แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-5 23:54
122 /organize พันธมิตรแห่งตรีศูล
‘พลังใหม่ที่ได้มาต้องใช้ยังไงนะ?’
ไหน ๆ ก็ไปลองของที่ทะเลสาบหน่อยดีกว่า ตอนที่รับพลังมาคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาจะเห็นลูกบอลน้ำลอยรอบตัว หรือว่าเขาจะปล่อยวอเตอร์บอลได้แล้วนะ? เหมือนกับตอนนั้นที่ไรอันใช้น้ำแทนลูกศร
ดีนลองรวบรวมพลังไปที่ฝ่ามือจากนั้นจินตนาการถึงภาพบอลน้ำ จากนั้นหยาดน้ำในทะเลสาบปริมาตรประมาณหนึ่งลิตรก็ยกตัวขึ้น ลอยละล่องมาอยู่บนฝ่ามือของดีน
“เฮ้ย!! ฉันทำได้!!”
เขาโพลงออกมา ความดีใจทำเอากระโดดตัวลอย แต่เมื่อไม่ได้ใช้สมาธิบังคับสายน้ำ บอลวารีก็ตกลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงแตกกระจายไปบนพื้นหญ้าจนชุ่มฉ่ำ
‘ต้องมีสมาธิควบคุมน้ำตลอดเวลาสินะ…’
ดีนอยากจะลองใช้พลังมากกว่านี้ว่าทำอะไรได้บ้าง เขาเลยลองไปหลายอย่าง ทั้งการควบคุมน้ำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ลองควบคุมน้ำขึ้นมาเป็นบาเรียคลุมตัวลดแรงกระแทก บังคับบอลน้ำยิงแทนกระสุน ควบคุมความหนาแน่นของน้ำเพื่อการทรงตัวยืน เดิน วิ่ง รวมทั้งใช้ไอน้ำในอากาศกลั่นออกมาเป็นรูปทรง จากการทดลองพลัง บางอย่างก็ทำได้แม้อาจจะยังไม่ดี แต่บางการทดลองก็ไร้ผล อย่างการบังคับบอลน้ำยิงแทนกระสุน เขายังอัดแรงดันได้ไม่มากพอจึงทำได้เพียงแค่ให้ก้อนหินเปียกแทนที่ยิงจนเป็นรู ส่วนการดึงน้ำจากอากาศนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
แล้วเขายังพบผลการทดลองอีกหนึ่งอย่างโดยบังเอิญ… การควบคุมน้ำใช้พลังมากเกินไปจึงไม่สามารถใช้แหล่งน้ำธรรมชาติรักษาบาดแผลได้ไปพร้อมกัน ส่วนรู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ ดีนไม่กล้าบ้าบินถึงขนาดที่ว่าทำร้ายตัวเองเพื่ออุทิศตนขนาดนั้นหรอก แค่ช่วงนี้เครียดมากไปหน่อยเลยเป็นร้อนในที่ลิ้น… ก็อย่างนั้นแหล่ะ ทำให้รู้ว่าใช้พลังสองอย่างนี้พร้อมกันไม่ได้ แต่เมื่อไม่ควบคุมแล้วลงไปจุ่มน้ำแผลในปากก็หายสนิท
จบการทดลองชั่วคราวแล้วมาทำเรื่องสำคัญอื่นดีกว่า… ซึ่งก็คือการชักชวนปาร์ตี้
ชายหนุ่มตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะดีดเหรียญดรักม่าขึ้นฟ้า ดีนไม่เคยเห็นหน้าของไบร์ทมาก่อนหวังว่าเพียงแค่ชื่อและลายมือสวย ๆ นั่นจะเป็นสื่อนำให้เขาสามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ผ่านเครื่องมือสื่อสารไอริส
ปรากฏแสงรุ้งสะท้อนอยู่บนโล่อัลพิส จากนั้นใบหน้าของหญิงสาวสายเลือดเอเซียคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา
“เฮ้ ไบร์ท! ฉันเองดีน” โบกไม้โบกมือเรียก ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นจะเห็นภาพชัดหรือเปล่า
@Bright
“ใจเย็น ๆ ฉันไม่ใช่ผี นี่คือการสื่อสารผ่านเครือข่ายไอริส”
เห็นอีกคนสะดุ้งก็รีบเรียกสติ คงเพราะเป็นการเปิดใช้งานการสื่อสารที่ออกจะแฟนตาซีแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยตกใจ ดีนะที่ประสบการณ์ครั้งแรกของเขาคือการติดต่อไปเอง เลยมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจไม่ใช่จู่ ๆ ภาพก็เด้งขึ้นมา
“โทษทีที่ติดต่อมากระทันหัน คราวนี้มีเรื่องด่วนที่อยากจะคุยด้วย เขียนจดหมายบอกอาจจะไม่ทัน เธอได้ยินข่าวลือเรื่องคำทำนายน้ำท่วมนิวยอร์กแล้วหรือยัง ถ้ายังไงมาคุยกันที่ทะเลสาบหน่อยได้ไหม?”
@Bright
“อือฮึ” เขาแค่พยักหน้ารับ ถูกเผ็งเลย วีรกรรมของพ่อแต่ละอย่างชวนให้ปวดหัวเสียจริง ไม่มีเรื่องดี ๆ อย่างเช่นช่วยสร้างกำแพงเมืองทรอยนะ “เอาเป็นว่ามาคุยกันก่อนแล้วฉันจะเล่าทั้งหมดให้ฟัง เรื่องมันยาวน่ะ ฉันจะรอนะ ระหว่างเธอเดินมาสายต้องตัดแน่ ๆ”
@Bright
“พาราก็เอาไม่อยู่ คราวนี้พ่อทำงามหน้าเกินไป.. อ้าว–”
ดูเหมือนระหว่างที่ไบร์ทขยับตัวสัญญาณภาพจะถูกตัดไป หรือไม่ก็เป็นทางเขาเนี่ยแหล่ะที่องศาภาพไม่ดี สงสัยถ้าว่าง ๆ คงต้องถวายของเพื่อคอมเพลนเทพีไอริสหน่อยแล้ว สัญญาณห่วยเกิ้น
ตอนนี้ก็ได้แต่รอ…
@Bright
“ฮาย สวัสดีไบร์ท อีกทีนึง” ดีนขยับยิ้มให้พี่สาวพลางมองหญิงร่างสูงที่เดินมาหา หน้าตาของเธอจัดได้ว่าทั้งสวยและหล่อในคราวเดียวกัน
‘เดียวนะ.. เธอสูงพอ ๆ กับฉันเลยหรือเปล่าเนี่ย?’
จู่ ๆ ก็รู้สึกเป็นน้องชายตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาทั้งทีแม้ว่าดีนจะมีกล้ามเนื้อจากฟิตเนสและไม่ใช่คนตัวเล็กเลยก็เถอะ แต่ว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่า…
“อืม.. เรื่องคำทำนายว่าพ่อจะถล่มนิวยอร์กน่ะ คือว่าฉันกำลังฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโร่อยู่ มันค่อนข้างอันตรายแล้วเธอก็เพิ่งมาที่นี่ เลยอยากถามว่าเธอสนใจไปสะสางเรื่องนี้ไหมด้วยกันไหม แต่ถ้าลำบากใจจะปฏิเสธก็ได้ แม้พ่อจะงี่เง่านิดหน่อยที่ขู่ว่าจะทำสงคราม แต่ก็ถือว่าเขาเป็นเหยื่อในคดีนี้เหมือนกัน บุตรแห่งเทพโป้ปดอะไรนั่นกำลังปั่นหัวพวกเรา”
เขาเอ่ยปากชวนก่อนจะยื่นกระดาษจดที่ซีร็อกซ์ออกมาให้ไบร์ท ในนั้นเขียนโน้ตเต็มไปหมด
@Bright
พอได้ยินอีกฝ่ายเล่นมุกเขาก็ตบมุกเสียหน่อย “มาร์เวลก็ยังมีเรื่องดราม่านะ ขอเอาแค่เรทเดียวกับเบนเทนพอ”
“วัวโคลคีสเหรอ ตัวอะไร? ฉันไม่เคยเจอตัวนั้นมาก่อนเลย” แน่นอนว่าคนรักตัวกลัวตายอย่างดีนเคยเข้าไปในป่าต้องห้ามแค่ครั้งเดียว อสุรกายที่เขากำราบส่วนมากอยู่ระหว่างการทำภารกิจทั้งนั้น เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสู้ “แต่ถ้าเธอสู้มิโนทอร์กับสิงโตได้แล้วแปลว่าแกร่งของจริง”
สงสัยที่ใคร ๆ บอกว่าสายเลือดสามมหาเทพมีพลังมากกว่าชาวบ้านเขาจนเคยก่อสงครามโลกจะเป็นเรื่องจริง พอรู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งใน ‘วัตถุอันตราย’ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“เอาจริง ๆ มีเทพหลายองค์เลยที่เข้าข่ายว่าเป็นเทพโป้ปด ฉันอัดเสียงตอนที่ปรึกษาคุณไครอนเอาไว้ด้วย เดี๋ยวเปิดให้ฟังแป๊บ” กล่าวจบก็หยิบสมาร์ทโฟนออกมาเปิดเล่นเสียงที่บันทึกไว้ จนมาถึงประโยคที่กล่าวถึงเทพโป้ปด…
‘แล้วก็ต้องคอยระวังบุตรแห่งเทพโป้ปด ผมไม่รู้เลยว่าคือเทพองค์ไหน แบบว่า.. ผมรู้จักแค่โลกิจากหนังน่ะมาร์เวลน่ะ’ ‘เทพโป้ปดตามความเชื่อที่หลากหลายทั่วโลกมีหลายองค์ สำหรับกรีกคือ 'เทพโดลอส' หรืออาจเป็น 'เทพโมมุส' ก็ได้ แต่เทพโมมุสน่าจะใกล้เคียงกับการเป็นเทพแห่งการเยาะเย้ยมากว่า และยังมี 'เทพีอาเพท' เทพีแห่งการหลอกลวง แม้แต่ 'เทพเฮอร์มีส' ก็เคยถูกตีความว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเล่ห์กล ทางฝั่งโรมันก็จะเป็น 'เทพมันเดเชียส' และเทพที่คุณรู้จัก 'เทพโลกิ' จากฝั่งนอร์ส’ ‘แต่เทพเฮอร์มีสไม่น่าจะทำหรือเปล่าครับ แบบว่า.. ทำไปทำไมกันล่ะ?’ ‘เทพเฮอร์มีสถือเป็นเทพอีกองค์ที่เข้าออกแอตแลนติสบ่อยราวกับเป็นชาวเงือก โดยเฉพาะช่วงนี้… แล้วเขาก็เคยขโมยตรีศูลของเทพโพไซดอนมาแล้วครั้งนึง’ ‘คุณจะบอกว่าเทพเฮอร์มีสเข้าออกแอตแลนติสเพราะว่าไปส่งของให้ผมเหรอ? แล้วเทพเฮอร์มีสก็เป็นเทพแห่งการขโมยด้วย…’ ‘อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ผมก็แค่ลองให้คุณวิเคราะห์ดู.. จากคำทำนายระบุว่าเป็นฝีมือของบุตรแห่งเทพโป้ปด ไม่ใช่ตัวของเทพโป้ปดที่แท้จริง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่เดมิก็อดจะลงไปได้ถึงแอตแลนติสโดยไม่มีพลังหายใจใต้น้ำ’ ‘คุณกำลังจะบอกว่าอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นบุตรแห่งโพไซดอนเหรอครับ?’ ‘คุณคิดซับซ้อนดีนะ หรืออาจจะไม่ใช่ด้วยวิธีการนั้น.. แต่ด้วยวิธีการทางเวทมนตร์ การลวงตา การหาเส้นทางลับสู่ใต้สมุทรโดยไม่ต้องดำน้ำลงไปก็ขโมยตรีศูลมาได้ด้วยเช่นกัน’ ‘มีวิธีแบบนั้นด้วยสินะ.. เทพเฮอร์มีสไม่ได้มีพลังแบบนั้นใช่ไหมครับ? ‘มี แต่รายนามเทพที่ผมกล่าวมาบุตรเทพทุกองค์ล้วนมีความสามารถเช่นนั้นหมด’ ‘โอ๊ย หัวจะปวด ทำไงดีล่ะเนี่ย!’
แล้วดีนก็กดพอสคลิปเสียงเอาไว้ที่ตรงนี้
“ฉันไม่รู้เลยว่าเราจะแพ้อะไรกันแน่ อสุรกายธรรมดา อสุรกายห้วงทะเลลึก หรือว่าจะเป็นบุตรแห่งเทพโป้ปด ไม่แน่เราอาจจะชนะทุกอย่างแต่ไปสะดุดที่คาสิโนโลตัสจนเอาตรีศูลไปส่งพ่อไม่ทัน”
@Bright
“สัมฤทธิ์.. แปลว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์สินะ ค่อยโอเคหน่อย”
เขาไม่อยากทำร้ายสิ่งมีชีวิตรูปแบบสัตว์อีก ตอนที่สังหารราชสีห์นีเมียนทำเอาร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหลายวัน
“อืม.. ไม่ต้องสู้แหล่ะ แต่ว่าเราอาจจะเสียเวลากับที่นี่เยอะเลย ของกินรวมถึงกลิ่นหอมภายในคาสิโนโลตัสจะมีฤทธิ์ที่ทำให้ลืมเลือนตัวตนแล้วหลงอยู่ในกาลเวลา จากบันทึกของเพอร์ซีย์พี่ชายพวกเราเขาเคยไปที่นั่น เข้าไปอยู่เหมือนไม่กี่ชั่วโมงแต่เวลาโลกจริงผ่านไปแล้วหลายวัน ทางทีดีถ้าต้องเข้าไปที่นั่นก็ต้องรีบเข้ารีบออก”
“ฉันคิดว่าจะลองเสกฟองอากาศคลุมหัวทุกคนเอาไว้ เดิมทีมันใช้สำหรับการหายใจใต้น้ำ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่า แต่ถ้าไหน ๆ จะถูกทำให้ลืมแล้วล่ะก็ทดลองดูสักนิดก็ไม่เสียหายใช่ไหม? หรือเธอมีวิธีดี ๆ อะไรเสนอบ้าง?”
ทั้งดีนและไบร์ทต่างเป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมเข้าใจหลักการนี้ดี หรืออาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ผ่านการตั้งสมติฐานและการทดลอง
“หยุดยั้งคนชั่วให้ทำผิดไม่ได้จริง ๆ แหล่ะ”
รอยยิ้มกระตุกขึ้นมุมปากทั้งที่สีหน้าเคร่งเครียด ดีนไม่ได้คอมเมนต์อะไรต่อ หากเป็นไปได้ต่อให้เป็นคนร้ายเขาก็ไม่อยากจะสู้ชี้วัดเป็นตาย ต่อให้สถานการณ์นั้นถูกบังคับให้เกิดขึ้นดีนก็ไม่มั่นใจว่าจะกำหนดความเป็นตายไหว ความใจอ่อนนี้คงเป็นข้อเสียใหญ่ที่จะดำรงตนอยู่ได้ในฐานะโลกแห่งทวยเทพที่โหดร้าย
“อีกคนที่เลือกคือเดมี่.. เอ๊ย! หมายถึงเดม่อน เด็กบ้านอะโฟรไดท์ เขาเป็นคนไม่กี่คนที่ไปเฮติแล้วรอดกลับมาได้ แปลว่าฝีมือดีพอตัวเลยแหล่ะ ส่วนเรื่องการต่อสู้ในน้ำ.. ดูนี่”
ดีนลุกขึ้นจากขอนไม้ ทิ้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้ตรงไบร์ทก่อน แล้วจากนั้นเขาก็เดินไปที่ทะเลสาบ เพ่งกระแสจิตลงไปในสายน้ำ ควบคุมให้แผ่นน้ำด้านบนมีความหนาแน่นสูงกว่าปกติ จากนั้นก็ก้าวเท้าลงไปบนพื้นน้ำที่ยวบยาบแต่ว่าไม่จม
“ความสามารถใหม่ เพิ่งได้มา ฉันพอจะทำแบบนี้ได้นิดหน่อย”
จากนั้นก็วิ่งวนให้ไบร์ทดู แต่ควบคุมได้ไม่นานเขาก็หล่นจ๋อมลงไปในทะเลสาบ ก่อนจะปีนขึ้นมา สะบัดหัวเหมือนหมาแล้วทุกอย่างก็แห้งสนิท
“ยังพอมีเวลาต้องฝึกให้เยอะกว่านี้ แล้วก็ทดลองดูด้วยว่าเสกให้หลายคนไหวไหม สงสัยฉันจะต้องเป็นจอมเวทของทีมซะแล้ว” กล่าวพลางกลั้วหัวเราะ จากนั้นก็กลับมานั่งลงที่เดิม
@Bright
“ถ้าต้านทานเวทมนตร์ไม่ได้เห็นทีคงต้องภาวนาให้พวกเราพบกับซาตานไว ๆ”
จากที่คุยกับไครอนมาบอกว่าส่วนมากซาตานพูดความจริง แบบนี้แปลว่าเป็นคนที่เชื่อถือได้สินะ?
“ขอบคุณ รู้สึกจะเป็นพลังที่เอาไว้ใช้ควบคุมน้ำ ขอแค่ที่ตรงนั้นมีน้ำอยู่ก็จะสามารถใช้พลังได้ ฉันลองมานิดหน่อย บังคับน้ำให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ แทนกระสุน หรือว่าโล่ หรือควบคุมความหนาแน่นในปริมาตรที่จำกัด เสียดายที่ดึงเอาน้ำจากอากาศมาไม่ได้ คงเพราะว่าฉันมีพลังไม่มากพอมั้ง หรือไม่หลักวิทยาศาสตร์ก็ใช้ไม่ได้กับทั้งหมด”
“เป็นพลังที่ค่อนข้างจะใช้สมาธิเยอะ แล้วดูเหมือนว่าจะใช้คู่กับน้ำเยียวยาไม่ได้ ฉันคงต้องเลือกระหว่างการเป็นอมตะในน้ำกับเป็นเมจที่ซัพพอร์ตเพื่อน”
ดีนหัวเพราะแห้ง ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักให้ไบร์ท
“เคย แต่ไม่เก่ง ฉันชอบเล่นเฟนนิคนะ แต่ว่าเล่นได้ห่วยบรม”
คาร์แรคเตอร์สัตว์หน้าขนมักจะดึงดูดใจดีนได้เสมอ เห็นตัวละครไหนมีหูมีหางเลือกเล่นไว้ก่อน แต่การต่อสู้จริงกับเล่นเกมมันก็ต่างกัน
“เดมี่อายุน้อยกว่าพวกเราสี่ห้าปีมั้ง ฉันไม่เคยถาม ส่วนหน้าตาก็ต้องดีอยู่แล้ว” จะแซวว่า ‘อย่าหลงเสน่ห์เข้าล่ะ’ แต่คิดว่าบุคลิกแบบไบร์ทน่าจะไม่ “ถ้าเธอหวังจัดตำแหน่งแบบในเกมก็ใช่เลย เขาก็ใช้อาวุธเป็นดาบโล่ น่าจะแทงก์ให้เธอทำดาเมจได้ ติดแต่ว่าเด็กอะโฟรไดท์น่าจะตัวบางกว่าพวกเรา”
เขาไม่รู้ว่าทักษะของบ้านแห่งความงามมีอะไรบ้าง แต่เท่าที่ทราบมาคือเด็กบ้านนี้ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำเพราะมีกลิ่นตัวที่หอมหวานและเนื้อตัวสะอาดอยู่เสมอ เอาจริง ๆ ถ้าไม่รู้ว่าเดม่อนสู้เก่งอาจวางให้เด็กหนุ่มที่พูดถึงเป็นสายดีบัพคอยอ่อยสัตว์ประหลาดให้พวกมันเสียสมาธิ…
@Bright
“อย่างน้อยถ้าสู้กันในน้ำก็มีเธอรอดแล้วคนนึง ฉันเบิกอาหารเทพมาด้วยเดี๋ยวเอาไว้ค่อยไปแจกตอนออกเดินทาง ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมาก็ฝากยัดมันเข้าปากฉันที”
ดีนยิ้มเจื่อน ก็เขาอยากเป็นอมตะด้วยนี่นา นี่หรือเปล่านะคำกล่าวที่ว่า ‘พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง’... เชยสะบัด
“ของมันแน่อยู่แล้ว!” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจกับคำชม ต่อให้ไม่มีใครชมก็ชมกันเองเนี่ยแหล่ะ “แต่คนในค่ายส่วนใหญ่ก็หน้าตาดีนะ เพราะว่าเป็นเดมิก็อดงั้นเหรอ? เลยมีอะไรที่ไชน์ออกมามากกว่าคนธรรมดาทั่วไป”
“ส่วนการต่อสู้ ถ้าเธอไหว..” เขาผายมือให้หญิงสาวว่าเชิญเลยเจ้ “แต่ระหว่างเดินทางก็ต้องสู้บนบกใช่ไหม กับลูกเทพหลอกลวงอะไรนั่น… อาจต้องผลัดกันแทงก์ ส่วนแผนการเดินทางฉันก็มีนะ ปรินท์มาด้วย.. นี่ ส่วนวันที่ก็ตามในนั้นเลย”
ดีนส่งแผนการเดินทางคร่าว ๆ ไปให้ไบร์ท เป็นเส้นทางเดินรถจากนิวยอร์กไปลาสเวกัส เพราะบุตรแห่งโพไซดอนขึ้นเครื่องบินตรงไปสู่ลาสเวกัสเลยไม่ได้จึงจำเป็นต้องนั่งรถบัสไปกัน
“ฉันไม่รู้ว่ามันโอเคไหม ปกติทำอะไรไม่เคยวางแผนมาก่อนเลย.. แผนเลยมีแค่นี้ ส่วนหลังจากออกจากเวกัสค่อยไปคิดอีกที ถ้ามีอะไรเธอเสริมได้นะ”
จะว่าไปอีกฝ่ายดูรักสุขภาพน่าดู งดแป้ง ไขมัน อาหารคลีนงั้นเหรอ.. ก่อนออกเดินทางมันต้องฟาดของโปรดมื้อใหญ่เซ่!
“บร๊ะ! เธอสูงหนึ่งร้อยแปดสิบหกเหรอ สูงมากกกก” ลากหางเสียงยาว แอบเขินเลยที่ต้องบอกส่วนสูงของตัวเอง ทั้งที่ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องเขินร้อยแปดสิบสี่ก็ถือว่าตัวเล็กซะที่ไหน ต้องคำนวนแปลงหน่วยจากฟุตเป็นเซ็นติเมตรนิดหน่อย “ฉัน ร้อยแปดสิบสี่…. จะว่าไปฉันขอถามได้ไหม เธอเป็นลูกครึ่งเอเซียเหรอ?”
@Bright
“มันหน้าตาเหมือนช็อกโกแลต คิดว่ารสชาติไม่น่าจะแย่หรอก”
ดีนบรรยาถึงลักษณะของอาหารเทพที่เขาได้รับมาจากห้องพยาบาล
“ไม่จริงเลย ถ้าทีมมีสามคนหญิงหนึงชายสอง ก็เหมือนกับ แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่แหล่ะ แล้วเธอก็ฉลาดที่สุดในหมู่พวกเรา”
หากว่าไบร์ทเป็นผู้ชายเขาคงตบบ่าอีกฝ่ายไปแล้ว ถึงคนที่นั่งข้าง ๆ จะไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงจ๋าและถือตัว แต่เก็บไม้เก็บมือไว้ก่อนดีว่า ระดับความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนมันต่างกัน
“วางไข่เหรอ พูดตรงชะมัด! ก็จริง ถ้าฉันเป็นเทพก็ต้องเลือกที่สวย ๆ ไว้ก่อน”
พี่ชงมาเขาก็พร้อมรับมุกตบ แต่ถึงจะเป็นสาวสวยแค่ไหนถ้าหลังจากนั้นเข้ากันไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยนิสัยหรืออุดมการณ์ความคิดก็ตามก็ไม่พ้นการแยกทาง เหมือนแม่เขากับพ่อเนี่ยแหล่ะ… แต่เป็นเทพคงไม่ต้องแคร์เรื่องนิสัยใจคอของมนุษย์คู่นอนก็ได้มั้ง ยังไงก็ใช่ชีวิตร่วมกันไม่ได้อยู่แล้ว
“ขอบคุณไบร์ทที่เธอยอมมาเป็นเพื่อนฉัน งี้ก็เหลือแค่อีกหนึ่งคนแล้วที่ต้องไปชวน”
กับเดม่อนน่าจะง่ายมั้ง หมอนั่นเป็นเด็กดีแถมยังเหมือนกับพร้อมจะลุยทุกสมรภูมิ เขาอาจต้องใช้โทรศัพท์ไอริสหาอีกฝ่ายเหมือนที่ทำกับไบร์ทในวันนี้ อีกอย่าง.. มีเรื่องคาใจที่อยากจะตามเด็กนั่นให้รู้เรื่องด้วย
กลิ่นหอมของพอตลอยมาแตะจมูก แม้ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นอะไรแต่มันทำให้เขารู้สึกหิวเค้กสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นมา ดีนไม่ได้รังเกียจคนสูบ เพราะเขาก็เคยสูบบุหรี่ในช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์ก่อนจบแต่ไม่ถึงกับติด
“ว่าแล้วเชียว ก็ว่าอยู่ว่าเธอน่าจะเป็นแซฟฟิก ส่วนของฉันเหรอ.. ไม่รู้สิ ฉันว่าฉันได้หมดอ่ะถ้าสดชื่น” ดีนกลั้วหัวเราะเบา ๆ “โอเค งั้นแยกย้าย ฉันจะลองไปที่แถว ๆ โรงอาหารดูก่อน ชอบเจอเดมี่แถว ๆ นั้น งั้นบายนะพี่สาว เจอกันที่บ้าน หรือไม่ก็วันออกเดินทางเลย”
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากขอนไม้ โบกไม้โบกมือลาไบร์ท เหมือนว่าสายเลือดโพไซดอนจะเป็นพวกชีพจรลงเท้าอยู่ไม่ติดบ้านกันเลยสักคน การพบเจอที่บ้านจึงกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมา จากนั้นดีนก็เดินออกจากทะเลสาป มุ่งหน้าไปทางโถงอาหารเพื่อหาตัวเดม่อนและยัดเค้กสักชิ้นลงท้อง
จ่ายค่าโทรศัพท์ไอริส 5 ดรักม่า (รวมภาษีอยู่ในนี้แล้ว)
|