ลมหนาวปะทะใบหน้าของฉันจนรู้สึกชาไปหมด แต่ความเจ็บปวดที่แทรกซึมไปทั่วร่างนั้นมันหนักหน่วงยิ่งกว่าหลายเท่า ผมพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ผมรู้สึกเหมือนร่างกายของผมกลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปแล้ว ผมสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมไปทั่วทุกอณู แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงไออุ่นประหลาดที่ช่วยให้ผมรอดพ้นจากความตาย
เสียงของรีชาที่เรียกชื่อผมเบาๆ มันเป็นเสียงที่อ่อนโยนและคุ้นเคยเหลือเกิน และเสียงนั้นก็ช่วยให้ผมได้สติขึ้นมาอีกครั้ง
ภาพที่เห็นนั้นช่างพร่ามัว... ผมเห็นแสงสว่างจางๆ และเสียงน้ำ... เสียงน้ำที่ไหลเชี่ยวดังอยู่ในหูของผม ผมก็รู้ได้ทันทีว่าเราอยู่ที่ไหน... ที่นี่คงจะเป็น น้ำตกสีเลือด!
"พี่เดม่อน... พี่เดม่อน... ได้ยินหนูไหมคะ?" รีชากรีดร้องด้วยความดีใจ
ผมพยายามจะตอบ แต่ก็ไม่มีเสียงออกมาจากลำคอของผมเลย ผมทำได้แค่เพียงกระพริบตาเบาๆ เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าผมได้ยินเธอแล้ว ผมรู้สึกถึงมือของใครบางคนมาวางบนหน้าผากของผม... มือที่เย็นเฉียบ... แต่ก็อบอุ่นอย่างประหลาด ผมรู้ได้ทันทีว่านั่นคือมือของรูบี้ แววตาของเธอไม่ได้มีแค่ความเหนื่อยล้า แต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย... และผมก็รู้สึกดีใจที่เธอปลอดภัย...
"เป็นยังไงบ้าง? ไหวไหม?" เสียงของเธอห้าวและเย็นชา แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงที่ซ่อนอยู่ในนั้น
ผมพยายามจะยิ้มให้เธอ "ฉันโอเค..." ผมพึมพำ "แค่...เหนื่อยเล็กน้อย"
รูบี้ส่ายหน้า "นายไม่ได้แค่เหนื่อย... นายบาดเจ็บสาหัส" เธอพูด "แต่ไม่ต้องห่วง... เราทำแผลให้นายแล้ว"
ผมรู้สึกเหมือนร่างกายของผมเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่ ผมมองไปที่น้ำตกสีเลือดที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงน้ำตกธรรมดาๆ ยังไม่มีสีเลือดตามที่ผมคิดไว้เลย
"เราต้องหาที่พัก" ผมบอก "ที่นี่ดูไม่ปลอดภัยเลย"
ผมใช้พลังของผมในการหาสัญญาณของเฮเฟตัส ผมหลับตาลงแล้วเพ่งสมาธิไปที่แผนที่ที่เฮเฟตัสให้มา ผมรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากภูเขาน้ำแข็งเบื้องหน้าผม ผมรู้ทันทีว่าถ้ำที่เฮเฟตัสพูดถึงอยู่ตรงนั้น!
"ทางนั้น" ผมบอก "ฉันเจอทางเข้าถ้ำแล้ว"
เราเดินกันมาจนถึงถ้ำขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะถูกแกะสลักขึ้นมาโดยธรรมชาติ ประตูถ้ำเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านน้ำแข็งที่ดูเหมือนจะบังตาเอาไว้ ภายในถ้ำนั้นอบอุ่นกว่าข้างนอกมากอย่างน่าประหลาดใจ ผนังถ้ำทำจากน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนๆ ที่เปล่งแสงสลัวๆ ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ
"พี่เดม่อน! ที่นี่ปลอดภัยนะคะ!" รีชาพูดเสียงดัง
ผมพยักหน้า ก่อนจะมองไปที่แผงควบคุมเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่หลังก้อนหิน ผมกดปุ่มนั้นทันที และเมื่อกลไกทำงาน...ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป!
น้ำตกธรรมดาๆ ที่อยู่ตรงหน้าเราเริ่มเปลี่ยนสภาพเป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือด ธารน้ำแข็งที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาเริ่มกลายเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ มีลำธารใสไหลเย็น และมีสัตว์ป่าวิ่งเล่นไปมาราวกับสวนสวรรค์!
"ว้าว!" รีชาอุทาน "มันงดงามมากเลย!"
ผมมองไปที่รูบี้ ใบหน้าของเธอก็ดูตกใจไม่แพ้กัน แต่ผมรู้ดีว่านี่เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา... ภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาเพื่อล่อลวงให้แม่ของผมและแอรีสติดกับ!
ผมหันไปที่ผนังถ้ำแล้วเปิดช่องลับที่ซ่อนอยู่ ผมหยิบตาข่ายทองคำที่เฮเฟตัสทิ้งไว้พร้อมกับโน้ตแผ่นเล็กๆ ที่เขียนไว้ว่า 'รอจังหวะตอนพวกเขาเผลอมีอะไรกัน เวลานั้นพวกเขาจะไม่ทันระวังตัว และใช้ตาข่ายนี้รีบเร่งคลุมพวกเขาในจังหวะที่โป้ทั้งคู่นั้นให้ไว ก่อนแอรีสจะไหวตัวทัน'
ผมยิ้มแห้งๆ 'ให้ตายสิ! นี่มันภารกิจบ้าอะไรกันเนี่ย!'
"พี่เดม่อนคะ! นั่นอะไรเหรอคะ?" รีชาถามด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไรหรอก" ผมตอบ "แค่ของที่เฮเฟตัสให้มาน่ะ"
ผมมองไปที่พลุแห่งความรักที่แม่ของผมให้มา "ฉันว่า... ถึงเวลาที่เราต้องใช้มันแล้วนะ" ผมพูด
ผมจุดพลุแห่งความรักขึ้นบนฟ้า! พลุสีเงินวาววับระเบิดออกเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่บนท้องฟ้าที่ยังคงเป็นสีส้มอ่อนๆ แสงของมันสว่างไสวจนทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นมองเห็นได้!
"ตอนนี้เราต้องไปซ่อนตัว" ผมบอก "จนกว่าพวกเขาจะมา"
ผมกับรูบี้และรีชาช่วยกันหาที่ซ่อนที่เหมาะสมที่สุดในสวนสวรรค์แห่งนี้ เราไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาเมื่อไหร่ แต่ผมก็พร้อมที่จะทำตามแผนของเฮเฟตัสแล้ว!

11 · สิงหาคม · 2025 · 06.00 - 22.00 น.
หกชั่วโมงผ่านไป... แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมนั่งอยู่ในพุ่มไม้หนาข้างลำธารที่ใสสะอาด มองไปที่ท้องฟ้าที่ยังคงเป็นสีส้มอ่อนๆ จากปรากฏการณ์ Eternal Sunshine ผมรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่กัดกินไปทั่วร่างกาย แต่ก็ยังคงต้องอดทน
"ทำไมพวกเขายังไม่มาสักทีนะ?" รีชากระซิบถาม "หรือพลุของเราจะใช้ไม่ได้?"
"ไม่น่าจะใช่หรอก" ผมตอบ "บางที การเดินทางของเทพเจ้ามันก็ใช้เวลาเหมือนกัน"
รูบี้ไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ใช้สมาร์ทโฟนของเธอดูแผนที่และข้อมูลอื่นๆ อย่างตั้งอกตั้งใจ ผมมองไปที่เธอแล้วก็รู้สึกดีใจเล็กน้อยที่เธอยังคงตั้งใจทำภารกิจนี้อยู่
แต่แล้ว...ความสงบก็ถูกทำลายลงในพริบตา!
"เฮ้! ดูนั่นสิ!" รีชาอุทาน "มีคนมาแล้วค่ะ!"
ผมมองไปตามที่รีชาชี้ เห็นกลุ่มคนแปลกๆ กำลังเดินเข้ามาในสวนสวรรค์ของเรา พวกเขามีทั้งหมดสิบคน! พวกเขาสวมชุดคลุมสีขาวเหมือนหิมะ ผิวของพวกเขามีลักษณะคล้ายน้ำแข็งและมีดวงตาที่เปล่งแสงสีฟ้าอ่อนๆ
"บุตรแห่งคิโอเน่!" รูบี้คำรามเสียงต่ำ "ให้ตายสิ! พวกมันมาได้ยังไงกัน!"
"ไม่สนแล้วว่ามันจะมาได้ยังไง!" ผมบอก "ถ้าเราปล่อยให้พวกมันพลุกพล่านอยู่ที่นี่... แม่ของฉันก็อาจจะไม่ชอบ... และแผนของเฮเฟตัสก็จะล้มเหลว!"
เราสามคนมองหน้ากันอย่างเข้าใจ ภารกิจของเราเปลี่ยนไปแล้ว จากการวางกับดักให้เทพเจ้า...เป็นการป้องกันสถานที่แห่งนี้จากแขกที่ไม่ได้รับเชิญ!
"รีชา! ใช้พลังของเธอ!" ผมตะโกนสั่ง
รีชาไม่รอช้า เธอเรียกตรีศูลแห่งทาลาสซาขึ้นมาในมือ มันเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ แล้วใช้พลังควบคุมน้ำสร้างกำแพงน้ำขนาดใหญ่ขึ้นมาขวางทางบุตรแห่งคิโอเน่ แต่มันก็ไม่ได้ผลนัก เพราะพวกมันก็เป็นบุตรของเทพีน้ำแข็งเหมือนกัน กำแพงน้ำที่รีชาสร้างขึ้นมาจึงไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้เลย
"ฮ่าๆๆ! คิดว่าน้ำแบบนี้จะหยุดพวกเราได้งั้นรึ!" หนึ่งในบุตรแห่งคิโอเน่คำราม "พวกเจ้ามันก็แค่พวกเด็กน้อย!"
"รูบี้!" ผมตะโกนบอก "เราต้องโจมตีที่จุดอ่อนของพวกมัน!"
รูบี้พยักหน้า เธอรู้ดีว่าจุดอ่อนของบุตรแห่งคิโอเน่คือไฟและความร้อน! เธอพุ่งเข้าใส่บุตรแห่งคิโอเน่ตัวนั้นทันที กระบี่เทียนหวงของเธอวาดเป็นเส้นสายแสงสีทอง ฟันเข้าใส่ลำตัวของมันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้ผลมากนัก เพราะเกราะน้ำแข็งของมันแข็งแกร่งเกินไป
"บ้าเอ้ย!" รูบี้คำรามอย่างหงุดหงิด
"ใจเย็นก่อน!" ผมบอก "พวกมันไม่ได้เป็นอมตะ! เราต้องใช้พลังของเราโจมตีมัน!"
ผมรวบรวมสมาธิ แล้วใช้พลังใหม่ของผม! ผมใช้พลัง การควบคุมความรัก ของผม! ผมไม่ได้ใช้มันเพื่อละลายน้ำแข็ง... แต่ใช้มันเพื่อควบคุมจิตใจของพวกมัน!
"พวกเจ้า... ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่หรอกนะ" ผมพึมพำ "พวกเจ้าอยากจะไป... กลับไปหาแม่ของพวกเจ้า..."
บุตรแห่งคิโอเน่ตัวนั้นดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของมันเปลี่ยนเป็นความสับสน... แต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้!
"พลังของเจ้ามันก็แค่ของเล่น!" มันคำราม แล้วพ่นพายุหิมะออกมาจากปากของมัน!
"รีชา! ใช้พลังของเธอช่วยฉัน!" ผมตะโกนบอก
รีชาไม่รอช้า เธอใช้ตรีศูลแห่งทาลาสซาของเธอชี้ไปที่พายุหิมะ พลังของตรีศูลทำให้พายุหิมะนั้นเบี่ยงเบนไปจากพวกเรา!
"ตอนนี้แหละ! รูบี้!" ผมตะโกนบอก
รูบี้ไม่รอช้า เธอพุ่งเข้าใส่บุตรแห่งคิโอเน่ตัวนั้นทันที กระบี่เทียนหวงของเธอเปล่งแสงทองเจิดจ้า ฟันเข้าใส่ลำตัวของมันอีกครั้ง คราวนี้คมดาบของเธอได้สร้างรอยร้าวขนาดใหญ่บนเกราะน้ำแข็งของมัน!
'เคร้ง!'
เสียงเกราะน้ำแข็งแตกร้าวทำให้บุตรแห่งคิโอเน่ตัวนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันเซไปมาอย่างสับสน
"ทำอีกครั้ง!" ผมตะโกนบอก "เราต้องทำลายเกราะของมัน!"
รูบี้พยักหน้า เธอใช้พลังทั้งหมดที่มี ฟันเข้าใส่รอยร้าวนั้นซ้ำๆ อีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกราะน้ำแข็งของมันพังทลายลงอย่างสมบูรณ์!
"ตอนนี้แหละ! รีชา!" ผมตะโกนบอก "โจมตีมันด้วยพลังน้ำ!"
รีชาไม่รอช้า เธอใช้พลังควบคุมน้ำสร้างกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ขึ้นมาพุ่งเข้าใส่ลำตัวของบุตรแห่งคิโอเน่ ทำให้มันถูกดูดลงไปในกระแสน้ำวนอย่างรวดเร็ว
"รูบี้! จัดการมัน!" ผมที่ยังคงใช้พลังควบคุมจิตใจพวกบุตรแห่งคิโอเน่อยู่ตะโกนบอก
รูบี้พุ่งเข้าใส่บุตรแห่งคิโอเน่ทันที กระบี่เทียนหวงของเธอวาดเป็นเส้นสายแสงสีทอง ฟันเข้าที่แผงคอของมันอย่างรวดเร็ว!
'ฉึก!'
เสียงนั้นดังขึ้นเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้บุตรแห่งคิโอเน่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แผงคอของมันขาดออก เลือดสีดำไหลออกมาจากบาดแผลนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
บุตรแห่งคิโอเน่กรีดร้องเสียงแหลมสูงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างกายของมันจะระเบิดออกกลายเป็นผงละอองสีทองปลิวหายไปในอากาศ เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นเหม็นไหม้จางๆ ที่ค่อยๆ จางหายไป
แต่เรายังไม่ปลอดภัย! ยังมีบุตรแห่งคิโอเน่เหลืออีกเก้าตัว! และพวกมันก็ดูเหมือนจะโกรธจัดที่เห็นเพื่อนของพวกมันถูกทำลาย
"เราต้องช่วยกัน!" ผมตะโกนบอก
เราสามคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ผมใช้พลังของผมในการเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมัน รูบี้ใช้ความเร็วของเธอในการหลบหลีกและโจมตี ส่วนรีชาก็ใช้พลังน้ำของเธอในการป้องกันและโจมตี
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เราสู้กับบุตรแห่งคิโอเน่มาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว ผมรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว รูบี้เองก็ดูเหมือนจะหมดแรงแล้ว ส่วนรีชา...เธอก็ยังคงพยายามใช้พลังของเธอช่วยพวกเราอยู่ตลอดเวลา แต่พลังของเธอดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ตามที่ใจต้องการนัก
"ให้ตายสิ! พลังของฉันมันเป็นอะไรกันเนี่ย!" รีชาตะโกนอย่างหงุดหงิด
ทันใดนั้น รูบี้ก็พลาดพลั้ง เธอเหยียบก้อนน้ำแข็งที่อยู่บนพื้นแล้วล้มลงอย่างแรง! บุตรแห่งคิโอเน่เห็นโอกาส มันพุ่งเข้าใส่รูบี้ทันทีพร้อมกับเขี้ยวที่แหลมคมของมัน!
"รูบี้!" ผมตะโกนเสียงหลง "ไม่นะ!"
ผมไม่รอช้า ผมพุ่งเอาตัวเองไปบังรูบี้ทันที เขี้ยวของบุตรแห่งคิโอเน่แทงทะลุสีข้างของผมอย่างรวดเร็ว!
"อั่ก!" ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ผมรู้สึกเหมือนกระดูกซี่โครงของผมหักไปหลายซี่ เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
"เดม่อน!" รูบี้ตะโกนเสียงดัง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความโกรธแค้น "แกบังอาจทำร้ายเขา!"
ในจังหวะที่บุตรแห่งคิโอเน่กำลังจะโจมตีซ้ำนั้นเอง ผมก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายของผม ผมมองไปที่มัน แล้วใช้พลังใหม่ของผม! ผมใช้พลังการควบคุมความรักของผม! ผมไม่ได้ใช้มันเพื่อละลายน้ำแข็ง... แต่ใช้มันเพื่อควบคุมจิตใจของบุตรแห่งคิโอเน่!
"แก...แกจะต้องเจ็บปวด...เหมือนที่ฉันเจ็บ!" ผมคำราม เสียงของผมแฝงไปด้วยความโกรธแค้นและความเจ็บปวด บุตรแห่งคิโอเน่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันเซไปมาอย่างสับสน ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของมันเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
"ตอนนี้แหละ! รูบี้!" ผมตะโกนบอก
รูบี้ไม่รอช้า เธอพุ่งเข้าใส่บุตรแห่งคิโอเน่ทันที กระบี่เทียนหวงของเธอวาดเป็นเส้นสายแสงสีทอง ฟันเข้าที่แผงคอของมันอย่างรวดเร็ว!
'ฉึก!'
เสียงนั้นดังขึ้นเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะทำให้บุตรแห่งคิโอเน่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แผงคอของมันขาดออก เลือดสีดำไหลออกมาจากบาดแผลนั้นอย่างไม่หยุดยั้ง
บุตรแห่งคิโอเน่กรีดร้องเสียงแหลมสูงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างกายของมันจะระเบิดออกกลายเป็นผงละอองสีทองปลิวหายไปในอากาศ เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นเหม็นไหม้จางๆ ที่ค่อยๆ จางหายไป
เราสามคนยืนหอบหายใจอยู่กลางสวนสวรรค์ ที่เฮเฟตัสสร้างขึ้นมาหลังจากจัดการกับบุตรแห่งคิโอเน่ได้ทั้งหมด ผมมองไปที่รูบี้กับรีชา ใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ
"เราทำได้!" ผมพูดอย่างดีใจ
รีชาดูเหมือนจะหมดแรงแล้ว ส่วนรูบี้ก็ดูเหนื่อยล้าไม่แพ้กัน ผมเองก็รู้สึกเหมือนร่างกายของผมจะพังทลายลงไปแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะพาพวกเราออกจากสถานที่นี้ เพื่อไปหาที่พักที่ปลอดภัยกว่านี้
"เราต้องไปจากที่นี่" ผมบอก "ที่นี่มันอันตรายเกินไป"
รูบี้พยักหน้าเห็นด้วย "ฉันคิดว่าอย่างนั้น" เธอพูด "เราจะไปที่ไหนกันดี?"
ผมมองไปรอบๆ สวนสวรรค์ที่เฮเฟตัสสร้างขึ้นมาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ผมไม่ชอบภาพลวงตาแบบนี้เลย มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในภาพมายาตลอดเวลา
"เราจะออกจากถ้ำนี้" ผมบอก "แล้วไปหาที่พักที่เหมาะสมกว่านี้... ที่ที่ปลอดภัยสำหรับลูกครึ่งเทพอย่างเรา"
เราสามคนรีบออกจากถ้ำนั้นทันที เมื่อเราออกมาจากถ้ำ ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม...ดินแดนที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ลมหนาวพัดปะทะใบหน้าของฉันจนรู้สึกชาไปหมด แต่ผมก็รู้สึกปลอดภัยกว่าอยู่ในถ้ำนั้นหลายเท่า
เราเดินทางกันไปอีกเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงเพื่อหาที่พักที่เหมาะสม ในที่สุดเราก็มาถึงจุดที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าผาน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ทอดยาวลงสู่ทะเล และมีช่องว่างเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นที่พักพิงที่เหมาะสมสำหรับเรา
"ที่นี่แหละ" รูบี้บอก "ที่นี่ดูปลอดภัยดี"
ผมกับรีชาพยักหน้าเห็นด้วย เราเข้าไปในช่องว่างนั้นอย่างระมัดระวัง ภายในนั้นอบอุ่น และเงียบสงบกว่าข้างนอกมากอย่างน่าประหลาดใจ ผนังทำจากน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนๆ ที่เปล่งแสงสลัวๆ ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ
"พี่เดม่อน! ที่นี่สวยมากเลยค่ะ!" รีชาพูดเสียงดัง
ผมยิ้มให้เธอ "ใช่...มันสวยจริงๆ"
ผมกับรีชาช่วยกันหาหิมะมาทำเป็นที่นอน แล้วรูบี้ก็จัดการปฐมพยาบาลให้ผม เธอใช้ความรู้เบื้องต้นที่ได้เรียนจากในค่ายทำความสะอาดแผลของผมอย่างประณีต
"นายโชคดีนะ" รูบี้พูด "แผลไม่ลึกมาก... แต่ก็ยังเจ็บอยู่"
ผมพยักหน้า "ใช่...ฉันรู้สึกเหมือนโดนหมาป่ากัดมาเลย" ผมพูดพลางหัวเราะเบาๆ
รูบี้ไม่ตอบอะไร เธอแค่พันผ้าพันแผลให้ผมอย่างรวดเร็วและแน่นหนา
หลังจากที่ผมได้รับปฐมพยาบาลแล้ว เราก็ตกลงกันว่าจะผลัดกันเฝ้าระวังภัยตลอดทั้งคืนเป็นช่วงๆ โดยรูบี้จะเป็นคนเฝ้ากะแรก ผมจะเป็นคนเฝ้ากะที่สอง และรีชาจะเป็นคนเฝ้ากะที่สาม
"ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะรอดไปได้นานแค่ไหน" รีชาพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "แต่ฉันก็อยากจะลองดู"
ผมกับรูบี้มองหน้ากันอย่างเข้าใจ คำพูดของรีชาทำให้ผมรู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว เรามีกันสามคน และเราจะไม่มีวันยอมแพ้!
"เราจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้" ผมบอก "เราสามคนจะทำภารกิจเฮเฟตัสด้วยกันจนลุล่วง... แล้วเราจะกลับค่ายด้วยกันนะ"
พิชิต บุตรแห่งคิโอเน่ ครั้งแรก +2 ตื่นรู้ (Link)

ความคิดเห็นผู้บันทึก
เราเอาชนะบุตรแห่งคิโอเน่มาได้แล้วครับ! การต่อสู้ครั้งนี้มันทำให้ผมได้รู้ว่าพลังของผมยังคงใช้ได้ผลกับอสุรกายน้ำแข็งเหมือนกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือแผลของผม...มันไม่ได้สาหัสเหมือนที่คิดไว้เลย
ผมรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้รูบี้กับรีชาต้องมาเป็นห่วงผม แต่การที่ผมได้เห็นความเป็นห่วงของพวกเขา มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ในที่สุดเราก็มาถึงน้ำตกสีเลือดแล้ว และตอนนี้ผมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างที่เราได้จัดเตรียมสถานที่เรียบร้อยแล้ว ผมหวังว่าแม่กับแอรีสจะหลงกลกับภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้น และผมก็หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นตามแผนของเฮเฟตัส...
เพราะผมอยากกลับค่ายไปหาลิเลียน่าจะแย่แล้ว
และหาทางทำทุกวิธีให้เธอกลับมาจำผมได้
