ประวัติตัวละคร
วันหนึ่ง…เมื่อหลายปีก่อน ท้องฟ้าเหนือโตเกียวอาบไปด้วยม่านฝนสีเทา ความเงียบงันของเมืองใหญ่ถูกกลบด้วยเสียงฝนที่ตกพรำบนหลังคาบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งในย่านเงียบสงบ โชคชะตาได้เขียนเรื่องราวบทใหม่ลงบนโลกมนุษย์เรื่องราวของฉัน…
หลังจากฝนจางเม็ด สายรุ้งก็พาดผ่านท้องฟ้าอย่างสง่างามงดงามเกินคำบรรยาย พ่อบอกว่านั่นคือช่วงเวลาที่ฉันถือกำเนิด... “สายรุ้งนั่น คือประกาศจากสวรรค์” พ่อกระซิบข้างหูฉันในวันที่ฉันยังเป็นเพียงทารกน้อยไร้เดียงสา “...เจ้ามีความหมายมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้”
ฉันโตขึ้นในบ้านหลังนั้นกับพ่อ โซตะ สึกิฮานะ ชายผู้เป็นทั้งพ่อ แม่ ครู และผู้ปกป้อง พ่ออบอุ่นเหมือนแดดยามเช้า และแข็งแกร่งเหมือนภูเขา แม้ว่าเราจะมีเพียงกันและกัน แต่พ่อทำให้ทุกวันเหมือนดั่งอยู่ในโลกมหัศจรรย์
ตอนเด็ก ๆ ฉันชอบวาดสายรุ้งบนกระดาษ ทุกวันพ่อจะนั่งข้าง ๆ และเล่านิทานเรื่องเทพีแห่งรุ้ง—อาร์คัส ผู้งดงามดุจแสงสีเจ็ดเฉดบนฟากฟ้า ฉันหลับไปกับเสียงของพ่อทุกคืน อ้อมแขนของพ่อคือดินแดนที่ปลอดภัยที่สุดในโลกนี้
ตอนอายุ 6 ขวบ ฉันชอบวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ที่สวนสาธารณะมิซากิ ฉันชอบเล่นซ่อนหาใต้ต้นซากุระที่ผลิกลีบบานในฤดูใบไม้ผลิ บางวันเราจะวิ่งไล่จับกันจนเหงื่อโชก พ่อมักจะยืนรอพร้อมผ้าเย็นและขนมปังเนยนุ่ม ๆ เสมอ “มิยูจังเก่งที่สุดในโลกเลยรู้มั้ย” คำนี้จากพ่อทำให้หัวใจดวงน้อยของฉันพองโต
ฉันจำได้ว่าตอนอายุ 9 ขวบ พ่อซื้อชุดสีวาดภาพมาให้หนึ่งกล่องใหญ่ ฉันใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนระบายภาพของฟ้าหลังฝน ต้นไม้มีแสงเรือง ๆ รอบกิ่ง และคนตัวจิ๋วที่เหมือนหลุดมาจากนิทาน… พ่อมองภาพพวกนั้นอย่างเงียบ ๆ แล้วเพียงแค่ยิ้ม…ยิ้มแบบที่มีบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน
แต่แล้ว…เมื่อฉันอายุได้ 12 ปี โลกของฉันเริ่มสั่นไหว
---
ฉันเริ่มเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ... เงาลางเลือนที่ลอยผ่านซอกตึก
แสงระยิบระยับในยามค่ำคืนที่ไม่มีที่มา และ…สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดซึ่งดูเหมือนจะมาจากฝันร้าย
ฉันหวาดกลัว…ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาในบางคืน เสียงกระซิบจากอากาศว่างเปล่าทำให้ฉันร้องไห้อย่างไร้เหตุผล
แต่ฉันไม่กล้าบอกพ่อ ... เพราะกลัวพ่อจะกังวล กลัวว่าโลกเล็ก ๆ ที่เราสร้างร่วมกันจะพังทลายลง
พ่อเริ่มสังเกตได้ … เขามองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอ่อนโยน … แต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
วันหนึ่ง … พ่อเรียกฉันมานั่งบนระเบียงไม้หน้าบ้าน พระอาทิตย์ตกกำลังจางหาย ท้องฟ้าฉาบด้วยแสงสีทองอมส้ม และ … สายรุ้งก็ปรากฏอีกครั้ง
“มิยู…” เสียงของพ่อสั่นเครือ “…ลูกเห็นอะไรมากกว่าคนอื่นใช่ไหมลูก”
ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “พ่อ…หนูกลัว…หนูไม่รู้ว่ามันคืออะไร … แต่หนูเห็น …เห็นสิ่งที่น่ากลัวมาก…”
พ่อไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงแค่อ้าแขนออก และกอดฉันแน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“…มิยูจัง…ลูกไม่ได้ผิดปกติ…ลูกคือปาฏิหาริย์ที่ฟ้าประทาน…”
แล้วพ่อก็กระซิบเสียงแผ่วในยามอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า
“ลูก…คือบุตรีแห่งเทพีอาร์คัส เทพีแห่งรุ้งและสาส์นจากสวรรค์แห่งโอลิมปัส…”
โลกทั้งใบเงียบงัน…
ฉันมองพ่ออย่างไม่เชื่อสายตา หัวใจเต้นรัว “หนู…หนูเป็นลูกของเทพี…จริง ๆ เหรอคะ?”
พ่อยิ้ม…ยิ้มที่มีน้ำตา “แม่ของลูก…ไม่ได้จากไป เพราะเธอไม่เคยอยู่ในโลกนี้ เธอมอบลูกให้พ่อ…ในคืนที่ฟ้าร้องและรุ้งงามที่สุด ลูกเกิดจากสายรุ้งและคำภาวนา…”
“แล้วหนูจะ…หนูจะเป็นแบบแม่ไหมคะ?”
“ลูกจะเป็นในแบบของลูกเอง…” พ่อแตะหน้าผากฉัน “...และไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด พ่อก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ”
---
วันนี้…ฉันอายุ 14 ปี เต็มแล้ว ฉันยังเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ยังสัมผัสโลกที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจเข้าใจ แต่ฉันไม่กลัวอีกต่อไป … เพราะฉันรู้ว่าเลือดในกายของฉันคือส่วนหนึ่งของรุ้ง คือความผูกพันของโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์
และเพราะฉันมีพ่อ … ผู้ที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของฉัน