กับเรื่องอาวุธของค่ายเขานั้นเข้าใจดีอยู่แล้วว่า สิ่งของที่เขาติดตัวมาด้วยนั้น มันไม่สามารถล้ม มิโนทอร์ หรือ ไซคลอปส์ได้ง่ายๆแม้แต่จะยิงเข้าตามันโดยตรงอย่างคงทำได้เพียงระคายเคือง แต่ก้ไม่สามารถทำอะไรมันได้อยู่ดี เพลอจะยิงเข้าตายังจะไม่เข้าด้วยซ้ำ.. แต่!
ก็ไม่ได้หมายความว่าการที่เขานั้นเอาปืนจากโลกมนุษย์เข้ามาฝึกยิงในลานฝึกไม่ได้นี่นา.. อย่างน้อยเขาก็สามารถได้ปลดปล่อย หรือไม่ ก็ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโจมตีด้วยอาวุธได้ เพราะเขานั้นพกปืนมาแทบจะทุกไซส์มาในตู้นิรภัยเคลื่อนที่ ตั้งปืนเล็กสั้น ไล่ขนาดไปจนถึงใช้กระสุนขนาด 12.7 มม. และเบิ้มๆอย่าง ขนาดลำกล้อง 20 มม. เป็นขนาดต่อต้านยานเกราะ ซึ่งเขาไม่ได้เอามาเพื่อยิงมอนส์เตอร์อยู่แล้ว เพราะกระสุนจำพวกที่ทำจากตะกั่วหรือยูเรเนี่ยมหมดสภาพ มันไม่สามารถทะลุร่างของสัตว์ประหลาดในเทพนิยายได้อย่างแน่นอน.. รึเปล่า?
วันนี้ที่ลานยิงธนู จอห์นพร้อมกับคลังแสงที่เขานั้นขนมาจากบ้าน"บางส่วน" ย้ำว่าบางส่วน ได้เข้ามาในลานยิงธนูและเปิดกรุ.. อาวุธขนาดต่างๆพร้อมกับเครื่องกระสุนที่เหมาะสมกับอาวุธทุกกระบอกในคลังแสงเคลื่อนที่ของเขา
แม้จะเป็นมนุษย์กึ่งเทพก็ตาม เมื่อได้เห็นชายร่างใหญ่หยิบปืนพกขนาด .44 อย่าง "อินทรีย์ทะเลทราย" ออกมา เสียบตลับกระสุนเข้ารังเพลิง ลูกเลื่อนสับเข้าที่ ชายร่างใหญ่ยื่นปืนออกไปที่ด้านหน้าพร้อมกับหูฟังปิดกันเสียงที่ใส่เอาไว้อย่างเรียบร้อยและเตรียมเล็ง
*ปัง!!*
เสียงปืนนัดแรกของการยิงทำเอาคนในลานซ้อมยิงธนูถึงกับต้องอุดหูไปตามๆกัน เพราะความดังในการระเบิดหัวกระสุนออกจากรังเพลิงในปืนธรรมดานั้นก็ว่าดังแล้ว แต่เมื่อเป็นเจ้า "เจ้าวิหคทะเลทราย" ที่ขนาดดินปืนขับออกมานั้นมีมากกว่า ทำให้เสียงและแรงถีบของปืนนั้นมากกว่าเป็นเท่าตัว กระสุน.44 ยิงเฉี่ยวหัวเป้าซ้อมไป นั้นทำให้เขานั้นแอบยิ้มมุมปากเล้กน้อย ก่อนที่จะ..
*ปัง!! ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ*
กระหน่ำกระสุนในตลับจนหมดพร้อมสับเปลี่ยนตลับใหม่เข้าด้ามปืนอย่างรวดเร็ว ด้วยความคุ้นชินและเป็นมืออาชีพ ก่อนที่จะยิงจนหมดตลับปืน และต่อมา เขาได้วางปืนพกก่อนที่จะหยิบปืนจู่โจมขนาดกระสุน .45 ACP Kriss Vector กับเครื่องเก็บเสียง เสียบตลับกระสุนบรรจุ 30 นัด ก่อนที่จะสาดเข้าเป้าหมายจนพรุน ตลับแรกผ่านไป ตามด้วยตลับกระสุนที่สองและสามตามมา ซึ่งใช้เวลาในการหยุดพอสมควรเพื่อไม่ให้เครื่องเก็บเสียงนั้นพังเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มสับเปลี่ยนตลับกระสุนตลับถัดไป
หลังจากนั้น ขนาดของอาวุธของเขานั้นก็เริ่มใหญ่ขึ้น ยาวขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น
ต่อจาก Kriss Vector นั้น คืออาวุธที่เขานั้นใช้มันบ่อยยที่สุด และผ่านการดัดแปลงจนกลายเป็นไรเฟิลจู่โจมในแบบฉบับของตัวเอง คราวนี้เขาเอาออกมาสองกระบอก เพื่อนำมาใส่เครื่องเก็บเสียงฉบับดัดแปลงสำหรับไรเฟิลของเขาเอง ทั้ง AR-15 และ AR - 10 แทบจะทุกอย่างนั้นคล้ายกัน แต่จะต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ กระสุนที่ใช้ของทั้งสองกระบอกนั้นจะแตกต่างโดยสิ้นเชิง ความเพลิดเพลินของเขานั้น แม้ว่าเขานั้นจะใส่เครื่องเก็บเสียงที่เพียงพอสำหรับกับสำหรับเสียงที่ผู้คนนั้นสำหรับพอรับไว้ แต่เชื่อเถอะ ว่มันไม่ใช่สำหรับทุกๆคน..
ซึ่งมันก็เป็นเชช่นนั้น เพราะไม่นานนักหลังจากที่เขานั้นฝึกยิงจนเป้าที่นี้นั้นเสียหาย จอห์นก็ถูกผู้ดูแลของาถานพยายาลเช่นออก เนื่องจากทำลายทรัพย์สินของทางค่าย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คิมอามิน วึ่งเจ้าตัวเองก็กำลังจะเข้ามาซ้อมยิงธนูอยู่ด้วยในขณะนั้น แต่เมื่อเห็นสภาพที่จอห์นนั้นทำให้เป้า นางก็ด่าจอห์นชุดใหญ่ ก่อนที่จะเชิญแกมบังคับให้ออกจากลานซ่อมยิงธนูในทันที ซึ่งเข้าตัวนั้นก็ไม่อาจจะขัดอะไรได้ เพราะดูจากสีหน้าของคนที่อยู่ในนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครสักคนที่พอใจ เขาจึงเก็บสรรพพาวุธทั้งมอดใส่ตู่เคลื่อนที่ก่อนที่จะลากมันออกไปนั่งที่ฟั่งตรงข้ามของทางเข้า กับเครื่องดื่มแก้กระหาย กับความเซ็งที่ถูกขัดจังหวะ ที่เขานั้น กำลังจะออกเดินทาง ไปทำภารกิจตามที่ทำนายเอาไว้ แต่ยังไม่มีใครเข้าร่วมเลย เป็นอะไนที่เขานั้นก็กังวลอยู่ไม่น้อย แต่ในขณะนั้นเอง..
"เฮ้ พี่ชาย"
เสียงๆนึงเอ่ยทักทายเขา และจอห์นก็พันไปมอง พลันเห็นหน้าของชายหนุ่มคนนั้นพรห้อมับคำถาม
"นั่งด้วยได้มั้ย?"
ชายหนุ่มที่จอห์นั้นไม่รู้จักเข้ามาขอนั่งด้วย พร้อมกับถุงกระดาษที่ด้านในนั้นมีขนมปังอยู่จำนวนนึง ซึ่งเจ้าตัวก็ควักขนมปักออกมาแล้วยื่นให้
"ขนมปังมั้ย?"
จอห์นที่เห็นท่าทางเป็นมิตรของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะรับขนมปังที่เขานั้นยื่นมาให้
"เห็นพี่ชายมีอะไรกำลังกลุ้มใจรึเปล่า?"
ชายหนุ่มเอ่ยถาม
"ก็.. ฉันแแำลังจะไปทำภารกหิจตามคำทำนาย ตอนนี้ฉันยังหาสมาชิกไปไม่ได้เลย"
จอห์นเอ่ย ขณะที่เขาเองก็กำลังกินขนมปังที่ชายหนุ่มนั้นให้ไปอย่างไม่เกรงใจ
"เดินทาง.. หมายความว่าจะมีอะไรสนุกๆอยู่ด้านนอกอย่างงั้นเหรอ?"
พอจอห์นฟังคำถามที่เขาเอ่ย ก็รู้สึกทะแม่งๆ เหมือนกับว่าเจ้าตัวนั้นอยากจะมีส่วนร่วมในการเดินทางครั้งนี้เช่นเดียวกัน
"ใช่.. เห็นว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องไปทำน่ะ"
จอห์นเอ่ยก่อนที่จะกัดขนมปังที่ชายหนุ่มยื่นให้
"งั้นผมขอไปด้วยคนสิ.."
"..อะไรนะ?"
จอห์นเอ่ยอย่างฉงน
"ก็.. คุณบอกว่าเดินทาง หมายความว่าคุณคงไม่ได้คนเดียวใช่มั้ยล่ะ?"
"ก็..ใช่ ฉันกำลังคิดว่าจะหาคนไปด้วยอยู่ คิดเสียว่าติดรถไปด้วย แค่นั้น เพราะฉันคิดว่าเรื่องของฉันเองฉันน่าจะเอาอยู่.."
ชายหนุ่มเอ่ยขณะที่กัดขนมปัง ก่อนที่เสียงนึงจะดังมาจากที่ไกลๆ
"คุณจอห์น.."
ชร่างใหญ่หันไปมองเห็นเด็กสาวของบ้านตนเองกำลังวิ่งตามหาแล้วก็เจอกัน
"ทีฟา.. มีอะไรเหรอ?"
ชายร่างใหญ่เอ่ย ขณะที่ชายหนุ่มที่นั่งข้างนั้นเองพลันแสดงความรู้สึกในใจของตนเองออกมาอย่างออกหน้าออกตา.. กับทรวดทรงของเธอคนนั้น..
"เฮ้อๆ ทำไมไม่บอกฉันเรื่องที่คุณกำลังจะออกเดินทางล่ะคะ?"
หญิงสาวเอ่ยอย่างเป็นห่วง
".. ชะตากรรมของใคร คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ มันจะดีกว่า ถ้าเธอจะอยู่เฝ้าบ้านของเราเอาไว้ ถ้าหากแม่มาหาแล้วไม่เจอใคร ท่านจะเป็นห่วงเอาได้"
"แต่ว่า.."
"ฉันจะรีบไปรีบกลับ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ตามนี้นะ"
จอห์นไม่แม้แต่จะให้อีกฝ่ายได้อธิบาย เขาลุกขึ้นแล้วลากตู้คลังแสงของตนเองกลับบ้านก่อนที่จะเตรียมตัวออกเดินทาง ทิ้งอีกฝ่ายให้เงียบ ไม่ได้พูดอะไร