แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-30 15:30
148 พาเอมีเลียมารายงานตัว
สวัสดีบันทึก… ล้อเล่นน่า ตอนนี้ดีนกลับมาเป็นตัวของตัวเองไม่จำเป็นต้องเกริ่นว่าเขียนบันทึกของวันไหนอีกต่อไป เมื่อกลับมาที่ค่ายคณะเดินทางก็ได้รับการต้อนรับจากชาวค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นอย่างดี เสียงปรบมือ และคำชื่นชมยินดีต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ มอบมาให้ทำเอาดีนยิ้มแหย เด็กเหล่านี้รู้แค่ว่าพวกเขาทำภารกิจสำเร็จแต่ไม่รู้ว่าส่วนที่ล้มเหลวนั้นคืออะไร และเด็กสาวคนหนึ่งที่รีบวิ่งมาหาก็คือ ลิเลียน่า ไทเลอร์ สาวน้อยจากบ้านอะธีน่า เธอหยุดชะงักทันทีเมื่อไม่เห็นเดม่อนอยู่กับทีมที่ตรงนี้
“เดม่อน นั่นนายเหรอ?”
เด็กสาวผมทองจ้องมองเอมีเลีย แอร์ฮาร์ตด้วยความไม่แน่ใจ เธอรู้ว่าหนึ่งในความสามารถของสายเลือดอะโฟรไดท์คือการปลอมแปลงร่างกายเป็นคนอื่น ซึ่งคนที่สามของทีมต้องเป็นเดม่อนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเธอไม่เข้าใจว่ามาถึงค่ายแล้วทำไมอีกฝ่ายต้องเปลี่ยนรูปร่างด้วย หรือว่าเขาจะค้นพบตัวเองระหว่างการเดินทาง…
“ไม่ใช่ ผิดแล้วจ้ะหนูน้อย ฉันเอมีเลีย แอร์ฮาร์ต ธิดาแห่งซุส ยินดีที่ได้รู้จักนะ เธอคือลิเลียน่าใช่ไหม?”
เอมีเลียกล่าวทักทายสาวน้อยด้วยมาดผู้ใหญ่ใจดี ก่อนหน้านี้นักบินสาวพอจะรู้เรื่องของลิเลียน่ามาแล้วคร่าว ๆ ว่าเป็นเพื่อนสนิท (ที่ดีนบอกว่าเป็นแฟน) ของเดม่อน แต่ดูเหมือนว่าลิเลียน่าจะยังไม่เชื่อ คงเป็นเพราะหนุ่มบ้านอะโฟรไดท์ชอบอำเธอบ่อย ๆ
“อย่ามาอำเสียให้ยาก นายปลอมเป็นนักบินหญิงที่หายตัวไปเมื่อแปดสิบกว่าปีที่แล้วเนี่ยนะ ฉันไม่เชื่อนายหรอกตาบ้า”
เพียงแค่ได้ยินชื่อที่เอ่ยออกมา ลิเลียน่าก็ทราบประวัติความเป็นมาของบุคคลดังกล่าวได้ทันที เธอความรู้รอบตัวสมกับที่เป็นธิดาแห่งอะธีน่าเสียจริง ๆ จนแม้กระทั่งเอมีเลียเจ้าของชื่อยังต้องประทับใจที่มีคนในยุคสมัยนี้รู้จักเธอด้วย แม้ว่าในภารกิจการบินครั้งนั้นจะล้มเหลวก็ตามที
“ลิเลียน่า คน ๆ นี้คือคุณเอมีเลียจริง ๆ เราเจอเธอที่คาสิโนโลตัส เธอคงได้ยินชื่อนี้มาบ้างใช่ไหม?” ดีนช่วยแก้ต่างให้ ส่วนไบร์ทไปไหนแล้วก็ไม่รู้ บางทีเธอคงปลีกตัวไปทันทีที่มาถึงประตูค่ายแล้วมีคนมาล้อมหน้าล้อมหลังจนน่าอึดอัดใจล่ะมั้ง ซึ่งเขาเข้าใจได้
“แม้แต่พี่ดีนก็รุมหัวช่วยกันอำหนูเหรอคะ หนุ่ม ๆ พวกนี้นี่” สาวน้อยทำแก้มป่องงอนเขาอีกคน
“ยังไงก็ไม่เชื่อเหรอ? ถ้างั้นแบบนี้ล่ะ ฉันคิดว่าต่อให้เป็นเดม่อนก็น่าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
เอมีเลียสะบัดมือจากนั้นจึงบังเกิดพายุหมุนลูกเล็กจิ๋วหมุนวนอยู่ตรงหน้า ดูดเอาใบไม้บนพื้นมุนติ้ว ๆ อยู่ในวงพายุ จากมายากลดังกล่าวทำเอาลิเลียน่าต้องขยี้ตา พลังดังกล่าวเป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดซุสที่ใคร ๆ ในค่ายก็รู้กันดี จากนั้นจึงเกิดเสียงลือกันแซงแซ่ “เดม่อนไม่กลับมาด้วยเหรอ?” “เขาไปไหน อย่าบอกนะว่าตาย?” “เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต คนนั้นยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ แถมเป็นธิดาซุสอีกต่างหาก” ซึ่งนั่นทำให้เด็กสาวจะบ้านอะธีน่าหน้าเสีย แล้วเบะปากคล้ายกับจะร้องไห้
“แล้วงี้เดม่อนอยู่ไหนคะพี่ดีน หรือว่าเขาแอบซ่อนตัวอยู่แถวนี้?”
“คืองี้ลินี่ เดม่อนเขาขอฝึกต่อที่แอตแลนติสน่ะ คือแบบ.. แบบว่าถึงแอตแลนติสจะอยู่ใต้น้ำแต่ก็มีโซนที่ถูกบาเรียครอบเอาไว้เป็นที่แห้งด้วย แล้วก็ยังมีโรงแรมแอตแลนติสอยู่ที่ไมอามี่อีก นี่นั่นกินหรูอยู่สบาย เธอไม่ต้องเป็นห่วงเดมี่นะ” ดีนแก้ตัวเปันพัลวัน แม้เขาจะมีสกิลพ่อปลาไหลแต่ก็ไม่รู้ว่าจะโกหกได้เนียนแค่ไหน “ถ้าเธอไม่เชื่อลองใช้เครือข่ายไอริสติดต่อไปก็ได้ แต่บางทีหมอนั่นอาจจะฝึกหนักมากจนขึ้นข้อความว่า ‘ไม่สามารถติดต่อได้ เป้าหมายกำลังเคลื่อนที่’ ก็ได้อ่ะนะ”
“นี่พูดจริงใช่ไหมคะ? ว่าเดม่อนปลอดภัย”
“จริง จริงร้อยเปอร์เซ็นเลย คุณเอลี่ก็ยืนยันให้ได้เนอะ” ดีนหันไปยิ้มแป้นเกินพอดีให้เอมีเลีย
“ช่าย จริงแท้เลยล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะสาวน้อย เดม่อนเขาเก่งจะตายไป การฝึกของแอตแลนติสไม่ทำให้เขาตายหรอกจ้ะ” เอมีเลียตบบ่าลิเลียน่าเพื่อปลอบประโลมแล้วช่วยแถให้ด้วย
“งั้นหนูเชื่อก็ได้ ให้ตายสิ ตาบ้านั่นทำให้เป็นห่วงทุกทีเลย” ลิเลียน่าบ่นอุบอิบได้จังหวะที่ดีนก็เลยขอเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
“เสียดายอ่ะ ภารกิจวุ่น ๆ เลยไม่ทันได้ซื้อของฝากมาให้ แต่ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันขอตัวพาคุณเอลี่ไปรายงานตัวกับคุณไครอนก่อนนะ”
“อ้อ อื้อ ได้ค่ะ หนูเข้าใจ พวกพี่ไปทำภารกิจกู้นิวยอร์กกันมานี่นา ถ้ามีของฝากมาด้วยก็แย่แล้ว”
ลิเลียน่ามีสีหน้าดีขึ้น เธอเริ่มยิ้มเริ่มหัวเราะได้เมื่อคลายกังวลจากเดม่อน เพียงแต่ดีนไม่รู้ว่าเดม่อนจะกลับมาจาก ‘เรื่องที่ต้องสะสาง’ เมื่อไร กว่าที่เด็กหนุ่มคนนั้นจะกลับมาที่ค่ายเด็กสาวคงต้องทนเหงาเอาหน่อย แต่ดีนเชื่อว่าคนอัธยาศัยดีอย่างเธอคงไม่เหงามากเกินไปเพราะมีเพื่อนในค่ายฮาล์ฟบลัดอีกตั้งมากมายที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างสาวน้อยแสนฉลาดคนนี้
.
. .
กว่าจะหลุดออกมาจากหน้าประตูค่ายไปห้องทำงานของคุณไครอนก็ใช้เวลานานอยู่พอควรทั้งที่บ้านใหญ่ก็ถือเป็นด่านหน้าของค่ายฮาล์ฟบลัดแท้ ๆ ระหว่างทางดีนได้แนะนำสถานที่ให้แก่เด็กใหม่อายุมากอย่างเอมีเลียประหนึ่งไกด์นำเที่ยว
“อาคารด้านหน้าคือบ้านใหญ่ เป็นที่ทำงานของผู้อำนวยการคุณไครอนครับ คุณรู้จักใช่ไหมเซ็นทอร์น่ะ”
“อ้อ แน่นอน ฉันเคยอ่านอยู่นะ ตำนานปรัมปราของเทพกรีก อาจารย์เซ็นทอร์ผู้สอนวิชาให้แก่วีรบุรุษหลายคน รวมถึงเธอด้วยใช่หรือเปล่า?”
“แจ๋ว งั้นผมคงไม่ต้องอธิบายเยอะ แต่เอ่อ.. ผมเรียนกับคุณไครอนแค่คลาสหลอมเหล็กครับ ส่วนวิชาหอกเรียนมาจากอาจารย์คนอื่นอีกที เธอเป็นรุ่นพี่บ้านอะธีน่าน่ะ อย่างโหดเลยขอบอก”
“แสดงว่าอาจารย์สอนหอกคงต้องเก่งมากเลยสิเนี่ย งั้นถ้าฉันอยากเรียนคงต้องไปเรียนกับอาจารย์สุดโหดคนนั้นใช่ไหม” เอมีเลียหัวเราะน้อย ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะมีอาวุธหอกแต่ดูเหมือนว่าจะใช้พลังการควบคุมลมและสายฟ้ามากกว่า “แล้วมีอะไรอีกบ้างล่ะ ตึกใหญ่ขนาดนั้นไม่น่าจะเป็นแค่ที่ทำงานของผู้อำนวยการหรอกใช่ไหม?”
“ก็เก่งแหล่ะแต่ว่าโหด แต่ก็ไม่แน่นะเธออาจจะดุแค่ผมแต่ดีกับคนอื่นก็ได้ คือแบบว่าดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะหมั่นไส้ผมที่เป็นสายเลือดโพไซดอนเป็นพิเศษน่ะ คงเรื่องเก่า ๆ ปัญหาของพ่อแม่” ดีนถอนหายใจออกมา เขาไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อยทำไมถึงชอบถูกเด็กบ้านอะธีน่าเขม่นอยู่เรื่อยเลยนะ มีแค่ลิเลียน่าเนี่ยแหล่ะที่พูดคุยกันดี ๆ ได้ “แน่นอนครับ นอกจากที่ทำงานของคุณไครอนแล้วยังมีห้องที่ปรึกษาของคุณดี คน ๆ นี้เป็นเทพแห่งไวน์และงานรื่นเริง เทพไดโอนีซุส เขาตลกแล้วก็เข้าขากับผมสุด ๆ”
“มีเทพโอลิมปัสประจำอยู่ที่ค่ายด้วยงั้นเหรอ!” เอมีเลียทำตาโตไม่อยากจะเชื่อ นอกจากเทพซุสผู้เป็นบิดาเธอก็ได้พบกับเทพเจ้าไม่บ่อยนัก บางทีเทพโดลอสที่น่าสงสารคนนั้นอาจจะเป็นเทพองค์ที่สองที่เธอเคยได้สนทนาด้วยเลยก็ได้ “แต่จากที่เธอเล่าดูเหมือนว่าจะสนิทกันดีนะ เขาไม่ใช่เทพที่น่ากลัวใช่ไหม?”
“ไม่ครับ ไม่น่ากลัวเลย คุณดีเป็นเทพตลกแล้วก็ใจดีชอบจัดงานปาร์ตี้ให้เด็ก ๆ แต่ว่าเขาก็เป็นคนแปลก ๆ ที่ชอบเปลี่ยนชื่อเล่นคนอื่น คุณเอลี่ก็เตรียมตัวโดนไว้ได้เลย”
“ฉันพอจะนึกภาพออกเลยล่ะ”
เอมีเลียมองมาทางดีนก่อนจะอมยิ้มกลั้นขำ เพราะคนที่อยู่กับเธอในตอนนี้ก็จัดว่าเป็นคนหนุ่มที่แปลก ทั้งเป็นคนตลก ช่างพูด เจ้าอารมณ์ ทั้งหัวเราะแล้วก็ร้องไห้ออกมาได้ง่าย ๆ แล้วยังแปลงชื่อเรียกคนอื่น แต่ก็มีทัศนคติด้านบวกและชอบชื่นชมกับความสำเร็จเล็ก ๆ ของทีม ถือว่าค่อนข้างแตกต่างจากผู้ชายจากปีพันเก้าร้อยสามสิบ ที่มักจะวางมาดเคร่มขรึม และมักจะกดดันสตรีไม่ให้มีที่ยืนในสังคม แม้ว่าเธอจะยังไม่ชินกับคนจากยุคสมัยใหม่ที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเสียทั้งหมด แต่ก็ถือว่าเธอชอบปีสองพันยี่สิบสี่กว่ายุคสมัยที่เธอจากมาอยู่มาก
“แล้วก็มีสถานพยาบาลประจำค่ายด้วย ถ้าไม่สบายหรือบาดเจ็บก็มาให้คุณพยาบาลมาช่วยดูแล อืม.. ตอนนี้ผมก็ชักอยากรู้เหมือนกันแฮะว่าสถานพยาบาลมีจิตแพทย์ประจำอยู่ไหม ผมน่าจะต้องใช้บริการสักหน่อย”
“หืม จิตแพทย์? เธอก็ดูปกติดีนี่ ต้องพบแพทย์เลยเหรอ?” นักบินสาวทำตาโตอีกครั้ง สำหรับคนยุคสงครามโลก การรักษาอาการจิตเภทถือเป็นเรื่องที่อันตรายร้ายแรง อย่างการช็อตไฟฟ้าหรือการผ่าตัดสมอง ซึ่งถ้าไม่ตายก็อาการแย่กว่าเดิม
“ไม่ครับ คุณกำลังนึกถึงการรักษาสมัยคุณอยู่สินะ คืองี้ เวลาเข้าพบจิตแพทย์น่ะครับมันก็เหมือนกับไประบายความในใจที่เราอัดอั้นกับใครสักคนที่เขารู้วิธีการที่จะบำบัดให้เราหายเครียดน่ะ เดี๋ยวนี้มันมีโรคนึงชื่อว่า ‘โรคซึมเศร้า’ เกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ ทำให้อารมณ์ด้านบวกถูกกดทับเอาไว้ทำให้มีความสุขไม่ได้จนไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้”
“โรคซึมเศร้างั้นเหรอ อาการซึมเศร้าเป็นโรคได้ด้วยแปลกจัง.. ที่เธอบอกว่าต้องการพบจิตแพทย์คงไม่ใช่ว่ากำลังเป็นโรคนี้อยู่ใช่ไหมดีน?”
“เปล่าครับผมไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แต่คิดว่าน่าจะเป็นพีทีเอสดีอ่อน ๆ เอ่อ.. คุณรู้จักไหม? มันเป็นอาการหลังจากที่เราพบเจอเรื่องร้าย ๆ จนหลอน ส่วนมากมักจะเป็นในทหารผ่านศึก เช่น ตกใจเสียงปุ้งปั้งแล้วคิดว่าเป็นเสียงกระสุนจนต้องหลบ หรือเห็นผลไม้บางชนิดแล้วตกใจในแว้บแรกว่าเป็นลูกระเบิด”
“อ๋า เคยได้ยินนะ ว่าเธอเธอเป็นพีทีเอสดีได้ยังไง?”
“ก่อนหน้านี้หลายเดือนผมไปทำภารกิจแรกช่วยผู้ประสบภัยจากสงครามกลางเมืองที่เฮติมาครับ แบบว่าไม่ได้กะไปทำภารกิจเพื่อเป็นวีรบุรุษเลยแค่บังเอิญว่าแม่ผมไปทำงานที่นั่นแล้วก็ติดภัยสงครามเลยต้องไปช่วย ได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดทั้งวันจนทำเอาผมหลอนขึ้นมานิดหน่อย บอกตรง ๆ ว่าตอนได้ยินเสียงปืนของไบร์ทตี้ทุกครั้งทำเอาผมสะดุ้งได้ทุกที”
“จริงเหรอ ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเธอกลัว ถ้างั้นไปพบจิตแพทย์ก็คงดีแหล่ะ จะได้นอนหลับสบายขึ้น”
แล้วทั้งสองก็มาถึงห้องทำงานของคุณไครอน ตกบ่ายแบบนี้ดีนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ไหมหรือว่ากำลังประจำที่คลาสเรียนไหนอยู่กันแน่ แต่ก็ต้องลองเคาะประตูดู โชคดีที่ตอนนี้ผู้อำนวยการอยู่ที่ห้องทำงานและยังมีคุณดีอยู่ด้วยอีกต่างหาก ถือว่าได้แนะนำให้เอมีเลียพร้อมกันทั้งสองคนเลย
“สวัสดีครับคุณไครอนคุณดี ผมกลับมาแล้ว มาขอแจ้งว่าภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีครับ ถึงจะมีไม่ดีนิดนึงแต่อย่างน้อยตอนนี้คงไม่มีสงครามระหว่างแอตแลนติสและโอลิมปัสแล้ว ผมเป็นตัวแทนของกลุ่มมารายงานตัวครับ ไบร์ทตี้มาถึงค่ายพร้อมกับผม ส่วนเดมี่ขอตัวไปทำธุระฝึกฝนตัวเองนิดหน่อย”
“ยินดีที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัยคุณดีน” ไครอนกล่าว ที่มุมปากมีรอยยิ้มน้อย ๆ ประทับอยู่
“ว่าแต่เธอพาใครมาด้วยน่ะคุณด็อก” คุณดีมองไปทางเอมีเลีย
“ด็อก? คุณเรียกผมว่าหมาเหรอ? โอ้ย ดีนะที่เป็นหมาไม่ใช่ตัวอื่น” ดีนกลั้วหัวเราะคล้ายกับชินกับการถูกเรียกว่าหมาไปแล้ว แต่นั่นทำเอาคนข้าง ๆ เลิกคิ้วทำตาโต นี่สินะการทักทายแปลก ๆ จากเทพไดโอนีซุสที่ชายหนุ่มเคยเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้
“เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต ธิดาแห่งซุสค่ะ ความจริงฉันเป็นคนยุคปีพันเก้าร้อยสามสิบแล้วติดอยู่ในคาสิโนโลตัส ท่านพ่อเคยบอกกับฉันว่าจะมีคนพามาที่ค่ายเพื่อมาฝึกกับแซเทอร์ คุณนีสตอร์มค่ะ”
“คุณเอเวอร์รี่ เด็กใหม่สินะ” มาแล้วการเปลี่ยนชื่อเรียกของคุณดี เธอเลิกคิ้วขึ้นแต่ก็ทำใจไว้ได้แล้ว
“ใช่ค่ะ เอเวอร์รี่ก็ได้ ชื่อเพราะดี ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะคะคุณดี คุณไครอน”
ดีนแทบจะปรบมือให้กับเอมีเลียที่เธอยิ้มรับชื่อใหม่ของคุณดีได้แทบจะในทันที ไม่ทำหน้างงเหมือนกับเขาในวันแรก ๆ
“ดูท่าเพื่อนใหม่จะแนะนำคุณมาอย่างดีแล้วสินะครับคุณเอมีเลีย คุณจะว่าอะไรไหมหากเราจะคุยเรื่องรายละเอียดเรื่องการฝึกพิเศษของคุณวันหลัง พอดีว่าผมมีสอนช่วงบ่ายเสียด้วย” น้ำเสียงของคุณไครอนประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการจะเลื่อนคลาสคงไม่ได้ด้วยเพราะมีเด็ก ๆ คลาสปืนที่รออยู่
“ไม่มีปัญหาค่ะ” เอมีเลียยิ้มและยังคงรับมือแบบผู้ใหญ่ได้ดี เธอไม่ได้รีบร้อนไปไหนอยู่แล้ว บ้านที่จะให้กลับก็ไม่มี มีแต่ต้องทำตัวให้คุ้นชินกับค่ายฮาล์ฟบลัดในฐานะของบ้านใหม่หลังที่สองก็เท่านั้นเอง “ถ้ายังไงวันแรกฉันขออนุญาตเดินชมค่ายฮาล์ฟบลัดก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเมื่อไรที่คุณว่างเราค่อยมาคุยเรื่องการฝึกกัน ยังไงฉันก็มีรุ่นพี่ที่ดีพร้อมให้ความช่วยเหลือตั้งสองคน ใช่ไหมรุ่นพี่ดีน”
“หา? ผมเหรอ?” ดีนทำตาโตแล้วก็กะพริบตาปริบ ๆ เอมีเลียเธออายุมากกว่าเขาเยอะ เรียกว่าเป็นรุ่นแม่เลยก็ว่าได้ เลยตกใจนิดหน่อยที่หญิงสาวนักบินเรียกเขาว่ารุ่นพี่ ส่วนอีกคนคงไม่ต้องเดา ‘รุ่นพี่ไบร์ท’ อย่างแน่นอน “ได้สิครับ เดี๋ยวผมเป็นไกด์นำเที่ยวค่ายให้ เมื่อคืนผมนอนในรถบ้านเต็มอิ่มสุด ๆ แล้ววันนี้ไม่ต้องไปตีกับอสุรกายที่ไหนแล้วด้วย เรียกได้ว่าผมน่ะฟิตสุด ๆ”
“ฟิตงี้ต้องมาแข่งเต้นกันหน่อยแล้วไหมคุณด็อก” เทพไดโอนีซุสเอ่ยแซว
“อ้าว ๆ คุณท้าผมอีกแล้วนะ แบบนี้ต้องจัดกันสักสองสามเพลงแล้วหรือเปล่า”
ดีนรับคำท้าจากเทพแห่งสุราด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเอมีเลียอดที่จะหัวเราะไปด้วยไม่ได้ ตอนแรกเธอค่อนข้างจะเกร็ง ๆ กับการต้องมาอยู่ท่ามกลางค่ายที่มีแต่เด็กแถมยังมีเทพประจำค่ายอีกตั้งหนึ่งองค์อีกต่างหาก แต่พอเห็นความเป็นกันเองของคุณดีแล้วก็ชวนให้หญิงสาวคิดว่าสถานที่แห่งนี้มีความอบอุ่นของครอบครัวด้วยเช่นกัน ไม่เหมือนกับอดีตที่ผ่านมาที่เธอต้องฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนพอจะมีใครสักคนเห็นคุณค่าในตัวเธอได้
“ถ้างั้นผมคงต้องรบกวนคุณดีนช่วยดูแลเธอไปก่อน ส่วนนี่คือเสื้อค่ายครับ หากขาดเหลืออะไรขอให้มาแจ้งที่บ้านใหญ่ได้ตลอดเวลา” ไครอนกล่าวพร้อมกับหยิบเสื้อค่ายฮาล์ฟบลัดสีส้มให้แก่เอมีเลียรวมทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ประจำตัวให้แก่เธอบางส่วน
“เชื่อมือผมได้เลยครับคุณไครอน ผมน่ะไกด์อันดับหนึ่ง” ดีนยิ้มยืดก่อนจะกลับไปหาคุณดีอีกครั้ง “งั้นเดี๋ยวภายในอาทิตย์นี้ผมมาใหม่ คุณดี คุณเจอผมแน่!”
“หึ แล้วฉันจะรอ” คุณดีเองก็ยิ้มกว้างยืดอกไม่แพ้กัน จนอดคิดไม่ได้ว่ารุ่นพี่ออสตินเอาแต่ปลูกสตรอว์เบอร์รี่จนทำให้คุณพ่อนักปาร์ตี้ของเขาเหงาหรือเปล่านะ
“ถ้างั้นไปกันครับคุณเอลี่ ผมขอตัวก่อนนะครับคุณไครอน คุณดี”
เมื่อร่ำลากันเสร็จดีนก็พาหญิงสาวจากยุคสามศูนย์เที่ยวชมรอบ ๆ ค่ายตามเส้นทางการวิ่งจ๊อกกิ้งของทุกเช้าที่เคยทำมา เริ่มจากกระดานภารกิจที่ติดอยู่หน้าบ้านใหญ่ ออกไปทางทิศตะวันออก ผ่านสนามวอลเลย์บอล ทะเลสาบ ผาปีนป่าย ชายหาด โรงอาหาร แวะอธิบายการใช้งานเตาไฟบูชาเทพให้อีกด้วย เผื่อว่าเธอจะติดต่อเทพซุสแล้วบอกพ่อของเธอว่า ‘ห้ามแกล้งเด็กบ้านโพไซดอน’ อะไรทำนองนี้ เดินเฉียดป่าต้องห้าม ถ้ำของเทพพยากรณ์ อัฒจันทร์ คลังศัตราวุธ โรงหลอม คอกเพกาซัส ไรสตรอว์เบอร์รี่ คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะเข้าไปยังเขตโซนที่พักแล้วส่งเธอที่หน้ากระท่อมหมายเลขหนึ่ง
“ถึงแล้วนี่บ้านของคุณ หวังว่าจะสนุกกับน้อง ๆ ในค่ายนะครับ ส่วนผมกับไบร์ทตี้อยู่กระท่อมหมายเลขสาม จริง ๆ ก็อยู่เกือบติดกันแหล่ะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาเคาะบ้านเรียกพวกเราได้นะไม่ต้องเกรงใจ”
“ฉันก็หวังว่าแบบนั้น กลัวไม่ใช่พี่สาวแต่เป็นคุณอาแทนเนี่ยสิ” เอมีเลียได้แต่ยิ้มแห้งในความต่างวัยของเธอและน้อง ๆ คนอื่นที่ยังไม่เคยเจอหน้ามาก่อน “วันนี้ขอบคุณมากนะดีน เอาไว้ถ้าสงสัยอะไรคงต้องขอมารบกวนเธอใหม่”
“รบกวนได้เลยครับผมไม่ว่า ถ้างั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับคุณเอลี่ เอาไว้เจอกันใหม่”
ดีนโบกมือลาหญิงสาวก่อนที่เขาจะเดินไปที่กระท่อมหมายเลขยี่สิบ แต่เมื่อเคาะประตูบ้านเข้าไปทักทายสมาชิกในนั้นแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนแล้วก็เดินหงอย ๆ กลับมาที่บ้านของตัวเอง
‘นายยังไม่กลับมาสินะแมคซี่…’
ส่ง เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต ที่ค่ายฮาล์ฟบลัด
พูดคุยกับไครอนและคุณดี [ไดโอนีซุส] BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ) โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15 |