บล็อก
[ การบ้านวิชาประวัติศาสตร์โรมัน ครั้งที่ 2 ] วีรสตรี
ท่ามกลางวีรสตรีมากมาย หนึ่งในชื่อที่กล่าวถึงน้อยที่สุดแต่กลับน่าสนใจที่สุดย่อมต้องเป็นเรื่องราวของโครเดีย เมเตลลา หญิงนอกรีตผู้นำพาเทพีไซเบิลจากเอเชียไมเนอร์มาสู่โรมันในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช
โครเดีย เมเตลลาไม่เคยถูกยืนยันว่ามีตัวตนจริงหากอ้างอิงจากการสรุปของมนุษย์ แต่เมื่อย้อนดูบันทึกของเดมิก็อด เรากลับพบชื่อของเธอในฐานะธิดาของเทพีวีนัส ไม่มีรายละเอียดยืนยันว่าผลงานในทางครึ่งเทพของเธอประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แต่อย่างน้อย ๆ บทบาทของเธอในการอัญเชิญเทพีไซเบิลหรือที่ชาวโรมันเรียกกันว่า "มาเตอร์ ดีอุม มากนา" (Mater Deum Magna หรือ Mother of the Gods) จากเอเชียไมเนอร์ (ปัจจุบันคือประเทศตุรกี) ก็สำคัญพอจะถูกจดจำมาจนถึงปัจจุบัน
โดยการอัญเชิญเทพีไซเบิลที่ถือเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการปกป้องประเทศก็ไม่ใช่การอัญเชิญตัวจริง แต่เป็นการนำรูปสลักของเธอมายังโรม ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์พิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นกันบ่อยนัก ทว่าในตำนานกลับบอกว่าเรือที่บรรทุกเทพีไซเบิลมานั้นติดอยู่ที่บริเวณแม่น้ำไทเบอร์จนเกิดเป็นคำทำนายจากผู้สื่อสารกับทวยเทพที่ประกาศออกมาว่าเรือนี้จะเคลื่อนตัวได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อ "ผู้หญิงที่บริสุทธิ์และมีคุณธรรม" มาช่วยเหลือ
โครเดีย เมเตลลาในขณะนั้นถูกกล่าวหาว่าไม่เหมาะสมในสังคม (คาดว่าเธอใช้ชีวิตที่ผิดจารีตหรือไม่ก็ขาดความบริสุทธิ์) ทำให้ถูกกีดกั้นอย่างหนักแม้จะมีใจคิดอยากช่วยเหลือ แต่ด้วยแรงอธิษฐาน ความมุ่งมั่นและด้วยความซื่อสัตย์ ถึงจะเป็นการกระทำที่หุนหันแต่โครเดียก็ได้ฝ่าเข้าไปดึงเชือกของเรือด้วยพละกำลังของเธอจนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์เมื่อตัวเรือเคลื่อนหลุดออกจากจุดที่ติดอยู่และเดินทางต่อเข้าไปในกรุงโรมได้สำเร็จ
ดังนั้นการกระทำของโครเดียจึงได้กลายมาเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความศรัทธาของเธอที่มุ่งมั่นจนทำให้เธอกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดีและคุณธรรมในตำนานโรมันหลายฉบับ รวมไปถึงการต่อสู้เพื่อเกียรติยศและชื่อเสียงของผู้หญิงในสังคมที่วิจารณ์เพศหญิงอย่างรุนแรงในอดีต
โครเดีย เมเตลลาไม่เคยถูกยืนยันว่ามีตัวตนจริงหากอ้างอิงจากการสรุปของมนุษย์ แต่เมื่อย้อนดูบันทึกของเดมิก็อด เรากลับพบชื่อของเธอในฐานะธิดาของเทพีวีนัส ไม่มีรายละเอียดยืนยันว่าผลงานในทางครึ่งเทพของเธอประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แต่อย่างน้อย ๆ บทบาทของเธอในการอัญเชิญเทพีไซเบิลหรือที่ชาวโรมันเรียกกันว่า "มาเตอร์ ดีอุม มากนา" (Mater Deum Magna หรือ Mother of the Gods) จากเอเชียไมเนอร์ (ปัจจุบันคือประเทศตุรกี) ก็สำคัญพอจะถูกจดจำมาจนถึงปัจจุบัน
โดยการอัญเชิญเทพีไซเบิลที่ถือเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการปกป้องประเทศก็ไม่ใช่การอัญเชิญตัวจริง แต่เป็นการนำรูปสลักของเธอมายังโรม ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์พิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นกันบ่อยนัก ทว่าในตำนานกลับบอกว่าเรือที่บรรทุกเทพีไซเบิลมานั้นติดอยู่ที่บริเวณแม่น้ำไทเบอร์จนเกิดเป็นคำทำนายจากผู้สื่อสารกับทวยเทพที่ประกาศออกมาว่าเรือนี้จะเคลื่อนตัวได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อ "ผู้หญิงที่บริสุทธิ์และมีคุณธรรม" มาช่วยเหลือ
โครเดีย เมเตลลาในขณะนั้นถูกกล่าวหาว่าไม่เหมาะสมในสังคม (คาดว่าเธอใช้ชีวิตที่ผิดจารีตหรือไม่ก็ขาดความบริสุทธิ์) ทำให้ถูกกีดกั้นอย่างหนักแม้จะมีใจคิดอยากช่วยเหลือ แต่ด้วยแรงอธิษฐาน ความมุ่งมั่นและด้วยความซื่อสัตย์ ถึงจะเป็นการกระทำที่หุนหันแต่โครเดียก็ได้ฝ่าเข้าไปดึงเชือกของเรือด้วยพละกำลังของเธอจนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์เมื่อตัวเรือเคลื่อนหลุดออกจากจุดที่ติดอยู่และเดินทางต่อเข้าไปในกรุงโรมได้สำเร็จ
ดังนั้นการกระทำของโครเดียจึงได้กลายมาเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความศรัทธาของเธอที่มุ่งมั่นจนทำให้เธอกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดีและคุณธรรมในตำนานโรมันหลายฉบับ รวมไปถึงการต่อสู้เพื่อเกียรติยศและชื่อเสียงของผู้หญิงในสังคมที่วิจารณ์เพศหญิงอย่างรุนแรงในอดีต
