เจ้าของ: God

[ทางเข้าค่าย] ประตูค่าย

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-2-16 23:17:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ERTAH BROWN
ประตูค่าย

Feb, 14, 2025 | 1.40PM


          คาบเรียนในวันนี้ที่เออต้าตั้งใจเรียนนั้นจบลงแล้ว และมันก็เป็นเวลาบ่ายกว่า ๆ แล้วด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้รุ่นพี่คนนั้นจะรอนานแล้วหรือยัง แต่ว่าจากที่เธอเมื่อเช้าตรู่ เธอยังไม่เห็นใครเลย บางทีรุ่นพี่อาจจะมาหลังจากเธอไม่นานก็ได้ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ป่านนี้อาจจะมารอแย่แล้วก็ได้ หรือว่าบางที อาจจะคิดว่าเธอไม่ได้ไปตามนัดก็ได้ แบบนั้นคงจะรู้สึกแย่น่าดู เธอคงไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นแน่ ๆ

          เออต้าพาตัวเองไปแต่งตัวเพียงครู่เดียวเท่านั้น ชุดที่ดูทะมัดทะแมงแต่ก็มีความเป้นผู้หญิงอยู่สูงนั่นถูกสวม เครื่องประดับอย่างต่างหูและสร้อยถูกประดับลงไป ก่อนที่เครื่องประชิ้นสุดท้ายจะถูกสวมลงที่ศีรษะ นั่นเป็นหมวกที่เป็นเดรสโค้ดของวันนี้ เพื่อให้รุ่นพี่ที่จะได้เดตกับเธอนั้นรู้ว่า เธอเป็นคู่เดตของเขา ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเหมวกเหมือนกัน เพราะมันเป้นสิ่งที่จะทำให้เห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็ช่างมันเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่เพียงว่า รุ่นพี่ชอบหมวก แค่นั้นก็ได้

 

          ไม่รีรอ ขายาวของหญิงสาวส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบก็เดินออกจากบ้านหมายเลขเจ็ดและตรงมาที่หน้าประตูค่ายในทันที ท่าทางที่ดูไม่ใช่เออต้าอย่างที่ทุกคนเห็นในค่ายกำลังปรากฏแก่สายตา ถ้าความอ่อนหวานที่มากกว่าเดิมหลายเท่าและความสดใสที่ประกอบกับรอยยิ้มในวันนี้ มันดูเข้ากันไปเสียทุกอย่าง ดูภายนอกแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากวัยรุ่นธรรมดาที่กำลังจะออกไปเดตกับคู่เดตของเธอเลย

          ที่จุดนัดพบในอตนนี้ เหมือนว่าจะเป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้จริง ๆ เพราะว่าทันทีที่มาถึงประตูค่าย ภาพที่เห็นสะท้อนอยู่ในดวงตาภาพแรกเลยก็คือ ภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น สังเกตเพียงไล่สายตา ก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนเลยว่า จะต้องเป็นคู่เดตของเธอแน่ ๆ หมวกที่สวมอยู่นั่นเป็นสัญลักษณ์อย่างดีเลย


          ....อยู่ดี ๆ ก็ประหม่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น


          เออต้าเป็นคนที่เป้นมิตรโดยปกติ การได้รู้จักคนใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่เธอคุ้นชินและสามารถทำได้ดีโดยไม่ได้มีความรู้สึกประหม่าหรือตื่นเต้นใด ๆ ราวกับว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ แต่หากในคราวนี้ ความกล้าของเธอกลัวเบาบางลงไป และมีความประหม่าก่อตัวขึ้นมาแทนที่ทีละน้อยจนรู้สึกได้ ใบหน้าน่ารักของเออต้าเม้มปากลงเป็นเส้นตรง ระงับอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในเวลานี้ให้จมลึกลงไปให้ได้มากที่สุด ก่อนที่รอยยิ้มพระอาทิตย์จะปรากฏออกมากลบไปทั้งหมด

          “ สวัสดีค่ะ รุ่นพี่... ”

          ยังไม่มีความกล้าในการเรียนชื่อเท่าไหร่ แต่เสียงหวานของเออต้าก็เอ่ยทักทายเรียกความสนใจรุ่นพี่ที่สวมหมวกคนนั้นไปก่อนแล้ว ใบหน้าน่ารักประดับรอยยิ้มพระอาทิตย์ ความสดใสที่ประกอบกันทำให้ดูเปล่งประกายอย่างกับยกดวงอาทิตย์ลงไว้ตรงหน้า

          ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า โครงหน้าที่ดูหล่อเหลาเมื่อยามมีหมวกบดบัง ร่างกายของนักกีฬานั้นโดดเด่นในเครื่องแต่งกายที่ดูเรียบง่าย โทนสีดำและเทาที่ดูตรงข้ามกับเธออยู่พอสมควร ส่วนสูงที่สง่าและท่าทางที่ดูไม่ได้ถือตัว และสิ่งที่สะดุดตาไปมากกว่านั้น ก็คงจะเป็นหมวกแก๊ปของสโมสรฟุตบอลไอรอนเชียร์ยูไนเต็ด ถ้ามีสาว ๆ คนไหนมาเห็นก็คงจะถูกดึงดูดไปได้ไม่ยากเลย

แต่ว่าวันนี้โอกาสที่จะได้เดตกับหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ เป็นของเธอ จะเรียกว่าเป็นความโชคดีได้หรือเปล่านะ

และเหมือนว่าเสียงทักทายของเธอจะเรียกความสนใจของรุ่นพี่ให้หันมอง ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะให้ได้ยิน ท่าทางของเขาดูเหมือนว่าจะไม่ได้บึ้งตึงอะไร นั่นทำให้ความประหม่าที่กำลังจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งหายไปในทันที

“ อ้าว มาแล้วหรอครับ ” เป็นคำเอ่ยที่ไม่ได้ต่างจากที่คิดเท่าไหร่

“ พี่เกือบคิดว่าเราจะเทพี่ไปแล้วเสียอีกนะเนี่ย ดีจริง ๆ ที่ได้เจอกัน ” เขาเอ่ยต่อพร้อมกับรอยยิ้ม

และนั่นทำให้เออต้าอยากจะเอาหน้สมุดลงธรณีในตอนนี้ไปเลย เพราะเอาเข้าจริง ๆ ในเวลาแบบนี้ก็คงจะไม่มีใครรอแล้ว เธอเองก็อาจจะไม่รอและคิดว่าโดนเบี้ยวไปแล้วก็ได้ แต่ว่ารุ่นพี่ที่อยู่ตรงหน้ายังคงรออยู่ นี่เธอจะต้องทำตัวอย่างไรต่อไปดีล่ะเนี่ย

“ อ่า.. ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า พอดีเพิ่งจะทำอะไรเสร็จน่ะสิคะ แต่ว่า ฉันตั้งใจมาหารุ่นพี่เลยนะ ”

ความสดใสที่ยังไม่ได้หายไปไหนประดับอยู่ในเสียงหวานที่เจื้อยแจ้ว พร้อมกับขายาวที่เดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้นอีกหน่อยโดยไม่รู้ตัว

“ จริงสิ เออต้า บราวน์ค่ะ เรียกว่าเออต้านะคะ ”

เธอเอ่ยแนะนำตัวไป ทั้ง ๆ ที่คิดว่า รุ่นพี่เองก็น่าจะรู้จักเธออยู่แล้ว แต่ว่าการรู้จักผ่านทางข้อมูลกับตัวตนจริง ๆ มันต่างกันนี่นา เธออยากรู้จักจากเจ้าตนมากกว่า แต่เธอก็ไม่ดพูดแบบนั้นออกไป

“ ครับ แอร์รอน สตาร์ รู้จักพี่อยู่แล้วใช่ไหม? ” แน่นอน... ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัดดาวเด่นของทีมฟุตบอลขวัญใจสาว ๆ อยู่แล้วสิ

“ นี่ครับ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับเออต้า ช่อดอกไม้จากพี่ ”

ถัดจากการแนะนำตัว ก็เป็นของขวัญที่รุ่นพี่เตรียมเอาไว้ให้ เธอพอจะคาดเดาได้ แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ดอกไม้เป็นช่อตั้งแต่ที่หน้าประตูค่ายแบบนี้เลย ใบหน้าน่ารักของเออต้าเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะรับมาด้วยรอยยิ้มกว้างที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง แต่เหมือนว่าจะยังไม่หมดเพียงเท่านั้น

“ พี่ขอโทษนะ ”

เขาเอ่ยต่อไปก่อนที่หมวกที่เธอใส่มาจะถูกถอดออกมา และเปลี่ยนเป็นหมวกใบใหม่ทดแทน เขาจัดหมวกให้เข้าที่เข้าทางและตกแต่งให้ความยุ่งเหยิงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นบนเส้นผมของเธอให้หายไปด้วย

เธอยังไม่เห็นมันด้วยซ้ำว่าเป็นลายหรือว่าแบรนด์อะไร แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ได้รู้แล้ว

“ ของอีกชิ้น ของฝากจากไอรอนเชียร์ยูไนเต็ด ใส่คู่กับพี่นะครับ ”

แอร์รอนยกยิ้มที่มุมปาก รับกับใบหน้าคมชัดของเขา ยิ่งทำให้ความหล่อเหลาที่ราวกับเทพประทานให้นั่นดูดียิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก ดวงตาสีเปลือกไม้ของเออต้าเลื่อนไปสบตากับเขาที่เอ่ยออกอย่างนั้น ถ้าหากเธอเป็นคนที่ความรู้สึกเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย เธอก็คงจะเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ตรงไหนแล้ว แต่ก็ยังดีที่สมองของเธอตอนนี้ยังไม่ได้ประมวลอะไรเท่าไหร่

“ ขอบคุณนะคะพี่แอร์รอน ฉันเรียกแบบนี้ได้ใช่ไหม ”

รอยยิ้มกว้างฉายประดับเอาไว้อย่างนั้น ความประทับใจแรกของเธอกับรุ่นพี่คนนี้ ถือว่าได้คะแนนสูงเลยทีเดียว

“ ครับ เรารีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวพิพิธภัณฑ์ที่จะไปกันปิดเสียก่อน ตอนนี้ก็.. น่าจะต้องเดินทางไปอย่างเร็วแล้ว ”

อย่างที่เขาบอก ตอนนี้ต้องรีบแล้ว ไม่อย่างนั้นพิพิธภัณฑ์ปิดแน่ ๆ เออต้าเห็นด้วยจึงได้พยักหน้ารับให้ แต่ก็ไม่คิดว่า....

“ วิ่งกันหน่อยนะครับ ไปกัน ”

คะ..?

เธอทำอย่างอื่นได้นะ แต่เรื่องให้ออกกำลังกายหลังจากที่เรียนคาบยิงธนูมาเนี่ยไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ!!

มือเรียวสวยถูกมือหนาของรุ่นพี่คว้าเอาไว้และพาเธอออกวิ่งออกไป ซึ่งถึงเป็นอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกที่จะต้องออกวิ่งตามเขาไป ด้วยใบหน้าที่ใช้คำว่า เหวอ สุด ๆ น่าจะได้

ให้ตาย! ความรู้สึกที่กำลังจะเขินแต่กลับต้องมาวิ่งแบบนี้ มันจะเกินไปหน่อยแล้ว !

 

Ps. ได้รับช่อดอกไม้และหมวกจากแอร์รอน

รับเพิ่ม ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน 1 ดอก, น้ำทิพย์ 1 ขวด และ เงิน 20 ดอลลาร์

ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 / 4 / 6 / 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ จะได้รับโบนัสพิเศษ +2 แต้ม

         
         @Dean 

แสดงความคิดเห็น

ส่งข้อมูลทั้งหมดทาง DM แล้ว  โพสต์ 2025-2-17 00:32
ส่ง ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน 1 ea / อาหารเทพ 1 ea / ช่อดอกไม้ 1 ea / หมวกแก๊ป 1 ea / 20 ดอลลาร์   โพสต์ 2025-2-17 00:31
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-21] แอร์รอน สตาร์ เพิ่มขึ้น 2 โพสต์ 2025-2-16 23:21
โพสต์ 23901 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-2-16 23:18
โพสต์ 23,901 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก กระบอกลูกธนู  โพสต์ 2025-2-16 23:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบอกลูกธนู
ธนู
น้ำหอมสตรี
หูฟังบลูทูธ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x8
x8
x16
x1
x4
x1
x2
x2
x2
x4
โพสต์ 2025-2-17 00:12:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Activity Form

ประตูค่าย

ย้อนเวลา 14 กุมภาพันธ์ 2025 เวลาประมาณ: 20:30 น.



ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นาน ในการเดินทางกลับมาที่ค่าย


ในระหว่างที่  เป็นช่วงการเดินขึ้นมาที่หน้าประตู อีกฝ่ายจึงมองเธอเดินเข้ามาด้วยเพราะว่ามันค่อนข้างจะมืดแล้ว


เมื่อมาถึงด้านหน้าประตูค่าย  ทั้งคู่ก็ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านใน


วันนี้เหนื่อยหรอเปล่า ” เจโรมถามลอร์ร่า 


เด็กสาวเองก็ใส่หัวไปมา  “ ไม่เลยค่ะ วันนี้สนุกมาก ” 


นอกจากจะตอบแล้วเด็กสาวยังยิ้มรับอีกด้วย


ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือกันเดินเข้าไปด้านในของตัวค่าย  ตอนนี้สายตาแทบทุกสายตาจับจ้องมาที่ทั้งคู่


เธอพยายามบอกตัวเองให้นิ่งไว้  ใจเย็นเข้าไว้ เพราะอีกฝ่ายเองก็ดูจะใจเย็นอย่างมาก


ไม่นานนัก ดูเหมือนว่า ผู้เป็นพ่อของเธอเองก็จะออกมามายืนรอด้วย


สวัสดีครับ คุณดี ” ดูเหมือนว่าตอนนี้จะถูกจับจ้องจากผู้เป็นพ่อ อย่างไม่ละสายตาเลย


ไม่ต้องจับกันขนาดนั้นก็ได้มั้ง รามี่ ” ทั้งผู้เป็นพ่อของเธอผู้คงเอกลักษณ์ เรื่องจำชื่อเด็กไม่ได้สักที


นอกจากจำไม่ได้ยังเรียกชื่อสลับกันมั่วไปหมด


พ่อ พี่เขาชื่อเจโรม ” เด็กสาวถึงกับต้องแก้ให้


อีกฝ่ายเองก็โบกมือไปมาแบบชั่งมันเถอะ 


แล้วทั้งคู่ก็ปล่อยมือออกจากกัน  “ หนูรีบไปก่อนนะ ” นอกจากจะไม่ฟังแล้วเด็กสาวยังเดินนำ ออกไปอีกต่างหาก


“ เอาอีกแล้ว ยัยลูกคนนี้มันต้องยังไง ” เธอไม่ได้รอให้ผู้เป็นพ่อบ่นแต่อย่างใด เพราะตอนนี้เธอต้องช่วงชิงหนีก่อน


เด็กสาวรีบวิ่งแจ้นตามด้วยร่างสูงเองก็เช่นกัน ที่วิ่งตามเด็กสาวไป 


“ เดี๋ยวหนูค่อยกลับไปเล่าให้ฟังนะ ” เธอตะโกนไล่หลัง


“ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้น ” ผู้เป็นพ่อนั้นกล่าว แบบตะโกนตามหลังเด็กสาวที่วิ่งออกไปแล้ว


พร้อมกับวิ่งไปยังบริเวณ  กองไฟบูชาเหล่าเทพ เพราะเกรงว่าจะมาไม่ทันเวลา


ทางเจโรม เค้าเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่ผู้เป็นพ่อออกมาดุเด็กสาวแบบนั้น เขาเองก็เลยถามเจ้าตัวเล็กว่าเป็นยังไงบ้าง “ โอเคหรือเปล่า ” 


อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียง  ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่


“ สบายมาก เรื่องแค่นี้ จิ๊บๆ ” เธอทำมือแบบเล็กๆ บ่งบอกว่าไม่มีอะไร 


พราะโดยปกติส่วนมาก เธอก็จะเล่าให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอทำอะไรลงไปบ้าง ถ้ามันไม่ได้ผิดแปลก หรือไม่ได้มีอะไรผิดเธอก็ไม่กลัวอยู่แล้ว


อีกอย่างการไปเที่ยวรอบนี้เธอก็ไม่ได้ปิดบังอะไรด้วย  แถมยังไปบอกก่อนอีกต่างหาก เพราะงั้นไม่ต้องกลัวหรอกว่าผู้เป็นพ่อจะโกรธ


เธอไม่ได้อธิบายอะไรต่อ  ได้แต่เพียงยิ้มๆ เท่านั้น



 ทุกครั้งที่ปฏิสัมพันธ์กับ NPC Lares SP TGC จะได้รับโบนัสความสนิทสนมเพิ่มขึ้น+10 

 (ผ้าคลุม) 


 ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 / 4 / 6 / 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ 

 จะได้รับโบนัสพิเศษ +10 แต้ม (น้ำหอม) 


ยังไม่จบโรลนี้น้า ขออีกโรลนึงน้า


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-2-17 10:30
โพสต์ 16926 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-2-17 00:12
โพสต์ 16,926 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-17 00:12
โพสต์ 16,926 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก น้ำมันหอมอามูร์  โพสต์ 2025-2-17 00:12
โพสต์ 16,926 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดไดโอนีซุส  โพสต์ 2025-2-17 00:12
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x4
x7
x9
โพสต์ 2025-3-17 13:11:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Example Box with Image and Text

ประตูค่าย


เด็กสาวใช้เวลาพักใหญ่ในการเดินทางกลับบ้าน

แม้ว่าจะเดินหลงอยู่เป็นประจำ กว่าจะเดินกลับถึงค่าย ก็เล่นเอาเสียดึกเลย

แต่ถึงดึกยังไงความโชคดีของในช่วงนี้ก็คือท้องฟ้ามันไม่มืดนะ 

" เห้อ ในที่สุด... ก็ถึงสักทีนะ "

ร่างเล็กเดินเข้ามา  ผ่านประตูค่ายเข้าไปด้านใน ในหัวเธอเดินผู้เป็นพ่อควรจะแวะไปทักเค้าเลยดีไหม

หรือว่าจะกลับบ้านก่อน  แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไปทักทาย

แต่แอบคิดไม่ตกกับเรื่องนี้ก่อนที่จะเดินพุ่งตรงกลับบ้านเพราะว่าเธอรู้สึกว่าเหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว 

ไว้ตอนเช้าเธอค่อยกลับไปทักทายอีกฝ่ายก็แล้วกัน

เมื่อรู้สึกได้ดังนั้นแล้วเธอก็เลยเดินแจ้นกลับบ้านไปทันที 

ป่านนี้ทิฟฟานี่คงนั่งรอ  แถมเหงาด้วยละมั้งเนี่ย เนื่องจากว่าช่วงนี้อีกฝ่ายอยู่บ้านเพียงคนเดียว

แต่เมื่อเดินเข้ามาเธอก็รู้สึกถึงไอร้อนประหลาด  มันประหลาดยังบอกไม่ถูก

มันยังไงก็ไม่รู้แต่รู้สึกได้ถึงว่าช่วงนี้มัน  ร้อนจังเลยหรือเป็นเพราะว่าพระอาทิตย์ทำงานหนัก

แต่ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านเธอยังไม่ลืมที่จะ  แวะเวียนหาเรื่องทำงานอีกแล้ว

และงานที่เธอทำในรอบนี้นั้นก็คงต้องถาม  มันก็อยู่ที่กระดานบอร์ดนั่นแหละ

ไม่ได้มาเสียนานยังไงก็ขออัพเดท  ภารกิจที่จะต้องไปทำเสียหน่อย

เธอหยุดอยู่บริเวณหน้าบอดกระดานจ้องมองไปด้านหน้าว่ามีอะไรให้ทำ  หรือมีอะไรมาอัพเดทใหม่หรือเปล่า

ไหนดูซิมีอะไรให้ทำบ้าง ” 

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8224 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-3-17 13:11
โพสต์ 8,224 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดไดโอนีซุส  โพสต์ 2025-3-17 13:11
โพสต์ 8,224 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-3-17 13:11
โพสต์ 8,224 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก ขลุ่ยไม้เถาองุ่น  โพสต์ 2025-3-17 13:11
โพสต์ 8,224 ไบต์และได้รับ +3 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-3-17 13:11
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x4
x7
x9
โพสต์ 2025-5-18 14:01:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Adelaide เมื่อ 2025-5-18 14:03


header

CHAPTER 1
16 May 2025 09:00 AM

- - - - -

               อเดลเลดเช็คดูระยะทางในแผนที่จากค่ายสู่จุดหมายที่เธอจะต้องไปนั่นก็คือนิวออร์ลีนอีกครั้งเพื่อครั้งเพื่อความแน่ใจ สาเหตุที่ต้องมาเช็คแล้วเช็คอีกแบบนี้เพราะภารกิจที่สาวเจ้ารับมานั้นจั่วหัวตัวเบ้อเริ่มว่าห้ามเดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟ นั่นหมายความว่าจะต้องเดินเท้าเท่านั้นทั้งที่นิวออร์ลีนอยู่ห่างจากค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ไปตั้งหลายพันไมล์เหตุเพราะพ่อของเธออยากให้งานนี้เป็นความลับขั้นสุดยอดจึงต้องเดินทางแบบไม่ให้เอิกเกริกมากนัก

                จุดหมายของการเดินทางในวันนี้คือโรงแรมจิ้งหรีดราคาถูกสักแห่งในฟิลาเดลเฟียสำหรับพักแรมในตอนกลางคืน แต่ก่อนจะไปถึงฟิลาเดลเฟียนั้นเธอต้องไปถึงนิวยอร์กให้ได้เสียก่อน อเดลเลดปักหมุดแผนที่ไปยังสวนเซ็นทรัลพาร์คในแมนฮัตตันเพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่ยอดเยี่ยมในการหารถบัสเพื่อไปต่อ หลังจากนั้นค่อยว่ากันเพราะแผนการเดินทางในครั้งนี้คือไม่มีแผนและงบจำกัดสุดๆ อีกอย่างในเมื่อวันนี้เป็นแรกของการเดินทางที่ยังคงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือเธอจึงคิดว่าเดินทางไปให้ไกลที่สุดย่อมดีกว่า

                "ร้อนชะมัด" หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองขณะยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่เกาะพราวตามกรอบหน้า มืออีกข้างสัมผัสกระเป๋ากางเกงเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าอาวุธของเธอยังอยู่ดีไม่หล่นหายไปไหน สองขาเรียวยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ ตามทางเท้ามุ่งหน้าไปยังถนนสายหนึ่งตามแผนที่ในแอพลิเคชั่น แน่นอนว่าหากเดินเท้าจากค่ายไปยังเซ็นทรัลพาร์คที่กินเวลาเกือบ 18 ชั่วโมงอาจจะทำให้เธอเท้าเปื่อยซะก่อน

                ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ ขึ้นรถไฟก็ไม่ได้ เรียกแท็กซี่คงไม่ได้ผิดอะไรมากล่ะมั้ง

                "เอาล่ะ.." มือเล็กโยนเหรียญสำหรับจ่ายค่าบริการในมือขณะกำลังครุ่นคิด ทางเดียวที่จะไปถึงแมนฮัตตันแบบด่วนจี๋ได้มีแค่แท็กซี่พี่น้องสีเทาเท่านั้น!

                "แท็กซี่พี่น้องสีเทา" อเดลเลดพูดกับความว่างเปล่าพร้อมกับโยนเหรียญในมือลงบนพื้น

                เงียบกริบ.. ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ย!

                เพียงไม่กี่อึดใจถัดมา รถแท็กซี่เทาควันบุหรี่ก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของหญิงสาวพร้อมกับกลุ่มควันที่ม้วนวนรอบรถ

                "ไปไหน! รีบบอกมาให้ไว!" เสียงจากภายในรถโหวกเหวกดังลั่นทั้งที่ยังไม่ทันจะเห็นหน้าคนขับ

                "เซ็นทรัลพาร์ค แมนฮัตตัน"

                "ขึ้นมา"

                อเดลเลดก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมกลับปิดประตูรถ รถแท็กซี่พุ่งทะยานไปด้านโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันได้รัดเข็มขัดนิรภัยทำให้เธอแทบกระเด็นตกจากที่นั่ง

                ที่ว่าด่วนจี๋นั่น คงเพราะขับรถแบบนี้สินะ..


- - - - -


 ภารกิจปริศนาแห่งสายฟ้า 

 Status : ออกเดินทาง


p.s. จ่ายค่าแท็กซี่ 10 USD


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 6 EXP โพสต์ 2025-5-18 14:20
โพสต์ 11566 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-5-18 14:01
โพสต์ 11,566 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-5-18 14:01
โพสต์ 11,566 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2025-5-18 14:01
โพสต์ 11,566 ไบต์และได้รับ +3 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +1 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2025-5-18 14:01
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แว่นกันแดด
เกราะหนัง
หมวกเกราะ
ชุดเครื่องเพชร
น้ำหอมสตรี
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
รองเท้าเซฟตี้
ความแข็งแกร่ง
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x2
x1
x1
x5
x3
x1
x2
x2
x2
x5
x1
โพสต์ 2025-6-18 05:09:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-6-19 21:42

Resha Campbell
The youngest sister of Poseidon's lineage.
05.06.2025 --- 7:30 AM 
- - - - - - - - - - - - - - - - - -

"ให้พี่ไปส่งไหมรีช?"

"ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปเองได้"

ซันซ์ มาเดิล เคานต์ ออกมาส่งน้องสาวคนเล็กที่หน้าบ้าน ตาของเขาโหลจากการอดหลับอดนอนทั้งคืนเพื่อเล่นเกมใหม่ Expedition 33 งานนี้น้องสาวของบ้านออกเดินทางไกลคนเดียวครั้งแรก แถมคราวนี้ลุยเดี่ยวถึง 13 วัน แบบไม่มีพี่ชายตามประกบ สัมภาระที่เอาไปจึงมากกว่าภารกิจเดินทางเสียอีก

ชายหนุ่มยังไม่หายเมื่อยก้นจากการเดินทางไกลจากแคลิฟอร์เนียกลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัด ซันซ์จึงไม่ประสงค์ที่จะกลับไปนิวโรมอีกในเวลาอันเร็ว แม้ว่างานเทศกาลจะน่าสนุก ส่วนเจโรมคงเบื่อเทศกาลนั้นแล้วจึงขอนอนเล่นอยู่ที่ค่ายดีกว่า

"พี่ซันซ์กลับไปนอนเถอะค่ะ หนูเดินไปขึ้นรถเองได้"

"โอเค ถ้าเธอว่างั้นก็นะ... โชคดี เที่ยวให้สนุกล่ะรีช"

สองพี่น้องโบกมือบ๊ายบายกันและกัน ก่อนที่ซันซ์จะกลับเข้าไปในกระท่อมหมายเลข 3 ส่วนรีชาลากกระเป๋าเดินทางไปต่อ

ก่อนเวลาออกเดินทางไปนิวโรม
รีชา แคมพ์เบลล์ ต้องไปรับเพื่อนใหม่ของเธอ นิโคไล ครอฟต์ บุตรแห่งเฮคาที ที่กระท่อมหมายเลข 20 น่าเสียดายที่เพื่อนสนิทอย่าง จูลี่ เดรค หายตัวไปอย่างปริศนา ไม่อย่างนั้นการไปเที่ยวงานเทศกาลที่ต่างเมือง (แต่เดินทางไกลเหมือนไปต่างประเทศ) น่าจะสนุกสนานคึกครื้นมากกว่านี้

แต่ชีวิตต้องเดินหน้าต่อ และชีวิตต้องมีความหวัง จูลี่ต้องปลอดภัยอยู่ ณ ส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก เธอเชื่อแบบนั้น ส่วนตอนนี้ได้แต่รอให้นิโคไลออกมา

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"อรุณสวัสดิ์นิคกี้" รีชาโบกมือทักทายอย่างสดใส เรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเล่นอย่างสนิทสนมตามพี่ชายอย่าง ดีน ไม่ว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกสนิทสนมกับเธอหรือไม่ก็ตาม "
พร้อมจะไปกันหรือยัง?"

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"ไม่เป็นไรนะ เราก็ตื่นเต้นมากเลย งั้นจับมือกันไว้จะได้ไม่หลง"

ไม่พูดเปล่า รีชาเข้าไปจับมือของนิโคไลแล้วพาจูงออกเดิน อย่างน้อยจับมือกันไว้ก็อุ่นใจกว่า ตอนนี้เธอต้องทำหน้าที่ดูแลอีกฝ่ายแทนจูลี่ที่หายไป

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

ระหว่างทางเดินไปหน้าค่ายฮาล์ฟบลัดเพื่อขึ้นรถบัสที่ทางนิวโรมส่งมารับ พวกเขาเห็นว่ามีสมาชิกค่ายหิ้วกระเป๋าไปร่วมงานเทศกาลฟอร์ทูน่ากันมากมาย เรียกว่าครึ่งค่ายเลยก็ได้ แต่ส่วนใหญ่พวกที่เพิ่งกลับมาจากนิวโรมไม่ค่อยอยากจะไปกันเหตุผลอาจเหมือนซันซ์...

"นี่ ๆ ดูสิ คนเพียบเลย แบบนี้ก็ไม่น่าจะเหงาแล้วล่ะเนอะ" เด็กสาวหันไปยิ้มกว้างกับเพื่อนกระท่อมที่ 20 

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"อรุณสวัสดิ์รีช อรุณสวัสดิ์นิโคไล"
เสียงทักของเด็กชายมาจากด้านหลัง เชมัส แคตต์ บุตรแห่งแอมฟิไทรต์สะพายเป้ใบใหญ่เดินมาทางทั้งสอง เขายังคงยิ้มหน้ามึนตามสไตล์คล้ายคนเพิ่งตื่น

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"อรุณสวัสดิ์ เช" รีชายิ้มแฉ่งโบกมือให้เหมือนกับที่เธอทักทายทุกคน "ออกมาพร้อมกันพอดีเลย พวกเราเดินไปพร้อมกันก็แล้วกันเนอะ"

"ผมยังไงก็ได้" เป็นคำพูดติดปากของบุตรชายคนเล็กของเทพีแอมฟิไทรต์ที่แปลว่า 'ไปด้วย'

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

ไม่นานเดมิก็อดทั้งสามก็มาถึงรถบัสที่จอดอยู่หน้าค่ายอย่างไม่รีบร้อน โหลดกระเป๋าเดินทางเข้าใต้ท้องรถจากนั้นก็ขึ้นรถบัส บนรถมีผู้โดยสารนั่งอยู่ประปราย เท่าที่เห็นเหมือนว่าบ้านอะโฟร์ไดท์และไดโอนีซุสจะมากันหมดทั้งบ้าน คนเยอะแบบนี้ถ้าไม่รีบจองที่นั่งกันก่อนมีหวังได้นั่งกระจายกันแน่ ๆ

"รีช! ทางนี้ ๆ"

เสียงเล็ก ๆ ดังมาจากที่นั่งแถวหนึ่งที่อยู่เยื้องประตูทางขึ้นไปไม่กี่แถว คนเรียกคือหนึ่งในฝาแฝด
เอลฟาวลีย์ สายเลือดแห่งเฮอร์มีส คนที่กวักมือเรียกหวอย ๆ น่าจะเป็นเลย์ลินน์ผู้เป็นแฝดคนน้อง อย่างว่า.. ถ้าเป็นเลย์ลาน่าจะไม่เสียงดังแบบนี้

เห็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมฝึกการต่อสู้กันมาเรียกหาสาวน้อยจากบ้านโพไซดอนก็ยิ้มแป้น แล้วที่นั่งอีกสองแถวขนาบข้างและหลังยังว่างอีกด้วย

"นิคกี้ เช ไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ"


เธอพาเดินนำไปทักทายสองแฝด แต่พอตกลงว่าจะนั่งใกล้ ๆ เพื่อน กลับพบว่ากลุ่มของเธอดันมีกัน 3 คน ซึ่งเป็นเลขคี่

'จูลี่น่าจะมาด้วยจริง ๆ แหล่ะ...'

"เอางี้นะ นิคกี้กับเชนั่งด้วยกัน ส่วนเรานั่งกับคนอื่นได้" รีชาเสนอความเห็น

"ผมยังไงก็ได้" เชมัสพูดคำเดิม เขาไม่มีปัญหาที่จะนั่งกับใคร "นายเลือกที่นั่งได้เลยนะ ว่าจะนั่งริมทางเดินหรือว่าริมหน้าต่าง"

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

หลังจับจองที่นั่งกันเรียบแล้วไม่นาน ผู้โดยสารตามรายชื่อมากันครบ สรุปว่าคนที่มานั่งคู่กับรีชาคือ เอมีเลีย แอร์ฮาร์ด ครูฝึกวิชาดาบธิดาแห่งซุส นับว่ามีโชคตั้งแต่เริ่มเดินทางที่ได้นั้งกับคนสนิทที่กันอยู่แล้ว

ก่อนรถออก 10 นาที คุณไครอน 
ขึ้นมาอธิบายเรื่องการเดินทางคล้ายกับตอนที่ไปโอลิมปัส คราวนี้ไม่มีเทพอะพอลโล่มาด้วย แต่มีบุคคลที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กันเดินทางร่วมด้วย เขาคือ โกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด แซเทอร์ผู้รับหน้าที่พิทักษ์ธรรมชาติต่อจากเทพแพน

ส่วนรุ่นพี่ที่คอยดูแลการเดินทางนอกจากเอมีเลียแล้วก็ยังมี
แอร์รอน สตาร์ บุตรแห่งไนกี้ ที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลจากเกาะอังกฤษร่วมทางมาด้วย มีคนเก่ง ๆ มาด้วยแบบนี้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัยแน่นอน!

จากนี้ก็นั่งรถกันไปยาว ๆ แบบข้ามวันข้ามคืน เล่นเกม ร้องเพลง แบ่งขนมที่ซื้อจากมินิมาร์ทตอนแวะจุดพักรถกับเพื่อน ๆ เดินทางเหนื่อยหน่อย แต่แบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ



[เทศกาลฟอร์ทูน่า]
ออกเดินทางสู่นิวโรม

แสดงความคิดเห็น

Nikolai CroftSon of Hecate's lineage.-25.06.05 / 07:30AM.-[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]เสียงลากกระเป๋าดังก้องบริเวณทางเดินระหว่างห้อง  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2025-6-19 19:34
โพสต์ 18642 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-6-18 05:09
โพสต์ 18,642 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดโพไซดอน  โพสต์ 2025-6-18 05:09
โพสต์ 18,642 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-6-18 05:09
โพสต์ 18,642 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-6-18 05:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x2
x1
x10
x1
x3
x9
x1
x2
x5
x1
x3
x3
x1
x2
x3
x1
x1
x1
x2
โพสต์ 2025-6-19 19:34:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2025-6-18 05:09 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-6-18 05:13 Resha CampbellThe younge ...
Nikolai Croft
Son of Hecate's lineage.


-25.06.05 / 07:30AM.-


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เสียงลากกระเป๋าดังก้องบริเวณทางเดินระหว่างห้องนอนของบ้านหมายเลข 20 นิโคไล ครอฟต์ สมาชิกคนล่าสุดของบ้านปิดล็อคประตูห้องนอนส่วนตัวของตนเอง เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้วนับตั้งแต่เด็กหนุ่มมาอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัด แม้ว่าจะเริ่มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้บ้างแล้ว แต่อาการทางจิตใจบางอย่างก็ไม่จางหายไปโดยสมบูรณ์ เขายังคงต้องไปบำบัดรักษาที่สถานพยาบาลของค่ายอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งและรับยามาทานอย่างต่อเนื่องระหว่างรอเข้าเรียนภาคการศึกษาใหม่


เมื่อไม่กี่วันก่อนขณะที่นิโคไลทานมื้อเย็นอยู่ที่โถงอาหาร รีชา แคมพ์เบลล์ ธิดาแห่งโพไซดอนก็เดินมาหาแล้วชวนไปเทศกาลฟอร์ทูนาที่นิวโรม ในตอนแรกเขายังไม่รู้ว่าเป็นเทศกาลอะไรจนเธอต้องอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ แต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่ได้ตอบตกลงในทันทีด้วยกลัวว่าอาการแพนิคจากความหวาดระแวงผู้คนแปลกหน้าจะกำเริบ


พอไปปรึกษา เฟลิจิตัส คีธ ผู้เป็นเป็นแพทย์ที่ดูแลเคสรวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ทำภารกิจไปช่วยชีวิตเขาแล้ว เธอก็สนับสนุนให้ลองออกไปเปิดหูเปิดตาดูบ้าง หากเอาแต่อยู่ในค่ายไปนาน ๆ เข้าก็จะยิ่งไม่กล้าเผชิญโลกภายนอก ซึ่งนิโคไลเองก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของคุณหมอที่ตนเคารพเหมือนดังพี่สาวคนนึง ไม่กี่วันถัดมาเขาจึงตอบรับคำชวนของรีชา


“อรุณสวัสดิ์รีชา”


นิโคไลเอ่ยทักเด็กสาวจากบ้านหมายเลข 3 ที่มายืนรอหน้าบ้านพร้อมรอยยิ้ม เธอดูเป็นคนร่าเริงและไม่มีพิษภัย อีกทั้งยังเป็นน้องสาวของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮีโร่แนวหน้าของค่ายฮาล์ฟบลัดในตอนนี้อย่าง ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล ซึ่งเขามารู้ภายหลังว่าเป็นคนรักของ แมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น พี่ชายร่วมมารดาของเขาเอง


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


“พร้อมแล้ว…แต่ก็ตื่นเต้นอยู่ นี่เป็นการออกข้างนอกครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่ค่ายของฉันเลย


นิโคไลยิ้มตอบเล็กน้อย แต่แววตากลับฉายแววกังวลและไม่มั่นใจ การเดินทางไปต่างถิ่นที่ไกลจากค่ายทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะออกจากเซฟโซน อีกทั้งเวลานี้พี่น้องจากบ้านหมายเลข 20 ก็แทบไม่มีใครอยู่บ้านสักคน ทุกคนต่างออกไปทำภารกิจกันหมดซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ในฐานะเดมิก็อด ยกเว้น จูลี่ เดรค ลูกพี่ลูกน้องอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาที่หายตัวไปเมื่อช่วงเกือบสิ้นเดือนก่อนจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข่าวคราวเพิ่มเติมจนน่าเป็นห่วง


ส่วน แอนดี้ ลูกก็อบลินตัวน้อยสัตว์เลี้ยงของแมคเคนซีที่ฝากให้จูลี่กับเขาช่วยกันดูแลก่อนจะออกไปทำภารกิจ เมื่อจูลี่ไม่อยู่หน้าที่นี้จึงตกอยู่ที่นิโคไลโดยสมบูรณ์ ในตอนแรกแอนดี้ทำท่าว่าอยากจะไปด้วย แต่คราวนี้ต้องนอนกับรูมเมทที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร อีกฝ่ายอาจไม่ชอบก็ได้ รีชาเลยแนะนำให้เขานำแอนดี้ไปฝากที่คอกม้าซึ่งมีเพกาซัสนามว่า ควีน กับ ไข่ผำ ก็อบลินเชื้อสายอาหรับอายุวัยเดียวกันกับแอนดี้ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของดีนอาศัยอยู่ อย่างน้อยก็เบาใจได้ว่าแซเทอร์ดูแลคอกม้าจะช่วยเลี้ยงดูให้เจ้าก็อบลินน้อยได้กินอิ่มนอนหลับและมีเพื่อนเล่นระหว่างที่เขาไม่อยู่


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


“……….”


เด็กหนุ่มถึงกับชะงักเมื่อมืออ่อนนุ่มของรีชากุมมือเขาไว้แล้วพาเดินออกจากโซนบ้านพักเพื่อไปขึ้นรถ หลังเหตุการณ์โดนลักพาตัว นิโคไลยังหวาดระแวงอยู่บ้างเวลาคนไม่คุ้นเคยมาถูกเนื้อต้องตัว ทั้งที่ปกติแล้วสามารถสัมผัสคนอื่นรวมถึงกอดคอเล่นหัวกับเพื่อนได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่กล้าปฏิเสธเด็กสาวอยู่ดี


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


“อะ…อืม…” 


นิโคไลครางรับไม่เต็มเสียงในลำคอเมื่อเห็นจำนวนคนตรงหน้า นี่มันมากเกินไป…เขาไม่นึกว่าจะมีชาวค่ายฮาล์ฟบลัดสนใจไปเทศกาลฟอร์ทูน่ามากขนาดนี้ แต่กระนั้นนอกจากรีชาแล้ว เขาก็ยังไม่ค่อยรู้สึกสนิทชิดเชื้อกับใครสักคนเท่าที่ควร หากไม่ติดว่ามีมือของธิดาโพไซดอนจับมือไว้อยู่ นิโคไลอาจตัดสินใจหันหลังเดินกลับค่ายเปลี่ยนใจไม่ไปแล้วก็เป็นได้


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เสียงทักทายจากด้านหลังช่วยหยุดความคิดอันใจเสาะของนิโคไลไว้ เมื่อหันกลับไปก็พบคนที่ราวกับว่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากัน หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นบุตรของเทพีแอมฟิไทรต์


“อรุณสวัสดิ์เชมัส”


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เมื่อรีชาชวน เชมัส แคตต์ ให้ร่วมเดินไปขึ้นรถด้วยอีกคน คราวนี้เลยปฏิเสธยากเข้าไปกันใหญ่ สุดท้ายนิโคไลจึงทำใจกล้าเข้าสู้ มุ่งหน้าไปขึ้นรถบัสที่หน้าค่ายกับเพื่อนทั้งสองคน


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


หลังจากมาถึงรถบัสและเก็บกระเป๋าเดินทางกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนรวมถึงชาวค่ายฮาล์ฟบลัดคนอื่น ๆ ก็พากันทยอยขึ้นรถ ภายในรถเริ่มมีคนมานั่งบ้างแล้ว ส่วนใหญ่เคยเห็นหน้าแต่ไม่เคยสนทนา บางคนเคยทักทายแนะนำตัวกันไปบ้างแต่ก็ไม่เคยได้ใช้เวลาพูดคุย และบางคนนิโคไลก็ไม่เคยเจอเลยตั้งแต่มาอยู่ที่ค่าย


เดินไปทางหลังตัวรถได้ไม่กี่ก้าว รีชาก็ถูกเด็กสาวฝาแฝดจากบ้านเฮอร์มีสเรียกไว้ แต่นิโคไลจำชื่อพวกเธอไม่ได้ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าทั้งสองคนมีชื่อว่า เลย์ลินน์ กับ เลย์ลา เมื่อธิดาแห่งโพไซดอนแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน จากนั้นรีชาก็ชวนให้นั่งตรงที่นั่งแถวถัดจากธิดาเฮอร์มีสทั้งสองคน ซึ่งนิโคไลกับเชมัสนั่งฝั่งตรงข้างกับเธอ


"นายเลือกที่นั่งได้เลยนะ ว่าจะนั่งริมทางเดินหรือว่าริมหน้าต่าง"


“งั้นฉันขอนั่งตรงริมหน้าต่างนะ”


เชมัสเปิดโอกาสให้นิโคไลเลือกที่นั่งก่อน เขาจึงเลือกตำแหน่งริมหน้าต่างอย่างไม่ลังเล อย่างน้อยทิวทัศน์ในประเทศอเมริกาน่าจะช่วยให้เขาสงบจิตสงบใจจากอาการตื่นคนได้ไม่มากก็น้อย


เมื่อทุกคนที่จะเดินทางไปนิวโรมขึ้นมานั่งบนรถบัสกันครบแล้ว คุณไครอนผู้ดูแลค่ายก็ขึ้นมากล่าวอะไรนิดหน่อย ส่วนมากจะเป็นกำหนดการต่าง ๆ และข้อปฏิบัติที่นิวโรม จากนั้นก็แนะนำแซเทอร์กับรุ่นพี่ที่ทำหน้าที่ดูแลเหล่าเดมิก็อดรุ่นน้องตลอดการเดินทางในทริปนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นสร้างความตื่นเต้นให้นิโคไลไม่น้อย นั่นคือ แอร์รอน สตาร์ นักฟุตบอลจากสโมสรชื่อดัง ‘แอร์รอนเชียร์’ จากประเทศอังกฤษ ดาวรุ่งพุ่งแรงที่เป็นที่จับตามองในขณะนี้ และแน่นอนว่าตัวแทนนักกีฬาฟุตบอลประจำโรงเรียนอย่างนิโคไลไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอแอร์รอนอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นเดมิก็อดอีกด้วย หากไปเล่าให้เพื่อนที่แคนาดาฟัง พวกนั้นต้องไม่เชื่อแน่ ๆ การเดินทางครั้งนี้ชักจะน่าสนใจขึ้นมาซะแล้ว


เมื่อทั้งคุณไครอน แซเทอร์และรุ่นพี่ได้แนะนำเรื่องต่าง ๆ จนครบแล้วก็สมควรแก่เวลา รถบัสเริ่มล้อหมุนโดยมีจุดมุ่งหมายสู่นิวโรม


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]




เทศกาลฟอร์ทูนา

ออกเดินทางสู่นิวโรม


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 53696 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2025-6-19 19:34
โพสต์ 53,696 ไบต์และได้รับ +20 EXP +1 Point +20 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก เขตแดนเฮคาที  โพสต์ 2025-6-19 19:34
โพสต์ 53,696 ไบต์และได้รับ +15 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-6-19 19:34
โพสต์ 53,696 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-6-19 19:34
โพสต์ 53,696 ไบต์และได้รับ +20 EXP +35 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก เวทมนต์ [II]  โพสต์ 2025-6-19 19:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เหรียญนกฮูก
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
กริชจันทราสีเลือด
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
ขวานแร็กนาร์จำลอง
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-3 23:27:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Parida เมื่อ 2025-7-4 10:24

[เส้นทางเงียบงัน ของ ดวงจันทร์ดวงน้อยๆ]


[Panida Aryapakdeethewarat]



      

      ในช่วงเวลายามค่ำ ของ วันที่ 3 กรกฎาคม เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดา ได้ทำการก้าวเรียวขาบาง เดินทางขึ้นมานั่งอยู่ภายใน บริเวณ รถยนต์ ที่คุณแซเทอร์ได้ขับมาทำการจอดไว้ อยู่ที่ตรงบริเวณริมถนนสายเปลี่ยว เธอไม่ได้เอ่ยคำถาม ถามเขาเลยแม้แต่นิด ว่าจะพาเธอเดินทางไปที่ใด เธอไม่มีแม้แต่ข้อสงสัยใดๆ สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดาทำ ในตอนนี้มีแค่เพียงอย่างเดียว ก็คือ เธอกำลังนั่งหลับตา และ พิงหน้าต่าง ของ รถยนต์ อยู่อย่างเงียบๆ และปล่อยให้ลมหายใจพาตนเองค่อยๆ ล่องลอย ไปกับความเงียบสงบของยามค่ำคืน การเดินทางในครั้งนี้ มีจุดหมายปลายทางมุ่งตรงไปยังบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ รถยนต์ที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดา กำลังนั่งโดยสารอยู่ ค่อยๆ ทำการแล่นฝ่าถนนในยามค่ำคืนราตรีนี้ ไร้ซึ่งเสียงเพลง ไร้ซึ่งเสียง ของ การสนทนาพูดคุยใดๆ จะมีก็เพียงแค่เสียง ของ ลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอกัน ของเด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่าง ริดา ที่ในตอนนี้เธิกำลังนั่งนิ่งเงียบอย่างสงบอยู่ตรงบริเวณเบาะด้านหลัง ของ รถยนต์ และเธอเองก็ไม่รู้ว่าเส้นทาง ของ โชคชะตาที่รอเธออยู่เบื้องหน้า จะนำทางให้เธอเดินไปพบเจอกับอะไรบ้าง 






       ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ ตี 4.40 นาฬิกา รถยนต์ที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดา กำลังนั่งโดยสารอยู่ได้ขับมาถึงตรงบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย สายตา ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ กำลังมองไปยังผู้คนมากมายที่เดินสวนกันไป สวนกันมา บางครั้งบางคราก็มีเสียงประกาศดังแทรกกลางขึ้นมา ท่ามกลางความวุ่นวาย และเนื่องจากแสงไฟที่สว่างจ้าไปทั่วทั้งบริเวณสนามบิน ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยๆ เริ่มมีอาการกระพริบตาถี่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่มีคำพูดใดๆ พูดเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง สิ่งที่เธอทำก็แค่เพียงยืนแนบเงาตนเอง ข้างๆ คุณแซเทอร์ พร้อมทั้งมือข้างหนึ่งทำการจับสายสะพาย ของ กระเป๋าเอาไว้แน่น ตอนนี้เด็กหญิงตัวน้อยๆ กำลังพยายามไม่ให้ความรู้สึกอึกอัดใจล้นออกมา ในใจตอนนี้ของเธอทำได้แค่เพียงเอ่ยคำพูดหนึ่งออกมาไม่ให้ใครได้ยินว่า




     "คนเยอะจังเลยแฮะ"  แทนที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดาจะมีความรู้สึกตื่นเต้น แต่เธอกลับไม่แสดงออกถึงึวามรู้สึกนั้น เลยแม้แต่นิดเดียว ริดารู้สึกถึงความสงบ ... หรืออาจจะเรียกได้ว่าเธอกำลังปล่อยวาง เพราะเธอรู้ว่าจุดประสงค์ ของ การออกเดินทางในครั้งนี้ เธอไม่ได้ไปท่องเที่ยว และไม่ได้เดินทางไปค่ายฤดูร้อนแบบที่เด็กคนอื่นๆ อาจจะกำลังจินตการนึกถึงภาพเหล่านี้กันอยู่ภายในหัวสมอง แต่ว่าการเดินทางในครั้งนี้สำหรับเด็กน้อยอย่างเธอ ก็ไปเพื่อหาคำตอบบางอย่างในสิ่งที่เธอมองเห็น สิ่งที่เธอเงียบไม่พูด หรือเอ่ยถึงให้ใครฟังมาตลอด และ ถึงพูดไปก็คงไม่มีใครเชื่ออยู่ดี







       ภายในบริเวณด้านใน ของ เครื่องบินโดยสาร ในตอนที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นเหนือเมฆสูง ริดาได้แต่จ้องมองดูท้องฟ้ายามรุ่งสางผ่านทางบริเวณกระจกบานเล็กๆ เส้นของขอบฟ้าในเวลานี้เริ่มแต่งแต้มไปด้วยสีส้มอมทอง เธอค่อยๆ เริ่มทำการเอื้อมมือข้างขวาไปทำการหยิบสมุดหนังสีดำ นำออกมาถือไว้ภายในมืออย่างแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มคลี่สมุดเปิดออกไปยังบริเวณหน้าที่กำลังว่างอยู่หน้าหนึ่ง แล้วเริ่มทำการลงมือเขียนถ้อยคำสั้นๆ ด้วยปากกาหมึกสีเงินลงไปในทันทีว่า

      "ห่างไกลสักเพียงไหน ... แต่ว่าหัวใจดวงน้อยๆ ยังคงเป็นห่วงพ่อเสมอ"  เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดารู้ดีว่าพ่อ ของ เธอคงตื่นนอน และ มาเจอจดหมายที่เธอเขียนแล้วถึงแม้ว่าพ่อจะไม่ได้โทรตาม ไม่ได้วุ่นวาย ไม่ได้มาตะโกนตามหา แต่ในฐานะ ของ คนเป็นลูก เธอย่อมรู้ดีว่าความเงียบ ของ ผู้เป็นพ่อย่อมลึกซึ้ง พอๆ กับ ความเงียบของเธอ







     ช่วงนี้เป็นเวลาประมาณ 19.00 นาฬิกา ตามเวาลาในท้องถิ่น เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดาเดินทางมาถึงยังตรงบริเวณสนามบินปลายทาง ของ เมืองอันลึกลับเมืองหนึ่ง ที่ไร้ชื่อบนแผนที่ทั่วไป หลังจากที่เธอค่อยๆ ทำการก้าวเรียวขาบาง เดินทางลงจากบริเวณเครื่องบิน เดินทางเข้าสู่ตรงบริเวณพื้นที่ ที่เด็กน้อยอย่างเธอไม่เคยรู้จัก ทุกอย่างยังคงเงียบสงัดอย่างน่าประหลาดใจ จะมีก็แค่เพียงสายลมเย็นๆ ที่พัดพานำกลิ่นของสมุนไพร และกลิ่นดินหลังฝนปลายฤดูโชยมาให้เด็กหญิงตัวน้อยได้ชื่นใจสักนิด ก่อนที่จะมีรถยนต์คันหนึ่ง เป็นรถตู้สีเทาอมฟ้า มีป้ายทะเบียน HG 4666 ขับมาหยุดจอดสนิทลงตรงหน้า ของเธอ เธอมองปั๊ปก็รู้ในทันทีว่า รถคันนี้มีหน้าที่มารอรับเธอแถมคนขับพอเดินลงมาจากรถ เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ทำหน้าที่เปิดประตูรถ และ พยักหน้าให้เธอช้าๆ เด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างริดา ก็ไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ ออกไป เธอทำแค่เพียงเดินขึ้นไปนั่งบนรถ ตรงบริเวณข้างกระจกเงียบๆ เหมือนเช่นเคย ระหว่างการเดินทาง ในตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มค่อยๆ ทำการเปลี่ยนสีสันไป จากที่เป็นสีฟ้า ตอนนี้กลับกลายเป็นสีม่วง และจากสีม่วง ก็เริ่มที่จะกลับกลายเป็นสีดำ และในที่สุดก็เต็มไปด้วยแสง ของ ดวงดาวพร่างพรายอยู่เต็มท้องฟ้า ตามมาด้วยเสียงของกิ่งไม้ค่อยๆ เริ่มทำการเสียดสีกันเบาๆ ประดุจราว กับ เสียงกระซิบกระซาบ ของ เทียนที่กำลังถูกจุดติดขึ้นมาภายในบริเวณ หัวใจ ของ เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ อีกครั้ง





       ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 22.45 นาฬิกา รถยนต์ที่เธอกำลังนั่งทำการโดยสารมาอยู่ค่อยๆ ทำการขับมาหยุดจอดสนิทลงที่ตรงบริเวณหน้าประตูค่ายฮาล์ฟบลัด เธอสังเกตเห็นว่าประตูค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ เป็นประตูไม้บานใหญ่ที่มีลวดลายสลักเป็นอักษรที่ดูค่อนข้างมีความเก่าแก่โบราณ และ เป็นอักษรบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก ริดาค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบางเดินทางลงมาจากบริเวณรถยนต์อย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครพูดหรือบอกสิ่งใด กับ เธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทว่าเธอเพียงแค่รู้สึกว่า "ถึงเวลาแล้ว"  หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูบานใหญ่บานนั้น ก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปิดขึ้นเองอย่างช้าๆ เสมือนว่ามันรับรู้ได้ถึงการเดินทางมาถึง ของ เธอ 







       เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดาเริ่มได้กลิ่นของดอกบัวหลวงแห้งลอยโชยมาจางๆ ทำให้เธอค่อยๆ หยุดยืนอยู่นิ่งๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกจนเต็มปอดและเริ่มพึมพำคำพูดเบาๆ ออกมาภายในใจว่า

     "หนูเดินทางมาถึงยังบริเวณค่ายฮาล์ฟบลัด อย่างปลอดภัยแล้วนะคะ"  หลังจากที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ได้ทำการก้าวเรียวขาบางเดินทางเข้ามา ได้เพียงแค่ไม่นานนัก เธอก็เริ่มได้ยินเสียงพูดคุยจอแจ ของ เด็กๆ ที่อยู่อาศัยภายในบริเวณค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ดังขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็มีเสียงหัวเราะดังแทรกขึ้นมาด้วย ในขณะที่มีบางคนก็จ้องมองดูเธอด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ และอีกบางส่วนที่พากันชี้ชวนให้มองมายัง "เด็กใหม่" อย่างเธอ ผู้ที่เป็นคนที่มีอุปนิสัยเงียบงัน และสวมใส่ชุดเรียบง่าย พร้อม กับ กำลังสะพายกระเป๋าใบเล็กๆ อยู่บริเวณข้างๆ ลำตัวแต่ถึงจะถูกมองด้วยสายตานับไม่ถ้วน จากผู้คนทั่วทั้งค่ายฮาล์ฟบลัด เด็กหญิงอย่างริดาก็ยังคงยืนอยู่นิ่งๆ เธอไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตื่นเต้น หรือมีท่าทีหวั่นไหว สิ่งที่เธอเลือกทำในตอนนี้ก็คือ ยืนอยู่ภายในความเงียบสงบ ของ ตัวเธอเอง พร้อมทั้งมองสำรวจไปรอบๆ ตัวอย่างช้าๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนราวกับต้องการทำความเข้าใจ กับ โลกใบใหม่ใบนี้ด้วยสายตา มากกว่าด้วยถ้อยคำ






       แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ก็มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งเธอมีดวงตาสีฟ้าสดใส และยังมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเป็นมิตร แถมเธอยังไว้ผมสีบลอนด์ทองและถักเปียหลวมๆ ไว้ข้างหนึ่งเธอสวมใส่เสื้อสีส้ม ของ ค่ายฮาล์ฟบลัด พร้อมกระโปรงกางเกงสีขาว เดินทางตรงดิ่งเข้ามาหาริดา พร้อม กับ เอ่ยคำพูดขึ้นมาว่า

      "เธอ คือ ภริดาใช่ไหม เรามีชื่อว่า ลิเลียน่า ไทเลอร์ อยู่บ้านอะธีน่า หมายเลข 06 เดินตามฉันมาสิ ฉันจะพาเธอไปรายงานตัวที่บ้านใหญ่"  หลังจากที่คำพูด ของเด็กน้อยคนดังกล่าว ได้พูดจบลง ริดาค่อยๆ เริ่มทำการพยักหน้าเบาๆ ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ จะเปล่งเสียงหรือหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง ของ เธอ แต่ทว่ามีเพียงแต่ดวงตาของเธอที่กำลังส่องแสงเปล่งประกายเหมือนแสงเทียนในคืนเงียบงัน เด็กหญิงตัวน้อยๆ นามว่า ลิเลียน่า กำลังส่งรอยยิ้มกว้างให้ กับริดาในขณะที่กำลังเดินอยู่เคียงข้างกันและกัน ถึงแม้ว่าริดาจะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเงียบงันไปหน่อย แต่สำหรับ ลิเลียน่าแล้ว เธอกลับไม่มีความรู้สึกอึกอัดใจเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็ เพราะว่า

ในค่ำคืนของวันนี้ เด็กหญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่เคยเงียบอยู่ในโลกใบเก่า กำลังก้าวเดินเข้าสู่โลกใบใหม่ที่มีสิ่งลึกลับรออยู่ และเรื่องราวของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น...






แสดงความคิดเห็น

เพิ่มเติม บ้านเฮคาทีเหลือ นิโคไล ครอฟต์ คนเดียว  โพสต์ 2025-7-4 00:16
โพสต์ 26117 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-3 23:27
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โพสต์ 2025-7-10 22:23:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Header Image

ย่างเท้าสู่ดินแดนใหม่ -  การต้อนรับ ของบุตรีแห่งเนเมซิส


      วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม - ยามบ่ายในฤดูร้อนแรก ของ การเปลี่ยนแปลง


      สายลมที่หอบเอากลิ่นหญ้าแห้ง ผสมกลิ่นไม้โอ๊คและดินป่าหลังฝนตกแผ่วเบาพัดมากระทบใบหน้าเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเพิ่งก้าวลงจากรถยนต์ที่จอดอยู่เบื้องหน้าประตูค่าย เสียงล้อบดทับกรวดเล็ก ๆ เงียบหายไปพร้อมกับประตูรถที่ปิดลง ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวใจของเด็กสาวที่เต้นเป็นจังหวะช้าแต่หนักแน่น


      สาวน้อยนามว่า อิม ฮาริน เธอกำลังยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูไม้แกะสลักลวดลายโบราณซึ่งนำทางเข้าสู่ ค่ายฮาล์ฟบลัด สถานที่ซึ่งเธอเคยได้ยินเพียงผ่านคำบอกเล่าในนิทานปรัมปราเท่านั้น มาบัดนี้ เธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางความจริง ความจริงที่ว่า เธอไม่ใช่เด็กหญิงธรรมดาอีกต่อไป


แววตาของฮารินยังคงเด็ดเดี่ยวเช่นเคย สีหน้าสงบนิ่งของเธอสะท้อนความสุขุมอย่างน่าประหลาด แม้ภายในใจจะยังมีเป็ดน้อยตัวหนึ่งที่กำลังเขินจนหงายหลังเพราะกลัวการเริ่มต้นใหม่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอก็ยอมรับมันได้ในแบบของเธอ … ในแบบของ นักล้างแค้นผู้สวมหัวใจเป็ด





      เธอค่อยๆ เริ่มทำการก้าวเท้า เดินทางเข้าไปผ่านซุ้มประตูค่าย … ทันทีที่เท้าของเธอแตะผืนดินด้านใน เสียงของเด็กหนุ่มและเด็กสาวจำนวนมากก็ดังคลอเป็นพื้นหลัง บ้างหัวเราะ บ้างเล่นดนตรี บ้างก็กำลังนั่งจดบันทึกเวทเก่า ๆ เหมือนโลกแห่งจินตนาการและความเป็นจริงซ้อนทับกันอย่างไม่มีรอยต่อ พวกเขาต่างหันมามองเธอ … เด็กใหม่ที่ดูเคร่งขรึม สวมเสื้อโค้ตบางสีครีม มีสายตาเยือกเย็นแต่เปี่ยมด้วยความช่างสังเกต


      และแล้ว เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏตรงหน้าเธอราวกับภาพที่ถูกตัดสลับขึ้นมาโดยผู้กำกับที่แม่นมือ


“เธอน่ะ เป็นเด็กใหม่ ที่พึ่งเดินทางเข้ามาถึงสินะ?” น้ำเสียงเฉียบคมและไร้เยื่อใยดังขึ้นจากหญิงสาวผมดำยาวที่เดินตรงเข้ามาหาอย่างไม่ลังเล ใบหน้าขาวจัดดุจหยกสลัก ตัดกับริมฝีปากแดงที่เผยวาจาราวกับฟันดาบที่เชือดเฉือน พอยชั่น ซินซอร่า


     หญิงสาวเจ้าของดวงตาสีเข้มราวรัตติกาลยืนจังก้าต่อหน้าเด็กสาวใหม่ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นชาอย่างเปิดเผยว่า 


     “ฉันพอยชั่น ซินซอร่า บ้านหมายเลข 16 … เนเมซิส ถ้าเธอคิดว่าโลกนี้จะให้ความยุติธรรมกับเธอเองล่ะก็… คิดใหม่ซะเถอะ ที่นี่ เราต้อง ‘ยืนหยัด’ เพื่อความยุติธรรมเอง ด้วยมือของเรา”





       ฮารินนิ่งงันไปเพียงครู่ เธอไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือถูกข่ม กลับกัน แววตาของเธอเริ่มมีประกายบางอย่าง ราวกับเสียงของหญิงสาวตรงหน้าไปกระตุกปีกของเป็ดนักล้างแค้นให้ขยับเบา ๆ

       เธอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงความนุ่มนวลที่ฝึกฝนมาอย่างดี

      “ฉัน … อิม ฮาริน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ บางทีเราอาจจะคิดไม่ต่างกันเท่าไรนัก …” รอยยิ้มมุมปากบางเฉียบของพอยชั่นปรากฏเพียงแวบเดียวก่อนที่เธอจะหันไปชี้มือยังอาคารไม้ทรงสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางค่าย ก่อนที่พอยชั่น  ซินซอร่า จะเอ่ยคำพูดขึ้นมาในทันทีว่า 

“บ้านใหญ่อยู่ทางนั้น ไปแจ้งรายงานตัวซะ”





แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 12244 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-7-10 22:23
โพสต์ 12,244 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-7-10 22:23
โพสต์ 12,244 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-10 22:23
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โพสต์ 2025-7-11 14:32:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Axel เมื่อ 2025-7-11 21:00

Run boys runThey're trying to catch you
ท้องฟ้าในนิวยอร์กวันนี้ไม่ต่างจากเมื่อวาน...แสงสีเหลืองซีดทาบผ่านกระจกหน้ารถ Porsche Panamera สีดำเงา ล้อหมุนอย่างมั่นคงไปตามทางหลวง แต่ในรถกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร 

“เอาจริงปะ” โนอาห์พูดขณะเลี้ยวเข้าเส้นทางรองริมป่า “นายรู้ไหมว่าการขับรถแพงๆ แบบนี้ผ่านเมืองเล็กๆ ทำให้เราดูน่าสงสัยกว่าเดิมไปอีกสามเท่า” 

 “ฉันไม่ชอบกลิ่นเบาะเก่าๆของรถมือสอง” เสียงจากเบาะหลังดังขึ้น — ดาชิเอนตัวพิงเบาะหนังสวมแว่นกันแดดในรถแบบไม่แคร์สภาพแสง “และนายขับได้ไม่เลวสำหรับคนที่ปกติกินหญ้า” 

 “แซเทอร์ไม่ได้กินหญ้า... เรากินกระป๋องดีบุก—” 

“ฟังดูไม่ช่วยอะไรให้ดูปกติมากขึ้นเลยซักนิด” 

 โนอาห์กลอกตาเบาๆ ขณะเหยียบคันเร่งอย่างนุ่มนวล เส้นทางเริ่มลดความหนาแน่นของรถและผู้คน กลืนสู่เส้นทางเลียบป่าไม้และเนินหญ้า รถเคลื่อนที่ไปเงียบๆ อีกราวสิบนาที 

ดาชิไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋า Hermes ใบเดิมอย่างช้าๆ — iPhone 17 pro max สีดำด้าน ที่มีเคสลายหนังจระเข้ โนอาห์ไม่ได้สนใจตอนแรก จนกระทั่งเขาได้ยินเสียง ติ๊ง! จากแอปอะไรสักอย่าง เสียงแจ้งเตือนธรรมดา... แต่มันไม่ควรเกิดขึ้นในรถของเดมิก็อดที่กำลังมุ่งหน้าสู่ ‘พื้นที่ปลอดภัย’ แซเทอร์จึงชำเลืองมองกระจกหลัง คนที่เบาะหลังกำลังเปิดแอปพลิเคชันตลาดหุ้น ใบหน้าเรียบนิ่งขณะที่นิ้วไถเลื่อนหน้าจอ มือข้างหนึ่งวางพาดที่วางแขนที่ประตูรถ

“...นี่นาย... นายเอา โทรศัพท์ ติดตัวมาด้วยเหรอ?” โนอาห์ถามด้วยน้ำเสียงเหมือนคนเพิ่งเห็นใครบางคนโยนปลาดิบลงในบ่อฉลาม ในใจร้องฉิบหายด้วยนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมเตือน 

 “แน่นอน” ดาชิว่า “ฉันมีบัตรเครดิต ผูก Apple Pay ไว้ด้วย จะให้ไปใช้เปลือกหอยในค่ายเหรอ?” 

“โทรศัพท์มือถือของเดมิก็อด — มันเหมือน...ไฟฉายยามค่ำคืนในถ้ำเต็มไปด้วยอสูรกาย!นายกำลังส่งคลื่นออกไป... พวกมัน ตามสัญญาณได้!” 

ดาชิเลิกคิ้ว “นายกำลังบอกว่าฉันเพิ่งกดแชร์โลเคชันให้สัตว์ประหลาดเหรอ? แล้วถ้าฉันเปิด Airplane Mode ล่ะ?” “นายก็ไม่ควรจะเสี่ยงอยู่ดี!” ดาชิทำหน้าเหมือนจะเถียงต่อ 

แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร... โครม!! เสียงกระแทกสนั่นดังขึ้นจากประตูด้านหลังฝั่งคนขับ ทั้งรถสั่นสะเทือนรุนแรงจนเกือบเสียหลักพุ่งลงข้างทาง กระจกหลังฝั่งซ้ายแตกร้าวราวกับถูกทุบด้วยค้อนยักษ์ ประตูรถยุบเข้าไปครึ่งแผง — ยุบเข้ามาอย่างจะๆ ตรงตำแหน่งที่ดาชิเพิ่งขยับตัวหลบออกมาเพียงวินาทีก่อนหน้า เศษกระจกร่วงกราวใส่เบาะ ดาชิเหลียวมองออกไปอย่างตกตะลึง นอกหน้าต่าง...ร่างมหึมาของบางสิ่งโผล่พ้นแนวต้นไม้ มันสูงเกือบสามเมตร ร่างกายใหญ่เทอะทะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อหยาบๆ ผิวหนังเป็นสีเทาน้ำหมึก หัวล้านเงาวับ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ดวงตาเดียวกลางหน้าผาก เต็มไปด้วยความกระหาย ไซคลอปส์… 

 “หนี! เราต้องทิ้งรถแล้ว!” แซเทอร์ร้องลั่น 

โครมมม! ประตูหลังฝั่งเดียวกับโนอาห์ถูกไซคลอปส์ตะครุบไว้ด้วยมือใหญ่เท่าประตูโรงรถ บานประตูยับคาอุ้งมือของมัน ดึงกระตุกอย่างแรงจนโครงในเริ่มหลุดออกจากกัน…เสียงเหล็กเสียดสีร้องโหยหวน โนอาห์ไม่รอแล้ว…เขาถีบประตูฝั่งคนขับอย่างแรงจนหลุดออกไปข้างทาง พาร่างตัวเองออกจากรถในจังหวะที่ไซคลอปส์เหวี่ยงหมัดลงมาอีกครั้ง ดาชิกัดฟันเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร กระโดดตามออกไปพร้อมเป้ ที่เขาคว้าไว้ทัน รถยนต์สีเข้มถูกเหวี่ยงคว่ำลงข้างถนน ทั้งคู่กลิ้งลงเนินหญ้าริมทาง กลิ่นดินแห้งกระแทกจมูก ปลายรองเท้าขูดกับรากไม้ ดาชิหอบ ขณะมองกลับไป รถของพวกเขา... พังไม่มีชิ้นดี 

“ฉันควรรีพอร์ตนายไหม..” ดาชิพูดเสียงเครียด “...ว่าไม่เตือนข้อมูลสำคัญระดับนี้เนี่ย” โนอาห์ลุกขึ้นขัดเข่า หายใจหอบ ดึงเป้ของตัวเองขึ้นหลัง วิ่งก่อน เดี๋ยวค่อยบ่น!!” เขาชี้ไปยังป่าทึบอีกด้านของถนน “ทางนั้น พวกเราเข้าใกล้ค่ายแล้ว!” 

เสียงคำรามต่ำๆ ตามหลังมา...ดวงตาเดียวของไซคลอปส์ฉายแววเกลียดชังเจิดจ้า มันเริ่มก้าวตามมา ราวกับได้กลิ่นสายเลือดเทพ ลอยอยู่ในอากาศ และพวกเขาก็ออกวิ่ง ระยะทางสุดท้าย...ที่มีเพียงสองเท้ากับโชคเท่านั้น ที่จะพาให้รอดไปถึงค่ายได้ เสียงฝีเท้ายักษ์กระทืบพื้นดินสะท้อนเข้ากระดูก เหมือนแผ่นดินไหวสั้นๆ ซ้ำไปซ้ำมา ใบไม้กรอบแห้งใต้ฝ่าเท้าดาชิแตกระเบิดออกทุกก้าวที่เขาพุ่งฝ่าเข้าไปในแนวต้นไม้ เสียงหอบของโนอาห์อยู่ด้านหน้า ห่างไม่เกินสองเมตร 

 “ยังตามมาอยู่ไหม!?” โนอาห์ตะโกนโดยไม่หันกลับ โครม!! เสียงต้นไม้ด้านหลังหักโค่น พร้อมเงาตะคุ่มของไซคลอปส์ที่วิ่งฝ่าแนวไม้ได้เหมือนของเล่น “ตามมาติดๆเหมือนหนี้บัตรเครดิตเลยล่ะ!” ดาชิตอบขณะพุ่งตัวหลบกิ่งไม้ที่ปัดใส่หน้า แรงลมจากกระบองไม้ที่ฟาดพลาดไปแค่คืบ ทำให้ต้นไม้ข้างๆ ระเบิดเป็นเสี่ยง เสียงคำรามของไซคลอปส์ก้องสะท้อนในแนวต้นไม้ แต่เสียงฝีเท้าของมันที่กระแทกลงบนพื้นดินชื้นจนสั่นสะเทือนคือสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด ตึง! ตึง! ตึง! เสียงย่ำของมันดังกว่าเสียงหัวใจของดาชิ — ซึ่งกำลังเต้นแรงจนแทบระเบิดออกจากอก 

“นายวิ่งเร็วกว่านี้ได้มั้ย!?” โนอาห์หอบพรวด พลางกระโดดข้ามรากไม้ยักษ์ที่ชอนไชออกมาบนพื้นป่า “ขาฉันเป็นมนุษย์ไม่ใช่กีบแพ”  

"เลี้ยวซ้าย!” โนอาห์ตะโกนเมื่อเห็นแนวก้อนหินข้างหน้า ดาชิหันตามทันที แต่... ข้อเท้าเขาพลิกตอนกระโดดข้ามรากไม้ แต่แทนที่จะล้มเถาวัลย์เส้นหนึ่งเหมือนบังเอิญแกว่งลงมาพันแขนเขาไว้พอดี พยุงน้ำหนักไว้ชั่วครู่ ทำให้เขาโยนตัวกลับขึ้นมายืนได้ก่อนจะล้มหน้าคะมำ “...ป่าทำไมมันรกขนาดนี้วะ?” ดาชิสบถ โนอาห์หันมาเห็นฉากนั้นพอดี “เงียบน่า ฉันยังไม่เคยเจอใครที่ดวงนรกกว่านายเลยในชีวิตนี้!”

ข้างหน้ามีร่องลึก— กว้างพอให้คนตกลงไปตาย แต่ก็แคบพอให้กระโดดข้ามได้ถ้าโชคดีพอ “เห็นร่องตรงนั่นมั้ย?” โนอาห์ชี้ไปด้านขวา “วิ่งอ้อมไปทางนั้น แล้ว...เฮ้ อย่าทำหน้าแบบนั้น—!” ดาชิไม่ได้ตอบ เขาคว้าโนอาห์วิ่งไปทางร่องลึก ก่อนหรี่ตาเขาลง ริมฝีปากยกยิ้มเล็กน้อยอย่างคนที่กำลังเดิมพันด้วยสิ่งเดียวที่เขามี  “ขอแค่โอกาสไม่เป็นศูนย์......มาพนันกันซักตั้ง” เขาดึงเพื่อนร่วมทางให้กระโดดไปด้วยกัน และขณะลอยกลางอากาศนั้นเอง...ไซคลอปส์ก็พุ่งตามมา ร่างของมันพุ่งขึ้นสูงราวภูเขาเล็กๆ กระโดดตามด้วยแรงมหาศาล 

แต่... พรึ่บ! นกฝูงใหญ่พุ่งบินผ่านหน้ามันในจังหวะพอดี หนึ่งในนั้นปะทะเข้ากับใบหน้าของมัน ทำให้มันเสียสมดุลในวินาทีสุดท้าย ร่างยักษ์แฉลบกระแทกขอบเหว เสียงคำรามของมันดังลั่น ก่อนที่ไซคลอปส์จะไถลหล่นลงไปในร่องดินด้านล่าง และทุกอย่างเงียบ ดาชิกลิ้งตัวมาล้มที่อีกฝั่งหนึ่งของร่องลึก โนอาห์กลิ้งตามลงมา หอบแทบขาดใจ “นายเพิ่งฆ่าไซคลอปส์ด้วย...ฝูงนก?” โนอาห์มองเขาเหมือนไม่อยากเชื่อ “ฉันแค่กระโดด แล้วมันดันซวยเอง” ดาชิลุกขึ้น ปัดฝุ่นออกจากแจ็กเก็ต "แถมเราไม่รู้ด้วยว่ามันตายไหม รีบไปก่อนมันขึ้นมาได้เถอะ" 

พวกเขาออกตัววิ่งต่อไปในตอนนี้แรงของเดมิก็อดแทบจะไม่เหลือ จนแซเทอร์วิ่งแซงไปข้างหน้า จนกระทั่ง “ทางนี้!! เจอรั้วแล้ว!!” ขาทั้งสองข้างเหมือนจะหลุดออกจากสะโพกแต่ดาชิยังฝืนวิ่ง ร่างเขาผ่านแนวไม้ทึบก่อนจะเจอกำแพงหินเตี้ยๆ กับเสาไม้สองต้นฝังตราสัญลักษณ์แปลกตา — รั้วค่าย “เร็วเข้า!” โนอาห์วิ่งผ่านรั้วเข้าไปก่อนจะร้องเร่งคนด้านหลัง ดาชิพุ่งตัวสุดแรง กระโจนผ่านแนวรั้วเข้ามา ทั้งคู่ทิ้งตัวลงไปนอนหัวเราะอยู่บนพื้นหญ้าด้วยความทึ่งในโชคชะตาที่บ้าคลั่ง ตั้งแต่การหนีตายในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก.....

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20621 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-11 14:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-7-12 18:43:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
12-07-2025 06.15 AM

I want to be your everything little darling




หลังออกจากบริเวณกระดานงาน ไนมีเรียก็ไม่ได้มุ่งหน้าไปยังโรงอาหารทันที แต่กลับเดินขึ้นไปยังเนินฮาล์ฟบลัด ผ่านต้นสนของธาเลียที่ยืนหยัดอย่างทระนง และตรงไปยังเป้าหมายแรกในภารกิจของโซเฟีย ‘ประตูทางเข้าหลักของค่าย’

ซุ้มประตูหินอ่อนสีขาวตั้งตระหง่านต้อนรับรุ่งอรุณ เถาไอวี่ที่เลื้อยพันอย่างงดงามดูราวกับเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมมาตั้งแต่ต้น อักษรกรีกโบราณสีทองที่สลักคำว่า 'ค่ายฮาล์ฟบลัด' ทอประกายเรืองรองเมื่อต้องแสงแรกของวัน มันคือภาพลักษณ์ของบ้านที่ปลอดภัยและสง่างาม

“นี่น่ะเหรอจุดอ่อน?” เสียงของคลาริสซ่าดังขึ้นในหัวอย่างไม่เชื่อถือ “ประตูหินอ่อนที่แข็งยิ่งกว่าหัวของพวกบ้านแอรีส กับเวทมนตร์ป้องกันระดับพระกาฬเนี่ยนะ? ฉันว่าเด็กบ้านอะธีน่าคนนั้นคงเบื่อจนหาเรื่องให้คนอื่นทำเล่นแล้วล่ะ”

“ทุกป้อมปราการมีรอยร้าวเสมอ แคลร์” เจ้าของนัยน์ตาลึกลับตอบกลับเรียบๆ ขณะที่เธอเริ่มเดินสำรวจอย่างละเอียด “หน้าที่ของเราคือการหามันให้เจอก่อนที่ศัตรูจะเจอ”

เธอไม่ได้เดินเข้าไปในค่าย แต่กลับเดินเลาะไปตามแนวขอบนอกของซุ้มประตูอย่างช้าๆ สายตาคมกริบของเธอกวาดมองทุกรายละเอียด ไม่ใช่ในฐานะผู้อยู่อาศัย แต่ในฐานะผู้บุกรุก

จุดอ่อนที่หนึ่ง ก็ปรากฏแก่สายตาของเธออย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่ตัวประตู แต่คือพื้นดินเบื้องล่าง เส้นทางเดินเท้าที่ถูกเหยียบย่ำจนแน่นนั้นแข็งแรงดี แต่พื้นดินที่อยู่ขนาบข้างทั้งสองด้าน ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของอาณาเขตเวทมนตร์พอดี กลับมีร่องรอยของการทรุดตัวเล็กน้อย ดินบริเวณนั้นดูร่วนซุยและชุ่มน้ำกว่าปกติ อาจเป็นเพราะฝนที่ตกหนักเมื่อหลายวันก่อน

“ถ้าฉันเป็นไซคลอปส์ หรืออสุรกายตัวหนักๆ สักตัว” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กกับปากกาออกมา “ฉันจะไม่พุ่งชนประตูตรงๆ แต่จะพุ่งเข้าใส่จุดนี้ ให้พื้นมันทรุด แล้วค่อยหาทางมุดเข้ามาใต้ฐานของประตู”

เธอจดบันทึกข้อเสนอแนะลงไป: ‘จุดที่ 1: พื้นดินข้างประตูทรุดตัว ข้อเสนอแนะ: นำหินแบนขนาดใหญ่จากลำธารมาปูทับเสริมความแข็งแรงบริเวณฐานของซุ้มประตูทั้งสองฝั่ง ใช้แรงงานจากบ้านเฮเฟตัสหรือแอรีส งบประมาณ: ต่ำ’

จากนั้น สตรีตาคมก็เงยหน้าขึ้นมองตัวซุ้มประตู เถาไอวี่ที่ดูสวยงามนั้นกลับดูต่างออกไปในสายตาของนักยุทธศาสตร์

“สวยดีนะ” วิญญาณแม่มดสาวออกความเห็น “ให้ความรู้สึกเหมือนปราสาทในเทพนิยาย”

“มันคือบันได” ไนมีเรียสวนกลับทันที “มันคือบันไดที่สมบูรณ์แบบสำหรับพวกตัวเล็กแต่คล่องแคล่วอย่างฮาร์ปี้ หรือแม้กระทั่งแดรกคีเน่บางสายพันธุ์” เธอชี้ให้เห็นด้วยสายตา “พวกมันสามารถปีนป่ายไปตามเถาวัลย์นี่ขึ้นไปบนยอดซุ้ม แล้วทิ้งตัวลงมาในค่ายจากด้านบน อาจจะเลยจุดที่อาณาเขตเวทมนตร์ทำงานหนาแน่นที่สุดไปก็ได้”

มือที่วาดเฮนน่าจนเต็มจรดปากกาลงบนสมุดอีกครั้ง: ‘จุดที่ 2: เถาไอวี่บนซุ้มประตูเป็นช่องทางให้ปีนป่าย ข้อเสนอแนะ: ตัดแต่งเถาไอวี่เดิมออกส่วนใหญ่ แล้วนำเถาวัลย์หนามจากเรือนกระจกของบ้านดีมีเทอร์มาปลูกแซม ให้มันเลื้อยพันในรูปแบบที่กีดขวางการปีนป่าย งบประมาณ: ต่ำ (ขอความร่วมมือจากบ้านดีมีเทอร์)’

สุดท้าย ว่าที่แม่มดสาวเดินถอยออกมาจนถึงขีดอาณาเขตเวทมนตร์ แล้วหันหน้ากลับเข้าไปมองในค่าย เธอหรี่ตามองไปยังบ้านใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เป็นฉากหลัง

“เห็นอะไรไหม แคลร์?” เธอถามเรียบๆ

“เห็นพวกเด็กขี้เซาบางคนกำลังเดินไปโรงอาหาร”

“ไม่ใช่” ไนมีเรียส่ายหน้าช้าๆ “ฉันเห็น เส้นทางสังหาร” เธออธิบาย “จากจุดที่ฉันยืนอยู่ มันคือแนวเส้นตรงที่ไม่มีอะไรขวางกั้นไปยังระเบียงหน้าบ้านใหญ่ ถ้าอสุรกายประเภทนักธนู หรือพวกที่โจมตีระยะไกลได้มายืนอยู่ตรงนี้ มันสามารถยิงโปรเจกไทล์เข้าใส่ใจกลางค่ายได้อย่างง่ายดายโดยที่ตัวเองยังอยู่นอกเขตแดนที่ปลอดภัย”

นั่นคือจุดอ่อนที่อันตรายที่สุด เพราะมันไม่ใช่จุดอ่อนทางกายภาพ แต่เป็นจุดอ่อนทางการออกแบบ

เธอรีบจดบันทึกลงไปเป็นข้อสุดท้าย: ‘จุดที่ 3: แนวการมองเห็นจากนอกประตูไปยังบ้านใหญ่เปิดโล่งเกินไป ข้อเสนอแนะ: สร้างฉากกั้นหรือกำแพงประดับแบบซิกแซก ห่างจากประตูเข้ามาประมาณ 10-15 เมตร เพื่อทำลายแนวการมองเห็นและบังคับให้ผู้ที่เข้ามาต้องเปลี่ยนทิศทางการเดิน สามารถสร้างจากไม้และผ้าใบเหลือใช้จากคลังของค่ายได้ งบประมาณ: ต่ำมาก’

เมื่อจดบันทึกเสร็จสิ้น ร่างบางก็ปิดสมุดลงด้วยความพึงพอใจ เธอยืนมองผลงานการวิเคราะห์ของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเลือกจุดหมายต่อไป

“ไปที่ต้นสนธาเลียกันต่อเถอะ” เธอกล่าวกับวิญญาณคู่ใจ “ฉันชักสงสัยแล้วสิว่าจุดที่ควรจะปลอดภัยที่สุดของค่าย มันจะมีรูรั่วขนาดไหนกัน”

******

สำรวจความปลอดภัยจุดที่ 1 : ประตูค่าย
@God 

i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17541 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-12 18:43
โพสต์ 17,541 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ชุดบำรุงอาวุธ  โพสต์ 2025-7-12 18:43
โพสต์ 17,541 ไบต์และได้รับ +5 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-7-12 18:43
โพสต์ 17,541 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เวทมนต์ [II]  โพสต์ 2025-7-12 18:43
โพสต์ 17,541 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2025-7-12 18:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้