denista nortara
daugther of venus
'Cause sometimes I'm alone, stare out my window. And the moon makes you seem close tonight
first
cohort
2005
ENTP
20
CHARM
แม้จะล่มสลายไปไม่ต่ำกว่าพันปีแต่รากฐานของโรมันยังคงพัฒนามาถึงแนวคิดและวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน
จากการค้นคว้าเผยให้พบว่าวัฒนธรรมรวมไปถึงธรรมเนียมต่าง ๆ ของโรมันได้ถูกพัฒนาไปในรูปแบบที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่นด้านการเมือง การกฎหมาย สถาปัตยกรรม ภาษา วรรณกรรมและแน่นอนว่ารวมไปถึงวัฒนธรรมด้วย
ในด้านของกฏหมาย , จากบันทึกทางประวัติศาสตรได้กล่าวเอาไว้ว่าระบบสาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic) เป็นต้นแบบของประชาธิปไตยและระบบการปกครองแบบตัวแทนที่ใช้กันในหลายประเทศ เช่นการมีวุฒิสภา (Senate) และการเลือกตั้งผู้นำโดยประชาชน รวมไปถึงระบบหลักการแบ่งอำนาจ (Separation of Powers) ที่ใช้ในรัฐธรรมนูญก็มีรากฐานมาจากโครงสร้างการปกครองของโรมัน
ในด้านกฏหมาย , กฎหมายโรมัน (Roman Law) เป็นรากฐานของกฎหมายแพ่ง (Civil Law) ที่ใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ยกตัวอย่างเช่นหลักการที่ "ผู้ถูกกล่าวหาต้องถือว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิด" (Presumption of Innocence)
ด้านภาษา , ภาษาละติน (Latin) หรือที่ทราบกันดีว่าเป็นภาษาหลักของโรมันนั้นเป็นพื้นฐานของเหล่าภาษาโรมานซ์ (Romance Languages) หรือก็คือ ภาษาอิตาลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส และภาษาโรมาเนีย อีกทั้งยังมีศัพท์ละตินอีกหลายคำที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการกฎหมาย การแพทย์ วิทยาศาสตร์ และศาสนา
ด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม รวมไปถึงระบบถนนและการคมนาคมเองก็มีผลเช่นกัน อย่างสถาปัตยกรรมโรมันแบบโค้ง (Arch) แบบโดม (Dome) และสะพานส่งน้ำ (Aqueduct) ที่เป็นแรงบันดาลใจรวมไปถึงแบบอย่างให้กับการออกแบบอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในยุคปัจจุบัน และยังมีเครือข่ายถนนที่ครอบคลุมเพื่อการค้าและการขยายอาณาจักรของโรมที่ได้กลายมาเป็นต้นแบบระบบคมนาคมในยุคใหม่
อันที่จริงยังมีอีกหลายศาสตร์ เช่นวรรณกรรมที่แพร่หลายโด่งดัง ศาสนา กีฬา แนวคิดเกี่ยวกับระบอบจักรวรรดิและที่สำคัญคือปฏิทินที่ถูกคิดค้นโดยจูเลียส ซีซาร์ซึ่งได้ถูกพัฒนากลายมาเป็นระบบปฏิทินสืบมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่หลายคนไม่ทันได้ตระหนักเลยว่ารากฐานของสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตนั้นล้วนเริ่มต้นมาจากโรมันทั้งสิ้น