[รัฐเฮติ] [ประเทศเฮติ] เมืองปอร์โตแปงซ์

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×


เมืองปอร์โตแปงซ์






หรือ ปอโตแปร็งส์ เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเฮติ

ตั้งอยู่บริเวณอ่าวกอนาฟว์ อ่าวที่เมืองตั้งอยู่ยังเป็นท่าเรือทางธรรมชาติ

ที่ยังคงมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจตั้งแต่อารยธรรมของชาวอาราวัก

ได้ตกอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1979

และยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเฮติ ผังเมืองมีลักษณะคล้ายกับแอมฟิเทียเตอร์

มีเขตการค้าติดกับน้ำ ขณะที่เขตอยู่อาศัยตั้งอยู่บนเขา

พลเมืองของเมืองมีความไม่แน่ชัดเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสลัม

อย่างไรก็ตามมีการประเมินว่าประชากรตกอยู่ราว 2.5 และ 3 ล้านคน


แต่ทว่าตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นไป เมืองแห่งีน้ก็เริ่มพบเจอหายนะ

เหตุเนื่องจากชาวเฮติกว่า 90% ลบหลู่เทพีเฮคาทีและเวทมนต์โดยไม่ได้ตั้งใจ

ทำให้เทพีพิโรธอย่างหนัก และสาปแช่งเมืองแห่งนี้ให้จมดิ่งสู่ความมืดมิด

ยิ่งนานวันเข้า สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน

เกิดการครองเมืองของเหล่าแก๊งมากมาย บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

รัฐบาลล้มเหลว ไม่อาจกู้สถานการณ์ได้อีกต่อไป...






แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 5716 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-3-19 15:13
โพสต์ 2024-3-20 18:52:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Daemon เมื่อ 2024-3-21 00:04



bad landing




แต่ทว่าลำแสงสีทองกลับหายกลางคัน จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาที่เห็นเป็นแสงสีขาวโพลนตอนนี้เริ่มเห็นแสงแยงตาจากท้องฟ้าสีคราม ควันไฟโขม่ง ระยะห่างจากพื้นดินถึงไม่เยอะจนอาจทำเขาตายหรือขาหัก แต่แบบนี้มันทำเขาบาดเจ็บแผลถลอกพอสมควรเลยนะ นี่เทพีอะธีน่าจงใจแกล้งเขาหรือเปล่าเนี่ย เขาไปทำอะไรให้เทพีกันแน่ ตั้งแต่เจอเธอครั้งแรกบนเนินฮาล์ฟบลัดคำพูดเธอก็ดูไม่ค่อยพอใจเขานัก


"ฉิบหาย" เดม่อนที่กำลังดิ่งพสุธา แต่โชคดีที่ข้างล่างเป็นพื้นหญ้า สายตาเขามองไม่ผิดนั่นเป็นแองน้ำใช้ไหม แต่เขาจะกระดื๊บอากาศไปยังไงล่ะเนี่ย 


เดม่อนพยายามทำท่าแหวกว่ายแต่ตัวก็ดูจะไม่ขยับเลย เขาหลับตาปรี๋ "แม่ครับ ผมอาจจะไม่รอดแล้ว" เขาหลับตาปล่อยให้ร่างกายตัวเองดิ่งพสุธา


แต่กลับไร้เสียงตุ๊บ ราวกับมีบางอย่างหิ้วปีกผม ผมค่อย ๆ ลืมตา มองเห็นพื้นดินห่างจากหน้าผมแค่คืบหนึ่ง ร่างกายผมเหมือนกำลังลอย ก่อนค่อย ๆ ลงพื้นอย่างเบาหวิว เสียงหนึ่งดังขึ้น


"แม่จะคอยติดตามเรื่องราวของลูกนะ  คิก ๆ" เสียงนั้นพูดก่อนจะหายไป 


"แม่เหรอ" เดม่อนพูดขึ้นมองท้องฟ้า เขาที่ตอนนี้มีสีหน้างุงงงยิ่งกว่าเดิม เขาจะมีเรื่องราวอะไรให้แม่ติดตาม เขาไม่เข้าใจจริง ๆ เขาก็แค่เด็กที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ก้าวข้ามขีดจำกัดของลูกอะโฟร์ไดท์


เดม่อนมองลงไปจากเนินหญ้าเขียวขจี เบื้องล่างเป็นเมืองบ้านหลากสีสัน แต่มีควันไฟโขมงทุกหนทุกแห่งราวกับการก่อการร้ายคือเรื่องปกติในเมืองแห่งนี้ ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในโลกของเดมี่ก็อตเขาก็คงคิดว่ารัฐเฮติล้มเหลวเพราะการกระทำของรัฐบาลเน่าเฟะ แต่เขากลับอยู่คนละโลกกับมนุษย์ธรรมดานี่สิ


คำสาปของเทพนี่มันรุนแรงจนน่ากลัวจริง ๆ เขาอยากจะรู้เลยว่าเฮคาทีพิโรธชาวเฮติเพราะอะไรกันแน่นะ ในยุคที่มนุษย์ไม่เชื่อในเทพ ทำไมยังมีคนหลงไปลบหลู่เทพเจ้าอีก 


เดม่อนสำรวจหาโล่และดาบของเขาที่กระจัดกระจาย ก่อนเก็บขึ้นมา เขามองท้องฟ้า "อะธีน่า นี่ท่านกะตำแหน่งผิดพลาดงั้นสินะ"


เดม่อนพูดขึ้นแววตามองท้องฟ้า ไม่คิดว่าเทพีแห่งปัญญาจะมีความผิดพลาดเช่นนี้ด้วย เขาเกือบจะตายจากความสูงหลายฟุตแล้ว


เขาเดินลงจากเนินเข้าไปในเมืองปอร์โตแปงซ์ สภาพเมืองตอนนี้นับว่าไม่น่าเที่ยวเลยสักนิด  ครั้งแรกที่เขามาเที่ยวเมืองนี้ก็ได้ภาพจำที่ไม่น่าอภิรมย์เลย




"เลวร้ายมาก" เดม่อนพูดพึมพำคนเดียวก่อนจะถอนหายใจ เขาคอยสอดส่องสายตา ปกติถ้าจะช่วยพลเรือน แสดงว่าในพื้นที่จะต้องมีหน่วยกู้ภัย USA เขามองหาเสื้อหน่วยนี้เพื่อจะไปเสริมทัพเป็นกำลังให้พวกเขา แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องคิดก่อนถ้าเจอพวกเขาจะอ้างยังไงดี 


ปัง ปัง ปัง




เสียงกระสุนปืนลั่น เขาหันไปมองเห็นชายท่าทางจะเป็นพวกแก๊งในพื้นที่กำลังสาดกระสุนไล่ยิงผู้บริสุทธิ์ และใช่ นั่นเสื้อมีสัญลักษณ์ USA ดูเหมือนจะเป็นหน่วยกู้ภัยที่จะมาช่วยพลเรือนในเมืองนี้ เขาหยิบโล่ออกมาก่อนวิ่งกระโดดยกโล่บังกระสุนที่กำลังจะยิงอีกชุดจากอีกทิศใส่เจ้าหน้าที่


"ขอบใจ~ หมอบ!!" หญิงสาวเจ้าหน้าที่คนนั้นพูดก่อนจะยิงปืนลั่นไกใส่แก๊งมาเฟียคนนั้นนัดเดียวจอด สวยงาม ราวกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติพิเศษที่ถูกฝึกมาอย่างดี


ก่อนเธอจะมองดูเด็กหนุ่มวัยสิบห้า แต่มีความกล้าหาญและการกระโดดตะกี้ราวกับถูกฝึกมาอย่างดี เธอมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า การแต่งกายดูชิลด์ ๆ เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ ชุดที่ดูเหมือนสายลับนี่มันอะไร เอ็นเอสเอ ( NSA) ไม่น่าจะส่งใครอื่นมานอกจากเธอแล้วนี่น่า 


"นายเป็นใคร แล้วโล่ตำรวจนั่นไปเอามาจากไหน เด็กอย่างนายแปลกเกินไป" หญิงสาวคนนั้นยกปืนขึ้นเล็งมาที่ผม และผมแอบโล่งอกดูเหมือนมนต์บังตาจะทำให้เธอมองชุดผมและโล่ไม่ใช่แบบที่ผมใส่สินะ


"ผมเดม่อน พลเรือนอเมริกันครับ พอดีได้ยินว่ามีเจ้าหน้าที่จะมาช่วยเราออกไปก็เลยออกมาตามหา แล้วคุณคือ..." เดม่อนแนะนำตัวเองก่อนจะถามกลับ หวังว่าเธอคงจะเชื่อผมนะ "จะบอกว่าความลับ บอกผมไม่ได้ ถ้าบอกผมคือผมต้องตาย บลา ๆ ตามหนังสายลับที่มีฉายในทีวีเหรอครับ"


"ไม่ขนาดนั้น เรียกชั้นว่า เคย์น่าก้พอ ชั้นคือ เจ้าหน้าที่พิเศษเอ็นเอสเอ มาที่นี่เพื่อช่วยพลเรือนในพื้นที่อพยพไปอเมริกา" เคย๋น่ายังไม่วางใจ เธอชี้ปืนมาที่โล่ผมก่อนจะวกกลับมาที่ตัวผม


"อ้อ โทษที พอดีโล่อันนี้ผมเห็นมันตกอยู่น่ะครับ เลยหยิบมาไม่คิดว่าจะได้ใช้ ส่วนนี่...." เดม่อนพูดก่อนจะอ้ำอึ่ง จนเขาเผลอยิ้มกลบเกลื่อน 


เคย์น่ารู้สึกอีกฝ่ายมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ก่อนเธอจะเก็บปืนก่อนจะพูดขึ้น "เอาเป็นว่าชั้นเชื่อนายก็ได้ งั้นตามมา อย่าอยู่ห่างล่ะ นายไม่โชคดีแบบนั้นตลอดหรอกนะ เด็กน้อย"


"อือ ครับพี่สาว" เดม่อนเรียกอีกฝ่าย เขาเนียนให้อีกฝ่ายเห็นเป็นเด็กคนหนึ่ง ก็แหงสิเขาเพิ่งอายุสิบห้าเอง และแบบนี้จะโอเคกว่ามากกับการมองเห็นแตกต่างกัน เอาเป็นว่าถ้าไม่เข้าตาจนจริง ๆ เธอเอาอยู่ เขาคงไม่จำเป็นต้องออกโรง ก่อนเดินตามสาวสายลับเอ็นเอสเอไปยังที่กบดานพลเรือนที่เธอช่วยไว้




-






แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ --25 เกียรติยศ +15 ความกล้า --25 ความศรัทธา โพสต์ 2024-3-21 00:16
God
เลข 0 ท่านพบเจอ บริวาลแห่งเฮคาที แม่มดดำ (Level 25)  โพสต์ 2024-3-20 20:55
โพสต์ 20750 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-3-20 18:52
โพสต์ 20,750 ไบต์และได้รับ +8 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนชุดใจปรารถนา  โพสต์ 2024-3-20 18:52
โพสต์ 20,750 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-3-20 18:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-21 00:00:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Daemon เมื่อ 2024-3-21 00:03



I am NSA?




เดม่อนติดตามเคย์น่าไปจนถึงโกดังร้างแห่งหนึ่ง เธอบอกว่าข้างในคือผู้ลี้ภัยอเมริกัน และมีชาวเฮติบางส่วนที่อยากหนีไปจากที่นี่ ก่อนเคย์น่าจะเดินไปเปิดประตู


"นี่ พ่อหนุ่มมาช่วยชั้นเอาประตูนี้ขึ้นหน่อยได้ไหม" เคย์น่าตะโกนเรียกผม 


"ได้ ๆ" ผมขานรับก่อนวิ่งไป และสอดมือใต้บานประตูที่แย้มขึ้นเพราะเคย์น่ายกไปนิดนึง ผมและเคย์น่าช่วยกัน เราทั้งคู่ค่อย ๆ ช่วยกันยกประตูโกดังขึ้น คนข้างในลุกขึ้นหันมามองเป็นตาเดียว แต่เมื่อพวกเขาเห็นเคย์น่าก็ลดความระวังตัวลง


"คุณเคย์น่ากลับมาแล้ว สถานการณ์เป็นไงบ้างครับ" เสียงชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดขึ้น


เดม่อนต้องถึงกับอึ้งภายในห้องนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นแววตาของผู้คนที่กำลังรอความหวัง ดูเหมือนสายลับสาวตรงหน้าเขาจะเป็นความหวังพลเรือนกลุ่มนี้ไม่มากก็น้อย 


เคย์น่าปรบมือก่อนจะพูดขึ้น "เอาล่ะทุกคนเตรียมตัว"


"เก็บข้าวของให้เรียบร้อย อีกสิบนาทีเราจะมุ่งหน้าไปสนามบินกัน พอเจอเส้นทางที่เลี่ยงปะทะแก๊งได้น้อยที่สุดแล้ว"


สิ้นเสียงเคย์น่า ทุกคนก็พากันแยกย้ายไปเก็บข้าวของตนเองใส่สัมภาระกัน ถ้าทุกอย่างราบรื่นอย่างที่เคย์น่าคิดก็ดีสินะ ก่อนผมเดินไปหาเคย์น่า


"เธอคิดว่าเราจะไปถึงสนามบินอย่างสวัสดิภาพไหม" ผมถามสายลับสาวขึ้นด้วยเสียงเบา เพื่อไม่ให้คนอื่น ๆ ในห้องได้ยินสิ่งที่เราสนทนากัน


"ชั้นไม่รู้... แต่ถ้าเราต้องปะทะ ชั้นฝากนายดูแลแนวหลังด้วยได้ไหม ฝีมือนายไม่เลว" เคย์น่าพูดขึ้นก่อนหันมามอง ผมตีอกก่อนมือจับด้ามดาบแน่น 


"ไม่มีปัญหา"


"ไม่ใช่ด้วยมีดปอกผลไม้นั่น...." เคย์น่ามองอีกฝ่ายกุมมีดในมือ ก่อนเธอจะส่ายศีรษะและหยิบกระบองส่งมาให้ผม "นายพอใช้มันได้ใช่ไหม" 


ผมถึงกับแทบหลุดขำ นี่มนุษย์เห็นดาบของผมเป็นมีดปอกผลไม้เหรอเนี่ย ผมมองมีดปอกผลไม้เฮ้ยดาบข้างเอวผมด้วยความเอ็นดูดาบของผม ก่อนจะพูดตอบเคย์น่า


"ขอบคุณนะ คิดว่าใช้ได้อยู่แหละ" เดม่อนรับกระบองจากอีกฝ่ายมาแนบอีกฝ่ายมาแนบเอวซ้าย เขาคงต้องปล่อยเลยตามเลยไปก่อน ไว้ถ้าไม่เจออสุรกายค่อยเอากระบองนี่ฟาดหัวล่ะกัน เพราะอาวุธสัมฤทธิ์วิเศษทำร้ายมนุษย์ธรรมดาไม่ได้


"เอาล่ะทุกคน ก่อนเราจะออกไป ชั้นขอแนะนำ นี่คือเดม่อน เขาจะมาช่วยดูแลทุกคน อย่าเห็นเขาดูเด็ก แต่ฝีมือเขานับว่าใช้ได้เลยล่ะ!" เคย์น่าพูดแนะนำผม ก่อนเธอไม่ลืมย้ำเรื่องฝีมือเพื่อให้หลาย ๆ คนในห้องนี้วางใจ


"ฝากตัวด้วยนะครับ" เดม่อนพูดขึ้นก่อนโน้มตัวกับทุกคนด้วยความถ่อมตน 


"ได้เวลาแล้ว ตามชั้นมา อย่าแตกแถวล่ะ" เคย์น่าพูดขึ้นก่อนเธอจะเดินไปที่ทางออก มองซ้ายมองขวาและเดินออกไป เรียกให้ผมและคนอื่น ๆ ตามไป


เราเริ่มเดินตามถนนก่อนเลือกเข้าตรอกเล็ก ๆ เคย์น่าบอกว่าทางนี้จะเลี่ยงถนนใหญ่และไม่ค่อยมีแก๊งเพ่นพ่าน พอจะทะลุผ่านไปยังสนามบินได้ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะมีบางอย่างไม่อยากให้เราออกไปจากเฮติ บริวาลของเฮคาทีนั่นไงล่ะ แม่มดดำขี่ไม้กวาดมาลอยเหนือหัว ผมไม่รู้ว่าเคย์น่าและคนอื่น ๆ เห็นหล่นเป็นอะไร แต่ผมสะกิตให้เคย์น่ามองข้างบน เธอก็ไม่ดูกลัวเลย


"นายจะกังวลอะไรจะอีแค่นก!" เคย์น่าพูดขึ้นอีกครั้งตอนที่ผมสะกิตอันตรายข้างบน


"หลบ!" ผมกระโดดผลักเคย์น่าจนเราทั้งคู่ล้ม แม่มดดำร่ายบางอย่างบอลพลังงานพุ่งใส่ทางเคย์น่า ก่อนผมจะลุกขึ้น เมื่อเคย์น่าลุกขึ้นมาจะพูดบางอย่างก่อนเธอล้มสลบลง


"เคย์น่า..." ผมตะโกนเรียกแต่เธอก็ไม่ได้สติ ผมหันไปมองคนอื่น ๆ ล้มพับไปเป็นแถว ๆ ก่อนหันไปทางแม่มดดำ "แกทำอะไรกับทุกคน!!"


"หุหุหุ ก็แค่ทำให้พวกหล่อนงีบสักพัก จนกว่าพวกแก๊งจะผ่านทางนี้ นายท่านไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนออกไปจากที่นี่ทั้งนั้น รวมถึงแกด้วย"


แม่มดดำพูดตอบโต้ผมก่อนจะหัวเราะชั่วร้ายเหมือนที่พบเห็นในหนังแม่มดทั่ว ๆ ไป


"งั้นคงต้องผ่านศพแกไปสินะ" เดม่อนพูดขึ้นก่อนชักดาบ เขาไม่รู้หรอกนะว่าแม่มดดำทำอะไรกับทุกคน และทำไมเขาถึงรอดจากมนต์นั้นได้ อาจจะเป็นเพราะมนต์นั้นเล่นงานคนที่จิตอ่อน เขาคิดแบบนั้น ก่อนพุ่งตัววิ่ง กระโดดขึ้นก่อนจะปาโล่ไปอย่างสวยงาม


โล่สตันหน้าแม่มดดำจัง ๆ ก่อนอีกฝ่ายจะร่ายมนต์ซัดบอลพลังงานใส่ผม ผมเอี่ยวตัวหลบอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะวิ่งไปเก็บโล่และตั้งท่าเตรียมโจมตีอีกครั้ง


"แกทำอะไรข้าไม่ได้หรอกเด็กน้อย ท่านเฮคาทีไม่ได้บอกว่าต้องจัดการเดมี่ก็อตที่มาขวางยังไง เช่นนั้นข้าจะจับแกไปต้มยาแล้วดื่มบำรุงกำลังข้าดีกว่า วะฮ่าฮ่าฮ่า!!" แม่มดดำหัวเราะอย่างสะใจ มันเผลอจนผมว่งไปคว้าปืนจากพี่เคย์น่ายิงไปขนไม้กวาดหลายนัดจนกระจุย ตอนนี้มันเริ่มควบคุมไม้กวาดลำบาก เซไปเซมา


เดม่อนแสยะยิ้ม ก่อนเขาอาศัยจังหวะนี้วิ่งพุ่งไปที่กำแพง และกระโดดคว้าขมับราวระเบียงเพื่อดีดตัวเองขึ้นไปอีกชั้น เมื่อระดับความสูงเหนือกว่าแม่มด เขารีบดีดตัวออกจากระเบียง คว้าขมับเข้าที่ไม้กวาดแม่มดดำที่กำลังเซไปเซมา เขาคว้าสองมือและเอนน้ำหนักตัวดิ่งพื้นเพื่อให้ไม้กวาดร่วง


"ไอเด็กบ้า ถ้าแกไม่ปล่อย ข้าจะชำแหละร่างกายแกก่อนต้ม!" นังแม่มดดำตะโกน ผมที่เกาะแน่น  ไม้กวาดเริ่มเอนมาด้านหลังจนแม่มดดำร่วง และไม้กวาดก็กำลังจะดิ่ง ผมรีบกระโดดกลิ้งหลุน ๆ ไปบนพื้นทันทีที่ไม้กวาดใกล้ตกถึงพื้น


เดม่อนกระโดดจะวิ่งไปคว้าดาบและโล่ที่ตกพื้น แต่แม่มดดำยิงบอลพลังงานขวางเอาไว้ทุกจังหวะ ทำให้ผมเข้าไปไม่ถึงดาบและโล่ ผมต้องตีลังกาถอยหลังมาตั้งหลัก


"แกไม่มีอาวุธ แกก็ทำร้ายข้าไม่ได้" แม่มดดำพูดก่อนจะหัวเราะสะใจ ก่อนเธอร่ายบางอย่าง เคย์น่าลุกขึ้นยืน แต่ตาของเธอเป็นสีเขียวและมีออร่าบางอย่างแผ่รอบตัวเธอ


เตย์น่าหยิบปืนขึ้นมายิงใส่ผม ผมวิ่งหลบกระสุน ก่อนกระโดดหลบหลังที่กำบัง


"พี่เคย์น่า ตั้งสติ นี่ผมเดม่อนเอง พี่สัญญาจะพาผมและคนอื่น ๆ ไปสนามบินเพื่อกลับอเมริกานะครับ!" ผมพูดขึ้นในขณะหลบหลังที่กำบัง


"แกมันเป็นพวกนั้นใช่ไหม !! แกอย่าคิดจะหลอกชั้นได้ !! แกตายซะ !!" เคย์น่าพูดราวกับไม่ใช่ตัวเธอ ก่อนเธอจะเปลี่ยนแมกกาซีนและยิงต่อเนื่อง


เดม่อนที่หลบหลังที่กำบัง เขามองหาโอกาสจะไปยังตัวแม่มดดำตนนั้น แต่ยากเหลือเกินระยะห่างโล่งเกินไป และเขาต้องไปหยิบดาบทางด้านนั้นก่อน อย่างน้อยขอแค่ดาบ ก่อนเดม่อนสายตาไปสังเกตเห็นกระบองข้างเอวที่เขาลืมไป


"นังแม่มดไม่น่าจะรู้ ถ้าเขาทำให้มันสตันกับสิ่งนี้ได้ บางทีเคย์น่า ควรจะชะงักไปครู่หนึ่ง" เดม่อนพูดคนเดียวก่อนหยิบกระบองออกมา จังหวะที่แมกกาซีนหมด เดม่อนรีบออกจากที่กำบัง และชักกระบองปาไปทางแม่มด เคย์น่ามือหยุดนิ่งไปท่าสับแมกกาซีนราวกับไร้ผู้ชักใยหลุดการควบคุม แม่มดกระโดดหลบกระบองธรรมดา ๆ ที่ถ้าโดนก็ทำอะไรพวกเธอไม่ได้แท้ ๆ


เดม่อนอาศัยจังหวะนี้วิ่งชาร์จไปทางดาบของเขา เคย์น่าที่กลับมาเคลื่อนไหวได้แล้วกำลังสับแมกกาซีน ก่อนเธอหันปลายปืนเล็งมาทางทิศที่ผมกำลังวิ่ง ผมหันไปมอง จังหวะเสียง


ปัง ปัง ปัง


ผมสไลด์ตัวเองครูดไปกับพื้น เมื่อใกล้ถึงดาบผมก็ม้วนตัวกลิ้งต่อ มือคว้าดาบก่อนจะลุกขึ้นมายืนตั้งหลัก สองมือจับดาบแน่น


พี่เคย์น่ายิงปืนชุดใหม่ใส่ผม ก่อนผมเบี่ยงตัวหลบซ้ายหลบขวา และสไลด์ ใช้ปลายเท้าเตะพี่เคย์น่าคว่ำล้มลงกับพื้น ก่อนผมลุกขึ้นใช้เท้าเตะปืนไปไกล ๆ และหันไปทางแม่มด พี่เคย์น่าที่ลุกขึ้นไม่ได้สนใจมือ เธอกระโจนใส่หลังผมที่กำลังวิ่งไปทางแม่มดจนผมหน้าขมำไถลกับพื้นเกือบจูบพื้น ดีที่ผมใช้ศอกยันก่อนแม้จะแลกมากับแผลถลอกที่สอกขวา  ผมใช้มือซ้ายยัน ก่อนพอจะขยับมือขวาได้ และตวัดดาบในมือขวาที่ยันตัวกับพื้นใส่พี่เคย์น่า 


ใบดาบสัมฤทธิ์ทะลุร่างพี่เคย์น่า เพราะผมรู้อยู่แล้วดาบมันทำร้ายพี่เคย์น่าไม่ได้ แต่แขนผมกระแทกเข้าเต็ม ๆ ก่อนใช้แขนซ้ายฟาดต้นคออีกฝ่ายจนสลบ ก่อนผมจะลุกขึ้นและวิ่งต่อไปหาแม่มด แม่มดพยายามซัดบอลพลังงานใส่ผม ผมเบี่ยงตัวหลบ


"จบกันล่ะนะ" เดม่อนวิ่งยกดาบขึ้นแทงทะลุท้องอีกฝ่าย ผมยันดาบเข้าไปจนมิดด้าม ก่อนร่างแม่มดค่อย ๆ สลายเป็นฝุ่นละอองสีทอง ผมเดินไปหยิบสงคราม(?) ที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ ก่อนวิ่งไปดูพี่เคย์น่า ตอนนี้คนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นมาจากอาการสลบไสลแล้ว


"พี่เคย์น่า!!" เดม่อนตะโกนเรียกร่างหญิงสาวที่สลบอยู่ เขาผคองศีรษะมาบนตักเขาในท่าคุกเข่าของเขา ที่เธอยังไม่ฟื้นเพราะเธอไม่ได้สลบจากฤทธิ์แม่มด


"โอ๊ย" พี่เคย์น่าฟื้นขึ้นมา ก่อนมือไปกุมศีรษะ "ทำไมปวดต้นคอชะมัด นี่เกิดอะไรขึ้น"


เดม่อนมองตาปริบ ๆ ก่อนจะคิดบางอย่าง "พอดีมีพวกแก๊งน่ะครับ พี่ต่อสู้กับพวกมันและไล่พวกมันไป แต่พี่โดนคนนึงของพวกมันทุบสลบ ผมที่อาศัยจังหวะที่หมอนั่นเผลอไล่ทุบไม่ยั้ง มันเลยหนีตามเพื่อน(?)" ผมปั้นเรื่องแก๊งมาอธิบายกับอีกฝ่าย


"งั้นเรารีบเดินทางกันดีกว่า อีกเดี๋ยวมันจะต้องแห่มากกว่าเดิมแน่" เคย์น่าพูดขึ้นก่อนลุกขึ้น


"ทุกคนไม่เป็นไรกันนะ เราจะรีบเดินทางต่อ อีกไม่ไกลก็ถึงสนามบิน" เคย์น่าพูดขึ้นก่อนมองดูพลเรือน เมื่อเห็นทุกคนมากันพร้อมหน้าก็พากันออกเดินทาง


ผมติดตามคณะพลเรือนตามพี่เคย์น่ามุ่งหน้าสู่สนามบิน ดูเหมือนพื้นที่สนามบินจะมีทหารสหรัฐปิดล้อมไว้อย่างปลอดภัย และเปลี่ยนมันเป็นฐานที่มั่น เคย์น่าบอกผมให้ตามพลเรือนไปรอขึ้นเครื่อง ส่วนเธอจะต้องแยกกันตรงนี้ไปรายงานหัวหน้า ผมเดินไปพิงเสาในสนามบินรอเครื่องเพื่อบินลัดฟ้าสู่อเมริกา.....




-






แสดงความคิดเห็น

God
+2 ตื่นรู้จากการพิชิตแม่มดดำ บริวาลแห่งเฮคาทีครั้งแรก  โพสต์ 2024-3-21 09:26
โพสต์ 36159 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-3-21 00:00
โพสต์ 36,159 ไบต์และได้รับ +8 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนชุดใจปรารถนา  โพสต์ 2024-3-21 00:00
โพสต์ 36,159 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-3-21 00:00
โพสต์ 36,159 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-3-21 00:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-29 07:47:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-29 10:06

058
ซูเปอร์ฮีโร่แลนดิ้ง?

             แว้บบบ

             ดีนถูกวาร์ปมาที่นอกเมืองเฮติในชั่วพริบตา เขาแทบไม่ได้ทันตั้งตัวเพราะเทพีอะธีนาไม่ยอมนับถึงสาม ฉะนั้นชายหนุ่มจึงอยู่ในท่านั่งคุกเข่าและสองมือกุมขวดน้ำทิพย์เอาไว้อยู่ แสงสว่างที่ล้อมรอบทำเอาเขาตาพร่าไปชั่วขณะ และเมื่อดวงตารับแสงได้ตามปกติเขาก็เห็นว่าเทพีอะธีน่ากลายเป็นเสาไฟฟ้าไปเสียแล้ว ชายหนุ่มยิ้มค้างพลางคิดในใจว่า เทพีเกลียดชังอะไรเขาหรือเปล่าเนี่ย!!!

             จากที่ศึกษาประวัติเทพมาอย่างน้อยนิด คงไม่แปลกที่นางจะหมั่นไส้เขาที่เป็นบุตรชายของมหาเทพโพไซดอน เพราะเคยมีคดีพิพาทกันถึงสองครั้งสองคราว เรื่องแรกคือการสร้างเมืองเอเธนส์ ทั้งสองวัดความฉลาดกันโดยแข่งกันเสกสิ่งใดก็ได้ในโลกที่มีประโยชน์มากกว่ากัน เทพีเสกต้นมะกอกที่มีคุณประโยชน์มากเหลือ ส่วนบิดาของเขาเสกม้า... ก็รู้อยู่หรอกนะว่าบ้าม้าขนาดไหน ถ้าย้อนไปได้เขาคงกระซิบบอกคุณพ่อว่า ‘เสกสมาร์ทโฟนและสัญญาณไวไฟสิ’ รับรองว่าชนะใส

             ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องที่บิดาของเขาขืนใจเมดูซ่า สาวกผู้มีความศรัทธาสูงสุดแด่นางในวิหารของเทพี เป็นการหยามหน้าอย่างหาที่สุดไม่ได้ ดีนไม่รู้ว่าเรื่องไหนเกิดก่อนกัน ถ้าเรื่องเมดูซ่าเกิดทีหลังคงไม่ใช่ว่าเทพโพไซดอนทำไปเพราะต้องการแก้แค้นจากการประลองปัญญาหรอกนะ? ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาคงจะโกรธคุณพ่อเรื่องนี้ยิ่งกว่าเก่า หวังว่ามันจะไม่ใช่

             แต่ถึงอย่างนั้นเทพีอะธีน่าก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขาเกินไปมั้ง… ถึงจุดนี้จะค่อนข้างไกลปืนเที่ยงแต่ก็ถือว่าปลอดภัยไร้กังวลแม้จะได้ยินเสียงปืนดังมาจากในตัวเมืองปอร์โตแปงซ์ไกลลิบ ๆ บางทีนางอาจจะเลี่ยงปัญหาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเจ้าสมุทรโดยตรงก็เป็นได้ อย่างเช่นกรณีของเมดูซ่า หากนางไม่ยำเกรงเทพสมุทรคงฉะหน้าคนที่ทำให้เกียรติยศในวิหารต้องหม่นหมองไปแล้ว แต่นางกลับสาปสาวกผู้น่าสงสารแทนเสียอย่างนั้น ไม่อยากจะด่าแต่ว่าโคตรจะงี่เง่าเลยจริง ๆ

             แต่เอาเถอะไม่ว่าจะเพราะอะไรเขาก็มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ แต่ดีนก็ยังไม่ละเลยคำเตือนจากเดม่อนเรื่องที่นางอาจส่งอุปสรรคมาทดสอบความกล้า หรือที่อีกอย่างที่เรียกกันว่า ‘ฆ่าปิดปาก’

             จุดที่ดีนถูกวาร์ปมาเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ นอกเมืองปอร์โตแปงซ์ ใกล้ ๆ กันนั้นมีคาเฟ่แบบฉบับพื้นบ้านเปิดอยู่ สภาพเป็นยังไงก็ขอให้ลืมความชิค ๆ คูล ๆ ของคาเฟ่อะเมซอนที่ค่ายฮาล์ฟบลัดไปได้เลย ช่างเรื่องความสวยงามและเผลอ ๆ จะรวมถึงสุขอนามัย.. บางทีเขาอาจจะเข้าไปขอความช่วยเหลือในนั้นได้

             เมื่อดีนก้าวขาเข้าไปในคาเฟ่ชาวเมืองผิวดำต่างมองเขาเป็นตาเดียว พลางขมวดคิ้วเหมือนเห็นอะไรประหลาด ๆ เพราะว่าเขาเป็นคนที่ขาวกว่าคนที่นี่งั้นเหรอ? แต่เชื้อสายละตินที่ไหลเวียนอยู่ในกายครึ่งหนึ่งเถียงได้เลยว่าตนไม่ใช่คนขาวอย่างแน่นอน ทว่าชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่งที่เขารู้สึกว่าไม่ใช่แฮะ เพราะแอบเห็นหอกสัมฤทธิ์เป็นท่อแป๊บสีฟ้า ส่วนโล่ก็เป็นกระเป๋าเครื่องมือช่าง เกราะที่สวมใส่ก็มีสภาพเป็นเสื้อช็อปช่างประปา

             โอเค้ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกนี่ เป็นช่างประปามาเข้าคาเฟ่มันผิดตรงไหน ต้องขอบคุณมนตร์ลวงตาไหมนะ ที่อย่างน้อยก็เสกให้คนธรรมดาเห็นว่าเขายังแต่งตัวเข้าชุดกันอยู่แม้ว่ามันออกจะประหลาดนิดหน่อย

             ชาวท้องถิ่นสนใจผู้มาใหม่ได้เพียงประเดี๋ยวเดียวพวกเขาก็หันหน้ากลับไปดูโทรทัศน์ในร้านต่อ หน้าจอฉายภาพข่าวรายงานสดสถานการณ์ในตัวเมืองซึ่งดูแล้วเลวร้ายเอามาก ๆ เสียงของผู้ประกาศข่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งเป็นภาษาราชการของเฮติทำให้เขาได้แต่ยิ้มอ่อน ไม่รู้เลยว่ากำลังรายงานข่าวเรื่องอะไรกันอยู่ แต่เพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่กล้องแพนผ่าน เขาเห็นธงของสหรัฐอเมริกาและหน่วยกาชาดติดปลอกแขนกากบาดสีขาวแดง บางทีคุณแม่อาจจะอยู่ที่นั่นก็เป็นได้ แม้จะฟังไม่ออกแต่ชายหนุ่มพยายามคิดวิเคราะห์ว่าสถานที่ในภาพข่าวคือที่ไหน

             ‘คล้าย ๆ กับสนามกีฬาเลยแฮะ…’

             บ้าจริง! ถึงจะพอรู้พิกัดแล้วแต่ว่าเขาจะเข้าเมืองไปได้ยังไงกันล่ะ! ต่อให้ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มคนที่นี่ก็คงไม่มีใครอาสาเสี่ยงภัยไปส่งหรอก

             ดีนถอยออกมาตั้งหลักข้างนอกร้านกาแฟชนบทก่อน เอาไงดี ๆ ฉับพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นจักรยานเก่าคร่ำคร่าของใครก็ไม่รู้ตั้งทิ้งเอาไว้อยู่ ขอยืมหน่อยนะ.. ไม่สิขอเลยก็แล้วกันเพราะคงไม่มีปัญญาเอามาคืนให้หรอก แต่ด้วยความที่ไม่อยากเป็นขโมยเขาจึงหยิบแบงก์ดอลลาร์ในจำนวนที่มากพอกับราคาจักรยานเก่า ๆ โทรม ๆ คันนี้ เขียนโน้ตวาดเป็นรูปรถจักรยาน แม้ฝีมือจะห่วยไปสักหน่อยแต่ก็คงจะพอดูออกว่าเป็นรูปอะไร เขาวางเงินไว้ในตำแหน่งเดิมที่จักรยานเคยจอดแล้วเอาก้อนหินทับไว้ จากนั้นก็รีบบึ่งมันเข้าไปในเมืองปอร์โตแปงซ์ โดยแอบได้ยินเสียงตะโกนเป็นภาษาฝรั่งเศสไล่หลัง คนพวกนั้นคงพูดกันว่า “ช่วยด้วย ช่างประปาขโมยจักรยาน” กันล่ะมั้ง

             แต่ว่าขอโทษนะ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ หวังว่าเงินจำนวนเท่านี้จะเพียงพอสำหรับการซื้อจักรยานคันใหม่ที่ดีกว่านี้นะ…

วางเงินค่าจักรยานทิ้งไว้ให้ชาวเมือง
100 ดอลลาร์ (ไม่รวมภาษี คิดซะว่าเหรียญปลิวไปแล้วกัน..)
-----------------------------
โรลได้ 4 ครั้งต่อไป VS ก๊อปลิน Lv.17

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ --20 เกียรติยศ +10 ความกล้า โพสต์ 2024-3-29 10:37
โพสต์ 14944 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-3-29 07:47
โพสต์ 14,944 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-29 07:47
โพสต์ 14,944 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-29 07:47
โพสต์ 14,944 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-29 07:47
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-29 10:11:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-29 10:52

059
เมืองปอร์โตแปงซ์อยู่อีกไกลไหม?

             การโดยสารด้วยจักรยานไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับดีน เขาค่อนข้างจะคุ้นเคยเลยด้วยซ้ำเพราะว่าตนขี่จักรยานไปโรงเรียนเองตั้งแต่เกรดเก้า มาเรียนมหาวิทยาลัยในนิวยอร์กเขาก็มีจักรยานเสือภูเขาเป็นพาหนะคู่ใจแต่ไม่ถึงกับตั้งชื่อให้ ดังนั้นการปั่นจักรยานในระยะทางสามถึงสี่ไมล์ต่อวันจึงไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาสาหัส …หมายถึงการขับขี่ที่สหรัฐฯ อ่ะนะ

             แต่สภาพถนนของประเทศโลกที่สามเป็นหลุมเป็นบ่อแถมจักรยานที่ซื้อมา (?) ก็ยังเก่าคร่ำคร่า ปั่นแต่ละทีได้ยินสนิมดังเอี๊ยดอ๊าดจนตอนนี้รู้สึกเสียดายเงินหนึ่งร้อยเหรียญที่วางทิ้งเอาไว้ เขาจะถือว่าซื้อความสบายใจไม่รู้สึกผิดแทนก็แล้วกัน จากที่เคยปั่นด้วยความเร็วสูงสุดห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงตอนนี้น่าจะลดเหลือแค่ยี่สิบด้วยแรงกายที่ใช้เท่าเดิม

             ‘ว่าแต่แล้วเมืองปอร์โตแปงซ์มันอยู่อีกไกลไหม?’

             ดีนเริ่มบ่นในใจเพราะรู้สึกว่าเทพีอะธีน่าส่งเขามาในที่ปลอดภัยไกลไปหรือเปล่า? ตอนนี้เขาขี่จักรยานเส็งเคร็งนี่มาร่วมชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นประตูเมืองที่ว่า สิ่งที่เขาเห็นมีแค่พงหญ้ากับทะเลที่ขนาบถนนลูกรัง

             โป๊ก!

             “โอ๊ย!”

             รู้สึกเหมือนมีก้อนหินเล็ก ๆ ขว้างใส่จากด้านข้างฝั่งป่า แต่บนถนนนี้ไม่มีใครสัญจรผ่านไปมาเลยนี่นา มีแค่ความเจ็บจากแรงปะทะของก้อนหินเล็ก ๆ กับแรงที่เคลื่อนไปข้างหน้าเท่านั้นที่เป็นหลักฐานพยานว่าถูกขว้างใส่จริง ๆ

             แกร๊ง!

             คราวนี้มีมาอีกก้อนปาถูกหมวกเกราะของเขา แม้ไม่บาดเจ็บแต่ก็ย้ำได้ดีว่าข้างทางนี้มีอะไรแน่ ๆ ดีนจึงหันไปมองมีดวงตาสีแดงวาวโรจน์มากกว่าสิบคู่ที่จ้องมองเขาอยู่ในร่มเงาของป่าเขา

             ‘ฮึ!! ผีป่า!?!!!’

             แม้เป็นคนที่ศรัทธาในวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ แต่ดีนก็จิตอ่อนเกินไป เห็นภาพแค่นั้นสติก็แทบแตก เขาเร่งฝีเท้าปั่นจักรยานเร็วสุดขีดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ทว่ามีเจ้าตัวสีเขียวใจกล้าหนึ่งตัวกระโดดออกมาจากป่ายืนจังก้าเหมือนกับว่าอยากจะหยุดจักรยานของเขาเสียให้ได้ มันหวดกระบองในมือไปมาดูน่ากลัว ทว่าด้วยความตัวเล็กเหมือนตุ๊กตาเฟอร์บี้ ดีนไม่อาจบอกได้เลยว่าเจ้านี่มันน่าเกรงขามหรือเปล่า…

             “กี้!!!”

             “ถอยป๊ายยยย!!!”

             “กี้!!!”

             “บอกว่าถอยป๊ายยยย!!!”

             “กี๊!!?!!”

             โครม!!!

             ด้วยความเร็วระดับสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงชนกับเจ้าก๊อบลินตัวเขียวเต็ม ๆ ทำเอาทั้งดีน ทั้งก็อบลิน และจักรยานกระเด็นไปไกลคนละทิศละทาง แต่ยังดีที่ชายหนุ่มสวมชุดเกราะสัมฤทธิ์ทับแจ็คเก็ตหนังตัวเขาจึงไม่บาดเจ็บมากไปกว่าแผลถลอกเล็กน้อยตามฝ่ามือที่ใช้ยันพื้น

             “อูย…”

             ดีนยันตัวขึ้นมาดูความเสียหาย จากอุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้สังเวยชีพสองศพ หนึ่งคือก็อบลิน และสองคือจักรยานที่เขาซื้อมาในราคาหนึ่งร้อยดอลลาร์ ตอนนี้วงล้อเกรอะกรังบูดเบี้ยวไม่เป็นรูปเป็นทรง

             ‘ยังใช้ไม่คุ้มค่าเลยอ่ะ..’

             ถึงจะเสียดายเงินแต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ยังไม่ตาย แถมตอนนี้ยังมาอยู่ที่หน้าประตูเมืองปอร์โตแปงซ์แล้วด้วย ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ บริเวณนี้เต็มไปด้วยบังเกอร์และรั้วลวดหนาม ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้นมาเขาก็ได้ยินเสียงเอฟเฟคหนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง

             แกรก..

             “Allongez-vous sur le sol. Gardez vos mains derrière votre dos!”

             เสียงหญิงสาวคนหนึ่งที่ออกจะดุดันจริงจังเอ่ยขึ้นที่ด้านหลังของดีน เธอพูดกับเขาเป็นภาษาฝรั่งเศส เมื่อเหลียวตัวหันกลับไปมองดีนก็ต้องรีบหันกลับมาพร้อมกับสีหน้าตกใจสุดขีด เพราะสิ่งเขาเห็นก็คือกระบอกปืนวาววับจ่ออยู่ด้านหลังชิดที่สามารถยิงเผาขนได้ แล้วถ้าปืนในมือของหล่อนลั่นขึ้นมาดีนคงไม่ได้นั่งเป็นผู้เป็นคนอยู่ตรงนี้ นั่นทำให้เขาทิ้งโล่และหอกสัมฤทธิ์แล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว แสดงเจตนาว่าขอยอมแพ้

             “Je t'ai dit de t'allonger par terre. Et gardez vos mains derrière votre dos!” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันอีกครั้งเมื่อไม่เห็นว่าดีนทำตามที่เธอบอก

             “อะไรอ่ะ? ผมฟังคุณไม่รู้เรื่อ—!!”

             ยังไม่ทันได้เถียงออกมาเขาก็ถูกด้ามปืนกระแทกเข้าที่ท้ายทอย ไม่ถึงกับสลบแต่ก็ล้มหน้าคว่ำ เธอล็อคมือทั้งสองข้างของเขาไพล่หลังเอาไว้ด้วยกุญแจมือ จากนั้นก็เริ่มทำการเปิดกระเป๋าเป้เพื่อค้นหาวัตถุอันตราย แต่คงไม่เจออะไรหรอกนอกจากเสบียงอาหารและพาสปอร์ตระบุตัวตน

             “ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล.. พลเมืองสหรัฐมาทำอะไรที่นี่?”

             ในที่สุดก็คุยภาษาเดียวกันได้สักที…
ต่อสู้ (?) กับก๊อบลินครั้งแรก ตื่นรู้ +2

-----------------------------
โรลได้ 6 ครั้งต่อไป VS ก๊อปลิน Lv.17



แสดงความคิดเห็น

God
+2 ตื่นรู้จากการพิชิตก๊อบลินครั้งแรก  โพสต์ 2024-3-29 10:49
โพสต์ 15166 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-3-29 10:11
โพสต์ 15,166 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-29 10:11
โพสต์ 15,166 ไบต์และได้รับ +3 EXP +4 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-29 10:11
โพสต์ 15,166 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-29 10:11

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-29 14:37:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-29 14:39

060
แรคคูนคลั่ง

             “ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล.. พลเมืองสหรัฐมาทำอะไรที่นี่?”

             “คือว่าผม..”

             กำลังจะตอบคำถามอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าที่อีกฝ่ายพูดจะไม่ใช่การถามคำถาม เธอกลับใช้วิทยุสื่อสารแจ้งศูนย์บัญชาการในปอร์โตแปงซ์

             “พบชายผู้ต้องสงสัยหนึ่งคน ผลเมืองสหรัฐ แต่งกายเหมือนกับช่างประปา”

             “พาตัวกลับมาสอบสวนที่ศูนย์ฯ เปลี่ยน”

             “รับทราบ”

             ดูเหมือนงานจะงอก แม้ว่าคราวนี้ดีนไม่ต้องสู้กับอสุรกายที่ไหนแต่ต้องปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งงานนี้เป็นเรื่องแน่ ๆ เขากำลังจะกลายเป็นบุคคลนอกกฎหมายอย่างแท้จริง!

             “ฟังก่อนสิ ผมมาที่นี่เพื่อตามหาแม่!”

             “โห เป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นตายล่ะ มานี่ ลุกขึ้น”

             กุญแจมือของเขาถูกกระชากขึ้นมาอย่างแรง วงเหล็กกระแทกเข้ากับกระดูกข้อมือทำเอาเจ็บจนต้องนิ่วหน้า แล้วต้องเดินตามการลากถูของเจ้าหน้าที่หญิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเป็นอะไรนักหนากับชีวิตที่มักจะถูกผู้หญิงทำร้ายเนี่ย!!

             “ใจเย็น ๆ ก่อนสิคุณตำรวจ ผมเจ็บนะ แล้วก็โล่–.. หมายถึงกระเป๋าเครื่องมือช่างกับท่อแป๊บมันสำคัญกับผมมาก ขอให้ผมเอาไปด้วย”

             “ชิ! มาเป็นห่วงเครื่องมือช่างอะไรตอนนี้ ไม่ดูสถานการณ์เอาซะเลย” ตอนนี้เจ้าหน้าที่หญิงคงคิดว่าดีนเป็นคนเสียสติจากเหตุการณ์นองเลือดมากกว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้าย แต่เพื่อความชัวร์จับล็อกไว้แบบนี้ก่อนนั่นแหล่ะ ซึ่งเธอไม่ยอมทำตามคำขอที่ดูจิ๊บจ๊อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับสถานการณ์หน้าสิ่งหน้าขวานในตัวเมือง

             “กี้!! กี้!! กี้!! กี้!!”

             ดีนได้ยินเสียงโห่ร้องระงมมาจากนอกเมือง เมื่อหันไปมองเขาถึงได้เห็นว่ามีกองทัพก๊อบลินนับสิบหรืออาจจะร้อยวิ่งดุ๊กดิ๊กถือกระบองมาทางนี้ ถ้ามาเดี่ยว ๆ คงพอจะขำ ๆ ได้อยู่หรอก แต่มาทั้งฝูงแบบนี้น่ากลัวชะมัดเลย!!

             “อะไรกันน่ะ แรคคูนพวกนั้น?” เจ้าหน้าที่สาวขมวดคิ้วมองเหตุการณ์ฝูงแรคคูนแตกตื่นพากันกรูเข้าเมือง แม้จะเป็นเพียงสัตว์ตัวน้อยทว่าหญิงสาวก็ตั้งท่าเตรียมยิงไว้แล้ว

             “ห๊ะ! แรคคูน นี่เธอเห็นพวกมันเป็นแค่แรคคูนอย่างนั้นเหรอ!?”

             ดีนโวยวาย ตอนนี้เขาหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ไม่แน่ใจว่าสัตว์ประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นมันจะทำร้ายมนุษย์หรือไม่ แต่ลูกเทพคืออาหารที่เหล่าอสุรกายต่างหมายปอง เขาทำท่าจะวิ่งหนีแต่กุญแจมือที่ถูกสวมอยู่ข้างหลังถูกผูกติดกับโซ่คล้องเอวของหญิงสาวผู้นั้น ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างอะไรกับไซบีเรียนฮัสกี้บ๊อง ๆ ที่คอยจะลากเธอวิ่งหนี

             “ม่ายยยย มันมาแล้ว!!!!”

             “เฮ้! ใจเย็น ๆ สงบสติอารมณ์หน่อยสิ ไอ้เจ้าแรคคูนพวกนี้ก็.. เป็นอะไรกันหมด!”

             เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีเจ้าหน้าที่สาวจึงลั่นไกใส่สัตว์หน้าขนเหล่านั้น แต่ไม่มีแรคคูนตัวไหนที่ได้รับบาดเจ็บหรือล้มตาย ทำเอาหญิงสาวเลิกคิ้วมองอย่างตกใจ ที่ผ่านมาการฝึกยิงปืนของเธอยอดเยี่ยมมาก ไม่มีทางเลยที่จะพลาดเป้า

             “บอกแล้วไงว่าให้วิ่งน่ะ โอ๊ย!!”

             ดีนถูกก็อบลินกระโดดใส่มันรุมทึ้งเขาด้วยกระบองป๊อกแป๊ก แต่ที่หวดเข้าไปล้วนแล้วแต่ติดเกราะสัมฤทธิ์ทั้งนั้น แต่คนซวยไม่ใช่ดีนเพียงคนเดียว แม้แต่มนุษย์ธรรมดาอย่างเจ้าหน้าที่คนนี้ยังมิวายถูกลูกหลง ในสายตาของเธอคงเห็นว่าแรคคูนพวกนี้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้ากระมังถึงได้เข้ามารุมทำร้ายคนแบบนี้ เธอพยายามปัดและเตะมันออกแต่เจ้าพวกนี้กลับไปรู้สึกเจ็บหรือปวด ไม่ต่างอะไรกับพวกซอมบี้



             “ปล่อย! ปล่อยผมก่อน สัญญาว่าจะยอมไปด้วย จะไม่หนีไปไหนแน่ ๆ”

             “ชิ! ไม่มีทางเลือกแล้วสินะ”
            
             ขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปอาจจะมีแต่ตายกับตาย เจ้าหน้าที่สาวจึงตัดสินใจไขกุญแจมือให้ชายหนุ่มโดยใช้ศิลปะป้องกันตัวต่อสู้ไปด้วยอย่างยากลำบาก

             กริ๊ก!

             ทันทีที่ข้อมือถูกปลดพันธนาการดีนก็สะบัดพวกก๊อบลินเขียวตัวน้อย ๆ พวกนี้กระเด็นไปไกล สายตามองหาอาวุธ โล่ และสัมภาระของตัวเอง เขากลิ้งตัวไปหยิบโล่สัมฤทธิ์มาก่อนเป็นอย่างแรก ใช้มันกวัดแกว่งแทนอาวุธพร้อมกับป้องกันตัวไปด้วย จนได้หอกมาอีกด้ามแล้วเก็บกระเป๋าขึ้นมา ไม่รู้มีของอะไรที่ตกหล่นไปบ้าง ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะสนใจ

             เมื่ออาวุธครบมือเขาก็กวาดหอก (ท่อแป๊บ) เป็นวงกว้างเพื่อกันไม่ให้มีก๊อบลินที่ไหนเข้ามาใกล้ได้ในระยะสองเมตร

             “มีทางหนีทีไล่ไหม?”

             “มี มอเตอร์ไซค์ฉันจอดอยู่ตรงนั้น”

             เจ้าหน้าที่สาวเอ่ยตอบ พลางเพยิดหน้าไปทางยานพาหนะคู่ใจ มือเท้าก็ต่อสู้กับฝูงแรคคูน เธอเสียกระสุนไปมากแต่กลับฆ่ามันไม่ได้สักตัวจนรู้สึกว่าน่าโมโหอะไรอย่างนี้นะ

             “โอเค งั้นไปที่มอเตอร์ไซค์ ไป วิ่ง!”

             ชายหนุ่มให้สัญญาณแล้วทั้งสองก็ออกวิ่งไปพร้อมกัน เมื่อแหวกทางได้แล้วทั้งคู่ก็กระโดดขึ้นค่อมมอเตอร์ไซค์เตรียมสตาร์ท ทว่ามีก๊อบลินตัวหนึ่งบ้าเลือดกระโดดสูงขึ้นมา เงื้อกระบองสุดแขนเพื่อกระหน่ำทุบตี

             ฉึก!

             ปลายหอกจิ้มทะลุร่างของอสุรกายจิ๋ว จากนั้นมันก็สายกลายเป็นฝุ่นผง ในจังหวะเดียวกันมอเตอร์ไซค์ตำรวจก็สตาร์ทติด

             “ห๊ะ! เมื่อกี้นายทำได้ไงน่ะ แล้วแรคคูนตัวเมื่อกี้ไปไหนแล้ว?” ภาพที่มนุษย์มองเห็นคงไม่แคล้วว่าเธอเห็นดีนใช้ท่อแป๊บจิ้มพุงแรคคูนเป็นแน่แท้

             “อธิบายยาก ช่างมันเถอะ... คุณช่วยพาผมไปส่งที่สนามกีฬาที”

             “สนามกีฬา? นายจะไปทำไม ต้องไปที่ศูนย์บัญชาการสิ”

             สนามกีฬาที่ว่าอยู่ใกล้กับโซนสีแดงเข้มสุด ขนาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ยังขยาดที่จะเข้าไป

             “ไม่ ๆ ผมจะไปที่สนามกีฬา ได้โปรดเถอะ คุณพาผมไปส่งที”

             “ไม่ได้ นายจะฝ่าฝืนการจับกุมอย่างนั้นเหรอ?!”

             เถียงกันไปกันมาจนหาข้อสรุปไม่ได้จนดีนรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องใช้ไม้แข็งที่ไม่อยากทำ เขาล้วงมือเข้าไปหยิบอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ตรงต้นขาของอีกฝ่ายออกมาแล้วจ่อไปที่หลังของหญิงสาว

             “ผมบอกให้ไปสนามกีฬาไง!” ดีนขู่บังคับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม

             “อึก…” ได้ยินเสียงเธอคนนั้นสบถออกมาเบา ๆ คงไม่คิดว่าตัวเองจะพลาดท่าได้ขนาดนี้ทั้งที่ตัวหล่อนเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ราวกับว่าเทพีแห่งปัญญาทรงกลั่นแกล้งให้นางปัญญาทึบไปชั่วขณะ “สนามกีฬาก็สนามกีฬา”

             มอเตอร์ไซค์เลี้ยวไปยังอีกเส้นทางซึ่งดีนไม่รู้เลยว่าเธอจะพาเขาไปยังที่หมายหรือจะขับขี่ไปยังศูนย์บัญชาการ ที่แน่ ๆ ตอนนี้มือของเขาสั่นไปหมด ภารกิจที่เฮตินี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ เริ่มแรกจากการเป็นโจรขโมยจักรยาน ต่อมาก็จี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าจะจบเหตุการณ์นี้ตัวเขาเองจะไปลงเอยที่ตรงไหนกันนะ จะได้เป็นอาชญากรมีค่าหัวหรือเปล่า?

             “เข้าเขตตัวเมืองแล้วระวังด้วยล่ะ แถวนี้มันอันตรายมาก” หญิงสาวกล่าวเตือนเพียงเท่านั้น และจากนี้เขาต้องระวังภัยเอาเอง
      
-----------------------------
โรลได้ 6 ครั้งต่อไป VS ก๊อปลิน Lv.17

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2024-3-29 15:37
โพสต์ 23056 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-3-29 14:37
โพสต์ 23,056 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-29 14:37
โพสต์ 23,056 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-29 14:37
โพสต์ 23,056 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-29 14:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-29 21:01:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-29 21:05

061
ผมไม่ใช่สายลับจริง ๆ นะ

             เมื่อเลี้ยวเข้าซอยหนึ่งเจ้าหน้าที่สาวผมบลอนด์ก็จอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วดับเครื่อง เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะเพราะมีปืนจ่อหลังอยู่…

             “จากนี้จะต้องเดินเท้าเข้าไปแทน ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์จะเป็นจุดสนใจมากเกินไป” เธอกล่าวเสียงเข้มด้วยความรู้สึกระแวงภัยเป็นพิเศษ หนึ่งในนั้นก็คือชายหนุ่มซ้อนท้ายเธออยู่นั่นเอง

             “โอเค”

             เข้าใจเหตุผลได้.. จากนี้ไปน่าจะต้องทำภารกิจรอบเร้นที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลยเวลาเล่นเกม พอมาถึงช่วงนั้นทีไรดีนก็มักจะทำสเตลท์แตกทุกที แต่ก่อนจะไปทำอะไรต่อเขาน่าจะต้องเคลียร์กับเจ้าหน้าที่คนนี้ก่อน เพราะว่าเขาไม่อยากจะทำแบบนี้กับเธอต่อไปเลย

             “คือว่าเดี๋ยวผมจะคืนปืนให้คุณ แค่ว่าคุณห้ามยิงผมนะ”

             เขาบอกก่อนที่เธอจะทันได้ทำอะไร เพราะดูท่าทางแล้วอีกไม่กี่วินาทีหญิงสาวต้องหันกลับมาใช้ศิลปะป้องกันตัวแย่งปืนออกมาจากมือของดีน และจากนั้นเธออาจจะยิงเขาทิ้ง ในสหรัฐฯ แค่ทำท่าทางมีพิรุธระหว่างถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิ์ที่จะยิงได้แม้ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักการป้องกันตัว ซึ่งการกระทำของดีนในตอนนี้สุ่มเสี่ยงอาการหัวเป็นรูอย่างมาก ไม่สิ.. หล่อนมีแอสซอลท์สะพายอยู่ด้านหน้า เขาน่าจะไม่ได้มีรูแค่หัวแต่ว่าพรุนไปทั้งตัวต่างหาก

             ชายหนุ่มเดินถอยหลังออกมาสองสามเก้าก่อนจะวางปืนพกลงกับพื้น จากนั้นก็สไลด์มันไปที่เท้าของหญิงสาว การกระทำดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้เธออยู่ไม่น้อย แต่เจ้าหน้าที่ยังคงระมัดระวังและไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่แปลกประหลาดผู้นี้ เธอเก็บปืนขึ้นมาแล้วใช้มันจ่อไปที่อีกฝ่ายเป็นการขู่ คราวนี้ดีนเป็นฝ่ายที่ต้องยกมือขึ้นสองข้างแทน แต่คราวนี้เขาไม่ยอมทิ้งหอกและโล่ไปอีกหรอก

             “การกระทำของนายบ้าบิ่นเหลือเกินนะ”

             “ก็บอกแล้วว่าผมต้องรีบไปหาแม่น่ะ คุณไม่ยอมทำตามที่ผมขอเอง”

             ดีนเม้มปาก ไม่รู้จะแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไรอีกแล้ว เพราะเธอก็น่าจะยิงเขาทิ้งได้ทุกเมื่อ ไม่รู้เสียด้วยว่าเกราะสัมฤทธิ์มันจะกันลูกตะกั่วได้หรือไม่ แต่จะว่าไปอีกฝ่ายลักษณะดูคุ้นมาก คล้ายคำบอกเล่าที่เดม่อนเคยบอก หญิงสาวผมบลอนด์ หน้าตาดุดัน เจ้าหน้าที่จากเอ็นเอสเอ เท่าที่สังเกตชุดที่เธอสวมใส่ไม่น่าใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจธรรมดาแต่เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ

             “คุณ.. ใช่เคย์น่าไหม?” ดีนลองเดาสุ่มเผื่อว่าใช่ ไหน ๆ ถ้าโลกจะกลมเหวี่ยงเขาและเพื่อนให้มาเจอกันในค่ายฮาล์ฟบลัดได้ มันก็ต้องมีเรื่องบังเอิญอื่น ๆ เกิดขึ้นด้วยสิ ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้เทพเจ้าก็อ่อนเกินไปแล้ว ...นั่น ไปท้าทายเขาอีก

             “หืม ทำไมถึงรู้จักชื่อนี้?” เธอกล่าว ในสายตามีความแคลงใจ “ใช่ฉันเคย์น่า ทำไมถึง?”

             “เอางี้นะ เรื่องของผมมันอธิบายยากมาก แต่ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยเจอเด็กผู้ชายอายุสิบห้าชื่อเดม่อนมาใช่ไหม? นั่นแหล่ะ ผมเป็นเพื่อนกับเขา ส่วนเรื่องมาหาแม่ก็คือมาหาจริง ๆ ถ้าไม่เชื่อ.. ถ้าไม่เชื่อก็เช็คดูได้เลย ที่กระเป๋าด้านในแจ็คเก็ตมีโทรศัพท์มือถือของผมอยู่ ถ้าดูแชทชื่อ ‘แม่’ จะมีเขียนบอกสิ่งที่เราคุยกัน”

             แม้เคย์น่าจะแคลงใจไม่น้อย แต่เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ “ยกสองมือขึ้นแล้วหันหน้าเข้ากำแพง อย่าพยายามตุกติกเล่นตัว ไม่งั้นฉันยิงนายแน่” เธอสั่ง

             “โอเค ไม่ตุกติกติกไม่เล่นตัวอยู่แล้ว ให้ตายสิ!”

             ดีนบ่นพึมพำก่อนจะยอมทำตามแต่โดยดี เคย์น่าไม่เพียงแค่หยิบมือถือเขาออกมาแต่เธอยังค้นตัวเขาโดยละเอียดอีกรอบ ไม่พบวัตถุต้องสงสัยใด ๆ เว้นแต่การแต่งกายของอีกคนและเครื่องมือซ่อมท่อที่ดูน่าสงสัยเอาเสียมาก ๆ หลังจากที่เคย์น่าให้ดีนปลดล็อคสมาร์ทโฟนด้วยเสียงแล้วเธอก็ไล่หาแชทดังกล่าวโดยปราศจากการต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ได้ยากเย็นนักเลยที่จะหาแชทว่าแม่ท่ามกลางรายชื่อมากมายในช่องแชทเหล่านั้น

             “จบจากบอสตันแม่ก็ไปเฮติต่อเลย.. ที่นั่นเกิดเหตุจลาจล มีสาว ๆ และผู้บาดเจ็บคนอื่นต้องการความช่วยเหลือ… งานนี้ทางองค์กรประสานงานกับสภากาชาดสหรัฐ หาอาสาสมัครช่วยบรรเทาทุกข์ แม่ก็ว่าจะไปจ้ะ แต่ดีนไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีเจ้าหน้าที่จากยูเอ็นคอยซัพพอร์ต… อันนี้น่ะเหรอ?”

             เคย์น่าอ่านแชทสุดท้ายที่ดีนส่งคุยกับแม่คิ้วก็พลันขมวดมุ่นเข้าหากันเป็นโบว์ แม้จะถือวิสาสะไปสักหน่อยแต่เธอไล่สายตาอ่านข้อความอื่นไว ๆ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ที่ไร้พิษภัยธรรมดา ๆ หรือไม่อีกนัย เขาอาจจะเป็นสายลับจากรัสเซียไม่ก็อิสราเอลที่มีเครื่องมือทันสมัยไฮเท็คในรูปลักษณ์ที่ดูธรรมด๊าธรรมดา แต่สายลับที่ดีควรต้องทำตัวกลมกลืนไปกับประชาชนสิ ไม่ใช่แต่งกายเป็นช่างประปาโดดเด้งเสียขนาดนี้

             เมื่อตรวจสอบข้อความเสร็จเรียบร้อยหญิงสาวก็ยัดสมาร์ทโฟนกลับคืนที่กระเป๋าแจ็คเก็ตตัวเดิม

             “หันหน้ากลับมา” เธอสั่ง ซึ่งดีนก็ทำตาม

             “คุณเชื่อผมแล้วใช่ไหม?”

             “เชื่อประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์”

             “อะไรนะแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์!? ทำไมน้อยจัง ผมทำตัวน่าสงสัยตรงไหนเนี่ย!?”

             เคย์น่ากลอกตาเมื่อชายหนุ่มคนนี้เถียงกลับทันควัน พนันได้เลยว่าคนปากรั่วแบบนี้ไม่มีทางเป็นสายลับได้แน่ หากได้เป็นจริงองค์กรคงพินาศไปแล้ว งานนี้เธอคงได้แต่ทำทีเป็นหลับหูหลับตาข้างนึงแล้วเออออไปก่อน

             กุกกัก ๆ

             สุ้มเสียงที่อยู่ในซอยดึงดูดความสนใจของทั้งคู่ให้หันไปมอง ด้วยสัญชาตญาณหญิงสาวหันปืนไปทางต้นเสียงทันทีเพราะอาจมีพิษภัยกว่าหนุ่มหน้าละตินจอมพูดมากคนนี้ก็เป็นได้ แววตาคู่หนึ่งเปล่งประกายในความมืดแล้วเมื่อมันเดินออกมาดีนก็เห็นว่าเป็นก๊อบลินตัวเขียวอีกแล้ว

             “แกอีกแล้วเหรอเนี่ย?”

             “แรคคูนอีกแล้วเหรอเนี่ย?”

             ทั้งคู่พูดออกมาแทบจะพร้อม ๆ กัน ซึ่งมนุษย์ปุถุชนอย่างเคย์น่ามองเห็นเป็นสัตว์ชนิดเดิม.. ก็ง่ายดี



             เพียงแค่ก๊อบลินสูดกลิ่นอายเดมี่ก็อดอย่างดีนมันก็คุ้มคลั่งแล้ววิ่งเข้ามาหาทันที เคียน่าทำท่าจะยิงแต่ดีนเข้ามาขวางไว้ เขาตวัดหอกทีเดียวตัวของมันก็ขาดเป็นสองท่อนแล้วสลายไปเป็นเถ้าธุลี แต่เคียน่าคงเห็นว่าดีนเอาท่อแป๊บฟาดแรคคูนกระเด็นไปอีกนั่นแหล่ะ

             “ใช้ปืนไม่ได้หรอกครับ ถ้าจะกำจัดเจ้าพวกนั้นต้องใช้นี่โดยเฉพาะ”

             “โอ้.. ก็เจ๋งดีนี่ อาวุธกำจัดแรคคูน”

             แม้แต่เจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอยังต้องประหลาดใจ แอสซอลท์ไรเฟิลไม่สามารถใช้ยิงเจ้าหน้าขนพวกนั้นได้ แต่กลับแพ้ท่อแป๊บงั้นเหรอ ประหลาดเสียจริงเชียว…

             “เคย์น่า คือผมมีเรื่องที่อยากจะให้คุณช่วยอีก คือผมต้องไปหาคุณแม่จริง ๆ นะ แต่ว่าผมไม่รู้ทางในเมืองนี้แล้วมันก็อันตรายมากเลยใช่ไหม ขอร้องล่ะ ช่วยนำทางผมไปทีครับ”

             ดีนเว้าวอน พยายามแสดงความจริงใจอย่างถึงที่สุด ซึ่งถ้าใครไม่แพ้สายตาของหนุ่มตาสวยคนนี้ล่ะก็นับว่าใจแข็งพอตัว ซึ่งเคย์น่าเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งคนที่แพ้มัน

             “โอเค ๆ ฉันช่วยนายก็ได้ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจของฉันพอดี”

             ความจริงภารกิจช่วยเหลือกลุ่มสภากาชาดให้ออกมาจากสนามกีฬาไม่ใช่ภารกิจเร่งด่วนพิเศษ เพราะที่นั่นมีเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นเอฟซีปฏิบัติภารกิจอยู่มากมาย แม้จะอยู่ท่ามกลางวงล้อมแต่ก็ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง

             “ถ้างั้นก็รีบไป ไม่รู้จะมีแรคคูนโผล่มาอีกไหม ตามฉันมา”

             “ขอบคุณครับ เคย์น่า”

             ได้ยินแบบนี้ดีนก็โล่งอกไปหนึ่งเปราะเพราะอย่างน้อยเธอก็ยอมให้ความช่วยเหลือและไม่ยิงเขาทิ้งกลางซอย ดีนจึงตามเธอไปต้อย ๆ ไม่กลายเป็นฮัสกี้ที่ดื้อซน บอกให้หลบตรงไหนก็หลบ บอกให้วิ่งตรงไหนก็วิ่ง จนเริ่มจะเห็นเค้าโครงของอาคารสนามกีฬาอยู่ไกลลิบตา แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินไป



-----------------------------
โรลได้ 5 ครั้งต่อไป VS บริวารแห่งเฮคาที แม่มดดำ (Level 25)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +5 ความกล้า --10 ความศรัทธา โพสต์ 2024-3-29 21:22
God
+2 ตื่นรู้จากการพิชิตแม่มดดำครั้งแรก  โพสต์ 2024-3-29 21:09
โพสต์ 24215 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-3-29 21:01
โพสต์ 24,215 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-29 21:01
โพสต์ 24,215 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-29 21:01

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-30 10:53:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-30 13:41

062
มนตร์มายาหลอน

             ปัง! ปัง! ปัง!

             ยิ่งเข้ามาในตัวเมืองสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายกว่าในภาพข่าวเสียอีก ไม่ว่าพวกเขาจะหลบลี้ไปทางไหนก็ได้ยินเสียงปืนดังไปทั่วทุกสารทิศจนไม่รู้จะระวังตัวอย่างไร เคย์น่าบอกว่าถ้าจะให้ปลอดภัยต้องขึ้นที่สูง พวกเขาจึงต้องปีนหลังคาบ้านหลากสีค่อย ๆ เดินไปบนกระเบืองผุพัง ทั้งต้องระวังไม่ให้พวกหัวรุนแรงพบเห็นและระมัดระวังทางเดินใต้ฝ่าเท้า ยังดีที่ดีนพอจะเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมเป็นบางครั้งบางคราว แม้จะไม่บ่อยหรือไม่เก่ง แต่ว่าเขาก็พอจะปีนป่ายไปตามหลังคาบ้านของผู้คนได้โดยไม่เทอะทะจนเกินไป

             คิดดูแล้วก็เหมือนฉากเกมเพลย์ในเดอะลาสออฟอัส แต่ถ้าจะให้ 'เป็นสุดท้ายของสองเรา' จริง ๆ ก็ขอเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่กับเจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอได้ไหมล่ะ?

             ดีนลอบมองภาพเบื้องล่าง รถยนต์ถูกจุดไฟเผาหลายแห่ง ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาทำไปเพื่ออะไร จนมาย้อนคิดถึงมูลเหตุของภารกิจหลักที่ได้รับมา ประชาชนถูกคำสาปทำให้จิตใจตกอยู่ในความมืดดำ หากเป็นเวทมนตร์ของเทพฝั่งร้ายก็คงไม่ต้องถามถึงเหตุผลของคนเหล่านั้นอีกแล้ว

             “ทำไมพวกนั้นมีกระสุนปืนเยอะกันจัง?”

             เป็นอีกหนึ่งคำถามที่คลางแคลงใจดีนมาโดยตลอด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาน่าจะเกือบเดือนได้แล้ว การสู้รบกับทหารคงไม่แปลก แต่ว่าจะสู้กันตลอดเวลาแบบนี้เลยเหรอ หรือว่าเขาแค่เข้าเมืองมาในจังหวะไม่ดี?

             “ประเทศโลกที่สามแบบนี้บางทีก็มีใต้ดินหนุนหลัง พ่อค้าตลาดมืด แล้วไม่กี่วันก่อนคลังอาวุธแห่งหนึ่งของทางการถูกบุกปล้นไป”

             “โอ้ตายล่ะ… นั่นมันแย่สุด ๆ”

             ได้ยินที่เคย์น่าเล่าให้ฟังเขาก็หน้าถอดสี ถ้าพูดว่าคลังอาวุธถูกปล้นไปจะต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน่ ๆ ฝั่งคนร้ายอาจจะไม่ได้มีแค่ปืนแต่รวมถึงอาวุธอย่างอื่นเช่นระเบิดอีกด้วย

             ‘แล้วลูกเทพตัวเล็ก ๆ อย่างฉันจะเอาอะไรไปสู้..’

             แว้บหนึ่งในใจคิดเช่นนั้น แต่มาคิดอีกทีเขาไม่จำเป็นจะต้องต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายนี่นา เรื่องจับคนร้ายก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของมืออาชีพหรือว่าทางการไป เขาก็แค่มาหาแม่ กับเนียน ๆ ช่วยคนอื่นนิดหน่อยจากนั้นก็เสร็จสิ้นภารกิจ กลับไปค่ายฮาล์ฟบลัดแล้วรอปาร์ตี้ที่เจโรมเป็นเจ้าภาพ

             แต่เรื่องราวทั้งหมดมันจะง่ายแบบนั้นจริง ๆ น่ะเหรอ?

             “กระเบื้องแถวนี้ไม่ค่อยแข็งแรง เวลาเดินก็ระวังด้วย”

             “โอเคครับ”

             ดีนพยักหน้าหงึกหงักรับคำเตือนจากหญิงสาว ชายหนุ่มพยายามหามุมส่วนที่กระเบื้องซ้อนกันแข็งแรงที่สุด แล้วค่อย ๆ ทิ้งน้ำหนักลงไป…

             โครม!!!

             ขนาดว่าระวังแล้วยังไม่แคล้วร่วงลงไปด้านล่าง วันนี้คงเป็นวันซวยของเขาจริง ๆ แหล่ะ ตั้งแต่ที่ต้องขโมยจักรยานแล้ว ดีนตกลงมาก้นจ้ำเบ้าทำเอาปวดร้าวไปหมด แต่ถือว่ายังพอมีโชคที่เขาไม่ถูกเศษกระเบื้องบาดเอา ทว่าเมื่อเปิดตามองชายหนุ่มก็หลุดอุทาน

             “โอ๊ะโอ…”

             “คุณนีล เป็นอะไรไหม!?”

             เมื่อเคย์น่าชะโงกหน้าลงมาดูเธอก็จะเห็นได้ว่าดีนกำลังอึ้งอยู่กับอะไร..

             ชายหนุ่มตกลงมาในบ้านคนผิวดำที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านโดยออกไปไหนไม่ได้ พวกเขามีท่าทีตกใจกันอย่างมากที่จู่ ๆ ก็มีคนร่วงลงมาจากหลังคา ดีนเห็นแม่ลูกผิวดำกอดกันร้องไห้เหมือนว่าวาระสุดท้ายของชีวิตได้มาเยือน ส่วนคนเป็นพ่อหยิบเอากระทะขึ้นมาไล่ฟาดคนที่ร่วงลงมาเพื่อปกป้องครอบครัว

             “เฮ้ย! ใจเย็น ๆ ก่อน!!”

             ดีนยกโล่สัมฤทธิ์ (กระเป๋าเครื่องมือช่าง) ขึ้นมากันเอาไว้ แต่คนเป็นพ่อหลับหูหลับตาหวดเขาไม่ยั้ง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีเคย์น่าจึงกระโดดลงรูตามมา เธอพูดภาษาฝรั่งเศสใส่ครอบครัวชาวผิวดำ จากนั้นทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสงบลง ทางฝั่งดีนได้แต่มองหญิงสาวคุยกับคนกลุ่มนั้นด้วยภาษาที่เขาฟังไม่ออก

             “นี่ ๆ คุยอะไรกันเหรอ?” ดีนแอบเข้าไปกระซิบถามล่ามแปลภาษาจำเป็น

             “ครอบครัวนี้ขังตัวเองอยู่ในบ้านมาเกือบอาทิตย์แล้ว ก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ทำให้พวกเขาออกมากันไม่ได้ ปัญหาแรกคือตอนนี้เสบียงอาหารของพวกเขาหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน”

             “อ๋อเข้าใจแล้ว ถ้าเสบียงอาหารฉันมีเอ็มอาร์อี ให้พวกเขากินกันก่อนก็ได้” ดีนเปิดกระเป๋าจากนั้นก็ยัดอาหารฉุกเฉินรสสตูวไก่สไตล์เม็กซิกันใส่มือของเคย์น่า เห็นว่าหนึ่งถุงสามารถทานได้สามมื้ออยู่ หากว่าให้ครอบครัวนี้ทานก็น่าจะพออิ่มท้องไปได้นิดนึง “แต่ที่บอกว่าปัญหาแรก.. แปลว่ามีปัญหาอื่นอีกเหรอ?”

             “ใช่” หญิงสาวพยักหน้า “อีกปัญหานึงคือมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในบ้านด้วย ฉันพอจะติดต่อไปที่ศูนย์บัญชาการให้เข้ามาช่วยเหลือได้ แต่อาจตกเป็นเป้าสายตามาเกินไป”

             “โอ้.. แย่จัง”

             รับฟังปัญหาแล้วก็คิดไม่ตกว่าจะช่วยอย่างไรดี หากเป็นเขาเองต้องไม่ยอมละทิ้งครอบครัวที่เจ็บป่วยเป็นแน่ แต่ด้วยความที่เกินมือบัณฑิตหนุ่มจบใหม่หมาด ๆ เขาให้ผู้เชี่ยวชาญกว่าเป็นคนจัดการ หลังเคย์น่าทำอาหารฉุกเฉินให้ครอบครัวชาวปอร์โตแปงซ์ทานเธอก็หลบไปวิทยุแจ้งศูนย์ให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไร แต่คืนนี้พวกเขาตัดสินใจกันว่าจะอยู่อารักขาชาวเมืองไปก่อนส่วนเรื่องเคลื่อนย้ายพลค่อยว่ากันอีกที

             .
             .
             .

             ตกดึกคืนนั้น…

             ระหว่างที่หลับดีนรู้สึกถึงปลายนิ้วมือของใครบางคนลูบไล่อยู่ที่ข้างแก้ม ไม่ได้อบอุ่นทว่าเย็นยะเยือกจนเขาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าของหญิงสาวผู้มีใบหน้าคมคายและดวงตาเปี่ยมเสน่ห์ราวกับมีเวทมนตร์ เธออยู่ในชุดคลุมสีดำที่ดูลึกลับแต่ก็น่าค้นหา


             “บุตรของโพไซดอนเป็นชายรูปงามใช้ได้ น่าเสียดายจริง  ๆ” ปลายนิ้วนั้นไล้จากแก้มมาจนถึงปลายคางก่อนจะเชยหน้าของเขาขึ้น “เสียแรงที่อุตส่าห์เอ็นดู… เจ้าควรจะเป็นคนของฝั่งข้าสิ ทำไมถึงรับภารกิจนี้?”

             สตรีผู้นั้นเดินสะบัดตัวหันหลังเขาเห็นเพียงแค่ชายกระโปรงพริ้วไหว จากคำพูดดังกล่าวปล่อยให้คนเพิ่งตื่นนอนทำหน้าเหรอหรางงเป็นไก่ตาแตก ดีนหันมองไปรอบ ๆ ที่นี่ไม่ใช่ภายในบ้านของครอบครัวผู้ประสบภัยรายนั้น แต่กลับเป็นห้องร้างที่เต็มไปด้วยกระจกและหยากไย่เกาะอยู่บนเครื่องเรือนโบราณเต็มไปหมด แล้วทำไม.. ก่อนนอนเขาถอดคอนแทกเลนส์ออกแล้วนี่นา ภาพที่เห็นมันควรจะขุ่นมัวสิ

             “เดี๋ยว! คุณหมายถึงอะไร ทำไมรู้ว่าผมเป็นใคร!?”

             ดีนรู้สึกไม่ดีเลยกับกลิ่นอายลึกลับที่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย แล้วคนที่รู้ว่าเขาเป็นบุตรของโพไซดอนย่อมต้องไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่แท้ ดูแล้วเธอไม่ใช่เดมี่ก็อดแต่เป็นสิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่านั้น

             “อย่าบอกนะว่าคุณคือ?...”

             “....” สตรีลึกลับไม่ตอบกลับ นางเพียงแค่ปรายตามองมาทางเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นสิ่งที่ดูคล้ายกับประตูมิติก็แหวกออกมาเบื้องหน้าของหญิงสาว “หากข้าลงมือด้วยตนเอง ถ้าเขารู้จะต้องเสียใจมากแน่ ๆ…”

             แล้วทันใดนั้นเงาดำก็ก่อตัวขึ้นเป็นโครงร่างของหญิงชราหน้าตาน่ากลัว ชุดที่นางสวมใส่เป็นสีดำทั้งตัว ไม่ต่างอะไรเลยกับแม่มดในเกมอาร์พีจี

             “เช่นนั้นก็ฝากเจ้าจัดการแทนด้วยแล้วกัน”

             “รับทราบเจ้าค่ะ นายหญิงของข้า” แม่มดดำโค้งให้ผู้หญิงคนนั้นที่เดินทะลุประตูมิติไป “อยู่ดีไม่ว่าดีจริง ๆ เจ้าหนูบุตรแห่งโพไซดอน”

             แม่มดดำโบกไม้เท้าในมือ ฉับพลันโซ่จากอนธการก็ได้มัดตรึงร่างของดีนเอาไว้ให้อยู่กับที่

             “เฮ้! ปล่อยฉันนะโว้ยยย อึก!!”

             ชายหนุ่มดิ้นขลุกขลักไปมา แต่ยิ่งดิ้นเท่าไรห่วงโซ่ก็ยิ่งรัดแน่น โดยเฉพาะโซ่ที่รัดตรงคอ มันทำให้เขาหายใจไม่ออกจนได้แต่ไอโขกออกมา ใบหน้าที่ถูกรัดขึ้นเป็นสีแดงจัด

             ‘หายใจไม่ออก! ตายแน่! งานนี้ตายแน่ ๆ!!’

             ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็แน่นิ่งไป..

             “โอ้ ตายจริง บุตรชายเจ้าสมุทรตายง่ายกว่าที่คิด”

             ยายแก่หัวเราะเสียงแหลม นางสะบัดคทาจากนั้นโซ่ที่รัดตรึงดีนไว้ก็สลายไปในความมืด ร่างที่แน่นิ่งของชายหนุ่มตกลงกระแทกพื้น แม่มดดำเข้ามาไกล ๆ แล้วใช้เท้าเขี่ยร่างที่นิ่งสนิท ในใจนางคิดแผนร้าย หากเจ้าสมุทรทราบข่าวคงไม่แคล้วพิโรธแล้วส่งคลื่นยักษ์มาถล่มประเทศเกาะแห่งนี้ เรียกว่าได้กำไรสองต่อ ทั้งกำจัดกลุ่มผู้ดูหมิ่นนายหญิงโดยไม่ต้องลงมือลงไม้ด้วยตัวเอง

             ระหว่างที่นางแม่มดกำลังย่ามใจ ปลายหอกสีทองแดงได้ก็ได้พุ่งเสียบทะลุร่างนั้นจนสลายกลายเป็นผง ทว่าเสียงหัวเราะสะใจนั้นยังคงไม่หายไปจากโสต เงาของแม่มดดำโผล่อยู่ในกระจกทุกบานที่อยู่ในห้อง

             ดีนใช้หอกค้ำยันกายขึ้นหอบหายใจแฮ่ก เมื่อกี้เขาลองแกล้งตาย ไม่คิดว่ายัยแก่นี่จะประมาทปล่อยเขาจริง แต่ตอนนี้เขาพอจะมีบทเรียนกับเวทมนตร์ดังกล่าวแล้วจึงสะบัดหอกตัดโซ่แห่งความมืดที่จะมาผูกมัดตัวเขาอีกครั้ง

             เคร้ง!

             ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหอกในมือมีดีกว่าที่คิด มันสลายเวทโซ่ตรวนได้ เป็นของดีที่เหมือนกับได้คลิปโตไนท์อยู่ในมือ แต่ถึงจะรู้ตัวว่าต้องรับมืออย่างไรดีนก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะหนีออกไปได้อย่างไร และที่นี่คือที่ไหน ยิ่งออกแรงฟาดฟันสายโซ่มากเท่าไรเขาก็ยิ่งเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น

             “บ้าเอ๊ย! ทำไงวะ!!”

             ตั้งรับอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็ลองทำลายกระจกที่แม่มดสิงสู่

             เพล้ง!

             กระจกบานหนึ่งถูกหอกสัมฤทธิ์แทงเข้าไป แต่มันก็แค่แตกออกแต่เสียงแม่มดที่หัวเราะหลอนประสาทเขายังคงอยู่ แม้อาจจะเหนื่อยฟรีหรือเป็นวิธีโง่ ๆ แต่ดีนก็ทุบทำลายกระจกในห้องทิ้งไปทุกบาน

             “คิดว่าจะจัดการข้าได้ง่าย ๆ รึ?”

             สิ้นเสียงพูด บานกระจกนับสิบก็โผล่ขึ้นมาทั่วผนังห้อง ทำให้ดีนรู้ว่าสิ่งทั้งหมดที่เขากระทำช่างเปล่าประโยชน์สิ้นดี

             “บ้าเอ๊ย! ต้องกำจัดยังไงล่ะเนี่ย!?”

             ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เขาอยากออกไปจากที่นี่ เขาไม่อยากตาย เขาอยากเจอแม่ เพราะงั้นเลยต้องสู้สุดชีวิต เอาวะ มีมาเพิ่มสิบก็ทุบให้แตกอีกสิบ หรือต่อให้มีเป็นร้อยเขาก็จะทำลายให้หมด

             『ใจเย็นก่อนเอลวิน』คล้ายได้ยินเสียงของบิดาในหัวทำให้หนุ่มผู้จิตแตกชะงักฟัง 『การกำจัดผู้ใช้มนตร์ดำจะใช้วิธีการทั่วไปไม่ได้ ตั้งสมาธิ สงบจิต แล้วลูกจะรู้ว่าศัตรูอยู่ที่ไหน』

             “พ่อ นั่นพ่อเหรอ!?”

             เขาตะโกนถามแต่ไร้เสียงของบิดาตอบกลับ ตั้งสมาธิ สงบจิต แล้วจะรู้วิธีการกำจัดศัตรูได้ยังไง ไม่รู้สิ เขาลองทำตามดูก็ได้ ยังไงก็คงไม่มีอะไรที่สิ้นหวังไปมากกว่านี้อีกแล้ว

             ดีนค้ำหอกไว้กับพื้น จากนั้นเขาก็หลับตาลง พยายามทำใจเย็นดุจกระแสน้ำ พลางฟังเสียงการโจมตีที่พุ่งมาจากทั่วทุกสารทิศ ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบโดยไม่ต้องเบิกตามอง ราวกับมีคลื่นเสียงบางอย่างที่แม่นยำกว่าดวงตาเห็น

             วิ้ง
            
             มีสุ้มเสียงบางอย่างคอยนำทาง ดีนรู้สึกได้เองว่าเขาควรจะตามเสียงนั้นไป ชายหนุ่มจึงออกกระโจนตัวไปข้างหน้า ตามเสียงวิ้งนั้นไปเรื่อย ๆ จนมันใกล้เข้ามาทุกที เมื่อลืมตาตื่นชายหนุ่มก็พบว่าทุกอย่างกลับตาลปัตร เขากำลังวิ่งอยู่บนเพดานห้องและเบื้องหน้าก็มีร่างของแม่มดที่ไม่ได้อยู่ในกระจก

             “โกหกน่า แกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!!?!!”

             แม่มดดำกำลังร่ายเวทบางอย่างทว่าไม่ทันการ คมหอกของดีนพุ่งเฉือนทะลุร่างของหญิงชราจนร่างกายของนางแตกสลายกลายเป็นเถ้า แล้วทุกอย่างภายในห้องก็พังทลาย ตัวของเขาตกลงไปในก้นบึ้งไร้หุบเหว

             .
             .
             .

             “เฮือก!!”

             ชายหนุ่มสะดุ้งตื่น เหงื่อกาฬแตกพลั่ก เขามองไปทางหน้าต่างเห็นแสงสว่างรำไรลอดช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ที่ถูกตอกกั้นหน้าต่างเอาไว้

             ‘เช้าแล้วเหรอ.. เมื่อกี้ฉันฝันไป?’

             ภาพที่เห็นพร่าเลือนเหมือนปกติยามตื่นนอนทุกเช้า ดีนคลำหากล่องแว่นในกระเป๋าแล้วหยิบแว่นสายตาขึ้นมาสวมใส่ เขาผงกศีรษะให้เคย์น่าที่อยู่เฝ้ายามมาทั้งคืนก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย แต่เมื่อส่องกระจกชายหนุ่มก็ต้องเบิกตาโพลงเพราะเขาเห็นรอยโซ่ที่รัดอยู่รอบคอ

             ‘ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือเรื่องจริง!?!!’

แบ่งปันอาหารฉุกเฉินให้ชาวเมือง
-----------------------------------------

-----------------------------------------
โรลได้ 4 ครั้งต่อไป VS ก๊อปลิน Lv.17


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +5 เกียรติยศ +15 ความกล้า --15 ความศรัทธา โพสต์ 2024-3-30 11:52
โพสต์ 38774 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-3-30 10:53
โพสต์ 38,774 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-30 10:53
โพสต์ 38,774 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-30 10:53
โพสต์ 38,774 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-30 10:53
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-30 13:00:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
063
เคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย

             ในตอนเช้า เคย์น่าเรียกครอบครัวผู้ประสบภัยมาประชุมเร่งด่วนถึงแผนการช่วยเหลือ ดีนที่ฟังภาษาฝรั่งเศสไม่เข้าใจจึงรอให้หญิงสาวสรุปผลแล้วมาบอกเขาอีกทีนึง หลังจากแจ้งครอบครัวนี้เสร็จทุกคนก็เก็บข้าวของกันอย่างเริ่งด่วนเพื่อเตรียมตัวละทิ้งถิ่นฐาน คุณปู่ที่ป่วยติดเตียงถูกปะคองออกมาจากห้องอีกห้องหนึ่งมาอยู่รวมกัน

             “การเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยต้องเป็นไปอย่างเร่งด่วน ช่วงสายจะมีเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยมารับ จากพื้นที่ตรงนี้ช๊อปเปอร์ลงจอดไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องโหนสลิงเพื่อขึ้นไป เพราะฉะนั้นพวกเราจะตกเป็นเป้านิ่งในการโจมตีกระทันหัน ทางภาคพื้นดินจะมีเจ้าหน้าที่มือดีอารักขา แต่ก็นั่นแหล่ะ ลูกปืนมันยิงขึ้นมาบนฟ้าได้…  ฉันจะไม่ไปกับฮอ แต่แนะนำให้พลเมืองอย่างคุณไปที่ปลอดภัยกับทีมช่วยเหลือก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องตามหาแม่เอาไว้ค่อยไปทีหลัง”

             เคย์น่าอธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดซึ่งทำเอาคนฟังเครียดตาม มันน่าจะเครียดอยู่แล้วแหล่ะ เพราะว่าพวกเขาช้าไม่ได้ พลาดก็ไม่ได้ แต่ผู้ประสบภัยครอบครัวนี้มีกันตั้งสี่คน แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ดูแลตัวเองไม่ได้ด้วยทำให้ต้องคิดหนัก ส่วนดีนก็คงจะไปกับทีมช่วยเหลือนั่นแหล่ะ ก็เขาเป็นประชาชนคนธรรมดาที่ไร้พิษสงนี่นา

             และแล้วความช่วยเหลือก็มาถึง ที่นอกประตูบ้านมีกองกำลังฝั่งทางการเข้าอารักขาการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ถึงจะดูน่ากลัวแต่ก็อุ่นใจขึ้นมาได้นิดหน่อย จากนั้นไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็มารับ โดยลอยตัวอยู่ด้านบนหลังคาบ้าน เสียงใบพัดที่ตีกับอากาศดังลั่นจนเจ็บหู ทีมกู้ชีพสองคนโรยตัวลงมาจากนั้นก็ติดสลิงให้กับคุณปู่ผู้เป็นอัมพาตของบ้านจากนั้นก็ดึงเขาขึ้นไปก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยเด็ก แม่ พ่อ และดีนจะขึ้นเป็นคนสุดท้าย

             ยังไม่ทันที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง เกิดการปะทะกันไม่ไกลจากนี้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เคย์น่าคาดการณ์ไว้พอดีเป๊ะ ในใจดีนภาวนาขอให้อย่ามีลูกกระสุนพุ่งมาทางนี้เลยเถิด..

             ฟ้าว~

             เหมือนว่ายังคิดในหัวไม่ทันขาดคำก็มีวัตถุชิ้นหนึ่งบินมาทางเฮลิคอปเตอร์ มันไม่ใช่กระสุนปืนแต่เป็นสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น

             “บาซูก้า!!” เคย์น่าแผดเสียงด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าฝ่ายศัตรูจะเล่นใหญ่ถึงเบอร์นี้

             ตอนนี้คนที่โหนสลิงอยู่คือคุณพ่อของบ้าน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาดีนต้องหนีไม่ทันแน่ ๆ มีเวลาอยู่เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกระทำการบ้าบิ่นแบบนี้ไปได้อย่างไร

             “ไป!! บินขึ้นไปเลย!!”

             ดีนตะโกนสั่งจากนั้นเขาก็กระโดดจากหลังคาไปเผชิญหน้ากับบาซูก้าที่พุ่งมาทางนี้

             ‘บ้าจริง ๆ ทำอะไรลงไปวะเนี่ย!?’

             ตัวของเขากำลังจะตกลงไป แต่กลับมีสายลมแรงพัดผ่ายมาพอดีทำให้ร่างของชายหนุ่มถูกหอบตัวขึ้น จากนั้นเขาก็ตวัดหอกฟันบาซูก้าที่ลอยละล่องเข้ามากลางอากาศ วัตถุโลหะถูกผ่าออกอย่างเนียนกริบ มันกระจายตัวออกจากกันเป็นสองทางก่อนจะระเบิดกลางเวหาเสียงดังลั่นฟ้า

             บึ้ม!!!
            
             จากนั้นร่างของเขาก็ตกลงไปกระแทกกับหลังคาบ้านอีกหลังหนึ่งแล้วกลิ้งขลุกขลักอยู่บนซากกระเบื้องที่แตกละเอียด ดีนแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยยังอยู่ดี ทำให้เขาโล่งใจที่ไม่เกิดโศกนาฏกรรม แต่เสียงแหวกอากาศยังดังขึ้นต่ออีกนัด คราวนี้ต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดยั้งไว้ได้

             ‘ไม่ ๆๆๆๆ คราวนี้ฟันไม่ถึงแน่ ๆ!’

             บาซูก้าลูกที่สองใกล้เข้ามาทว่าเฮลิคอปเตอร์เชิดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจึงหลบแรงระเบิดไปได้อย่างหวุดหวิด ลูกกระสุนจึงไปตกอยู่ละแวกบ้านแถวนั้นแลัวระเบิดจนบ้านเรือนพังพินาศ

             ฟ้าว~

             เงาปีกสีดำโฉบผ่านท้องนภา ดีนเห็นนกฮูกตัวหนึ่งคลับคล้ายคลับคาว่าเขาเคยเห็นมันบินเกาะแขนเทพีอะธีน่า มันบินไปยังอาคารร้างหลังหนึ่งโดยคล้ายกับว่าเป็นนาวิเกเตอร์บอกทาง

             ‘อยากให้ไปทางนั้นเหรอ?’

             ดีนเชื่อในสัญชาตญาณตัวเองที่พาเขารอดตายมานับครั้งไม่ถ้วน ชายหนุ่มกระโดดจากหลังคาบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง โดยหวังจะตามเงาของนกฮูกให้ทัน ตอนนี้อะดรีนาลีนเขาคงหลั่งถึงได้กล้าทำเรื่องที่กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ได้ จนเห็นว่านกฮูกเกาะอยู่เหนือหน้าต่างจากนั้นมันก็ค่อย ๆ เลือนลางหายไปกับแสงตะวัน

             ‘ตรงนั้น!’

             ดีนพุ่งตัวเข้าไปในอาคารร้างราวกับพระเอกนักบู๊ แล้วในนั้นเองเขาก็เห็นก็อบลินตัวหนึ่งถือบาซูก้ากระบอกใหญ่อยู่ นั่นทำเอาดีนอ้าปากค้าง

             “กี้!!!”

             มันแผดเสียงร้องแล้วหันปากกระบอกที่บรรจุกระสุนบาซูก้าแล้วยิงเข้าใส่ ดีนยกโล่ขึ้นมารับแรงระเบิดอย่างว่องไว เขาไม่ได้รับอันตรายแต่ก็กระเด็นมาไกลหลายหลา แถมซ้ำยังจุกไปหมด

             “แค่ก ๆ หนอยแน่ ไอ้ตัวแสบ!!”

             ก๊อบลินตัวนั้นโยนบาซูก้าแล้ววิ่งหนี แต่ป่วนขนาดนี้ปล่อยเอาไว้ไม่ไหว ดีนปาหอกในมือออกไปทะลุร่างเล็ก ๆ ที่หันหลังร้องกี้ ๆ จนร่างกายของมันสลายกลับคืนไปสู่ทาทารัส

             จัดการตัวการได้แล้วแต่ดีนไม่ทราบเลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และที่สำคัญที่สุดคือเขาคลาดจากเคย์น่าไปเสียแล้ว จากนี้คงต้องคลำทางไปยังสนามกีฬาด้วยตัวเอง…


-----------------------------
โรลได้ 5 ครั้งต่อไป VS บริวารแห่งเฮคาที แม่มดดำ (Level 25)


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-30 13:46
โพสต์ 16,685 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-3-30 13:00
โพสต์ 16,685 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-3-30 13:00
โพสต์ 16,685 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก หายใจใต้น้ำ  โพสต์ 2024-3-30 13:00
โพสต์ 16,685 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก หอกกรีก  โพสต์ 2024-3-30 13:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-31 04:27:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-31 04:52

064
ข้าคือพายุที่กำลังเคลื่อนมา


             จากการที่ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าหน้าที่เอ็นเอสเอมาหนึ่งวันเต็ม ๆ ทำให้ดีนพอจะรู้วิธีการหลบหลีกอันตรายขึ้นมาบ้างเขาพยายามขึ้นที่สูงตามที่เคย์น่าเคยบอก ระมัดระวังทุกฝีเก้าที่เดินผ่าน หูตาว่องไวและคอยอยู่ใกล้เครื่องกำบังภัยเผื่อถูกลอบโจมตีด้วยอาวุธปืน ดีนเข้าใกล้สนามกีฬาเข้าไปทุกที และยิ่งใกล้เสียงปืนและระเบิดก็ยิ่งทำเอาคนจิตอ่อนขวัญผวา

             รอบ ๆ สนามกีฬาเกิดการปะทะกันอย่างหนักหน่วงแม้ว่าละแวกนี้จะเต็มไปด้วยกองกำลังจากยูเอ็นก็ตาม จากการสังเกตการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบที่ถูกครอบงำจิตใจต่อสู้อย่างบ้าเลือด พวกเขาไม่เจ็บและไม่กลัวความตาย ขนาดถูกยิงไปแล้วยังลุกขึ้นมาถือปืนสู้ใหม่ จนดีนรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว นี่มันมีอะไรทะแม่ง ๆ..

             เขามองดูภาพความรุนแรงไม่ได้นาน การเห็นภาพคนฆ่ากันตายต่อหน้าต่อตานอกจอภาพยนตร์ทำเอาชายหนุ่มคลื่นเหียนอยากอาเจียนออกมา เขาไม่ชอบความรุนแรงเลย หากไม่รู้ว่านี่คือคำสาปจากเทพเจ้าเขาคงตั้งคำถามว่า ‘ทำไมมนุษย์ถึงต้องเข่นฆ่ากันด้วยนะ?’ แต่เมื่อรู้ความจริงแล้วอยากจะถามเทพีเฮคาทีมากกว่าว่า ‘ทำไมต้องสาปให้คนฆ่ากันเองด้วย?’ ว่ากันตามตรงในตอนนี้ดีนค่อนข้างจะมีความคิดในแง่ลบต่อเทพี ไม่ว่านางจะใช่หญิงสาวที่พบเจอกันเมื่อคืนนี้หรือไม่ก็ตาม

             แม้ไม่อยากมองภาพความรุนแรงเหล่านั้นแต่ก็เมินหน้าหนีไปได้ไม่นาน ตัวเองจำต้องไปต่อ แต่จะไปแบบไหนเนี่ยสิ.. เท่าที่เห็นกลุ่มคนร้ายเหล่านี้คือซากศพของคนที่ตายแล้วไม่ผิดแน่ แสดงว่าแถวนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรสักอย่าง และหากไม่จัดการมีหวังกองกำลังจะต้องพ่ายแพ้แน่ ๆ และหากว่าทีมป้องกันของสนามกีฬาแตกพ่ายไปล่ะก็…

              …คุณแม่ก็จะได้รับอันตราย…

             ‘โธ่เอ๊ย! คิดสิคิด ต้องทำยังไงวะ!’

             ดีนยังพอจะจำคำแนะนำของบิดาในการต่อสู้เมื่อคืนนี้ได้ แม้คล้ายตกอยู่ในห้วงฝัน แต่ริ้วรอยที่ได้รับจากการต่อสู้นั้นเป็นเรื่องจริง และมันแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำเกินกว่าจะเป็นลูซิดดรีม

[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

             หลับตาลง ใจเย็นเข้าไว้ สงบจิตสงบใจแล้วฟังเสียงของธรรมชาติ.. ชายหนุ่มเข้าสู่สมาธิชั่วขณะ เขาได้ยินเสียงรัวปืนแจ่มชัดเต็มสองหู ทว่ายังมีกระแสเสียงหนึ่งดังแผ่วเบามาจากสถานที่ไม่ห่างไกลจนเกินไป เป็นสุ้มเสียงบริกรรมคาถาที่ฟังไม่เป็นศัพท์ ดีนพยายามจับทิศทางของเสียงแต่เสียงรอบข้างที่ดังกลบทำให้จับต้นทางของเสียงได้ยากลำบากเสียเหลือเกิน บางทีอาจจะอยู่ใจกลางของฝูงซอมบี้ที่ถูกเชิด อาจจะเป็นแบบนั้นก็เป็นได้…

             『เจ้ารู้ตัวแล้วสินะ』

             ภายในเปลือกตาที่ปิดสนิทดีนเห็นภาพดวงตาปูดโปนที่ต้องมาทางเข้าอย่างถมึงทึง มันทั้งน่ากลัวและน่าเกลียดจนทำให้ชายหนุ่มผวาสะดุ้งตัวเฮือกใหญ่แล้วหลุดออกมาจากสมาธิ

             ‘เฮือก! เมื่อกี้มันอะไร!?!’

             รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่อันตรายใกล้เข้ามา ดีนแอบดูการต่อสู้ที่เบื้องล่างเขาเห็นหุ่นเชิดมนุษย์จำนวนหนึ่งปลีกตัวออกมาจากจุดปะทะ ซึ่งมันจะไปไหนได้นอกจากไล่ล่ากำจัดเดมี่ก็อดอย่างเขา

             ‘ซวยแล้ว ตายแน่ งานนี้ตายแน่ ๆ!!’

             ลั่นวาจานี้ในใจไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบที่มายังเฮติ ตอนนี้ฝ่ายศัตรูน่าจะรู้ที่ซ่อนของเขาแล้ว ถ้าแบบนี้ควรจะทำอย่างไร ดีนจมอยู่กับความคิดซึ่งเขาควรจะคิดให้เร็วกว่านี้ ตอนนี้ไม่มีเคย์น่าคอยช่วยเหลือ และถึงมีเธออยู่ก็ใช่ว่าจะรอดไปได้ง่าย ๆ หากต้องสู้กับซากศพที่ถือปืนและกระสุนที่ดูทีท่าแล้วไม่มีวันหมด เสียงฝีเท้าของมัจจุราชเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าเขาเปลี่ยนจากเหยื่อเป็นผู้ล่าล่ะ? บ้าบิ่นเกินไป.. แต่ไม่ยอมจนมุมตายตรงนี้หรอกโว้ย!!

             เอาซี้! ถ้าในเมื่อมันรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาก็รู้ที่ซ่อนของมันเหมือนกัน กลางกลุ่มผู้ก่อการร้ายใช่ไหม ได้เลย!!

             จากการต่อสู้ที่ผ่านมายุทโธปกรณ์ของเขาทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมและทำให้ชายหนุ่มรอดตายมาได้หลายครั้ง ดังนั้นเขาจะไว้ใจมัน ให้มันเป็นเสมือนหนึ่งเดียวกับร่างกาย และท่องจำคำสอนของโซเฟียให้ขึ้นใจ

             ดีนรีบวิ่งออกจาที่กำบังก่อนที่ภัยร้ายจะมาถึงตัว ตั้งโล่และวิ่งฝ่าดงกระสุนเข้าไปอย่างบ้าระห่ำ แกว่งหอกสัมฤทธิ์ในมือเข้าฟาดฟันกลุ่มมวลชนที่ดาหน้าเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวความตาย

             ‘ขอโทษด้วยนะ!’
            
             เป็นไปได้ดีนก็ไม่อยากจะทำแบบนี้กับซากศพของผู้วายชนม์ น่าแปลก แม้จะถูกหอกแหลมทิ่มแทงแต่ร่างที่ถูกเชิดเหล่านั้นเพียงแค่ถูกซัดกระเด็นไม่ใช่ถูกตัดร่างด้วยคมอาวุธ ราวกับว่าในมือของเขาเป็นแค่ท่อแป๊บธรรมดา ๆ จริง ๆ

             “หยุดยิงก่อน!”

             ดีนได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่ดังมาจากอีกมุมหนึ่ง ทางนั้นคงเห็นว่ามีช่างประปาหนึ่งนายวิ่งโร่เข้าไปสู่วงล้อมของศัตรู คนพวกนั้นคงงงกันแหล่ะมั้ง แต่ดีที่คำสั่งหยุดยิงเกิดขึ้นจึงทำให้เขาไม่ถูกลูกกระสุนของพวกเดียวกัน ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่และนักข่าวภาคสนามเหล่านั้นเห็นภาพเป็นแบบไหน และทำไมเพียงแค่อุปกรณ์งานช่างถึงกันกระสุนสังหารได้ ไม่แน่ว่าวันรุ่งขึ้นสำหนักข่าวระดับโลกอย่างซีเอ็นเอ็นอาจลงข่าวว่า ‘กับตันอเมริกามีจริง!’  แต่ขอเถอะอย่าให้เป็นแบบนั้นเลย…

             ช่างเรื่องของเจ้าหน้าที่และทีมข่าวภาคสนาม คนพวกนั้นอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ตอนนี้เขาขอเข้าไปจัดการต้นตอของปัญหาก่อน

             ปุ!

             เสียงกระสุนแหวกอากาศปะทะถูกผิวเนื้อ ชายร่างสูงถูกยิงที่ขา ความเจ็บปวดในชั่วพริบตาทำให้เขาพลาดจังหวะล้มลงไป

             ‘ฮึก! ไม่ได้ ฉันจะมาตายตรงนี้ไม่ได้!!’

             ด้วยแรงใจที่ฮึกเหิม เขารีบลุกขึ้นมาโดยไม่ทิ้งโล่ที่ตั้งขึ้นบังไว้ข้างหน้าแม้แต่เสี้ยววินาที ดวงตาสีเปลือกไม้มองตรงไป พอจะเห็นแม่มดเฒ่ากำลังร่ายมนตร์คาถาบังคับซากศพของชาวเมืองพวกนั้น

             ‘อีกนิดเดียว!!’

             เปาะแปะ

             หยาดน้ำถูกกลั่นลงมาจากฟากฟ้า ก่อนที่จะกลายเป็นเม็ดฝนห่าใหญ่ นั่นไม่ได้ทำให้ดีนเหน็บหนาว แต่ว่าคิดไปเองไหมที่เขาเห็นภาพทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลงราวกับว่าเม็ดฝนนี้คือดีบัพที่บิดาส่งมา …ก็คงคิดไปเองจริง ๆ นั่นแหล่ะ

             พอเห็นจังหวะเขาก็รีบวิ่งเข้าไปฟาดฟันสมุนที่อยู่รายรอบ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแม่มดดำยิ่งร่ายมนตร์เรียกซากศพให้เข้ามากรูหา สภาพตรงหน้าไม่ดีเลย ไม่ดีจริง ๆ ดีนค้ำหอกแล้วดีดตัวขึ้นสูงกระโดดลอยเหนือหัวของกลุ่มผู้ร้าย ภาพสโลว์โมชั่นที่เขาเห็นอย่างกับตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในหนังของแซ็ค สไนเดอร์ ส่วนตัวเองก็เป็นมาริโอ้ที่กระโดดเหยียบหัวเห็ด ก็ได้อยู่เพราะตอนนี้เขาแต่งกายเป็นช่างประปาอยู่พอดี

             แม่มดดำยิ่งร้อนรนเมื่อบุตรแห่งมหาเทพวิ่งเข้าหา บทสวดที่นางพร่ำกลายเป็นกรีดร้องเสียงหลง เมื่อเห็นปลายหอกสัมฤทธิ์พุ่งเขาหานางก็ตัดสินใจคลายเวทควบคุมศพทั้งหมด เหล่าร่างไร้วิญญาณที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือล้มลงพร้อมกันเหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ถูกตัดสาย ประตูมิติอันน่าพิศวงเปิดขึ้นใต้ขา ดีนไม่ยอมให้มันหนีไปได้ เขาตวัดหอกสุดแรงตัดศีรษะของนางขาดสะบั้น ก่อนที่แม่มดดำจะหนีเข้าวาร์ปได้ทัน หัวที่หลุดกระเด็นค่อย ๆ สลายกลายเป็นละอองแล้วการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง

             ดีนทรุดตัวลงแนบพื้น ใช้มือกดบาดแผลที่ขา เขามองดูดี ๆ กระสุนเพียงแค่เฉียดขาของเขาไปไม่ได้ฝังใน กระนั้นเลือดก็ไหลออกมากอยู่ ทันใดนั้นสายฝนที่เทกระหน่ำก็หยุดลงในทันที

             『พ่อลืมไปว่าลูกยังไม่ได้ปลดทักษะสายน้ำเยียวยา』

             “ห๊ะ! อะไรนะ?”

             ชายหนุ่มหลุดอุทานเมื่อได้ยินเสียงของพระบิดาแว่วเข้ามาในหู จึงพอจะย้อนความได้ว่าพ่อเคยบอกเกี่ยวกับการใช้น้ำธรรมชาติรักษาบาดแผลหากได้รับบาดเจ็บ แสดงว่าในการต่อสู้ครั้งนี้คุณพ่อคงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่แล้วเหมือนกับที่เคยทำเสมอมา เพียงแต่อาจจะผิดพลาดทางเทคนิคไปเล็กน้อย...

             “ขอบคุณครับ ...พ่อ”

             ดีนเอ่ยแผ่วกับสายฝนที่ซาลง แต่ก็หยุดพักได้ไม่นานเพราะดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเคลียร์พื้นที่แล้ว และด้วยความที่ดูหนังซูเปอร์ฮีโร่มาเยอะ น้อยคนนักที่จะได้รับการสรรเสริญเยินยอแบบโทนี่ สตาร์ค ซึ่งเขาอาจจะมีชะตากรรมเดียวกันกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หรือเป็นอะไรที่แย่กว่านั้นมาก อย่างเช่นโดนจับไปขึ้นศาลทหารหรือไม่ก็ถูกยิงทิ้งมันตรงนี้

             เขาหอบเอาร่างกายอันบอบช้ำเข้าหาที่หลบซ่อน โดยหวังว่าไม่มีใครจะหาเขาเจอพลางปฐมพยาบาลห้ามเลือดตัวเองอย่างลวก ๆ ผ่านไปไม่นานโดรนก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อแสกนพื้นที่ และเมื่อพบว่าละแวกนี้ปลอดภัยแล้วรถบรรทุกทหารหลายคันก็พากันแล่นออกมาจากประตูสนามกีฬา หากตาไม่ฝาดดีนเหมือนจะเห็นคุณแม่มาเรียนน่าอยู่บนรถบรรทุกเหล่านั้น

             ‘เป็นคุณแม่จริง ๆ ใช่ไหม? คุณแม่ปลอดภัยแล้วใช่หรือเปล่า?’

             บุตรชายได้แต่แอบมองภาพการอพยพผู้คนไปยังสนามบินตาละห้อย เขาถ่อมาไกลถึงนี่เพื่อมองเห็นเธอในระยะไกลไม่ถึงห้าวินาที ไม่อาจแม้แต่จะทักทายมารดาไม่ว่าเขาจะคิดถึงเธอและอยากเข้าไปสวมกอดมากแค่ไหน ตอนนี้พวกเขาทั้งสองราวกับอยู่กันคนละโลกกันแล้วจริง ๆ…

             นกฮูกของเทพีอะธีน่าบินมาเกาะบนแบริเออร์ที่เขาหลบซ่อนตัวอยู่ มันใช้ปีกแปะหัวเขาสองสามทีก่อนที่จะบินตามรถทหารไป คราวนี้ดีนมั่นใจว่าไม่ใช่การนำทาง

             ‘ฝากคุณปกป้องคุณแม่ของผมต่อด้วยนะครับ เทพีอะธีน่า...’



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-31 11:00
God
อะธีน่าชื่นชอบแม่ของคุณ เนื่องจากอุปนิสัยของเธอ จึงยินดีช่วยนำทางให้แม่ของคุณ  โพสต์ 2024-3-31 11:00
โพสต์ 26996 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-3-31 04:27
โพสต์ 26,996 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-31 04:27
โพสต์ 26,996 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-31 04:27
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x6
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้