[บันทึกการเดินทาง] พ่อคะ แม่คะ หนูไม่ได้หนีตามผู้ชาย...แค่ไปเป็น 'ความรับผิดชอบสูงสุด' ของอะพอลโลที่ยุโรปค่ะ!

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-11-2 22:45:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-11-2 23:17

sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 02 : คุณพี่ให้หนูสู้กับไอ้เหี้ยนั้นหรอ?
วันที่ 30 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงเย็น เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป สถานีคาตาเนีย แคว้นซิชิลี อิตาลี ยุโรป


รถไฟสายเฮเฟตัสเทียบท่าด้วยเสียงหวีดโหยหวน ดั่งเสียงของเหล็กที่กำลังครวญครางกลางไฟนรก กลิ่นไอร้อนจากล้อเหล็กที่สีกับรางดัง “แกร๊ก แกร๊ก” แทรกเข้าไปในทุกอณูอากาศ โมนีก้ามองรอบ ๆ ภายในตู้โดยสารด้วยความสงสัย เหล็กทุกแผ่นเปล่งแสงสีแดงราวกับเพิ่งหลอมออกจากเตา แต่กลับไม่มีผู้โดยสารสักคน มีเพียงแสงไฟสลัวไหว ๆ เหมือนกำลังหายใจ เธอเอนตัวลงนั่งตรงข้ามเลสเตอร์ พลางกอดแขนเสื้อโค้ทของตัวเองแน่น “ทำไมไม่มีใครเลยล่ะ แปลกจัง…”


เลสเตอร์ที่กำลังดูหน้าต่างรถไฟหันมาพูดแบบไม่ทุกข์ร้อน “ก็ขบวนด่วนพิเศษนี่ครับ คงไม่มีใครยอมจ่ายยี่สิบดรักม่าหรอกถ้าไม่รีบหรือมีเงินเหลือใช้จริง ๆ” เขาพูดพลางเอนพิงเบาะ ยิ้มมุมปาก “หรือบางทีเขาอาจกลัวว่าเทพที่มีเสน่ห์ล้นเหลืออย่างผมจะนั่งด้วยก็ได้”


โมนีก้าเหล่มองอย่างเบื่อหน่าย “อย่าหลงตัวเองนักสิ ฉันยังนั่งอยู่ได้นี่ไง”

“นั่นสิครับ… แล้วผมก็คงไม่อยากให้ใครนั่งข้างคุณอยู่ดี” เขาตอบพลางยักไหล่ยิ้มอ่อน ก่อนจะเอามือประสานไว้หลังศีรษะ เสียงหัวเราะแผ่วเบาหลุดจากริมฝีปากของเธอ ความเงียบของตู้โดยสารทำให้เสียงนั้นดังก้องอย่างผิดธรรมชาติ “ตอนนี้กลับเป็นเทพแล้ว นายต้องกลับไปทำหน้าที่เทพอีกสินะ?” เธอถาม สีหน้าดูสงบแต่สายตาแฝงแววห่วง


เลสเตอร์ถอนหายใจยาวแบบเหนื่อย ๆ “ใช่แล้วล่ะ…” เขาเอนตัวพิงหน้าต่าง “ผมต้องทำให้กลางคืนกลับมาอีกครั้งแม้แค่ชั่วคราวก็ยังดี ตั้งแต่ที่นิกซ์โดนลักพาตัวไป โลกนี้ก็ไม่มีกลางคืนเลย มีแต่แดดทั้งวัน… คุณรู้ไหมว่ามันเหนื่อยขนาดไหน?”


“นายกำลังบ่นเหรอ?” โมนีก้าเอ่ยถามอีกฝ่ายที่พอไม่ต้องปิดบังก็บ่นเป็นต่อยหอย

“บ่นมากด้วยครับ” เขาหันมาทำหน้าเครียดแบบเล่นใหญ่ “คุณลองคิดดูสิ ต้องทำงาน 24 ชั่วโมงไม่มีพัก เทพแสงอาทิตย์นะไม่ใช่โรงไฟฟ้า! เทพองค์อื่นก็ยุ่งกันหมด เฮอร์มีสวิ่งส่งของเป็นบ้าเป็นหลัง ไดโอนิซุสก็เริ่มบ่นว่าจะกินเหล้าไม่อร่อยแล้วถ้ายังไม่มีเวลากลางคืน!”


โมนีก้าอดหัวเราะไม่ได้กับท่าทีนั้น “งั้นนายต้องการอะไรเลสเตอร์ กำลังใจเหรอ?” เมื่อโมนีก้าพูดจบเลสเตอร์ก็เอนเข้ามาใกล้จนปลายผมของเขาแทบจะสัมผัสแก้มของเธอ “อย่างน้อย…จูบหนึ่งก็ช่วยได้เยอะเลยนะครับ” 


โมนีก้าหรี่ตาใส่ท่าทางนั้นของเขา “อยากโดนดาบเคาะหัวไหม?”

เขายกมือยอมแพ้ ยิ้มขำ ๆ “ก็แค่เสนอแนวทางเยียวยาทางใจน่ะครับ”


แต่ก่อนที่เธอจะทันพูดตอบ รถไฟก็เริ่มสั่น เสียงเหล็กครูดกันจนสะเทือนลึกไปถึงกระดูก “เอ๊ะ…?” เธอหันมองรอบตัว “รู้สึกแปลก ๆ ไหม?” เลสเตอร์เองก็หยุดนิ่ง แววตาเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นในทันที “ใช่… ผมก็รู้สึกเหมือนกัน” พอทั้งคู่มองออกไปนอกหน้าต่าง แสงสีแดงก็เริ่มกระพริบตามทางเดินราวกับหัวใจของบางสิ่งกำลังเต้นเร็วขึ้น เสียงเครื่องจักรดังขึ้นเอง ทั้งที่ไม่มีใครขับ “โมนีก้า…” เสียงเลสเตอร์แผ่วแต่เด็ดขาด “ผมรู้แล้วว่ามันคืออะไร”


เธอหันมองเขา “อย่าบอกนะว่า—”

“รถไฟจักรกลลีเจี้ยนแน่ ๆ” เขาพูดพร้อมลุกขึ้นยืนทันทีเหมือนพยายามระวังภัยดูว่ามีเดมิก็อดคนอื่น ๆ ไหม แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีเขาก็โล่งใจ โมนีก้าเบิกตา “อะไรนะ?! มอนสเตอร์หรอ?! เราต้องสู้กับรถไฟเหรอ!? ทั้งขบวนเนี้ยนะ?!”


“เรา? เหรอครับ?” เขายักคิ้วท่าทางกวน ๆ “ไม่สิต้องใช้คำว่า คุณ ต้องสู้ต่างหาก ถ้าผมลงมือผมจะโดนพ่อปาสายฟ้าใส่ข้อหาช่วยแฟนเกินจำเป็นทำยังไงล่ะครับ มันอยู่ในกฎครับ”


“อะไรของนายเนี่ย!” เธอตะโกนขึ้นก่อนจะถอนหายใจแรงแต่ก็เข้าใจ “โอเค เข้าใจแล้ว ถ้างั้นฉันจะสู้เองก็ได้!” โมนีก้าเหยียดมือซ้ายออก กำไลทองบนข้อมือเปล่งแสงออกมาแปรเปลี่ยนเป็นดาบสุริยคติ ปลายคมดาบส่องประกายสีขาวทองสะท้อนบนผนังเหล็ก รถไฟคำรามดังราวกับสัตว์ร้ายมีชีวิต ล้อเหล็กทั้งสี่เริ่มหมุนแรงขึ้นจนเกิดประกายไฟกระจายราวกับฝนแห่งนรก เธอกระโดดขึ้นยืนบนเบาะ ดาบในมือหมุนเป็นวงกลมก่อนจะฟาดเข้ากับผนังตู้ เสียงโลหะปะทะโลหะดังลั่น อุณหภูมิรอบข้างพุ่งสูงขึ้นทันที รอยแยกสีทองค่อย ๆ ปรากฏบนตัวรถไฟเหมือนรอยแผลที่กำลังเปิดเผยหัวใจที่เน่าเฟะ


รถไฟกรีดร้อง เสียงกลไกสะท้อนทั่วอุโมงค์ ไอน้ำร้อนทะลักออกจากรอยแตกในโครงสร้าง แต่ทุกครั้งที่แรงระเบิดปะทุ เลสเตอร์จะเข้ามายืนข้างหลังเธอ คอยปัดเศษเหล็กที่พุ่งเข้ามา เขาใช้มือข้างหนึ่งสร้างโล่แสงส่องรอบตัวเธอโดยไม่ข้ามเส้นกฎใด ๆ


“นาย…กำลังปกป้องฉันใช่ไหม?” เธอตะโกนท่ามกลางแรงลม

“ผมแค่กันเศษเหล็กเฉย ๆ ไม่ได้ช่วยสู้ครับ ไม่ผิดกฎแน่นอน” เขาตะโกนตอบ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกทุกอย่างแล้วว่าบางครั้งคำมันก็ดิ้นได้


ดาบสุริยคติของโมนีก้าฟาดลงอีกครั้ง รอยแยกขยายกว้างขึ้น แสงสีทองปะทุจนแสบตา ก่อนรถไฟจะคำรามครั้งสุดท้ายแล้วระเบิดออกเป็นฝุ่นทองกระจายทั่วอุโมงค์ แรงระเบิดผลักโมนีก้าเสียหลัก แต่ก่อนที่เธอจะล้ม เลสเตอร์ก็พุ่งเข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมแขนกลางอากาศ ร่างทั้งสองหมุนหนึ่งรอบก่อนลงพื้นอย่างนุ่มนวล แสงทองโปรยรอบตัวเหมือนฝนแห่งดวงดาว


เลสเตอร์หอบเบา ๆ ก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้มภาคภูมิ “ผมว่าภาพนี้เท่ใช้ได้นะ”

โมนีก้ามองหน้าเขาแล้วหัวเราะ “เท่ตายล่ะสิ ถ้าฉันไม่ออกแรงนายคงโดนบดไปแล้ว”

“ก็ใช่ไงครับ…แต่คุณก็มีผมไว้ปกป้องไม่ใช่เหรอ?”

โมนีก้ากลอกตาแต่ยิ้มมุมปาก “อย่าให้หลงตัวเองมากกว่านี้เลยเลสเตอร์”

“ก็เทพแสงอาทิตย์นี่ครับ จะให้เงียบก็ไม่ได้สิ ต้องส่องตลอดเวลา”


กลิ่นเขม่าควันจากรถไฟที่เพิ่งดับสนิทลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ เสียงโลหะที่ยังอุ่นดัง “ตึง…ตึง…” จากแรงระเบิดเมื่อครู่ เลสเตอร์ยังคงอุ้มโมนีก้าไว้ในอ้อมแขนแน่น แขนเสื้อของเขาเปื้อนฝุ่นทองจากเศษซากของรถไฟลีเจี้ยนที่เพิ่งสลายไป แสงสุดท้ายของมันยังลอยละล่องในอากาศราวฝุ่นละอองดวงดาวที่ไม่ยอมดับสิ้น “ดูเหมือนว่าเราจะต้องเดินทางอีกไกลเลยล่ะ” เสียงของเลสเตอร์แผ่วทุ้มแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาเหลือบมองไปรอบ ๆ ทางอุโมงค์ที่ค่อย ๆ มืดลง “เพราะสถานีรถไฟของเฮเฟตัสที่ใกล้ที่สุด…ก็น่าจะอยู่ที่ Roma Termini ที่โรม อิตาลี”


โมนีก้ากรอกตาอย่างอ่อนใจ “โรมอีกแล้วเหรอ…” เธอบ่นพลางเอนศีรษะพิงไหล่เขา “นี้เราต้องเดินทางกันอีกแล้วสินะ คงจะไม่ได้กลับค่ายง่าย ๆ ใช่ไหม?” เลสเตอร์หัวเราะเบา ๆ “ถือว่าเดทไง” เขาตอบพลางยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ที่เธอคุ้นดี


“ฉันออกมากับนายทุกรอบปะ ก็ถือว่าเดทตลอดอยู่แล้วมั้ง” เธอตอบอย่างเหนื่อยใจแต่แววตายังมีประกายขบขัน “ไม่เหมือนกันนะ” เขาเอียงคอมองเธอ ดวงตาสีทองสะท้อนแสงไฟในอุโมงค์ “ตอนนั้นความสัมพันธ์เรายังไม่ชัดเจน ตอนนี้ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ?” สิ้นคำนั้นโมนีก้าชะงักไปนิด “…” เธออ้าปากจะเถียงแต่ก็พูดไม่ออกจริง ๆ เพราะเขาพูดถูกทุกคำ “เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส” เธอพูดเสียงต่ำมันเป็นชื่อเวลาที่โมนีก้าอยากจะดุเขาเธอจะเรียกชื่อเต็มของเลสเตอร์ “เมื่อไรนายจะปล่อยฉันลง นายอุ้มฉันมานานแล้วนะ” ทว่าเขากลับทำเพียงก้มลงมองเธอ แววตาแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “หืม? อะไรนะ ผมไม่ได้ยิน”


“อย่ามาเนียนนะ!” เธอตวัดสายตาขึ้นทันที “ฉันพูดว่า ปล่อย!” แต่เลสเตอร์กลับยักคิ้วยิ้ม ๆ แล้วเดินหน้าต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน “ผมว่าท่าทางคุณเหนื่อย ควรพักอยู่ในอ้อมแขนผมแบบนี้ไปก่อนดีกว่า”


“เลสเตอร์! ปล่อยนะ!” เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนเหมือนแมวขี้โมโหที่ไม่ยอมให้อุ้มดี ๆ ขาเธอกระตุกใส่ชายเสื้อเขา แถมยังตบไหล่เบา ๆ “ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องอุ้ม!” เขาหัวเราะเต็มเสียง “ระวังหน่อยสิครับ เดี๋ยวตกจริง ๆ ผมไม่รับผิดชอบนะ”


“นายอุ้มฉันอยู่นี่จะตกได้ยังไง!?” โมนีก้าเอ่ยเถียงทันที

“อ้าว ก็เผื่อผมสะดุดหลุมแห่งความรักไงครับ” เลสเตอร์เลยตอบแบบกวนเธอเต็มขั้น

“โอ๊ย! พอเลย!” เธอแหวขึ้นหน้าแดงจัด “พูดอีกฉันจะใช้ดาบฟาดหัวนายจริง ๆ นะ!”

เขายิ้มกวน “คุณจะเอาดาบที่ผมให้คุณมาฟาดหัวผมเนี้ยนะ? ถ้าโดนฟาดแล้วได้อยู่ในสายตาคุณ ผมยอม” ทว่าหลังจากนั้นโมนีก้าก็เริ่มดิ้นแรงขึ้นแบบปลากระดี่ขาดน้ำท่าทางแล้วคงจะเขินจริง จนในที่สุดเลสเตอร์ก็หัวเราะลั้นแล้วจำใจที่จะต้องยอมปล่อยโมนีก้าให้เดินเอง “โอเค ๆ ก็ได้ครับคุณแม่สาวไลแลค” ทันทีที่ปล่อย โมนีก้าก็ก้าวถอยหลังกอดอกจ้องเขาเขม็ง “ทีหลังห้ามอุ้มฉันมั่วซั่วแบบนั้นอีก เข้าใจไหม?”


“รับทราบครับ” เขาตอบพลางยกมือขึ้นเหมือนทหาร แต่ในแววตายังมีรอยยิ้มร้ายซ่อนอยู่ “แต่ไม่รับปากนะว่าคราวหน้า…จะไม่แอบอุ้มอีก”

“เลสเตอร์!”

“ครับ~?”


เสียงโวยวายของเธอดังก้องไปทั่วอุโมงค์ แต่รอยยิ้มของเขากลับยิ่งกว้าง แสงไฟสีส้มอ่อนจากทางออกปลายอุโมงค์ส่องให้เห็นเงาของทั้งสองทอดคู่กัน หนึ่งเดินนำอย่างกวน อีกหนึ่งเดินตามอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทว่ามือของทั้งคู่กลับแตะกันแผ่ว ๆ ระหว่างก้าวเดินสู่จุดหมายใหม่…โรมา เทอมินี


+2 ตื่นรู้ จากการกำจัด รถไฟลีเจี้ยน ครั้งแรก


มีค่า LUK 150 หน่วย จะได้รับวัตถุดิบ x2

ได้รับ น้ำมันหล่อลื่นที่ไหม้เกรียม จำนวน 4 ชิ้น 4 x 2 = 8 ชิ้น


สรุป ได้รับ น้ำมันหล่อลื่นที่ไหม้เกรียน 4 ชิ้น


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส

พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20

กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10

(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)


สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-11-3 00:02
โพสต์ 55305 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-2 22:45
โพสต์ 55,305 ไบต์และได้รับ +25 EXP +35 เกียรติยศ +55 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-2 22:45
โพสต์ 55,305 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-2 22:45
โพสต์ 55,305 ไบต์และได้รับ +10 EXP +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-2 22:45

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 07:54:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-11-4 09:56

sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 03 : นักเผาแห่งโอลิมปัส
วันที่ 30 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงเย็น เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป แคว้นซิชิลี ไปยัง ช่องแคบเมสซินา อิตาลี ยุโรป

ยามค่ำในซิชิลี แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันค่อย ๆ ลาลับหลังเส้นขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากส้มอมทองเป็นม่วงเข้มก่อนจะถูกแทนที่ด้วยหมู่ดาวที่เริ่มกระพริบขึ้นทีละดวง รถโดยสารสีเงินขาวแล่นไปตามเส้นทางคดเคี้ยวของถนนริมเขาเอตนา เสียงเครื่องยนต์กลบเสียงคลื่นลมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่พัดปะทะหน้าผาเบื้องล่างภายในรถ โมนีก้านั่งไขว่ห้างอยู่ริมหน้าต่าง แสงไฟข้างถนนสะท้อนในดวงตาเทาเงินของเธออย่างงดงาม เธอพิงพนักเบาะพลางมองวิวด้านนอก แสงไฟจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ไหลลดหลั่นราวกับเส้นสายของอัญมณีบนพื้นดิน ข้าง ๆ กัน เลสเตอร์นั่งเอนหลัง มือซุกกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตหนัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายปนขี้เล่นตามแบบฉบับของเขา “เห็นไหมยอดเขานั่นน่ะ” เขาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูภูมิใจอย่างไม่สมควร “ยอดของเอตนาโดนสายฟ้าของประธานโอลิมปัส พ่อผมเอง ตัดเฉือนเอาไว้ตั้งแต่สมัยโบราณเห็นไหมยังมีกลิ่นพลังศักดิ์สิทธิ์จาง ๆ อยู่เลย” โมนีก้าหันมามองตามนิ้วเขา ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “นายพูดเหมือนกำลังอวดของเล่นในบ้านยังไงยังงั้นเลยนะเลสเตอร์” “ของเล่นเหรอ?” เขาหัวเราะเบา ๆ “ผมเรียกว่าศิลปะการลงโทษแบบเทพเจ้าต่างหาก เห็นไหมว่าไม่มีอสุรกายตัวไหนกล้าเข้าใกล้ภูเขาลูกนั้น เพราะมันยังคงกลิ่นอายของซุสอยู่เต็มไปหมด นี่แหละข้อดีของพ่อผม ถึงจะพูดมาก น่ากลัว และชอบฟาดสายฟ้าใส่คนมั่วซั่ว แต่เรื่องพลังเขาไม่มีใครเทียบได้หรอก” “ฟังดูเหมือนนายกำลังเผาพ่อตัวเองอยู่เลยนะ” โมนีก้าเอ่ยแบบเหนื่อย ๆ “แค่เรียกว่าบ่นด้วยความชื่นชมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิ “แล้วรู้ไหม เอตนาเคยเป็นที่ขังของไทฟอนบิดาแห่งอสุรกายทุกตน ก่อนที่พวกเราจะย้ายเขาไปขังที่เซนต์เฮเลนส์ เพราะกลัวมันจะระเบิดซ้ำอีกที” โมนีก้าย่นคิ้วนิดหน่อยแล้วเอ่ยถาม “พวกเรานี่หมายถึงเหล่าเทพโอลิมปัสสินะ” “แน่นอนสิ” เลสเตอร์ยักคิ้ว “ศึกแมนฮัตตันไง จำได้ไหม? โพไซดอนเป็นคนเปิดทางให้ ผมเลยซัดลูกศรลงกลางหน้ามันเต็ม ๆ สรุปตอนนั้นเราชนะ พวกอสุรกายเลยไม่กล้าเหยียบเขานี้อีก” โมนีก้าพยักหน้าช้า ๆ เธอเหลือบมองเขาแล้วหัวเราะในลำคอเบา ๆ “ฉันเริ่มคิดแล้วล่ะ ว่าคบกับนายไปเรื่อย ๆ ฉันคงรู้ความลับของโอลิมปัสครบทุกข้อก่อนใครแน่” “ดีสิครับ ผมกำลังจะออกหนังสือชื่อ คู่มือชีวิตกับเทพสุดเพอร์เฟกต์” “ฟังชื่อแล้วอยากปาโทรศัพท์ทิ้ง ถ้าไม่ติดว่าแท็บแล็ตเดดาลัสมันแพงนะ” “อย่าปาเลยครับ เดี๋ยวต้องใช้เปิดแผนที่ไปเมสซินา” โมนีก้าหัวเราะออกมา เธอมองเขาที่นั่งสบายใจเหมือนอยู่บ้านแล้วส่ายหน้าเบา ๆ “แล้วเราจะถึงเมื่อไรเนี่ย…” “อีกสักชั่วโมงได้มั้ง” เขาตอบ พลางหันไปมองนอกหน้าต่าง แสงจากภูเขาไฟไกล ๆ สะท้อนบนดวงตาสีฟ้าอมทองของเขา “แล้วจากเมสซินาก็ต้องต่อเรือเฟอร์รี่ข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่…กว่าจะถึงโรมก็คงดึกหน่อย ถือว่าเป็นการเดินทางแบบโรแมนติกดีไหม?” โมนีก้าเลิกคิ้ว “โรแมนติกเหรอ? นั่งรถเมล์กับเรือข้ามฟาก?” “แล้วไม่ดีหรอครับ? มีคุณกับผม?” เลสเตอร์เอ่ยยักคิ้ว โมนีก้าหยุดพูดทันที แก้มขึ้นสีเล็กน้อย แต่พยายามกลบด้วยการเบือนหน้าออกนอกหน้าต่าง “พูดเหมือนจะได้รางวัลอะไรสักอย่างเลยนะ” “แน่นอนสิ ผมได้รางวัลใหญ่ที่สุดในจักรวาลแล้วนี่ คุณไง” “เลสเตอร์…” เธอพูดเสียงเรียบแต่แฝงความเขิน “นายพูดคำพวกนี้บ่อย ๆ แล้วคิดว่าฉันจะชินไหม?” “ก็อยากให้ชินครับ เผื่อวันหนึ่งคุณจะไม่หนีตอนผมพูดคำจริงจัง” “โอ้ยพอเลย” เธอหัวเราะกลบเกลื่อน “นายพูดแบบนี้ทุกครั้งที่จีบคนอื่นหรือเปล่าเนี่ย?” “ก็มีบ้างครับ ผมมันพ่อหนุ่มเทพหล่อคารมดีใครจะต้านทานเสน่ห์ของผมไหว?” “พูดเหมือนภูมิใจในตัวเองนะเลสเตอร์” โมนีก้ากรอกตาไปมากับอีกฝ่าย “แน่นอนสิ ผมมีเสน่ห์โดยธรรมชาติ” โมนีก้าส่ายหน้าตัวเองเล็กน้อยพลางถอนหายใจยาว “ฉันไม่เถียงแล้ว นายพูดไปเถอะ ฉันแค่หวังว่ารถจะถึงเมสซินาเร็ว ๆ จะได้หนีไปนั่งเรือเงียบ ๆ สักที” เขาหัวเราะเสียงดังแล้วบอกกับโมนีก้าว่ายังไงก็หนีไม่รอด “อย่าลืมสิครับ เดทนี้ผมจองที่นั่งข้างคุณบนเรือแล้วนะ จะหนีก็ไม่รอด” โมนีก้ามองหน้าเขา แล้วยิ้มจาง ๆ “ฉันควรดีใจไหมที่มีแฟนขี้บ่นแต่ไม่ยอมให้ฉันอยู่ห่างสายตาเลย” “ดีใจสิครับ” เขาตอบทันควัน “เพราะถ้าผมเงียบเมื่อไร…แปลว่าผมกำลังเขียนเพลงรักให้คุณอยู่” สิ้นคำเธอส่ายหน้าแต่ยิ้มไม่หยุด เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังกลบเสียงเครื่องยนต์เบา ๆ รถโดยสารแล่นฝ่าความมืดมุ่งหน้าสู่ช่องแคบเมสซินา แสงไฟท้ายรถสะท้อนอยู่บนถนนสายยาว ท่ามกลางลมทะเลและกลิ่นควันภูเขาไฟ โรแมนติกในแบบฉบับของเทพเจ้าเจ้าเสน่ห์กับหญิงสาวที่รู้จักเขาเกินกว่าจะคาดคิด ไม่นานภาพท่าเรือช่องแคบเมสซินาในยามค่ำคืนยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟจากร้านค้าและเรือที่เทียบท่าเรียงรายก็ชัดขึ้นมา เสียงคลื่นซัดสาดผสมกับเสียงเครื่องยนต์เรือที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นเกลือทะเลลอยอ้อยอิ่งในอากาศ โมนีก้ากับเลสเตอร์ก้าวลงจากรถประจำทางท่ามกลางผู้คนที่ยังพลุกพล่าน แม้จะเป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วก็ตาม “เมืองนี้ไม่หลับเลยนะเนี้ย ว่าไหม” โมนีก้าเอ่ยเบา ๆ พลางมองไปที่เรือเฟอร์รี่หลายลำที่ลอยอยู่ในน้ำ แสงสะท้อนจากไฟท่าเรือระยิบระยับบนผิวน้ำราวอัญมณีที่พลิ้วไหว เลสเตอร์พยักหน้า มือซุกกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตหนัง “การเดินทางที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะ โดยเฉพาะเรือบรรทุกยานพาหนะ พวกนั้นออกกันทั้งวันทั้งคืน แต่ตอนนี้คงออกทุกสี่สิบนาที ส่วนกลางวันยี่สิบนาทีเท่านั้น” พูดเหมือนไกด์นำเที่ยวเลยนะคุณเทพบ่นเก่ง” เธอพูดยิ้ม ๆ เขาเชิดคางเล็กน้อย “ผมแค่มีความรู้รอบตัวมากครับ ไม่เหมือนบางคนที่นอกจากรู้ว่าไก่ทอดร้านไหนอร่อยก็ไม่รู้เรื่องอื่นเลย” “เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส ถ้านายไม่อยากถูกโยนลงทะเลคืนนี้ก็หุบปากเดี๋ยวนี้เลย” เธอขู่เสียงเรียบ ดวงตาเทาเงินวาววับจนชายหนุ่มหัวเราะพรืด “ครับ ๆ ไม่พูดแล้วแม่สาวไลแลค” เขาแกล้งยกมือยอมแพ้ แต่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มขี้เล่น ทั้งคู่เดินไปซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ด่วนพิเศษที่เคาน์เตอร์ไม้เก่า ๆ พนักงานชายชาวอิตาเลียนยิ้มต้อนรับก่อนส่งบัตรโดยสารให้ โมนีก้าหยิบมาอย่างรวดเร็ว “โชคดีนะ ขึ้นได้เลยรอบนี้” เธอพูดพลางดึงแขนเสื้อของเลสเตอร์ให้ตามขึ้นเรือ เรือด่วนขนาดใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากท่า เสียงหวูดดังยาวแผ่วสะท้อนกับผิวน้ำที่กลืนไปกับเงาแสงไฟจากชายฝั่ง เมืองเมสซินาเริ่มห่างออกไปเรื่อย ๆ แสงไฟเปลี่ยนเป็นเพียงจุดแสงระยิบไกลลิบ บนดาดฟ้าเรือ ลมทะเลพัดแรงจนเส้นผมของโมนีก้าปลิวกระจาย เธอยกมือขึ้นจับผมไว้ พลางมองออกไปยังเส้นขอบน้ำ “ไม่คิดเลยว่าทะเลตอนกลางคืนจะดูเหมือน…มีชีวิต” เลสเตอร์ยืนข้างเธอ ดวงตาสีฟ้าสะท้อนแสงจันทร์ที่ยังคงจางหายจากขอบฟ้า “จริงสิ ตอนนี้กลางคืนยังไม่กลับมาเต็มที่เลย ต้องรอให้นิกซ์กลับมาก่อน โลกถึงจะได้คืนสมดุลของช่วงเวลาอีกครั้ง” “แล้วนายไม่เหนื่อยเหรอ” เธอหันไปถาม “ต้องคอยส่องแสงทั้งวันทั้งคืนแทนเธอแบบนี้น่ะ” เขาหัวเราะเบา ๆ “เหนื่อยสิครับ แต่ผมก็ชอบเวลาที่ได้อยู่ตรงนี้นะ มันเหมือนการได้พักสายตาจากงาน ดูสิ ทะเล…แสงไฟ…แล้วก็คุณ” “พูดเสีั่ยวอีกแล้วนะ” เธอว่าแต่ริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มบาง ๆ “นายรู้ไหม ถ้าฉันเป็นคนอื่น ฉันคงเชื่อว่านายพูดแบบนี้กับทุกคน” “แต่ผมไม่ใช่กับทุกคนหรอก” เขาเอนตัวเล็กน้อย กระซิบใกล้หูเธอ “มีแค่คนที่ผมอยากอยู่ด้วยเท่านั้น” โมนีก้าเบือนหน้าออกนอกทะเลทันที “พอเลย ก่อนที่ฉันจะโยนนายลงน้ำจริง ๆ” “โยนผมลงไปสิครับ ผมจะได้ว่ายกลับขึ้นมาอุ้มคุณแทน” “เลสเตอร์!” โมนีก้าพูดเสียงสูงแต่ในแววตาเริ่มมีประกายขบขัน ทั้งสองยืนเคียงกันอยู่บนดาดฟ้า เรือเฟอร์รี่แล่นฝ่าคลื่นเบา ๆ ไปบนผืนน้ำที่สะท้อนแสงจากดาวไม่กี่ดวงเหนือฟ้า เสียงหัวเราะของพวกเขาลอยไปพร้อมสายลมเค็ม ๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ก่อนที่แสงสว่างจากฝั่งอิตาลีแผ่นดินใหญ่จะเริ่มปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า

[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +3
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +14

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-11-4 11:44
โพสต์ 56093 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 07:54
โพสต์ 56,093 ไบต์และได้รับ +25 EXP +35 เกียรติยศ +55 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 07:54
โพสต์ 56,093 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 07:54
โพสต์ 56,093 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-4 07:54
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 10:02:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-11-4 10:04

sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 04 : แม่ฉันหรือแม่นาย
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงเช้ามืด เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป วิลลา ซาน จิโอวานนี ไปยัง ถนนสาย A2/E45/A1 Herculaneum (Ercolano) อิตาลี ยุโรป

ท้องฟ้าเหนือเมือง วิลลา ซาน จิโอวานนี ในเช้าวันที่ 31 ตุลาคมสดใสเกินคาดสำหรับปลายเดือนฤดูใบไม้ร่วง แสงอาทิตย์อ่อน ๆ สาดกระทบผืนน้ำทะเลที่ระยิบระยับราวกระจกสะท้อนแสงทอง เมืองท่าเล็ก ๆ ริมช่องแคบเมสซินาเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา บนท้องถนนมีแผงขายฟักทองแกะสลัก เสียงดนตรีจากลำโพงเล็ก ๆ ดังคลอเป็นจังหวะสนุกสนาน ผู้คนสวมหน้ากากและเสื้อผ้าธีมแฟนตาซีเดินไปมาอย่างคึกคัก “ว้าว…ฉันลืมไปเลยว่าวันนี้วันฮาโลวีน” โมนีก้าหันไปพูดพร้อมรอยยิ้ม ดวงตาเทาเงินสะท้อนแสงแดดกับสีส้มของฟักทองในร้านข้างถนน “เมืองนี้ตกแต่งเหมือนฉากหนังเลยอะ เหมือนได้มาเที่ยวจริง ๆ เลยสิ” เลสเตอร์ยิ้มบาง ๆ ข้างเธอ เขาสวมแว่นกันแดดบังตาสีฟ้าสดจากแสงจ้า “ก็ถือว่าผมพาแฟนมาเดทในเทศกาลนะครับ เหมาะกับบรรยากาศเลย” “อย่าใช้คำว่าแฟนบ่อยได้ไหม ฉันจะเขิน” เธอประชดกลับ แต่ปลายเสียงยังคงนุ่มนวล “นายก็พูดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยนะ” “ไม่เรื่อยครับ ผมเลือกคำอย่างระมัดระวังเสมอ โดยเฉพาะเวลาพูดกับคุณ” เขาหันมายิ้มกว้างจนคนขายขนมฝั่งตรงข้ามที่เห็นถึงกับอมยิ้มตาม โมนีก้าหัวเราะ ยกมือดันไหล่เขาเบา ๆ “พอเลยเลสเตอร์” ทั้งสองใช้เวลาสองชั่วโมงเดินชมเมือง กินไอศกรีม เจอร้านขายของที่ระลึกที่มีรูปปั้นเทพเจ้ากรีกเรียงรายอยู่เต็มหน้าร้าน เลสเตอร์ถึงกับบ่นเสียงอ่อยเมื่อเห็นรูปปั้นอะพอลโลรุ่นที่ขายดีแต่ “ดูไม่เหมือนผมเลยสักนิด” นั้นแหละคือสิ่งที่เลสเตอร์บ่น ส่วนโมนีก้าก็แค่กลอกตาแล้วหัวเราะใส่เขาอย่างอารมณ์ดี หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ขึ้นรถเช่าคันเล็กสีเงินมุ่งหน้าไปยังกรุงโรม เส้นทางบนถนนหลวง A2 คดเคี้ยวไปตามแนวเขาและทะเล เสียงเพลงในรถคลอเบา ๆ จนกระทั่งเมื่อเข้าใกล้อุโมงค์เส้นทาง 45/A1 บรรยากาศกลับเริ่มเปลี่ยนแปลงไป “เอ๊ะ…” โมนีก้าขมวดคิ้ว “นี่มันอุโมงค์รถไฟไม่ใช่เหรอ?” เลสเตอร์ที่เป็นคนขับก็มองตาม “ไม่ใช่สิ มันควรเป็นอุโมงค์รถยนต์นี่นา” เขาพูดไม่ทันขาดคำเสียงหวีดของโลหะก็ดังลั่น อากาศเริ่มสั่นสะเทือนจนกระจกหน้ารถสั่นไหว เงาดำมหึมาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นข้างหน้า รอยสนิมแวววาว ไอน้ำร้อนจัดพวยพุ่งจากล้อเหล็กสีแดงราวกับกำลังเผาไหม้ “อย่าบอกนะ…” โมนีก้ากัดฟัน “รถไฟจักรกลลีเจี้ยนอีกแล้วเรอะ!” เลสเตอร์พยักหน้าอย่างใจเย็นจนน่าหมั่นไส้เพราะดูเหมือนว่าจะโดนล่อมาจริง ๆ ด้วยแหละ “ถูกต้องครับ เชิญเลย คุณจัดการได้แน่นอน” “นายพูดเหมือนมันเป็นงานปอกกล้วยเลยนะ!” เธอหันขวับใส่เขา “ก็จริงนี่ครับ ผมโดนห้ามช่วย เดี๋ยวพ่อจะปาไฟฟ้ามาเผารถเราแน่ ๆ ถึงแม้ว่าผมจะหลบก็ไม่พ้นเพราะมีเสน่ห์เกินต้าน” “เทพบ้านอะไรชีวิตซับซ้อนขนาดนี้วะ!” เธอสบถออกมาเบา ๆ ก่อนขยับมือซ้าย กำไลโลหะรอบข้อมือแปรเปลี่ยนเป็นดาบยาวสีทองอร่าม ดาบสุริยคติส่องแสงวาบสะท้อนภายในอุโมงค์ โมนีก้าก้าวออกจากรถ พื้นใต้เท้าร้อนฉ่าเพราะแรงสั่นสะเทือนของรถไฟปีศาจที่คำรามกึกก้องเข้ามาใกล้ โมนีก้าปักเท้าลงแน่น แล้วฟันดาบขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันสะท้อนทั่วอุโมงค์ ประกายไฟแตกกระจายราวกับดาวตก เลสเตอร์ยืนพิงรถ มองภาพตรงหน้าด้วยแววตาชื่นชม “โว้…แฟนผมนี่เท่มากเลยแฮะ” “เลสเตอร์! หุบปากแล้วถอยไป!” เธอตะโกนขณะสะบัดดาบตัดล้อรถไฟปีศาจจนมันล้มระเนระนาด เสียงหวีดของมันดังก้องสุดท้ายก่อนจะระเบิดเป็นเถ้าควันสีทองที่ค่อย ๆ จางหายไปในอากาศ เมื่อสู้จบโมนีก้าก็ยืนหอบเล็กน้อย ดาบค่อย ๆ หดกลับเป็นกำไลรอบข้อมืออย่างเดิม ก่อนจะหันมามองเลสเตอร์ที่ปรบมือเบา ๆ ด้วยสีหน้าพึงพอใจ “สุดยอดเลยครับ ผมว่าแม่ผมต้องชอบคุณแน่ ๆ” เขาเอ่ยถึงแม่ของตัวเอง โมนีก้าหันมาคาดคั้นทันที “แม่ที่ว่านี่คือเทพีเลโตหรือเทพีเซเรส!?” “อืม…ขอผ่านที่จะตอบได้ไหมครับ อีกคนแม่ผมอีกคนแม่แฟน” เขายิ้มตาหยี โมนีก้าเลยกอดอกถอนหายใจ “คนที่จะคบกับเทพได้เนี่ย ลำบากจะตายชักจริง ๆ…” “แต่คุณก็ยังเลือกผมนะ เข้าใจ ใครจะต้านการเคียงคู่ผมกันล่ะ” เลสเตอร์พูดยิ้ม ๆ ยักคคิ้วด้วยแบบน่าหมั่นไส้ “ก็เพราะตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าจะมีรถไฟปีศาจโผล่มาในอุโมงค์กลางอิตาลีนี่นา!” เลสเตอร์หัวเราะร่าเมื่อได้ยินโมนีก้าบอกแบบนั้น “ถือว่าเป็นเดทที่ตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอครับ” “เลสเตอร์!” “ครับ~?” เสียงโวยของโมนีก้าดังตามมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเลสเตอร์ที่ขับรถออกจากอุโมงค์ รัศมีแสงแดดของอรุณรุ่งสะท้อนผ่านกระจกหน้า สาดลงบนเส้นผมของทั้งคู่ ชายหนุ่มผู้เป็นเทพเจ้าแห่งแสง กับหญิงสาวที่ไม่ยอมให้โชคชะตากำหนดชีวิตของตนเองอีกต่อไป (แต่เลือกแต่เรื่องวุ่นวายแบบงง ๆ เหมือนกันนะ)

[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-11-4 11:00
โพสต์ 33685 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 10:02
โพสต์ 33,685 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 10:02
โพสต์ 33,685 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 10:02
โพสต์ 33,685 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-4 10:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 12:26:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-11-4 16:51

sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 05 : ขอทำวิจัย?
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป Herculaneum (Ercolano) ไป Catacombs of San Gennaro (เนเปิลส์) อิตาลี ยุโรป

บ่ายคล้อยที่ท้องฟ้าเหมือนกำลังลังเลว่าจะเป็นกลางวันหรือหัวค่ำเพราะกลางคืนยังกลับมาไม่เต็มตัวรถเช่าสีเงินของทั้งคู่ไหลไปตามโค้งถนนสู่เนเปิลส์ ทางซ้ายคือทะเลสีครามจัด ทางขวาคือลาดเขาสีเขียวมะกอกที่มีบ้านเรือนสีพาสเทลเกาะอยู่เป็นชั้น ๆ ลมอุ่น ๆ พัดกลิ่นเกลือทะเลปนกลิ่นเอสเปรสโซจากปั๊มกาแฟริมทางลอดเข้ามาในห้องโดยสาร โมนีก้านั่งไขว่ห้าง แตะกระจกหน้าต่างเย็น ๆ ด้วยปลายนิ้ว สีตาเงินสะท้อนเงาคลื่นระยิบระยับ “หลังจากโรม รอบนี้นายจะทำยังไงกับเรื่องกลางคืนกันแน่อ่ะ” เธอชวนคุยระหว่างที่ขับรถนุ่มนวลแต่ตรงใจ “ฉันยังอยากมีดาวให้ดูนะ ไม่อยากดูไฟถนนแทนไปตลอดชีวิต” เลสเตอร์ยิ้มรอยยิ้มแบบคนกำลังจะโม้ของรัก “ผมกำลังสังเคราะห์ความมืดชั่วคราวอยู่ครับ จะติดตั้งเป็นฉากราตรีให้รถม้าพระอาทิตย์ ใช้คั่นเวลากับดวงวันจนกว่านิกซ์จะกลับมา” เขายักคิ้ว “ผสมระหว่างวิทยาศาสตร์กับเวทมนตร์นิดหน่อยผมเอาชิ้นส่วนเตาปฏิกรณ์ที่พังในภารกิจโรมคราวก่อน มาสร้างเป็นโครงตาข่ายดูดแสงที่วังสุริยะ พูดง่าย ๆ คือเอาเศษซากของความสว่าง ไปปั่นเป็นผ้าคลุมความมืด โคตรฉลาด” “โคตรโม้ต่างหาก” โมนีก้าหัวเราะ กลิ่นไลแลคหวาน ๆ จากผิวเธอลอยแผ่ว “เห็นอยู่ว่ามีการประกาศ แล้วของที่ต้องใช้ยังขาดอะไรบ้างคะ ท่านวิศวะพระอาทิตย์” “เยอะอยู่นะครับ” เขาทำเสียงบ่นอย่างภูมิใจ “ผมประกาศอีเวนต์ไปแล้วให้พวกเดมิก็อดช่วยกันหาวัตถุดิบ เพราะข่าวร้าย เป็นเทพก็ไม่ได้หาของอะไรได้ง่าย ๆ กฎเต็มไปหมด งบประมาณทวยเทพก็ชอบตัด” เขาไล่นิ้วบนพวงมาลัย “ที่พวกเหลือเยอะ ๆ ก็ ขนนกอินทรีทองคำเอาไว้เป็นพลังงานที่อัดแน่นจึงใช้แทนพลังงานสุริยะบริสุทธิ์เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบได้ และ ขนไนท์แมร์ สำหรับร้อยขอบม่านราตรีเพิ่มความสามารถในการดูดซับแสงและเสริมพลังด้านมืด” “ฉันส่งของบางส่วนให้นายไปตั้งแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายคืออะพอลโลนะ” เธอยิ้มตาโค้ง “อย่าลืมบอกขอบคุณดี ๆ ด้วยล่ะ” “รับแล้วครับ ที่รักของผม” เขาตอบทันที ทำเสียงเนียนหวานเกินเหตุ ฝ่ามือเล็ก ๆ ของโมนีก้าเลยเคาะหัวไหล่เขาเบา ๆ “ขับรถอยู่ อย่าหวานเกิน เดี๋ยวลงคู” เลสเตอร์หัวเราะ แต่ยังบ่นต่อด้วยท่าทางคนมีภารกิจใหญ่ “ปัญหาคือ อินทรีทองคำของซุส ไม่ค่อยโผล่หรอก ถ้าไม่ใช่ลูกหลานสายเลือดจูปิเตอร์หรือซุสไปขอเอง ส่วนไนท์แมร์ก็เงียบ เพราะหน้าร้อนจบแล้ว ไม่ค่อยมีไฟป่าให้มันออกมาวิ่งสร้างเรื่องฤดูใบไม้ร่วงนี่มันทำตัวเรียบร้อยเกินจริง ๆ” “แต่ภูเขาไฟก็มีนี่คะ” โมนีก้าเอนตัวชี้ผ่านกระจก “นี่เลยภูเขาไฟวิสุเวียส เรากำลังผ่านอยู่พอดี เดี๋ยวอาจมีไนท์แมร์ซ่อนอยู่ก็ได้” เลสเตอร์ส่ายหน้าโดยไม่ต้องคิด “โน่ว ๆ นั่นเป็นห้องทำงานของวัลแคนเลยครับ คุณอยากขโมยขนม้าจากโรงตีเหล็กของช่างใหญ่เหรอ” เขายิ้มเอ็นดู “แถมการระเบิดใหญ่สมัยโบราณหลายครั้งก็เพราะท่านเผลอทำงานชิ้นทดลองพัง เอางานช่างกับรูหนอนมาปั่นรวมกันอย่าถามว่าทำไมทวยเทพชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แน่ใจได้อย่างหนึ่งไนท์แมร์ไม่กล้าอาละวาดในเขตนั้นหรอก” “โอเค งั้นตัดวิสุเวียสออกจากลิสต์” โมนีก้าจดในใจแบบเล่น ๆ “แล้วเราจะหาได้จากไหนคะ” “เดี๋ยวถึงอเมริกาผมจะไล่ช่องทางดูแล้วกัน” เขายักไหล่ “ถ้าโชคดี เราอาจสอยขนนกจากรังอินทรีในหอคอยสายฟ้าของพ่อ…หลังจากผมทำเรื่องขออนุญาตระลอกที่สิบแปด” “ฟังดูเหมือนขอทุนทำวิจัย” โมนีก้าขำพรืด “ก็คล้าย ๆ นั่นแหละ” เขาทำเสียงจริงจังแบบเล่น “หัวข้อวิจัย: การเย็บเงาคืนสู่ท้องฟ้าเพื่อสุขภาวะการนอนของเผ่าพันธุ์ ผู้วิจัย: หล่อมาก หน้าตาธรรมดาเสน่ห์ไม่ธรรมดา เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส” “รายงานฉบับนั้นฉันให้คะแนน ‘ลบสิบ’ ในหัวข้อความถ่อมตัวนะคะ” “ผมได้คะแนนเต็มในวิชารักแฟนก็พอ” เขาว่าพลางเฉไปยิ้มให้เธอหนึ่งที ถนนเริ่มไหลลงสู่ที่ราบ เมืองเนเปิลส์กางตัวออกตรงหน้า อ่าวโค้งสีฟ้าถูกกอดด้วยแนวอาคารสีอิฐ สลับโดมโบสถ์กับระเบียงโลหะ เสียงฮอร์นรถประสานกับเสียงนกทะเล กลิ่นแป้งพิซซ่าจากเตาฟืนลอยล่องเข้ามาอย่างยั่วใจ โมนีก้าเหลือบเห็นแผงเห็ดสดที่ตลาดข้างทาง ดวงตาเธอเป็นประกาย แต่ก็กลั้นใจหันกลับ เพราะเป้าหมายวันนี้คือโรม “รู้อะไรมั้ยคะ” เธอพูดเบา ๆ “ฉันไม่ได้อยากได้เพียงกลางคืนคืนมาเพื่อโลก…ฉันอยากได้มันเพื่อนายด้วยนะ” เลสเตอร์ชะลอรถนิดเดียวตอนที่ได้ยินคำนั้นเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่าง “ทำไมล่ะครับ” “เพราะคนที่ทำงานเป็นพระอาทิตย์ทั้งวัน สมควรมีช่วงที่ได้เป็นแค่เลสเตอร์บ้าง ได้นั่งใต้ดาว กินพิซซ่า เหนื่อยนิดหน่อยแล้วหลับ ไม่ใช่แบกแสงไว้ตลอดเวลา” ดวงตาสีฟ้าของเลสเตอร์อ่อนลงเล็กน้อย เป็นจังหวะที่รถมุดเข้าอุโมงค์อีกช่วง แสงไฟนีออนวิ่งเป็นเส้นยาวเหนือกระจกหน้า เลสเตอร์ยังบ่นต่อเรื่องกฎทวยเทพและแบบฟอร์มขออนุญาตที่ยาวยิ่งกว่าคู่มือประกอบเตาปฏิกรณ์ โมนีก้าก็แกล้งพยักหน้ารับทุกประโยคเหมือนผู้จัดการโครงการที่ใจเย็นที่สุดในจักรวาล ระหว่างที่อยู่ในอุโมงค์ทั้งสองก็พบกับรถไฟจักรกลลีเจี้ยนอีกแล้วและโมนีก้าก็จัดการไปได้โดยง่ายเพราะมีเลสเตอร์ที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้แต่ช่วยปัดการโจมตีให้โมนีก้า ก่อนที่รถสีเงินเร่งเครื่องอย่างมั่นคง ข้ามอ่าวสู่เส้นทางที่จะพาไปบรรจบ A1 ตรงไปยังโรมที่ซึ่งผืนฟ้ากำลังรอผ้าคลุมราตรีชุดใหม่จากมือของเทพเจ้าที่หัดถ่อมตัว


มีค่า LUK 150 หน่วย จะได้รับวัตถุดิบ x2 ได้รับ เฟืองออโตมาตอน จำนวน 2 ชิ้น 2 x 2 = 4 ชิ้น สรุป ได้รับ เฟืองออโตมาตอน 2 ชิ้น

[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-11-4 17:08
โพสต์ 35695 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 12:26
โพสต์ 35,695 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 12:26
โพสต์ 35,695 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 12:26
โพสต์ 35,695 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-4 12:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 14:53:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-11-4 16:52

sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 06 : ก็เขินเป็นปะเนี้ย
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงบ่าย เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป Catacombs of San Gennaro (เนเปิลส์) ไป Stazione Roma Termini, Rome อิตาลี ยุโรป

แสงแดดยามบ่ายปลายเดือนตุลาคมเริ่มอ่อนลงเมื่อรถเช่าสีเงินของทั้งคู่เคลื่อนเข้าสู่ใจกลางกรุงโรม เสียงเครื่องยนต์กลืนไปกับเสียงเมืองผู้คนที่เร่งรีบ เสียงแตรที่ประสานกันอย่างไม่มีจังหวะ และกลิ่นกาแฟเข้มจากร้านริมถนนที่ลอยมาแตะจมูกอย่างบางเบา เลสเตอร์หันพวงมาลัยเข้าไปในช่องจอดรถของบริษัทเช่า ก่อนจะดับเครื่องพร้อมถอนหายใจเบา ๆ “เรียบร้อย คืนรถแล้วนะครับคุณบลอสซัม เห็นไหมผมขับมาทั้งอิตาลีโดยไม่เฉี่ยวอะไรเลยสักนิด สมกับที่เป็นเทพแห่งความแม่นยำโดยธรรมชาติ” โมนีก้าเหลือบตามองเขา แล้วตอบเสียงเรียบแต่ปนรอยยิ้ม “ถ้าพูดเก่งได้เท่าขับรถคงเป็นเทพแห่งการอวดดีไปแล้วมั้ง” “อวดดีอะไรครับ เรื่องจริงทั้งนั้น” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะโดนหญิงสาวตีต้นแขนไปหนึ่งที หลังจากคืนรถเสร็จ ทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟโรมา เทอร์มินี ด้วยรถประจำทาง บรรยากาศในรถเมล์ตอนเย็นเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมือง เสียงเครื่องยนต์และเสียงคุยแผ่ว ๆ ปะปนกับกลิ่นน้ำหอมหลากชนิดในอากาศ โมนีก้ายืนอยู่ข้างเลสเตอร์ มือหนึ่งจับเสาไว้แน่น แต่เมื่อรถกระตุกอย่างแรงตอนเข้าโค้งร่างของเธอก็เอนเอียงไปด้านข้างแทบจะล้ม แขนของเลสเตอร์ขยับขึ้นโดยสัญชาตญาณ โอบไหล่เธอไว้แน่นอย่างไม่ต้องคิด “ระวังหน่อยสิครับ ผมยังไม่อยากให้แฟนผมล้มต่อหน้าคนทั้งคันรถหรอกนะ” “เลสเตอร์...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงเบา รู้สึกถึงความร้อนจากร่างของเขาที่แผ่ผ่านมาทางต้นแขน จนต้องหลบสายตาอย่างรวดเร็ว แต่ชายหนุ่มกลับหันมายิ้มมุมปาก ดวงตาสีฟ้าใสสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ดวงตาคู่นั้นมีแววเจ้าเล่ห์จนโมนีก้ารู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “นาย...ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้วนะ” “หน้าแบบไหนครับ หน้าหล่อ ๆ แบบนี้เหรอ” “แบบหน้าหมั่นไส้ต่างหาก!” โมนีก้าพูดพลางเหยียบเท้าเขาเต็มแรง “โอ๊ย! โมนีก้า!” เขาเกือบร้องเสียงหลง ดึงขาขึ้นเล็กน้อยด้วยความเจ็บ “นี่คุณรู้ไหมว่าผมต้องใช้เท้าคู่นี้ขับรถข้ามประเทศมาเชียวนะ! ทำไมถึงทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ล่ะ!” เธอสะบัดหน้าไปอีกทาง พยายามกลั้นยิ้มแต่ไม่สำเร็จ “เพราะนายทำตัวน่าหมั่นไส้ไง ไม่เห็นเหรอว่าคนในรถเขามองอยู่” “พวกเขามองเพราะผมดูดีต่างหากครับ ไม่ใช่เพราะผมโอบคุณ” เขาว่าพลางจัดปกเสื้อให้ตัวเอง “ใครจะไปต้านทานรอยยิ้มผมได้ล่ะ จริงไหม” โมนีก้าถอนหายใจตอนที่ได้ยินเฮือกใหญ่ “เฮ้อ…อยากจะให้ฟ้าผ่าลงมาใส่นายจริง ๆ” “อย่าเลยครับ ถ้าพ่อได้ยิน ผมอาจโดนหาว่ารับคำสั่งฆ่าตัวตาย” เขาตอบหน้าตาย แต่รอยยิ้มยังไม่หายไปไหน ในที่สุดรถเมล์ก็ค่อย ๆ ชะลอจอดหน้าสถานีโรมา เทอร์มินี เสียงประกาศจากลำโพงดังขึ้นแผ่ว ๆ ทั้งคู่เดินลงจากรถท่ามกลางคลื่นคนที่พลุกพล่าน แสงสีทองของอาทิตย์ยามเย็นทอดลงบนผมสีน้ำตาลเข้มของโมนีก้า เธอหันมามองเขาด้วยสายตาคล้ายจะต่อว่า “นายจะเลิกยิ้มแบบนั้นได้ยัง” “ไม่ได้ครับ” เขาตอบทันที “ก็แฟนผมเขิน ผมจะยิ้มไม่ได้ได้ยังไง” โมนีก้าชะงักตอนที่ได้ยิน ก่อนจะก้าวเท้าเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว “ไปเถอะเลสเตอร์ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจโยนนายลงรถไฟขบวนต่อไป” เลสเตอร์หัวเราะเบา ๆ แล้วรีบเดินตามหลังเธอไป เขายกมือเกาท้ายทอยเบา ๆ พลางพึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มที่ห้ามไม่อยู่ เสียงประกาศในสถานีรถไฟโรมาเทอร์มินี ดังคลออยู่เหนือศีรษะ ทั้งสองเดินเคียงกันผ่านผู้คนที่ขวักไขว่ แสงไฟสีทองจากโคมเพดานสะท้อนบนพื้นหินอ่อนจนดูเหมือนคลื่นแดดต้องผิวกระจก โมนีก้าเดินตามเลสเตอร์เข้าไปในลิฟต์ด้านในสุดของสถานีที่ไม่มีป้ายบอกและไม่มีใครสังเกตเห็น เขากดปุ่มทองแดงที่มีตรา DEMI EXPRESS แล้วลิฟต์ทั้งคันก็สั่นเบา ๆ ก่อนจะเคลื่อนตัวลงอย่างนุ่มนวล “ชั้นพิเศษสำหรับเดมิก็อด” เลสเตอร์พึมพำพร้อมยักคิ้ว “อย่างน้อยก็มีที่ที่มนุษย์ธรรมดาเข้าไม่ถึงบ้างแหละนะ” “ก็หวังว่าจะไม่มีอสุรกายตามมาด้วยน่ะสิ” โมนีก้าตอบเรียบ ๆ แต่สีหน้าเธอยังคงตื่นเต้น ดวงตาเทาเงินสะท้อนแสงจากแผงไฟในลิฟต์ “ครั้งที่แล้วฉันยังไม่หายกลัวจากเจ้ารถไฟจักรกลนั่นเลยนะ” “ไม่ต้องห่วงครับ รอบนี้ของจริงแน่นอน รถไฟของเฮเฟตัส ไม่มีของปลอมแน่” เสียงติ๊งเบา ๆ ดังขึ้น ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกลิ่นของเหล็กร้อนและควันบางเบา สถานีรถไฟเฮเฟตัสตั้งอยู่กลางอุโมงค์โลหะที่มีรอยลวดลายจักรกลประดับแสงไฟสีส้มแดงราวเปลวเพลิง เสียงล้อเหล็กเสียดสีกันดังก้องจากชานชาลาเบื้องล่าง โมนีก้าเดินไปซื้อตั๋วตรงช่องเคาน์เตอร์ แสงจากป้าย “Hephaestus Express – Grand Central, New York” กระทบกับใบหน้าของเธอจนดูอบอุ่น เธอหยิบเงินออกจากกระเป๋า “จ่ายล่วงหน้าทั้งหมดเลยก็แล้วกัน ฉันไม่อยากต่อแถวอีก” เลสเตอร์ยกคิ้วแล้วพูดนิดหน่อย “รู้ไหมครับ ผมชอบผู้หญิงที่ลงมือรวดเร็วแบบนี้ โดยเฉพาะเวลาจ่ายเงินแทนผม” “หยุดเลย” เธอหันขวับมามองหน้าเลสเตอร์ “ถ้านายจะพูดอีกคำเดียว ฉันจะให้จ่ายคืนพร้อมภาษีดอกเบี้ยจากโอลิมปัส” “โอเคครับ ๆ” เขาหัวเราะ แต่แววตายังเต็มไปด้วยความเอ็นดู ทั้งสองใช้เวลารอไม่นาน เข็มนาฬิกาบนสถานีชี้ไปที่ 18.00 น. พอดี เสียงหวีดแผ่ว ๆ ดังลั่นเมื่อรถไฟเฮเฟตัสเทียบท่าด้วยพลังไอน้ำที่พวยพุ่งจากช่องท่อด้านข้าง มันดูเหมือนผลงานศิลปะชั้นสูงมากกว่าเครื่องจักร ขบวนสีทองแดงเข้มสะท้อนเงาเปลวไฟจากหัวขบวนที่สลักตราค้อนแห่งเฮเฟตัส โมนีก้ากับเลสเตอร์ก้าวขึ้นสู่ชั้นด่วนพิเศษ เบาะที่นั่งบุด้วยหนังเรียบหรูสีครีมและทอง มีลวดลายดวงอาทิตย์ล้อมวงอยู่ตรงพนักพิง แสงอ่อน ๆ จากหลอดส่องบนเพดานทำให้ทั้งห้องโดยสารดูเหมือนแช่ไว้ในเวลาค่ำพอดี เลสเตอร์เหลือบมองรอบ ๆ พลางยิ้มอย่างพอใจ “สบายสมชื่อชั้นพิเศษเลยนะครับ นี่แหละชีวิตที่คู่ควรกับเทพอย่างผม” “นายกับความถ่อมตัวนี่ไปกันคนละทิศเลยสินะ” โมนีก้าตอบขณะวางกระเป๋าไว้ข้างที่นั่ง แต่ยังไม่ทันนั่งดี เลสเตอร์ก็ขยับตัวกั้นทางไว้ “เดี๋ยวก่อนครับ คุณนั่งด้านในตรงหน้าต่าง” “หืม? ทำไมล่ะ” โมนีก้าเอ่ยถามเพราะก่อนหน้านี้เขาบอกว่าจะนั่งติดหน้าต่างไม่ใช่หรอ “ผมนั่งริมทางเดินเองดีกว่า” เขาตอบอย่างจริงจังเกินจำเป็น “ผมไม่อยากให้ผู้ชายคนอื่นเดินผ่านแล้วเห็นคุณใกล้ ๆ ขนาดนั้นพวกเขาไม่มีสิทธิ์รับรังสีแสงจันทร์จากแฟนผมหรอก” “พูดเหมือนฉันเป็นหลอดไฟเลยนะเลสเตอร์” เธอหัวเราะ แต่ก็ยอมขยับเข้าไปนั่งข้างใน กลิ่นไลแลคจากผิวเธอลอยแผ่วจนเขาได้กลิ่นชัดเมื่อเอนตัวพิงเบาะข้าง ๆ “ไม่ใช่หลอดไฟครับ แต่เป็นดวงดาวของผมคนเดียว” เขาพูดเสียงเบาแต่มั่นคง โมนีก้าเลิกคิ้ว “พูดแบบนี้อีกเดี๋ยวจะโดนเหยียบเท้าอีกรอบนะ” “ผมยอมครับ” เขายิ้มมุมปากอย่างท้าทาย ไม่นานเสียงหวีดสุดท้ายก็ดังก้อง รถไฟค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากชานชาลา แรงสั่นสะเทือนนุ่มนวลแต่ทรงพลังจนพื้นใต้เท้าสั่นเล็กน้อย ตัวเลขบนจอมอนิเตอร์เหนือประตูแสดงความเร็วที่พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ 2,000 กม./ชม. … 5,000 กม./ชม. … 10,485 กม./ชม. ทิวทัศน์นอกหน้าต่างแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีพุ่งผ่านราวเส้นสายจักรวาล รถไฟทะลุข้ามประตูมิติของอาณาจักรทวยเทพและเวลาทั้งหมดกลายเป็นเพียงเสี้ยวลมหายใจ เลสเตอร์เอนพิงเบาะ หลับตาอย่างพอใจ “รู้ไหมครับ นี่อาจจะเป็นการเดินทางที่โรแมนติกที่สุดตั้งแต่ผมตกจากโอลิมปัสมาเลยก็ได้” โมนีก้าเหลือบมองเขา แล้วตอบเบา ๆ “อย่าพูดเหมือนเรากำลังเดินทางใหญ่อ่ะ แค่กลับไปนิวยอร์กเองนะ” “ก็แค่ไปนิวยอร์ก…แต่ไปกับคุณ” เขาเปิดตาขึ้น หันมามองเธอด้วยรอยยิ้มที่ทั้งอวดดีและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน “แบบนี้ผมว่ามันยิ่ก็ไม่ได้ไม่ดีแล้วล่ะ” รถไฟเฮเฟตัสแล่นตัดผ่านแสงสีทองแดงที่สะท้อนจากโครงเหล็กภายในอุโมงค์ เสียงหัวใจของโลกดังประสานกับเสียงเครื่องจักรที่พุ่งทะยาน มุ่งตรงไปยังสถานีแกรนด์เซ็นทรัล นิวยอร์ก ด้วยความเร็วที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเท่า และในความเร็วระดับนั้น มีเพียงสองสิ่งที่ยังคงมั่นคงอยู่ตลอดทาง...

เดินทางด้วยรถไฟเฮเฟตัส (สายด่วนพิเศษ) 2 ที่นั่ง ราคาตั๋ว 20x2 = 40 ดรักม่า

สถานีต้นทาง : สถานีรถไฟโรมาเทอร์มินี, อิตาลี

สถานีปลายทาง : สถานีแกรนด์เซ็นทรัล, นิวยอร์ก

(จ่ายแล้วจ้า)


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +3
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +14

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-11-4 14:59
โพสต์ 45281 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 14:53
โพสต์ 45,281 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 14:53
โพสต์ 45,281 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 14:53
โพสต์ 45,281 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-4 14:53
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 17:45:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 07 : ก็ไม่รู้ปะล่ะ
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงกลางคืน เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป รถไฟเฮเฟตัสสายด่วนพิเศษ มุ่งหน้าสู่ สถานีแกรนด์เซ็นทรัล, นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (ตามเวลาอิตาลี โพสหน้าจะปรับเวลาเป็นตามทามโซนอเมริกา)

รถไฟความเร็วสูงของเฮเฟตัสแล่นไปอย่างนุ่มนวล เสียงเครื่องจักรกลภายในขบวนดังต่ำราวจังหวะหัวใจของยักษ์เหล็กที่ยังคงเต้นไม่หยุด เส้นทางด้านนอกหน้าต่างทอดยาวเป็นริ้วแสงสีทองอมแดงที่ไหลย้อนผ่านราวสายน้ำแห่งเวลา กลางห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยแสงอบอุ่นนั้น กลิ่นหอมหวานของน้ำตาลและคาราเมลเริ่มโชยมาแตะจมูก เมื่อพนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีแดงเข้มเข็นรถขายของมาหยุดตรงหน้า “ของว่างไหมคะ?” เสียงพนักงานสาวถามอย่างสุภาพ โมนีก้ายกสายตาจากหนังสือเดินทางขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มบาง “เอาสิคะ ขอดูหน่อยค่ะ” เธอพลิกดูเมนูเบา ๆ ก่อนจะเหลือบมองเลสเตอร์ที่นั่งไขว่ขาอยู่ข้าง ๆ เขาเอนตัวพิงเบาะในท่าคนสบายแต่สีหน้ายังมีประกายเจ้าเล่ห์นิด ๆ “แล้วนายจะเอาอะไร?” เธอถามเสียงนิ่งแต่แฝงความเอ็นดู เลสเตอร์ยักคิ้วเหมือนว่าเขามีอะไรบางอย่างในใจ “ให้คุณเลือกให้ดีกว่าครับ ผมอยากรู้ว่าคนที่เป็นแฟนเทพอย่างผมจะเลือกอะไรให้” โมนีก้าถอนหายใจ เธอมองเขาอย่างคนที่รู้ทันทุกความกวนในแววตานั้น “แน่ใจนะ ว่าจะไม่บ่นทีหลัง” “ผมบ่นแน่ครับ แต่จะบ่นอย่างมีความสุข” เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วหันกลับไปหาพนักงาน “งั้นขอ...ไอศกรีมซันเดย์พิเศษค่ะ เพิ่มวิปครีมสองชั้น ราดซอสคาราเมลกับช็อกโกแลต แล้วก็โรยถั่วพีแคนเพิ่ม” เลสเตอร์หันมามองทันที “โอ้ คุณจำได้ว่าผมชอบแบบนั้นเหรอ” “เปล่า ฉันแค่คิดว่าไอศกรีมที่ยุ่งยากขนาดนี้มันเหมาะกับคนเรื่องมากอย่างนายดี” พูดแบบนี้นี่แหละที่ทำให้ผมอยากแกล้งคุณมากขึ้นทุกวัน” เขายิ้มขี้เล่นจนคนฟังต้องกลอกตา ไม่นานของหวานทั้งสองก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะเล็ก ๆ ระหว่างที่นั่ง โมนีก้าได้ไอศกรีมแท่งรสช็อกโกแลตเข้มที่เคลือบช็อกโกแลตอีกชั้น ส่วนเลสเตอร์ได้ถ้วยซันเดย์สูงที่ดูเหมือนงานศิลปะขนาดย่อม ทั้งสองนั่งกินข้างกันอย่างเงียบ ๆ สักพัก มีเพียงเสียงช้อนกระทบแก้วและเสียงเครื่องยนต์อันไกลโพ้นที่ดังเป็นจังหวะ โมนีก้าดูมีความสุขกับขนมในมือเล็ก ๆ ของเธอ ดวงตาเทาเงินทอประกายตอนที่กัดไอศกรีมเข้าไป แต่พอความเย็นเริ่มละลายช้า ๆ เธอกลับเผลอทำช็อกโกแลตหยดลงบนมือโดยไม่ทันรู้ตัว “อ๊ะ...” เธออุทานเบา ๆ เพราะมันเลอะมือของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะขยับเลสเตอร์ก็ยื่นมือมาทางเธอทันที “อยู่นิ่ง ๆ เดี๋ยวผมเช็ดให้” น้ำเสียงของเขานุ่มแต่จริงจังอย่างประหลาด ทว่าโมนีก้ากลับหัวเราะนิด ๆ แล้วพูดขัดขึ้น “ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการเองได้” ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นเลียปลายนิ้วของตัวเองเบา ๆ แบบไม่ได้คิดอะไรเลย มันเป็นเพียงการกระทำเล็กน้อย แต่สำหรับเลสเตอร์ เวลาทั้งโลกเหมือนหยุดหมุน เขานิ่งไปในทันที ดวงตาสีฟ้าที่เคยเต็มไปด้วยความขี้เล่นนั้นแข็งค้างอยู่ชั่ววินาทีหนึ่ง หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะอย่างคนที่เพิ่งถูกฟ้าผ่ากลางอก ภาพตรงหน้าเรียบง่าย แต่กลับเร้าอารมณ์จนเขาแทบกลืนน้ำลายไม่ลง เสียงหัวเราะของเธอ กลิ่นไลแลคที่อบอวล และริมฝีปากสีอ่อนที่แตะลงบนปลายนิ้วเล็กนั้น ทุกอย่างมันน่าทรมานจนเขาต้องเบือนหน้าหนี โมนีก้าไม่รู้ตัวเลยว่าเธอทำให้เขาแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง “ไอศกรีมอร่อยไหม?” เธอถามขึ้นในที่สุดอย่างเป็นปกติ เลสเตอร์กระแอม “ผะ...ผมกินอยู่แล้วครับ แค่...รอให้ละลายหน่อย” เขารีบตักซันเดย์เข้าปากเร็วเกินไปจนคิ้วขมวดเพราะความเย็นจัดแถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอบผิดเรื่อง “อื้อ... เย็นชะมัด” โมนีก้าหัวเราะร่าตอนเห็นอีกคนกินไอศกรีมจนเย็นขึ้นสมอง “ก็ใครบอกให้ใจร้อนล่ะ” “ผมไม่ได้ใจร้อน...” เขาตอบพลางหลบสายตา “แค่พยายาม...ดับอะไรบางอย่างน่ะ” “หืม?” “ไม่มีอะไรครับ” โมนีก้ามองเขาอย่างสงสัยนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็แค่ยิ้มบาง ๆ แล้วหันกลับไปมองนอกหน้าต่าง รถไฟยังคงแล่นฉิวผ่านช่องอุโมงค์แห่งเวลา แสงส้มทองสะท้อนผิวน้ำตาลในถ้วยของเลสเตอร์อย่างสวยงามราวกับละอองพระอาทิตย์ เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบาเกินกว่าจะให้เธอได้ยิน “พ่อ…ผมกำลังจะเป็นบ้าจริง ๆ” และเมื่อโมนีก้าหันกลับมา เขาก็ทำเพียงยิ้ม… ใช่ ยิ้มแบบเลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส ผู้หลงตัวเองที่สุดในโลก แต่ในแววตาสีน้ำเงินนั้น... กลับมีเพียงความพ่ายแพ้ให้แก่หญิงสาวข้างกายที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เธอได้ละลายเทพแห่งดวงอาทิตย์จนหมดสิ้นแล้วในรสของช็อกโกแลตแท่งนั้นเอง ช่วงระยะเวลาการเดินทางนั้นเองรถไฟความเร็วสูงของเฮเฟตัสยังคงแล่นอย่างมั่นคงผ่านอุโมงค์แห่งมิติ เสียงลมภายนอกถูกกลืนหายไป เหลือเพียงเสียงจังหวะสม่ำเสมอของเครื่องจักรที่คล้ายหัวใจเต้นเบา ๆ ในห้องโดยสารสว่างอุ่น โมนีก้านั่งไขว่ห้างอยู่ข้างเลสเตอร์ มือถือในมือกำลังส่องแสงสีฟ้า เธอก้มหน้ากดแท็บเล็ตอย่างตั้งใจ นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจอผ่านฟีดข่าว ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ เหมือนคนอารมณ์ดีสุดขีด “นี่ ๆ ดูสิ” เธอยื่นแท็บเล็ตมาให้เลสเตอร์ดู หน้าจอโชว์รูปภาพที่เธอเพิ่งถ่ายมือของเธอวางซ้อนบนมือเขา พร้อมแคปชั่นในแอปเนคทาร์ เลสเตอร์มองรูปนั้นแล้วขมวดคิ้วนิด ๆ แต่แววตากลับแอบมีรอยยิ้ม เขาหันหน้ามามองเธอเต็ม ๆ “คุณโพสต์ลงเนคทาร์จริง ๆ เหรอ?” “แน่นอนสิ!” โมนีก้าพูดเสียงใส “มีแฟนทั้งทีจะไม่ประกาศได้ไง คนต้องอิจฉากันบ้างแหละ” เลสเตอร์ถอนหายใจเบา ๆ พยายามเก็บสีหน้าให้เรียบที่สุด “ผมแค่กลัวว่า...เดมิก็อดครึ่งค่ายจะพากันเสียใจเพราะผมมีเจ้าของเท่านั้นเอง” โมนีก้าหัวเราะ “อย่าหลงตัวเองนักเลย คุณนั่นแหละที่โชคดีที่ได้ฉันต่างหาก” “จริงด้วยครับ ผมโชคดีมาก” เขาตอบพลางเอนหลังพิงพนัก ดวงตาสีฟ้ากวาดมองเธออย่างเอ็นดู ก่อนจะพยายามคุมสติไม่ให้ใจเต้นแรงไปกว่านี้ เวลาผ่านไปพักใหญ่จนโมนีก้าเก็บแท็บเล็ตแล้วหันมาหาเขา “กลับค่ายแล้วนายจะทำอะไรต่อดีล่ะ? ต้องกลับราชวังสุริยะของนายไหม” เลสเตอร์พยักหน้าเบา ๆ “ใช่ครับ ผมต้องไปเอารถของผมที่โตรอนโตน่ะ พอดีผมฝากลูกสาวไว้ที่นั่น” “หืม?” เธอเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ลูกสาว?” “อืม ลูกสาวผมเอง” เขาตอบหน้าตาย แต่แววตาเต็มไปด้วยความขี้เล่น “อย่าหึงนะครับเป็นลูกสาวที่ผมสนิทด้วยน่ะ” โมนีก้าหรี่ตาใส่เลสเตอร์นิดหน่อย “ฉันต้องไปด้วยไหม?” “แน่นอนสิครับ ผมจะพาไปแนะนำให้รู้จักเอง” เขาตอบอย่างมั่นใจ “เธอน่าจะชอบคุณมากนะ” โมนีก้าพยักหน้าเบา ๆ “โอเค งั้นก็ได้สิ” น้ำเสียงของเธอฟังดูสดใส แต่ในแววตากลับมีอะไรบางอย่างที่แผ่วลง เหมือนความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นโดยไม่ตั้งใจความรู้สึกที่บอกว่า พอถึงตอนนั้น... พวกเขาอาจไม่ได้อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ อีก เลสเตอร์เหลือบมองโมนีก้า เหมือนจะสังเกตเห็นสีหน้าเธอ เขาโน้มตัวเล็กน้อย “ทำไมครับ กลัวจะไม่ได้เห็นหน้าหล่อ ๆ ของผมหรือไง” โมนีก้าหันไปมองเขาอย่างอ่อนแรง “ก็...คงงั้นมั้ง” คำตอบนั้นสั้น แต่กลับทำให้หัวใจของเทพหนุ่มสะดุดวูบ เขาหัวเราะออกมาอย่างพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แปลกประหลาดในอก “รู้ไหม ตั้งแต่วันที่ 16 ที่ผ่านมาน่ะ ผมแวะไปที่ค่ายจูปิเตอร์ทุกวันเลยนะ ตั้งแต่บ่ายยันเย็น แล้วค่อยกลับโอลิมปัส” โมนีก้าชะงักเล็๋กน้อยเมื่อได้ยินเธอเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “อะไรนะ นายไปทำไม?” “ก็รอนี่ไง” เขาพูดหน้าตาเฉย “แต่เหมือนใครบางคนเอาแต่ทำงานจนไม่รู้ว่าผมรออยู่” สิ้นคำนั้นโมนีก้านิ่งอย่างเห็นได้ชัด เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่กลับพูดไม่ออก ความเงียบโรยตัวระหว่างทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เลสเตอร์จะยกยิ้มขี้เล่นกลับมาอีกครั้ง “งั้นตอนนี้ผมขอรางวัลได้หรือยัง” “รางวัล?” เธอถามอย่างระแวง “ใช่ รางวัลสำหรับคนที่มีความอดทนในการจีบว่าที่แฟนตัวเองทุกวันแต่เธอไม่รู้ตัว” เขาพูดพร้อมกะพริบตาช้า ๆ อย่างน่าหมั่นไส้ โมนีก้าเบือนหน้า ก่อนจะคว้าหมอนอิงข้างตัวขึ้นมาอัดหน้าเขาเต็มแรง “ฝันไปเถอะ!” “อื้อ—! โม นี ก้าา!” เสียงของเขาถูกหมอนกลบ แต่เสียงหัวเราะของเธอก็ดังกลบไปหมด พอเธอหันหนีไปข้างหน้าต่าง หน้าของเธอก็แดงระเรื่อจนแทบกลืนไปกับแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดเข้ามา เลสเตอร์ดึงหมอนออกแล้วพิงเก้าอี้ ยกมุมปากขึ้นอย่างพึงพอใจ “เอาล่ะครับ ถือว่าผมได้รับรางวัลแล้ว...แต่ไม่เหมือนที่คิดไว้ แต่ก็น่ารักดี” โมนีก้าไม่ตอบอะไร เธอเพียงพยายามซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้ฝ่ามือที่เท้าคางอยู่ริมหน้าต่าง ส่วนเลสเตอร์ เขาได้แต่มองเธอด้วยสายตาแบบที่เทพเจ้าผู้เคยหยิ่งยโสไม่คิดว่าตัวเองจะมองใครแบบนี้ได้จริง ๆ และหัวใจของดวงอาทิตย์ในร่างมนุษย์...ก็ดูเหมือนจะเต้นแรงขึ้นทุกนาทีที่อยู่ข้างเธอ


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
มอบ ไอศกรีมซันเดย์ สิ่งที่ชอบที่สุดของ NPC - เพิ่มความสัมพันธ์ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +3
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +24

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 24 โพสต์ 2025-11-4 18:21
โพสต์ 48163 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 17:45
โพสต์ 48,163 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 17:45
โพสต์ 48,163 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 17:45
โพสต์ 48,163 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-4 17:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-4 19:46:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 08 : 7000 กิโลเมตร ผมให้เลย 555 แม่งเอ้ย
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงบ่าย เวลา 13.49 น. เป็นต้นไป สถานีแกรนด์เซ็นทรัล, นิวยอร์ก ไปยัง เมืองชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา (ตามเวลาทามโซนอเมริกา)

บ่ายโมงสี่สิบเก้านาที ประตูแก้วของแกรนด์เซ็นทรัลผลักลมเย็นทะลักเข้ามาใส่หน้า โมนีก้าก้าวขาออกจากโถงหินอ่อนสีครีมพลางเหยียดแขนบิดขี้เกียจ เสียงรองเท้าส้นสูงแตะพื้นจังหวะฉับ ๆ “โอ้ย…ยังต้องเดินทางอีกหรอเนี้ย ปวดก้นจะแย่แล้ว อ๊าา ต้องไปซื้อตั๋วอีกแล้ว” เธอบ่นแผ่ว ๆ แต่มีความขำซ่อนอยู่ในหางเสียง กลิ่นไลแลคกับเบอร์รี่หวานอุ่นคลอไปกับกลิ่นควันรถของนิวยอร์กอย่างน่าประหลาด เลสเตอร์ยืนล้วงกระเป๋า แหงนมองนาฬิกาทรงกลมเหนือทางเข้าเหมือนคนที่เชี่ยวสนามนี้มาชาติก่อน เขาเลิกคิ้วนิด ๆ ตอนเห็นแฟนสาวจะเลี้ยวกลับเข้าไปในฮอลล์ตั๋ว “คุณจะไปซื้อตั๋วอะไรอีกล่ะครับ” “ก็ตั๋วรถไฟต่อสิคะ โตรอนโต—” เธอหยุดชะงักเพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา “ทำไม ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว” “ในอเมริกาน่ะ ไม่มีรถไฟเฮเฟตัสหรอกครับ นอกจากเส้นไปกรุงโรมใหม่” เขายักไหล่ แกล้งถอนใจยาวเสียจนปอยผมหยิกกระเพื่อม “ถ้าเกิดคุณอยากรู้เหตุผลก็…ถามซุสสิ ผมก็ไม่เข้าใจ วิ่งได้ทั่วโลก ยกเว้นอเมริกากฎของท่านพ่อ บลา ๆ ๆ” “อืม…งั้นก็เช่ารถใช่ไหมคะ” โมนีก้าพึมพำแบบคนยอมรับชะตากรรม แววตายังเป็นประกายซุกซน “โอเค เช่าก็เช่า แต่คนขับต้องเป็นนาย เพราะฉันเป็นผู้โดยสารสายเอาแต่กินขนมและนั่งโง่ ๆ ข้าง ๆ คนขับ” “ผู้โดยสารสายขนมของดวงอาทิตย์ ได้ครับ” เขายอมอย่างไวเกินคาด แถมทำเสียงจริงจังจนฟังดูเหมือนประกาศภารกิจศักดิ์สิทธิ์ “แล้วฟังผมก่อน เราไปชิคาโก้เป็นสเต็ปแรก ค้างหนึ่งคืน ค่อยวกขึ้นโตรอนโตแล้วค่อยไปรับรถผมกับ…ลูกสาว” คำว่าลูกสาวทำเอาโมนีก้าเหลือบมองแบบตั้งคำถาม แต่เนื้อเสียงของเธอยังนุ่ม “ฉันเชื่อใจนายแหละจะเกร็งทำไมหืม? คุณเลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส อย่าทำหน้าอวดตัวจนฉันเปลี่ยนใจละกัน” “ผมหยุดดูดีไม่ได้ก็เท่านั้นเอง ก็ใครมันจะต้านไหวไม่มีหรอก” เขายักคิ้วหนึ่งที เลยได้ฝ่ามือของโมนีก้าเคาะต้นแขนเป็นรางวัล พอเอกสารเช่ารถเสร็จ ทั้งคู่ก็ผลุบเข้าคูเป้สีดำสนิท กลิ่นหนังใหม่กับแดดปลายฤดูทำให้ห้องโดยสารเหมือนอบไอน้ำอุ่น ๆ เลสเตอร์ติดเข็มขัด ขยับพวงมาลัยไปตำแหน่งถนัด ก่อนเหลือบมาดูคนข้าง ๆ ที่กำลังเช็กแผนที่กับลิสต์ขนม “ถ้าจะทำหน้าที่นักบินร่วม ต้องป้อนผมบ้างนะครับ” “นายขับดี ๆ เดี๋ยวมีไอศกรีมซันเดย์เป็นรางวัล ถ้ามันไม่ละลายไปก่อนนะ” เธอบอกเรียบ ๆ แต่ยิ้มในตา สิ้นคำนั้นล้อรถก็หมุนออกจากแมนฮัตตัน เครื่องยนต์สตาร์ต เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมลมเย็นจากช่องแอร์ รถค่อย ๆ เคลื่อนพ้นเงาโดมโบราณของแกรนด์เซ็นทรัล สไลด์สู่ถนนที่ทอดยาวออกจากเกาะแมนฮัตตันสู่เส้นทางเหนือขึ้นริมฮัดสัน ผ่านผืนป่าที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นแดงส้ม จนถึงแดนทะเลสาบและพรมแดนแคนาดา เงาตึกระฟ้ากลายเป็นหีบเพลงภาพเลื่อนผ่านกระจกอย่างเนิบช้า เสียงแตรไกล ๆ, ไอระเหยจากรถเสบียงริมฟุตปาธ, คนวิ่งจ๊อกกิ้งในสวน…แล้วนิวยอร์กก็ค่อย ๆ ถอยหลังไป เหลือเพียงทางด่วนที่ทอดยาวเหมือนคันศรของเทพแห่งดนตรี “ผมยังยืนยันนะ ว่าการที่ไม่มีเฮเฟตัสเอ็กซ์เพรสในอเมริกาเป็นโศกนาฏกรรมระดับชาติ” เลสเตอร์บ่นชนิดมือเดียวจับพวงมาลัย อีกมือเปิดวิทยุหาช่องแจ๊ส “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ผมจะอ่านไฮกุให้ฟัง—” “หยุดเลยค่ะ เลสเตอร์” โมนีก้าขัดพร้อมหัวเราะ “ฉันจะเป็นดีเจเอง” เธอจิ้มเพลย์ลิสต์เพลงอินดี้ฝั่งตะวันออก เสียงกีตาร์โปร่งนุ่ม ๆ คลอไปกับเสียงยางบดถนน “ว่าแต่…ลูกสาวที่ว่า—” “ไว้เจอกันก็รู้เองแหละครับ” เขาตอบสั้น ๆ แต่แววตาอุ่นจัด “ผมอยากดูว่าคุณกับเธอ…จะหัวเราะเรื่องผมเหมือนกันไหม” “อืม…งั้นคืนนี้ที่ชิคาโก้ นายเลี้ยวของอร่อยนะคะ ฉันขอพิซซ่าหน้าหนักชีสหนึ่งถาด และ—” “และไก่ทอด เผ็ดระดับทำให้ผมร้องไห้ ผมรู้ครับ” เลสเตอร์ยิ้มมุมปาก “จำกลิ่นคุณครั้งแรกได้ไหมไลแลคกับเบอร์รี่ พอรวมกับไก่ทอด…โอ้โห สวรรค์บนโลกมนุษย์” “อย่าพูดเรื่องกลิ่นฉันได้ปะเนี้ย คนขับจะใจลอย” เธอเฉไปทางหน้าต่าง เห็นเงาตัวเองซ้อนบนฟ้าใส “ถามจริง นายไม่เหนื่อยเหรอ ต้องสร้างกลางคืนชั่วคราวให้โลกทั้งใบ พูดแค่นี้ก็ปวดหัวแทนแล้ว” เขาหัวเราะสั้น ๆ “เหนื่อยสิ แต่ผมชอบตอนที่คุณทำหน้าเป็นห่วง…มันทำให้ผมอยากเก่งขึ้น แบบเก่งจริง ๆ ไม่ใช่เก่งที่ปาก” เสี้ยววินาทีหนึ่ง น้ำเสียงของเลสเตอร์นิ่งอย่างซื่อตรง จนโมนีก้าต้องกลืนน้ำลายเบา ๆ ทางด่วนฉีกเป็นเส้นตรงสู่จุดหมายปลายทาง ทะเลต้นไม้ผลัดใบแต้มสีส้มทองทั้งผืนเหมือนใครขลิบแสงไว้ที่ขอบโลก โมนีก้าล้วงขนมจากถุงช็อกโกแลตแท่ง วุ้นผลไม้รสส้มยื่นให้คนขับทีละชิ้น “อ้ามสิ เลสเตอร์” “อ้ามก็อ้าม” เลสเตอร์กัดหนึ่งคำ แล้วหัวเราะตอนเห็นช็อกโกแลตละลายเปื้อนปลายนิ้วเธอ เธอทำท่าจะดึงทิชชู แต่กลับยกมือขึ้นแตะริมฝีปากเลียช็อกโกแลตนิ่ง ๆ แบบไม่คิดอะไร เลสเตอร์นิ่งค้างไปครึ่งวินาที หน้าร้อนผ่าวกว่าแดดบ่าย “เล่นแบบนี้…อันตรายต่อผู้ขับขี่มากครับ” “ขับดี ๆ สิคะ” เธอยักไหล่ นิ่งเสียจนคนขับต้องสูดลมหายใจลึกเพื่อกู้สติดนตรี ชั่วโมงคืบคลานไปเหมือนแม่น้ำสงบ พอเข้าสู่โอไฮโอ ท้องฟ้าปรุงด้วยสีครามอ่อนและริ้วเมฆสีครีม ระหว่างการเดินทางปลายนิ้วของโมนีก้าไล้กระจกหน้าต่างเบา ๆ ดวงตาเทาเงินมองเงาสะท้อนของตัวเองแล้วโยนคำถามเล่น ๆ ออกมา “เลสเตอร์ ถ้าฉันงอแงกลางทาง นายจะทนได้ไหม” พอได้ฟังคำุามของโมนีก้าเลสเตอร์ก็ส่งรอยยิ้มที่ทั้งอวดดีและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน “ได้ครับ ทนเก่งกว่าทนไม่เห็นคุณทั้งวันอีก” นั้นคือคำสุดท้ายก่อนรถพุ่งไปบนผืนทางหลวงเหมือนลูกศรทองคำที่รู้เป้าหมายดี


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +3
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +14

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-11-4 19:50
God
ในขณะขับรถบนทางด่วนเข้าชิคาโก้ พวกคุณชนกับรถที่ชิ่งด้วยความเร็วสูงไม่ทันตั้งตัวจนรถบุบยากจะซ่อม (ที่แท้คือวัวโคลคีส)  โพสต์ 2025-11-4 19:50
โพสต์ 34169 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-4 19:46
โพสต์ 34,169 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-4 19:46
โพสต์ 34,169 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-4 19:46
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-6 15:44:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 09 : หงุดหงิด
วันที่ 31 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงค่ำ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป นิวยอร์ก ไป ยัง เมืองชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา

ทางด่วนสายหลักเข้าสู่เมืองชิคาโก้ทอดยาวไกลสุดสายตา เสียงลมแรงพัดผ่านกระจกหน้ารถที่สะท้อนแสงแดดจ้าเป็นเส้นสายสีทอง เสียงเครื่องยนต์ของรถเช่าที่เลสเตอร์ขับอยู่นั้นดังสม่ำเสมอราวกับจังหวะหัวใจของการเดินทางที่ไม่มีวันหยุด ทว่าทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในพริบตาเดียว เสียงลมแหวกกระจกแปรเปลี่ยนเป็นเสียงเบรกกรีดร้อง “เลสเตอร์! ระวัง!” โมนีก้าร้องขึ้นแต่ไม่ทันแล้ว รถอีกคันที่ขับแซงมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนเข้าด้านข้างอย่างแรง เสียงเหล็กเสียดสีกับยางรถบดลงบนถนนลั่นสะเทือน ก่อนที่แรงกระแทกจะเหวี่ยงทั้งคู่ไปติดขอบทาง รถหมุนไปสองรอบ ก่อนจะหยุดนิ่งในสภาพตัวถังยุบยับควันขาวพวยพุ่งออกจากฝากระโปรง ทั้งสองยังอยู่ในสภาพปลอดภัยแต่หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เลสเตอร์หายใจแรง เขาเอื้อมมือมาแตะไหล่เธอ “คุณโอเคไหม โม—” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ โมนีก้าก็ผลักประตูออกแรง ๆ แล้วก้าวลงจากรถอย่างโมโหสุดขีด รองเท้าส้นสูงกระแทกพื้นเสียงดัง กึก กึก กึก เธอเดินออกไปยังถนนที่ยังคงมีเศษเหล็กและควันปกคลุม พร้อมกับเรียกดาบสุริยคติให้แปรสภาพจากกำไลตรงข้อมือซ้ายเป็นดาบยาวแวววาวในพริบตา บนถนนเบื้องหน้า ปรากฏร่างของปีศาจวัวโลหะยักษ์ที่ร่างเป็นประกายร้อนสีแดงอมทอง โคลคีส สิ่งประดิษฐ์อาถรรพ์จากยุคอาร์โกน็อตส์ มันคำรามก้องราวเสียงแตรรถผสมเสียงเหล็กขูด มันนั้นแหละสาเหตุ โมนีก้าไม่รอช้า เธอกระโจนเข้าหาโดยสัญชาตญาณ มือขวาฟาดดาบเข้าใส่ร่างโลหะจนเกิดเสียงแฉลบไฟแลบจากแรงปะทะ ดาบของเธอฟาดเข้าอีกครั้ง คราวนี้ตรงรอยเชื่อมกลางอก และเสียงคำรามของโคลคีสก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงระเบิดกึกก้องก่อนที่ร่างยักษ์จะสลายกลายเป็นฝุ่นโลหะกระจายไปตามแรงลม เธอยืนหอบเล็กน้อย เหงื่อซึมบนหน้าผาก ดวงตาเทาเงินเปล่งประกายวาววับด้วยความหงุดหงิด “ฉันเบื่อพวกนี้จริง ๆ! จะไปไหนก็มีเรื่องตลอด!” เลสเตอร์รีบลงจากรถมาหาเธอ เสียงรองเท้าของเขากระทบพื้นข้างทางอย่างเร็ว เขาเข้ามายืนข้างเธอแล้วจับข้อมือเบา ๆ “พอแล้ว คุณไม่ต้องจัดการทุกอย่างคนเดียวขนาดนั้น” โมนีก้ามองหน้าเขา ดวงตาของเธอยังมีแววโกรธแต่แฝงความเหนื่อยล้า “ทำไมเราถึงเจอแต่อุปสรรคตลอดเลย เลสเตอร์… ฉันหงุดหงิดมากจริง ๆ นะ” เสียงของเธอสั่นนิด ๆ บ่นบอกถึงความไม่พอใจสุดขีด เลสเตอร์ยิ้มบาง หายใจเข้าช้า ๆ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่ต่างจากความโอ้อวดปกติ “ก็เพราะคุณเดินทางกับเทพที่มีกรรมเยอะมั้งครับ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวรอตำรวจทางหลวงมา เราจะเข้าไปพักในเมืองชิคาโก้กันก่อน คุณแค่ต้องพัก ผมจัดการเอง” โมนีก้าก้มหน้าลงเธอถอนหายใจยาว มือยังถือดาบแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยให้มันกลับคืนเป็นกำไลรอบข้อมือดังเดิม “ขอบคุณนะ” เธอพูดเสียงแผ่ว จนเลสเตอร์ต้องบอกต่อ “อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ” เขาเอื้อมมือไปเกลี่ยผมเธอที่ปลิวเข้าหน้าเบา ๆ “ผมสิที่ควรพูดขอโทษ ที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยขนาดนี้” ไม่นาน เสียงไซเรนของตำรวจทางหลวงก็ดังขึ้น พวกเขามาถึงในเวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่ลงมาตรวจรถ เห็นสภาพที่บุบยับก็ได้แต่ส่ายหน้า “พวกคุณโชคดีมากที่ไม่บาดเจ็บ” นายตำรวจพูดขึ้นพลางบันทึกข้อมูล “เดี๋ยวเราจะพาเข้าเมือง ไปพักให้หายตกใจก่อนนะครับ” โมนีก้าพยักหน้าเบา ๆ ส่วนเลสเตอร์แค่หัวเราะกลั้วลมหายใจ “ขอบคุณครับ ผมว่าผมกับเธอคงต้องการคาเฟอีนกับที่นอนดี ๆ ด่วนเลย” “ฉันต้องการมากกว่านั้น” โมนีก้าพูดนิ่ง ๆ แล้วปรายตาไปทางเขา “ฉันต้องการวันหนึ่งที่ไม่มีอะไรระเบิดอีกแล้ว” เลสเตอร์หัวเราะในคอ “ถ้าคุณคบกับเทพอย่างผม วันแบบนั้นอาจหายากหน่อยนะครับ” “งั้นฉันจะถือว่านี่เป็นช่วงฝึกความอดทนของมนุษย์” เธอตอบประชดแต่มีรอยยิ้มเล็ก ๆ กลับมาในที่สุด แม้ว่ามันจะฝืนมากก็ตามที รถตำรวจพาทั้งคู่เข้าสู่ใจกลางเมืองชิคาโก้ ท้องฟ้าบ่ายแก่ ๆ ถูกย้อมด้วยสีส้มอมแดงของพระอาทิตย์ที่เริ่มลาลับ เสียงไซเรนค่อย ๆ เงียบลงเมื่อถึงโรงแรมริมทะเลสาบมิชิแกน ทั้งสองลงจากรถ ตำรวจยกมืออำลา


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +3
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +14

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 14 โพสต์ 2025-11-6 16:42
โพสต์ 27341 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-6 15:44
โพสต์ 27,341 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-6 15:44
โพสต์ 27,341 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-6 15:44
โพสต์ 27,341 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-6 15:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-6 17:45:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 10 : พอดีเลย
วันที่ 01 เดือน พฤจิกายน ปี 2025
ช่วงเช้า เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป เมืองชิคาโก้ ไปยัง ดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา

เช้าวันต่อมา แสงอาทิตย์แรกของเมืองชิคาโก้ลอดผ่านม่านผืนบางในห้องพัก โรงแรมเล็ก ๆ ริมถนนเริ่มส่งกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น โมนีก้าแต่งตัวเรียบร้อยตั้งแต่ยังไม่ถึงเจ็ดโมง เธอสวมเสื้อเบลเซอร์สีครีมเข้ากับกางเกงขายาวเข้ารูป ปล่อยผมสีน้ำตาลเข้มให้ไหลลงบนบ่าอย่างเรียบหรู ขณะที่เลสเตอร์เพิ่งยืดแขนบิดขี้เกียจบนเตียง พลางพูดเสียงงัวเงีย “เราจะไม่พักอีกสักคืนจริง ๆ เหรอครับ ผมว่าหลังโดนรถชนเราน่าจะได้สิทธิ์วันหยุดพิเศษนะ” โมนีก้าหันมาพร้อมถอนหายใจ “ไม่ค่ะ เราต้องไปโตรอนโตให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตก แล้วที่สำคัญนะ เราจะไม่เช่ารถอีกแล้ว ฉันไม่อยากจ่ายค่าปรับกับบริษัทรถยนต์เพิ่มอีกสักเหรียญเดียว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่เด็ดขาดจนเลสเตอร์ยิ้มแห้ง เขารู้ดีว่าเธอยังงอนอยู่จากเรื่องเมื่อวาน แม้เขาจะพยายามอารมณ์ดีแค่ไหนก็ไม่มีทางลื่นไหลในสายตาเธอตอนนี้ได้แน่ “รับทราบครับ เจ้านาย” เขาพูดพลางยกมือทำความเคารพกึ่งล้อเลียน ไม่นาน ทั้งคู่ก็ออกเดินทางโดยรถประจำทางแทน รถบัสสีเงินสะอาดสะท้อนแสงอรุณขณะเคลื่อนออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่ดีทรอยต์ เสียงเครื่องยนต์เบา ๆ กับถนนที่ทอดยาวผ่านชนบทของรัฐมิชิแกนทำให้บรรยากาศเช้าเหมือนจะสงบดี หากไม่ใช่ว่าคนข้าง ๆ เธอเอาแต่ฮัมเพลงสรรเสริญตัวเองเบา ๆ “นายจะหยุดร้องเพลงเกี่ยวกับตัวเองสักห้านาทีได้ไหม” โมนีก้าพูดนิ่ง ๆ โดยไม่หันหน้า “เพลงนี้มันเพราะดีนี่ครับ ‘The Light of My Own Life’ แต่งโดยเทพอพอลโลผู้ยิ่งใหญ่ในร่างเลสเตอร์สุดหล่—โอ๊ย!” เขาร้องทันทีเมื่อโดนเธอหยิกแขนแรง ๆ แต่ยังไม่ทันที่บทสนทนาจะได้สานต่อ รถกลับเริ่มชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน เสียงบีบแตรดังขึ้นจากคันหลัง ผู้โดยสารบางคนเริ่มลุกขึ้นดูนอกหน้าต่าง “รถติดเหรอ?” โมนีก้าเลิกคิ้วถามเสียงหงุดหงิด “นี่มันกลางทางนะ ไม่มีเมืองใหญ่ใกล้ ๆ เลย… หรืออย่าบอกนะว่านั่น—” โมนีก้าเริ่มพูดแต่เลสเตอร์สวนขึ้นก่อน “ใช่ครับ ฟีนิกซ์ครับผม… และสองตัวด้วย” ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่เลสเตอร์จะยกมือยอมแพ้ “ผมสาบานนะว่าไม่ใช่ฝีมือผมแน่นอน” “แน่ใจ?” เธอมองค้อน “ครั้งก่อนรถไฟบ้า ครั้งนี้นกไฟ จะให้ฉันเชื่อว่าเป็นบังเอิญเหรอ?” “บังเอิญจริง ๆ ครับ ผมอาจจะหล่อ ดูดี เสน่ห์เกินห้ามใจแต่ไม่ได้ซวยขนาดเรียกสัตว์ในตำนานได้ทุกสิบไมล์นะครับ” โมนีก้ากรอกตา “เฮ้อ… ฉันเหนื่อยจะเถียง” เธอลุกขึ้นยืน ดึงแขนเสื้อสูทแล้วบอกกับเลสเตอร์ว่า “ไปกันเถอะ ก่อนที่คนจะเห็นพวกนี้มากเกินไป” ทั้งคู่รีบลงจากรถไปยังพื้นที่ว่างริมป่า ก่อนที่เสียงปีกขนาดมหึมาจะดังวูบผ่านอากาศ เปลวเพลิงของฟีนิกซ์แผ่ไอร้อนจนหญ้าแห้งรอบตัวไหม้เป็นวงกว้าง เลสเตอร์ยกแขนบังหน้าจากแรงลมร้อน เขาเรียกคันธนูขึ้นมือแต่ก็ถอนใจ “ผมยิงไม่ได้ครับ จะโดนข้อหาละเมิดเขตมนุษย์แน่ ๆ ผมแค่ปกป้องคุณได้เท่านั้น” “ไม่มีปัญหา” โมนีก้าตอบสั้น ๆ ก่อนกำไลดาบบนข้อมือจะเปล่งแสงเปลี่ยนเป็นดาบสุริยคติอีกครั้ง เธอพุ่งเข้าใส่ฟีนิกซ์ตัวแรกในจังหวะเดียวกับที่มันกางปีกโจมตีเปลวไฟใส่ ดาบของเธอฟาดตัดผ่านอากาศด้วยความแม่นยำ แสงไฟแตกกระจายเป็นประกายทอง ก่อนที่ร่างของนกเพลิงจะสลายเป็นเถ้าสีแดงส้ม ตัวที่สองส่งเสียงแหลมแล้วโถมเข้ามาทันที แต่โมนีก้ากลับหมุนตัวฟาดปลายดาบเฉียงจากล่างขึ้นบน พลังของดาบสุริยคติแผ่เป็นคลื่นจนฟีนิกซ์แตกกระจายกลายเป็นฝุ่นเพลิงสีทองลอยหายไป เธอยืนหอบเล็กน้อยก่อนหันกลับมาทางเลสเตอร์ที่ยังคงกางแขนสร้างกำแพงแสงกันไฟไว้ด้านหลัง “หมดเรื่องแล้ว” เธอพูดพลางสะบัดผมให้เข้าที่ เลสเตอร์ลดแขนลงเขายิ้มอย่างทึ่ง ๆ กับโมนีก้าเล็กน้อย “คุณนี่น่ากลัวเวลาโกรธนะครับ รู้ตัวไหม” โมนีก้าไม่ตอบแต่ยิ้มมุมปาก “ก็ดี ฉันได้ของฝากมาด้วย” เธอก้มลงเก็บขนสีทองอร่ามที่ตกอยู่ “ขนฟีนิกซ์ ชั้นเยี่ยมเลย” เลสเตอร์หัวเราะเบา ๆ “อย่าบอกนะว่าจะส่งให้ผมอีก” “แน่นอน” เธอว่าเรียบ ๆ “ส่งไปที่ห้องทำงานของนายที่ตึก… อะไรนะ” “เอ็มไพร์สเตตครับ ชั้น 600 ครับผม” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด “ใช่ นั่นแหละ จะได้เอาไปทำโปรเจกต์ที่นายกำลังหมกหมุ่นอยู่นั่นไงเรื่องสร้างกลางคืนเทียมของนาย” เลสเตอร์หัวเราะอย่างชอบใจ “เห็นไหมครับ ว่ามีคุณมันดีจริง ๆ ผมถึงได้ขนวัตถุดิบโดยไม่ต้องออกแรง” โมนีก้าสวนกลับทันที “พูดอีกคำเดียว ฉันจะให้ขนไปถึงราชวังพระอาทิตย์เลย” “รับทราบครับ คุณแม่สาวไลแลคของผม” เธอกรอกตาอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางรถโดยสารที่จอดรออยู่ ปล่อยให้เลสเตอร์เดินตามมาด้วยสีหน้าเอ็นดูปนขำ เขาเดินพลางพูดกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ถึงจะขี้บ่น แต่ก็น่ารักเกินกว่าจะเถียงกลับอยู่ดี…” และในเช้าวันนั้น แสงอาทิตย์เหนือทางหลวงระหว่างชิคาโก้กับดีทรอยต์ก็เปล่งประกายแรงกว่าทุกวัน อาจเพราะมีทั้งเทพแห่งแสงและหญิงสาวที่ส่องสว่างในแบบของเธอเอง เดินทางอยู่ด้วยกันในรถคันเดียว

(เลสเตอร์ไม่ได้สู้แค่มาช่วยกัน มนก เฉยๆ)


มีค่า LUK 200 หน่วย จะได้รับวัตถุดิบ x2

ได้รับ ขนนกฟีนิกซ์ จำนวน 12 ชิ้น 12 x 2 = 24 ชิ้น

สรุป ได้รับ ขนนกฟีนิกซ์ 12 ชิ้น


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-11-6 17:52
โพสต์ 36145 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-6 17:45
โพสต์ 36,145 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-6 17:45
โพสต์ 36,145 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-6 17:45
โพสต์ 36,145 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-6 17:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-6 19:46:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
sigil
บันทึกการเดินทาง Hushsong of the Gods (ภาคพิเศษ)
(คำเตือน โพสหลังจากนี้เหม็นความรัก 3000%)
ตอนพิเศษที่ 11 : แค่นี้จิ๊บ ๆ
วันที่ 01 เดือน พฤจิกายน ปี 2025
ช่วงเย็น เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป จาก ดีทรอยต์ ไปยัง โตรอนโต สหรัฐอเมริกา

เวลาเย็นที่แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดผ่านตึกอิฐสีหม่นของเมืองดีทรอยต์ กลิ่นควันรถและเสียงเครื่องยนต์กลืนไปกับเสียงคลื่นลมจากฝั่งทะเลสาบอีรี รถโดยสารที่โมนีก้าและเลสเตอร์นั่งมาค่อย ๆ เทียบท่าที่สถานีประจำเมือง ทั้งคู่ลุกออกจากเบาะหลังด้วยความเหนื่อยสะสมจากการเดินทางหลายวันติดกัน แต่ถึงอย่างนั้น สีหน้าของโมนีก้าก็ยังดูนิ่งสงบในแบบของเธอ สงบแบบที่ใคร ๆ รู้ว่าข้างในคือพายุเงียบ ๆ ที่พร้อมจะพัดทุกอย่างให้ปลิวได้ทุกเมื่อ “ในที่สุดก็ถึงเสียที” เธอพูดพลางยกมือขึ้นบังแดด “อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าชายแดนแคนาดา ฉันอยากนอนเตียงนุ่ม ๆ มากกว่าเก้าอี้เหล็กบนรถรอบต่อไปอีกนะ” “ใจเย็นครับ อีกนิดเดียวเอง” เลสเตอร์ตอบพลางยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี “คิดซะว่าเป็นการเดทต่างรัฐ” โมนีก้าหันมามองเขาแล้วขมวดคิ้วน้อย ๆ “ถ้าเรียกว่าการต้องสู้กับสัตว์ประหลาดทุกวันว่า ‘เดท’ ล่ะก็ นายมีปัญหานะเลสเตอร์” ผมเรียกว่าความตื่นเต้นของความสัมพันธ์ครับ” เขาว่าด้วยรอยยิ้มหลงตัวเองเต็มรูปแบบ ทั้งสองเดินออกจากสถานี ไปยังย่านช็อปปิ้งเล็ก ๆ ข้างถนนเพื่อหาอาหารรองท้องก่อนขึ้นรถรอบต่อไป ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดริมถนนยังคงเปิดอยู่ กลิ่นไก่ทอดหอมกรุ่นลอยมาแตะจมูกจนโมนีก้าอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทันที “โอ้ ใช่เลย เรากินอันนี้นะ” เธอพูดเสียงจริงจังราวกับประกาศศึกสำคัญ แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้เดินเข้าอ่านไป เสียงแปลกประหลาดบางอย่างดังขึ้นจากตรอกข้างร้านตรงซอยที่ไม่มีคน เสียงโลหะกระทบกันดัง แกร๊กๆๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะแหลมเล็กหลายเสียงซ้อนกันเป็นจังหวะเหมือนฝูงลิงที่กำลังเมามัน เลสเตอร์หรี่ตาแล้วพูดเบา ๆ “ผมรู้เสียงแบบนี้… โอ้ไม่นะ อย่าบอกนะว่ามันคื—” “ใช่แล้วล่ะ” โมนีก้าพูดแทบจะทันที ดวงตาเทาเงินปรายไปยังเงาดำเคลื่อนไหวอยู่ในตรอกแคบ ๆ “ก๊อบลิน” จากเงามืด ฝูงก๊อบลินราวสามสิบตัวกรูกันมาใบหน้าอัปลักษณ์ ปากแหลม ตาโตแดงก่ำ แต่ละตัวถือมีด สนิม ๆ และขวานสั้น พวกมันหัวเราะแหลมราวกับยินดีจะฉีกเนื้อใครสักคนเป็นอาหารเย็น โมนีก้าเพียงปรายตาไปทางเลสเตอร์แล้วพูดเรียบ ๆ “ตอนฉันออกจากบ้านหมาป่าครั้งแรกก็เจอแบบนี้แหละ แต่วันนั้นหกสิบสี่ตัว รอบนี้แค่สามสิบเอ็ด ถือว่ากากมาก” เลสเตอร์ยิ้มมุมปาก เขายกมือขึ้นกอดอกทำท่าดูการแสดง “งั้นผมขอเป็นผู้ชมครับที่รัก แสดงฝีมือให้คนหน้าตาดีดูหน่อยสิ” โมนีก้าหลุบตาเล็กน้อย ก่อนจะดีดนิ้วเบา ๆ ให้กำไลที่ข้อมือแปรเปลี่ยนเป็นดาบสุริยคติ ดวงตาเทาเงินของเธอสะท้อนแสงทองจากคมดาบ เธอก้าวเท้าออกเพียงก้าวเดียว ทันใดนั้นเสียงกรีดอากาศก็ดังขึ้นตามด้วยแสงแวบวาบราวกับฟ้าผ่ากลางวัน เสียงโลหะกระทบเนื้อดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ก๊อบลินทั้งสามสิบกว่าตัวจะล้มลงแทบพร้อมกัน ดาบของโมนีก้าหมุนกลับมาในมือเธออย่างนุ่มนวล เธอปัดเลือดและละอองเวทบนคมดาบออก แล้วพริบตาเดียวพวกมันทั้งหมดก็สลายกลายเป็นละอองทองปลิวกระจายทั่วตรอก เหลือเพียงความเงียบงันและกลิ่นอายพลังศักดิ์สิทธิ์เบาบาง เลสเตอร์ยืนพิงกำแพง หายใจเข้าเบา ๆ แล้วกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว “เอ่อ… หนึ่ง...หรือสองนาทีสินะครับ” เขาพูดพลางยิ้มแหย ๆ “ผมไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครกล้าเดตกับคุณก่อนผม” โมนีก้าหันมายิ้มหวาน แต่ในแววตานั้นแฝงประกายเย็นเฉียบจนเขาแทบอยากยืนห่างอีกสองก้าว “พูดอีกสิคะ ฉันอยากรู้ว่าผู้ชายที่พูดแบบนี้จะกล้าอยู่ใกล้ดาบฉันอีกนานแค่ไหน” “ไม่ครับ ไม่พูดแล้วครับ” เขารีบยกมือยอมแพ้ “แต่… เอาจริง ๆ นะ ผมภูมิใจมากเลยที่แฟนผมทำพวกนี้ได้ในหนึ่งนาทีเต็ม สมกับที่เป็นแฟนผมจริง ๆ เห็นไหมบอกแล้วสายตาของผมมันไม่เคยพลาด และที่สำคัญคุณก็หลงเสน่ห์ผมเต็ม ๆ ด้วย” เธอส่ายหัวเบา ๆ พลางเก็บดาบกลับคืนสู่กำไล “เลือกดีจังเลยนะ หลงตัวเองได้แม้ในนาทีแบบนี้” เลสเตอร์หัวเราะในลำคอ ขณะเดินตามเธอออกจากตรอก “ก็บอกแล้วไงครับ ผมมีรสนิยมดี ผมเลือกได้ทั้งความสวย ความฉลาด และความสามารถฆ่าก๊อบลินสามสิบเอ็ดตัวในนาทีเดียว” “อยากลองไหมล่ะ ถ้าเพิ่มเป็นตัวที่สามสิบสอง?” เธอพูดโดยไม่หันกลับ แต่เสียงของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และหยอกแกล้งเลสเตอร์ “ไม่ครับ ผมยอมแพ้ตั้งแต่ตัวแรกแล้ว” ทั้งสองหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไปยังป้ายรถโดยสาร เมื่อรถรอบใหม่มาถึง ทั้งคู่ขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลัง โมนีก้าเอนหัวพิงกระจก มองท้องฟ้าที่เริ่มกลายเป็นสีส้มอมชมพูของยามเย็น ส่วนเลสเตอร์ก็เอนตัวลงข้าง ๆ พร้อมพูดเบา ๆ “รู้ไหม ผมว่าผมกำลังจะได้แรงบันดาลใจดีไหม? ฟิวแบบอนิเมะเรื่องก๊อบลินสเลเยอร์งี้” โมนีก้าหรี่ตาแล้วยิ้มบางพลางพิงไหล่เลสเตอร์ “ถ้านายเอาไปขายฉันขอค่าลิขสิทธิ์”

“ตกลงครับ” เขาตอบเสียงขำ ก่อนเอนพิงเบาะมือลูบเส้นผมโมนีก้า ปล่อยให้รถแล่นออกจากเมืองดีทรอยต์ข้ามสะพานไปยังพรมแดนแคนาดา ทิ้งแสงเย็นไว้เบื้องหลัง พร้อมเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ของเทพเจ้าและธิดาแห่งพืชผลที่เริ่มกลายเป็นจังหวะอบอุ่นในระหว่างทาง ทางที่พวกเขายังต้องไปต่อด้วยกันอีกไกล


มีค่า LUK 50 หน่วย จะได้รับวัตถุดิบ x2

ได้รับ ดาบก๊อบลิน จำนวน 31 ชิ้น 31 x 2 = 62 ชิ้น

สรุป ได้รับ ดาบก๊อบลิน 31 ชิ้น


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)
สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-11-6 20:10
โพสต์ 35185 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-6 19:46
โพสต์ 35,185 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-6 19:46
โพสต์ 35,185 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก การควบคุมพืชขั้นสูง  โพสต์ 2025-11-6 19:46
โพสต์ 35,185 ไบต์และได้รับ +12 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก การควบคุมธรนี  โพสต์ 2025-11-6 19:46
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้