เจ้าของ: God

[ทางเข้าค่าย] ประตูค่าย

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-12-16 17:22:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-12-16 15:46
245ยินดีต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัด

               14/12/2024 - 9.00 น.

50. Back to Half Blood Camp
M

-14.12.24  /  09:00AM.-

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

วันรุ่งขึ้นมาเยือน พวกเขาตื่นตีห้าตามเวลาที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้พอดีเป๊ะ เมื่อเตรียมตัวกันเรียบร้อยก็รอเวลาต่อรถไฟจากนิวยอร์กไปยังลองไอแลนด์ และตอนนี้พวกเขาก็เดินทางมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัดที่ไม่ได้กลับมาร่วมเดือนเสียที หลังจากนอนเตียงแข็ง ๆ ของรถไฟมาหลายชั่วโมง ตอนนี้เขาคิดถึงเตียงนุ่ม ๆ ที่ห้องนอนของตนเองในบ้านพักหมายเลข 20 สุด ๆ

“แล้วผมจะได้เจอคุณพ่ออีกเมื่อไรฮะ แล้วคุณแม่ของผมที่เป็นเทพ….”

“เอ่อ… เรื่องนั้น”

หลังจากฟังดีนกับเชมัสคุยกันและได้ฟังคำถามของเด็กชายแล้วคนรักก็เกิดอาการเดดแอร์ด้วยเหตุว่าไม่รู้จะตอบอย่างไร มองจากสายตาอีกฝ่ายแล้วเขาคงต้องช่วยตอบคำถามนี้แทน

“นายต้องได้เจอคุณพ่ออีกแน่ อาจยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แต่นายก็สามารถส่งข้อความหรือคอลคุยกับคุณพ่อได้ตลอดเวลาแค่ไปที่บ้านเฮอร์มีส ส่วนเรื่องคุณแม่ของนาย บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้พวกฉันเองก็ไม่รู้ แต่พอเข้าไปในค่ายแล้ว นายจะได้พบคุณไครอนผู้เป็นคนดูแลที่นี่ เขาเป็นคนที่บอกนายได้ว่าคุณแม่ของนายคือใคร”

ฝ่ามือใหญ่วางบนเส้นผมสีเข้มของเด็กชายแล้วลูบเบา ๆ ให้คลายกังวล แมคเคนซีเลือกที่จะบอกตามความจริง คนที่สามารถบอกได้ว่าแม่ของเชมัสคือใครก็คือคุณไครอนเท่านั้น แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะยังไม่มีเทพีองค์ใดในโอลิมปัสให้การรับรองว่าเด็กชายชาวไอริสเป็นบุตร คุณไครอนก็จะมีคำอธิบายที่ดีและเข้าใจได้ให้แก่เดมิก็อดน้อยแน่นอน

“แต่ไม่ว่าคุณแม่ของนายจะเป็นใคร ตอนนี้นายก็มีพวกฉันสองคนเป็นพี่ชายนะ ใช่ไหมดีน”

แมคเคนซีผละมือออกก่อนจะยิ้มให้กำลังใจ แล้วโยนบทต่อให้ดีน ตอนนี้อีกฝ่ายน่าจะจบได้แบบเท่ ๆ ก่อนพวกเขาจะเริ่มเดินไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่ค่ายฮาล์ฟบลัดกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อเดินจากถนนฟาร์มเข้ามาตามทาง ในที่สุดก็มาถึงประตูหน้าค่ายฮาล์ฟบลัด จนเมื่อเข้าเขตอาคมขนแกะทองคำ เหมือนว่าเขาจะเห็นสัญลักษณ์บางอย่างโผล่ขึ้นเหนือศีรษะของเชมัส

“ดีน นายเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม บนหัวเชมัสนั่นน่ะ”

แมคเคนซีกระตุกแขนคนรักเบา ๆ แล้วขยับมากระซิบกระซาบไม่ให้เดมิก็อดน้อยได้ยิน

“แบบนี้หมายความว่ามีเทพีรับรองเชมัสเป็นลูกแล้วใช่ไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เทพีแอมฟิไทรต์? งั้นเชมัสก็อยู่บ้านเดียวกันกับเอิร์ลและไอมิใช่ไหม”

พอได้ยินชื่อของเทพีจากปากดีนก็นึกถึงสองพี่น้องที่มาช่วยกันทำศึกสงครามที่ชายหาดทางตอนเหนือของค่ายเมื่อครั้งพวกยีเมียร์มาล้อมค่ายไว้จนเกิดเหตุประหลาดที่ว่ามีหิมะตกในหน้าร้อน หากในตอนนั้นไม่ได้ไอมิช่วยยิงธนูสกัดเจ้าหมาป่าหิมะไว้เขาคงถูกมันฉีกเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว

“เอ่อ…หมอนั่นหมายถึงพวกเราจะไปส่งนายที่บ้านใหญ่ที่คุณไครอนอยู่ พอนายรายงานตัวกับคุณไครอนแล้วเขาก็จะพานายไปแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ในค่ายรวมถึงข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่ควรรู้แล้วก็พานายไปส่งบ้านน่ะ แปลว่าพอไปถึงบ้านใหญ่ พวกเราก็จะบอกลากันตรงนั้น นายต้องการจะสื่อแบบนี้หรือเปล่า”

เขาถองสีข้างคนที่อยู่ ๆ ก็พูดวกไปวนมา สงสัยวันนี้จะตื่นเช้าไปหน่อย ดีนเลยมีสภาพอ๊อง ๆ อย่างที่เห็น จากนั้นพวกเข้าก็พากันเดินเข้าไปในค่าย ระหว่างทางที่พาเชมัสไปส่งก็ได้พบสมาชิกค่ายมากหน้าหลายตา มีทั้งผู้ที่คุ้นเคยและผู้ที่มาใหม่ บางคนก็ทักทายพวกเขาอย่างเป็นกันเองจนกระทั่งทั้งสามคนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านใหญ่และบอกลาเชมัสก่อนจะยืนส่งจนเด็กชายหายลับไปในห้องคุณไครอน พวกเขาจึงแยกตัวออกมา

“จบทริปซานอันโตนิโอสักที ขอบคุณมากนะที่พาฉันไปเที่ยวเมืองบ้านเกิดนายแล้วก็ได้ทำความรู้จักครอบครัวนายด้วย เป็นทริปที่ดีมากจริง ๆ ฉันประทับใจมากเลย”

เขาหันมาบอกคนรักด้วยรอยยิ้ม หากไม่นับเรื่องอสุรกายดุอย่างที่ดีนเคยบอกไว้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนทำให้พวกเขาต้องสู้รบปรบมือกับพวกมันแทบรายวันแล้ว ทริปนี้ก็ถือว่าเพอร์เฟ็กต์ไม่มีที่ติเลยทีเดียว และแมคเคนซีก็หวังว่าในอนาคตเขาจะได้กลับไปเยือนซานอันโตนิโอพร้อมกับดีนอีกครั้ง ส่วนตอนนี้ก็ได้เวลากลับบ้านไปพักผ่อนก่อนที่แต่ละคนจะต้องแยกย้ายกันไปทำสิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ต่อจากนี้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 13269 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-16 17:22
โพสต์ 13,269 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก คบเพลิงเวท  โพสต์ 2024-12-16 17:22
โพสต์ 13,269 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เวทมนต์[I]  โพสต์ 2024-12-16 17:22
โพสต์ 13,269 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2024-12-16 17:22
โพสต์ 13,269 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-12-16 17:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-12-21 07:26:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-21 07:27

Character Avatar
NEREZA HENLADYS
Lovers of Pleasure ❣ Head Counselor Cabin 10

ตามกำหนดการที่ถูกประกาศเอาไว้ ณ ประตูค่าย เวลา 08:00 น. หลายชีวิตที่ได้ทำการลงทะเบียนกำลังยืนรวมตัวเพื่อรอการมาถึงของรถวิเศษที่จะเป็นพาหนะนำพาพวกเขาไปยังดินแดนของทวยเทพ ดวงตาของเนเรซ่ากวาดมองรอบกายช้า ๆ เพื่อประมวลข้อมูลของแต่ละคนที่จะร่วมทางไปด้วยกัน บางบ้านก็ส่งเด็กมาแค่คนเดียว บางบ้านก็ไม่มีเลย .. ตรงข้ามกับเคบินสิบที่ดูสนอกสนใจและกระตือรือร้นในการเข้าร่วมชนิดที่แทบจะยกกันไปทั้งบ้าน (เหลือเดม่อนไว้คนเดียว)

“ ถ้าอลิเซียอยู่ล่ะก็เธอจะต้องไม่พลาดการไปโอลิมปัสครั้งนี้แน่ ” เสีบงบ่นงึมงัมของเจโนวีฟที่กำลังทำปากขมุบขมิบพร้อมกับวางคางเกยไว้กับไหล่ของเนเรซ่าดังขึ้นใกล้กับหูจนเธอเริ่มที่จะรู้สึกจั๊กจี้ แต่สำหรับเลิฟลี่เกิร์ลประจำเคบินสิบ ความใกล้ชิดแค่เท่านี้ยังถือว่าไม่เพียงพอ สองมือของเทพธิดาตัวน้อยจากบ้านแห่งความงามโอบรอบเอวบางของที่ปรึกษาคนโปรดด้วยความหวงแหน “ ป่านนี้ที่เฮติจะเป็นยังไงบ้างน้า.. ”

“ คงไม่เลวร้ายนักหรอก ” เมเรซไหวไหล่ ดวงตาเฉื่อยชาของเขาจรดลงมองอีเมอร์สันที่ทำตัวเหมือนแมวปวกเปียกไร้กำลังจะยืนด้วยตัวเองจนต้องคอยออเซาะเนเรซ่าไปทุกก้าว “ ห่วงตัวเองดีกว่า สภาพอย่างเธอจะเดินไหวไหมก็ยังไม่รู้ ” บทสนทนาแดกดันตามประสาพี่น้องที่ถ้าคนอื่นมาเห็นก็คงนึกว่าพวกเขาเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปกติ.. ปกติมาก สำหรับเหล่าสายเลือดอะโฟรไดท์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องคำพูด

“ น่าเสียดายเหมือนกันนะคะที่เดม่อนไม่ได้มา ” เสียงนุ่มฟังสบายของวิโอน่าดังขึ้นจากด้านข้างแทรกฝ่ากลางถ้อยคำเจ็บแสบของบริโอเทียร์และอีเมอร์สัน สาวน้อยผู้ครองสมญาว่าซิสเตอร์ประจำบ้านอะโฟรไดท์ยกยิ้มละมุนพร้อมยื่นแก้วชานมไข่มุกให้กับเนเรซ่า “ ได้ยินว่าทางเอเชียนิยมเครื่องดื่มชนิดนี้มาก ฉันพึ่งจะมีโอกาสได้เปิดหาสูตรก็เลยลองทำมาให้ทานค่ะ ”

“ ขอบคุณวินนี่ ” มือของเนเรซ่าวางลงบนกลุ่มผมสีบรูเน็ตต์ที่เล็กลื่นเสมือนเส้นด้ายนับร้อยนับพันอยู่เรียงกัน ดวงตาคมของสุภาพสตรีจิ้งจอกจากเคบินสิบหรี่ลงเล็กน้อยอย่างอ่อนโยนสวนทางกับสีหน้าเง้างอนของเจโนวีฟที่พึ่งจะซุกหน้าลงกับลำคอของเนเรซ่า

“ ไม่มีของฉันเหรอ ”

“ ถึงมีก็ไม่ต้องให้ ” เสียงทุ้มที่ดังต่อมาเป็นเสียงของใครก็คงไม่ต้องสืบ วิโอน่าหัวเราะในลำคอระหว่างที่หยิบชานมแก้วอื่น ๆ ออกมาแจกจ่ายให้พี่น้องร่วมบ้าน ก่อนที่พวกเขาจะได้กล่าวขอบคุณหรือสนทนาใด ๆ เพิ่มเติม ไครอนก็ปรากฏตัวมาพร้อมกับการเรียกเด็ก ๆ เพื่อประกาศกำหนดการ

[ ผู้ร่วมเดินทางไปยังโอลิมปัสสามารถอ้างอิงเนื้อหาถัดจากนี้ในโรลเพลย์ของคุณ ]

“ เอาล่ะทุกคน ฟังทางนี้ ” เซนทอร์วัยกลางคนปรบมือสองสามครั้ง ดึงความสนใจจากกลุ่มเยาวชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการทัศนาจรให้เบี่ยงเบนมาทางเขา “ ผมดีใจที่เห็นว่าทุกคนให้ความสนใจในการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว แต่ถึงจะเป็นการรวมญาติ กฏระเบียบและกำหนดการที่ควรปฏิบัติก็ยังมีอยู่ ”

“ ผู้ที่จะมาทำหน้าที่รับส่งคือ เทพอะพอลโล่ ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการเสียมารยาท— แม้ว่าเขาจะขี้เล่นและไม่ค่อยถือสาก็ตาม ” ไครอนกำชับเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะไม่เห็นการสาปที่รุนแรงต่อสายเลือดครึ่งเทพ ทว่าการไปเยือนถึงถิ่นของตัวตนเหนือสรรพสิ่งก็ยังต้องระมัดระวัง “ ทุกคนมีเวลา 1 วัน บนโอลิมปัส นั่นหมายความว่าวันที่ 22 พวกเธอจะได้กลับมาที่ค่ายนตอนเช้า ฉะนั้น.. ใช้เวลาของตัวเองให้เต็มที่ ”

ผู้ดูแล.. หรือที่สมควรเรียกว่ารองผู้อำนวยการของค่ายหันหน้าไปมองรถโรงเรียนสีเหลืองฉูดฉาดที่กำลังแล่นมาตามถนน ก่อนจะกล่าวสิ่งที่ต้องการประกาศเป็นเรื่องสุดท้าย “ หลังจากนี้คนที่อธิบายต่อจะเป็นเทพอะพอลโล่ เชื่อฟังเขาให้มากหน่อย อย่าสร้างปัญหากันนะเด็ก ๆ ” ชายที่ใจดีและสมควรเรียกว่าพ่อคนที่.. สาม หรือสี่? ของเด็ก ๆ ในค่ายถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อเปิดทางให้กับชายรูปงามที่กำลังลงมาจากรถโรงเรียนสีเหลืองอ๋อยในแบบสโลวโมชั่น

What the f*ck?

ฉ่า.. เสียงประตูรถบัสโรงเรียนเปิดออกพร้อมควันที่พวยพุ่งรับกับย่างก้าวของเทพที่มักมาพร้อมกับสโลแกนประจำตัวอย่าง ‘ หล่อจนสาวเหลียวแม้แต่เหมียวยังต้องมอง(?) ’ อะพอลโล่ปรากฏตัวด้วยเสื้อผ้าสบาย ๆ เหมือนแต่งเพื่ออยู่บ้านแต่กลับมีดาเมจทำลายล้างจนสาวน้อยสาวใหญ่รอบ ๆ ถึงกับเป๋กันไปหลายก้าว



“ สวัสดีทุกคน ” อะพอลโล่ทักทายด้วยน้ำเสียงไม่ดังไม่เบา รอยยิ้มของเขาเฉิดฉายน่ามองสมศักดิ์ศรีของชายผู้บงการดวงตะวัน “ พร้อมที่จะไปโอลิมปัสกันหรือยัง ??! ”

เสียงโหร้องตอบรับของเด็ก ๆ ในค่ายที่รอการมาถึงของเขาทำให้รอยยิ้มของอะพอลโล่กว้างขึ้น เทพอาทิตย์หัวเราะในลำคอก่อนจะใช้มือตบประตูรถบัส “ ถ้างั้นก็ขึ้นมาเลย ” สิ้นคำของเขา.. เหล่าสมาชิกที่ลงชื่อทัศนาจรก็แห่แหนกันขึ้นไปบนรถเสมือนมดงานที่มุ่งหน้าเข้าสู่รัง

[ สามารถสิ้นสุดการอ้างอิงได้ที่จุดนี้ ]

เสียงจ๊อกแจ๊กเกี่ยวกับการเลือกที่นั่งจองที่นั่งดังระงมจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่น หลายคนใช้โอกาสนี้ในการพยายามเข้าหาคนที่ตัวเองสนใจ — ยกตัวอย่างเช่นทิปตาที่รวบรวมความกล้าเดินเข้ามาขอนั่งตรงที่ว่างข้างเจโนวีฟ อีเมอร์สัน รวมไปถึงเจโรม ปาร์คที่หมายมั่นตั้งใจมาแต่ต้นว่าต้องการจะชวนสุภาพสตรีท่านหนึ่งมานั่งข้างเขา

น่าเสียดายที่โอกาสมีน้อยเกินไป

“ เนเ—- ”

“ เอเตรียน? ”

ต่อหน้าต่อตา.. จังหวะคาบเกี่ยวที่เขาเข้าใกล้เธอช้าเกินไป เจโรมขมวดคิ้วเล็กน้อย มือของเขายังค้างอยู่บนอากาศในระหว่างที่มองเนเรซ่าและชายหนุ่มสักคนที่ชื่อว่าเอเตรียนกำลังสนทนาในสิ่งที่เขาไม่ได้ยิน , น่าสงสารเจโรมจริง ๆ ที่ความพยายามของเขายังไม่เป็นที่สังเกตเห็น

เนเรซ่าไม่ได้นั่งร่วมกับเด็ก ๆ บ้านอะโฟรไดท์ก็เพราะเธอมีสิ่งที่ตั้งใจว่าจะทำอยู่ก่อนแล้ว และเผอิญว่าเจ้าหนุ่มเอเตรียนก็ดันคิดตรงกันกับเธอพอดี “ คุณอะพอลโล่ ” เสียงของเอเตรียนดังขึ้นทักทายเทพหนุ่มที่นั่งตรงเบาะคนขับ ชายรูปงามที่โดดเด่นยิ่งกว่ามนุษย์คนไหน ๆ หันมามองเขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น

“ เป็นเกียรติที่ได้นั่งรถของคุณ ”

เด็ก ๆ หลายคนไม่ได้ใส่ใจในส่วนนี้ พวกเขาตื่นเต้นและรีบพากันไปจับจองพื้นที่จนเหลือไม่กี่คนที่แวะเวียนมาสนทนากับเขา มุมปากของอะพอลโล่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่กลั่นออกมาจากความเอ็นดู เทพแห่งดวงอาทิตย์พยักหน้าก่อนจะตอบกลับ “ ขอบคุณ หาที่นั่งได้ตามสบาย อีกเดี๋ยวก็จะได้ไปเยือนโลกใหม่แล้ว ”

เอเตรียนพยักหน้า เขาชำเลืองตามองเนเรซ่าเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวถอยห่างออกไปเพื่อหาที่นั่งสำหรับ– ส่วนเนเรซ่า เมื่อบุตรแห่งอะธีน่าจากไป บุตรสาวแห่งอะโฟรไดท์ก็เข้ามาแทนที่ ความรู้สึกที่เหมือนเป็นที่นิยมนี้ทำให้อะพอลโล่อดไม่ได้ที่จะผิวปาก “ ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะเป็นผู้เดินมาหาข้าด้วยตนเอง นกน้อย ” สำเนียงเก่า ๆ ที่ผสมผสานความแพรวพราวตามประสาเทพผู้เป็นที่นิยมทั่วสามภพมีไว้ใช้กับคนที่เคยเห็นตัวตนด้านหนึ่งของเขา ซึ่งชื่อของเนเรซ่า เฮนลาดิสก็เผอิญว่าอยู่ในบรรดารายชื่ออย่างช่วยไม่ได้

“ เด็กน้อย สวัสดี ”

“ โอ้ คนสวยอีกแล้ว ”

เสียงปัญญาประดิษฐ์ที่เคยทักทายดังขึ้นต้อนรับคนที่พวกเขาคุ้นตา เนเรซ่าผงกศีรษะเล็กน้อยเพื่อทักทายม้าในตำนานที่อยู่ในคราบของปัญญาประดิษฐ์ติดรถและยื่นแก้วเครื่องดื่มให้กับเทพอะพอลโล่ “ ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าอย่างน้อยก็ควรจะขอบคุณให้มันดี ๆ สักครั้ง ” อันที่จริงเนเรซ่าไม่ได้มีอะไรติดค้างหรือติดพันกับเขา แต่อย่างน้อยบางครั้งการทำตัวเป็นผู้ตามที่นอบน้อมก็น่าจะมีประโยชน์มากกว่ามั่นใจโดยไม่เหลียวมองไปข้างหลัง

“ ข้าจะถือเสียว่านี่เป็นไมตรี ”

เทพแห่งดวงอาทิตย์รับแก้วชานมไข่มุกไปทั้งที่ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าสิ่งที่อยู่ในแก้วคืออะไร เขาส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะวางแก้วลงกับที่วางแก้วน้ำ “ ที่นั่งข้างหลังยังว่าง ” เนเรซ่ารู้ดีแก่ใจว่านั่นไม่ใช่คำเชื้อเชิญแต่เธอจะคิดซะว่ามันเป็น ดวงตาของธิดาอะโฟรไดท์ชำเลืองมองที่นั่งเดี่ยวด้านหลังเบาะคนขับเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวนั้น

.. และก็ปล่อยให้การเดินทางเป็นเรื่องของเวลา

สามารถอ้างอิงเนื้อหาประกาศได้โดยอิสระ
มอบเครื่องดื่มให้เทพอะพอลโล่ : ได้รับโบนัสความโปรดปราน +10 แต้ม | โบนัสความโปรดปราน +15 แต้มจาก [BELIEVER]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-09] อะพอลโล เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-12-21 07:31
โพสต์ 24924 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 07:26
โพสต์ 24,924 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-21 07:26
โพสต์ 24,924 ไบต์และได้รับ +6 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +6 ความศรัทธา จาก สร้อยไข่มุกตาฮิตี   โพสต์ 2024-12-21 07:26
โพสต์ 24,924 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 ความกล้า จาก แว่นตา  โพสต์ 2024-12-21 07:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-21 08:45:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด

21/12/2024
07.50 น.
‘เขาบอกให้มารอที่ประตูค่ายก่อน 8 โมง’ เจวิครีบเดินจากโรงอาบน้ำมายังหน้าประตูค่ายด้วยความเร่งรีบ เขาเห็นไครอนที่ยืนรอพร้อมกับกลุ่มคนมายืนรอกันอยู่แล้วส่วนหนึ่ง ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่มพร้อมกล่าวทักทายเพื่อนร่วมเดินทาง

21/12/2024
08.00 น.
[ อ้างอิงจากโรลของคุณ Nereza ]
เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับเสียงของไครอนที่พูดตามขึ้นมา เจวิคหันหน้าไปฟังสิ่งที่ไครอนพูดด้วยความตั้งใจ ก่อนหน้านี้เขายืนเหม่อมองคนนู้นทีคนนี้ที ถึงแม่ว่าชายหนุ่มจะดูเหมือนเป็นคนที่เป็นมิตร แต่มานี้เขาก็ยังไม่มีเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เลย
‘โห นี้ต้องให้เทพมาขับรถให้เราเลยหรอเนี้ย แต่ก็น่าจะเป็นเรื่องดีแหละนะ รุ่นพี่ต่างบอกกันว่าด้านนอกของค่ายมีแต่อสูรกายเต็มไปหมด’ เจวิคนึกภายในใจก่อนจะมองกับรถบัสสีเหลืองที่แล่นเข้ามา
เขาสังเกตเห็นชายคนนึงเดินลงมาจากรสบัสคันสีเหลืองที่พึ่งมาจอด ขายคนนั่นเดินลงจากรถยังกับภาพช้ายังไงยังงั้น ด้วยความที่เขารูปงามที่สะกดให้คนหยุดช่วงเวลาไว้หรือว่าเขาเดินลงมาช้า ๆ กันแน่นะ เจวิคเหลือบตาขึ้นไปมองหน้าของชายคนนั้น ‘โอ้ย อย่ายิ้มเลยพ่อ คนอะไรหล่อปานนั้น นี้เราก็ว่าเราหล่อแล้วนะ’ เขาอุทานในใจพร้อมกับได้ยินเสียงสาว ๆ กรี๊ดกัน
“ไปครับไป” เจวิคตอบกลับอะพอลโล่ ก่อนจะต่อคิวให้เหล่าผู้คนเดินขึ้นรถไปก่อน แล้วเขาจึงเดินตามท้ายขึ้นไป 
ชายหนุ่มเดินขึ้นมาบนรถเป็นคนท้าย ๆ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ยังพอมีที่นั่งเหลืออยู่ เดินไปนั่งยังที่ ๆ ว่างติดกันสองที่ เขาเลือกที่จะนั่งด้านในที่ติดหน้าต่าง ก่อนจะหยิบกระเป๋าออกมาวางลงที่ตักของตน เผื่อว่าจะยังมีคนที่ไม่มีที่นั่งมานั่งข้างเขาได้
เมื่อผู้โดยสารขึ้นรถบัสครบแล้วรถจึงเคลื่อนตัวออกจากหน้าค่ายไป

Jayvik Mchonde

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9397 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 08:45
โพสต์ 9,397 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2024-12-21 08:45
โพสต์ 9,397 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า จาก โชกเกอร์หนาม   โพสต์ 2024-12-21 08:45
โพสต์ 9,397 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2024-12-21 08:45
โพสต์ 9,397 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-12-21 08:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
โชกเกอร์หนาม
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
สร้อยข้อมือถัก
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x20
x1
x1
x2
x13
โพสต์ 2024-12-21 12:41:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Laura เมื่อ 2024-12-21 12:43

Example Box with Image and Text

  ประตูค่าย 

ย้อนเวลา 21 ธค เวลา 7.52 น





เด็กสาวพาตัวเองมายังประตูหน้าค่าย เธอของของ เเน่นอนลังไวน์ทั้งลัง ถูกยกมา ตอนนี้เธอเหมือนชะนีเเรงกระบือมาก ยกมาด้ยังไง จากบ้านพักของตนมาตรงนี้ก็ผ่านมาก็ไม่ได้ใกล้เลยนะ

เด็กสาววางของทั้งหมดลง รอไม่นานเท่าไรเหมือนจะมากันเเล้วด้วย

เธอไม่ใช่สมาชิกคนแรกที่มา เเต่ก็ยังไม่ได้เรียกว่ามานานจนเกินไป เเถมยังมาก่อนเวลานัดหมายนิดหน่อยด้วย

" สวัสดีค่ะ ทุกคน หนูไม่ได้มาสายใช่ไหมคะ "

ร่างเล็กยืนรอสักพัก ทั้งไครอน และคนอื่นๆ มารอกัน สมาชิกที่ลงชื่อไว้พากันมารอ

ไม่นานรถก็มารับเเล้ว ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดินทางมาที่เธอจะได้ออกจากค่าย แบบว่าไปทัศนศึกษนอกสถานที่ ไม่นับการออกไป 7-11 หรือ ไปป่าหรอกนะ

อันนี้จะเป็นที่ที่เรียกว่าไกลที่สุดแล้วม่เคยไปด้วย น่าตื่นเต้นไหมหละ

ไม่นานรถที่มารับเด็กๆ เปิดออก มันมาจอดสักพักแล้วหละ เเต่ยังไม่เปิด พอเปิดออกก็เผยให้เห็นร่างของเทพที่มารับเด็กๆด้วย

[อ้างอิงคุณ Nereza] เวลา 8.00 น

สวัสดีทุกคน ” อะพอลโล่ทักทายด้วยน้ำเสียงไม่ดังไม่เบา รอยยิ้มของเขาเฉิดฉายน่ามองสมศักดิ์ศรีของชายผู้บงการดวงตะวัน “ พร้อมที่จะไปโอลิมปัสกันหรือยัง ??!


เสียงโหร้องตอบรับของเด็ก ๆ ในค่ายที่รอการมาถึงของเขาทำให้รอยยิ้มของอะพอลโล่กว้างขึ้น เทพอาทิตย์หัวเราะในลำคอก่อนจะใช้มือตบประตูรถบัส “ ถ้างั้นก็ขึ้นมาเลย ” สิ้นคำของเขา.. เหล่าสมาชิกที่ลงชื่อทัศนาจรก็แห่แหนกันขึ้นไปบนรถเสมือนมดงานที่มุ่งหน้าเข้าสู่รัง

[สิ้นสุดการอ้างอิงจากคุณ Nereza]

ไม่ทันทีอะไร เธอก็ยิ้มออกมา ที่เขบอกกันว่าเหล่าเทพจะหน้าตาดี ตอนรี้เธอเชื่อแล้ว เเต่ขอเว้นพ่อตัวเองไว้ 1 อัตราเเล้วกัน ขานั้นไม่ไหวจริงๆ วันๆ กินไวน์คือไม่ไหวเลย

เด็กสาวหยิบของตัวเองขึ้นไปด้วย เพื่อเตรียมเอาไปแจก ของที่เตรียมๆมานี้ขนไปเพื่อเเจกจ่าย ถลุงทั้งนั้นเลยนะ

" หนูพร้อมแล้วค่ะ " เธอที่เอาของไปด้วยเเบบกะว่าเต็มคันรถพอดีแน่นอน เธอเอามนัยัดใส่ไปข้างหลัง เเพ็คของมาดีอยู่แล้วไม่ต้องกลัวเเต่กหรอก หนจะของอื่นๆ ที่เตรียมมาเเน่นๆ เต็มกระเป๋าเลย

เมื่อทุกคนนั่งประจำที่ ก็พร้อมสำหรับการออกเดินทางแล้ว 

[ช่วงทักทาย Jayvik] 

เธอนั่งข้างๆ ชายหนุ่มคนนึง ที่ขึ้นมาก่อนหน้าเธอนิดหน่อย เนื่องจากว่าเธอขึ้นมาเเทบจะเป็นคนสุดท้ายของคันเเล้ว มันก็ไม่แปลกที่เธอจะไม่มีที่นั่งเท่าไร ไหนจะของที่ขนมาอีกกก็เล่นกินที่กินทางไปเยอะเลย

อีกฝ่ายที่เธอหันไปคุยด้วยนั้น เขาดูจะนิ่งๆ เงียบๆ ไปบ้างนะ แต่ใดๆ ต้องทำความรู้จักไว้ก่อนนะ เพราะมานี้มีเพื่อนนับคนได้เลย น้อยนิดเหลือเกิน

" สวัสดีค่ะ คุณ.... " เพื่อไม่ให้การเดินทางเงียบเธอก็เลยหันไปพูดคุยกับอีกฝ่ายด้วย

" ชื่อลอร์ร่านะคะ เรียก ร่า ก็ได้ค่ะ เป็นธิดาของไดโอนีซุส ค่ะ "

เด็กสาวทำการเเนะนำตัวต่อทันที ตอนนี้เสียงในรถเเอบมีคนพูดคุยกันขึ้นมาเบาๆ หลังออกเดินทางได้สักพัก เนื่องจากมันเงียบเกินด้วยนั้นหละ ก็จะเกรงๆ หน่อยนะ

" เอาขนมไหมคะ ร่ามีขนมมาเยอะเลย

ไหนๆ แล้วเอาขนมให้เหล่าเทพ ขอกินก่อนแล้วกันเช่ามายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเเต่กินคนเดียวมันก็จะยังไงอยู่นะ เเบ่งทุกๆ คนเลยเเล้วกัน ร่างเล็กเเกะถุงขนมขบเคี้ยวออกก่อนจะหันถามร่างสูงคนเดิมที่เมื่อครู่นี้เธอคุยกัน 

[สิ้นสุดการทักทาย Jayvik] 

การเดินทาง เธอไม่อน่ใจว่าใช้เวลานานเท่าไร เเต่น่าจะพักใหญ่ๆ เลยเธอนั่งไปเรื่อย เพราะไม่มีอะไรทำ ก็เลยคุยกับคนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ เเก้เบื่อไปในตัวด้วย

มันอาจจะเพราะความเข้ากับคนง่ายของบ้านนี้ด้วยหรือเปล่า หรือมันนิสัยส่วนตัวของเธอล้วน แล้วคิดจะไปอ้างเทพ



หมายเหตุ ออกเดินทาง
ทัก Jayvik

 

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15922 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 12:41
โพสต์ 15,922 ไบต์และได้รับ +3 EXP +4 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-12-21 12:41
โพสต์ 15,922 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก รสชาติแห่งความสุข  โพสต์ 2024-12-21 12:41
โพสต์ 15,922 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 ความศรัทธา จาก สัมผัสแห่งองุ่น  โพสต์ 2024-12-21 12:41
โพสต์ 15,922 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก กระบอกลูกธนู  โพสต์ 2024-12-21 12:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
สื่อสารกับสัตว์
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x3
x3
x5
x1
x1
x7
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x4
x4
x15
โพสต์ 2024-12-21 13:58:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-12-21 14:20

256
ตกรถไปโอลิมปัส เลยต้องมาฟัดกับอสุรกาย

               21/12/2024 ย้อนความไปเมื่อเวลา 7.50 น. [อ้างอิงโรลเพลย์ช่วงคณะทัวร์ออกเดินทาง ของ Nereza]

               “อุแง ขอโทษค่ะหนูลืมบอกไปเลยว่าวันนี้มีทัศนศึกษาที่โอลิมปัส คิดว่าพี่ซันซ์จะบอกซะอีก”

               สาวน้อยรีชามีท่าทีร้อนรนและสำนึกผิดมาก ๆ ที่ลืมบอกเรื่องสำคัญนี้แก่พี่ชายที่เพิ่งกลับมาจากการเดินทางไกลไปร่วมเดือน ทำให้ดีนพลาดไม่ได้ลงทะเบียนไปโอลิมปัส..

               โอลิมปัสเชียวนะเฟ้ย!!!

               “คุณไครอน คนไม่ได้ลงชื่อไปด้วยได้ไหมครับ คือว่าผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามีทัศนศึกษาวันนี้”

               “เสียใจด้วยคุณดีน ที่ให้ลงชื่อไปทัศนศึกษาเพื่อจัดรถและอาหารนี่แหล่ะครับ ซึ่งที่จัดไว้ก็พอดีไม่ขาดไม่เกินเลยแม้แต่ที่เดียว แต่ค่ายเราจัดทัศนศึกษาทุกปี ในปีหน้าคุณก็อย่าพลาดลงทะเบียนแล้วกัน” ไครอนตอบ เขาพยายามอธิบายด้วยเหตุผลให้เขาใจ

               ซึ่งดีนมีเรื่องอยากจะค้านตั้งเยอะแยะ อย่าง.. ‘รถบัสของเทพไม่ใช่เหรอ เสกเพิ่มที่นั่งมาอีกทีไม่ได้หรือไง? หรือถ้าไม่มีที่นั่งผมยืนไปก็ได้’ แต่เขารู้ว่าเปล่าประโยชน์ เพราะหากผู้อำนวยการพูดมาซะขนาดนี้ไม่ได้ก็คือไม่ได้นั่นแหล่ะ

               “โอเคครับ งั้นผมจะรอปีหน้า… ก็ได้” ก็ได้ที่แปลว่าไม่ได้ น้ำเสียงของชายหนุ่มซึมเป็นหมาหงอย

               “ไม่ต้องห่วงนะพี่ดีน เรื่องรีชาเดี๋ยวผมจะดูแลเธอให้เอง” เจโรมยิ้มปลอบ พร้อมยื่นมือมาลูบแขนดีนปอย ๆ เหมือนเวลาที่ลูบสีข้างน้องหมาตอนพามันไปคลินิกสัตว์แพทย์ ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ดูเหมือนหนุ่มไอดอลเกาหลีจะเหลือบมองไปทางหญิงสาวบ้านอะโฟร์ไดท์ไทป์แมวดำตาเป็นมันในแทบจะทุก ๆ สิบวินาที

               เข้าใจอยู่ว่าคนที่น้องชายแอบปิ๊งเป็นสาวสวยสุดโดดเด่น หากให้จัดลำดับความงามคงไม่พ้นท็อปสามของค่ายฮาล์ฟบลัด ทว่าคล้ายกับเมื่อหลายเดือนก่อนเจโรมจะถูกสาวเจ้าปฏิเสธไปทีนึง จนดีนและรีชาต้องไปนั่งปลอบใจอีกฝ่ายพร้อมกับเค้กวันเกิดที่ทะเลสาบ กระนั้นเจ้าน้องชายก็ยังตัดใจไม่ขาด แม้จะหนีไปทำงาน (ทำใจ) อยู่หลายเดือน

               คำว่า ‘ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก’ อาจใช้ได้ในหลาย ๆ กรณี แต่ที่ใช้ไม่ได้ก็มีเหมือนกัน ซึ่งเขาคือหนึ่งในนั้นที่เคยตื๊อสาวจนเธอบอกว่า ‘ช่วยหายไปจากชีวิตฉันที อย่าได้มาพบกันอีกเลย’

               คิดแล้วก็เจ็บจี๊ดในใจ… แม้ไม่หลงเหลือความรักแต่เขาไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกขับไล่ไสส่ง แต่อาจเป็นเรื่องดีแล้วก็ได้ที่เขาไม่ได้สมหวังในรักแรก เพราะรักต่อมากับเจ้าชายอังกฤษ (สถาปนาขึ้นเอง) มันช่างสุดแสนจะเพอร์เฟ็ค!

               “ดูแลน้องให้ดีแล้วกัน อย่ามัวแต่เอาตาไปมองคนอื่น” ดีนกัดฟันพูดก่อนจะถอยฉากออกมา “ยังไงก็เที่ยวให้สนุกนะรีช เจรี่.. อย่าลืมถ่ายรูปโอลิมปัสมาฝากพี่ด้วยล่ะ”

               “ค่ะ! เรื่องนี้หนูจะไม่พลาดแน่นอน!” รีชาน้อยยกมือขึ้นตะเบ๊ะ รับปากรับคำอย่างหนักแน่น น่าจะเป็นวิธีเดียวที่สาวน้อยสามารถทำเพื่อชดเชยความผิดได้

               ตอนนี้จวนเจียนได้เวลาออกเดินทางเต็มแก่ เด็ก ๆ ที่ไปทัศนศึกษาจึงทยอยกันขึ้นรถ ส่วนดีนที่มาส่งน้องก็ได้แต่ยืนโบกมือลาทำหน้าเหมือนอีโมจิหน้ายิ้มสีเหลืองมีน้ำตาหนึ่งหยดแปะอยู่ล่างตาซ้าย

               เขาเห็นชายคนหนึ่งเดินขึ้นรถไปไว ๆ เป็นคนหนุ่มที่อายุมากกว่าดีนนิดหน่อยในชุดลำลองสุดสบายตัว อาจจะเป็นรุ่นพี่แต่มีออร่าแห่งความหล่อระดับเทพพวยพุ่งออกมาราวกับว่าหัวเปล่งแสงได้

               “นั่นใครน่ะหล่อชะมัด! รุ่นพี่ที่เพิ่งกลับมาค่ายเหรอ?” ดีนเดาไว้ในใจว่าชายคนนี้น่าจะเป็นบุตรแห่งอะโฟร์ไดต์แน่ ๆ

               “หาวววว... คนนั้นเหรอ เมื่อกี้เห็นคุณไครอนบอกว่าคือเทพอะพอลโล่นะ นายไม่ได้ฟังหรือไง?” ซันซ์ปิดปากหาวคล้ายกับยังไม่อยากตื่น ใช่.. เขาอยู่ตรงนี้ตลอดตั้งแต่ต้น แต่ปิดปากเงียบสนิทระหว่างที่พี่น้องคนอื่นสนทนากัน กระท่อมโพไซดอนแสนอบอุ่นมาส่งน้องไปทัศนศึกษากันทั้งบ้าน “ไหงฉันไม่ได้ลงชื่อไปโอลิมปัสถึงถูกปลุกขึ้นมาได้นะ วันนี้อุตส่าห์ยกคลาสทั้งวันแท้ ๆ” ซันซ์บ่นอุบ

               “โอ้ เทพอะพอลโล่.. เทพที่ถูกบอกว่าหล่อที่สุดในโอลิมปัสนี่เอง หล่อแบบไม่มีข้อโต้แย้งเลยแฮะ…” หนุ่มหน้าคมแบบฉบับชาวละตินหันไปมองหนุ่มหน้าละตินอีกคนที่ตอนนี้ตาแทบจะลืมไม่ขึ้น “ว่าแต่นายเถอะ ทำไมถึงไม่ลงชื่อไปโอลิมปัส? แถมฉันโทรศัพท์ไอริสคุยกับนายตั้งหลายครั้ง แต่นายไม่เห็นบอกเรื่องนี้เลยว่าเขาเปิดให้ลงทะเบียนตั้งเป็นเดือน ๆ

               “ก็เพราะว่าไม่ได้ไปไงก็เลยไม่ได้บอก ฉันคิดว่ายัยตัวเล็กจะบอกนายซะอีก”

               สรุปต่างคนต่างคิดว่าจะมีใครสักคนที่บอกเขาสินะ.. โอเค๊

               “งั้นกลับมาที่คำถามข้อแรก นายเพิ่งมาอยู่ค่ายได้ไม่นาน ไม่อยากไปโอลิมปัสเหรอ? ไปที่นั้นได้เจอพ่อด้วยนะ”

               “ฉัน…” ซันซ์อึกอัก “ฉันยังรู้สึกไม่ค่อยสนิทใจเท่าไรเลยไม่ค่อยอยากไปน่ะ ก็แบบว่าไงดี… อยู่มาจนอายุเท่านี้แต่ไม่เคยรู้ว่าพ่อมีตัวตน ถึงจะเคยเจอหน้ากันแต่ก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดีนั่นแหล่ะ”

               “อ่า…” ดีนไม่รู้จะพูดปลอบซันซ์อย่างไรจึงได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ แล้ววางมือแตะหลังน้องชาย “เดี๋ยวสักวันนายจะสนิทกับพ่อเอง... แต่ท่าทางนายดูไม่ไหวแล้ว กลับกระท่อมไปนอนต่อเถอะ”

               รถบัสทัศนศึกษาพุ่งตัวออกไปตามถนนฟาร์มมุ่งสู่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ส่วนทางด้านสองหนุ่มสายเลือดโพไซดอนก็เดินกลับไปที่กระท่อมของตัวเอง

               และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล ถึงไม่ได้ไปทัศนศึกษาที่โอลิมปัสในวันนี้…

               .
               .
               .

               12.00 น.

               ‘ถึงจะทำใจได้แล้วแต่ว่านอยด์อ่า!’

               ดีนเตร็ดเตร่เดินเตะฝุ่นเดินวนไปวนมาอยู่หน้ากองไฟเฮสเทียด้วยความเซ็ง มาย้อนคิดดูที่พ่อบอกว่า ‘แล้วเจอกันที่โอลิมปัส’ มันคือเรื่องนี้เองสินะ..

               ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งพบปะกับมหาเทพแห่งท้องทะเลในระดับเอ็กซ์คลูซีฟมาก็ตาม แต่เรื่องไปโอลิมปัสมันไม่เหมือนกัน ที่นั่นคือสวรรค์ย่อมต้องมีอะไรแจ่ม ๆ ให้ได้ชม ไม่ว่าจะสถาปัตยกรรมเอย ชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าเทพเอย แล้วไหนจะไวน์ขั้นเทพและอาหารสุดเลิศล้ำอีก เขาอยากให้ปีหน้ามาถึงวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ

               ระหว่างที่กำลังเซ็ง ๆ อยู่นั้น ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากทางหน้าประตูค่าย

               “อสุรกายบุก ระดมพลไปที่หน้าประตูค่ายเร็ว!!!”

               แซเทอร์ตนหนึ่งวิ่งควบเข้ามาภายในค่ายฮาล์ฟบลัด ตะโกนร้องแจ้งภัยพร้อมกับเป่าแตรสัญญาณฉุกเฉินไปด้วย เหตุการณ์นี้ไม่ต่างอะไรกับกับเมื่อเดือนมิถุนายนที่ยักษ์น้ำแข็งปิดล้อมค่ายเปลี่ยนให้ฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาว เพียงแต่ตอนนี้เหตุนั่นมันเกิดขึ้นในฤดูหนาวจริง ๆ และเหมือนกับว่าอุณหภูมิขณะนี้จะลดต่ำลงกว่าเมื่อเช้าจนต้องกระชับเสื้อโค้ดให้เข้าหาตัว

               ‘เกิดอะไรขึ้นอีก!!’

               เดมิก็อดจากแต่ละกระท่อมเปิดประตูบ้านของตัวเองออกมาเพื่อรับข่าวสารดังกล่าว บ้างก็สั่นกลัว บ้างก็เตรียมอาวุธพร้อมประจัญบาน เช่น หนุ่มชาวเอเซียคนหนึ่งที่ออกจากกระท่อมหมายเลขห้าพร้อมกับง้าวจีนสัมฤทธิ์ในมือ

               “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ให้ไปที่ไหนนะพี่ชาย!?” หนุ่มสายเลือดแอรีสไถ่ถามสีหน้าตระหนก ดีนไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน แต่ขึ้นชื่อว่ามาจากสายเลือดเทพสงครามก็ทำให้เขาระแวงนิดหน่อย

               “เอ่อ.. ให้ไปที่หน้าค่ายนะ” ดีนที่อยู่ในอาการเหรอหราไม่แพ้กันชี้ไปทิศที่ตั้งประตูค่ายประกอบ

               “ถ้างั้นเราก็ไปกันเลย!” ไม่พูดเปล่า หนุ่มคนนั้นดึงแขนดีนให้ไปด้วยโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ

               “เฮ้ย! เดี๋ยว รอก๊อนนนนน ว่าแต่นายเป็นใครเนี่ย!?”

               “ผมแจสเปอร์ ซู บุตรแห่งแอรีส ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ชาย!”

               ‘ยินดีที่ได้รู้จักกับผีน่ะสิ!’

               ดีนคิดในใจ… สถานการณ์คับขันเช่นนี้ไม่ใช่เวลาแนะนำตัว แต่ก็ลืมไปว่าถามชื่อเขาเองนี่หว่า…

               แม้จะเอ่ยปากปรามแต่ก็จำต้องวิ่งตามแรงลากมหาศาลนี้ไป เจ้าหนุ่มนี่ตัวเล็กกว่าเขาเสียอีก แต่ทำไมเรี่ยวแรงถึงได้เยอะเป็นช้างสารแบบนี้นะ ดีที่เขาใส่สร้อยข้อมืออัจฉริยะไม่ห่างหาย จึงพร้อมจะลุยกับอันตรายได้ทุกเมื่อ แต่ไม่คิดว่าจะได้ลองของใหม่เอาตอนนี้ไง

               เมื่อไปถึงหน้าประตูค่ายฮาล์ฟบลัด ดีนเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยกำลังตรึงพลังกันกับรูปปั้นอะธีนาพาร์เธนอน ยิงแสงสีแดงและสีเขียวปะทะกันอุตลุด

               “นั่นมันเทพโลกิ!!!” ดวงตาสีเปลือกไม้เบิกโพลงเมื่อได้พบกับเทพคู่แค้นบุกมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัด แถมด้านหลังยังมีอสุรกายลูกกระจ๊อกติดตามมานับสิบ ๆ ตัว

               “อะไรนะ เทพโกกิ?” แจสเปอร์ทำหน้างง แต่ดูอาการแล้วเหมือนตื่น ๆ เนื้อตัวสั่นระริกเมื่อร่างกายได้รับการปะทะมากกว่า ซึ่งก็ได้ปะทะจริง ๆ หนุ่มบ้านแอรีสถูกยักษ์สีฟ้าวิ่งชนเข้าโครมใหญ่จนร่างกระเด็นไปหลายฟุต ต่อหน้าตาดีนที่วิ่งตามอยู่ข้างหลัง ดีที่มือหลุดไปก่อนไม่งั้นมีหวังได้กระเด็นพร้อมกันไปอีกคนแน่ ๆ

               “เฮ้! แจสเปอร์นายเป็นอะไรไหม” ดีนตะโกนถาม ไร้เสียงตอบกลับมาจากแจสเปอร์ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมาคือเสียงคำรามราวกับสัตว์ป่าคลั่ง

               “ย้าก!!!!”

               แล้วการต่อสู้ระหว่างบุตรแห่งแอรีสในโหมดคลั่งกับยักษ์จีนสีฟ้าก็เริ่มขึ้นอย่างดุเดือดเลือดพล่าน จนพื้นที่ปะทะกลายเป็นเขตอันตรายจากลูกหลง ทำให้ดีนไม่อาจเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ตรงหน้าได้ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน อีกฝ่ายเป็นถึงบุตรชายเทพสงครามแถมสไตล์การต่อสู้ยังหนักหน่วงใช้ได้ คงไม่มีอะไรให้เป็นห่วงมาก แต่เป็นตอนนี้สิที่เขาถูกลากเข้ามาอยู่กลางสมรภูมิรบเข้าอย่างจัง ดีนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ด้วยความตระหนก ครูฝึกแซเทอร์หลายคนกำลังต่อสู้กับอสุรกายที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จักอย่างเอาเป็นเอาตาย

               “โธ่เว้ย! ไหนบอกว่าฮาล์ฟบลัดเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเดมิก็อดไง โดนบุกปีนึงสองรอบแบบนี้มันอันตรายกว่าฮอกวอตส์แล้ว!!”

               คิดผิดมหันต์ที่สติแตกตะโกนออกมา หมาป่าน้ำแข็งตัวหนึ่งเห็นว่ามีเหยื่ออันโอชะยืนเงอะงะอยู่ มันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันจนหิวโซ ต่อให้เป็นเดมิก็อดเลเวลสูงแล้วยังไง ถ้าหิวสักอย่างต่อให้เลเวลเป็นร้อยมันก็งาบได้

               “กรรรรร”

               อสูรร้ายกระโดดเข้าขย้ำชายที่ไร้อาวุธในมือ.. เสียเมื่อไร

               ทันทีที่รู้ตัวว่าภัยร้ายวิ่งเข้าหา ดีนก็เชื่อมต่อจิตกับกำไลอัจฉริยะเปลี่ยนรูปร่างของมันให้เป็นตรีศูลสามง่าม อัญมณีที่ข้อมือเรืองแสงสว่างวาบ ก่อนที่โลหะที่พันข้อมือข้างขวาจะยืดออกกลายเป็นด้ามตรีศูลขนาดพอดีมือ พอหมาป่าน้ำแข็งพุ่งเข้าหาดีนก็ตั้งท่ารอ ทิ่มแทงหมาป่าหิวโซก่อนจะทุ่มมันลงกับพื้นจนร่างสลายกลายเป็นผง

               มันประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป ร่างน้ำแข็งจึงได้มีจุดจบเป็นเช่นนี้…

               @Daemon

               เสียงเรียกชื่ออันคุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลัง เมื่อหันไปมองเขาเห็นสหายเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน ‘เดม่อน แคนเนลท์’ วิ่งมาพร้อมกับดาบธีซีอุสในมือ

               “เดมี่นายกลับมาค่ายตั้งแต่เมื่อไร!?” จะว่าดีใจก็ดีใจแต่ไหงพวกเขาถึงได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในสถานการณ์แบบนี้นะ…

               @Daemon

               ไม่มีเวลาทักทายเพื่อนผู้เคยร่วมเป็นร่วมตาย เมื่อหุ่นยนต์วัวตัวหนึ่งคล้ายกับวัวโคลคีสรุ่นอัพเกรดยืนสองขา ยิงมิสไซร์มาทางชายหนุ่มทั้งสอง ทำให้ดีนกับเดม่อนต้องหลบกันไปคนละทิศคนละทาง

                ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

                ดูเหมือนว่าจักรกลนั้นจะเล็งเป้ามาทางดีน ส่วนเดม่อนได้ตกอยู่ในวงล้อมของอสุรกายอีกตัว

               “เดี๋ยวค่อยมาคุยกันนะเดมี่! ขอฉันจัดการวัวบ้านี่ก่อน” ดีนตะโกนบอกไปหาคนที่อยู่หลังควันดำที่ลอยฟุ้ง เขารู้ว่าเพื่อนจะไม่เป็นไร... สายเลือดแต่งโพไซดอนควงหอกตรีศูลอาวุธใหม่เตรียมสู้กับศัตรูร้ายที่รออยู่ตรงหน้า…



สินสงคราม: ผนึกคริสตัล 5 ชิ้น

รางวัลประสบการณ์เปิดอีเว้นท์: +15 EXP +2 Point
สรุปสถานการณ์ Winter is Coming II คร่าว ๆ
1. แซเทอร์ตนหนึ่งวิ่งเป่าแตรแจ้งเตือนเข้ามาในค่าย
2. แจสเปอร์กับดีนไปที่หน้าประตูค่าย / แจสเปอร์แยกกับดีนไปสู้กับรากษส
3. ดีนต่อสู้หมาป่าน้ำแข็งจนชนะ
4. พบกับเดม่อนที่เพิ่งมาสมทบที่หน้าประตูค่าย
5. ดีนเตรียมสู้กับเดธแมชชีน (กำลังเขียนตอนต่อคนมาต่อก็ลงของตัวเองได้เลย)

แสดงความคิดเห็น

Daemon  Kannel21 · ธันวาคม · 2024  · 12.30 น.        เดม่อนที่วิ่งถือดาบเธซีอุสมุ่งมาทางค่ายฮาล์  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-12-21 15:01
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-21 14:18
โพสต์ 38335 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 13:58
โพสต์ 38,335 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +25 ความกล้า +25 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมืออัจฉริยะ  โพสต์ 2024-12-21 13:58
โพสต์ 38,335 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2024-12-21 13:58
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-12-21 15:01:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-12-21 13:58 256ตกรถไปโอลิมปัส เลยต้องมาฟัดกับอสุรกาย 21/12/20 ...







Daemon  Kannel

21 · ธันวาคม · 2024 
 · 12.30 น.

        เดม่อนที่วิ่งถือดาบเธซีอุสมุ่งมาทางค่ายฮาล์ฟบลัด เขาเห็นเด็ก ๆ ชาวค่ายกำลังวิ่งตรงไปทางเนิน ก่อนเห็นคุณไครอนอีกฟากไกล ๆ กำลังแจกแจงดูแลคนเจ็บที่โดนหามเข้ามา เด็กบ้านอะพอลโลดูจะทำงานกันอย่างแข็งขัน


      เขาเห็นดีนอยู่ไม่ไกลกำลังรับมือกับอะไรบางอย่างก่อนตะโกน "เฮ้ ดีน!!"


      [อ้างอิงจากโรลเพลย์ DEAN]


      เขาไม่ทันจะได้ถามไถ่ว่าสรุปเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ก่อนโดนปืนยิงจรวดยิงตู้ม จนต้องกระโดดหลบ เขากลิ้งไปตามพื้นก่อนตั้งหลักด้วยการปักดาบลงพื้น หยิบโล่ที่หลังออกมากระชับ ในขณะจะไปช่วยดีนสู้ เขาก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีหมาป่าตัวเบิ้มมาขวางไว้ 


      "จะไปไหนหรือเจ้าหนู แกมาเป็นอาหารของข้าดีกว่า" หมาป่ายักษ์ตัวนั้นพูดขึ้นก่อนกระโจร ซึ่งเดม่อนรู้ว่ามันไม่ใช่หมาป่าธรรมดาแน่ ขนาดใหญ่มหึมาขนาดนี้ ทุกการโจมตีของมันทำให้พื้นดินกระเด็นและสะเทือนได้ง่าย


      เดม่อนกระโดดหลบ แม้ตัวจะใหญ่ยักษ์แต่มันก็ว่องไวไม่ต่างกับหมาป่าปกติเลย ก่อนจะยกพุ่งโจมตีเพื่อหมายแลก เขาถูกกรงเล็บข่วนในขณะสไลด์หลบแต่ไม่พ้น และใช้ดาบฟาดตัวมันได้เล็กน้อย เดม่อนกัดฟันแน่น เลือดไหลซึมออกมาจากรอยข่วนที่หลัง เสื้อผ้าขาดวิ่น  เผยให้เห็นผิวขาว ๆ ที่มีรอยเลือดสีแดงสด เขาจ้องมองหมาป่ายักษ์ด้วยความระมัดระวัง


       "หมาป่าธรรมดาที่ไหนจะตัวใหญ่ขนาดนี้"  เดม่อนพึมพำกับตัวเอง "หรือว่าจะเป็น..." เขาแทบจะไม่อยากคิดถึงมันเลย จนความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว  เขาเคยอ่านเจอในหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด หมาป่าขนาดยักษ์ ดุร้าย แข็งแกร่ง มันคือลูกหลานของเฟนริล หมาป่าปีศาจในตำนานนอร์ส!!


        "เฟนริล..."  เดม่อนพูดชื่อนั้นออกมา ความรู้สึกเย็นยะเยียบแล่นไปทั่วสันหลัง เขาไม่เคยเจอสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน แต่ถึงจะกลัว เขาก็ไม่มีทางเลือก เขาต้องสู้กับมันเพื่อจะปกป้องค่าย  และเพื่อน ๆ ของเขา อีกทั้งเขาต้องปกป้องบ้านหลังนี้เพื่อรอยัยฉลาดกลับมาและรักษาสัญญาไว้ว่าจะอยู่อย่างปลอดภัย หากเขาตายที่นี่ก็เท่ากับผิดสัญญาที่ให้ไว้กับลิเลียน่า 


        เดม่อนตั้งท่าเตรียมพร้อม เมื่อเขานึกถึงยัยฉลาดก็ยิ่งทำให้เขามีแรงฮึกสู้มากขึ้น ดาบในตำนานของเธซีอุส ส่องประกายสีฟ้า  เขาจ้องมองหมาป่ายักษ์ และรอจังหวะที่จะโจมตี


       หมาป่ายักษ์คำราม เสียงดังกึกก้อง มันพุ่งเข้าใส่เดม่อน ด้วยความเร็ว กรงเล็บแหลมคม พุ่งตรงมาที่คอของเขาหมายจะปลิดชีวิตในพริบตา


       เดม่อนหลบกาสรโจมตีนั้นอย่างใจเย็น ก่อนจะใช้โล่ปัดป้อง กรงเล็บกระทบโล่ เสียงดังสนั่น แรงกระแทกทำให้เขาเซถลาพอสมควร ส่วนเจ้าหมาป่ายักษ์เองก็ไม่ปล่อยให้เดม่อนตั้งหลัก มันโจมตีต่อเนื่อง กรงเล็บ เขี้ยว และหาง ต่างก็ฟาดใส่เดม่อนอย่างไม่หยุดหย่อน


        จนเขาได้จังหวะ ก่อนเดม่อนจะเงื้อดาบขึ้นและใช้ฟันเข้าที่ขาหน้าของหมาป่า สร้างบาดแผลลึก เลือดสีดำพุ่งกระฉูด หมาป่าร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด


         "เจ้าหนู!" หมาป่าคำราม "เจ้ากล้าทำร้ายข้าเหรอ!"


         "ข้าจะทำมากกว่านี้ ถ้าเจ้าไม่หยุด!"  เดม่อนตะโกนตอบ


         หมาป่าโกรธจัดและฉุนเฉียวมากขึ้น มันพุ่งเข้ากระโจนใส่เดม่อน  หมายจะฆ่าเขาให้ตาย เดม่อนรู้ว่าเขาเสียเปรียบ ตอนนี้ดวงตาของเขาได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงเพื่อบ่งบอกว่าเขาจะเอาจริงล่ะนะและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่จะปกป้องค่ายลุกโซนขึ้นมา


         หมาป่าชะงักลงครู่หนึ่งเมื่อเห็นตาอีกฝ่ายเปลี่ยนสีจนเป็นสีแดงเห็นชัดเจนขนาดนั้น แม้มันจะไม่มีพลังอะไรที่จะโจมตีก็เถอะ แต่เจ้าหมาป่าดูจะกลัวไปเอง ราวกับมันจะรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แผ่ออกมาจากเดม่อน


         "พอสักทีเถอะ พอเถอะนะ ได้โปรดหยุดเถอะ!"  เดม่อนร่ายคำพูดซ้ำไปมาและทุกถ้อยคำเขาใส่มนต์มหาเสน่ห์ลงไปด้วย พร้อมกับใช้ดวงตาสีแดงของเขา จ้องมองเข้าไปในดวงตาของหมาป่า ราวกับเขาต้องการจะโฟกัสอย่างแน่วแน่ว่าให้มนต์มหาเสน่ห์ใช้กับหมาป่าตรงหน้า เพื่อสั่งให้มันหยุด


         หมาป่าสับสน มันเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่างที่บังคับให้มันต้องเชื่อฟัง


         "หยุด..."  เดม่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและใส่มนต์มหาเสน่ห์เข้าไปด้วยอย่างแรงกล้า


         หมาป่าหยุดนิ่ง มันยืนตัวสั่น ไม่กล้าขยับ


         แม้จะสามารถควบคุมหมาป่ายักษ์ได้ด้วยมนต์มหาเสน่ห์แล้ว แต่เขาก็ไม่อยากจะเสี่ยงใช้งานมันจัดการอสุรกายตัวอื่น เพราะพลังมันเองก็แข็งแกร่งเอาเรื่องและกดดันเขากลับมาพอสมควร อีกทั้งถ้าเทียบกันแล้วพลังของเขามีขีดจำกัดยิ่งกว่ามัน มนต์มหาเสน่ห์อาจจะอยู่ได้ไม่นานตามที่พี่ไพเพอร์เคยสอน โดยปกติยิ่งสิ่งมีชีวิตในตำนานจะอยู่เพียงชั่วครู่ ดังนั้นสำหรับเดม่อนคิดว่ายิ่งหมาป่าตัวนี้เป็นลูกหลานของเฟนริล จิตใจของมันย่อมแข็งแกร่งกว่าสัตว์ประหลาดทั่วไป


         เขาต้องหาทางจัดการกับมัน  ก่อนที่มันจะหลุดจากการควบคุม


         เดม่อนเหลือบมองไปรอบ ๆ  สายตาของเขา ไปหยุดอยู่ที่ต้นสนธาเลียใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว และเขาหลับตาลงเพื่อนึกถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง จนร่างของเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง จากเด็กหนุ่มกลายเป็นอินทรีตัวใหญ่




         นกอินทรีเดม่อนเริ่มกางปีก และโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความเร็ว มันบินวนรอบหมาป่ายักษ์ พลางส่งเสียงร้องดังกังวาน เจ้าหมาป่ามองตามนกอินทรีด้วยความสับสน  มันไม่เข้าใจว่า  เกิดอะไรขึ้น


         เดม่อน ในร่างนกอินทรี บินโฉบลงมา ใช้กรงเล็บที่แหลมคมจิกเข้าที่ดวงตาของหมาป่าข้างขวา


         "อ๊ากกก!"  หมาป่ายักษ์ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มันยกขาหน้าขึ้นปิดบังดวงตาด้วยความเจ็บปวด และดูเหมือนมนต์มหาเสน่ห์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่มันกำลังเจ็บปวดและงุงงงว่าทำไมตาบอดไปข้างหนึ่ง


         เดม่อนไม่ปล่อยให้เสียโอกาส เขาบินโฉบลงมาอีกครั้ง ใช้จะงอยปากที่แข็งแรง จิกเข้าที่หัวของหมาป่า เจ้าหมาป่าดิ้นรน พยายามสะบัดนกอินทรีออก แต่ก็ไร้ผล ส่วนนกอินทรีเดม่อนยังคงจิกและจิกไม่หยุด จนกระทั่งหมาป่ายักษ์ทนไม่ไหวจากบาดแผลและเสียเลือดมันจึงล้มลงแน่นิ่งก่อนจะสลายเป็นฝุ่นละอองสีทอง


         เดม่อนแปลงร่างกลับเป็นมนุษย์ เขายืนหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็โล่งใจที่  สามารถเอาชนะหมาป่ายักษ์ได้


         เขามองไปทางอื่นเห็นควันไฟยังคงพวยพุ่ง เสียงต่อสู้ยังคงดังมาเป็นระยะ เขาต้องรีบไปช่วยคนอื่น ๆ ในตอนนี้เขาต้องทำหน้าที่ตรงหน้า เขาต้องช่วยเหลือคนที่อยู่ในค่าย 


          เดม่อนกำดาบเธซีอุสแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาจะต่อสู้เพื่อปกป้องค่ายฮาล์ฟบลัด เพื่อรอการกลับมาของลิเลียน่า... ใช่เขาต้องมีชีวิตรอเธอกลับมา!



รางวัลประสบการณ์เปิดอีเว้นท์: +15 EXP +2 Point

สินสงคราม: ดวงตาเฟนริล

+2 ตื่นรู้พิชิตลูกหลานเฟนริลครั้งแรก


 

NC

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 29270 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 15:01
โพสต์ 29,270 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความศรัทธา จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2024-12-21 15:01
โพสต์ 29,270 ไบต์และได้รับ +15 EXP +6 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ดาบเธซีอุส  โพสต์ 2024-12-21 15:01
โพสต์ 29,270 ไบต์และได้รับ +7 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก หมวกนีเมียน  โพสต์ 2024-12-21 15:01
โพสต์ 29,270 ไบต์และได้รับ +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ทักษะดาบ  โพสต์ 2024-12-21 15:01

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x10
x1
x2
x1
x11
x2
x8
x1
x2
x1
x3
x2
x1
x18
x1
โพสต์ 2024-12-21 15:51:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eloise เมื่อ 2024-12-21 15:52





วันที่ 21 ธันวาคม 2024
เวลา 12.10 น.



เอโลอิสเดินออกมาจากบ้านพักหมายเลข 9 ด้วยสีหน้าผ่อนคลาย คิดว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่เธอได้พักสงบสุขสักครั้งเพราะเหล่าเพื่อนในค่ายส่วนใหญ่พากันไปเที่ยวโอลิมปัส ทำให้ค่ายดูเงียบสงบกว่าปกติ เธอยิ้มบาง ๆ ให้กับความคิดนั้น ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นพร้อมเสียงแตรเป่าก้องไปทั่วค่าย เอโลอิสหันไปมองก็เห็นแซเทอร์ตัวหนึ่งวิ่งพรวดเข้ามาในค่าย สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“อสุรกายบุก! ระดมพลไปที่หน้าประตูค่ายเร็ว!!!” เสียงแซเทอร์ตะโกนดังลั่น เรียกความสนใจจากทุกคนที่ยังอยู่ในค่าย

“บุกงั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันค่ายฮาล์ฟบลัดนะ!” เธอหันไปพูดกับเคอร์ติสที่เกาะอยู่บนไหล่ สีหน้าของเธอในตอนแรกเปลี่ยนไปทันที

“กระผมว่าเรารีบไปดูที่หน้าค่ายกันเถอะขอรับ!” เคอร์ติสพูดพร้อมขยับปีกเล็ก ๆ ด้วยความร้อนรน

เอโลอิสไม่รอช้าวิ่งกลับเข้าไปในบ้านพักอย่างรวดเร็วเพื่อหยิบคันธนูประจำตัว จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังหน้าประตูค่ายทันที สิ่งที่เธอเห็นเมื่อไปถึงคือกลุ่มอสุรกายหลากหลายรูปร่างที่กำลังกรูกันเข้ามา ดูเหมือนพวกมันจะทำลายบาเรียป้องกันค่ายได้แล้ว และกำลังเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เหล่าแซเทอร์และเดมิก็อดบางส่วนที่เลือกไม่ไปเที่ยวโอลิมปัสบัดนี้กลายเป็นเหมือนนักรบที่กำลังต่อสู้ฟาดฟัดกับผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับเชิญ

"เราต้องช่วยพวกเขา!" 

เอโลอิสเอ่ยด้วยเสียงมุ่งมั่น ก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดกับร่างมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในสนามต่อสู้ เธอเบิกตากว้างเมื่อเห็นราชสีห์นีเมียนตัวหนึ่งเตรียมพุ่งเข้าใส่เดมิก็อดที่กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้อสุรกายอีกตัว

"เฮ้ ระวัง!" เธอร้องเตือนแต่นั่นยังไม่ทันการณ์

ด้วยสัญชาตญาณ เอโลอิสพุ่งตัวออกไปเต็มแรง วิ่งสุดกำลังไปยังเป้าหมาย ก่อนจะกระโดดขึ้นกลางอากาศอย่างไม่ลังเล เท้าของเธอปะทะเข้าที่ด้านข้างลำตัวของราชสีห์นีเมียนด้วยแรงทั้งหมดที่มี มันส่งเสียงคำรามลั่นพร้อมทั้งเซถลากระเด็นออกไป

“เอาล่ะเจ้าเหมียวขนทอง มาเจอกันหน่อย!” เอโลอิสกัดฟันพูด ก่อนจะกระชับคันธนูในมือเตรียมตัวเข้าสู่การต่อสู้อันดุเดือด

ราชสีห์นีเมียนคำรามก้องด้วยความดุดัน ขนสีทองของมันเป็นประกายราวกับเกราะเหล็กที่ไม่อาจทะลุผ่านได้ เธอกัดฟันแน่นเมื่อธนูดอกแรกที่ปล่อยออกไปกระทบลำตัวของมันแล้วกระเด็นออก ราชสีห์ตัวนั้นไม่แม้แต่จะสะดุ้ง มันพุ่งเข้าหาเธอด้วยความรวดเร็ว

เอโลอิสกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างเฉียดฉิวก่อนจะหันกลับมายิงธนูอีกดอก คราวนี้เล็งไปที่ดวงตาแต่เจ้าเหมียวนั่นสะบัดหัวหลบได้ทัน มันคำรามลั่น สายตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เธอขยับตัวถอยออกห่างตั้งสมาธิใหม่พลางพยายามคิดหาวิธีจัดการ

“ถ้ายิงข้างนอกเข้าไม่ได้ ก็ต้องยิงทำลายด้านในของมันดูซิจะยังอึดได้อยู่ไหม” 

เธอพูดกับตัวเองพลางตั้งลูกธนูอีกดอก ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ปากของมัน เจ้าเหมียวคำรามลั่นอีกครั้ง มันอ้าปากกว้างจนเห็นฟันอันแหลมคมก่อนจะกระโจนเข้าหาเธอ เอโลอิสอาศัยจังหวะนั้นปล่อยลูกธนูออกไปเต็มแรง ธนูพุ่งตรงเข้าไปในปากของมันก่อนจะทะลุเข้าสู่เพดานปากลึกถึงสมอง

ทันใดนั้นขนสีทองของราชสีห์เริ่มเรืองแสง เปล่งประกายสว่างวาบก่อนที่ร่างของมันจะเริ่มแตกออกเป็นละอองแสงสีทอง ละอองเหล่านั้นลอยฟุ้งกระจายไปในอากาศก่อนจะหายวับไป แต่เอโลอิสไม่มีเวลาจะมาชื่นชมความสำเร็จนี้เธอจะต้องรีบไปจัดการตัวอื่นต่อก่อนที่มันจะเข้าไปด้านในค่ายได้



สินสงคราม: หนังราชสีห์นีเมียน
โอกาสดรอปพิเศษ: ค่า LUK 100+ เลขไบต์ 0 , 7 , 9 จะมีโอกาสดรอปไข่นีเมียน

รางวัลประสบการณ์เปิดอีเว้นท์: +15 EXP +2 Point







แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-21 16:09
โพสต์ 13827 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 15:51
โพสต์ 13,827 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก สร้อยไข่มุกตาฮิตี   โพสต์ 2024-12-21 15:51
โพสต์ 13,827 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก ผลิตภัณฑ์กันแดด  โพสต์ 2024-12-21 15:51
โพสต์ 13,827 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก เกราะนักรบสีทองแดง  โพสต์ 2024-12-21 15:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x3
x1
x1
x3
x3
x9
x3
x1
x10
x10
x1
x2
x25
x2
x1
x20
x2
x4
x4
x3
x1
x1
x3
x4
x4
x2
x1
x1
x2
x45
x1
x58
x1
x1
x4
x1
x11
x1
x1
x1
x344
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x28
x2
x16
x2
x5
x28
x10
x28
x67
โพสต์ 2024-12-21 17:52:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-12-21 17:59

257
หุ่นยนต์วัวสุดสยองกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

               21/12/2024 เวลา 12.20 น.

               ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

               มิสไซร์จากจักรกลวัวล็อคเป้าเล็งมายังบุตรแห่งโพไซดอนไม่หยุด จนพื้นที่สงครามเต็มไปด้วยเปลวไฟและหมอกควันหนาทึบจนแทบจะสำลัก

               “บ้าเอ๊ย!” ดีนกัดฟันกรอด เขาสถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเข้าใกล้อสุรกายตนนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย “เมื่อไรกระสุนมันจะหมดวะเนี่ย!!”

               ปิ๊บ.. ปิ๊บ.. วืดดดด

               คล้ายโชคเข้าข้าง แม้ว่ากระสุนของจักรกลวัวสองขาจะไม่ได้หมด แต่ตอนนี้กลไกของมันขัดข้องโอเวอร์โหลดพลังงานมาเกินไปจากการโหมใช้แต่อาวุธหนัก แสงไฟสีแดงกะพริบขึ้นบนหน้าปัดกลางอก คล้ายกับว่าเขาได้ยินเสียงเอไอภาษากรีกดังมาจากตัวมัน

               『Ἡ ψῦξις πάλιν ἕτοιμος ἔσται μετὰ ἑκατὸν πεντήκοντα ὀκτὼ δευτερόλεπτα.』 (คูลดาวน์: พร้อมใช้งานใหม่ในอีกหนึ่งร้อยห้าสิบแปดวินาที)

               ดีนยังฟังภาษายาก ๆ ไม่ออก แต่เขารู้ว่านี่คือโอกาสทองที่ต้องรีบจัดการหุ่นยนต์ในขณะที่มันหยุดชะงัก

               ทว่า…

               “โอ๊ยยย พี่ดีนคะ.. ช่วยหนูด้วย…”

               เสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากหลังเขม่าควันสีดำที่เริ่มจางลง ทำให้ชายหนุ่มเผลอหยุดชะงักไปด้วย มีร่างเงาหนึ่งที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นหญ้าที่ลุกติดไฟ เมื่อฝุ่นควันจางหายไปหมดเขาเห็น ‘เจโนวีฟ อีเมอร์สัน’ ธิดาแห่งอะโฟร์ไดท์ อยู่ในสภาพโชกเลือด ชุดสวย ๆ ขาดเวิ่นและไหม้เกรียม ผิวหนังบางแห่งพุพองหลุดลอกเป็นแผลเหวอะหวะ เส้นผมสีแพล็ตตินัมบลอนด์ยาวสลวยไหม้ไฟจนหงิกงอ สภาพอันน่าเวทนาเหลือเค้าโครงของสาวงามบ้านกุหลาบสีทองเพียงน้อยนิด

               ภาพที่เห็นทำเอาดีนตกอยู่ในอาการช็อก ลมหายใจเริ่มติดขัด.. อาการกลัวเลือดกำเริบก็ใช่ แต่ที่เหนือกว่านั้นคือเขาเป็นห่วงเด็กสาวที่นอนพะงาบรอความตาย

               “เจโนวีฟ!!”

               ตรีศูลในมือหดกลับเป็นรูปร่างของกำไล ดีนละทิ้งการต่อสู้ รีบพุ่งตัววิ่งไปหาเด็กสาวที่ไหม้เกรียม นั่งลงทรุดเข่าประคองร่างอันเปราะบางขึ้นมา คล้ายกับเธอจะแหลกสลายไปได้ทุกเมื่อ ใบหน้างดงามของน้องน้อยต่างบ้านผู้แสนสดใสเสียโฉมไปครึ่งซีก มันทำให้เขาใจสลาย หยาดน้ำจากดวงตาสีเปลือกไม้หยดลงบนข้างแก้มนวลอย่างหักห้ามตัวเองไม่ได้ ดีนพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นเพราะว่าตอนนี้มีเพียงเขาที่ช่วยเหลือเธอได้

               ‘ตั้งสติสิวะดีน ตั้งสติ!’

               “อาหารเทพ.. ใช่.. อาหารเทพ.. แถวนี้น่าจะมีหน่วยพยาบาลสิ!”

               ชายหนุ่มอุ้มร่างเด็กสาวที่จวนเจียนจะสิ้นใจขึ้นมาปากก็พึมพำถึงอาหารเทพ หรือน้ำทิพย์ แถวนี้จะมีใครมีสิ่งของเหล่านั้นบ้าง.. หรือบุตรแห่งอะพอลโล่จะช่วยรักษาให้ได้ไหม

               แว้บหนึ่งในความคิด ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าย้อนกลับมา…

               ภาพของเทพอะพอลโล่ผู้หล่อเหลาเดินผ่านหน้า… ย้อนกลับไปอีก…

               ดีนโบกมือลารีชาและเจโรม… ย้อนกลับไปอีกหน่อย…

               เจโรมเอาแต่มองไปทางกลุ่มเด็กบ้านอะไฟร์ไดท์…

               ‘เดี๋ยวนะ… เด็กอะโฟร์ไดท์นอกจากเดม่อนก็ไปโอลิมปัสกันทั้งบ้านไม่ใช่เหรอ? แล้วที่อุ้มอยู่… ใครวะ?’

               ฝีเท้าที่วิ่งวุ่นหาหน่วยพยาบาลหยุดชะงัก เขามองร่างในอ้อมแขนด้วยสีหน้าตระหนก จากน้ำตาที่หลั่งไหลกลายเป็นเหงื่อเม็ดโตผุดที่ข้างแก้ม เขามองใบหน้าของสาวน้อยที่เสียโฉมค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกขาวที่มีเก้าหาง ปากยาว ๆ ของมันแสยะยิ้ม

               『รู้ตัวซะแล้วรึ หมดเวลาเล่นสนุกแล้วสินะ!!』

               ปีศาจจิ้งจอกพุ่งงับขอของเดมิก็อดสายเลือดเจ้าสมุทร ดีนเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับโยนอสุรกายแปลงร่างทิ้งไป แม้จะไม่โดนคอหอยแต่ระยะที่แสนใกล้ทำให้เขาถูกงับเข้าที่ไหล่ กว่าจะสะบัดมันออกได้ก็เล่นซะเลือดชุ่มโชกไปทั้งแขนข้างซ้าย

               『สายเลือดมหาเทพ.. อร่อยมาก』 ปีศาจจิ้งจอกเลียริมผีปาก

               “หนอยแน่แก…” ดีนกัดฟันแน่น พยายามข่มความเจ็บปวดไม่ให้แล่นลามไปทั้งครึ่งซีกซ้าย แต่เหนืออื่นใดเขาโกรธที่มันบังอาจมาเล่นกับจิตใจของคน…

               มือขวาที่ชุ่มเลือดปล่อยออกจากบาดแผลที่ไหล่ซ้าย อัญมณีสีน้ำทะเลเรืองแสงอีกครั้งก่อนที่คราวนี้โลหะจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาบตรีศูลที่มีใบมีดทั้งหมดสามใบ คมดาบเป็นประกายแวววาวเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ดวงตาปีศาจจิ้งจอกวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างท้าทาย มิได้กลัวเกรงโทสะของบุตรเทพวารี

               『ตายซะ!!!』

               ปีศาจจิ้งจอกพุ่งตัวเข้าไปกัดอีกครั้ง แม้ว่าดีนจะได้รับบาดเจ็บจนเคลื่อนตัวช้ากว่าเดิมเกือบเท่าตัวเขาจึงเลือกที่จะไม่หลบคมเขี้ยวของสัตว์ร้ายแต่เลือกที่จะเผชิญหน้ากับมันไปตรง ๆ

               “ย้ากกกก!!!”

               ชายหนุ่มไม่เคยใช้ดาบมาก่อน เขาจึงใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์การต่อสู้ล้วน ๆ ในการพิชิตศัตรู ดีนหมุนตัวหลบการโจมตีของจิ้งจอกเก้าหาง ใช้โมเมนตัมแกว่งดาบสามง่ามอย่างสุดแรงด้วยแขนทั้งสองข้างที่สั่นเทา เพียงพริบตาเดียว ร่างของปีศาจจิ้งจอกก็ถูกแยกออกเป็นสามท่อนอย่างน่าสยดสยอง แต่ไม่ทันที่เศษชิ้นส่วนของมันจะตกสู่พื้นร่างนั้นก็สลายเป็นธุลีเถ้าไปก่อน

               จังหวะเดียวกันนั้นเอง…

               『Το λειτουργικό σύστημα είναι έτοιμο. Εκκίνηση: Μηχανή Θανάτου』(ระบบปฏิบัติการพร้อมใช้งาน ทำการเปิดเครื่อง: เดธแมชชีน)

               ดวงตาของหุ่นจักรกลสว่างวาบขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มันคูลดาวน์ไปเกือบ ๆ สามนาที เมื่อทำงานเต็มรูปแบบมันก็กลับมาล็อคเป้าเดมิก็อดคนเดิมด้วยความเกรี้ยวกราด คราวนี้มันยิงเลเซอร์สีแดงออกมาจากปากกระบอกปืน ดาบสามง่ามในมือของดีนแปรเปลี่ยนรูปร่างเป็นโล่ทรงกลมอย่างรวดเร็ว

               ‘เกือบจะลืมไอ้เวรนี่ไปเลย…’

               ตอนนี้ดีนพอจะรู้แล้วว่าจุดอ่อนของหุ่นสังหารคืออะไร หากยันไว้ได้จนพลังงานหมดมันจะทำการชัตดาวน์เพื่อคูลดาวน์ตัวเอง แต่ว่าตัวเขาจะถือโล่กันไว้ได้นานแค่ไหนเนี่ยสิ…

               ไม่เพียงแค่ดีนที่เกิดกระบวนการเรียนรู้ เอไอของหุ่นก็เช่นกัน มันไม่เอาแต่ปล่อยพลังอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับครั้งแรก แต่ยิงเลเซอร์ใส่เป็นพัก ๆ และหยุดยิงเพื่อไม่ให้เซลล์พลังงานร้อนจนช็อต กระนั้นหุ่นยนต์ก็ไม่สมบูรณ์แบบ เพราะว่ามันพยายามจะสมบูรณ์แบบ รูปแบบการยิงเลเซอร์ของเครื่องจักรสังหารเป็นจังหวะเกินไปจนดีนจับทางได้


               เมื่อมันหยุดยิงชั่วครู่ ดีนจึงวิ่งไปปะชิด เปลี่ยนโล่เป็นหอกตรีศูล เน้นจ้วงแทงตามจุดข้อต่อต่าง ๆ ประกายไฟแปรบปราบเมื่อสายวงจรตามแขนขาถูกตัดขาด เพียงไม่นานหุ่นสังหารก็กลายเป็นเป้านิ่ง ด้ามหอกหดเล็กสั้นตามใจนึกของผู้ใช้ เปลี่ยนเป็นเพิ่มความยาวที่ใบดาบแทน ดีนฟันคอของเครื่องจักร มันไม่ขาดสะปั้นง่าย ๆ เนื่องจากเป็นเหล็กชั้นดี ชายหนุ่มจึงกระโดดขึ้นไปขี่คอมันก่อนจะปักดาบสามง่ามไปที่หลังคอที่น่าจะเปราะบางกว่าส่วนอื่น เฉือนหัวของมันจดขาดกระเด็น

               “ย้ากกกก!!”

               『Το σύστημα έχει υποστεί σοβαρή ζημιά. Δεν μπορεί να συνεχίσει να λειτουργεί. Ο πυρήνας ενέργειας είναι στο μηδέν τοις εκατό.』(ระบบเสียหายอย่างหนัก ไม่สามารถทำงานต่อได้ แกนพลังงานเหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์)

               ไฟสีแดงที่ตาและตามจุดวงจรต่าง ๆ ของเดธแมชชีนกะพริบปริบ ก่อนที่มันจะดับไปอย่างถาวร ทว่าหนุ่มสายเลือดโพไซดอนที่อยู่ในโทสะตั้งแต่ถูกปีศาจจิ้งจอกปั่นหัวก็ยังจ้วงแทงเศษเหล็กนั้นไม่หยุดราวกับใช้มันแทนสนามอารมณ์

               เงาแร็กนาร์ปรากฏขึ้นด้านหลังแต่เมื่อมันเห็นว่าคู่ต่อสู้คือใครและอยู่ในสภาวะทางอารมณ์แบบไหนเงานั้นก็รีบจาง เปลี่ยนเป้าหมายไปเล่นงานเดมิก็อดคนอื่นแทน…

               “ย้ากกกก!! ตายซะ!! แกตาย!!!”

               ขณะที่แทงเศษซากไปเรื่อย ๆ มือของเขาก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้

               “พอได้แล้วดีน…” น้ำเสียงเรียบนิ่งดังขึ้นเหนือหัว

               คนที่หยุดการกระทำอันบ้าคลั่งและเปล่าประโยชน์ของดีนไว้คือ ‘เลนน็อค เทย์โคลิส’ บุตรแห่งฮาเดส ที่แอบมุดเงามาอยู่ด้านหลังของเขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัว

              เมื่อได้สติชายหนุ่มหันมองไปรอบ ๆ การต่อสู้ยังคงอยู่ แต่ศัตรูที่เขาจัดการสิ้นชีพไปแล้ว ตรงนี้นอกจากเลนน็อคแล้วยังมีแซเทอร์ผิวดำผมทรงแอฟโฟร่อยู่อีกหนึ่งคน ดีนจำได้ดีว่านี่คือ ‘บ๊อบบี้ ลอซ’ เพื่อนเก่าสมัยประถม ซึ่งอยู่ในอาการกล้า ๆ กลัว ๆ

               “โอ้.. ฉัน” อาวุธในมือถูกหดคืนในรูปแบบของกำไล ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบใบหน้า คราบเลือดของตัวเองที่ยังไม่แห้งดีจึงเลอะติดหน้าคมสันจนดูไม่ได้

               “นายต้องไปพัก รักษาตัวเองและสงบจิตใจซะ สภาพนี้.. ไม่พร้อมจะต่อสู้” เลนน็อคกำชับ คำของบุตรแห่งความตายกระชับและเฉียบขาด “แซเทอร์ พาเขาไปดูแล แล้วก็สินสงครามพวกนี้… เอาไปด้วย”

               “คะ.. ครับ” บ๊อบบี้ตอบรับอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เขาโกยสินสงครามจากปีศาจจิ้งจอกและหุ่นนรกขึ้นมาใส่กระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะค่อย ๆ ประคองดีนที่บาดเจ็บขึ้นมา

               “ฝากนายด้วยนะเลนนี่.. ถ้าเป็นนายฉันรู้ว่าสถานการณ์ตรงนี้ต้องดีขึ้นแน่ ๆ”

               “อืม… แล้วเจอกันในค่าย เพื่อน”

               ชายหนุ่มทั้งสองชนหมัดกันก่อนที่ดีนจะถูกแซเทอร์น้อยประคองเข้าไปรักษาตัวอยู่ในเขตปลอดภัย


ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต [คิตสึเนะ] ครั้งแรก
สินสงคราม:
ใบไม้วิเศษ 3 หน่วย

ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต [เดธแมชชีน] ครั้งแรก
สินสงคราม: โลหะผสมพิเศษ 10 หน่วย และ น้ำมันหล่อลื่น 1 หน่วย

สรุปสถานการณ์ Winter is Coming II คร่าว ๆ
เลนน็อค เทย์โคลิส มาประจำจุดหน้าประตูค่าย แทนดีนที่ไปพักรักษาตัว

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 31237 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 17:52
โพสต์ 31,237 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมืออัจฉริยะ  โพสต์ 2024-12-21 17:52
โพสต์ 31,237 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2024-12-21 17:52
โพสต์ 31,237 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก แว่นตา  โพสต์ 2024-12-21 17:52
โพสต์ 31,237 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก เข็มทิศมหาสมุทร  โพสต์ 2024-12-21 17:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +4 ย่อ เหตุผล
God + 4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-12-21 19:02:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 21 ธันวาคม 2024
เวลา 12.30 น.



ขณะที่การต่อสู้บริเวณหน้าค่ายเต็มไปด้วยความดุเดือด เสียงอาวุธกระทบกันดังกึกก้อง ผสมกับเสียงคำรามของอสุรกายและเสียงตะโกนสั่งการของเดมิก็อดที่วิ่งวุ่นเพื่อปกป้องค่าย แต่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนั้นเอง จู่ ๆ เสียงร้องแหลมสูงของใครบางคนก็ดังขึ้น

“ช่วยด้วยยย ใครก็ได้ช่วยด้วยยย!”

เอโลอิสที่กำลังง้างธนูเตรียมยิงเป้าหมายสะดุ้งเล็กน้อย หูเธอสะดุดกับเสียงนั้นจนต้องลดคันธนูลงและรีบมองหาต้นเสียง ก่อนจะหันไปเห็นร่างของหญิงสูงวัยคนหนึ่ง นั่งกองอยู่กับพื้นไม่ไกลนัก มือกอดเข่าตัวเองพลางกรีดร้องเสียงหลง เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้ถึงได้เห็นชัดว่าไม่มีอสุรกายตัวไหนสนใจป้านั่นเลย พวกมันเดินผ่านเธอไปราวกับเธอเป็นอากาศธาตุ

"นี่มันอะไรกันเนี่ย…ธิดาไทคีนี่มากับดวงจริง ๆ สินะ" เอโลอิสยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความงงงัน ขณะที่ยัยป้ายังคงตะโกนร้องเสียงดังเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองไม่ได้ตกเป็นเป้าหมายของอสุรกายใด ๆ

“อ้าว ป้ามาทำอะไรตรงนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวโอลิมปัสเหรอ?” เอโลอิสถามพลางยกมือเท้าสะเอว มองป้าด้วยสายตาเหมือนอยากรู้ว่าป้าคิดอะไรอยู่ถึงมาโผล่กลางสมรภูมิแบบนี้

“ฉันจะไปทำอะไรที่โอลิมปัสนั่นกัน ไปดูแม่ที่หน้าเด็กกว่าฉันน่ะเหรอ?” ป้าตอบเสียงอู้อี้ พลางยู่ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล

“แล้วมาทำอะไรตรงหน้าค่ายล่ะป้า ทำไมไม่ไปหาที่ปลอดภัยหลบ” เอโลอิสถามด้วยสีหน้าสงสัย พลางชะโงกดูไปรอบ ๆ สมรภูมิที่ยังคงเต็มไปด้วยการต่อสู้

“ก็ฉันกลัวนี่ยะ! เด็กอย่างเธอจะไปรู้อะไร คนเล่นแห่มาหน้าค่ายกันเกือบหมด ถ้าฉันหลบอยู่ในบ้านคนเดียวแล้วเกิดมีอสุรกายมาฉุดฉันจะทำยังไง คนยิ่งสวย ๆ อยู่” คาเรนตอบเสียงสูงพลางมองไปยังสมรภูมิที่กำลังเกิดขึ้นด้วยความกังวล

“หนูว่านะคงไม่มีใครเขามาฉุดป้าหรอก ป้าหนังเหนียวกินไม่อร่อย” เอโลอิสพูดพลางถอนหายใจ

"อุ๊ย! นั่นตัวอะไรน่ะมีตาเดียว ขอป้าไปดูใกล้ ๆ หน่อยจะต้องเอาไปตีหวย งวดนี้มาแน่!" ป้าตาโตและรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นไซคลอปส์ที่กำลังเดินผ่านไป มันมีรูปร่างใหญ่โตและมีตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก

"เฮ้ยเดี๋ยวป้านั่นมันไซคลอปส์!" 

เอโลอิสตะโกนเรียกเสียงดัง พยายามวิ่งไปดึงแขนป้าให้หยุด แต่ป้าดันไม่สนใจเธอและไม่ยอมฟัง รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว ป้าพยายามมองเจ้าไซคลอปส์ที่อยู่ในระยะห่างกันไม่มากนับนิ้วตัวเองเหมือนกำลังพยายามใช้ศาสตร์บ้างอย่างในการตีความภาพที่เห็นให้กลายเป็นเลขเด็ด แต่ทว่าเพียงไม่นานไซคลอปส์ก็เริ่มรับรู้ถึงการมีตัวตนของป้าแล้วเดินเข้ามาหาหวังจะจัดการทิ้งเสีย ป้าเมื่อเห็นดังนั้นก็กรี๊ดลั่นวิ่งมาหลบด้านหลังของเอโลอิสมือของป้าจับต้นแขนทั้งสองข้างของเธอแน่น

“ยะ…อย่าทำอะไรฉันนะ ถ้าจะทำก็ทำยัยเด็กนี่แทน!” ป้ารีบพูดขึ้นมาทันทีแบบรักตัวกลัวตายสุด

“อ้าวป้า!” เอโลอิสหันไปมองป้าที่ยังหลบอยู่ด้านหลังเธอด้วยสีหน้าอิหยังวะ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้ เรื่องที่เธอควรสนคือจะทำยังไงให้ตัวเองรอดจากไซคลอปส์ตัวนี้มากกว่า สู้ก็สู้วะ!

ไซคลอปส์ยักษ์คำรามลั่นก่อนจะพุ่งเข้าหาเอโลอิสพร้อมกำปั้นขนาดยักษ์ที่พร้อมจะหวดเธอ เอโลอิสหลบหลีกไปทางขวาอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะกระโจนขึ้นไปยิงธนูที่หัวใจของมัน แต่ไซคลอปส์กลับหมุนตัวหลบและทุบพื้นอย่างแรงจนเกิดแรงสะเทือน

“เกือบไปแล้ว” เอโลอิสถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะหลบการโจมตีอย่างฉิวเฉียด แม้จะหลบได้แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยจากการหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง

“นี่! เอาแต่หลบแล้วเมื่อไหร่มันจะตายยะ! ยิงมันสิยังมัน!” ป้าตะโกนพูดเสียงดังแบบไม่สนใจสถานการณ์ สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่ไซคลอปส์ที่กำลังบ้าคลั่ง

การต่อสู้กับไซคลอปส์ยังคงดุเดือด แม้ว่ามันจะไม่มีอาวุธแต่กำปั้นขนาดใหญ่ของมันกลับสามารถสร้างแรงกระแทกที่รุนแรงได้ เอโลอิสต้องหลบหลีกอย่างฉิวเฉียด เพื่อไม่ให้ถูกกำปั้นมหึมาของมันฟาดเข้าให้

“มันก็ต้องอาศัยจังหวะนี่คะป้า ป้าไปหาที่หลบเลยไป!” เอโลอิสพูดเสียงแหลม พร้อมทั้งหลบการโจมตีที่แสนอันตรายไปด้วย

“เอ๊ะ! ยัยเด็กนี่เป็นเด็กเป็นเล็กยังจะมาเถียงอีก ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนนะยะ” ป้าตอบอย่างขัดใจ ก่อนเอามือเท้าเอวยืนสั่งสอนเธอไม่ยอมไปหาหลักแหล่งหลบให้เป็นที่เป็นทาง

“จะน้ำอะไรหนูไม่สนหรอก แต่ถ้าป้าไม่เงียบปาก น้ำเดียวที่ป้าจะได้คือน้ำอาบศพในงานของป้าน่ะ!” เธอตะโกนกลับไปอย่าหงุดหงิด แต่ทำให้ป้ายอมหุบปากลงได้

ไซคลอปส์คำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ขณะที่กำปั้นมันพุ่งมาหาเอโลอิสอีกครั้ง เอโลอิสหันไปมองมันแวบหนึ่งแล้วตัดสินใจเด็ดขาด เธอกระโดดหลบไปดึงธนูขึ้น เจ้าไซคลอปส์ทำท่าจะโจมตีเธอ เอโลอิสรีบยิงลูกธนูไปที่ตาของมันอย่างแม่นยำ ทำให้ไซคลอปส์ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด หยุดการโจมตีและกุมตาของมัน

เอโลอิสไม่รอช้า รัวธนูไปอีกชุดเพื่อให้มันใจว่าเจ้าไซคลอปส์ตัวนี้จะไม่สามารถมีชีวิตรอดไปได้ มันร้องคำรามอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ร่างมันจะเริ่มสั่นสะท้านและล้มลงไปกับพื้นค่อย ๆ สลายไปทีละนิด ก่อนจะกลายเป็นละอองสีทองลอยขึ้นไปในอากาศและจางหายไปจนหมด




สินสงคราม: ตาไซคลอปส์






แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2024-12-21 19:14
โพสต์ 18494 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 19:02
โพสต์ 18,494 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก สร้อยไข่มุกตาฮิตี   โพสต์ 2024-12-21 19:02
โพสต์ 18,494 ไบต์และได้รับ +2 EXP +7 ความศรัทธา จาก ผลิตภัณฑ์กันแดด  โพสต์ 2024-12-21 19:02
โพสต์ 18,494 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก เกราะนักรบสีทองแดง  โพสต์ 2024-12-21 19:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x20
x3
x1
x1
x3
x3
x9
x3
x1
x10
x10
x1
x2
x25
x2
x1
x20
x2
x4
x4
x3
x1
x1
x3
x4
x4
x2
x1
x1
x2
x45
x1
x58
x1
x1
x4
x1
x11
x1
x1
x1
x344
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x28
x2
x16
x2
x5
x28
x10
x28
x67
โพสต์ 2024-12-21 20:47:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด






TO THE OLYMPUS
 21-12-2024 | 08.00 PM



               แสงแดดยามเช้าทอประกายระยิบระยับผ่านยอดไม้สูงของค่ายฮาล์ฟบลัด เสียงนกร้องประสานกันเป็นจังหวะธรรมชาติ ขณะที่กลุ่มเด็กครึ่งเทพเริ่มทยอยกันมารวมตัวที่ประตูทางเข้า อากาศสดชื่นแฝงกลิ่นหอมของดินชื้นและต้นสน เสียงพูดคุยเบา ๆ ของเหล่าเด็ก ๆ คล้ายกับเป็นเสียงกระซิบแห่งความตื่นเต้น


               ร่างบางของไนมีเรียปรากฏขึ้นจากเส้นทางที่ทอดมาจากเขตเคบิน เดรสหนังสีเข้มของเธอสะท้อนแสงเล็กน้อยเมื่อเคลื่อนไหว คาดิแกนสีดำคลุมไหล่ของเธอเพิ่มความสง่างาม เจ้าของดวงตาสีเฮเซลมองไปรอบ ๆ อย่างนิ่งสงบ แต่ในแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น


               ไครอน เซนทอร์ผู้เป็นผู้นำของค่าย ยืนอยู่เบื้องหน้า เขาใช้ไม้เท้าชี้ไปยังเด็ก ๆ ที่ทยอยมาถึง ใบหน้าของเขาจริงจังและเปี่ยมด้วยความห่วงใย “พวกเธอทุกคนจำไว้ โอลิมปัสคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเปราะบางในแง่มารยาท อย่าลืมว่าทุกการกระทำของพวกเธอจะสะท้อนถึงสายเลือดและตัวตน”

ไครอนก็ปรากฏตัวมาพร้อมกับการเรียกเด็ก ๆ เพื่อประกาศกำหนดการ


               “เอาล่ะทุกคน ฟังทางนี้” เซนทอร์วัยกลางคนปรบมือสองสามครั้ง ดึงความสนใจจากกลุ่มเยาวชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการทัศนาจรให้เบี่ยงเบนมาทางเขา “ ผมดีใจที่เห็นว่าทุกคนให้ความสนใจในการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว แต่ถึงจะเป็นการรวมญาติ กฏระเบียบและกำหนดการที่ควรปฏิบัติก็ยังมีอยู่”


               “ผู้ที่จะมาทำหน้าที่รับส่งคือ เทพอะพอลโล่ ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการเสียมารยาท— แม้ว่าเขาจะขี้เล่นและไม่ค่อยถือสาก็ตาม ทุกคนมีเวลา 1 วัน บนโอลิมปัส นั่นหมายความว่าวันที่ 22 พวกเธอจะได้กลับมาที่ค่ายนตอนเช้า ฉะนั้น.. ใช้เวลาของตัวเองให้เต็มที่ ”


               ผู้อำนวยการของค่ายหันหน้าไปมองรถโรงเรียนสีเหลืองฉูดฉาดที่เข้ามาเทียบท่า ก่อนจะกล่าวสิ่งที่ต้องการประกาศเป็นเรื่องสุดท้าย “ หลังจากนี้คนที่อธิบายต่อจะเป็นเทพอะพอลโล่ เชื่อฟังเขาให้มากหน่อย อย่าสร้างปัญหากันนะเด็ก ๆ ”


[ อ้างอิงจากโรลของ Nereza คนสวย ]


               เสียงเครื่องยนต์ดังแว่วมาจากระยะไกลก่อนรถบัสสีเหลืองจะปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงแดด ตัวรถบัสเปล่งประกายระยิบระยับจนเหมือนทำจากแสงอาทิตย์ รถคันนี้คือของเทพอพอลโล่ สุริยเทพผู้มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและความเป็นมิตร เมื่อรถบัสจอดนิ่งตรงหน้ากลุ่มเด็ก ๆ ประตูรถเปิดออกพร้อมเสียงกลไกที่ลื่นไหล เทพอพอลโล่ก้าวออกมาด้วยท่าทางผ่อนคลาย ผมสีทองสลวยของเขาไหวเบา ๆ ตามแรงลม ดวงตาสีทองประกายอ่อนโยนประดับบนใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับงานแกะสลักชั้นเอก


               “ยินดีต้อนรับเด็ก ๆ! ขึ้นมาได้เลยมัวรออะไรกันล่ะ ?” อพอลโล่เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริง ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนที่ดูเหมือนสามารถปลอบประโลมทุกคนได้


               "ขอบคุณที่มารับพวกเราแทนการเดินเท้าหรือไปเสี่ยงเป็นอาหารอสุรกายนะคะ" คล้อยหลังชาวค่ายส่วนใหญ่ ไม่รีบร้อนหรือรั้งท้ายจนเกินไปไนมีเรียก้าวขึ้นไปยืนตรงหน้าเขา เธอยื่นครีมกันแดดขวดเล็ก ๆ ออกมาให้ “เมื่อกลางคืนหายไปฉันคิดว่าสิ่งนี้อาจมีประโยชน์สำหรับคุณ”


               ให้ครีมกันแดดกับเทพแห่งดวงตะวัน? เทพสุริยหัวเราะเบา ๆ อย่างมีอารมณ์ขันและรับไว้ด้วยความยินดี “ถูกของเจ้า มันจะช่วยสักคนได้มากทีเดียวในวันที่แดดจ้าแบบนี้”


               เมื่อขึ้นมาบนรถบัส ไนมีเรียกวาดสายตามองหาที่นั่งว่าง เธอเลือกที่นั่งหลังสุดริมหน้าต่าง จุดที่เงียบสงบที่สุดและสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน เด็กสาววางกระเป๋าสะพายข้างไว้บนที่นั่งข้าง ๆ เพื่อกันไม่ให้ใครมานั่งร่วม เธอหยิบแอร์พอดขึ้นมาสวม ดวงตาสีเฮเซลจับจ้องวิวภายนอกผ่านกระจกใสขณะที่เพลงร็อคจังหวะหนักหน่วงเริ่มบรรเลง


               “เธอเลือกที่นั่งได้ดีจริง ๆ เข้าช่วงปฎิเสธสังคมหรือยังไง” เสียงของคลาริสซ่าดังขึ้นในหัว


               “ต้องการพื้นที่เงียบ ๆ เพื่อวางแผนการเดินทางที่กำลังมาถึงน่ะ” ไนมีเรียตอบกลับในความคิด “ดูแล้วทุกคนคงตื่นเต้นกับการได้ไปพบเหล่าเทพตัวเป็นๆ ไม่มีเวลามาสนใจฉันหรอก”


               วิญญาณสาวหัวเราะเบา ๆ “แต่ดูเหมือนเธอจะลืมสังเกตนะ มีบางคนที่เธอคุ้นตานั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ”


               ภายในรถบัสที่ออกแบบอย่างสะดวกสบาย ทุกอย่างถูกประดับด้วยสีอ่อนตา และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ประหลาดลอยมาแตะจมูก เสียงพูดคุยจอแจของเด็กครึ่งเทพดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


               แน่นอนว่าไม่มีใครสังเกตเรื่องที่แอร์พดอีกข้างของเธออยู่ในโหมด OFF ไม่ว่าจะบทสนทนารึเสียงเครื่องยนต์เธอได้ยินทั้งหมดเผื่อป้องกันเหตไม่คาดฝัน ไนมีเรียดูไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เธอปรับเบาะเอนเล็กน้อยก่อนดึงหมวกปีกกว้างมาคลุมศีรษะ ราวกับต้องการบอกทุกคนว่าอย่ารบกวน เสียงเพลงจากแอร์พอดยังคงบรรเลงอยู่ในหูของเธอ แต่ในใจของธิดาแห่งเฮคาทีกลับเต็มไปด้วยความคิดหลากหลายเกี่ยวกับสิ่งที่อาจรอเธออยู่ในโอลิมปัส


               “เธอคาดหวังอะไรจากที่นั่นหรือเปล่า?” แคลร์ถามขึ้นอีกครั้ง


               “ฉันดูเป็นแบบนั้นหรอ์” 


               “โอ้ เลิกอมพะนำน่า ฉันอยู่กับเธอมานานพอจะรู้ว่ามนุษย์ค้างคาวอย่างเธอไม่ยอมลุกแต่ฟ้าสางแค่การไปเที่ยวแน่”


               ไนมีเรียยิ้มเล็กน้อย “บางทีฉันอาจต้องการแค่บททดสอบใหม่ อะไรที่.. ไม่น่าเบื่อจนเกินไป”


               รถบัสสีเหลืองทองแล่นออกจากประตูค่าย ภาพของต้นไม้และทางเดินรอบค่ายค่อย ๆ ลับสายตาไป ไนมีเรียเอนตัวพิงเบาะ หลับตาลงปล่อยให้เสียงเพลงและความคิดในใจพาเธอเข้าสู่ความเงียบสงบ


BELIEVER [ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ] โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15

มอบครีมกันแดด ให้อพอลโล่ 

เป็นเทพก็ต้องทานะต่อให้คุณอยู่ใกล้พระอาทิตย์ระยะเผาขนก็ตาม



@God 







แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-09] อะพอลโล เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2024-12-21 21:09
โพสต์ 26811 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-21 20:47
โพสต์ 26,811 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก หยกหงส์คู่นิรันดร์  โพสต์ 2024-12-21 20:47
โพสต์ 26,811 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-21 20:47
โพสต์ 26,811 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-21 20:47
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เวทมนต์ [II]
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
หยกหงส์คู่นิรันดร์
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
หมวกเกราะ
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x5
x1
x2
x6
x3
x3
x17
x5
x4
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x3
x3
x11
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้