แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-12-23 18:25
260 อเวนเจอร์ส… รวมพลัง!
!! Trigger Warning: Part นี้มีคำหยาบนิดหน่อย !!
[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]
21/12/2024 เวลา 17.30 น.
ฝีเท้าหนักวิ่งเหยียบบนพื้นทรายหลังได้ยินเสียงกรีดร้องของน้องสาวร่วมสายเลือด บัดนี้ เอิร์ล สเตรธเอิร์น ผู้สุขุมนุ่มลึกไม่ได้อยู่ในอาการนั้นอีกต่อไป เมื่อรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของเขาอย่างสมาชิกในครอบครัวกำลังตกอยู่ในอันตราย ภาพที่เห็นใกล้ขึ้นทุกที ชิมะบุคุโระ ไอมิ ผู้เป็นน้องสาวนั่งอยู่บนพื้นทราย เธอพยายามใช้พลังแห่งสายน้ำเค็มเพื่อป้องกันตัวเองจากไฮดร้าหกหัวที่จู่โจมเข้ามาอย่างสุดชีวิต
“ไฮดร้า…งั้นเหรอ” ยิ่งเห็นว่าอสุรกายที่น้องสาวกำลังเผชิญหน้าอยู่เป็นตัวอันตรายแค่ไหน ใบหน้าขาวของหนุ่มผู้ดีชาวอังกฤษยิ่งเผือดสีลง ฝีเท้าเร่งความเร็วขึ้นมากเก่าเพื่อไปให้ทันก่อนที่ไฮดร้าจะสังหารไอมิ ไม่รู้ว่าเธอจะใช้พลังอันน้อยนิดต้านทานต่อไปได้นานขนาดไหน
เอิร์ลดูดน้ำจากทะเลรวมมาไว้ที่ดาบของเขามากขึ้น จนเรเปียวารีเปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาบดาบขนาดใหญ่ยักษ์เกินจริงจนขัดกับร่างสูงเพรียวของเขา ชายหนุ่มรู้ว่าควรจะกำจัดไฮดร้าอย่างไร แต่ผู้ที่ไม่สามารถก่อไฟ รู้ตัวเองได้ทันทีว่าเขาคงไม่สามารถพิชิตอสุรกายชั้นสูงนี้ได้เพียงลำพัง จำต้องมีพรรคพวกคอยช่วยเหลือ
บุตรแห่งแอมฟิไทรต์ไม่ลืมจะจุดพลุสัญญาณ ยิงกระสุนน้ำสายหนึ่งขึ้นฟ้าเพื่อเรียกหาพรรคพวกที่เหลือตามตกลงกันไว้ในยามเมื่อมีภัย จากนั้นเอิร์ลหวดดาบน้ำขนาดใหญ่ยักษ์ไปด้านหน้า ปลดปล่อยคลื่นน้ำสามสายพุ่งตรงไปยังไฮดร้าตัวนั้นเมื่อเข้าระยะโจมตี เขาพยายามควบคุมพลังเพื่อไม่ให้ฟันโดนคอ ไม่อย่างนั้นเจ้ามังกรที่น่าสยดสยองได้มีหัวใหม่งอกเพิ่มขึ้นมาแน่ ๆ
คลื่นดาบน้ำสามสายโจมตีถูกลำตัวของไฮดร้าเข้าอย่างจัง ๆ แม้ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักแต่อสูรร้ายก็เลิกสนใจแต่ไอมิแล้วหันมาขู่คำคามยังชายหนุ่มแทน
“หนีไป ไอมิ!!!”
. . .
ตัดภาพมาที่อีกฝั่งของชายหาด
“ดูนั่นสิเจ้าเด็ก! เหมือนกับพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือเลยว่าไหม?”
สิ่งที่ปรากฏเหนือน่านฟ้าคือดอกไม้ไฟที่ทำจากน้ำ พุ่งขึ้นจากพื้นแล้วแตกสลายออกกลางเวหาอย่างไม่รู้จบ บางครั้งเดมิก็อดอย่างพวกเขาก็ใช้ท่าไม้ตายในรูปลักษณ์คล้าย ๆ แบบนี้ใส่ศัตรู แต่ดูเหมือนคราวนี้แตกต่างออกไป เพราะพลุน้ำไม่ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินทว่าคงค้างเป็นสัญญาณที่โดดเด่นอยู่แบบนั้น
“ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนแต่คิดว่าน่าจะใช่นะลูกพี่”
“ถ้างั้นจะรออะไร วิ่งให้เร็วกว่านี้สิ! วิ่ง!! เจ้าเด็ก!” ซิลเวอร์กล่าวอย่างกระตือรือร้น เขาเร่งความเร็วของฝีเท้าให้มากขึ้น ราวกับว่ามีพลังงานให้เผาผลาญอย่างไม่รู้เหนื่อย แม้แต่นักวิ่ง (จ๊อกกิ้ง) อย่างดีนได้แต่มองค้าง
‘เขาเป็นบุตรแห่งเฮคาทีจริง ๆ ใช่ไหม?’
ต่อให้เป็นคนแข็งแรงแค่ไหน แต่ใครจะไปวิ่งตามทัน วันนี้ดีนสู้กับอสุรกายมาตั้งกี่ตัวแล้วล่ะ... แม้จะได้รับการเยียวยาบาดแผลมาเป็นระยะ ๆ แต่ความเหนื่อยล้าสะสมก็ไม่ได้ทุเลาเบาบางลงไป เพราะงั้นใช้เครื่องทุนแรงจากขีดความสามารถทางสายเลือดดีกว่า สกิลใหม่ที่เพิ่งค้นพบตอนที่ไปซานอันโตนิโอ ดีนดึงเอาน้ำจากมหาสมุทรมาสร้างเป็นเซิร์ฟบอร์ด แล้วควบคุมให้มันส่งตัวเขาไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง
“ขอนำไปก่อนนะซิลเวอร์!”
บุตรแห่งเฮคาทีมองเจ้าเด็กบ้านโพไซดอนด้วยสายตาระยิบระยับ “เฮ้ย! นั่นมันโคตรเจ๋ง แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอกเจ้าเด็ก!!” จากนั้นบุรุษร่างสูงก็เร่งความเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อไปให้ถึงสมรภูมิรบใหม่โดยเร็วที่สุด
แน่นอนว่าคนที่มีเครื่องทุ่นแรงมาถึงก่อน ดีนเห็นเอิร์ลกับไอริกำลังต่อสู้ฟาดฟันกันกับไฮดร้า ทั้งสองมีปีกที่ทำจากน้ำโบยบินฉวัดเฉวียนขาไม่คิดพื้น ทว่าดูเหมือนกำลังของเดมิก็อดแห่งท้องทะเลถึงสองคนจะไม่อาจทำอันตรายแก่ไฮดร้าได้เลยเมื่อพลังไม่ตรงธาตุกัน ซึ่งดีนก็ด้วยเช่นกัน…
“ลูกพี่! เตรียมไฟไว้เลยนะ ข้างหน้ามีไฮดร้าหกหัว!” ดีนป้องปากตะโกนบอกคนที่วิ่งห้อตามหลังเหมือนหมาล่าเนื้อ
“ไฮดร้างั้นเหรอ.. วี้ด~~” ซิลเวอร์ผิวปาก “งั้นนายเอาไปก่อนเลย อินคันทาเร่ เฟลมมา มาจิก้า!”
คาถาเพลิงถูกจุดขึ้นจากนั้นซิลเวอร์ก็ส่งเปลวไฟเคลือบปลายดาบสามเล่มที่ดีนถืออยู่ในมือ
“โอ๊ะ พลังของสายเลือดเฮคาทีทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ นี่มันแจ่มเป็นบ้า!”
“แน่นอนสิ ใครว่าคาถานี้ใช้แต่ยิงลูกไฟอย่างเดียวล่ะ มันคือคาถาเปลวเพลิงต่างหาก! เอ้า! ไปถึงก่อนก็ ลุย!!”
“รับทราบ!!”
ดีนเร่งบอร์ดพลังน้ำของเขาไปด้านหน้าด้วยความเร็วด่วนจี๋จนเห็นเป็นเส้นสายสีฟ้าและแดงเพลิงลากยาวไปเป็นแถบยาว เหนื่อยควบคุมน้ำนิดหน่อยแต่ไม่เหนื่อยควบคุมขา และเมื่อใกล้ถึงตัวไฮดร้าในระยะประชิด ชายหนุ่มจึงพุ่งตัวออกจากบอร์ดน้ำ กระโดดเงื้อแขนขึ้นฟันคอไฮดร้าด้วยดาบเพลิง จากความคมของอาวุธที่เทพมอบทำให้เขาตัดคออสุรกายขาดในฉับเดียว จากนั้นเปลวไฟสุดร้อนแรงที่ซิลเวอร์เสกก็เผาผลาญเซลล์เนื้อเยื่อที่คอของไฮดร้าจนทำให้มันไม่อาจงอกหัวขึ้นมาใหม่
“กร๊าซซซซ”
ไฮดร้าที่เหลือหัวเพียงห้าร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มันถอยหลักไปสามสี่ก้าว แววตาสีเขียวแทนที่จะเป็นสีแดงก่ำจ้องมองเหล่าเดมิก็อดด้วยความเคียดแค้น แต่ตอนนี้มันกำลังเป็นรองเพราะทีมนักสู้ที่เจ๋งที่สุดในชายหาด (มีทีมเดียว) ได้กลับมารวมกลุ่มครบทุกองค์ประชุม ทุกคนต่างมองหน้ากัน แม้ไม่มีคำพูดแต่คล้ายกับไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันด้วยสายตาว่า ‘ทุกคนปลอดภัยกันดีใช่ไหม พร้อมนะ?’
“ในสถานการณ์แบบนี้… นายต้องพูดคำนั้นแล้วเจ้าเด็ก”
มือของซิลเวอร์วางบนไหล่หนาของบุตรแห่งเจ้าสมุทร แล้วบีบเบา ๆ
‘ใช่แล้ว.. คำนั้น คำพูดที่รอคอยมานานแสนนาน….’
ดีนพยักหน้าให้กับพี่ชายของแฟนก่อนจะตีหน้าขรึม แล้วกล่าวคำพูดปลุกใจที่สุดในนาทีนี้
“อเวนเจอร์ส… รวมพลัง!!”
“ไม่ใช่ว้อย คำนี้ต่างหาก! เอ็งมาเล่นผิดค่ายแล้วไอ้ไฮดร้าเศษสวะ เวรตะไลหน้าส้นตีน! ไอ้ลูกนังอิคิดน่าหน้าหมี!!!”
“...” เอิร์ลหรี่ตามองชายสองคนที่ยืนอยู่บนพื้นด้วยสายตาดูแคลนนิดหน่อย ส่วนไอมิสะดุ้งตอนที่ซิลเวอร์ด่าไฮดร้า และหากแพนกล้องลงมาข้างล่างอีกนิดจะเห็นดีนที่สะดุ้งด้วยอีกคนนึง
“กร๊าซซซซ” ไฮดร้าไม่ปล่อยให้เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ (?) ยืนแอคท่ากันนานไปกว่านั้น มันพ่นละอองพิษมรณะออกมาคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้คนทั้งสี่จำเป็นต้องดีดตัวออกจากกัน
แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไปในเมื่อตอนดีนมีดาบอาบเปลวเพลิงอยู่ในมือ และยังมีจอมเวทที่ร่ายคาถาระดับสูงได้อย่างคล่องแคล่ว เอิร์ลเองก็รู้เช่นนั้น เขาจึงไม่กังวลที่จะตัดหัวของไฮดร้าอีกต่อไป คลื่นดาบสายน้ำฟาดฟันเข้าที่คอของไฮดร้าอย่างไร้ความปราณีจนเนื้อที่ลำคอปริออกขาดสะบั้น จากนั้นเปลวเพลิงจากคาถา ‘เฟลมมา มาจิก้า’ ก็โหมใส่ส่วนที่ขาดหายนั้นอย่างรุนแรง จนหัวที่สองถูกตัดขาด
บนฟ้ายังมีการยิงสนับสนุนจากมือธนูชั้นดีอย่างไอมิ ลูกศรน้ำพุ่งแทงร่างของไฮดร้าสะกัดการเคลื่อนไหวตอนที่หัวหนึ่งกำลังพุ่งเข้าไปกัดซิลเวอร์
“แต๊งกิ้วเจ้าเด็ก!” หนุ่มร่างใหญ่ยกในนิ้วโป้งพร้อมกับมอบรอยยิ้มเผล่เห็นฟันขาวครบสามสิบสองซี่ ให้หน่วยสนับสนุนทางอากาศ
“คะ.. ค่ะ” แม้แต่สาวสวยก็ไม่เว้นจะถูกเรียกด้วยคำ ๆ นี้ ไอมิจึงได้แต่ยิ้มแห้งอยู่บนฟ้า
ระหว่างนั้นดีนก็ตัดหัวของไฮดร้าได้อีกหนึ่งอย่างง่ายดาย พอมีดาบเคลือบเปลวเพลิงแบบนี้ดูเหมือนว่าการจัดการกับอสุรกายงอกหัวได้จะเป็นเรื่องง่ายราวกับกินของหวาน เขาต้องจดเรื่องนี้เอาไว้ ไปเม้ามอยให้แมคเคนซีฟังทีหลัง
ทว่าระหว่างการปะทะกันของทีมชายหาดกับไฮดร้า ได้มีสายตาหนึ่งแอบมองมาผ่านเงามืดของพุ่มไม้ ซิลเวอร์ผู้มีประสบการณ์สูงที่สุดรู้สึกตัวได้ก่อนใคร เขาจึงปลีกตัวออกมาจากการต่อสู้นั้นเพื่อไล่ล่าเงาดำ ในการรบกับไฮดร้ามีคนถือไฟเพียงแค่คนเดียวก็เหลือแหล่...
“ย้ากกก” ดีนพุ่งตัวหลบมังกรอสุรกายที่อ้าปากไล่งับ ก่อนจะพลิกตัวฟันฉับเข้าที่คอนั้นจนสลายไปอีกหัว
ทางด้านเอิร์ลเขาลดขนาดของใบดาบน้ำให้เล็กลง จากการคงรูปน้ำเป็นดาบอันคมกริบในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อกินพลังงานไม่ใช่เล่น กระนั้นเขาได้ความว่องไวกลับคืนมาส่วนหนึ่ง แล้วปาดคอหอยของไฮดร้าอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่มีการสนับสนุนจากเวทไฟตามมา เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าซิลเวอร์ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว.. หนุ่มผมเงินจึงขมวดคิ้วเคร่งเครียด
หัวที่ห้าที่ถูกตัดกำลังงอกขึ้นมาใหม่ แต่ตาดีนไวเห็นทันเขาจึงฟันซ้ำด้วยดาบไฟลุกอีกรอบหนึ่ง
“ซิลเวอร์ไปไหนแล้ว?”
“ไม่รู้สิ…” เอิร์ลตอบ “แต่มันเหลือแค่หัวสุดท้ายแล้ว.. มาปิดจ๊อบกันเถอะครับ”
ดวงตาสีครามปรายมองอสุรกายร่างยักษ์ที่บัดนี้มันโซเซไปมาจากร่างกายที่บอบช้ำ ดีนพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งสองจะรวมพลังกัน ดาบแห่งสายน้ำ และคมดาบเคลือบไฟ ฟาดฟันรุกไล่จนไฮร้าหกหัวคอกุดไปทั้งหมด ร่างใหญ่โตระเบิดหายกลายเป็นละลองดำ หลังการต่อสู้จบลงเสียงโหวกเหวกก็ตามมา
“เฮ้! มีใครเป็นคนรู้จักของไอ้กร๊วกหน้าขาวตัวนี้บ้าง เหมือนฉันเห็นไอ้สตอล์กเกอร์โรคจิตนี่แอบตามสักคนในนี้มาได้พักใหญ่แล้ว!”
ซิลเวอร์โยนร่างของชายคนหนึ่งลงมากลางวงของเหล่าผู้พิชิตไฮดร้า ชายหนุ่มร่างผอมเพรียว ผิวขาวซีด เรือนผมสีดำสนิทเรียบลู่ไปด้านหลัง ถูกมัดด้วยโซ่เวทมนตร์จากคาถา ‘คาเทน่า’ ซึ่งดีนมองเพียงแว้บเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าหมอนี่เป็นใคร ‘แร็กนาร์ เมสัน’ บุตรแห่งเทพโลกิจอมลวงโลก ศัตรูคู่อาฆาต!!
“มันตามเธอมาหรือเปล่าเจ้าเด็ก?” บุตรแห่งเฮคาทีเงยหน้าถามไอมิ สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่ติดปีกบินอยู่บนฟ้า
“ปะ.. เปล่าค่ะ ไม่น่าจะใช่...นะคะ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวตอบด้วยน้ำเสียงเลิ่กลั่ก
“ไม่ใช่คนรู้จักของไอมิ แต่ว่าเป็นของฉันเอง แกอีกแล้วเหรอ ไอ้เวรแร็กนาร์!!!” ดีนคำรามออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของศัตรูที่แสนเกลียดชัง มันคนนี้เองที่ล่อหลอกให้คณะตามหาตรีศูลไปปลดผนึกคธูลฮูเข้า แถมยังต้องฟาดฟันกับวิญญาณผู้พิทักษ์สายเลือดเดียวกับตัวเองอีกต่างหาก
“อ้อ ลูกเทพโลกิหน้าหมีคนนั้นนี่เอง ถึงว่า... หน้ามันแม่งเหมือนกันอย่างกับแกะ! ถ้ามันตามเจ้าเด็กโพไซดอนมางั้นก็ยกให้นายจัดการก็แล้วกัน”
ซิลเวอร์ปลดพลังเพลิงออกจากดาบตรีศูล ก่อนจะถอยฉากออกมากอดอกยืนพิงต้นมะพร้าวเพื่อพักเหนื่อ ควบคู่ไปกับคุมสถานการณ์จากระยะไกล ส่วนเอิร์ลรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาจึงช่วยประคองน้องสาวที่ได้รับบาดเจ็บจากก๊อบลินไปรักษาบาดแผลที่ในทะเล ตอนนี้คนที่ประชันหน้ากันจึงเหลือเพียงแค่สอง
ปลายดาบที่ยังคงร้อนฉ่าจ่อที่ใบหน้าซีดขาว เงาของแร็กนาร์กัดกรามจนขึ้นสันก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้นมาทักทายพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ
“ไงดีน ไม่ได้เจอกันตั้งนานดูเหมือนว่านายจะได้ของเล่นใหม่… ไหน ๆ แล้วไม่ลองเอามันแทงฉันดูล่ะ หรือไม่ก็ตัดหัวฉันเหมือนกับที่นายตัดหัวไฮดร้า”
แร็กนาร์กล่าวท้าทาย หัวเราะเย้ยหยันอย่างไม่สะทกสะท้าน มันรู้ว่าบุตรแห่งโพไซดอนเป็นคนอย่างไร ดีนไม่กล้าจะฆ่าใครตายจริง ๆ อาจเว้นเหล่าอสุรกายจากนรก ที่พอฆ่าไปแต่ละครั้งก็กลับมานอยด์ตัวเองตอนที่อยู่คนเดียว
“ฮึ่ม! แก!!”
ดีนไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นตัวจริงหรือเงามายา แต่ว่ามันกุมจุดอ่อนเล่นกับจิตใจเขาอยู่ ชายหนุ่มหดดาบกลับคืนไปให้อยู่ในรูปของกำไลอัจฉริยะ จากนั้นเขากระชากคอเสื้อของบุตรแห่งคำลวงขึ้นมา ถึงตรงนี้ซิลเวอร์ที่มองอยู่ไกล ๆ ส่ายหน้า
“ต่อให้แกเป็นตัวปลอมฉันก็จะซัดหน้าแกให้หน้าแหก!!”
ดีนเงื้อหมัดขึ้นชกหน้าแร็กนาร์ไปหลายมัดจนหน้าขาว ๆ เต็มไปด้วยรอยชำ มันพ่นเลือดออกมาพร้อมกับฟันแต่ยังยิ้มเยาะได้ ภาพที่เห็นสมจริงจนชายหนุ่มไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นตัวจริงหรือร่างเงา
ซึ่งดีนก็ยังคงเป็นดีนเหมือนเดิม ...คนเดียวกับที่บุตรแห่งคำลวงปั่นหัวได้ง่าย ๆ
“แต่ก่อนที่นายจะซัดหน้าฉันเละ ฉันมีข่าวหนึ่งจะบอก…” จอมวายร้ายผงกหน้าขึ้นกระซิบข้างหูของบุตรแห่งโพไซดอนด้วยน้ำเสียงพร่า “ฉันฆ่าแมคเคนซี”
ถ้อยคำนั้นทำเอาดีนหยุดชะงัก ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาเรื่อย ๆ.. จังหวะนั้นเองที่แร็กนาร์ร่ายมนตร์ทำให้ชายหนุ่มได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
.
. .
ในป่าต้องห้ามทางทิศเหนือของค่ายฮาล์ฟบลัด ดีนเห็นแมคเคนซีกำลังอยู่ในสภาพที่เหนื่อยอ่อนหลังจากที่เพิ่งกำจัดอสุรกายสุดโหดหินอย่างไคมีร่ามาได้หมาด ๆ อีกฝ่ายยังไม่ทันได้พักหายใจก็ถูกศัตรูรายใหม่เข้ามาก่อกวน ซึ่งนั่นคือตัวของเขาเอง.. แร็กนาร์ใช้หมวกเวทมนตร์ปลอมกายเป็นเขา ป้อคำหวานที่ชาตินี้ดีนไม่มีวันพูดออกมา (เพราะนึกศัพท์ไม่ออก) ใส่คนรักไม่หยุด
มันแสร้งทำเป็นเขาที่บาดเจ็บให้แมคเคนซีรักษา จากนั้นดีนตัวปลอมก็แทงกริชใส่แมคเคนซีจนล้มลง…
. . .
“ไม่!! แมคซี่!!!”
กำไลข้อมือเปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาบสามง่ามในทันที ดีนแทงมันทะลุร่างของแร็กนาร์ที่อยู่ในกำมือก่อนจะบิดคมดาบไปทั่วช่องท้องด้วยแรงโทสะ
“เห็นไหมว่าด้วยความโกรธ.. มันก็ทำให้นายฆ่าคนได้ด้วยเหมือนกัน ดีน…”
แม้น้ำเสียงจะเจ็บปวด แต่เงาของบุตรแห่งคำลวงกลับหัวเราะลั่นออกมา ก่อนที่มันสบายไปราวกับมายาที่ไม่เคยมีอยู่จริง
ไม่ว่าภาพที่เห็นจะเป็นเรื่องจริงหรือของปลอม แต่มันก็ทำให้บุตรแห่งท้องทะเลทรงตัวแทบไม่อยู่ เขาเดินไปหาซิลเวอร์ด้วยท่าทีซวนเซ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนพื้นทรายด้วยความอ่อนแรงเมื่อกำลังใจถูกทำลายสะบั้น
“ลูกพี่.. เมื่อกี้ผมเห็นภาพแมคซี่ถูก…” ดีนไม่กล้าพูดคำต่อไป คำว่า ‘ฆ่า’ จุกอยู่ในคอหอยจนเปล่งเสียงไม่ออก
“มานี่เจ้าเด็ก…” ซิลเวอร์ย่อตัวลงจับศีรษะแฟนน้องชายกดลงแนบบ่ากว้าง ๆ ของเขา “แล้วนายจะเชื่อเรื่องโกหกที่ไอ้หน้าหมีนั่นปั้นน้ำขึ้นมาเหรอ? น้องชายฉันไม่พลาดท่าง่าย ๆ แน่ นายเชื่อใจเขาสิเจ้าเด็ก!”
“อืม… ผม… ผมเชื่อใจแมคซี่ เชื่อว่าเขาจะปลอดภัย”
กระนั้นร่างกายก็ยังไม่หยุดสั่น แม้จะปลอบใจตัวเองว่าเป็นเรื่องโกหก แต่ภาพคนรักถูกแทงจนเลือดอาบยังคงติดตาจนไม่อาจลุกไหว
ระหว่างนั้นเอง รอยแยกของมิติก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง จากนั้นอสุรกายระรอกใหม่ก็ผุดขึ้นที่ชายหาดไม่ยอมให้พวกเขาได้พักหายใจ แต่ตอนนี้ดีนไม่ไหวจะสู้หรอก..
“อุบ๊ะ! ไอ้อสุรกายเฮ็งซวย!! พวกห่ารากนี่แม่งไม่ยอมให้พักหายใจหายคอกันเลยวุ้ย แต่นายพักไปก่อนเจ้าเด็ก เดี๋ยวมื้อนี้ป๊าลุยเอง”
ซิลเวอร์ละมือออกจากการปลอบประโลมเด็กน้อย เขายืดเส้นสายสะบัดคอจนเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บ จากนั้นบุตรแห่งเฮคาทีผู้มีเชื้อไฟไม่หยุดหย่อนก็วิ่งทะยานออกไปด้านหน้าพร้อมด้วยปืนคู่ใจ การต่อสู้ฉากใหม่ได้เริ่มขึ้นพร้อมกับเสียงปืนที่ดังระงมก้องไปทั่วทั้งหาด โบนัสพิชิตไฮดร้า: 50 ความกล้าหาญ สินสงครามจากไฮดร้า: หัวไฮดร้า 1 หัว และ แก่นวิญญาณไฮดร้า 1 หน่วย
สินสงครามจากเงาบุตรแห่งคำลวง: ???
สรุปสถานการณ์ Winter is Coming คร่าว ๆ1. ดีน ซิลเวอร์ เอิร์ล และไอมิ ร่วมมือร่วมใจกันกำจัดไฮดร้า 6 หัวสำเร็จ
2. ซิลเวอร์จับตัวเงาแร็กนาร์มาได้ และเขาให้ดีนจัดการ
3. อสุรกายได้ผุดออกมาอีกเรื่อย ๆ จนน่าจะสู้กันทั้งคืน
|