เจ้าของ: God

[บ้านใหญ่] ห้องทำงานไครอน

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-7-15 19:00:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Nanette Leblanc
ห้องทำงานไครอน


เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของไครอนดังขึ้น พร้อมกับร่างบอบบางของเด็กสาวเคบินหมายเลข 10 ที่เพิ่งจะมาเยือนบ้านใหญ่ได้ไม่ทันไร นาแนตต์กลับมายังห้องทำงานของไครอนอีกครั้ง และครั้งนี้ก็มีธุระสำคัญอย่างคำพยากรณ์ที่ได้รับมา


“เข้ามา”


เสียงของเจ้าของห้องดังขึ้นผ่านบานประตูออกมา นาแนตต์หมุนลูกบิดประตูก่อนจะค่อย ๆ เปิดมันเข้าไปเบา ๆ เซนทอร์ผู้อำนวยการด้านกิจกรรมของค่ายละสายตาจากเอกสารบนโต๊ะทำงานแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ นาแนตต์ก้าวตรงเข้าไปก่อนจะนั่งที่เก้าอี้ว่างด้านหน้าหลังจากได้รับคำเชิญแล้ว


“นาแนตต์ เลอบลังก์สินะ” เจ้าของชื่อพยักหน้าหงึกหงักแทนการตอบคำถาม ไครอนยกยิ้มด้วยความเอ็นดูแล้วถามคำถามต่อ “มีธุระอะไรล่ะ”


“เรื่องคำพยากรณ์น่ะค่ะ”


เซนทอร์ผู้รอบรู้พยักหน้าเบา ๆ เขาพอจะเดาได้เพราะน้อยครั้งที่เด็กสาวตระกูลเลอบลังก์คนนี้จะเข้ามาหา หากไม่มีเรื่องอะไรซักอย่าง และดูจากสีหน้าของนาแนตต์ในตอนนี้แล้ว เธอคงมีความหนักใจกับเรื่องที่เจอมาอยู่ไม่น้อย


“หนูไปขอคำพยากรณ์จากคุณเรเชลมา แล้วได้มาว่าแบบนี้ค่ะ”


คำพยากรณ์ผิด ๆ ถูก ๆ ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของเด็กสาว ไครอนพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดหัวเราะออกมา ตั้งใจฟังจนจบ สุดท้ายเขาก็สรุปคำพยากรณ์ที่ถูกต้องให้อีกรอบ


“ณ เมืองแห่งแฟชั่น นิรันดรความงามจักจาง เมื่อหอสูงส่องแสงสะท้อนเงาของความเปลี่ยนแปลง สายเลือดรัก จักพบความจริงอันแสนขม ดอกไม้เหล็กร่วงโรยก่อนอรุณจะรุ่งราง”


“โอ๊ะ ใช่แล้วค่ะ คุณไครอนเก่งจัง”


นาแนตต์ยิ้มแย้ม อยากจะปรบมือให้อีกฝ่ายเบา ๆ แต่ก็ยั้งมือเอาไว้ก่อน กำลังจะอ้าปากเพื่อขอคำแนะนำ แต่เธอกลับโดนเขายิงคำถามใส่เสียอย่างนั้น


“เธอคิดว่าอย่างไรล่ะ?”


“อ่า... หนูว่าเมืองแฟชั่นน่าจะหมายถึงปารีส” นาแนตต์ลอบสังเกตอาการ พอเห็นไครอนพยักหน้าเบา ๆ ยืนยันว่าที่เธอน่าจะถูกต้อง นาแนตต์ก็พูดต่อ “ส่วนสายเลือดรัก คงจะหมายถึงสายเลือดของเทพีอะโฟร์ไดต์”


นอกจากปารีสจะเป็นเมืองแห่งแฟชั่นแล้วยังถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความรัก แล้วเทพีแห่งความรักก็คือเทพีมารดาของนาแนตต์เอง เช่นนั้นเมืองนี้เกี่ยวโยงกับสายเลือดของเทพีอะโฟร์ไดต์อย่างไม่ต้องสงสัย


“แต่ว่า ไอ้เจ้าดอกไม้เหล็กนี่...”


“ดอกไม้เหล็ก -เป็นการอุปมาถึงความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งแต่เปราะบาง”


นาแนตต์ขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งแต่เปราะบาง เหมือนดอกไม้เหล็กงั้นเหรอ ความสัมพันธ์... ความสัมพันธ์...


“หรือว่าจะเป็น... โรมิโอกับจูเลียต!”


ไม่ไหว ในที่สุดไครอนก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้ “เด็กน้อยเอ๋ย โรมิโอกับจูเลียตน่ะอยู่ที่อิตาลีไม่ใช่หรือ


เด็กสาวจากบลัวส์นิ่งคิดก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ ออกมาเพราะตำนานรักของโรมิโอกับจูเลียตมันเกิดขึ้นที่เมืองเวโรนา ประเทศอิตาลีจริง ๆ ด้วย


อย่าเพิ่งกังวลไป เดี๋ยวเธอจะได้พบคำตอบเอง อาจจะต้องเริ่มจากการไปปารีสให้ได้ก่อน ค้นหาเบาะแส แล้วเธอก็จะพบเส้นทางที่พาเธอไปเจอกับคำตอบ” ไครอนให้กำลังใจเด็กสาวที่นั่งนิ่ง หน้านิ่วคิ้วขมวดไปโดยฉับพลัน พาเพื่อนร่วมทางไปด้วยซักสองคนสิ จะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข


“เพื่อนร่วมทาง? ตั้งสองคนเลยเหรอคะ?”


คุณหนูจากบลัวส์น่ะขึ้นชื่อเรื่องการทำงานเป็นทีมที่ยอดแย่มากอยู่แล้ว ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันแน่นอย่างคนใช้ความคิด ใจจริงแล้วนาแนตต์ก็อยากจะฉายเดี่ยว แต่พลังของเธอถือว่าน้อยนิดมากหากเทียบกับคนอื่น ๆ ในค่าย ทั้งยังเป็นการทำภารกิจนอกสถานที่ในรอบกี่เดือนตั้งแต่มาอยู่ในค่าย การมีเพื่อนร่วมทางไว้ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว


“หนูว่าหนูพอจะนึกออกแล้วว่าจะชวนใครไปดี” เอเตียน โลรองต์ บุตรแห่งอะธีน่า คือคนแรกที่นาแนตต์นึกถึง หนึ่งเลยคือนายนี่หน้าตาดี เดินด้วยแล้วเธอไม่อาย สองคือเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมค่ายคนแรก ๆ ที่เธอรู้จัก และข้อสามที่แสนสำคัญเลยก็คือ


เอเตียนเป็นคนฝรั่งเศส..


ไครอนเลิกคิ้วสูง มองเด็กสาวยิ้มอยู่คนเดียวแล้วก็อดส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูปนหน่ายใจไม่ได้ พลันดวงตากลมโตของธิดาแห่งอะโฟร์ไดต์ก็เลื่อนมาสบกับดวงตาของเขา


“แต่อีกคนนึง คุณไครอนแนะนำหน่อยได้ไหมคะว่าชวนใครไปดี อ้อ แล้วก็วิธีการเดินทางด้วย หนูนั่งเครื่องบินไปไม่ได้ใช่ไหมคะ?”


นาแนตต์กระพริบตาปริบ ๆ รอฟังคำแนะนำอย่างใจจดจ่อ บอกตามตรงว่าเธอยังจับต้นชนปลายไม่ค่อยได้ คงต้องค่อย ๆ หาทางกันไปล่ะนะ


ขอคำปรึกษาไครอนเกี่ยวกับคำพยากรณ์

แสดงความคิดเห็น

God
อลิเซียพี่น้องของเธอลองไปถามเธอดูไหม อย่างน้อยอลิเซียก็พอใช้มนต์มหาเสน่ห์ได้ หากภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับอะโฟร์ไดต์  โพสต์ 2025-7-15 21:12
โพสต์ 23333 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-15 19:00
โพสต์ 23,333 ไบต์และได้รับ +10 EXP +9 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก ตาหลากสี  โพสต์ 2025-7-15 19:00
โพสต์ 23,333 ไบต์และได้รับ +20 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก ชุดบำรุงอาวุธ  โพสต์ 2025-7-15 19:00
โพสต์ 23,333 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +6 ความกล้า จาก หมวกปีกกว้าง  โพสต์ 2025-7-15 19:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตาหลากสี
ชุดบำรุงอาวุธ
หมวกปีกกว้าง
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-17 19:17:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

17.07.2025 | 07:20 AM


คำพยากรณ์ยังคงก้องอยู่ในหัวของแอ็กเซลเหมือนเสียงสะท้อนในหุบเหว, แต่ละคำคือเศษแก้วที่ต้องนำมาประกอบกันอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้เดินอย่างไร้จุดหมาย แต่ก้าวเท้าอย่างรวดเร็วและเด็ดเดี่ยว, มุ่งตรงไปยังบ้านหลังใหญ่—ศูนย์บัญชาการและคลังสมองของค่ายแห่งนี้


เมื่อเขามาถึง, ไครอนก็กำลังพิจารณาแผนที่เก่าๆ อยู่บนโต๊ะทำงานในห้องของเขา, ในร่างของมิสเตอร์บรันเนอร์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิเศษ เซนทอร์เฒ่าเงยหน้าขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงการมาถึงของเขา, ดวงตาที่ผ่านโลกมานับพันปีฉายแววรับรู้อยู่ก่อน


"มีเรื่องด่วนครับ, ไครอน" บุตรแห่งไทคีเอ่ยขึ้นโดยไม่มีการอารัมภบท, เสียงของเขาราบเรียบแต่แฝงความตึงเครียดที่ควบคุมไว้


ไครอนพยักหน้าช้าๆ, ผายมือไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม "ว่ามาเถิด"


"ผมพึ่งได้รับคำพยากรณ์มาจากนักพยากรณ์แก่งเดลฟี.... เธอกล่าวไว้ว่า...คทาปีกหัก สะท้านโลกา…โชคชะตาแกว่งไกว คล้ายเรือโยก…โอ้ทายาทแห่งโชค จงเงี่ยหูฟัง…ย่านแห่งราชินี ที่ซึ่งเสียงเพลงบรรเลง…สะพานเชื่อมสองฝั่ง สู่ดินแดนภราดร…จากเมืองไม่เคยหลับ สู่เมืองสวรรค์อุบัติใหม่…จงระวัง กรีนสกิน ผู้หวนคืนจากอดีต…ควบคุมชะตาตน จงมองกระจกแห่งจิตใจตน" 

แอ็กเซลเลือกที่จะยืน เขาเล่าคำพยากรณ์ที่เพิ่งได้รับมาทุกคำอย่างแม่นยำ, ไม่ตกหล่นแม้แต่พยางค์เดียว เมื่อเล่าจบ, ความเงียบที่หนักอึ้งก็เข้าปกคลุมห้อง, มีเพียงเสียงของนาฬิกาโบราณที่เดินติ๊กต็อกเป็นฉากหลัง


"ผมมีข้อสันนิษฐานบางอย่าง" เขาเริ่มต้นการวิเคราะห์ "ท่อนแรก... 'คทาปีกหัก' คทาที่มีปีก... ผมนึกถึงอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากคทาคาดูเซียสของเฮอร์มีส แต่ 'ปีกหัก'… มันอาจไม่ได้หมายถึงตัวคทาที่หักจริงๆ แต่อาจเป็นสัญลักษณ์...สื่อถึงอำนาจที่เสื่อมถอยของเจ้าของมันหรือเปล่าครับ?"


ดวงตาที่เปี่ยมด้วยปัญญาของไครอนหรี่ลงเล็กน้อย "เป็นข้อสันนิษฐานที่หลักแหลมมาก, แอ็กเซล" เขากล่าวรับ "มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว อำนาจของเทพเจ้าไม่ได้คงที่เสมอไป, โดยเฉพาะกับเฮอร์มีสผู้ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา"


"ส่วนอีกสองท่อนที่ตามมา... 'โชคชะตาแกว่งไกว' กับ 'จงเงี่ยหูฟัง'... ฟังดูเหมือนคำเตือนมากกว่าจะเป็นคำใบ้ถึงสถานที่" ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดกล่าวต่อ, สายตาจ้องเขม็งไปที่แผนที่บนโต๊ะ "คงเป็นการบอกใบ้ถึงความยากลำบากที่กำลังจะมา"


ไครอนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย, สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด "ใช่, มันคือคำเตือน" เขายืนยัน "คำพยากรณ์มักจะสอดแทรกคำเตือนไว้เสมอ เพื่อให้เจ้าของภารกิจตื่นตัวและสังเกตสิ่งรอบข้างให้ดี"


"และ 'ย่านแห่งราชินี'… ผมไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนไปกว่านั้น" บุรุษชาวรัสเซียเอ่ยข้อสรุปของเขา "คงหมายถึงย่านควีนส์ในนิวยอร์ก"


"ฉันเห็นด้วย" ไครอนตอบทันที ก่อนจะเสริมต่อ "และ 'ที่ซึ่งเสียงเพลงบรรเลง'… อาจหมายถึงสถานที่ที่มีชีวิตชีวาโดยรวมในย่านนั้น, ที่ซึ่งเต็มไปด้วยศิลปะ, ดนตรี, หรือแม้แต่เสียงผู้คนพลุกพล่าน หรืออาจเป็นสถานที่เฉพาะเจาะจงก็ได้ เช่น ศูนย์การแสดง, คอนเสิร์ตฮอลล์, หรือพื้นที่สาธารณะที่มีการแสดงดนตรี"


แอ็กเซลพยักหน้าช้าๆ, รับข้อมูลเกี่ยวกับย่านควีนส์ของไครอนเข้ามาประมวลผลในใจ มันเป็นข้อสันนิษฐานที่สมเหตุสมผลและตรงไปตรงมาที่สุด "เป็นไปได้ครับ" เขารับคำ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังท่อนถัดไปของคำพยากรณ์ที่เขาท่องจำไว้ในหัว "แต่ท่อนที่ว่า 'สะพานเชื่อมสองฝั่ง สู่ดินแดนภราดร'...ท่อนนี้ผมไม่แน่ใจนัก"


เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเซนทอร์เฒ่า, ยอมรับในข้อจำกัดของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา "ความรู้ทางภูมิศาสตร์ของอเมริกาผมยังมีไม่มากพอ คำว่า 'ภราดร' มันกว้างเกินไปที่จะระบุตำแหน่งได้"


ไครอนลูบเคราที่แข็งกระด้างของเขาอย่างครุ่นคิด, ดวงตาที่เปี่ยมปัญญาของเขาทอประกายขึ้น "คำว่า 'ภราดร'...หรือ Brotherly Love" เขากล่าวช้าๆ, เน้นคำอย่างมีความหมาย "มีเมืองหนึ่งในเพนซิลเวเนียที่ถูกขนานนามว่า 'City of Brotherly Love'…ฟิลาเดลเฟีย บางทีคำพยากรณ์อาจจะหมายถึงสะพานที่ทอดข้ามไปยังเมืองนั้น"


ฟิลาเดลเฟีย...ชื่อนั้นจุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ๆ ขึ้นมาในหัวของแอ็กเซล "เป็นไปได้สูงมากครับ" เขายอมรับ "ส่วนท่อนต่อไป... 'จากเมืองไม่เคยหลับ สู่เมืองสวรรค์อุบัติใหม่'... 'เมืองที่ไม่เคยหลับ' ผมค่อนข้างมั่นใจว่าหมายถึงนิวยอร์กซิตี้" เขากล่าว, มันเป็นชื่อเล่นที่โด่งดังไปทั่วโลก "แต่ 'สวรรค์ใหม่' นี่สิ...เหมือนจะเคยได้ยินชื่อเมือง 'นิวเฮเว่น' แต่ผมไม่ทราบว่ามันอยู่ตรงไหน"


"คอนเนตทิคัต" ไครอนตอบทันที, ไม่ต้องเสียเวลาคิด "และนี่อาจจะเป็นการบอกใบ้ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของคำพยากรณ์ทั้งหมดเลยก็เป็นได้...มันอาจกำลังบอกถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของภารกิจของเจ้า"


จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด...มันเป็นกรอบเวลาและระยะทางที่จับต้องได้, เป็นข้อมูลชิ้นสำคัญที่ทำให้ภาพรวมของภารกิจชัดเจนขึ้นอย่างมหาศาล


"ผมเห็นด้วยครับ" บุตรแห่งไทคีกล่าวรับ, ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนึกถึงท่อนสุดท้ายที่น่ากังวลที่สุด "แต่ 'กรีนสกิน'…ผมยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับคำนี้" เขายอมรับอย่างไม่ปิดบัง "มันมีอสูรกายมากมายที่มีผิวสีเขียว...ก็อบลิน, ออร์ค, แดรกคีเน่ที่ผมเพิ่งเจอ, และคงมีอีกหลายชนิดที่ผมยังไม่รู้จัก"


ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่อันตรายที่สุดในสนามรบ


"อย่าเพิ่งตีกรอบความคิดของเธอให้แคบเกินไปนัก" ไครอนกล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงที่สุขุม "คำว่า 'กรีนสกิน' อาจไม่ได้หมายถึงลักษณะทางกายภาพของอสูรกายโดยตรงเสมอไป" เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของแอ็กเซล "มันอาจจะหมายถึงกลุ่มคน...หรือแม้แต่บุคคลเพียงคนเดียว...ที่มีสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวก็ได้"


"ก็เป็นไปได้อีกเช่นกันครับ" บุตรแห่งไทคีตอบรับทฤษฎีของไครอนอย่างใจเย็น ความคิดในหัวของเขาเริ่มเชื่อมโยงจุดต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว "แต่ที่แน่ๆ...ท่อนที่ว่า 'ผู้หวนคืนจากอดีต' น่าจะบ่งบอกได้ว่า ถ้า 'กรีนสกิน' ไม่ใช่ศัตรูเก่าของผมเอง—ซึ่งผมก็นึกไม่ออกว่ามีใครที่ใช้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์—ก็น่าจะเป็นศัตรูในอดีตของทุกคนที่นี่...ของโลกกึ่งเทพทั้งหมด"


มันคือตรรกะที่เยือกเย็นที่สุด ศัตรูที่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา บัดนี้ได้หวนกลับมาอีกครั้ง


ไครอนพยักหน้าช้าๆ, แววตาของเขาฉายแววเห็นด้วยอย่างเต็มที่ "เป็นข้อสรุปที่เฉียบคมและน่ากังวลในเวลาเดียวกัน" เขายอมรับ "ประวัติศาสตร์ของพวกเรายาวนานและเต็มไปด้วยศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวมากมาย"


"ส่วนท่อนที่เหลือ... 'ควบคุมชะตาตน จงมองกระจกแห่งจิตใจตน'" ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดกล่าวต่อ, เหมือนกำลังอ่านรายงานสรุป "ผมคิดว่านั่นคงเป็นคำแนะนำที่มอบให้เป็นการส่วนตัวมากกว่าจะเป็นคำใบ้สำหรับภารกิจ"


"ฉันก็คิดเช่นนั้น" เซนทอร์เฒ่ากล่าวเสริม "มันเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจ...ว่าในภารกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ สิ่งเดียวที่เธอสามารถควบคุมได้อย่างแท้จริงคือตัวของเธอเอง"


บทสนทนาหยุดลงชั่วขณะ, ปล่อยให้ความหนักอึ้งของคำพยากรณ์และภารกิจที่ตามมาแขวนอยู่ในอากาศ ก่อนที่ไครอนจะเปลี่ยนเรื่องเข้าสู่ภาคปฏิบัติ


"ภารกิจนี้อันตรายเกินกว่าจะไปคนเดียว, แอ็กเซล" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด "เธอต้องหาเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจได้ และฉันขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าหนึ่งในนั้นควรจะเป็นเซเทอร์ พวกเขาเป็นเพื่อนที่รอบรู้และสัมผัสได้ถึงอันตรายที่มนุษย์ครึ่งเทพมองข้ามได้ดีที่สุด"


คำแนะนำนั้นสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง การมีคนนำทางที่มีสัญชาตญาณของธรรมชาติย่อมเป็นข้อได้เปรียบมหาศาล


"จริงของคุณ" บุตรแห่งโชคชะตาตอบทันที ในใจของเขามีใบหน้าของเซเทอร์ผู้หวาดวิตกและขี้บ่นคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน

"และผมก็มีเซเทอร์อยู่ในใจแล้ว"


เขารู้ดีว่าโนอาห์คงจะไม่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจนักหรอก


"ตอนนี้ผมขอตัวไปเตรียมการก่อน" แอ็กเซลกล่าว, พยักหน้าให้ไครอนเล็กน้อยเป็นเชิงอำลา "แล้วผมจะกลับมารายงานอีกครั้ง...เมื่อได้สมาชิกทีมพร้อม"


ร่างสูงหมุนตัวเดินออกจากห้องไป, ทิ้งให้เซนทอร์เฒ่าจมอยู่กับแผนที่และภาระอันหนักอึ้งของค่ายต่อไป สำหรับเขา, เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และตาเดินต่อไป...คือการรวบรวมผู้เล่นให้ครบทีม






Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 27,087 ไบต์และได้รับ +7 EXP จาก Anker PowerCore  โพสต์ 2025-7-17 19:17
โพสต์ 27,087 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 ความกล้า จาก ปืนอัจฉริยะ L&E  โพสต์ 2025-7-17 19:17
โพสต์ 27,087 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +14 ความศรัทธา จาก สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง  โพสต์ 2025-7-17 19:17
โพสต์ 27,087 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2025-7-17 19:17
โพสต์ 27,087 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-7-17 19:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-18 03:42:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

17.07.2025 | 07:00 PM


เมื่อความมืดที่ควรจะมาเยือนไม่เคยมาถึง, ค่ายฮาล์ฟบลัดจึงดำเนินไปตามจังหวะของนาฬิกา, ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ และในเวลานี้, แสงสีทองอ่อนๆ ของยามสนธยาที่ไม่มีวันสิ้นสุดก็อาบไล้บ้านหลังใหญ่, ทำให้มันดูเหมือนอนุสรณ์สถานมากกว่าศูนย์บัญชาการที่มีชีวิต


แอ็กเซลเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานของไครอน, การเคลื่อนไหวของเขาราบรื่นและมั่นคง ทีมของเขาพร้อมแล้ว, แผนการเดินทางถูกร่างขึ้นในใจ, และตาเดินต่อไปคือการได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ


เขาพบเซนทอร์เฒ่าในร่างของมิสเตอร์บรันเนอร์เช่นเคย, กำลังพิจารณาเอกสารกองโตอยู่บนโต๊ะทำงานภายใต้แสงไฟจากโคมไฟตั้งโต๊ะ ไครอนเงยหน้าขึ้นเมื่อเขาก้าวเข้ามา, ดวงตาที่ผ่านโลกมานับพันปีฉายแววรอคอยอยู่ก่อนแล้ว


"ผมมารายงานเรื่องภารกิจครับ, ไครอน" ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดกล่าวเปิดประเด็นโดยไม่มีการอ้อมค้อม "ผมต้องการขออนุมัติการเดินทางในคืนวันเสาร์หน้า"


"ทีมของเธอพร้อมแล้วรึ?" ไครอนถามกลับ, วางปากกาขนนกลง


"พร้อมแล้วครับ" บุตรแห่งไทคีตอบอย่างหนักแน่น "สมาชิกร่วมทีมประกอบด้วย...เซเทอร์โนอาห์ วอลเตอร์, และโมสาร์ท บาร์โทลดี้ จากเคบินอพอลโล"


ไครอนรับฟังรายชื่อสมาชิกทีมโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จนกระทั่งได้ยินชื่อสุดท้าย "เอ็มบี?" เขาเอ่ยทวน, คิ้วสีดอกเลาของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย, เผยให้เห็นความกังวลที่แทบจะไม่ได้ปิดบัง "เขา…ยังเด็กมากนะ แอ็กเซล"


มันคือปฏิกิริยาที่เขาคาดการณ์ไว้แล้ว เป็นอุปสรรคเชิงตรรกะที่เขาเตรียมคำตอบไว้พร้อม


ความกังวลของเซนทอร์เฒ่านั้นจับต้องได้ มันไม่ใช่การคัดค้าน, แต่เป็นความห่วงใยของอาจารย์ที่เคยเห็นเด็กหนุ่มสาวมากมายเดินออกไปแล้วไม่ได้กลับมา


"ผมทราบดีครับ" บุรุษชาวรัสเซียยอมรับอย่างใจเย็น, ไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดหรือป้องกันตัว "แต่อายุไม่ใช่ตัวชี้วัดความสามารถเสมอไป...ผมเห็นบางอย่างในตัวเด็กคนนั้น" เขามองตรงไปที่ดวงตาของไครอน, ถ่ายทอดความเชื่อมั่นของเขาออกไปอย่างเต็มที่ "ผมเห็นไฟ, เห็นศักยภาพที่ยังไม่ถูกขัดเกลา"


เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของไครอน, คำพูดทุกคำของเขาหนักแน่นและจริงจัง "ผมขอรับผิดชอบความปลอดภัยของเขาทั้งหมด ผมสัญญาว่า ผมจะพาเขากลับมาที่ค่ายอย่างปลอดภัย"


เขาหยุดไปชั่วครู่, ปล่อยให้คำสัญญานั้นหนักอึ้งอยู่ในความเงียบ ก่อนจะเสริมเหตุผลทางยุทธวิธีเข้าไป "ยิ่งไปกว่านั้น, สไตล์การต่อสู้ของเขาคือระยะไกลโดยธรรมชาติ ในทุกการปะทะ, ตำแหน่งของเขาจะอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุดในสนามรบเสมอ การเลือกเขาเข้าร่วมทีม…ไม่ใช่การตัดสินใจที่มาจากอารมณ์, แต่มันคือการคำนวณความเสี่ยงที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว"


ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ไครอนจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์, ชั่งน้ำหนักระหว่างความกังวลในฐานะผู้ดูแลกับความเชื่อมั่นในตัวของเดมิก็อดที่เขาเพิ่งรู้จักได้ไม่นานแต่กลับแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่เกินวัย


เขาถอนหายใจยาว "เมื่อเธอมั่นใจถึงเพียงนี้...ฉันจะเชื่อในการตัดสินใจของเธอ"


การอนุมัติได้ถูกมอบให้แล้ว


"ไปเถิด" ไครอนกล่าวทิ้งท้าย, หยิบปากกาขึ้นมาอีกครั้ง "ไปเตรียมตัวให้พร้อม...และจำคำสัญญาของเธอไว้ให้ดี”






Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 13,542 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2025-7-18 03:42
โพสต์ 13,542 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-7-18 03:42
โพสต์ 13,542 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-7-18 03:42
โพสต์ 13,542 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2025-7-18 03:42
โพสต์ 13,542 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2025-7-18 03:42
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-19 19:31:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Juliet เมื่อ 2025-7-19 19:32

profile

บทที่ 4: 

วันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2025
บ้านใหญ่, ค่ายฮาล์ฟบลัด


    ท่ามกลางลมสายอ่อนของยามบ่ายและกลิ่นไอดินที่อวลอยู่ในอากาศ เสียงแมลงปีกแข็งแว่วเบาเป็นระลอก ขณะที่ จูเลียต โอฟีเลีย เดินตามรอยฝีเท้าของม้า… หรืออาจจะไม่ใช่เพียงแค่ “ม้า”


     ชายหนุ่มผู้มีร่างสูง ใหญ่ และตรงบริเวณครึ่งล่างเป็นอาชา แขนยาวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อผ่อนคลายอยู่ในเสื้อกั๊กผ้าฝ้ายสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าคมคายแต่เปี่ยมด้วยเมตตา เขาคือ ไครอน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมแห่งค่ายฮาล์ฟบลัด และเป็นผู้อบรมฮีโร่มานับรุ่น


    ภายในบริเวณห้องทำงานของเขาตั้งอยู่ตรงบริเวณชั้นล่างของ บ้านใหญ่ ซึ่งเป็นอาคารไม้ขนาดสองชั้นที่มีระเบียงทอดยาวรอบตัว เหมือนบ้านพักฤดูร้อนในนิทานอันแสนอบอุ่น เรียบง่าย และเปี่ยมด้วยกลิ่นอายของเวทมนตร์



บทสนทนา ณ ห้องทำงาน ของ คุณไครอน

กลางแสงรุ่งอรุณภายนอกคฤหาสน์...

“คืนนี้มันไม่ง่ายเลย” แอลเฟรดพูดเสียงต่ำ...

คลาร่ากระซิบด้วยความกังวล...

รถดำคันหนึ่งเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์...


สนามบินลองไอแลนต์ - จุดเริ่มต้นใหม่


    ไครอนเชื้อเชิญให้จูเลียตนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตรงข้ามเขา โต๊ะทำงานของเขาเต็มไปด้วยเอกสารแผนที่ค่าย และหินประหลาดที่ดูเหมือนมีประกายแสงจากภายใน


    ไครอน : “จูเลียต โอฟีเลีย… เด็กสาวผู้รอดชีวิตจากกรงเล็บของอสุรกาย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกที่เธอมาถึงที่นี่”


(เขาเริ่มทำการส่งรอยยิ้มบาง ๆ พร้อม กับ ทำการหยิบเสื้อยืดสีส้มสดออกมาจากตรงบริเวณลิ้นชักไม้ใบหนึ่ง)


“นี่คือสัญลักษณ์แห่งการเป็นส่วนหนึ่งของเรา เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด”


    จูเลียตรับเสื้อมากอดไว้แนบอก สีของมันเหมือนเปลวเพลิงยามอรุณ อบอุ่นแต่ทรงพลัง


    จูเลียต : “ขอบพระคุณมากค่ะ… มันรู้สึกเหมือน กับว่ามีอะไรบางอย่างในตัว ของ ฉัน... ที่กำลังถูกปลุกให้เริ่มตื่นขึ้นมาตลอดเวลาเลยค่ะ”


    ไครอน : “บางทีอาจจะเป็นสายเลือด… ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในตัวของเธอ หรือบางทีอาจเป็นหัวใจที่กล้าเผชิญกับความจริง ถ้าหากว่าในตอนนี้ตัว ของ เธอพร้อมแล้วแต่ฉันอยาจะบอกให้เธอรู้สึกมั่นใจ ได้เลยว่าค่ายของเราก็พร้อมเช่นกันที่จะยื่นมือรับเธอไว้”


ระหว่างทางสู่กระท่อมหมายเลขที่ 11 เฮอร์มีส


    หลังจากที่คุณไครอน ได้ทำการเดินก้าวออกจากบ้านใหญ่ จูเลียตก็ค่อยๆ ก้าวเรียวขาบางมาเดินอยู่เคียงข้างเขา ท่ามกลางเสียงฝึกซ้อมดาบของเดมิก็อด บ้างก็กำลังปีนไป่กำแพงฝึก บ้างก็กำลังทำการฝึกเหวี่ยงหอกในสนามแข่ง


    ต้นสน ต้นเมเปิล และต้นโอ๊กเรียงรายสองฝั่งทาง เสียงใบไม้เสียดสีไปมากลายเป็นบทเพลงต้อนรับเด็กสาวผู้มาเยือน


    ไครอน (ทำการเอ่ยขึ้นเบา ๆ) : “ที่นี่ เราไม่ใช่แค่ค่ายฝึก แต่คือบ้านของคนที่โลกภายนอกไม่เข้าใจ โลกที่ทำให้พวกเธอรู้สึกแตกต่าง… ทั้งที่แท้จริง เธอคือสิ่งพิเศษที่สุดเท่าที่โลกเคยมี”


     จูเลียต (ค่อยๆ เริ่มเงยหน้าสวยขึ้นไปทำการมองแสงแดดลอดผ่านเรือนยอดไม้) :“มันแปลกมากๆเลยนะคะ … ฉันแถบจะไม่รู้จักใคร และก็ไม่รู้ว่าเทพองค์ไหนเป็นพ่อของฉัน แต่ฉันกลับไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเลยแม้แต่นิด”


     ไครอน : “เพราะว่าสถานที่แห่งนี่… ความโดดเดี่ยวเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการได้พบ ‘ครอบครัว’ ที่แท้จริง”




    เมื่อคุณไครอนเอ่ยคำพูดจบลง ในตอนนี้ทั้งคู่ก็เดินมาหยุดยืนอยู่ที่ตรงบริเวณหน้ากระท่อมไม้หลังหนึ่ง มีป้ายชื่อชัดเจนว่า “กระท่อมหมายเลขที่ 11 เฮอร์มีส”กระท่อมหลังนี้เป็นกระท่อมที่ทำมาจาก ไม้แกะสลักทั้งหลัง และยังมีสัญลักษณ์เป็นรูปคฑาพร้อมปีกและงูคดเคี้ยวอยู่อีกด้วย


หน้า บริเวณกระท่อมหมายเลขที่ 11 เฮอร์มีส


    ทันใดนั้นเองก็เริ่มมีเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของเด็กวัยใกล้เคียงกันดังเล็ดลอดออกมาจากภายในกลายเป็นบรรยากาศที่ทั้งอบอุ่นและวุ่นวาย เสียงเตะลูกบอล เสียงทอยลูกเต๋า เสียงกีตาร์เบา ๆ


ไครอน : “กระท่อมแห่งนี้เป็น ที่อยู่อาศัย ของ บุตร และ บุตรี แห่งเทพเฮอร์มีส และคนที่ยังไม่ถูกรับรองทางสายเลือด ซึ่งท่าน ก็คือ เทพแห่งการเดินทางและโชคชะตา ไม่ว่าใครจะมาจากที่ใด ที่นี่ก็คือ ประตูด่านแรกของการเป็นเดมิก็อดอย่างแท้จริง”


 จูเลียต (ค่อยๆ เริ่มทำการเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะทำการพยักหน้ารับทราบเบาๆ) :


     ไครอน (เริ่มทำการส่งรอยยิ้ม ให้ กับ เด็กหญิงตัวน้อยๆ อีกครั้งหนึ่ง) : “และวันหนึ่ง เธอจะเป็นคนต้อนรับเดมิก็อดรุ่นถัดไปด้วยตัว ของ เธอเองเช่นเดียวกัน”


หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการวางมือลงตรงบริเวณบนไหล่ ของ เธอเบา ๆ แล้วค่อยๆ เดินผละจากไป อย่างช้าๆ ก่อนจะปล่อยให้เด็กสาวยืนอยู่หน้าประตูไม้ ซึ่งภายในบริเวณด้านใน ของ กระท่อมหมายเลขที่ 11 เฮอร์มีส คือความชุลมุนวุ่นวายที่กำลังรอคอยที่จะทำการต้อนรับสมาชิกใหม่อีกคน ผู้ซึ่งโชคชะตายังมิได้เปิดเผย


    เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างจูเลียต ค่อยๆ ทำการเริ่มต้นสูดหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง… แล้ว หลังจากนั้นเธอก็เริ่มค่อยๆ ทำการเอื้อมมือทั้งสองข้างไปทำการผลักประตูไม้เปิดออกกว้างอย่างเบา ๆ พร้อม กับเอ่ยคำพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสดใสว่า


“ฉันจะเริ่มต้นจากที่นี่…”


ได้รับเสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด จำนวน 1 ตัว





bottom-image

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16988 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-7-19 19:31
โพสต์ 16,988 ไบต์และได้รับ +5 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-7-19 19:31
โพสต์ 16,988 ไบต์และได้รับ +5 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-19 19:31
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โพสต์ 2025-7-24 00:00:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Juliet เมื่อ 2025-7-24 09:41

Juliet Ophelia


บทที่ 14 คำอธิบายที่ชัดเจนที่สุด จากปาก ของ ไครอน


วันที่: 20 กรกฏาคม 2025


สถานที่: บ้านใหญ่, ห้องทำงาน ของ คุณไครอน


      เสียงฝีเท้าเล็กๆ จากรองเท้าผ้าใบ ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ จูเลียต ในตอนนี้และเวลานี้มันกำลังบดเบียดไป กับ หิมะที่กำลังตกลงมาอยู่ปรอยๆ จนทำให้ผิวดินในตอนนี้ เริ่มที่จะมีความนุ่มชื่นมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนอาการ ของ จูเลียต ในตอนนี้ ก็ไม่ต่าง อะไร กับ ลมพายุที่กำลังพัดหมุนอย่างบ้าคลั่ง ในตอนนี้เด็กหญิงสาวตัวน้อยๆ กำลังวิ่งฝ่าผ่านแนว ของ ต้นสนที่สูงเสียดฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ราว กับ จรวดเลยก็ว่าได้

     ในตอนนี้ และ เวลานี้ สีผม ของ เธอเริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาวราว กับ เกล็ดหิมะ และ มันกำลังค่อยๆ เริ่มทำการสะบัดขึ้นลง ตามจังหวะการวิ่ง ของ เด็กสาว และในตอนนี้เสื้อ ของ ค่ายฮาล์ฟบลัด และ กางเกงยีนต์ที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ ก็กำลังเปียกปอน ไปด้วยละอองเย็น จากเกล็ด ของ หิมะ ใบหน้า ของ เด็กหญิงตัวน้อยในตอนนี้ มีสีซีดลงไปเล็กน้อย แต่หัวใจ ของ หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดขึ้นว่า

    "ไครอน เขาเป็นคนเดียวที่น่าจะรู้เรื่องราวเหล่านี้ ได้เป็นอย่างดี และ คงเป็นเขาเพียงคนเดียวที่สามารถอธิบายเรื่องราวทุกอย่าง ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ให้เราเข้าใจได้" พอหลังจากจบคำพูดลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยๆ จูเลียตก็ได้ทำการวิ่งมาถึงยังตรงบริเวณจุดหมายปลายทางต่อไป ของ เธอ ซึ่งก็คือ บ้านใหญ่ สถานที่แห่งนี้เป็นอาคารที่ก่อสร้างจากไม้โอ๊กเก่าแก่ที่ตั้งตระหง่าท่ามกลางลานโล่ง

    แต่ทว่าในเวลานี้เกิดปรากฏการณ์ที่มีเสียง ของฝนหิมะจำนวนมากมายมหาศาล กำลังค่อยๆ เริ่มทำการตกลงมากระทบกับเสียงของหลังคากระเบื้อง อย่างไม่หยุดหย่อนและพอฟังไปฟังมาก็ดูเหมือน กับเสียงของนาฬิกาทรายที่กำลังเริ่มส่งสัญญาณการนับถอยหลังและนำพาเธอไปสู่ชะตากรรมที่จะดี หรือ ไม่ดี เธอเองก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ในตอนนี้

   และในที่สุดเด็กสาวอย่างจูเลียต ก็ได้ทำการวิ่งเข้ามาจนถึงตรงบริเวณห้องทำงาน ของ คุณไครอนเป็นที่เรียบร้อย สถานที่แห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและยังคงมีกลิ่นกระดาษหนังสือโบราณคละคลุ้งอยู่เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา

    คุณไครอนเขา ผู้เป็นเสมือนทั้งครู นักปราชญ์ และผู้เฝ้ามองท้องฟ้าในช่วงเวลายามค่ำคืน เขาเองก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานไม่มีโปรแกรมที่จะเดินทางออกไปไหน เหมือน กับ ว่าเขาเองก็กำลังเฝ้ารอคอยอะไรบางอย่างอยู่ อย่างไร อย่างงั้น  โดยที่ตัวของเขาเองก็ไม่อาจจะกำหนด หรือเรียนรู้เรื่องราวจากโชคชะตา หรือ มีนิมิตรที่สามารถจะหยั่งรู้ได้ว่า ในวันนี้เบื้องบนจะนำพาจูเลียตให้มีโอกาสเดินทางมาหาและพูดคุยสนทนา กับ เขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    หลังจากที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างจูเลียตได้ค่อยๆ เริ่มทำการเอื้อมมือ ไปทำการผลักประตูที่ทำมาจากไม้โอ๊กบานใหญ่นั้น ให้เปิดออกกว้าง หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก เสียง ของ บานพับประตูก็ดังขึ้นมาเบาๆ ภายในห้องทำงาน ของ คุณไครอนในตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่น ของ หญ้าแห้ง และกลิ่น ของชาดำร้อนๆ ลอยคละคลุ้งกันอยู่อย่างตลบอบอวล ในขณะที่ร่างสูง ของคุณไครอน ซึ่งเขาเป็นครึ่งคน ครึ่งม้า กำลังทำการยืนอยู่ตรงบริเวณใกล้ๆ กับ หน้าต่าง หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการหันมาหา เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างจูเลียตช้าๆ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเงียบขรึม และ ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นตระหนกตกใจเลยแม้แต่นิด เพราะว่าเขาเองเคยเจอและผ่านสถานะการณ์ต่างๆ เหล่านี้ มาจากเด็กคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ภายในค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้มานับครั้งไม่ถ้วน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดขึ้นมาในทันทีว่า

    “จูเลียต … ฉันรู้ว่าสักวันหนึ่งเธอก็จะเป็นเด็กอีกหนึ่งคนที่จะเดินทางมาหาฉันเพราะเรื่อง”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูค่อนข้างทุ้มเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของคุณไครอนจะเต็มไปด้วยความทุ้มสักเพียงใดก็ตามแต่สำหรับเด็กหญิงอย่างจูเลียตแล้วนั้น กลับมีความคิดเห็นว่าน้ำเสียง ของ คุณไครอนในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและอำนาจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูด กับ เด็กน้อยอย่างจูเลียตต่อในทันทีว่า

    “ตราสัญลักษณ์นั้น…  มันได้ทำการปรากฏขึ้นมาแล้วสินะ หลังจากที่คำพูด ของ คุณไครอนได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก เด็กสาวอย่างจูเลียตก็ค่อยๆ เริ่มทำการพยักใบหน้าสวยหวานขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตา ของ เธอในตอนนี้ และเวลานี้เต็มไปด้วยความรู้สึกสั่นไหว ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดขึ้นมาในทันทีว่า

   “มันเกิดขึ้นมาใน… ตอนที่ฉันกำลังจะทำการก้าวเรียวเท้าบางเดินทางมาถึงยังตรงบริเวณหน้าบ้าน ของ กระท่อมหมายเลขที่ 11 เฮอร์มีส … และแล้วก็มีหิมะ... และก็ยังมีลม... แล้วมันก็หลังจากนั้น... ก็เริ่มเกิดมีสัญลักษณ์บางอย่างขึ้นมาทำการปรากฏอยู่บนหัว ของ ฉันค่ะคุณไครอน…”

     ในตอนนี้และเวลานี้เธอแทบจะพูดออกมาจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่ทว่าคุณไครอนกลับไม่ได้ต้องการฟังคำอธิบายจากปาก ของ เด็กน้อยอย่างจูเลียตไปด้วยถ้อยคำที่มากกว่านั้น สิ่งที่เขาเลือกที่จะทำก็แค่เพียงค่อยๆ ทำการเดินเข้ามาใกล้เด็กหญิงอย่างจูเลียต แล้วบอกให้เธอค่อยๆ เริ่มทำการก้มศีรษะลงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็เริ่มค่อยๆ ทำการส่องดูตราสัญลักษณ์ที่ในตอนนี้ และ เวลานี้มันก็ยังคงลอย และทำการส่องแสงเรืองรองอยู่ตรงบริเวณเหนือศีรษะของเธออยู่

    หลังจากนั้นเส้นขอบตาของเขา ก็เริ่มค่อยๆ ที่จะมีอาการกระตุกขึ้นมาเล็กๆ น้อย ๆ แต่ไม่ใช่ด้วยความกลัว แต่ด้วยความ “ยอมรับ” ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูด กับ เด็กหญิงสาว อย่างจูเลียตขึ้นมาในทันทีว่า 

“ จูเลียต ฟังฉันพูด และ อธิบายให้ดีๆ นะ เธอ… คือทายาท หรือ ธิดาที่แท้จริงของเทพบอเรอัสจ้าวแห่งลมเหนือแห่งแดนธาราน้ำแข็ง”

 พอหลังจากที่ไครอน ได้ทำการเอ่ยคำพูดจบลงในตอนแรกเสร็จเรียบร้อย เขาก็เริ่มที่จะเว้นวรรคคำพูดอยู่เป็นระยะเวลาสักพักหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการกล่าวคำพูดต่อไปอย่างช้า ๆ ว่า

“นั่นคือพลังดิบจากห้วงอากาศที่ เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ และ จูเลียตหนูไม่มีทางที่จะฝืน หรือควบคุมมันได้ เข้าใจไหม" หลังจากที่คำพูด ของ คุณไครอนจบลง เด็กหญิงอย่างจูเลียตก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูด กับ คุณไครอนต่อในทันทีว่า

“หนูเข้าใจ ในสิ่งที่คุณไครอน ได้ทำการอธิบายให้หนูฟังแล้วค่ะ แต่ว่าหลังจากจากนี้ไปหนูต้องทำยังไงต่อหรอคะ" พอหลังจากที่คำพูด ของเด็กน้อยได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นคุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดว่า 

    "ตามฉันมาก็พอ ฉันจะเป็นคนพาเธอไปเอง" หลังจากที่จบคำพูด ของ คุณไครอน ลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก เขาก็ค่อยๆ เดินนำหน้าเด็กหญิงอย่างจูเลียต และ ก้าวเดินออกจากบริเวณห้องทำงาน ของ ตัวเองไป โดยมีเด็กหญิงอย่างจูเลียตก้าวเดินตามหลังอิกมาติดๆ 


❄ บุตรแห่งบอเรอัส พรายหิมะส่องประกาย ❄ ลมเหนือไม่เคยหลับใหล ❄ จนกว่าโชคชะตาจะนำทาง ❄

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 23594 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-24 00:00
โพสต์ 23,594 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-7-24 00:00
โพสต์ 23,594 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-7-24 00:00
โพสต์ 23,594 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-24 00:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โพสต์ 2025-7-26 14:08:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
19-07-2025 13.50 AM

I want to be your everything little darling




การสนทนากับคริสโตเฟอร์ทิ้งความรู้สึกที่ทั้งหนักอึ้งและปลอดโปร่งไว้ในใจ การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว แต่ภารกิจที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น สองเท้าของไนมีเรียพาร่างที่อ่อนล้าแต่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น เดินตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ ที่ซึ่งภูมิปัญญาและความทรงจำนับพันปีสถิตอยู่

ไครอนรออยู่แล้วที่ระเบียงหน้าบ้าน เขากำลังนั่งเล่นไพ่พิน็อกเคิลอยู่กับคุณดี หรือเทพไดโอนิซุส ที่ดูเบื่อหน่ายโลกอย่างสุดซึ้งตามปกติ ข้างๆ กันนั้นคือเรเชล เอลิซาเบธ แดร์ เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้โยกด้วยสีหน้าที่ยังคงซีดเซียวจากเหตุการณ์เมื่อสองคืนก่อน

เมื่อเห็นร่างอรชรเดินเข้ามา เซนทอร์ชราก็วางไพ่ในมือลงแล้วหันมาด้วยแววตาที่อ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความกังวล “มาแล้วรึ ไนมีเรีย” เขากล่าว “ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากเรเชลแล้ว ช่างเป็นคำพยากรณ์ที่น่ากังวลใจเสียจริงๆ"

ธิดาแห่งเฮคาทีทรุดตัวลงนั่งบนขั้นบันไดอย่างหมดแรง หลังจากยกปอนโซให้ไครอนเป้นของฝากจากเท็กซัสก็เล่าเรื่องราวความฝันอันน่าสะพรึงกลัวที่เห็นภาพของสตรีนิรนามผู้เป็นดั่งรัตติกาลกำลังถูกดูดกลืนพลังไปให้เขาฟังอีกครั้ง

“เทพีนิกซ์” ไครอนพึมพำหลังจากที่ฟังจบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความครุ่นคิด “ดูเหมือนว่าพลังของพระนางกำลังอ่อนแอลงอย่างรุนแรง การที่ราตรีหายไปจากโลกย่อมส่งผลกระทบที่มิอาจคาดเดาได้ และการตื่นขึ้นของสี่อัศวินแห่งกาลวิบัติก็คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุด”

บรรยากาศพลันหนักอึ้งลงด้วยความหมายของคำพยากรณ์นั้น ทุกคนเงียบงันไปกับภาพของโลกที่กำลังจะเผชิญกับหายนะ

ทันใดนั้นเอง เรเชลที่นั่งเงียบมาตลอดก็พลันแข็งทื่อไปอีกครั้ง! ดวงตาสีเขียวของหล่อนลุกโชนขึ้นด้วยแสงสว่างวาบราวกับมีใครมาจุดไฟอยู่ข้างใน หมอกสีเขียวจางๆ ระลอกใหม่เริ่มลอยออกมาจากริมฝีปากที่อ้าค้าง

“ไม่น่า.. อย่าบอกนะว่าเอาอีกแล้ว!” ไนท์อุทานเบาๆ

แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป มันไม่ใช่การสิงสู่ที่รุนแรง แต่เป็นการเปล่งเสียงที่ต่อเนื่องและชัดเจนราวกับกำลังอ่านบทกวีที่ถูกซ่อนไว้ในกระแสธารแห่งกาลเวลา

“ราตรีสูญสิ้น สุริยันเรืองรอง”
“เงาจันทร์ไร้ร่องรอย ดาราลาจากห้อง”
“มารดรดำมืด คืนชีพจากพันธนาการ”
“สี่ม้าเพลิงผลาญ เตรียมพิฆาตสถาน”


เสียงที่ก้องกังวานนั้นดังพอที่จะทำให้คุณดีต้องเงยหน้าขึ้นจากเกมไพ่ด้วยความรำคาญระคนสนใจ และมันก็ดังพอที่จะไปถึงหูของใครบางคนที่กำลังเดินผ่านมาพอดี

โห นั่นมันไม่ใช่คำพยากรณ์ระดับไปเก็บสตรอว์เบอร์รีแล้วนะ” เสียงที่ร่าเริงและคุ้นเคยดังขึ้นจากทางเดิน ลีโอ วัลเดซ ในชุดช่างที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันเดินเข้ามาพร้อมกับคาลิปโซ แฟนสาวคนสวยผู้มีรอยยิ้มสงบนิ่ง “นี่มันระดับมหากาพย์ชัดๆ!”

แต่ไม่มีใครสนใจคำพูดติดตลกของเขา เพราะเสียงของเทพพยากรณ์ยังคงดำเนินต่อไป บทแล้วบทเล่า ถ้อยคำแล้วถ้อยคำ ถักทอเรื่องราวการเดินทางอันยาวไกลและเต็มไปด้วยภยันตราย ผ่านดินแดนที่ถูกลืมเลือนและยุคสมัยที่สาบสูญ

“สู่แดนหมีขาว ผู้ผูกมัดด้วยใจเย็น ใต้ฐานเหล็กกล้า สี่พิทักษ์เฝ้ารอ”
“ณ แดนผู้ดี อัศวินห้าวหาญ ใต้ซุ้มประตูชัย รุ่งโรจน์และล่มจม”
“ในถ้ำมังกร เมอร์ลินเปิดทางใจ ใต้เงาหินเรียงราย บุตรมืดหมายครอง”
“คู่ชะตาจักมา ผมยาวสลวยงาม”

เมื่อถ้อยคำสุดท้ายจบลง เรเชลก็อ่อนยวบลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ลีโอกับคาลิปโซก็เข้ามาช่วยประคองไว้ได้ทัน

“โอเค” บุตรแห่งเฮเฟตัสกล่าวหลังจากที่ช่วยพยุงเรเชลให้นั่งลงอย่างเรียบร้อย “ดูเหมือนว่ารุ่นน้องคนใหม่ของพวกเราจะเจองานช้างเข้าให้แล้ว และฟังจากปริมาณการเดินทางข้ามทวีปในคำพยากรณ์นั่นแล้ว พวกเธอคงต้องการยานพาหนะที่ดีกว่ารถบัสของอาร์กัสแน่ๆ” เขายิ้มกว้าง “ถือซะว่าฉันกับคาลิปโซขออาสาเป็นสปอนเซอร์การเดินทางครั้งนี้ให้ก็แล้วกัน”

ไครอนมองลีโอด้วยความขอบคุณ ก่อนจะหันกลับมาที่ธิดาแห่งเฮคาที ดวงตาของเขาทอประกายแห่งความจริงจังสูงสุด “ฟังให้ดีนะ ไนมีเรีย คำพยากรณ์บทนี้คือแผนที่ คือเข็มทิศ และคือคำเตือนของเจ้า”

เซนทอร์ชราเริ่มวิเคราะห์บทกวีแห่งโชคชะตานั้นทีละท่อนด้วยสติปัญญาที่สั่งสมมานับพันปี

“ส่วนแรกนั้นชัดเจน” เขากล่าว “มันคือภาพรวมของสถานการณ์ปัจจุบัน พลังของเทพีนิกซ์กำลังถูกจองจำ และอัศวินแห่งกาลวิบัติก็กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมา”

“‘สู่แดนหมีขาว ผู้ผูกมัดด้วยใจเย็น’ ข้าเชื่อว่ามันหมายถึงนครยานยนต์ ดินแดนของเหล่าเครื่องจักรกลทางตอนเหนือ และ ‘สี่พิทักษ์เฝ้ารอ’ ก็คงหนีไม่พ้นโกเลมผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่เฝ้าวิหารใต้ดินอยู่ที่นั่น นั่นคือจุดเริ่มต้นของเจ้า”

“จากนั้นการเดินทางจะนำเจ้า ‘สู่ป่ามรกตไพร’ และ ‘บันไดศิลาแกร่ง’ ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของปิระมิดอุชมัลในป่าลึกของเม็กซิโก”

“‘ณ แดนผู้ดี อัศวินห้าวหาญ’ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหมายถึงเกาะอังกฤษและการหลงยุคกลับไปสู่คาเมล็อต ส่วน ‘ใต้ซุ้มประตูชัย รุ่งโรจน์และล่มจม’ น่าจะหมายถึงการต่อสู้ครั้งใหญ่ในเมืองหลวงของอาณาจักรลีโอเนส”

“‘ในถ้ำมังกร เมอร์ลินเปิดทางใจ’ ส่วนนี้น่าสนใจยิ่งนัก มันอาจไม่ได้หมายถึงถ้ำมังกรจริงๆ แต่อาจเป็นสถานที่ลี้ลับที่เมอร์ลิน บุตรอีกคนหนึ่งของเฮคาที จะนำทางเจ้าไป และที่นั่นเองที่เจ้าจะได้เผชิญหน้ากับ ‘บุตรมืด’ แร็กนาร์ เมสัน ผู้หมายจะครอบครองพลังของเทพีนิกซ์ที่สโตนเฮนจ์”

“‘เหนือยักษ์น้ำแข็ง’ และ ‘เงามายาแตกสลาย’ คือบททดสอบสุดท้ายในการกอบกู้แก่นพลังของนิกซ์กลับคืนมา แม้จะสำเร็จ แต่ ‘ราตรีเพียงชั่วครู่’ ก็บอกเป็นนัยว่าภารกิจของเจ้ายังไม่จบสิ้น”

“และส่วนสุดท้าย” ไครอนหยุดไปชั่วครู่ เขามองลึกเข้ามาในดวงตาของไนมีเรีย “มันคือบทสรุปและจุดเริ่มต้นใหม่ ‘ดวงใจราตรี คืนสู่ความปลอดภัย’ คือการที่ภูตนิกซ์น้อยจะกลับคืนสู่สภาพเทพี แต่คำเตือนที่ว่า ‘การเดินทางเพิ่งเริ่ม ชะตาแขวนบนคมดาบ’ หมายความว่าเจ้ายังต้องปกป้องนางต่อไป ‘สายเลือดเฮคาที จงใช้เวทมนตร์’ คือคำเตือนสำหรับเจ้าโดยเฉพาะ และท้ายที่สุด ‘คู่ชะตาจักมา ผมยาวสลวยงาม’ ปริศนาชิ้นนี้มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะค้นพบคำตอบได้”

สิ้นคำวิเคราะห์อันยาวนาน บรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง มันไม่ใช่ความเงียบแห่งความกลัว แต่เป็นความเงียบที่หนักอึ้งไปด้วยน้ำหนักของโชคชะตาที่ถูกหยิบยื่นมาให้ ไนมีเรียรินกาแฟเติมให้ทุกคนอย่างหนักใจ

"จบกัน ทีนี้ทุกคนในค่ายก็รู้สเปคฉันหมดน่ะสิ" ธิดาบ้านเฮคาทีถอนหายใจเฮือกใหญ่

สงสัยจะเลี่ยงไม่ได้การเดินทางที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของไนมีเรีย ครั้งแรก ก็หวังว่ามันจะไม่ใช่หนสุดท้ายล่ะนะ

******

คำพยากรณ์รัตติกาลที่สาบสูญ
ลีโอ วัลเดช และ คาลิปโซ่ อาสาเข้าร่วมภารกิจเดินทาง

[NPC-58] ไครอน
ให้ปอนโซ ของฝากจากเท็กซัส
+5 ความสนิทสนมการสนทนา

[NPC-23] ลีโอ วัลเดซ, [NPC-44] คาลิปโซ่, [NPC-31] เรเชล อลิซาเบธ แดร์
เลี้ยงกาแฟทั้งสามระหว่างปรึกษา
+5 ความสนิทสนมการสนทนาลึกซึ้งทั้งสาม

@God 

i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-58] ไครอน เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-7-26 14:45
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-44] คาลิปโซ่ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-7-26 14:44
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-23] ลีโอ วัลเดซ เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-7-26 14:43
โพสต์ 24031 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-26 14:08
โพสต์ 24,031 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก ธนู  โพสต์ 2025-7-26 14:08
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-7-28 22:44:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nymeria เมื่อ 2025-7-28 23:02

23-07-2025 12.00 PM

I want to be your everything little darling



ความคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์อันเลือดเย็นและแยบยลยังคงวนเวียนอยู่ในหัวราวกับบทเพลงที่ติดหูไม่ยอมจางหาย บทเรียนอสุรกายศึกษาในคาบเช้าได้ทิ้งเมล็ดพันธุ์แห่งความรู้เชิงปฏิบัติที่ประเมินค่ามิได้ไว้ในใจ แต่มันก็เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกที่รออยู่เบื้องนอกกำแพงค่าย

สองเท้ากำลังจะก้าวเดินไปยังโรงอาหารเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนเข้าคลาสช่วงบ่าย แต่ยังไม่ทันจะได้ตัดสินใจว่าจะกินอะไรดี เสียงที่เต็มไปด้วยพลังงานอันล้นเหลือก็ดังขึ้นจากด้านหลังเสียก่อน

“ไนท์! ยัยแม่มดน้อย! รอก่อน!”

ลีโอ วัลเดซ วิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาด้วยรอยยิ้มที่กว้างจนแทบจะถึงใบหู ข้างๆ เขาคือคาลิปโซที่เดินตามมาอย่างสง่างามและสงบนิ่ง รอยยิ้มของหล่อนไม่ได้สดใสเท่าของแฟนหนุ่ม แต่กลับอบอุ่นและเปี่ยมด้วยความเข้าใจราวกับเป็นผืนดินที่คอยรองรับพายุเฮอริเคน

“เพิ่งจะคิดอยู่เลยว่าเธอจะไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน” บุตรแห่งเฮเฟตัสกล่าวอย่างไม่ทันได้หายใจ “ไครอนอยากพบพวกเราด่วนเลย ไปที่บ้านหลังใหญ่กัน”

“ด่วนเรื่องอะไรคะ” สุภาพสตรีลึกลับถามกลับ พลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ก็เรื่องแผนการเดินทางน่ะสิ! เรื่องกอบกู้iรัตติกาลไง! ต้องรีบวางแผนก่อนที่สี่ม้าเพลิงนั่นจะไปเหยียบแมนฮัตตันเข้าจริงๆ นะ!”

คำพูดนั้นทำให้ทุกคนต้องหันไปที่บ้านหลังใหญ่โดยพร้อมเพรียงกัน มันคือการเริ่มต้นที่รวดเร็วกว่าที่คิดไว้

ภายในห้องทำงานของไครอนที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือโบราณ, แผนที่เก่าแก่, และอาวุธที่ผ่านการใช้งานมานับศตวรรษ บรรยากาศกลับจริงจังและหนักอึ้งอย่างไม่น่าเชื่อ เซนทอร์ชรากำลังยืนก้มตัวมองแผนที่ขนาดใหญ่ของอเมริกาเหนือที่กางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความครุ่นคิด

“ขอบใจที่มากันนะ” เขากล่าวโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น “เวลาของเรามีจำกัด เราต้องเริ่มวางแผนกันตั้งแต่ตอนนี้”

“จากคำพยากรณ์ที่ได้มา จุดหมายแรกของพวกเจ้าคือ ‘นครยานยนต์’ หรือดีทรอยต์” ไครอนชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่ “แต่การจะให้เฟสตัสบินตรงจากที่นี่ไปเลยอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก มันเสี่ยงต่อการถูกตรวจจับเกินไป”

“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” ลีโอเสริมขึ้น “เฟสตัสต้องการการปรับจูนอีกนิดหน่อย และการบินระยะไกลขนาดนั้นควรจะมีจุดแวะพักเพื่อตรวจเช็คระบบ”

“ถูกต้อง” ไครอนเห็นด้วย “ข้าแนะนำให้พวกเจ้ามุ่งหน้าไปที่นิวยอร์กก่อน ใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่โลกของมนุษย์ จากนั้นค่อยเดินทางต่อไปยังดีทรอยต์อย่างเงียบเชียบที่สุด”

พวกเขาปรึกษาหารือกันถึงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ทั้งเส้นทางการบิน, แหล่งพลังงานสำหรับมังกรจักรกล, และเสบียงที่จำเป็น คาลิปโซให้คำแนะนำเกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่สามารถหาได้ตามรายทางเพื่อใช้เป็นยาฉุกเฉิน ขณะที่ลีโอสาธยายถึงระบบพรางตัวรุ่นใหม่ที่เขาเพิ่งจะติดตั้งให้กับเฟสตัสอย่างออกรส

“นี่คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่และอันตรายยิ่งนัก” ไครอนกล่าวสรุปด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมในตอนท้าย “พวกเจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อมเผชิญหน้ากับอันตรายรอบด้าน ทั้งจากธรรมชาติ เวทมนตร์ และศัตรูผู้ทรงพลัง การเดินทางครั้งนี้จะเป็นบททดสอบที่แท้จริงของความกล้าหาญ, สติปัญญา, และมิตรภาพ”

เขาเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานออกมา หยิบถุงผ้าใบเล็กๆ สองสามถุงยื่นให้ “ในนี้มีแอมโบรเซียกับเนคทาร์ที่พอจะหาได้ในคลังเสบียงของค่าย อย่างละสี่ชิ้น ใช้มันอย่างระมัดระวังที่สุด และนี่คือเงินดอลลาร์สามพันเหรียญสำหรับใช้จ่ายในยามจำเป็น หรืออาจจะต้องใช้เติม ‘น้ำมัน’ ให้กับเฟสตัส”

“แหม ใจดีจังนะคะคุณปู่ม้า” เสียงของแคลร์ดังขึ้นในหัวอย่างไม่ค่อยจะเชื่อถือนัก “ให้ทั้งยา ทั้งเงิน เหมือนกำลังส่งหลานไปตายยังไงก็ไม่รู้”

เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป เจ้าของนัยน์ตาลึกลับก็เอ่ยขึ้น

“ก่อนจะไป รุ่นพี่ทั้งสองสนใจดื่มกาแฟเรียกพลังก่อนไหมคะ ถือว่าเป็นค่าเสียเวลาของวันนี้”

ยังไม่ทันที่ลีโอจะได้ตอบอะไร กาแฟดำร้อนกรุ่นสองแก้วก็ปรากฏขึ้นบนโต๊ะอย่างเงียบเชียบจากแหวนเก็บของมันคือน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ และเป็นวิธีสร้างทีมเวิร์คในแบบฉบับของไนท์เอง

“เยี่ยมไปเลย!” ลีโออุทานอย่างดีใจ คว้าแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอย่างรวดเร็ว

ร่างบางเพียงแค่ยิ้มรับบางๆ ก่อนจะขอตัวแยกออกมาเพื่อเตรียมตัวสำหรับคลาสเรียนในช่วงบ่ายต่อไป ภาระบนบ่ายิ่งหนักอึ้งขึ้นกว่าเดิม แต่ในใจกลับรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด อย่างน้อยที่สุด การเดินทางครั้งนี้ก็ไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวแล้ว

*****

รับการสนับสนุนจากไครอนในภารกิจเดินทาง : แอมโบรเซียกับเนคทาร์ที่พอเหลือให้ทั้งสองอย่างละ 4 ชิ้นและเงิน 3000 ดอลลาร์

[NPC-23] ลีโอ วัลเดซ, [NPC-44] คาลิปโซ่, [NPC-58] ไครอน
เลี้ยงกาแฟทั้งสามระหว่างปรึกษา
+5 ความสนิทสนมการสนทนาลึกซึ้งทั้งสาม

@God 
i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-44] คาลิปโซ่ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-7-29 01:22
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-23] ลีโอ วัลเดซ เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-7-29 01:22
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-58] ไครอน เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-7-29 01:21
God
(เฉพาะเงินอย่างเดียว แอมโปรเชียเก็บไว้ถ้าเหลือหลังจบภารกิจ)  โพสต์ 2025-7-29 01:21
God
เมื่อรับงบการเดินทาง = ตัวละครสาบานกับแม่น้ำสติ๊กซ์แล้ว  โพสต์ 2025-7-29 01:19
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-7-30 21:35:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jemena เมื่อ 2025-7-30 22:22

Jimena Fernández
Jimena Fernández

📅 วันที่: 30 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568

🌓 หัวข้อ: รายงานตัวต่อไครอน ณ บ้านใหญ่ — การต้อนรับสู่โชคชะตา

📍 สถานที่: บ้านใหญ่ , ห้องทำงาน ของ คุณไครอน

     ภายในบริเวณ “บ้านใหญ่” บรรยากาศในตอนนี้ และ เวลานี้ค่อนข้างเต็มไปด้วยความเงียบสงบและก็ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นของไม้แห้ง พร้อมทั้งมีแสงแดดยามสายกำลังลอดผ่านมาที่ตรงบริเวณหน้าต่างบานกว้าง ทาบทับกับเงา ของ เหลี่ยมของโครงไม้ลงบนพื้นผิวขัดเงาเรียบวับแวววาว ราวกับเวลาหยุดหมุนเพื่อให้สถานที่แห่งนี้ดำรงคงอยู่เหนือกาลเวลาต่อไปตราบนานเท่านาน



        สาวน้อยนามว่าฮิเมนาเธอกำลังค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบางเดินทางตามหลังคุณมาร์ธาไปบนพื้นไม้ที่มีเสียงกรอบแกรบเบา ๆ และในทุก ๆ ย่างก้าวที่เธอกำลังก้าวเดินไปอยู่ก็จะมีเสียงลมหายใจของตัวเธอเองที่ ดังขึ้นมาเบา ๆ แต่แฝงไปด้วยความชัดเจนถึงแม้จะอยู่ในความเงียบสงบของช่วงเวลานั้นก็ตาม




        และแล้วเมื่อสาวน้อยค่อยๆ เริ่มทำการเดินก้าวเรียวขาบางเดินทางเข้ามาจนถึงยังตรงบริเวณประตูไม้สนบานใหญ่ที่ ซึ่งมีป้ายทองเหลืองที่ทำการเขียนสลักแขวนไว้อยู่ตรงบริเวณหน้าห้องว่า “ห้องทำงานของคุณไครอน” หลังจากนั้นหญิงสาวมาร์ธาก็ค่อยๆ เริ่มทำการหันใบหน้ามาทำการยิ้มให้ กับ เธอ แล้วหลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการเอื้อมมือบางข้างหนึ่งขึ้นไปทำการเคาะประตูเป็นจำนวน สองครั้ง จนเกิดเสียงดังขึ้นมาในทีนทีว่า



ก๊อก ก๊อก หลังจากที่สิ้นสุดเสียงของการเคาะประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก คุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มเอ่ยคำพูดออกมาด้วยประโยคที่ ว่า



“เข้ามาได้เลยครับ คุณมาร์ธา” น้ำเสียงของคุณไครอนที่ทำการเอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความรู้สึกนุ่มลึกและอบอุ่นดังขึ้นมาจากบริเวณภายในด้านใน ของ ห้องที่เขากำลังอาศัยอยู่



        หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา บานประตูก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปิดกว้างออกมาอย่างเงียบงัน และเผยให้เห็นห้องทำงานซึ่งชวนให้นึกถึงห้องสมุดของโลกเก่าที่กำลังหลับใหลอยู่ภายในดินแดนเทพนิยาย ม้วนคัมภีร์ บันทึกเก่าๆ และก็ยังมีแผนที่โบราณถูกจัดวางเรียงรายอยู่บนชั้นไม้สลับกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนจากสีน้ำมันของวีรบุรุษหลากหลายยุคสมัยอยู่เต็มห้องทำงานแห่งนี้ไปหมด



        และที่นั่น...หลังโต๊ะไม้สนที่มีรอยขีดขูดของกาลเวลา บุรุษร่างใหญ่ครึ่งมนุษย์ และ อีกครึ่งหนึ่งเป็นม้ากำลังนั่งอยู่ เขาคือ ไครอน เซนทอร์ผู้มีชื่อเสียงยิ่งในตำนานของวีรบุรุษกรีก และเขายังเป็นคุณครูแห่งเฮอคิวลิส อคิลลีส และเพอร์ซี แจ็กสันอีกด้วย



        ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความเมตตา แต่ที่ลึกกว่าในแววตานั้น ยังคงมีร่องรอยของปัญญาที่สั่งสมมายาวนานเกินพันปีแล้ว หลังจากนั้นคุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคที่ว่า



     “มานี่สิ แม่หนูน้อยคนใหม่ของค่ายเรา” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะลุกขึ้น เสียงฝีเท้าม้าค่อยๆ เริ่มกระทบพื้นเบา ๆ อย่างสง่างาม ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูด ต่อมาอีกหนึ่งประโยคว่า



        “ชื่อของเธอคือ...” หลังจากที่จบคำพูด ของ คุณไครอนลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก สาวน้อยก็ค่อยๆ ทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบางเป็นประโยคที่ว่า



     “ฮิเมนา เฟร์นันเดช ค่ะ หรือจะเรียกหนูว่าจีน่าก็ได้” เธอกล่าวอย่างสุภาพ แต่ทว่าแววตา ของ นางก็ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดูหวั่นไหว ถึงแม้ว่าเธอจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น และก็ความตั้งใจเป็นอย่างมากก็ตาม หลังจากที่จบคำพูด ของ สาวน้อยฮิเมนาลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นคุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมา หนึ่งประโยคว่า



“หนูจีน่า...” ไครอนทวนเสียงอย่างแผ่วเบา “ช่างเป็นชื่อเล่นที่สวยและมีพลัง เหมาะกับผู้ที่ชะตาฟ้ากำลังจะเผยแก่โลกใบนี้เป็นอย่างยิ่งนัก”



       หลังจากที่คำพูดของได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการก้าวเดินไปยังบริเวณตู้ใบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ทำการเอื้อมมือข้างหนึ่ง ของเขาขึ้นไปทำการเปิดลิ้นชักไม้สน ออกมาอย่างระมัดระวัง ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะค่อยๆ ทำการหยิบบางสิ่งบางอย่างนำออกมาจากภายในบริเวณลิ้นชักไม้สนนั้นและสิ่งที่เขาได้ทำการหยิบออกมานั้น มันก็คือ เสื้อยืดคอกลมสีส้มเข้มซึ่งปักข้อความตัวใหญ่สีดำว่า Camp Half-Blood นั่นเอง


     ถึงแม้ว่าเสื้อผืนนั้นจะดูแล้วมีความธรรมดา ธรรมดา แต่ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง และเมื่อคุณไครอนส่งเสื้อนั้นให้ กับ สาวน้อยฮิเมนาด้วยมืออันหนักแน่นแต่นุ่มนวล เธอก็รีบเอื้อมมือมาทำการรับไว้ด้วยสองมือที่สั่นเล็กน้อย หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก คุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคที่ว่า



      “เสื้อตัวนี้มันไม่ใช่เพียงเครื่องแบบ...” คุณไครอนกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความทุ้มลึก ก่อนที่เขาจะเริ่มทำการเอ่ยคำพูดพูดต่ออีกหนึ่งประโยคว่า “แต่มันคือสัญลักษณ์ของการเป็นส่วนหนึ่งในตำนานที่ยังไม่ถูกเขียนขึ้น และเธอคือผู้ที่จะเป็นคนเริ่มเขียนตำนานบทนั้นขึ้นมาตั้งแต่ในวันนี้เป๊นต้นไป” หลังจากที่จบคำพูด ของคุณไครอนลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก สาวน้อยฮิเมนา ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบางเป็นประโยคที่ว่า



“ขอบคุณมากค่ะ...ที่ทำการมอบเสื้อค่ายฮาล์ฟบลัดตัวนี้ให้กับจีน่า” สาวน้อยฮิเมนาพึมพำคำพูดออกมา ด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ของเธอทีรกำลังเต็มไปด้วยความสั่นพร่าแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่จริงใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นคุณไครอนก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดออกมา เป็นประโยคที่ว่า




“เธอนะทั้งก้าวผ่านอสูรกาย ก้าวผ่านความกลัว และตอนนี้...เธอก็กำลังเดินก้าวผ่านไปสู่เส้นทางแห่งโชคชะตา” เขายิ้มก่อนจะเอ่ยคำพูดต่ออีกหนึ่งประโยคว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...เธอไม่ได้เดินคนเดียวอีกต่อไปแล้วนะครับ"




        พอสิ้นสุดคำพูด ของ เขาลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ ทำการหันไปหยิบไม้เท้าสั้นที่พิงอยู่ตรงบริเวณมุมห้องแล้วค่อยๆ เริ่มทำการเคาะเบา ๆ ลงตรงบริเวณบนพื้น จนเกิดเสียงนั้นดังกังวานราวกับประกาศก้องให้ทั่วทั้งผืนแผ่นดินรับรู้ถึงการถือกำเนิดของเส้นทางใหม่โดยทั่วกัน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคที่ว่า




     “ฉันจะพาเธอเดินทางไปยังบริเวณกระท่อมหมายเลขที่ 11 ของ ท่านเทพเฮอร์มีสด้วยตัว ของ ฉันเอง...” หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูดต่อมาขึ้นอีกหนึ่งประโยคหนึ่งว่า “กระท่อมหมายเลขที่ 11 ของท่านเทพเฮอร์มีสนี้ เป็นกระท่อมสำหรับบุตร และ บุตรี แห่งท่านเทพเฮอร์มีสนอกจากนั้น ก็ยังเป็นกระท่อมของผู้ที่ชื่นชอบและรักในการจะเป็นนักเดินทาง...และยังเป็นกระท่อมสำหรับผู้ที่ยังรอคอยให้สายเลือด ของ ตัวเองเปิดเผยตัวตนขึ้นมาอีกด้วย”



     หลังจากที่คำพูด ของ คุณไครอนได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก วินาทีต่อมาเขาและเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการก้าวเรียวขาเดินเคียงข้างกันและกันอย่างเงียบงัน เสียงฝีเท้าม้า ของ คุณไครอนค่อยๆ ดังขึ้นกระทบ กับ พื้นดินดังเป็นจังหวะที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ กลิ่นหอมของหญ้า ต้นไม้ และก็สายลมอ่อน ๆ ที่กำลังพัดผ่านตรงบริเวณใบหน้า ทำให้สาวน้อยฮิเมนารู้สึกได้ถึงสิ่งใหม่  โลกใหม่ และก็สถานที่ใหม่ๆ ที่กำลังคอยโอบกอด และ รับเธอไว้เป็นเสมือนส่วนหนึ่ง ของ คนในครอบครัวแล้วนั้นเองหลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก คุณไครอนก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคที่ว่า



     “กระท่อมหมายเลขที่ 11 ของ ท่านเทพเฮอร์มีส...เป็นสถานที่แห่งการเริ่มต้นเรื่องราวและสิ่งใหม่ๆ สำหรับเธอนะจีน่า” คุณไครอนเอ่ยขึ้นและก็ยังพูดต่อเนื่องไปอีกหนึ่งประโยคว่า “มันอาจจะดูค่อนข้างวุ่นวาย เสียงดัง และก็ไม่มีระเบียบมากสักเท่าไรนัก แต่ที่นั่นคือที่ ๆ ทุกคนเริ่มเรียนและรู้จักถึงความเท่าเทียมซึ่งกัน...และกัน...และที่กระท่อมแห่งนี้เราไม่ดูถูกซึ่งกันและกัน และเราก็ไม่ได้ใช้คำว่าลูกใคร มาเป็นตัวชี้วัด และ เป็นตัวตัดสินทางด้านสายเลือดอีกด้วยนะครับ” พอหลังจากที่จบคำพูด ของ คุณไครอนลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นสาวน้อยจีน่า ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง เป็นประโยคที่ว่า



      “ในตอนนี้หนูก็เริ่มชักรู้สึกไม่แน่ใจเลย นะคะว่าตัวของหนูเองควรที่จะอยู่อาศัยตรงไหนกันแน่” สาวน้อยฮิเมนาค่อยๆ เริ่มทำการกล่าวคำพูดประโยคนี้ออกมาจากริมฝีปากบางด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูค่อนข้างบางเบามากเป็นพิเศษกว่าตอนที่เธอเอ่ยคำพูดปกติ ใน ขณะที่สายตาของตัวเธอเองในตอนนี้ และ เวลานี้กำลังทำการทอดมองไปยังเด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังซุ่มทำการฝึกซ้อมอยู่ภายในบริเวณสนามฝึกซ้อมกันอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากนั้นคุณไครอนก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคหนึ่งว่า



      “ไม่มีใครแน่ใจหรอกในตอนที่กำลังต้องเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ นะ” คุณไครอนตอบกลับสาวน้อยจีน่าพร้อม กับ ค่อยๆ เริ่มทำการส่งรอยยิ้มบางๆ ยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะเอ่ยคำพูดกล่าวขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งว่า “แม้แต่ทว่าลูกของท่านเทพซุสเองก็ยังเคยต้องตั้งคำถามเป็นประโยค และ คำพูดเดียวกันกับเธอมาแล้วเลย”


        แล้วหลังจากที่คำพูด ของ คุณไครอนได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นก็เริ่มมีกระท่อมไม้หลังหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงบริเวณหน้าของทั้งสองคนกระท่อมหลังเล็กๆนี้  เสาไม้ทำการแกะสลักมาด้วยลายปีกและก็ไม้เท้าวิเศษ ส่วนตรงบริเวณที่อยู่ด้านบนมีธงผืนเล็กแปะด้วยโลโก้ และ สัญลักษณ์ของ “ค่ายฮาล์ฟบลัด” และมีตราสัญลักษณ์แห่งท่านเทพเฮอร์มีสปรากฏอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นคุณไครอนก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยค ที่ว่า



     “ที่นี่ล่ะจีน่ากระท่อมหมายเลขที่ 11 ของ ท่านเทพเฮอร์มีส” คุณไครอนค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูค่อนข้างบางเบามาก ๆ ขณะที่ในตอนนี้ และ เวลานี้ทั้งสองคนกำลังหยุดยืนอยู่ที่ตรงบริเวณหน้าเรือนนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นคุณไครอนก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับเอ่ยคำพูดออกมาอีกประโยคหนึ่งว่า “เมื่อเธอก้าวเข้าไป เธอจะกลายเป็นหนึ่งในพวกเราอย่างแท้จริง”



        หลังจากที่คำพูด ของ คุณไครอนได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นสาวน้อยตัวเล็กๆ อย่าง ฮิเมนาก็เริ่มค่อยๆ ทำการเงยใบหน้า ของ เธอขึ้นไปทำการมองดูกระท่อมหลังนี้อย่างชัดๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเกิดเป็น รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นมาที่ตรงบนใบหน้า ของ สาวน้อย  ไม่ใช่เพราะแน่ใจในโชคชะตา แต่เพราะเธอพร้อมจะเดินทางเข้าไปอยู่อาศัย ภายในกระท่อมหลังนี้ ถึงแม้ตัว ของ เธอจะยังไม่รู้คำตอบและที่มาที่ไปอย่างแน่ชัดก็ตาม แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มค่อยๆ ทำการเปล้งน้ำเสียง ?ละเอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง เป็นประโยคที่ว่า



“หนูจะตั้งใจเรียนรู้ทุกอย่าง...แม้จะต้องเรียนรู้ใหม่และเริ่มต้นทุกอย่างใหม่จากศูนย์ หนูก็จะทำค่ะ” หลังจากที่จบคำพูด ของ สาวน้อยจีน่าลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้นคุณไครอน ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดออกมาป็นประโยคว่า



      “นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอดูดีและมีคุณค่ามากที่สุดแล้วหล่ะนะ...จีน่า” คุณไครอนค่อยๆ เริ่มทำการเอ่ยกล่าวคำพูดนี้ออกมาจากปากของเขาอย่างช้า ๆ แล้วค่อยๆ เริ่มทำการพยักหน้า ให้ กับ เธอขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดในประโยคต่อไปออกมาในทันทีว่า “โชคชะตาของเธอเพิ่งเริ่มต้น แต่หัวใจของนักรบในตัวของเธอ...มันเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่คืนที่เธอเลือกจะไม่หนีและยืนหยัดที่จะทำการต่อสู้ กับ พวกอสุรกายเหล่านั้น”



        เสียงไม้ใต้เท้าของเขาค่อยๆ เริ่มทำการดังขึ้นมาเบา ๆ อีกครั้งหนึ่งใน ขณะที่สาวน้อยอย่าง ฮิเมนาค่อย ๆ เริ่มทำการเดินก้าวเรียวขาบาง ของ ตัวเธอเอง เดินทางเข้าสู่ตรงบริเวณกระท่อมหมายเลขที่ 11 ของ ท่านเทพเฮอร์มีส กระท่อมแห่งการเริ่มต้น เสียงพูดคุย แววตาใหม่ ๆ ที่หันมาทักทายกัน และกลิ่นไม้แห้งที่อบอุ่นทำให้เธอรับรู้ทันที...



        ว่าต่อจากนี้เป็นต้นไปเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว




ได้รับรางวัลเป็น : เสื้อสีส้ม ของ ค่ายฮาล์ฟบลัด จำนวน 1 ตัว



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 32496 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2025-7-30 21:35
โพสต์ 32,496 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-7-30 21:35
โพสต์ 32,496 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-30 21:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
อ้อมกอดแห่งราตรี
ชุดภารโรง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
นาฬิกาสปอร์ต
น้ำหอมสตรี
กำไลหินนำโชค
มีดสั้นสัมฤทธิ์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x1
x1
x10
x1
โพสต์ 2025-8-4 14:02:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Jimena Fernández
Jimena Fernández

📅 วันที่: 3 สิงหาคม พุทธศักราช 2568

🌓 หัวข้อ: พิสูจน์ภารกิจแรกต่อไครอน

📍 สถานที่: บ้านใหญ่ ,ห้องทำงาน ของ คุณไครอน

    “ในทุกๆ บทเรียน ของ การเริ่มต้นในครั้งแรก ย่อมต้องมีบทพิสูจน์…มาเป็นเครื่องมือ คอยชี้วัดอยู่เสมอ ถึงแม้ว่า บทพิสูจน์ดังกล่าว มันจะเต็มไปด้วยความยากและท้าทาย หรือถึงแม้ว่ามันจะต้องทำให้เรารู้สึกถึงความเหนื่อยล้า มากเพียงไหนก็ตาม เราก็ยินดีที่จะรับทำมันไว้ อย่างเต็มที่ และก็สุดความสามารถ ของเรา หากทว่าในตอนนี้ และ เวลานี้ ดวงตา ของสาวน้อยตัวเล็กๆยังคงเต็มไปด้วยความเปล่งประกายที่ปลื้มปลิ่มจากความสำเร็จในการลงมือทำในครั้งแรกของตัวเธอเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


เสียงฝีเท้า ของ สาวน้อยตัวเล็กๆ กำลังทำการก้าวเรียวขาบางเดินดังกังวานเบา ๆ ยามในตอนเวลาที่เธอกำลังเดินทางย่ำผ่านตรงบริเวณลานหินหน้า บ้านใหญ่ แสงแดดแรงจ้ายามบ่ายยังคงปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพัก ราวกับว่าแสงแดดเหล่านี้กำลังทำการโอบรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากสมรภูมิแห่งการทดสอบครั้งนี้เลยก็ว่าได้


ในตอนนี้ และเวลานี้เรือนร่างของหญิงสาวผู้หนึ่ง เธอคนนี้มีนามว่าฮิเมนา เฟร์นันเดซ กำลังทำการปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่างาม ถึงแม้ว่าในตอนนี้เนื้อตัว ของ เธอจะเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินเล็กน้อยจากการต่อสู้ ดวงตาสีเข้มวาววับไปและยังคงเต็มไปด้วยความมั่นใจ แถมบนไหล่ ของ สาวน้อยตัวเล็กๆยังคงทำการพาดสิ่งหนึ่งเอาไว้ด้วย มันคือ สินสงคราม ที่เธอได้รับมาจากการปราบ เจ้าอสุรกายฮาร์ปี้แสนดุร้าย ขนนกสีเทาดำขนาดยาว ที่หลุดออกมาจากร่วงออกมาจากตรงบริเวณปีกของมันในจังหวะ ของ การต่อสู้กันในช่วงจังหวะสุดท้ายก่อนที่มันจะล้มลงตึงลงไปในเวลาต่อมา


เพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากนั้น เธอก็ค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบาง ของ ตัวเธอเดินทางเข้าสู่ตรงบริเวณห้องทำงานของคุณไครอน ซึ่งในเวลายามนี้บรรยากาศที่อยู่ภายในห้องยังคงเต็มไปด้วยความเงียบสงบ กลิ่นหนังเก่าจากกองตำรารอบห้องห้อมล้อมอยู่ในทุกอณู หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก เธอก็ค่อยๆ เริ่มที่จะทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดขึ้นมาเป็นประโยคหนึ่งว่า


"คุณไครอนค่ะ..." น้ำเสียงของหญิงสาวทำการเอ่ยขึ้นมาอย่างนุ่มนวล แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่มากมายมหาศาลอยู่ ก่อนที่เธอจะเริ่มค่อยๆ ทำการเปล่งน้ำเสียงพร้อม กับ เอ่ยคำพูดต่อขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งว่า


"หนูสำเร็จภารกิจแล้วค่ะ นี่คือหลักฐานจากเจ้าอสุรกายฮาร์ปี้ที่หนูสามารถนำกลับมาแสดงให้คุณเห็นได้" หลังจากที่คำพูด ของ เธอจบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก หลังจากนั้น เธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการเดินก้าวเรียวขาบางเข้าไปหยุดอยู่ที่ตรงบริเวณเบื้องหน้า ของ คุณไครอนอย่างสง่างาม ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ทำการยื่นมือเรียวบางข้างหนึ่งออกมา พร้อม กับ ทำการส่งขนนก ของ เจ้าอสุรกายฮาร์ปี้ให้ อัญมณีแห่งชัยชนะชิ้นแรกในชีวิตของจีน่าในฐานะเดมี่ก็อตคนหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จแล้ว


หลังจากนั้นคุณไครอน ซึ่งกำลังตรวจเอกสารบางอย่างอยู่เล็กน้อย ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเงยใบหน้าขึ้นมามอง สายตาเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจในตัว ของ สาวน้อยฮิเมนาถูกแสดงออกมาอย่างเต็มเปี่ยมอยู่ในแววตาของเขา ดวงตาของครูฝึกผู้ทำการฝึกสอนที่มากไปด้วยประสบการณ์ต่างๆ กำลังเปล่งประกายอยู่อย่างอ่อนโยน พร้อม กับ ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดขึ้นมา กับ สาวน้อยจีน่าเป็นประโยคหนึ่งว่า "ดีมาก...ฮิเมนา" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูค่อนข้างทุ้ม และเต็มไปด้วยความรู้สึกมั่นคง ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำพูดขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งว่า


"เจ้าผ่านบททดสอบแรกของค่ายฮาล์ฟบลัดไปได้อย่างงดงาม ไม่เพียงแค่ใช้กำลัง แต่เจ้าได้ทำการพิสูจน์แล้วว่า เจ้ารู้จักใช้หัวใจและไหวพริบปฏิภาณในการ รู้จักยับยั้งมือและการอ่านจังหวะของศัตรูได้อย่างแม่นยำเก่งมากเจ้าหนูไก่กะต้าก"


หลังจากที่คำพูด ของ เขาได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนักหลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆ เริ่มทำการรับสินสงคราม คือขนนก ของ อสุรกายฮารืปี้มาถือไว้ในภายในมืออย่างทะนุถนอม ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะค่อยๆทำการก้าวเท้าเดินไปยังตรงบริเวณชั้นวางที่อยู่ตรงบริเวณทางด้านหลังของเขาและเธอ แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มที่จะค่อยๆ ทำการหยิบกล่องไม้ขัดเงาสีทองแดงขึ้นมา และ ส่งให้ ถึงมือเรียวบาง ของ เธอ เธอยื่นมือเรียวบางของตัวเองออกไปทำการรับกล่องไม้ขัดเงาสีทองแดงนั้นมาทำการเปิดออกดู และ นี่คือรางวัลที่เธอจะได้รับจากการทำภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยรางวัลที่คุณไครอน จะทำการมอบให้ กับ เธอ มีดังต่อไปนี้ 


 1. +30 EXP

2. +10 ดรักม่า

3. +35 ความกล้าหาญ

 ไอเทม : อาหารเทพจำนวน 1 ชิ้น

ความสนิทสนม: +15 ความสนิทสนม กับ คุณไครอน


    หลังจากที่สาวน้อยทำการรับรางวัลเสร็จสิ้นลงไปได้เพียงแค่ไม่นานนัก เธอก็ค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบางเดินทางออกจากห้องทำงาน ของคุณไครอนไปในทันที





แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-58] ไครอน เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-8-4 14:51
God
คุณได้รับ 30 EXP โพสต์ 2025-8-4 14:50
God
คุณได้รับ +35 ความกล้า โพสต์ 2025-8-4 14:50
โพสต์ 17484 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-8-4 14:02
โพสต์ 17,484 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-8-4 14:02

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญดรักม่า +10 ย่อ เหตุผล
God + 10

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
อ้อมกอดแห่งราตรี
ชุดภารโรง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
นาฬิกาสปอร์ต
น้ำหอมสตรี
กำไลหินนำโชค
มีดสั้นสัมฤทธิ์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x1
x1
x10
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้