[ห้องขอสร้างสัตว์วิเศษปี 2025]

Eloise HEROES

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

กัปปะ (Kappa)

ชื่อ สัตว์วิเศษ : กัปปะ (Kappa)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด : ตำนานญี่ปุ่น

สังกัด : -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality) : 

กัปปะเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกพรายน้ำ ลักษณะของมันเป็นการรวมส่วนผสมของสัตว์น้ำหลายชนิด มีความสูงประมาณ 3-4 ฟุต ขนาดตัวเท่าเด็กแต่มีพละกำลังมาก ผิวหนังเป็นเกล็ดตั้งแต่สีเขียวอ่อนไปจนถึงสีแดงสดและสีน้ำเงินคล้ายกับปลา มือและเท้ามีพังผิดระหว่างนิ้วคล้ายกบใช้สำหรับการว่ายน้ำ จงอยปากงุ้มแหลมคม ด้านหลังมีกระดองคล้ายเต่า แขนขายาวและยืดหยุ่นได้ กลางศีรษะจะแบนราบเหมือนจานไม่มีเส้นขนหรือผมใช้สำหรับกักเก็บน้ำซึ่งเป็นแหล่งของพลังที่ทำให้มันมีพละกำลังตอนอยู่บนบกเท่ากับตอนอยู่ในน้ำ หากน้ำบนศีรษะหกหรือแห้งจะทำให้มันอ่อนแรง อาหารโปรดของกัปปะ คือ แตงกวา

ชีวประวัติโดยสรุป :

ตำนานของกัปปะมีหลากหลายรูปแบบ โดยเล่าว่าเดิมกัปปะเป็นเทพที่ดูแลแม่น้ำลำคลอง แต่เมื่อมนุษย์เลิกนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กัปปะก็เลยตกชั้นเป็นเพียงภูติผีปีศาจธรรมดา แต่ก็มีบางตำนานที่เล่าว่ากัปปะนั้นเกิดจากช่างไม้ที่เผลอทำตุ๊กตาหล่นลงไปในน้ำ แล้วตุ๊กตาตัวนั้นก็เปลี่ยนร่างเป็นกัปปะก่อนว่ายหนีไป 

เชื่อกันว่ากัปปะนั้นเปี่ยมไปด้วยปัญญาและความรู้ เป็นหนึ่งในปีศาจเพียงไม่กี่ประเภทที่สามารถเรียนรู้ภาษามนุษย์ได้ กัปปะที่อายุน้อยมักถูกพบรวมกับครอบครัวของพวกมัน แต่กัปปะที่โตเต็มวัยจะใช้ชีวิตลำพัง พวกมันชอบศิลปะการต่อสู้จำพวกมวยปล้ำและซูโม่ มันจะคอยหลอกล่อจับผู้คนหรือเด็กลงในน้ำโดยใช้วิชาซูโม่ชั้นสูง นอกจากนี้กัปปะยังเป็นพวกที่มีสัมมาคารวะ ซึ่งเป็นของเสียอย่างมหันต์สำหรับตัวของมันเอง เพราะถ้าหากใครอยากจะเอาชนะกัปปะขณะที่มันอยู่บนบก เพียงแค่โค้งคำนับให้มันหนึ่งครั้ง มันก็จะโค้งคำนับกลับตามมารยาท และทำให้น้ำจากจานบนหัวของมันก็จะหกลงมาหมดพละกำลังไปในที่สุด หากผู้ใดเติมน้ำลงไปบนหัวเพื่อช่วยเหลือมันก็จะยอมเป็นข้ารับใช้คน ๆ นั้นไปทั้งชีวิต อีกวิธีที่นิยม คือ การเขียนชื่อตัวเองลงไปบนแตงกวาแล้วขว้างลงไปในแม่น้ำ เมื่อกัปปะเมื่อกัปปะมาพบแตงกว่ามันจะกินอย่างเอร็ดอร่อยและจะจำชื่อคนบนแตงกวา หากได้พบกับเจ้าของชื่ออีกครั้งมันจะไม่ทำอันตรายมนุษย์ผู้นั้น

Eloise HEROES

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

เลปพราคอน (Leprechaun)

ชื่อ สัตว์วิเศษ : เลปพราคอน (Leprechaun)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด : ตำนานไอร์แลนด์

สังกัด : -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality) : 

เลปพราคอนเป็นภูตแคระ มีลักษณะเป็นชายตัวเล็กร่างเตี้ยเท่าเด็กสี่ขวบ ใบหน้าเหี่ยวย่น ไว้เครา สวมเสื้อคลุม สวมหมวกใบโตสีเขียวและรองเท้าหนัง ร่ำรวยทรัพย์สมบัติ นิสัยของมันจะค่อนข้างเห็นแก่ตัว ตระหนี่ ชอบให้รองเท้าเงางามอยู่เสมอ ชอบดื่มไวน์ กินอาหาร พวกมันใช้เวลาทั้งหมดไปกับการซ่อมรองเท้าและเก็บสะสมเหรียญทองคำไว้ในหม้อโดยจะซ่อนไว้ที่ปลายสายรุ้งซึ่งเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่เก็บสมบัติทั้งชีวิตของมัน หากใครจ้องมัน มันจะไม่สามารถหนีหายไปไหนได้ แต่ถ้าเผลอละตายตาจากมัน มันก็จะหายไปในทันที

ชีวประวัติโดยสรุป :

ตามตำนานเลปพราคอนจะเป็นภูตแคระที่มีเวทมนตร์ลึกลับ บ้างก็ว่ารักสงบ บ้างก็ว่าเจ้าเล่ห์ ซุกซน ชอบแกล้งมนุษย์ มันทำหน้าที่เป็นช่างฝีมือที่คอยสร้างรองเท้าให้กับเหล่าแฟรี่ เนื่องจากเหล่าแฟรี่ชื่นชอบการเต้นรำอย่างไม่เคยหยุดทำให้จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนรองเท้าอยู่บ่อยครั้ง ส่วนมากมันจะชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ทำให้มนุษย์พบตัวได้ยาก เลปพราคอนมักไม่คุกคามทำร้ายใครตราบใดที่ไม่มีใครทำร้ายมันก่อน หรือแตะต้องสมบัติของมัน ทุกคืนก่อนมันจะนับเหรียญทองคำในหม้อเพื่อให้แน่ใจว่ายังอยู่ครบ เชื่อกันว่ามันซ่อนหม้อทองคำไว้ที่ปลายสายรุ้ง วิธีเดียวที่จะสามารถค้นหาหม้อทองคำนั้นพบ คือ การเดินไปตามสายรุ้งไปจนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุด วิธีที่ง่ายที่สุดในการครอบครองสมบัติคือหาตัวมันให้เจอแล้วจับมันไว้ให้ได้ หากใครจับตัวเลปพราคอนไว้ได้หรือสามารถนำทองคำมาคืนมันได้มันก็จะให้พร 3 ประการเพื่อแลกกับการปลดปล่อยมันเป็นอิสระ

Eloise HEROES

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ญิน (Jinn)

ชื่อ สัตว์วิเศษ : ญิน (Jinn)

ชื่ออื่น : ดีญิน (Dijinn), จีนี่ (Genie)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด : ตำนานอาหรับ

สังกัด : -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality) : 

ญิน เป็นอมนุษย์ในความเชื่อของแถบอาหรับและศาสนาอิสลาม คล้ายคลึงกับผีหรือปีศาจแต่ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกัน พวกมันยังคงต้องดื่ม นอน กิน สืบพันธุ์ และตายไปตามอายุขัยเช่นเดียวกับมนุษย์ เพียงแต่อาจจะมีชีวิตยืนยาวกว่ามาก และมีความสามารถทำอะไรได้มากมายกว่ามนุษย์ ญินจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ญินที่ดี และ ญินที่ไม่ดี และไม่ปรากฏตัวให้มนุษย์ได้เห็นกันง่าย ๆ จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นญินได้

ชีวประวัติโดยสรุป :

ญิน ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้ากำเนิดมาจากไฟ ก่อนที่มนุษย์คนแรกบนโลกจะเกิดนานมาก (ตามความเชื่อของอิสลาม ณินถูกสร้างจากไฟ มนุษย์ถูกสร้างจากดิน) พวกมันไม่ถือว่าเป็นผีหรือวิญญาณเพราะอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ในต่างมิติ มีสังคม มีการเกิด มีการสืบพันธุ์ มีตาย เช่นเดียวกับมนุษย์เพียงแต่จะมีอายุยืนยาวกว่าหลายพันปี ว่ากันว่าญินนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ มีความสามารถเหนือมนุษย์ บินได้ สามารถเข้าสิงและมองเห็นมนุษย์ได้ แต่มนุษย์จะมองไม่เห็นญิน เว้นเสียแต่ว่าเป็นคนที่มี ‘เซ้นส์’ หรือไม่พวกมันก็จะมาปรากฏกาย หรือ จำแลงกายเป็นมนุษย์/สัตว์ให้เห็น (หากแปลงเป็นมนุษย์ เราจะรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ ไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป) ชาวอาหรับยุคโบราณจะมีความเกรงกลัวต่อ ญิน เพราะเชื่อว่า ญิน สามารถบันดาลโรคร้ายหรือทำให้คนเสียสติได้ พวกมันชอบที่จะอยู่ในร่างไร้สสารจึงทำให้คนโบราณกลัวว่าจะถูกโจมตีโดยที่มองไม่เห็น แม้ว่าจะมีความสามารถคล้ายคลึงกับปีศาจหรือเทวดาแต่ญินกลับไม่ถูกจัดเป็นพวกเดียวกัน ตามคัมภีร์อัลกุรอานมีการระบุไว้ว่ามันถูกจัดเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันกับมนุษย์ เพราะปีศาจนั้นเกิดมาในขั้วตรงข้ามกับพระเจ้ากำเนิดขึ้นเพื่อล่อลวงให้มนุษย์ทำบาป ในขณะที่ญินแม้มันจะสามารถทำให้เกิดเคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้ายกับมนุษย์ได้ แต่ไม่ได้ล่อลวงให้มนุษย์ทำบาปหรือเอาใจออกห่างจากพระเจ้า พวกมันสามารถเลือกที่จะรับพระเจ้าหรือไม่ก็ได้และจะถูกตัดสินในวันพิพากษาเช่นเดียวกับมนุษย์

ญิน ที่มีชื่อเสียงที่สุดที่คนทั่วไปเคยได้ยินกันก็คือ ญิน ที่มีชื่อว่า จีนี่ จากนิทานเรื่องพันหนึ่งราตรี ยักษ์ในตะเกียงวิเศษของอาละดินนั่นเอง

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ชื่อ สัตว์วิเศษ:

ไกรสรราชสีห์
(Krisorn Raja Singha)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด:

พราหมณ์-ฮินดู, ไตรภูมิพระร่วง

สังกัด:

พระอิศวร (พระศิวะ)

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality): 

ไกรสรราชสีห์ เป็นราชสีห์ พื้นกายขาวบริสุทธิ์ มีลายก้นหอยเวียนขวา

ดวงตากลมโต ปาก ขนปลายหางและเล็บเป็นสีแดงครั่ง กายดั่งสีสังข์ (ขาวบริสุทธิ์)

มีลายทักษิณาวัตร (ลายก้นหอยเวียนขวา) มีพละกำลังสูง กินสัตว์น้อยใหญ่เป็นอาหาร

ชีวประวัติโดยสรุป:

พระอิศวรมหาเทพทรงสร้าง ราชสีห์ ผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นมาเพื่อคุ้มครองโลกและปกป้องธรรมชาติจากภัยคุกคามต่าง ๆ

ไกรสรราชสีห์จึงมีพลังอำนาจมากมาย และเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ

ซึ่งราชสีห์ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

ไกรสรราชสีห์ (สีขาว), กาฬสีห์ (สีดำ), ติณณสีหะ (สีแดง) และ บัณฑุราชสีห์ (สีเหลือง)

ตามตำนานไตรภูมิพระร่วงกล่าวว่าพระโพธิสัตว์เคยเสวยชาติเป็นพญาไกรสรราชสีห์

อาศัยอยู่ในถ้ำทองในหิมวันตประเทศ วันหนึ่งพญาไกรสรราชสีห์ออกไปหาอาหารตามปกติ

เมื่อกลับมาถ้ำพญาไกรสรณ์ราชสีห์ได้พบกับสุนัขจิ้งจอกที่หวาดกลัวไม่กล้าหนี

พญาไกรสรราชสีห์จึงเลี้ยงดูจิ้งจอกน้อย หาอาหารให้กินจนร่างกายสมบูรณ์

จิ้งจอกอยากกินสัตว์ประเภทไหนพญาไกรสรราชสีห์ก็จะออกล่ามาให้เพียงแค่สุนัขจิ้งจอกเอ่ยปากขอ

เวลาผ่านไปจิ้งจอกน้อยคิดว่าตนเองก็เป็นสัตว์สี่เท้าเช่นเดียวกับราชสีห์

ไม่ควรให้สัตว์อื่นเลี้ยงดูเช่นสัตว์เลี้ยง สุนัขจิ้งจอกจึงอ้อนวอนขอพญาราชสีห์ว่าขอออกล่าด้วยตนเอง

แรก ๆ พญาไกรสรราชสีห์ปฏิเสธ แต่เมื่อถูกรบเร้านานเข้าจึงยินยอม

สุนัขจิ้งจอกมักสูงออกล่าช้างตัวใหญ่เช่นที่พญาไกรสรราชสีห์เคยทำ

ทว่าการออกล่าครั้งแรกก็พลาดพลั้ง สุนัขจิ้งจอกตัวนั้นถูกช้างใหญ่เหยียบตาย

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ชื่อ สัตว์วิเศษ: 

อะฮุยโซตล์
(Ahuizotl)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด: ตำนานแอซเท็ก

สังกัด: -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality): 

อะฮุยโซตล์ อสุรกายรูปร่างคล้ายสุนัข มีมือเหมือนลิง และมีมือที่ปลายหาง

มันอาศัยอยู่บริเวณแหล่งน้ำ อุปนิสัยเจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ เป็นอสุรกายจอมล่อลวงมนุษย์ให้จมน้ำ

อะฮุยโซตล์สามารถเลียนเสียงเด็กจมน้ำเพื่อล่อลวงให้คนลงไปช่วย

จากนั้นมันจะใช้หางที่มือคว้าเหยื่อลงไปในน้ำทำให้เขาจมน้ำตาย

พบเจอได้บ่อยในแถบอเมริกากลาง และรัฐทางใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา

แม้ว่ามือที่ปลายหางจะทรงพลังและควบคุมได้อย่างอิสระ

แต่ก็เป็นจุดอ่อนของมันเช่นกัน

ว่ากันว่าหากเราจับมือที่หางและดึง อะฮุยโซตล์จะสับสนชั่วขณะ ทำให้มีโอกาสหลบหนีได้

ชีวประวัติโดยสรุป:

อะฮุยโซตล์ถือกำเนิดจากความรู้สึกด้านมืดของโลก

ซึ่งเกิดจากความกลัวและความเชื่อโชคลางของชาวแอซเท็ก

แม้ว่าจะไม่มีเรื่องเล่าที่แน่ชัดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมัน

แต่ก็มีความเห็นโดยทั่วไปว่ามันอาจเป็นผู้พิทักษ์อาณาจักรใต้น้ำ

หรืออาจเป็นผู้พิทักษ์ที่บิดเบี้ยวซึ่งสร้างขึ้นจากจินตนาการอันมืดมนของเทพเจ้า

ในนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่งมีเรื่องเล่ากันว่า...

อะฮุยโซตล์ขโมยสิ่งประดิษฐ์ของเทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ (โคโยวัลกิ)

โดยใช้เล่ห์เหลี่ยมแทนที่สิ่งประดิษฐ์นั้นด้วยหินเพียงก้อนเดียวทำให้เทพเจ้าหลงกลไปหลายปี

จนกระทั่งสุริยุปราคาเปิดเผยกลอุบายดังกล่าว

อะฮุยโซตล์จึงถูกไล่ล่าลงไปในส่วนลึกของมหาสมุทร และจะไม่มีวันขโมยของจากสวรรค์ได้อีกเลย

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ชื่อ สัตว์วิเศษ: 

อิมป์
(Imp)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด:
ตำนานเคลติก, ตำนานคริสเตียน

สังกัด: แม่มด, ปีศาจ, ซาตาน

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality): 

อิมป์ อสุรกายขนาดเล็กจิ๋ว ผิวกายมีลวดลายเหมือนหินอ่อน หูแหลม มีปีกคล้ายค้างคาว

นิสัยเจ้าเล่ห์ ซุกซน ก่อกวนมนุษย์ ชอบสร้างความเสียหายแก่แปลงผักไร่นา และขโมยของ

พวกมันชมชอบจะก่อความวุ่นวายมากกว่าหมายจะเอาชีวิต

รื่นรมย์เมื่อเห็นความเดือดร้อนของผู้อื่นอยู่ตรงหน้า

อิมป์มีความสามารถในการหายตัวและแปลงกายในการก่อความวุ่นวาย

มันเป็นลูกสมุนของแม่มด และปีศาจชั้นสูงอื่น ๆ

สิ่งที่อิมป์กลัว คือ เกลือ และเกือกม้า

ชีวประวัติโดยสรุป:

นิทานพื้นบ้านเล่าถึงเรื่องราวของแม่มดในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในยุโรป

ที่ใช้ปีศาจในการทำให้นมเปรี้ยว พันแผงคอม้า และเปลี่ยนไข่ใหม่ด้วยไข่ที่เน่าเสียในเล้าไก่ของชาวบ้าน

แม้ว่าพวกมันจะทำความชั่วให้กับแม่มด แต่ปีศาจเหล่านั้นก็ไม่ได้ชั่วร้ายอย่างเปิดเผย

แต่ยังคงมีนิสัยขี้เล่นราวกับว่าพวกมันกำลังร่วมสนุกในเรื่องตลกของจักรวาลที่พวกมันเท่านั้นที่รู้

อสุรกายจอมป่วนเหล่านี้มีความซุกซนและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและการทำลายล้างเล็ก ๆ น้อย ๆ

พวกมันได้รับความสุขจากการรบกวนชีวิตของมนุษย์ มีความสุขจากการแกล้งคนเล็ก ๆ น้อย ๆ

เช่น เอาถุงเท้าไปซ่อนข้างหนึ่ง ทำให้ขวดหมึกหกอย่างไม่มีสาเหตุ

พวกมันมีความสุขที่ไร้เดียงสาในความซุกซนของมัน

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ชื่อ สัตว์วิเศษ: 

อัคลัต
(Ahklut)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด:
ตำนานชาวพื้นเมืองอเมริกาเหนือ
(ยูปิก, อินูอิต)

สังกัด: -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality): 

อัคลัต อสุรกายลูกครึ่งวาฬเพชรฆาตและหมาป่า

ตัวแทนของการล่าในน่านน้ำมหาสมุทร

อัคลัตสามารถอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก

เมื่ออยู่ในน้ำอัคลัตจะกลายร่างเป็นวาฬเพชรฆาต

เมื่ออยู่บนบกอัคลัตจะกลายร่างเป็นหมาป่า

โดยมีความสามารถของสัตว์ทั้งสองประเภท ทั้งปราดเปรียว รวดเร็ว

มีพละกำลังมหาศาล และยังฉลาดมากไหวพริบ

ทั้งสง่างาม น่าเกรงขาม และน่าหวาดกลัว

อาศัยอยู่บริเวณใกล้น้ำทะเลและพื้นที่หนาวจัด

ชีวประวัติโดยสรุป:

ตามตำนานของชาวพื้นเมืองอเมริกา

อัคลัต คือ อสุรกายที่กำเนิดจากน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำเข้าหาฝั่ง

แก่นแท้ของมันคือความขัดแย้ง

เป็นการผสมผสานระหว่างความดุร้ายของหมาป่า

และความยิ่งใหญ่สง่างามของวาฬเพชฌฆาต

ในนิทานเรื่อง “ชาวประมงกับอัคลัต” ชาวประมงผู้โดดเดี่ยวออกทะเลไป

แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่สง่างาม แทนที่จะตื่นตระหนก

ชาวประมงโยนสมบัติล้ำค่าที่สุดของเขา นั่นคือเสาไม้แกะสลักลงในมหาสมุทรเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชา

อัคลัตรู้สึกสนใจในความกล้าหาญและความเคารพของชาวประมง

จึงตอบแทนเขาด้วยการจับปลาได้เป็นจำนวนมาก

ทำให้การเผชิญหน้าที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตกลายเป็นเรื่องราวของความเคารพซึ่งกันและกัน

และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

แม้ว่าการพบเห็นอัคลัตอาจเป็นสัญญาณของอันตราย

แต่การพบเห็นอัคลัตอาจเป็นลางบอกเหตุของผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน

การพบเห็นอัคลัตอาจบ่งบอกว่าท้องทะเลจะเป็นแหล่งล่าสัตว์จำนวนมาก

โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น แมวน้ำ และวาฬชนิดอื่น ๆ

ลักษณะสองด้านนี้ คือ มีทั้งอันตรายและความอุดมสมบูรณ์

ทำให้อัคลัตเป็นตัวตัวแทนของผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แฝงอยู่ในชีวิต

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

ชื่อ สัตว์วิเศษ: 

รากษส (Raksha)

หรือ หลัวชา (Luocha) 罗刹

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด:
ตำนานเทพฮินดู, พุทธศาสนา

สังกัด: พญายมราช, พระวรุณ, ท้าวเวสสุวัณ

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality): 

รากษส หรือ หลัวชา เป็นอสุรกายประเภทยักษ์ชั้นล่าง

รูปร่างคล้ายมนุษย์ ดุร้ายน่ากลัว ตัวใหญ่ เขี้ยวยาว ผิวหยาบกระด้าง

พละกำลังมหาศาล มีมนต์มายาพรางตา มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้

รากษสมีทั้งดีและร้าย

รากษสที่ดีมีหน้าที่รักษาสมบัติ ปกปักรักษาบ้านเมืองและแหล่งน้ำ

รากษสที่รักษาเมือง เรียกว่า พระเสื้อเมือง

รากษสที่รักษาแหล่งน้ำ เรียกว่า ผีเสื้อน้ำ

รากษสร้ายมักเป็นศัตรูกับเทวดา

ชอบก่อกวน รบกวน รังควาน เหล่านักบวชที่กำลังทำพิธีกรรม บูชาเทพเจ้า

หรือกำลังเข้าฌาณทำสมาธิ นอกจากนี้ยังทำร้ายมนุษย์ด้วยวิธีการต่าง ๆ

เช่น เข้าสิงซากศพ กินคนเป็นอาหาร 

แต่โดยรวม รากษสมีอุปนิสัยดุร้าย ชอบกินเนื้อ

ชีวประวัติโดยสรุป:

ตำนานของรากษกมีหลายตำนาน เช่น

ตำนานศาสนาฮินดู เชื่อว่าเหล่ารากษสเกิดจากพระบาทของพระพรหมา

ในวิษณุปุราณะระบุว่าเป็นลูกของพราหมณ์รากษะ ผู้เป็นบุตรพระกัศยปมุนีกับนางขศา

ตำนานเทวาสุรสงคราม คือ สงครามระหว่างเทวดากับอสูร

ซึ่งเป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ทางศาสนานับพันปีทั้งของพุทธและพราหมณ์

เล่าว่า พวกอริยกะ (เทวดา) ได้พบกลุ่มคนป่า (อสูร, รากษส) ในมัธยมประเทศ

และได้ทำสงครามระหว่างเทวดากับอสูร

ตำนานในรามายณะ กล่าวไว้ว่าเมื่อพระพรหมทรงสร้างน้ำขึ้นมาแล้ว

ทรงสร้างภูติ (รากษส) ขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง ให้มีหน้าที่รักษาน้ำทั้งปวง 

รากษส มูลมาจากคำว่า "รักษา"

ในรามเกียรต์เล่าว่า เดิมทีพระวิศวกรรมสร้างกรุงลงกาขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของพวกรากษส

ต่อมาถูกพญาราพณ์ (ทศกัณฐ์) ยึดครอง และได้เป็นราชาของเหล่ารากษส
ทำให้พวกรากษสเหิมเกริมเที่ยวรังควาญสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนพระรามเสด็จลงมาปราบจึงสงบได้

วรรณกรรมและตำนานจีน รากษส จะถูกเรียกว่า หลัวชา (罗刹)

ไม่ได้มีเพียงแค่ภาพลักษณ์ของปีศาจดุร้าย แต่บางครั้งยังถูกนำเสนอในรูปของปีศาจที่บำเพ็ญตน

หรือกลับใจเป็นฝ่ายดีได้เช่นเดียวกับปีศาจอื่น ๆ 

ในไซอิ๋วหลัวชาปรากฏเป็นปีศาจที่ดุร้ายและเป็นอันตรายต่อผู้เดินทาง

พระถังซัมจั๋งและศิษย์ทั้งสามต้องต่อสู้กับปีศาจหลายตน

ซึ่งหลัวชาเป็นหนึ่งในปีศาจที่พวกเขาต้องพบเจอระหว่างการเดินทางไปยังชมพูทวีป

Eloise HEROES

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

พัควัดจิ (Pukwudgie)

ชื่อ สัตว์วิเศษ : พัควัดจิ (Pukwudgie)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด : ตำนานกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน

สังกัด : -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality) : 

พัควัดจิมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ แต่มีขนาดตัวที่เล็กกว่ามาก สูงราว 2-3 ฟุต มันสามารถปรากฏตัวหรือหายไปได้ตามต้องการ แม้กระทั่งสามารถแปลงร่างได้โดยทั่วไปที่พบเห็นกันได้บ่อยที่สุดคือร่างที่ดูเหมือนเม่น ด้านหลังเป็นเม่น ส่วนด้านหน้าเป็นครึ่งโทรลล์ครึ่งมนุษย์ อาวุธประจำกายของมันคือธนูอาบยาพิษ นอกจากนี้มันยังสามารถเสกไฟและใช้เวทมนตร์ได้อีกด้วย พวกมันมักอาศัยอยู่ในป่าและบึง หรือตามสถานที่อาถรรพ์ โดยพบเจอได้ในรัฐเดลาแวร์ รัฐอินเดียนา รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา และ รัฐปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์ในแคนาดา

ชีวประวัติโดยสรุป :

ครั้งหนึ่งพัควัดจิเคยเป็นมิตรกับมนุษย์มาก่อน จนกระทั่งมันพบว่าถูกมนุษย์หมางเมินให้ความสนใจกับยักษ์ม็อชชอปมากกว่าจึงเกิดความอิจฉา และเริ่มทำตัวก้าวร้าวเพราะรู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม นานวันเข้าก็เริ่มสร้างความเดือดร้อนให้กับมนุษย์ จนมนุษย์ทนไม่ไหวก็ไปร้องขอความช่วยเหลือจากสควอนนิตภรรยาของยักษ์ม็อชชอป ม็อชชอปเห็นดังนั้นจึงออกมาจัดการเนรเทศพวกมันด้วยการโยนออกไปแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา (นิวอิงแลนด์) นับตั้งแต่นั้นพัควัดจิกลายเป็นศัตรูกับมนุษย์ ชาวเมืองอยู่อย่างสงบได้เพียงไม่นานพวกมันก็กลับมาแก้แค้นอีกครั้งและได้ทำการสังหารลูกชายทั้งห้าของม็อชชอปที่ถูกส่งมาเพื่อจัดการพวกมันทิ้งเสีย เมื่อม็อชชอปทราบเรื่องก็โกรธมากจึงได้ทำการขับไล่จนพวกมันหนีกระเจิงกลับนิวอิงแลนด์ไปอีกครั้ง แต่มีพัควัดจิส่วนหนึ่งที่ยังคงไม่ได้หนีไปและได้ทำการสังหารม็อชชอปด้วยธนูอาบยาพิษ (บางตำนานก็กล่าวว่าม็อชชอปตรอมใจตายเพราะเสียลูกไปไม่ได้ถูกฆ่า) หลังจากนั้นเป็นต้นมาผู้คนก็พากันหวาดกลัวพัควัดจิในฐานะปีศาจที่ใช้เวทมนตร์ล่อลวงลักพาตัวผู้คน ผลักผู้คนให้ตกหน้าผา โจมตีเหยื่อด้วยมีดสั้นและหอก และใช้ทรายเพื่อทำให้เหยื่อตาบอด

Eloise HEROES

[แบบฟอร์มสร้างสัตว์วิเศษ]

แจ็คคาโลป (Jackalope)

ชื่อ สัตว์วิเศษ : แจ็คคาโลป (Jackalope)

สัตว์วิเศษตำนานของที่ใด : ตำนานอเมริกา

สังกัด : -

บุคลิกภาพสัตว์วิเศษ (Personality) : 

ลักษณะโดยทั่วไปจะเหมือนกับกระต่ายป่าที่มีเขาคล้ายกับแอนทิโลป หรือ กวาง หน้าตาน่ารักแต่ทว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าว มีคล่องแคล่วว่องไวจึงยากที่จะหามันพบได้โดยง่าย เขาของมันใช้เป็นอาวุธเพื่อพุ่งโจมตีเข้าใส่ศัตรู จึงได้ฉายาว่า ‘กระต่ายนักรบ’ นอกจากนี้มันยังมีความสามารถในการเลียนเสียงมนุษย์และร้องเพลง เชื่อกันว่าน้ำนมและเขาของมันมีคือยาชั้นดีมีสรรพคุณในการรักษาโรค

ชีวประวัติโดยสรุป :

ตามตำนานเชื่อว่าแจ็คคาโลป เป็นลูกครึ่งระหว่างกระต่ายแจ็ค (กระต่ายป่าชนิดหนึ่ง) กับ แอนทิโลป บ้างก็ว่าเป็นลูกผสมของกวางแคระและกระต่ายนักฆ่า พวกมันมีนิสัยขี้อาย ยกเว้นเมื่อใดที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูมันจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว สู้ไม่ถอยและจู่โจมด้วยเขาของมัน พวกมันมีความคล่องแคล่วว่องไวสามารถวิ่งได้เร็วถึง 90 ไมล์ต่อชั่วโมงทำให้ยากที่จะจับตัว อีกทั้งยังสามารถเลียนเสียงมนุษย์และร้องเพลงได้จึงเบี่ยงเบนความสนใจของนักล่าได้ วิธีที่ดีที่สุดในการจับมันคือการล่อมันด้วย ‘วิสกี้’ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มันชื่นชอบที่สุด เพื่อมอมให้มันเมามายเสียก่อน 

ตามความเชื่อของชนพื้นเมืองอเมริกันแจ็คคาโลปมักถูกเชื่อมโยงกับโลกวิญญาณ สามารถนำโชคลาภมาให้ผู้ที่พบเจอและเชื่อว่ามันมีพลังในการเยียวยารักษา ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันหลายเผ่าเชื่อว่าเขาของแจ็คคาโลปสามารถใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ น้ำนมของมันยังเชื่อกันว่านอกจากจะมีสรรพคุณทางการแพทย์แล้วยังใช้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศได้อีกด้วยโดยจะต้องทำการรีดนมจากแจ็คคาโลปเพศเมียในขณะที่มันหลับ

แจ็คคาโลปมีอัตราการสืบพันธุ์ต่ำซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการผสมพันธุ์เฉพาะในช่วงพายุฝนฟ้าคะนองและมีฟ้าแล่บเท่านั้น ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่เราพบเจอมันได้น้อย มีรายงานการพบเห็นพวกมันในแถบรัฐแอริโซนา โคโลราโด และไวโอมิง อีกทั้งยังเชื่อว่าพวกมันอาศัยอยู่ในแถบตะวันตกของอเมริกาเหนือ