251 เรียนอสุรกายศึกษา วันที่ 1
17/12/2024 เวลา 13.30 น. - 14.20 น.
พักภาษากรีกโบราณเอาไว้ก่อน วันนี้ดีนมารอเรียนวิชาอสุรกายศึกษาที่ชายหาด สถานที่ที่คล้ายกับแหล่งกบดานของสายเลือดโพไซดอน (รวมถึงอะโฟร์ไดท์บางคนที่มาอาบแดด…)
ตอนแรกดีนคิดว่าตัวเองมาสายเมื่อเห็นว่า ‘ไทสัน’ พี่ชายบ้านโพไซดอนกำลังทำการสอนอยู่ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเสียงกริ่งจากนาฬิกาจับเวลาก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณของการเลิกคาบเรียนช่วงเที่ยง ไม่มีนักเรียนคนไหนที่อิดออดนั่งต่อ ทุกคนต่างลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วเพื่อให้นักเรียนคาบต่อไปได้เข้ามาเรียนต่อ ดีนดูตารางเรียนในมือ การสอนติดต่อกันแบบคาบชนคาบแทบไม่มีเวลาให้ผู้สอนได้พักหายใจ
“สอนคาบชนคาบแบบนี้เหนื่อยแย่เลย กินน้ำหน่อยไหมพี่ชาย?”
ชายหนุ่มยื่นขวดน้ำแร่ไปให้บุรุษที่ยืนอยู่หน้าคลาส ดีนไม่เคยพบไทสันมาก่อน เขาเคยได้ยินแต่เสียงร่ำลือว่าอีกฝ่ายเป็นไซคลอปส์ที่กำเนิดจากโพไซดอนและนิมฟ์สาวสุดสวย และเคยเห็นอีกฝ่ายเป็นแค่หน้าเบลอ ๆ ตอนที่โทรเครือข่ายไอริสหาซันซ์ …คิดว่าอีกฝ่ายก็คงเช่นเดียวกัน
“ในที่สุดก็ได้เจอนายสักที ขอบใจนะดีน”
ไทสันเงยหน้าขึ้นมาจากตำราเอกสารประกอบการสอน ยื่นมือมารับน้ำแร่ที่ดีนให้ด้วยแววตาสุกใส ไม่บอกก็รู้ โหงวเฮ็งของไทสันเป็นประเภทคนดีจิตใจงดงามแน่ ๆ
“โอ้ ยินดีที่ได้รู้จักนะพี่ชาย ฉันดีน นีล เรียกดีนล่ะถูกแล้ว” ทั้งสองเช็คแฮนด์ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ “ว่าแต่นายมีสองตาแฮะ ฉันนึกว่าพี่จะมีตาเดียว”
“แบบนี้เหรอ?”
ไทสันกล่าว จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างได้ไหลกองมาอยู่ตรงกลางเป็นตาใหญ่เพียงดวงเดียว เมื่อเห็นไซคลอปส์คลายมนต์ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ทำเอาดีนสะดุ้งอยู่หน่อย ๆ เขาแค่ล้อเล่นเฉย ๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำจริง.. แต่เมื่อได้เวลาใกล้สอนแล้วเขาก็แยกดวงตาทั้งสองออกดังเดิม
“ใกล้ได้เวลาเรียนแล้วนายไปนั่งที่ดีกว่านะ” ไทสันยิ้มบอก
“โอเค”
หันไปอีกทีนักเรียนวิชาอสุรกายศึกษาคาบบ่ายก็จับจองที่นั่งจนเต็มคลาสแล้ว เหลือเพียงที่นั่งหน้าสุดตรงกลางเพียงตัวเดียวที่เว้นเอาไว้ให้นั่ง ให้ตายสิ! ไม่ว่าจะเป็นชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยหรือค่ายฮาล์ฟบลัด ที่นั่งตรงนี้ก็ไม่เคยมีใครอยากนั่งไม่รู้ว่าทำไม ดีนที่ตัวสูงกว่าใครเพื่อนจึงจำเป็นต้องนั่งตรงนี้ อย่าให้ใครบ่นเขาว่ามองไม่เห็นกระดานก็แล้วกัน
“เอาล่ะ สวัสดีทุกคน เพื่อไม่ให้เสียเวลาวันนี้เราก็มาเริ่มเรียนกันเลย” คุณครูใจดียิ้มบอก ซึ่งไม่รู้จะมีเปลี่ยนโหมดเป็นโหดเมื่อไร “อสุรกายที่เราจะเรียนรู้กันในวันนี้คือฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นสัตว์พาหนะของมหาเทพโพไซดอน”
ผู้สอนหันหน้าเข้ากระดาน หยิบชอล์กวาดรูป ‘ม้าปลา’ ยุกยิก แม้ภาพจะไม่ได้สวยงามเหมือนในสมุดรวมภาพ แต่ก็เป็นลายเส้นที่น่ารักดีไม่หยอก อย่างไรเสียเด็กบ้านโพไซดอนก็มี ‘พรสวรรค์’ ที่จะเปลี่ยนอสุรกายน่าเกรงขามเป็นตัวการ์ตูนตะมุตะมิอยู่แล้ว
จะว่าไปก็ชวนนึกถึง.. ครั้งหนึ่งหลังภารกิจที่เฮติ พ่อส่งเรือเทียมฮิปโปแคมปัสสองตัวมารับเขาที่บาดเจ็บกลับสู่ลองไอแลนด์ แล้วสุดท้ายเขาก็มานอนสลบเหมือดคาชายหาดอยู่แถวนี้ ดีนยังคงจำชื่อฮิปโปแคมปัสสองตัวนั้นได้ ‘ไทร์รีม’ และ ‘แกลลี่ย์’ ไม่รู้ป่านนี้สองตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ตอนที่ไปแอตแลนติสได้นั่งเรือดำน้ำฮิปโปแคมปัสด้วยเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าจะไม่ใช่สองตัวที่เคยช่วยชีวิตเขาไว้นะ
“ม้าปลา–.. เอ้ย ฮิปโปแคมปัสเป็นชื่อภาษากรีกมาจากคำว่า ‘ἵππος’ (ฮิปโป) แปลว่าม้า และ ‘κάμπος’ (แคมโปส) แปลว่าสัตว์ทะเล ผสมกัน โดยลักษณะของฮิปโปแคมปัสจะมีส่วนหัวและขาหน้าเหมือนม้า แต่ลำตัวช่วงล่างและหางจะเป็นปลาคล้ายกับเงือก บางครั้งอาจถูกพรรณนาว่ามีครีบหรือแผงคอที่พลิ้วไหวเหมือนสาหร่ายทะเล ฮิปโปแคมปัสถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่สง่างามและมักปรากฏในตำนานที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเล……. ………. ………. …………”
การบรรยายของไทสันไม่ค่อยเข้าหูเท่าไรเนื่องจากอาหารกลางวันจากยอดฝีมือเชฟฮาร์ปี้ทำพิษ (?) กอปรกับสายลมพัดโกรกจากทะเลเย็นสบาย ทำคอมโบกับเสียงคลื่นที่ซัดสาดเป็นจังหวะ ทำเอาหนังตาของชายหนุ่มค่อย ๆ ปรือลงเรื่อย ๆ เอาเข้าจริงที่นี่ไม่เหมาะกับการเป็นคลาสเรียนเลยสักนิด แต่เหมาะกับเอาไว้ทำสปา นวดน้ำมันและอาบแดดเสียมากกว่า
ทว่าเสียงของไทสันก็ทำให้เขาสะดุ้ง
“เอาล่ะ จากที่อธิบายไปเมื่อกี้ใครตอบได้บ้างว่า ทำไม ‘ฮิปโปแคมปัส’ ถึงกลายเป็นชื่อส่วนหนึ่งของสมองได้” ไทสันกวาดสายตา ทว่าไม่มีใครยกมือตอบ เขายิ้มหวาน ไหน ๆ มีญาติต่างมารดาเป็นนักเรียนในชั้นแล้วก็เลือกญาติให้มาตอบหน่อยแล้วกัน “ดีน นายตอบคำถามข้อนี้ได้ไหม?”
“ฮะ! อะไรนะฉันเหรอ?” จากสัปหงกอยู่ ชายหนุ่มผู้สวมแว่นตากรอบหนาต้องรีบเด้งตัวขึ้นมาทำหน้าเหรอหรา “ถามว่าอะไรนะ ขอทวนคำถามอีกที”
ไทสันทำตาปริบ ๆ (ที่คล้ายกับว่าเขาเห็นตาทั้งสองข้างกองรวมกันเป็นตาเดียวอีกแล้ว..) แต่ก็ยินดีที่จะทวนคำถามอีกครั้ง
“ทำไม ‘ฮิปโปแคมปัส’ ถึงกลายเป็นชื่อส่วนหนึ่งของสมอง”
‘…แล้วไหงจากการบรรยายเรื่องม้าน้ำถึงกลายเป็น การทำงานของสมองส่วนฮิปโปแคมปัสไปได้ฟะ!’
ดีนโวยวายในใจ ไม่รู้ว่าเขาเผลอหลับในนานขนาดไหนกันแน่ จะว่าโชคดีไหมนะที่ตนเคยเรียนเรื่องนี้มาในมหาวิทยาลัย แล้วชีววิทยาก็เป็นอะไรที่เข้าทางเขาแบบสุด ๆ
“โอ้ แน่นอน เพราะว่าสมองส่วนนั้นหน้าตาเหมือนกับ ‘ม้าน้ำ’ แต่เป็นม้าน้ำที่ไม่ใช่ฮิปโปแคมปัส แต่เป็นม้าน้ำหน้าตาแบบนี้”
สายเลือดเจ้าสมุทรเล่นกลให้ชาวค่ายได้ชม เขาดึงน้ำจากมหาสมุทรมาส่วนหนึ่ง เสกสรรรูปร่างให้กลายเป็นม้าน้ำลอยไปลอยมาโลดแล่นเหนืออากาศ ก่อนจะสลายพลังคืนแก่ธรรมชาติไป เรียกเสียงปรบมือให้กับเด็ก ๆ ในคลาสได้เป็นอย่างดี
ไม่รู้ว่าตอบคำถามครบหรือยังดีนจึงสาธยายต่อ
“สมองส่วนฮิปโปแคมปัสเป็นโครงสร้างเล็ก ๆ ที่อยู่ลึกลงไปใน สมองกลีบขมับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบลิมบิก แต่ไม่ต้องไปจำชื่อก็ได้ มันยุ่งยาก” ชายหนุ่มยกมือขึ้นปัดไปมากลางอากาศ
“หน้าที่หลักของฮิปโปแคมปัส คือการสร้างความจำระยะยาว จากการแปลงข้อมูลจากความจำระยะสั้นให้กลายเป็นความจำระยะยาว เช่น การจดจำเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการเรียนรู้ ตรงตามข้อที่หนึ่งเป๊ะ คือการเปลี่ยนความจำระยะสั้นเป็นระยะยาว การนำทางและการเชื่อมโยงข้อมูล การจดจำตำแหน่งและการนำทาง หากสมองส่วนนี้เสื่อมหรือได้รับความเสียหาย จะเกิดความผิดปกติในระบบความทรงจำ อย่างเช่นโรคอัลไซเมอร์ในคนชรา”
จากการบรรยายทำเอาเด็กร่วมคลาสหลายคนอ้าปากค้าง บางทีเรื่องที่เขาพูดก็ยากเกินกว่าเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีจะเข้าใจ หลักจากที่เขาเห็นสีหน้าของหลาย ๆ คนถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองตอบเกินคำถามไปเยอะ ดีนจึงนั่งลงกับที่ก่อนจะยิ้มแหะ ๆ ไปให้ผู้สอนได้ทำหน้าที่ต่อ “ดีนอธิบายเกร็ดความรู้เสริมไว้ดีมาก เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะทุกคน” ไทสันช่วยพูดตบให้ข้อมูลข้างต้นแม้ว่ามันจะไม่เข้าประเด็น “เอาล่ะ ต่อไปก็—..”
ยังไม่ทันจะกล่าวจบประโยคกริ่งเลิกคลาสก็ดังขึ้นก่อน ดูเหมือนว่าที่ดีนสาธยายเรื่องการทำงานของสมอง จะกินเวลาสอนของไทสันไปพอสมควร
“ต้องเลิกคลาสแล้วล่ะ แต่ว่าทุกคนอย่าลืมไปค้นคว้าข้อมูลต่อกันนะ ไม่แน่ว่าในอนาคตพวกคุณอาจจะมีโอกาสได้นั่งเรือฮิปโปแคมปัสกันก็ได้”
“คร้าบ/ค่า” เด็กนักเรียนขานตอบ จากนั้นก็ทยอยกันออกจากชั้นเรียน ซึ่งดีนก็เหมือนกัน…
“สอนเก่งนี่นาไทสัน ไว้เจอกันที่บ้านนะพี่ชาย”
คนเป็นน้องเดินไปตบบ่าพี่ชายไซคลอปส์ปุ ๆ แต่ที่ไทสันบอกให้ไปค้นคว้าเพิ่ม… มันคือเรื่องอะไรกันนะ?
เรียนวิชาอสุรกายศีกษา วันที่ 1/4 +10 EXP , +20 ความกล้า
----------------------------------
มอบ [น้ำแร่] แก่ [ไทสัน] |