245 ยินดีต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัด
14/12/2024 - 9.00 น.
ในที่สุดการเดินทางโดยรถไฟอันแสนยาวนานก็จบลงเสียที!
ขอเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้คร่าว ๆ…. สามเดมิก็อดจากค่ายฮาล์ฟบลัดมาถึงนิวยอร์กตอนเช้าตรู่ พวกเขาลากสัมภาระขึ้นรถไฟแอลไออาร์อาร์กันอีกสามชั่วโมง กว่าจะถึงหน้าประตูค่ายฮาล์ฟบลัดที่ตั้งอยู่ ณ ถนนฟาร์ม ลองไอแลนด์
จากการเดินทางอันยาวนาน.. ขึ้นรถไฟ ต่อรถไฟ ลงรถไฟอยู่หลายครั้ง ทำให้เด็กดีที่เดินทางบ่อยอย่างเชมัสยังต้องถาม “ต้องต่อรถอีกเหรอฮะ?”
“ต่อสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวก็ถึงค่ายฮาล์ฟบลัดแล้วล่ะ พอไปถึงนายก็เตรียมใจรับกับความแฟนตาซีไว้ได้เลย ที่นั่นนะมีผู้อำนวยการเป็นเซ็นทอร์ มีที่ปรึกษาค่ายเป็นเทพแห่งไวน์ มีแม่ครัวเป็นฮาร์ปี้ แล้วก็มีเพื่อน ๆ ที่จะช่วยนายฝึกซ้อมเป็นมนุษย์ครึ่งแพะ..”
“ฮะ” เชมัสพยักหน้า เขาพยายามจินตนาการตาม
ภายในหัวของเด็กชายวัยสิบสองปีนั้น ค่ายฮาล์ฟบลัดน่าจะเป็นสถานที่ที่สนุกสนานไม่แพ้กับซิกส์แฟลกส์เฟียสต้าโซนลูนี่ตูนส์ที่เพิ่งไปเที่ยวกันมาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และเมื่ออยู่ที่นี่จะไม่เจอสัตว์ประหลาดน่ากลัวเหมือนที่ตลาดนัดในซานอันโตนิโออีก
“แล้วผมจะได้เจอคุณพ่ออีกเมื่อไรฮะ แล้วคุณแม่ของผมที่เป็นเทพ….”
“เอ่อ… เรื่องนั้น”
ดีนหันไปมองแมคเคนซีราวกับขอความช่วยเหลือ ทั้งสองยังไม่รู้ว่าเชมัส แคตต์ คือบุตรชายของเทพหรือเทพีองค์ใด เข้าไปแล้วจะได้รับรองบุตรเลยหรือไม่ หรือจะเป็นเด็กที่ต้องอยู่บ้านเฮอร์มีสโดยไม่เคยมีตราสัญลักษณ์ขึ้นหัวแบบข้ามปีข้ามชาติ
@Mackenzie “อืม ใช่ อยู่ค่ายนายพึ่งพาเราได้เสมอ นอกจากนี้ยังมีคนอื่น ๆ อีกเช่นพี่น้องร่วมสายเลือดของนายจริง ๆ หรือไม่ก็เพื่อนจากบ้านเฮอร์มีส”
แมคเคนซีพูดดีจัดจนดีนไม่มีอะไรจะเสริมไปมากกว่าประโยคข้างบน
ระยะทางที่จะถึงค่ายฮาล์ฟบลัดหดสั้นลงไปทุกที พอพวกเขาลงรถไฟมา เดินไปตามถนนฟาร์มสามจุดหนึ่งสี่หนึ่ง ขึ้นไปตามเนินฮาล์ฟบลัดจนพบเส้นทางเล็ก ๆ และซุ้มประตูรูปทรงกรีกที่ปักคบเพลิงส่องแสงนำทางไว้เรียงราย ใกล้กันนั้นมีรูปปั้นของเทพีอะธีนาซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์ค่าย ไม่ให้อสุรกายร้ายย่างกรายเข้ามา
“ยินดีต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัด เมื่อเดินเข้าประตูไปแล้วนายจะได้พบกับโลกใบใหม่”
ออมเล็ตกระดี๊กระด๊าใหญ่ดีใจเหมือนได้กลับบ้าน มันกระตุกสายจูงเร่งเร้าให้ดีนพาเดินเข้าไป เมื่อเข้าสู่เขตอาคมของขนแกะทองคำ ตราสัญลักษณ์รูปเปลือกหอยเชลก็ปรากฏเด่นเป็นสง่าเหนือศีรษะของเด็กชายเชมัสในทันที
@Mackenzie
“หืม?” ดีนที่เดินนำหน้าชะงักเล็กน้อย เขาหันไปมองตามที่แมคเคนซีกระตุกแขน แล้วหลุดอุทานออกมาอีกครั้ง “โอ้!”
ตราสัญลักษณ์รูปเปลือกหอยลอยอยู่บนศีรษะเด็กหนุ่มเป็นรูปแบบที่ดีนไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็คาดเดาเทพเจ้าจากภาพฉายได้ไม่ยาก หอยคือสัตว์น้ำ เทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่ดีนนึกออกมีอยู่สองพระองค์ คือมหาเทพโพไซดอนเจ้าสมุทร และอีกองค์คือเทพีแอมฟิไทรต์ราชินีแห่งแอตแลนติส ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงตราสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนหัวของเขาและรีชา มันเป็นรูปตรีศูล แต่สำหรับเชมัสแล้ว..
คุณแอมม์… แอมฟิไทรต์!
“อ๊า.. เทพีแอมฟิไทรต์งั้นเหรอ ดูท่าว่าเราจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันกว่าที่คิดอีกแฮะ”
“ยังไงเหรอฮะพี่ดีน?” เชมัสน้อยเอียงคออย่างสงสัย เด็กชายรู้จักเทพโพไซดอน แต่อีกชื่อนึงนั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน
“เอ่อ.. เรื่องนี้มันซับซ้อนน่ะ ฉันคิดว่านายค่อย ๆ เรียนรู้จากตำราในห้องสมุดของค่ายดีกว่า”
จะบอกได้ยังไงว่า ‘แม่นายคือภรรยาหลวงของพ่อฉัน’ เด็กสับสนตายแย่ ยังไม่ต้องให้มีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ของสองบ้านนี้ก็สับสนกันจนพันยุ่งอีรุงตุงนังจะแย่
“แต่ว่าตอนนี้ฉันกับแมคซี่ต้องเอากระเป๋าไปเก็บก่อนล่ะ ส่วนนายต้องไปอยู่อีกบ้าน ตอนนี้ตามมาก่อนหลังจากที่ฉันพานายไปรายงานตัวกับคุณไครอนค่อยแยกตัวกันอีกที …โอ๊ย! ฉันพูดอะไรไปบ้างวะเนี่ย แมคซี่ นายช่วยอธิบายทีดิ๊”
ดีนพยายามจะเล่าขั้นตอนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะอธิบายได้สับสนยุ่งเหยิงไปหมดจนต้องหาตัวช่วย
@Mackenzie “อะ.. อื้อ ประมาณนั้น”
ที่อ๊องไม่ใช่ด้วยความตื่นเช้าเกินไปแต่เป็นเรื่องที่เทพีแอมฟิไทรต์เคยไหว้วานเอาไว้ต่างหาก
『ดีน หากเธอสามารถติดต่อข้อความไอริสถึงเอโลอิสได้ ข้าอยากจะขอให้เธอช่วยสอบถามแผนการเดินทางคร่าว ๆ จากเอโลอิสหน่อย... ข้าได้ยินเรื่องไม่สู้ดีนัก... เผื่อข้าพอจะจัดสรรเวลาไปช่วยเหลือเอโลอิสได้ ได้ยินว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าของเทพใต้พิภพบางองค์.....』
ถ้อยความนี้มีเพียงแค่ดีนที่รับรู้ได้ในคืนวันขอบคุณพระเจ้า ทว่าคืนนั้นเขากินไวน์ที่ซื้อมาจากแคนยอนพีคเสียจนเมาเละ ทำให้ลืมคำขอที่ส่งผ่านกระแสจิตจากเทพีแอมฟิไทรต์เสียจนหมด ความทรงจำเพิ่งถูกกระตุ้นขึ้นมาจากตราสัญลัษณ์หอยมุกบนศีรษะของเชมัสนี่เอง แต่ทำไมเทพีไม่พูดถึงเชมัสเลยหว่า… อย่างน้อยนางควรจะพูดประมาณว่า ‘ขอบใจที่ช่วยเหลือลูกข้าให้รอดพ้นเงื้อมมือไฮดร้า’ อะไรทำนองนี้สิ? แต่นางกลับเผื่อแผ่ความเมตตาไปให้ ‘เอโลอิส เพจ’ สาวน้อยจากบ้านเฮเฟตัส ที่ดีนทราบชื่อว่าเธอคือคนที่ทำภารกิจทวงคืนราชรถมาให้เทพอะพอลโล่ ดูไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันเท่าไร แต่แม่เลี้ยงของเขาเป็นเทพีจิตใจงดงาม ไม่แน่ว่าเรื่องนั้นอาจสำคัญมากกว่าเรื่องของลูกชายตัวเองก็ได้มั้ง
‘แปลก.. แปลกฉิบหาย แต่ก็เอาเถอะ.. คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรมั้ง?’
ดีนเลิกสงสัยในตัวแม่เลี้ยงของเขา แล้วพาเชมัสไปส่งที่บ้านใหญ่ให้คุณไครอนเป็นคนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งปฐมนิเทศให้เด็กชาย
“ฉันก็ขอบคุณนายที่ไปกับฉัน ไว้ปีหน้าเราไปกันอีกนะ เป็นเทศกาลเฟียต้าก็ได้ ส่วนวันขอบคุณพระเจ้าค่อยสลับไปบ้านนายบ้างดีไหมที่รัก”
ทั้งสองเดินลากกระเป๋าหันหลังจากบ้านใหญ่มุ่งสู่โซนบ้านพัก ทว่ามีเสียงหนึ่งหยุดเขาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน ดีด้าาา ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าหน่อยยยย”
เทพไดโอนีซุสโบกไม้โบกมือป้องปากตะโกนเรียกดีนมาจากระเบียงบ้านใหญ่ ซึ่งคนที่ถูกเรียกชี้หน้าตัวเองเหรอหรา
“ดีด้า หมายถึงผมเหรอ?”
“ใช่แล้ว ก็เจ้าไงดีด้า จะเป็นใครไปอีก ในค่ายนี้มีดีด้าอื่นด้วยหรือไง มาทางนี้ก่อน ข้ามีเรื่องจะไหว้วานให้เจ้าทำหน่อย”
ก็ตามนั้น…
“แมคซี่ นายกลับไปที่บ้านพักก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปคุยกับคุณดีแป๊บ”
หอมแก้มลาคนรักทีนึงก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปพักผ่อนก่อนโดยไม่มีคำว่าอาย ยังไงคนในค่ายก็คงรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองตั้งแต่ก่อนจะออกเดินทางจากค่ายฮาล์ฟบลัดอยู่แล้วนี่นะ...
แต่มันชักจะแปลกเกินไปหน่อยแล้วนะที่ จู่ ๆ ก็มีเทพสององค์เรียกใช้บริการทันทีที่กลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัด แต่เอาเป็นว่าลองคุยกับเทพที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนก็แล้วกัน
“คร้าบ คุณดี ผมจะไปหาเดี๋ยวนี่ล่ะ!” ชายหนุ่มขานตอบกลับไป เขาลากกระเป๋าพร้อมกับจูงออมเล็ตขึ้นบ้านใหญ่ไปอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้จุดหมายคือห้องทำงานของเทพไดโอนีซุส
พา [เชมัส แคตต์] NPC สายเลือดแอมฟิไทรต์ มาส่งค่าย
(ครบโควต้าการสร้าง NPC สายเลือดแอมฟิไทรต์)
|