก็หวังว่าพ่อจะไม่รังเกียจถ้าผมจะกินไปด้วย ยังไงเป็นพ่อลูกกัน นั่งคุยกันแล้วก็กินขนมด้วยกันมันเป็นเรื่องธรรมดาจะตายไปใช่มะ?”
กล่าวจบประโยคเขาก็โยนมันฝรั่งเข้ากองไฟไปอีกชิ้น
“ไม่รู้ว่าพ่อรู้เรื่องผมมาเยอะแค่ไหน แต่ก่อนอื่นผมควรต้องขอบคุณที่รอดชีวิตมาได้ทุกครั้งเพราะมีพลังของพ่อคอยคุ้มกะลาหัว เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยแต่ว่าตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพ่อคงแอบมองอยู่ บางทีอาจจะดูอยู่ตอนนี้ด้วย อ๊ะ ๆ มาถึงตรงนี้อย่าแอบอมยิ้มล่ะ” เขาส่งมันฝรั่งเข้าปากตัวเองแล้วกล่าวต่อ “ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้พ่อฟังอยู่ดี คือ.. ผมได้งานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยด้วยล่ะ มันบ้ามาก ตอนรอผลสัมภาษณ์ผมแทบอยู่ไม่สุข แต่น่าสุดท้ายที่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปทำงานอยู่ดี ตลกชะมัด”
แม้ดีนจะหัวเราะทว่าเสียงนั้นฟังดูเจื่อนไปถนัดหู เขาโยนมันฝรั่งเข้ากองไฟไปอีกหนึ่งชิ้น “ส่วนตอนนี้ผมคงต้องปรับสภาพกับที่นี่หน่อย ไม่สิเยอะเลยล่ะ นี่เป็นโลกที่ผมไม่รู้จัก เอ่อ.. อาจจะรู้จักจากสื่ออ่ะนะ แต่ไม่ได้รู้จักแบบนี้ เฮ้อ..” พอท้อใจก็หยิบชิปส์กินเพิ่ม “ผมเรียนมาตั้งสิบเก้าปี คิดว่าจากนี้คงไม่ต้องเรียนแล้ว ..หมายถึงแค่ตอนนี้อ่ะนะ ส่วนอนาคตจะไปต่อโทหรือเอกหรือเปล่าผมยังไม่แน่ใจ แต่พ่อคิดดูสิ! ผมเรียนมาทั้งชีวิตแล้วยังต้องกลับมาเรียนกับเด็กอีก รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กโข่งยังไงก็ไม่รู้ แล้วการต่อสู้มันก็ไม่เหมาะกับผมเอาซะเลย”
ดีนบูชามันฝรั่งทอดลงกองไฟไปอีกชิ้น
“ไม่รู้ว่าพ่อคิดถึงแม่บ้างไหม แต่ผมคิดถึงแม่นะ มาก ๆ เลยด้วย อยากจะกลับบ้านตลอด แต่ค่าใช้จ่ายมันก็ไม่ใช่ถูก แล้วอีกอย่างผมยังเข็ดกับเครื่องบินอยู่ ตอนขึ้นเครื่องครั้งแรกอย่างกับฝันร้ายเลย”
หวนคิดถึงถึงครั้งแรกที่ต้องโดยสารเครื่องบินข้ามรัฐแล้วก็อดขวัญผวาไม่ได้ วันนั้นพยากรณ์อากาศแจ้งว่าสภาพอากาศปลอดโปร่งไม่มีเมฆฝน แต่พอเขามาถึงสนามบินเท่านั้นแหล่ะฝนก็ตกกระหน่ำจนเครื่องบินดีเลย์แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นบิน แต่ระหว่างที่อยู่บนฟ้าสภาพอากาศก็เลวร้ายลงยิ่งขึ้นไปอีก อย่างกับว่าตอนนั้นนั่งอยู่บนรถที่ขับไปบนทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แถมสายฟ้าก็ผ่าเฉียดเครื่องบินไปหลายครั้ง เป็นสามชั่วโมงที่นั่งเกร็งจนเหงื่อออก แต่สุดท้ายเขาก็เดินทางมาถึงสนามบินเจเอฟเคได้โดยสวัสดิภาพ
“ไม่เอา ไม่พูดเรื่องเครื่องบินดีกว่า มาพูดถึงเรื่องแม่ต่อ อืม.. ไม่รู้ว่าพ่อเคยคิดเรื่องกลับมาง้อแม่บ้างไหม แต่ผมว่าตัดใจก็เป็นทางออกที่ดีถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก เรื่องนั้นอาจเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของพ่อ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่แม่รับไม่ได้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ดี ซึ่งไม่ว่ายังไงผมก็อยู่ข้างแม่อยู่แล้ว”
มันฝรั่งชิ้นหนึ่งถูกส่งเข้าปากดีน พอเคี้ยวกลืนหมดเขาก็พล่ามต่อ
“แต่แม่คงไม่ได้เกลียดพ่อไปทั้งหมดหรอก หลักฐานก็คือยังมีคำว่า ‘เอลวิน’ ที่พ่อตั้งอยู่บนชื่อกลางของผม แต่.. ถามจริงดิ ตอนนั้นอินเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมดูแล้วจะหลับ เออ.. จะว่าไป ถ้าพ่อชอบดูแนวแฟนตาซีผมแนะนำให้พ่อดูเกมออฟโทรน แต่ดูแค่ถึงซีซันเจ็ดพอ น่าเสียดายที่ผมเผาเอชบีโอส่งไปให้พ่อไม่ได้”
ชายหนุ่มไหวไหล่ทีนึงก่อนจะเทขนมที่เหลือลงไปในกองไฟ
“พอแค่นี้ก่อนนะ พูดไปกินโซเดียมไปผมชักจะหิวน้ำแล้ว เอาไว้จะมาคุยเล่นด้วยใหม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ คุยกันต่อหน้าเลยจะดีกว่า บาย”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองขนมที่ถูกเผาจนมอดไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีก่อนจะส่ายหน้าออกมาเบา ๆ สุดท้ายเขาก็ยังทำใจเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างสุดหัวใจไม่ได้เต็มร้อย
“มัวทำอะไรอยู่วะเนี่ยเรา ไร้สาระจริง ๆ เลย..”
ชื่อของคุณ: ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล
ของที่ถวาย: มันฝรั่งทอด
เทพที่ถวายของ: โพไซดอน คำพูดที่อยากคุยกับเทพ: (เอาเม้าส์วางที่นี่ หรือไม่ก็อ่านตัวอักษรคำพูดสีส้มข้างบนเถอะ...)
สวัสดีพ่อ เรียกแบบนี้คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม? คือไงดี.. ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันว่าเราเป็นพ่อลูกกัน มาถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย เทพเนี่ยนะมีจริงเหรอ? แล้วคนธรรมดาที่ฮ็อตนิดหน่อยอย่างผมก็ดันมาเป็นลูกเทพซะอีก ก่อนหน้านี้รู้จักพ่อแค่จากการ์ตูนดิสนีย์กับเกมอีกสองสามเกมเอง แต่ช่างเถอะ
คุณไครอนบอกว่าต้องมีของสักการะเผาเพื่อบูชาให้เทพ แต่อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะล่ะที่ของถวายของผมมันกระจอก แต่ว่าอร่อยนะ ผมไม่รู้ว่าพ่อชอบอะไรก็เลยเอาของที่ตัวเองชอบมาให้ ตอนแรกหาไก่ทอดหรือเฟรนฟรายอยู่นะแต่ว่ามันไม่มีขายอ่ะ ยังไงพ่อก็เป็นถึงมหาเทพท็อปสาม ช่วยไปบอกร้านค้าหน่อยได้ไหมว่าให้เพิ่มเมนูเยอะ ๆ หน่อย ไก่ทอดงี้ ฟิชแอนด์ชิปส์งี้ โดนัทงี้ ชูโรสงี้ แล้วก็หวังว่าพ่อจะไม่รังเกียจถ้าผมจะกินไปด้วย ยังไงเป็นพ่อลูกกัน นั่งคุยกันแล้วก็กินขนมด้วยกันมันเป็นเรื่องธรรมดาจะตายไปใช่มะ?
ไม่รู้ว่าพ่อรู้เรื่องผมมาเยอะแค่ไหน แต่ก่อนอื่นผมควรต้องขอบคุณที่รอดชีวิตมาได้ทุกครั้งเพราะมีพลังของพ่อคอยคุ้มกะลาหัว เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยแต่ว่าตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพ่อคงแอบมองอยู่ บางทีอาจจะดูอยู่ตอนนี้ด้วย อ๊ะ ๆ มาถึงตรงนี้อย่าแอบอมยิ้มล่ะ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากเล่าเรื่องของตัวเองให้พ่อฟังอยู่ดี คือ.. ผมได้งานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยด้วยล่ะ มันบ้ามาก ตอนรอผลสัมภาษณ์ผมแทบอยู่ไม่สุข แต่น่าสุดท้ายที่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปทำงานอยู่ดี ตลกชะมัด ส่วนตอนนี้ผมคงต้องปรับสภาพกับที่นี่หน่อย ไม่สิเยอะเลยล่ะ นี่เป็นโลกที่ผมไม่รู้จัก เอ่อ.. อาจจะรู้จักจากสื่ออ่ะนะ แต่ไม่ได้รู้จักแบบนี้ เฮ้อ.. ผมเรียนมาตั้งสิบเก้าปี คิดว่าจากนี้คงไม่ต้องเรียนแล้ว ..หมายถึงแค่ตอนนี้อ่ะนะ ส่วนอนาคตจะไปต่อโทหรือเอกหรือเปล่าผมยังไม่แน่ใจ แต่พ่อคิดดูสิ! ผมเรียนมาทั้งชีวิตแล้วยังต้องกลับมาเรียนกับเด็กอีก รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กโข่งยังไงก็ไม่รู้ แล้วการต่อสู้มันก็ไม่เหมาะกับผมเอาซะเลย
ไม่รู้ว่าพ่อคิดถึงแม่บ้างไหม แต่ผมคิดถึงแม่นะ มาก ๆ เลยด้วย อยากจะกลับบ้านตลอด แต่ค่าใช้จ่ายมันก็ไม่ใช่ถูก แล้วอีกอย่างผมยังเข็ดกับเครื่องบินอยู่ ตอนขึ้นเครื่องครั้งแรกอย่างกับฝันร้ายเลย ไม่เอา ไม่พูดเรื่องเครื่องบินดีกว่า มาพูดถึงเรื่องแม่ต่อ อืม.. ไม่รู้ว่าพ่อเคยคิดเรื่องกลับมาง้อแม่บ้างไหม แต่ผมว่าตัดใจก็เป็นทางออกที่ดีถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก เรื่องนั้นอาจเป็นความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของพ่อ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่แม่รับไม่ได้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ดี ซึ่งไม่ว่ายังไงผมก็อยู่ข้างแม่อยู่แล้ว แต่แม่คงไม่ได้เกลียดพ่อไปทั้งหมดหรอก หลักฐานก็คือยังมีคำว่า ‘เอลวิน’ ที่พ่อตั้งอยู่บนชื่อกลางของผม แต่.. ถามจริงดิ ตอนนั้นอินเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ขนาดนั้นเลยเหรอ? ผมดูแล้วจะหลับ เออ.. จะว่าไป ถ้าพ่อชอบดูแนวแฟนตาซีผมแนะนำให้พ่อดูเกมออฟโทรน แต่ดูแค่ถึงซีซันเจ็ดพอ น่าเสียดายที่ผมเผาเอชบีโอส่งไปให้พ่อไม่ได้
พอแค่นี้ก่อนนะ พูดไปกินโซเดียมไปผมชักจะหิวน้ำแล้ว เอาไว้จะมาคุยเล่นด้วยใหม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ คุยกันต่อหน้าเลยจะดีกว่า บาย"
|