
วันที่ 16 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงบ่าย เวลา 14.08 - 14.14 น. ถึงยอดเขากลาเซียร์ ลาดตระเวน มุ่งหน้าสู่ โอลิมเปีย (76 กิโลเมตร = 6 นาที)
ยอดเขากลาเซียร์ยามบ่ายสว่างจ้า หิมะเก่าเป็นลิ้นสีเงินเลียสันหินเทา และกลางซอกหุบต่ำเยื้องแนวธารน้ำแข็ง เปลวส้มแผ่เป็นดอกกุหลาบเพลิงกระพืออยู่ไม่หยุด เงาดำหนาทะมึนสี่เงาพลิกตัวไปมา ลิ้นไฟแลบเลียอากาศร้อนจนสั่นระยิบ “ตัวอะไรนั่—” โมนีก้าหยุดคำพูดกลางคัน เมื่อลำคอได้กลิ่นยางสนไหม้ผสมกำมะถัน อาเธอร์เหลือบตาตามเรดาร์อินฟราเรดแล้วกดเสียงลง “ซาลาแมนเดอร์ไฟ ถ้าปล่อยไว้ ไม้แถบนี้จะติดทั้งสันเขา พวกมันไม่เก่งนักแต่โคตรน่ารำคาญและลามไฟไว”
“เดี๋ยวฉันลงไปเองค่ะ ไม่ต้องห่วง” เธอตอบทันที น้ำเสียงนิ่งอย่างคนเจองานถนัด
“รับทราบ” อาเธอร์ดันคันบังคับ เครื่องบินลาดตระเวนร่อนต่ำเข้าจากเหนือลม “เปิดโหมดสะท้อนแสงพรางลำแล้วคงวงบินเงียบเหนือหัวคุณให้”
ประตูท้ายเปิดเลื่อน ลมภูเขาเย็นเฉียบทะลักเข้ามาปะทะแก้ม โมนีก้าเกี่ยวตะขอโรยกับรางแล้วก้าวออกเหนือเหวหิมะในจังหวะเดียวกับที่ทั้งโลกเงียบลงเหลือเพียงเสียงเทอร์ไบน์ห่าง ๆ เธอแตะกำไลเรียบที่ข้อมือ เส้นอักษรรูนจาง ๆ สว่างขึ้นแล้วดาบสุริยคติก็แตกประกายจากแสง ในมือเธอมีคมดาบสีทองขาวล้อมออร่าเหมือนไฟอ่อน ๆ แต่ความร้อนกลับนิ่งเย็นดั่งแสงอรุณ พื้นหิมะรับเท้า เธอลงอย่างเบา ร่างโน้มต่ำ พิงเงาหิน พริบตาต่อมา เปลวสีส้มพุทะลุจากพุ่มสน ซาลาแมนเดอร์ตัวแรกกระโจนราวหัวไฟมีชีวิต เกล็ดดำแตกระแหงมีเส้นไฟวิ่งตามรอยแตก ดวงตากลมเงาวาวสะท้อนเงาเธอ “มานี่สิ เจ้าจิ้งจกหัวร้อน” เธอกระซิบแล้วพุ่งจับคมดาบฟาดเฉียง กินทางอากาศเป็นเส้นโค้งสว่าง สัมผัสที่โดนเกล็ดแผดเสียงฉับเดียว เส้นไฟขาดวับ ตัวมันดิ้นฮวบ หางฟาดจนหิมะกระจาย โมนีก้าไถปลายเท้าเปลี่ยนแกนกระบวนถัดไปเป็นแทงสั้นกดเข้าข้อต่อคอ ปิดฉากตัวแรกด้วยสองจังหวะ
ตัวที่สองโผล่จากกอสนทิศซ้าย เปลวไฟพ่นเข้าใส่ตรง ๆ เธอบิดตัวครึ่งก้าว เกราะโดนไอร้อนแล่นวาบ เธอฉีดสเปรย์ผงเมล็ดพืชพุ่งเป็นฝุ่นประกายลงพื้น รากเล็ก ๆ ผุดสะบัดเหมือนเส้นด้ายสีดำพันข้อเท้ามันไว้ พอขาเสียจังหวะ คมดาบก็วกกลับจากต่ำขึ้นสูง กรีดจากอกถึงขากรรไกร ไฟที่ปะทุสะดุดวูบเหมือนโดนดึงลมออกไป
เสียงข่วนหินด้านหลัง ตัวที่สามลอบมาทางบังหิมะ เธอไม่หัน ดันส้นเท้าขวาแล้วซัดดาบกลับหลังเป็นเสี้ยวจันทร์ เศษหินปลิวกับประกายไฟแตกพราว ดาบพาดติดแก้มมันพอดี เธอพุ่งตามแทงสั้นปิดชีพจรที่อก เปลวไฟหดเหมือนเทียนโดนแก้วครอบ ตัวสุดท้ายใหญ่กว่าเพื่อน ลวดลายไฟเป็นเกลียวรอบลำตัว พ่นเปลวเป็นพัดกดอากาศจนกอสนล้มระเนระนาด โมนีก้าถอยครึ่งย่าง กวาดตาเช็กลมแล้วกดฝ่าเท้าลงพื้น ส่งแรงเหมือนบอกผืนดิน “นิ่งนะ” รากสนหนาโผล่ขึ้นจากรอยแตกหิน! สลัดตัวบิดพันรอบหางมันชั่ววูบเดียวพอให้ดาบมีหน้าต่าง เธอกระโจนขึ้นบนโขดหินหมุนตัวฟาดฟันกางแสงเป็นวง แหวกเปลวออกแล้ววางคมสุดท้ายตรงท้ายทอย
ไอร้อนจางลงรวดเร็ว หิมะร้องเอียะเบา ๆ เมื่อทิ้งตัวกลับสู่ความเย็นตามธรรมชาติ กลิ่นกำมะถันถูกกลบด้วยกลิ่นไม้สดชื้น โมนีก้าก้มแตะแผ่นดินหนึ่งครั้ง “พักเถอะ” เหมือนคำที่พูดกับภูเขา ลมเหนือยอดสนพริ้วตอบรับเบา ๆ
“สถานการณ์เป็นไง?” เสียงอาเธอร์ดังในหูฟัง
“สี่ตัวเคลียร์ค่ะ จุดร้อนดับหมด ไม่มีไฟลาม” เธอตอบ พลางสะบัดเลือดไฟที่ไม่มีเงากลิ้งออกจากคมดาบกลับเป็นกำไลคล้องข้อมือดังคลิกเดียว “รับทราบ… การขึ้นสกัดพร้อม” เสียงเครื่องร่อนต่ำมาเหนือศีรษะ ประตูท้ายลดระดับพอดีกับความสูงเธอ เธอวิ่งสามก้าว กระโดดคว้าห่วง แรงยกอัดเรือนกายแน่นกับอากาศ เย็นเฉียบ กล้ามเนื้อหลังรับน้ำหนักชั่วกระพริบตาก่อนถูกชักขึ้นอย่างลื่นไหล เธอลงพื้นลำโดยแทบไม่เสียจังหวะ
อาเธอร์เหลือบมามุมตา เห็นท่าทางเข้าลำที่สะอาดกริบถึงกับยกคิ้ว “จัดการได้ยอดเยี่ยม” น้ำเสียงไม่ได้ชมเล่น ๆ แต่คือการยอมรับของนักรบแนวหน้า “ก็แค่จิ้งจกหัวร้อนสี่ตัวค่ะ” โมนีก้าเช็ดถุงมือยิ้มบาง หัวใจยังเต้นระดับปฏิบัติการแต่สม่ำเสมอ
อาเธอร์ปรับคันเร่ง เครื่องไต่ระดับหลบแนวสันเขา “เส้นทางต่อไปโอลิมเปียระยะบินหกนาที เตรียมเช็กระบบร้อนอีกครั้ง เราจะผ่านแนวป่าเปียก ถ้าอะไรซ่อนอยู่ในหมอกจะเห็นชัด”
“โอเคค่ะ” เธอล็อกสายรัด นั่งลึกเข้ากับเบาะ เช็กเซนเซอร์บนแท็บเล็ตนิ้วเรียววิ่งผ่านหน้าจออย่างเคยชิน “รายงานกลาเซียร์: ภัยคุกคามย่อยถูกยับยั้ง สภาพแวดล้อมกลับสู่เสถียรภาพ ไม่มีเชื้อไฟหลงเหลือ” เครื่องบินลาดตระเวนเอียงปีกรับลมตะวันตกเฉียง ใต้ท้องลำคือยอดสนและลิ้นธารน้ำแข็งที่กลับเงียบเหมือนเดิม โมนีก้าเหลียวมองยอดเขาครั้งสุดท้ายไหว้สั้น ๆ ให้ภูเขาที่เพิ่งช่วยกันหายใจ ก่อนหันกลับสู่หน้ากระจกนักบิน
“ไปต่อกันเถอะค่ะ กัปตัน”
“รับคำสั่ง คุณเซ็นจูเรี่ยนบลอสซัม” แล้วอินทรีเหล็กก็เสยลมขึ้นเหนือเส้นสันป่ามุ่งหน้าไปยังโอลิมเปีย เส้นฟ้าเบื้องหน้าเปิดโล่งพร้อมบทต่อไปของวันลาดตระเวนที่เพิ่งเริ่มแสดงเขี้ยวเล็บให้เห็น



มีค่า LUK 80 หน่วย จะได้รับวัตถุดิบ x2
มีค่า LUK 120 หน่วย จะได้รับแก่นวิญญาณซาลาแมนเดอร์ x2
ได้รับ หัวใจซาลาแมนเดอร์ จำนวน 8 ชิ้น 8 x 2 = 16 ชิ้น
ได้รับ แก่นวิญญาณซาลาแมนเดอร์ จำนวน 7 ชิ้น 7 x 2 = 14 ชิ้น
สรุป ได้รับ หัวใจซาลาแมนเดอร์ 8 ชิ้น, แก่นวิญญาณซาลาแมนเดอร์ 7 ชิ้น
+2 ตื่นรู้ จากการจำกัด ซาลาแมนเดอร์ไฟ ครั้งแรก