24. Go to London M
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
แมคเคนซีรับแผนการท่องเที่ยว (?) ที่ดีนนำมาให้ ยังไม่ทันได้เปิดดูก็ต้องตกใจกับความหนาของหน้ากระดาษซะก่อน
“นี่มัน…แผนการเดินทางหรือธีสิสกันแน่”
ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากดูบอร์ดภารกิจกันไปไม่นาน ดีนจะกระตือรือร้นไปรวบรวมข้อมูลจนละเอียดขนาดนี้ เมื่อเปิดดูเนื้อหาก็คงต้องเรียกว่าแผนการท่องเที่ยวมากกว่าจะเป็นแผนการเดินทางไปทำภารกิจจริง ๆ นอกจากจะแสดงเนื้อหาทางภูมิประเทศ ภูมิอากาศ วัฒนธรรมต่าง ๆ แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปหมด แต่จะว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ ก็ภารกิจนี้ให้ไปถ่ายรูปสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดมาส่งนี่นะ
“เราไปภาคเหนือกันดีไหม ดูจากข้อมูลที่นายหามาแล้วอากาศค่อนข้างเย็นกว่าภาคอื่น ๆ”
เมื่อลองไล่อ่านข้อมูลของแต่ละแผนที่อีกฝ่ายทำมาแล้ว เขาค่อนข้างสนใจภาคเหนือมากกว่าภาคอื่น ๆ แต่ก็ต้องลองถามความเห็นผู้ร่วมเดินทางก่อน
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“จริงเหรอ ถ้าสมมุติเราขึ้นเหนือแล้วอยู่ดี ๆ ฉันอยากไปทางใต้นายก็จะตามใจฉันหรือไง”
เขาไม่คิดว่าดีนจะตามใจขนาดนั้น การเปลี่ยนทิศทางกะทันหันมันค่อนข้างเสียเวลาทีเดียว
“งั้นเราก็ไม่ต้องห่วงเรื่องมอนสเตอร์ แต่มาห่วงเรื่องภูติผีวิญญาณแทนงั้นเหรอ”
แมคเคนซีเริ่มสงสัย เคยได้ยินเพื่อนในกลุ่มที่มาวิทยาลัยคุยกันว่าผีไทยน่ากลัวไม่แพ้ผีชาติใดในโลกซะด้วยแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนขี้กลัวหรือเชื่อเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่หากจะไปต่างบ้านต่างเมืองก็คงต้องระวังตัวไว้ก่อน
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“ถ้านายว่าอย่างนั้นก็ตัดปัญหาเรื่องนี้ไป ยังไงพวกเราคงไม่แจ๊คพอตเจอผีที่ไทยเข้าหรอก”
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยเห็นวิญญาณสักครั้ง ไม่ว่าจะที่อังกฤษ อเมริกา หรือแม้แต่ปารีส แล้วจะไปเจอที่ไทยได้ยังไงกัน
“ฟังดูลำบากชะมัด ไปเที่ยวทั้งทีต้องไปแบบแบ็คแพ็คงั้นเหรอ”
แอบมุ่นคิ้วเล็กน้อย ไปทีก็ตั้งหลายวัน ขอนอนโรงแรมแบบสบาย ๆ ไม่ได้หรือไงนะ แต่ก็ไม่อยากบ่นมาก เดี๋ยวจะทำให้การเดินทางของพวกเขากร่อยซะเปล่า ๆ
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“พูดถึงเรื่องพูดคนเดียว บางทีฉันก็เคยเห็นชาร์ล็อตพูดคนเดียวเหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าถามว่าเธอคุยกับใครแบบนี้นายว่าชาร์ล็อตเป็นพวกเซนส์แรงไหม”
ที่แมคเคนซีไม่กล้าถามน้องสาวร่วมบ้านเพราะหากว่าเธอเกิดบอกว่าในบ้านนี้มีแขกที่มองไม่เห็นอาศัยอยู่ด้วยเขาคงได้หอบผ้าหอบผ่อนไปนอนที่อื่นแน่ ๆ
เขาได้แต่หัวเราะน้อย ๆ เมื่อได้ฟังดีนบ่นกระปอดกระแปดค่อนแคะเหล่าเทพ แต่ก็เชื่อเถอะ ถึงจะบ่นแค่ไหนก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“อืม…งั้นคราวนี้ก็เตรียมเสื้อผ้ากับของใช้ที่จำเป็นก็พอ ส่วนเรื่องที่อังกฤษฉันจะดูอีกทีว่าจะพอมีเวลาไปที่ไหนได้บ้าง”
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“ไม่รู้เหมือนกัน แล้วถ้าสมมุติมันเป็นความสามารถของสายเลือด แล้วฉันเกิดเห็นหรือติดต่อกับวิญญาณได้ขึ้นมา นายยังจะมาที่บ้านฉันอยู่ไหม”
ถ้าเกิดมันเป็นความสามารถของสายเลือดแล้วทำให้ดีนกลัวขึ้นมาล่ะ แบบนั้นเขาคงต้องกลับมาอยู่ในห้องคนเดียว
“ก็บอกว่าเป็นแฟน ปกติฉันก็คุยกับพ่อทุกเรื่องอยู่แล้ว ฉันว่าพ่อรับได้นะไม่ว่าฉันจะเป็นอะไร เขาคงไม่ตัดฉันออกจากกองมรดกหรอก”
อีกอย่างเขาก็เคยเล่าเรื่องดีนให้พ่อฟังบ้างแล้วเวลาที่ติดต่อกลับไป แค่ยังไม่ได้บอกสถานะอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“ถ้านายว่างั้นนะ”
ถึงจะถามแบบนั้นแต่ก็แอบกังวลเองเหมือนกัน ถ้าเกิดหากเป็นความสามารถของสายเลือดจริง เขาก็ต้องเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น กลายเป็นคนมีสัมผัสที่หกไปโดยอัตโนมัติ
“ทำแบบที่ทำอยู่ตอนนี้นี่ล่ะ แต่ระวังพ่อฉันอาจจะเหม็นนิดหน่อย ก็อย่างว่า ตั้งแต่แม่เอาฉันไปให้เขาเลี้ยง เขาก็อยู่กับลูกชายแล้วก็หมาสองตัวมาตลอด ไม่ได้คบใครใหม่เลย”
แมคเคนซียิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงพ่อผู้รักเดียวใจเดียวของตนเอง ที่จริงถ้าพ่อจะคบใครใหม่เขาก็ไม่คิดจะห้ามแต่จนถึงตอนนี้เวลาที่แมคเคนซีติดต่อไปพ่อก็ไม่เคยพูดถึงหญิงคนไหนให้ฟัง จะมีก็แต่เรื่องงานกับเรื่องหมานี่แหละ
เขาวางแผนการไปเที่ยวไทยของดีนลงแล้วไปหยิบสมุดมาเขียนแผนการท่องเที่ยวที่อังกฤษบ้าง
.
.
.
.
. [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“หืม…มันมีรหัสด้วยเหรอ”
แมคเคนซีทำหน้าสงสัย แล้วมายืนมุงตรงเสาอิฐแดงอีกคน เท่าที่จำไม่ผิด เมื่อตอนที่มากับแดนนี่ อีกฝ่ายแค่กดปุ่มแล้วประตูลับก็เปิดออกเลยนี่นา
“ฉันขอดูแป๊บนึงนะ”
ฝ่ามือใหญ่เริ่มลูบ ๆ คลำ ๆ ไปตามเสา มันค่อนข้างน่าอายนิดหน่อยที่ต้องมาทำอะไรอย่างนี้ แต่เขาจำตำแหน่งไม่ได้
“โอ๊ะ เจอแล้ว”
พอเจอปุ่มที่นูนออกมาจากเสาแล้ว แมคเคนซีก็กดมันทันทีอย่างไม่ลังเล แล้วประตูที่เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัลกับชานชาลาเฮเฟตัสหมายเลข 9 ก็เปิดออก จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าประตูนั้นไป
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
พอถูกถามก็เงียบคิด สำหรับแมคเคนซีนั้นสามารถนั่งตรงที่นั่งปกติได้สบาย ๆ แต่เขาไม่แน่ใจว่าดีนต้องการแบบไหน บางทีห้องพิเศษอาจจะมีอะไรให้ทำมากกว่านั่งเฉย ๆ ก็ได้มั้ง
“ที่จริงฉันนั่งตรงที่ปกติได้นะ แต่นายจะเบื่อหรือเปล่า ฉันก็ไม่รู้ว่าห้องพิเศษเป็นยังไง นายจะลองจองห้องพิเศษดูก็ได้”
ถึงราคาจะแพงไปหน่อย แต่เดี๋ยวกลับค่ายไปทำงานพิเศษหาเงินมาใหม่ก็แล้วกัน
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“เอางั้นก็ได้”
เขาพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของดีนก่อนจะดูราคาค่าตั๋วที่ต้องจ่าย
“นายเก็บไว้แล้วกัน ดูแล้วนายน่าจะคำนวณรายรับรายจ่ายได้ละเอียดดี”
แมคเคนซีหยิบกระเป๋าเงินดรักม่าของตนเองส่งให้อีกฝ่าย นอกจากซื้อตั๋วรถไฟแล้วคงไม่ต้องใช้เงินดรักม่าซื้ออะไรอีก งั้นก็ให้ดีนจัดการส่วนนี้ไปเลยก็สะดวกดี
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“หมดตูดก็ให้นายเลี้ยง โทษฐานใช้เงินฉันหมด”
ตอบเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไร สำหรับแมคเคนซี เงินดรักม่าที่เขาเก็บไว้เพราะวางแผนว่าจะซื้ออาวุธชนิดอื่นมาใช้ฝึกต่อจากดาบและโล่ แต่กว่าจะเรียนครบคลาสก็คงใช้เวลาอีกสักพัก เขายังพอมีเวลาเก็บดรักม่าได้ใหม่อยู่
“แบบนี้ก็เยี่ยมเลยสิ นึกว่าต้องนอนพวกโฮสเทลหรือโฮมสเตย์ทั้งทริปซะแล้ว”
พอได้ยินแบบนั้นก็ค่อยยิ้มออกหน่อย ก่อนจะนึกได้ว่าแบบนี้พวกเขาต้องจองโรงแรมที่ไทยใหม่หรือเปล่า แบบนั้นคงต้องใช้อินเทอร์เน็ตใช่ไหม แล้วพวกมอนสเตอร์จะโผล่มาเซย์ฮัลโหลหรือเปล่า
“ถ้านายอยากซื้อก็โอเคนะ ได้ดูรุ่นที่สนใจหรืออยากได้มาหรือยัง ว่าแต่นายจะรับริญญาแล้วเหรอ เมื่อไหร่น่ะ”
ถึงดีนอาจจะไปร่วมพิธีรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยไม่ได้แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี แมคเคนซียังรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเพิ่งบ่นเรื่องธีสิสให้ฟังเมื่อไม่นานมานี้เอง
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“ไว้ถึงลอนดอนแล้วเราไปร้านขายกล้องกันก่อนเลยก็ได้ เผื่อว่านายอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้”
เขาพอรู้จักย่านร้านขายของอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มาที่ลอนดอนหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าร้านรวงต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน แต่ก็คงไม่ถึงขั้นหาร้านไม่เจอหรอก
“มีพิธีรับไปแล้วงั้นเหรอ งั้นฉันต้องบอกนายว่ายินดีด้วยที่เรียนจบแล้วน่ะสิ อืม…ถ้าออกจากค่ายฉันก็คงไปเรียนต่อให้จบ ช้ากว่าคนอื่นหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วค่อยกลับไปช่วยงานพ่อต่อ”
ที่แมคเคนซีวางแผนไว้แต่เดิมก็คือแบบนี้ แต่พอต้องมาอยู่ที่ค่ายก็เลยเหมือนดูจะผิดแผนไปเสียหมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คิดว่าหากอายุยังไม่เกิน 30 ก็ยังพอมีเวลาทำตามแผนที่วางไว้ได้อยู่ ซึ่งก็ยังมีเวลาอีกตั้งหลายปี
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
“เรียนทางไกลน่ะเหรอ…น่าสนใจ แต่ฉันให้พ่อทำเรื่องดรอปให้แล้วนี่สิ คงต้องรอปีการศึกษาหน้าล่ะมั้ง”
ที่ดีนพูดมาก็น่าสนใจ ดูท่ากลับกลอสเตอร์คราวนี้เขาคงต้องไปปรึกษาเรื่องเรียนกับพ่อดูซะแล้ว
แมคเคนซีปรับเบาะให้เอนลงเสมอกับดีน รอจนผู้โดยสารคนอื่น ๆ ขึ้นนั่งประจำที่จนครบสักพักก็ได้เวลารถไฟออกจากชานชาลาเฮเฟตัสหมายเลข 9 สู่สถานีลอนดอนคิงส์ครอส
|