1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[ย่านเซ็นทรัลพาร์ค] Central Park

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-9-17 19:34:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 16/09/2025
บันรูปภาพทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 120
บุตรีเฮคาที

แสงแดดช่วงบ่ายสาดส่องเจิดจ้าเหนือสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ก ผู้คนมากมายยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เดินเล่น ออกกำลังกาย และพักผ่อนใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ทอดยาวเป็นหย่อมๆ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า อีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ที่แห่งนี้จะกลายเป็นลานประลองลับของลูกหลานเทพี

​ภริดา หรือ ริดา ก้าวเดินอย่างระมัดระวังไปตามเส้นทางในสวน สายตาจับจ้องทุกสิ่งผิดปกติจนกระทั่งต้องชะงัก—เบื้องหน้ามีเด็กหนุ่มท่าทางเกเรกำลังก่อความวุ่นวาย ปาของใส่ผู้คนและวิ่งไล่หัวเราะเสียงดัง แต่มันไม่ใช่แค่มนุษย์! ร่างกายของมันบิดเบี้ยวในสายตาของริดา เผยโฉมที่แท้จริงออกมาเป็น ก็อบลินระดับ 20 และในเงามืดด้านหลังยังมีอีกตัวที่ใหญ่กว่ามาก—ก็อบลินระดับ 30 กำลังซ่อนตัวอยู่!

​ริดาเอื้อมมือไปแตะฝักมีดที่เอว ดึง มีดสั้นสัมฤทธิ์ ออกมา ใบมีดวาววับสะท้อนแสงแดดกลางวันขณะที่ผมยาวของเธอปลิวไหวไปตามสายลม

​“ถ้ามีแต่ฉันที่เห็นพวกแก…ฉันก็จะจบเรื่องนี้เอง” เธอพึมพำเบาๆ

​การต่อสู้

รูปภาพการต่อสู้ระหว่างริดา กับ อสุรกายก็อบลิน เลเวล 20

ลิงก์การต่อสู้ระหว่างริดา กับ อสุรกายก็อบลินเลเวล 20

​ก็อบลินระดับ 20 พุ่งเข้ามาก่อนด้วยความเร็ว กรงเล็บหมายจะขย้ำไหล่ของเธอ แต่ริดาหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่วด้วยการก้าวเฉียงไปด้านข้าง ก่อนจะตวัดมีดสั้นเข้าที่สีข้างของมัน เสียงคมโลหะกรีดเนื้อดัง “ฉึก!” เลือดสีดำทะลักออกมา

​ก็อบลินคำรามด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่ทันจะได้โต้กลับ ริดาก็หมุนตัวอย่างสง่างาม ปักมีดเข้าที่ลำคอมัน—ร่างเล็กๆ ทรุดลงและสลายหายไปในอากาศ

​“หนึ่ง…” เธอพึมพำ

รูปภาพการต่อสู้ระหว่างริดา กับ อสุรกายก็อบลินเลเวล 30

ลิงก์การต่อสู้ระหว่างริดา กับ อสุรกายก็อบลิน เลเวล 30


​ทันใดนั้น ก็อบลินยักษ์ระดับ 30 ก็ก้าวออกมาพร้อมเสียงคำรามที่สะเทือนไปทั่วทั้งเซ็นทรัลพาร์ก มันฟาดดาบยาวสนิมเขรอะลงมาอย่างรุนแรงจนพื้นหญ้าแตกเป็นร่องลึก แต่ริดากระโดดถอยหลังหนีได้อย่างเฉียดฉิว

​เธอหายใจช้าๆ ก้าวเท้าเข้าหามันอีกครั้ง สายตาจับจังหวะ—เมื่อมันยกดาบขึ้นสูง เธอก็พุ่งตัวต่ำลง กรีดมีดสัมฤทธิ์เข้าที่ขาของมัน เสียงแผดร้องดังก้องไปทั่วสวน แต่ในสายตาของมนุษย์รอบข้าง พวกเขาเห็นเพียงแค่ “เด็กวัยรุ่น” ที่สะดุดล้ม

​ก็อบลินยังไม่ยอมแพ้ มันเงื้อดาบอีกครั้ง คราวนี้ริดาก้าวเข้าใกล้อย่างกล้าหาญ ใช้มีดสั้นสองมือไขว้กันรับแรงปะทะ “เพล้ง!” เสียงสะท้อนดังก้อง เธอดันตัวเองจากแรงส่งนั้น พลิกร่างขึ้นกลางอากาศแล้วปักมีดตรงกลางอกของมันด้วยพลังทั้งหมดที่มี

​ร่างยักษ์ของก็อบลินระดับ 30 ส่งเสียงคำรามสุดท้าย ก่อนจะค่อยๆ สลายกลายเป็นเถ้าควันลอยหายไปในสายลม

​หลังการต่อสู้

​ริดายืนหอบเบาๆ มีดสั้นสัมฤทธิ์ยังคงเปื้อนร่องรอยการต่อสู้ เธอเช็ดใบมีดกับชายเสื้อของอสุรกายที่เพิ่งสลายไป ก่อนจะเก็บเข้าฝักอย่างเรียบร้อย ท่ามกลางแสงแดดที่ยังคงส่องกระทบร่างของเธอ

​ผู้คนในเซ็นทรัลพาร์กยังคงใช้ชีวิตปกติ ไม่มีใครเลยที่ล่วงรู้ว่า การต่อสู้ระหว่างบุตรีแห่งเทพีเฮคาเตกับอสูรกายสองตัวเพิ่งจะสิ้นสุดลงที่นี่…

​ริดาเงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่สว่างไสวไม่เปลี่ยน ดวงตาของเธอสะท้อนประกายแห่งความมุ่งมั่น—พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภัยใดก็ตามที่จะตามมาในวันข้างหน้า


ได้รับรางวัล: สินสงคราม ดังต่อไปนี้ หมวกก็อบลิน (สุ่ม)


ดาบก็อบลิน (สุ่ม)


หากมีค่า LUK 50 หน่วย จะดรอปเพิ่ม 1 ชิ้น





















สถานที่: Central Park

หัวข้อ: ​เซ็นทรัลพาร์ก: สมรภูมิแห่งบุตรีเทพี

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-9-17 19:52
โพสต์ 19585 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-9-17 19:34
โพสต์ 19,585 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก การร่ายคาถา  โพสต์ 2025-9-17 19:34
โพสต์ 19,585 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ชุดเครื่องเพชร  โพสต์ 2025-9-17 19:34
โพสต์ 19,585 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก กล้องถ่ายรูป  โพสต์ 2025-9-17 19:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
โพสต์ 2025-12-7 12:23:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 01 เดือน ธันวาคม ปี 2025

เวลาค่ำ เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ณ เซ็นทรัลพาร์ก นิวยอร์ก

◀️┃▶️


ลมหนาวของต้นเดือนธันวาพัดพาไอเย็นเข้ามาในยามค่ำ ขณะที่มอเตอร์ไซค์อัสนีวายุของเอมีเลียแล่นฝ่าถนนนิวยอร์กที่ยังมีแสงไฟส่องลอดหมอกบาง เสียงเครื่องยนต์เวทที่คล้ายเสียงฟ้าร้องเบา ๆ กลืนไปกับเสียงลมแหวกอากาศ คีอาร์นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มือจับเบาะอย่างระมัดระวังไม่แตะตัวรุ่นพี่แม้แต่น้อย ความเย็นของอากาศไม่ส่งผลต่อเธอมากนักเพราะสายเลือดแห่งบอเรอัสในร่าง แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะกลับเป็นแรงสั่นสะเทือนจากร่างของเอมีเลียที่ถ่ายทอดผ่านเบาะหนังไปถึงปลายนิ้ว


เมื่อมอเตอร์ไซค์แปรสภาพกลับเป็นนาฬิกาบนข้อมือ เอมีเลียถอดหมวกกันน็อกแล้วหันมายิ้มให้ ดวงตาสีฟ้าเข้มของเธอส่องประกายภายใต้แสงไฟ “ถึงแล้ว เซ็นทรัลพาร์ค” เสียงของเธออบอุ่นและมั่นใจตามแบบนักบินผู้เคยบินฝ่าพายุและการเป็นนักบินมาก่อน คีอาร์มองไปยังสวนกว้างที่เต็มไปด้วยแสงประดับและไอหมอกเหนือพื้นดิน ลมหายใจของผู้คนในสวนลอยเป็นไอขาว คีอาร์ยืนนิ่งอยู่ข้างรถพลางขยับแว่นเล็กน้อยก่อนตอบเสียงเบา “หนูไม่เคยมาเลยค่ะ”


เอมีเลียเลิกคิ้วพลางเดินเข้ามาข้างเธอ “จริงเหรอ นี่มันที่เที่ยวกลางเมืองนะ คิดว่าจะเคยมากับเพื่อนสักครั้ง”


“ไม่มีโอกาสค่ะ” คีอาร์ตอบเรียบ ดวงตาสีเทาอมเขียวทอดมองต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะบาง “หนูไม่ค่อยได้ออกไปไหนนอกจากในเมืองกรีนิช รัฐคอนเนตทิคัต คุณแม่ไม่อนุญาตให้ออกไปไหนถ้าไม่จำเป็น ชีวิตส่วนใหญ่ก็มีแค่โรงเรียน คฤหาสน์ แล้วก็สถานที่ที่แม่พาไปเท่านั้นค่ะ” น้ำเสียงเธอนุ่มและสุภาพ แต่แฝงความว่างเปล่าราวกับกำลังรายงานข้อมูลมากกว่าพูดถึงชีวิตตัวเอง 


เอมีเลียเดินเคียงข้างเธอช้า ๆ พลางเอามือซุกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหนัง “นั่นมันไม่เรียกว่าชีวิตนะ คีอาร์ มันเหมือนตารางเรียนที่ไม่มีวันจบมากกว่า”

คีอาร์เงียบไปครู่หนึ่ง ลมหายใจของเธอระบายออกเป็นไอจาง ๆ ในอากาศเย็น “บางทีชีวิตแบบนั้นก็สงบดีค่ะ อย่างน้อยก็ไม่มีใครให้รู้สึกอะไรเกินไปกว่าที่จำเป็น”

เอมีเลียหัวเราะเบา ๆ “ฟังดูเหมือนเด็กสาวที่คำนวณทุกอย่างได้แม่นยำเลยนะ” เธอพูดพลางแหงนมองท้องฟ้าที่เริ่มมีเกล็ดหิมะโปรยลงมา “แต่ความรู้สึกบางอย่างมันไม่ต้องมีสูตรคำนวณหรอก มันจะมาเองเหมือนฟ้าที่มีหิมะโดยไม่ต้องถามใครไง”


คีอาร์เงยหน้าขึ้นตาม เส้นผมสีบลอนด์ทองแดงสตรอว์เบอร์รีสะท้อนแสงไฟถนนจนดูเหมือนเปลวอ่อน ๆ ในพายุหิมะ ดวงตาเธอจับจ้องหิมะที่ร่วงช้า ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “หิมะตกเพราะความชื้นในอากาศจับตัวกันเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า -2 องศาเซลเซียสค่ะ ไม่ใช่เพราะความรู้สึก”


เอมีเลียหันมามองหน้าเธอ แววตาที่มักแข็งแกร่งของธิดาซุสกลับกลับอ่อนลง “งั้นก็ถือว่าความชื้นในอากาศพิเศษมากเลยที่มันเลือกตกตอนเราอยู่ด้วยกัน” สิ้นคำนั้นคีอาร์ชะงักเล็กน้อย มือที่ถือกระเป๋าแตงโมแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะทุกคำพูดของเอมีเลียเหมือนมีแรงลมอีกชนิดที่ไม่อยู่ในสมการของเธอและมันไม่สามารถวัดค่าได้ เสียงรองเท้าบูทของเอมีเลียย่ำบนทางเดินที่เริ่มขาวจากเกล็ดหิมะเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่เยอะก่อนหันมายิ้ม “ไปเดินกันเถอะ เดี๋ยวจะพาไปดูทะเลสาบด้านใน ช่วงนี้น้ำมันเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว สวยมากเลยล่ะ”


คีอาร์พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะก้าวตาม เอมีเลียเดินนำหน้าในจังหวะที่มั่นคงเหมือนนักบินที่รู้ทิศทางทุกครั้งที่ลมเปลี่ยน เธอพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไประหว่างเดิน เรื่องสายลมที่พัดแรงทางเหนือ เรื่องนักเรียนใหม่ในคลาสดาบ เรื่องความผิดพลาดเล็ก ๆ ที่ทำให้เธอหัวเราะกับตัวเองได้เสมอ ส่วนคีอาร์ตอบเพียงสั้น ๆ แต่แววตาเริ่มมีแสงบางอย่างคล้ายประกายของสิ่งที่เรียกว่าความสงบที่ไม่เย็นชา เมื่อทั้งสองมาหยุดริมทะเลสาบที่ผิวน้ำเริ่มจับเป็นน้ำแข็ง แสงไฟสะท้อนบนผิวน้ำราวกับเศษกระจก เอมีเลียถอดถุงมือออกแล้วยื่นให้คีอาร์ “อากาศหนาวขนาดนี้ มือจะเย็นเกินไปนะ” คีอาร์ลังเลอยู่ชั่วขณะที่จะรับของจากอีกฝ่าย ก่อนจะรับมาอย่างเกรงใจ “ขอบคุณค่ะ”


“ไม่ต้องขอบคุณ แค่ไม่อยากให้เธอกลายเป็นน้ำแข็งก่อนถึงงานบรูมาเลียเท่านั้นเอง ถึงคุณหนูลมเหนือจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้วก็ตาม” เอมีเลียพูดพลางหัวเราะ คีอาร์มองเธอเงียบ ๆ หัวใจของเธอไม่รู้สึกถึงความร้อนแต่กลับรับรู้แรงสั่นสะเทือนบางอย่างในอก มันคือสิ่งที่ตรรกะไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นอะไร อาจเป็นเพียงผลของอุณหภูมิ หรืออาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้รับจากใคร


เสียงลมหนาวพัดผ่านยอดไม้ที่เคลือบเกล็ดน้ำแข็งบางเบา ใบไม้สั่นไหวราวกับสายลมกำลังขับกล่อมบทเพลงลึกลับของค่ำคืน เซ็นทรัลพาร์คในยามค่ำดูเงียบสงบ แต่ในความเงียบนั้นกลับมีบางสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ความรู้สึกที่เหมือนสายลมหยุดชะงักชั่วขณะก่อนเปลี่ยนทิศนั้น ทำให้คีอาร์เหลียวมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง เอมีเลียก็หยุดเดิน พลางใช้มือปัดปอยผมทองสั้นที่ปลิวเข้าหน้า เธอมองไปรอบสวนด้วยสายตาที่เหมือนคนคุ้นเคยกับที่นี่ดี ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่แฝงพลัง “รู้ไหม สำหรับลูกครึ่งเทพแล้ว เซ็นทรัลพาร์คไม่ใช่แค่สวนสาธารณะหรอก มันคือจุดรวมพลังของหลายสิ่งที่อยู่ระหว่างสองโลก”


คีอาร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ขยับแว่นเบา ๆ พลางหันมองรอบข้างอีกครั้ง ท่ามกลางแสงไฟสลัว ๆ ของทางเดินและเสียงใบไม้ที่เสียดสีกัน เธอเริ่มเห็นภาพเงาบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่หลังพุ่มไม้ มันเร็วเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ “หมายความว่ายังไงคะ?”


เอมีเลียยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ที่นี่มีเรื่องราวมากมายน่ะ อสุรกายเคยปรากฏตัวที่แอ่งน้ำกลางสวน มีสิ่งมีชีวิตจากนิทานที่เหนือจริงสำหรับคนธรรมดาเดินผ่านไปมาทุกคืนโดยไม่มีใครรู้” เธอเดินต่อช้า ๆ ผ่านสะพานไม้ที่ทอดเหนือบึงเล็ก “บางมุมของที่นี่เป็นเหมือนช่องทางเชื่อมทั้งของเทพและของอสุรกายมั้ง”


คีอาร์ฟังเงียบ ๆ ดวงตาเธอสะท้อนแสงไฟระยิบระยับบนผืนน้ำ “แล้ว…หมายความว่าที่นี่มีอสุรกายด้วยหรือคะ?”

เอมีเลียหัวเราะเบา ๆ เสียงของเธอชัดในอากาศหนาว “มีสิ เซ็นทรัลพาร์คไม่เคยว่างจากพวกมันหรอก โดยเฉพาะมีพวกฝูงแจ็คคาโลป กระต่ายที่มีเขากวางนั่นแหละ” คีอาร์เลิกคิ้วนิด ๆ “กระต่าย…ที่มีเขา?”


“ใช่ พวกมันไม่อันตรายหรอก แค่ชอบก่อกวนคนที่มานั่งเดทในสวนมากกว่า เคยมีเดมิก็อดบางคนถูกพวกมันแอบขโมยรองเท้าไปด้วยซ้ำ” เอมีเลียพูดพลางหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะนั้นอบอุ่นจนไล่ไอเย็นรอบตัวได้ชั่วขณะ “แต่ไม่ต้องห่วงหรอก คืนนี้พวกมันคงไม่โผล่มา”


คีอาร์กะพริบตา “ทำไมคะ?”

เอมีเลียหยุดเดินครู่หนึ่ง ก่อนหันมามองเธอด้วยสายตาขี้เล่นแต่ทรงอำนาจ แสงจากเสาไฟสะท้อนในนัยน์ตาสีฟ้าเข้มของเธอราวกับประกายฟ้าผ่า “เพราะพวกมันรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ไง”


จากคำตอบนั้นคีอาร์มองใบหน้าของเอมีเลียอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่จำเป็นต้องถามต่อ ก็พอเข้าใจคำตอบทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มนั้น ไม่ใช่เพราะอวดดี แต่เพราะมันคือความจริงที่ธรรมชาติของโลกนี้ยอมรับ ผู้หญิงคนนี้คือบุตรของมหาเทพซุส สายฟ้าที่ฟาดลงมาพร้อมเสียงหัวเราะของเธอย่อมทำให้สิ่งมีชีวิตทุกตนในอาณาเขตนี้รู้ดีว่าอย่าเข้าใกล้ “เข้าใจแล้วค่ะ” คีอาร์พูดเรียบ ดวงตาสีเทาอมเขียวสะท้อนภาพร่างของเอมีเลียที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายลม “เพราะรุ่นพี่…เก่งเกินไปสินะคะ”


เอมีเลียยิ้มมุมปาก หัวเราะเบา ๆ พลางยกไหล่ “ถ้าพูดแบบนั้นก็ไม่เถียง แต่ฉันเรียกว่าฝึกมามากกว่า”

“ฝึก…เพื่ออะไรคะ?” เสียงของคีอาร์นุ่มและนิ่ง แต่ในแววตากลับมีความสงสัยปนอยู่

“เพื่อให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกปลอดภัยเวลาฉันอยู่ด้วย” เอมีเลียตอบโดยไม่ต้องคิด ดวงตาเธอจับจ้องใบหน้าของเด็กสาวตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเบือนกลับไปมองทางเดินที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะอีกครั้ง และไม่ได้บอกว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นั้นหมายความถึงใครหรือหมายความโดยรวม


จากคำตอบนั้นคีอาร์ไม่ได้รู้สึกอบอุ่น เธอรู้สึกวุ่นวาย ความคิดของเธอเริ่มทำงานราวกับเครื่องจักรเย็นเฉียบที่พยายามหาคำอธิบาย เธอบอกตัวเองว่านั่นก็แค่ความผูกพันในเชิงพันธุกรรมทางสังคมสิ่งที่เรียกว่าความรักเป็นเพียงกลไกเคมีของสมองที่ทำให้สิ่งมีชีวิตจับคู่เพื่ออยู่รอด ไม่ต่างจากการที่สัตว์บางชนิดแกล้งอ่อนแอเพื่อให้ได้การปกป้อง มันไม่ใช่สิ่งวิเศษ ไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าให้ใครต้องไล่ตาม


เธอมองฝ่าหลังของเอมีเลียที่สะท้อนแสงไฟในยามค่ำและคิดอย่างตรงไปตรงมา คนอย่างเธอคงถูกออกแบบมาให้ทำให้ใครต่อใครหลงเชื่อในคำว่าความรักสินะ น้ำเสียงในหัวของคีอาร์เย็นชาและแน่วแน่ ความเชื่อที่เธอยึดถือมาตลอดไม่มีแม้แต่รอยร้าว ความรักสำหรับเธอคือความไม่มั่นคง มันทำให้สมการที่เคยคำนวณได้แน่นอนกลายเป็นตัวแปรที่ไม่อาจควบคุมได้ และการสูญเสียการควบคุมคือสิ่งที่เธอหวาดกลัวที่สุด


เอมีเลียหันมามองแล้วส่งยิ้มให้ คีอาร์จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มสุภาพแบบที่เธอใช้มาตลอด มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนและดูใสซื่อ แต่ข้างในกลับนิ่งสนิทราวกับผืนน้ำแข็ง เธอรู้จักวิธีใช้รอยยิ้มให้ดูจริงพอที่จะหลอกใครก็ได้… รวมถึงตัวเอง “หนาวเหรอ?” เสียงของเอมีเลียถามคีอาร์เล็กน้อยยิ้ม ๆ 


“ไม่ค่ะ หนูชอบอากาศแบบนี้อยู่แล้ว” คีอาร์ตอบเรียบราบ เธอไม่ได้โกหก เพราะความหนาวคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย มันคือสิ่งที่ซื่อสัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือหลอกลวง ในใจลึก ๆ เธอรู้ดีว่าความอบอุ่นที่มากเกินไปนั้นอันตราย มันทำให้ผืนน้ำแข็งเริ่มละลาย และเมื่อใดที่มันละลาย เธอจะมองไม่เห็นขอบเขตระหว่างเหตุผลกับอารมณ์อีกต่อไป


ลมเหนือพัดผ่าน ผมสีทองแดงสตรอว์เบอร์รีของเธอสะบัดเล็กน้อย คีอาร์สูดลมหายใจเข้าช้า ๆ กลิ่นอากาศเย็นผสมกลิ่นหอมอ่อนของเพลย์มอร์ลูกอมแตงโมกับเมนทอลยังติดอยู่ในอากาศ กลิ่นที่ทำให้เธอนิ่งพอจะจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร ความรู้สึกไม่จำเป็นต่อการอยู่รอด และความรัก…คือสิ่งฟุ่มเฟือยที่สุดของมนุษย์ แต่ขณะเดียวกัน ลมหายใจของเธอกลับสั่นแผ่วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเอมีเลียเดินเข้าใกล้ ในใจกลับมีเสียงบางอย่างที่เธอไม่อยากได้ยิน เสียงแตกเบาของผืนน้ำแข็งภายในใจ ที่ไม่แน่ใจว่าจะยับยั้งไว้ได้นานแค่ไหน


[NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต

พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20

กลิ่นหอมจาก น้ำหอม Unisex  - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +5

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 0 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2025-12-7 13:10
โพสต์ 51120 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-7 12:23
โพสต์ 51,120 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ จาก Ignis Anima  โพสต์ 2025-12-7 12:23
โพสต์ 51,120 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 ความกล้า +7 ความศรัทธา จาก คมมีดวายุ  โพสต์ 2025-12-7 12:23
โพสต์ 51,120 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก ลมกรด  โพสต์ 2025-12-7 12:23
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
คมมีดวายุ
ลมกรด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
หอกกรีก
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
สัมผัสแห่งสายลม
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
น้ำหอม Unisex
กล่องดนตรี
ปากกาหมึกซึม
ต่างหูเงิน
แว่นตา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x3
x10
x1
x2
x3
x1
x3
x8
x3
x3
x5
x5
x2
x2
x4
x1
1234
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้