
วันที่ 28 เดือนสิงหาคม ปี 2558 ช่วงเช้า เวลา 07.00 - 09.00 น. ณ ห้องครัว บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ทานอาหาร ประจำวัน)
โมนีก้าสะบัดผมที่ยังหมาด ๆ หลังอาบน้ำเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้องครัวเก่าแก่ที่สวยงามราวกับอยู่ในพระราชวังของโรมันโบราณ กลิ่นไม้โอ๊คผสมควันไฟอุ่น ๆ จากเตาผิงทำให้รู้สึกเหมือนกำลังจะได้กินอาหารหรูในร้านระดับมิชลินสตาร์ แต่พอเปิดตู้เย็นแล้วเจอเต็มไปด้วยผักป่า เธอก็เบ้หน้าอย่างแรง “โอ้ย...ผักทั้งนั้นเลยเรอะ ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ใช่กระต่ายสักหน่อย” เธอบ่นกับตัวเองพลางควานหาอยู่นานจนสายตาสว่างวาบเมื่อเห็นก้อนเนื้อสันนอกวางอยู่ด้านใน เธอฉีกยิ้มอย่างมีความหวัง “อ๊ะ! เจอแล้ว…พระเจ้าช่วย นี่แหละที่ร่างกายฉันต้องการ!”
ทันใดนั้นโมนีก้าก็จัดแจงหยิบเนื้อชิ้นหนาออกมา แล้วเริ่มลงมือปรุงด้วยท่าทางจริงจังผิดวิสัยเด็กสาวขี้บ่น เธอใช้มีดแล่เอาไขมันเกินออก วางลงบนกระทะเหล็กที่ตั้งบนเตาไฟ แล้วกลิ่นหอมของเนื้อสเต็กที่กำลังสุกก็อบอวลไปทั่วห้องครัว ขยับมือใส่เกลือพริกไทย หมุน ๆ กลิ่นหอม ๆ
เห็ดเพอร์โทเบลโลที่หาได้จากในตู้ เธอเอามาผัดด้วยเนยหอม ๆ เคล้ากระเทียมเล็กน้อย ส่วนเฟรนช์ฟราย เธอตัดมันฝรั่งหั่นแท่งแล้วทอดจนกรอบเหลืองทอง สุดท้ายคือขนมปังเนยกระเทียมที่อบในเตาปิ่งจนกรอบนอกนุ่มใน “อ๊ะ เสร็จแล้ว!” เธอยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ จัดเรียงทั้งหมดลงบนจานไม้โอ๊คใหญ่ สเต็กเนื้อฉ่ำกลางจาน เห็ดเคียงข้าง เฟรนช์ฟรายเรียงเป็นแท่ง ๆ และขนมปังเนยกระเทียมที่หอมจนแทบทำให้หมาป่าข้างนอกต้องหันหัวมามอง
โมนีก้าถอนหายใจแรง ๆ แล้วพูดกับตัวเองเสียงเบา “หึ อย่างน้อยที่นี่ก็ไม่ได้พรากความเป็นเชฟสมัครเล่นของฉันไปได้หรอกนะ…” เธอหยิบมีดกับส้อมขึ้นมา ฟันลงไปบนสเต็กชิ้นโต เลือดแดงอมชมพูซึมออกมาเล็กน้อย กลิ่นหอมเข้มข้นทำให้ท้องไส้ของเธอร้องทันที
กินเต็มที่อร่อยเต็มคำ เสียงส้อมกระทบจานดังแกร๊กสุดท้ายเมื่อโมนีก้าฟาดสเต็กไปจนหมด เธอเอนหลังพิงเก้าอี้หายใจเฮือกใหญ่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความพอใจ แต่แล้วท้องเจ้ากรรมก็ร้องครืดเบา ๆ ราวกับประท้วง “อื้อหือ…ยังไม่อิ่มอีกเหรอ ท้องฉันนี่มันเป็นหลุมดำรึไงกันนะ” เธอบ่นพึมพำพลางลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นอีกครั้ง แสงไฟสีขาวในตู้เย็นสะท้อนออกมาเผยให้เห็นผักเต็มไปหมด แต่ท่ามกลางความเขียวจนตาลาย กลับมีผลไม้ลูกโตวางสงบอยู่ตรงชั้นกลาง ผิวเรียบสีเขียวอ่อนแต่งแต้มลายขาวเป็นเส้น ๆ เหมือนลวดลายธรรมชาติ
โมนีก้าเบิกตา “โอ๊ววว…เมล่อน! ของดี๊ของดี! ของโปรดของฉันเลยนี่นา!!” แต่เอาความจริงผลไม้หลายชนิดเป็นของโปรดเธอทั้งนั้น เธอรีบคว้าผลเมล่อนลูกใหญ่แทบจะโอบไม่มิดออกมาวางบนเคาน์เตอร์ ใช้มีดเล่มเดิมคว้านผ่าออกเป็นสองซีก กลิ่นหอมหวานลอยพุ่งขึ้นมาทันทีจนเธอยิ้มกว้างเหมือนเด็กเจอของเล่นใหม่ “โอย…แม่เจ้า นี่มันคือรางวัลแห่งชีวิตคนที่อยู่บ้านหมาป่าจริง ๆ…”
เธอหั่นเมล่อนเป็นชิ้นหนา ๆ จิ้มเข้าปากคำแรก น้ำหวานฉ่ำไหลเอ่อเต็มลิ้น ความเย็นสดชื่นแผ่ซ่านไปทั้งร่างจนเธอถึงกับกลั้นเสียง “อื้มมมมม~” ไม่อยู่ จากชิ้นหนึ่งกลายเป็นสอง จากสองกลายเป็นสี่ และในที่สุดโมนีก้าก็นั่งกินไปเรื่อย ๆ ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด จนแทบจะฟาดไปทั้งลูก เธอนั่งกอดชามเปล่ากับเปลือกเมล่อนเหมือนนักรบที่เพิ่งชนะศึก แถมยังพึมพำกับตัวเองทั้งปากเต็ม ๆ ว่า “ค่ายจุปาจุ๊บอะไรนั่นก็ช่างมันก่อนเถอะ…ขอกินให้พุงแตกก่อนละกันนนนน!” และหากมีใครผ่านมาเห็นเธอตอนนี้ ก็คงไม่คิดว่าเด็กสาวที่เคยวิ่งสิบไมล์และฝึกดาบทั้งวัน จะมานั่งแทะเมล่อนทั้งลูกด้วยท่าทางมีความสุขราวกับชีวิตสมบูรณ์แล้ว…หรอกนะ
อื่น ๆ: ใช่ค่ะ โมนีก้าเป็นคนกินเยอะมาก รางวัล : +30 พลังงาน จากการกินอาหารประจำวัน
|