เจ้าของ: God

[ใกล้กับสนามฝึก] อัฒจันทร์

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-3-21 15:52:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-22 06:59

042
หลงกลเข้าเต็มเปา

          ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดร้าวไปทั่วตัวอย่างที่คิด แม้จะนอนหลับสนิทไร้ซึ่งความฝัน แต่ก็ยังไม่อยากลุกขึ้นมาจากเตียงนอนสีน้ำเงินแสนนุ่มนิ่ม วันนี้ดีนเลยโอ้เอ้ช่วงเช้านิดหน่อยแถมออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งอย่างเช่นทุกเช้าไม่ไหว ขนาดเป็นคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอยังอดที่จะปวดกล้ามเนื้อไม่ได้ น้ำหนักของเสื้อเกราะและอาวุธสัมฤทธิ์แต่ละชิ้นไม่ใช่เบา ๆ เลย เมื่อถอดเสื้อผ้าออกส่องกระจก เขาเห็นร่องรอยของสายรั้งชุดเกราะขึ้นเป็นแนวช้ำบนไหล่กว้าง นานเท่าไรไม่รู้ถึงจะชิน แต่ก็จำเป็นจะต้องสวมใส่ให้ชินไปก่อนล่ะนะ

          ดีนมาที่อัฒจันทร์ตามเวลานัด ความจริงชายหนุ่มไม่ได้โกรธเคืองโซเฟียแล้ว แต่แสร้งพูดจาน้อย ๆ ทำเป็นโกรธต่อไปดีกว่าเพื่อที่เธอจะไม่ได้ข่มเขาอีก แล้วก็ได้ผล วันนี้หญิงสาวรุ่นพี่ผู้เป็นอาจารย์สอนหอกไม่ได้พูดจาดูแคลนใส่เฉกเช่นสองวันแรกที่พบหน้ากัน เธอตั้งใจสอนอย่างเดียวถึงจะเคร่งครัดบ้างแต่ก็อยู่ในจุดที่รับได้

          “เมื่อวานเรียนรู้วิธีการใช้หอกขั้นพื้นฐานไปแล้ว วันนี้ฉันจะสอนเกี่ยวกับการบล็อคป้องกันตัวเองโดยใช้โล่และการสวนกลับ”

          โซเฟียบรรยายภาคทฤษฎีนิดหน่อย ก่อนจะสาธิตโดยเรียกเด็กร่วมคลาสออกมาเป็นตัวอย่างหนึ่งคน ตอนแรกเธอปลายตามาทางดีน แต่พอเห็นว่าดีนทำหน้านิ่งใส่เธอก็เปลี่ยนไปเรียกเลนน็อค เด็กหนุ่มสายเลือดเทพแห่งมฤตยูมาแทน แต่ดูเหมือนว่าเลนน็อคจะพื้นฐานแน่นอยู่แล้วด้วยความขยันซ้อมและฝึกฝนมานานกว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหมอนั่นถึงมาร่วมชั้นเรียนอีก หรืออาจจะแค่อยากมาทบทวนความรู้

          เมื่อการสาธิตหน้าชั้นเรียนจบลงโซเฟียก็สั่งให้เด็ก ๆ ในคลาสจับคู่ซ้อมกัน คนหนึ่งเป็นฝ่ายรุก ส่วนอีกคนเป็นฝ่ายตั้งรับ

          “เลนน็อค นายไปจับคู่กับดีน”

          “ครับ”

          จู่ ๆ ก็ถูกยัดคู่มาให้เสียอย่างนั้น เด็กผมดำหน้านิ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรมาเป็นคู่ซ้อมให้กับดีนเสียโดยดี

          “รบกวนด้วยนะ คือว่าฉันยังไม่ค่อยชินกับการต่อสู้เท่าไร อย่าเพิ่งเบื่อไปซะก่อนล่ะเลนน็อค”

          เด็กหนุ่มพยักหน้ารับหงึก ๆ แม้จะดูเป็นคนเย็นชาแต่ดีนก็จับได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ค่อนข้างเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายใครใช้ให้ทำอะไรก็ทำ

          ครึ่งแรกดีนเป็นฝ่ายรุกก่อน ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เลนน็อคที่เชี่ยวสนามกว่าสามารถหลบหอกอันเหยาะแหยะของเขาได้อย่างกระฉับกระเฉง ดูแล้วเท่ชะมัดอย่างกับตัวเอกในการ์ตูนโชเน็น แต่พอถึงคราวต้องสลับมาเป็นฝ่ายตั้งรับเนี่ยสิ…

          ปึก! ปึก! ปึก!

          หอกสัมฤทธิ์แทงใส่ดีนไม่ยั้งจนเขาต้องหลับตาปี๋ รวดเร็วไม่พอแถมยังหนักหน่วง ดีนได้แต่ยกโล่ขึ้นมากันแล้วก็ลืมสเตปหลบแล้วโต้กลับที่โซเฟียสอนไปทั้งหมดเลย

          “เอาล่ะ เลิกคลาสได้ แต่ดีนอยู่ต่อก่อน”

          “อ้าว..”

          เมื่อได้สัญญาณจบคลาส เด็ก ๆ ก็หยุดการฝึกแล้วทยอยเดินออกไปจากสนาม หนุ่มน้อยผมดำที่เป็นคู่ซ้อมก็ด้วยเช่นกัน เขาค้อมศีรษะให้ดีนและรุ่นพี่สาวก่อนจะถอยฉากไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือแต่เพียงแค่ดีนที่ทำหน้าเหวอ ต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่น่ากลัวคนนี้ในอัฒจันทร์เพียงลำพัง

          “จำที่ฉันสอนไม่ได้หรือไงดีน นีล?” การเรียกทั้งชื่อและนามสกุลพร้อมกันทำเอาเจ้าของชื่อขนลุกซู่ เหมือนเป็นการเน้นย้ำกลาย ๆ ว่า ‘นายไม่รอดแน่’ แล้วพอเห็นว่าชายหนุ่มไม่ตอบโซเฟียก็ใช้หอกสัมฤทธิ์ของเธอกระทุ้งโล่ที่ชายหนุ่มถือไว้ด้วยน้ำหนักที่พอควร “ฉันถามนายก็ตอบ”

          “จำได้” จำเป็นต้องกัดฟันตอบกลับไป ไม่ใช่อะไร ถ้าไม่กัดฟันให้แน่นมีหวังอีกฝ่ายได้ยินเสียงฟันของเขากระทบกันแน่ ๆ

          “แล้ว?”

          “แต่ทำไม่ได้”

          เพียงได้ยินคำตอบหญิงสาวก็หัวเราะเหมือนสมเพชในตัวเขาหนักหนา

          “มันไม่ได้ยากอะไรเลย เด็ก ๆ ทุกคนที่มาวันนี้ทำได้หมด”

          “แต่ฉันทำไม่ได้นี่ เธอจะมาเร่งรัดให้ฉันทำทุกอย่างได้ตั้งแต่คาบที่สองได้ยังไง?”

          “เหรอ?” หญิงสาวพรูลมหายใจออกมาพลางหลุบสายตามองพื้น คิดไปเองหรือเปล่าว่าเขาเห็นไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวกำลังสั่นไหว “งี้ก็แปลว่าฉันต้องพิจารณาตัวเองใหม่.. ในฐานะของการเป็นครูฝึกที่แย่”

          ท่าทางอ่อนไหวของสาวสวยผู้หยิ่งทะนงทำเอาดีนใจหาย แม้เขาจะไม่พอใจในการกระทำของอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่พอคิดว่าตนเป็นต้นเหตุให้คน ๆ หนึ่งต้องสูญเสียความมั่นใจ สิ่งที่แอ๊บไว้ตลอดทั้งคาบเรียนก็ถูกลบทิ้ง

          “เฮ้ย! ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นครูฝึกที่ไม่ดี ฉันแค่บอกว่าฉันทำมันไม่ได้ การเรียนหอกนี่มันยากเกินไปสำหรับฉันต่างหาก!”

          “การที่นายทำไม่ได้ก็เป็นเพราะว่าฉันสอนไม่ดีไม่ใช่หรือไง? ถ้าฉันสอนดีนายก็ต้องตั้งใจมากกว่านี้แล้ว ถ้างั้นก็บอกมาทีได้ไหมว่าการสอนของฉันมีตรงไหนที่ต้องปรับปรุง”

          รุ่นพี่สาวสายเลือดอะธีน่าเงยหน้าขึ้นมา และสิ่งที่ทำให้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องก็คือหยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของดวงหน้าคม

          ‘โอ้ ฉิบหาย ตายห่า! นี่เอ็งทำผู้หญิงร้องไห้งั้นเหรอ!? ทำไมนายเป็นคนทุเรศแบบนี้วะดีน!!’

          เขาก่นด่าตัวเองในใจ แม้จะไม่รู้เลยก็ตามว่าทำไมจู่ ๆ โซเฟียถึงต้องร้องไห้ด้วย หรือส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขาทำเย็นชาใส่เธอทั้งคาบ ตอนนี้รู้สึกผิดมาก ๆ จนวางมือวางไม้ไม่ถูก

          “ไม่ ๆๆ ไม่มี ฉันผิดเอง” ชายหนุ่มละล่ำละลักตอบ “ฉันขอโทษที่วันนี้ไม่ค่อยตั้งใจ เอ่อ.. เธอหยุดร้องไห้ก่อนไหม? เห็นแบบนี้แล้วฉันรู้สึกไม่ดีเลย”

          หญิงสาวยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาปอย ๆ เธอสูดหายใจแล้วตั้งสติก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

          “ถ้างั้นก็ช่วยตั้งใจหน่อยได้ไหม ฉันจะสอนให้นายอีกรอบ แต่คราวนี้ต้องตั้งใจนะ”

          “อะ.. โอเค”

          ทำอะไรไม่ได้นอกจากรับปาก ดีนมองเวลาที่ดูจะล่วงเลยมานานจนน่าจะไม่ได้ไปช่วยเจโรมเตรียมงานอีกแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาดังนั้นจึงต้องรับผิดชอบ

          “เอาล่ะ วิธีการตั้งรับ นายจะเอาแต่ถือโล่รับอย่างเดียวไม่ได้ การโอนอ่อนผ่อนตัวเองก็สำคัญทำให้ไม่รับแรงปะทะมากเกินไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเมื่อถูกโจมตีเข้ามาห้ามหลับตาหนีเด็ดขาด ไหน มาลองกัน”

          “อะ..อืม ฉันจะพยายาม”

          โซเฟียให้ดีนเตรียมตั้งรับ ส่วนนางก็หวดหอกใส่ด้วยแรงที่ถือว่ายังปราณีปราศัยอยู่บ้าง แรก ๆ เขาก็ยังติดหลับตาเมื่อถูกปะทะ จนทำให้หญิงสาวต้องคอยเรียกสติขึ้นมาอยู่บ่อย ๆ ใช้เวลาฝึกพิเศษหลังเลิกเรียนนานเป็นชั่วโมง ดีนรับหอกที่โซเฟียแทงใส่นับครั้งไม่ถ้วน จนร่างกายของเขาเริ่มจะขยับหลบหรือตั้งรับได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น และเริ่มที่จะสวนกลับได้ไปตามมัซเซิลสกิล กว่าจะรู้ตัวอีกทีตะวันก็ตกพื้นอีกแล้ว…

          “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ ในที่สุดนายก็ทำได้แล้วนะ เก่งมาก” รอยยิ้มมากเสน่ห์พร้อมกับคำชมที่ได้รับทำเอาคนที่หัวใจสูบฉีดจากการซ้อมยิ่งเต้นแรงขึ้น แล้วยิ่งเกิดอาการหายใจติดขัดไม่ทั่วท้อง ก็ตอนที่โซเฟียหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วซับเหงื่อให้ “เหงื่อนายออกเต็มเลยแหน่ะ”

          “อา.. ขอบ… ขอบคุณ”

          ไม่รู้ทำไมคนที่หยอกไก่กับหญิงสาวไปเรื่อยอย่างดีนถึงได้ตัวแข็งทื่อ แม้แต่สบตากับนางยังไม่กล้าจนต้องเสมองด้ามหอกในมือขวาที่สั่นกึก ตอนนี้ใบหน้าของเขาน่าจะแดงจัดจากความร้อนที่วูบวาบอยู่บนผิว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนเปลือกไม้ค่อย ๆ เสมองมาทางหญิงสาวที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนที่อ่อนโยนขึ้นมา ‘จะว่าไป.. โซเฟียเองก็น่ารักเหมือนกันแฮะ’

          “นี่ดีน ฉันจะบอกอะไรให้รู้ไหม? จุดอ่อนที่สุดของนายน่ะ…”

          กำลังเคลิ้มเลย แต่จู่ ๆ หญิงสาวก็เอ่ยถามโดยที่มือยังไม่ละออกจากใบหน้าของชายหนุ่ม ทำให้เขาได้แต่เลิกคิ้วสงสัย

          “หืม?”

          จากน้ำเสียงหวาน ๆ ในตอนแรกเปลี่ยนกลับคืนสู่โหมดปกติที่เย่อหยิ่งปนน่าหมั่นไส้ ยิ่งรอยยิ้มที่กระตุกมุมปากก็ช่างดูชั่วร้ายเหมือนยัยสาวปากจัดเมื่อวานไม่มีผิด ดีนผงะออกมาแต่ก็ถูกมือเรียวบีบหมับเข้าที่ปลายคางพลางเชยขึ้น

          “นายแพ้ลูกอ้อนของสาว ๆ สินะ.. คิดเหรอว่าฉันจะบอกว่าตัวเองเป็นครูฝึกห่วย ๆ จริง ๆ น่ะ?”

          “#%&%$*$&^34!!” ดีนพยายามดิ้นออกแต่ก็ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้ออกมา ขอถอนความคิดว่าเธอน่ารักได้ไหม! ยัยนี่น่ากลัวฉิบเป๋ง!!

          “อ้อ นายคงไม่รู้ ฉันเคยถูกเพื่อนหลอกไปเล่นหนัง ถึงจะไม่น่าจดจำ แต่ฉันก็แสดงบทนั้นได้ดีมาก แล้วการบีบน้ำตาน่ะ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย นายคิดว่างั้นไหม?”

          มาถึงบางอ้อเสียทีว่าจู่ ๆ ทำไมโซเฟียถึงได้ร้องไห้ออกมา ทั้งหมดเป็นแผนลวงของยัยนี่ ๆ เอง เวรเอ๊ย!!

          “แล้วก็.. นายคงคิดว่าฉันดูไม่ออกสินะว่านายแกล้งตีขรึมเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ด่าน่ะ คงคิดไม่ถึงล่ะสิว่าถูกซ้อนแผน” โซเฟียหัวเราะหึในลำคอ “ถึงนายอาจจะเล่นละครพอได้ แต่ว่าฉันเก่งกว่า เพราะฉะนั้นการฝึกวันพรุ่งนี้จะไม่มีใครเล่นละครใส่กัน แล้วก็ตั้งใจเรียนซะนะ โอเค้?”

          หญิงสาวปล่อยมือออกจากคางจนเขาเป็นอิสระ ดีนเลยได้จังหวะถอยกรูดออกมาสามสี่ก้าวเพื่อเว้นช่วงจากยัยผู้หญิงอันตรายคนนี้ บ้าจริง ๆ รู้สึกกลายเป็นคนโง่ชั่วขณะยังไงก็ไม่รู้

          “แต่ยังไงก็ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือได้สักที บุตรแห่งโพไซดอน หวังว่าพรุ่งนี้ฉันคงไม่ต้องมาใช้มารยาใหม่มาสอนนายอีก เอาล่ะ กลับไปได้แล้ว”

          โซเฟียเพยิดหน้าไปที่ประตูทางออกของอัฒจันทร์ ตอนนี้คนหัวร้อนได้แต่เดินปึงปังพร้อมกับคำรามเพื่อระบายความอัดอั้นภายในใจ

          “อ๊ากกกกก!!”

          แค้นก็แค้นเถอะ แต่น่าประหลาดที่ดีนกลับรู้สึกไม่ได้โกรธเคืองอะไรโซเฟียแล้วแฮะ ตอนนี้เขาอยากเอาชนะเธอด้วยการเป็นนักเรียนดีเด่นมาเย้ยหน้ามากกว่า แต่เอาเข้าจริงเธอก็เป็นครูสอนที่ดีและมีความอดทนมากเหลือเกิน ถึงได้เคี่ยวเข็ญให้เขาพอจะรู้สเตปการต่อสู้ขึ้นมาได้บ้างแล้ว


เข้าชั้นเรียนหอก-โล่ ครั้งที่ 2
+10 EXP , +20 ความกล้า


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-3-21 17:03
God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-21 17:03
โพสต์ 31273 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-3-21 15:52
โพสต์ 31,273 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-21 15:52
โพสต์ 31,273 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-3-21 15:52

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-3-21 23:20:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด


SPΞΔR ΔΠD SHΦΞLD






มนุษยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีการหยุดพัฒนา เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องเกินจริง สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นก็ล้วนเป็นผลจากการวิวัฒนาการของมุนษย์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการที่ก้่วหน้าปีต่อปี หรือวิทยาการที่จะค่อยๆล้ำหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทุกสิ่งทนั้นล้วนก้าวข้ามสิ่งที่เป็นอยู่และกำลังจะเป็นไปทุกขณะฯ เช่นเดียวกับมุนษย์ทุกๆคนที่พวกเขานั้นไม่มีทางรู้เลยว่า ตัวเองนั้นกำลังเดินไปยังข้างหน้าเสมอๆ ไม่มีถอยหลัง..

วันนี้เป็นอีกวันที่ชายหนุ่มผู้ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในที่ใหม่ๆ ซึ่ง แม้ว่าขเานั้นจะอยู่มานานแลัวก็ตาม แต่มันก็ยังมีอะไรให้เขานั้นประหลาดใจและสามารถพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าได้อยู่เสมอๆ ในทางด้านต่างๆที่เขานั้น ยังไม่เคยได้สัมผัส วันนี้เป็นการเรียนวิชาหอกและโล่ห์ ซึ่งเขานั้น จำไม่ได้แล้วว่าเขานั้นเรียนวิชานี้มากี่ครั้ง พอนึกถึงเรื่องเรียนขึ้นมา เขาเองก็จำแทบไม่ได้แล้วว่า วิชาสุดท้ายที่เขานั่งเรียนนั้น คือวิชาอะไร..

วันนี้เขามานั่งที่อัฒจันทร์ในค่ายเช่นเคยเพื่อรอผู้สอน ชายหนุ่มมองไปรอบๆ แล้วเห็นว่ามีคนมากมายมารอเรียนรู้วิชานี้จากผู้สอนอยู่ไม่น้อย โดยที่หลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้สอนก็เข้ามาสู้ลานตรงอัฒจันทร์ เธอเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามาในที่แห่งนี้คนเดียว ก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัวกับทุกๆคนในอัฒจันทร์แห่งนี้..

ชื่อของเธอคือ โซเฟีย คลาร์ก บุตรีหรือลูกสาวของเทพีอาธีน่า เธอเป็นรุ่นพี่ของค่ายแห่งนี้ และวันนี้เธอจะมาสอนวิชาการใช้หอกและโล่ห์ แทนที่ไครอน ซึ่งผู้ดูแลค่ายนั้นมีงานเยอะมากและเธอมาช่วยเขาเธอแบ่งเบาภาระให้กับผู้ดูแลค่ายนี้ แม้ว่าตัวของเธอนั้น ในสายตาของชายหนุ่มที่คิดในเบื้องต้นอย่างตื้นเขินว่า หญิงสาวผู้นี้ ดูไม่ค่อยเหมาะจะเป็นนับรบเท่าไหร่ โดยที่เมื่อลองคิดดูอีกที แทบจะทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้น ล้วนเป็นนักรบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่ง ผู้ดูแลสถานพยาบาลฯ...

เมื่อเริ่มสอน ชายหนุ่มก็ได้เห็นถึงความประหลาดใจ ทั้งอาวุธและโล่ห์ของเธอ อีกทั้งทวงท่าและลีลาของเธอนั้น เขาที่เพียงแค่มองก็รู้ได้ทันทีว่า เขานั้นยังด้อยกว่าเธอผู้นั้นไม่น้อยเลย..

เมื่อเธอสอนเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ทุกๆคนจะเริ่มซ้อมตามที่หญิงสาวฯได้สอนไป โดยที่เธอต้องการให้ทุกๆคนจับคู่ซ้อม ซึ่งต่างคนต่างหนีหน้าชายหนุ่มซึ่ง ไม่มีใครอยากจะเข้าใกล้ด้วยเลย ด้วยท่าทีของเขาเองด้วยอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่แล้วในที่สุด ก็มีคนมาจับคู่กับเขาด้วย เธอเป็นหญิงสาว และเธอมีนามว่า โซเฟีย คลาร์ก.. 

"สวัสดี ฉันโซเฟีย" 
หญิงสาวเอ่ย พร้อมยื่นมือออกมา

"โจนาทาน"
ชายหนุ่มตอบสั้นๆแต่ตรงกับสิ่งที่จะสื่อ

"เธอคงจะเป็น.. คนใหม่ของที่นี่ สินะ ขอโทษด้วย เอ่อ ฉันไม่เคยเจอเธอน่ะ หรืออาจจะเคยแต่เอิ่ม.."

"ผมเพิ่งมาใหม่ ยินดีที่ได้รู้จัก.." 
ชายหนุ่มเอ่ยสั้นๆ ก่อนจะยิ่นมือไปจับอย่างเป็นมิตร

"ว้าว ฉันไม่คิดว่าในค่ายเราจะมีสายเลือดเทพกับไททันอยู่ในนี้ด้วยสิ"
หญิงสาวกล่าวขณะที่มองสัดส่วนของชายหนุ่มที่สูงกว่าเธอมาก

"ผมเกิดที่นอร์เวย์ ผมมีแค่สายเลือดเทพ ไม่ใช่ไททัน"
ชายหนุ่มพยายามตะล่อม ไม่ให้เธอออกนอกลู่ทางในการสนทนา

"โอ้วว ฉันขอโทษด้วย แค่นึกว่าคุณมี.. แต่ช่างเถอะ งั้น เรามาเริ่มกันเถอะ ฉันว่า คุณคงจะไม่คุยตอนที่ฉันกำลังสอนคุณหรอก ใช่มั้ย?" 
หญิงสาวเอ่ยถาม พลันควงหอกของตนและประทับโล่ห์ไว้ข้างกาย เตรียมสำหรับการฝึกซ้อม

"ผมตั้งใจฟังตลอด เข้ามาเลย" 
ชายหนุ่มเองก็ไม่น้อยหน้า สะบัดโล่ห์พร้อมหอกของตนเตรียมประจันหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เป็นเหมือนครูของตนเอง.. 

การต่อสู้กันกินเวลาไปไม่น้อย ความจริงจังของทั้งสองทำให้คนอื่นๆที่กำลังฝึกอยู่นั้นถึงกับหันมามอง เพราะทั้งสองนั้น จริงจังกับการฝึกซ้อมในครั้งนี้อย่างมาก ขนาดที่สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนเป็นเหมือนกับอีกฝ่ายนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่พวกเขาทั้งสองต้องเอาจริงเอาจังถึงจะล้มมันได้ จนกระทั่งทั้งสองเริ่มได้สติ ในตอนนั้น ทั้งสองก็เริ่มหมดแรงไปแล้วพอสมควร..

"แม่เจ้า.. นั่นใครน่ะ ขนาดสู้กับคุณโซเฟียสูสีขนาดนั้น.."
"ก็คนๆนั้นไง คนที่ขอบเข้าไปในป่าต้องห้ามบ่อยๆแล้วก็กลับออกมาพร้อมกับสินสงครามนั่นน่ะ"
"คนตัวใหญ่คนนั้น หรือว่า คนที่ล้มโทรลในถ้ำสัมฤทธ์นั่นน่ะเหรอ?" 
"บ้าไปแล้ว.."

ทั้งสองที่ยั้งมือหลังจากที่ซ้อมกับพอหอมปากหอมคอที่ก็หวิดความเป็นความตาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ธรรมดา ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องอธิบายเพิ่มให้เสียเวลา เพราะการต่อสู้เมื่อครู่นี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ฝีมือของทั้งสองนั้นไม่หนีห่างกันจนเกินไป แต่ก็เกินคำว่าหน้าใหม่ไปพอสมควร..

"ทั้งสองจับมือกันอีกครั้ง ก่อนที่จะแยกย้ายกลับไป ชายหนุ่มเดินกลับไปนั่งที่อัฒจันทร์ ส่นอีกฝ่ายก็กลับมายืนที่ด้านหน้าของอัฒจันทร์เพื่อสรุปบทเรียนในการสอนของตนเองในวันนี้.. หลังจากนั้นก็ต่างแยกย้ายกัน เพราะชั่วโมงนี้หมดลงแล้ว..

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-3-21 23:29
God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-21 23:29
โพสต์ 18513 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-3-21 23:20
โพสต์ 18,513 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 เกียรติยศ +6 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก ช่ำชองการรบ[I]   โพสต์ 2024-3-21 23:20
โพสต์ 18,513 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก ความถึก  โพสต์ 2024-3-21 23:20

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ช่ำชองการรบ[II]
กระโดดแห่งชัยชนะ
น้ำหอมบุรุษ
นาฬิกาสปอร์ต
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ความถึก
กำไลหินนำโชค
เกราะหนัง
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x1
x4
x60
x4
โพสต์ 2024-3-22 10:16:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-22 10:25

043
งานอดิเรกและความฝัน

          ตื่นเช้ามาด้วยใจฮึกเหิมกำหนดเป้าหมายเอาไว้ว่าวันนี้จะต้องลม ‘ยัยโซเฟีย คลาร์ก’ จอมโหดคนนั้นให้ได้!

          …ล้อเล่นน่ะ ไก่อ่อนเลเวลหนึ่งที่เพิ่งมีประสบการณ์จับอาวุธหอกได้ไม่ถึงสามวัน จะมีปัญญาอะไรไปล้มหญิงสาวผู้เชี่ยวชาญการใช้หอกถึงขนาดเป็นครูฝึกในค่ายได้กันล่ะ แต่จุดมุ่งหมายน่ะมีอยู่แล้ว คือการเป็นนักเรียนดีเด่นในคลาสสอนหอกในวันนี้ กระนั้นคนฉลาด (?) อย่างดีนก็มีแผนสำรองเสมอ หากแผนเอคือเป็นที่หนึ่ง แผนบีก็คือไม่เป็นที่สุดท้าย

          ใช่ว่าอาการครั่นเนื้อครั่นตัวจะหมดไป แต่ตอนนี้จิตใจที่ลุกโชนมีมากกว่าจนพอจะเมินเฉยต่ออาการปวดกล้ามเนื้อไปได้ เพื่อทำตัวให้ชินกับศาสตราวุทธและชุดเกราะที่เรียนมา เขาจึงสวมใส่อุปกรณ์การต่อสู้ทุกอย่างออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งด้วยในวันนี้ แน่นอนว่ามันเหนื่อยมาก แต่ความเหนื่อยล้าจะเสริมแกร่งให้แก่ร่างกายของตนเองในวันต่อไป มันคงไม่ต่างอะไรกับช่วงแรกของการเข้าฟิตเนสหรอก

          แม้จะกลับมาจากจ๊อกกิ้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ดีนก็ยังสวมเกราะและหมวกนักรบกรีกทรงประหลาดไปกินมื้อเช้าที่โรงอาหาร จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าไม่แปลกก็ใช่ เพราะมีเด็ก ๆ บางคนเช่นกันที่จริงจังกับการต่อสู้จึงสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้ตลอดเวลา

          เพราะว่าวันนี้ตื่นค่อนข้างเช้าดีนจึงมีเวลาอีกครู่ใหญ่กว่าที่คลาสหอก-โล่จะเริ่มสอน ดีที่มีนิตยสารวิทยาศาสตร์ติดตัวมาด้วยจึงพอจะนำมาพลิกอ่านฆ่าเวลาแถว ๆ อัฒจันทร์ได้ แม้เขาจะเคยอ่านจนจบเล่มมาแล้วรอบนึงแล้วก็ตามที ในช่วงที่สันหลังยาวอยู่แต่ที่กระท่อมหมายเลขสาม

          “สงสัยว่านี้ฝนต้องตกแน่ ๆ ที่มีคนมารอเรียนก่อนเข้าคาบตั้งครึ่งชั่วโมง”

          น้ำเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นทักถาม เป็นของหญิงสาวที่เขาไม่อยากปะทะแต่ก็จำต้องเจอหน้า โซเฟีย คลาร์ก มาที่อัฒจันทร์ก่อนเวลาเพื่อเตรียมการสอนในวันนี้ ดีนเหลือบสายตาขึ้นมองร่างเพรียวระหงของหญิงสาวที่เดินมาใกล้ ๆ เขาเพียงแค่ยกมือขึ้นคล้ายจะเซย์ไฮแต่ไม่ได้ออกเสียงทักสวัสดี

          “อ่านอะไร? การสื่อสารด้วยคลื่นสัญญาณของค้างคาว”



          สีหน้าของโซเฟียดูประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอเดาเนื้อหาการอ่านจากหน้าปก แต่มากได้กว่านั้นอีกเมื่อชายหนุ่มพลิกหน้าหนังสือที่อ่านค้างไว้ให้ดู

          “ผิด ฉันอ่านหัวข้อ ‘การนำคริสเปอร์-แคสเพื่อใช้เป็นตัวกำหนดเป้าหมายของวิศวกรรมไมโครไบโอม’ ต่างหาก”

          “โอ้ ชีววิทยา… ไม่คิดเลยแฮะว่านายจะทำตัวมีสาระเกินคาด” โซเฟียนั่งลงข้าง ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะค่อนข้างสนใจนิตยสารวิชาการที่ดีนอ่านอยู่พอสมควร “ชอบอ่านหนังสือประเภทนี้เหรอ?”

          “ไม่อ่ะ ไม่ชอบอ่าน” คำถามนี้ตอบได้อย่างรวดเร็วทันใจ พอมีคนมาชวนคุยชายหนุ่มก็ปิดนิตยสารวิทยาศาสตร์แล้ววางลงบนตัก “ฉันเป็นพวกอ่านอะไรก็ไม่ค่อยเข้าหัว แต่ที่นี่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเหมือนคนยุคแปดศูนย์ ที่ต้องอ่านนิตยสารกับหนังสือพิมพ์ ฉันเกิดไม่ทันหรอกนะ แต่มันต้องเป็นงี้แน่ ๆ ก็ที่นี่มันใช้อินเตอร์เน็ตสะดวกซะที่ไหน”

          คำพูดของดีนทำเอาโซเฟียหลุดขำ แม้เธอจะเกิดไม่ทันยุคแปดศูนย์เช่นเดียวกันกับดีน แต่คนเจนวายปลาย ๆ อย่างเธอพอจะทันสัมผัสโลกที่เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงในทุกพื้นที่อย่างเช่นทุกวันนี้อยู่บ้าง

          “ถือว่าโซเชี่ยลดีท็อกซ์เป็นไง? เด็กสมัยนี้เอาแต่ติดเทคโนโลยีจนเป็นโรคซึมเศร้า” หญิงสาวกระเซ้าศอกแหย่คนข้างกายเบา ๆ จากคำพูดนั้นทำเอาดีนเป็นฝ่ายหัวเราะขำขึ้นมาแทน

          “พูดอย่างกับยัยป้าข้างบ้าน… ‘เด็กสมัยนี้เอาแต่เล่นมือถือแล้วก็ไม่มีความอดทนเอาซะเลย’ชายหนุ่มแกล้งดัดเสียงเล็กแหลมเหมือนป้าขี้นินทา “พวกเจนซีอย่างฉันก็มีความอดทนในแบบของฉันเหมือนกันล่ะน่า”

          “จะว่าไป ก่อนหน้านี้นายทำอะไรมา อายุยี่สิบสามเรียนจบแล้วใช่ไหม? ทำยังไงบุตรของสามมหาเทพถึงได้อยู่รอดมาจนอายุเกินยี่สิบ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะ”

          โซเฟียเอ่ยถาม เรียกว่าเป็นการพูดจากันดี ๆ ครั้งแรกโดยไม่เล่นละครเสแสร้งเลยได้ไหม? ในชีวิตของเขาไม่มีเรื่องอะไรให้ปกปิด (เว้นเรื่องส่วนตัวบางเรื่อง) ชายหนุ่มจึงไม่รังเกียจที่จะเล่าออกมา

          “ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจเรื่องที่ฉันอายุยี่สิบสามแล้วยังไม่ตายจังเลยนะ ถ้าบอกว่าพ่อคอยช่วยอยู่เธอจะเชื่อไหม?”

          “มีเด็กเดมี่ก็อดที่ทวยเทพตามช่วยเหลือจนโตป่านนี้ด้วยเหรอ เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก” แม้นไม่อยากเชื่อแต่คนตรงหน้าที่ไม่เป็นวิชาการต่อสู้เลยกลับรอดมาได้ครบสามสิบสอง บางทีเธออาจควรเชื่อไว้บ้าง “จะบอกว่าตัวเองเป็นลูกคนโปรดงั้นสิ? น่าหมั่นไส้ชะมัด ตอนแรกฉันก็คิดว่านายจะมีฝีมือหรือเทพเจ้าทิ้งไอเท็มวิเศษไว้สำหรับการป้องกันตัวเสียอีก งั้นซิกส์แพ็คพวกนี้จะบอกว่าเข้าฟิตเนสแล้วปั้นขึ้นมารึไง?”

          ไม่พูดเปล่ามือซนยังล้วงมาคลำพุงทำเอาคนยังหนุ่มยังแน่นสะดุ้งหนี

          “ทำอะไรเนี่ย!? แบบนี้มันคุกคามทางเพศกันชัด ๆ แล้วถ้าเข้าฟิตเนสได้ออกมาหุ่นแบบนี้แล้วจะทำไมกันเล่า”

          “ทีพ่อนายเข้ามาทำมิดีมิร้ายสาวกของท่านแม่ฉันในวิหารล่ะ โดนเอาคืนซะบ้างสิบุตรแห่งโพไซดอน”

          “พอเลย!” ดีนดันมือของหญิงสาวที่หยุมพุงเขาออก ถึงมันจะมีกล้ามเนื้อสวยงามคู่ควรกับการเรียกว่าซิกส์แพ็คมากกว่าพุงก็ตามทีเถอะ “ฉันก็ใช่ว่าจะรับได้กับความผิดที่พ่อทำเสียเมื่อไรเล่า แต่เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ วิหารของแม่?”

          “ใช่ วิหารของท่านแม่… ทำไม?” โซเฟียเลิกคิ้วถาม

          “แม่ที่ว่าหมายถึงเทพีอะธีน่าน่ะเหรอ? ให้ตายสิ ฉันก็คิดว่าเธอเป็นลูกสาวแอรีสมาตั้งนาน”

          โซเฟียทำหน้าเหลือจะเชื่อ ตานี้เข้าใจไปได้อย่างไรว่าเธอเป็นบุตรสาวของเทพเจ้าจอมอันธพาล

          “ฉันฉลาดว่านั้นเยอะย่ะ แล้วที่ถามไปก่อนหน้านี้ล่ะ ทำอะไรมา เรียนจบแล้วใช่ไหม?”

          ถ้าอีกฝ่ายบอกว่าเธอเป็นบุตรสาวของเทพีอะธีน่าก็คงตามนั้น แค่ไม่คาดคิดว่าการเหม็นหน้าจะส่งต่อจากรุ่นพ่อแม่มาสู่รุ่นลูกได้ด้วย ไร้สาระชะมัด ดีนพยายามไม่ใส่ใจว่าใครเป็นลูกใคร เขาจึงเปลี่ยนเรื่องมาตอบคำถามก่อนหน้า

          “ฉันเรียนที่มหาวิทยาลัย xxx นิวยอร์ก คณะเทคโนโลยีชีวภาพ ตอนเรียนอยู่ก็ทำงานร้านฟาสต์ฟู้ด จนเรียนจบมาเลยลองยื่นใบสมัครงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยไปเล่น ๆ จนได้งานมา แต่ยังทันได้เริ่มงานวันแรกก็… ฟิ้ว~ ถูกส่งมาอยู่ที่นี่ ไม่สิ.. ถ้าพูดให้ถูกก็คือฉันมาเองตามคำแนะนำของคน ๆ หนึ่ง ตอนแรกคิดว่าที่นี่เป็นลัทธิหลอกลวงเลยด้วยซ้ำ”

          “มหาวิทยาลัย xxx นิวยอร์ก! ถือว่านายหัวดีเลยนะที่เข้า ม.นั้นได้”

          หญิงสาวทำตาโตเหมือนกับไม่เชื่อหูตัวเอง แต่คนที่นั่งอ่านนิตยสารเชิงวิชาการเป็นการฆ่าเวลาก่อนเรียนการต่อสู้ก็พอมีมูลว่าหนุ่มคนนี้ไม่ได้โม้เหม็น

          “นี่ หยุดเลยสายตาแบบนั้น อย่ามามองว่าฉันเหมือน เฮอร์ไมโอนี่ แกรนเจอร์ นะ!” ดีนพูดดักทางแต่การเปรียบเปรยติดปากนั้นก็ทำเอาคนฟังหลุดหัวเราะน้อย ๆ “คงงั้น ฉันอาจจะหัวดีก็ได้ แต่ยังไงก็ไม่ชอบการอ่านหนังสืออยู่ดี”

          “สมาธิสั้นหรือว่าดิสเล็กเซียล่ะ?”

          “สมาธิสั้นก็พอแล้ว อย่าให้ต้องถึงขั้นกับเป็นดิสเล็กเซียเลย”

          ดีนยังจำไครอนเคยบอกว่าเหล่าลูกเทพมักมีปัญหาความบกพร่องดังกล่าว แต่เรื่องสายตาสั้นได้มาจากคุณแม่ล้วน ๆ

          “อืม แค่สมาธิสั้นก็เรียนรู้อะไรได้ยากแล้ว แต่มันก็ดีสำหรับการต่อสู้ เพราะมันจะทำให้นายมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกว่าคนปกติ”

          “ถึงจะมีประสาทสัมผัสเฉียบคม แต่ฉันก็คงเอาไว้เพื่อหนีอสุรกายพวกนั้นอย่างเดียว” ดีนแค่นหัวเราะ

          “ก็แล้วแต่ ยังไงก็ใช่ว่าเดมี่ก็อดทุกคนจะเป็นสายต่อสู้ไปทั้งหมด จะว่าไป.. นายใจสลายเลยสิที่ไม่ได้ทำงานในสิ่งที่เรียนมา”

          “เปล่าเลย ก็อย่างที่บอก ฉันก็แค่ลองสมัครดูเฉย ๆ แล้วทางคณะก็รับ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะศิษย์เก่าด้วยมั้ง ทำงานคุ้นเคยกันดีเลยอาจจะได้โควต้าพิเศษก่อน”

          ดีนไม่รู้หรอกว่ากระบวนการตัดสินใจรับสมัครแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร เขาก็แค่เดา จะเพราะว่าได้รับโควต้าศิษย์เก่ามาจริง จะเป็นผลงานดีเยี่ยมเข้าตา หรือจะเพราะอะไรก็ช่าง ตอนนี้มันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปในเมื่อเขาไม่ได้ทำงานนั้น และน่าจะไม่ได้รับโอกาสให้ทำอีกแล้วด้วยเช่นกัน

          “ความจริงฉันอยากจะรวยแล้วมีเงินท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ มากกว่า”

          “นายอยากใช้ชีวิตแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?” โซเฟียรู้สึกประหลาดใจอีกครั้งจนต้องเอ่ยถาม

          “ช่ายยย” ดีนตอบลากเสียงยาว “ถามแต่ฉันแล้วเธอล่ะ ก่อนหน้านี้เป็นไงมาไง แล้วก็ทำไมถึงกลับมาสอนคลาสหอก-โล่ แบบว่า.. ที่นี่เหมือนโรงเรียนประจำไหม? พอเปิดเทอมอาจารย์ก็เลยต้องกลับมาสอน”

          “จินตนาการกว้างไกลจังนะเจ้าหนูจำไม แต่ก็คงเหมาะแล้วกับสิ่งที่นายเรียน” โซเฟียหัวเราะหึก่อนจะเล่าต่อ “ฉันเป็นนักสำรวจ อย่างที่เจอกันครั้งแรก ฉันมักจะขี่ดูคาติคู่ใจไปเรื่อยรอบสหรัฐ แล้วก็สำรวจพื้นที่ในแต่ละแห่งที่เคยไปมา ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นโลกของมนุษย์หรอกนะ มันมีอะไรที่ซับซ้อนไปกว่านั้น พออยู่ที่นี่นานเข้าเดี๋ยวนายก็จะเข้าใจไปเองว่าพื้นที่ ๆ ฉันว่าคือที่แบบไหน ส่วนที่มาช่วยสอนก็เพราะงานของท่านอาจารย์ไครอนล้นมือแล้ว เหตุผลก็แค่นั้นแหล่ะ”

          “อ้อ เหมือนพวก.. ดินแดนลึกลับ โลกต่างมิติในหนังผี.. อะไรเทือกนี้ใช่ไหม?”

          “จะว่าอย่างนั้นก็ใช่” โซเฟียขี้เกียจอธิบายเธอเลยให้ดีนเข้าใจไปอย่างนั้นก่อน “แต่ท่าทางนายดูเข้ากันได้ดีกับพวกเด็กจากเฮเฟตัสนะ พอฝึกการต่อสู้จนคล่องแล้วก็ลองไปขอให้พวกนั้นทำแบบนี้ให้สิ”

          หญิงสาวนำกุญแจรถบิ๊กไบค์คู่ใจออกมา ตอนนี้รถคันดังกล่าวมีขนาดย่อส่วนเหลือแค่เพียงเท่าโมเดลพวงกุญแจ ชายหนุ่มมองมันด้วยความสงสัยใคร่รู้โซเฟียจึงวางมันลงมาบนฝ่ามือของเขา

          “เฮเฟตัส.. เฮเฟตัส.. อ๋อ เทพนักประดิษฐ์”

          ถึงจะเป็นสิบสองเทพโอลิมปัสแต่บทที่จืดจางก็มีหลงลืมชื่อกันไปบ้าง

          “เข้ากันได้ดีเหรอ? ฉันเรียนด้านชีววิทยามานะไม่ใช่วิศวกรรม ความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกไม่ค่อยจะมีหรอก ถึงจะเคยไปเดินเล่นงานนิทรรศการหุ่นยนต์บ้างก็เถอะ.. ฉันว่าฉันเข้ากันได้ดีกับทางบ้านไดโอนีซุสมากว่าอีก”

          ดีนหยิบจับพวงกุญแจดูคาติพลิกไปพลิกมา ดวงตาเป็นประกายเหมือนกับเด็กน้อยได้ทดลองหยิบจับของเล่นรุ่นใหม่ จากนั้นเขาก็เอ่ยถามหญิงสาวตาใสเปี่ยมไปด้วยความใคร่รู้

          “แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับพวงกุญแจนี่..”

          “สงสัย? เรื่องอะไรล่ะ?”

          โซเฟียถาม เพราะดูเหมือนว่าหนุ่มนักวิทยาศาสตร์จะสนอกสนใจของวิเศษชิ้นนี้เป็นพิเศษ เธอเป็นเจ้าของมันมานานบางทีอาจจะให้คำแนะนำได้

          “ถ้าเกิดว่าขี่ไปแล้วเหยียบขี้หมาขึ้นมา ตอนเก็บกลับคืนจะอยู่ในสภาพไหนน่ะ?”

          “ถามอะไรของนายยะ เอาคืนมาเลย!”

          โซเฟียรีบฉกพวงกุญแจของเธอกลับคืนมา ในหัวก็คิดว่า ‘ไม่น่าเอาให้ไอ้หมอนี่ไปถือเล่น’ เกือบจะคุยกันดี ๆ ได้แล้วเชียวแต่คราวนี้หนุ่มผิวน้ำผึ้งเป็นฝ่ายกวนประสาทเธอก่อนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามที ฝ่ายดีนที่เพิ่งรู้ตัวว่าอาคืนได้อย่างฟลุ้ก ๆ เขาก็ขำไหล่สั่น หัวเราะไม่ออกเสียง

          “จะว่าไปดูเหมือนเธอจะสนใจนิตยสารเล่มนี้น่าดูเลยแฮะ ไม่งั้นคงไม่มาชวนคุยกันดี ๆ แบบนี้” ดีนยื่นหนังสือที่วางไว้บนตักให้กับอีกฝ่าย “ฉันอ่านจบไปรอบนึงแล้ว งั้นเล่มนี้ให้เธอก็แล้วกัน”

          “หืม ขอบใจ”

         แม้ไม่ทันตั้งตัว แต่โซเฟียรับนิตยสารวิทยาศาสตร์มาเปิดอ่านหัวข้ออัพเดทคร่าว ๆ ตอนนี้จวนเจียนจะได้เวลาเรียนวิชาหอก-โล่แล้วเด็ก ๆ จึงทยอยกันเข้ามาในอัฒจันทร์ ดีนกับโซเฟียจึงดีดตัวผึงออกจากกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อนักเรียนมากันได้จำนวนหนึ่งที่มากพอแล้วโซเฟียก็เริ่มสอน

         .
         .
         .

          ครึ่งแรกเป็นการทบทวนกระบวนท่าการต่อสู้ของเมื่อวาน ดีนจับคู่กับเลนน็อคเหมือนเดิม และจากการเรียนพิเศษมาเป็นชั่วโมงทำให้พัฒนาการของดีนดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้จะไม่ได้สูสีกับคนที่ฝึกมานานกว่า แต่วันนี้ก็แทบไม่มีการผิดจังหวะเกิดขึ้นเลย เท่าที่ดูเด็ก ๆ คนอื่นก็เริ่มจะหลบและบล็อคกันอย่างชำนาญพอตัวแล้ว ครึ่งหลังของการเบรคโซเฟียจึงสอนวิชาใหม่เป็นกลยุทธ์การฝึกอย่างกระบวนทัพเทสทูดอร์ และกระบวนทัพกระบวนทัพฟาลังซ์สำหรับการร่วมมือล่าอสุรกายอย่างเป็นทีมเวิร์ค

          แม้วันนี้ดีนจะไม่ใช่เอ็มวีพีของคาบเรียน แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่ที่โหล่ การเรียนการสอนวันนี้จึงหมดคาบไปโดยไม่มีการต่อเวลาพิเศษให้กับใคร ดูเหมือนว่าวันนี้ดีนจะได้ไปช่วยเจโรมจัดเตรียมสถานที่ช่วยจัดงานแล้วเสียทีสินะ…

เข้าชั้นเรียนหอก-โล่ ครั้งที่ 3
มอบ [นิตยสารวิชาการ] แก่ [โซเฟีย คลาร์ก]
ได้รับโบนัสพิเศษ +5 แต้ม จาก น้ำหอม

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-3-22 10:30
God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-22 10:30
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] โซเฟีย คลาร์ก เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-3-22 10:29
โพสต์ 39154 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-3-22 10:16
โพสต์ 39,154 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-22 10:16

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-3-23 17:34:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด


sword and shield class #3




"เอือก~" เดม่อนตื่นขึ้นด้วยความงัวเงีย เมื่อคืนเขากลับดึกไปหน่อย ก่อนดูตารางเรียน และเป็นวันที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดหลายวัน คลาสดาบและโล่ ก่อนเขาหยิบดาบและโล่ขึ้นมาสวมใส่บนตัว


เดม่อนใช้พลังหอมเย้ายวนทำให้ตัวเขารู้สึกสดชื่น กลิ่นกายหอมและสะอาด ขจัดคราบสกปรกทั้งในช่องปากและขี้ไตลตามตัวจนหมดจด ทำให้เขาแทบจะไม่ต้องอาบน้ำเลย(?)


เดม่อนเดินมาถึงอัฒจันทร์ ก่อนเขาเห็นลิเลียน่ามาถึงก่อนหน้าเขาอีก เขาเดินเข้าไปยืนรอใกล้ ๆ เธอ


"ฮาย ลิเลียน่า" เดม่อนทักทายด้วยความสดชื่น ก่อนจะยิ้มให้หญิงสาว


"ชั้นรู้ว่านายมาตั้งแต่ได้กลิ่นตัวนายมาแต่ไกลล่ะ" ลิเลียน่าหันมายิ้มก่อนแลบลิ้นใส่ผม 


"ไม่ยักรู้ว่าเธอจะจำกลิ่นตัวผมได้ด้วย" เดม่อนพูดเปรอ ๆ ก่อนจะมองอีกฝ่าย


ลิเลียน่ายักไหล่ ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็เธออยู่กับเขาเกือบทุกวันย่อมแยกกลิ่นตัวเขากับพี่น้องบ้านอะโฟร์ไดท์ได้พอตัว "ก็งั้น ๆ แหละ พวกนายบ้านหมายเลขสิบกลิ่นตัวย่อมแตกต่างจากบ้านอื่น ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว จำง่ายจะตาย"


"ว่าแต่นอกจากคลาสดาบนี่เธอไปเข้าคลาสอื่นด้วยหรือเปล่างั้นเหรอ" เดม่อนเอ่ยถามขึ้น ด้วยทุกครั้งที่ฝึกซ้อมกับเธอ เธอถนัดอาวุธหลากหลายมาก


"ก็มีบ้าง แต่คลาสหลักจะเป็นหอกน่ะ" ลิเลียน่าพูดก่อนจะหันไปยืนเคารพไครอนที่เดินมาถึง ผมรีบทำตามทันทีและคนอื่น ๆ เริ่มเงียบกริบ ก่อนเธอเอียงศีรษะมากระซิบเขา "ชั้นจะรอวันนายพิชิต... ชั้นได้"


เดม่อนเหงื่อตก โห... เธอพูดแบบนี้เขาจะพิชิตเธอได้ยังไงก่อน อีกทั้งเธอมีไหวพริบเป็นเลิศในการต่อสู้สมเป็นธิดาแห่งอะธีน่า  แค่ข้อนี้เธอก็กินขาดแล้ว ต่อให้เขาฝึกสิบปี ตราบใดเธอยังฝึกฝนตลอดทุกวันเช่นนั้น ก็ยิ่งรุดหน้าเขาไปอีกก้าวเสมอ


เดม่อนหันมองหน้าลิเลียน่าตอนนี้เธอยิ้มอย่างมีความสุขราวกับเพิ่งแกล้งให้ผมหวาดเสียวอย่างไงอย่างนั้น หรือเพราะอะไรไม่รู้ ผมก็ไม่อาจล่วงรู้ความในใจเธอได้ ผมได้แต่ยิ้มขอบคุณเธอ


"กระแฮ่ม เอาล่ะวันนี้เราจะฝึกการต่อสู้กับเพื่อนที่เชี่ยวชาญหอก ต่อสู้เป็นคู่" ไครอนพูดขึ้น ก่อนผมจะเดินไปหาลิเลียน่าเพื่อชวนเธอเป็นคู่หู ผมไว้วางใจให้เธอเป็นเพื่อนที่เชื่อใจที่สด ก่อนเอลลิสเดินมา 


"เอาเป็นว่าฉันเลือกพวกนาย" เอลลิสแสยะยิ้มบางอย่าง ราวกับเขาตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนผม


"ไม่เป็นไร" ลิเลียน่าพูดก่อนยกมือกุมไหล่เดม่อน 


เดม่อนกับลิเลียน่าตั้งการ์ดเตรียมรับมือ เอลลิสผู้ใช้หอกพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างทันที และเป็นอย่างที่คิดเขาโฟกัสที่ตัวผมเป็นหลัก ลิเลียน่าเอลลิสแค่กะจังหวะสะบัดหอกแพรี่เธอเท่านั้น 


เดม่อนตอนนี้เขาทำได้แค่ยกโล่ป้องกันและค่อย ๆ ก้าวถอยหลังทีละก้าว เอลลิสรุกคืบหนักมาก ลิเลียน่าพยายามจะช่วยผมเธอเข้ามาโจมตี จังหวะที่เขาแพรี่ลิเลียน่าผมคิดว่าจะสวนได้ แต่เขากลับตวัดหอกกลับมาพุ่งโจมตีผมอย่างชำนาญและรัวถี่ขึ้น 


ทั้งจังหวะการจู่โจมของเขาดุดันและรวดเร็วมากจริง ถ้าเขามือไม่ไวขยับโล่กัน เดม่อนคงโดนสะกิตข้อเท้าไปแล้ว เดม่อนมองลิเลียน่าผ่านช่องโล่ด้านบนเธอพยายามจะพุ่งโจมตีเอลลิสเพื่อช่วยให้ผมหลุดจากการตั้งรับ 


และสายตาผมที่ตั้งรับมาเยอะก็เห็นช่องเพียงเสี้ยววิ ผมตั้งรับถอยหลังไปเรื่อย ๆ ก่อนรอลิเลียน่าพุ่งโจมตี จังหวะที่เอลลิสกำลังจะแพรี่ ผมรีบใช้ดาบไม้ในมือฟาดแขนอีกฝ่าย แต่ทว่าเอลลิสเบี่ยงตัวหลบดาบลิเลียน่าจนมาโดนดาบผม เขาแสยะยิ้ม ก่อนหมุนตัวควงหอกตวัดผมล้มคลุกกับดิน และเตะซ้ำ 


"ลุกขึ้นมาบุตรแห่งอะโฟร์ไดท์ นายอยากจะแข็งแกร่งจะต้องลุก" เอลลิสพูดขึ้นก่อนเตะอีกครั้ง แต่ครานี้ลิเลียน่าปาโล่กระแทกเต็มหลังของเขา เขาหันไปรับมือลิเลียน่า 


ผมพยายามลุกขึ้นก่อนหยิบโล่และดาบ ก่อนจะหยิบโล่ลิเลียน่าปาไปให้เธอที่ตอนนี้เธอกำลังใช้ดาบด้วยสองมือปะทะกับหอก


ลิเลียน่ายิ้มก่อนเธอก้มหลบหอก โล่ที่ผมปากระแทกหน้าเอลลิสเต็ม ๆ ก่อนเธอคว้ามือยึดโล่จับไว้และสวนด้วยการเสยคางอีกฝ่าย ผมวิ่งชาร์จอัดกระแทกซนด้วยโล่ในมือเต็มแผ่นหลังเอลลิส


ก่อนเราเป็นฝ่ายรุกคืบบ้าง การประสานงานของผมกับลิเลียน่านับว่าใช้ได้ทีเดียว แต่เขาก็สามารถโต้กลับมาได้ และรุกคืนสลับกันไป


การต่อสู้ของผมกับลิเลียน่าวันนี้นับว่าพัฒนาได้ดี แต่เราแพ้อย่างหมดรูปเพราะเจอกับความดุดันของบุตรแห่งแอรีส แถมเป็นใครไม่เป็นดันเป็นเอลลิสที่มีฝีมือระดับหนึ่ง ผมกับลิเลียน่าแยกย้ายกันไปพัก โดยผมบอกว่าจะแวะไปพัก และดึก ๆ จะไปหาอสุรกายที่ไม่เจอสักหน่อยในป่า นัดกับเธอ ซึ่งเธอก็ตกลงที่จะไปด้วย

และเธอยังชื่นชมผมที่รักษาคำพูด ไม่แอบไปเสี่ยงอันตรายตามลำพังอีกแล้ว...


รางวัลเข้าชั้นเรียน: +10 EXP , +20 ความกล้า



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2024-3-23 17:35
God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-3-23 17:35
โพสต์ 19011 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-3-23 17:34
โพสต์ 19,011 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนชุดใจปรารถนา  โพสต์ 2024-3-23 17:34
โพสต์ 19,011 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-3-23 17:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x10
x1
x2
x1
x11
x2
x8
x1
x2
x1
x3
x2
x1
x18
x1
โพสต์ 2024-3-24 11:47:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด


sword and shield class #4




เดม่อนเดินออกจากบ้านพักหมายเลขสิบ เขามุ่งหน้าไปยังอัฒจันทร์ เป็นอีกเช้าที่เขาจะมาเรียนคลาสดาบเช่นเคย เดม่อนเดินมายังลานฝึก ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องมองหาลิเลียน่าด้วยนะ ดูเหมือนวันนี้เธอจะไม่ได้มาเข้าชั้นเรียนดาบโล่


เดม่อนเดินไปเข้าแถวเข้าแถวรวมกับคนอื่น ๆ เพื่อรอคุณไครอน วันนี้เขาดูหงอย ๆ แปลก ๆ ซึ่งเขาก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร และสายตาบางอย่างจับจ้อง เขาหันไปมองตามความรู้สึกก่อนเห็นเอลลิสยืนอยู่แถ วหลัง รอยยิ้มอะไรบนใบหน้าของเขาชวนขนลุกแปลก ๆ ทำไมเอลลิสถึงมาชั้นเรียนดาบได้ล่ะ เดม่อนคิดในใจ


ไครอนเดินเข้ามาในเขตอัฒจันทร์ ก่อนผมและคนอื่น ๆ ทำความเคารพ เขาเดินมาหยุดตรงด้านหน้าพวกเรา 


"เอาล่ะ วันนี้จะให้ทุกคนฟรีสไตล์จับคู่ซ้อม" คุณไครอนเอ่ยขึ้นก่อนเขาจะกำชับข้อสำคัญบางอย่าง


"พึงจำไว้ การใช้ดาบหัวใจจะต้องผสานหนึ่งเดียวกับอาวุธในมือ อย่าคิดว่ามันแค่อาวุธชิ้นหนึ่งเพื่อฆ่าเท่านั้น แต่ให้คิดว่ามันคือเพื่อนที่จะปกป้องเรา"


ผมทำท่าจะเดินไปชวนเด็กบ้านอะพอลโล แต่กลับไม่รอดพ้น เอลลิสพุ่งมากอดคอผมอย่างไว "ไงน้องชาย จะรีบไปไหนล่ะ มาเป็นคู่ซ้อมกันดีกว่า"


"เอ่อ..." เดม่อนลอบกลืนน้ำลายก่อนเขาต้องปล่อยเลยตามเลย ก่อนผมผละตัวเองออกจากแขนอีกฝ่าย และชักดาบกับโล่ออกมา


"งั้นเราจัดเต็มกันเลย นายจะได้รู้ถึงวิธีการต่อสู้กับคน วันหน้าถ้านายเจอศัตรูที่เป็นคนจะได้ไม่เป็นเป้านิ่ง" เอลลิสแสยะยิ้ม ก่อนเขาจะชักดาบ โดยไม่ใช้โล่ใด ๆ ดูเหมือนเขาตั้งใจจะต่อให้ผมด้วยซ้ำหรือต้องการจะดูถูกผมกันแน่นะ 


เดม่อนไม่รอช้า เขาวิ่งเข้าจู่โจมเอลลิส เขาขว้างโล่นำหน้าไปก่อนเลย แต่เอลลิสเบี่ยงตัวหลบและจับโล่ของผมได้ ก่อนเขวี้ยงกลับมา ผมกระโดดตามสัญชาตญาณก่อนใช้ปลายเท้าเหยียบโล่และทุ่มน้ำหนักลงพื้น ผมเก็บโล่ขึ้นมา ปัดป้องการโจมตีเอลลิสที่วิ่งตามมาจะพุ่งดาบไม้ใส่ผม


ผมปะดาบเอลลิสกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่อีกฝ่ายมีชั้นเชิงเหนือกว่าเขามากจริง ๆ แม้พยายามจะหว่านเสน่ห์(?) ให้เขาสตันกับรูปลักษณ์และความงามของผม แต่เขาดูจะสตันเพียงชั่ววูบราวกับฝึกรับมือเสน่ห์ของลูกอะโฟร์ไดท์มาอย่างไงอย่างนั้น


และการต่อสู้ของเราก็ดำเนินไปอย่างสูสี จนผมเริ่มเป็นฝ่ายโดนโต้ตอบ ก่อนเขาคว่ำผมสภาพดูไม่จืดเลย เอลลิสก็ยังไม่มีทีท่าจะเลิก เขาแม้จะชนะแล้วก็ยังโจมตีอย่างไม่หยุด และพล่ามไม่หยุดถ้าผมไม่พยายามให้มากกว่านี้ ผมตายไปแล้วถ้าเขาเป็นศัตรู


จนเสียงไครอนเป่านกหวีดหมดเวลา เอลลิสถึงกับหยุด ตอนนี้แม้ผมจะใช้หอมเย้ายวนให้ตัวเองดูสะอาดหมดจด แต่เลือดตามมุมปากและแผลฟกซ้ำคงต้องไปทายาสักหน่อยที่ห้องพยาบาล


"ถ้าผมเป็นศัตรู นายคงตายไปแล้วน้องชาย" เอลลิสพูดแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย ก่อนเขาเดินออกไปจากอัฒจันทร์อย่างอารมณ์ดี


"สำหรับครั้งแรกการรับมือบุตรแห่งแอรีส นายทำได้ดีนะ แต่นายต้องรู้จักถอยและอาศัยจังหวะแพรี่เป็นหลัก" ไครอนเดินเข้ามาแนะนำผม "บุตรแอรีสมีจุดเด่นด้านพละกำลังมหาศาล ถ้านายซนกับพวกเขาเป็นเวลานานพวกเขาจะได้เปรียบ"


"ขอบคุณครับคุณไครอน ผมจะพยายามฝึกฝนให้หนักกว่านี้" เดม่อนพูดพลางยิ้มด้วยความรู้สึกดี ก่อนเขาจะน้อมตัวส่งไครอนและเดินกลับบ้านพักแวะไปทายาสักหน่อยและพักสักงีบเพื่อจะเดินทางไปหาตัวอะไรฆ่าในป่าสักหน่อย เขารู้สึกจะต้องจัดการอสุรกายแปลก ๆ เพิ่มเพื่อให้ตัวเองได้ฝึกฝนรับมือ


รางวัลเข้าชั้นเรียน: +10 EXP , +20 ความกล้า



←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x10
x1
x2
x1
x11
x2
x8
x1
x2
x1
x3
x2
x1
x18
x1
โพสต์ 2024-3-26 01:34:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-3-26 01:40

052
เข้าเรียนสาย

             “โทษที ฉันมาเข้าเรียนสายไปไหม?”

             ดีนสวมชุดเกราะเป็นครั้งที่สองของวันมาที่อัฒจันทร์ สร้างความฮือฮาแก่นักเรียนที่กำลังฝึกซ้อมหลักสูตรการเรียนหอกในวันนี้ให้หยุดชะงักและส่งเสียงซุบซิบฟังไม่ได้ศัพท์ ฝ่ายผู้สอนอย่าง โซเฟีย คลาร์ก ก็เลิกคิ้วมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เธออ้าปากคลายกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หุบปากลงแล้วมองนาฬิกาข้อมือ

             “เยี่ยมเลย เหลืออีกสิบห้านาทีเลิกคลาส ก็ถือว่ายังไม่สายเกินไป.. เฮ้! ทุกคนยังไม่เลิกคลาสนะ ฝึกกันต่อ!” โซเฟียตะโกนบอกสั่งที่ตอนนี้ตั้งกลุ่มซุบซิบกันแทนที่จะสนใจเรียน พอถูกดุพวกเขาก็กลับไปฝึกหอกกันต่อ จากนั้นเธอก็หันกลับมาพูดกับดีน “นั่งรอไปก่อน สำหรับนายต้องเรียนพิเศษท้ายคาบ”

             “โอเค…”

             รู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ที่ไม่ถูกโซเฟียด่า แต่ก็ดีแล้วนี่นา ใช่ว่าตัวเองจะเสพติดการทำร้ายทางวาจาเสียหน่อย ดีนทิ้งตัวลงนั่งบนอัฒจันทร์ขั้นแรก มองดูเพื่อนร่วมคลาสฝึกฝนหอกกัน ดูเหมือนว่าวันนี้เทรนเนอร์จะสอนเรื่องการใช้หอกสำหรับต่อสู้ในระยะกลางและไกลนะ น่าขำชะมัดที่วันนี้เขาได้ปาหอกไปตั้งสองครั้งก่อนคาบเรียนจะเริ่มตั้งหลายชั่วโมง แถมยังแม่นราวจับวางจนแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาอีกต่างหาก…

             ผ่านไปสิบห้านาทีตรงเป๊ะคาบเรียนของวันนี้ก็จบลง เด็ก ๆ ทยอยออกไปจากอัฒจันทร์ด้วยสภาพเหนื่อยล้า เขาไม่เคยเห็นภาพมุมนี้มาก่อน ตัวเองในวันอื่น ๆ คงมีสภาพไม่ต่างกับพวกเด็ก ๆ นักหรอก และตอนนี้ก็เป็นช่วงเรียนพิเศษอันน่าสะพรึงที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเคี่ยวแค่ไหน เลนน็อคไม่อยู่ให้หลบหลังแล้วเสียด้วยสิ
            
             “นึกว่าวันนี้จะไม่มาแล้วซะอีก ที่ไหนได้ นายให้ฉันอยู่ทำโอทีอีกแล้ว คุณไครอนไม่จ่ายค่าล่วงเวลาให้หรอกนะ”

             “ก็แบบว่ามันว่างก็เลยกะจะมาเรียนสักหน่อย” เขาโกหก ว่างก็แย่แล้ว ใช้น้ำทิพย์ที่สถานพยาบาลสมานแผลเป็นชั่วโมง ๆ กินเวลาไปครึ่งค่อนวัน แต่วันนี้เป็นคาบเรียนหอกครั้งสุดท้ายของเดือน ยังไงก็ไม่อยากพลาด “เธอก็เลยจะมาทวงเอาจากฉันแทนงั้นเหรอ ขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน”

             คำตอบของดีนทำเอาหญิงสาวผู้มีอายุมากกว่าเกือบสิบปีหลุดขำ

             “ฉันก็แค่อยากจะบอกว่า ถ้านายไม่ไหวจะหยุดเรียนซักวันก็ได้ พ่อหนุ่มฟิตเนสนักเรียนดีเด่นเอ๊ย”

             “นั่นสิ คงเพราะความเคยชินมั้ง วันนี้ฉันควรจะพัก แต่ไหงใส่ชุดเกราะแล้วเดินมาถึงที่นี่ได้ก็ไม่รู้… แต่ว่าเธอรู้เรื่องเมื่อเช้าด้วย?” พอจะประติดประต่อเรื่องราวได้แล้วว่าคลาสเมทซุบซิบอะไรกันตอนที่เขาเข้าห้องเรียนสาย “เรียนวิชานี้เรียนอีกทีก็ตั้งเดือนหน้า ไหนจะต้องสอบอีก ถ้าฉันพลาดวันนี้ไปก็ต้องรออีกเป็นเดือน… แต่ว่าแบบนี้ถือว่าพลาดหรือเปล่า?”
            
             “ก็ไม่รู้สินะ นายคิดว่าไงล่ะ?” โซเฟียยักคิ้วถามกลับ “ส่วนเรื่องเมื่อเช้าใครไม่รู้ก็บ้าแล้ว เช้าขนาดนั้นแต่ดันมีแซเทอร์วิ่งตะโกนลั่นเรียกหน่วยพยาบาลให้ไปที่หน้าประตูค่าย”

             “โอ้.. เป็นเรื่องเป็นราวน่าดู” ดีนแค่นยิ้มมุมปากบาง ๆ

             “ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก มีเด็กเยอะแยะที่ถูกโจมตีตอนมาที่ค่าย อย่างเพอร์ซี่พี่ชายนายก็คือหนึ่งในนั้น”

             “พี่เพอร์ซี่น่ะเหรอ? เปิดตัวอย่างอลังการเลยนี่นา..” จะว่าไปตอนที่มาถึงหน้าประตูค่ายครั้งแรก ดาริน่าก็ลากเขาหนีตัวอะไรสักอย่างมานี่นา ถึงจะมองไม่เห็นเพราะหลับหูหลับตาวิ่งเข้ามาแต่ก็ดูเหมือนว่าจะถูกไล่ล่าเข้าให้จริง ๆ

             “แล้วนายก็จัดการมันได้ตั้งสองตัวด้วย สำหรับมือใหม่ถือว่านายโชคดีที่รอดมาได้”

             “โชคดีเนี่ยนะ? อย่ามาแอ๊บเลย ความจริงเธออยากชมฉันใช่ไหมล่ะ อย่าเอาคำว่าโชคดีมาเป็นข้ออ้างดีกว่า” ดีนกลั้วขำ ถ้าจะพูดแค่นี้เขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่มาเปิดประเด็นด้วยเรื่องแบบนี้หรอก

             “ใช่ งั้นฉันยอมรับก็ได้ว่า ‘เก่งมาก’ หมายถึงตัวฉันเนี่ยที่เก่ง” เธอชี้ตัวเอง “สอนนายแค่สามครั้งก็ออกไปสู้ชนะอสุรกายซะแล้ว ถือว่าฉันเป็นครูสอนที่ยอดเยี่ยม”

             “ให้มันน้อย ๆ หน่อย มีใครหลงตัวเองเท่านี้อีกไหม?”

             “แล้วรู้สึกยังไงตอนที่ใช้น้ำทิพย์ครั้งแรก?” จู่ ๆ โซเฟียก็เปลี่ยนคำถาม

             “ไม่ยังไง มันเย็นนิดหน่อย รู้สึกสดชื่นแล้วจากนั้นแผลก็หาย แต่ก็ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงมันถึงจะหายดี” ดีนเสมองไหล่ของตัวเองที่เคยเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะและอาบไปด้วยเลือดในตอนเช้า แล้วก็ต้องยกคิ้วขึ้นมองกับคำถามถัดมา

             “แล้วรู้สึกยังไงตอนที่ได้สังหารอสุรกายเป็นครั้งแรก?”

             “ความรู้สึกเหรอ?” ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย เขาหลุบสายตามองมือตัวเองที่แบ ๆ หุบ ๆ “มันมากันสองตัว ฉันไม่รู้ว่าพวกมันเป็นแฟนกันหรือเปล่า แบบว่า… พออีกตัวตาย ตัวใหญ่กว่ามันก็ดูโกรธจนคลั่งเลย”

             “ให้ตายสิดีน นายคิดอะไรของนายกันเนี่ย!” คำตอบที่ได้รับทำให้หญิงสาวฮาพรืด “อัลกูลพวกนั้นมันเกิดมาเพื่อกินและทำลายล้าง เป็นแค่สัตว์ชั้นต่ำ ไม่มีความคิดจิตใจอะไรแบบนั้นหรอก”

             “ก็มันอดจะคิดไม่ได้จริง ๆ นี่ อย่างน้อยมันก็ต้องมีพ่อมีแม่ใช่ไหมไม่งั้นจะเกิดมาได้ยังไง เธอเรียกมันว่าตัวอะไรนะ? อัลกูล? ว่าแต่เธอรู้ได้ไงน่ะว่าฉันสู้กับตัวนี้มา? ตอนที่ฉันทำให้มันกลายเป็นฝุ่นมีแค่ฉันกับแซเทอร์แล้วก็แมคซี่นี่นา”

             “โอ้ เทพีอะธีน่า! ชายคนที่อยู่ตรงหน้าลูกเขาไม่รู้ว่าเพิ่งต่อสู้กับตัวอะไรมา เหลือจะเชื่อเลยจริง ๆ ค่ะท่านแม่!” หญิงสาวแสดงท่าทางโอเวอร์เหมือนตอนที่เคยรับบทในมิวสิคัล “ในฐานะที่เป็นเทรนเนอร์ฉันจะบอกแนวข้อสอบให้ว่า นายจะต้องสู้กับอสุรกายสักตัวเพื่อที่จะผ่านการทดสอบ ส่วนจะเป็นตัวอะไรนั้นนายต้องไปลุ้นเอาเองหน้างาน ว่าง ๆ ก็เข้าห้องสมุดไปหาข้อมูลเหล่าอสูรพวกนั้นอ่านสักหน่อยก็ดีนะ”

             ดีนได้แต่อ้าปากค้างจากการโดนสวดใส่เป็นชุด

             “เอาล่ะเสียเวลาคุยกันมามากพอแล้ว วันนี่นายอยากจะเรียนใช่ไหม? งั้นก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้สิ่งที่ฉันสอนคือการใช้อาวุธหอกโจมตีระยะกลางและไกล แน่นอนว่าหอกทำได้อยู่แล้ว แต่กรณีของหอกสัมฤทธิ์ฉันไม่แนะนำให้นายเอาไปปาเล่น เกราะมูลค่าของมันสูงเกินกว่าจะใช้แล้วทิ้ง โดยทั่วไปหอกที่ใช้ขว้างจะทำมาจากไม้ แต่ยังไงรู้ไว้ใช่ว่าเพราะในการต่อสู้บางทีก็จำเป็นจะต้องขว้างหอกในมือเหมือนกัน”

             “อาฮะ เข้าใจแจ่มแจ้งเลย แถมตอนเอากลับคืนมายังยากมากอีกต่างหาก” คิดถึงภาพเมื่อเช้าแล้วก็ได้แต่พรูหายใจออกมาแรง ๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหยิบหอกกลับคืนมาไม่ได้จะเละแค่ไหน

             “แต่ถ้าใช้อาวุธพิเศษที่สร้างโดยสายเลือดของเทพนักประดิษฐ์ก็ไม่แน่” โซเฟียเกริ่นเพียงเท่านั้น ทำเอาดีนนึกภาพออกเลย หอกที่วกกลับมาได้เองแบบค้อนโยเนียร์ มันต้องโคตรเจ๋ง! แต่กว่าจะไปขอผลิตได้ ต้องเปย์บุตรบ้านเฮเฟทัสหมดไปเท่าไรกันล่ะเนี่ย... “ดูท่าว่าวันนี้นายจะได้ลองปาหอกของจริงมาแล้วสินะ แต่อาจจะไม่ใช่ท่าทางที่ถูกต้อง การยืน การกำหนดลมหายใจ การเหวี่ยงแขนต้องสอดคล้องกัน เพื่อความแม่นยำ ระยะที่ได้ และสุดท้ายคือไม่ทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดจากแรงเหวี่ยง เอาล่ะ ฉันจะสาธิตให้ดู วันนี้เราจะใช้หลาวไม้แทนหอกกันก่อน”

             “อะ.. โอเค”

             พอถึงช่วงสาธิตการสอนที่เข้มข้นดีนก็ตั้งใจเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และทำให้รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อเช้าเขาฟลุกมากที่ปาหอกแม่นยำราวกับมีเทพคอยพัดลมให้เบี่ยงวิถี โชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดหรือไหล่หลุดอีกรอบจากท่าปาหอกที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเรียนพื้นฐานการปาหอกไม้แล้วคราวนี้ก็สลับกลับมาใช้อาวุธสัมฤทธิ์ในการออกท่าโจมตีระยะใกล้ผสมกับระยะกลางและไกล
            
             ไม่ว่าจะด้วยสายเลือดของโพไซดอนที่ทำให้ดีนเรียนรู้วิธีการใช้หอกได้รวดเร็ว หรือเพราะเคยลงสนามจริงมาก่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้วันนี้เขานิ่งขึ้นและเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว  แม้อาจจะไม่ได้ดีเลิศจนได้คะแนน สิบ สิบ สิบ แต่คงไม่เรียกว่าแย่หรือต่ำว่าสาม

             “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ ช่วงเวลาว่าง ๆ ก่อนสอบก็ไปหาข้อมูลของอสุรกายมาดูไว้บ้างล่ะ แล้วก็อย่าลืมไปหมั่นซ้อมที่สนามฝึกด้วย เก็บของให้เรียบร้อยแล้วก็กลับได้เลย”

             “โอเค” พออีกฝ่ายบอกให้กลับดีนก็รีบกลับ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาเอ่ยอีกสักคำแก่หญิงสาว “โซเฟีย ขอบคุณนะ”

             เขากล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะออกจากอัฒจันทร์โดยไม่เหลียวกลับมาอีก สิ่งที่เขาอยากขอบคุณเธอไม่ใช่การสอนในวันนี้ (ความจริงก็ขอบคุณนิดนึง) แต่สำคัญที่สุดเลยก็คือเสียงในหัวที่คอยบอกให้เขาลืมตาในการต่อสู้ สงสัยคงต้องหาอะไรบางอย่างมาจ่ายเป็นค่าโอทีเสียแล้วสิ

เข้าชั้นเรียนหอก-โล่ ครั้งที่ 4
ได้รับโบนัสพิเศษ +5 แต้ม จาก น้ำหอม

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-5-5 14:50:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ᏕᏝᏋᏋᎮᎥᏁᎶ ᎶᎥᏒᏝ
Feria Hayes
วันนี้เป็นวันหนึ่งที่เฟเรียไม่ได้ไปที่ถ้ำเทพพยากรณ์แบบทุกที แต่เธอถูกเรียกตัวมายังอัฒจันทร์ สถานที่ที่ปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แค่ตอนมีคลาสเรียนอาวุธ โดยเฉพาะคลาสเรียนหอกและโล่ที่เป็นอาวุธประจำตัวเธอ แต่วันนี้คนที่เรียกเธอมาคือคุณไครอน และสาเหตุที่เธอถูกเรียกตัวมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็เธอต้องมาสอบวัดฝีมือหอกและโล่ที่นี่ไงล่ะ เฟเรียมาที่นี่พร้อมด้วยอาวุธประจำตัวของเธออย่างหอกและโล่ และก็กาเอลลูกชายสุดรักสุดห่วงของเธอ

“กาเอลไปรอแม่ตรงนู่นก่อนนะ”

“ฮะม่าม๊า พยายามเข้านะครับ”

ว่าแล้วกาเอลก็วิ่งไปนั่งบนที่นั่งผู้ชมตรงข้างสนามเพื่อให้ปลอดภัยจากลูกหลงการสอบ ก่อนที่เธอจะเดินไปหาคุณไครอนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“พร้อมรึยังสาวน้อย”

“พร้อมค่ะ คุณไครอน”

“งั้นยินดีต้อนรับสู่ การสอบวัดฝีมือคลาสหอกและโล่นะ เนื้อหาการสอบครั้งนี้ก็คือ…”

ในตอนนั้นเองที่คุณไครอนตัดเชือกกรงที่ขังไซคลอปไว้ออกจนมันออกมา

“กำจัดไซคลอปให้ได้ด้วยอาวุธหอกและโล่ซะ”

“โอ๊ะ! พวกเดียวกับตอนไปจับฝันร้ายนี่นา งั้นก็สนุกสิ”

เธออมยิ้มก่อนจะเข้าไปต่อสู้กับไซคลอปตัวนั้นอย่างดุเดือด ด้วยความมันแข็งแกร่งกว่าตัวที่เธอเคยสู้ตอนนั้นเลยยากลำบากอยู่พอสมควร ก่อนที่เคยจะใช้ทักษะแบบที่เธอคุ้มชินอย่างยั่วยุ โปรยสเน่ห์แล้วพอมั่นใจก็โจมตีแรง ๆ ใส่โลด เธอทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งเอาชนะได้ในที่สุด

“เก่งมากเฟเรีย นับจากนี้ไปเจ้าจะได้รับทักษะหอกเป็นของตัวเองแล้ว ขอให้เป็นผู้ใช้หอกที่แข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะ”

“ค่ะคุณไครอน”

เธอตอบรับก่อนจะมีกาเอลวิ่งร่ามาแสดงความยินดีให้กับเธออย่างมีความสุข

เข้ารับการทดสอบวัดฝีมือคลาสหอกและโล่

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ -1 ย่อ เหตุผล
God -1

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือแคนูไม้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมดอกป๊อปปี้
ฝันร้าย
มีดสั้นสัมฤทธิ์
Daedalus's Legacy
จิตวิญญาณนักรบแห่งโอกู
เกราะสายรุ้ง
สะกดจิต
น้ำหอม Unisex
ทักษะหอก
กำไลหินนำโชค
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
หลับใหล
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x4
x7
x11
x24
x6
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x6
x18
โพสต์ 2024-5-11 08:58:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Bright เมื่อ 2024-5-11 10:45


◇◆ 64 ◇◆



ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะมาเข้าเรียนวิชาดาบและโล่ ด้วยความที่ทักษะการใช้ดาบตึงเกินต้าน เอ่อ…..หมายถึงตึงเครียดต่อตัวฉันเองเนี่ยแหละ


ท่วงท่าที่คิดตอนฟาดฟันอสุรกายล้วนก็อปมาจากเกมที่เคยเล่นซะส่วนใหญ


เปรียบไบร์ทเป็นตัวละครในเกมน่ะหรอ คงเป็นหยานกาก ๆ ช่วงต้นเกม ต้องใช้เวลาฟาร์มเวลอีกเยอะกว่าจะได้ไปร่วมวงเข้าไฟต์กับคนในทีม


#ภัยพิบัติระดับหยานเวล12


ปัจจุบันเป็นได้แค่ไอ้ตัวต้นเกม !


"เฮ้ เอลลิส" ฉันทักทายชายหนุ่มเลือดร้อน ที่เคยเจอกันในป่าต้องห้าม และได้เอลลิสช่วยต่อสู้กับไฮดร้า 3 หัว 


เอลลิส เวคฟิลด์ไหว่ไหล่ "คุณไครอนจะสอนเลยไหมครับ" แถมยังหมางเมินคำทักทายธิดาแห่งโพไซดอน


"หยิบโล่กับดาบมาถือไว้" ไครอนบอกทุกคน "แล้วให้จับคู่ซ้อม"


มองชาวค่ายคนอื่น ๆ จะให้จับคู่ซ้อมกับคนไหนดีล่ะ ฉันแถมไม่รู้จักกับใครเลยด้วยซ้ำ ก่อนถาม เซนทอร์ผู้ปราดเปรื่อง "คุณไครอน ฉันยังไม่มีคู่"


ไครอนพยักหน้ากวาดสายตาคนที่หน่วยก้านดีเพื่อมาจับคู่กับไบร์ท "เอลลิส ไปจับคู่ซ้อมกับคุณไบร์ท"


"ทำไมผมต้องคู่กับเธอล่ะ"


"เธอคงรู้เรื่องตรีศูลเทพสมุทรถูกขโมยไปใช่ไหม คุณไบร์ทเป็นหนึ่งในทีมจะออกไปตามศาสตราวุธเทพกลับคืน เพื่อยุติสงครามที่กำลังใกล้จะเกิด"


"ก็ได้ครับ" บุตรแห่งแอรีสยอมตกลง "ฉันจะเป็นฝ่ายตั้งรับ ส่วนคุณก็เป็นฝ่ายโจมตี"


"การใช้ดาบมันหลายรูปแบบ ทุกขึ้นกับองศาการฟัน"


ไบร์ทจดจำสิ่งที่ไครอนสาธิตให้ดูแล้วนำมาปรับใช้ในรูปแบบของฉันเอง แทงด้วยปลายดาบออกไปตรง ๆ เน้นเป้าหมายบริเวณลำตัวช่วงบนโดยเฉพาะบริเวณลำคอ เอลลิสใช้โล่เป็นเกราะกำบัง ก่อนกระแทกโล่สวนกลับคืน


จนดาบในมือฉันหล่นพื้น


"จับแน่น ๆ สิ หรือมีแรงแค่นี้" เอลลิสเอ่ยอย่างคนเถรตรงคิดยังไงก็พูดอย่างงั้น 


"เออ ๆ"


ฉันฟันดาบอีกรอบครั้งนี้ใช้มือสองจับแน่นเกร็งไปทั้งตัว 


"เอาล่ะสลับกัน" ไครอนบอกเหล่าเดมิก็อดแต่ละคู่ให้ ผลัดเปลี่ยนหน้าที่กัน


ไบร์ทถือโล่อัสพิสบล็อกการโจมตีเอลลิส กระนั้นทักษะทั้งความสามารถและความชำนาญเอลลิสได้เปรียบกว่า 


เอลลิสฟันตัดเฉียงจากด้านล่างหลังเห็นจุดบอด ไบร์ทตั้งตัวไม่ทันยกโล่กำบังเฉียดฉิว ความรวดเร็วของเขาเหนือกว่า เมื่อสบโอกาสเอลลิสตวัดดาบลงกลางลำตัวที่มีโล่ของไบร์ทป้องกันตัวเองไว้ 


"เฮ้ยยยยยย"


ตุ้บบบบบบ


มือใหม่อย่างฉันถึงกับล้มไปนอนกองกับพื้น 


"ลุกขึ้นมา ผมยังออกแรงได้ไม่ถึงครึ่ง"


ไบร์ทลุกขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังจุก ๆ หน่วง ๆ ช่วงท้อง ฝึกได้ยังไงให้รู้สึกทรมาน


ก็ฝึกแบบนี้ไงล่ะ ไครอนจับใครมาคู่กับฉันว่ะ เหมือนเอาคนเทพมาตบเด็กใหม่ 



รางวัลเข้าชั้นเรียน: 

+10 EXP , +20 ความกล้า

เรียนดาบและโล่ ครั้งที่ 1





คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
โพสต์ 2024-5-12 16:14:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด


SWORD AND SHIELD #1

- - - - -


                หลังจากที่ได้คำแนะนำจากพี่ชายต่างแม่ให้ลองมาเรียนคลาสดาบและโล่ที่สอนโดยไครอนระหว่างรอเจ้าตัวว่างมาซ้อมด้วยไปพลางๆ อเดลเลดก็รีบรุดมายังอัฒจันทร์เพื่อเข้าคลาสเรียนตามคำแนะนำทันที แม้จะเคยฝึกซ้อมด้วยตัวเองมาแล้วหลายครั้งแต่แน่นอนว่าการถูกสอนโดยผู้เชี่ยวชาญย่อมดีกว่าหลายเท่า


                "โทษที อันนี้ใช่คลาสเรียนดาบและโล่ไหมคะ" อเดลเลดสะกิดถามหญิงสาวอีกคนที่ยืนรวมกลุ่มกับชาวค่ายคนอื่นอยู่ที่อัฒจันทร์


                "ใช่แล้ว พวกเรากำลังรอคุณไครอนอยู่เลย มาตรงนี้สิ" หล่อนกวักมือเรียก "ฉันชื่ออลิเซียนะ"


                "ฉัน อเดลเลด" เธอแนะนำตัวบ้าง นัยน์ตาสีน้ำตาลยังไม่สามารถละไปจากสาวสวยตรงหน้าได้ อลิเซียมีผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวยกับเรือนผมงามสีน้ำตาลที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยฟุ้ง ตอนแรกคิดว่าแดดแยงตาเพราะอเดลเลดเห็นออร่าบางอย่างที่ช่วยขับให้อลิเซียดูเปล่งปลั่งและโดดเด่นท่ามกลางชาวค่ายนับสิบที่ยืนอยู่รวมกัน


                ถ้าให้เดา อลิเซียคงเป็นธิดาแห่งอะโฟรไดท์ไม่ผิดแน่


                "เอาล่ะ ทุกคนมารวมกันทางนี้" ไครอนมาถึงแล้วและกำลังเรียกทุกคนให้มายืนรวมกัน


                "คลาสเรียนวันนี้จะสอนเรียนดาบและโล่ ฉันคิดว่าหลายคนคงเคยฝึกซ้อมดาบกันมาบ้างแล้วแต่อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากในการต่อสู้และช่วยรักษาชีวิตพวกเธอได้ก็คือโล่" ไครอนหยิบดาบและโล่ขึ้นมาถือไว้ด้วยมือทั้งสองข้างขณะควบท่อนล่างที่เป็นอาชาศึกเหยาะๆ ให้นักเรียนในคลาสของตัวเองได้เห็นการสาธิตแบบชัดๆ 


                อเดลเลดตั้งใจดูไครอนสาธิตวิธีการใช้ดาบและโล่คู่กันอย่างตั้งใจเพราะเธอเองก็ยังไม่เคยลองถือโล่มาก่อน บรรยากาศในคลาสเรียนเริ่มคึกคักขึ้นเมื่อไครอนเริ่มเรียกนักเรียนในคลาสออกไปสาธิตร่วมกับเจ้าตัวเพื่อวัดความเข้าใจในสิ่งที่สอนไปเมื่อครู่ โชคดีที่เธอเองไม่ใช่หนึ่งในคนที่ถูกเรียนออกไปหน้าชั้นเรียนเพราะไม่ชอบตกเป็นจุดสนใจของคนจำนวนมาก แต่ก็ยังแอบเสียดายเล็กๆ เพราะถ้าได้ออกไปฝึกกับไครอนแบบตัวต่อตัวน่าจะทำให้เข้าใจได้มากกว่านี้


                หลังจากที่ช่วงสาธิตจบลง ไครอนก็ให้นักเรียนในคลาสจับคู่กันเพื่อลองฝึกซ้อมกันแบบตัวต่อตัวและปัญหาเดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง อเดลเลดแทบไม่รู้จักใครเลยในในคลาสทำให้ไม่รู้จะไปคู่กับใครจนกระทั่งไครอนเริ่มสังเกตุเห็นอาการเลิ่กลั่กและเขามาถามด้วยความเป็นห่วง


                "ยังไม่มีคู่ฝึกซ้อมหรอ คุณเดล"


                "อ่า.. ยังเลยค่ะ ฉันไม่รู้จักใครเลย" อเดลเลดเริ่มมองหาอลิเซีย หล่อนยังโดดเด่นท่ามกลางชาวค่ายเหมือนเคยแต่ดูเหมือนหล่อนเองก็จะจับคู่กับคนอื่นไปแล้ว


                "คุณโลรองต์ รบกวนมาเป็นคู่ซ้อมให้คุณเดลหน่อยสิ" ไครอนร้องเรียกชายหนุ่มที่อยู่อีกฟากที่ดูเหมือนจะยังหาคู่ไม่ได้เหมือนกันให้มาเป็นคู่ซ้อมของอเดลเลด 


                "ครับ"


                อเดลเลดขอบคุณไครอนด้วยความเกรงใจก่อนที่จะหันไปโฟกัสชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เธอเดาว่าเขาคงจะเป็นบุตรแห่งอะโฟรไดท์อีกคนดูจากใบหน้างดงามเกินมนุษย์มนานั่นคงไม่ผิดแน่


                "ฉันชื่อเดล" หญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มแนะนำตัวก่อนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดไม่จา


                "เอเตียน" เขาว่า ครู่ต่อมาการฝึกซ้อมก็เริ่มต้นขึ้น อเดลเลดกระชับโล่ในมือเพื่อให้ถือได้อย่างมั่นคงไม่กระเด็นหายไประหว่างการต่อสู้ก่อนที่เริ่มเป็นบุกไปหาเอเตียนก่อน ชายหนุ่มตั้งรับได้อย่างรวดเร็วและแข็งแรงขณะที่อเดลเลดเองก็ไม่ได้ยั่งเรี่ยวแรงในการโจมตีอีกฝ่ายเช่นกัน 



- - - - -


คลาสเรียนดาบและโล่ ครั้งที่ 1

รางวัลเข้าชั้นเรียน: +10 EXP , +20 ความกล้า



คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +5 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5 + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แว่นกันแดด
เกราะหนัง
หมวกเกราะ
ชุดเครื่องเพชร
น้ำหอมสตรี
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
รองเท้าเซฟตี้
ความแข็งแกร่ง
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x4
x2
x1
x2
x1
โพสต์ 2024-5-12 18:47:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด

◇◆ 69 ◇◆


"วันนี้จับคู่ซ้อมกันเหมือนเดิม" ไครอนบอกกับชาวค่ายทุกคนที่มาเข้าเรียนดาบและโล่ เซนทอร์เดินวนไปรอบ ๆ "ใครยังไม่มีดาบ มาหยิบจากตรงนี้ ใช้เสร็จแล้วค่อยกลับมาคืนที่เดิม"


ฉันมีดาบสัมฤทธิ์เป็นของส่วนตัว ซื้อมาจากร้านครักม่าที่มีขายในค่าย เป็นอาวุธที่หลอมจากแร่สัมฤทธิ์วิเศษมีพลังในการจัดการกับเหล่าปีศาจอสุรกาย


"จำเป็นต้องคู่เดิมมั้ย ?"


"คุณไบร์ทาสามารถเปลี่ยนคู่ได้ หรือถ้าอยากจับคู่กับเอลลิสเหมือนเดิม"


โอ้โน โอ้โน โอ้โนโนโนโน


เอลลิสที่กำลังนั่งลับปลายดาบอยู่เงยหน้ามองไครอนและไบร์ททันที ฉันส่ายหน้าแรง ๆ จับคู่กับคนเก่งฟ้าประทานยังไงก็โดนเละฝ่ายเดียว บุตรแห่งแอรีสมีท่าโจมตีหนักหน่วง ทุกการฟันดาบมั่นคงทรงพลัง


"ขอเปลี่ยนดีกว่า" ฉันมองหาคนที่จะขอจับคู่ด้วย "คนนั้นมีคู่หรือยังอ่ะ"


"นั่นแฟนผม"


ไฟแรงดีแท้ทั้งที่อายุยังไมเนอร์ มีแฟนซะแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาสวยคมเข้มผิวพรรณสีน้ำผึ้ง คงเป็นสาวละตินสิท่า พอรู้เป็นคนรักของเอลลิส ฉันเปลี่ยนเป้าหมายทันควัน มันต้องมีสักคนสิวะ


"ฉันยังไม่มีคู่ซ้อม สนใจซ้อมคู่กับฉันไหม ?" เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น 


"ผู้หญิงเรอะ ได้ดิ" อย่างงี้ก็หวานเจี๊ยบสิครับผม


ไบร์ทหันไปยิ้มที่มีผู้หญิงมาขอจับคู่ด้วย


เมื่อเห็นคู่ของตัวฉัน ติดสตั๊นรัว ๆ หญิงสาวผิวดำที่มีวงแขนกล้ามเป็นมัด ๆ แขนทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยสัก ซึ่งคาดว่าเธอคนนี้อาจจะสักทั้งตัว "ฉันไบร์ท เอมส์"


"ลูพิต้า เกนยัตตา กูริรา"


"มีคู่ครบทุกคนแล้วใช่มั้ย เริ่มซ้อมได้"


ไบร์ทเป็นฝ่ายตั้งรับก่อนถือโล่ป้องกันดาบของลูพิต้าที่ฟาดฟันลงมาบนโล่หนา แรงเหวี่ยงพอ ๆ กับเอลลิส หรือเธอจะเป็นธิดาแห่งแอรีส ดวงตาดุดันซะเหลือเกิน


"เป็นลูกของเทพแอรีสหรอ"


"ไม่ใช่" ลูพิต้าตอบกลับ "ตาเธอ" 


"งั้นเป็นลูกใครล่ะ" ฉันถามทั้ง ๆ ที่ยังฝึกซ้อม เปลี่ยนสลับใช้ดาบแทนโล่ ลูพิต้ากลายเป็นฝ่ายตั้งรับแทน 


"แม่ฉันคือเทพเฮอร์มาโฟร์ไดตัส"


"เทพที่เป็น LGBTQIA+ น่ะรึ ว้าว" เป็นเทพที่มีสองเพศอยู่ในคนเดียวกัน 


หลังจากจับคู่ซ้อม ฉันอยากเขียนรีวิวจริง ๆ ลูพิต้า เกนยัตตา กูริรา ตึงมือพอ ๆ กับ เอลลิส เวคฟิลด์ 


พวกเอ็งสองคนควรจับคู่กันเหอะ ลำบากคนซ้อมที่ฝึกต่ำ ๆ ระดับล่าง 


ฉันทนฝึกจนจบคลาสเรียน เล่นซะหอบแฮ่ก ๆ เหงื่อออกอย่างเยอะ ฉันหยิบผ้าเช็ดซับเหงื่อที่ประปรายตามกรอบหน้า 


"ดูเหมือนจะใช้ดาบได้คล่องขึ้นแล้วนะคุณไบร์ท" ไครอนที่สังเกตการณ์เอ่ย


"เจอคู่ซ้อมหนัก ๆ ฝีมือมันก็เลยพัฒนาขึ้นเพราะไม่อยากโดนกระทำฝ่ายเดียวเนี่ยแหละ"


"ก็เป็นสิ่งที่ดี"


"ดีเรอะ.....ตรงไหนไม่ทราบ !?"


ฉันเสียแรงไปเยอะมากจริง ๆ ก่อนจะแยกย้ายไปที่อื่น ต่อ แวะหาซื้อของกินสักหน่อยละกัน ถึงจะฝึกเรียนดาบและโล่ยังไงความชอบเรื่องการยิงปืน นัมเบอร์วัน เหมือนเดิม บุตรธิดาแห่งเฮเฟตันเมื่อไหร่จะผลิตสร้างปืนแบบอื่นบ้าง 



รางวัลเข้าชั้นเรียน: 

+10 EXP , +20 ความกล้า

เรียนดาบและโล่ ครั้งที่ 2





คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +5 ย่อ เหตุผล
God + 5

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้