123
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[บ้านพักหมายเลข 3] ห้องโถงหลัก

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-12-28 01:04:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด




White Swan in The Ocean

Chronological event
          Let's fix our house.


   ในช่วงเวลาที่แสนโกลาหลนี้มีหญิงสาววัยสิบปลาย ๆ คนหนึ่งนอนหลับไหลราวกับหมีจำศีล ภายในห้วงความฝันนี้ช่างแสนหวาน เธอในนั้นกำลังท่องไปตามดินแดนงดงามราวกับภาพวาดสวนแห่งเทพในปกรณัม หากไม่ติดว่าเธอเป็นธิดาแห่งโพไซดอนคงคิดว่าตนเองในตอนนี้ให้ความรู้สึกละม้ายคล้ายว่าเป็นเอวาในสวนเอเดนก็ไม่ปาน ริปลี่ย์ผู้ล่องลอยในห้วงฝันทำเพียงนั่งซึมซับบรรยากาศโง่ ๆ ไม่รับรู้สิ่งใด กาวเดินพลางหมุนกายบนพ้อยท์ชูคู่ใจที่ติดเท้าเธอมาในฝัน

  คงต้องการให้เธอร่ายรำไร้กังวลใด ๆ กระมัง

  “ตื่นได้แล้ว”

  น้ำเสียงทุ้มประหลาดดังขึ้นราวกับว่าส่งก้องเข้ามาในความคิดผลักให้เธอที่กำลังหมุนตัวอยู่ริมบึงใสมีหงส์ขาวฝูงหนึ่งแหวกว่ายงดงามต้องเสียสมดุลและทิ้งตัวจมลงในบึงน้ำนั้น ร่างกายค่อย ๆ รู้สึกหนักอึ้งและรู้สึกได้ว่าถึงเวลาที่ควรจะต้องลืมตาขึ้นมาเสียที…

  23 Dec 2024

  ใช้คำว่าท่องกาลเวลาด้วยการนอนไม่เกินจริงเท่าไหร่นักเมื่อริปลี่ย์ตื่นขึ้นมาพบกับคำว่าซากของบ้านพักก็ไม่ปาน ผ้าม่านรุ่งริ่งรอยเผาไฟเป็นดวง ๆ ไม้พุพังปรากฎร่องรอยของไฟและควันดำ ข้าวของกระจายเหมือนโดนคลื่นซัด ธิดาแห่งโพไซดอนรีบก้มมองสภาพของตนเองก่อนเป็นอันดับแรกว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มีตรงไหนที่เสียหายหรือไม่ โชคดีนักที่เหมือนจะพบเพียงรอยไหม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามชุดนอน ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าตนเองต้องรู้สึกอย่างไรเป็นอันดับแรกระหว่างตกใจกับสภาพของบ้านหรืองุนงงที่เธอหลับเป็นตายปลุกไม่ตื่นดี หญิงสาวเดินออกมาจากห้องที่เหมือนผ่านสงครามจากการสังเกตร่องรอยต่าง ๆ มาเจอกับเหล่ารุ่นพี่ในบ้านที่กำลังช่วยกันทำความสะอาดเก็บของตามที่ต่าง ๆ ในห้องนั่งเล่น

  “เอ่อ…ถ้าบอกว่าอรุณสวัสดิ์จะสายไปไหมคะ ?”

  ริปลี่ย์เอ่ยออกมาอย่างติดตลกแม้จะไม่รู้สึกขำกับมันก็ตาม ดวงตาสีน้ำทะเลมองผู้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องร่วมบิดากำลังตกตะลึงว่าเหตุใดถึงมีคนประหลาดออกมาจากหอพักรวมฝั่งหญิงได้กัน หนึ่งในนั้นเกรงจะมีคนที่เธอพอคุ้นหน้าอย่าง ดีน ที่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังทำหน้าช็อคโลกแค่ไหน

  “ไม่หรอก เธออยู่ในนั้นตลอดเลยหรอ ?” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถาม ใบหน้าเล็กก็ขยับขึ้นลงเป็นคำตอบ คิ้วเล็ก ๆ ขมวดอย่างงุนงงว่าทำไมเหมือนเห็นผีไปได้ก่อนจะหันไปเจอกับเศษซากปฏิทินที่อย่างน้อยก็บอกเดือนได้ว่าตอนนี้มันปลายปีเรียบร้อยแล้ว เวรเอ้ย… ริปลี่ย์สบถในใจพร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อได้รู้ว่าเธอหลับท่องกาลเวลาคือเรื่องจริงไม่ใช่ความคิดสนุกสนานประชดชีวิตอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ทันจะตกใจเรื่องวันเวลาได้เท่าไหร่ก็ต้องกลับมาสนใจเจ้าของเสียงทุ้มที่เธอพอจำได้ว่าคนคนนี้เป็นรุ่นพี่ร่วมบ้าน "ดีแล้วที่ปลอดภัย ทางนี้ชื่อ ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล เรียกสั้น ๆ ว่า ดีน เป็นที่ปรึกษาบ้าน มีอะไรขาดเหลือบอกได้นะ หรือแจ้งมาทางน้องคนเล็กได้"

   “รีชา, รีชา แคมพ์เบลล์ หรือว่าจะเรียกหนูว่ารีชตามพี่ ๆ คนอื่นก็ได้นะคะ !”

  ผู้เป็นน้องเล็กได้รับการกล่าวถึงก็รีบยกมือขึ้นแนะนำตัวให้เธอได้รู้จัก เด็กคนนี้มีดวงตาสดใส เรือนผมสีส้มจิงเจอร์น่ารักสมกับที่เป็นน้องเล็กของบ้านก็ไม่ปาน แน่นอนว่าในช่วงเวลานี้ไม่ได้มีแค่คุณที่ปรึกษากับน้องเล็กที่อยู่ตรงนี้ ผู้ชายอีกสามคนที่มองดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าเธอทั้งนั้นก็แนะนำตัวขึ้นมา

   “เจโรม ปาร์ค ซึงยอน”

“ไทสัน— เป็นสายเลือดยักษ์ไซคลอปด้วยน่ะ”

   “ทางนี้ ซันซ์ มาเดิล เคานต์”

   “ริปลี่ย์, ริปลี่ย์ สวอนสัน อายุ 17 ปี”

   ในเมื่อต้องแนะนำตัวกันใหม่ริปลี่ย์ที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่คนที่เข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่ายนักก็ต้องเอ่ยปากแนะนำตนเองออกมา ในเมื่อผู้คนเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องร่วมบิดาแล้ว ความรู้สึกต่อต้านจึงน้อยลงกว่าคนทั่วไปล่ะมั้ง ? หลังจากพูดคุยอะไรเล็กน้อยคนตัวเล็กก็เอ่ยปากถามว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้านทำไมสภาพบ้านพักของพวกเธอถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ดีนที่เป็นดั่งผู้นำของบ้านก็ได้เอ่ยเล่าเหตุการณ์ที่มีกองทัพปีศาจบุกค่ายฮาล์ฟบลัด ความโกลาหลที่ยากจะเชื่อได้หากไม่มีร่องรอยความเสียหายทิ้งไว้เป็นต่างหน้า บ้านที่ถูกก็อบลินเผาไปบางส่วนมีร่องรอยเขม่าควัน ต้องเรียกว่าดีที่เทพไม่ใจร้ายเกินไปทำให้ตอนนี้ดีนอยู่หน้าบ้านดับไฟทันเพลิงจึงไม่ลุกลามจนเสียหายใหญ่โต ต้องขอบคุณความเสียสละของน้ำในสระว่ายน้ำเสียแล้วที่ตอนนั้นถูกดึงขึ้นไปโถมดับไฟจนแห้งไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

   กลายเป็นว่าได้ฤกษ์ขัดสระว่ายน้ำไปแล้วล่ะมั้ง

   ริปลี่ย์คิดอย่างติดตลกเกี่ยวกับสระว่ายน้ำก่อนจะไล่ดูความเสียหายเพิ่มเติม ข้าวของเสียหายกระจัดกระจายเกินกว่าจะจินตนาการภาพเดิมที่เคยประดับเพราะถูกน้ำสาดซัดโถมดับไฟ ผ้าม่านหรือพวกเครื่องไม้มีร่องรอยเผาไม้อย่างไม่ต้องสืบ และที่เธอเห็นได้ชัดหลังจากตื่นนอนขึ้นมาคือหลังคาน่าจะพังบางส่วนจึงมีไม้ตกลงมาที่ห้องนอนหญิงฝั่งตะวันออกของบ้าน

   “ถึงว่าล่ะ ทำไมตื่นมาถึงมีไม้หล่นเต็มพื้น” เจ้าหล่อนพอจะเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นก็พยักหน้าเบา ๆ “ว่าแต่นี่กี่โมงแล้ว แดดจ้าแบบนี้คงเที่ยงวันแน่ ๆ เลย”

   “เปล่าค่ะ เที่ยงคืนต่างหาก”

   “ห้ะ ???”

   ริปลี่ย์ที่ไม่เชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยินก็หันกลับไปมองแดดจ้าของพระจันทร์ ??? ในตอนเที่ยงคืนที่สว่างจนเกินต้านทานแม้ว่าจะเป็นหน้าหนาวที่ควรจะหนาวกว่านี้ก็ตาม

   “พอดีว่าเทพีนิกซ์หายตัวไปน่ะ”

   เป็นเจโรมที่เอ่ยตอบคำถามที่ปรากฎบนใบหน้าของหญิงสาวผู้ที่บัดนี้มีศักดิ์เป็นรุ่นน้อง น้องสาวคนรองของบ้าน ริปลี่ย์ได้ยินคำตอนนี้ก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมโลกใบนี้ช่างสว่างจ้าเสียเหลือเกิน ในเมื่อเทพีแห่งราตรีกาลหายไปเช่นนี้แล้วจะไปมีกลางค่ำกลางคืนได้อย่างไร มือเล็กยกขึ้นมาตบเข้าที่หน้าผากดัง แป๊ะ ! เสียงดังฟังชัดราวกับต้องการเรียกสติของเธอคืนมาให้อยู่กับเนื้อกับตัว หายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติให้มั่นว่าเธอต้องทำอะไรต่อจากนี้ เรื่องราวที่ได้รับรู้ในวันนี้นั้นคือเรื่องราวที่เธอหลับเป็นตายอยู่ในบ้านไม่ยอมตื่นเช่นนั้นแล้วจะกังวลไปก็ใช่ว่าจะแก้ไขเหตุการณ์เหล่านี้ได้ เธอจึงเลือกที่จะช่างหัวเรื่องเหล่านี้ซะแล้วก้มหยิบปฏิทินที่เป็นขุยจากการเปียกน้ำจนแห้งอีกรอบขึ้นมาปัดเศษฝุ่นผงเถ้าถ่าน

   “เอาเถอะ ตอนนี้จะเที่ยงวันหรือเที่ยงคืนก็ต้องเก็บกวาดบ้านก่อน เดี๋ยวช่วยอีกแรง”

   ริปลี่ย์เอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเริ่มหยิบถุงขยะมาเก็บข้าวของที่ไม่น่าจะนำไปใช้ใหม่อีกครั้งได้แล้วมาใส่ถุงขยะเตรียมกำจัดทิ้ง สงสัยว่าตอนนี้เธอคงจะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การรีโนเวทบ้านพักโพไซดอนยุคใหม่ไม่เกินจริง

   ในฐานะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เธอจึงร่วมมือกับรีชในการช่วยกันเก็บขยะและทำความสะอาดเป็นหลัก ดีนที่บอกว่าวางแผนจะปรับปรุงบ้านพักใหม่ให้หมดและจะเพิ่มต่อเติมห้องของสัตว์เลี้ยงก็พากันวัดขนาดพื้นที่ที่พอจะสะอาดตาขึ้นมาบ้างแล้ว เจ้าหล่อนที่คิดว่าการไปช่วยเรื่องการช่างกับฝั่งชายชาตรีทั้งหลายเห็นทีว่าจะไปยืนเอ๋อเอาเสียมากกว่าจึงตัดสินใจปล่อยให้พวกเขาจัดการอะไรที่ดูเป็นงานช่างไปทั้งหมดและจดจ่อกับการเก็บกวาดข้าวของที่เสียหายหลังประสบภัยพิบัติสงคราม

   จากการเก็บขยะก็มาสู่ขั้นตอนของการกวาดเศษฝุ่นเถ้าถ่านทั้งหลายที่ร่วงลงจากร่องรอยเผาไหม้และปลิวเข้ามาจากภายนอก มือหนึ่งถือไม้กวาด อีกมือถือที่ตักขยะ ค่อย ๆ ไล่กวาดพื้นที่ที่เก็บขยะไปหมดแล้วเรียบร้อยให้ทั่ว ส่วนรีชเธอก็ให้ช่วยถือถุงขยะกางปากถุงเวลาที่เธอจะเทขยะลงถุง เป็นงานง่าย ๆ ที่ดูจะไม่ใช้แรงงานเด็กเล็กจนเกินควร จากเที่ยงคืนสู่ช่วงเวลาไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วเพราะช่วงเวลากลางคืนที่หายไป นาฬิกาภายในบ้านก็เจ๊งไปตามระเบียบจากการโดนน้ำซัดดับไฟและความรุนแรงของสงคราม ทำให้ริปลี่ย์ทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเหนื่อย และตัดสินใจนอนพักในตอนที่รู้สึกว่าร่างกายต้องการการนอนพักผ่อนก็เท่านั้นเอง…

รางวัลจากอีเวนต์นี้: โรลเพลย์ซ่อมแซมจะได้รับโบนัสจากโรลเพลย์ +15 EXP (Level Max +1 Point แทน)
@God 








แสดงความคิดเห็น

God
((เสียงกระซิบบางอย่าง:: ภายในป่า....................))  โพสต์ 2024-12-28 02:34
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-28 01:08
ยินดีต้อนรับกลับสู้บ้าน(ที่พังแล้ว)  โพสต์ 2024-12-28 01:06
โพสต์ 23538 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 01:04
โพสต์ 23,538 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก ชุดนักเรียนญี่ปุ่น  โพสต์ 2024-12-28 01:04
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
น้ำหอมสตรี
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x1
x1
โพสต์ 2024-12-28 10:24:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-12-28 11:06

263
ซ่อมบ้านใหม่

               23/12/2024 เวลา 09.00 น.

               จากความสูญเสียที่เกิดขึ้นในค่ายฮาล์ฟบลัด ทำเอาชายหนุ่มจากกระท่อมหมายเลขสาม ต้องมาขอพึ่งพิงใบบุญจากกระท่อมหมายเลขสิบเอ็ดที่ไร้ความเสียหายเป็นสถานที่ซุกหัวนอน ดีนไม่มีความผูกพันอะไรกับกระท่อมเฮอร์มีสมากไปกว่าเป็นสถานที่ใช้อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์หาแม่ ตอนที่เขามายังค่ายฮาล์ฟบลัดในวันแรกสัญลักษณ์เจ้าสมุทรก็ขึ้นเหนือหัว ทำให้ไม่เคยต้องมาอยู่อาศัยในห้องนอนที่มีเตียงสองชั้นวางเรียงรายราวกับค่ายทหาร

               ก็ว่าห้องนอนของโพไซดอนมีเตียงสองชั้นที่นอนได้ตั้งสี่คนแล้วนะ แต่ก็ยังไม่สู้ที่นี่…

               การพักผ่อนหนึ่งวันช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ แต่เรื่องของจิตใจคงต้องว่ากันอีกยาว หากเมื่อคืนไม่ได้ยานอนหลับ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองจะข่มตาหลับลงได้ไหม..

               ตอนนี้ชายหนุ่มไม่อยากทำอะไรนอกจากการนอนโง่ ๆ อยู่บนเตียง ทว่ายังมีภารกิจอื่นเร่งด่วนที่ต้องทำจึงจำเป็นต้องลุก

               “แมคซี่.. เราไปหาอะไรกินกันเถอะ”

               ดีนตัดสินใจลุกจากเตียงนอนชั่วคราวพร้อมกับสะกิดปลุกคนรักที่นอนซบมาทั้งคืน ชายหนุ่มไม่อายที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ ตราบใดที่ไม่ได้ทำเรื่องสิบแปดบวกกันในที่สาธารณะก็ถือว่าไม่ผิด ส่วนคนในค่ายก็ควรชินเพราะว่าเขาก็ทำตัวชวนให้เหม็นความรักมากันเกือบจะครึ่งปีแล้ว

               หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปดูบ้านตัวเอง แม้ว่าบ้านเฮคาทีจะได้รับความเสียหายน้อยจากการที่ซิลเวอร์ปลีกตัวไปกางบาเรียล้อมบ้านไว้ได้ทัน แต่ก็มีบางส่วนที่จำเป็นต้องเก็บกวาด ส่วนบ้านโพไซดอนนั้น…

               หากมองดูจากภายนอกนั้นตัวบ้านไม่ได้เสียหายมากมายเท่าไร คงเพราะตัวบ้านก่อขึ้นมาจากหินปะการังใต้ทะเลลึกจึงมีความแข็งแกร่งทนทาน (ซึ่งดีนเองก็สงสัยว่าหินที่มีรูพรุนมันทนทานได้ยังไง แต่เอาเป็นว่าแข็งแรง อาจเพราะมีพลังของพ่อช่วยเสริมล่ะมั้ง…) ส่วนที่เสียหายมากที่สุดเห็นทีจะเป็นหลังคาของอาคารปีกตะวันออกซึ่งตรงกับห้องนอนรวมหญิงจนซากไม้ซากกระเบื้องหลายชิ้นพังตกลงมา

               เป็นการประเมินจากด้านนอกด้วยตาเปล่า คิดแล้วเหนื่อยค่อยจัดการในส่วนนั้นตอนหลังสุดแล้วกัน อย่างไรเสียตอนนี้ก็ไม่มีใครนอนที่ห้องนั้นยกเว้นแต่รีชาเพียงคนเดียว (?) ให้เธอย้ายไปนอนที่บ้านเฮอร์มีส หรือนอนกับเอมีเลียที่บ้านซุสอันปราศจากรอยขีดข่วนแทนย่อมได้… นอกจากนั้นของที่เสียหายจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตอนดับเพลิง กับธงโพไซดอนหน้าบ้านที่ไหม้ไฟ

               ไม่อยากคิด.. ขนาดว่าตอนนั้นอยู่หน้าบ้านตัวเองแท้ ๆ หากว่าเขาไม่อยู่ตรงนั้นเพื่อดับไฟป่านนี้บ้านคงถูกไฟจากก๊อบลินแสนซนเผาวอดไปทั้งหลังเสียกระมัง

               พอเข้าไปในบ้านก็ต้องเจอเรื่องเหนื่อยใจอีกอย่าง ข้าวของภายในห้องนอนและห้องโถงเปียกชุ่มราวกับเพิ่งถูกน้ำท่วมบ้าน เครื่องใช้บางอย่างเสียหาย ดีนเห็นว่าตอนนี้ไทสัน พี่ชายคนโตสุดนับจากรุ่นนี้กำลังไล่ถอดปลอกหุ้มเบาะโซฟาออก เพื่อให้กลับมาทำงานทุกอย่างคล่องแคล่วพี่ชายไซคลอปส์จึงกลับร่างจริงเหลือแค่ตาเดียว

               แม้จะชะงักไปบ้าง ดีนพยายามทำใจให้ชินกับตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย หากเขายังเป็นบุตรแห่งโพไซดอนอยู่ (ซึ่งเปลี่ยนไม่ได้) ยังไงก็น่าจะได้เจอพี่น้องที่เป็นไซคลอปส์อีกหลายตน

               “ฮาย ไทสัน คนอื่นมากันหรือยัง?” ดีนเอ่ยทัก พี่ชายไซคลอปส์เงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างใจดี.. เป็นร้อยยิ้มที่ไม่ค่อยเข้ากับตาดวงเดียวเท่าไร

               “สวัสดีดีน มีซันซ์มาแล้วคนนึง ฉันให้เขาไปสำรวจหลังบ้านน่ะว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มินิบาร์เสียหายหรือเปล่า”

               “โอเค ไทสัน หลังบ้านรอด ที่ต้องเคลียร์น่าจะมีแค่ส่วนห้องโถงด้านหน้ากับห้องนอน” พูดถึงซันซ์ปุ๊บ ซันซ์ก็โผล่เข้ามาจากหลังบ้าน หมอนี่ต้องอายุยืนแน่ ๆ “อ้าว มาพอดีที่ปรึกษาบ้าน นี่รายการที่ฉันลิสต์มาว่ามีอะไรเสียหายบ้าง”

               “ฮาย ซันซ์” ดีนกล่าวทักทายก่อนจะรับรายการของที่เสียหายมาจากมือซันซ์ ส่วนมากของที่เสียจะเป็นพวกผ้าม่านที่ไหม้ไฟ รอดไปที “ดีนะที่เครื่องใช้หลังบ้านไม่เสียหาย”

               ซึ่งค่อนข้างน่าประหลาดใจเพราะว่ามันอยู่ติดกับสระว่ายน้ำที่เขาดูดน้ำมาใช้ดับเพลิงแท้ ๆ เลยเชียว นับว่ายังพอมีโชคในความเคราะห์ร้าย

               “แต่เครื่องเล่นเกมที่ห้องนอนพังไปแล้วน่ะสิ โชคดีชะมัดที่รีบเคลียร์เกมให้จบก่อน” ซันซ์บ่นด้วยท่าทีขำ ๆ คล้ายกับว่าหนุ่มบ้านนี้จะมองเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ตลอดเวลา

               “ทำใจนะ” ดีนเดินไปตบบ่าอีกฝ่าย บางทีอาจเอาของพวกนี้ไปให้เด็กเฮเฟตัสซ่อมแซมได้ แต่คงหลังจากที่บ้านเทพวิศวกรรมปะบ้านกันเสร็จ ตอนนี้ดีนได้คำตอบแล้วว่าไม่ต้องกลัวที่จะเผลอไปกดปุ่มอะไรที่หน้าบ้านหลังนั้น เพราะว่ามันไม่มีระบบป้องกันภัยใด ๆ ทั้งสิ้นและยิงขีปนาวุธออกมาไม่ได้ “ฉันว่าไหน ๆ แล้ว.. เราก็ควรใช้โอกาสนี้ปรับปรุงภูมิทัศน์ของบ้านกันใหม่เลยดีไหม?”

               “ปรับปรุงภูมิทัศน์เหรอ.. น่าสนใจนะ” ไทสันกล่าวพลางยิ้ม

               “ฉันไม่มีปัญหา นายอยากทำอะไรก็ทำเถอะคุณที่ปรึกษา ยังไงก็ต้องขนเอาข้าวของออกไปล้างตากแดดจนเกลี้ยงอยู่แล้ว” ซันซ์ไหวไหล่

               ระหว่างกำลังจะออกไอเดียประตูบ้านก็เปิดขึ้นอีกครั้ง เป็นเจโรมและรีชาที่เข้ามา เหมือนว่าพอสองคนนี้ได้ไปเที่ยวโอลิมปัสด้วยกันมา ความสนิทจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

               “อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ไทสัน พี่ดีน พี่ซันซ์” เด็กหญิงผู้เป็นความสดใสของบ้านเอ่ยทักทุกคน

               “สวัสดีครับ ผมคงไม่ได้มาสายไปใช่ไหม?” เจโรมยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเขิน ๆ

               “ไม่หรอก ทั้งสองคนมาพอดีเลย ตอนนี้เรากำลังหารือเรื่องจะปรับเปลี่ยนภายในบ้านกันอยู่ ไหน ๆ ยังไงก็ต้องเอาของออกมาเช็ดล้างทำความสะอาดอยู่แล้วอ่ะนะ” ดีนส่งใบรายการที่ซันซ์จดมาให้เจโรมดู อีกฝ่ายถึงกับเบ้หน้าเมื่อนึกถึงงานหนักที่รออยู่ “จะว่าไปยังไม่ได้พูดคำนี้เลย.. ยินดีต้อนรับกลับบ้าน แม้ว่ามันจะพังไปห้องนึงอ่ะนะ”

               “ขอบคุณครับ ผมตกใจแทบแย่ตอนที่กลับมาค่ายแล้วเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น” เจโรมตอบด้วยน้ำเสียงแหย ๆ ทั้งค่ายที่พังแล้วไหนจะมีคนตายอีก ซึ่งเขายังไม่อยากกล่าวถึงเพื่อตัดทอนกำลังใจของพี่น้องคนอื่น

               “แง้ ห้องนอนของหนูพังเหรอคะ” รีชาเบะหน้า เธอรีบไปเปิดประตูห้องนอนหญิงฝั่งตะวันออกเพื่อดูสภาพ

               “รีชระวังด้วยนะ” เจโรมบอก

               แล้วพอประตูห้องเปิดออกทุกคนในบ้านก็ได้เห็นความยับเยินของห้องนอนหญิงเต็ม ๆ ตา แผ่นฝ้าที่ทำจากไม้ร่วงลงมากลางห้อง กั้นกลางระหว่างเตียงนอนสองชั้นทั้งสองเตียงเอาไว้จนพวกเขาไม่เห็นสภาพของอีกเตียงที่ถูกไม้ร่วงมากัน

               ‘ดีนะที่ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในห้อง…’

               “แงงงง แมนนี่ของหนูตาย” เด็กหญิงวัยสิบสามขวบหอบเอาซากตุ๊กตาม้าน้ำสีพาสเทลที่มอมแมมไปด้วยสีของฝุ่นออกมา มันคือตุ๊กตาที่ดีนซื้อให้น้องเป็นของฝากจากอควาเรียมปารีส ส่วนสภาพที่บอกว่าตายก็คือ บนลำตัวของตุ๊กตาฉีกขาดจนใยสังเคราะห์ปริแตกออกมาจากฝีเย็บที่หลุดขาดออก

               “ไม่เป็นไรนะรีช เดี๋ยวพี่หาตัวใหม่มาให้ คราวนี้เอาไปสองตัวเลยดีไหม?” ได้แต่ปลอบให้น้องสาวไม่ร้องไห้ออกมา เด็กสาวพยายามฮึบไว้ เธอต้องเข้มแข็งให้สมกับที่เป็นธิดาแห่งโพไซดอน

               “โอเคนะ ถ้างั้นเรามาคุยกันต่อจากเมื่อกี้.. นอกจากปรับปรุงบ้าน จัดบ้านใหม่ แล้วฉันอยากจะสร้างส่วนต่อขยายเพิ่มตรงที่ว่างระหว่างปีกตะวันตกกับห้องเก็บของ อยากจะทำเป็นห้องสัตว์เลี้ยงน่ะ ฉันมีออมเล็ตตัวนึง ส่วนคนอื่นที่เลี้ยงสัตว์ก็มีไบร์ท เผื่ออนาคตใครจะเลี้ยงอะไรอีกก็ให้นอนที่นี่ ทุกคนคิดว่าไงบ้าง?”

               ลืมเล่าไปว่าเมื่อวานหลังจากจบศึกสู้รบ ดีนพบออมเล็ตอีกครั้งตอนที่มันวิ่งหน้าตาตื่นมาหาที่กระท่อมเฮอร์มีส เขาต้องปลอบประโลมสิงห์น้อยอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะฝากให้คุณเอมีเลียช่วยดูแลเป็นการชั่วคราว นอกจากบ้านซุสจะไม่พังแล้วหญิงสาวคนนั้นน่าจะมีความผูกพันกันกับเจ้าไข่เหลืองรองลงมาจากสมาชิกบ้านโพไซดอนและเฮคาที ดีนมักจะพามันออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งยามเช้าแล้วเจอหญิงสาวบ่อย ๆ และก่อนหน้านี้ที่เขาต้องออกไปทำภารกิจนาน ๆ (เที่ยวฉ่ำไทยแลนด์) ก็ฝากทั้งน้องสาวและสัตว์เลี้ยงให้สาวบ้านซุสช่วยดูแล

               นี่แหล่ะเพื่อนบ้านที่แสนดีตัวจริงไม่ใช่สไปเดอร์แมน…

               กลับมาที่เรื่องปรับปรุงบ้านและสร้างห้องใหม่ หนุ่ม ๆ โพไซดอนคนอื่นไม่มีข้อโต้แย้ง…

               “ว้าวว เราจะมีห้องสัตว์เลี้ยงเหรอคะ หนูค่ะ.. หนูอยากเลี้ยงพี่เพกาซัส” รีชายกมือบอกความปรารถนาของเธออย่างใสซื่อ ทำเอาทุกคนหัวเราะขำ

               “ไม่ได้สิรีช หมายถึง.. เราเลี้ยงเพกาซัสกันที่นี่ไม่ได้ ต้องเอาไปฝากไว้ที่คอกม้าแล้วให้แซเทอร์ดูแล บ้านของพวกเราใหญ่ไม่พอที่จะยัดม้าไก่เข้าไปตัวนึงหรอกนะ” ดีนยีผมหยักศกของเด็กสาวที่นุ่มมือด้วยความมันเขี้ยวเล็ก ๆ “ยกเว้นจะใช้ไฟฉายย่อส่วน…”

               “ไฟฉายย่อส่วนเหรอคะ…” เด็กหญิงพึมพำตาม ท่าทางไม่รู้ว่าไฟฉายย่อส่วนที่ดีนกล่าวหมายถึงอะไร “งั้นเดี๋ยวปีหน้าหนูไปโอลิมปัสอีกจะขอไฟฉายย่อส่วนจากคุณพ่อดีกว่า”

               ดูท่าความปรารถนาในการเลี้ยงเพกาซัสไว้ในบ้านจะร้อนแรง ถึงขนาดที่เด็กหญิงคิดไว้แต่เนิ่น ๆ พนันได้เลยว่าหากยังมีกิจกรรมคริสต์มาสจัดอยู่เธอต้องเขียนสิ่งนี้ลงไปคู่กับถุงเท้าก็ได้ ชายหนุ่มไม่คิดว่าโพไซดอน.. พ่อของพวกเขาจะมีอุปกรณ์สุดล้ำแบบนั้น แต่ไม่แน่… ด้วยความเป็นคนรักม้าเหมือนกันพ่ออาจจะไปอ้อนวอนร้องขอให้เทพเฮเฟตัสประดิษฐ์ไฟฉายย่อส่วน มาเป็นของขวัญแก่ลูกสาวที่มีความชอบเหมือนกันก็ได้

               ขอแวะพูดถึงกิจกรรมคริสต์มาสนิดนึง…

               ทุกคนคงเดาได้ว่าต้องถูกยกเลิก คงไม่มีใครอุตริเอาต้นคริสต์มาสประดับไฟวับวาวพร้อมกับเปิดเพลง All I Want for Christmas Is You ของ มารายห์ แครี่ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไว้คู่กับศพ… งานคริสต์มาสใหญ่ของค่ายจึงเป็นอันต้องเลื่อนไปจัดใหม่ปีหน้า (เรียกง่าย ๆ ว่าปีนี้ยกเลิก) แต่เขาไม่ยอมให้คริสต์มาสปีนี้เงียบเหงาหรอก ยังไงต้องได้จัดงานเล็ก ๆ ที่บ้านตัวเอง อาจจะเป็นการกินเลี้ยงปิ้งบาร์บีคิวระหว่างบ้านโพไซดอน เฮคาที จากนั้นชวนเพื่อนที่สนิทอย่างคุณเอมีเลีย และเลนน็อคมา (ซึ่งเขาไม่มั่นใจว่าเลนน็อคจะมา…)

               “ตอนนี้เรามาคิดกันก่อนว่าจะเริ่มจากตรงไหนกันดี…”

               “ตามนายบัญชาเลย ท่านที่ปรึกษาบ้านโพไซดอน” ซันซ์เอ่ยบอก ซึ่งคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าก่อนจะจ้องมาทางดีนเป็นตาเดียว แหม.. รู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจขึ้นมาทันที

               “โอเค ถ้างั้นต้องวางแผน ฉันไม่ชอบทำอะไรที่มีแผนเลยแฮะ…” ดีนหัวเราะเบา ๆ ทว่าตั้งแต่มาฮาล์ฟบลัดเขาต้องทำอะไรให้เป็นแผนมากยิ่งขึ้น ไม่งั้นอาจตายในภารกิจได้ “เราควรจะแบ่งหน้าที่กันดีไหม? เริ่มที่รีชก่อน น้องน่าจะแบกของไม่ไหว พี่อยากให้รีชเป็นคนเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ในบ้านที่พี่คนอื่น ๆ ขนออกมา โอเคหรือเปล่า?”

               “ได้ค่ะ หนูทำได้!” เด็กหญิงยกมือขึ้นสูงอย่างแข็งขัน

               “โอเค ถ้างั้นที่เหลือช่วยกันยกของออกมาข้างนอกบ้านกันก่อน พื้นที่รอบสระว่ายน้ำน่าจะพอ.. เอ้อ เราต้องเคลียร์ทำความสะอาดพื้นที่วางของก่อนด้วย งั้นก่อนจะขนของออกก็ต้องทำความสะอาดรอบ ๆ สระว่ายน้ำ ดีไหม?”

               พอเห็นว่าทุกคนพยักหน้าหงึกหงักก็พูดต่อ

               “ในนี้มีใครเก่งงานไม้บ้างไหม?”

               “ฉันพอจะทำได้นะ” ไทสันผู้มีตาเดียวยกมือ

               “ฉันก็ทำได้ แต่อาจเป็นได้แค่ลูกมือ” ซันซ์ยกมือขึ้นตามมาอีกคน

               “โอเค ถ้ารวมฉันด้วยก็เป็นสาม ถ้างั้นเหลือนายแล้วเจโรม นายต้องขนผ้าปูที่นอนและผ้าม่านที่ยังพอใช้งานได้ไปซักที่บ้านใหญ่ พอเอาผ้าไปซักเสร็จแล้วก็ไปช่วยรีชเช็ดทำความสะอาดของ”

               “ได้ครับ ผมทำหน้าที่นั้นเอง” จากหน้าที่แกะเบาะที่นอนของไทสันจึงต้องยกให้เป็นของเจโรมไป

               “ทีนี้ เหลือการซ่อมแซมบ้าน… พวกเราจะไปหาไม้กันมาจากไหน?”

               “ที่บ้านใหญ่น่าจะมีนะ.. แล้วก็ เอ้อ ฉันเห็นว่าแถว ๆ คอกม้าก็มีล่ะ”

               “เยี่ยมเลย ดีนะที่ไม่ต้องเข้าป่าไปตัดไม้กันใหม่” ดีนพูดติดตลกใครทำก็บ้าแล้ว “ถ้างั้นเดี๋ยวพวกเราสามคนไปแบกไม้กันมา จากนั้นก็เริ่มซ่อมแซมหลังคาที่เสียหาย ส่วนห้องสัตว์เลี้ยง… ไว้ทำในตัวบ้านเสร็จเมื่อไรก็เริ่มทำงานกันเมื่อนั้น”

               จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปทำงานกันตามแผน เริ่มโดยการเคลียร์ทำความสะอาดล้างบริเวณรอบ ๆ ของสระว่ายน้ำให้พอวางของได้ ด้วยความเป็นสายเลือดโพไซดอนพวกเขาจึงรีดน้ำออกจากบริเวณนี้จนแห้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งพาแดดของเทพอะพอลโล่ให้เสียเวลา ทว่าก็ต้องพึ่งนิดหน่อยอยู่ดีตอนที่ขนเอาที่นอนหนักกว่าสามสิบห้าปอนด์จำนวนหกฟูกออกมาผึ่ง

               แม้จะพยายามดึงเอาน้ำที่อยู่ภายในเส้นใยผ้าออกมาแล้วแต่ใยสังเคราะห์ที่อยู่ด้านในก็ยังคงชื้นแฉะอยู่ดี จึงต้องพึ่งพาแสงอาทิตย์ทำให้หอมกลิ่นแดดไม่เหม็นอับ อาจต้องตากแดดที่นอนไว้แบบนี้วันนึงหรือสองวันเป็นอย่างมาก นี่สินะคือข้อดีของรัตติกาลสาบสูญ... ทำให้มีพลังงานแสงอาทิตย์ให้ใช้อย่างไม่จำกัด ไม่งั้นกว่าที่นอนจะแห้งสนิทคงได้กินเวลาร่วมสัปดาห์

               ทุกคนทำงานกันอย่างแข็งขันไม่มีปริปากบ่น จนเวลาล่วงเลยถึงเที่ยงวันดีนจึงอาสาไปซื้อมื้อกลางวันมาให้ทุกคน

               .
               .
               .

               15.xx น.

               ช่วงบ่ายแก่ ๆ (ที่ตะวันไม่อ่อนแสงตาม) ดีนขอปลีกตัวไปช่วยดูงานฝั่งบ้านเฮคาทีเสียหน่อย หลัง ๆ มานี้ (ก่อนจะคบกับแมคเคนซีอีก) ดีนแทบจะใช้บ้านมืด ๆ ของเหล่าบุตรและธิดาเฮคาทีเป็นที่ซุกหัวนอนเกือบทุกคืน

               “นี่ ๆ พวกนาย ฉันว่าฉันจะไปดูทางบ้านเฮคาทีหน่อย ที่นั่นน่าจะมีแค่แมคซี่กับซิลเวอร์แค่สองคนที่ดูแลบ้านได้”

               ดีนกล่าวโดยไม่หวังอะไรกับจูลี่ สำหรับเด็กคนนั้นเอาไว้แค่เดินขึ้นลงบันไดโดยไม่หอบก่อนค่อยว่ากันอีกที ซึ่งทุกคนไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจดีว่าต้องไปช่วยเหลือแฟน แถมทางนั้นยังมีคนเรี่ยวแรงดีจัดการงานบ้านได้แค่สองคน ต่างจากบ้านโพไซดอนเยอะ ที่ส่วนมากเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์เรี่ยวแรงดีถึงสี่คน วัดกันแล้วบ้านเจ้าสมุทรน่าจะเป็นกระท่อมที่มีสมาชิกเยอะที่สุดที่อยู่ค่าย ณ ขณะนี้ รองลงมาจากบ้านเฮอร์มีสที่อุดมไปด้วยเด็กที่ยังไม่ได้ถูกรับรองสายเลือดแล้วล่ะมั้ง…

               “ได้สิ ฝากความคิดถึงแฟนนายด้วยแล้วกัน” ซันซ์พูด

               “เฮ้! นายจะมาคิดถึงแฟนฉันทำไม”

               “เอ้า ก็คิดถึงกันแบบเพื่อนไง หรือว่าไงดี.. ฐานะน้องเขย? เรียกงี้ป่ะ?”

               “จะว่าไป.. ผมหายไปนานจนไม่รู้เลยว่าพี่มีแฟนแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ” เจโรมยิ้มบอกอย่างสุภาพ เขารู้เรื่องที่อีกฝ่ายคบกับใครก็จากหนังสือพิมพ์กอสซิปของเทพเฮอร์มีสนั่นเอง ไม่แน่ว่าหนุ่มโพไซดอนสัญชาติเกาหลีอาจเป็นคนเดียวในค่ายที่ตกข่าว

               “ขอบคุณนะเจรี่ นายเองก็เถอะ” ดีนใช้ศอกสะกิดกลับน้องชาย ก่อนจะแซว “เห็นมีข่าวสวีทกับ…. กับ………”

               ไหงนึกไม่ออกหว่า… จากหนังสือพิมพ์กอสซิป มีข่าวของบุตรแห่งโพไซดอนขึ้นหราถึงสองคน คู่หนึ่งคือดีนและแมคเคนซี ส่วนอีกคู่คือเจโรมกับสาวปริศนา

               “หมายถึงหนังสือพิมพ์นั่นใช่ไหมครับ” เจโรมยิ้มแหย “ผมคิดว่าน่าจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ผมจะมีใครได้ล่ะ คงเห็นผมกับแฟนคลับเลยเอาไปเขียนข่าวมั่วซั่วมั้งครับ”

               เจโรมตอบออกมาตามความจริง แม้มีความรู้สึกบางอย่างที่ติดอยู่ในใจ คล้ายกับว่าเขาชอบหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่นชอบเธอมานาน แต่กลับกลายเป็นว่านึกไม่ออกว่าเธอคนนั้นคือใคร เคยทำอะไรร่วมกันมา แม้แต่ชื่อหรือหน้าก็จำไม่ได้ คล้ายกับเป็นเพียงแค่ความฝัน… ความรู้สึกนี้ทำให้เขาแสนอึดอัด

               “เอาน่า ฉันเข้าใจนะ หนังสือพิมพ์พวกนี้มันชอบเขียนข่าวใส่ดีตีไข่จากความจริงอยู่แล้ว ไม่งั้นก็ขายไม่ได้สิ แค่หวังว่าจะไม่กระทบกับงานของนายก็แล้วกันน้องชาย” ดีนตบบ่าเจโรมเบา ๆ ที่ตกเป็นเหยื่อของปาปารัซซี่โอลิมปัสเหมือนกัน แย่ละสิ… แบบนี้ต้องเตรียมศึกษาวิธีการรับมือเมื่อเป็นคนดังแล้วไหม? “งั้นฉันขอตัวไปดูทางนั้นก่อน ยังไงก็ฝากทุกคนด้วยนะ”

               “ไปดีมาดีนะดีน เชื่อมือทางฝั่งนี้ได้เลย”ไทสันยกนิ้วโป้งพลางยิ้ม กะพริบตาส่งวิ้งค์ทั้งที่มีตาใหญ่ ๆ เพียงหนึ่งอยู่กลางหน้า

               .
               .
               .

               18.xx น.

               หลังจากที่ดีนไปช่วยงานบ้านเฮคาทีเสร็จเรียบร้อย เขาก็กลับมาพร้อมกับอาหารเย็นให้สมาชิกทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดทั้งวัน ด้วยพลังความร่วมมือของสมาชิกจำนวนมาก (กว่าบ้านอื่น) ทำให้การซ่อมแซมเสร็จอย่างรวดเร็วราวกับว่ารูปปั้นของพ่อช่วยส่งพลังเสริมมาบัพให้ ตอนนี้น่าจะเหลือราว ๆ อีกแค่เพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ต้องจัดการต่อ (ไม่นับการทำห้องสัตว์เลี้ยง)

               “หนูกับพี่เจรี่ช่วยกันทำค่ะ เป็นไงคะสวยไหม” รีชากางธงประดับหน้าบ้านผืนใหม่ออกมาอวดทันทีที่ที่ปรึกษาบ้านกลับเข้ามาพร้อมอาหารเย็น

               “เยี่ยมไปเลยรีช! พวกเธอสองคนมีพรสวรรค์นะเนี่ย งั้นพวกเรามาประดับธงใหม่กันเลยดีไหม?”

               “เอาสิ ได้เห็นของใหม่ ๆ บ้างก็น่าจะจรรโลงตาดี” ซันซ์ยิ้มตอบ ส่วนไทสันพยักหน้าหงึก ๆ ไม่พูดอะไร ไซคลอปส์ตาเดียวเพียงแค่ยิ้มอย่างยินดี

               จากนั้นพิธีประดับธงใหม่ก็เริ่มขึ้น เพลงออลด์แลงไซน์ (สามัคคีชุมนุม) ควรถูกเปิดขึ้นในจังหวะนี้แล้ว…


[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

               พอเห็นแบบนี้ก็นับว่าความพยายามของทั้งวันไม่สูญเปล่า ร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด สมาชิกทั้งห้าสายเลือดโพไซดอนประสานมือกันอย่างสมัครใจ ไหน ๆ แล้วเคลียร์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือให้มันเสร็จ ๆ ไป พรุ่งนี้จะได้ทำแค่ห้องสัตว์เลี้ยงแล้วไปช่วยบ้านอื่นที่ยังไม่ถูกซ่อมแซม

               .
               .
               .

               23.xx น.
               
               เสียงกุกกักดังมาจากห้องนอนหญิงทำเอาทุกคนในบ้านที่อยู่ในช่วงพักหันไปมองเป็นตาเดียว

               “เมื่อกี้เสียงอะไร? หลังคาที่เพิ่งซ่อมคงไม่ได้พังลงมาหรอกใช่ไหม?”

               ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็งานงอก... ทว่าชายหนุ่มก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็วเมื่อประตูห้องนอนหญิงที่ยังไม่ได้รับการบูรณะถูกเปิดออกมาเองด้วยไม่ใช่แรงลม หญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวด้วยชุดนอนมอมแมม สภาพเธอคล้ายกับคนเพิ่งตื่นนอน

               ใคร!!?!!

               หนุ่ม ๆ ในบ้านแทบจะสะดุ้ง มีเพียงแค่รีชาที่ได้สติก่อนคนอื่น

               “อ๊ะ นั่นพี่สาวที่นอนอยู่ตลอดเวลานี่คะ”

               ดีนต้องย้อนความทรงจำไปไกลถึงหลายเดือนก่อน ใช่… ในบ้านนี้นอกจากรีชาแล้วยังมีสมาชิกหญิงอีกสองคน คนที่หนึ่งคือไบร์ทที่ตอนนี้น่าจะออกไปเคลียร์เรื่องปริญญาเอก ส่วนอีกคนเขาไม่เคยเจอแต่รู้ว่ามีตัวตนจนเกือบลืม...

               ยินดีต้อนรับ ริปลี่ย์ สวอนสัน สู่ทีมงานซ่อมบ้านใหม่…

               [เนื้อเรื่องหลังจากนี้อ้างอิงโรลเพลย์ของ Ripley ด้านบน]


โรลเพลย์ซ่อมแซมบ้าน +1 Point

มอบ [แฮมเบอร์เกอร์] (อาหารกลางวัน) และ [สปาเก็ตตี้] (อาหารเย็น)
แก่ [เจโรม ปาร์ค ซึงยอน] และ [ไทสัน] อย่างละชิ้น

ส่งป้ายประจำบ้าน: https://i.imgur.com/c2jUoaD.gif
50 คะแนนบ้าน
ส่งป้ายหน้าบ้าน: https://i.imgur.com/HfSgOTl.png
50 คะแนนบ้าน

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2024-12-28 10:44
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2024-12-28 10:44
โพสต์ 68333 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 10:24
โพสต์ 68,333 ไบต์และได้รับ +25 EXP +1 Point [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +40 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมืออัจฉริยะ  โพสต์ 2024-12-28 10:24
โพสต์ 68,333 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2024-12-28 10:24

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1 +100 ย่อ เหตุผล
God + 100

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-12-28 23:31:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2024-12-28 23:35


White Swan in The Ocean


  Chronological event
       Let's fix our house.


  ราวกับเป็นสถานที่ที่แห่งนี้คือที่ที่จิตวิญญาณของเธอได้รับการพักผ่อน ในห้วงนิทรานี้แสงอาทิตย์สาดส่องงดงาม แสงสีขาวกระทบบึงน้ำที่มีฝูงหงส์ขาวว่ายเอื่อยชวนให้หลงไหล สายลมแผ่วที่ผ่านกายให้ปอยผมไหวปลิวเล็กน้อย เป็นภาพเดิมซ้ำ ๆ ที่เธอจะจดจ้องบรรยากาศเหล่านี้ราวกับโหยหาความสงบสุขในชีวิตมาแสนนาน

  และสุดท้ายก็จบที่ร่างเล็กค่อย ๆ ทิ้งตัวลงในบึงเพื่อเข้าสู่ความมืด

  24 Dec 2024

  ริปลี่ย์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกราวกับหยุดลมหายใจไปช่วงหนึ่งของการหลับไหล เธอไม่รู้ว่าตัวเองฝันอะไรไปนอกจากรู้สึกว่าเธอไม่อยากจะออกจากความฝันเท่าไหร่นักทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ความใด ๆ ทั้งสิ้น ร่างเล็กผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของบ้านพักหลังนี้มาแสนนานแต่ก็แลเหมือนเด็กหน้าใหม่อยู่ไม่น้อยค่อย ๆ ยืดตัวเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ร่างเล็กในวันนี้ยังคงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงคาร์โก้สีดำ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นพวกขี้เก็กคุมโทนแบล็คแอนด์ไวท์แต่อย่างใด เพราะว่าเสื้อผ้าของเธอที่ดูดีที่สุดและสะดวกสบายในการทำงานมากที่สุดมันมีแค่นี้

  เห็นทีต้องไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าใหม่ซะแล้วสิ

  เจ้าหล่อนไหวไหล่เมื่อมองตนเองในกระจกที่พยายามขัดเงาให้สะอาดเอี่ยมเมื่อคืนนี้ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนหญิงเพื่อเดินไปจัดการซ่อมแซมส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย วันนี้ดูเหมือนว่าสมาชิกฝ่ายชายจะมุ่งเน้นไปในด้านของการทำห้องสัตว์เลี้ยงขึ้นมาใหม่ทำให้เธอไม่มีงานอะไรที่จะสามารถช่วยพวกเขาได้มากนักเนื่องจากส่วนมากเป็นงานไม้ที่ผู้ชายทำ ริปลี่ย์ที่นอนพักพอควรแล้วแม้ไม่ได้หลับสนิทอะไรเพราะไร้ความมืดมิดที่คุ้นเคยก็มาช่วยเก็บกวาดบริเวณอื่น ๆ ที่ยังเก็บไม่เรียบร้อยดี

  จริงสิ ยังเหลือสระว่ายน้ำหรือเปล่านะ ?

  ริปลี่ย์คิดได้เช่นนั้นเมื่อเธอจัดการกับส่วนที่เธอคิดว่าน่าจะทำได้ไปหมดแล้วก็เดินไปรวบรวมอุปกรณ์เพื่อเดินไปยังสระว่ายน้ำที่แห้งเหือดเต็มไปด้วยขี้เถ้าดำจากการเผาทำลายล่องลอยในอากาศ มือเล็กเริ่มสาดน้ำพอชุ่มและเริ่มขัดทำความสะอาดสระว่ายน้ำแห่งนี้ แม้ว่าเธอจะรู้ตัวนานแล้วว่าตนเองเป็นธิดาแห่งโพไซดอน แต่ว่าการที่หลับไหลอย่างยาวนี้ทำให้การตื่นรู้หลาย ๆ อย่างของเธอนั้นไม่ได้ปรากฎออกมาเช่นผู้อื่น

  เห็นว่ามีรักษาด้วยน้ำเอย คุยกับเด็ก ๆ ในท้องทะเลเอย ควบคุมน้ำเอย นอกจากไม่จมน้ำตายเพราะหายใจใต้น้ำได้เจ้าหล่อนก็ล้วนทำไม่ได้ทั้งสิ้น นี่จึงเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดีที่ได้เห็นธิดาแห่งโพไซดอนที่ควรจะโถมน้ำสาด ๆ ให้สะอาดกลับมายืนหลังขดหลังแข็งขัดโฟมให้สะอาดและราดน้ำตามเช่นปุถุชนคนธรรมดา

  "...นี่—"

  น้ำเสียงประหลาดดังขึ้นข้างใบหูเล็กแต่กลับรู้สึกไกลแสนไกล หงส์ขาวตัวเล็กที่ตั้งหน้าตั้งตาขัดสระว่ายน้ำไปอย่างเอาเป็นเอาตายจำต้องเงยหน้าขึ้นมองหาต้นสายปลายเหตุของเสียงที่เรียกเธอ ทว่าเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ตัวก็พบว่าที่แห่งนี้เธออยู่คนเดียวนี่นา

  หูฝาดมั้ง—

  ได้ข้อสรุปดังนี้เจ้าหล่อนก็ก้มลงขัดสระว่ายน้ำต่อ ตอนนี้เธอขัดได้ครึ่งสระแล้วเหลืออีกไม่นานก็จะสะอาดเอี่ยมไร้ฝุ่นขี้เถ้าหรือเศษตะไคร้เขียวเก่า ๆ ใด ๆ ทั้งสิ้น เธอที่ถึงขั้นตอนของการราดน้ำเพื่อล้างฟองให้สะอาดเรียบร้อย ไล่ความสกปรกไม่พึงประสงค์ออกไปยังตะแกรงท่อน้ำที่เปิดให้น้ำสามารถไหลผ่านลงไปได้เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในส่วนของการทำความสะอาด ส่วนของการเติมน้ำคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกรุ่นพี่ในบ้านแล้วล่ะมั้ง ถ้าให้เธอจัดการเองคงไม่พ้นใช้วิธีของปุถุชนธรรมดาอย่างการลากสายยางต่อก็อกน้ำเปิดใส่สระว่ายน้ำและรอให้มันเติมทีละนิด ทีละนิด…

  “...ริปลี่ย์—”

  เสียงกระซิบเบาจางราวกับล่องลอยจากที่ไกล ๆ ทว่ากลับรู้เหมือนอยู่ข้างใบหูนี้ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้คิดไปเองอีกแล้วจึงลองหมุนตัวจนครบสามร้อยหกสิบองศาไปราว ๆ สามรอบเพื่อเช็คว่ามีคนเดินไปผ่านมาแถวนี้ไหม

  “หรือคนในบ้านเรียก?”

  หญิงสาวผู้เป็นน้องสาวรองสุดท้องของบ้านบุตรธิดามหาสมุทรลองคิดไปคิดมาก็นึกถึงความน่าจะเป็นอย่างการที่มีคนเรียกในบ้านได้ก็ปีนขึ้นจากสระและเดินเข้าบ้านไปลองถามรุ่นพี่และน้องน้อยดูว่ามีใครเรียกเธอหรือไม่ ?

   “มีใครเรียกไหม ?”

   ริปลี่ย์เอ่ยถามกับผู้คนในบ้านที่กำลังช่วยกันทำงานไม้ต่าง ๆ อยู่ พี่ ๆ ทั้งหลายต่างเงยหน้าขึ้นมาส่ายหน้าให้เธอกันเป็นคำตอบที่ว่าไม่มีใครบ้านทั้งนั้นที่เรียกเธอ คิ้วน้อย ๆ ขมวดเป็นปมอีกรอบก่อนจะเลือกที่จะปัดมันเป็นเสียงที่เธอคิดไปเองอีกครั้งและเดินเข้าไปช่วยเหลืองานที่เธอพอจะทำได้อย่างการช่วยเก็บกวาดฝุ่นผงเศษขี้เลื่อยของไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายได้สรรสร้างพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงน่ารักต่อไป

   ร่างเล็กกวาดไปเรื่อย ๆ แล้วก็ขอเดินไปช่วยอย่างงานทาแลกเกอร์ของงานไม้เพื่อเคลือบผิวไม้ให้เงาบ้าง พอทาเรียบร้อยก็เดินไปช่วยจัดของภายในห้องมากมายให้เข้าที่ เริ่มออกมาช่วยเหลือรีชาตกแต่งภูมิทัศน์ วางรูปตรงนั้น ปูผ้าตรงนี้ ช่วยเหลือในส่วนที่เธอทำได้ให้มากที่สุดเพื่อกู้คืนบ้านพักแสนสบายให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง

   “...ทางนี้—”

   เป็นอีกครั้งที่เธอได้ยินมัน คราวนี้ใจของเธอเต้นแรกด้วยความรู้สึกอยากจะบรรยาย เธอรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอนจึงขอตัวกับรีชาว่าเธอขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่ แม้ว่าแท้จริงแล้วจะเป็นการเดินตามหาเสียงประหลาดนั่นมากกว่า ริปลี่ย์เดินตามหาพร้อมตั้งใจฟังแว่วเสียงที่เรียกหาเธอไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกได้ว่ามันดังมาจากชายป่าที่ไม่ไกลจากที่ที่เธอได้ยินที่สระเท่าไหร่ ร่างเล็กกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากด้วยความรู้สึกสองจิตสองใจว่าตนเองควรเดินเข้าป่าไปในช่วงเวลาแบบนี้หรือไม่

   “...ริปลี่ย์”

   เสียงเพรียกหานี้ดังขึ้นแจ่มชัด เท้าทั้งสองก้าวเดินเข้าไปในป่าเพื่อตามหามันราวกับถูกมนต์สะกดก็ไม่ปาน

   ขอไม่ให้เป็นปีศาจหลอน ๆ แบบในหนังเฮอเรอร์ทีเถอะ

------------------------------------------------------

โรลเพลย์ซ่อมแซมจะได้รับโบนัสจากโรลเพลย์ +15 EXP (Level Max +1 Point แทน) @God








แสดงความคิดเห็น

God
((เสียงปริศนา:: จง....มา...ยังป่า.....))  โพสต์ 2024-12-28 23:51
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-28 23:38
โพสต์ 19011 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 23:31
โพสต์ 19,011 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ชุดนักเรียนญี่ปุ่น  โพสต์ 2024-12-28 23:31
โพสต์ 19,011 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก หอกกรีก  โพสต์ 2024-12-28 23:31
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
น้ำหอมสตรี
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x1
x1
โพสต์ 2024-12-30 00:46:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2024-12-30 00:49




White Swan in The Ocean

   ต้องเอาไปวางจริง ๆ หรอ ?

   ริปลี่ย์มองกล่องปริศนาที่ล็อกอย่างดีในอ้อมแขนด้วยความสงสัยกับตนเองว่าทำไมเธอถึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย เธอถอนหายใจกับตนเองรอบที่สามร้อยห้าสิบห้าล้านครั้งว่าเธอควรจะเอาอย่างไรกับมันดี หากให้ถามก็คง...

   .

   .

   .

  
“ถามเช่นนี้ คงไม่ใช่ว่าจะให้ฉันทำงานใช้หนี้ที่เลี้ยงข้าวหรอกนะ ?”

   “เรียกมันว่าคำไหว้วานไม่ดีกว่าหรือ ?”

   สายลมจากพัดกลิ่นดอกท้อโอบล้อมรอบกาย ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหาที่ใดเปรียบเอ่ยอย่างสงบนิ่งราวกับเทพบุตรผู้ใจเย็นก่อนที่จะวางจอกชาใบน้อยลงเพื่อตั้งใจสนทนากับเธอให้มากขึ้น มือเรียวโบกเล็กน้อยใส่เธอก่อนจะปรากฎให้เห็นกล่องสีดำที่ล็อคเอาไว้อย่างดีตรงหน้าของเธอ

   “ช่วยเอาสิ่งนี้ไปวางไว้ที่หน้าบ้านพักของเหล่าบุตรธิดาแห่งเฮเฟตัสที หากไม่ให้ผู้ใดพบว่าเจ้ากระทำมันจะเป็นการดีมาก ๆ ”

   “มันคืออะไร ?” ริปลี่ย์เอ่ยก่อนจะพยายามเขย่ามันดูและลองเปิดกล่องนี้ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนอกจากจะได้ยินเสียงขบขันจากคนตรงหน้าแทน “หัวเราะอะไรคะ ตอบมาสิว่ามันคืออะไร”

   “เจ้าทราบเพียงว่ามันมิใช่สิ่งใดที่ร้ายแรงก็เป็นพอ”

   “ฉันจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันไม่อันตราย แล้วฉันจะเชื่อถือคุณได้อย่างไร ทำไมฉันต้องทำด้วย”

   “เรื่องนี้เองเจ้าก็ทราบเพียงว่าข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า”

  “แล้วหากฉันทำจะได้อะไรตอบแทน ?”

   “ความโปรดปรานจากข้ากระมัง ?”

   “ห้ะ ?”

   ไม่ต้องไปหากระจกมาส่องดูก็รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำสีหน้าประหลาดสุด ๆ แน่นอน เธอรู้สึกไม่เชื่อหูว่าเธอกำลังได้ยินคำประหลาด ๆ ของชายคนหนึ่งซึ่งเธอกำลังรู้สึกว่ามันประหลาดเกินกว่าจะรู้สึกดี

   “คุณเป็นใคร ทำไมฉันต้องอยากได้ความโปรดปรานจากคนที่ฉันไม่รู้แม้กระทั่งชื่อด้วย”

  
“เช่นนั้นเรียกข้าว่า เซี่ยเวย หากวาสนานำพาภายหลังจากที่เจ้าช่วยเหลือคำไหว้วานสำเร็จ เราคงได้พบกันอีกครา”

   “ความโปรดปรานอะไรพวกนั้นมันคลุมเครือนะคะ หากจะให้ช่วยอะไรก็ขออะไรที่เป็นรูปธรรมหน่อย”

   ริปลี่ย์ผู้ไม่อยากถูกหลอกใช้ แม้ว่าใจของเธอจะอยากช่วยเหลือเพราะเห็นว่าเขายืนกรานว่ามันไม่อันตรายก็ตาม แต่ว่าเธอก็เลือกที่จะยื่นมือไปข้างหน้า กวักมือน้อย ๆ ราวกับว่าเธอต้องการของตอบแทนที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่านี้ ทางผู้ที่เรียกตนเองว่าเซี่ยเวยก็ล้วงอะไรบางอย่างในแขนเสื้อกว้างก่อนจะโยนถุงน้อย ๆ ใส่มือของเธอ เจ้าหงส์ขาวตัวน้อยเห็นเช่นนี้ก็รีบเปิดดู

   “สิบห้าดรักม่า ?”

   “เท่านั้นก็มากพอแล้วกระมัง”

   แล้วไม่นานภาพสวนท้อก็หายไป เหลือเพียงเธอที่ถือกล่องสีดำน่าสงสัยใบนั้นไว้กับตัว

  .

  .

  .

  และเธอก็เดินออกจากป่ามาจนถึงค่ายโซนบ้านพัก ในระหว่างทางที่จะต้องตัดสินใจนี้เองก็เดินผ่านบ้านของตนเองเห็นรุ่นพี่ซันซ์จึงเดินไปสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

   “สิบห้าดรักม่า ? เรื่องแค่นี้จะจ้างคนตั้งสิบห้าดรักม่าทำไม แถมยังเรียกเธอไปที่ป่าอีก น่าสงสัยไปหมด โยนทิ้งเถอะริปลี่ย์”

  ริปลี่ย์ที่ได้รับคำตอบนั้นก็รู้สึกอุ่นใจว่าเธอไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแปลก ๆ กับสถานการณ์แบบนี้ ความรู้สึกที่ไม่อยากจะเอากล่องนี้ไปวางตามที่คนคนนั้นไหว้วานนี้เองทำให้กล่องสีดำค่อย ๆ อันตธานหายไปราวกับเธอไม่เคยถืออะไรเลย

   พอทีนี้ก็หายไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ของน่าสงสัยจริง ๆ สินะ…

  ริปลี่ย์ได้ข้อสรุปเหตุการณ์บ้าบอนี้เรียบร้อยก็เลือกที่จะเดินเข้าบ้านไปช่วยเหลืองานต่าง ๆ แทน



@God






แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-23-1] โดลอส ลดลง -50 โพสต์ 2024-12-30 00:58
God
คุณได้รับ --35 เกียรติยศ +35 ความกล้า --35 ความศรัทธา โพสต์ 2024-12-30 00:57
God
เหรียญดรักม่าที่คุณเก็บก็หายจากกระเป๋า  โพสต์ 2024-12-30 00:57
โพสต์ 11511 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-30 00:46
โพสต์ 11,511 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ชุดนักเรียนญี่ปุ่น  โพสต์ 2024-12-30 00:46
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
น้ำหอมสตรี
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x1
x1
โพสต์ 2024-12-30 18:16:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Activity Form

บ้านหมายเลข 3 - บ้านโพไซดอน (ซ่อมแซม)

ย้อนเวลา 23 / 12 / 2024 เวลาประมาณ 17.45 น.




และบ้านหลังถัดมา หลังที่เธออยากจะลองไปดูก่อนว่าเป็นยังไงบ้าง เเม้เธอนั้นจะมาเย็นไปเสียหน่อยเเต่ก็ยังทันอยู่นะ เพราะตอนนี้มันไม่มีกลางคืนไงเลยทำงานมันทั้งวันทั้งคือได้เลย ไม่ต้องรู้กันเเล้วเวลาลงเวลาหนะ


แต่เมื่อเธอเดินไปถึงเธอก็ต้องพบว่าสมาชิกในบ้านช่วยกันสองแรงแข็งขันเลนทีเดียว น่าจะเป็นบ้านเเรกที่คนในบ้านออกมาร่วมด้วยช่วยกันซ่อมบ้านกัน จากที่บ้านอื่นๆ เท่าที่ลอร์ร่านั้นได้เห็นๆมา 


เพราะเธอไปมาเเทบจะครบทุกบ้านเเล้วยังไงหละ!! 


พวกเขานั้นซ่อมแซมบ้าน อย่างเป็นจริงเป็นจัง ในส่วนของสาวสาวในบ้านนี้ก็คือจะดูแลเรื่อง ความสะอาดของตัวบ้าน


ในส่วนของหนุ่มๆ เองก็ ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใดพวกเขาซ่อมแซมเสร็จอย่างรวดเร็ว


ส่วนเด็กสาวที่มาทีหลังดูท่าทางจะไม่ต้องซ่อมอะไรมากอาจจะเป็นแค่การช่วยเก็บกวาด 


ด่าเค้าจริงเค้าใช้น้ำกวาดทีเดียวก็คือสะอาดหมดเรียบร้อยแล้ว 


ตัวของเด็กสาวมันจะมาช้าไปหน่อยเธอก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ 


เด็กสาวได้แต่ยิ้มยิ้มอยู่บริเวณหน้าบ้านเอาไม้กวาดมาปัดไปปัดมา 


ทำตัวแบบแก้เขินสักหน่อย นอกจากนี้พวกเขายังเอาธงมาประดับอีกด้วยนะ 


ซึ่งเป็นธงผืนใหม่ แบบใหม่น่าจะใช้ เพราะเอามาทดเเทนอันเก่าหรือเปล่าไม่เเน่ใจ เพราะบ้านนี้เขามีธงอยู่แล้ว 


ร่างเล็กที่เดินไปทันเห็นพวกเขากำลังกลางธงอยู่พอดีก็เรียกได้ว่าน่าจะเป็นอะไรที่เสร็จแล้ว


เอาเป็นว่ากลับดีกว่า ” เธอไม่ได้ทักทายอะไรกับคนในบ้านเท่าไหร่เพราะเห็นว่าพวกเขานั้นกำลังร้องเพลงสามัคคีชุมนุม


ส่วนตัวของเด็กสาวเองก็ร่วมร้องเพลงอยู่ซักครู่ 


แต่เมื่อเพลงจบลงเธอก็รีบออกทันที  บ้านนี้เค้ามีรสนิยมแปลกๆ อยู่เหมือนกันนะ


แบบว่าเมื่อกี้ก็เปิดเพลงสามัคคีชุมนุมดีเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่  เคารพธงชาติด้วยเพลงนี้น่ะ


แต่จะว่าไปทำไมเธอถึงยืนตรงล่ะ นี้ทำเป็นการเคารพธงชาติไปได้ลอร์ร่า


ก่อนหน้านี้ได้เห็นสมาชิกในบ้านทั้งห้าคนออกมายืนชุมนุมกันแล้วก็ช่วยกันทำงานจนเสร็จ 


ซื้อผิดกับบ้านของเธอเลยที่  ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้จะมีคนนึงนอน แล้วส่วนสองสาวก็คือช่วยกันอย่างแข็งขันแน่นอน


ใช้บ้านนี้เค้าเอางานเอาการกันอยู่นะ  อย่างน้อยก็เอางานเอาการมากกว่าบ้านเธอก็แล้วกัน(มั้งนะ) 


ยังไงก็หวังว่าทุกบ้านจะออกมาเรียบร้อยโดยเร็ว โดยเฉพาะบ้านหลังที่ 9 ที่ตอนนี้คือสภาพมาก เห็นเเล้วบอกได้เเค่ น่าเอ็นดูสุดๆ แบบเอ็นดูที่สงสารไปด้วย ตอนนี้คนในบ้านนีจะต้องลี้ภัยไปนอนเต้นท์ก่อนเเน่ๆ หลังคาหายไปแบบนั้น!!




  โรลเพลย์ซ่อมแซมจะได้รับโบนัสจากโรลเพลย์ +15 EXP 

แสดงความคิดเห็น

รีชาวิ่งปรู๊ดมาหาลอร์ล่าพร้อมยัดขนมใส่มือเธอก่อนที่จะกลับไป "ขอบคุณที่มาช่วยงานนะคะพี่สาว!" คุณได้รับ โดนัท 1 ชิ้น  โพสต์ 2024-12-31 04:49
God
โรลเพลย์นี้ใช้แลกรางวัลแล้ว  โพสต์ 2024-12-30 23:47
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-30 18:30
โพสต์ 13646 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-30 18:16
โพสต์ 13,646 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-12-30 18:16
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
สื่อสารกับสัตว์
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x3
x3
x5
x1
x1
x7
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x4
x4
x15
โพสต์ 2025-1-10 01:29:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
273
สวัสดีปีใหม่ครับพ่อ
               
               01/01/2025 เวลา 10.56 น.

               ไหน ๆ วันนี้ก็เป็นวันขึ้นปีใหม่ทั้งที หนุ่มสายเลือดโพไซดอนที่ใช้ห้องนอนบ้านเฮคาทีเป็นสถานที่หลับนอนก็กลับมาที่บ้านตัวเองหน่อย

               แม้ว่าวันที่ซ่อมแซมบ้านจะทำความสะอาดรูปปั้นมหาเทพแห่งท้องสมุทรจนสะอาดเอี่ยมแล้ว แต่ดีนก็อยากจะมาปัดกวาดเช็ดถูรูปปั้นพ่อจนเอี่ยมอ่องอีกครั้ง ก่อนที่เขาอาจจะไม่ได้แวะเวียนกลับมาบ้านหลังจากที่ทำห้องสัตว์เลี้ยงเสร็จแล้ว ซึ่งตอนนี้โครงสร้างของห้องสัตว์เลี้ยงเสร็จสมบูรณ์เหลือเพียงแค่ตกแต่งภายใน อุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างกระบะทราย เบาะนอน และถ้วยอาหารสัตว์มีอยู่แล้ว ขาดก็แต่ของเล่นต่าง ๆ ที่จะทำให้ห้องนอนสัตว์เลี้ยงสดใสมีชีวิตชีวา รวมถึงโซฟาที่จะใช้นั่งพักผ่อน

               พวกของตกแต่งต่าง ๆ ดีนสั่งซื้อจากอินเทอร์เน็ตรอให้มาส่ง ชายหนุ่มยืนเท้าเอวอมยิ้มภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่ร่วมสร้างกันกับพี่น้อง แต่แล้วสายตาที่ทอดมองก็สะดุดลงเมื่อรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป ซึ่งตอนนี้นึกออกแล้ว…

               ‘โอ้พระเจ้า! เป็นบ้านโพไซดอนทั้งทีแต่กลับไม่มีอควาเรียมซะงั้น!!’

               ซึ่งถ้าเสนอความคิดนี้ออกไปพี่น้องในบ้านต้องส่ายหัวดิ๊ก ๆ เป็นแน่ งั้นเอาเป็นแค่โหลปลาทองทรงกลมแล้วกัน เพิ่มเติมคือปลาในโหลเป็นปลาปลอม ไม่อย่างนั้นมีหวังปลาทั้งโหลได้เป็นอาหารว่างของออมเล็ตแน่ ๆ

               เสียงกุกกักดังมาจากห้องนอนชาย จากนั้นสามหนุ่มบ้านโพไซดอนก็พากันลากกระเป๋าออกมา ไทสัน เจโรม และซันซ์มีเหตุให้ต้องไปนิวโรม

               พี่ใหญ่ของบ้านต้องรีบกลับไปดูแลภรรยาที่ตั้งท้องได้อ่อน ๆ น้องชายคนรองไปเยี่ยมเอลล่ากับไทสันพร้อมกับอยู่ยาว ๆ และจะกลับหลังจากงานเลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่จบลง ส่วนซันซ์ต้องกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนิวโรม ดีนเองก็อยากไปร่วมงานฉลองแต่ก็ติดนัดว่าจะออกจากค่ายไปพร้อมกับแมคเคนซี จึงได้แต่ส่งของขวัญเป็นซีดีเพลงไปให้คุณเอลล่าภรรยาของไทสัน

               “ไปดีมาดีนะพวกนาย โชคดีทุกคน”

               ดีนโบกมือบ๊ายบาย ยืนส่งพี่ชายน้องชายที่ออกเดินทางจากหน้าประตูบ้านหมายเลขสาม ตอนนี้ภายในกระท่อมที่แสนคึกคักจึงเงียบสนิท เหลือแต่เพียงดีน รีชา และเจ้าหญิงนิทราของบ้านที่ไม่รู้ตอนนี้อยู่ที่ไหน

               “บ้านเงียบชะมัด…”

               ชายหนุ่มเลิกเสื้อขึ้นเกาพุงแกรก ๆ ก่อนจะยักไหล่เบา ๆ แล้วหันกลับไปที่รูปปั้นพ่อ เริ่มลงมือทำความสะอาดเสียทีหลังจากที่มัวชื่นชมความสำเร็จของห้องสัตว์เลี้ยงอยู่นาน…


               ดอกไม้บูชาที่แห้งเหี่ยวในแจกันถูกเปลี่ยนใหม่ อย่างไรเสียดอกไม้จริงย่อมดีกว่าดอกไม้พลาสติก หลังทำความสะอาดทั้งรูปปั้นและห้องโถงเสร็จชายหนุ่มก็นั่งลงแหมะ เอนหัวพิงกับฐานปูนปั้น

               “พ่ออยู่ไหม? ดูผมอยู่หรือเปล่า?”

               ชายหนุ่มไถ่ถาม แม้ไม่ได้ยินเสียงตอบแต่เขารู้สึกได้ถึงไอเย็น ๆ รอบกาย มันสดชื่นเหมือนแหวกว่ายในกระแสน้ำ ไม่ใช่ลมหนาวของเหมันต์ฤดู แปลว่าพ่อรับรู้การกระทำของเขา อาจมองดูอยู่จากที่ไหนสักแห่งแต่ปากไม่ว่างตอบ ฉะนั้นดีนจึงไม่เสียดายน้ำลายที่จะคุยตอบรูปปั้นของพ่อ

               “สวัสดีปีใหม่ครับพ่อ ความจริงแล้วผมฝากคุณน้าสวัสดีปีใหม่พ่อแหล่ะ แต่ผมมาบอกเองอีกทีดีกว่า ยังไงเราก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันขนาดนั้น… ใช่ไหม?”

               ด้วยบทสนทนานี้ดีนหวนนึกถึงฉาก ‘จงจำไว้’ ในอนิเมชั่นยอดเยี่ยมตลอดกาลเรื่อง ‘เดอะ ไลอ้อนคิง’ ปีหนึ่งเก้าเก้าสี่.. ในหนังการ์ตูนราชสีห์องค์เก่าตายแล้วกลายเป็นดวงดาวตามความชื่อของเผ่าสิงโต แต่ชีวิตจริงของเขาแตกต่างกันนิดหน่อย พ่อไม่ได้ตายแต่เป็นเทพเจ้าที่ตายไม่ได้แทนเนี่ยสิ จะว่าคล้ายกันก็นิดหน่อย

                ช่างมัน.. เขาเล่าต่อ

               “พ่อรู้ไหม มีใครฟ้องพ่อแล้วหรือยัง? หนึ่งวันหลังจากที่เราเจอกันที่บ้านพักตากอากาศ ที่พ่อบอกว่า ‘แล้วเจอกันที่โอลิมปัส’ บอกตรง ๆ ว่าผมไม่รู้เลยว่าพ่อหมายถึงอะไร จนกระทั่งเช้าวันนั้นที่รีชกับเจรี่แต่งตัวสวยหล่อไปขึ้นรถบัสกันน่ะ วันนั้นพ่อเสียใจหรือเปล่าที่ไม่พบผมที่โอลิมปัส?

               ดวงตาสีเปลือกไม้เหลือบมองขึ้นไปยังพระพักตร์ของรูปปั้นเจ้าสมุทร ทว่ารูปปั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรเหมือนเดิม

               หลังจากนั้นไม่นานเจ้าเทพโลกิตัวร้ายมันมาบุกค่ายพร้อมกับมอนสเตอร์อีกเป็นฝูง วันนั้นอย่างกับวันนรกแตก คนที่เหลือในค่ายพยายามต่อสู้ป้องกันค่ายเอาไว้แต่สุดท้ายบาเรียค่ายก็แตก น่าเจ็บใจชะมัด แถมงานนี้มีคนตายอีกต่างหาก น่ากลัวเป็นบ้าเลย…”

               ดีนหลุบตาลงมองไปที่ฝ่ามือของตัวเอง มันไม่ได้สั่นระริกเฉกเช่นเวลาที่เขานึกถึงเรื่องร้าย ๆ ในชีวิต บางทีน้ำที่คุณดีให้ดื่มอาจได้ผลดีกว่าที่คิด แม้จะทำให้หายขาดจากการคิดเรื่องกังวลไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังบรรเทาไม่ให้อาการกำเริบในระยะยาว ไม่แน่ว่าหากบำบัดอย่างต่อเนื่องอาจได้ผลที่ดีกว่านี้

               “ผมไปงานศพของเด็กคนนั้นมา เอลลิส.. เขาคือลูกของเทพแอรีส ถ้านับญาติกันก็เหมือนว่าเป็นหลานชายของผมใช่ไหมครับ? ผมกับเด็กคนนั้นไม่ได้สนิทกันเท่าไร พูดก็พูดเถอะเหมือนผมถูกหมั่นหน้าฝ่ายเดียวมากกว่า บางทีอาจจคล้ายกับที่ผมรู้สึกต่อพ่อของเขามั้ง… บอกตรง ๆ ว่าผมก็ไม่ได้ชอบเทพแอรีสเท่าไร ชอบส่งภารกิจติ๊งต๊องมาให้เด็กทำเสี่ยงตาย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เห็นใจเขานะ ถึงเทพจะมีลูกมากมาย แต่การสูญเสียลูกชายไปทั้งคนแม้แต่เทพสงครามยังร้องไห้ ผมเห็นมากับตา…”

               ดีนเม้มริมฝีปาก เขาไม่กล้าถามว่าหากพ่อเสียลูกไป อาจจะเป็นเขาหรือพี่น้องสักคนในบ้านพ่อจะเสียใจไหม ดีนรู้คำตอบแน่นอนอยู่แล้วว่า ‘ต้องเสียใจสิ’ ไม่ว่าจะเป็นซันซ์ที่ไม่ค่อยสนิทกับพ่อ หรือรีชาลูกสาวคนเล็กที่พ่อเอ็นดูสุด ๆ เลยก็ตาม แต่ว่าเทพโพไซดอนยังให้ความเมตตาพวกเขาเช่นเดียวกับบุตรธิดาคนอื่น ๆ ไม่มีแบ่งแยกลูกรักหรือลูกชัง

               อาจนิ่งเงียบนานเกินไป… ดีนจึงรู้สึกได้ถึงสายน้ำและเสียงของพ่อที่สื่อเข้ามาในจิต

               『เอลวินลูกรัก ความเห็นอกเห็นใจต่อมิตรหรือศัตรูของเจ้าคือคุณสมบัติที่เจ้าชายแห่งแอตแลนติสพึงมี หากสงสารและเห็นใจแอรีสลูกก็จงปลอบใจเขาเถิด』

               “จริงด้วยแฮะ.. ขอบคุณนะครับพ่อที่ชี้ทาง ผมคิดว่าไปช่วยปลอบใจพี่แอริสเขาหน่อยดีกว่า ยังไงพวกเราก็… ญาติกันใช่ไหม?”

               เสียงจากรูปปั้นไม่ตอบอะไรอีก ดีนสัมผัสไม่ได้ถึงคำตอบว่าใช่และไม่ใช่ คาดว่าบางทีเทพแห่งโอลิมปัสอาจไม่อยากนับญาติกันและกัน ความขัดแย้งในครอบครัวเกิดรอยร้าวนานเกินไปและคงไม่อาจสมานกันดี เป็นเรื่องที่รู้สึกเจ็บปวดจนชวนให้หายใจติดขัด

               『ครอบครัวเรา… มันก็เป็นแบบนี้』

               “โอเค.. ครอบครัวเรามันก็เป็นแบบนี้.. ก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยตามน้ำเสียงอ่อนใจ คงมีแต่ต้องจำยอม

               แต่ไม่รู้แหล่ะ ดีนไม่ชอบให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวร้าวฉาน อาจเพราะว่าเขาเติบโตมาในบ้านที่รักใคร่กันเกินไปทั้งที่ไม่มีใครเป็นญาติกันจริง ๆ เขาไม่ยอมให้เทพโอลิมปัสทะเลาะกันเองด้วยเรื่องไร้สาระหรอก ในเมื่อนอกจากเรื่องในโอลิมปัสแล้วยังมีเทพจากภายนอกที่ไม่ได้ประสงค์ดีต่อพวกเราเท่าไร

               “ถึงจะรู้ว่าครอบครัวเรามันก็แบบนี้แต่จะพยายามเชื่อมรอยร้าวให้มันกลับมาสมานกันได้เอง เหมือนกับกาวที่พ่อให้มาไงครับ ติดแน่นเหมือนกับปูนฉาบ!” ดีนหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะลุกพรวดขึ้น ตอนนี้เขามีเป้าหมายแรก (ความจริงอาจเป็นเป้าหมายที่สองหรือสาม) ที่จะทำในปีนี้แล้ว “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับพ่อ แล้วว่าง ๆ จะมาคุยด้วยใหม่ อ้อจริงสิ ผมมีแผนจะไปช่วยพ่อที่นีออมด้วยล่ะ คงออกเดินทางเร็ว ๆ นี้มั้ง ยังไงก็อวยพรให้ผมปลอดภัยด้วยนะครับ”

               บุตรเจ้าสมุทรจากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เทพเจ้าที่อยู่หลังรูปปั้นที่น่าจะกำลังอยู่ในอาการงงงวย

               กาว… อะไร?

               แต่บางทีลูกชายคนนี้ชอบพล่ามไปเรื่อย อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้...

ทำความสะอาดรูปปั้นรับปีใหม่
เปลี่ยนดอกไม้ในกระถางหน้ารูปปั้นโพไซดอน


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +15 ความศรัทธา โพสต์ 2025-1-10 01:31
โพสต์ 24440 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-1-10 01:29
โพสต์ 24,440 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก หนังสือรับรองไครอน  โพสต์ 2025-1-10 01:29
โพสต์ 24,440 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมืออัจฉริยะ  โพสต์ 2025-1-10 01:29
โพสต์ 24,440 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2025-1-10 01:29
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2025-1-19 01:03:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
281
เป็นบุตรแห่งโพไซดอนมันไม่ง่าย
               

               ใครบางคนเคยพูดไว้ ‘เป็นเดมิก็อดมันไม่ง่าย’ แต่ผมขอบอกเลยว่า ‘เป็นบุตรแห่งโพไซดอนยากกว่า’

               .
               .
               .

               15/01/2025 เวลา 16.20 น.

               ช่วงนี้ดีนใช้เวลาทั้งวันขลุกอยู่กับคอกม้าและห้องสัตว์เลี้ยงในบ้านโพไซดอน พอค่ำหน่อย (ยังมีศัพท์คำว่า ‘ค่ำ’ อยู่ในพจนานุกรมอยู่ไหม?) ถึงค่อยไปที่บ้านเฮคาทีเพื่อซุกหัวนอน

               ตั้งแต่ที่แมคเคนซีจับพลัดจับผลูถูกภารกิจคำพยากรณ์เด้งอัดหน้า กำหนดการเดินทางจึงถูกเลื่อนออกไปทั้งหมดจากที่พวกเขาทั้งสองต้องออกเดินทางเมื่อห้าวันที่แล้วจนมาถึงวันนี้ก็ยังเตรียมตัวกันไม่เสร็จ

               เป็นเรื่องช่วยไม่ได้… ‘การเป็นเดมิก็อดมันก็ไม่ง่ายแบบนี้’

               ดีนได้แต่ปลอบใจตัวเอง แม้ว่าเขาจะค่อนข้างกลัวการไปทำภารกิจเดินทาง แต่ในเมื่อคนรักได้รับมอบหมายการเดินทางเขาก็ยินดีจะช่วยเหลือ

               ทว่า…

               ‘แต่ฉันไม่อยากให้นายผิดใจกับพ่อ นายควรไปช่วยคนในครอบครัวของนายนะ ส่วนฉันก็จะไปช่วยคนในครอบครัวของฉันเหมือนกัน’

               คำพูดของคนรักฟังมีเหตุผล เพราะว่าหากเขาไม่ช่วยครอบครัวอาจมีคนซวยจากภัยสึนามิก็ได้ นีออมถูกสร้างโดยใช้เหล็กของโลกไปตั้งยี่สิบเปอร์เซ็น จะยอมให้ถูกทำลายไปง่าย ๆ ทั้งที่เมืองยังสร้างไม่เสร็จดีได้ยังไง น่าเสียดายที่ภารกิจของทั้งสองต้องทำงานแข่งกับเวลาไม่อย่างนั้นดีนคงดอดไปช่วยงานแมคเคนซีก่อนแล้วค่อยไปช่วยหาเสียงช่วยพ่อ (พูดแล้วก็เหมือนว่าพ่อจะลงแข่งเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดียังไงก็ไม่รู้) แม้จะเข้าใจเหตุผลแต่ก็รู้สึกนอยด์นิดหน่อย

               แต่ส่วนที่ทำให้นอยด์มาก ๆ เกิดขึ้นหลังจากนั้น แฟนสุดหล่อของเขาดันไปชวนสาวสวยที่ไม่รู้จักถึงสองคนเป็นเพื่อนร่วมภารกิจเดินทาง ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายจะชวนซิลเวอร์หรืออเล็กเซย์ไปด้วยเสียอีก ตอนนั้นพอรู้ว่าคนรักชวนใครไปทำเอาดีนรู้สึกร้อนวูบที่หน้าจนกล้ามเนื้อแก้มกระตุกเบา ๆ แต่ก็จำเป็นต้องทำเป็นยิ้มรับแล้วก็พูดว่า ‘อ๋อ สองคนนั้นเหรอ’ แล้วก็ทำเหมือนไม่มีอะไร ทั้งที่ตัวเองหึงจนหน้ามืด

               แต่ว่าดีนไม่อยากทำตัวเป็นแฟนงี่เง่า ทั้งที่ตัวเองโคตรจะงี่เง่า การทำเป็นเห่อห้องสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งสร้างเสร็จจึงเป็นทางเลือกที่ดี

               .
               .
               .

               “พี่จ๋าแย่แล้ว! เกิดเรื่องขึ้นกับท่านพ่อแล้วค่ะ!”

              น้องน้อยรีชาสะพายกระเป๋าวิ่งดุ๊ก ๆ เข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน สีหน้าของเธอค่อนข้างตระหนก

               “ใจเย็นก่อนรีช เมื่อกี้เธอว่าไงนะ? พ่อเป็นอะไร?”

               ปรับโหมดจะคนแอบงอนแฟนแทบไม่ทันเมื่อน้องสาวเกิดเรื่องใหญ่ หากเอาตัวแปร ‘โพไซดอน’ และ ‘ปัญหา’ มารวมกันหนุ่มร่างสูงก็เหงื่อตก

               ‘ทำตรีศูลหายที่ไหนอีกหรือเปล่าวะ…’

               รีชาสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนสงบสติอารมณ์แล้วเริ่มเล่า

               “คือว่างี้ค่ะ มีข่าวมาว่าปรากฏการณ์ ‘ลานีญา’ ทำให้อารมณ์เทพโพไซดอนและเทพเนปจูนตีกันและไม่ภาคใดภาคหนึ่งคุมอยู่” รีชาเม้มปากก่อนจะเอ่ยถามตาใส “ว่าแต่ลานีญาคืออะไรคะ เหมือนลาซานญาหรือเปล่า?”

               “พรืด…” กำลังเครียด ๆ อยู่ก็หลุดขำ มือใหญ่วางบนหัวยัยตัวเล็กก่อนจะยีเบา ๆ “เอาล่ะ ได้เวลาเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานแล้ว.. ‘ลานีญา’ คือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิต่ำลง เลยทำให้พื้นที่บริเวณเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีฝนตกมากกว่าปกติ แต่บางพื้นที่ในโลกอย่างเช่นทวีปแอฟริกาจะแห้งแล้ง ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ ‘เอลนีโญ’ ที่จะทำให้อุณหภูมิสูงกว่าปกติ..”

               รีชานิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักที่ดูไม่ออกว่าเธอเข้าใจจริงไหมหรือว่าแค่ทำเป็นรับรู้ไปงั้น ๆ

               “อารมณ์แปรปรวนเกี่ยวข้องกับเอลนีโญกับลานีญางั้นเหรอ…”

               เป็นอะไรที่น่าสนใจดี ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าอะไรเป็นอะไร แต่ให้เดาว่าโพไซดอนน่าจะมีผลต่อเอลนีโญ ส่วนเนปจูนคงมีผลต่อลานีญา แต่การที่ทั้งสองภาคควบคุมร่างไม่ได้จนเกิดภัยพิบัติแบบนี้ มันอาการของคน ‘ไบโพลาร์กำเริบ’ ชัด ๆ

               ‘นี่ไง ความยากของการเป็นบุตรโพไซดอน’

               “แล้วแบบนี้ทำไงดีล่ะ พ่อจะหายเองได้ไหม หรือว่าต้องมีอะไรเรียกสติ”

               ดีนครุ่นคิด ตอนนี้มีเหตุการณ์อีเทอนัลซันไชน์ที่แย่อยู่แล้ว โลกไม่อยากถูกซ้ำเติมด้วยมหาพายุพัดเมืองชายฝั่งจนจมหายไปหรอกนะ

               “หนูก็ไม่รู้ค่ะ แต่ว่าหนูอยากช่วยท่านพ่อ พี่ดีนสนิทกับท่านพ่อเรียกน้ำวน ๆ ไปช่วยคุยกับท่านพ่อได้ไหมคะ?”

               “เดี๋ยวสิรีช ตอนนั้นพ่อดูดพี่ไปเอง ทำเองไม่ได้หรอกนะ”

               แต่เหมือนสองพี่น้องรู้ใจกัน สายเลือดโพไซดอนหันขวับไปทางรูปปั้นมหาเทพที่โถงหลักอย่างพร้อมเพรียง

               “แต่เราลองติดต่อพ่อกันดีกว่า”

               “ได้ค่ะ”

               ดีนและรีชาเดินไปจับมือรูปปั้นโพไซดอนกันคนละมือ หลับตาภาวนาจิตนึกถึงบิดาอย่างที่เคยทำตอนขอพร ในยามปกติ ไม่ว่าพ่อจะสื่อสารตอบกลับหรือไม่เขามักจะรู้สึกถึงสายน้ำห้อมล้อมอยู่เสมอ ทว่าครั้งนี้ดีนไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่าและเย็นมือ

               “ไม่รู้สึกถึงพ่อเลยแฮะ…”

               “หนูก็ไม่รู้สึกเหมือนกัน ง่า… ทำไงดีล่ะ หนูอยากขอพรท่านพ่อให้เทสย่อยวิชาคณิตศาสตร์วันพรุ่งนี้ผ่านอยู่เลย”

               “เดี๋ยวรีช พ่อไม่ได้ให้พลังพวกเราแบบนั้น!” อดจะขำกับความไร้เดียงสาของน้องสาวไม่ได้ ถ้าขอให้ช่วยวิชาว่ายน้ำสิอาจจะพอไหว (?) “พี่ว่าพวกเรามาลองกันอีกทีเถอะ”

               “อื้อ! ได้ค่ะ!”

               แม้จะบอกว่าลองกันอีกครั้ง แต่เอาเข้าจริงสองพี่น้องสายเลือดโพไซดอนลูบ ๆ คลำ ๆ รูปปั้นเจ้าสมุทรอยู่เป็นชั่วโมงถึงจะรู้สึกถึงตัวตนอันแผ่วบางของเทพโพไซดอน

               “อ๊ะ.. เหมือนเมื่อกี้จะจับจิตของพ่อได้แป๊บนึงแฮะ”

               “จริงเหรอคะ หนูไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย” รีชาส่ายหน้าก่อนจะพยายามสัมผัสถึงพ่อใหม่ ซึ่งดีนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเมื่อตะกี้นี้เขาคิดไปเองหรือเปล่า

               “ฮึ่ม.. พี่ว่าเรามัวแต่ทำแบบนี้น่าจะไม่ได้ประโยชน์อะไร เอางี้ไหม เราหาวิธีเรียกสติพ่อในตอนที่พวกเราไม่อยู่กันดีกว่า”

               “อื้ม หนูก็ว่าอย่างนั้นค่ะ ตอนนี้หนูเริ่มหิวแล้วด้วย.. ว่าแต่เราจะทำยังไงกันดีคะ อัดเสียงเรียกชื่อพ่อแล้วเปิดวนซ้ำเหรอ?” รีชาเสนอ

               “เอ่อ… พี่ว่าไม่ดีมั้ง ถ้าพวกเราได้ยินแต่เสียงตัวเองเรียกชื่อพ่อคงหลอนน่าดู แต่การเปิดอะไรสักอย่างเพื่อเรียกพ่อเป็นความคิดที่ดี”

               แม้ข้อเสนอของรีชาออกจะแปลกประหลาด แต่นั่นกระตุ้นไอเดียให้ดีนคิดอะไรบางอย่างออก ชายหนุ่มยกโทรทัศน์ในอยู่ในห้องนั่งเล่นมาตั้งวางไว้ตรงหน้าของรูปปั้นเทพโพไซดอน จากนั้นเชื่อมต่อบลูทูธแล้วส่งคลิปม้าหนึ่งชั่วโมงตั้งค่าให้เล่นต่อเนื่องให้รูปปั้นของพ่อดู


               “ถ้าพ่อมีสติสักแว้บนึงแล้วได้เห็นม้าที่พ่อชอบน่าจะอารมณ์ดีขึ้น”

               “มันจะได้ผลใช่ไหมคะ” รีชาเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะว่าเธอยังสัมผัสถึงโพไซดอนไม่ได้เลยเนี่ยสิ

               “ไม่รู้สิ.. ก็แค่ลองไว้ เดี๋ยวพี่จะไม่อยู่หลายวัน ต้องฝากรีชคอยเปลี่ยนคลิปน้องม้าให้พ่อดูทุกวันด้วยนะ ส่วนตอนนี้.. เธอหิวแล้วใช่ไหม? ไปกินมื้อเย็นกันเถอะ”

               “ได้เลย! ให้เป็นหน้าที่ของหนูเองค่ะ!”

               จากนั้นสองพี่น้องก็ตรงไปโถงอาหาร จากนั้นค่อยกลับมาให้อาหารเย็นเจ้าออมเล็ตต่อ พอถึงเวลาพลบค่ำจึงได้เวลาที่ดีนจะกลับไปหาแฟนที่บ้านเฮคาที

กิจกรรม: ร่วมกันหาวิธีผ่อนคลายมหาสมุทร
+15 EXP และ +5 ความโปรดปราน


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-03-1] โพไซดอน เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-1-19 10:11
โพสต์ 29641 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-1-19 01:03
โพสต์ 29,641 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก โล่แห่งเกียรติยศ  โพสต์ 2025-1-19 01:03
โพสต์ 29,641 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีทอง  โพสต์ 2025-1-19 01:03
โพสต์ 29,641 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก หนังสือรับรองไครอน  โพสต์ 2025-1-19 01:03
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2025-5-5 08:42:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-5-5 13:48

321

เข็มกลัดของพวกเรา


               (FRI) 04/04/2025 


               หยุดหนึ่งวันก่อนที่จะไปกระโจมต้องประสงค์อีกครั้ง ดังนั้นที่ปรึกษาบ้านโพไซดอนจึงมีเวลาสะสางเรื่องต่าง ๆ ในกระท่อมของตัวเอง


               นานแล้วที่ดีนไม่ได้กลับมายังกระท่อมหมายเลขสามของตัวเองเพราะมัวแต่ถูกกักบริเวณ (โดยสมัครใจ) ที่กระท่อมหมายเลขยี่สิบ ตอนแรกดีนคิดว่าไข่เหลืองจะจำหน้าเขาไม่ได้ แต่เมื่อเห็นหน้ากันเจ้าลูกสิงโตตัวใหญ่ก็กระโดดโถมเข้าใส่ ลากลิ้นสาก ๆ เลียหน้าเสียจนเจ้าของตัวจริงต้องทำหน้ายู่ การกระทำของมันไม่ต่างอะไรจากหมาที่ไม่ได้เจอเจ้าของมานาน ติดแต่ว่าลูกนีเมียนตัวนี้ตัวใหญ่เขื่องน้ำหนักเยอะพอ ๆ กับสุนัขพันธุ์ใหญ่น้ำหนักกว่าสี่สิบปอนด์ โถมร่างใส่แต่ละที หากยืนตั้งหลักไม่ดีก็มีเซล้ม


               เล่นกับลูกสิงโตจนมันผลอยหลับไปตามประสาแมวยักษ์ที่ต้องนอนวันละยี่สิบชั่วโมงเสร็จก็ได้เวลาทำงานบ้าน งานปัดกวาดเช็ดถูกต้องมา ตอนนี้บ้านโพไซดอนมีคนเหลืออยู่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดอยู่น้อย แล้วยิ่งวันนี้เป็นวันศุกร์ที่น้องสาวคนเล็กอย่างรีชาต้องไปโรงเรียน ที่กระท่อมหลังนี้จึงเหลือเพียงดีนและเจโรมกันแค่สองคน


               .

               .

               .


               …กิจกรรมช่วงเช้า…


               “นายได้ติดต่อพ่อบ้างไหม?”


               จู่ ๆ ดีนก็เอ่ยถามน้องชายที่อายุห่างกันไม่กี่ปีเรื่องเกี่ยวกับพ่อ ในขณะที่เขากำลังใช้ไม้กวาดหยากไย่ปัดป่ายไปตามเพดานห้องที่ทำจากไม้ ไล่แมงมุมตัวน้อยที่แอบมาหลบอาศัยใต้ชายคาบุตรแห่งท้องทะเล ไว้ไปสร้างบ้านชักใยที่อื่นนะชาร์ล็อตเว็บ


               “ก็มีบ้างนะครับ แต่ไม่ค่อยได้สัญญาณอะไรจากพ่อกลับมาเลย แถมช่วงนี้ยังเหมือนกับว่าพ่อหายไปไหนก็ไม่รู้ด้วยสิ”


               เจโรมตอบกลับด้วยน้ำเสียงอู้อี้ผ่านแมสก์ปิดหน้าป้องกันฝุ่นขณะทำความสะอาด สาว ๆ แฟนคลับหมอนี่ต้องเกลียดเขาแน่ ๆ ที่ใช้งานพ่อหนุ่มไอดอลสุดหล่อให้มาทำงานบ้านอย่างหนัก ก็อย่างว่า… พวกเธอไม่มีเจโรมที่บ้านอะนะ


               ส่วนสาเหตุที่สัญญาณของโพไซดอนติด ๆ ดับ ๆ ขาด ๆ หาย ๆ มาจากหลายอย่าง ทั้งอาการจิตแปรปรวนส่วนตัว ไหนจะเสียใจจากการสูญเสียชู้รักที่เป็นฮิปโปแคมปัสไปอีก และอีกส่วนก็เป็นเพราะดีนนี่แหล่ะที่ทุ่มศรัทธาให้แก่เทพเนปจูนจนมีพลังมากกว่าแล้วได้ครอบครองร่างราชาไว้ชั่วคราว


               เรื่องนี้เงียบ ๆ ไว้ไม่บอกน้องที่บ้านก็แล้วกัน…


               “ถ้างั้น เราควรเปิดทีวีสารคดีม้าจ่อให้พ่อดูต่อไหม?” แกล้งซื่อทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นถามเรื่องสารคดีม้าที่เปิดไว้ข้ามเดือนซะเลย


               “ผมว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้ผล ถ้าพ่อดูม้าแล้วหายก็น่าจะหายตั้งแต่เดือนที่แล้ว ๆ ล่ะครับ เปิดทีวีค้างไว้นาน ๆ วงจรข้างในจะเสียเอา เผลอ ๆ ลัดวงจรหนักเข้าจะทำไฟไหม้บ้านได้ด้วยครับ”


               “งั้นปิด ปิดดีกว่า ไม่ถึงครึ่งปีไฟก็ไหม้ค่ายมาสองรอบแล้ว ครั้งที่สามอย่าให้มาจากกระท่อมของพวกเรา” ส่วนครั้งที่สี่นั้นไม่ควร...


               “รับทราบ”


               ตกลงกันเรียบร้อยเจโรมก็ปิดโทรทัศน์ที่ทำงานหนักมาเป็นเวลากว่าสองเดือน ตอนนี้ให้พลทหารที่ชื่อว่าทีวีปลดประจำการไปก่อนเพื่อคูลดาวน์ร่างกาย (?)


               กว่าจะทำความสะอาดบ้านเสร็จอะไรเสร็จก็เลยมาถึงช่วงบ่าย พักรับประทานอาหารที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทกันพร้อมกับคุยนั่นนี่ตามประสาพี่ชายน้องชายไปด้วย


               “เจรี่นี่ของฝากจากนีออม”


               “อ๊ะ ขอบคุณครับ”


               ดีนยื่นเสื้อฮาวายให้กับน้องชาย เขาเลือกเสื้อทีมโพไซดอนที่มีสีสันและรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน คล้ายกับตัวที่เขามี ตัวที่ให้เทพเนปจูนไป และเหมือนกับที่เผาบูชาเทพีแอมฟิไทรต์ไปด้วย เจโรมรับมันมาแล้วลองสวมทับไปกับสเวตเตอร์ที่สวมใส่อยู่ทันที เห็นว่าใส่ได้ก็โอเค


               “เจรี่สอนฉันหน่อยสิ ฉันอยากส่งให้ซันซ์ ไทสัน แล้วก็ภรรยาของเขาด้วย ต้องส่งตรงไหนนะ ตอนนั้นคนขายบอกว่ามีบริการส่งของวาร์ปไปได้ด้วย”


               “อ๋อ ถ้าจะส่งของให้คนอื่นต้องทำแบบนี้ครับ ไปที่ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ ใส่เบอร์ของปลายทางเข้าไป จากนั้นแสกนของที่อยู่ตรงหน้าแล้วกดส่ง แต่ว่ามันมีค่าบริการด้วยนะชิ้นละห้าสิบดอลลาร์ครับ” เจโรมขยับเข้าไปสอนดีนการใช้สมาร์ทโฟนเดดาลัสใกล้ ๆ 


               “โอเคเข้าใจแล้ว ดีนะที่ใช้ดอลลาร์แทนดรักม่า” ดีนฟังการสอนจากนั้นพยักหน้าหงึกหงัก “แอบแพงเหมือนกันแฮะ ค่าส่งห้าสิบดอลลาร์ต่อชิ้น แต่ด้วยเทคโนโลยีก็เข้าใจได้”


               ขอให้ได้บ่นนิดหน่อยจากนั้นเขาก็ลองแสกนเสื้อฮาวายส่งให้ซันซ์ เสื้อฮาวายแบบเดียวกันส่งถึงปลายทางอย่างรวดเร็วพอ ๆ กับเงินในบัญชีที่ถูกหักไป ลองส่งข้อความไปคอนเฟิร์มน้องชายที่อยู่ต่างรัฐเสียหน่อย อีกฝ่ายได้รับของอย่างดี มันโผล่ออกมาตอนที่ซันซ์กำลังฟังเลคเชอร์วิชาประวัติศาสตร์โรมันอยู่พอดีเลย…


               พอทำได้ครั้งหนึ่งก็เริ่มสนุก ดีนจึงส่งของไปหาไทสันด้วย แต่ส่งข้อความไปบอกเจ้าตัวก่อนจะได้ไม่ตกใจ…



profile
TYSON
   D.E.A.N.:
เดี๋ยวส่งของไปให้นะพี่ชาย
           TYSON:
TYSON
ส่งอะไรเหรอ?



               ส่งอะไรไปให้ไม่บอกหรอก ให้อีกฝ่ายเซอร์ไพรส์เอง ส่วนคนที่อยู่ทางนี้คงรู้อยู่แล้ว..



profile
TYSON
   D.E.A.N.:
[คุณส่งพัสดุถึง TYSON จำนวน 2 ชิ้น
ค่าบริการ $100]
           TYSON:
TYSON
นี่มันเสื้อฮาวายคู่นี่นา ซื้อให้ฉันกับเอลล่าเหรอ ขอบคุณนะ 
   D.E.A.N.:
ไม่ใช่เสื้อคู่แต่เป็นเสื้อทีมต่างหาก
ฉันซื้อมาจากนีออมฝากพวกเราทุกคนเลย
น่าเสียดายไม่มีไซส์เด็กทารก ไม่งั้นฉันซื้อให้หลานด้วย
           TYSON:
TYSON
น่าดีใจกว่าเดิมอีก
ว่าง
ขอบคุณนะที่คิดถึงพวกเรา
ว่าง
เอลล่าเองก็ฝากขอบคุณ เธอบอกว่าชอบมาก
   D.E.A.N.:
ดีใจที่พวกนายชอบนะ
พวกเราทุกคนรอคอยนายกลับมา
แล้วก็รออุ้มหลานด้วย

               

               ได้รับข้อความตอบกลับมาแบบนี้ก็ถือว่าได้ ตอนนี้พี่น้องบ้านโพไซดอนก็น่าจะได้ของฝากกันถ้วนหน้าแล้วล่ะ


               .

               .

               .


              …กิจกรรมช่วงบ่าย…

               

               “ฉันเห็นคนที่บ้านไดโอนีซุสมีเข็มกลัดประจำบ้านด้วยน่ะ ฉันเลยกะว่าจะทำ นายว่าไง?”


               ดีนเอ่ยถามหลังจากที่พวกเขาเพิ่งอิ่มจากของหวานยามบ่ายได้ไม่นาน (แน่นอนว่าเจโรมแตะแคลอรีไปนิดเดียว)


               “ก็ดีนะครับ ผมคิดว่าพี่จะไม่สนใจแล้วซะอีก”


               ก็เข็มกลัดน่ะสร้างได้นานแล้ว แต่บุตรแห่งโพไซดอน (คนที่เป็นที่ปรึกษาของบ้านเสียด้วย) กลับเพิ่งรู้ว่าสามารถสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้ด้วยเหมือนกัน


               “ก็เพราะว่าไม่รู้เนี่ยแหล่ะ ฉันชอบสัญลักษณ์ของทีมเวิร์คอยู่แล้ว…” ไม่อย่างนั้นคงไม่ซื้อเสื้อฮาวายที่เหมือนกันมาแจกให้พี่น้องใส่ “เอาล่ะ.. เราจะเริ่มกันจากตรงไหนดี?”


               “เห็นถามนึกว่ามีแผนอยู่แล้วเสียอีก” เจโรมหัวเราะน้อย ๆ “ผมคิดว่าน่าจะต้องเริ่มจากการออกแบบตัวเข็มกลัดก่อน พี่จะทำเป็นแบบไหนครับ เป็นพิน รูปทรงสวย ๆ หรือว่าเข็มกลัดกลม”


               “ฉันอยากได้แบบพินหรือที่เป็นรูปทรงนะมันสวยดี เคยดูคลิปที่ใช้ทรายในการเป็นแม่พิมพ์แล้วเทโลหะหลอมเหลวลงไป ไม่น่าจะยาก พวกเราเองก็น่าจะทำกันได้”


               “ฟังดูน่าสนใจนะครับ ผมก็เคยเห็นคลิปแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าเราจะไปเอาอุปกรณ์มาจากไหนกันดี?” เจโรมถาม


               “ตอนนั้นที่สร้างห้องสัตว์เลี้ยงเรายังเก็บพวกเครื่องมือช่างอยู่ในห้องเก็บของ ส่วนเบ้าหลอมน่าจะยืมมาจากโรงหลอมเหล็กได้ แต่ตรงห้องรับแขกนี่น่าจะไม่เหมาะ ถ้างั้นหลังจากได้แบบแล้วเราไปคราฟงานกันหลังบ้านดีไหม?”


               “ได้ครับ ถ้างั้นผมไปหยิบกระดาษกับเครื่องเขียนมาก่อน”


               เจโรมลุกขึ้น เขาอยู่กับรีชาเพียงแค่สองคนมานานพอที่จะรู้ว่าอุปกรณ์วาดเขียนของน้องสาวอยู่ตรงไหน เมื่ออุปกรณ์พร้อมสองหนุ่มเริ่มออกแบบเข็มกลัดในแบบที่ตัวเองชอบหลายอย่างเพื่อหาแบบที่ดีที่สุด แต่จนแล้วจนรอดดูเหมือนว่าทักษะการวาดภาพของทั้งสองจะมีไม่มากพอ จนกระทั่งมือดีกลับมาจากโรงเรียน


               .

               .

               .


              …กิจกรรมช่วงเย็น…


               “เอ๋ พี่ ๆ กำลังออกแบบเข็มกลัดกันอยู่เหรอคะ ให้หนูช่วยอะไรไหม?”


               “ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดจิตรกรน้อยของบ้านก็กลับมาแล้ว”


               ดีนโพล่งออกมาด้วยความโล่งอก เขาไม่รีรอที่จะยัดสมุดสเก็ตใส่มือของธิดาคนเล็กของบ้าน


               “พวกพี่วาดอะไรกันคะ บ้านเราไม่ได้มีสัญลักษณ์เป็นงูสักหน่อย?” ธิดาน้อยกะพริบตาปริบ ๆ มองงานศิลปะด้วยสีหน้าฉงน


               ก็ประมาณนี้… ฝีมือทางศิลปะที่พวกเขามีกัน


               หลังจากที่รีชารับสมุดสเก็ตภาพมาวาดเขียนร่างแบบได้ไม่นาน ก็ได้ภาพร่างของเข็มกลัดประจำบ้านโพไซดอนมาหลายแบบหลายสไตล์แล้วก็หน้าตาเหมือนเข็มกลัดไม่ใช่งู


               “เท่าที่หนูคิดออกก็น่าจะประมาณนี้ พวกพี่มีแบบที่ชอบกันไหมคะ? แล้วก็บางอัน เอ่อ… หนูไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้ไหมนะคะ เอาตามความชอบล้วน ๆ เลย” เด็กหญิงตอบด้วยความประหม่า เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกได้จับงานใหญ่เลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร


               “อย่ากังวลไปเลยน่ารีช เดี๋ยวพวกพี่จัดให้เอง ไหนดูซิ”


               ดีนรับสมุดสเก็ตภาพมาดูเข็มกลัดที่ออกแบบโดย รีชา แคมพ์เบลล์ อย่างละเอียด


               ‘พอวาดออกมาดูดีก็ดันเลือกยากอีกแฮะ…’


               แต่มีดีไซน์หนึ่งที่ชายหนุ่มคิดว่านี่แหล่ะน่าสนใจที่สุด มันเป็นรูปตรีศูลที่วางทับกรอบทรงกลมแล้วมีคลื่นน้ำอยู่ด้านใจ น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น (?) น่าจะเป็นอันที่น้องสาวเปรย ๆ ออกมาว่าทำยาก


               “พี่ชอบอันนี้นะ แต่ว่าส่วนที่เป็นสีน้ำเงินนี่ทำจากแก้วเหรอ?”


               “จะว่างั้นก็ได้ค่ะ” รีชาพยักหน้าหงึกหงัก ใจนึงก็ดีใจที่พี่ชายดูออก แถมยังทักแบบที่เธอชอบพอดี “หนูก็ชอบแบบนี้ที่สุดเลยนะ แต่ว่ามันทำยากใช่ไหมคะ?”


               “ขอพี่คิดก่อน… บางทีถ้าไม่ต้องใช้แก้วแต่ว่าเป็นเรซินก็น่าจะได้นะ นายว่าไงเจรี่?”


               “ความเห็นของเราน่าจะตรงกันนะครับ ผมเองก็ชอบแบบนี้ที่สุดเหมือนกัน แล้ววิธีการที่พี่ดีนว่าก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ด้วย”


               “เยี่ยมเลย! ถ้างั้นก็ได้สามเสียงแล้วที่ชอบแบบเดียวกัน ถือว่ามติเกินครึ่งได้แล้วหรือเปล่านะ ถ้าไม่นับรวมไบรท์กับริปลี่ย์ที่ไม่อยู่ (หรืออาจจะหลับ) ถ้าจะแย้งเสียงของซันซ์กับไทสันรวมกันก็ไม่ถึงครึ่งอยู่ดี เราตกลงทำแบบนี้กันเลยดีไหม ถือเป็นการเซอร์ไพรส์ทั้งคู่ตอนที่กลับมาฮาล์ฟบลัดด้วย”


               “ถึงจะดูเผด็จการไปหน่อย แต่ที่พี่ดีนพูดมันก็ใช่ครับ แล้วอีกอย่างผมคิดว่ายังไงพวกเขาก็ต้องดีใจแหล่ะ” เจโรมออกความเห็น


               “อย่าพูดว่าเผด็จการน่า ที่นี่ดินแดนเสรี มีเผด็จการซะที่ไหนกัน”


               คำตอบของดีนทำเอาเจโรมหัวเราะแห้ง ถ้าบอกว่าประเทศนี้ก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าพูดถึงโลกแห่งทวยเทพที่ครอบทับความจริงอยู่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเลยแฮะ…


               “พวกพี่ ๆ มีอะไรให้หนูช่วยอีกไหมคะ คือว่าหนูอยากรีบไปอ่านหนังสือ” รีชาพูดแทรกขึ้นมาหลังจากเห็นว่าพี่ชายทั้งสองไม่ได้คุยกันเรื่องเลือกแบบแล้ว


               “ได้สิรีช ขั้นตอนต่อไปเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตรายกับเด็กด้วย จะว่าไป… ช่วงนี้เด็กนักเรียนน่าจะเตรียมสอบกลางภาคกันอยู่สินะ”


               พวกเดมิก็อดที่ยังเรียนไม่จบส่วนใหญ่เข้าเรียนที่โรงเรียนแอลไอไอเอในลองไอแลนด์กัน ดีนพอจะรู้เรื่องสอบนี้จากการที่คุยกับสาวน้อยบ้านอะโฟร์ไดท์เมื่อวาน


               “อ๋อ เปล่าค่ะ คือว่าหนูจะอ่านนิยายเรื่องนี้ให้จบ กำลังถึงตอนพีคเลยค่ะ”


               รีชาช็อตฟีลด้วยการหยิบหนังสือนิยายออกมาจากกระเป๋า หน้าปกเป็นภาพตัวการ์ตูนชายกับชายในอิริยาบทหวานซึ้ง ข้าง ๆ เป็นชื่อเรื่องแสนยาวเหยียดอย่าง ‘เกิดใหม่เป็นสัตว์รับใช้ของสวรรค์ก็ว่าแย่แล้ว แต่งานก็ทำไม่ได้เพราะเจ้านายหล่อจนใจจะวายทุกวัน! แถมพักหลัง ๆ เหมือนจะถูกใช้เป็นหมอนข้างด้วย แบบนี้มันใช้อำนาจในทางที่ผิดรึเปล่า!?’ ที่เมื่ออ่านได้แต่อ้าปากค้าง

 

               ‘นิยายสมัยนี้ชื่อยาวเชี่ย ๆ !’


               ดีนและเจโรมอุทานในใจออกมาแทบพร้อม ๆ กันโดยมิได้นัดหมาย


               ‘ว่าแต่… รีชเริ่มอ่านนิยายบอยส์เลิฟตั้งแต่เมื่อไร คงไม่ใช่ตั้งแต่ที่รู้ว่าเราคบกับแมคซี่หรอกนะ!?’


               พอคิดได้แบบนั้นพี่ชายที่แสนดีอย่างดีนก็หยิบนิยายของน้องสาวมาสแกนเนื้อหาของนิยายทันทีว่ามีเนื้อหาสิบแปดบวกหรือเปล่า แต่จากการพลิกดูปกหน้าปกหลัง ตรวจเรทอายุไม่ใช่เรทอาร์ก็วางใจได้ส่วนหนึ่ง แถมภาพประกอบด้านในก็ไม่มีอะไรต้องห้ามด้วย เขาจึงคืนนิยายชื่อยาวเล่มนั้นให้กับน้องสาวคนเล็ก


               “โอเครีช น่าจะไม่มีฉากอันตราย เธออ่านได้ แต่ก็อย่าลืมอ่านหนังสือสอบด้วยล่ะ”


               “ค่า~~”


               เด็กหญิงรับนิยายคืนมาจากนั้นก็รีบวิ่งเข้าห้องนอนเพื่อไปอ่านนิยายรักหวานแหว๋วที่เธอติดงอมแงม


               “ทำตัวเหมือนเป็นคุณพ่อเลยนะพี่ชาย ถ้าเจอฉากอันตรายจะไม่ให้เธออ่านเหรอ?” พอได้ทีเจโรมกระแซะแซว


               “รีชกำลังอยู่ในวัยกำลังโตก็ต้องดูแลให้ถูกทิศถูกทางหน่อยล่ะ ยังไงเด็กอายุยังไม่ถึงสิบแปดก็ยังไม่ควรรู้เรื่องอย่างว่านอกจากในวิชาเพศศึกษาหรอกใช่ไหมล่ะ?”


               จริงจังขนาดนี้แต่ใครเล่าจะรู้ว่าคนพูดก็กระดากปาก พี่ชายที่ดูจะแสนดีคนนี้ดันแสบซ่าตั้งแต่อายุเข้าสิบห้าขวบ ถ้าน้อง ๆ รู้ว่าเขาเคยก่อวีรกรรมอะไรมาบ้างคงได้แต่พูดเป็นเสียงเดียวว่า ‘อย่างนายเนี่ยนะมีหน้ามาสอน!’ ก็เพราะว่ามีประสบการณ์มาก่อนเนี่ยแหล่ะเลยอยากให้น้องที่ยังเล็กซึมซับวัยเด็กอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ไปนาน ๆ อย่าเพิ่งรีบขุ่นเหมือนใครบางคนแถวนี้เลย


               “ฉันว่าได้เวลาทำงานต่อแล้วล่ะ ต้องไปยืมอุปกรณ์หลอมเหล็กมาจากโรงหลอมแล้วก็มูฟกันไปทำงานที่หลังบ้านกันเลย”


               “ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปตักทรายที่ชายหาดมาสำหรับเป็นแม่พิมพ์นะครับ”


               ทั้งคู่ต่างแยกย้ายกันไปหาของ ในฐานะที่ดีนเป็นที่ปรึกษาของบ้านโพไซดอนดีนจึงมีหน้าที่ไปหยิบยืมเครื่องมือต่าง ๆ มากจากโรงหลอมเหล็ก อาธิ เบ้าหลอม เครื่องจุดไฟพกพา เรซิน และอื่น ๆ ที่จำเป็น สำคัญที่สุดเห็นจะเป็นถุงมือกันความร้อนที่ไครอนย้ำนักย้ำหนาให้ใส่ให้เรียบร้อยก่อนเรียนหลอมแร่ทุกครั้ง


               เมื่อกลับมาถึงบริเวณหลังบ้านที่เป็นสระว่ายน้ำเขาก็เห็นว่าเจโรมกลับมาพร้อมกับทรายเนื้อละเอียดกระถางใหญ่


               เริ่มจากการวางวัตถุลงไปในทรายเพื่อสร้างแม่พิมพ์ ตรงกรอบที่เป็นห่วงทรงกลมเจโรมใช้แหวนมากดเป็นหลุมวงกลม ส่วนตรีศูลน้อยที่ตั้งอยู่ตรงกลางก็ใช้เครื่องประดับรูปตรีศูลที่มีอยู่อย่างมากมายในบ้านมาปั๊มเป็นแม่แบบ 


               “แบบนี้น่าจะโอเคไหมครับ?” เจโรมถาม


               “ฉันว่าโอเคนะ อัตราส่วนก็ดูใกล้เคียงกับที่รีชออกแบบด้วย ส่วนโลหะ.. ลูกเทพแบบพวกเราใช้ของธรรมดา ๆ หลอมไม่ได้หรอกเนอะ”


               ดีนวางเงินดรักม่าและโลหะสัมฤทธิ์วิเศษลงไปในเบ้าหลอมจำนวนหนึ่ง จากนั้นจุดไฟที่เตาเพื่อหลอมละลายโลหะดังกล่าว คัดแยกสิ่งสกปรกในโลหะออกมาตามที่ไครอนเคยสอนเขาหลอมแร่ในคาบแรก ๆ จะว่าไปนี่ก็ผ่านมาเกือบปีได้แล้วหรือยังนะที่เขาเรียนหลอมแร่ครั้งสุดท้ายค้างเอาไว้ โชคดีที่ยังจำวิธีการทำได้อย่างแม่นยำ เมื่อโลหะทั้งสองละลายเข้ากันได้ดีแล้วดีนก็เทโลหะพิเศษร้อน ๆ ลงไปในหลุมทราย จากนั้นรอให้มันเซ็ตตัวและเย็นลง


               โครงเข็มกลัดโลหะชิ้นแรกออกมาอย่างสวยงาม แม้อาจจะไม่ใช่งานปราณีตมากมายเพราะเป็นมือใหม่หัดคราฟ แต่ก็ดูดีใช้ได้เลยทีเดียวหากไม่เพ่งมองหาจุดตำหนิที่มีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด


               “ชิ้นแรกโอเคเลยแฮะ งั้นที่เหลืออีกหกอันก็ทำพร้อมกันทีเดียวเลยแล้วกัน”


               ขั้นตอนการดำเนินงานเป็นไปเหมือนในตอนแรก โครงเข็มกลัดบ้างอันใช้ได้แต่ก็มีบางส่วนที่บูด ๆ เบี้ยว ๆ จากการทำแม่พิมพ์ทรายได้ไม่ได้ แต่การเทเหล็กหลอมลงไปใหม่ก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่องานผ่านคิวซีมาแล้วก็ถึงขั้นตอนของการทำเรซินที่อยู่ด้านในกรอบ ทั้งสองช่วยกันละลายเรซินจากนั้นผสมสีฟ้าลงไปจนกว่าจะรู้สึกชอบ เทกลิ๊ตเตอร์ลงไปอีกนิดเพิ่มความวิบวับแก่ตัวชิ้นงาน เมื่อเรซินหลอมเหลวได้ที่แล้วก็เทลงมันลงไปในกรอบจากนั้นรอให้แห้ง จากนั้นชุบเคลือบเรซินใสเพื่อความเงางามอีกที ก่อนจะใช้กาวร้อนติดชิ้นงานเข้ากับเข็มกลัด จนในที่สุดเข็มกลัดประจำบ้านโพไซดอนทั้งเจ็ดชิ้นก็เสร็จสิ้นอย่างสวยงาม


               ใครไม่ชมก็ขอชมตัวเองไว้ก่อน…



               “เรียบร้อย ภูมิใจชะมัดเลย!” ดีนปากเหงื่อ พอเห็นชิ้นงานออกมาดีแล้วก็ปลื้มปริ่มอย่างบอกไม่ถูก “นอนหลับสนิทแน่คืนนี้”


               จากนั้นชายหนุ่มก็ทอดกายลงนอนบนพื้นหินราวกับว่าเขาจะหลับได้ทันทีหลังเสร็จงานต่าง ๆ ที่เหนื่อยมาทั้งวัน


               “อย่าเพิ่งนอนสิครับ เรายังต้องเคลียร์อุปกรณ์กันอีกนะ”


               เสียงของเจโรมเรียกทำให้รั้งสติของดีนขึ้นมาใหม่ เขาดีดตัวผึงขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็วราวกับถูกกดปุ่มเปิดสวิทช์


               จริงด้วย… ต้องเก็บกวาดสถานที่จากนั้นก็ต้องเอาอุปกรณ์ทั้งหมดไปคืนที่โรงหลอม หลังเสร็จงานจะได้หลับสนิทเต็มตื่นจริง ๆ เสียทีนึง


มอบ [เสื้อฮาวาย] ให้ [เจโรม ปาร์ค ซึงยอน]

+10 โบนัสความสนิท จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ
+5 โบนัสความสนิท จาก ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง

มอบ
 [เสื้อฮาวาย] ให้ [ไทสัน]
มอบ [เสื้อฮาวาย] ให้ [เอลล่า]

มอบ [เสื้อฮาวาย] ให้ [ซันซ์ มาเดิล เคานต์]
ส่งของขวัญทางสมาร์ทโฟนเดดาลัส
ค่าธรรมเนียมการส่งของทางไกล 3 ชิ้น = 150 ดอลลาร์

แบบฟอร์มส่งเข็มกลัด
กลุ่มเทพเจ้าของคุณ: โพไซดอน
รูปภาพเข็มกลัดขนาด 20x20 px: LINK
รูปภาพเข็มกลัดขนาด 84x84 px: LINK
แถมขนาด 160x160: 
LINK

ใช้ เงิน 7 ดรักม่า และ แร่สัมฤทธิ์วิเศษ 7 ก้อน ในการหลอมเข็มกลัด
สำหรับ Player สร้างเข็มกลัดจำนวน 3 ชิ้น
(ดีน ไบร์ท และริปลี่ย์)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-5-5 13:57
God
สามารถแจ้งจำนวนสมาชิกในบ้านเพื่อรับเข็มกลัดเพิ่มไปกระจายคนในบ้านได้  โพสต์ 2025-5-5 13:29
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [SP-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้) เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-5-5 13:22
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-5-5 13:21
โพสต์ 118387 ไบต์และได้รับ 80 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-5-5 08:42
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
123
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้