[บ้านพักหมายเลข 13] ระเบียงบ้านฮาเดส

God โพสต์ 2024-3-1 01:06:02

God โพสต์ 2024-3-12 17:51:33

[บุรุษปริศนานั่งอยู่ที่ระเบียงบ้าน]
https://i.imgur.com/UTdl8Zn.png

- โรลเพลย์กับผู้เดินผ่านมายังระเบียงแห่งนี้ วันที่ 12-15/3/2024 (เจอแค่คนแรกคนเดียว คนอื่น ๆ อาศัยการบอกต่อพี่น้องในบ้าน)เมื่อคุณเดินเข้ามาในเขตระเบียงบ้าน ก่อนพบเจอบุรุษปริศนานั่งบนม้านั่งชิลด์ ๆ มองดูคุณ- สามารถสร้างสตอรี่โรลเพลย์สนทนาเรื่องอื่น ๆ ได้- (เมื่อคุยกันจนทำให้คุณรับรู้ได้ว่าเขาคือฮาเดส พ่อยื่นหนังสือพิมพ์ให้คุณ บนหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว 'ถูกตั้งข้อหาปกปิดศพ หลักฐานปลอมแปลงในคดีชิ้นส่วนร่างกายของลองไอส์แลนด์' พ่อบอกว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ไม่เพียงวิญญาณเขาจะกลายเป็นวิญญาณอาฆาตที่ทรงพลังที่สุดและจะกลายเป็นกึ่งอสุรกายกึ่งวิญญาณที่จะออกล่ามนุษย์กึ่งเทพ พ่อบอกให้คุณทำความเข้าใจเนื้อหาในหนังสือพิมพ์ก่อน ) -- พ่อบอกว่าเธอกับพี่น้องจะต้องไปขโมยศพที่ฆ่าหั่นศพเหล่านั้นกลับมาที่บ้านให้หมดทุกศพ จำไว้ทุกศพห้ามปนกันเด็ดขาด เมื่อมาถึงไปขุดหลุมที่สุสานหลังบ้าน และจัดเรียงอวัยวะศพเหล่านั้นเป็นคน ๆ ให้เหมือนตอนที่ไม่โดนหั่นที่สุด ทำป้ายหลุมศพตามชื่อพวกเขางานนี้เจ้าและพี่น้องของเจ้าจะต้องร่วมมือกัน ส่งวิญญาณเหล่านั้นมาสู่ปรโลกให้ได้ วิญญาณเหล่านั้นยังไม่ถึงฆาต ทำให้เทพความตายทั้งหลายเข้าไปแทรกไม่ได้หลังผ่านไป 7 วันนับจากวันฝังศพพวกเขา หลายดวงวิญญาณจะไปยังปรโลก แต่จะมีดวงนึงที่มีห่วงและกลายเป็นวิญญาณผูกปมกับพื้นที่ก็คือบ้านฮาเดสเขาจะก่อกวนทุกคนในบ้านที่ย่างเข้ามา เจ้าจะต้องใช้ปัญญาในการพูดคุยกับเขา ตอนนี้พวกเจ้ายังจับอาวุธที่ทำจากแร่ใต้พิภพไม่ได้เพื่อช่วยเขาคลายความกังวลใจเหล่านั้น อ้ออีกอย่าง ยังมีศพสุนัขอีก พวกเขาไม่ไดเก็บไป ถ้าปล่อยมันไว้มันจะอาฆาตและกลายเป็นอสุรกายเซอเบอรัสดุร้าย
เข้าสู่ภารกิจ(แบ่งกันไปกับพี่น้องได้)
- ไปขโมยศพ 20 ศพในห้องเก็บศพ ที่ โรงพยาบาลลองไอส์แลนด์(-ประลองปัญญากับนางพยาบาล Level 8 | คุณจะเจอนางพยาบาลตอนออกมาจากห้องเก็บศพ-)- ไปตามหาศพสุนัข ที่ สวนสาธารณะบาบิโลนทาวน์ฮอลพาร์ค (โรลเพลย์ไบต์เลขสุดท้ายได้ 3 / 6 / 9 จะเจอศพสุนัข)(-จะต้องเผชิญหน้ากับอสุรกายที่ผ่านไปแถวนั้น ก๊อบลิน Level 12-)- ไปตามหาศพมนุษย์ที่พวกมนุษย์ธรรมดาตกหล่น 1 ศพ ที่ สวนสาธารณะเซาเธิร์นปอนด์พาร์ค (โรลเพลย์ไบต์เลขสุดท้ายได้ 3 / 6 / 9 จะเจอศพที่ตกหล่น)(-จะต้องเผชิญหน้ากับอสุรกายที่ผ่านไปแถวนั้น ก๊อบลิน Level 12-)
- ทุกคนนำศพโดนหั่นอวัยวะกลับมาที่ สุสานหลังบ้านฮาเดส (สุสานอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านใหญ่ ก่อนปิดด้วยรั้วบ้าน)- (เนื้อหาเกี่ยวกับการช่วยกันขุดและจัดร่างผู้ตายให้เรียงกันเหมือนร่างก่อนโดนหั่น ก่อนกลบดิน และทำป้ายแต่ละหลุม สุดท้ายช่วยกันสวด) -
- ครบ 7 วันจากวันฝังศพ ส่งตัวแทนก็ได้หรือจะมาดูทั้งหมด -- เขียนโรลเพลย์ที่ สุสานหลังบ้านฮาเดส(เนื้อหาเกี่ยวกับวิญญาณคนตายทุกส่วนที่ดูเหมือนจิ๊กซอว์ยืนเรียงกันเป็นแถว ก่อนโบกมือ ค่อย ๆ เรืองแสงและกลายเป็นวงกลมเรืองแสงลอยไปยังใต้พิภพ)(แต่ทว่ากลับมีดวงนึงกลายเป็นสีแดง ลอยพุ่งเข้าไปสิงในบ้านไล่วิญญาณรุ่นพี่ที่เฝ้าบ้านออกมาหมดเลยและหลอกหลอนคนในบ้าน)
- ตามหาวิญญาณมีปม -- เขียนโรลเพลย์ตามหาวิญญาณมีปม ณ ส่วนไหนของบ้านก็ได้ (เลขไบต์ลงท้าย 2 6 9 สามเลขนี้ของโรลค้นหาจะเจอวิญญาณที่ห้องนั้น)- ประลองปัญญากับวิญญาณมีปมตัวนั้น- ถ้าแพ้คุณก็จะโดนเตะออกมาจากบ้าน เข้าบ้านไม่ได้ รอไปหาตัวใหม่และคุยกันต่อ- ถ้าชนะ วิญญาณจะแจ้งว่า เขาอยากมีชีวิตอีกครั้งและไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงให้สนุกสักคืนและออกเดทกับสาวสักคน (คนที่ประลอง)- เขียนโรลเพลย์ในฐานะวิญญาณจอห์น คลูเลอร์ เพศชาย วัย 31 ปี(-โรลเพลย์ไปที่ ๆ มีงานปาร์ตี้และโรลเพลย์บทบาทจอห์นเข้าร่วมปาร์ตี้ให้สนุกสุดเหวี่ยง-)(-วันอื่นนอกจากปาร์ตี้ โรลเพลย์ชวนสาว Member ในค่ายออกเดท และคุณไปโรลออกเดทที่ไหนก็ได้ ตกลงกันว่าใครจะโรลเปิดและโรลตาม-)
- วิญญาณจอห์นออกจากร่างหลังสิ้นสุดเดท เขาขอบคุณและกลายเป้นดวงแสงลอยไปสู่โลกใต้พิภพ

เนื้อหาข่าวเมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2024 มีผู้ถูกตั้งข้อหา 4 คนฐานปกปิดศพมนุษย์และปลอมแปลงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบชิ้นส่วนร่างกายในสวนสาธารณะบนลองไอส์แลนด์ ซึ่งทั้งสี่คน ได้แก่ อแมนด้า วอลเลซ วัย 40 ปี, เจฟฟรีย์ แม็กกี้ วัย 38 ปี, สตีเว่น บราวน์ วัย 44 ปี ทุกคนต่างมาจากเมืองอมิตี้วิลล์ และอเล็กซิส นีฟส์ วัย 33 ปี ซึ่งตำรวจกล่าวว่าไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่เคยถูกตั้งข้อหาฆ่าเหยื่อ ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นชายชราอายุ 53 ปี หญิงชราอายุ 59 ปี จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพว่าไม่มีความผิดในข้อหาดังกล่าว แต่เมื่อความจริงกระจ่าง ได้ถูกตั้งข้อหาขัดขวางการดำเนินคดี บิดเบือนหลักฐานทางกายภาพ และปกปิดศพมนุษย์ และได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีประกันตัว ตามคำบอกเล่าของตำรวจ มีเด็กหญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินไปโรงเรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบแขนขาดข้างเดียวอยู่ข้างถนนที่สวนสาธารณะเซาเธิร์นปอนด์พาร์ค (Southards Pond Park) ในเมืองบาบิโลน, ลองไอส์แลนด์ ห่างจากเมืองนิวยอร์กไปทางตะวันออกประมาณ 40 กิโลเมตร ต่อมาตำรวจพบแขนและขาอีกข้างหนึ่ง ศพทั้งหมดดูเหมือนเป็นฝีมือของชายวัย 53 ปีรายนี้ ตำรวจกล่าว
วันรุ่งขึ้น มีคนพบศพสุนัข พบศีรษะ แขน และส่วนของขาทั้งสองข้าง ดูเหมือนว่าศพเหล่านั้นจะเป็นฝีมือของหญิงวัย 59 ปีรายนี้ ตำรวจกล่าว ตำรวจพบศพเพิ่มเติมเมื่อวันอังคารที่ตะวันตกของบาบิโลนในบริเวณใกล้เคียงและในสวนสาธารณะบาบิโลนทาวน์ฮอลพาร์ค โดยเป็นของคนสองคนเดียวกัน ชื่อของเหยื่อยังไม่ได้รับการเปิดเผย จำเลยทั้งสี่ถูกจับกุมหลังจากตำรวจดำเนินการออกหมายค้นที่บ้านในเมืองอบิตี้วิลล์ที่ คุณวอลเลช , คุณแม็กกี้ และ คุณบราวน์ อาศัยอยู่ร่วมกัน

จอห์นฮาลวอร์สัน ทนายฝ่ายจำเลยของคุณแม็กกี้กล่าวว่า “เราตั้งตารอที่จะต่อสู้กับข้อกล่าวหาเหล่านี้”ไอรา ไวสส์แมน ทนายความของคุณบราวน์กล่าวว่า “สตีเวน บราวน์ไม่ได้ฆ่าใครเลย” ไวสส์แมนกล่าวว่าเขาไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเฉพาะเจาะจงที่บราวน์เผชิญได้ เนื่องจากเขาไม่เห็นหลักฐาน คีด โอฮัลโลแรน ทนายความของคุณวอลเลชกล่าวว่า ลูกความของเขา “ตั้งตารอที่จะปกป้องตัวเองในศาล” ข้อความขอความคิดเห็นถูกส่งไปยังทนายความของ คุณนีฟส์

- เมื่อสำเร็จภารกิจจากพ่อ คุณจะได้ความโปรดปรานจากฮาเดส +35 แต้ม , +15 เกียรติยศและศรัทธา , +20 ความกล้าหาญรางวัลระบบ: +45 EXP รางวัลเงินพ่อส่งมาแบ่งให้ทุกคนในบ้านคนละ: 6 เหรียญดรักม่า

Parida โพสต์ 2025-9-4 18:02:45

<div style="
font-family: 'Sarabun', sans-serif;
background-color: #FAF0E6;
border: 6px solid #4B2E2E;
border-radius: 10px;
padding: 30px;
width: 90%;
max-width: 1000px;
margin: 50px auto;
box-shadow: 0 0 20px #8B4513 inset;
position: relative;
overflow: hidden;
">


<div class="draggable" style="
   font-size: 36px;
   font-weight: bold;
   text-align: center;
   color: #3B3B3B;
   margin-bottom: 10px;
   cursor: move;
">ค่ายฮาล์ฟบลัด</div>


<div class="draggable" style="
   font-size: 16px;
   color: #3B3B3B;
   text-align: right;
   margin-bottom: 10px;
   cursor: move;
">วันที่: 4 กันยายน 2025 </div>


<div class="draggable" style="
   font-size: 22px;
   font-weight: bold;
   color: #3B3B3B;
   text-align: center;
   margin-bottom: 20px;
   cursor: move;
">บันทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 49</div>


<div style="display: flex; gap: 20px; align-items: flex-start; max-height: 600px; overflow-y: auto; padding-right: 10px;">

   
   <div class="draggable floating-image" style="flex: 0 0 280px; cursor: move;">
         <img src="https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/1000065558.md.jpg" alt="ภาพลึกลับ" style="width: 100%; border: 4px solid #5D3A66; border-radius: 10px; box-shadow: 0 0 15px #B497BD;">
   </div>

   
   <div style="width: 2px; background-color: #4B2E2E;"></div>

   
   <div class="draggable floating-text" style="flex: 1 1 0%; font-size: 18px; line-height: 1.8; cursor: move;">
         <p style="color: rgb(59, 59, 59);">เนื้อหาโรลเพลย์: </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">    ทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้าใกล้บ้านหลังนี้ บรรยากาศรอบข้างก็พลันเงียบสงัดลงอย่างน่าประหลาด เสียงพูดคุยจากกระท่อมอื่น ๆ ค่อย ๆ ห่างหายไป เหลือเพียงเสียงฝีเท้าของทีน่าและริดาที่ย่ำไปบนพื้นหินสีเทาหม่น ลมเย็นยะเยือกพัดโชยมาเป็นระยะ ราวกับพัดพาความวังเวงจากโลกเบื้องลึกขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ดูแห้งโกร๋นและเฉาเฉียบ ตัดกับความสดใสของบริเวณอื่น ๆ ในค่ายอย่างสิ้นเชิง</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ทีน่าหยุดยืนตรงหน้าบ้าน ก่อนจะหันมากล่าวกับริดาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่แฝงด้วยความระมัดระวัง “ตรงนี้คือจุดที่เราจะสามารถยืนได้อย่างปลอดภัยนะ ริดา” เธอกล่าวพลางชี้ไปยังเส้นแบ่งสีจาง ๆ ที่ขีดไว้บนพื้น “ด้านในเป็นเขตส่วนตัวของสมาชิกบ้านฮาเดส เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปโดยพลการ แต่ไม่ต้องกังวล ฉันจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังจากตรงนี้เอง”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">รายละเอียดของกระท่อม</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ริดาพยักหน้ารับช้า ๆ พลางกวาดสายตามองบ้านตรงหน้า กระท่อมบ้านฮาเดส มีลักษณะเป็นอาคารขนาดใหญ่ สร้างจากหินสีดำมันวาวคล้ายหินออบซิเดียนที่ผิวเรียบเป็นเงา แต่กลับแฝงความเย็นยะเยือก รอบ ๆ บ้านมีหมอกจาง ๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือพื้นดินตลอดเวลา ราวกับม่านหมอกที่กักเก็บความลับไว้ภายใน</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">ทีน่าชี้ไปยังระเบียงที่ยื่นออกไป “ตรงนั้นคือระเบียงบ้านพักของบ้านฮาเดสจ้ะ ที่นี่มีจุดพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง” เธอหัวเราะเบา ๆ “คือเป็น จุดเดียวในบ้านฮาเดสที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถึงแม้จะมีเพียงแค่สองสามขีดก็ตาม ดังนั้นตรงระเบียงนี้จึงกลายเป็นที่นั่งเล่นยอดนิยมของเด็ก ๆ บ้านฮาเดสเวลาที่อยากติดต่อโลกภายนอก”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ริดาอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกภาพเด็กที่ดูขรึมขลังนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงมุมระเบียงที่เงียบสงัด “ดูเหมือนจะไม่ต่างจากพวกเราเลยนะคะ” เธอเอ่ยเสียงเบา</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     “ใช่จ้ะ” ทีน่าพยักหน้า ก่อนจะอธิบายต่อ “ถัดจากระเบียงเข้าไป จะมี ห้องนั่งเล่นสำหรับสมาชิกบ้านฮาเดส ซึ่งภายในตกแต่งอย่างหรูหราเกินคาด ต่างจากภายนอกที่ดูมืดมน เป็นการออกแบบที่แสดงถึงความเป็นเทพแห่งความตาย ความมั่งคั่ง และอำนาจแห่งยมโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">รูปปั้นฮาเดสและร็อกซาน่า</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     สายตาของริดาสะดุดกับเงาร่างของรูปปั้นขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านใน มันดูคล้ายชายหนุ่มผู้ทรงพลังที่มีออร่าของความเย็นยะเยือกปกคลุมอยู่ “นั่นคือ…?” ริดาถามด้วยเสียงแผ่ว</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">    “รูปปั้นบิดาแห่งยมโลก — ฮาเดสเอง” ทีน่าตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่แฝงด้วยความเคารพ “สมาชิกบ้านนี้จะสักการะรูปปั้นนั้นทุกเช้า เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งความภักดีและสายสัมพันธ์กับบิดาของพวกเขา”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าเบา ๆ ก็ดังขึ้นจากด้านใน ร่างของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เดินออกมาที่ระเบียง ทีน่ากระซิบแนะนำ “นั่นคือ ร็อกซาน่า ออตาเวีย หนึ่งในลูกครึ่งเทพประจำบ้านฮาเดส”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ร็อกซาน่าเป็นเด็กสาวร่างบางที่แต่งกายด้วยชุดโทนสีเข้มตลอดเวลา ผมยาวสีหม่นถูกปล่อยสยาย ใบหน้าของเธอเรียบเฉยราวกับรูปสลัก ดวงตาเย็นชาที่ไร้ประกายดูราวกับมองทะลุผ่านผู้คนและโลกใบนี้ไปสู่ความมืดลึกเบื้องล่าง</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">ริดารู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวเย็นลงเมื่อร็อกซาน่าเหลือบมองมาทางพวกเธอเพียงแวบเดียว ก่อนจะเบือนสายตากลับไปอย่างไม่สนใจ</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ทีน่ากล่าวเสียงแผ่ว “ร็อกซาน่าเป็นคนที่ไม่ชอบการสื่อสารที่ไร้ประโยชน์ เธอจะไม่พูดคุยกับใครถ้าไม่จำเป็น แต่จริง ๆ แล้ว…” น้ำเสียงของทีน่าอ่อนโยนลง “หากใครที่สนิทกับเธอ จะรู้ว่าร็อกซาน่ามีอีกด้านหนึ่งที่ต่างออกไป เธอสามารถพูดคุยเรื่องไร้สาระได้มากกว่าที่เธอแสดงออกให้คนอื่นเห็น”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     “เหมือนคนที่มีกำแพงของตัวเองสินะคะ” ริดายิ้มบาง ๆ ด้วยความเข้าใจ</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">“ใช่จ้ะ” ทีน่าพยักหน้า “กำแพงสูงและแข็งแกร่ง แต่ถ้าใครผ่านเข้าไปได้ ก็จะได้พบกับมิตรภาพที่ซื่อสัตย์และจริงใจที่สุด”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ร็อกซาน่าเดินผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ทว่าเพียงเสี้ยววินาที ริดากลับเห็นเด็กสาวเหลือบหางตามามองเธออีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ ที่แทบมองไม่เห็น — เป็นรอยยิ้มที่เหมือนเป็นการทักทายแบบเงียบ ๆ</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ทีน่าหันมายิ้มให้ริดา “เอาล่ะ เราได้เห็นบ้านฮาเดสกันแล้ว ถึงแม้จะยืนดูเพียงภายนอก แต่ฉันหวังว่าริดาจะเข้าใจถึงเสน่ห์ลึกลับของบ้านหลังนี้นะ”</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     ริดาพยักหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย ก่อนจะเตรียมพร้อมเดินทางไปยังจุดหมายถัดไปของการทัวร์ค่ายที่ยังรออยู่ข้างหน้า</p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="text-align: right;"><font color="#8b0000">รับรางวัล: +15 EXP</font></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">  </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">  </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">.    </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">     </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">   </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"><br></p><p style="color: rgb(59, 59, 59);"> </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">    </p><p style="color: rgb(59, 59, 59);">  </p><p style="text-align: right; color: rgb(59, 59, 59);"> </p>

         <p style="color: rgb(59, 59, 59); text-align: center; margin-top: 30px;"><br></p>

         <p style="color: rgb(59, 59, 59); text-align: center; margin-top: 15px;"><br></p>
   </div>

</div>


<div class="draggable floating-text" style="
   font-size: 20px;
   font-style: italic;
   text-align: center;
   margin-top: 30px;
   color: #4B2E2E;
   border-top: 2px solid #4B2E2E;
   padding-top: 10px;
   cursor: move;
">
   "ในความมืดมิดยังมีแสงนำทางผู้กล้าแห่งเฮคาที"
</div>


<div class="draggable" style="font-size: 16px; margin-top: 15px; cursor: move;">
   <strong>สถานที่: ระเบียงบ้าน หมายเลขที่ 13 ฮาร์เดส</strong> | <strong>หัวข้อ:</strong> เยี่ยมชมบ้านหมายเลข 13: บ้านแห่งยมโลก</div>

</div>


<style>
@keyframes floatText {
0% { transform: translateY(0px); }
50% { transform: translateY(-3px); }
100% { transform: translateY(0px); }
}
.floating-text {
animation: floatText 4s ease-in-out infinite;
}

@keyframes floatImage {
0% { transform: translateY(0px); }
50% { transform: translateY(-5px); }
100% { transform: translateY(0px); }
}
.floating-image img {
animation: floatImage 5s ease-in-out infinite;
}

/* Scrollbar กล่องหลัก */
div::-webkit-scrollbar {
width: 10px;
}
div::-webkit-scrollbar-track {
background: #FAF0E6;
}
div::-webkit-scrollbar-thumb {
background-color: #4B2E2E;
border-radius: 10px;
border: 2px solid #FAF0E6;
}
</style>

หน้า: [1]

Percy Jackson and the Olympians Thailand's Archiver

[บ้านพักหมายเลข 13] ระเบียงบ้านฮาเดส