เจ้าของ: God

[ตรงกลางระหว่างบ้านพักทั้งหมด] กองไฟแห่งเฮสเทีย

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-3-24 02:26:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-25 21:55

046

วันเสาร์คือวันหยุด


             หากพระเจ้าตามหลักศาสนาใช้เวลาสร้างโลกหกวัน… วันที่หนึ่งแยกแสงสว่างออกจากความมืด วันที่สองแยกท้องนภาออกจากผืนน้ำ วันที่สามสร้างแผ่นดินและพืชพรรณ วันที่สี่สร้างตะวัน จันทรา และดาราเพื่อกำหนดวันเวลา วันที่ห้าสร้างสัตว์น้ำและสัตว์ปี วันที่หกถึงได้สร้างสิ่งมีชีวิตบนผืนดินรวมถึงมนุษย์อย่างอาดัมและเอวา นับว่าเป็นการทรงงานร้อนที่หนักหน่วงยิ่งกว่าการสร้างกรุงโรมให้เสร็จภายในหนึ่งวัน พระเจ้าอาจจะใช้เวลาถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันในการทำงาน ส่วนมนุษย์อย่างดีนที่มีกฎหมายแรงงานรองรับขอทำงานแค่ห้าวันก็พอ


             ย้อนกลับไปดูกันดีกว่าว่าสัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์เขาทำอะไรไปบ้าง…

             วันจันทร์ ออกไปส่งจดหมายถึงดาริน่า… จบหนึ่งวัน

             วันอังคาร ไปฝึกพื้นฐานการต่อสู้ด้วยการทำสมาธิกับอาจารย์ไครอน… จบหนึ่งวัน

             วันพุธ เข้าคลาสวิชาหอกและโล่ ครั้งที่ 1 แล้วถูกยัยผู้หญิงใจยักษ์หวดจนเลือดกำเดาไหล… จบหนึ่งวัน

             วันพฤหัสบดี เข้าคลาสวิชาหอกและโล่ ครั้งที่ 2 แล้วถูกยัยผู้หญิงใจมารเล่นละครบีบน้ำตาใส่ แต่ผลดีคือพอจะเรียนรู้สเตปการต่อสู้เข้าหัวขึ้นมาอีกนิด… จบหนึ่งวัน

             วันศุกร์ ดีนเข้าคลาสหอกและโล่ ครั้งที่ 3 ได้คุยกับยัยผู้หญิงใจโหดจนพอจะทำความเข้าใจกันได้มากขึ้น แล้วก็เรียน ๆ ฝึก ๆ จนหลุดออกจากการเป็นนักเรียนท้ายห้อง จากนั้นก็ไปช่วยเจโรมแต่งสถานที่จัดงานที่ชายหาด… จบไปอีกหนึ่งวัน อา.. วันนี้รู้สึกว่าทำตัวมีประโยชน์ชะมัดเลย


             แล้วไหงถึงเปิดตอนมาด้วยการสรุปเรื่องราวหนึ่งอาทิตย์เหมือนตอนสุดท้ายของซีรี่ย์ที่ดันมีเนื้อหาสุดพีคอยู่ในตอนที่แล้วแบบนี้กันล่ะ? ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเขาจะจบตามสรุปที่กล่าวมาหรอกนะ แต่เพราะว่าวันนี้ที่เป็นวันที่หก ดีนนอนอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ๆ ในห้องนอนชายบ้านโพไซดอนทั้งวันยันมืด ประทังชีพด้วยอาหารกล่องจากมินิมาร์ทที่ซื้อตุนเอาไว้ หากคิดว่าเรื่องราวในวันจันทร์ดูไร้ประโยชน์ที่สุดแล้ว บอกตรง ๆ เลยว่าวันนี้เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยสูญเปล่ากว่าวันจันทร์สักสิบเท่าได้


             แต่วันนี้มีปาร์ตี้นี่นา…


             ดีนค่อย ๆ กระดึ๊บลงมาจากเตียงนอน หลังได้รับพลังฮีลจากเตียงนอนนุ่ม ๆ ที่นอนขลุกเกินสิบชั่วโมง อาการปวดเนื้อปวดตัวจึงผ่อนบรรเทาลงไปได้หลายส่วน เขาแต่งตัวหล่อกว่าเดิมนิดหน่อยด้วยการโกนหนวด ฉีดน้ำหอม (ที่ก็ฉีดมาทุกวัน) สวมใส่แจ็กเก็ตตัวเก่งแทนชุดเกราะ จากนั้นก็เดินออกจากบ้านโพไซดอนไม่ถึงสิบเก้าก็ถึงหน้ากองไฟที่จัดงานเลี้ยงของคุณดี รู้สึกว่าสัปดาห์นี้ผู้คนที่มาปาร์ตี้จะบางตา คงเพราะปาร์ตี้ที่ถี่เกินไปทำให้ไม่รู้สึกเร้าใจอีกต่อไป เหมือนกับที่ดูหนังและซีรี่ย์มาร์เวลปีละตั้งห้าหกเรื่องนั่นแหล่ะ ขนาดคนที่ชอบปาร์ตี้อย่างดีนยังรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะเมาในวันนี้เลย แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเมื่อวานเขาเพิ่งเมากรึ่ม ๆ มาจากปาร์ตี้วันเกิดของหญิงสาวบ้านอะโฟรไดท์


             “สวัสดีครับคุณดี รุ่นพี่ออสติน”


             มาถึงงานก็ทักทายเจ้าภาพตามมารยาท วันนี้เขาไม่มีของอะไรมาให้ทั้งสองคนเลย ก็อย่างว่า.. ให้อาหารเวฟจากมินิมาร์ทกับเจ้าของปาร์ตี้คงดูไม่ดี


             “สวัสดีดีน”


             “สวัสดี ดูน น็อกซ์ วันนี้มาช้านะ”


             คุณดีเอ่ยคำทักทายโดยไม่ลืมจะแปลงชื่อให้ เหมือนจะเข้ากับสถานการณ์หนังใหม่ที่เข้าฉายในช่วงนี้ น่าเสียดายที่พออยู่ค่ายแล้วไม่มีโอกาสได้ดูหนังเลย ถ้างั้นลองงอแงใส่คุณดีดูดีกว่า เผื่ออีกฝ่ายจะมีเส้นสายหาหนังมาฉายได้บ้าง


             “คุณดี ผมอยากดูดูน พาร์ท สองจังครับ” ลองออดอ้อนเทพแห่งปาร์ตี้ด้วยน้ำเสียงตะแง้ว ๆ เผื่อว่ามันจะน่าเอ็นดูขึ้นมาบ้าง


             “อ้อ ก็ออกไปดูที่โรงหนังสิ” คุณดีตอบออกมาหน้าตาย ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม คุณดีเย็นชาใส่สุด ๆ แต่ก็รู้ว่าเป็นการแสดงแหล่ะ


             “ออกไปได้ซะที่ไหนกันล่ะครับ ข้างนอกอันตรายซะขนาดนั้น แบบว่าคุณดีหรือรุ่นพี่ออสตินพอจะมีเส้นสายเอาหนังกลางแปลงมาฉายหน่อยได้ไหม?”


             “อ้อ ไม่มี แต่อัลไทน์อาจจะมีเส้นก็ได้” คุณดีหันไปทางลูกชาย จาก ออสติน กลายเป็นชื่อ อัลไทน์ ไปแล้ว


             “โธ่ คุณพ่อครับ ผมเป็นนักแสดงจีนนะ ไม่ใช่นักแสดงฮอลลีวูด แต่ถึงจะใช่ก็คงเอาหนังชนโรงออกมาฉากให้ไม่ได้หรอกครับถ้าไม่ใช่ เดอนี วีลเนิฟว์”


             “โอ้ แย่จัง งั้นเธอก็คงจะอดแล้วล่ะ ดริว นาฟ”


             “เดี๋ยวนะ เมื่อกี้คุณยังเรียกผมว่า ดูน น็อกซ์ อยู่แหม่บ ๆ” ดีนหัวเราะขำ เหลือจะเชื่อกับเขาเลยจริง ๆ เปลี่ยนชื่อคนอื่นได้ไวกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสีเสียอีก


             “นายอยากจะดูจริง ๆ เหรอดีน ผมว่าผมมีไอเดียอยู่นะ” ออสตินที่เพิ่งบอกไปตะกี้ว่าหาหนังถูกลิขสิทธิ์มาฉายให้ไม่ได้ กลับบอกว่ามีไอเดียแถมแววดายังมีประกายวิบวับขี้เล่นอีกต่างหาก “เอาไว้ถ้าทำสำเร็จ ลองมาปาร์ตี้พรุ่งนี้ดู อาจจะได้ดูดูนก็ได้นะ”


             “โอ้! จริงเหรอครับ ไหงจู่ ๆ ถึงจะได้ดูกระทันหันขนาดนั้น คงไม่ใช่ว่าเป็นหนังซูมผิดลิขสิทธิ์ใช่ไหม?”


             “ไม่ผิดลิขลิทธิ์ ไม่ผิดแน่นอน ทั้งภาพ เสียงสี คมชัด ถูกกฎหมายลิขสิทธิ์อีกด้วย แม้พวกเทพจะไม่แคร์เรื่องกฎที่มนุษย์สร้างก็เถอะ รุ่นพี่ออสตินยกมือปัดอากาศว่าอย่าไปใส่ใจ พรุ่งนี้นายคอยดูได้เลย แต่ผมขอไปเช็คดูก่อนว่าพอจะหามาได้จริงหรือเปล่า”


             “โอเค เอางั้นก็ได้ครับ ถ้างั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปหาอะไรทานก่อนนะครับ แล้วเจอกันใหม่ทั้งสองคน”


             ชายหนุ่มปลีกตัวออกมาจากผู้จัดงานทั้งสองในนามไดโอนีซุส สองพ่อลูกเทพน้ำเมากับเดมี่ก็อดกระซิบกระซาบบางอย่างแล้วหัวเราะกันคิกคักหลังจากที่ดีนเดินออกมา


             แม้ว่างานจะกร่อยลงแต่อาหารยังอยู่ในระดับเลิศหรูอลังการ แค่ได้กินของอร่อย ๆ พวกนี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง เขาตักของอร่อยมาเยอะแยะจากนั้นก็ไปที่กองไฟในจุดที่กลุ่มเด็กนักดนตรีเคยเล่นเพลงกันอยู่


             “ฮาย สวัสดี” ดีนนั่งลงที่ว่าง ก่อนจะหันมองกลุ่มเด็กเหล่านี้ รู้สึกเหมือนกลุ่มเล็กลงจากครั้งก่อน ราวกับว่าคนจะหายไปสองสามคน “อ้าว วันนี้คนมากันแค่นี้เองเหรอ?”


             “สวัสดี ใช่ครับ คนอื่น ๆ ไปทำภารกิจ” เด็กหนุ่มในกลุ่มตอบคำถาม


             “อ้อ ภารกิจ.. ว่าแต่ฉันไม่ได้ไปดูบอร์ดนานแล้วแฮะ ไม่รู้ว่ามีอะไรอัพเดทขึ้นมาบ้าง”


             “ก็หลายอย่างอยู่ค่ะ มีแต่ภารกิจอันตรายที่พวกเราน่าจะทำไม่ไหว” เด็กสาวในกลุ่มเอ่ยสมทบ แล้วทุกคนตรงนี้ก็ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย


             “อืม.. ภารกิจอันตรายสินะ” ดีนหันไปยิ้มให้กับทุกคนที่อยู่ตรงนี้ “ถึงพวกนายจะไม่กล้าก็ไม่เป็นไร คนที่รักตัวกลัวตายคือคนฉลาด เชื่อฉันสิ”


             เด็กคนอื่น ๆ ยิ้มตอบแหย ๆ ดีนรู้ว่าพวกเขาเองก็อยากจะมีความกล้าเหมือนวีรบุรุษในตำนาน แต่การรักชีวิตตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด และมันสำคัญที่สุดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งดีนก็จัดอยู่ในกลุ่มคนประเภทนี้ จะถูกหาว่าเป็นพวกขี้แพ้ขี้ขลาดหรืออะไรก็ช่าง เชิญว่ามาได้เลย ศักด์ศรีนั้นกินไม่ได้ การมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยสิคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด


             จะว่าไป.. เหมือนเพิ่งนึกออกว่ากลุ่มเด็กโตกลุ่มแรกที่ออกไปทำภารกิจ ก็หายไปนานร่วมเดือนแล้วยังไม่กลับมากันเลย หวังว่าพวกนั้นจะปลอดภัยนะ


             “แล้ววันนี้จะเรียนกีต้าร์กันต่อไหมฮะ?” หนุ่มนักกีต้าร์ผู้ไร้การรับรองจากทวยเทพเอ่ยถาม แลดูกระตือรือร้นอยากสอนผู้ที่มีจิตรักในเสียงเพลงให้เล่นกีต้าร๋เป็นอยู่มาก


             “จริงด้วย เอาสิ ถ้านายยังไม่เบื่อที่จะสอนฉันก็รบกวนด้วยนะ”


             พอดีนตอบรับเด็กนักกีต้าร์ก็ส่งเครื่องดนตรีให้แล้วก็สอนการเล่นเพลงต่อจากครั้งที่แล้ว คลาสกีต้าร์แสนเรียบง่ายไม่ตึงเครียดเหมือนตอนเรียนคลาสต่อสู้ แถมยังเรียนไปกินไปได้ด้วย ใช้เวลาอยู่ร่วมชั่วโมงดีนก็พอจะดีดกีต้าร์เป็นเพลงขึ้นมาบ้างแล้ว





สรุป
เข้าร่วมงานทักทาย คุณดี กับ ออสติน อ๋าว (ไม่ได้ให้ของขวัญ)
+5 โบนัสพิเศษจากน้ำหอม
BELIEVER [ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ] โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15
เรียนกีต้าร์กับกลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้ถูกรับรองบุตร

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] ออสติน อ๋าว เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2024-3-24 10:09
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-14] ไดโอนีซุส (คุณดี) เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-3-24 10:09
โพสต์ 44584 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-3-24 02:26
โพสต์ 44,584 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-24 02:26
โพสต์ 44,584 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-3-24 02:26

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 เหรียญดรักม่า +4 พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 50 + 4 + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-3-25 02:28:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-25 21:56

049
คุณหลอกดาว!

             มาร่วมงานตามที่นัดกันไว้ด้วยการรออย่างใจจดใจจ่อ แต่พอเห็นว่าวันนี้มีจอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แสดงว่าคำขอของเขาเป็นผลและรุ่นพี่อออสตินทำสำเร็จ ดีนวกไปร้านสะดวกซื้อก่อนที่จะเข้าร่วมในปาร์ตี้ อย่างน้อยก็ต้องมีของขวัญตอบแทนแก่ผู้มีพระคุณสักนิดอ่ะเนอะ มาปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มแบบนี้ พอซื้ออาหารเพิ่มก็ออกจะแปลก ๆ เหมือนไม่ถูกใจรสมือแม่ครัว ดีนเลยเดินวนหาแถว ๆ มุมเกมแล้วในที่สุดเขาได้ก็ได้การ์ดเกมมาสองเกม



             ไพ่สำรับแรกคือการ์ดเกมอูโน่ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ส่วนอีกสำรับคือการ์ดเกมที่ชื่อว่า ‘สงครามหาบเร่’ ซึ่งเป็นการ์ดเกมจากประเทศสิงคโปร์ที่เกี่ยวกับการทำอาหารสตรีทฟู้ด งานอาร์ตน่ารักสีสันสวยงาม ไร้ความรุนแรงเหมาะกับการนำมาจัดปาร์ตี้ในค่ายที่เต็มไปด้วยเด็ก ๆ หรือหากผู้ใหญ่อยากเล่นเองก็เอ็นจอยได้เหมือนกัน

             ดีนกลับมาที่งานอีกครั้ง กล่าวทักทายและขอบคุณทั้งคุณดีและรุ่นพี่ออสตินก่อนจะมอบของขวัญให้

             “สวัสดีครับ ผมเห็นมีจอฉายหนังมาตั้ง แปลว่าวันนี้จะมีดูนให้ผมดูใช่ไหม?”

             “แน่นอน ผมทำเพื่อรุ่นน้องที่น่ารักได้อยู่แล้ว” รุ่นพี่ออสตินยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วขยิบตาให้

             “ถ้างั้นก็ดูหนังให้สนุกเถอะ ดิม นาร์ค”

             คุณดีเองก็เหมือนกัน เขาเห็นว่าอีกฝ่ายเหมือนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ เพราะอะไรก็ไม่รู้แต่ว่าช่างเถอะ

             “ถ้างั้นผมผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วก็นี่ของฝาก”

             ให้ของขวัญทั้งคู่เสร็จชายหนุ่มยกมือโบกลาทั้งสองคน รีบไปตักอาหารและป็อบคอร์นมาเพื่อนั่งกินระหว่างดูหนังกลางแปลงไปด้วย ไม่นานจากนั้นหนังก็เริ่มทำการฉาย แต่รู้สึกแปลก ๆ จังเลยแฮะ ภาพก็เหมือนจะชัดแต่การถ่ายทำแปลกมาก เกรดดิ้งสีก็แปลก ๆ เสียงก็แปลก ๆ ฟังดูอู้ ๆ ไม่รื่นหูทั้งที่ลำโพงเสียงก็ใสดีจะตาย ดีนหันกลับไปมองคุณดีและรุ่นพี่ออสติน ทั้งสองยังคงยิ้มแป้นให้แล้วโบกมือมาทางนี้

             แล้วพอหนังฉายไปได้อีกนิดก็ชัดเลย ทิโมธี ชาลาเมต์ เปี๊ยนไป๊กลายเป็น ไคลี แมคลาคแลน เสียอย่างนั้น!!

             ‘เชี่ย! นี่มัน DUNE 1984!!!’

             ดีนสบถในใจแรงมาก เขาหันหน้าเหวอะ ๆ ไปทางสองพ่อลูกก็เห็นว่าพวกนั้นกำลังคำคิกคักกันอยู่นอกวงหนังกลางแปลง

             ‘หนอยแน่! ทำกันได้นะ!!’

             ชายหนุ่มกัดฟันกรอด แต่ไหน ๆ หนังก็ฉายแล้วเขานั่งดูอยู่ต่อก็ได้ ยังไงก็ไม่เคยดูเวอร์ชั่นนี้ ดีนไม่ใช่คนดูแคลนหนังเก่า แต่หนังจากปี 1984 มันก็เก่าไปป่ะ? สมัยคุณแม่ยังเป็นเด็กอ้อแอ้อยู่เลยนะนั่น ซีจียุคนั้นลอยสะบัด ไม่สิ เผลอ ๆ จะยังไม่มีซีจีใช้เลยด้วยซ้ำ!!




             โอ้นั่น.. มันออกมาแล้วหนอนทรายในตำนาน! ถึงกับดูไปกุมขมับไปกันเลยทีเดียว…
            
สรุป
มอบ [สำรับไพ้] ให้ [ไดโอนีซุส] และ [ออสติน อ๋าว]
BELIEVER [ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ] โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+15
ดูหนังกลางแปลงที่เก่าสะบัด...

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ดี: 5
( อดไม่ได้ ถึงกับต้องมาคอมเมนท์ ) [i]ทิโมธี ชาลาเมต์ เปี๊ยนไป๊[/i]  โพสต์ 2024-3-25 23:04
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-3-25 11:26
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] ออสติน อ๋าว เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-3-25 03:31
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-14] ไดโอนีซุส (คุณดี) เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-3-25 03:31
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-14] ไดโอนีซุส (คุณดี) เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-3-25 03:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 เหรียญดรักม่า +3 พลังงาน +30 ย่อ เหตุผล
God + 50 + 3 + 30

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-5-2 22:47:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-5 18:04

112
คำแนะนำจากรุ่นพี่

             ตั้งแต่ได้รับสารแปลก ๆ จากบิดาเทพก็ทำให้ดีนคิดไม่ตก เขาเอาแต่ใจลอยแล้วก็เดินวนไปวนมาอยู่บริเวณสวนหย่อมส่วนกลางที่ล้อมกองไฟเฮสเทียเอาไว้ ชายหนุ่มได้แต่หวนคิดถึงสุ้มเสียงของบิดาที่ส่งตรงถึงโสตประสาทอย่างรุนแรงจนเลือดกำเดาไหล

             ตรีศูล.. ตรีศูล.. ตรีศูล.. ตรีศูล.. ตรีศูล.. ของข้า! ใครบังอาจ.. ใครบังอาจ.. ใครบังอาจ ขโมยไป!! ▓▓▓ จักต้องชดใช้!!!...

             ‘ใครจะต้องชดใช้นะ?’

             คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างคิดไม่ตก ถ้าแบบนี้แปลว่าเทพโพไซดอนรู้อยู่แล้วงั้นเหรอว่าใครคือหัวขโมย? แม้ว่าดีนจะพยายามสื่อสารกับรูปปั้นมากเท่าไรก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาอีกเสียด้วยสิ

             ซึ่งท่าทางกระวนกระวายใจนั้นอยู่ในสายตาของคน ๆ หนึ่งมาโดยตลอด

             “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”

             มือของคนที่ทักวางแตะบนไหล่ ทำเอาคนที่กำลังใจลอยอยู่สะดุ้ง ใจแทบจะร่วงไปกองอยู่กับพื้น ดีนแสดงอาการแพนิกอย่างชัดเจน

             “เหวอ!?!”

             “ใจเย็น ๆ ฉันเอง” เล่นทำเอาคนทักสะดุ้งตาม เมื่อหันไปมองถึงได้เห็นว่าเธอคือรุ่นพี่ไพเพอร์ ธิดาแห่งอะโฟรไดท์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดสวยงามเหมือนสาวมีนเกิร์ลแต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงไหลเหมือนมารดาจนต้องหลบตา “เธอดู… ค่อนข้างจะกังวลนะ มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ไหม? ดีน.. ชื่อนี้ใช่หรือเปล่า?”

             “ใช่ครับ ผมดีน.. สวัสดีรุ่นพี่ไพเพอร์ ไม่คิดว่าคุณจะจำผมได้”

             นับตั้งแต่วันที่เขาและเธอพบกันครั้งแรกก็ผ่านมาแล้วเป็นเดือน จะว่าอีกฝ่ายเป็นคนความจำดีได้ไหมนะ คงไม่ใช่ว่าเพราะเขาหน้าตาดีจนทำให้ทั้งชื่อและหน้าติดอยู่ในความทรงจำของเธอหรอกนะ ว่าไปนั่น.. คนสวยอย่างรุ่นพี่น่าจะจดจำเขาในภาพลักษณ์ของ ‘ตาแว่นหนวด’ มากกว่า ซึ่งไม่ต่างจากตอนนี้เลย

             “อื้ม จำได้สิ” หญิงสาวคลี่ยิ้มให้ “บุตรชายแห่งโพไซดอนค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอยู่นะ เป็นคนเต้นเก่ง ดื่มหนักอย่างกับว่าเป็นบุตรของเทพไดโอนีซุส แล้วก็อะไรอีก..” ไพเพอร์ทำหน้านึกซึ่งดีนแทบอยากจะอยากเอาหน้ามุดดิน ถึงทุกอย่างจะเป็นความจริงแต่ก็ช่วยจำเขาในภาพอื่นที่ดีกว่านั้นหน่อยเถอะ “เธอเป็นผู้จัดการบ้านโพไซดอนด้วยนี่ใช่ไหม? ขอแสดงความยินดีด้วยนะ แล้วยังตลุยทำภารกิจที่เฮติเพียงลำพังอย่างบ้าบิ่นเพราะอยากช่วยคุณแม่อีกด้วย เป็นการกระทำที่กล้าหาญมากเลย”

             “ขอบคุณครับ.. แต่ว่าคุณรู้เรื่องที่เฮติด้วยเหรอ?”

             “อือฮึ” ไพเพอร์พยักหน้าก่อนจะตอบ “ได้ยินเด็ก ๆ ที่โรงอาหารคุยกันน่ะ”

             “อ๋อ เออใช่ ผมเคยไปเล่าไว้นี่นา..”

             คงเป็นช่วงก่อนวันเอพริลฟูลเดย์ แต่ไม่คิดเลยนะว่าเรื่องโม้ที่มีทั้งจริงและเท็จจะไปเข้าหูเหล่ารุ่นพี่ด้วย ถ้างั้น.. บางทีโซเฟียก็อาจจะรู้แล้วเชิดหน้ายิ้มยืดอกภูมิใจแล้วเคลมว่า ‘ลูกศิษย์ฉันเอง’ ก็เป็นได้… ก็แค่คาดเดา เธอเคยบอกเขาว่าที่เธอทำให้เขาเป็นหอกได้เพราะว่าตัวเธอนั้นเก่ง ถูกต้องตามนั้นไม่เกินจริง แต่คิดถึงใบหน้าหยิ่งยะโสนั้นทีไรก็รู้สึกคันในใจแทบทุกที

             “แล้วก็ยังจำได้ด้วยนะว่าเธอบอกจะเข้าเรียนคลาสมีดสั้นของฉัน แต่ความจริงคือหายต๋อม”

             “โอ้!” ดีนลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยรับปากรุ่นพี่ไพเพอร์เอาไว้เมื่อตอนเจอกันครั้งแรก “โทษที คือว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ภารกิจรัดตัวไปหน่อย”

             …ได้แต่ยิ้มแห้งแก้ตัว

             “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ตอนนี้เธอจะน่าจะมีฝีมือมากพอที่จะเอาตัวรอดในภารกิจแล้ว แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ” รุ่นพี่สาวคลี่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เธอสวยมากจนเขาสบตาแทบไม่ได้เลย “จริงสิ เราหาที่นั่งคุยกันหน่อยไหม? สีหน้าเธอดูแบบว่า.. มีเรื่องมากมายในใจเลย แล้วพวกเรายืนแบบนี้กันนานไปแล้ว”

             “จริงอย่างที่คุณพูดเลย ถ้าจะนั่งคุยกันเดี๋ยวผมเลี้ยงน้ำ คุณดื่มน้ำอัดลมได้ใช่ไหม? ผมจะไปเอาจากในบ้านมา”

             “เลี้ยงน้ำด้วยเหรอ เกรงใจจัง ฉันดื่มอะไรก็ได้จ้ะ” หญิงสาวเกลี่ยปอยผมที่หล่นลงมาปรกหน้าขึ้นทัดหูด้วยท่าทีเกรงใจ “ถ้าเธอไปเอาเครื่องดื่มถ้าอย่างนั้นฉันไปนั่งรอตรงนั้นนะ”

             กล่าวจบไพเพอร์ก็ชี้นิ้วไปทางม้านั่งยาวใต้ต้นไม้ที่อยู่ริมทางเดินที่ต้นหญ้าถูกดอกแดนดีไลออนขึ้นปกคลุม เป็นมุมที่ค่อนข้างร่มรื่นเลยทีเดียว

             “โอเคครับ ถ้างั้นเดี๋ยวผมมา” ดีนเอ่ยบอกก่อนจะเดินกลับไปที่กระท่อมหมายเลขสาม ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีเขาก็กลับมาพร้อมกับน้ำอัดลมสองกระป๋อง “เลม่อนโซดา กับ โคล่า รุ่นพี่เอาอะไรดี?”

               “เอาเป็นกระป๋องนี้ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรุ่นพี่บ้านอะโฟรไดท์ชี้นิ้วแตะไปยังกระป๋องน้ำอัดลมสีฟ้าเขียว เมื่อรู้ว่าเธอจะดื่มอะไรดีนก็เปิดกระป๋องเลม่อนโซดาให้จากนั้นก็ยื่นส่งให้เธอ สีหน้าของไพเพอร์ดูจะประหลาดใจไม่น้อย “ขอบคุณ บริการดีนะ”

             “อ้อ…”

             ชายหนุ่มหลุดอุทานเพียงสั้น ๆ บางทีก็ลืมตัวไปเลยจนเผลอไปเปิดกระป๋องน้ำอัดลมให้อีกฝ่าย ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขามีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงและดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะมีปัญหากับการเปิดน้ำอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มกระป๋องหรือว่าขวดฝาเกลียวก็ตาม แต่ดันเปิดขวดเบียร์ที่เป็นฝาจีบเก่งซะอย่างนั้น เป็นเรื่องบ้าบอชัด ๆ

             “ผมลืมตัวน่ะ พอดีว่าก่อนมาค่ายผมมีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงแล้วเธอก็มักจะมีปัญหากับเล็บ แบบว่ากลัวเล็บหักตอนเปิดกระป๋องเครื่องดื่มน่ะครับเลยติดมา หวังว่ารุ่นพี่จะไม่รังเกียจ”

             “ไม่ ไม่รังเกียจหรอก แค่แปลกใจนิดหน่อย ก็แบบว่า.. พวกผู้ชายค่อนข้างที่จะเข้าหาฉันแบบ… แล้วฉันก็มีแฟนแล้วด้วย” แม้ไม่อธิบายออกมาเป็นคำพูดแต่ดีนก็พอเข้าใจ ความมีเสน่ห์ของสายเลือดอะโฟรไดท์มักจะดึงดูดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ให้เขาหาเสมอ ไพเพอร์กลัวว่าบรรยากาศจะชวนอึดอัดเธอจึงเปลี่ยนคำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องตลก “ก็แค่บอกให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ได้ทำเล็บน่ะ”

             “รุ่นพี่คิดว่าผมจะจีบสินะครับ” ดีนหัวเราะ ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็น่าสนใจนิดหน่อย แต่เขาคิดว่าตัวเองไม่อาจเอื้อมหรอก อีกอย่างหนึ่งดูเหมือนว่าในใจของเขามีใบหน้าของคนอื่นลอยขึ้นมามากกว่าจนแทบจะมองใครคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อเธอเปลี่ยนเป็นโจ๊ก ถ้างั้นเขาก็ตบมุกบ้าง “งั้นเอาไว้วันหลังผมจะแก้มือให้รุ่นพี่เปิดให้ผมแทน”

             “คารมเธอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ” รุ่นพี่ไพเพอร์ชกแขนเขาด้วยความมันเขี้ยวหนึ่งตุ้บแต่ว่าไม่เจ็บเลยสักนิด เรียกเสียงหัวเราะออกจากคนที่ถูกชกได้มากกว่า “แล้วเรื่องไม่สบายใจที่ทำให้เธอต้องเดินวนกลับไปกลับมาร่วมชั่วโมงคือเรื่องอะไรเหรอ?”

             “ฟูว.. อธิบายลำบากจังแฮะ” ชายหนุ่มเป่าปากพลางคิดว่าเขาควรจะเริ่มจากตรงไหนดี ลองเลียบ ๆ ถามอีกฝ่ายเพื่อเข้าเรื่องดูแล้วกัน “รุ่นพี่เคยเห็นเทพีอะโฟรไดท์ตอนโกรธหรือเปล่าครับ?”

             “เคยนะ แต่ไม่บ่อย ท่านแม่มักจะไม่พอใจเมื่อรู้ข่าวว่าก็อบลินมาสร้างความรำคาญให้แก่สถานที่ที่สวยงาม.. ทำไมถึงถามแบบนี้เหรอ? อย่าบอกนะว่าเธอทำให้เทพโพไซดอนกริ้วมา”

             “ไม่ใช่ผมหรอก คิดว่าไม่ใช่นะ..”

             ดีนเคยวีนแตกใส่เทพบิดามาแล้วผ่านทางกองเพลิงบูชาเทพ แต่เจ้าสมุทรก็ไม่โกรธเขาเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะสาปหรือส่งจิตมาแสดงความไม่พอใจก็ตาม แต่ว่าเขากลับโดนลูกหลงจากการที่ใครบางคนขโมยตรีศูลที่เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลไป ดีนไม่เคยเห็นมุมนี้ของพ่อมาก่อน บอกตรง ๆ เลยว่าเขาค่อนข้างกลัว

             ชายหนุ่มหันไปสบใบหน้าของรุ่นพี่สาวคนสวย พลางคำนวนในใจว่าสิ่งที่เขาประสบมาสามารถเล่าให้เธอฟังได้หรือไม่ เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว ไพเพอร์ แม็กลีน ถือว่าเป็นหนึ่งในอาจารย์ของค่ายฮาล์ฟบลัด เขาเคยได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นถึง ‘หนึ่งในตำนานเจ็ดวีรบุรุษที่ยังมีลมหายใจ’ และยังเป็นเพื่อนร่วมค่ายของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน พี่ชายของเขาเอง แม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องวีรกรรมของอีกฝ่ายมากนักแต่ดีนประเมินในใจแล้วว่าเขาสามารถเล่าเรื่องนี้ให้หญิงสาวฟังได้

             “คืองี้ เริ่มมาจากที่ผมได้ข่าวคราวจากเพื่อนตัวน้อยในทะเลมาว่าพ่อทำของสำคัญหายไป เพื่อนผมบอกว่าพ่อดูโกรธมาก ๆ เลย จากนั้นตอนผมไปขอพลังเพื่ออัพเกรดตัวเอง เหมือนจะได้รับรู้ถึงความโกรธของเทพโพไซดอนส่งมาทางจิตเต็ม ๆ เหมือนว่ามีใครบางคนที่ขโมยของสำคัญชิ้นนั้นของพ่อไป แล้วพ่อก็โกรธมากคล้ายกับจะส่งสึนามิยักษ์เขามาถล่มเมืองได้เลย”

             ปลายนิ้วเรียวงามของไพเพอร์ลูบบนขอบกระป๋องเครื่องดื่มขณะใช้ความคิด เรื่องนี้คล้ายกับเมื่อหลายสิบปีก่อนไม่มีผิด ตอนที่สายฟ้าของเทพซุสถูกขโมยไป…

            “ฉันคงตอบแทนไม่ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เอาแบบนี้ไหม เธอลองไปขอคำทำนายจากเทพพยากรณ์แห่งเดลฟีดู บางทีอาจจะได้คำตอบบางอย่าง”

             “อะไรนะ? เทพพยากรณ์? เดลฟี?” ศัพท์ใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คล้ายกับพวกแม่มดหมอผีอะไรทำนองนั้นเลย

             “อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้?” ไพเพอร์หลุดขำ “แต่อย่างน้อยเธอคงเคยได้ยินเรื่องภารกิจเดินทางหรือภารกิจตามคำพยากรณ์บ้างใช่ไหม?”

             “อ่า.. ใช่ ผมเคยได้ยินเรื่องภารกิจตามคำทำนายอยู่ คุณไครอนเคยบอกมา งานที่เฉพาะเจาะจงยิ่งกว่าภารกิจในกระดานหิน เหมือนเร็ว ๆ นี้จะมีเด็กฮิปนอสไปทำมาภารกิจนึงด้วยนี่ครับ”

             “ถูกต้อง ถ้างี้ก็ง่ายขึ้นมาหน่อย” ไพเพอร์ยกเครื่องดื่มจรดปากแล้วส่งน้ำอัดลมรสเปรี้ยวซ่าลงคอ “ตอนนี้ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งของเทพพยากรณ์คือ 'เรเชล' เธออาศัยอยู่ที่ถ้ำของผู้พยากรณ์ที่อยู่ทางเข้าป่าทิศเหนือ เธอเป็นผู้มอบหมายคำพยากรณ์ต่าง ๆ ให้แก่ชาวค่าย ไม่ว่าจะเป็นคำทำนายของภารกิจหรือว่าจะเป็นการดูดวงเธอก็ทำได้หมด”

             “เรื่องที่ผมเจอมาจะเกี่ยวกับภารกิจใหม่เหรอ? เรื่องการดูดวงผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร”

             “ไม่ได้บังคับให้เชื่อนะ แต่อนาคตที่เทพพยากรณ์เห็นมักเป็นจริงเสมอ แล้วจากที่เธอเล่าให้ฟังมันก็ดูร้ายแรงมากเลยใช่ไหม?”

             “รุ่นพี่พูดแบบนี้แปลว่าอยากให้ผมไปลอง?” ดีนกลั้วหัวเราะ

             “แค่ลองไม่ได้เสียหายนี่นา คำทำนายตอบคำถามในใจเธอได้ แล้วอีกอย่างเผื่อว่าเป็นเรื่องร้าย ๆ จริงจะได้แก้ไขกันทัน” ไพเพอร์มองสีหน้าของดีนที่มีแต่คำว่า ‘ไม่เอาล่ะ’ เขียนด้วยหมึกล่องหนอยู่บนนั้นเต็มไปหมด “เอางี้ไหม ฉันจะเล่าเรื่องหนึ่งให้เธอฟัง”

             “ครับ เรื่องอะไรเหรอ?”

             “ภารกิจเดินทางแรกของ เพอร์ซีย์ แจ็กสัน ชื่อนี้พอจะทำให้เธอสนใจมากขึ้นได้หรือเปล่า?”

             ถูกเผ็ง พอได้ยินชื่อของพี่ชายที่เป็นวีรบุรุษในตำนานของหมู่ลูกครึ่งเทพยุคใหม่มีหรือที่จะไม่สนใจ ดีนพยักหน้าให้หญิงสาวหงึก ๆ

             “หลังจากที่เพอร์ซีย์มาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดได้ไม่นานเขาก็ถูกรับรองโดยเทพโพไซดอนหลังจากการแข่งขันชิงธง จากนั้นก็เป็นเรื่อง.. ในยุคของพวกเราตอนยังเด็ก สามมหาเทพ ซุส โพไซดอน และฮาเดสถูกห้ามไม่ให้มีบุตรกับมนุษย์ เพราะเดมิก็อดที่มีสายเลือดของสามมหาเทพไหลเวียนอยู่ในตัวมีพลังอำนาจเหนือยิ่งกว่าเดมิก็อดคนอื่น ๆ สงครามโลกที่เคยมีมาก็ถูกจุดชนวนขึ้นมาจากบุตรแห่งสามมหาเทพนี่แหล่ะ”

             “อ้าวเหรอ ฉันคิดว่าเป็นเทพแอริสซะอีกที่ปลอมตัวเป็นนายพลเยอรมันแล้วปลุกปั่นให้อักษะกับสัมพันธมิตรตีกัน”

             “ผิดจ้ะ เธอจำมาจากหนังวันเดอร์วูแมนภาคแรกใช่ไหม?” ไพเพอร์หลิ่วตาถามกลับ ซึ่งถูกเผ็ง ดีนจึงได้แต่ยิ้มแห้งให้ “ความจริงเป็นอย่างที่ฉันเล่า หลังจากเกิดสงครามโลก เทพเจ้าก็ลงความเห็นกันว่าห้ามสามมหาเทพมีบุตรนอกสมรสกันอีก เด็ก ๆ อย่างเพอร์ซีย์จึงถูกเรียกว่า ‘เด็กต้องห้าม’

             “อืม.. เข้าใจแล้ว ถ้างี้ตอนที่มีตรีศูลขึ้นอยู่บนหัวพี่ชายผมทุกคนเลยแตกตื่นสินะ แต่พ่อนี่ก็… เจ้าชู้จนถึงขั้นแหกกฎสวรรค์เลยเหรอ ไม่ไหวเลยนะ” ได้ฟังแล้วคนเป็นลูกได้แต่ส่ายหน้า

             “ความจริงคือสามมหาเทพแหกกฎกันหมดทุกองค์เลยต่างหาก” ไพเพอร์กล่าวแบบนี้ดีนก็หลุดขำมาพร้อมกับอุทานว่า “อ้าว!” “เทพซุสมีบุตรสาวชื่อธาเลีย ชื่อเดียวกับต้นสนที่อยู่หน้าทางเข้าประตูค่าย ธาเลียเคยต่อสู้อย่างห้าวหาญอยู่ที่นั่นแต่เธอพลาดท่าจึงทำให้เกือบเสียชีวิต เทพซุสไม่อยากจะสูญเสียลูกสาวจึงเสกให้เธอกลายเป็นต้นสนพิทักษ์ทางเข้าค่ายฮาล์ฟบลัดเอาไว้”

             “ต้นสนนั่นเคยเห็นคนมาก่อนเหรอ!?”

             ดีนทำตาโต เขาพยายามคิดว่าตัวเองเคยทำเรื่องอุบาทว์ ๆ ที่หน้าต้นสนหรือเปล่า เช่น การฉี่ใส่.. แต่ไม่ เขาไม่เคย เพราะว่าใต้ต้นสนธาเลียมีมังกรสีทองนอนเฝ้าอยู่

             “ใช่ แต่ว่าตอนนี้ไม่แล้ว ธาเลียได้รับชีวิตกลับมาอีกครั้ง ต้นสนต้นนั้นจึงไม่ใช่ธาเลียอีกต่อไป แต่ยังคงถูกเรียกว่า ‘ต้นสนธาเลีย’ อยู่ตามความชินปากของชาวค่าย ส่วนบุตรของฮาเดสถูกนำไปซ่อนไว้ที่คาสิโนโลตัสจึงไม่ได้ออกมายุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก”

             “ถือว่าเทพฮาเดสเป็นพ่อที่มีความรับผิดชอบมากที่สุดเลยแฮะ.. แล้วยังไงต่อเหรอครับ เพราะทุกคนรู้ว่ามีเพอร์ซีย์โลกเลยตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งงั้นเหรอ?”

             “จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง ก่อนหน้าที่เพอร์ซีย์จะถูกรับรองโดยเทพโพไซดอน ซุสและโพไซดอนมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนอยู่แล้ว และก่อนหน้านั้นสายฟ้าของเทพซุสถูกขโมยไป เทพซุสจึงคิดว่าบุตรของโพไซดอนต้องเป็นคนเอาไปแน่ ๆ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ เพอร์ซีย์ไม่ได้ทำแบบนั้น”

             ฟังถึงตรงนี้ก็เกิดคำถาม สายฟ้าเนี่ยนะถูกขโมยไป ขโมยยังไง มันเกิดขึ้นจากประจุอิเล็กตรอนในก้อนเมฆเกิดการเคลื่อนตัวทำให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้า  โดยมีประจุบวกอยู่ทางด้านบน ประจุลบอยู่ทางตอนล่างซึ่งจะเหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้ากันไม่ใช่เหรอ ดูไม่น่าจะเป็นสิ่งของที่จับต้องได้เลยแม้แต่น้อย

             “สายฟ้าเหรอ? มันจะหายไปได้ยังไง?”

             “คืองี้ สายฟ้าที่ฉันพูดถึงเป็นอาวุธของเทพซุสน่ะ ถ้าให้เธอเข้าใจง่าย ๆ ก็เหมือนกับเทพธอร์ที่มีค้อนโยเนียร์”

             “ออ.. เข้าใจแล้วถ้างั้นก็เล่าต่อเลยครับ” ดีนผายมือออกมาทางไพเพอร์ จากนั้นเขาก็ยกกระป๋องโคล่าขึ้นดื่มอึก ๆ

             “ข้อพิพาทระหว่างเทพซุสกับโพไซดอนกำลังจะทำให้เกิดสงครามหากว่าบุตรแห่งโพไซดอนไม่ยอมคืนสายฟ้ามาให้ก่อนวันครีษมายัน เป็นวันที่กลางวันยาวนานที่สุดของปีนั้น ๆ ซึ่งเพอร์ซีย์มีเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียวในการตามหาสายฟ้ามาคืน ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าสายฟ้าที่หายไปตอนนั้นอยู่ในมือของใคร การทำนายของเทพพยากรณ์เดลฟีถึงได้สำคัญ”

             “เดี๋ยวนะ.. อย่าบอกนะว่าพ่อคิดว่าเด็กบ้านซุสขโมยตรีศูลไป นี่มันเรื่องเก่าเล่าใหม่ชัด ๆ เลย!”

             ดีนพอจะรู้ว่าเทพเจ้าสององค์นี้ไม่ค่อยถูกกันเป็นผลที่ทำให้เขาขึ้นเรื่องบินไม่ได้เพราะจะถูกฟ้าผ่า พ่อเคยผ่านเหตุการณ์การกล่าวหานั้นมาแล้วเลยระแวงว่าคู่กรณีจะมาป่วนสินะ ชายหนุ่มยังไม่รีบตัดสินว่าเด็กบ้านซุสเป็นผู้ขโมยตรีศูลไป

             “แล้วแบบนี้ผู้ไปรับคำทำนายจะต้องเป็นเด็กบ้านซุสหรือเปล่าครับ เพื่อให้เขาแสดงความบริสุทธิ์ออกมา”

             “เรื่องนั้นฉันไม่รู้ว่าจำเป็นหรือไม่ ฉันตอบแทนท่านพ่อของเธอไม่ได้ แต่เทพพยากรณ์สามารถให้คำแนะนำได้ ถ้าอยากจะลองฉันพาเธอไปหาเรเชลได้นะ”

             จากเรื่องราวที่รุ่นพี่สาวเล่าโน้มน้าวใจของเขาได้เกินครึ่งเลยทีเดียว เพราะกระแสจิตของพ่อที่หลุดมาถึงเขาดูรุนแรงน่ากลัวเหมือนกับว่าจะส่งกองทัพมนุษย์ปลามาถล่มโลกได้เลยจริง ๆ

             “ลองดูก็ได้ ผมไม่อยากให้เรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นหรอก เอาไว้ถ้าคนที่ต้องรับภารกิจคือเด็กบ้านซุสจริง ๆ ผมก็ยินดีที่ซัพพอร์ตเขานะ รวมถึงช่วยกล่อมพ่อให้ด้วย”

             “ถ้างั้นไปกัน ฉันจะนำทางเธอไปเอง”

             ทั้งสองลุกออกจากม้านั่งยาวที่หน้ากองไฟเฮสเทียแล้วเดินเท้าไปยังถ้ำของเทพพยากรณ์เดลฟี

             ระหว่างทางไพเพอร์ก็เล่าเรื่องต่อจนจบ โดยมีบทสรุปว่าผู้ร้ายในคดีนี้ก็คือ ‘ลุค คาสเทลแลน’ และหลังจากจบภารกิจนี้เพอร์ซีย์ก็ได้พิสูจน์ตัวเองมากมาย ทำให้กฎ ‘เด็กต้องห้าม’ ถูกยกเลิกไป จึงทำให้สามมหาเทพปั๊มลูกออกมาอีกเป็นโขยง นอกจากนี้เพอร์ซี์ยังผลักดันหลายอย่างภายในค่าย ปรับปรุงสถานที่ใหม่และช่วยให้การรับรองเทพเล็ก ๆ ได้เป็นส่วนหนึ่งของโอลิมปัส ส่งผลให้จากกระท่อมที่มีอยู่เดิมในค่ายฮาล์ฟบลัดสิบสองกระท่อม งอกขึ้นมาเป็นยี่สิบสามในยุคนั้น

             ‘แต่ว่าเป็น ลุค คาสเทลแลน อีกแล้วงั้นเหรอ?’

             ในภารกิจตามหาพัสดุของเทพเฮอร์มีส ดีนได้สนทนากับเทพเจ้านิดหน่อยในเรื่องนี้และรับรู้มาว่าตอนนี้วิญญาณของลุคควรจะอยู่ในปรภพ ซึ่งคนที่มาก่อกวนในเร็ว ๆ นี้อาจเป็นบุตรเทพเจ้าองค์อื่นเสียมากกว่า

             ครุ่นคิดอยู่อีกไม่นานพวกเขาทั้งสองก็มาหยุดอยู่ที่หน้าถ้ำของเทพพยากรณ์

             “การเข้าไปขอรับคำทำนายต้องเข้าไปคนเดียว ฉันมีธุระต่อแถวนี้พอดีนายเข้าไปเองได้ใช่ไหม?” ไพเพอร์ถาม

             “ครับ ขอบคุณนะครับรุ่นพี่ที่มาส่ง”

             “ยินดีค่ะดีน ไม่ว่าคำทำนายจะออกมาว่ายังไงก็ขอให้เธอสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนะ”

             ชายหนุ่มร่ำลากับรุ่นพี่สาว เธอยืนส่งเขาอยู่ที่ปากทางเข้าบ้านถ้ำโดยยังไม่ยอมปลีกตัวไปทำธุระที่ว่านั่นก่อน ตอนนี้ชักจะตื่นเต้นมากกว่ากังวลเสียแล้วสิ ถ้ำของเทพพยากรณ์จะเป็นอย่างไรนะ จะมืดตื๊ดตื๋อแล้วก็น่ากลัวหรือเปล่า ร่างสูงสูดหายใจเข้าลึกก่อนที่เขาจะก้าวขาเดินเข้าไปในนั้นด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ


มอบ [เลม่อนโซดา] แก่ [ไพเพอร์ แม็กลีน]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ไพเพอร์ แม็กลีน เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-5-3 00:07
โพสต์ 50509 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2024-5-2 22:47
โพสต์ 50,509 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2024-5-2 22:47
โพสต์ 50,509 ไบต์และได้รับ +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ทักษะหอก  โพสต์ 2024-5-2 22:47
โพสต์ 50,509 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก สร้างฟองอากาศ  โพสต์ 2024-5-2 22:47
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-5-9 18:05:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด





หาเพื่อนร่วมทีม


เอโลอิสมานั่งที่หน้ากองไฟแห่งเฮสเทียเพื่อรอเจอกับใครบางคนตามที่คุณไครอนได้นัดไว้ให้ เธอใช้กิ่งไม่เขี่ยพื้นวาดรูปอย่างไม่รู้จะทำอะไร ในหัวก็คิดไปด้วยว่าจะเริ่มต้นการสนทนาอย่างไรให้เขายอมเข้าร่วมทีมทำภารกิจกับเธอ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะต้องมาเสียเวลาด้วยซ้ำ ไม่สิ…จริง ๆ มันก็มีเรื่องของเขาด้วยนิดนึงนั่นแหละนะ ก็เขาอยู่ในคำพยากรณ์ด้วยนี่นา…

“เอโลอิส เพจใช่ไหม?” 

เสียงของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ จุดที่เอโลอิสนั่งอยู่ เธอสัมผัสได้ว่ามีเท้าของใครสักคนเหยียบทับอยู่บนรูปที่เธอกำลังวาดบนผืนดิน เลยเงยหน้าขึ้นมามองว่าใครกันที่มาทำลายผลงานศิลปะ(?)บนพื้นที่เธออุตส่าห์นั่งเขี่ยนั่งวาดตั้งนาน

“ใช่…” เธอตอบสั้น ๆ พร้อมเงยหน้าขึ้นมองพบเด็กผู้ชายผมสั้นสีขาว ตาสีฟ้า หน้าตาไม่ค่อยจะรับแขกสักเท่าไหร่

ใครวะ?...

นั่นคือสิ่งแรกที่เธอคิด ใครมาทำลายโลกส่วนตัวอันแสนสุขของเธอกัน?

“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา?”

“ห๊ะ? หมายว่าว่ายังไง”

“เอ้า! ก็เธอเป็นคนนัดฉันมาไม่ใช่เหรอ?” เด็กชายถามกลับ สีหน้าของเขางงเล็กน้อยที่เห็นเอโลอิสทำเหมือนไม่รู้จักเขา ซึ่งเอโลอิสก็ไม่รู้จักเขาจริง ๆ นั่นแหละ…

“นัด?...” เอโลอิสนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง หรือว่าเขาจะเป็น… “นายคือคนที่คุณไครอนแนะนำมางั้นเหรอ? ชื่ออะไรนะ…นึกก่อน…รอนสัน! รอนสันใช่มั้ย?” ทำไมชื่อหมอนี่เหมือนชื่อยี่ห้อน้ำมันเติมไฟแช็คเลย

“รอฟีอัส บาพาเทียร์” เขาตอบพร้อมกรอกตามองบนอย่างเอือมระอา

“เออใช่ ๆ รอฟีอัส โทษที ฉันลืม…” เอโลอิสหัวเราะแห้ง แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ตลกด้วยสักเท่าไหร่

“จะบอกได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไรถึงต้องให้คุณไครอนไปตามฉันมาเจอถึงนี่” เขาเริ่มเข้าประเด็น

“พอดีว่าฉันได้รับคำพยากรณ์เรื่องราชรถของเทพอะพอลโลถูกขโมยไป และมีสองคนที่อยู่ในคำพยากรณ์นั้นคือธิดา นั่นก็คือฉัน อีกคนในคำพยากรณ์นั้น…คือบุตรแห่งท้องนภา”

“แล้ว?...”

“ฉันเลยคิดว่านายอาจจะเป็นคนในคำทำนายไง” เธอตอบเพื่อขยายความให้เขาเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

“ฉันไม่ใช่คนเดียวที่เป็นลูกของเทพซุสเสียหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?”

“เอาความจริงไหม?”

“เอา”

“ฉันรู้จักนายแค่คนเดียว”

“โอเค รู้เรื่อง…” เขาตอบพร้อมถอนหายใจออกมาเหมือนคนเหนื่อยใจ

“เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากขอร้องให้นายเข้าร่วมภารกิจนี้ เพื่อที่เราจะได้ไปตามราชรถกลับมาคืนเทพอะพอลโล สำเร็จภารกิจตามคำพยากรณ์ไปด้วยกัน”

“แล้วถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ?” รอฟีอัสยิงคำถามที่ทำให้เอโลอิสถึงกับสะอึก

“ตอนนี้โลกกำลังเดือดร้อนนะ ความแห้งแล้ง เอลนีโญน่ะ ถ้าพวกเราไม่ไปทำผู้คนก็จะเดือนร้อน และภารกิจนี้ฉันก็ทำเพียงคนเดียวไม่ได้ด้วย นายเองก็มีพลังนี่คุณไครอนบอกพลังของนายเกินคาดเดา แสดงว่าต้องมีของ นายไม่เคยได้ยินเหรอ…พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง…” เอโลอิสพูดเพื่อพยายามที่จะบิวท์ให้รอฟีอัสคล้อยตาม ปกติเธอไม่ใช่คนที่ง้อใครขนาดนี้หรอกนะ เธอชอบฉายเดียวทำอะไรคนเดียวมากกว่า แต่เธอรู้ว่าคราวนี้เธอไม่มีทางทำมันสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ ๆ

“ดูหนังมากเกินไปหรือเปล่าเธอเนี่ย!”

“อ๋อใช่ ฉันดูสไปเดอร์แมน แหะ ๆ”

“คำทำพยากรณ์บอกว่าอะไร?” ดูเหมือนรอฟิอัสจะเปิดใจขึ้นมาอีกนิด เขาเริ่มถามถึงคำพยากรณ์ที่เอโลอิสได้รับมา สาวน้อยผมสีเพลิงจึงรีบบอกคำทำนายให้อีกฝ่ายทราบเพราะโอกาสมาถึงแล้ว

“ธิดาแห่งไฟพึงตามแสงรุ่งอรุณยามเช้า ณ ใจกลางนครมิเคยหลับใหล ราชรถสุริยะเทพถูกขโมย โลดแล่นไปทั่วโลกา สร้างภัยพิบัติความแล้งแห้ง และร้อนระอุในรอบศตวรรษ โชคชะตานำพาสู่โรงแรมห้าดาวในมหานครมิเคยหลับใหล เผชิญหน้ากับจอมโจรผู้ขโมยราชรถเพลิง ศึกแห่งศักดิ์ศรีบุตรแห่งท้องนภาบังเกิด พึงเชื่อใจในสหาย และ ตามหาราชรถที่ถูกซ่อนไว้”

รอฟิอัสขมวดคิ้วอย่างพินิจพิจารณาในคำทำนาย ราวกับว่าเขามีบางอย่างในใจ คำว่าศึกแห่งศักดิ์ศรีบุตรแห่งท้องนภาบังเกิด คำนั้นทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าศึกที่ว่านั้นคืออะไรกันแน่ และเขาเองก็อยากจะหาคำตอบนั้น

“หรือว่าจะเป็นเจ้านั่น…” เขาพูดเบา ๆ กับตัวเอง ซึ่งในส่วนนี้เอโลอิสไม่ได้ยิน

“เห็นไหมว่าในคำพยากรณ์น่ะมีนายอยู่ด้วย ถ้าเราทำสำเร็จก็จะช่วยโลกได้ แล้วเทพอาจจะตบรางวัลให้พวกเราก็ได้ แล้วพวกเราก็จะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี—” ยังไม่ทันจะพูดจบรอฟีอัสก็รีบเบรก

“พอ ๆ ยิ่งเธอพูดนี่ยิ่งเลอะเทอะ เอาเป็นว่าฉันตกลงจะร่วมภารกิจกับเธอ”

“จริงเหรอ!” เอโลอิสตาเป็นประกายถ้าเธอเป็นน้องหมาคงจะหูตั้งหางกระดิกไปแล้วเมื่อได้ยินคำตอบรับ

“จะไปเมื่อไหร่ล่ะ?” เขาถาม

“ยังไม่รู้เลย ต้องเตรียมตัวก่อนแต่ก็คงเร็วที่สุดหลังจากหาสมาชิกร่วมทีมอีกคนได้”

“ไม่ใช่แค่เธอกับฉันเหรอ?”

“นายไม่เคยดูหนังสินะ ทีมที่ดีน่ะมันต้องมีสามคน อีกอย่างนะพวกเรายังไม่บรรลุนิติภาวะ ฉันเลยคิดว่าหาผู้ใหญ่สักคนมาร่วมทีมก็น่าจะดีต่อพวกเราทั้งคู่” เอโลอิสเล่าถึงไอเดียลูกทีมที่เธออยากได้คร่าว ๆ ให้กับรอฟีอัสฟัง

“เอาเถอะ ทำอะไรก็ทำเธอเป็นหัวหน้าทีมนี่ แจ้งข่าวอีกทีตอนที่หาคนได้แล้วกัน ลองไปดูบอร์ดรายชื่อเอาก็ได้เผื่อเธอจะสนใจใครเป็นพิเศษ”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวมาบอกอีกที”

“อือ”

ในที่สุดตอนนี้เอโลอิสก็ได้ลูกทีมคนแรกสำหรับภารกิจผจญภัยของเธอแล้ว ที่เหลือก็คงจะเป็นการหาสมาชิกอีกคนสำหรับภารกิจสุดท้าทายนี้ เธอก็ได้แต่ภาวนาว่าจะพบเจอบุคคลนั้นในเร็ววันเพื่อที่จะได้เริ่มต้นการเดินทางเสียที



สมาชิกทีมคนที่ 1 รอฟีอัส บาพาเทียร์ ตอบรับภารกิจ





แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2024-5-9 18:13
โพสต์ 21,364 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-5-9 18:05
โพสต์ 21,364 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2024-5-9 18:05
โพสต์ 21,364 ไบต์และได้รับ +10 EXP +6 เกียรติยศ +8 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก ทนทานไฟ  โพสต์ 2024-5-9 18:05
โพสต์ 21,364 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-5-9 18:05
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x2
x6
x1
x15
x5
x5
x11
x5
x5
x8
x1
x12
x4
x67
x5
x5
x1
x6
x1
x8
x2
x7
x30
x3
x2
x1
x5
x7
x4
x4
x5
x59
x1
x2
x25
x2
x9
x300
x2
x4
x4
x3
x1
x1
x3
x4
x4
x2
x1
x1
x2
x2097
x1
x65
x1
x1
x4
x1
x11
x1
x1
x1
x1232
x10
x1
x1
x1
x3
x1
x48
x4
x16
x2
x7
x58
x10
x28
x175
โพสต์ 2024-6-3 11:28:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nanette เมื่อ 2024-6-3 11:35

Nanette Leblanc
กองไฟแห่งเฮสเทีย


Today is my Birthday ! Ta dah !


คุณหนูจากตระกูลบลังก์รีบวิ่งออกจากเคบินอะโฟรไดท์มายังกองไฟแห่งเฮสเทียในทันที เรียกได้ว่าตื่นเต้นเสียจนเกือบลืมใส่รองเท้า ใบหน้าน่ารักของนาแนตต์ประดับไปด้วยรอยยิ้ม และเด็กสาวยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นพื้นที่โดยรอบถูกเนรมิตเป็นปาร์ตี้วันเกิดขนาดย่อม ๆ พร้อมป้ายไวนิลเขียนตัวโต ๆ ไว้ว่า Happy Birthday Nina


ตอนแรกก็นึกว่าเป็นงานวันเกิดของคนอื่นน่ะนะ แต่หลังจากได้รับคำยืนยันแล้วว่าในวันนี้ที่ค่ายไม่มีใครเกิดเลยนอกจากเธอ และมันเป็นนิสัยประจำของคุณดี (ผู้จัดงานให้) ว่าเขาชอบตั้งชื่อประหลาด ๆ ให้เด็กในค่ายเป็นประจำ นาแนตต์ก็เลยพอจะหยวน ๆ ให้ได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็หาปากกามาก่อนจะปีนไปแก้ไขป้ายด้วยฝีมือของตัวเอง


Happy Birthday Nina Nanette εїз


“เท่านี้ก็เรียบร้อย”


เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิด นาแนตต์เลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เด็กสาวหายเข้าไปแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูสไตล์เจ้าหญิงตัวเก่งของเจ้าตัว ประดับด้วยสร้อยไข่มุกและมงกุฎเล็ก ๆ น่ารัก เส้นผมสีบลอนด์นุ่มลื่นถูกถักเป็นเปียสวยงาม ก่อนที่เธอจะกลับออกมายังกองไฟแห่งเฮสเทียอีกครั้งเพื่อรอรับคำอวยพร


“สุขสันต์วันเกิดนีน่า” ซึ่งคนแรกที่เข้ามาอวยพรให้เธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณดีผู้อำนวยการค่ายนั่นเอง นาแนตต์ยิ้มกว้าง รับของขวัญจากอีกฝ่ายมาพร้อมกับคำขอบคุณ


“ขอบคุณค่ะคุณดี แต่หนูชื่อนาแนตต์ไม่ใช่นีน่านะ”


เทพเจ้าแห่งไวน์องุ่นยกมือโบกปัดเป็นเชิงว่าไม่ใส่ใจ ก่อนจะขอตัวไปดื่มไปดริ๊งตามประสาตัวเอง


ของขวัญเจ้าของวันเกิดจากคุณดี ของขวัญสุดพิเศษ (ภายในกล่องบรรจุ +10 ดรักม่า และ หินอัปเกรด 2 ก้อน) รางวัลค่าประสบการณ์: +15 EXP , +40 พลังงาน , +20 เกียรติยศ


สำหรับชาวค่ายที่มาร่วมอวยพร สุ่มแจก 50 ดอลลาร์จากนาแนตต์ 1 คนค่ะ !

แสดงความคิดเห็น

160160 - HBD นาแนตต์ และ รุ่นพี่ไพเพอร์ หากวันวาเลนไทน์ไม่ใช่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ควรจะเป็นวันที่ 3 มิถุน  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-6-3 23:17
#boxcorecenter { border: 0px solid #152cd5; padding: 15px; box-shadow: #6F1D3D 0px 0px 1em; background-image: url("https://i.imgur.com/0C7ZnDN.png"); } #boxR0LE { width: 6  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-6-3 20:57
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-6-3 11:38
God
คุณได้รับ +20 เกียรติยศ โพสต์ 2024-6-3 11:38
โพสต์ 12439 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-6-3 11:28

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญดรักม่า +10 พลังงาน +40 ย่อ เหตุผล
God + 10 + 40

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตาหลากสี
ชุดบำรุงอาวุธ
หมวกปีกกว้าง
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-6-3 20:57:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Nanette ตอบกลับเมื่อ 2024-6-3 11:28 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nanette เมื่อ 2024-6-3 11:35 Nanette Leblancกองไ ...






HAPPY NANETTE DAY

บรรยากาศแห่งงานรื่นเริงกลับมาอีกแล้ว

ณ กองไฟเฮสเทียอันเป็นศูนย์กลางระหว่างเรือนพักของเหล่าเดมี่ก็อดที่แม้จะวุ่นวายเป็นปกติ แต่สำหรับวันนี้กลับมีสิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าวันอื่น ๆ เพราะสาเหตุของความคึกครื้นนี้เป็นถึงงานครบรอบวันเกิดของสาวน้อยคนใหม่ของเคบินที่สิบ

งานวันเกิดครั้งแรกในค่ายที่พึ่งเข้ามาได้ไม่นาน สำหรับน้องสาวคนใหม่คงเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม

ดังนั้นในฐานะพี่สาว รวมไปถึงที่ปรึกษาประจำเคบิน ก็ไม่แปลกที่จะมีผู้พบเห็น ‘เนเรซ่า เฮนลาดิส’ มาเข้าร่วมกับปาร์ตี้ขนาดย่อมในครั้งนี้

“ นาแนตต์ ”

เสียงร้องเรียกจากด้านหลังคงเรียกความสนใจจากเจ้าของงานวันเกิดได้ไม่น้อย และแน่นอนว่าผู้เรียกก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเนเรซ่าผู้มาพร้อมกับพี่น้องบ้านอะโฟรไดท์อีกไม่กี่คนที่ตามมาสมทบทีหลัง “ ถือว่ารับมือได้ไม่แย่เลยนะคะ ” สุภาพสตรีสีกุหลาบชำเลืองตามองแผ่นป้ายฉลองที่ถูกขีดฆ่าคำว่า ‘นีน่า’ ทั้งยังมีคำว่า ‘นาแนตต์’ ตามต่อที่ด้านหลัง

“ วันเกิดของฉันหนก่อนก็ถูกเขียนป้ายไว้ว่าเนรีโซ่เหมือนกัน ”

“ น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาให้ขึ้นไปแก้ป้ายแบบนี้น่ะนะ ”

ผู้ผ่านประสบการณ์งานเลี้ยงวันเกิดครั้งก่อนลอบหัวเราะเบา ๆ อย่างอดไม่ได้เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงในตอนนั้น นัยน์ตาหงส์เคลื่อนกลับมาสบมองเจ้าของวันเกิดในวันนี้พร้อมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบเอาของขวัญในวันสำคัญขึ้นมามอบให้กับน้องสาวร่วมมารดา

“ ชีวิตภายในค่ายคงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ปุบปับไม่น้อยสำหรับเธอ ”

“ ที่นี่มีหลายอย่างให้เรียนรู้ และมีเส้นทางมากมายให้เลือกหากต้องการที่จะใช้ชีวิต ”

“ สายเลือดของเรามีความสามารถที่หลากหลาย เช่นเดียวกับความคาดหวังจากรอบข้างที่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ”

เนเรซ่ายื่นกล่องผ้ากำมะหยี่สีชมพูทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่าฝ่ามือผูกริบบิ้นสีขาวประดับภายนอกดูน่ารักน่ามองให้กับสาวน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู “ ด้านในนี้เป็นต่างหูเงิน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าเราได้เจาะหูหรือเปล่าก็ตาม ” ใบหน้าของผู้มอบของขวัญเจือไว้ซึ่งความใจเย็นในระหว่างที่กำลังถ่ายทอดคำอวยพรในแบบที่เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างพวกเธอ

“ ฉันหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เห็นเราใส่มันนะ แต่แน่นอนว่าถ้าเธอไม่ชอบ จะเก็บมันไว้เป็นของประดับกล่องก็ย่อมได้เหมือนกัน ” ปลายนิ้วเย็นเฉียบจิ้มลงที่กลางโบว์ประดับกล่องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะผละมือออก “ ฉันหวังว่ามันจะเป็นของขวัญที่ทำให้เธอนึกถึงวันนี้อยู่เสมอ บางครั้งการเป็นสายเลือดอะโฟรไดท์ก็กลายมาเป็นแรงผลักดันให้เราโอนอ่อนรวมไปถึงไหลตามกับความชอบของคนรอบข้างได้ง่ายขึ้น แต่บางครั้งการยึดมั่นในตัวเองก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราเฉิดฉายมากที่สุดด้วยเช่นกัน ”

“ นาแนตต์ ในฐานะพี่สาว ฉันหวังว่าเธอจะมีความสุขในทุก ๆ การเติบโต รอดพ้นจากอันตราย และปกป้องตัวตนของเธอไว้ได้อย่างงดงาม ถ้าเกิดว่าเจอเรื่องเครียดอะไรล่ะก็ การกรี๊ดออกมาดัง ๆ สักที หรือขวางปาสิ่งของก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่นักหรอกนะ ? แต่ทางที่ดีที่สุดคือการหันหลังกลับมาที่บ้าน ที่เคบินสิบของเธอ เมื่อไหร่ที่เธอหันกลับมา เธอจะยังมีพี่น้องอีกมากมายคอยเป็นกำลังใจและที่ปรึกษา ”

“ … ”

“ นี่ฉันอวยพรอะไรให้เด็กอายุสิบห้าล่ะเนี่ย.. ”

“ เอาเถอะ ยังไงก็ตาม ” มือข้างหนึ่งของหญิงสาวตระกูลเฮนลาดิสวางลงบนไหล่เล็ก ส่วนอีกข้างก็ลูบลงกับกลุ่มผมนุ่มสีบลอนด์เช่นเดียวกันกับเธอ

“ สุขสันต์วันเกิดนะคะนาแนตต์ ฉันดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวันเกิดเธอในปีนี้ ”

ริมฝีปากสีสดเหยียดออกเป็นรอยยิ้มกว้าง ไม่นานหลังจากนั้น เนเรซ่าก็ผละมือออก ก่อนจะปลีกตัวไปร่วมปาร์ตี้อย่างสงบโดยไม่ลืมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ‘ ขากลับถ้าไม่อยากเดินคนเดียวก็มาเรียกกันได้เสมอเลยนะ ’





รางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมอวยพรและให้ของขวัญ : +50 พลังใจ , +15 EXP , +40 พลังงาน




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11599 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-6-3 20:57
โพสต์ 11,599 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก ดาบสัมฤทธิ์  โพสต์ 2024-6-3 20:57
โพสต์ 11,599 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมือถัก  โพสต์ 2024-6-3 20:57
โพสต์ 11,599 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2024-6-3 20:57
โพสต์ 11,599 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-6-3 20:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นพูจิโอ
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Anker PowerCore
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
Daedalus's Legacy
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x4
x1
x2
x1
x5
x5
x5
x8
x1
x4
x2
x7
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-6-3 23:17:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-6-4 05:38
Nanette ตอบกลับเมื่อ 2024-6-3 11:28
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nanette เมื่อ 2024-6-3 11:35 Nanette Leblancกองไ ...

160
HBD นาแนตต์ และ รุ่นพี่ไพเพอร์

             หากวันวาเลนไทน์ไม่ใช่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ควรจะเป็นวันที่ 3 มิถุนายน แทน เพราะว่าวันนี้มีธิดาแห่งเทพีอะโฟร์ไดท์กำเนิดขึ้นมาดูโลกถึงสองคนแม้จะต่างปีกัน หรือถ้าไม่ให้ทับไลน์ ‘วันแห่งความรัก’ วันนี้ก็ควรจะเป็น ‘วันแห่งความงาม’

             ดีนมาที่ลานกองไฟเฮสเทียเพื่อร่วมงานวันเกิดของสาว ๆ เขามองป้ายวันเกิดที่ชื่อ ‘นีน่า’ ถูกขีดฆ่าแล้วมีชื่อ ‘นาแนตต์’ ที่เขียนด้วยลายมือน่ารัก ๆ กำกับไว้ด้านหลังแทนที่ รู้เลยว่าคุณดีจัดเตรียมงานไว้ให้ก่อนจะออกเดินทางท่องเที่ยวตามประสาเทพเจ้าสำราญ ดังนั้นผู้จัดงานวันนี้อาจจะเป็นคุณไครอน และถ้าหากตรงตามที่คิดไว้ก็บอกลาแอลกอฮอล์ไปได้เลย แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้จักกับเด็กสาวเจ้าของวันเกิดเป็นการส่วนตัวเพียงแค่เคยเห็นเธอผ่าน ๆ ตามโรงอาหาร แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอก็ต้องให้ของขวัญและอวยพรวันเกิดสิ!

             ชายหนุ่มถือกล่องของขวัญใบหนึ่งที่ผูกริบบิ้นสีพาสเทลไปที่โต๊ะเจ้าของวันเกิด แม้เขาจะไม่ได้ห่อของขวัญด้วยตัวเองแต่ก็เป็นผู้เลือกกระดาษห่อของขวัญและริบบิ้นที่น่าจะเข้ากับเด็กสาวสวยสดใสจากบ้านอะโฟร์ไดท์ ส่วนของขวัญด้านในเป็นอะไร.. ให้เจ้าของวันเกิดเปิดห่อเอาเองดีกว่า

             “สุขสันต์วันเกิดนะนาแนตต์ ขอให้เธอมีความสุขในทุก ๆ วันและเติบโตขึ้นอย่างงดงาม หวังว่าเธอจะชอบของขวัญที่ฉันเลือกให้นะ”

             ดีนยิ้มให้เจ้าของวันเกิด อันที่จริงก็อยากจะชวนเธอคุยต่อสักหน่อยนะแต่ตอนนี้เขาหิ๊วหิว ด้วยความที่เพิ่งไปทำภารกิจมาเลยต้องใช้พลังงานเยอะ ดีนจึงปลีกตัวไปทานอาหารในงานปาร์ตี้

             @Nanette

             .
             .
             .

             หลังรับประทานอาหารเสร็จดีนถึงได้พบกับเจ้าของวันเกิดอีกคน รุ่นพี่ไพเพอร์ แม็กลีน

             “สวัสดีครับรุ่นพี่ไพเพอร์ สุขสันต์วันเกิด แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำก่อนไปทำภารกิจด้วยครับ นี่ของขวัญวันเกิดครับ” ดีนยื่นห่อกระดาษสีน้ำตาลผูกริบบิ้นสีม่วงอ่อนให้แก่หญิงสาว ดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นหนังสือหรือไม่ก็กรอบรูปอะไรสักอย่าง

             “ขอบคุณนะคะดีน ถ้าคำแนะนำของฉันมีประโยชน์ต่อเธอก็ยินดีมากค่ะ” รุ่นพี่สาวยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มสดใส เธอรับของขวัญมาจากมือ “ฉันขอแกะเลยได้ไหมคะ?”

             “ได้สิครับ แต่แบบว่า.. หาของขวัญให้รุ่นพี่ยากมาก ๆ ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่าเลย..” ดีนยิ้มแห้งอย่างประหม่า จะซื้อน้ำหอมให้ก็ไม่จำเป็น ครั้นจะซื้อชุดเสื้อผ้าก็ไม่รู้ว่าเธอจะชอบสไตล์หวาน ๆ แบบที่มีขายอยู่ในมินิมาร์ทหรือเปล่า

             ห่อกระดาษค่อย ๆ ถูกแกะออกอย่างบรรจง ด้านในคือนิตยสารบันเทิงและแฟชั่นที่เพิ่งออกสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้านี้ ไพเพอร์หัวเราะน้อย ๆ เมื่อเห็นของขวัญ


             “เป็นของขวัญวันเกิดที่แปลกจริง ๆ ด้วย” เพราะคงไม่มีใครซื้อนิตยสารรายเดือนให้เป็นของขวัญวันเกิด “แต่เธอก็รู้ใจจัง ฉันชอบอ่านนิตยสารพวกนี้อยู่พอดี แล้วเล่มนี้ฉันก็ชอบประจำอ่านด้วยค่ะ แต่ก็นับว่าไม่แย่.. ดีนคิดในใจ

             “ถ้ารุ่นพี่ชอบผมก็ดีใจครับ งี้ผมช่วยให้คุณประหยัดเงินซื้อนิตยสารของเดือนนี้ได้แล้ว” ดีนพูดให้ขำบรรยากาศจะได้ดูไม่แย่จนเกินไป

             ถ้ายังไงช่วยเซ็นชื่อที่หน้าปกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ จะได้เก็บเป็นที่ระลึกว่าเธอให้มา” ไพเพอร์ร้องขอ

             “ได้สิครับ” ดีนรับปาก จากนั้นไพเพอร์ก็ส่งนิตยสารพร้อมทั้งปากกาให้ แล้วเซ็นชื่อตัวเองที่หน้าปกพร้อมกับคำอวยพร “ได้เซ็นชื่อที่หน้าปกซะด้วยเหมือนว่าผมเป็นดาราเลย” ดีนหัวเราะ จากนั้นเขาก็ส่งปากกาและนิตยสารคืนให้อีกฝ่าย ความจริงอยากชวนเธอคุยต่ออีกหน่อยแต่ว่าตอนนี้เขาทั้งเหนียวตัวแล้วก็ง่วงตาจะปิด “ขอให้คุณมีความสุขมาก ๆ นะครับ แต่เดี๋ยวผมต้องขอตัวก่อน แล้วเอาไว้เจอกันใหม่ครับ”

             ดีนขอตัวกลับมาก่อน แล้วเขาก็ตรงไปพักผ่อนที่กระท่อมโพไซดอนต่อทันที

เข้าร่วมอวยพรและให้ของขวัญวันเกิดนาแนตต์
+50 พลังใจ , +15 EXP , +40 พลังงาน
--------------------------------------------------
มอบ [นิตยสารบันเทิง] ให้แก่ [ไพเพอร์ แม็กลีน]
+30 ความสัมพันธ์ (จากของขวัญวันเกิด)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ไพเพอร์ แม็กลีน เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2024-6-4 12:14
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-6-4 12:14
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-01] ไพเพอร์ แม็กลีน เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-6-4 12:13
โพสต์ 13521 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-6-3 23:17
โพสต์ 13,521 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-6-3 23:17

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 พลังงาน +40 ย่อ เหตุผล
God + 50 + 40

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-6-5 21:36:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด


Arty
Diary Queen Bee




 

          แหล่งสถานที่คนพลุกพล่านในค่ายฮาล์ฟบลัดมีไม่กี่แห่ง และการ์เซียพาร่างเล็กนั่งรอตรงกลางระหว่างบ้านพักทั้งหมด กองไฟแห่งเฮสเทียอีกทั้งที่นี่ยังเปรียบเสมือนจุดนัดพบของผู้คน ดักรอเด็กบ้านเฮคาที


          "โอ๊ย ๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาสักคน" อาร์ตี้ถือพัดลมไอน้ำพกพา เย็นกว่าพัดลมพกพาทั่วไปถึงห้าเท่า เย็นฉ่ำเหมือนมีแอร์เคลื่อนที่ "เดี๊ยนนั่งจนปวดก้นแล้ว"


          "คุณพี่ ฉันกับเธอเรานั่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ อย่าเพิ่งวีน" หญิงสาวตอบกลับ คอยช่วยเฟ้นหาคนไปทำคำพยากรณ์กับพี่สาว(?) เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสร้างความสุขกับเธอเสมอ บุคคลเปี่ยมล้นพลังงานบวก ถึงขี้บ่น การ์เซียชอบความเผยเปิดตัวตนตรง ๆ ของอาร์ตี้ ไม่เสแสร้ง


          เด็กสาวผมสองสีตาหน้าจิ้มลิ้มเดินผ่านกองไฟ "ลา ลัน ลา ลัน ลา" กระโดดตัวโหยงเหยง 


          นัยน์ตาสีลาเวนเดอร์กระจ่างใสจับจ้องด้วยความดีใจเป็นล้นผลในตา ลุกพรวดขวางทางเด็กสาวตัวน้อยผู้กำลังถูกเลือก ในเร็ว ๆ นี้ 


          "น้องชาล็อต"


          "สวัสดีค่ะพี่การ์เซีย" ร่างเน่งน้อยยิ้มร่าตอบกลับ 


          ทั้งสองคนรู้จักกัน หญิงสาวดึงแขนเรียวบางของอาร์ตี้ให้ลุกขึ้นยืน "นี่พี่ของพี่เองจ้า อาร์ตี้ เดอ วิล"


          "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่อาร์ตี้ อาโน… พี่เป็นดาราใช่ไหม หนูรู้สึกคุ้น ๆ หน้าเหมือนเคยผ่านทีวี" ชาล็อตเอียงคอแสดงสีหน้าสงสัย 


          "ใช่แล้วคุณน้อง เดี๊ยนเป็นคนดัง–🫦"


          "ชาล็อตช่วงนี้ว่างหรือเปล่า พวกพี่มีเรื่องอยากขอให้ช่วย" 


          "ว่างนะคะ" เด็กสาวตอบกลับ 


          "ออกแนวเริ่ดเกิน คิกคิก อาร์ตี้กำลังหาคนร่วมออกเดินทาง ต้องการคนของบ้านเฮคาทีช่วยเหลือในภารกิจ"


          ชายหนุ่มหน้าหวานจีบปากจีบคอพูดเสริม "ก็ไม่ได้อยากบังคับแต่ภารกิจนี้ต้องการคนซ่อมแซมมนตร์บังตา ไม่มีเด็กบ้านไหนใช้เวทมนตร์ได้เหมือนบ้านหล่อน" 


          "จ…จะ ชวนหนูทำคำพยากรณ์เหรอคะ ตกลงค่ะ หนูอยากไป" ดวงตาสองสีสะท้อนแววตามีความสุข "หนูทำได้" ชาล็อตเคยได้แต่ฟังเรื่องของคนอื่น ๆ ออกไปนอกค่าย เมื่อโอกาสมาถึงเด็กสาวจึงคว้าโอกาสนั้นไว้ "ไปพรุ่งนี้เลยไหมคะ"


          "หล่อนดูรีบกว่าดิฉันอีก" 


          "ขอโทษทีค่ะหนูตื่นเต้นเกินไปหน่อย"


          ร่างเล็กชำเลืองส่งสายตาหาการ์เซีย 'เด็กนี่ไหวแน่นะวิ' ก่อนหญิงสาวข้ามเพศจะยกนิ้วโป้ง 'แน่นอน' เป็นการมองตาจ้องตาราวกับส่งกระแสจิตคุยกัน 



ชวนชาล็อต ลิลเลียน




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20374 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-6-5 21:36
โพสต์ 20,374 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 ความศรัทธา จาก กระตุ้นเพศหญิง  โพสต์ 2024-6-5 21:36
โพสต์ 20,374 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนเพศ  โพสต์ 2024-6-5 21:36
โพสต์ 20,374 ไบต์และได้รับ +7 EXP +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก จิตเอกเทศ  โพสต์ 2024-6-5 21:36
โพสต์ 20,374 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-6-5 21:36
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกนีเมียน
กระตุ้นเพศหญิง
เปลี่ยนเพศ
สาปอวัยวะเพศ
จิตเอกเทศ
น้ำหอม Unisex
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
กำไลหินนำโชค
หอกกรีก
แว่นกันแดด
จิตใจทั้งสองเพศ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x4
x3
x5
x2
x1
x1
x1
x2
โพสต์ 2024-6-30 18:42:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

◇◆ 93 ◇◆


เนินฮาล์ฟบลัดบัดนี้ไร้กองทัพยักษ์ยีเมียร์และสมุนผู้รุกราน สภาพอากาศโดยรอบกลับสู่คืนความปกติ ไม่มีหิมะอีกต่อไปแล้ว


โอ้ คนรักความเย็นเศร้าต่อสิ่งนี้ !!!


กลับหวนคืนสู่ฤดูร้อนเต็มสูบ


ไบร์ทสูบพอตกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ หอมเย็นสดชื่น ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและมีสมาธิ ราวกับเป็นเมนทอลที่ช่วยบรรเทากล้ามเนื้อที่อ่อนล้าหลังการออกศึกใหญ่ อสุรกายยักษ์โบราณทำเอาเหนื่อยแทบขาดใจ


อึด ถึก ทน ต้องใช้พลังแห่งมิตรภาพฉัน เพอร์ซี่และเทพโดลอส (จะเรียกว่ารุมก็ เอ่อ…..)


เทพแห่งการโกหกและคำหลอกลวง หายไปทันทีที่ยีเมียร์ถูกสังหารสำเร็จ หลังเหน็ดเหนื่อยกันมาอย่างยาวนาน ไครอนจัดงานเลี้ยงฉลองแก่ค่ายและทุกคนที่ปลอดภัย


ทางด้านเพอร์ซี่ แจ็กสัน ขอตัวกลับก่อนไม่ได้เข้ามาในค่ายด้วย เขามีนัดกับแอนนาเบธที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง


ทุกอย่างในค่ายกลับมาเป็นปกติ เครือข่ายสื่อสารไอริสและเตาไฟบูชาเทพกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง 


อาหารเลี้ยงฉลองส่วนใหญ่ เป็นฝีมือของแม่ครัวฮาร์ปี้


ไบร์ทอิ่มเอมกับพิซซ่าหน้าซีฟู้ดค็อกเทลทั้งถาดใหญ่ น้ำอัดลมขวดใหญ่ตั้งวางไว้บนโต๊ะ ฉันเงี่ยหูฟังคนรอบข้างที่กำลังคุยกันอย่างออกรส ก่อนจะเห็นสายตาที่ทำให้รู้สึกแปลก ๆ นี่น่ะหรอความรู้สึกที่เหมือนกำลังเป็นคนดังที่ถูกกล่าวถึงในวงสนทนา 


ฉันทานอาหารจนแปล้และลุกขึ้นกลับบ้านพักหมายเลข 3 




รางวัลจบงานปาร์ตี้: +200 เกียรติยศ และ 150 ความกล้าหาญ

+100 พลังงาน กินอาหารในงานเลี้ยงจนอิ่ม




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +100 เกียรติยศ +100 ความกล้า โพสต์ 2024-7-6 21:43
188Come Away With Me               เย็นวันเดียวกันมีงานเลี้ยงเกิดขึ้น เฉลิมฉลองใ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-7-4 21:22
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-23] โดลอส เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-6-30 18:50
God
คุณได้รับ +200 เกียรติยศ +150 ความกล้า โพสต์ 2024-6-30 18:49
โพสต์ 10229 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-6-30 18:42

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เหรียญดรักม่า +30 พลังงาน +100 ย่อ เหตุผล
God + 30 + 100

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ดาบไซฟอสออฟเดอะฟอลเลน
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
โพสต์ 2024-7-4 21:22:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-7-4 21:27

Bright ตอบกลับเมื่อ 2024-6-30 18:42 #system01 { border: 2px solid #8BD2EC; border-radius: 30px;

188

Come Away With Me


               เย็นวันเดียวกันมีงานเลี้ยงเกิดขึ้น เฉลิมฉลองให้กับชัยชนะของค่ายฮาล์ฟบลัดที่มีเหนือยีเมียร์ผู้รุกราน รวมทั้งเฉลิมฉลองให้แก่ทีมทวงคืนตรีศูลเทพโพไซดอนเพื่อหยุดยั้งสงครามภายในของโอลิมปัสระหว่างเทพแห่งท้องนภาและเจ้าสมุทร


               น่าเสียดายที่ตัวเอกของงานอย่าง เพอร์ซีย์ แจ๊กสัน และเทพโดลอสไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงด้วย แต่เทพเจ้าแห่งการหลอกลวงยังคงประทานเงินขวัญถุงและความโปรดปรานแก่เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงกู้หน้าจากการที่เขาเคยถูกยักษ์น้ำแข็งโจทก์เก่าลักพาตัวไป


               งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่กองไฟเฮสเทียหน้าบ้านพักของพวกเขากันนั่นเอง แน่นอนว่าดีนที่ชื่นชอบปาร์ตี้เป็นทุนเดิมย่อมไม่พลาดแม้ว่างานนี้จะขาดน้ำเมาไปก็ตาม และอีกสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือเขาถือเป็นแกนหลักของปาร์ตี้อย่างงง ๆ


               “เจ๊ครับขอปิ้งเนื้อเองได้ไหม?” ดีนที่ยืนรอถือจานบาร์บีคิวจากเจ๊ฮาร์ปี้เอ่ยขึ้น เขาสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบาย ๆ ส่วนเสื้อโค้ทตัวหนาที่ต้องทนใส่มาร่วมเดือนอย่างผิดฤดูกาลถูกแขวนภายในบ้านพักของเพื่อน 


               “ไม่ได้ เดี๋ยวปั๊ดตีมือหัก!” เจ๊ฮาร์ปี้ตะคอกใส่ คงเพราะความเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสของแม่ครัวล่ะมั้งถึงอยากให้อาหารสมบูรณ์แบบ “ใกล้สุกแล้ว อ่ะนี่ อันนี้อร่อย ข้างนอกเกรียมนิด ๆ ข้างในชุ่มฉ่ำ”


               เธอยื่นบาร์บีคิวไม้หนึ่งที่ย่างมาได้ที่ใส่จานให้ชายหนุ่มที่มาต่อแถว ดีนหน้ามุ่ย จริง ๆ เรียกว่าหน้าหงอจะดีกว่าที่ถูกดุ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องดุกันเลย แต่อันที่จริงเขาก็ชินกับความเกรี้ยวกราดของแม่ครัวสาวอสุรกายบ้างแล้วจึงไม่โกรธ แต่สิ่งที่น่าขัดใจอีกอย่างก็คือ ‘ความสนุกของการทานบาร์บีคิวก็คือการย่างเนื้อ’ นี่แหล่ะ


               เมื่อได้บาร์บีคิวเนื้อตามที่สั่งมาจนครบเขาก็เดินไปหาแมคเคนซีที่บาร์อาหารประเภทอื่น


               “ได้อะไรมากินบ้างที่รัก”


               เป็นคำพูดปกติแต่ทำเอาเจโนวีฟสาวสวยบ้านอะโฟร์ไดท์ที่มาตักน้ำพันช์หันขวับมามอง


               @Mackenzie


               “โห น่ากิน ฉันเอาบาร์บีคิวมาเผื่อนายด้วย กินด้วยกันนะ”


               ยิ้มแป้นให้อีกฝ่ายก่อนจะถูกทักเรื่องคนมองเลยหันไปตาม เขาจึงโบกมือทักเจโนวีฟสาวจากบ้านอะโฟร์ไดท์


               “ฮาย เจโนวีฟ”


               “ฮายค่า เดทกันให้สนุกนะคะหนูไม่กวน” เด็กสาวโบกมือกลับ และเมื่อเธอได้เครื่องดื่มที่ต้องการก็เดินกลับไปนั่งรวมกลุ่มกับเหล่าธิดาแห่งความงาม


               “เดทแน่ะ” ดีนหัวเราะ ก่อนจะส่ายหน้า ใช่นี่ไหนกันเล่า นี่มันวิถีชีวิตปกตินั่นแหล่ะ “เอาอะไรเพิ่มไหม เห็นว่ามีพิซซ่าด้วย พวกเราจะกินกันหมดหรือเปล่า?”


               @Mackenzie


               เดินตามแมคเคนซีไปนั่งรอบกองไฟ แล้วเริ่มจกอาหารที่แมคเคนซีหยิบมา ไม่ว่าจะเป็นสลัดกุ้งทอดหรือแซลมอนรมควันต่างก็อร่อยล้ำ และนี่ถือเป็นมื้อแรกของหลายสัปดาห์ที่ได้รับประทานอาหารอย่างสบายใจ

              “เดททำกันในค่ายไม่ได้เหรอ อีกอย่างฉันกับนายไปเรียกว่าเดทกันได้ด้วย?”


               ลองถามกลับเพราะยังไงสถานะของเขาและอีกฝ่ายก็เป็นแค่เพื่อนสนิทถึงจะมีแอบแซ่บกันนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ได้เลื่อนสถานะไปมากกว่านั้น และตอนนี้เขาค่อนข้างจะชินกับความเป็นอยู่ในตอนนี้ ขอแค่มีความสุขในทุก ๆ วันแค่นั้นก็พอ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงคำเรียกสเตตัสใด ๆ


               “อื้อ เดี๋ยวก็หมดเชื่อสิ”


               แล้วเขาก็หยิบบาร์บีคิวเนื้อรูดเข้าปากไปทั้งไม้


               “ฮื้ม อร่อย สมราคาคุยจริง ๆ” พูดอู้อี้อาหารเต็มปาก


               @Mackenzie


               “อะ เอ่อ ใช่ เหมือนจะเป็นงั้น จัดเลทซะจนฉันลืมไปเลยว่ามีปาร์ตี้ด้วย.. ไม่สิ ต้องพูดว่า มีปาร์ตี้ให้ด้วยเหรอ?”


               อย่างทีมอื่น ๆ ที่ไปทำภารกิจกลับมาไม่เห็นจะจัดปาร์ตี้ให้เลย หรือว่าเป็นภาจกิจไม่ใหญ่ถึงขนาดโลกแตกกันนะความสำคัญจึงลดหลั่นลงไป


               เขามองตามกล่องที่แมคเคนซีหยิบออกมาก่อนจะทำตาโตเมื่อเห็นขวดสาเกลวดลายสวยบรรจุอยู่ในนั้น


               “เฮ้ย ขอบคุณนะแมคซี่! ของฝากจากญี่ปุ่นเหรอ”


               ถ้ามีหูกับหางหมาคงจะหูตั้งหางส่ายเป็นเฮลิคอปเตอร์ไปแล้วเมื่อได้รับของขวัญที่ถูกใจ


               “กินเลยได้ไหม ต้องเอาทำอะไรก่อนหรือเปล่า?” เคยเห็นในหนังชาวเอเซียชอบดื่มสุราร้อนกัน แต่ครั้นจะอ่านวิธีการใช้งานเขาก็ดันอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก


               @Mackenzie


               “ไม่รู้สิ คงงั้นมั้ง”


               ดีนยักไหล่ แต่ตอนที่ยักษ์น้ำแข็งมาล้อมค่ายก็ห่างจากวันที่เขากลับมาตั้งครึ่งเดือน แต่ช่างเถอะ เขาไม่ได้รังเกียจการจัดปาร์ตี้รวบแต่สนใจเจ้าขวดสวย ๆ ตรงหน้านี้ต่างหาก


               “ดื่มได้เลยเหรอ? งั้นเดี๋ยวฉันไปเอาแก้วมาก่อน”


               จะให้ใช้แก้วใบเดียวกับที่ใส่น้ำหวานมาก็กระไรอยู่ เขาไม่สนใจเรื่องพิธีรีตองอย่างภาชณะที่ใช้อยู่แล้ว สนใจแค่ว่าทำไงถึงจะได้ดื่มมากกว่า 


               เร็วดั่งใจนึก ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นไปหยิบแก้วสองใบก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม


               “แมคซี่ รินให้ฉันหน่อยสิ”


               ยิ้มหวานส่งสายตาออดอ้อนให้


               @Mackenzie


               มองท่าทางการรินเหล้าที่แตกต่างจากทุกครั้งที่เคยเห็น เขาไม่รู้ว่าแมคเคนซีแค่พยายามเลียนแบบท่าทางของชาวตะวันออก หรือว่าการเป็นบาร์เทนเดอร์จะต้องเรียนรู้ศาสตร์ของสุราทุกประเทศก็ไม่รู้


               แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็น่ามองไปหมด


               เขารับแก้วสาเกที่ถูกรินด้วยประมาณพอสมควรก่อนจะหัวเราะเมื่อถูกกำชับ


               “คร้าบ คุณบาร์เทนเดอร์”


               สำหรับดีนแล้วเขาแทบไม่รู้วิถีของชาวตะวันออก สิ่งที่พอจะเข้ามาเกี่ยวในชีวิตอยู่บ้างก็มีแค่ มีแชร์เมทเป็นชาวจีน เคยทานอาหารกล่อง ใช้ตะเกียบพอได้นิดหน่อย แวะเวียนไปไชน่าทาวน์บางครั้งเพราะอยู่ใกล้กับที่พักอาศัยเดิม แต่นอกจากนั้นเขาแทบจะไม่รู้ธรรมเนียมเลย


               ‘ต้องดมกลิ่นเหมือนไวน์ก่อนหรือเปล่านะ?’


               เขาลองวนแก้วที่ปลายจมูกสูดกลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์เข้าไปจนได้กลิ่นแรงจนแทบนิ่วหน้าหนี


               ‘เมาแน่วันนี้..’


               แต่แล้วไงใครแคร์ เหล้าเข้าปากมันต้องเมาสิถึงจะสนุก ถ้าไม่มีคุณบาร์เทนเดอร์เก่าคอยกำชับเขาคงกระดกสาเกสีใสลงคอรวดเดียวเป็นแน่ ดังนั้นชายหนุ่มจึงค่อย ๆ จิบของเหลวฤทธิ์ร้อนลงคอ เพียงไม่กี่อึกใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ


               “โอ๊ย ดีจัง ร้อนเป็นบ้าเลย!” พอได้เหล้าเข้าปากก็ยิ่งลัลล้าเข้าไปใหญ่ “ว่าแต่ที่นายซื้อมาเป็นสาเกแบบไหนเหรอแมคซี่?”


               @Mackenzie


               ดีนฟังคำอธิบายอย่างตั้งใจพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก


               “เหรอ น่าเสียดายจังแฮะ งั้นเก็บอีกครึ่งไว้กินตอนที่มีอุปกรณ์แล้วกันเนอะ”


               เขายกสาเกขึ้นดื่มอีกอึก แม้แมคเคนซีจะไถ่ถามแต่ดีนก็ส่ายหน้าไม่เป็นไร


               “ก็แค่หน้าแดงเองไม่ได้หมายความว่าเมาสักหน่อย” ถึงพูดแบบนั้นแต่น้ำเสียงติดจะอ้อแอ้ในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะมองของกินที่ดูแล้วจะไม่พอ “เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมาเพิ่ม”


               พูดจบก็ลุกไปที่บาร์อาหารแล้วเอาของกินกลับมาอีกสองสามอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกับแกล้มได้ดีและค่อนข้างจะเข้ากับสาเกญี่ปุ่นอย่าง ชีส สเต็กปลา และบาร์บีคิว เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมแบบผสมผสานได้หรือเปล่านะ ทำไงได้ก็ของกินที่เจ๊ฮาร์ปี้นำมาเสิร์ฟมีแค่นี้ ส่วนพิซซ่ากับสลัดต่าง ๆ ก็ออกจะหนักเกินกว่าจะเป็นอาหารแกล้มเหล้า


               “มาแล้ว”


               เขาวางอาหารทั้งหมดลงไปบนขอนไม้ที่ใช้แทนโต๊ะก่อนจะรับประทานคู่สาเกอย่างอิ่มหนำสำราญและเริ่มจะเมาขึ้นมาจริง ๆ 


               @Mackenzie


               “ได้จริงหรือเปล่า งั้นฉันไม่เกรงใจนะ สงสัยวันหลังต้องฝากซื้อมาตุนไว้ด้วยละ”


               เสียงเพลงที่เปิดเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสนุกวนมายังเพลงที่ดีนชอบเต้นตอนไปผับแม้จะเก่าไปหน่อยก็เถอะ



               “โอ๊ะ เพลงนี้! แมคซี่ เรามาเต้นกันไหม?” ปากเอ่ยถามแต่มือหนาจับแขนอีกฝ่ายคะยั้นคะยอให้ไปเต้นด้วยกันยิก ๆ


               @Mackenzie


               ดีนเพียงแค่หัวเราะให้กับความรู้ทันของอีกฝ่ายและฉลองให้กับชัยชนะให้เขาแงะอีกฝ่ายออกจากขอนไม้มาเต้นด้วยกันได้


               “ไม่ยากหรอกน่า แค่ใช้เอวเหมือนที่นายถนัดไง เอาล่ะมาเร้ว”


               ดึงมือของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากกองไฟเล็กน้อยก่อนจะเริ่มวาดลวดลายเต้นโยกไปตามเสียงเพลงที่เขาโปรดปราน เมื่อถึงท่อนฮุคปากก็ขยับร้องตามเสียงของจัสติน บีเบอร์ แม้อาจผิดคีย์ไปบ้างตามประสาคนเมา


               “Cause all I need Is a beauty and a beat Who can make my life complete~~”


               @Mackenzie


               “ดูนายเต้นเข้าสิ อย่างกับคุณลุงแน่ะ!”


               ดีนมองท่าเต้นยึก ๆ ยัก ๆ ของแมคเคนซีก่อนจะจับเอวของอีกคนโยกในจังหวะที่มันกว่านี้ รู้แหล่ะว่าคนเต้นไม่เป็นคงออกมาประมาณนี้ ของแบบนี้ใช่ว่าจะสอนกันได้ง่าย ๆ ด้วย สู้จับให้อีกฝ่ายเข้าจังหวะไปด้วยกันอาจง่ายกว่า 


               @Mackenzie


               “ก็โอเคขึ้นมั้ง แต่ต้องฝึกอีกเยอะ ป่ะ เพลงต่อไป ลุย!”


               เพลงเก่าจบไปเพลงใหม่ถูกเปิดขึ้นมาแต่ทว่าเป็นเพลงช้าเสียนี่ ราวกับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงานพรอม พอแด๊นซ์กระจายกันได้ที่แล้วก็ได้เวลาของการเต้นจังหวะช้าแบบวอร์รูม คู่รักอย่างอลิเซียและเอลลิสจับคู่ประกบกัน รวมถึงเด็กที่แอบชอบพอกันก็เริ่มชวนกันมาเต้นรำในจังหวะช้า




               ทว่าสีหน้าของคนกำลังเต้นมัน ๆ แต่ถูกเปลี่ยนจังหวะได้แต่อ้าปากค้างอย่างเสียดาย


               “อ้าว มาเต้นช้าไปเหรอเนี่ย แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เราจะเต้นกันต่อไหม?”


               @Mackenzie


               “ได้ไง อย่าให้ฉันเหงาสิ คราวหน้านายก็ต้องเต้นด้วย”


               พอเมาเข้าให้ก็เอาแต่ใจ ทั้งที่ตอนปกติไม่ค่อยจะบังคับใจใครแท้ ๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแมคเคนซีชอบยอมเขาทำให้เคยตัว


               “ใช่ เต้นรำ วอลซ์น่ะ อย่างน้อยนายก็เคยเรียนหรือเคยเต้นในงานพรอมใช่ไหมล่ะ?”


               @Mackenzie

                              

               “หือ สาวน้อยเนี่ยนะ?”


               คนเมาเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่เคยเต้นในตำแหน่งนี้แต่คงไม่ยากเกินไปหรอก รู้สึกว่าจะเป็นการเต้นสลับกับของฝ่ายชาย เริ่มด้วยก้าวเท้าขวาไปข้างหลังประมาณนี้มั้ง พอเห็นอีกฝ่ายโค้งให้ก็ขำพรืด แมคเคนซีคงกะจะแกล้งล่ะมั้งแต่ถ้าเป็นเรื่องเต้นไม่ว่าจังหวะไหนก็กินเขาไม่ลงหรอก!


               “งั้นก็ฝากด้วยนะคะ”


               ดัดเสียงเล็กเสียงน้อยให้เหมือนหญิงสาวทว่าคล้ายกับมิกกี้เม้าส์มากกว่า ดีนย่อตัวทำเป็นถอนสายบัวจากนั้นก็ยื่นมือให้อีกฝ่ายจับ


               “ถ้านายเต้นผิดจังหวะฉันจะยึดตำแหน่งคืน” เขายักคิ้วบอกอย่างท้าทาย


               @Mackenzie


               ถึงจะพูดท้าทายแต่ดีนจอมแหกคอกไม่สนใจกฎเกณฑ์หรอก ดีนวางมือข้างที่ว่างลงบนไหล่ของอีกฝ่ายแล้วจึงก้าวเท้าไปตามเสียงเพลงโดยไม่นับจังหวะเลยด้วยซ้ำ เขาก็แค่ปล่อยตัวเองไปตามธรรมชาติอย่างที่ควรเป็น


               สายตาจดจ้องไปยังคนตรงหน้าที่สูงกว่า แมคเคนซีก็เหมือนปกติทุกวันแท้ ๆ แต่ต้องยอมรับว่าหนุ่มอังกฤษคนนี้ช่างดูดี ถึงจะเต้นเพลงเร็วไม่เก่งแต่สำหรับเพลงช้าก็ทำได้ไม่เลว จนเพลงช้าจบไปอีกเพลง


               “เก่งกว่าเมื่อกี้เยอะเลยนี่ ยังอยากจะเต้นอีกเพลงไหม?”


               @Mackenzie


               “ถ้านายไม่อยากต่องั้นไปนั่งกินกันต่อก็ได้”


               ดีนผละตัวออกตอนอีกฝ่ายบอกว่าไม่ค่อยอยากเต้น แบบนั้นก็ดีเหมือนกันถ้าเต้นกันไปมากกว่านี้เขาได้เผลอไหลไปซบอีกฝ่ายเข้าแน่ ๆ


               ดีกว่าจริง ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าเกิดได้ไหลจริง ๆ ล่ะก็เขาคงเผลอพูดบางอย่างออกไปตอนที่ควบคุมสติไว้ไม่อยู่ ดีนไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม แล้วรินสาเกใส่แก้วใสไปเกือบเต็มแก้ว


               “เอากับแกล้มอีกไหม?” ถามออกมาโดยไม่ได้ดูว่าเจ๊ฮาร์ปี้ปิดครัวไปแล้ว


               @Mackenzie


               “งั้นเหรอ ว้า เอางั้นก็ได้ ถ้าหมดแก้วนี้ก็กลับกัน”


               หันไปมองก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย ในเมื่อไม่มีอาหารงั้นก็ดื่มเพียวก็ได้ เขายกสาเกในมือขึ้นจิบหนึ่งอึกก่อนจะมองของเหลวสีใสที่อยู่ข้างใน


               “ถ้าทำให้อุ่นจะเป็นไงนะ ถ้าได้ลองเร็ว ๆ นี้ก็ดีสิ งวดหน้าเราลองเอาไปอุ่นในเตาผิงบ้านนายก่อนดีไหม?”


               งวดหน้าที่หมายถึงพรุ่งนี้เลยก็ดี ตามหลักของแอลกอฮอล์เมื่อถูกความร้อนจะระเหยและดีกรีจะจางลงและได้รสที่กลมกล่อมนุ่มนวลมากขึ้น อย่างเช่นการใช้ไวน์หรือเหล้าขาวในการประกอบอาหารชูรสชาติของวัตถุดิบให้เด่นขึ้นมา และบางทีอาจจะทำให้เขาไม่เมาง่ายขนาดนี้


               @Mackenzie


               ใช้เวลาอีกครู่หนึ่งถึงจะดื่มของเหลวในแก้วหมด ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มเข้าสู้กระแสเลือดทำให้ดีนอยู่ในสภาพเมาแอ๋ ตาเยิ้ม พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง


               “แมคซี่ นายมอมช้านน แฮะ ๆ ง้านก็ดื่มห้ายหมดปายเลย”


               หยิบขวดสาเกขึ้นมาเทผิดเทถูกเหล้าหกไปครึ่งแก้ว


               @Mackenzie


               “ช้านว่าช้านก็รินตรงอยู่นา”


               ตรงก็แย่แล้ว ตอนนี้ตาเขาเบลอเหมือนไม่ได้ใส่คอนแทกเลนส์และเริ่มจะเห็นว่าคนตรงหน้าแยกร่างได้ ภาพมายาตรงหน้าทำให้เขาหัวเราะขำออกมา


               “ต้องหวายเซ่ ก็นายบอกเองว่าดื่มห้ายหมดปายเลย อึก!”


               ระบบการตีความก็รวนตาม แย่สาเกเหลืออีกประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ของขวดแก้วรินอีกสักแก้วก็คงหมด แต่ว่าเขาจะกินแก้วที่อยู่ตรงหน้าหมดหรือเปล่าเถอะ


               ก็ไม่ยาก ดื่มมันรวดเดียวให้หมดไปเลยเซ่! สมองคนเมาสั่งการให้ทำเช่นใจคิด


               @Mackenzie


               “อ้าว พอแล้วเหรอ”


               คนเมาหัวเราะหัวโคลงไปเคลงมา ไม่ได้ดื้อปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บขวดสาเกกลับไป ส่วนแก้วสีใสในมือว่างเปล่าไปตั้งแต่ที่กระดกดื่มครั้งก่อน


               “จากลาบแล้วสิ” ร่างสูงหกฟุตลุกขึ้นยืนก่อนจะเซแท่ด ๆ จวนเจียนจะล้ม


               @Mackenzie


               พอถูกหามก็พิงหัวกับไหล่แล้วถูไถอีกคน


               คล้ายกับว่าเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ทั้งปาร์ตี้ที่ชอบ ได้สุรารสดีเข้าปาก แถมยังได้กินอาหารกับคนรู้ใจ ไร้เรื่องกังวลชวนปวดหัวพาลให้กินดื่มไม่อร่อย ดีนอยากให้ทุกคืนวันเป็นเช่นนี้ตลอดไป แต่ชีวิตของเดมิก็อดที่ว่าแสนสั้นคงต้องประสบพบเจอเรื่องราวอีกมากมายที่ตอนนี้เขาไม่อยากนำมาใส่สมอง เพียงแค่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำเอามึนมากแล้ว


               มึนจนแทบไม่เหลือสติ


               ทว่าเขายังคงรับรู้สัมผัสหนึ่งได้ที่คอยประคับประคองไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวดีร้ายแค่ไหน และเขาดีใจที่มีอีกฝ่ายอยู่เคียงข้างในฐานะเพื่อน หรือไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นพลั่งพรูออกมาในจังหวะที่ประตูของบ้านเฮคาทีได้เปิดออกและปิดลง


               “แมคซี่ฉันรักนายจัง”


รางวัลฉลองจากเทพโดลอส: 600 ดอลลาร์

ความโปรดปรานจากเทพโดลอสจากชัยชนะในศึกใหญ่ของเขาแก่ทุกคน: +35 แต้ม
+100 พลังงาน กินอาหารในงานเลี้ยงจนอิ่ม

รางวัลสังสรรค์อวยพรให้สามผู้กล้า ดีน ไบร์ท และ เดม่อน : +15 EXP / (ไครอนแจกเงิน (สุ่มเลขไบต์หลักสุดท้าย) รับดรักม่าไปเลย) และ +40 พลังงาน


รางวัลเฉพาะดีน ไบร์ท และ เดม่อน ได้พิเศษตามหัวคนที่โรลร่วมปาร์ตี้อวยพรทั้งสามในการทำภารกิจสำเร็จ:
(ต่อหัว) 100 ความกล้าหาญ และ 100 เกียรติยศ


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +100 เกียรติยศ +100 ความกล้า โพสต์ 2024-7-6 21:43
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-23] โดลอส เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2024-7-6 21:43
God
คุณได้รับ 50 EXP โพสต์ 2024-7-6 21:42
22. Party For the WinnersM [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] “สลัดกุ้งทอด แล้วก็แซลมอนรมควัน กินด้วยกันไหม” เมื่อได้ยินเสียงท  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-7-4 22:14
โพสต์ 95879 ไบต์และได้รับ 54 EXP!  โพสต์ 2024-7-4 21:22

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1เงินดอลลาร์ +600 พลังงาน +140 ย่อ เหตุผล
God + 600 + 140

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้