[ฝั่งตะวันออกของเขตบ้านพัก] ทะเลสาบกลางค่าย

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×


ทะเลสาบกลางค่าย






สถานที่ที่ดีเยี่ยมอยู่ไม่ไกลจากเขตบ้านพัก เพียงเดินมาทางตะวันออกไม่กี่ก้าว

ก็จะถึงบริเวณทะเลสาบเล็ก ๆ กลางค่าย ที่มีลำน้ำไหลออกสู่ทะเลและผ่านป่าต้องห้ามทางเหนือ

ที่นี่เป็นอีกจุดน่ามาพักผ่อน ริมฝั่งน้ำก็สบายตัวแล้ว บรรยากาศที่ร่มรื่นน่านอนหลับสักอิ่ม

หรือเป็นอีกจุดที่เหมาะสำหรับการพายเรือ จีบสาว

หรือการสู้รบระหว่างสงครามไตรภาคีของกรีก ผ่อนคลาย!




แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 3662 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-3-1 18:19
โพสต์ 2024-4-1 00:42:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด






OH MY DAY

เธอได้รับจดหมาย

จากคนที่ไม่คิดว่าจะกล้าส่งมา

เนเรซ่าหลุบสายตาลงมองจดหมายที่เธอได้รับจากรุ่นพี่บ้านไอริสสักคนที่ไม่ทราบชื่อ แน่นอนว่าเธอเปิดมันขึ้นมาอ่านตั้งแต่ตอนที่ได้รับ และเนื้อหาด้านในก็ทำให้เธอถึงประหลาดใจอยู่บ้างกับความบ้าบิ่น หรือไม่ก็ ใจกล้าไม่เข้าเรื่องของฝ่ายที่ตัดสินใจส่งจดหมายมา

ทะเลสาบกลางค่าย คือสถานที่นัดหมายของพวกเขา

ทะเลสาบเล็ก ๆ ที่มีลำน้ำไหลออกสู่ทะเลผ่านป่าต้องห้ามในทางเหนือ สถานที่นัดหมายของใครหลาย ๆ คนเวลาที่ไม่รู้จะไปไหน แต่ต้องการใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจพร้อมกับหากิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไปในตัว มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่แอมบิเวิร์ตพลังงานต่ำอย่างเนเรซ่าจะไม่เคยมาเยือนที่นี่แม้ว่าเธอจะอาศัยค่ายเป็นที่พำนักมาเข้าเดือนที่สองแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่แปลกคือการที่เธอถูกนัดหมายให้มาที่นี่ โดยบุคคลอื่นซะมากกว่า

“ ฉันนี่มันบ้าจริง ๆ ”

เพราะเธอรู้ว่าการนัดหมายครั้งนี้จำเป็นต้องใช้ความทะมัดทะแมง หญิงสาวร่างบางเลือกสวมกางเกงยีนส์เข้ารูปสีอ่อน ตัดกับเสื้อค่ายสีส้มสดที่ยังเรืองรองในความมืดแม้ว่าชั้นนอกสุดจะยังสวมแจ็กเก็ตแฟชั่นทับไว้อีกทีก็ตาม สาวงามบ้านอะโฟรไดท์ผ่อนลมหายใจออกผ่านริมฝีปากจนเกิดเป็นควันเย็น ๆ คลุ้งทั่วใบหน้า ‘ .. ชวนให้นึกถึงตอนที่ยังสูบเลยนะเนี่ย ’

จิ้งจอกสาวหย่อนกายลงนั่งบนท่อนไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ สองแขนขยับเข้ากอดตัวเองเพื่อสร้างความอบอุ่น “ เลือกเวลานัดได้แปลกชะมัด ” หญิงสาวพึมพัมด้วยความหน่ายใจ เนตรครามคมกริบทอดมองเงาสะท้อนของแสงจันทร์บนผืนน้ำ อันที่จริงเนเรซ่าคิดว่าตัวเองมาช้ากว่าเวลานัดแล้วด้วยซ้ำ เธอจงใจมาในเวลาที่ช้ากว่าที่ควร เพื่อก็ทดสอบดูว่าฝ่ายตรงข้ามจะยังรอกันไหม แต่ก็ไม่นึกว่าพอมาถึงแล้วจะดันไม่เห็นตัวถึงขนาดนี้

“ … ให้ตายเถอะ ยังไม่เลยเวลาด้วยซ้ำ ”

เพราะฉะนั้นเธอจะรอเขาอีกหน่อย ยังไงขอบเขตเวลาที่เขาเขียนไว้ว่าอาจจะมาก็ยังไม่ถือว่าเกินในตอนนี้ อีกอย่างความใคร่รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงในการนัดหมายครั้งนี้ก็ยังติดอยู่ในใจ

ในฐานะบุตรสาวแห่งอะโฟรไดท์ เธอจะขอลองเดิมพันด้วยมารยาของทายาทแห่งเทพีผู้มากรัก , ก็ให้มันรู้กันไปสักครั้ง ว่าเสน่ห์อันเป็นพรสวรรค์ที่ได้รับมาจะทำงานได้ดีสักแค่ไหนกันเชียว







แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 200 โพสต์ 2024-4-13 21:45
God
เข้าสู่ช่วงล่องเรือได้เลย  โพสต์ 2024-4-4 20:33
โพสต์ 7000 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-4-1 00:42
โพสต์ 7,000 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-4-1 00:42
โพสต์ 7,000 ไบต์และได้รับ +1 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก แจ็คเก็ต YANKEES  โพสต์ 2024-4-1 00:42
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-4-5 00:57:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด


meet mother




เดม่อนเดินมายังทะเลสาบ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาลิเลียน่าเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นเขาจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้ และพยายามไม่ให้ตัวเองต้องบาดเจ็บสาหัสมาก ภารกิจครั้งนี้ดูจากเนื้อหาแล้วนับว่าหินพอสมควร ดูเหมือนเขาคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกองทัพก๊อบลินมากกว่า 1 ตัว


"แค่ตัวเดียวก็เกือบไม่รอด..." เดม่อนพูดขึ้นก่อนจะถอนหายใจ งานนี้เขาต้องเพิ่มความรอบคอบมากกว่าเดิม


เขาเดินมาจนถึงบริเวณทะเลสาบในตอนดึก ก่อนมองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาแม่ บริเวณนี้ยามดึกนับว่ามีวิวสวยไม่น้อย บางทีถ้าเขากลับมาน่าจะลองชวนลิเลียน่ามาพายเรือเล่นกันดูดีไหมนะ ถึงเขาจะไม่รู้ก็เถอะทำไมถึงคิดเช่นนั้น แต่มันก็ทำให้เขามีรอยยิ้มเผลอออกมา ก่อนจะมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้น


ผ่านไปไม่นานก่อนหมอกลงพื้นที่นี้ ผมเห็นแวบ ๆ มีเรือลำหนึ่งกำลังแล่นมาทางผม หญิงสาวในชุดเช็กชี่ยืนที่เรือแจวด้านหน้า ราวกับเรือกำลังลอยน้ำมาหาผม 


ก่อนหญิงสาวคนนั้นยิ้มให้ผม เธอเดินลงมาหยุดตรงหน้า "ไงจ๊ะ ลูกแม่ แม่เห็นความกล้าหาญของลูกแล้ว"


"อ่า.. ท่านแม่ ท่านเห็นสิ่งที่ผมทำด้วยเหรอครับ" เดม่อนพูดขึ้นก่อนมองท่านแม่ตาไม่กระพริบ เธอนับว่ายังสวยไม่เปลี่ยนไปจากครั้งก่อนที่เจอเลย


"แน่นอนสิจ๊ะ  การกระทำของลูกในเฮติกล้าหาญมาก ลูกไม่ต่างกับปารีสแห่งทรอยเลย อีกทั้ง..." อะโฟร์ไดท์พูดขึ้นก่อนจะยิ้มขำ เธอจะไม่พูดอะไรมากกว่านี้ ความน่ารักของเดม่อนทำให้เธอนึกถึงปารีสจริง ๆ และดูเขาจะต่างกับปารีสตรงที่เขาไม่รู้ใจตัวเอง 


"แม่จะพูดถึงอะไร" เดม่อนถามอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจกับเสียงหัวเราะของท่านแม่ 


"เอาเป็นว่าแม่จะเอาใจช่วยลูกเรื่องนั้นนะ สักวันลูกจะรู้ว่าแม่ต้องการสื่ออะไร" อะโฟร์ไดท์พูดก่อนเธอจะเปลี่ยนสีหน้ากลับเป็นจริงจัง


"ภารกิจครั้งนี้ลูกจะต้องจัดการก็อบลินจำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน พวกมันต้องการทำลายความสวยงามและโรแมนติกของฝรั่งเศสให้กลายเป็นเมืองที่สกปรกน่ารังเกียจ การกระทำพวกมันแม่ไม่อาจให้อภัยได้ หวังว่าลูกจะปกป้องฝรั่งเศสให้รอดจากภัยก็อบลินในครั้งนี้" อะโฟร์ไดท์พูดขึ้นก่อนเธอจะเดินเข้าไปหาเดม่อนและก้มลงกอด


"แม่ก็รักลูกนะ ลูกชายสุดที่รักของแม่" อะโฟร์ไดท์กอดผม เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจถึงความอบอุ่นของแม่ผู้ให้กำเนิด น้ำตาไหลด้วยความซึ้งจนพูดอะไรไม่ออก


"แ..ม่..." เดม่อนพูดอะไรไม่ออกด้วยความตื้นตันใจ


"ถนอมตัวด้วยนะลูกรัก จงนำชัยและความภาคภูมิใจกลับมา" อะโฟร์ไดท์พูดก่อนจะร่ายมนต์สร้างวงแหวนพลังงานสีชมพูรอบตัวผม "แม่จะส่งลูกไปยังฝรั่งเศส" 


"ครับ ผมสัญญาจะจัดการก๊อบลินให้หมด" เดม่อนพูดเสียงหนักแน่น ก่อนผมหลับตา ค่อย ๆ รับรู้ถึงพลังงานรอบตัวก่อนจะเกิดแสงสว่างจนผต้องหลับตาให้สนิทกว่าเดิม




เผื่อหัวเปลี่ยน HEROES [วีรบุรุษผู้โปรดปราน] โบนัสเพิ่มความโปรดปราน+25






แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2024-4-5 00:57
โพสต์ 13174 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-4-5 00:57
โพสต์ 13,174 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนชุดใจปรารถนา  โพสต์ 2024-4-5 00:57
โพสต์ 13,174 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-4-5 00:57
โพสต์ 13,174 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-4-5 00:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x10
x1
x2
x1
x11
x2
x8
x1
x2
x1
x3
x2
x1
x18
x1
โพสต์ 2024-4-20 16:37:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
086
HBD เจโรม แล้วพบกันใหม่

             “เป้าหมายอยู่ที่สองนาฬิกา พอได้สัญญาณแล้วพุ่งเข้าชาร์ตเลยนะ”

             “รับทราบค่ะ!”

             สองศรีพี่น้องต่างวัยแห่งบ้านโพไซดอนทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่หลังต้นซีดาร์สูงใหญ่เปลือกไม้หนาปกคลุมไปด้วยตะไคร่และมอสจากความชื้นของแหล่งน้ำธรรมชาติใกล้ ๆ ที่ตรงนั้นไม่ได้มีเพียงพวกเขาแค่สองคน แต่ยังมีร่างของชายหนุ่มชาวเอเซียผู้หนึ่งที่กำลังนั่งเล่นอยู่บริเวณท่าน้ำคล้ายทำมิวสิกวีดีโอซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพลงอกหักหรือว่าเพลงรักกันแน่ ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน

             “?”

             ด้วยสัญชาตญาณที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดเจโรมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างหลบอยู่หลังต้นไม้ เมื่อเขาหันใบหน้ากลับมามองดีนและรีชาก็กลับมาหลบแทบไม่ทัน

             “ฟู้ว~ เกือบไป” ดีนถอนหายใจโดยมีน้องสาวคนเล็กทำตามทุกกระเบียดนิ้ว “เอาใหม่นะ เราค่อย ๆ ย่องไปกันดีกว่า”

             “โอเคค่ะ”

             เด็กหญิงพยักหน้ารับหงึก ๆ จากนั้นทั้งสองก็ค่อย ๆ ดำเนินการตามแผนการ เท้าทั้งสี่เคลื่อนด้วยด้วยฝีเท้าที่เงียบเชียบดุจแมวเหมียว หลบอยู่หลังก้อนหินและสุมทุมพุ่มไม้ไปเรื่อย อีกสามหลาก็น่าจะถึงเป้าหมายเห็นจะได้

             “เอาเลยรีช”

             ดีนกระซิบบอกตัวเล็กให้สัญญาณ จากนั้นน้องสาวของบ้านก็วิ่งพุ่งเข้าไปใช้สองมือปิดตาคนที่นั่งหันหลังอยู่

             “!!?!!”

             “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู ยู… แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู้ ยู… แฮปปี้เบิ้ร์ธเดย์… แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู้ ยู…”

             “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู ยู… แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู้ ยู… แฮปปี้เบิ้ร์ธเดย์… แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทู้ ยู…”

             ทั้งดีนและรีชาประสานเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดที่ผิดคีย์บ้างอะไรบ้าง ทำเอาคนที่ถูกปิดตาอยู่เปลี่ยนจากท่าทีตกใจเป็นอมยิ้ม และเมื่อมือเล็ก ๆ คลายออกเขาก็เห็นว่ามีเค้กสตรอว์เบอร์รี่ชิ้นเล็ก ๆ สามชิ้นในกล่องพลาสติกราคาถูกอยู่ตรงหน้า มันเรียบง่ายไร้ซึ่งเทียนวันเกิด แต่ราวกับว่าบนขนมเค้กเปล่งแสงสว่างออกมา มันคือประกายของความอบอุ่นจากครอบครัว

             “แฮปปี้เบิร์ธเดย์เจรี่ เป่าเทียนสิ”

             “โอเค เป่าเทียนสินะ” เจโรมหลุดขำ เขาหลับตาทำทีขอพรในใจจากนั้นก็เป่าเทียนอากาศที่มองไม่เห็น “เป็นเซอร์ไพรซ์ที่น่ารักมาก ขอบคุณนะครับ พี่ดีน รีช”

             “ขอให้พี่เจรี่มีความสุขมาก ๆ นะคะ” สาวน้อยอวยพรให้จากนั้นเธอก็ขยับมานั่งห้อยขาริมตลิ่งเป็นเพื่อนเจ้าของวันเกิด

             “เล็กน้อยน่า เป็นเรื่องที่ครอบครัวต้องทำให้กันอยู่แล้ว อ่ะ เอาไปคนละชิ้น” ดีนเปิดกล่องเค้กแล้วยื่นของหวานให้กับเจโรมและรีชา จากนั้นก็ตามมานั่งห้อยขาริมน้ำอีกคนเป็นแถวหน้ากระดานเรียงสาม “จริง ๆ พวกเรามีของขวัญวันเกิดให้นายอีกชิ้นด้วย ลองเปิดดูสิ”

             ดีนหยิบกล่องของขวัญรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีกรมท่าใบย่อม ๆ ที่เขาเหน็บอยู่ด้านหลังขอบกางเกงผ้าร่มใส่สบายส่งให้กับอีกฝ่าย บนนั้นมีตราสัญลักษณ์ของแบรน ‘ไอส์แลนเดอร์’ ประทับ มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าของในนั้นคืออะไร เจโรมทำตาโตแต่ก็ยังไม่ทิ้งความหล่อเหลาเมื่อเห็นของขวัญชิ้นนี้ นาฬิกาข้อมือสายสเตนเลสที่มีหน้าปัดเป็นลายคลื่นน้ำสีเทอควอยซ์



             “โอ้ พระเจ้า! นี่ของแพงไม่ใช่เหรอครับ!”

             “ก็นิดหน่อย ฉันกับรีชแล้วก็พี่ไรอันรวมเงินกันซื้อให้นาย พอหารกันแล้วก็ไม่แพงมากเท่าไรหรอก ลองสวมดูสิ” จะบอกว่าน่าตลกดีไหมที่คนรวยที่สุดในหมู่บุตรโพไซดอนที่ไปช็อปปิ้งมาเมื่อวันก่อนคือหนูน้อยรีชาวัยสิบสองขวบ ถ้าหารสามจริง ๆ ถือว่าดีนติดหนี้เธออยู่นิดหน่อย

             “ใครคือไรอันเหรอ?” เจโรมถามขณะที่หยิบนาฬิกาออโตเมติกขึ้นมาสวมประทับที่ข้อมือข้างซ้าย เขาสวมใส่ได้อย่างพอดีเป๊ะ

             “พี่ชายบ้านโพไซดอนที่เราเจอข้างนอกค่ายน่ะค่ะ เขามีน้องหมาด้วย”

             รีชาตอบแทน ส่วนดีนหน้าเจื่อนนิดหน่อยเพราะว่าเขาสัญญากับอีกฝ่ายไว้ว่าจะไม่พูดถึงเมื่ออยู่ที่ค่าย แต่ก็ดันหลุดชื่อออกไปเสียนี่ แต่ยังไงก็เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง

             “งั้นเหรอ น่าเสียดายจังแฮะ สงสัยว่าผมจะไม่ทันรุ่นเขา จะขอบคุณผ่านอะไรดีล่ะ พี่ได้แลกคอนแทกต์เอาไว้ไหม?”

             “ไม่น่ะ เหมือนพี่แกจะรักความเป็นส่วนตัวเลยไม่มีคอนแทกต์ให้ติดต่อ”

             “ว้า น่าเสียดายจัง”

             ดีนช่วยแถให้ แต่ดีที่เจโรมไม่ได้ถามต่อหรือมีท่าทีเอะใจอะไรคงเพราะโพไซดอนมีบุตรเยอะแยะจะรู้จักหรือไม่ก็ไม่แปลก ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ผิดสัญญาอีกรอบ

             แล้วทั้งสามก็เริ่มกินเค้กที่ซื้อมาและเนื่องในโอกาสพิเศษปริมาณแคลอรี่จึงไม่ถูกยกมาคิดคำนวนให้มาเครียดเรื่องหุ่นเสีย

             “แล้วนายจะกลับไปเมื่อไร หรือว่าอยู่รอบอกลากับใครก่อน”

             “แหมพี่” เจโรมเพียงแค่อมยิ้มแต่ไม่ตอบเรื่องนัด “ภายในวันนี้แหล่ะ ผมขออยู่ที่ค่ายจนกว่าจะพอใจก่อน อีกสักนิดน่ะครับ”

             คล้ายกับว่ารู้กัน ดีนยื่นมือไปตบบ่าน้องชายเบา ๆ คล้ายบอกว่า ‘โชคดีนะ’

             “ถ้างั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายอีกสักหน่อยแล้วกัน เอาไว้เมื่อถึงตอนนั้นที่นายอยากจะใช้เวลาเป็นส่วนตัวก็..” ดีนขยิบตา

             “หนูก็จะอยู่เป็นเพื่อนด้วยค่ะ!” รีชาตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริงโดยไม่รู้นัยยะระหว่างสองหนุ่ม

             “ขอบคุณมากเลยนะทั้งสองคน วันเกิดปีนี้ผมไม่เหงาแล้วล่ะ” หนุ่มหน้าเกาหลีโอบบ่าพี่น้องทั้งสองที่นั่งประกบเขาเอาไว้

             “พอนายไม่อยู่ห้องนอนชายล้วนคงเหงาแน่เลยเจรี่” ดีนกลั้วหัวเราะแล้วกอดตอบน้องชายร่วมสายเลือด “เอาไว้หลังจากนี้ฉันจะหาเพลงวงนายมาฟัง”

             “หนูก็จะฟังด้วย!”

             “พูดกันซะ ยังไม่ถึงเวลาจะลาจากกันจริง ๆ สักหน่อย” เจ้าของวันเกิดมีสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

             หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งพูดคุยสนทนากันจนกว่าจะมีใครมาหาเจโรมหรือจนกว่าที่อีกฝ่ายได้เวลาจากลา…

มอบ [นาฬิกาสปอร์ต] ให้ [เจโรม ปาร์ค ซึงยอน]
           

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-4-20 17:28
โพสต์ 19129 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-4-20 16:37
โพสต์ 19,129 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-4-20 16:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-4-24 12:47:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-4-24 13:07

094
กำลังใจ...จากใครหนอ ขอเป็นทานให้ฝันให้ใฝ่
ให้ชีวิตได้มีแรงใจ ให้ดวงใจลุกโชนความหวัง

             เหรียญดรักม่าถูกดีดขึ้นฟ้า ใจปรารถนาถึงใครบางคนที่ต้องการสนทนาแล้วภาพสีรุ้งก็ปรากฏสะท้อนอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือสีดำที่มันวาว บทสนทนาเริ่มต้นจากแก้วเหล้า แต่ไป ๆ มา ๆ ไหงมาถึงเรื่องหมาได้ก็ไม่รู้

             “ฉันไม่รังเกียจที่จะเป็นหมา ถ้าเอาไปเลี้ยงดี ๆ”

             “ฉันเลี้ยงดีอยู่แล้ว นายก็รู้”

             “จริงด้วย หาข้าวให้กิน พาไปเดินเล่น อาบน้ำ คอยให้ความรักความเอาใจใส่”

             “เห็นไหมล่ะ ว่าแต่ฉันพานายไปเดินเล่นตอนไหนนะ”

             “อ้าว ไม่เคยเหรอ แย่จัง งั้นนายก็บกพร่องละ”

             “แค่พาไปเดินเล่นเอง ติดไว้คราวหน้าแล้วกัน”

             “รีบ ๆ เลย ให้ไว”

             “อยากไปเดินเล่นที่ไหนล่ะ”

             “ปารีส”

             “ปารีส ! เดินเล่นไกลไปหน่อยไหม”

             “ไม่ได้เหรอ ไหน ๆ มีภารกิจของเทพีอะโฟรไดท์ให้บินไปเที่ยวปารีสฟรี ๆ ทั้งที มันน่าสนใจออกนะว่าไหม จะว่าไปนายได้ไปดูบอร์ดข่าวสารที่บ้านใหญ่บ้างไหมเนี่ย?”

             “มีเรื่องแบบนั้นด้วย ไปปารีสฟรี...น่าสนใจดี ฉันยังไม่ได้ไปดูที่บอร์ดเลย สงสัยต้องไปดูสักหน่อย”

             “นายลองไปดู ฉันอยากไปกับนาย”

             “ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปดูที่บอร์ดเลย อย่าเปลี่ยนใจไปกับใครซะก่อนล่ะ”

             “จะให้ฉันไปกับใคร ขี้เกียจเป็นพี่เลี้ยงเด็กเต็มแก่ อยากถูกเลี้ยงมากกว่า เอ้อ ฉันกำลังจะไปสอบเลื่อนขั้นคลาสหอก ภาวนาให้ฉันไม่ถูกสิงโตกินด้วยนะที่รัก”

             “หาคนดูแลนี่เอง แผนสูงใช่ย่อย ว่าแต่สอบเลื่อนขั้นมันอันตรายขนาดนั้นเลย ? ห้ามถูกกิน นายต้องกลับมาอย่างปลอดภัยดีน”

             .
             .
             .

             ในวันเดียวกันเหรียญดรักม่าได้ถูกดีดขึ้นฟ้าอีกครั้ง คราวนี้ภาพสะท้อนของผู้ที่ปรารถนาจะสื่อสารอยู่ในแก้วน้ำสีใสที่โรงอาหาร แสงรุ้งเปล่งประกายงดงามตรงกันข้ามกับจิตใจของผู้ที่จ้องมอง

             “ฉันสอบเสร็จแล้ว อยากกอดตุ๊กตาหมีจัง”

             “เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม นายอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันไปหา”

             “โรงอาหาร นายมาไว ๆ นะแมคซี่”

             “โอเค เดี๋ยวฉันรีบไปเลย นายอยู่ที่นั่นห้ามกระดิกไปไหนเด็ดขาดรู้ไหม”

             การติดต่อจากช่องทางสื่อสารไอริสขาดช่วงไปชั่วขณะ ดีนรอคอยแมคเคนซีอยู่ที่โต๊ะอาหารบ้านไหนสักแห่งที่เขาไม่ได้สนใจ ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็นและเด็ก ๆ ที่ฝึกเสร็จหมาด ๆ เริ่มมาจับจองที่นั่งของตัวเอง แล้วตอนนี้เองทำให้ดีนรู้ว่าเขานั่งอยู่ที่โต๊ะของบ้านแอรีสเมื่อเอลลิสทำหน้าถมึงทึงมาจ้องเผชิญหน้า

             “ฮายเอลลิส ไม่เจอกันตั้งนาน ดูเหมือนว่าฉันจะนั่งผิดโต๊ะ เดี๋ยวขอตัวก่อนน้า”

             หนุ่มบ้านโพไซดอนทำเนียนลุกออกมาโดยไม่รอฟังเจ้าของโต๊ะตอบกลับ ร่างสูงเดินลิ่ว ๆ ออกมาจากโถงอาหารประจำค่าย เมื่อหาที่เหมาะ ๆ ได้เขาก็ดีดเหรียญดรักม่าขึ้นฟ้าเป็นรอบที่สามของวัน ใบหน้าของผู้ที่สื่อสารสะท้อนอยู่บนใบหอกสีทองแดงที่สะท้อนแสงอันริบหรี่ของดวงจะวันที่กำลังจะลับฟ้า

             “แมคซี่ เด็กเริ่มมากันเยอะแล้วฉันอาย เราเปลี่ยนไปเจอกันที่ทะเลสาบดีไหมเพื่อน”

             “เพิ่งบอกว่าอย่ากระดิกไปไหนแท้ ๆ โอเค ที่ทะเลสาบใช่ไหม รอฉันที่นั่นนะ ถ้าอากาศเย็นก็ใส่เสื้อคลุมด้วย”

             “อย่าดุฉัน ขอร้อง”

             “อา...โอเค ฉันจะไม่ดุนาย อย่าร้องไห้สิ”

             สีหน้าของเขาผ่านแสงสายรุ้งคงดูแย่มากอีกฝ่ายถึงเห็นว่าเป็นเช่นนั้น

             “ไม่ร้อง ใครร้อง นายตาฝาดแล้ว”

             ดีนกล่าวกับเงาหน้าแมคเคนซีที่สะท้อนอยู่บนใบหอก แล้วจากนั้นจะวันก็ลับขอบฟ้าทำให้การติดต่อด้วยช่องทางไอริสถูกตัดขาดไป

             “โธ่เว้ย..”

             ชายหนุ่มสบถออกมาเบา ๆ เรียวขายาวทั้งสองข้างเดินจ้ำอ้าวเร็วไวไปยังสถานที่นัดหมาย ..ทะเลสาบกลางค่าย

             ดีนไม่ได้ทำตามที่แมคเคนซีบอก ทั้งเนื้อตัวของเขาไม่มีอะไรสวมทับเพื่อคลายหนาวนอกจากเสื้อชาวค่าย กางเกงยีนส์ขาด ๆ จากการต่อสู้ และชุดเกราะสัมฤทธิ์ที่ตอนนี้เขาถูกน้ำหนักของมันกดทับจนปวดไหล่ไปหมดและมันไม่สามารถช่วยกันหนาวได้ ดีนจึงปลดเครื่องทรงในการสู้รบออกวางไว้พิงขอนไม้ที่ใช้นั่งแทนโซฟายาว มืออันเย็นยะเยือกรวบรวมกิ่งไม้แห้งในบริเวณนั้นมาก่อกองไฟด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการกระทบหิน มันไม่ใช่ประสบการณ์ครั้งแรกที่ใช้ในการก่อกองไฟแคมป์ปิ้งจึงไม่ใช่เรื่องลำบากยากเย็นอะไรเลย ยิ่งเทียบกับเรื่องร้าย ๆ ที่เขาพบเจอมาในวันนี้

             เหรียญดรักม่าเหรียญที่สี่ถูกดีดขึ้นฟ้าเพื่อเปิดสัญญาณการสื่อสาร แล้วภาพใบหน้าที่คุ้นตาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนโล่อัลพิส

             “ฉันมาถึงทะเลสาบแล้ว มาเร็ว ๆ นะที่รัก”

             แสดงสว่างที่มีไม่เพียงพอต่อการสื่อสาร เขาส่งข้อความไปได้แค่นั้นจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไปจนดีนถอนหายใจออกมาเป็นไอสีขาว

             .
             .
             .


[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

             ดีนรออยู่ตรงนี้ได้ไม่นานแมคเคนซีก็มาถึง ในมือของอีกฝ่ายมีคาร์ดิแกนไหมพรมของตัวเขาเองถือมาด้วย

             หากเล่าย้อนไปสักนิดอีกฝ่ายมาถึงค่ายด้วยสภาพสะบักสะบอม เสื้อผ้าที่ใส่ก็มีเพียงชุดเดียว แม้จะมีชุดที่ทางค่ายเตรียมไว้ให้แต่ก็ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ในวันที่ดีนได้พบกับแมคเคนซีอีกครั้งบนเรือยอร์ชในงานฉลองให้สัตว์ทะเล นอกจากทั้งสองจะคุยอธิบายความเป็นมาเป็นไปและปรับความเข้าใจกันแล้ว หลังจากที่เขาลงมาส่งแมคเคนซีที่กระท่อมดีนได้มอบเสื้อผ้าบางส่วนให้อีกฝ่ายได้ยืมใส่ เพราะฉะนั้นชุดที่คนตรงหน้ากำลังสวมอยู่คือเสื้อผ้าของเขาทั้งหมด

             @Mackenzie

             “ขอบคุณ ไม่คิดว่านายจะเอาเสื้อกันหนาวมาให้ฉันด้วย” แม้สภาพของตัวเองในตอนนี้จะไม่น่าดูสักเท่าไรแต่ด้วยความหนาวเขาจึงตัดสินใจสอดแขนลงไปในคาร์ดิแกนสีน้ำตาลที่ถูกหยิบยื่นมาให้ มันช่วยคลายความหนาวแก่ชายหนุ่มไปได้หลายส่วน “ชุดฉันเป็นไง นายใส่ได้พอดีไหม?”

             @Mackenzie

             “เรื่องการสอบมันก็…”

             ดีนหลุบสายตาลงมองมือที่ถูกันไปมาหน้ากองไฟเพื่อให้คลายหนาว เขาพยายามหาคำพูดที่จะทำยังไงให้อีกฝ่ายไม่ต้องเป็นห่วงมากไป แต่ดีนก็เป็นเช่นนี้เสมอ เรียกร้องหาอีกฝ่ายจะเป็นจะตายบอกว่าตัวเองไม่ไหว แต่พอได้เจอหน้าจริง ๆ เขากลับอ้อนไม่ออกทั้งที่พวกเขาทั้งสองก็สนิทชิดเชื้อกันมากขนาดนี้แล้วแท้ ๆ

             “ฉันไม่เป็นไร นายหาแผลบนตัวฉันไม่เจอหรอก”

             แน่อยู่แล้วเพราะว่าเขาได้รับการเยียวยาจากสายน้ำมาจนแทบจะเรียกว่าเป็นอมตะทั้งที่ถูกสิงโตเคี้ยวไปหนึ่งคำแล้วก็ถุยทิ้งไปหนึ่งที

             @Mackenzie
            
             ให้ตายสิ! แมคเคนซีเข้ามาสำรวจร่างกายเขาจริง ๆ ที่ทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่อ้าแขนทั้งสองข้างออกแล้วก็นั่งเฉย ๆ จนว่าอีกฝ่ายจะสำรวจร่างกายเขาจนพอใจ

             “เห็นไหม ไม่มีแผลเลยสักขีดเดียว”

             @Mackenzie

             ดีนไม่รู้สึกว่าคำชมที่ได้รับมันน่ายินดี เขาจึงเพียงแค่กระตุกยิ้มมุมปาก

             @Mackenzie

             “คือว่าไงดี ฉันรู้สึกไม่สบายใจน่ะ.. บททดสอบที่ได้รับคือการสังหารสิงโตนีเมียนแล้วเก็บหนังของมันมา นายรู้จักสิงโตตัวนั้นไหม?”

             @Mackenzie

             “อาฮะ ใช่เลย ตัวนั้นแหล่ะ แล้วฉันเป็นคนรักสัตว์ นายก็รู้ เลยทำใจลำบากนิดนึงตอนที่ฆ่ามัน”

             มือที่ถูกันไปมาตอนนี้เริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขายังจำได้ทุกสัมผัสตอนที่ใช้โล่อัลพิสทุบหัวมันแล้วจับมันกดน้ำจนขาดใจตาย ดีนเคยผ่านการฆ่าก๊อบลิน อัลกูล แม่มดดำ และมิโนทอร์มาแล้ว แต่ทำไมเขาถึงอ่อนไหวกับการสังหารราชสีห์นัก อาจเพราะตอนที่เขาสู้กับอสุรกายดังกล่าวมันไร้ทางเลือก ถ้าเขาไม่ส่งพวกมันกลับทาร์ทารัสก็คงเป็นตัวเขาเองที่ต้องไปยมโลก

             “แมคซี่ ฉันใช้เวลาอยู่นานเลยตอนที่จัดการกับมันที่หมดแรงสู้กับฉันแล้ว เพราะว่าขนมันแทงไม่เข้า ก็เลย… โอ้ พระเจ้า”

             คำพูดจุกอยู่ในอกจนทำให้ดีนพูดออกมาไม่ออก ตอนนี้เขาอยากจะอาเจียนออกมาเมื่อนึกถึงสิงโตที่นอนพะงาบไร้ทางสู้แต่เขาก็เลือกที่จะปลิดชีพมันทั้งที่ถ้าไว้ชีวิตเขาก็ทำได้

             @Mackenzie

             อ้อมกอดของอีกฝ่ายยังคงอบอุ่นและรู้สึกได้รับการพักพิงอยู่เสมอ ซ้ำยังชวนให้ใจเต้นได้ทุกครั้ง ขอบคุณจริง ๆ ที่แมคเคนซีไม่บังคับให้เขาเล่าต่อ ดีนซบหน้าลงกับไหล่กว้าง แม้รู้ว่าตนสามารถระบายทุกอย่างกับคน ๆ นี้ได้แต่เขาก็ไม่อยากจะทำตัวง้องแง้งเอาแต่ใจมากเกินไป ถึงต้องพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้อ่อนไหวไปมากกว่านี้

             “ฉันรู้สึกแย่กับตัวเองมากเลย ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นเพียงเพราะแค่อยากสอบผ่านกันนะ ฉันโคตรจะไม่เข้าใจตัวเองเลยทั้งที่การสอบนี้มันไม่ได้สำคัญอะไรเลยเมื่อต้องเทียบกับชีวิตนึงที่ต้องเสียไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ข้อมูลในระบบก็เถอะ..”

             @Mackenzie

             “เอ่อ.. ก็แบบว่า คล้าย ๆ มอนสเตอร์ในเกมออนไลน์น่ะ แบบถ้ามีคนทำเควสนี้ผ่านแล้วมันก็จะเกิดใหม่ให้คนต่อไปเข้ามาทำเควสอีก.. จากที่ฟังคุณไครอนอธิบายฉันเข้าใจว่าอย่างนั้นนะ” ดีนผละกอดออกมาหลวม ๆ พลางมองใบหน้าของอีกคนด้วยสีหน้าหงุง ๆ “นายคงไม่รำคาญฉันใช่ไหมที่ทำตัวงอแงกับแค่ข้อมูลที่ถูกแบคอัพขึ้นมาใช้งานใหม่น่ะ ก็ฉันรู้สึกไม่ดีนี่นา”

              @Mackenzie

             “ขอบคุณนะที่รักที่เข้าใจฉัน”

             ดีนยิ้มให้อีกฝ่ายจนตาหยี แม้แมคเคนซีจะชอบดุในบางครั้งจู้จี้เรื่องของเขาไม่ต่างกับคุณแม่ แต่ก็เป็นความหวังดีที่อ่อนโยนและรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่เขาได้ระบายเรื่องที่ไม่สบายใจออกมา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสร้างภาระทางใจให้กับอีกฝ่าย

              @Mackenzie

             สังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายดูลำบากใจกับคำเรียก ตอนใช้เครื่องมือสื่อสารของไอริสดีนแทบไม่สังเกตเห็นอากัปกิริยานั้นเลยด้วยซ้ำ อนึ่งเพราะภาพไม่ชัดด้วยแหล่ะ

             “โอ้ โทษทีเพื่อน พอดีว่าฉันติดปากน่ะ แต่ถ้านายไม่ชอบฉันจะพยายามไม่หลุดปากเรียกนายแบบนี้อีกนะ”

             สำหรับดีนคำที่ใช้เรียกคู่สนทนาจะเปลี่ยนไปตามระดับความสนิท ถ้าไม่สนิทเลยก็จะเรียกชื่อเต็ม ๆ สนิทขึ้นมาอีกนิดก็จะเรียกด้วยชื่อเล่นที่เขาแต่งให้เอง ต่อมาก็เรียกว่า 'เพื่อน' และถ้าสนิทเป็นพิเศษก็จะเป็น 'ที่รัก' ซึ่งบนโลกใบนี้จะมีคนที่ดีนเรียกว่าที่รักอยู่ไม่กี่คน คนแรกคือ 'แนนซี่' เพื่อนรุ่นพี่ที่ตรากตรำกับชีวิตการทำแลปและปาร์ตี้กันมาอย่างหนักหน่วง ส่วนคนที่สองก็คือแมคเคนซีที่อยู่ตรงหน้าเขา

              @Mackenzie

             “เรียกได้เหรอ ถ้างั้นฉันจะเรียกนายแบบนี้ต่อไปนะที่รัก” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ว่าดีนก็ไม่หยุดเรียก ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว แม้จะอยากกอด ‘ตุ๊กตาหมี’ ต่ออีกหน่อยแต่เขาก็ตัดสินใจที่จะผละออกมาแล้วกุมมือกันไว้หลวม ๆ แก้หนาวแทน “ที่ฉันบอกว่าจะไปปารีสน่ะ จริงจังนะ นายพร้อมหรือเปล่า?”

              @Mackenzie

             “เหมือนว่างานของเทพีอะโฟรไดท์จะต้องกำจัดก๊อบลินที่สร้างความสกปรกให้เมืองนะ ตอนไปที่เฮติคนธรรมดาจะเห็นว่าก๊อบลินเป็นแรคคูนคุ้ยขยะ ฉันว่าที่ฝรั่งเศสคงไม่ต่างกัน อาจจะเป็นแรคคูน หนู หรือว่าแมลงสาป”

             ดีนไหวไหล่ ถ้าเป็นคนกลัวสัตว์เหล่านั้นอาจรู้สึกขยะแขยง แต่อย่างไรพวกเขาที่เป็นเดมิก็อดย่อมเห็นความจริงว่าสัตว์พาหะนำเชื้อโรคเหล่านั้นเป็นอสุรกายตัวจ้อยสีเขียวอี๋

             “ฉันเคยจัดการมันมาก่อนแล้วไม่ยากเลย นายก็น่าจะสู้ไหว แต่ถึงนายจะสู้ไม่ไหวฉันก็มีของดีอย่างน้ำยาวิเศษรักษาแผล เราไม่น่าจะบาดเจ็บจนถึงตายกัน”

             จากที่รู้จักกันมาแมคเคนซีเป็นหมัดมวยมาก่อน ชั้นเชิงการต่อสู้ถือว่าเหนือกว่าดีนเสียอีกแค่อาจจะต้องสวมเครื่องป้องกันสักนิดก็น่าจะสู้ไหว

              @Mackenzie

             “แล้วถ้ามีเวลาเราก็ไปเดินเล่นกัน ที่ปารีสมีอะไรน่าสนใจนอกจากหอไอเฟลกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์บ้างนะ ฉันตื่นเต้นจัง แล้วเราจะไปกินอาหารฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อกันด้วยไหม? ถ้างี้ก็ต้องแลกเงินด้วย นายอย่าลืมเอาพาสปอร์ตไปล่ะ”

             น้ำเสียงและแววตาของดีนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แตกต่างจากชายหนุ่มผู้เศร้าหมองเมื่อไม่กี่นาทีก่อนลิบลับ ประโยคหลังแม้ว่าจะมีพาสปอร์ตแต่ไม่มีวีซ่า ไม่รู้ว่าเทพีอะโฟรไดท์จะดีลกับตรวจคนเข้าเมืองได้หรือไม่ด้วยเนี่ยสิ

              @Mackenzie

             “โอเค งั้นทำให้หมดเท่าที่จะทำได้”

             ถ้าแบบนี้พวกเขาก็มีเวลาอยู่ที่ปารีสราว ๆ สามถึงสี่วัน หวังว่าเทพีอะโฟรไดท์จะไม่รีบร้อนให้ส่งงานเสียก่อนนะ

              @Mackenzie

             “แล้วก็ฉันมีเรื่องที่ต้องบอกนายอีกเรื่อง… คือ มีภารกิจนึงบนบอร์ด เป็นการกู้ภัยทางทะเล ฉันคิดว่ามันเป็นงานที่เหมาะกับทักษะของฉันมากเลยกะว่าจะไปทำสักหน่อย”

              @Mackenzie

             “คิดว่าพรุ่งนี้เลย ตอนนี้คนที่หายตัวไปยังไม่ทราบชะตากรรม ฉันคิดว่ายิ่งความช่วยเหลือไปเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี นายจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะไปทำภารกิจนั้นก่อนที่จะไปปารีสกับนาย” ดีนเม้มปาก เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะโกรธไหม หรือมีความเห็นอะไรต่อการที่เขาจะไปทำภารกิจกระทันหันแบบนี้

              @Mackenzie

             “ไม่เบี้ยว ฉันไม่เบี้ยวนายแน่นอน มันน่าจะเป็นภารกิจที่ทำวันเดียวเสร็จ.. ล่ะมั้งนะ หรือถ้าหาคนหายไม่เจอฉันก็ไม่ดันทุรังต่อ มันก็ไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร ฉันอยากลองดู ไม่แน่ว่าพอเป็นเรื่องเกี่ยวกับทะเลคุณพ่ออาจจะพอช่วยไกด์ไลน์ให้ก็ได้”

              @Mackenzie

             ดีนเงยหน้ามองท้องฟ้าที่บัดนี้ถูกย้อมด้วยความมืดจนกลายเป็นสีเข้ม ด้วยความที่พวกเขาอยู่ที่เนินฮาล์บลัดไร้แสงสีจากตึกรามบ้านช่องมาบดบังทัศนวิสัยจึงเห็นดวงดาวเด่นกระจ่างฟ้า



             “ท้องฟ้าสวยจัง” ดวงตาสีเปลือกไม้สะท้อนแสงดาวเป็นประกายระยับ “เอาไว้วันไหนว่าง ๆ เรามาตั้งเต็นท์ค้างคืนริมทะเลสาบกันดีไหมแมคซี่”

             @Mackenzie

             “คุณไครอนคงไม่ว่าอะไรมั้ง ขนาดเรื่องอันตรายเขายังส่งเด็ก ๆ ไปทำเหมือนเป็นเรื่องปกติเลย กับอีแค่ขอตั้งแคมป์ดูดาวในค่ายคงไม่เสียหายอะไรหรอก” ดวงตาหวานฉ่ำของชายหนุ่มหน้าละตินเบนสายตาจากท้องฟ้ายามค่ำหันมามองคู่สนทนาตรงหน้า “หรือถ้าเขาไม่ให้เราก็แหกกฎเลยเป็นไง?”

              @Mackenzie

              “โอ้ ตายล่ะ! ฉันเคยสัญญากับนายเอาไว้นี่นาว่าจะมาปิกนิกที่ลองไอแลนด์ ขอโทษจริง ๆ เพื่อนฉันลืมไปซะสนิทเลย แต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่กันที่ลองไอแลนด์นะ ให้ฉันชดใช้ความผิดนี้ได้ไหม?”

              @Mackenzie

              “หือ?” ดีนมองแมคเคนซีตาปริบ ๆ เมื่อถูกทักเรื่องคำเรียก “นายชอบให้ฉันเรียกนายว่า ‘ที่รัก’ มากกว่า ‘เพื่อน’ งั้นเหรอ? เอางั้นก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว งี้ฉันเรียกนายว่าที่รักแทนคำว่าเพื่อนตลอดไปเลยเป็นไง”

              ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะ เขาใช้ศอกสะกิดแหย่คนข้าง ๆ อย่างเช่นที่เคยทำอยู่บ่อย ๆ

              “งั้นวันนี้เราก็ดูดาวที่นี่กันให้หนำใจแล้วค่อยกลับไปที่กระท่อมกันนะที่รัก ส่วนเรื่องตั้งแคมป์เอาไว้ค่อยนัดกันอีกที ยังไงทั้งฉันและนายก็มีเวลาว่างกันอยู่อย่างเหลือเฟืออยู่แล้วใช่ไหมล่ะ”

              @Mackenzie

              ทั้งสองพูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยอย่างเช่นแผนการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องตั้งแคมป์ อาจจะมีเรื่องการใช้ชีวิตในค่ายและเรื่องข้างนอกกันอีกสักหน่อย พวกเขาอยู่ตรงนี้กันนานจนเรียกเสียงหาวกันออกมาถึงพากันดับไฟแล้วกลับไปยังกระท่อมหมายเลขสามและยี่สิบ


จ่ายค่าโทรศัพท์ไอริส 5 ดรักม่า


แสดงความคิดเห็น

07. HealingM …นายไปเจออะไรมาบ้างนะ… แมคเคนซีได้รับข้อความจากดีนผ่านช่องทางสื่อสารไอริสเมื่อไม่นานมานี้ อย่า  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-4-25 14:44
God
อย่าลืมโอนดรักม่า(โยนลงน้ำ)  โพสต์ 2024-4-24 13:08
โพสต์ 46922 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-4-24 12:47
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-4-25 14:44:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-4-24 12:47
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-4-24 13:07 094กำลังใจ...จาก ...

07. Healing
M


…นายไปเจออะไรมาบ้างนะ…

แมคเคนซีได้รับข้อความจากดีนผ่านช่องทางสื่อสารไอริสเมื่อไม่นานมานี้ อย่าถามเลยว่าเขาใช้มันเป็นได้อย่างไร ก็คนที่ติดต่อมานั่นล่ะที่เป็นคนสอน ไม่รู้เหมือนกันว่าจากการสนทนาเรื่องสัพเพเหระกลายมาเป็นเรื่องชวนเครียดอย่างเรื่องสอบไปได้อย่างไร แน่นอนว่าไม่ใช่แมคเคนซี…แต่เป็นดีน อีกฝ่ายมาถึงค่ายฮาร์ฟบลัดก่อนเขาร่วมเดือน คงจะคุ้นชินกับการอยู่ในค่ายได้อย่างราบรื่นแล้ว ผิดกับตนที่คงต้องยังปรับตัวอีกหลายอย่าง และยังมีอีกหลายเรื่องให้เรียนรู้ ได้แต่หวังว่าสักวันเขาจะไล่ตามดีนและอีกหลาย ๆ คนในค่ายทัน แม้จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม

ข้อความของดีนหายขาดช่วงไป แน่นอนว่าแมคเคนซีค่อนข้างกระวนกระวายไม่ใช่น้อย ระหว่างนั้นยอมรับว่าอยู่ไม่ติดที่ จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร เมื่อข้อความที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ก่อนจะหายไปคือ

‘ฉันกำลังจะไปสอบเลื่อนขั้นคลาสหอก ภาวนาให้ฉันไม่ถูกสิงโตกินด้วยนะที่รัก’

ไม่รู้ว่าข้อความนั้นดีนส่งมาหยอกเขาตามประสานิสัยขี้เล่นหรือไม่ แต่จากเหตุการณ์ที่เขาประสบเมื่อตอนเดินทางมาที่ค่าย มันทำให้เขาค่อนข้างเชื่อที่ดีนบอก และหากมีการสอบเช่นนั้นจริง มันก็อันตรายมากทีเดียว

เขาเดินไปเกือบจะรอบตัวบ้านพักหมายเลข 20 ทั้งบริเวณหน้าบ้านซึ่งมีรูปปั้นของเทพีเฮคาทีมารดาแห่งตนตั้งเด่นเป็นสง่า ห้องนั่งเล่นส่วนกลางที่ไร้ซึ่งสมาชิกในบ้าน พวกน้อง ๆ ของเขาคงกำลังไปศึกษาเรื่องเวทมนตร์ที่ห้องสมุดกันเหมือนเคย และสุดท้ายก็กลับมาที่ห้องนอนตนเอง ร่างสูงเอนกายเหยียดขาพิงศีรษะกับหัวเตียง เรียวคิ้วเริ่มขมวดมุ่นเข้าหากัน สุดท้าย…ข้อความของคนที่เขาเฝ้ารอก็ส่งมาอีกครั้งในช่วงเย็นวันเดียวกัน

‘ฉันสอบเสร็จแล้ว อยากกอดตุ๊กตาหมีจัง’

แค่ข้อความนั้นก็ทำให้แมคเคนซีเด้งตัวขึ้นจากเตียงได้แล้ว ในตอนแรกพวกเขานัดกันที่โรงอาหาร แต่พอผ่านไปสักพักดีนก็เปลี่ยนสถานที่เป็นทะเลสาบกลางค่ายแทน สีหน้าของอีกฝ่ายดูไม่ค่อยสู้ดีนัก การสอบมันยากขนาดนั้นเชียว แต่คิดไปเองก็เพียงเท่านั้น เขาไปฟังจากปากเจ้าตัวเองเลยดีกว่า


โดยไม่ปล่อยให้ดีนรอนาน แมคเคนซีรีบมาถึงที่นัดหมายในเวลาไม่นานนัก ถึงจะบอกว่าให้อีกฝ่ายใส่เสื้อคลุมเนื่องจากอากาศเย็น แต่เขารู้ดีว่าหากดีนมีเรื่องอะไรในใจ บางทีก็มักจะลืมดูแลตัวเอง แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ โชคดีเหลือเกินที่เขาหยิบคาร์ดิแกนไหมพรมของอีกฝ่ายที่ให้ไว้เมื่อครั้งที่พวกเขาเจอกันครั้งก่อนติดมือมาด้วย แต่จะน่าตกใจไปหน่อยก็ตรงสภาพของคนตรงหน้าที่เหมือนเพิ่งไปผ่านศึกหนักมา ทั้งเสื้อค่ายเขรอะ ๆ กางเกงยีนส์ขาด ๆ รวมไปถึงชุดเกราะที่วางพิงขอนไม้นั่น และที่สำคัญคือสีหน้าของดีน

“นายดูเหนื่อยนะ แล้วฉันบอกให้ใส่เสื้อคลุมมาก็ยังดื้ออีก อากาศเย็นแบบนี้เดี๋ยวก็ป่วยพอดี เอ้า ใส่นี่ซะ”

ถึงจะบ่นแต่แมคเคนซีก็ยื่นเสื้อในมือของตนเองให้อีกฝ่าย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ฉันรู้ว่านายต้องลืมหรือไม่ยอมเอามาแน่ อืม…ก็พอดี ขอบคุณนะ เสื้อผ้ากับพวกข้าวของเครื่องใช้ที่ห้องฉันคงจะส่งตามมาเร็ว ๆ นี้”

หลังจากที่เขาติดต่อพ่อให้เป็นธุระเรื่องการเรียนมหาวิทยาลัย รวมถึงติดต่อเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยเพื่อให้ช่วยเรื่องห้องพักที่เขาเช่าอยู่รวมถึงเก็บของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ ส่งมาที่นี่แล้ว ก็ยังต้องติดต่อไปที่มิดไนท์โวลุ่มคลับเพื่อขอลาออกจากการทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นั่นอีก ที่จริงก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ผิดคาดที่เจ้าของคลับกลับเข้าใจเขา พร้อมทั้งบอกว่าหากอยากกลับไปทำงานที่นั่นเมื่อไหร่ก็ยินดีต้อนรับเสมอ

“แล้วเรื่องสอบของนายล่ะ เป็นยังไงบ้าง”

พอนึกเรื่องนี้ได้ แมคเคนซีก็ถามขึ้นมาทันที

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ถึงดีนจะบอกแบบนั้น แต่ดูท่าทางแล้วไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย มีอย่างที่ไหนบอกว่าไปสู้กับสิงโตมาแต่ไม่มีแผลเลยเนี่ยนะ หมอนี่จะตลกร้ายใส่เขาเกินไปหรือเปล่า

“นายโกหกฉันหรือเปล่า ดูเสื้อผ้านายสิ ขาดรุ่งริ่งขนาดนี้ มาบอกว่าไม่มีแผลงั้นเหรอ อยู่เฉย ๆ เลย”

ไม่ว่าเปล่า แมคเคนซีขยับตัวเข้ามาใกล้ จับใบหน้าดีนหันซ้ายหันขวา อืม…ก็ยังหล่อดูดีเหมือนเดิม จากนั้นก็จับแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่ายกางออก เลิกเสื้อขึ้นดูเพื่อสำรวจบาดแผลไปทั่วตัว รวมถึงถกขากางเกงยีนส์ขึ้นด้วย ราวกับอาจารย์ที่กำลังตรวจร่างกายให้นักเรียนในคาบสุขอนามัยไม่มีผิด

“ไม่มี…ไม่มีแผลเลยจริง ๆ ด้วย”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ชายหนุ่มขยับกลับมานั่งที่เดิม ใบหน้าติดจะทึ่งปนประหลาดใจเสียด้วยซ้ำ

“นายทำได้ไง นี่คือพลังของลูกเทพโพไซดอนงั้นเหรอ มัน…สุดยอดเลย”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เอ่อ…แต่นายคงไม่ได้อยากเจอฉันแค่เรื่องนี้หรอกใช่ไหม มีอะไรอยากเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า”

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ต่างไปจากเดิม แมคเคนซีจึงเริ่มเข้าเรื่อง ใช่…ดีนดูผิดปกติไปตั้งแต่ที่กลับมาจากการสอบเลื่อนขั้น สังเกตได้จากการที่ร้อนรนจะเจอเขา แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม เลือกที่จะเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้กับตัวเอง ทั้งที่เรียกเขามาแท้ ๆ คราวนี้เลยต้องลองถามออกไปอย่างตรงไปตรงมาดู

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“สิงโตนีเมียน…….”

แมคเคนซีทวนชื่อของสัตว์ที่ดีนเพิ่งเอ่ยออกมา บอกตรง ๆ ว่าแทบจะลืมไปแล้ว อาศัยว่าเขาเคยทำพาร์ทไทม์ที่ร้านหนังสือเมื่อตอนที่ย้ายมานิวยอร์กใหม่ ๆ ช่วงนั้นก็มีหยิบเอาหนังสือเล่มที่น่าสนใจมาอ่านดูบ้างเมื่อมีเวลาว่าง เรียกได้ว่าแทบจะขุดออกมาจากความทรงจำส่วนลึกเลยทีเดียว

“นายหมายถึงสิงโตที่ฟันไม่เข้า แต่ถูกเฮอร์คิวลิสกำจัดได้สำเร็จน่ะเหรอ”

เขาลองถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ แล้วถ้าหากว่าใช่จริง ๆ ก็หมายความว่าดีนเพิ่งไปฆ่าสิงโตตัวนั้นมา…อย่างนั้นเหรอ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เป็นอีกครั้งที่แมคเคนซีรับฟังสิ่งที่ดีนเล่าเพียงเงียบ ๆ หากแต่ดวงตาสีเฮเซลกลับจ้องมองที่ฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่ายที่ถูกันไปมาไม่วางตา ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม ทั้งที่พวกเขานั่งผิงไฟกัน แต่อาการมือสั่นของดีนเหมือนกำลังจะบอกว่าสิ่งที่เจ้าตัวเพิ่งไปประสบพบเจอมากำลังทำให้เหน็บหนาวถึงขั้วหัวใจ สายตาของเขาเลื่อนจากฝ่ามือมามองใบหน้าคมคายของอีกฝ่ายซึ่งบัดนี้ดูเต็มไปด้วยความเสียใจและสับสน ไม่รู้ทำไมมันถึงส่งผลให้เจ็บแปลบที่อกด้านซ้าย…แต่หากเป็นเขา หากต้องลงมือทำร้ายอะไรสักอย่างซึ่งเป็นที่รักใคร่ชอบพอแล้ว ไม่แน่ว่าตนเองก็คงตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากดีนในตอนนี้เช่นกัน

“ไม่เป็นไร นายไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ฉันมาอยู่ข้าง ๆ นายแล้วนี่ไง”

ไม่รู้แล้วว่าอะไรจะสามารถเยียวยาอีกฝ่ายไปได้ดีกว่านี้ แมคเคนซีวางมือลงบนหลังมือที่สั่นเทาของดีนแล้วบีบไว้ ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด จากนั้นก็ตบที่หลังแล้วลูบเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน หากนี่คือสิ่งที่สามารถทำให้คนตรงหน้ารู้สึกดีขึ้นกับเรื่องที่เพิ่งไปเผชิญมาได้เขาก็ยินดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ประโยคสุดท้ายทำให้มือที่ลูบหลังคนที่กำลังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจอยู่ชะงักไป แมคเคนซีค่อย ๆ ผละกอดออกมา เรียวคิ้วที่เลิกขึ้นเหมือนเต็มไปด้วยคำถาม

“เมื่อกี้นายว่าไงนะ…ข้อมูลในระบบ ?”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อ่า…….”

หลังจากฟังดีนอธิบายจบแล้วก็เกิดอาการอึ้งกิมกี่ไปชั่วขณะ ในหัวเกิดแบลงค์ขึ้นมากะทันหัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายอธิบายนะ แต่มันค่อนข้าง…เมื่อกี้เขาทำอะไรกันนะ ปลอบดีนที่กำลังเศร้าเพราะฆ่าสิงโตที่เกิดใหม่ซ้ำ ๆ เหมือนพวกบอสในเกมใช่ไหม ได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจแล้วมองคนตรงหน้าตาปริบ ๆ

“โอเคดีน…ฉันเข้าใจ มันเป็นข้อมูลระบบที่จำลองขึ้นมา ฉันเข้าใจถูกใช่ไหม แต่ยังไงมันก็คือสิ่งที่นายชอบ มันคงทำร้ายจิตใจนายมาก ถ้าฉันต้องทำอะไรแบบนี้กับแอนโทนี่หรือแอนดริวฉันก็คงลำบากใจเหมือนกัน”

สุดท้ายก็เลือกที่จะส่งยิ้มเล็กน้อยให้แล้วตบบ่ากว้างเบา ๆ เขาไม่คิดว่าเรื่องที่อีกฝ่ายนำมาเล่าให้ฟังนั้นไร้สาระ ดีนก็แค่อ่อนไหวกับเรื่องนี้ และเขาเข้าใจดี ตรงกันข้ามกลับดีใจเสียอีกที่คนตรงหน้าไว้ใจที่จะเล่าให้ฟัง

“ว่าแต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนสรรพนามเรียกกันแล้วงั้นเหรอ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อา…ไม่ ! ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่าไม่ได้ไม่ชอบ นายสะดวกใจเรียกแบบไหนก็เรียกเถอะ”

แม้แต่ตัวเองยังแปลกใจที่รีบบอกไปอย่างนั้น เขารู้ตัวเองดีว่าเป็นพวกรักษาระยะห่างกับคนอื่นมากแค่ไหน หากไม่สนิทสนมกันมากเพียงพอก็จะอนุญาตเพียงแค่ให้เรียกชื่อเต็มหรือนามสกุล จะมีก็แต่น้อง ๆ ที่บ้านพักหมายเลข 20 เท่านั้นที่อนุญาตให้เรียกว่า ‘พี่แมค’ ตั้งแต่แรกเจอด้วยเกรงว่าจะพากันงอแงหากไม่ตามใจ แต่คนตรงหน้าคนนี้ไม่เพียงแต่จะเรียกเขาว่า ‘แมคซี่’ หลังเจอกันเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ตอนนี้ยังพัฒนามาเรียกว่า ‘ที่รัก’ อีก แต่ว่ากันตามตรงแล้วแมคเคนซีก็ไม่ได้รังเกียจหากจะถูกดีนเรียกเช่นนั้น เพราะอะไรกันนะ เอาเป็นว่าเว้นไว้สักคนก็แล้วกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

แมคเคนซีหลุบตามองมือที่ถูกกุมอยู่หลวม ๆ แล้วกุมมืออีกฝ่ายตอบ ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมาจ้องคนตรงหน้าแล้วเข้าเรื่องต่อ

“อืม…บอกว่าได้ก็คือได้ ส่วนเรื่องไปปารีส นายอยากได้คนเลี้ยงดูไม่ใช่เหรอ ฉันจะไปด้วย จะพานายไปเดินเล่น แต่ดูแล้วคงไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกันเฉย ๆ ใช่ไหม”

ถ้าจำไม่ผิดตอนส่งข้อความคุยกัน เหมือนดีนว่าต้องไปทำภารกิจอะไรสักอย่างด้วย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ฟังอีกฝ่ายอธิบายแล้วแมคเคนซีก็เงียบไป มาแล้วสินะการต่อสู้กับมอนสเตอร์…ที่ดีนเคยบอกว่าถูกแรคคูนกัดที่แขนจะหมายถึงแบบนี้หรือเปล่า แล้วกับคนที่ยังไม่เคยเข้าคลาสเรียนเพื่อไปกำจัดมอนสเตอร์อย่างเขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่อย่างน้อยเขาก็จะไม่ไปเป็นตัวถ่วงให้ดีนต้องลำบากคนเดียวเด็ดขาด

“โอเค ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะโฟกัสกับเรื่องไปเที่ยวแทนเสียแล้ว ก็ดีเหมือนกัน มันทำให้เขาก็ผ่อนคลายลง อย่างน้อยก็รู้สึกว่าถ้าพวกเขาอยู่ด้วยกันแล้วจะไม่เป็นอะไร

“ได้ทุกอย่างที่นายอยากทำเลย ฉันสัญญาว่าจะเลี้ยงดูนายให้ดี”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อืมฮึ…..”

แมคเคนซีเพียงแค่ยิ้มน้อย ๆ แล้วโคลงศีรษะไปมารับเท่านั้น แต่ในใจก็คิดว่าเหมือนกำลังจะพาเจ้าหมาตัวโตที่กำลังดี๊ด๊าไปเดินเล่นจริง ๆ นั่นแหละ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“หืม…สอบเสร็จก็ไปทำภารกิจต่อเลยเหรอ พลังงานล้นเหลือเกินนะ แล้วไปเมื่อไหร่”

ฟังแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้อยู่หรอกว่าดีนเป็นพวกไม่อยู่กับที่ มักจะหาอะไรทำไปเรื่อย แต่ถึงขนาดไม่พักแบบนี้เชียวเหรอ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ฉันจะไปว่าอะไรนาย ดูเป็นเรื่องใหญ่ออกขนาดนั้น คนพวกนั้นก็ดูน่าเป็นห่วงซะด้วยสิ แต่ยังไงนายห้ามเบี้ยวนัดฉันเด็ดขาด”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อืม…ฉันเชื่อนาย อย่าทำอะไรเกินตัว แล้วก็…กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ”

บอกเพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ถึงดีนจะมีพลังพิเศษที่ได้รับมาจากเทพโพไซดอนก็ตาม แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ปรารถนาให้อีกฝ่ายกลับมาอย่างปลอดภัยและอย่าได้พบเจอเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจอีกก็พอ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เอาสิ แต่ที่นี่มีกฎห้ามตั้งแคมป์หรืออะไรไหม”

เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ไม่รู้ว่ามีกฎยิบย่อยอะไรอีกบ้าง เป็นครั้งแรกที่แมคเคนซีคิดว่าเขาคงต้องศึกษากฎระเบียบของค่ายฮาร์ฟบลัดให้ละเอียดขึ้นมาสักหน่อย…แต่จะทำตามทั้งหมดไหมก็อีกเรื่อง

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็หลุดหัวเราะออกมา ดวงตาสีเฮเซลสบประสานกับดวงตาสีเปลือกไม้ของคนตรงหน้าพอดิบพอดี

“เอาจริงฉันก็ไม่ค่อยสนเรื่องกฎเท่าไหร่ ถ้ามันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน นายกล้าหรือเปล่าล่ะ จะว่าไปเมื่อหลายเดือนก่อนนายก็เคยบอกจะเป็นไกด์พาฉันมาที่นี่ ฉันยังจำได้นะ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ฉันน่าจะยังอยู่ที่นี่อีกยาว นายจะชวนฉันปิกนิกสักกี่สิบรอบก็ยังได้”

แมคเคนซียักไหล่ ฟังดูไม่เลว แทบจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองจัดปิกนิกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

“ว่าแต่กลับมาเรียกเพื่อนแล้ว ? ตกลงนายจะเรียกฉันว่าอะไรกันแน่”

แกล้งถามไปอย่างนั้น ที่จริเขาไม่ได้ติดใจหากว่าดีนจะเรียกเขาว่าอะไรก็ตาม

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ก็บอกแล้วไงว่าแล้วแต่นายสะดวก”

แมคเคนซีใช้ศอกถองกลับเอาคืนไปเบา ๆ ทีนึง แล้วเท้าแขนกับขอนไม้เงยหน้าขึ้นมองดาวต่อ เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่รู้สึกว่าได้ใช้ช่วงเวลาแบบนี้กับใครสักคนก็วิเศษเหมือนกัน

“อย่างนั้นก็ได้ แต่พรุ่งนี้ห้ามลืมสัญญาล่ะ กลับมาอย่างปลอดภัยนะดีน”




แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ดี: 5
❤❤❤❤❤  โพสต์ 2024-4-25 15:05
โพสต์ 35520 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-4-25 14:44
โพสต์ 35,520 ไบต์และได้รับ +10 EXP +6 เกียรติยศ +8 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับภูตผีปีศาจ  โพสต์ 2024-4-25 14:44
โพสต์ 35,520 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-4-25 14:44
โพสต์ 35,520 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2024-4-25 14:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-4-27 21:37:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

◇◆ 34 ◇◆


สายตามองทอดดูทะเลสาบสีคราม เป็นวิวทิวทัศน์อันแสนงดงามถึงแม้ว่าทะเลสาบแห่งนี้มันจะเป็นขนาดเล็ก ทำให้ฉันนั้นนึกถึงท้องทะเลมหาสมุทร


อยากล่องเรือ ไม่ก็เก็บซากสัตว์ใต้ทะลตัวใหม่ ๆ มาทำการวิจัย พวกอสุรกายก็ไม่สามารถนำมาวิจัยได้ในเมื่อหลังสังหารพวกมันสลายกลายเป็นละอองสีทองหายวับกลับคืนสู่ทาร์ทารัส มือแตะสัมผัสแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ อาการบาดเจ็บถูกเยียวยาโดยฉับพลัน


เป็นความสามารถพิเศษของสายเลือดบุตรธิดาแห่งโพไซดอน รักษาอาการบาดเจ็บหรือรอยบาดแผลต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว วงการแพทย์ต้องสั่นสะเทือน


"เป็นเธอสินะที่ต้องการช่วยเหลือเมืองแห่งข้า"


ไบร์ทหันไปมองต้นตอของเสียง เผยกายงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้างดงาม ทั้งรูปร่างท่าทางและแม้กระทั่งอากัปกิริยาต่าง ๆ ที่หญิงสาวผู้นั้นแสดงออกมา


สวยจนตะลึง


"เอ่อ" อึกอักในคำพูด ไบร์ทไม่เคยเจอผู้หญิงคนใดที่สวยเช่นนี้มาก่อน โดดเด่นเสียยิ่งกว่าผู้ใดทั้งปวง "ท่านคือเทพีอะโฟร์ไดท์ ฉันไบร์ท เอมส์เป็นธิดาของโพไซดอน"


"นามนั้นเป็นข้าเอง" เทพียกยิ้ม "ไม่ต้องบอกข้าก็รู้ ข้าได้เห็นในสิ่งที่เจ้าทำก่อนหน้า พลังแห่งสายน้ำ"


โอ้พระเจ้า หัวใจสั่นระรัวเป็นจังหวะกลองชุด


"เช่นนั้นท่านเทพีอยากให้ฉันช่วยเหลืออะไรบ้าง"


"ในรอบศตวรรษแล้วที่เหล่าก็อบลินจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ตามท่อระบายน้ำ ใต้ดินประเทศฝรั่งเศส พวกมันกำลังกระจายตัวสร้างความสกปรกให้กับเมืองของข้า" 


"ผู้ไม่มีสายเลือดกึ่งเทพไม่สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงอสุรกายได้ หมายความว่า พวกมันจำแลงตัวตนคอยสร้างความวุ่นวายใช่ไหม"


"ถูกต้อง มนุษย์เห็นก็อบลินเป็นแค่พลเรือนปกติธรรมดาที่สร้างขยะเท่านั้น ก๊อบลินจำนวนมหาศาลจะเริ่มเกิดขึ้นอีกมากมายและพวกมันอยู่กันเป็นกลุ่มซะส่วนใหญ่" เทพีอะโฟร์ไดท์ในร่างมนุษย์กล่าว


"หากเจ้าแน่ใจว่าพร้อมจะไปพิชิตก๊อบลินเหล่านี้ และรอดกลับมาได้ก็จงไปทำซะ ก่อนพวกมันจะเปลี่ยนฝรั่งเศสกลับไปสู่ยุคมืดอีกครั้ง"


สมองรับฟังถึงเนื้อหา 


ดวงตามองความงามบนใบหน้าเทพี


และหูฟังเสียงอันไพเราะชวนเคลิบเคลิ้มให้ตกอยู่ในห้วงภวังค์


"ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือเทพี"


เทพีอะโฟร์ไดท์เดินเข้ามาใกล้ ๆ ปลายนิ้วเรียวแตะบนกลีบปากของฉัน "ไบร์ทข้าจะส่งเจ้าไปยังฝรั่งเศส และเมื่อเสร็จภารกิจ จงกลับมาหาข้าที่หอไอเฟล ข้าจะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นั่น"


"ส่งไปยังไง ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องไปเองหรอกหรอ" ชักเริ่มมึน ๆ งง ๆ 


มันเป็นความรู้สึกของคนที่ประหม่า ได้เจอเทพตัวเป็น ๆ ถึงจะไม่ได้ อยู่ในร่างเทพ กระนั้นก็ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น


"เจ้าไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปเอง"


"ถ้าอย่างงั้น ?"


"หลับตาลงสิ"


ฉันทำตาที่เทพีแห่งความรักพูดทุกอย่าง เมื่อดวงตาปิดสนิทก็รู้สึกมีสายลมเย็น ๆ พัดวนกระจายรอบตัว


ก่อนที่ร่างของฉันจะไปโผล่ยังประเทศฝรั่งเศส


เดินทางโดยไม่ต้องพึ่งพาบริการสายการบินส่งตรงไปถึงที่ !



BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ) โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15






แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-4-28 00:55
โพสต์ 20354 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-4-27 21:37
โพสต์ 20,354 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-4-27 21:37
โพสต์ 20,354 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันพิษ  โพสต์ 2024-4-27 21:37
โพสต์ 20,354 ไบต์และได้รับ +10 EXP +6 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก น้ำเยียวยา  โพสต์ 2024-4-27 21:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
โพสต์ 2024-4-28 17:46:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-4-28 18:01

105
Partir en voyage

             ดูเหมือนว่าการทำภารกิจในครั้งนี้จะทำให้ดีนกระเป๋าตุงตั้งแต่เริ่มเดินทางยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ในนั้นมีชุดที่เอาไว้ใส่สำหรับสามวันสองคืน ผ้าขนหนู อุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำที่เขามักพกติดตัวเป็นประจำอยู่แล้ว แว่นตา คอนแทกเลนส์ พาสพอร์ตเผื่อได้ใช้งาน และสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คืออุปกรณ์ในการทำงานแลกค่าเดินทางนั่นก็คืออาวุธและชุดเกราะสัมฤทธิ์

             น่าอัศจรรย์จริง ๆ ที่กระเป๋าวิเศษที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทภายในค่ายจะสามารถจุของทั้งหมดนี้ไว้ได้ยกเว้นหอก แม้ชุดเกราะและอาวุธจะสำคัญ แต่ตอนยังไม่ทำงานก็ขอเอามันไว้ในกระเป๋าก่อนก็แล้วกัน

             ดีนตรวจเช็คของเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากกระท่อมหมายเลขสาม เขาไปยังจุดนัดพบที่ลานกองไฟตรงกลางระหว่างทุกบ้าน แม้ว่าตอนกลางวันคบเพลิงจะไม่ถูกจุดแต่ก็มีเหล่าเด็ก ๆ เดมิก็อดมาล้อมวงนั่งเล่นกันบริเวณนั้น ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมาก่อนดีนจึงเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหาด้วยสีหน้าชื่นมื่น

             “รอฉันนานไหม?”

             ถึงอีกฝ่ายจะมาก่อนแต่เขาก็แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้มาสายจึงไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด

             “นายเอาของจำเป็นมาครบหรือเปล่า? เสื้อผ้าของสามวัน ของใช้ในห้องน้ำใช้กับฉันได้ อาวุธกับเกราะที่ฉันซื้อให้ ที่สำคัญคือพาสพอร์ต หวังว่าพวกเราจะไม่ถูกเรียกตรวจกลางทางหรอกนะ”

             การเดินทางครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งกฎของโลกใบนี้กับกฎของโลกแห่งทวยเทพก็ไม่เหมือนกัน เขาที่เป็นเดมิก็อดตัวเล็ก ๆ คงไม่อาจใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงกฎของโลกใบนี้ได้หรอก แมคเคนซีเป็นชาวต่างชาติอยู่แล้ว เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องพกพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลาไม่ต่างจากไอดีการ์ดแน่ ๆ …ล่ะมั้ง

             @Mackenzie

             “ก็ดีอยู่นะ กินอิ่ม นอนหลับ แค่นั้นก็น่าจะพอ” เขาตอบกลับ “ถ้างั้นเราเตรียมออกเดินทางกันเลยดีกว่า ต้องไปที่ทะเลสาบกลางค่ายน่ะ คราวนี้มาแปลกดี ทำไมเทพีอะโฟรไดท์ถึงเลือกทะเลสาบเป็นสถานที่ส่งตัวกันนะ”

             ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเขาคิดว่าต้นสนธาเลียจะเป็นจุดวาร์ปของค่ายเสียอีก แต่รู้สึกว่าจะไม่ใช่แฮะ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเทพแต่ละองค์มากกว่า

             ดีนออกเดินนำไปทางทะเลสาบ โดยปากยังไม่หยุดพูด

             “เออ ใช่ ตอนที่วาร์ปนายต้องระวังหน่อยนะ ตอนทำเควสเทพีอะธีน่านางส่งฉันเป็นลำแสงลงมาจากฟ้า ส่วนเทพีไอริสก็เป็นสะพานสายรุ้งความเร็วสูง ทางที่ดีตอนจะวาร์ปก็หลับตาเอาไว้จะได้ไม่อ้วก”

             คนมีประสบการณ์มากกว่าให้คำแนะนำ เขาหวังว่าเทพีแห่งความรักและความงามจะนุ่มนวลกับพวกเขาหน่อย

             “เมื่อวานรีชเก็บดอกไม้มาเยอะเลยฉันเลยกะว่าจะให้สินบนเธอด้วย” เพราะว่าพวกเขาไม่ได้เพียงแค่ไปทำภารกิจเฉย ๆ นี่นะ.. ดีนนำช่อดอกขนาดเล็กที่เหน็บอยู่ในช่องตาข่ายของประเป๋าเป้ออกมาจัดทรงนิดหน่อย “ฉันกับน้องจัดเอง สวยมะ? ส่วนนี่ของนาย เราถวายให้พร้อมกันท่านจะได้เอ็นดู”

             แล้วก็ยื่นดอกไม้สองช่อให้แมคเคนซีเลือกหยิบไปช่อนึง



             @Mackenzie

             “ราบรื่นดี เห็นไหมว่าฉันไม่เบี้ยว”

             ดีนยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวจนตาหยีตาม เริ่มจะมีรอยตีนกาขึ้นนิดหน่อยแล้วแต่ว่าช่างมันเถอะ ก็แค่ผลของการทำวิจัยเมื่อสี่ห้าเดือนก่อนมากไปหน่อย

             “เมื่อวานฉันได้ขี่โลมาด้วยนะ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นบ้า เอาไว้ถ้านายสนใจฉันคิดว่าฉันพอจะสื่อสารกับพวกสัตว์ทะเลได้เผื่อว่านายจะอยากลอง”

             เมื่อแมคเคนซีรับช่อดอกไม้ไปแล้วเขาก็ถืออีกช่อในมือเดินต่อไปชิล ๆ

             “จะว่างั้นก็ได้ ฉันจำไม่ค่อยได้แล้วแฮะ ความเร็วแสงนี่มันเท่าไรนะ? หนึ่งแสนแปดหมื่นไมล์ต่อวินาทีหรือเปล่า? แบบว่าถึงฉันจะเป็นนักชีวะฯ แต่ก็ไม่ค่อยสันทัดฟิสิกส์เท่าไรน่ะ ส่วนระยะทางจากนิวยอร์กไปปารีสนี่สักสี่พันไมล์ได้ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็พวกเราน่าจะไปถึงปารีสใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาทีอีก”

             ถึงจะเปรียบเทียบกับความเร็วแสงแต่ดีนก็ไม่รู้หรอกว่าใช้หน่วยวัดความเร็วนั้นได้ไหม เพราะว่าเวทมนตร์ของทวยเทพน่าอัศจรรย์ใจกว่านั้นเยอะ

             เมื่อมาถึงทะเลสาบดีนเห็นร่างเงาของหญิงสาวยืนรออยู่ไกลลิบ ๆ เห็นแค่รูปทรงแต่ยังไม่ทันได้เห็นหน้าชายหนุ่มก็รู้สึกได้ทันทีว่าเงาร่างสรีระนั้นงดงามมาก ๆ หรือเทพีอะโฟรไดท์มารอพวกเขาอยู่ แต่เทพโอลิมปัสเนี่ยนะจะมารอเขาก่อน เป็นไปได้?

             แต่ก็เป็นไปแล้วเมื่อเดินเข้าไปใกล้เขาพบว่าเธอคนนั้นน่าจะเป็นหญิงสาวที่สวยงามที่สุดในโลกตั้งแต่เขาเคยเห็นมา ไม่ว่าจะเป็นดาราฮอลีวู้ดคนไหนก็สู้ไม่ได้ ร่างอันงดงามแผ่ออร่าบางอย่างออกมาเป็นแสงเรืองรอง นั่นคือเทพอะโฟรไดท์ไม่ผิดแน่แล้ว หากมีคำกล่าวว่า ‘งามจนไม่อาจละสายตา’ แต่สำหรับดีนในตอนนี้คือ ‘งามจนไม่กล้าสบตา สวยมากเกินไปจนเขิน’

             “พวกเจ้ามาแล้วสินะผู้ที่จะมาทำภารกิจชำระล้างปารีสของข้า”

             เทพีเปล่งวาจาด้วยสำเนียงและน้ำเสียงอันไพเราะราวกับเป็นเสียงร้องเพลง ยิ่งสร้างมหาเสน่ห์อันเหลือล้น

             @Mackenzie

             “ว้า น่าเสียดายที่นายไม่อยากลอง ประสบการณ์สุดแสนล้ำค่าเชียวนา ถึงนายถูกปล่อยทิ้งไว้กลางทะเลคิดหรือว่าฉันจะไม่ช่วย”

             แต่สุดท้ายประเด็นนี้ก็ถูกปิดไป ในเมื่อแมคเคนซีไม่อยากเขาก็ไม่คาดคั้นหรือพยายามบังคับใจใครให้ริลองกิจกรรมที่ดูจะอันตรายเกินไปสำหรับบุคคลธรรมดาและเดมิก็อดที่ไม่ใช่สายเลือดของเทพวารี

             ดีนหันมาจดจ่อกับเทพีอะไฟรไดท์ที่งามเหลือล้นจนไม่กล้าสบตา แต่ปากก็เอ่ยต่อนางไปก่อนเพราะดูเหมือนว่าแมคเคนซีจะตกตะลึงในความงามของนางจนพูดไม่ออกเช่นเดียวกัน

             “ใช่ครับ ผมกับเพื่อนตั้งใจจะไปทำภารกิจของท่านด้วยกัน แล้วหากว่าเทพีจะไม่ว่าอะไรผมก็อยากจะเที่ยวชมความงามของปารีสด้วยสักสามวันสองคืน”

             ชายหนุ่มกล่าวไปตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม

            “หัวหมอเสียจริงเด็กบ้านไหนกัน ข้าไม่ว่าอะไรหากเจ้าทั้งคู่อยากชมความงามของปารีส และแวะชมรูปปั้นเทพีวีนัสแล้วกลับมาบอกว่าระหว่างข้ากับรูปปั้นผู้ใดงดงามกว่ากัน”

             เทพีอะโฟรไดท์กลั้วหัวเราะ แม้แซวกลับแต่ท่าทีของนางดูไม่ถือสาหาความกับเด็กผู้ชาย (?) วัยกำลังโตสองคน สายตาของนางหรี่จ้องชายทั้งสองคล้ายกับมีคำพูดแบบภาษาดีนว่า ‘แค่เพื่อนแน่นะวิ?’

             “โอ้ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ผมดีน นีล บุตรแห่งโพไซดอน ส่วนนี่เพื่อนผม แมคซี่ จากบ้านเฮคาที” ดีนใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เบา ๆ ให้คำนับเทพีก่อนจะรับปากนาง “ได้ครับไว้พวกเราจะไปชมรูปปั้นเทพีวีนัส แต่พนันได้เลยว่าตัวจริงสวยกว่าเป็นล้านเท่า.. จริงสิพวกเรามีช่อดอกไม้มาถวายแก่ท่านด้วยครับ ขอทรงโปรดรับไว้”

             แม้เคยให้ของพ่อและคุณดีมากับมือแต่ดีนค่อนข้างเก้อเขินที่จะมอบช่อดอกไม้ถวายแก่เทพีแห่งความรักและความงาม ต้องให้ท่าไหนล่ะเนี่ย.. งั้นคุกเข่าแล้วมอบช่อดอกไม้ให้เลยแล้วกัน ท่าทางคงตลกน่าดูชมเขาถึงได้ยินเสียงหัวเราะเล็ก ๆ ดังออกมาโฉมงามตรงหน้า

             @Mackenzie

             หลังจากที่นางรับช่อดอกไม้แล้วเขาก็หยัดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงเหมือนเดิม ชายหนุ่มหันไปมองคนข้าง ๆ หลังจากที่เทพีตรัสว่ากำลังจะส่งตัว แหม หลับตารอเชียวนะ รู้งานดีจริง ๆ

             “เอาล่ะ พวกเจ้าจับมือกันไว้ เผื่อมนตราของข้าจะเกิดข้อผิดพลาดแล้วส่งพวกเจ้าไปถึงกันคนละตำแหน่ง” เทพีอะโฟรไดท์กล่าว

             “ครับ” ดีนรับคำเพียงสั้น ๆ แปลกดีแฮะ มนตราของเทพโอลิมปัสก็มีผิดพลาดได้ด้วยงั้นเหรอ แต่เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนงั้นทำตามก็ได้ ดีนยื่นมือไปจับกับแมคเคนซีเอาไว้

             “จับทั้งสองมือสิจ๊ะ” เทพีแห่งความรักยิ้มหวานบอก แม้รู้สึกว่าทะแม่ง ๆ แต่ดีนทำตามก็ได้ แล้วเมื่อนางเห็นว่าชายหนุ่มผู้แสนซื่ออยู่ในท่าทางที่นางปรารถนา อย่างต่อไปก็คือ “แล้วก็จูบ”

             “ห๊ะ!?” ดีนอุทานเสียงหลงเมื่อได้ยินคำสั่งจากเทพี เหนือกว่าความเขินคือความสงสัย นางจะส่งเขาไปจากการจูบกันเนี่ยนะ ทำเป็นเล่นไป

             “หุหุ ข้าล้อเล่น” โฉมงามยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะขำหนุ่ม ๆ ที่หน้าตาตื่น แน่นอนว่าเทพีแห่งความรักย่อมโปรดปรานให้คนรักกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ๆ ก็เพราะว่านางเป็นมารดาของเฮอร์มาโฟรไดตัส เทพแห่งความหลากหลายทางเพศด้วยล่ะนะ “เอาล่ะ เตรียมออกเดินทาง ขากลับก็ไปที่หอไอเฟลแล้วก็ภาวนาจิตถึงข้า”

             เมื่อกล่าวเสร็จเทพีผู้งดงามที่สุดในโลกหล้าก็ร่ายมนตร์ราวกับนางฟ้าแม่ทูนหัวในการ์ตูนดิสนีย์ แสงสว่างเหมือนหิ่งห้อยลอยละล่องล้อมรอบตัวพวกเขาไว้กลายเป็นแสงสว่างจ้าจนต้องหลับตาลงโดยอัตโนมัติ

             ข้าทำวีซ่าอย่างถูกกฎหมายไว้ในพาสพอร์ตของพวกเจ้าแล้ว ขอให้เที่ยวให้สนุกแล้วอย่าลืมจัดการก็อบลินให้ข้ากันด้วยล่ะหนุ่ม ๆ Bon voyage』

             ในโสตดีนได้ยินกระแสเสียงของเทพีดังขึ้นในจิต จากนั้นถึงได้รู้สึกว่าสภาพรอบตัวนั้นเปลี่ยนไป…

             @Mackenzie

เริ่มภารกิจ: เผชิญหน้ากองทัพก็อบลิน
ถวาย [ช่อดอกไม้] แก่ [เทพีอะโฟรไดท์]
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 2024-4-28 19:00
09/1. Go to Paris ...วันนี้เป็นวันที่แมคเคนซีนัดกับดีนไว้ว่าจะเดินทางไปทำภารกิจที่ปารีสด้วยกัน... จะว่าเร็วก็เร็  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-4-28 18:02
โพสต์ 27282 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-4-28 17:46
โพสต์ 27,282 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2024-4-28 17:46
โพสต์ 27,282 ไบต์และได้รับ +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ทักษะหอก  โพสต์ 2024-4-28 17:46
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-4-28 18:02:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-4-28 17:46
105Partir en voyage
             ดูเหมือนว่าการทำภารกิจในครั้งนี้จ ...

09/1. Go to Paris
1


...วันนี้เป็นวันที่แมคเคนซีนัดกับดีนไว้ว่าจะเดินทางไปทำภารกิจที่ปารีสด้วยกัน...

จะว่าเร็วก็เร็ว ออกจะเร็วเกินไปเสียด้วยซ้ำ พวกเขานัดกันเมื่อวันสองวันก่อนราวกับว่าแค่เดินทางข้ามรัฐทั้งที่จริงแล้วมันคือการเดินทางข้ามประเทศ

แน่นอนว่าเมื่อคืนแมคเคนซีนอนหลับไม่สนิทนัก อาจเพราะความกังวลเรื่องภารกิจที่จะไปทำก็ย่อมได้ ดังนั้น เขาจึงออกจากบ้านพักหมายเลข 20 มารอดีนตรงจุดนัดพบก่อนเวลานัดพร้อมกระเป๋าสัมภาระที่จะใช้เดินทางไปในครั้งนี้

จนเมื่ออีกฝ่ายมาแล้วเอ่ยทักทาย แมคเคนซีก็ส่ายศีรษะเล็กน้อยเป็นคำตอบ

“ไม่นานหรอก ฉันมาก่อนเวลาเองด้วย แล้วนายเป็นไงบ้าง ได้พักผ่อนพอไหม”

เมื่อวานดีนเพิ่งกลับมาจากการทำภารกิจ จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“คิดว่าไม่น่าลืมอะไรนะ เรื่องเรียกตรวจคงไม่มีปัญหาหรอก ถ้าพวกเราทำตัวเนียน ๆ เป็นนักท่องเที่ยว”

ดวงตาสีฮาเซลมองกระเป๋าสัมภาระที่เพิ่งไปซื้อมาใหม่จากคอนวีเนี่ยนตามคำแนะนำของดีน  แม้จะเดินทางเพียงไม่กี่วัน แต่การเผื่อพื้นที่ในกระเป๋าไว้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เมื่อคืนเขาเช็คสัมภาระซ้ำอยู่ถึง 2-3 รอบเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ลืมอะไร

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“แปลว่าภารกิจเมื่อวานราบรื่นดีสินะ”

ดูจากท่าทางของดีนที่ไม่ได้อมทุกข์แบบเมื่อครั้งก่อนก็พอจะเดาออก แมคเคนซีพยักหน้ารับแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปยังทะเลสาบพลางฟังสิ่งที่ดีนเล่าไปด้วย

“นี่คือวิธีการเดินทางเหรอ แบบนี้หรือเปล่านะที่เรียกว่าไวเท่าความเร็วแสง นี่ใช่ไหมที่นายบอกว่าเป็นการไปเที่ยวฟรี”

เพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้เอง พวกเขาจะเดินทางไปถึงปารีสโดยที่ไม่เสียเงินสักดอลลาร์เดียว แต่ก็คงต้องระวังเรื่องอาการข้างเคียงที่ดีนเตือนไว้สักหน่อย

“หืม…ต้องถวายของเพื่อเพิ่มความเอ็นดูด้วย ?”

แมคเคนซีมองช่อดอกไม้เล็ก ๆ ที่จัดไว้อย่างน่ารักในมือดีนแล้วหยิบช่อขวามือมาถือไว้ จากนั้นพวกเขาก็เดินกันมาต่อจนถึงทะเลสาบซึ่งเป็นจุดที่จะส่งพวกเขาไปในครั้งนี้ ณ ที่ตรงนั้นมีร่างใครคนหนึ่งยืนอยู่

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ไม่ไหวล่ะมั้ง ถ้าเกิดฉันโดนโลมาเอาไปปล่อยกลางทะเลจะทำไง”

ถึงแม้ดีนจะบอกว่าสื่อสารกับสัตว์ทะเลได้ แต่เขาไม่มีความสามารถนั้นนี่นา หากโดนปล่อยลอยคอกลางทะเลขึ้นมาคงลำบากน่าดู

“อ่า…ฉันก็ไม้รู้เหมือนกัน แต่ถึงปารีสน้อยกว่าหนึ่งวินาทีนี่มันยิ่งกว่าไวอีก ไม่แปลกนะถ้าจะอ้วกน่ะ”

แมคเคนซีหัวเราะเล็กน้อย จริง ๆ มันอาจมี 2 อาการก็ได้ ไวเกินไปจนคลื่นไส้ ไม่ก็ไวเกินไปจนไม่ทันรู้ตัว ยังไม่ทันคลื่นไส้ด้วยซ้ำ เขาจะเป็นแบบไหนกันนะ

แต่บทสนทนาของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง เมื่อในยามนี้มีสตรีแสนงดงามอยู่ตรงหน้า หากจำไม่ผิด ข้อความที่เกี่ยวกับภารกิจนี้บนบอร์ดเขียนไว้ว่า ให้มาพบเทพีอะโฟรไดท์ที่นี่ ในตอนแรกแมคเคนซีคิดว่าคงจะเป็นรูปปั้นเหมือนกับเทพีเฮคาทีที่อยู่หน้าบ้านพักของตน แต่สาวงามเบื้องหน้าเขาตอนนี้ หากจะเปรียบเปรยว่างดงามราวเทพีก็คงไม่เกินไปนัก…นี่คงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกนะ

แต่มันก็ไม่ผิดไปจากที่เขาคิด เมื่อได้ฟังบทสนทนาระหว่างดีนกับสตรีผู้นั้น

‘ภารกิจชำะล้างปารีสของข้า’

แปลว่า…นี่คือเจ้าของภารกิจ เทพีอะโฟรไดท์ไม่ผิดแน่ แมคเคนซีถึงกับมองร่างตรงหน้าตาไม่กระพริบ เผลอกำช่อดอกไม้ในมือที่ดีนบอกให้นำมาถวายแน่นโดยไม่รู้ตัว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ถูกถองศอก แมคเคนซีที่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ก็ได้สติ เขาถองศอกใส่ดีนกลับอย่างลืมตัวราวกับเด็ก ๆ เย้าแหย่กันก่อนจะรีบแนะนำตัวแก่เทพีตรงหน้าอีกครั้งหลังจากที่คนข้าง ๆ แนะนำตัวแทนเขาว่า ‘แมคซี่’

“ผมแมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น…บ้านเทพีเฮคาทีครับ ส่วนนี่ดอกไม้…สำหรับท่าน”

เคยได้ยินมาว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม เขามองดีนที่คุกเข่ามอบช่อดอกไม้ถวายแก่เทพีอะโฟรไดท์แล้วจากนั้นก็ทำตาม ให้ตายสิ…ตั้งแต่มีแฟนมาเขายังไม่เคยมอบดอกไม้ด้วยท่าทางเวอร์วังขนาดนี้มาก่อนเลย

“ขอบใจพวกเจ้าทั้งสอง ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าทำภารกิจได้อย่างสำเร็จลุล่วง เอาล่ะ ข้าจะส่งพวกเจ้าไปแล้ว เตรียมตัวกันให้ดี”

หลังจากเทพีอะโฟรไดท์รับช่อดอกไม้จากพวกเขาแล้ว แมคเคนซึก็ขยับตัวลุกขึ้นยืนดี ๆ ว่าแต่เตรียมตัวนี่ต้องทำยังไงกันนะ เอาเป็นว่าหลับตาไว้ก่อนก็แล้วกัน

หลับตาลงพักนึงก็แล้ว แต่แมคเคนซียังไม่รู้สึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย จนกระทั่งได้ยินเสียงเทพีอะโฟรไดท์บอกว่าให้พวกเขาจับมือกันไว้เผื่อว่าจะมีความคลาดเคลื่อนทางตำแหน่งเกิดขึ้นมา

...อื้มมม…ก็มีเหตุผล...

ชายหนุ่มเห็นด้วยในใจ จากนั้นก็รู้สึกได้ขึ้นความอบอุ่นที่ฝ่ามือ เมื่อปรือตานิด ๆ มองจึงเห็นว่าดีนกุมมือเขาไว้แล้ว แมคเคนซีจึงกุมมืออีกฝ่ายตอบอย่างไม่ลังเลซ้ำยังบีบเอาไว้เบา ๆ ด้วย ก็เขายังไม่อยากพลัดหลงไปคนละที่กับดีนในภารกิจแรกนี่นา แต่ดูเหมือนเท่านี้จะยังไม่พอ เทพีแห่งความงามอยากให้พวกเขาจับมือกันสองข้าง ซึ่งแมคเคนซีก็ยินดี จนมาถึงรีเควสสุดท้ายที่บอกให้พวกเขาทั้งคู่จูบกันนี่แหละ

“หา !?”

จากที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาโพลงแล้วร้องออกมาแทบจะพร้อมดีนทันที แต่พอเห็นท่าทีขบขันของเทพีอะโฟรไดท์ เขาถึงได้รู้ว่าถูกแกล้งเสียแล้ว แมคเคนซีถอนหายใจโล่งอกก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง…เรื่องอะไรจะมาทำต่อหน้าคนอื่นกันล่ะ ถึงเป็นเทพีก็ไม่ให้ดูหรอก

คราวนี้แมคเคนซีรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างเรืองรองเปล่งประกายอยู่หลังเปลือกตาที่ปิดสนิทอยู่ สิ้นเสียงกังวาลของเทพีอะโฟรไดท์ เขาก็เหมือนได้ยินเสียง วิ้งงงง~ มาแทนที่ นี่คือการวาร์ปที่ดีนบอกอย่างนั้นหรือเปล่า พวกเขากำลังจะไปโผล่ที่ไหนในปารีสกันนะ ขณะที่คิดไปต่าง ๆ นานา แมคเคนซีก็กระชับมือดีนแน่นขึ้นเล็กน้อย



เริ่มภารกิจ : เผชิญหน้ากองทัพก็อบลิน
ถวายช่อดอกไม้ : แก่เทพีอะโฟรไดท์

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-4-28 19:00
โพสต์ 18,010 ไบต์และได้รับ +5 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2024-4-28 18:02
โพสต์ 18010 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-4-28 18:02
โพสต์ 18,010 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2024-4-28 18:02
โพสต์ 18,010 ไบต์และได้รับ +3 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก แจ็คเก็ต YANKEES  โพสต์ 2024-4-28 18:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-5-5 23:52:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-5-5 23:54

122
/organize พันธมิตรแห่งตรีศูล

             ‘พลังใหม่ที่ได้มาต้องใช้ยังไงนะ?’

             ไหน ๆ ก็ไปลองของที่ทะเลสาบหน่อยดีกว่า ตอนที่รับพลังมาคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาจะเห็นลูกบอลน้ำลอยรอบตัว หรือว่าเขาจะปล่อยวอเตอร์บอลได้แล้วนะ? เหมือนกับตอนนั้นที่ไรอันใช้น้ำแทนลูกศร

             ดีนลองรวบรวมพลังไปที่ฝ่ามือจากนั้นจินตนาการถึงภาพบอลน้ำ จากนั้นหยาดน้ำในทะเลสาบปริมาตรประมาณหนึ่งลิตรก็ยกตัวขึ้น ลอยละล่องมาอยู่บนฝ่ามือของดีน

             “เฮ้ย!! ฉันทำได้!!”

             เขาโพลงออกมา ความดีใจทำเอากระโดดตัวลอย แต่เมื่อไม่ได้ใช้สมาธิบังคับสายน้ำ บอลวารีก็ตกลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงแตกกระจายไปบนพื้นหญ้าจนชุ่มฉ่ำ

             ‘ต้องมีสมาธิควบคุมน้ำตลอดเวลาสินะ…’

             ดีนอยากจะลองใช้พลังมากกว่านี้ว่าทำอะไรได้บ้าง เขาเลยลองไปหลายอย่าง ทั้งการควบคุมน้ำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ลองควบคุมน้ำขึ้นมาเป็นบาเรียคลุมตัวลดแรงกระแทก บังคับบอลน้ำยิงแทนกระสุน ควบคุมความหนาแน่นของน้ำเพื่อการทรงตัวยืน เดิน วิ่ง รวมทั้งใช้ไอน้ำในอากาศกลั่นออกมาเป็นรูปทรง จากการทดลองพลัง บางอย่างก็ทำได้แม้อาจจะยังไม่ดี แต่บางการทดลองก็ไร้ผล อย่างการบังคับบอลน้ำยิงแทนกระสุน เขายังอัดแรงดันได้ไม่มากพอจึงทำได้เพียงแค่ให้ก้อนหินเปียกแทนที่ยิงจนเป็นรู ส่วนการดึงน้ำจากอากาศนั้นเป็นไปไม่ได้เลย

             แล้วเขายังพบผลการทดลองอีกหนึ่งอย่างโดยบังเอิญ… การควบคุมน้ำใช้พลังมากเกินไปจึงไม่สามารถใช้แหล่งน้ำธรรมชาติรักษาบาดแผลได้ไปพร้อมกัน ส่วนรู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ ดีนไม่กล้าบ้าบินถึงขนาดที่ว่าทำร้ายตัวเองเพื่ออุทิศตนขนาดนั้นหรอก แค่ช่วงนี้เครียดมากไปหน่อยเลยเป็นร้อนในที่ลิ้น… ก็อย่างนั้นแหล่ะ ทำให้รู้ว่าใช้พลังสองอย่างนี้พร้อมกันไม่ได้ แต่เมื่อไม่ควบคุมแล้วลงไปจุ่มน้ำแผลในปากก็หายสนิท

             จบการทดลองชั่วคราวแล้วมาทำเรื่องสำคัญอื่นดีกว่า… ซึ่งก็คือการชักชวนปาร์ตี้

             ชายหนุ่มตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะดีดเหรียญดรักม่าขึ้นฟ้า ดีนไม่เคยเห็นหน้าของไบร์ทมาก่อนหวังว่าเพียงแค่ชื่อและลายมือสวย ๆ นั่นจะเป็นสื่อนำให้เขาสามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ผ่านเครื่องมือสื่อสารไอริส

             ปรากฏแสงรุ้งสะท้อนอยู่บนโล่อัลพิส จากนั้นใบหน้าของหญิงสาวสายเลือดเอเซียคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา

             “เฮ้ ไบร์ท! ฉันเองดีน” โบกไม้โบกมือเรียก ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นจะเห็นภาพชัดหรือเปล่า

             @Bright

             “ใจเย็น ๆ ฉันไม่ใช่ผี นี่คือการสื่อสารผ่านเครือข่ายไอริส”

             เห็นอีกคนสะดุ้งก็รีบเรียกสติ คงเพราะเป็นการเปิดใช้งานการสื่อสารที่ออกจะแฟนตาซีแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยตกใจ ดีนะที่ประสบการณ์ครั้งแรกของเขาคือการติดต่อไปเอง เลยมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจไม่ใช่จู่ ๆ ภาพก็เด้งขึ้นมา

             “โทษทีที่ติดต่อมากระทันหัน คราวนี้มีเรื่องด่วนที่อยากจะคุยด้วย เขียนจดหมายบอกอาจจะไม่ทัน เธอได้ยินข่าวลือเรื่องคำทำนายน้ำท่วมนิวยอร์กแล้วหรือยัง ถ้ายังไงมาคุยกันที่ทะเลสาบหน่อยได้ไหม?”

             @Bright

             “อือฮึ” เขาแค่พยักหน้ารับ ถูกเผ็งเลย วีรกรรมของพ่อแต่ละอย่างชวนให้ปวดหัวเสียจริง ไม่มีเรื่องดี ๆ อย่างเช่นช่วยสร้างกำแพงเมืองทรอยนะ “เอาเป็นว่ามาคุยกันก่อนแล้วฉันจะเล่าทั้งหมดให้ฟัง เรื่องมันยาวน่ะ ฉันจะรอนะ ระหว่างเธอเดินมาสายต้องตัดแน่ ๆ”

             @Bright

             “พาราก็เอาไม่อยู่ คราวนี้พ่อทำงามหน้าเกินไป.. อ้าว–”

             ดูเหมือนระหว่างที่ไบร์ทขยับตัวสัญญาณภาพจะถูกตัดไป หรือไม่ก็เป็นทางเขาเนี่ยแหล่ะที่องศาภาพไม่ดี สงสัยถ้าว่าง ๆ คงต้องถวายของเพื่อคอมเพลนเทพีไอริสหน่อยแล้ว สัญญาณห่วยเกิ้น

             ตอนนี้ก็ได้แต่รอ…

             @Bright

             “ฮาย สวัสดีไบร์ท อีกทีนึง” ดีนขยับยิ้มให้พี่สาวพลางมองหญิงร่างสูงที่เดินมาหา หน้าตาของเธอจัดได้ว่าทั้งสวยและหล่อในคราวเดียวกัน

             ‘เดียวนะ.. เธอสูงพอ ๆ กับฉันเลยหรือเปล่าเนี่ย?’

             จู่ ๆ ก็รู้สึกเป็นน้องชายตัวเล็กตัวน้อยขึ้นมาทั้งทีแม้ว่าดีนจะมีกล้ามเนื้อจากฟิตเนสและไม่ใช่คนตัวเล็กเลยก็เถอะ แต่ว่าเข้าเรื่องเลยดีกว่า…

             “อืม.. เรื่องคำทำนายว่าพ่อจะถล่มนิวยอร์กน่ะ คือว่าฉันกำลังฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโร่อยู่ มันค่อนข้างอันตรายแล้วเธอก็เพิ่งมาที่นี่ เลยอยากถามว่าเธอสนใจไปสะสางเรื่องนี้ไหมด้วยกันไหม แต่ถ้าลำบากใจจะปฏิเสธก็ได้ แม้พ่อจะงี่เง่านิดหน่อยที่ขู่ว่าจะทำสงคราม แต่ก็ถือว่าเขาเป็นเหยื่อในคดีนี้เหมือนกัน บุตรแห่งเทพโป้ปดอะไรนั่นกำลังปั่นหัวพวกเรา”

             เขาเอ่ยปากชวนก่อนจะยื่นกระดาษจดที่ซีร็อกซ์ออกมาให้ไบร์ท ในนั้นเขียนโน้ตเต็มไปหมด


             @Bright

             พอได้ยินอีกฝ่ายเล่นมุกเขาก็ตบมุกเสียหน่อย “มาร์เวลก็ยังมีเรื่องดราม่านะ ขอเอาแค่เรทเดียวกับเบนเทนพอ”

             “วัวโคลคีสเหรอ ตัวอะไร? ฉันไม่เคยเจอตัวนั้นมาก่อนเลย” แน่นอนว่าคนรักตัวกลัวตายอย่างดีนเคยเข้าไปในป่าต้องห้ามแค่ครั้งเดียว อสุรกายที่เขากำราบส่วนมากอยู่ระหว่างการทำภารกิจทั้งนั้น เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสู้ “แต่ถ้าเธอสู้มิโนทอร์กับสิงโตได้แล้วแปลว่าแกร่งของจริง”

             สงสัยที่ใคร ๆ บอกว่าสายเลือดสามมหาเทพมีพลังมากกว่าชาวบ้านเขาจนเคยก่อสงครามโลกจะเป็นเรื่องจริง พอรู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งใน ‘วัตถุอันตราย’ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้แฮะ

             “เอาจริง ๆ มีเทพหลายองค์เลยที่เข้าข่ายว่าเป็นเทพโป้ปด ฉันอัดเสียงตอนที่ปรึกษาคุณไครอนเอาไว้ด้วย เดี๋ยวเปิดให้ฟังแป๊บ” กล่าวจบก็หยิบสมาร์ทโฟนออกมาเปิดเล่นเสียงที่บันทึกไว้ จนมาถึงประโยคที่กล่าวถึงเทพโป้ปด…

             ‘แล้วก็ต้องคอยระวังบุตรแห่งเทพโป้ปด ผมไม่รู้เลยว่าคือเทพองค์ไหน แบบว่า.. ผมรู้จักแค่โลกิจากหนังน่ะมาร์เวลน่ะ’
             ‘เทพโป้ปดตามความเชื่อที่หลากหลายทั่วโลกมีหลายองค์ สำหรับกรีกคือ 'เทพโดลอส' หรืออาจเป็น 'เทพโมมุส' ก็ได้ แต่เทพโมมุสน่าจะใกล้เคียงกับการเป็นเทพแห่งการเยาะเย้ยมากว่า และยังมี 'เทพีอาเพท' เทพีแห่งการหลอกลวง แม้แต่ 'เทพเฮอร์มีส' ก็เคยถูกตีความว่าเป็นเทพเจ้าแห่งเล่ห์กล ทางฝั่งโรมันก็จะเป็น 'เทพมันเดเชียส' และเทพที่คุณรู้จัก 'เทพโลกิ' จากฝั่งนอร์ส’
             ‘แต่เทพเฮอร์มีสไม่น่าจะทำหรือเปล่าครับ แบบว่า.. ทำไปทำไมกันล่ะ?’
             ‘เทพเฮอร์มีสถือเป็นเทพอีกองค์ที่เข้าออกแอตแลนติสบ่อยราวกับเป็นชาวเงือก โดยเฉพาะช่วงนี้… แล้วเขาก็เคยขโมยตรีศูลของเทพโพไซดอนมาแล้วครั้งนึง’
             ‘คุณจะบอกว่าเทพเฮอร์มีสเข้าออกแอตแลนติสเพราะว่าไปส่งของให้ผมเหรอ? แล้วเทพเฮอร์มีสก็เป็นเทพแห่งการขโมยด้วย…’
             ‘อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ผมก็แค่ลองให้คุณวิเคราะห์ดู.. จากคำทำนายระบุว่าเป็นฝีมือของบุตรแห่งเทพโป้ปด ไม่ใช่ตัวของเทพโป้ปดที่แท้จริง ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่เดมิก็อดจะลงไปได้ถึงแอตแลนติสโดยไม่มีพลังหายใจใต้น้ำ’
             ‘คุณกำลังจะบอกว่าอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นบุตรแห่งโพไซดอนเหรอครับ?’
             ‘คุณคิดซับซ้อนดีนะ หรืออาจจะไม่ใช่ด้วยวิธีการนั้น.. แต่ด้วยวิธีการทางเวทมนตร์ การลวงตา การหาเส้นทางลับสู่ใต้สมุทรโดยไม่ต้องดำน้ำลงไปก็ขโมยตรีศูลมาได้ด้วยเช่นกัน’
             ‘มีวิธีแบบนั้นด้วยสินะ.. เทพเฮอร์มีสไม่ได้มีพลังแบบนั้นใช่ไหมครับ?
             ‘มี แต่รายนามเทพที่ผมกล่าวมาบุตรเทพทุกองค์ล้วนมีความสามารถเช่นนั้นหมด’
             ‘โอ๊ย หัวจะปวด ทำไงดีล่ะเนี่ย!’

             แล้วดีนก็กดพอสคลิปเสียงเอาไว้ที่ตรงนี้

             “ฉันไม่รู้เลยว่าเราจะแพ้อะไรกันแน่ อสุรกายธรรมดา อสุรกายห้วงทะเลลึก หรือว่าจะเป็นบุตรแห่งเทพโป้ปด ไม่แน่เราอาจจะชนะทุกอย่างแต่ไปสะดุดที่คาสิโนโลตัสจนเอาตรีศูลไปส่งพ่อไม่ทัน”

             @Bright

             “สัมฤทธิ์.. แปลว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์สินะ ค่อยโอเคหน่อย”

             เขาไม่อยากทำร้ายสิ่งมีชีวิตรูปแบบสัตว์อีก ตอนที่สังหารราชสีห์นีเมียนทำเอาร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหลายวัน

             “อืม.. ไม่ต้องสู้แหล่ะ แต่ว่าเราอาจจะเสียเวลากับที่นี่เยอะเลย ของกินรวมถึงกลิ่นหอมภายในคาสิโนโลตัสจะมีฤทธิ์ที่ทำให้ลืมเลือนตัวตนแล้วหลงอยู่ในกาลเวลา จากบันทึกของเพอร์ซีย์พี่ชายพวกเราเขาเคยไปที่นั่น เข้าไปอยู่เหมือนไม่กี่ชั่วโมงแต่เวลาโลกจริงผ่านไปแล้วหลายวัน ทางทีดีถ้าต้องเข้าไปที่นั่นก็ต้องรีบเข้ารีบออก”

             “ฉันคิดว่าจะลองเสกฟองอากาศคลุมหัวทุกคนเอาไว้ เดิมทีมันใช้สำหรับการหายใจใต้น้ำ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่า แต่ถ้าไหน ๆ จะถูกทำให้ลืมแล้วล่ะก็ทดลองดูสักนิดก็ไม่เสียหายใช่ไหม? หรือเธอมีวิธีดี ๆ อะไรเสนอบ้าง?”

             ทั้งดีนและไบร์ทต่างเป็นนักวิทยาศาสตร์ย่อมเข้าใจหลักการนี้ดี หรืออาจมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ผ่านการตั้งสมติฐานและการทดลอง

             “หยุดยั้งคนชั่วให้ทำผิดไม่ได้จริง ๆ แหล่ะ”

             รอยยิ้มกระตุกขึ้นมุมปากทั้งที่สีหน้าเคร่งเครียด ดีนไม่ได้คอมเมนต์อะไรต่อ หากเป็นไปได้ต่อให้เป็นคนร้ายเขาก็ไม่อยากจะสู้ชี้วัดเป็นตาย ต่อให้สถานการณ์นั้นถูกบังคับให้เกิดขึ้นดีนก็ไม่มั่นใจว่าจะกำหนดความเป็นตายไหว ความใจอ่อนนี้คงเป็นข้อเสียใหญ่ที่จะดำรงตนอยู่ได้ในฐานะโลกแห่งทวยเทพที่โหดร้าย

             “อีกคนที่เลือกคือเดมี่.. เอ๊ย! หมายถึงเดม่อน เด็กบ้านอะโฟรไดท์ เขาเป็นคนไม่กี่คนที่ไปเฮติแล้วรอดกลับมาได้ แปลว่าฝีมือดีพอตัวเลยแหล่ะ ส่วนเรื่องการต่อสู้ในน้ำ.. ดูนี่”

             ดีนลุกขึ้นจากขอนไม้ ทิ้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้ตรงไบร์ทก่อน แล้วจากนั้นเขาก็เดินไปที่ทะเลสาบ เพ่งกระแสจิตลงไปในสายน้ำ ควบคุมให้แผ่นน้ำด้านบนมีความหนาแน่นสูงกว่าปกติ จากนั้นก็ก้าวเท้าลงไปบนพื้นน้ำที่ยวบยาบแต่ว่าไม่จม

             “ความสามารถใหม่ เพิ่งได้มา ฉันพอจะทำแบบนี้ได้นิดหน่อย”

             จากนั้นก็วิ่งวนให้ไบร์ทดู แต่ควบคุมได้ไม่นานเขาก็หล่นจ๋อมลงไปในทะเลสาบ ก่อนจะปีนขึ้นมา สะบัดหัวเหมือนหมาแล้วทุกอย่างก็แห้งสนิท

             “ยังพอมีเวลาต้องฝึกให้เยอะกว่านี้ แล้วก็ทดลองดูด้วยว่าเสกให้หลายคนไหวไหม สงสัยฉันจะต้องเป็นจอมเวทของทีมซะแล้ว” กล่าวพลางกลั้วหัวเราะ จากนั้นก็กลับมานั่งลงที่เดิม

             @Bright

             “ถ้าต้านทานเวทมนตร์ไม่ได้เห็นทีคงต้องภาวนาให้พวกเราพบกับซาตานไว ๆ”

             จากที่คุยกับไครอนมาบอกว่าส่วนมากซาตานพูดความจริง แบบนี้แปลว่าเป็นคนที่เชื่อถือได้สินะ?

             “ขอบคุณ รู้สึกจะเป็นพลังที่เอาไว้ใช้ควบคุมน้ำ ขอแค่ที่ตรงนั้นมีน้ำอยู่ก็จะสามารถใช้พลังได้ ฉันลองมานิดหน่อย บังคับน้ำให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ แทนกระสุน หรือว่าโล่ หรือควบคุมความหนาแน่นในปริมาตรที่จำกัด เสียดายที่ดึงเอาน้ำจากอากาศมาไม่ได้ คงเพราะว่าฉันมีพลังไม่มากพอมั้ง หรือไม่หลักวิทยาศาสตร์ก็ใช้ไม่ได้กับทั้งหมด”

             “เป็นพลังที่ค่อนข้างจะใช้สมาธิเยอะ แล้วดูเหมือนว่าจะใช้คู่กับน้ำเยียวยาไม่ได้ ฉันคงต้องเลือกระหว่างการเป็นอมตะในน้ำกับเป็นเมจที่ซัพพอร์ตเพื่อน”

             ดีนหัวเพราะแห้ง ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักให้ไบร์ท

             “เคย แต่ไม่เก่ง ฉันชอบเล่นเฟนนิคนะ แต่ว่าเล่นได้ห่วยบรม”

             คาร์แรคเตอร์สัตว์หน้าขนมักจะดึงดูดใจดีนได้เสมอ เห็นตัวละครไหนมีหูมีหางเลือกเล่นไว้ก่อน แต่การต่อสู้จริงกับเล่นเกมมันก็ต่างกัน

             “เดมี่อายุน้อยกว่าพวกเราสี่ห้าปีมั้ง ฉันไม่เคยถาม ส่วนหน้าตาก็ต้องดีอยู่แล้ว” จะแซวว่า ‘อย่าหลงเสน่ห์เข้าล่ะ’ แต่คิดว่าบุคลิกแบบไบร์ทน่าจะไม่ “ถ้าเธอหวังจัดตำแหน่งแบบในเกมก็ใช่เลย เขาก็ใช้อาวุธเป็นดาบโล่ น่าจะแทงก์ให้เธอทำดาเมจได้ ติดแต่ว่าเด็กอะโฟรไดท์น่าจะตัวบางกว่าพวกเรา”

             เขาไม่รู้ว่าทักษะของบ้านแห่งความงามมีอะไรบ้าง แต่เท่าที่ทราบมาคือเด็กบ้านนี้ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำเพราะมีกลิ่นตัวที่หอมหวานและเนื้อตัวสะอาดอยู่เสมอ เอาจริง ๆ ถ้าไม่รู้ว่าเดม่อนสู้เก่งอาจวางให้เด็กหนุ่มที่พูดถึงเป็นสายดีบัพคอยอ่อยสัตว์ประหลาดให้พวกมันเสียสมาธิ…

             @Bright

             “อย่างน้อยถ้าสู้กันในน้ำก็มีเธอรอดแล้วคนนึง ฉันเบิกอาหารเทพมาด้วยเดี๋ยวเอาไว้ค่อยไปแจกตอนออกเดินทาง ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมาก็ฝากยัดมันเข้าปากฉันที”

             ดีนยิ้มเจื่อน ก็เขาอยากเป็นอมตะด้วยนี่นา นี่หรือเปล่านะคำกล่าวที่ว่า ‘พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง’... เชยสะบัด

             “ของมันแน่อยู่แล้ว!” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจกับคำชม ต่อให้ไม่มีใครชมก็ชมกันเองเนี่ยแหล่ะ “แต่คนในค่ายส่วนใหญ่ก็หน้าตาดีนะ เพราะว่าเป็นเดมิก็อดงั้นเหรอ? เลยมีอะไรที่ไชน์ออกมามากกว่าคนธรรมดาทั่วไป”

             “ส่วนการต่อสู้ ถ้าเธอไหว..” เขาผายมือให้หญิงสาวว่าเชิญเลยเจ้ “แต่ระหว่างเดินทางก็ต้องสู้บนบกใช่ไหม กับลูกเทพหลอกลวงอะไรนั่น… อาจต้องผลัดกันแทงก์ ส่วนแผนการเดินทางฉันก็มีนะ ปรินท์มาด้วย.. นี่ ส่วนวันที่ก็ตามในนั้นเลย”

             ดีนส่งแผนการเดินทางคร่าว ๆ ไปให้ไบร์ท เป็นเส้นทางเดินรถจากนิวยอร์กไปลาสเวกัส เพราะบุตรแห่งโพไซดอนขึ้นเครื่องบินตรงไปสู่ลาสเวกัสเลยไม่ได้จึงจำเป็นต้องนั่งรถบัสไปกัน

             “ฉันไม่รู้ว่ามันโอเคไหม ปกติทำอะไรไม่เคยวางแผนมาก่อนเลย.. แผนเลยมีแค่นี้ ส่วนหลังจากออกจากเวกัสค่อยไปคิดอีกที ถ้ามีอะไรเธอเสริมได้นะ”

             จะว่าไปอีกฝ่ายดูรักสุขภาพน่าดู งดแป้ง ไขมัน อาหารคลีนงั้นเหรอ.. ก่อนออกเดินทางมันต้องฟาดของโปรดมื้อใหญ่เซ่!

             “บร๊ะ! เธอสูงหนึ่งร้อยแปดสิบหกเหรอ สูงมากกกก” ลากหางเสียงยาว แอบเขินเลยที่ต้องบอกส่วนสูงของตัวเอง ทั้งที่ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องเขินร้อยแปดสิบสี่ก็ถือว่าตัวเล็กซะที่ไหน ต้องคำนวนแปลงหน่วยจากฟุตเป็นเซ็นติเมตรนิดหน่อย “ฉัน ร้อยแปดสิบสี่…. จะว่าไปฉันขอถามได้ไหม เธอเป็นลูกครึ่งเอเซียเหรอ?”

             @Bright

             “มันหน้าตาเหมือนช็อกโกแลต คิดว่ารสชาติไม่น่าจะแย่หรอก”

             ดีนบรรยาถึงลักษณะของอาหารเทพที่เขาได้รับมาจากห้องพยาบาล

             “ไม่จริงเลย ถ้าทีมมีสามคนหญิงหนึงชายสอง ก็เหมือนกับ แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่แหล่ะ แล้วเธอก็ฉลาดที่สุดในหมู่พวกเรา”

             หากว่าไบร์ทเป็นผู้ชายเขาคงตบบ่าอีกฝ่ายไปแล้ว ถึงคนที่นั่งข้าง ๆ จะไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงจ๋าและถือตัว แต่เก็บไม้เก็บมือไว้ก่อนดีว่า ระดับความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนมันต่างกัน

             “วางไข่เหรอ พูดตรงชะมัด! ก็จริง ถ้าฉันเป็นเทพก็ต้องเลือกที่สวย ๆ ไว้ก่อน”

             พี่ชงมาเขาก็พร้อมรับมุกตบ แต่ถึงจะเป็นสาวสวยแค่ไหนถ้าหลังจากนั้นเข้ากันไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยนิสัยหรืออุดมการณ์ความคิดก็ตามก็ไม่พ้นการแยกทาง เหมือนแม่เขากับพ่อเนี่ยแหล่ะ… แต่เป็นเทพคงไม่ต้องแคร์เรื่องนิสัยใจคอของมนุษย์คู่นอนก็ได้มั้ง ยังไงก็ใช่ชีวิตร่วมกันไม่ได้อยู่แล้ว

             “ขอบคุณไบร์ทที่เธอยอมมาเป็นเพื่อนฉัน งี้ก็เหลือแค่อีกหนึ่งคนแล้วที่ต้องไปชวน”

             กับเดม่อนน่าจะง่ายมั้ง หมอนั่นเป็นเด็กดีแถมยังเหมือนกับพร้อมจะลุยทุกสมรภูมิ เขาอาจต้องใช้โทรศัพท์ไอริสหาอีกฝ่ายเหมือนที่ทำกับไบร์ทในวันนี้ อีกอย่าง.. มีเรื่องคาใจที่อยากจะตามเด็กนั่นให้รู้เรื่องด้วย

             กลิ่นหอมของพอตลอยมาแตะจมูก แม้ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นอะไรแต่มันทำให้เขารู้สึกหิวเค้กสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นมา ดีนไม่ได้รังเกียจคนสูบ เพราะเขาก็เคยสูบบุหรี่ในช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์ก่อนจบแต่ไม่ถึงกับติด

             “ว่าแล้วเชียว ก็ว่าอยู่ว่าเธอน่าจะเป็นแซฟฟิก ส่วนของฉันเหรอ.. ไม่รู้สิ ฉันว่าฉันได้หมดอ่ะถ้าสดชื่น” ดีนกลั้วหัวเราะเบา ๆ “โอเค งั้นแยกย้าย ฉันจะลองไปที่แถว ๆ โรงอาหารดูก่อน ชอบเจอเดมี่แถว ๆ นั้น งั้นบายนะพี่สาว เจอกันที่บ้าน หรือไม่ก็วันออกเดินทางเลย”

             ชายหนุ่มลุกขึ้นจากขอนไม้ โบกไม้โบกมือลาไบร์ท เหมือนว่าสายเลือดโพไซดอนจะเป็นพวกชีพจรลงเท้าอยู่ไม่ติดบ้านกันเลยสักคน การพบเจอที่บ้านจึงกลายเป็นเรื่องยากขึ้นมา จากนั้นดีนก็เดินออกจากทะเลสาป มุ่งหน้าไปทางโถงอาหารเพื่อหาตัวเดม่อนและยัดเค้กสักชิ้นลงท้อง


จ่ายค่าโทรศัพท์ไอริส 5 ดรักม่า (รวมภาษีอยู่ในนี้แล้ว)

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 47728 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-5-5 23:52
โพสต์ 47,728 ไบต์และได้รับ +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ควบคุมน้ำ  โพสต์ 2024-5-5 23:52
โพสต์ 47,728 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2024-5-5 23:52
โพสต์ 47,728 ไบต์และได้รับ +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ทักษะหอก  โพสต์ 2024-5-5 23:52
โพสต์ 47,728 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก สร้างฟองอากาศ  โพสต์ 2024-5-5 23:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้