แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-4-29 02:48
313 แวะทักทายสหายเดินทาง
28/03/2025 เวลา 7.00 น.
หลังถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวมาเป็นเวลาห้าวัน ในที่สุดนักโทษชาย ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล ก็ได้ออกจากเรือนจำรัก ณ บ้านเฮคาทีเป็นการชั่วคราว ชายหนุ่มกลับมาดำเนินกิจวัตรประจำวันหลังจากที่ไม่ได้ทำมาเป็นเวลาสองเดือนกว่า นั่นก็คือการตื่นแต่เช้าแล้วออกไปจ๊อกกิ้งรอบค่ายฮาล์ฟบลัด โดยระหว่างทางเขาได้เจอกับเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันมานาน เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต หญิงสาวที่ได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญจากคาสิโนโลตัส
“ไฮฮายยย อรุณสวัสดิ์ครับคุณเอลี่”
ชายหนุ่มกล่าวทักทายธิดาแห่งซุสอย่างหน้าชื่นตาบาน รู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้บังเอิญมาพบเจอกับเพื่อนสนิทในเวลาแบบนี้
“อ้าวดีน อรุณสวัสดิ์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เอมีเลียหันกลับไปทางต้นเสียง เธอจำเขาได้ทันทีจากเสียงและวิธีการเรียกชื่อที่มีแค่ไม่กี่คนในค่ายที่เรียกเธอว่า ‘เอลี่’ หากจะย่อส่วนใหญ่จะถูกย่อว่า ‘เอมี่’ เสียมากกว่า
“เริ่มวิ่งมานานหรือยังครับ?”
“ไม่นานหรอก ฉันเพิ่งเริ่มมาได้ตะกี้นี้เอง” หญิงสาวยิ้มตอบ เธอมองไปทางคนที่วิ่งเหยาะมาหา ท่าทางไม่เหนื่อยแถมยังไม่มีเหงื่อบนร่างกาย “เธอเองก็เพิ่งเริ่มวิ่งสินะ งั้นเรามาวิ่งไปด้วยกันไหม? ฉันยังใช้รูทเดิมอยู่ตอนที่เคยวิ่งกับเธอเมื่อตอนนั้น”
“โอ้ ได้สิครับคุณเอลี่ ยินดีเลย” ดีนตอบกลับ เขารู้สึกถึงสายตาที่ยังจดจ้องอยู่ไม่หาย “มีอะไรหรือเปล่าครับ? โอ๊ะ! หรือว่าคุณเห็นรอยที่ซอกคอ?” พูดจบก็รีบยกมือขึ้นมาปิดเถาคอของตัวเอง
“หือ รอย?” ธิดาแห่งซุสเลิ่กคิ้วขึ้นทำตาโตด้วยความสงสัย รอยอะไรหว่า? แต่ก็ช่างมันเถอะ… “จ้องมากไปเหรอ โทษทีนะ คือว่าเห็นทุกทีเธอจะออกมาวิ่งพร้อมกับแว่นตา แต่วันนี้ใส่คอนแทกเลนส์เลยรู้สึกว่าแปลกดี”
“อ๋อออออ” ดีนลากเสียงยาวก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะขึ้น ขำกับความร้อนตัวของตนเอง “คือว่าผมทำแว่นตาพังระหว่างการเดินทางน่ะครับ ไม่มีแว่นสำรองใช้ด้วย ตัดแว่นทีก็แพงหูฉี่ ช่วงนี้เลยใส่คอนแทกเลนส์ไปก่อน ต้องทนเคืองตานิดนึง”
“งี้นี่เอง…” สาวผู้หลงยุคพึมพำพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก “ที่สถานพยาบาลเหมือนจะสวัสดิการรับตัดแว่นฟรีอยู่นะ.. ไม่สิ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดรักม่านิดหน่อย แต่ให้ถือว่าเป็นค่าตัดแว่นราคาถูกแทนแล้วกัน”
“สถานพยาบาลสินะ ผมแทบจะลืมคิดถึงไปเลย… เอาไว้เดี๋ยวลองไปดูดีกว่า ขอบคุณที่บอกนะครับ”
ว่าบาป.. การเป็นบุตรแห่งโพไซดอนที่มีสกิลรักษาบาดแผลชั้นยอดเพียงแค่เอาตัวลงไปจุ่มในแหล่งน้ำธรรมชาติ ดีนจึงไม่จำเป็นต้องไปห้องพยาบาลจนแทบจะลืมสถานที่แบบนั้นไปเลย แถมตอนป่วยไข้ก็ไม่ได้ไปหาหมอ เน้นพักผ่อนเยอะ ๆ กับกินน้ำแทน
อย่างว่า.. ประเทศที่มีระบบเฮลท์แคร์หน้าเลือดอย่างสหรัฐที่เข้าโรลพยาบาลทีทำเอาแทบล้มละลายแถมประกันยังไม่ยอมจ่าย ทำให้คนฐานะปานกลางอย่างดีนรู้จักทำแผลเองจนเข้าขั้นมือโปร การวิ่งหาหมอจึงเป็นอย่างท้าย ๆ ที่เขานึกถึง
ทั้งสองเริ่มออกวิ่งจากโซนบ้านพักไปตามเส้นทางทวนเข็มนาฬิกาอย่างที่มักจะทำมาโดยตลอด ผ่านสถานที่ต่าง ๆ ภายในค่ายมากมายซึ่งบางแห่งถูกปรับปรุงใหม่จากตอนที่ค่ายถูกบุกเมื่อสิ้นปีที่แล้ว แถมได้ข่าวว่าเมื่อเดือนก่อนมีไฟป่าแถวหน้าค่ายอีก สถานที่ต่าง ๆ จึงต้องซ่อมแซมยกใหญ่ ยังดีที่บ้านโพไซดอนไม่ถูกหางเลขไปด้วย แต่กระท่อมของแฟนนี่สิ ซวยซ้ำซวยซ้อนไม่หยุดเลยจริง ๆ
“ภารกิจที่ไปทำโอเคไหม?”
“ครับ? ภารกิจอะไรนะ?” คำถามจากรุ่นพี่ทำให้ดีนชะงัก บางทีเขาออกจากค่ายนานเกินไปจนคนอื่นอาจคิดว่าไปทำภารกิจระดับชาติมา แต่เผอิญว่าไม่ใช่เนี่ยสิ “คุณเอลี่ต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ ผมไม่ได้ไปทำภารกิจหรอกครับ แค่ไปช่วยพ่อหาเสียงที่นีออมเอง แต่เหมือนว่าโพไซดอนจะแพ้แฮะ”
กล่าวจบก็หัวเราะเบา ๆ อย่างว่าโพไซดอนเหมาะกับเมืองนีออมเสียที่ไหน ยุคนี้สมัยนี้แล้วชาวบ้านก็ต้องเลือกเทคโนโลยีมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่แปลกใจเลยที่เทพเฮเฟตัสจะชนะ
“ไปช่วยตรงนั้นแค่ไม่กี่วันครับ แต่มันเกิดเรื่องตอนขากลับนิดหน่อย ผมเลยต้องไปอยู่แอตแลนติสนานเป็นเดือน”
“แบบนี้เอง.. งี้เธอคงได้สนิทกับพ่อเยอะขึ้นเลยสิ น่าอิจฉาจังเลยนะ” เอมีเลียยิ้มแซว
“สนิทกับพ่อสินะ…” ดีนทวนคำก่อนจะหัวเราะออกมา
สนิทกับพ่อก็ใช่แหล่ะ ไม่ใช่ ‘โพไซดอน’ แต่กลับเป็น ‘เนปจูน’ เสียนี่สิ…
“เรื่องราวมันซับซ้อนนิดหน่อยน่ะครับ แต่ผมถือว่าก็ดีนะ แล้วคุณล่ะ เป็นไงบ้าง?” บุตรโพไซดอนถาม
“ฉันเหรอ? เรื่องน่ายินดีก็คือฉันผ่านโปรฝึกงานแล้วล่ะ คาบสอนวิชาดาบก็เลยเยอะขึ้น” ธิดาซุสตอบ
“ว้าววว เป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ ต้องหาเวลาไปปาร์ตี้ฉลองกันหน่อยแล้ว หวังว่าคุณครูจะไม่ยุ่งมากเกินไปนะ” ไม่วายที่หนุ่มผิวน้ำผึ้งจะแอบแซว
“ได้สิดีน เอาไว้เดี๋ยวฉันจัดตารางเวลารอฉลองไว้เลย” หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับวิ่งไปต่อโดยไม่แสดงท่าทีเหนื่อยล้าให้เห็น
จนทั้งสองวิ่งจนมาถึงคอกเพกาซัสประจำค่าย ทำให้ดีนนึกบางอย่างขึ้นได้
“โอ้! จะว่าไป เดี๋ยวแวะไปที่คอกม้าหน่อยดีกว่า อย่างน้อยคงต้องรายงานให้เพกาซัสรู้หน่อยว่าผมยังไม่ตาย”
“โอเค ไม่มีปัญหา งั้นไปกันเลย”
เส้นทางการวิ่งหักเหเล็กน้อย ดีนวิ่งเหยาะ ๆ ตรงเข้าไปทางคอกม้าที่อยู่ทางทิศตะวันตกของค่ายฮาล์ฟบลัดใกล้กับไร่สตรอว์เบอร์รี่ ให้กลิ่นอายของชนบทโดยแท้แม้ลองไอแอนจะไม่ได้อยู่ห่างไกลจากแมนฮัตตันเสียทีเดียว แต่พื้นที่ตรงนี้กลับได้กลิ่นอายของความเป็นเท็กซัสอยู่ไม่น้อย
ดีนเดินผ่านเพกาซัสแต่ละตัวแล้วกล่าวทักทายไปทั่ว ทั้งแบล็กแจ๊ค พอร์คพาย และกุยโด้ ดีจริง ๆ ที่วันนี้อยู่กันครบทุกตัว แต่เป้าหมายของชายหนุ่มคือ ‘ควีน’ เพกาซัสส่วนตัวของเขาต่างหาก
“ไฮฮายยย ควีน ฉันกลับมาแล้ว เธอคิดถึงฉันไหม?”
“ฮรี้!” oO(ฮึ! ข้ารู้ว่าเจ้ากลับมาตั้งแต่ห้าวันที่แล้ว ๆ ล่ะ ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล กระนั้นเจ้าก็ไม่ยอมมารายงานตัว ใช่ซี้~ ข้ามันเป็นแค่เพกาซัสขนดำ ๆ จะไปสู้ฮิปโปแคมปัสสีรุ้งได้ยังไง)
เพกาซัสสาวเชิดหน้าขึ้นด้วยความงอน นางกล่าวด้วยภาษาม้าเสียดสีคู่หูเต็มที่
“อุ๊ย รู้ซะด้วยเหรอ ความดังของฉันนี่มันปิดไม่มิดเลยจริง ๆ แต่คู่หูเพกาซัสที่ดีที่สุดเบอร์หนึ่งไม่มีสองก็คือเธอนะควีน”
“ดีน เธอคุยกับเพกาซัสรู้เรื่องด้วยเหรอ? มันดูไม่ค่อยจอยเลยนะ” เอมีเลียกระซิบถาม ท่าทางของเธอดูไม่ค่อยไว้ใจควีนเท่าไร อาจเพราะไม่เคยเจอเพกาซัสดุมาก่อน
“เป็นความสามารถพิเศษของสายเลือดน่ะครับ เหมือนกับที่เจ้าหญิงดิสนีย์ทุกคนคุยกับสัตว์ได้นั่นแหล่ะ”
“ห๊ะ อะไรนะเจ้าหญิงดิสนีย์?” คำพูดคำจาของชายหนุ่มทำเอาสาวหลงยุคงงยิ่งกว่าเดิม ปากก็พึมพำ “ทำไมไม่เปรียบเป็นเจ้าชายล่ะ..”
แต่ดีนเพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วไม่ได้ตอบคำถาม เขาคิดว่าควรจะง้อม้าสาวเสียหน่อย
“อย่างอนไปเลยน่าควีน ฉันก็เพิ่งออกจากคุกมาได้เนี่ย เล่นบทนักโทษมันไม่ง่ายเลยจริง ๆ แต่พอออกมาได้ก็รีบมาหาเธอเลยนะม้าสวย” เดินเข้าไปตบไหล่เพกาซัสดำปุ ๆ ซึ่งม้าสาวได้แต่เบ้หน้า กลอกตามองบน แต่จนแล้วจนรอดก็ได้แต่ต้องปลงกับคู่หูที่ลื่นไหลเป็นปลาไหลแถมยังพูดจาไม่รู้เรื่อง
“กี้?”
กองฟางกระดุ๊กกระดิ๊กเรียกสายตาให้หันไปมอง ดีนจึงได้เห็นว่าเจ้าก๊อบลินน้อย ‘วูลฟ์เฟีย’ ได้ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว และเมื่อมันเห็นว่าใครมาหา ดวงดาสีดำเป็นประกายใสแจ๋วก็เบิกกว้างขึ้น มันรีบวิ่งมากระโดดเกาะขาดีนด้วยความดีใจ
“ฮรี้~~” oO(มุห์ซิน (ผู้มีพระคุณ) ท่านกลับมาแล้ว ปลอดภัยดีใช่ไหมฮะ?)
“เดี๋ยวนะ…”
ดีนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อกี้เขาได้ยินก๊อบลินน้อยตัวนี้ร้องฮรี้ที่ดันแปลเป็นภาษาม้าออก
“ลูกก๊อบลินตัวนี้แปลกจัง ปกติเคยได้ยินแต่ร้องกี้ ทำไมเมื่อกี้ร้องเสียงม้าล่ะ? หรือว่าอยู่กับม้ามากไป?” เอมีเลียยอบตัวนั่งยอง ๆ ลงมาในระดับเดียวกับวูลฟ์เฟียที่เกาะขาดีนร้อง “ฮรี้” อยู่ ยิ่งตอกย้ำให้ดีนมั่นใจว่าที่เขาได้ยินเมื่อกี้ไม่ได้หูฝาด
“นั่นสิ.. คงไม่ใช่ว่าควีน.. เธอสอนภาษาม้าให้มันหรอกนะ?”
“ฮรี้!” oO(ฮึ! ก็ใช่น่ะสิ ดีที่สัตว์เลี้ยงของข้าเป็นก๊อบลินฉลาด มันถึงเข้าใจภาษาของข้าได้ว่องไว)
“สัตว์เลี้ยงอะไร มันเป็นลูกชายเธอชัด ๆ”
มาถึงตรงนี้เอมีเลียได้แต่นิ่งอึ้งไปกับความสัมพันธ์ประหลาดของปาร์ตี้นี้จนจับต้นชนปลายไม่ถูก
“อะไรนะ? ก๊อบลินที่ถูกเพกาซัสเลี้ยงดูจนพูดภาษาม้าได้ แต่เจ้าจิ๋วนี่ความจริงเป็นสัตว์เลี้ยงของเพกาซัสงั้นเหรอ!?”
“เรื่องมันอธิบายลำบากน่ะคุณเอลี่ เอาเป็นว่าที่คุณเข้าใจน่ะถูกแล้วครับ” ดีนหัวเราะแหะ ๆ “เอ้อ! เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่ ผมคงต้องเป็นล่ามสินะ”
บุตรแห่งโพไซดอนกระแอมเบา ๆ ก่อนจะแนะนำเอมีเลียให้อสุรกายของตนเองรู้จัก
“นี่คุณเอลี่เธอเป็นเพื่อนฉัน” เขาผายมือไปทางหญิงสาวที่นั่งยอง ๆ อยู่ “ส่วนเพกาซัสนี่ชื่อว่า 'ควีน' เจ้าตัวเล็กก็ 'ไข่ผำ' ครับ”
“ฮรี้~” oO(ยินดีที่ได้รู้จักฮะท่านเพื่อนของท่านมุห์ซิน)
“นี่เขาพูดว่าอะไรเหรอดีน?” เอมีเลียเงยหน้ามอง
“ไข่ผำบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักคุณน่ะครับ”
“โอ้ น่ารักจริง ๆ ฉันก็ยินดีที่ได้รู้จักเธอนะไข่.. เอ่อ ไข่ผำ” ธิดาซุสยิ้มบางก่อนจะยื่นมือไปจับมือเล็ก ๆ เขียว ๆ ของวูลฟ์เฟียมาเช็คแฮนด์
“ฮรี้!” oO(ฮึ! ธรรมเนียมการแนะนำตัวของมนุษย์ ช่างไร้สาระเสียจริง!) ควีนเหน็บแนมด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
“แล้วเพกาซัสของเธอพูดว่าอะไรเหรอ?”
“อ้อ มันบอกว่า 'ยินดีเช่นกัน' น่ะครับคุณเอลี่” ดีนฉีกยิ้มกว้างที่ดูเฟคสุด ๆ ออกมา แหม ก็ใครล่ะจะกล้าแปลออกมาตรง ๆ ก็ต้องโกหกขาวแหลไปก่อน
“ฮรี้!” oO(ฮึ! เจ้าคนตอแหลเอ๊ย!)
“ดูเหมือนจะดุแต่ก็นิสัยดีนี่นา ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ควีน” คนที่ไม่รู้อะไรเลยก็ยิ้มหน้าชื่นที่เข้าใจไปอีกทาง ตรงกันข้ามกับดีนที่หมั่นไส้เพกาซัสของตัวเองเลยแอบถองศอกใส่ไปทีนึง แล้วก็ถูกขาม้าดีดกลับเบา ๆ ให้พอเซ
“อุก... โอเค ๆ พวกมันน่าจะอยากพักผ่อนกันแล้วล่ะครับ เราไปจ๊อกกิ้งกันต่อดีกว่าครับคุณเอลี่”
“โอ้ คงได้เวลาอาหารเช้ากันแล้วสินะ”
เอมีเลียไม่ได้โต้แย้ง เพราะว่าเธอชำเลืองเห็นแหล่ะแซเทอร์รับใช้กำลังเตรียมอาหารเช้าให้เหล่าเพกาซัสตัวอื่น ๆ ด้วยพอดี เธอหยัดยืนขึ้นพร้อมกับปัดเศษฟางออกจากขากางเกง
“งั้นพวกเราวิ่งกันต่อเถอะดีน ยังมีเรื่องที่อยากเม้าท์กับเธอเยอะเลย”
“ได้เลยครับ” ดีนกล่าวกับเดมิก็อดสาวก่อนจะหันไปกับอสุรกายของตนเอง “ฉันไปก่อนล่ะ ไว้จะแวะมาหาอีก”
โบกมือโบกไม้ลาจากคอกสัตว์ จากนั้นทั้งสองก็ออกวิ่งอีกครั้งผ่านไร่สตรอว์เบอร์รี่ โรงหลอมเหล็ก คาเฟ่อะเมซอน ร้านสะดวกซื้อ จนมาถึงเขตที่พักอาศัย ทั้งสองจึงต้องบอกลาก่อนจะแยกย้ายไปทำธุระของตนเองต่อ
“เฮ้อ วิ่งซะจนเหงื่อท่วม รู้สึกดีเป็นบ้าเลย” ดีนกระพือเสื้อชุ่มเหงื่อของตัวเอง ปกติแล้วคนมักจะหมดแรงกันแต่ว่าเขากลับรู้สึกได้ปลดปล่อยพลังงานมากกว่า “ได้เวลาบอกลาแล้วสิ ไว้เจอกันใหม่นะครับคุณเอลี่”
“โอเคดีน แล้วเจอกันใหม่นะ อย่าลืมลองไปคุยกับหมอเรื่องแว่นล่ะ”
โบกมือบ๊ายบายหญิงสาวสายเลือดซุสที่อายุเกือบเท่าแม่เสร็จ ชายหนุ่มร่างสูงก็หอบร่างตัวเองกลับไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมรับประทานมื้อเข้า แล้วจากนั้นจึงเข้าไปติดต่อตัดแว่นที่โรงพยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด
ปฏิสัมพันธ์กับ [เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต]
+10 โบนัสความสนิท จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ
+5 โบนัสความสนิท จาก ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง
+5 โบนัสความสนิท จาก น้ำหอม Unisex
|