หลังจากมาราธอนปั่นงานตลอดหลายวัน ในที่สุดก็วนกลับมาถึงคาบเรียนของไทสันอีกครั้ง ครั้งนี้เนเรซ่าพกผ้ามาปูที่พื้นทราย เธอมาพร้อมกับเมเรซที่ดูจะให้ความสนใจการบ้านชิ้นที่เธอได้รับมอบหมายให้ทำ หนุ่มหน้าหวานผมชมพูอ้าปากหาวเขาเอียงคอซ้ายขวาจนได้ยินเสียงกระดูกเบา ๆ ที่แสดงถึงความเมื่อยล้า “ ไว้ฉันนวดให้เอาไหม? ” เนเรซ่าพูดโดยไม่หันไปมองเขา ดวงตาของเธอกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของชิ้นงานในมือ สวนทางกับเมเรซที่ตาปรือจนแทบปิด
“ ไม่ต้อง ฉันกลัวตาย ”
เสียงยานคางของคุณชายเชอร์วาลทำให้เนเรซ่ากรอกตา เธอรู้ว่าเขาหวงตัว เข้ากับคนยาก และปากไม่ตรงกับใจ แต่บางครั้งเจ้าหมอนี้ก็สมควรถูกยกขึ้นเขย่า ๆ จริง ๆ มือเนียนของสาวสวยจากตระกูลเฮนลาดิสยกขึ้นตะปบกลางหลังเขาก่อนจะเลื่อนไปบีบไหล่กว้างนั้นอย่างแรงจนมีเสียงโอดโอยหลุดออกมา “ ยัยบ้านี่แรงเยอะชะมัด ”
“ ฉันได้ยินนะ ” คงเป็นเพราะอายุเท่ากัน อันที่จริงเมเรซเกิดก่อนเธอแต่ด้วยระยะห่างที่ไม่มากทำให้พวกเขาไม่นับลำดับว่าใครเป็นพี่เป็นน้อง เนเรซ่าผ่อนลมหายใจออกผ่านริมฝีปากเธอยกมือขึ้นเสยผมสีบลอนด์ไปด้านหลังเมื่อมั่นใจแล้วว่าผลงานในมือดูเรียบร้อยดี มันเป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้มีโอกาสให้ต้องทำการบ้านหรืออะไรที่เป็นจริงเป็นจังจำพวกนี้ ‘ ฉันคงไม่ได้ลืมอะไร.. ต่อให้ลืมไว้ค่อยพูดเสริมในตอนพรีเซนท์ก็ได้ ’
หลังจากนั่งเอ้อระเหยอยู่นาน ในที่สุดไทสันก็มาถึง วันนี้ผู้บรรยายของวิชาอสูรกายยังดูสดใสเป็นกันเอง เขาทักทายด้วยประโยคเปิดเหมือนทุกครั้งพร้อมกับเปรยว่าวันนี้จะเรียนเกี่ยวกับลูมินาเรและมิโนทอร์ เนเรซ่าผิวปากเบา ๆ ข้อมูลของมิโนทอร์เป็นสิ่งที่แม้แต่มนุษย์ทั่วไปก็ยังล่วงรู้ ความซับซ้อนของตำนาน เรื่องเล่าขานและความเชื่อ .. คาบเรียนครั้งนี้คงมีหลายคนแย่งกันตอบน่าดู
“ ก่อนที่เราจะเริ่ม เนื่องจากครั้งก่อนมีคนที่ได้รับการบ้านไป ” ไทสันกล่าวพร้อมรอยยิ้มกว้าง แววตาของเขาเจือประกายตื่นเต้นที่จะได้เห็นคนนำเสนอการบ้าน “ หลายคนคงจะจำได้ว่ามีคนที่สนใจความแตกต่างของอัลกูลและกูล ผมจึงมอบหน้าที่ในการค้นคว้าให้กับหลายคน และก็มีตัวผู้ที่ถามเมื่อวานด้วยเช่นกัน ”
ไทสันหันไปมองเนเรซ่า เขาขยับมือล้วงกระเป๋ากางเกงพยักหน้าเป็นสัญญาณเรียกให้เธอลุกขึ้น “ รบกวนด้วยคุณเฮนลาดิส ” เนเรซ่าสูดหายใจ เธอหันไปมองเมเรซเพื่อจะขอกำลังใจแต่หมอนั่นกลับทำหน้าง่วงเสมือนจะหัวปักลงกับทรายได้ทุกเมื่อ ที่ปรึกษาประจำเคบินสิบหัวเราะหึในลำคอ เธอกระชับการบ้านในมือก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาไทสันท่ามกลางเสียงปรบมือจากเพื่อนร่วมค่ายบางคนที่ดูตั้งตารอ
“ นี่ค่ะไทสัน รบกวนด้วย ” เนเรซ่ายื่นแฟ้มการบ้านให้เขารับไปตรวจสอบ เหล่าตัวอักษรที่ร้อยเรียงมาเป็นอย่างดี ภาพวาดเสมือนจริงที่คัดเลือกมาจนใกล้เคียงกับสภาพการบรรยายมากที่สุด เธอสังเกตเห็นว่าไทสันเลิกคิ้วขึ้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามาถามเธอ
“ คุณต้องการให้ผมทำอะไร ”
สาวผมบลอนด์จากเคบินสิบหัวเราะ “ ง่ายมากเลยไทสัน ” เธอถอยหลังสองสามก้าวไปยังบริเวณกลางสายตาของผู้คน “ โปรเจคเตอร์เหมือนที่คุณทำเพื่อให้หลายคนเห็นภาพรวมเสมอ ” เมื่อสายเลือดอะโฟรไดท์อยู่ใกล้เคียงกับทะเล ไทสันสังเกตฟองทะเลที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับเปลือกหอยสวย ๆ หลายชิ้นที่ถูกพัดมา ผู้บรรยายคนเก่งประจำวิชาอสูรกายส่ายหัวด้วยความขบขัน
“ สวัสดีค่ะทุกคน ” ธรรมชาติอันลื่นไหลของธิดาอะโฟรไดท์ดึงดูดให้หลายคนให้ความสนใจ เธอยิ้มเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ หันไปมองเกลียวคลื่นที่เริ่มหลอมรวมกลายมาเป็นรูปทรงลักษณะของกูลและอัลกูล เนเรซ่าหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอพยักหน้าให้กับไทสันเชิงว่าเขาทำงานได้ถูกเวลาจนไซคลอปส์หนุ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ “ ถึงจะอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่ทั้งสองมีความแตกต่างในระดับที่เล็กน้อยแต่ก็ยังสังเกตได้ทั้งในทางกายภาพและความคิด ”
“ เมื่อพูดถึงกูล ” สองมือของเธอช้อนประคองใต้กลุ่มน้ำทะเลที่ดัดเป็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ตัวค่อนข้างเล็กดูปราดเปรียว เนเรซ่ากางมือออกเล็กน้อยเชิงบอกความต้องการของเธอด้วยท่าทาง และไทสันก็ให้ความร่วมมือด้วยการขยายรูปทรงจำลองของกูลให้ใหญ่ขึ้น “ ลักษณะทางกายภาพของมันค่อนข้างเล็กสำหรับอสูรกาย เนื่องจากกูลตัวใหญ่กว่ามนุษย์ไม่มาก พวกเขามีสองแขน สองมือเหมือนกับเรา แต่ใช้วิธีเคลื่อนตัวด้วยสี่ขาเหมือนสัตว์ ”
หลายคนที่ฟังอยู่เบ้หน้าเมื่อนึกภาพตาม ทำให้เจ้าของผลงานหัวเราะเบา ๆ “ อย่าประมาทว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวช้าหรือเทอะทะ ถึงจะใช้วิธีเคลื่อนไหวที่ไม่เอื้ออำนวยต่อสรีระของคน แต่อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นสัตว์ประหลาด ความว่องไวมีมากกว่าพวกเราเป็นทุนเดิม ” เนเรซ่าหันไปหาไทสันเชิงว่าต้องการคำยืนยันข้อมูลจากเขา ซึ่งเจ้าของชั้นเรียนก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
“วิธีการดูว่ากูลเป็นกูลคือผิวที่ซีด ซีดในระดับที่ค่อนไปทางน้ำตาลเหลือบเทา ร่างกายหยาบ เต็มไปด้วยเส้นเลือดที่นูนขึ้น ” ปลายนิ้วของเนเรซ่าจิ้มลงน้ำทะเลที่รวมเป็นรูปร่างตรงหน้า ก่อนจะปัดภาพของกูลไปข้าง ๆ แล้วเอื้อมไปรองน้ำทะเลรูปทรงอัลกูลมาไว้ตรงหน้า “ เมื่อเทียบกับอัลกูลที่มีขนาดใหญ่กว่าโดยธรรมชาติ สีผิวค่อนข้างเข้มกว่า ช่วงปากและฟันกว้างรวมไปถึงแหลมคมกว่า ”
“ ถึงจะสังเกตได้ยาก แต่ก็ยังสังเกตได้ ” เธอสูดหายใจเข้า ทบทวนความแตกต่างในใจอีกครั้งก่อนจะกล่าวต่อ “ สีของอัลกูลไม่ได้ซีดเหมือนกูล สีตัวของพวกเขาเป็นน้ำตาลแดงจนเกือบดำ มีหนามแหลมตามแนวกระดูกสันหลัง อธิบายแบบเข้าใจได้ง่ายตามประสาวัยรุ่น และความคิดส่วนตัว.. ย้ำนะ ความคิดส่วนตัว รูปลักษณ์ของอัลกูลก็เหมือนกูลที่เป็นร็อคสตาร์ ”
เนเรซ่าขยิบตาอย่างขี้เล่น เสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วชั้นเรียน หลังจากความตึงเครียดของเนื้อหา ในที่สุดก็มีอะไรที่ผ่อนคลายลงบ้าง สาวสวยจากเคบินสิบสะบัดมือปัดกลุ่มน้ำทะเลทั้งสองออก เนเรซ่าดัดนิ้วตัวเองช้า ๆ เธอหลุบตาลง “ และถ้าพูดถึงเรื่องความคิด หนึ่ง คุณต้องเข้าใจก่อนว่ากูลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสมองหรือแนวคิด พวกมันเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ และมองที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่วิธีการ ”
“ พวกเขาอยู่ด้วยกันเป็นฝูง อันที่จริงใช้คำว่าฝูงไม่ได้ด้วยซ้ำ เดิมทีกูลแค่รวมกันอยู่ในบริเวณที่ง่ายต่อการหาอาหาร ” เธอยกมือขึ้นเสยเส้นผมของตัวเอง เสียงของเธอยังคงก้องกังวานในระหว่างที่กวาดสายตามองทั่วชั้นเรียนด้วยความมั่นใจ “ ดังนั้นพวกเขาจึงเกิดการทะเลาะในหมู่พวกเดียวกันเพื่อแย่งอาหาร ไม่เหมือนกับอัลกูล เจ้าพวกนี้ไม่มองแค่เฉพาะผลลัพธ์พวกมันมีวิธีการมีแบบแผน และอันตราย ”
“ เหมือนกับที่ไทสันบอก เมื่อพบฝูงกูลที่มีอัลกูล เราจำเป็นต้องกำจัดอัลกูลก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้ฝูงนั้นประสานงานกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ” เนเรซ่าสูงหายใจอีกครั้ง ครั้งนี้เธอขยับขาซ้ายไปด้านหลัง ย่อลงถอนหายบัวอย่างงดงาม “ ทั้งหมดเท่านี้ค่ะ รายละเอียดเหนือจากนี้ทุกคนสามารถอ่านได้จากแผ่นพับที่ฉันทำ.. เมเรซ ”
เธอปรายตามองผู้ช่วย(?) พี่ชายหน้าง่วงที่ปรือตามองด้วยสายตานิ่ง ๆ ชายผมชมพูถอนหายใจหนึ่งครั้งและลุกขึ้นเดินแจกจ่ายแผ่นพับที่เป็นข้อมูลของกูลและอัลกูลให้กับทุกคน เนเรซ่ามองภาพนั้นด้วยความพึงพอใจก่อนจะหันไปหาไทสัน “ หวังว่าคะแนนคงไม่แย่นะคะ ”
“ คุณทำได้ดีเลยล่ะ ข้อมูลในกระดาษครบถ้วน แล้วคุณก็ย่อยมาเป็นพรีเซนต์ได้ดี ” ไทสันพยักหน้าอย่างชื่นชม เขาปิดกระดาษการบ้านฉบับจริงลงอย่างถนอม สายตาของเขามีความชื่นชม ผสมผสานกับแผนการที่คิดจะนำสิ่งในมือไปทำอะไรบางอย่าง “ คุณจะว่าอะไรไหมถ้าต่อจากนี้ผมใช้มันในการเป็นเอกสารประกอบสำหรับสอนเด็กใหม่ ๆ ที่อาจจะยังไม่เคยเรียนเรื่องนี้? ”
“ ตามสบายค่ะ เป็นเกียรติมากที่ช่วยคุณได้ ”
ไทสันพยักหน้าและถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ ปกติแล้วคนทำหน้าที่ส่วนนี้มักเป็นเด็ก ๆ บ้านอะธีน่า แต่พวกเขาก็คิดราคาเอาไปใช้งานค่อนข้างแพง ” ไซคลอปส์หนุ่มหัวเราะเบา ๆ เขาผินหน้ามองสมาชิกในชั้นเรียนที่ให้ความสนใจกับเนื้อหาภายในกระดาษส่งการบ้านที่ถูกคัดลอกไว้เกือบสิบฉบับ “ อันที่จริงผมไม่คิดว่าคุณจะทำมาเยอะขนาดนี้ ”
“ ฉันทำใหญ่มากไม่ถนัด เลยทำหลายอันดีกว่า มีคนช่วยด้วยน่ะ ” สาวผมบลอนด์จากเคบินสิบส่ายหัวเพื่อไม่ให้เขาแสดงท่าทางเกรงใจไปมากกว่านี้ ดวงตาของเธอเรืองขึ้นเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิใจ ไม่ปฏิเสธว่าการเป็นคนที่ทำอะไรนอกเหนือความคาดหมายของผู้อื่นค่อนข้างที่จะ.. สนุก ริมฝีปากสีกุหลาบเหยียดออกเป็นรอยยิ้มไม่กว้างไม่แคบแต่ก็มีเสน่ห์เหลือร้าย “ วันนี้เป็นลูมินาเรกับมิโนทอร์สินะคะ .. ฉันจะรอฟัง ”
“ คงไม่ใช่ว่าเรื่องนี้คุณก็รู้อยู่แล้วหรอกนะ ? ”
คำพูดของไทสันทำให้เนเรซ่าที่กำลังตั้งท่าหมุนจะเดินจากไปชะงัก เธอหันกลับไปมองเขาด้วยสายตาขบขัน “ ไม่รู้สิ .. รู้อยู่แล้วหรือเปล่านะ? ” เธอทิ้งท้ายปริศนาเอาไว้แบบนั้นให้หนุ่มไซคลอปส์ที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ
‘ ให้ตาย ดูเหมือนจะเจอตัวแสบเข้าให้แล้ว.. ’
…
เมื่อพ้นช่วงเวลาส่งการบ้าน ในที่สุดการเรียนการสอนของคลาสนี้ก็เริ่มอยากเป็นทางการ หลังจากเรียนเรื่องลูมินาเร ไทสันยังคงใช้น้ำเป็นสื่อกลางช่วยทำให้นักเรียนได้เห็นภาพในสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจสำหรับเรื่องของมิโนทอร์ แต่ในครั้งนี้นอกจากลักษณะทางกายภาพหรือนิสัยใจคอ ยังมี fun fact สนุก ๆ ทางตำนานให้ได้ฟังเพื่อเป็นอรรถรสเสริมอีกด้วย “ ถ้าจะให้พูดถึงต้นกำเนิดของมิโนทอร์ เราคงต้องย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่เกาะครีต และกรุงเอเธนส์ยังคงรุ่งเรือง ในตอนนั้นมีราชาองค์หนึ่งของเกาะครีตนามว่าไมนอสกำลังวิตกกังวลอยู่กับความเสี่ยงที่ญาติพี่น้องของเขาจะมาแย่งชิงราชสมบัติ เขาจึงได้อ้อนวอนขอให้โพไซดอนช่วยประทานโคเผือกให้กับเขา เพื่อที่จะได้เป็นหลักฐานยืนยันว่าราชาไมนอสองค์นี้ได้รับการสนับสนุนจากทวยเทพ ” เสียงของไทสันยังคงสงบและน่าฟัง โดยเฉพาะเมื่อมีชื่อของพ่อเข้ามามีเอี่ยว ลึก ๆ แล้วเจ้าตัวก็เหมือนจะภูมิใจอยู่ไม่น้อย
“ เนื่องจากไมนอสสัญญาว่า เมื่อได้โคเผือกตัวนั้นแล้ว ไมนอสจะทำการเชือดมันเพื่อเป็นการบวงสรวงให้แก่โพไซดอน ในเวลานั้น โพไซดอนเลยได้ตกลงที่จะมอบโคเผือกให้ ทว่าเมื่อได้เห็นโคเผือกที่ถูกประทานมาจากเทพ แทนที่จะทำตามสัญญา ไมนอสกลับเปลี่ยนใจ เนื่องจากความสง่างามที่มีมากของโคตัวนั้นจนนำไปสู่การหลอกลวงทวยเทพด้วยการลักลอบนำโคตัวอื่นมาสังเวยแก่โพไซดอน ”
“ แน่นอน คุณพ่อของผมไม่ได้โง่ ดังนั้นเทพโพไซดอนจึงโกรธมากที่ไมนอสไม่รักษาสัจจะจึงไปขอให้เทพีอะโฟรไดท์ช่วยเหลือในเรื่องหนึ่ง ” ไทสันหัวเราะเบา ๆ เขายิ้มก่อนจะหันไปมองสายเลือดอะโฟรไดท์บางคนที่มาเข้าร่วมชั้นเรียน เพื่อไม่ให้การฟังน่าเบื่อหรือเงียบเหงา “ มีใครรู้บ้างไหมครับว่าทำไมโพไซดอนถึงต้องไปขอให้อะโฟรไดท์ช่วย? บ้านอื่นก็ตอบได้นะ ลองตอบกันดู ”
หลายคนตอบว่าเพื่อบันดาลให้ชีวิตรักของไมนอสพบเจอแต่คำโกหก ไม่ก็บันดาลให้โคเผือกนั้นตกหลุมรักโคตัวอื่นจนหนีหายไป หรืออื่น ๆ อีกมากมายสารพัด แต่มีอยู่คนหนึ่งที่นั่งยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร จนคนที่อยู่ข้าง ๆ นึกสงสัย “ เธอรู้เหรอว่าแม่ทำอะไร ” เมเรซโน้มตัวมากระซิบถามด้วยความสนใจ ดวงตาสีมูนสโตรของเนเรซ่าละจากไทสัน ชำเลืองมามองเมเรซเล็กน้อย
“ โอ้ ที่รัก.. นายไม่อยากรู้หรอก ”
นั่นเป็นการบอกอ้อม ๆ ว่าเธอรู้ เมเรซขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะหันกลับไปหาไทสันที่เริ่มปรามทุกคนให้เบาเสียงเพื่อที่เขาจะได้เล่าต่อ “ เอาล่ะทุกคน พอก่อน ๆ เป็นความคิดที่ดีมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่โพไซดอนขอให้อะโฟรไดท์ช่วยนั่นก็คือการให้เทพีแห่งความรักดลบันดาลให้ปาซีฟา มเหสีของไมนอสในเวลานั้น หลงใหลในโคเผือก ”
“ อะไรนะ ?? ”
เสียงของเด็ก ๆ ในชั้นเรียนดังระงมจนเนเรซ่าหลุดหัวเราะ ส่วนเมเรซที่ไม่เคยจะสนใจเรื่องตำนานตอนนี้ถึงกับอ้าปากค้าง ในเวลานั้นไทสันกำลังอธิบายต่อว่ามิโนทอร์เกิดมาด้วยสาเหตุนี้ที่พระชายาปาซีฟาหลงใหลในโคเผือกและลักลอบประเวณีผิดธรรมเนียมจนตั้งครรภ์ คำอธิบายคร่าว ๆ นี้ก็ทำหลายคนช็อคจนปิดปากกันไม่สนิท แต่นั่นยังไม่พอสำหรับเด็กสาวบ้านอะโฟรไดท์
เนเรซ่าโน้มตัวไปประชิดเมเรซ เธอขยับริมฝีปากกระซิบเขาเบา ๆ ด้วยเสียงไม่รีบร้อน ไม่กระโตกกระตาก “ ฉันจะบอกให้.. ปาซีฟาหลงใหลในโคเผือกตัวนั้นมากจนถึงขั้นปรารถนา ดังนั้นนางจึงสั่งให้ช่างฝีมือแกะสลักรูปนางโคตัวหนึ่งโดยเจาะโพรงไว้ภายใน แล้วเอาหนังโคมาคลุมด้านนอกของรูปสลัก ” ดวงตาเฉียบคมของจิ้งจอกสาวสังเกตเห็นลูกกระเดือกที่เคลื่อนตัวตามการกลืนน้ำลายของเมเรซ มุมปากของเธอยกขึ้นเป็นเชิงขบขัน
“ จากนั้นในเวลากลางคืน.. ปาซีฟาจะเข้าไปอยู่ในโพรงของรูปสลักนางโคเพื่อให้เจ้าโคเผือกนั้นเสพสม ”
“ ไรนะ !! ”
ใบหน้าของหนุ่มผมชมพูแดงซ่าน เจ้าตัวดันตัวลุกขึ้นพูดเสียงดังจนไทสันยังชะงัก “ มีอะไรสงสัยเหรอครับเชอร์วาล? ” ไซคลอปส์รุ่นพี่ยิ้มถามอย่างสุภาพ ผิดกับรุ่นน้องชายที่อับอายจนหน้าแดงก่ำ ส่วนตัวสาเหตุตอนนี้กำลังขำจนตัวงออยู่ที่พื้น
“ ม ไม่มีอะไร เล่าต่อเลย ”
และคาบเรียนก็ดำเนินต่อไปด้วยตำนานของมิโนทอร์ที่เป็นฝันร้ายของเมเรซ เมื่อข้าง ๆ ยังมีเนเรซ่า เนิร์ดสาวคนสวยสายตำนานปกรณัมที่คอยเล่าตำนานฉบับไม่เซนเซอร์ให้ฟังไปตลอดทั้งคาบ..

เข้าเรียน +10 EXP , +20 ความกล้า
การบ้าน
กุญแจนำทาง
+15 คะแนนบ้าน และ +15 EXP