1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[บ้านใหญ่] สถานพยาบาลประจำค่าย

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-1-18 00:11:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
76. teammates

-08.01.25  /  03:02PM.-


หลังจากค้นหาปลายทางที่ต้องไปและวิธีเดินทางแบบคร่าว ๆ แล้ว แมคเคนซีก็ออกจากบ้านเฮอร์มีสมาที่สถานพยาบาลของค่ายต่อ เขาควรเริ่มจัดกระเป๋าเสียที จะได้ไม่ต้องรีบร้อนเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง


“อ้าว แมคเคนซี สวัสดีจ้ะ ไม่พบกันซะนานเลย”


เสียงใส ๆ ของคิม มินอา หัวหน้าสถานพยาบาลดังขึ้นเมื่อเห็นแมคเคนซีเดินเข้าประตูมา


“สวัสดีครับคุณคิม ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง งานยุ่งไหม”


เดมิก็อดหนุ่มทักทายธิดาแห่งอพอลโล เกือบจะพูดว่า  “วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ” ไปแล้วเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสดั่งดวงอาทิตย์ของเธอ แต่ก็ถูกใบหน้าหล่อคมเข้มของหนุ่มละตินบ้านโพไซดอนผู้เป็นคนรักลอยเข้าหัวมาดึงสติเอาไว้ก่อน


“ถ้าเทียบกับช่วงสิ้นปีแล้ว ตอนนี้ถือว่าไม่ยุ่งเลยจ้ะ…”


เธอพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป ซึ่งแมคเคนซีก็รู้ดีว่าเพราะอะไร ทั้งคู่จึงได้เพียงแต่ส่งยิ้มให้กันบาง ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ เมื่อสงครามวันเหมายัน ในขณะที่เขาและเดมิก็อดคนอื่น ๆ ออกไปสู้รบกับฝูงมอนสเตอร์ที่มาบุกค่าย อีกกลุ่มที่ยุ่งไม่แพ้กันก็คือฝ่ายแพทย์และพยาบาลที่ต้องคอยวิ่งวุ่นปฐมพยาบาลและรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่หลังสงครามสิ้นสุดลง เขาก็ยังเห็นหญิงสาวและหน่วยแพทย์พยาบาลคนอื่น ๆ คอยทำหน้าที่แข็งขันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งแมคเคนซีนึกขอบคุณคนกลุ่มนี้อยู่ในใจที่มีส่วนเป็นกำลังสำคัญช่วยไม่ให้ค่ายฮาล์ฟบลัดต้องเกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้


“พอเข้าปีใหม่มหาวิทยาลัยที่นิวโรมก็เปิดภาคเรียนแล้ว หลายคนต้องไปอยู่หอจนกว่าจะปิดเทอมช่วงเดือนพฤษภาเลย…ว่าแต่วันนี้เธอมาที่นี่ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าจ๊ะ”


คำว่ามหาวิทยาลัยเรียกความสนใจจากแมคเคนซีได้นิดหน่อย แต่ก็จำเป็นต้องตอบคำถามหญิงสาวก่อน


“เปล่าครับ ผมแค่จะมารับอาหารเทพสำหรับไปทำภารกิจเท่านั้นเอง”


“เอ๊ะ ไปทำภารกิจ เธอไปรับคำพยากรณ์จากคุณเรเชลมาเหรอ ลำบากแย่เลย ถ้าอย่างนั้นต้องเตรียมตัวดี ๆ นะ มาทางนี้สิ ฉันจะไปเอาอาหารเทพให้”


คิม มินอามีสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าแมคเคนซีจะไปทำภารกิจเดินทาง จากนั้นเธอก็นำเขาไปยังห้องหัตถการที่ถูกแบ่งส่วนออกมาจากห้องพยาบาลรวมขนาดใหญ่


“ที่นี่แหละจ้ะ รอแป๊บนึงนะ อ้าว หมอคีธ อยู่นี่เอง มีคนไข้เหรอ ขอเข้าไปเอาอาหารเทพหน่อยนะจ๊ะ”


หัวหน้าหน่วยพยาบาลหันมาบอกบุตรแห่งเฮคาทีก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในห้อง


“อืมฮึ ตามสบายคุณคิม ฉันแค่ทำแผลให้คุณซูนิดหน่อย เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”


เสียงนุ่มนวลฟังรื่นหูของคนในห้องทำเอาแมคเคนซีถึงกับต้องแอบชะโงกหน้าเข้าไปดูเล็กน้อย ภายในห้องหัตถการนอกจากคุณคิมที่เพิ่งเข้าไปแล้วก็ยังมีผู้หญิงอยู่อีกสองคน คนนึงเป็นหญิงสาวผมประบ่ากำลังพันแผลตรงช่วงต้นแขนให้กับหญิงสาวร่างเล็กกว่าที่มีผมยาวสลวยถึงกลางหลัง


"ได้แผลมาอีกแล้วเหรอ คราวนี้ไปโดนอะไรมาจ๊ะรูบี้"


คิม มินอาถามพลางเดินมาดูแผลของรูบี้ที่ถูกพันไว้เรียบร้อย


“แค่พลาดพลั้งตอนฝึกวิทยายุทธนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไปทำภารกิจอีกแล้วเหรอ ช่วงนี้มีคนออกนอกค่ายเยอะจัง”


เสียงของผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนป่วยดังเจื้อยแจ้ว แผ่นหลังบอบบางเหยียดตรงดูสง่า เหมือนเธอจะไม่ได้สนใจบาดแผลตรงต้นแขนสักเท่าไหร่


“นั่นเหรอ คนที่จะไปทำภารกิจ…”


หางตาของผู้เป็นแพทย์ปรายมองมาทางนี้พอดีราวกับรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเขามานาน หากทำเป็นเมินเฉยก็ดูจะเสียมารยาท แมคเคนซีจึงก้าวเข้ามาพ้นบานประตูเพียงเล็กน้อย


“ครับ ผมเอง แมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น อยู่บ้านหลังที่ยี่สิบ ยินดีที่ได้รู้จัก”


หลังจากแนะนำตัวแล้วก็ยิ้มบางให้สองสาวงามและอีกหนึ่งสาวเท่ที่หันมามองเขาเป็นตาเดียว ให้ตายสิ ถึงเขาจะเคยทำงานในสถานที่อโคจร ได้ชื่อว่าเป็น ‘บาร์เทนเดอร์ใหม่สุดหล่อ’ ที่แต่ละคืนต้องพบเจอลูกค้าเทสดีมีฐานะมากหน้าหลายตาก็ตาม แต่นั่นก็ผ่านมาได้เกือบปีแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ตอนนี้เขาเริ่มไม่ชินเอาเสียเลยเมื่อตกเป็นเป้าสายตาเช่นนี้


“แนะนำตัวซะเต็มยศ ยินดีที่ได้รู้จักคุณลินคอล์น เฟลิจิตัส คีธ อยู่บ้านฮีบี้ แต่อยู่สถานพยาบาลบ่อยกว่า”


คุณหมอจากบ้านฮีบี้ยกมือป้องปากหลุดขำออกมาเบา ๆ ดวงตาสีเข้มเจือแววเอ็นดูปนขบขัน เหมือนเธอจะดูออกว่าชายหนุ่มคนเดียวในที่นี้กำลังเกร็งอยู่


“ฉันรูบี้ ซู ลูกสาวท่านพ่อแอรีส ยินดีที่ได้รู้จัก”


หญิงสาวร่างเล็กธิดาเทพแห่งสงครามผงกศีรษะให้เพียงเล็กน้อย แม้ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มประดับอยู่เหมือนคนอื่นแต่ก็งดงามในแบบฉบับของตนเอง


“บ้านหมายเลขยี่สิบ…เทพีเฮคาทีใช่ไหม จูลี่น้อยอาการเป็นยังไงบ้าง เมื่อตอนเกิดสงครามที่คุณควินท์พามาส่ง อาการหอบของเขาไม่ค่อยดีเลย ตอนนี้ทำอะไรที่หนัก ๆ หรือเปล่า”


เหมือนว่าคีธจะนึกถึงน้องชายคนเล็กของบ้านแมคเคนซีขึ้นมาได้จึงรัวคำถามใส่ด้วยความห่วงใย


“สุขภาพดีขึ้นมากแล้วครับ ตอนนี้ก็สนุกกับการฝึกปรุงยาอยู่ ขอบคุณคุณเฟลิจิตัสที่ช่วยดูแลจูลี่ให้นะครับ”


เหมือนจะจำได้ว่าตอนที่ทำความสะอาดบ้านด้วยกัน จูลี่เคยเล่าให้เขากับซิลเวอร์ฟังว่าตอนอยู่สถานพยาบาลมีคุณหมอใจดีคนหนึ่งคอยดูแลอยู่…หรือว่าจะเป็นคุณหมอคนนี้กันนะ


“แข็งแรงขึ้นก็ดีแล้ว ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย เรียกแค่หมอคีธก็พอ แล้วก็ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก คนกันเองทั้งนั้น”


คีธโบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจด้วยท่าทางสบาย ๆ


“แต่คุณยังเรียกผมว่าคุณลินคอล์นเลย“


”อ้อ…ฉันเรียกนามสกุลคนไข้จนติดปากแล้ว ให้เรียกชื่อมันเลยไม่ชิน อย่าเพิ่งขยับเยอะสิคุณซู ฉันเพิ่งทำแผลให้เองนะ”


พูดจบคุณหมอก็ส่งยิ้มให้อีกครั้ง แล้วหันไปดูความเรียบร้อยของผ้าพันแผลให้รูบี้ที่กำลังลองขยับยกแขนขึ้นลงต่อ


“นี่จ้ะแมคเคนซี ว่าแต่เธอจะไปทำภารกิจที่ไหนเหรอ”


คิม มินอานำอาหารเทพที่หยิบออกมาจากตู้เก็บของส่งให้แมคเคนซีก่อนจะถามขึ้นด้วยความสงสัย


“ขอบคุณครับ เมืองเยลโลวไนฟ์ที่แคนาดาครับ ถ้าผมตีความคำพยากรณ์ไม่ผิดนะ”


บอกพลางรับอาหารเทพจากหัวหน้าสถานพยาบาลมาถือไว้ อย่างนึงมีหน้าตาคล้ายช็อกโกแลตบาร์ ส่วนอีกอัน…คลับคล้ายคลับคลาว่าดีนจะเคยใช้มันรักษาเขาที่บาดเจ็บสาหัสตอนไปทำภารกิจที่ปารีสด้วยกัน


“เชื่อในสัญชาติญาณของตนเองเถอะ นอกจากน้องชายโง่ของฉันก็ไม่มีใครโง่ไปกว่านี้แล้ว”


รูบี้กอดอกพูด ดูท่าคงจะนึกถึงน้องชายโง่ที่ว่าขึ้นมา เธอจึงอมยิ้มน้อย ๆ


“ถ้าไม่ผิดพลาดก็คงดี ดูเหมือนว่าผมต้องแข่งกับเวลา น้องของผมถูกองค์กรลับจับตัวไป เขาจะถูกกลายพันธุ์ให้เป็นลาเมียในคืนเดือนมืดก่อนฤดูใบไม้ผลิ…ผมต้องรีบหาเพื่อนร่วมทีมแล้วไปช่วยเขา”


หลังจากพูดเนื้อหาของภารกิจแบบคร่าว ๆ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ


“พวกคนชั่วช้าสมควรตาย ฉันขอร่วมเดินทางไปด้วยได้หรือไม่”


รูบี้ผลุนผลันลุกพรวดขึ้นทันที ดวงตาเรียวรีทรงอัลมอนด์มองแมคเคนซีด้วยสีหน้าจริงจังจนยากจะปฏิเสธ


“ก็..ก็ได้อยู่หรอก แต่แผลที่แขน—-”


“บาดแผลแค่นี้ยังห่างไกลหัวใจนัก ชีวิตคนสำคัญยิ่งกว่า ฉันผ่านการเดินทางมาแล้วมากมาย รับรองว่าเด็กคนนั้นจะปลอดภัย”


“ให้รูบี้ไปช่วยเถอะจ้ะ เห็นแบบนี้แต่เก่งมากนะ ไปทำภารกิจสำเร็จมาหลายที่แล้ว ต้องช่วยเธอได้มากแน่ ๆ”


คิม มินอาช่วยพูดเสริมให้อีกคน เมื่อมองมาที่รูบี้แล้วจนถึงตอนนี้เธอก็ยังจ้องเขาตาไม่กระพริบ ในเมื่อมีคนฝีมือดีเต็มใจจะช่วยแล้ว หากไม่ยอมรับน้ำใจก็ดูจะเสียมารยาทเกินไป


“ตกลง ถ้างั้นก็ขาดอีกแค่คนเดียวแล้ว”


เหมือนความหวังเริ่มถูกเติมเต็ม ตอนนี้ทีมทำภารกิจของแมคเคนซีเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา


“ช่วงนี้เด็ก ๆ ไปเรียนกันหมด คงไม่ค่อยมีใครอยู่ค่าย หมอคีธก็ว่างน่ะสิ สนใจไปทำภารกิจหน่อยไหมจ๊ะ”


หัวหน้าหน่วยพยาบาลหันมาชวนคีธที่กำลังใส่หูฟังแล้วหยิบมือถือมาเปิดพอดแคส เมื่อถูกทักเธอจึงโคลงศีรษะเล็กน้อย


“อืม…คนที่ถูกจับไปเป็นเด็กด้วย ฉันคงอยู่เฉยไม่ได้ ดูท่าคงถึงเวลาเอาเสื้อดาวน์มาปัดฝุ่นแล้วสิ”


“งั้นก็แปลว่าทีมผมครบคนแล้วงั้นเหรอ”


เหมือนจะยังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ คล้ายยังไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้เขารวบรวมสมาชิกไปทำภารกิจครบแล้ว


“ใช่จ้ะ”


“ใช่”


“อืมมมมฮึ~”


เสียงของทั้งสามสาวดังขึ้นพร้อมกันเป็นการยืนยันในสิ่งที่แมคเคนซีสงสัย


“อ..เอ่อ ขอบคุณทุกคนมากครับ เดี๋ยวผมจะไปลงชื่อให้ แล้วเรามานัดคุยรายละเอียดการเดินทางกันอีกที”


พอบอกแบบนั้น เพื่อนร่วมทีมทั้งสองที่เพิ่งรู้จักกันเป็นวันแรกก็พยักหน้ารับ


“อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ ไปนะจ๊ะ ตรงนั้นเข้าเขตขั้วโลกเหนือแล้ว อากาศคงหนาวมากเลยล่ะ”


คิม มินอาเตือนพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนัดแนะวันคุยรายละเอียดเรื่องการเดินทางและการทำภารกิจกับรูบี้และคีธแล้ว หัวหน้าหน่วยพยาบาลสาวก็เดินมาส่งแมคเคนซีที่หน้าประตูสถานพยาบาล


"ขอบคุณคุณคิมมากนะครับที่ช่วยหาสมาชิกให้ ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่ที่ค่ายเลย ดีนเองก็ติดภารกิจด้วย ซิลเวอร์ก็ไปทำธุระของทางบ้าน ผมเลยยังคิดไม่ตกว่าจะชวนใครดี"


เดมิก็อดกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ด้วยความที่เป็นมนุษย์อินโทรเวิร์ท แม้จะมาอยู่ค่ายได้เกือบปีแต่เขาก็ยังไม่ค่อยรู้จักใครมากนัก เมื่อถึงช่วงเวลาแบบนี้จึงค่อนข้างลำบากไม่น้อย


"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ทุกคนที่นี่เต็มใจช่วยเหลือกันทั้งนั้นแหละ ขอให้ทำภารกิจสำเร็จและเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยนะ"


ธิดาแห่งอพอลโลกล่าวอวยพรพร้อมรอยยิ้ม ทั้งสองคนสนทนากันอีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน




สรุปสถานการณ์

-รูบี้ ซู และ เฟลิจิตัส คีธ ตอบรับเข้าร่วมภารกิจ

-รับอาหารเทพ

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เหรียญนกฮูก
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x5
x1
x10
x2
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-5-15 07:25:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
328
รับยาวิเศษ

               (TUE) 13/05/2025 เวลา 16.00 น.

               หลังจากรับคำปรึกษาและกรอกแบบฟอร์มสำหรับภารกิจเดินทางแล้ว ดีนรู้ได้ทันทีว่าสิ่งต่อไปที่เขาจะต้องทำคืออะไร.. นั่นก็คือการมารับเสบียงอาหารเทพหรือน้ำทิพย์จากศูนย์พยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด

               “สวัสดี ผมมาขอรับยาวิเศษสำหรับการไปทำภารกิจเดินทางครับ”

               “เชิญกรอกแบบฟอร์มการเบิกจ่ายทางนี้ค่ะ”

               นางพยาบาลคนสวยยื่นแบบฟอร์มให้ดีนกรอก นี่จึงเป็นอีกครั้งของวันที่ชายหนุ่มต้องกรอกชื่ออันยาวเหยียดจนเมื่อยมือของตัวเองลงไป จากนั้นก็ไปนั่งรอให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พยาบาลจัดการเตรียมยาให้

               บรรยากาศของห้องพยาบาลยังคงเหมือนเดิม ทุกอย่างมีสีขาวสะอาดตา ครั้งล่าสุดที่ดีนมาคือตัดแว่นสายตาซึ่งตอนนี้เขาก็ได้รับมันมาเรียบร้อยแล้วและสวมใส่อยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลา

               “สวัสดีคุณนีล มาที่ห้องพยาบาลหวังว่าจะไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนนะ หรือว่าแว่นที่ตัดไปมีปัญหาหรือเปล่า?”

               เสียงทักของหญิงสาวโทนเสียงเท่ดังมาจากอีกด้าน เธอคือ ‘เฟลิจิตัส คีธ’ ธิดาแห่งฮีบี้ หนึ่งในแพทย์หญิงของศูนย์พยาบาลค่ายฮาล์ฟบลัดที่ดูแลโรคเกี่ยวกับเด็ก เธอคือเพื่อนร่วมภารกิจของแมคเคนซีเมื่อหลายเดือนก่อน

               ดีนโบกมือพร้อมกับส่งเสียงทัก แอบรู้สึกผิดเป็นบ้าเลยที่เคยหึงแมคเคนซีจากเธอและรูบี้เพราะไปทำภารกิจกับแฟนหนุ่มของเขา

               “ฮาย คุณหมอ เปล่าหรอกผมสบายกายดีแต่ไม่ค่อยสบายใจเท่าไร พอดีว่าจู่ ๆ ภารกิจเดินทางก็เด้งใส่หน้าน่ะครับ” บุตรแห่งโพไซดอนยิ้มแหยตอบ

               “โอ้…” หมอคีธอุทานเพียงสั้น ๆ จากนั้นจึงเดินลิ่วมาหาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ยาวข้าง ๆ ต่อมาบทสนทนาจากความห่วงใยและอยากใส่ใจจึงเกิดขึ้น “ภารกิจเดินทางเหรอคะ คราวนี้คุณต้องเดินทางไปไหน?”

               “ต้องไปที่นิวเจอร์ซีย์ก่อนน่ะครับ จากนั้นก็ไปนู่นเลย.. เอกวาดอร์”

               “โอ้โห ไกลนะนั่น แถมยังเดินทางลำบากอีกต่างหาก” เฟลิจิตัสกุมคางพลางนึกเส้นทางว่าเอกวาดอร์อยู่ส่วนไหนของอเมริกาใต้

               “พอตัวเลยล่ะ”

               “แล้วมีเพื่อนร่วมภารกิจหรือยังคะ?” คุณหมอถาม แต่จากท่าทางของดีนแล้วเธออ่านออกได้ไม่ยากเลยว่าชวนใครไป

               “ยังไม่ได้ชวนครับ แต่มัดมือชกไปแล้ว ลงชื่อไปแล้วด้วยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ผมหมายถึงแมคซี่น่ะ งวดนี้จะไม่ยอมคลาดจากเขาอีกเด็ดขาด”

               “ว่าแล้วเชียว” หญิงสาวหัวเราะน้อย ๆ “แล้วอีกคนล่ะ… พอจะเล่าเกี่ยวกับคำทำนายได้ไหมคะ?”

               “ได้สิ ไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว อีกไม่เกินห้านาทีผมว่าเดี๋ยวคงมีข่าวลือเรื่องคำทำนายว่อนไปทั่วค่าย” บุตรแห่งโพไซดอนยักไหล่ จากนั้นเริ่มเล่า “ต้องไปช่วยชาร์ล็อตน้องสาวของแมคซี่ที่นิวเจอร์ซีย์น่ะครับ ตอนออกจากค่ายก็เลยต้องไปกันแค่สองคน ภารกิจนี้เกี่ยวกับเจ้าตัวร้ายที่ชื่อว่า ‘อะพอลลีออน’ จะถูกเหล่าสาวกไซคลอปส์ปลุกพลังขึ้นมาทำลายล้างโลกตามวิวรณ์… น่ากลัวเป็นบ้าเลยใช่ไหมล่ะครับ”

               “คุณชาร์ล็อต…” หมอคนสวยทำหน้านึกอยู่เล็กน้อยก่อนจะนึกออก “อ้อ หมายถึงคุณลิเลี่ยน ฉันจำเธอได้แล้ว เห็นว่าเมื่อปีที่แล้วเธอออกไปทำภารกิจมานี่คะแต่ไม่ได้ข่าวการกลับมาของกลุ่มนั้นเลย หรือว่า… อย่าบอกนะว่านี่คือภารกิจช่วยเหลือน่ะ”

               “คุณเดาได้ถูกเผง!” ดีนดีดนิ้ว ทว่าหลังจากนั้นสีหน้าและน้ำเสียงของเขาก็เจื่อนลง “จากคำทำนายบอกว่าคนหนึ่งตาย อีกคนจมลงสู่บ่อให้การลืมเลือนอะไรสักอย่าง มีแต่คนเดียวที่รอดและรอวันตายคือชาร์ล็อต ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยจริง ๆ”

               “....” คีธนิ่งเงียบไปนิดนึงก่อนจะวางมือลบบนบ่าหนาแล้วบีบเบา ๆ “คุณนีล คุณลินคอล์น แล้วก็คุณลิเลี่ยนต้องปลอดภัยค่ะ ฉันเชื่ออย่างนั้น พวกคุณถือเป็นกลุ่มคนมีฝีมือที่หาตัวจับยากนะ”

               “โธ่ ฝีมือดีหาตัวจับยากอะไรกันครับ ผมน่ะสุดจะกาก รอดมาได้เพราะดวงดีล้วน ๆ”

               ดีนไม่ได้ถ่อมตน เขาไม่เคยถ่อมตัว แต่กับเรื่องการต่อสู้น่ะ ใช้ดวงไปแล้วมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นคือเรื่องจริง

               “แต่ว่าคุณโค่นคราเคนได้ไม่ใช่เหรอคะ? มีเดมิก็อดไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นได้หรอกนะ”

               “อะไรนะ!?” ดีนหลุดโวยออกมาทันทีเมื่อรู้ว่ามีคนนอกกลุ่มโพไซดอนรู้เรื่องนี้ด้วย เขาเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำเสียงดังเกินไปจึงลดน้ำเสียงลงมาเป็นแทบกระซิบ “คุณหมอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนน่ะ อย่าบอกนะว่าแมคซี่ก็รู้เรื่องนี้ด้วยแล้ว… ตายล่ะ!”

               “หืมมมม?” เฟลิจิตัสเลิกคิ้วสูง แรกเริ่มไม่เข้าใจ แต่ด้วยความฉลาดเฉลียวก็พอจะจับต้นชนปลายได้จากอาการล่กเหมือนทำความลับแตกของคนตรงหน้า “ฉันได้ยินลูกก๊อบลินของน้องชายที่บ้านเล่าให้เขาฟังน่ะค่ะ เห็นว่าได้เพื่อนใหม่ชื่อวูล์ฟเฟียหรืออะไรนี่แหล่ะ เด็กพวกนั้นชอบไปเล่นกันแถวคอกม้ากันบ่อย ๆ แต่เหมือนลูกก๊อบลินตัวนั้นถูกเลี้ยงโดยเพกาซัสก็เลยพูดภาษาคนไม่ได้… พูดได้แต่ภาษาก๊อบลินกับร้องฮรี้ ๆ”

               “โธ่เอ๊ย เจ้าไข่ผำเองสินะ”

               ถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมขมับ เขาขอให้พี่น้องปิดเรื่องถูกคราเคนชนเรือจนต้องนอนโรงพยาบาลแอตแลนติสแรมเดือน แต่กลับลืมบอกสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ว่าห้ามให้สัตว์เลี้ยงของเธอเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้สัตว์เลี้ยงของใครฟัง
               
               ก็หวังว่าคนเก็บตัวอย่างแมคเคนซีจะไม่ไปได้ยินข่าวลือเรื่องนี้จากที่ไหนเข้า

               “อย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณลินคอล์นน่ะ?”

               “ก็… ไม่ได้บอก ใครจะกล้าบอกล่ะครับว่าถึงชนะแต่ก็ถูกคราเคนรัดจนเกือบตาย”

               “หืมมมม?” เฟลิจิตัสขึ้นเสียงสูงอีกครั้ง เพราะความจริงจากปากเจ้าตัวไม่เหมือนสารที่เธอได้รับฟังมา คุณหมอสาวจึงหัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนว่าความลับเรื่องเฉียดตายของคุณจะยังไม่ถูกเปิดเผยนะคะ เพราะที่ฉันฟังมาคะน้าไม่ได้พูดแบบนั้น วูล์ฟเฟียน่าจะเล่าวีรกรรมยกยอความกล้าหาญของคุณมากกว่าน่ะค่ะ”

               “อ๊ะ.. งั้นเหรอ งี้เป็นผมเองสิที่หลุดปากออกมาเอง” บุตรแห่งโพไซดอนเปลี่ยนจากกุมหัวมาเป็นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อ

               “ถ้าคุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ฉันจะเก็บเป็นความลับให้ก็ได้ค่ะ” ธิดาฮีบี้ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปาก “แต่การเป็นคนรักที่ดีต่อกันควรจะไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของตัวเองไม่ว่าทุกข์หรือสุขในทุกช่วงเวลาให้กันฟังนะคะ แน่นอนว่าคนรักอาจจะเป็นห่วงหรือไม่สบายใจ แต่ฉันคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะได้รู้เรื่องราวของคุณด้วยค่ะ อีกอย่างคุณนีลคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมคะ หากว่าคุณลินคอล์นเต็มไปด้วยความลับที่ปิดบังเอาไว้น่ะ”

               “อุก.. เถียงไม่ออกเลยแฮะ” ดวงตาสีเปลือกไม้เสมองไปทางอื่น ก็เรื่องที่ปิดบังแฟนหนุ่มน่ะมีแค่เรื่องเฉียดตายจากคราเคนเสียที่ไหน แล้วเมื่อลองคิดตามก็คงไม่โอเคจริง ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าหากแมคเคนซีมีเรื่องปิดบังเขาไว้... “เอาไว้.. ถ้าผมมีความมกล้ามากพอจะเล่าทุกอย่างให้เขาฟังแล้วกัน”

               “นั่นก็แล้วแต่คุณนา~” หมอคีธหรี่ตาลงพร้อมกับยิ้มออกมา

               “คุณหมอคีธคะ ผลเลือดของคนไข้ออกมาแล้วค่ะ” เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พยาบาลผู้ช่วยเรียกตัวหมอสาวพอดี ช่วงเวลาแห่งการเม้ามอยจึงน่าจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้

               “หมดเวลาอู้งานของฉันแล้วสิ เดี๋ยวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ส่วนเรื่องภารกิจก็ขอให้โชคดีมีชัยกันทุกคนนะ”
               
               เฟลิจิตัสค้อมศีรษะให้ก่อนจะเดินเข้าห้องตรวจไป ส่วนดีนก็ได้แต่โบกมือลาพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ ส่งเธอ แต่เพียงไม่นานทางห้องยาก็ประกาศเรียกชื่อ

               “คุณดีนคะ ยาที่ขอไว้ได้แล้วค่ะ”

               “ครับ ขอบคุณมากนะ”

               ร่างสูงลุกขึ้นไปรับยารักษาแผลระดับเทพ  ไม่รู้ว่าพยาบาลจัดตัวไหนให้มาแต่แน่นอนว่าเป็นของดีร้อยเปอร์เซ็น ด้วยการตอบแทนชายหนุ่มจึงบริจาคดรักม่าเป็นค่าบำรุงรักษาจำนวนหนึ่ง


ขอรับน้ำทิพย์หรืออาหารเทพ (รับแทนสมาชิกคนอื่น)
บริจาคเงินค่าบำรุงรักษาศูนย์พยาบาล 20 ดรักม่า


←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-6-1 09:50:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รักษาตัวและยืนยันสถานะ

        ลูคัสไม่เคยไปค่ายที่ไหนไกลกว่าสกอตแลนด์ กลาสโกลว์ เมืองที่มีมนต์เสน่ห์สำหรับเขามาก เขาหลงไหลเมืองนี้ไม่ต่างจากสนทนากับผู้หญิงที่เขานัดทานข้าวเย็นเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ละครั้งมีความหมายสำหรับเขามาก นี่เป็นครั้งแรกและตลอดชีวิตที่ต้องพำนักสถานที่ที่แม่ให้มาอยู่เพื่อความปลอดภัย โชคดีที่เหลือล็อคเก็ตไม่หายไปกับสายน้ำ

        โทมัสไม่ชอบไม่ชอบใจกับประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ เช่นเดียวกับลูคัสที่กำลังหงุดหงิดกับเสื้อผ้าเปียกชื้นของตัวเอง เข้าไม่ชอบใจความไม่สบายตัวของตัวเอง อากาศร้อน ลมไม่ค่อยพัดผ่านมา ยิ่งทำให้หงุดหงิดง่าย ไม่รู้ว่าชะตากรรมของพวกลูกเรือสินค้าเป็นอย่างไร

        แซเทอร์หนุ่มหันมามองพวกเขาเป็นระยะตลอดเส้นทางที่ไปค่ายพยาบาล แทบไม่พูดอะไรออกมาเลย เขาคิดว่าแซเทอร์หนุ่มกลัวอาการไม่สบอารมณ์ของโทมัสที่พร้อมระเบิดใส่ใครก็ตามที่เข้ามาหา ค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นป่า เนินเขา และชายหาด มันเหมือนค่ายพักร้อนทั่วไป แต่ที่เขาสังเกตเห็นได้ชัดคือไม่ว่าจะเป็นแซเทอร์หรือคนที่ผ่านมา พวกเขามักหลีกเลี่ยงไม่ยอมคุย พยายามเดินให้ห่างจากตัวเขามากที่สุด

      "ไม่ต้องแปลกใจหรอก ลุค บุตรหรือธิดาของพ่อเธอไม่เป็นที่ต้อนรับของลูกๆคณะเทพโอลิมปัส" โทมัสหันมาตอบพลางยิ้มให้กับเขา อย่างน้อยก็ในความคิดของเขา "พวกเธอมักโดดเดี่ยวเสมอ ทำใจไว้บ้างเถอะ" โทมัสตบไหล่เป็นการให้กำลังใจ

      "อย่าบอกนะว่านายเป็นลูกฮาเดสอีกคน" แซเทอร์หนุ่มหันมาพูดด้วยความประหลาด "ไม่ใช่หรอกใช่ไหม?" เขายังถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

      "เขาจะเป็นลูกฮาเดสหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระของแก เจ้าแซเทอร์จอมสงสัย"

      โทมัสแยกเขี้ยวใส่พลางลูบหนวดเคราเปียกชื้นของตัวเองด้วยความหงุดหงิดปนรำคาญ

      "ก็ได้ ก็ได้ ฉันไม่สงสัยแล้วก็ได้" แซเทอร์หนุ่มทำท่ายกมือสองข้างยอมแพ้

        เมื่อการต่อปากต่อคำจบลง พวกเขาทั้งสามคนเดินมาถึงค่ายพยาบาลของค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ ลูคัสเห็นว่ามีกลุ่มวัยรุ่นสวมชุดคล้ายบุรุษพยาบาลกำลังเดินเข้า-ออกสถานพยาบาล บางคนในที่นี้อายุอ่อนกว่าลุคหลายปี แซเทอร์หนุ่มพาพวกเขามายังเตียงว่างสองเตียงใกล้กัน

     "พวกนายพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อนให้คุณสาวแสนสวยตรวจพวกนายอย่างละเอียด ส่วนฉันจะไปตามไครอนให้มาหาพวกนาย"แซเทอร์หนุ่มพูดจบ ไม่รอช้าเดินไปสนทนากับพยาบาลแล้วก็รีบเดินออกจากสถานพยาบาล

      พวกเขานอนลงบนเตียงพักผ่อนหลังจากพบเจอเหตุการ์หนักหนาสาหัส ลุคหันไปเห็นว่าโทมัสนอนหลับทันทีที่หัวถึงหมอน แต่เขามองบนเพดานมีความรู้สึกข่มตานอนหลับไม่หลับ มันอาจจะเพราะสถานที่ไม่คุ้นเคยและเพิ่งมาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยสำหรับตัวเขาเอง

     "มีมนุษย์ครึ่งเทพป่วยอีกแล้วเหรอ" เสียงของสดใสของพยาบาลดังขึ้น "แต่เจคแจ้งว่าเป็นสมาชิกใหม่เพิ่งมาถึงค่าย" เธอเดินมาตรงเตียงของลุคกับโทมัส และมีคนติดตามมาด้วยสองคน

     "สวัสดีมนุษย์ครึ่งเทพหน้าใหม่ ฉันคิม อามิน บุตรีของเทพอะพอลโล ฉันเป็นหมอประจำค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้" คุณหมอมีหน้ายิ้มแย้มและชี้ให้พยาบาลคนหนึ่งไปที่เตียงของโทมัสที่อยู่ถัดไป "โทมัสไปรับเธอมาเหรอเนี่ย แล้วพวกเธอบาดเจ็บจากการเดินทางตรงไหนบ้างไหม?หรือมีอาการข้างเคียงบ้างไหม?" เธอสวมเริ่มใช้สายตาประเมินอาการเบื้องต้นของลุค

     "ผมลูคัส แฮร์ริสัน "ลุคทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง "พวกเราเพิ่งเดินมาจากอังกฤษ มีอาการขวัญผวาจากการเดินทางนิดหน่อยครับ"

     "แน่นอนว่าฉันต้องรู้จักแซเทอร์มาดเซอร์คนนั้น เขาชอบไปรับตัวมนุษย์ครึ่งเทพของสามมหาเทพเสมอ" หมอคิมใช้ไฟฉายขนาดเล็กพกพาตรวจดูตาทั้งสองข้าง วัดชีพจรตรงข้อมือขวา "ไม่มีส่วนไหนบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบอะไร ส่วนอาการขวัญผวาอาจต้องใช้เวลา กว่าจะฟื้นตัว คิดไว่าไม่นานคงกลับมาเป็นปรกติ" หมอคิมประเมินอาการป่วยเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเดินไปตรวจโทมัสแบบเดียวกับที่ตรวจกับลุค

        ไม่นานแซเทอร์ที่ชื่อว่าเจคเดินเคียงข้างมากับคนครึ่งมาคนหนึ่งอายุน่าจะมากกว่าโทมัส เขาดูเป็นคนนิ่ง สุขุม ใจเย็น จากสายตาการประเมินของลูคัส เขาทักทายหมอผู้หญิงเสร็จ ค่อยเดินมาหาลูคัสกับโทมัส

     "การเดินทางเป็นยังไงบ้าง โทมัส ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม"

     คนครึ่งม้าถามโทมัสที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ พลางกันมาทางลูคัส

     "ถ้าไม่นับการเจอคลื่นสูง 30 เมตรในมหาสมุทร พายุเฮอร์เคน และปลาโครงกระดูกที่มาพาค่าย ที่เหลือก็ไม่มีปัญหาอะไร"

     โทมัสรายงานการเดินทางด้วยท่าทางกวนประสาท มันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขากลับมาเป็นปรกติแล้ว

     "สวัสดี หนุ่มน้อย ฉันชื่อไครอน เป็นผู้อำนวยการค่ายแห่งนี้ และเป็นเซนทอร์ เผื่อเธอจะไม่รู้จัก"

     ไครอนยิ้มกว้างยื่นมือมาจับมือลูคัส เขย่ามือสามครั้ง ค่อยดึงกลับไป

     " ผมลูคัส แฮร์ริสันครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณไครอน"

     ลุคแสดงความเป็นมิตรและมารยาทด้วยการยิ้ม เพราะไม่ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันที่ได้มาเห็นอะไรที่คนภายนอกเรียกว่าตำนานที่ไม่มีอยู่จริง มีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้น

     "ฉันขอแสดงความดีใจและต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้ ปลาโครงกระดูกที่โทมัสเล่ามา นั่นคงเป็นพ่อของเธอส่งมาช่วยเหลือและพามาที่ค่ายเลยสินะ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเหล่าเทพโอลิมปัสช่วยเหลือมนุษย์ครึ่งเทพ" ไครอนพูดด้วยความแปลกใจนิดหน่อย คาดไม่ถึงว่าการมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัดจะมีเทพช่วยเหลือลูกๆของพวกเขาด้วย "เพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงค่ายของเธอ ฉันมีเสื้อชาวค่ายฮาล์ฟบลัดให้กับเธอ ถือเป็นการมาถึงค่ายและเป็นชาวค่ายแล้ว" ไครอนยื่นเสื้อชาวค่ายฮาล์ฟบลัดมาให้ลูคัส มันเป็นเสื้อแบบเดียวกันกับที่ลูคัสเห็นระหว่างทางมาสถานพยาบาล

        ระหว่างการสนทนากันในสถานพยาบาลและกล่าวการต้อนรับสมาชิกใหม่ของค่ายฮาล์ฟบลัด พลัดมีแสงเรืองรองปรากฎเหนือศีรษะของลูคัส มันเป็นหมวกใบหนึ่งมีกลิ่นอายความมืด เย็นยะเยือก แผ่ออกมา เรืองรองกว่าแสงไฟในสถานพยาบาล จนพยาบาลและหมอคิมต่างต้องเดินมาดู โดยรักษาระยะห่างพอสมควร

     "คิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ทันทีที่โทมัสพูดถึงปลาโครงกระดูก เธอเป็นบุตรของฮาเดส นับว่าหายากทีเดียว" ไครอนสบตากับโทมัส และหันมาดูสัญลักษณ์เหนือศีรษะของลุค "สัญลักษณ์หมวกล่องหนของฮาเดส ลุค พ่อของเธอได้รับรองเธอเป็นบุตรของเขาแล้ว ลุค บุตรแห่งฮาเดส มันเป็นการยืนโดยสมบูรณ์แล้ว"

        ไม่นานแสงสว่างเรืองรอง เจิดจ้า ของหมวกล่องหนเหนือศีรษะของลูคัสได้หายไป ทันทีที่ไครอนได้กล่าวการรับรองบุตรของฮาเดสเสร็จสิ้น ทำให้เขาอดนึกถึงคำพูดของโทมัสไม่ได้ว่า คนในค่ายฮาล์ฟบลัดไม่ค่อยต้อนรันหรืออยากเข้าใกล้ลูกๆของฮาเดส แต่ความคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียวมานาน จึงไม่ค่อยแปลกใจกับเรื่องพวกนี้

     "เมื่อกี้คุณไครอน คุณพูดถึงหมวกล่องหนของฮาเดส หมวกล่องหนคืออะไรครับ"

     ลูคัสสงสัยเกี่ยวกับหมวกล่องหนมาก ไม่เคยได้ยินหรืออ่านผ่านมาก่อน มันอาจจะเพราะเขาไม่ได้สนใจมันด้วยเหรือเปล่า

     "สัญลักษณ์หมวกล่องหนของฮาเดสที่ปรากฎเหนือศีรษะของเธอเมื่อซักครู่นี้ มันคือสมบัติหรือาวุธประจำกายของฮาเดส บางครั้งเรียกมันว่า หมวกแห่งความมืด มันสามารถทำให้ผู้สวมใส่หมวกใบนี้ล่องหน หายตัวได้ในความมืด และมันยังสามารถควบคุมความืดได้ ตามประวัติหมวกใบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไซคลอปป์ มันมอบให้กับฮาเดสในการต่อสู้ในสงคามไททัน" ไครอนอธิบายและขยายความของสัญลักษณ์หมวกล่องหนให้ลูคัสและทุกคนได้รับทราบโดยย่อ  "เอาล่ะ ฉันจะพาเธอไปบ้านพักของพ่อเธอ โทมัสไปด้วยกันสิ "

        ไครอนโบกมือให้ทั้งคู่ลุกขึ้นจากเตียงคนไข้ ทุกคนในค่ายรู้แล้วว่าสมาชิกใหม่ของค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นบุตรของฮาเดส เพิ่งได้รับการรับรอง ไครอนเดินนำพวกเขาสองคนออกจากสถานพยาบาลมุ่งหน้าสู่บ้านพักของฮาเดสที่ได้จัดสร้างไว้บุตรหรือธิดาได้พำนักอาศัยที่ค่ายฮาล์ฟบลัด ค่ายฤดูร้อนแห่งนี้

      



คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +1 ย่อ เหตุผล
God + 1

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โพสต์ 2025-9-1 20:41:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 1 กันยายน 2025
บันทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 13
ภาพลึกลับ

เนื้อหาโรลเพลย์: 


    หลังจาก ภริดา อารยภักดีเทวราช หรือ ริดา มอบสินสงครามให้ ไครอน เรียบร้อยแล้ว ร่างกายของเธอก็พลันอ่อนแรงและหน้ามืด อาการป่วยกำเริบขึ้นอย่างกะทันหัน

​ไครอนซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ สังเกตเห็นความผิดปกติของบุตรีแห่งเทพีเฮคาทีในทันที เขาโค้งตัวลงประคองร่างของเธอที่กำลังจะล้ม ก่อนจะรีบนำตัวเธอไป สถานพยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด อย่างรวดเร็ว


     ​เมื่อถึงสถานพยาบาล เหล่า เดมิก็อด หน่วยพยาบาลที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วรีบเข้ามาช่วยเหลือทันที พวกเขาจัดให้ริดานอนบนเตียงเวทมนตร์เพื่อปรับสมดุลพลังชีวิต จากนั้นหนึ่งในพยาบาลก็ริน เนคทาร์ ออกมาอย่างระมัดระวัง

​“ให้เธอดื่มช้า ๆ ระวังอย่าให้เกินปริมาณ…” พยาบาลเอ่ยเตือนเสียงเบาขณะยกแก้วเนคทาร์แตะริมฝีปากริดา


     ​ทันทีที่ของเหลวศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่านลำคอ ริดารู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อาการเจ็บป่วยที่รุมเร้าค่อย ๆ ทุเลาลง ใบหน้าซีดเซียวกลับมามีเลือดฝาดอีกครั้ง

​ไครอนที่ยืนอยู่ข้างเตียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักผ่อนให้เต็มที่นะริดา… เนคทาร์จะช่วยฟื้นฟูเจ้า แต่เจ้าก็ยังต้องการเวลาเพื่อให้ร่างกายฟื้นคืนกำลังอย่างสมบูรณ์”


เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลเรียบร้อยค่า


     

    ​

​.    


    





   


    


 

    




"ในความมืดมิดยังมีแสงนำทางผู้กล้าแห่งเฮคาที"
สถานที่: สถานพยาบาล |  หัวข้อ: สถานการณ์ฉุกเฉินในค่ายฮาล์ฟบลัด
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
โพสต์ 2025-9-3 00:18:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 2 กันยายน 2025 เวลา: 
บันทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 21
ภาพลึกลับ

เนื้อหาโรลเพลย์: 


        หลังจากเดินออกมาจากห้องทำงานของผู้นำค่ายที่บรรยากาศเงียบสงบและขลังจนเหมือนเวลาหยุดนิ่ง ความรู้สึกของริดายังคงติดตรึงอยู่ในห้วงความคิด เธอไม่อาจลืมโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารพะรุงพะรัง และบุคลิกที่ลึกลับแต่เปี่ยมด้วยพลังอำนาจของคุณดีโอนีซัสได้เลย

​เมื่อเท้าสัมผัสกับลานกว้างด้านนอก แสงแดดอบอุ่นยามบ่ายก็ทอดเงาสนยาวเหยียดบนพื้นหญ้า พลันสายลมก็หอบกลิ่นหอมของดอกไม้จากกระท่อมไอริสมาแตะปลายจมูก ทีน่าหันมายิ้ม "ที่ต่อไปที่เราจะไปกันก็คือสถานพยาบาลของค่ายนะ ที่นี่สำคัญมากเลย เพราะไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการฝึกหรือต่อสู้กับอสุรกาย พวกเราก็ต้องมาพึ่งที่นี่แหละ"

​ริดาพยักหน้ารับแล้วเดินตามทีน่าไปตามทางเดินกรวด กลิ่นลาเวนเดอร์และสะระแหน่ลอยมาตามลม ทำให้ใจที่เคยกระวนกระวายรู้สึกผ่อนคลายลงชั่วขณะ ไม่นานนัก อาคารไม้สีอ่อนก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า


      หน้าต่างกระจกใสสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับ และเหนือประตูทางเข้าก็มีสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีทองสลักอยู่

​เมื่อผลักประตูเข้าไป กลิ่นสมุนไพรก็อบอวลขึ้นอย่างชัดเจน เตียงผ้าสีขาวสะอาดเรียงรายเป็นระเบียบ ข้างเตียงแต่ละหลังมีขวดแก้วบรรจุของเหลวสีสันต่าง ๆ และน้ำสมุนไพรที่เรืองแสงเรืองรองอยู่ ริดามองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ "ที่นี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นจังเลยทีน่า"

​ทีน่ายิ้มบาง ๆ "ใช่ ที่นี่ไม่ได้แค่รักษาบาดแผลทางกาย แต่หลายครั้งก็ช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจด้วยนะ"


      ​ทันใดนั้น หญิงสาวร่างสูงโปร่งคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากด้านใน ผมสีดำขลับถูกถักเป็นเปียเรียบร้อย ใบหน้าคมชัดของเธอสะท้อนความมุ่งมั่น เสื้อคลุมยาวสีขาวบริสุทธิ์ทำให้เธอดูทั้งสง่างามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน


    ​"เด็กใหม่ใช่ไหม?" เสียงของเธอนุ่มลึกแต่แฝงด้วยความมั่นคงอย่างน่าประหลาดใจ


     ​ทีน่ายิ้มพร้อมแนะนำ "นี่คือคุณคิม อามิน ผู้ดูแลสถานพยาบาล เธอเป็นคนดูแลรักษาพวกเราทุกคนเวลาได้รับบาดเจ็บ"


     ​คุณคิม อามินเหลือบมองริดาอย่างพิจารณา ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ "ยินดีต้อนรับนะริดา หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันบ่อยนัก แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ที่นี่ก็พร้อมจะต้อนรับเธอเสมอ"


      ​ริดาก้มศีรษะรับ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ ราวกับถูกโอบกอดด้วยความปรารถนาดี เธอเข้าใจในทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับรักษาบาดแผล แต่ยังเป็นเหมือนบ้านที่คอยปกป้องและเป็นที่พักพิงให้หัวใจของเหล่าลูกครึ่งเทพทุกคนด้วย


รับรางวัล +15 EXP



​.    


​.    

 


     ​

​.    

     ​


   


 

    ​

  

    



"ในความมืดมิดยังมีแสงนำทางผู้กล้าแห่งเฮคาที"
สถานที่: สถานพยาบาล |  หัวข้อ: คุณคิม อามิน: ผู้ดูแลแห่งความเมตตา
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
โพสต์ 2025-9-7 10:49:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Parida เมื่อ 2025-9-7 12:14

ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 5 กันยายน 2025 เวลา: 13.00 
บันทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 65
ภาพลึกลับ

เนื้อหาโรลเพลย์: 


    ภริดา อารายภักดีเทวราช หรือ ริดา ต่อสู้อย่างดุเดือดกับเหล่าอสุรกายในป่าต้องห้าม แม้จะเป็นช่วงกลางวันตลอด 24 ชั่วโมงของค่ายฮาล์ฟบลัด แต่ภายในป่ากลับมืดครึ้ม ต้นไม้สูงใหญ่บดบังแสงอาทิตย์จนแทบไม่เหลือ หมอกขาวเย็นยะเยือกลอยอ้อยอิ่ง และเสียงกระซิบอันลึกลับจากเงามืดทำให้หัวใจที่เข้าไปในป่าต้องหวั่นไหว


     ​การต่อสู้ที่ยาวนานและอันตรายทำให้ริดาบาดเจ็บสาหัส บาดแผลฉกรรจ์ลากยาวจากหัวไหล่ไปถึงสีข้าง ลึกจนถึงหลอดเลือดแดง เลือดสดซึมเปื้อนเสื้อค่ายฮาล์ฟบลัดจนชุ่ม ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างจนหายใจติดขัด ดวงตาพร่ามัวคล้ายทุกอย่างกำลังเลือนลาง


      ​“...ต้อง…ออกจากที่นี่ให้ได้…” เธอพึมพำเสียงแผ่ว พยายามประคองร่างที่แทบจะล้มลงทุกย่างก้าว ก้าวฝ่าเงามืดของป่าที่เต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้ายซึ่งดูดกลืนแสงรอบตัวไปหมดสิ้น ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ไม่สามารถส่องเข้ามาถึงได้ราวกับโลกนี้ถูกตัดขาดจากความเป็นจริง


     ​หลังจากเดินอย่างทุลักทุเล ริดาก็เห็นแสงสีทองอบอุ่นจากค่ายฮาล์ฟบลัดอยู่ลิบๆ แสงไฟจากโคมเวทมนตร์รอบโรงพยาบาลสว่างวาบขึ้นคล้ายเป็นสัญญาณแห่งความหวัง เธอรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น


    ​เสียงตะโกนของเหล่านักรบฮาล์ฟบลัดดังขึ้นทันที: “ริดา! เธอบาดเจ็บหนัก! รีบพาริดาไปห้องรักษาตัวเร็ว!”


     ​หลายคนรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของริดาอย่างเร่งรีบ แล้วพาเธอเข้าสู่สถานพยาบาลที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรและเสียงร่ายมนตร์รักษาทันที ประตูเปิดออกเผยให้เห็น พยาบาลคิม อามิน หญิงสาวผู้มีใบหน้าอ่อนโยนแต่แฝงความมุ่งมั่น


    ​อามินรีบเข้ามาตรวจดูบาดแผลอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเธอเคร่งเครียดทันที


     ​“บาดแผลลึกมาก… เกือบโดนจุดวิกฤตแล้ว! รีบหาน้ำอมฤตมาให้เธอดื่มเดี๋ยวนี้!”


     ​ของเหลวสีทองในขวดแก้วถูกนำมาวางตรงหน้าอย่างรวดเร็ว อามินเปิดจุกขวดแล้วประคองร่างของริดาให้พิงเบาๆ แม้ริดาจะไร้เรี่ยวแรงจนแทบขยับไม่ได้ แต่ริมฝีปากยังคงขยับเล็กน้อยคล้ายจะเอ่ยเรียกชื่อใครบางคน


​.   “ฟังฉันนะริดา… นี่คือเนคทาร์ มันจะช่วยฟื้นฟูชีวิตของเธอ ดื่มมันเถอะ”


     ​ของเหลวสีทองถูกรินลงสู่ริมฝีปากของริดาอย่างช้าๆ กลิ่นหอมละมุนดุจน้ำผึ้งและดอกไม้ป่าแผ่กระจายไปทั่วห้อง แสงสีทองสว่างวาบทันทีที่น้ำอมฤตไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอ บาดแผลที่เคยฉีกขาดค่อยๆ สมานเข้าหากัน เลือดที่เคยทะลักเริ่มหยุดไหล


    ​อามินใช้ผ้าสะอาดซับเลือดและเหงื่อบนใบหน้าของริดา พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนโยน: “ดีมาก… อีกไม่นานเธอก็จะปลอดภัยแล้ว อดทนไว้นะ”


    ​ไม่นานหลังจากนั้น ริดาก็เริ่มขยับนิ้วมือได้ เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก ดวงตาของเธอพร่ามัวก่อนจะเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มละมุนของอามิน


​“...พะ…พี่อามิน…”


    ​“ไม่ต้องห่วงแล้ว เธอปลอดภัยแล้วนะริดา พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพี่จะดูแลเธอเอง”


     ​เสียงอ่อนโยนของพยาบาลคิม อามินเป็นสิ่งสุดท้ายที่ริดาได้ยิน ก่อนที่เธอจะเข้าสู่ห้วงนิทราอันสงบสุข


 ท. ท่ามกลางแสงสว่างอบอุ่นจากน้ำอมฤตและแสงแดดกลางวันที่ไม่มีวันมืดมิดของค่ายฮาล์ฟบลัด

โรลทำการเข้ารักษาตัวที่ห้องพยาบาลเรียบร้อย

"ในความมืดมิดยังมีแสงนำทางผู้กล้าแห่งเฮคาที"
สถานที่: สถานพยาบาล |  หัวข้อ: บาดแผลแห่งฮาล์ฟบลัด: การต่อสู้ของนักรบครึ่งเทพที่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
โพสต์ 2025-9-10 11:30:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 10/09/2025
บันรูปภาพทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 78
บุตรีเฮคาที

เฟลิทซ์ ไฟร์เยอร์ยังคงเร่งฝีเท้าฝ่าแสงแดดยามบ่ายที่ร้อนระอุ พาร่างไร้สติของ ริดา อารายภักดีเทวราช มาถึงสถานพยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด เสียงจอแจรอบตัว ทั้งเสียงดาบกระทบกัน เสียงหัวเราะ และเสียงฝีเท้าม้าเซนทอร์ที่วิ่งผ่านไปมา ดูเหมือนจะเลือนหายไปในอากาศ มีเพียงความเงียบและลมหายใจแผ่วเบาของริดาที่อยู่ในอ้อมแขนเขาเท่านั้นที่เฟลิทซ์รับรู้ได้

​เขาผลักประตูไม้ที่สลักลายเทพโบราณเข้าไปทันที พร้อมตะโกนก้องห้องด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ช่วยด้วย! เด็กค่ายบาดเจ็บสาหัส! เร็วเข้า!” เสียงของเขาดังก้องจนคนในห้องหันมามองเป็นตาเดียว ทันใดนั้น คุณคิมอามิน หญิงสาวผู้ดูแลสถานพยาบาลก็รีบก้าวออกมา เธอสวมชุดผ้าสีขาวสะอาด ดวงตาเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตา แต่ก็แฝงความเด็ดขาด เมื่อเห็นสภาพริดาที่ซีดเซียวเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือด เธอก็ขมวดคิ้วด้วยความกังวลแล้วสั่งเสียงหนักแน่น “เฟลิทซ์! วางเธอลงบนเตียงเร็วเข้า!”

​เฟลิทซ์รีบวางริดาลงบนเตียงไม้สีขาวอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมราวกับกลัวเธอจะแตกสลาย เขากุมมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ดวงตาคมยังจับจ้องใบหน้าซีดเผือดของริดาอย่างไม่ละสายตา คิมอามินหยิบขวดแก้วใสบรรจุ เนคทาร์ ซึ่งเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเทพออกมา ก่อนจะเอ่ยบอกให้เฟลิทซ์ถอยออกไป

​แม้จะลังเล แต่เฟลิทซ์ก็ยอมถอยออกมาเพียงแค่ข้างเตียง โดยสายตายังคงจับจ้องที่ริดาไม่วางตา คิมอามินนำขวดเนคทาร์แตะริมฝีปากของเธอ กลิ่นหอมหวานของน้ำศักดิ์สิทธิ์ฟุ้งไปทั่วห้อง ริดากลืนมันลงไปอย่างช้า ๆ และทันใดนั้นเอง แสงสีทองอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ แผลถลอกและรอยช้ำเริ่มจางลงอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าที่ซีดเซียวค่อย ๆ มีเลือดฝาดกลับมา เฟลิทซ์เห็นดังนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความโล่งอก “ขอบคุณสวรรค์...” เขาพึมพำแผ่วเบาอย่างสบายใจ

​หลังให้ริดาดื่มเนคทาร์เพียงเล็กน้อย คิมอามินก็วางศีรษะเธอบนหมอนนุ่มและดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้ “ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องพักผ่อนอีกสักระยะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น เฟลิทซ์พยักหน้ารับ สีหน้าแข็งกร้าวของเขาเริ่มผ่อนคลายลง “ฝากเธอด้วยนะคิมอามิน... ฉันจะไม่ปล่อยให้ไอ้ตัวที่ทำริดาเจ็บลอยนวลแน่!” น้ำเสียงของเขายังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นดุดัน คิมอามินมองเขาอย่างเข้าใจ “ฉันจะดูแลริดาเอง เธอไม่ต้องห่วง ส่วนเธอ... อย่าใจร้อนเกินไปล่ะ เฟลิทซ์”

​เฟลิทซ์นั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงอย่างเงียบ ๆ ดวงตายังคงเฝ้ามองเพื่อนสาวที่ค่อย ๆ หลับตาลงอย่างสงบ แสงแดดยามบ่ายที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาทาบทอเงาของทั้งสองไว้ด้วยกัน ราวกับกำลังบอกว่าริดาได้กลับคืนสู่ความปลอดภัยแล้ว และพร้อมจะฟื้นตัวภายใต้การดูแลของเพื่อนพ้องที่ค่ายฮาล์ฟบลัดแห่งนี้


ริดาเข้ารับการรักษาตัวที่สถานพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว











สถานที่: สถานพยาบาลประจำค่ายฮาล์ฟบลัด
หัวข้อ: เมื่อเนคทาร์เยียวยาบาดแผล

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14626 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-10 11:30
โพสต์ 14,626 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2025-9-10 11:30
โพสต์ 14,626 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก คบเพลิงเวท  โพสต์ 2025-9-10 11:30
โพสต์ 14,626 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก ผลิตภัณฑ์กันแดด  โพสต์ 2025-9-10 11:30
โพสต์ 14,626 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-9-10 11:30
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
โพสต์ 2025-9-10 15:49:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 10/09/2025
บันรูปภาพทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 79
บุตรีเฮคาที

ภายในห้องพยาบาลที่อาบไล้ด้วยแสงแดดอ่อนยามบ่าย กลิ่นสมุนไพรและน้ำหวานดอกไม้หอมจาง ๆ ลอยอวลอยู่ทั่วบริเวณ เสียงจิ้งหรีดที่ดังแว่วมาเป็นระยะคลอไปกับเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของผู้ป่วยที่กำลังพักผ่อน

​บนเตียงไม้ที่ปูด้วยผ้าสะอาดนุ่ม ริดาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หลังจากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณคิมอามิน พยาบาลประจำค่าย เมื่อความอ่อนเพลียและบาดแผลจากการต่อสู้กับโทรลล์คลายลง ร่างกายของเธอก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง เหลือเพียงความปวดระบมเล็กน้อยเท่านั้น ริดาสูดหายใจเข้าลึกอย่างโล่งอก ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง

​คุณคิมอามินเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน และเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ดีขึ้นมากแล้วนี่ ริดา... ต่อจากนี้แค่พักผ่อนให้พอ และอย่าหักโหมก็พอ"

​ริดายิ้มบาง ๆ พร้อมกล่าวขอบคุณ "ขอบคุณมากค่ะคุณคิมอามิน ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้... ฉันคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้"

​จากนั้น เธอค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็ก หยิบเหรียญดรักม่าที่ส่องประกายสว่างออกมานับจนครบห้าเหรียญ ก่อนจะยื่นส่งให้คุณคิมอามินด้วยความเคารพ "นี่คือค่ารักษาของฉันค่ะ ทั้งหมดห้าดรักม่า"

​คุณคิมอามินรับเหรียญเหล่านั้นด้วยสีหน้าสุขุม พลางพยักหน้ารับเบา ๆ "ขอบคุณมากจ้ะ ริดา ขอให้แข็งแรงและอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บบ่อย ๆ แบบนี้อีกนะ"

​แม้ใบหน้าของเธอยังมีร่องรอยความเหนื่อยล้า แต่ริดาก็ยิ้มตอบ พลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เธอค่อย ๆ ก้าวออกจากห้องพยาบาลด้วยเสียงรองเท้าผ้าใบคู่ใจที่ดังก้องแผ่วเบาไปตามทางเดินไม้ขัดเงา

​เมื่อประตูค่อย ๆ ปิดลง แสงแดดอบอุ่นยามบ่ายก็โอบล้อมริดาอีกครั้ง กลิ่นต้นสนและดอกไม้ในค่ายฮาล์ฟบลัดพัดลอยมาแตะจมูก เธอสูดหายใจเข้าลึก และพึมพำกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น "ต่อไปนี้... ฉันจะไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ อีกแล้ว"

​ห้องพยาบาลที่อบอุ่น

​ภายในห้องพยาบาลที่แสงแดดอ่อนยามบ่ายสาดส่องเข้ามา กลิ่นหอมจาง ๆ ของสมุนไพรและเนคทาร์ยังคงอบอวลอยู่ทั่วบริเวณ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดแว่วมาเป็นระยะ และเสียงลมหายใจของผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น

​ริดาค่อย ๆ เอนกายบนเตียงไม้ที่ปูด้วยผ้าสะอาดนุ่ม หลังจากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณคิมอามิน พยาบาลประจำค่าย อาการอ่อนเพลียและบาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้กับโทรลล์เมื่อครู่ก็ทุเลาลงจนเกือบหายเป็นปกติ เหลือเพียงความปวดระบมเล็กน้อยเท่านั้น เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง สูดลมหายใจลึกอย่างโล่งอก

​คุณคิมอามินเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน และกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "ดีขึ้นมากแล้วนี่ ริดา... ต่อจากนี้ขอแค่พักผ่อนให้พอ และอย่าหักโหมก็พอ"

​ริดายิ้มบาง ๆ "ขอบคุณมากค่ะคุณคิมอามิน ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้... ฉันคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้"

​เธอค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็ก หยิบเหรียญดรักม่าที่ส่องประกายแผ่วเบาออกมานับจนได้ครบห้าเหรียญ ก่อนจะยื่นให้คุณคิมอามินด้วยความเคารพ "นี่คือค่ารักษาของฉันค่ะ ทั้งหมดห้าดรักม่า"

​คุณคิมอามินรับเหรียญเหล่านั้นด้วยสีหน้าสุขุม พร้อมกับพยักหน้ารับเล็กน้อย "ขอบคุณมากจ้ะ ริดา ขอให้แข็งแรงและอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บบ่อย ๆ แบบนี้อีกนะ"

​ริดายิ้มตอบ แม้ใบหน้าของเธอยังมีร่องรอยความเหนื่อยล้า เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นเต็มความสูง ยกกระโปรงสีขาวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะก้าวออกจากห้องพยาบาล เสียงรองเท้าผ้าใบคู่ใจดังก้องแผ่วเบาไปตามทางเดินไม้ขัดเงา

​เมื่อประตูห้องพยาบาลค่อย ๆ ปิดลง แสงแดดอุ่น ๆ ยามบ่ายก็โอบล้อมริดาอีกครั้ง ลมอ่อน ๆ พัดกลิ่นต้นสนและดอกไม้ในค่ายฮาล์ฟบลัดให้ลอยเข้ามาแตะจมูก เธอสูดหายใจเข้าลึก พลางพึมพำกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น "ต่อไปนี้... ฉันจะไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ อีกแล้ว"

​จากนั้นร่างบางของริดาก็ก้าวออกไปสู่เส้นทางในค่ายที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงฝึกซ้อมของเหล่าลูกครึ่งเทพที่ดังก้องอยู่รอบบริเวณ พร้อมหัวใจที่เข้มแข็งกว่าเดิม

ชำระเงินค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว










สถานที่: ลองไอส์แลนด์ Dare Universal
หัวข้อ: จากเจ้าหญิงสู่ผู้พิทักษ์: เมื่อสวนสนุกกลายเป็นสมรภูมิ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 18181 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-9-10 15:49
โพสต์ 18,181 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2025-9-10 15:49
โพสต์ 18,181 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก คบเพลิงเวท  โพสต์ 2025-9-10 15:49
โพสต์ 18,181 ไบต์และได้รับ +2 EXP +7 ความศรัทธา จาก ผลิตภัณฑ์กันแดด  โพสต์ 2025-9-10 15:49
โพสต์ 18,181 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-9-10 15:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้